ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28“ถ้าไม่ใช่พี่ตินณ์วีก็เป็นแฟนใครไม่ได้ทั้งนั้น”
“มันไม่ใช่เรื่องที่มึงจะยอมรับหรือไม่ยอมรับแต่มันเป็นเรื่องของกูกับวี คนนอกอย่างมึงไม่เกี่ยว วีไปกันเถอะอย่าไปสนใจเลย” พี่โยว่าเสร็จดึงมือผมให้เดินต่อทิ้งพี่ชินไว้ข้างหลังโดยไม่สนใจจะหันกลับไปมองอีกเลย
พี่โยพาผมมาตักอาหารบริเวณที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เป็นเพิงพักอยู่ริมชายหาด มีอาหารหลายอย่างเลยครับ ดูแล้วมีแต่อาหารน่ากินแต่ผมไม่ค่อยรู้สึกอยากกินเท่าไหร่เพราะเพิ่งกินซัดมาม่าไป 2 ซอง
พี่โยตักข้าวพร้อมกับข้าวราดมาให้หลายอย่างแถมยังมีของตัวเองมานั่งกินเป็นเพื่อน ผมเลยจำเป็นต้องลงมือกินอีกครั้งทั้งที่ยังอิ่มอยู่เลยครับ จังหวะที่ผมกำลังเคี้ยวข้าวเรื่อยๆพี่โยที่นั่งยิ้มสมใจที่ผมยอมกินข้าวได้ก็เอื้อมมือมาตรงหน้า ผมเอียงหลบแต่ไม่พ้นก่อนจะได้รู้ว่าพี่โยช่วยเอาเมล็ดข้าวสวยที่ติดอยู่มุมปากออกให้
“กินยังไงให้เลอะ กินเป็นเด็กเลยนะเรา” เสียงว่าพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ทำให้ผมรู้สึกตาพร่าเพราะภาพพี่ชินที่ซ้อนทับขึ้นมาผมต้องส่ายหน้าเพื่อสลัดภาพเหล่านั้นออกไปจากหัว
“ขอบคุณครับพี่โย” ตอบพร้อมหลบสายตาที่กำลังจ้องอยู่ แต่ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรือมีอะไรดึงดูดให้สายตาผมไปสบเข้ากับดวงตาอีกคู่ที่อยู่ไม่ไกล มันเป็นสายตาที่แข็งก้าวแบบที่ผมไม่คุ้นชินเลยจริงๆ
“กินเยอะๆนะ จะได้ตัวนิ่มๆแก้มยุ้ยๆกว่านี้หน่อย ตอนนี้วีผอมไปแล้วรู้ไหม” เสียงพี่โยดังแว่วเข้าหูทำให้ผมหันมามองจานข้าวตัวเองที่ตอนนี้มีไข่ดาวเพิ่มขึ้นมา
“เอ่อ....”
“เอ้ากินเข้าไปเยอะๆ พี่ป้อน” ยังไม่ทันได้พูดตามที่ตั้งใจ ช้อนที่ตักข้าวจนพูนถูกยื่นมาตรงหน้า ผมลังเลเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากรับ
เพล้ง!!
“เฮ้ย! ไอ้ชินเป็นอะไรวะ” เสียงพี่น็อตดังต่อจากเสียงอะไรซักอย่างหล่นแตก ผมรีบหันไปมองถึงเห็นว่ามีเศษแก้วน้ำตกแตกอยู่บนพื้นข้างตัวพี่ชิน
“มือลื่น” พี่ชินตอบเสียงนิ่งก่อนลุกเดินออกจากโต๊ะท่าทางเหมือนใครทำให้โมโห แล้วผมก็ดันไปสบตาเข้ากับพี่น็อตก่อนแกจะส่ายหน้าเหมือนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
“พี่โย ผมว่า....ผมควรไปคุยกับพี่ชินให้รู้เรื่องดีไหมครับ”
“ปล่อยมันไปเถอะ มันบ้าไปแล้วอย่าไปยุ่งกับมันเลย อ่ะกินต่อนะกินเสร็จพี่จะได้พาไปขอลายเซ็นเพื่อนๆ”
“เอ่อ...ครับ” ผมตอบก่อนเริ่มตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง หลังฝืนกินต่อไปได้สองสามคำก็กินต่อไม่ไหว
“วีอยากได้ลายเซ็นใครก่อนเล็งไว้บ้างรึยัง”
“ยังเลยครับ”
“งั้นพี่เซ็นให้ก่อนนะเอามาสิ”
“แล้วผมไม่ต้องทำอะไรแลกลายเซ็นพี่เหรอครับ” ผมถามพี่โยด้วยความสงสัยไหนไอ้แบตว่าต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนก่อนไง
“คนอื่นอาจจะมีแต่สำหรับวีไม่ต้องหรอกพี่เซ็นให้เลย แต่ถ้าเอาใจมาแลกก็ดีนะ” พี่โยว่าก่อนหยิบปากกาจากกระเป๋าด้านหลังกางเกงขึ้นมาตวัดลายเซ็นลงบนสมุดบันทึกกิจกรรม
“พี่โยล้อล้อผมนะ” ผมแกล้งว่า
“ถ้าไม่ให้ล้อแล้วจะให้พี่ทำอะไรล่ะ” พี่โยว่าพร้อมทำหน้าล้ออย่างชัดเจนมีเหรอผมจะไม่รู้
“ไม่รู้ เอ่อ....ขอบคุณนะครับสำหรับลายเซ็น”
“เรื่องเล็กน้อยน่า มาเดี๋ยวพี่พาไปให้คนอื่นช่วยเซ็นด้วย” พี่โยว่าเสียงดังก่อนลุกนำผมเดินไปทางกลุ่มรุ่นพี่ที่นั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าช่วยให้ง่ายหรือยากขึ้นกันแน่เพราะแค่พวกรุ่นพี่เห็นผมเดินไปพร้อมพี่โยต่างพากันโห่แซวว่าผมเป็นเด็กเส้นแล้วรุมแกล้งให้ผมทั้งร้องเพลง ทั้งทำท่าแปลกๆ กว่าจะได้ลายเซ็นกลุ่มนี้ครบเล่นเอาเหนื่อยเลยครับ
พอเสร็จจากกลุ่มนี้ก็ไปกลุ่มอื่นต่อ ผมเดินตามพี่โยไปกลุ่มต่างๆพร้อมกับความรู้สึกว่าเหมือนมีใครกำลังจ้องมองอยู่ แล้วก็ไม่ได้คิดไปเองจริงๆครับ เพราะเมื่อลองมองไปรอบๆผมก็จะเจอสายตาของพี่ชินคอยมองอยู่ตลอดหันไปเมื่อไรก็ต้องสบตากันร่ำไป จนผมต้องเตือนตัวเองว่าอย่าหวั่นไหวไปกับสายตาคู่นั้นง่ายๆ
“น้ำไม่เซ็นให้หรอกนะถึงโยจะเป็นคนพามาก็เถอะ”
“วีเอาไง” พี่โยหันมาถามผมหลังจากพี่น้ำว่าเสียงไม่เบา ทำเอาคนที่อยู่ใกล้ๆพากันหันมามอง ผมคิดไว้แล้วว่ายังไงก็คงไม่ได้ลายเซ็นของพี่น้ำแน่ๆและไม่คิดจะขอตั้งแต่แรก แต่มีรุ่นพี่คนอื่นอยู่ตรงนี้พี่เขาเซ็นเสร็จเลยหวังดียื่นไปให้พี่น้ำด้วย
“ไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพี่โยก่อนทำท่าจะเดินออก
“เชิดให้มันได้ตลอดนะ คิดว่าทำนิ่งๆแล้วจะไม่มีใครรู้เหรอว่าแกมันเป็นนางวันทองสองสามใจ ใครทำดีด้วยก็วิ่งเข้าหาไปทั่ว คนนี้ไม่เอาก็ไปหาคนนั้นทีคนโน้นที เขารู้กันหมดแล้วว่าแกน่ะขาดผู้ชายไม่ได้ แล้วก็มั่วแค่ไหน ระวังไว้นะโยน้ำขอเตือนในฐานะเพื่อนถ้าไม่อยากติดเชื้อโรคจากคนสำส่อนอย่างมันก็รีบออกมาห่างๆเลย” เสียงดังไล่หันทำให้ผมต้องหยุดชะงักก่อนหันกลับไปมอง
“น้ำพูดอะไรอย่างนั้น” เพื่อนพี่น้ำรีบปรามเมื่อเห็นผมจ้องหน้าคนที่ส่งเสียงดังไม่วางตา
“ก็มันจริงนิ แกไม่รู้อะไร”
“น้ำโยว่าน้ำพูดเกินไปแล้วนะ”
“ไม่เกินไปหรอกโย ตอนนี้โยกำลังหลงมันใช่ไหมถึงได้ว่าน้ำพูดเกินไป แต่คิดดูสิมันทำให้โยกับชินที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแตกคอกันได้มันร้ายขนาดไหน”
“มันไม่ใช่ความผิดของวี”
“โยอย่ามาปกป้องมันหน่อยเลย ผู้ชายอะไรทำตัวไม่ต่างกับผู้หญิงสำส่อน โยกับชินก็เหมือนกันกลายเป็นพวกวิปริตผิดเพศก็เพราะมันยั่วใช่ไหม”
“กรุณาระวังคำพูดของพี่ด้วยครับ ถ้าพี่จะว่าให้ว่าผมคนเดียว อย่าเอาพี่โยกับพี่ชินเข้ามาแปดเปื้อนด้วย” ผมว่าเสียงนิ่ง ถึงจะว่าผมขนาดไหนผมก็ไม่สนใจในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่เรื่องที่ยอมไม่ได้คือการที่เอาพี่ชินกับพี่โยมาว่าให้แปดเปื้อนไปด้วย
“รู้เหมือนกันนี่นาว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้คนอื่นเขาแปดเปื้อน ถ้าอย่างนั้นก็ไปสิไสหัวไปจากชีวิตเพื่อนฉัน อย่ามาวนเวียนเป็นสัมภเวสีคอยขอส่วนบุญอยู่แบบนี้”
“น้ำมันจะมากไปแล้วนะ วีทำอะไรให้น้ำถึงไปว่าน้องขนาดนั้น”
“มากไปเหรอโย นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับเรื่องที่มันทำกับน้ำ”
“ผมทำอะไรให้พี่เหรอครับ”
“แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่นับญาติกับคนอย่างแก”
“ถ้าผมไปทำอะไรไม่ดีกับคุณไว้ ก็ช่วยบอกด้วยครับ ถ้าไม่บอกผมจะถือว่าผมไม่ได้ทำและสิ่งที่คุณกำลังพูดเป็นเรื่องที่คุณปั้นแต่งขึ้นมา”
“แก!! กล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ มันต้องสั่งสอนให้มันรู้จักรุ่นพี่ซะบ้าง”
“น้ำอย่า”
“น้ำหยุดเดี๋ยวนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เสียงพี่โยร้องห้ามจังหวะเดียวกับที่พี่ชินเข้ามาจับมือพี่น้ำที่กำลังเงื้อขึ้นเตรียมฟาดผมเต็มที่
“ชิน! ไม่มีอะไรค่ะ แค่รุ่นน้องมาขอลายเซ็นแต่น้ำไม่อยากให้ก็แค่นั้น”
“ขอลายเซ็นแล้วทำไมต้องถึงขั้นลงไม่ลงมือ”
“เอ่อ....คือ”
“ชินเคยบอกอะไรไว้จำได้ใช่ไหม”
“ก็มันปากดีกับน้ำก่อน”
“จริงรึเปล่าวะ” พี่ชินหันมาถามพี่โย
“ไม่รู้เคลียร์กันเอง ไปเถอะวีพี่ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว”
“ครับ คุณพูดจบแล้วใช่ไหมผมจะได้ไป ถ้าไม่มีอะไรที่คุณจะพูดแล้วผมขอถือว่าเรื่องทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณมโนขึ้นมาเองนะครับ” ผมว่าก่อนคว้ามือพี่โยแล้วดึงให้เดินตาม ตอนนี้อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“กรี๊ดดด........ไอ้เด็กเปรตแกจะลองดีกับฉันเหรอ ชินปล่อยน้ำ น้ำจะตบสั่งสอนมัน ปล่อยสิชิน ไม่เห็นเหรอมันว่าน้ำนะ ชินปล่อย”
“เงียบ!! ไม่อายคนอื่นรึไงที่ทำแบบนี้” เสียงกรี๊ดเงียบลงหลังเสียงดุๆของพี่ชินดังแทรกขึ้น ผมที่เดินออกมาไกลไม่คิดจะหันกลับไปมองเลยซักนิด
“ไอ้วีหายหัวไปไหนมาวะ กูกับลูกแพรว่าจะชวนมึงมาขอลายเซ็นรุ่นพี่แถวชายหาดซะหน่อยคนเยอะเลยนะเว้ย” ไอ้แบตรีบถามทันทีที่หันมาเห็นผมกับพี่โยที่เดินข้ามถนนหน้ารีสอร์ทออกมาบริเวณสวนสนที่มันกำลังนั่งอยู่
“พี่โยพากูไปขออยู่ข้างในว่ะ มึงได้เยอะยัง”
“เยอะ ได้เกือบครบแล้วนะเว้ย”
“เฮ้ย! อะไรวะของกูเหลืออีกเกินครึ่ง”
“มึงก็รีบๆขอดิ แล้วทำไมพี่โยต้องพามึงไปขอลายเซ็นเพื่อนตัวเองด้วยวะ”
“ก็......”
“พี่กับวีเป็นแฟนกันน่ะ” ผมยังไม่ทันตอบพี่โยที่ยืนอยู่ข้างหลังชิงตอบแทน
“ห๊ะ!! แฟนกัน พี่กับไอ้วีเนี๊ยะนะ”
“จริงเหรอคะ ทำไมแพรกับแบตไม่รู้เรื่องเลย”
“มึงไปเป็นแฟนกับพี่โยตอนไหนวะ ไหนบอกกูดิ”
“ใจเย็นๆ กูกับพี่โยเพิ่งตกลงกัน” ผมตอบไอ้แบตที่ทำหน้าตกใจไม่แพ้ลูกแพร
“ไอ้วีมึงแน่ใจแล้วเหรอวะ”
“อืม กูคิดดีแล้วมึงไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้กูจะยอมรับผลที่จะตามมาทั้งหมด” ผมตอบก่อนยิ้มให้ไอ้แบต มันมองตอบด้วยสายตาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
“ไอ้วีกูว่ามันเร็วเกินไป มึงทำใจได้แล้วเหรอ”
“แบตปล่อยให้วีได้ตัดสินใจเถอะ เราเป็นเพื่อนก็ได้แต่ให้กำลังใจ” ลูกแพรจับแขนไอ้แบตก่อนว่าเสียงเบา
“แต่แพร ไอ้วีมันกำลังจะทำร้ายทั้งตัวเองและพี่โย แถมเผลอๆแบตว่าพี่ชินด้วยนะ” มันหันไปคุยกับลูกแพร
“วีลูกแพรว่า”
“แบต ลูกแพร วีขอบคุณนะที่ทุกคนคอยเป็นห่วงและอยู่เคียงข้างวีมาตลอด แต่ครั้งนี้วีขอเป็นคนตัดสินใจอีกครั้งได้ไหม” ผมรู้ว่าลูกแพรกำลังจะพูดอะไรเลยต้องรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่ใจผมจะโอนเอนไปตามที่ลูกแพรและไอ้แบตอยากให้เป็น
“ถ้าอย่างนั้นกูกับลูกแพรก็ขอเป็นกำลังใจให้มึงเหมือนเดิมแล้วกันนะ ถึงกูจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของมึงแต่มีอะไรให้ช่วยก็บอก”
“ขอบใจว่ะ” ผมตอบไอ้แบตที่ยกมือขึ้นตบบ่าผมเบาๆเพื่อเป็นกำลังใจก่อนยิ้มให้ลูกแพรอีกคน จากนั้นก็ถึงเวลาเริ่มล่าลายเซ็นอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าตัวเองคงได้ลายเซ็นไม่ครบตามที่กำหนดเพราะอย่างน้อยของพี่น้ำผมก็ไม่ได้ไปแล้ว 1 คน และคิดว่าของพี่ชินก็คงไม่ได้อีกเหมือนกันแต่ในเมื่อทำมาขนาดนี้แล้วผมก็อยากจะทำให้เต็มที่ที่สุด ครบไม่ครบช่างมันเถอะครับ
ผมเดินขอลายเซ็นรุ่นพี่ตามหาดกับไอ้แบตและลูกแพรไปเรื่อยๆ ปล่อยให้พี่โยไปอยู่กับเพื่อนแกบ้าง รุ่นพี่ทั้งหมด 50 กว่าคนทำไมมันดูเยอะขนาดนี้ไม่รู้ครับเดินจนจะมืดอยู่แล้วยังได้ไม่ครบเลย ยิ่งเหลือคนน้อยเท่าไหร่ลายเซ็นที่ได้ยิ่งแลกมาด้วยการทำอะไรยากๆทั้งนั้นเลยครับ
“เป็นไงบ้างได้ครบรึยังครับ” เสียงพี่โยถามทันทีเมื่อเห็นผมเดินกลับมาเข้าในรีสอร์ท คิดว่าจะเข้ามากินข้าว อาบน้ำพักผ่อนซักพักแล้วค่อยไปขอใหม่ครับ ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนแล้ว
“เหลือ 3 คนเองครับพี่โย” ผมตอบยิ้มๆด้วยความภูมิใจ
“เก่งนี่น่าเหลือใครบ้างล่ะ”
“เหลือพี่น้ำ พี่ชินแล้วก็พี่น็อตครับ”
“ไอ้น็อตด้วยเหรอ ทำไมมันถึงไม่เซ็นให้ " พี่โยทำหน้าสงสัยก่อนขอสมุดผมไปเปิดดู
“ผมหาพี่น็อตไม่เจอ ไม่รู้อยู่ที่ไหนครับ" ตั้งแต่เจอพี่น็อตเมื่อตอนกินข้าวก็ไม่ได้เจออีกเลยครับ
“อ๋อ สงสัยมันนอนอยู่เพราะพี่เพิ่งเห็นมันเดินหัวยุ่งออกมาจากห้องเมื่อกี้ นั่นไงมันมาโน่นแล้วไอ้น็อตๆมานี่เดี๋ยวดิ” พี่โยว่าก่อนจะเห็นพี่น็อตเดินดูดไอติมอยู่ไม่ไกลเลยตะโกนเรียก
“มีไรวะ กูหิวจะไปกินข้าว”
“ของกินยังอยู่ในปากจะกินอีกแล้วนะมึง”
“เออ แค่นี้มันจะไปอิ่มอะไรแล้วตกลงมีอะไรวะ”
“เซ็นให้น้องหน่อยดิ” พี่โยว่าพร้อมยื่นสมุดและปากกาไปตรงหน้าพี่น็อต
“นี่มันของน้องไม่ใช่เหรอ มันเรื่องอะไรที่อยู่ๆมึงจะเอามาให้กูเซ็นง่ายๆ แล้วทำไมน้องไม่มาเอง”
“ก็นี่ไงน้องก็ยืนอยู่นี่มึงจะเรื่องมากทำไมเซ็นๆไปเถอะ” พี่โยว่า
“ไม่! บอกมาก่อนทำไมมึงต้องออกหน้าด้วย แล้วน้องคนนี้ใช่คนที่กูเห็นไอ้ชินมันจีบๆอยู่เมื่อเทอมที่แล้วป่าววะ” พี่น็อตว่าก่อนเดินมาจ้องหน้าผมใกล้ๆแต่มือก็ยังถือไอติมดูดอยู่ ดูแล้วพี่น็อตท่าทางกวนๆเหมือนจะแกล้งพี่โย
“เสือกนะมึง จีบแล้วไงในเมื่อตอนนี้น้องมันเป็นแฟนกู พอใจยังรู้แล้วก็รีบๆเซ็นซะ” พี่โยว่าเสียงดัง
“เฮ้ย! น้องคนนี้เป็นแฟนมึง เป็นตอนไหนเป็นได้ไง” พี่น็อตทำเสียงสูงพร้อมท่าทางตกใจ
“มึงรู้แล้วจะรวยขึ้นไหม ไม่ต้องเสือกหรอกน่ารีบๆเซ็นซะที”
“กูไม่เชื่อมึงอย่ามาอำ ไอ้ชินไอ้โยมันบอกน้องคนที่มึงเคยจีบเป็นแฟนมันจริงป่าววะ” อยู่ๆพี่น็อตก็ถามขึ้นมาแต่สายตามองเลยไปข้างหลังผมกับพี่โย ผมเลยรีบหันไปมองตามแล้วก็เจอพี่ชินมายื่นอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ ช่วงนี้ทำไมพี่ชินทำตัวเหมือนผีแบบนี้วะ เดี๋ยวก็ไปโผล่ตรงโน้นตรงนี้
“ไม่รู้กูไม่ได้สนใจ” พี่ชินตอบปัดๆก่อนทำท่าจะเดินผ่านไป เหมือนไม่ได้สนใจสิ่งที่พี่น็อตถาม คำตอบของพี่ชินถ้าฟังผ่านๆก็ไม่มีอะไรแต่ใครจะรู้ว่าแค่คำพูดสั้นๆไม่กี่คำก็ทำให้ใจของผมที่คิดว่าตอนนี้มันด้านชากลับมาเจ็บปวด ราวกับถูกมีดกรีด ทั้งๆที่คิดว่ารับได้ ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่แคร์ไม่ใส่ใจแต่ทำไมไม่เคยทำได้ซะทีนะ ต้องเจ็บต้องช้ำอีกเท่าไหร่ใจผมมันถึงจะจำ จำเถอะจำไว้ว่าเรามันไม่มีค่าอะไรให้พี่ชินใส่ใจอีกต่อไปแล้ว
“อะไรวะ งั้นถ้ามึงเป็นแฟนกับน้องมันมึงก็จูบกันให้กูดูดิ” พี่น็อตทำท่าหัวเสียใส่พี่ชินก่อนหันมาพูดกับพี่โย แต่สิ่งที่พี่น็อตพูดทำให้ผมถึงกับอึ้ง พี่จ้องหน้าพี่น็อตนิ่ง พี่ชินที่กำลังเดินก็ชะงักเหมือนหกันครับ
จูบกับพี่โย เรื่องนี้ไม่เคยมีอยู่ในความคิดผมเลยซักครั้ง นอกจากพี่ชินแล้วผมก็ไม่คิดจะจูบกับใครอีก ถึงแม้ว่าผมเกือบจะจูบกับพี่ตินณ์มาแล้วก็เถอะแต่ก็เพราะเมาแถมยังไม่ได้จูบด้วย ดังนั้นก็ถือว่าคนที่จูบผมมีแค่คนเดียวคือพี่ชินแล้วผมอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ถ้าจะให้ใครมาทับรอยที่พี่ชินเคยทำไว้ผมคงรับไม่ได้
“ทำไมกูต้องจูบกันให้มึงดูด้วย ไอ้เชี้ยน็อตมึงไม่ใช่พ่อที่ต้องมาสั่งให้กูทำอะไร” พี่โยว่า
“ก็ตามใจ งั้นลายเซ็นก็ไม่ต้องเอา กูก็แค่อยากรู้ว่ามึงเป็นแฟนกับน้องจริงรึเปล่า ถ้าคนเป็นแฟนกันแค่เรื่องจูบมันจะไปยากอะไร เว้นแต่ว่ามึงจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆ” พี่น็อตว่าพร้อมทำท่ายักไหล่แบบไม่แคร์
“กูจะหลอกมึงเพื่ออะไรวะ”
“กูจะไปรู้ไง จะให้กูเชื่อเหรอว่าอยู่ๆมึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย มึงอาจจะหลอกกูเล่น แล้วก็ไปแอบหัวเราะเยาะทีหลังที่กูโง่เป็นควายเชื่ออะไรมึงง่ายๆ”
“ประสาทแล้วมึง”
“ก็ถ้ามึงไม่ได้โกหกจะเดือดร้อนทำไมวะ”
“แล้วใครบอกมึงว่ากูเดือดร้อน” ยังไม่ทันสิ้นเสียงพี่น็อตพี่โยก็พูดสวนขึ้น ผมรีบหันไปมองหน้า อย่าบอกนะว่าพี่โยคิดจะ
“พี่โยอย่า”
ผัวะ!!
“เฮ้ย! ไอ้ชิน”
“พี่ชินอย่า!” ผมรีบร้องห้ามพร้อมยื้อแขนพี่ชินที่กำลังจะระดมหมัดที่ 2 เข้าใส่หน้าพี่โยหลังจากหมัดแรกเข้าเต็มๆหน้าโดยไม่มีใครทันตั้งตัว
“วีปล่อยพี่” พี่ชินไม่ฟังเสียงจะซ้ำอย่างเดียว
“ไอ้เหี้ยชินมึงต่อยกูเหรอ” พี่โยยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเองก่อนถามเสียงต่ำ
“เออ กูนี่แหละต่อยแล้วจะต่อยซ้ำด้วย”
ผัวะ!! แล้วจังหวะที่ไม่มีใครระวังพี่โยก็พุ่งเข้าต่อยพี่ชินคืนเต็มแรงเลยครับ ผมรับรู้ได้จากหน้าพี่ชินที่หันไปตามแรงหมัด
“ตอบแทนสำหรับหมัดเมื่อกี้ และนี่สำหรับที่มึงทำกับวี” พูดจบพี่โยต่อยซ้ำอีกครั้ง พี่ชินที่ถูกผมรั้งแขนไว้โดนต่อยเข้าที่หน้าอีกครั้ง
“พี่โยพอเถอะครับผมขอร้อง” ผมรีบว่าด้วยอาการตกใจก่อนที่พี่น็อตจะเข้าไปล็อคแขนพี่โยไว้อีกแรง
“แล้วที่มึงทำกับวีล่ะ มึงจูบวีทำไม มึงจูบทำไมไอ้เหี้ย”
ผลัก!
พูดจบพี่ชินยกเท้าขวาขึ้นถีบพี่โยเต็มแรง ก่อนจะสะบัดแขนออกจากผมสำเร็จ แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อพี่โยก็ไม่ยอมสะบัดตัวหลุดจากการยื้อยุดของพี่น็อตแล้วทั้งสองคนก็ต่อยกับแบบไม่ฟังเสียงห้ามของใครเลยครับ
“พี่น็อตๆ ช่วยหยุดพี่ชินด้วยครับ” ผมร้องบอกพี่น็อตที่ยืนอยู่ข้างๆแบบไม่รู้จะทำยังไงดี
“ไอ้เหี้ย ฟัดกันอย่างหมา มึงอยากฟัดฟัดไป อย่าเลิกนะมึง เลิกเมื่อไหร่กูจะซ้ำให้” พี่น็อตว่าเสียงดัง หงุดหงิดเต็มที่ เมื่อพยายามจะเข้าไปห้ามแล้วโดนลูกหลงออกมา
“ไอ้เหี้ยชินกูจะเอาเลือดโง่ๆออกจากตัวมึงให้หมด”
“มึงเข้ามาเลยอย่าดีแต่พูด คนที่มันหักหลังเพื่อนอย่างมึงกูก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน”
ผัวะ!
“ใครไปหักหลังมึง มีแต่มึงที่โง่โง่จนมองไม่เห็นอะไร น้องมันรักมึงขนาดไหนยังผลักไสได้ แล้วตอนนี้จะมาทำเป็นหมาหวงก้างมันสายไปแล้วโว้ย น้องมันรักกูแล้ว”
ผัวะ!
“มึงหุบปากไปเลย มึงไม่รู้หรอกว่ากูรักวีมากขนาดไหนมึงไม่มีสิทธ์พูด”
“ถุ้ย! รักวีหรือรักใครถ้ารักมึงจะมีแฟนใหม่ให้มายืนด่าน้องมันปาวๆอยู่แบบนั้นเหรอวะ”
“กูบอกให้หุบปาก”
“พี่โยพอเถอะครับผมขอร้อง พี่ชินหยุดเถอะ” ผมขอร้องพร้อมจับแขนพี่โยไว้ ตอนนี้ทั้งสองคนสภาพดูไม่ได้แล้วครับ
“วีหลบไปพี่จะสั่งสอนเพื่อนพี่ให้มันหายโง่ซะหน่อย”
ผัวะ!
“พี่โย!”
“กูนี่สิจะสั่งสอนมึง”
“พี่ชินพอแล้ว อย่าทำพี่โย
ผัวะ!
“วี!!” ผมเซไปชนกับอะไรซักอย่างเข้าเต็มแรงพร้อมกับได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองดังขึ้นจากทั้งพี่โยและพี่ชินก่อนที่ความปวดหนึบ จนชาจะเกิดขึ้นที่หน้า
“วีพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ เจ็บไหม” ผมพยายามหันหน้ากลับมามองพี่ชินแต่มันก็ยากเหลือเกินเพราะตอนนี้เจ็บร้าวไปทั้งสันกราม
“ไอ้สัสมึงทำน้องกู”
“พี่ชินระวัง!!”
ผมเห็นอะไรซักอย่างกำลังร่วงลงมาทางหางตา ก่อนจะร้องเต็มเสียงทันทีที่รู้ว่ามันคือกระเบื้องมุงหลังคาแผ่นใหญ่
โครม!!
“วีเป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”
“ไม่ ไม่เจ็บเลย แต่ๆพี่ชินพี่เลือดออก” ผมพูดไม่เป็นประโยคเมื่อเห็นเลือดที่กำลังไหลออกมาจากหัวพี่ชินเหมือนสายน้ำ พี่ชินเอาตัวเองเข้าบังโดยกอดรอบลำตัวแล้วกดหัวผมไว้กับอกก่อนที่กระเบื้องจะหล่นใส่หัวพี่ชินและตกลงพื้นเสียงดัง
“พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องตกใจนะ พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจต่อยวะ....”
“ไอ้ชิน!”
“พี่ชิน! พี่อย่าเป็นอะไรนะ พี่ลืมตาขึ้นมาก่อน พี่ชินผมรักพี่นะพี่อย่าเพิ่งตาย” ผมตะโกนสุดเสียงเมื่ออยู่ๆพี่ชินก็หมดสติฟุบหน้าลงมาที่ไหล่ผมพร้อมกับอุ่นของเลือดที่ไหลลงมาที่ซอกคอผมไม่หยุด
----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----
รักเหมือนเดิมค่าาา