รุ่นพี่ผม...มัน 'เลว'
...
'...ออกไปแต่เช้าอีรอบนี้ ท่าจะไม่มีแววกลับเข้ามาแล้วล่ะผู้จัดการ' .
.
.
ลุงจ๊ะปอแกเอ่ยลอยๆ กับคนกรุงที่กำช้อนบ้าง กัดช้อนบ้าง กินข้าวได้คำครึ่งคำสายตาดุๆ ก็หันวกกลับไปทางท่าน้ำยามได้ยินเสียงเรือเครื่องแวะมาจอด ..และก็เป็นอย่างที่ลุงจ๊ะปอว่า วันนี้ทั้งวันแม้จะชะเง้อหาแต่รัตติกรก็ไม่เห็นเรือหางยาวของไอ้กะเหรี่ยงขับกลับมาจากวังปลาที่ท้ายเขื่อน
.
.
.
"ไปตามไหมลุง?"
สุดท้ายก็อนรนทนไม่ได้ คุณผู้จัดการคนใหม่กระสับกระส่ายจนถึงขนาดเดินรัดเลาะจากบ้านพักรับรองไปด้อมๆ มองๆ ที่เรือนลุงจ๊ะปอ ใบหน้าดุๆ หงอลงยามเอ่ยปากหาหนทางเอาตัวไกด์กลับมาจากวังปลา ครั้นพอลุงแกบ่ายเบี่ยงอ้างว่าขี้เกียจบ้าง ไกด์โตแล้วบ้าง ไม่ต้องไปนั่งเฝ้าหรอก แถมไอ้ยะข่าก็น่าแป้นแล่นอยู่กับไกด์ด้วยทั้งคน ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะเน่อะ ว่าพอคำพูดบ่นๆ ที่เหมือนไม่เจาะจงของลุงจ๊ะปอพอเอ่ยไปพาดพิงถึง ไอ้ยะข่ากับไกด์ด้วงจากหน้าหงอๆ ผู้จัดการก็ดูจะหน้าขึ้นสีงี่เง่าขึ้นมาทันที จนลุงแกสิต้องรับปากว่าจะพาไปหาเสียเดี๋ยวนั้น และก็เป็นอีกครั้งที่ลุงจ๊ะปอ แกจำใจต้องตัดจากบุหรี่ใบจาก สูดอัดควันขาวเข้าปอด แล้วค่อยเดินนำผู้จัดการเรื่องมากไปทางท่าเรือเครื่อง แถมยังอดเคืองไม่ได้ว่า ผู้จัดการน่ะมันห่วงไกด์เกินไปจนลืมเรื่องหิวเรื่องข้าวปลาไปเสียแล้ว..
'..ดูท่าผีปลามันจะเข้าสิง...'ลุงจ๊ะปอแกอดบ่นไล่หลังไม่ได้ เมื่อมองไอ้อาการกระสับกระส่ายของผู้จัดการคนใหม่ มันชักจะเหมือนปลาติดเบ็ดคุณด้วงเข้าไปซะทุกที..
**
..เรือเครื่องขับเข้ามาจอดที่วังปลา ในเวลาที่อาทิตย์เริ่มอับแสง
แดดสีส้มอมแดงตัดแต้มไปทั่วทั้งฟ้า ลุงจ๊ะปอแกเตรียมจะดับเครื่องเรือแล้วจอดเทียบท่า ถ้าไม่เห็นว่าเป็นไอ้ยะข่าที่วิ่งกระหืดกระหอบตรงออกมาทางทิศที่ไกด์วางเบ็ด
"จ๊ะปอ! ไม่ต้องดับเครื่องรีบกลับแก่งเน้อ!!"
ไอ้ลูกกะเหรี่ยงตะโกนบอกมาแต่ไกล มันกระโดนข้ามโขดหินมาใกล้เรือพอจับหัวเรือได้ก็เหวี่ยงตัวเข้าเรือจ๊ะปอแล้วลงนั่งหน้าตาเฉย
"อ้าว! ผู้จัดการ มาไงล่ะเน้อ? เออดีเนอะ เปลี่ยนกันเลยเน่อะ ผู้จัดการลงเรือไปอยู่เป็นเพื่อนไกด์เลยน่ะ.."
ว่าแล้วก็ลุกเหนี่ยวหัวเรืออีกลำเข้ามาใกล้แล้วออกแรงผลักให้ผู้จัดการคนใหม่ขึ้นเรือที่จอดนิ่งริมท่าไปซะอย่างนั้น กว่ารัตติกรจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เรือเครื่องลำใหญ่ของจ๊ะปอก็ขับพาไอ้ยะข่าห่างออกไปไกลเสียแล้ว ..
เกาะกลางน้ำท้ายเขื่อน..
เรื่องราวมันชักจะเหมือนละครหลังข่าวยังไงๆ อยู่ ..ในตอนที่เดินลากขาพาตัวเองไปหาไกด์บ้าปลา รัตติกรไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นนะ แต่ที่คิดขึ้นมาได้น่ะ มันเรื่มจากตอนที่ ฝนฟ้าเหมือนจะคลุมเกาะทั้งเกาะไว้แล้วพรมเม็ด ..
.
.
.
แสงแดดรำไร ..
กับสภาพของไกด์ที่เสื้อแสงเปียกปอนแนบลู่ไปกับร่างกาย ...
.
.
.
รัตติกร ไม่รู้ว่าตัวเองทำบุญมาด้วยอะไร แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ รู้สึกว่าบุญที่มี มันกำลังส่งผลให้เขาได้ 'กินเบ็ด' อีกครั้ง ..