รักเรา(ไม่)เท่ากัน
CHAPTER 5...ห ล ง
รัตติกาลปิดแฟ้มรายงานที่อ่านเรียบร้อยแล้วลงกับโต๊ะทำงาน ปลายนิ้วบีบนวดหัวคิ้วเพื่อผ่อนคลายสายตา ตั้งแต่เช้าเขาอ่านรายงานสรุปของแต่ละแผนกจนแทบไม่ได้ละสายตาไปไหน เพราะอยากจะให้เสร็จไปไวไวไม่ต้องมานั่งค้างคา ก็ใจเขาตอนนี้มันโบยบินไปยังอีกคนที่ก็คงกำลังนั่งทำงานอยู่เหมือนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพชตัวเอง ตั้งแต่ได้ครอบครองทิวาเขาก็เข้าใจความรู้สึกพวกเด็กติดเกมส์ได้เป็นอย่างดี วันๆเด็กพวกนั้นคงอยากเฝ้าหน้าจอคอมฯไม่ไปไหนเหมือนกับเขาที่วันๆก็อยากจะอยู่ตรงหว่างขาทิวาไม่ไปไหนเหมือนกัน
หึหึ ถ้าเพื่อนเขารู้คงได้ด่ากับความบ้ากามของเขาแน่
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และตั้งแต่คืนนั้นเขาก็ยังไม่ได้มีอะไรกับทิวาอีก ก็คนอ่อนแอเล่นเป็นไข้เสียตั้งสองคืนแถมยังระบมช่องทางจนแตะต้องไม่ได้อยู่ตั้งเกือบสามวัน เขาจะทำอะไรได้นอกจากอดทนรอ ถึงจะดูหื่นกามแต่เขาก็ไม่ได้ซาดิสต์ขนาดจะไม่สนใจร่างกายของอีกฝ่ายหรอกนะ ระหว่างนั้นก็เลยต้องออกเที่ยวกับชิงพลบและกิตติหลังจากที่เบี้ยวจนโดนโวยเสียยกใหญ่
รัตติกาลหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตั้งอยู่บนที่ชาร์ตขึ้นมา ดูเขาเถอะแค่คิดว่าจะโทรก็เผลอหลุดยิ้มได้แล้ว ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้มีอิทธิพลกับอารมณ์เขาขนาดนี้นะ ปลายนิ้วเรียวยาวสัมผัสหน้าจอเพื่อเลือกชื่อที่เมมไว้ รอสายอยู่นานพอดูจนเกือบจะตัดใจวางสาย ปลายทางก็กดตอบรับพร้อมน้ำเสียงกระชากห้วนไม่น่าฟัง
//มีอะไร//
“ทำไมพูดกับผัวด้วยน้ำเสียงอย่างนั้นล่ะครับ” แทนที่จะโกรธรัตติกาลกลับยิ้มกริ่ม แถมยังแหย่กลับทั้งๆที่รู้ว่าปฏิกิริยาตอบกลับจะ
เป็นยังไง
//พูดให้มันดีดีนะไอ้โรคจิต//
“หึหึ วันนี้ไปรอที่ห้องนะ” ทันทีที่จบคำบอก ปลายสายก็เงียบกริบไป รัตติกาลได้แต่รออย่างใจเย็นเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังไม่ได้วางสายไป
//ไม่ว่าง//
“จะไปไหน?”
//ไม่ใช่ธุระอย่ายุ่ง//
“นั่นใช่คำพูดของคนที่ตกเป็นรองรึไง” ทิวาจำต้องกลั้นขำยามจินตนาการถึงใบหน้าหงุดหงิดใจของทิวา “อย่าลืมนะว่าคุณอ้าขาให้ผมเพราะอะไร”
//...ยังไม่พร้อม//
คำพูดสั้นๆ ที่คนคิดลึกอย่างรัตติกาลพอจะเดาได้ว่าทิวาจะอ้างอะไร แต่มันผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะทูนหัว เครื่องมันน่าจะเข้าอู่สนิทเรียบร้อยได้แล้ว
“อย่าอ้างน่า เพราะถึงไม่พร้อมผมก็จะทำ”
//วันนี้ไม่ว่างจริงๆ//
เสียงที่ดูตอบกลับมาอ่อนลง แต่มันไม่พอที่จะทำให้รัตติกาลคลายความหงุดหงิดที่ถูกปฎิเสธ
“ไปไหน ตอบมา!”
//คุณนี่มัน ...เฮ้อ... ผมมีนัด//
“กับใคร ที่ไหน”
//ผมไม่มีหน้าที่ต้องรายงานคุณนะ ถึงผมจะยอมคุณแต่ไม่ใช่ว่าผมจะไปไหนกับใครคนอื่นไม่ได้//
คำตอกกลับที่แทบเอาฉุนขาด เขารู้ว่าห้ามไม่ได้ แต่มันต้องไม่ใช่ตอนนี้ ในช่วงเวลาที่ทิวายังยอมอ้าขาให้เขาอยู่
“ผมไม่ชอบใช่ของร่วมกับใคร ถ้าอยากมากนักผมช่วยได้”
//เลว//
“ไม่ต้องชื่นชมกัน แค่บอกให้รู้ไว้จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวทีหลัง เลิกงานมาหาผมที่โรงแรม ถ้าภายในหนึ่งชั่วโมงคุณมาไมถึงห้องทำงานผมล่ะก็ เรื่องยาว!”
รัตติกาลตัดสายทันทีอารมณ์ดีดีถูกกวนจนขุ่น เขาโยนมือถือราคาห้าหลักลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ถ้าทิวาอยู่ตรงหน้าล่ะก็จะจับลงโทษให้ร้องครวญครางเสียให้เข็ด ไว้คืนนี้ก่อนเถอะเขาจะทบทั้งต้นทั้งดอกให้คลานกลับไปเลย
อีกคนอารมณ์ขุ่นมัว แต่หารู้ไม่อีกคนกลับโมโหยิ่งกว่า
.
. .
. . . .
. . . . .
“อา...”
เสียงครางยาวสุดท้ายจบลงพร้อมกับร่างหนาที่ฟุบตัวลงกับแผ่นหลังเนียนชื้นเหงื่อ เรียกว่าแทบจะไม่มีส่วนไหนไม่แนบชิด โดยเฉพาะแก่นกายร้อนผ่าวที่ยังฝังลึกอยู่ในโพรงแน่นๆอุ่นๆ ร่างบางขยับตัวยุกยิกอย่างรำคาญแต่เหมือนยิ่งไปกระตุ้นให้จุดเชื่อมต่อเสียดสีกัน
“อยากต่ออีกยกรึไง” รัตติกาลพูดแซวแม้น้ำเสียงจะเริ่มแตกพร่าเพราะการบีบรัดถี่ๆจากแก่นกาย
“มันหนัก เสร็จแล้วก็ลุกไปซะที” เขายิ้มบางๆให้กับเสียงโวยวายของทิวา ก็ตอนนี้เขาเล่นทิ้งน้ำหนักตัวลงบนร่างบอบบางเต็มที่ จนทิวาแทบจะจมหายไปกับที่นอน
“ทีก่อนหน้านี้ไม่บ่น เห็นครางอย่างเดียว” ก็ท่านี้เป็นท่าสุดท้าย เขากระแทกไม่ยั้งทิ้งน้ำหนักเต็มแรงจนกระเด้งกระดอนอย่างเมามัน ไม่เห็นทิวาจะพูดอะไรสักคำ ได้ยินแต่เสียงครางอู้อี้กับหมอน
“ไอ้บ้า! ลุกออกไปนะ” ทิวาดิ้นไปมา บั้นท้ายเบียดเสียดสีจนเขาต้องเบ้หน้ากับความเสียวกระสันที่พุ่งขึ้นมาจากจุดเชื่อมต่อ อีกทั้งช่องทางก็ยังรัดรึงเสียแน่น ไม่ยากเลยที่แก่นร้อนของเขาจะปวดบวมขึ้นมาอีกระรอก มันขยายใหญ่พร้อมรบ เมื่อนั้นแหละทิวาถึงได้หยุดขยับกาย
“ไอ้หื่นกาม มันจะ อ๊ะ เกินไปแล้วนะ” มีหลุดครางเมื่อเขาแกล้งกระแทกตัวเข้า “ยังไม่พออีกรึไงห๊ะ!”
“เพิ่ง2รอบเองนะ อดมาตั้งอาทิตย์คิดว่าแค่นั้นจะพอรึไง”
“อย่านะ อ๊ะ! ปล่อย” เขาจัดการรวบไหล่บางเอาไว้แน่นจนแผ่นอกกว้างเสียดสีกับแผ่นหลังขาวเนียน สองขาดันขาทิวาออกกว้างและกดทับไว้ ขณะทีสะโพกก็บรรเลงลีลากระแทกขึ้นลงวนเวียนไม่หยุด รัตติกาลซุกใบหน้าลงกับซอกคอหอมจูบซับร่องรอยชื้นเหงื่อ
ทิวาช่างพิเศษกว่าใคร เหมือนกับดอกไม้หอมที่ส่งกลิ่นล่อแมลง ยิ่งกอดยิ่งมีเสน่ห์ ยิ่งอยู่ในช่วงเวลานั้นเหมือนกับร่างกายจะปล่อยฟีโรโมนออกมาเต็มที่ ถ้าเป็นอาหารก็คงต้องบอกว่าหอมยั่วน้ำลาย หึหึ เขาเลยไม่รู้จักอิ่มอย่างนี้ไงล่ะ
กว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงก็เกือบสามทุ่ม ก็จนคนใต้ร่างเขาร้องประท้วงว่าหิวนั่นแหละถึงได้ยอมปล่อยให้เดินกระเผลกๆไปล้างตัวในห้องน้ำ รัตติกาลมัวแต่หมกมุ่นกับร่างหอมๆก็เลยลืมไปว่าพอเจอกันก็ลากมาที่ห้องแล้วก็จบบนเตียง ดูจากสมรภูมิที่กระจ่างคาตาอยู่ตอนนี้ก็บอกได้เลยว่าหลายชั่วโมงที่ผ่านมามันหนักหน่วงแค่ไหน
แกร่ก
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ร่างโปร่งบางของทิวาเดินมานั่งบนเตียงแม้จะแอบเบ้หน้า
เล็กน้อยแต่ก็ขยับกายจนสามารถนั่งได้อย่างสบาย รัตติกาลนั่งจ้องร่างข้างๆไม่วางตา ทิวาเช็ดผมเปียกชื้นด้วยผ้าขนหนู ขยี้กลุ่มไหมสีน้ำตาลเข้มที่เขารู้ว่ามันนิ่มสลวยแค่ไหน
“ไม่มีเงินซื้อถุงยางรึไง”
เขามองดูริมฝีปากบางที่รูปรอยหยักชัดสวยอ้าขึ้นลงตามเสียงที่เปล่งออกมา เห็นแล้วก็นึกถึงตอนที่มันครอบแก่นกายเขาเสียจริง นุ่มชุ่มชื้นแม้จะสัมผัสได้เพียงครึ่งเดียวก็เถอะ
“นี่!! ถามน่ะไม่ได้ยินรึไง”
“เรื่องอะไร?” ชายหนุ่มลอบยิ้มกับตัวเอง ไปกันใหญ่แล้วรัตติกาล ท่าทางสมองเขาคงจะมีแต่เรื่องลามกถึงได้คิดอะไรลงใต้สะดือ
ไปเสียหมด
“ถุงยาง! หัดใส่บ้างเหอะ” ทิวากระแทกเสียงใส่ ใบหน้าบูดบึ้ง “เป็นเอดส์รึเปล่าก็ไม่รู้”
“หึหึ เป็นไม่เป็นไม่รู้ รู้แต่ว่าได้ไปหลายน้ำและนี่”
“ไอ้เลว! อ๊ะ ปล่อยนะ” ร่างบางโวยวายทันทีที่เขากระเถิบตัวเข้าหาพร้อมกับโอบร่างไว้แนบอก ยิ่งทิวาดิ้นเขาก็ยิ่งออกแรงรัด และฝ่ายชนะก็คงไม่ผิดไปจากเขาเพราะตอนนี้ทิวาฝังตัวเข้ากับอกกว้างอย่างจำยอม
“ไม่เป็นโรคหรอกน่า ตรวจร่างกายตลอด” เขาแก้ไขความเข้าใจผิด “กับคนอื่นก็ป้องกันทุกครั้งแต่กับทิวอยากเสียบสดรดน้ำนี่”
“คุณนี่มันเลวจริงๆ”
“ชมกันอยู่ได้ ไม่เบื่อรึไง” รัตติกาลอมยิ้มกับคนในอ้อมกอดที่ชายตามองเขาด้วยสายตาสุดเซ็ง
“ปล่อย ผมจะกลับแล้ว” ทิวาบิดตัวหนีอีกครั้ง รัตติกาลยอมคลอยกอดแต่กลับคว้าข้อมือบางเอาไว้แทน
“น้ำแตกแล้วแยกทางเหรอ ผู้ชายอะไรเนี่ย”
“แล้วจะให้ทำอะไรอีก คุณก็ต้องการแค่นี้ไม่ใช่รึไง”
น้ำเสียงแข็งกระด้างกับแววตากร้าวที่มองมา ทำให้รัตติกาลจนด้วยคำพูด นั่นสิเขายังต้องการอะไรอีก ในเมื่อได้เสพสมร่างกายนั้นจนอิ่มหนำแล้ว แม้จะรู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอ แต่เขาก็เป็นคนธรรมดา ไอ้อาการฟ้าเหลืองชนิดไปทำงานไม่ไหวเห็นทีคงมากเกินไป
แต่
เขายังไม่อยากให้ทิวากลับไป
เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้มองคนคนนี้ แม้จะหน้าตอนโกรธ ตอนเสียใจ รึตอนไหนก็ตาม ทิวาเป็นแม่เหล็กสำหรับเขาจริงๆ
“ไหนว่าหิว...จะพาไปหาอะไรกิน”
คำชวนที่หลุดออกจากปาก มันเหมือนเขาละเมอพูดออกมา แต่รัตติกาลรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจ ทิวามีสีหน้าคาดไม่ถึงอย่างโจ่งแจ้ง และตามมาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ไว้ใจ หัวคิ้วสวยขมวดแน่นจ้องเขาอย่างจับผิด
“ผมหากินเองได้”
“อย่าขัดใจกันน่า” กับทิวาที่ยังไม่เชื่อง เขาก็จำต้องงัดคำขู่ขึ้นมาควบคู่คำพูดอยู่ร่ำไป ดูเอาเถอะ! ขนาดสีหน้าแค้นเคืองเขาจะเป็นจะตาย เขายังมองว่ามันแสนจะมีเสน่ห์
“ผมจะไปอาบน้ำ ออกมาคงแต่งตัวรอผมอยู่ในห้องนี้นะ” ทั้งบอกและสั่งไปในตัว ทิวาฮึดฮัดขัดใจบ้างแต่ก็ดูจะยอมจำนน รัตติกาลปล่อยข้อมือ เล่นจ้องหน้ากันพักนึงแล้วถึงเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้ม
แค่คิดว่าจะได้เห็นหน้าทิวานานขึ้น เขาก็หุบยิ้มไม่ได้แล้ว
“บะหมี่ต้มยำแห้งพิเศษ1” รัตติกาลตะโกนสั่งเฮียเจ้าของร้านที่กำลังลวกเส้นอย่างหน้าดำคร่ำเครียด ก่อนจะหันมาถามร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้าม “คุณจะกินอะไร”
“...เอ่อ...บะหมี่แห้งธรรมดา”
“เฮีย! บะหมี่แห้งธรรมดาอีกชาม” เขาตะโกนบอกอีกครั้ง เสียงเจ้าของร้านตอบรับพร้อมกับมองตำแหน่งโต๊ะแล้วกลับไปง่วนกับการเทเส้นลงชามแต่ละใบ รัตติกาลมองหน้าทิวาที่สื่ออาการงุนงงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกตั้งใจว่าจะพาไปทานร้านอาหารบรรยากาศดีดี แต่ด้วยการแต่งตัวของแต่ละคนที่ไม่พร้อม เขาจึงเบนเข็มมาที่ร้านบะหมี่ข้างทางเจ้าประจำ เขาสวมแค่เสื้อคอวีสีดำกับกางเกงสามส่วนลายทาง ส่วนทิวาก็เป็นเสื้อผ้าของเขายกชุด เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาวพอดีตัวของเขาที่พอทิวาใส่กลับดูรุ่มร่าม กางเกงสามส่วนพอดีตัวที่ทิวาใส่ก็เลยเข่ามาเกือบหนึ่งฝ่ามือ
รู้อยู่ว่าตัวบาง แต่ไม่คิดว่าจะต่างกันมากขนาดนี้
“คุณ...คุณกินร้านแบบนี้ด้วยหรอ”
“หืม? คุณกินไม่ได้รึไง”
“เปล่า ผมแค่สงสัย คิดว่าคนอย่างคุณคงเข้าแต่ร้านหรูๆแพงๆ”
“หึหึ ร้านนี้ผมกินบ่อย กินแล้วจะติดใจ” รัตติกาลแนะนำด้วยรอยยิ้ม และออกจะเหลือเชื่อไปสักหน่อยกับคนที่ไม่เคยคาดหวัง
ทิวายิ้มตอบกลับ
“คุณก็มีมุมที่คาดไม่ถึงเยอะเหมือนกันนะ”
“ต้องทำความรู้จักกันให้มาก คุณจะได้รู้จักผมมากกว่านี้”
“ผมรู้สึกว่าไม่จำเป็น”
รัตติกาลยิ้มเยาะกับคนที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึงเพียงเสี้ยววินาที เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป ได้แต่เล่นเกมส์สงครามเย็นกันผ่านทางสายตา พักรบก็ตอนบะหมี่สองชามมาวางตรงหน้า ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ทิวาหน้าเรียบเฉยตลอดมื้ออาหาร แต่รัตติกาลกลับมีรอยยิ้มแตะแต้มอยู่ตลอด
อิ่มท้อง แถมยังอิ่มใจ
เขาเนี่ย...ท่าจะหลงทิวาเอามากๆ
ขืนพูดให้ใครฟัง คงได้โดนหัวเราะเยาะ
เสือผู้หญิงกลับสิ้นลายเพราะผู้ชายคนเดียว__________________________________
TBC.____________________________________________________
มาลงจนได้

ขออภัยที่หายศีรษะไปเสียนานนะคะ :m5:มาช้าแถมยังลงสั้นอีก มันน่าโดนตบจูบเสียจริง คิคิ
ขอบคุณที่ยังอดทนรออ่าน ถ้ายังไม่เบื่อกัน ก็จะบากหน้างามๆ(?)ลงต่อไป หุหุ
รักคนอ่าน

รักคนเม้น
Untill we meet agaiN