รุ่นพี่ผม...มัน 'เลว'
...
คงเพราะลมหนาว...คละปนสะเปะสะปะไปกับสายฝนที่ตกกระทบนอกหน้าต่าง... .
.
.
...วงแขนร้อนๆ ที่รัตติกร จับให้มันมาโอบรอบคอเขานั้นมันเลยยิ่งร้อนระอุและโอบแน่น ...
ลมหายใจร้อนกระทบแผ่นอกและซอกคอ ยิ่งเจ้าของลมหายอย่างด้วงกว่างพยายามซุกปลายจมูกหนีความเย็นของค่ำคืนหาความอบอุ่น รัตติกรยิ่งกอดตอบด้วยความรู้สึกแปลก..ตั้งแต่เที่ยงคืนมาแล้วมั้งที่เจ้าของบ้านพักครางอื้ออ้าไม่ได้สติเพราะอากาศข้างนอกมันเย็นเกินไปจนคนป่วยไข้ขึ้นหนักเพ้อละเมอแถมยังสั่นเทาไปด้วยพิษร้อน เพราะเหตุผลนี้ล่ะพาให้ตั้งแต่เที่ยงคืนจนค่อนจะมาเข้ารุ่งสาง รัตติกร แทบจะไม่ได้นอนหรือหลับตา...
อาการใครบางคนเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดวงตาดุกร้าวกลายสะท้อนแค่ความห่วงหา วงแขนใหญ่โอบกอดร่างที่สั่นสะท้าน โอบกอดแล้วลูบหลัง ประคองร่างร้อนระอุมาโอบไว้ใกล้กันแล้วมองจ้อง... สายตาคมจ้องเปลือกตาที่สั่นพริ้มปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยไรผมชื้นเหงื่อที่หล่นปรกใบหน้า...
พรมจูบซับคราบเหงื่อ ประคองกอดมอบไออุ่น...
.
.
.
...แล้วก็เหมือนเล่นเกมส์พระราชา ..
ยิ่งคนเพ้อ เพ้อหลุดพูดอะไรออกมา รัตติกรก็แทบจะทำถวายในชั่วเสี้ยวลมหายใจ ขอน้ำ ริมฝีปากหนานั้นก็ดื่มป้อน ขอความอุ่นอ้อมกอดก็กระชับแน่น...ท่อนแขนสอดรองใต้หัวทุยให้ใครอีกคนได้นอนสบาย..ความเจ็บปวดความเมื้อยล้าหายไปเมื่อไอ้ด้วงกว่างลดอาการกระสับกระส่ายแล้วค่อยๆ หายใจเป็นปกติ
.
.
.
ค่ำคืน...ยังคงเป็นค่ำคืน ...
ค่ำคืนยามผสมกับความห่วงหา และความฝันที่เหมือนจะเลือนๆ ลางๆ ไป..
มันกลายเป็นความอ่อนละมุนที่กรุ่นไปด้วยความหวานของหยาดน้ำค้าง...
.
.
.
.
ดั่งนิทานเรื่องเล่า...
เจ้าเงือกน้อยจักกลายเป็นหยดน้ำค้าง แล้วพลันสลายหายไปเมื่อต้องแสงตะวัน ...
.
.
.
ใกล้รุ่งสางใครบ้างคนเพิ่งจะเคลิ้มหลับด้วยความเหนื่อยอ่อน
.
.
.
หากแต่คนที่นอนเต็มอิ่ม กลับผุดขึ้นลุกนั่ง ...
ตั้งสติได้แล้วรีบคว้าเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ วิ่งรี่ออกไปจากห้องโดยแทบจะไม่ได้มองคนที่เพิ่งล้มตัวลงข้างๆ ด้วยซ้ำ...
...
"ด้วงไปไหน!!!?? ไม่สิ!! ไอ้ไกด์ประจำแก่งมันหายไปไหน !!!"จะบ้าตาย !! รัตติกร แทบจะแหกปากตะโกนเรียกไอ้ด้วงกว่างที่เมื่อคืนนอนเพ้อเพราะพิษไข้ แต่ตอนเช้าเสือกหายหัวไปแบบไม่เห็นเงา ...
.
.
.
ยักษ์ตัวใหญ่ที่สวมหัวโขนผู้จัดการแก่งคนใหม่ โกรธจนแทบจะพ่นไฟได้ ..และยิ่งโคตรโกรธเพิ่มเข้าไปอีก...เมื่อเสียงจากที่ไหนสักทีตะโกนตอบมาว่า ..
'คุณด้วงไปเฝ้าเบ็ดชะโด้ ตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำ !!'...'
.
.
.
นั่นล่ะ ....
นางเงือก สลายหายไปเหมือนหยดน้ำค้างต้องแสงแดดที่แผดเผา...หากแต่ รัตติกร เองก็ไม่เคยคิดว่า ไอ้สิ่งที่เฝ้าร้อนใจเป็นห่วงเป็นใยใครบางคนมาตลอดคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน...
.
.
.
...มันจะสลายและเทียบไม่ได้กับแค่ไอ้เรื่องเบ็ดคันเดียว!!!