Part 17

ผมกับพี่พิงขึ้นเรียนหลังจากที่นั่งต่ออีกซักพัก โดยที่เกมส์ยังไม่จบ...ตอนบ่ายอาจารย์ไม่เช็คชื่อและไม่มีการเรียนการสอน..ผมเลยเอาแลคเชอร์ที่จดไว้ขึ้นมาทำความเข้าใจกับพี่พิง...โชคดีตรงที่พี่พิงก็เรียนคณะเดียวกับผมมาก่อน...
“เข้าใจแล้ว...พี่พิงอธิบายเข้าใจง่ายกว่าอาจารย์อีก..”
“เห็นอย่างนี้พี่ก็เคยเป็นอาจารย์ฝึกสอนนะ”
“...ดีจัง สอนซอด้วยน้าครับอาจารย์...”
“ ฮ่าๆๆ ได้เลย ถ้าเข้าใจยากจะตีก้นให้” ผมกับพี่พิงนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งอยู่กับพี่พิงยิ่งรู้สึกว่าชีวิตมีสีสันดี..พี่พิงเล่าเรื่องต่างๆ ให้ได้รับรู้ ตั้งแต่การใช้ชีวิต ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ไปฝึกงานสนุกแค่ไหน....เวลาหมดไปกับเรื่องที่พวกเราคุยกัน..จนกระทั่งบ่ายสามจึงชวนกันกลับบ้าน..กะจะแวะซื้อขนมหน้ามหาลัยฯ ไปฝากบัวด้วย...
“ ซอ!”
“..................” ..หันไปตามเสียงเรียก และพี่พิงที่กำลังจะเปิดประตูรถก็หยุดมองด้วยเหมือนกัน...อาจารย์ทัศนันท์...อาจารย์ที่เคยไปสอนตอนผมอยู่บ้าน...ผมยกมือไหว้อย่างที่เคยทำ.....
“เป็นยังไงบ้าง...ผมถามข่าวคุณกับโซตลอดเลย...สบายดีใช่ไหม..”
“ ครับ ซอสบายดี”
“คุณพูดแล้ว..??”
“ครับ ขอบคุณอาจารย์ที่เป็นห่วงซอ...งั้นจากนี้ฝากตัวด้วยนะครับ..”
“...ได้...ผมรับฝาก...” สีหน้าอาจารย์ดูดีใจที่ได้ยินเสียงผม...ใบหน้าคมฉีกยิ้มกว้างจนผมต้องยิ้มตาม...แววตาที่ทอดมองก็เหมือนตอนที่ไปสอนที่บ้าน แต่ก่อนนี้ผมอาจจะอึดอัด แต่ตอนนี้เหมือนจะชินไปแล้วกับแววตาที่ต้องการสื่อความหมายบางอย่าง..ที่บางครั้งผมก็ไม่ได้อยากรับรู้...
ในที่สุดก็กลับถึงบ้าน ผมเข้าไปหาเจ้าสัวทันทีที่ถึง เพราะบัวบอกว่า เจ้าสัวสั่งไว้...ไม่มีอะไรมากไปกว่าถามไถ่การเรียนวันแรก มีเพื่อนหรือยัง เข้าใจบทเรียนไหม...ผมก็เล่าเรื่องวันนี้ให้ฟังรวมทั้งรสชาติไข่เจียวที่ได้ลิ้มลอง...ต่อจากผมก็เป็นพี่พิงที่ชักแถวกันเข้าไปพบเจ้าสัว...ส่งยิ้มให้พี่พิงก่อนจะแปะมือกันเปลี่ยนตัว....
“...วันนี้บัวทำขนมไว้ค่ะ เดี๋ยวบัวยกมาให้ทานไหมคะคุณน้อง...”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวซอลงไปทานข้างล่างกับพี่พิง...”
“..ดีจังเลยค่ะ คุณน้องมีคุณพิงอยู่บัวก็เบาใจ..” บัวสะบัดกางเกงนักศึกษาของผมที่พึ่งถอด ก่อนจะส่งกางผ้าแพรสีดำให้...เธอดูสบายใจอย่างที่พูดจริง ๆ
“ ยังไงก็ไม่มีใครดีกับซอเท่าบัวหรอก “
“อย่าคิดอย่างนั้นสิคะ คนที่เขาจริงใจจะเสียใจ...บัวน่ะแค่เห็นคุณน้องสบายใจบัวก็ดีใจแล้ว” แต่ถึงยังไงท้ายที่สุดคนที่จะเคียงข้างผมหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นบัว...
ครืดด!! ครืดด!! ครืดด!!
“ ครับผม..” กดรับโทรศัพท์ที่คุณโอฝากไว้ให้ ...ที่ตอนนี้สั่นอยู่บนโต๊ะที่ผมกับพี่พิงกำลังนั่งกินขนมบัวลอยกันอยู่...เบอร์ที่โทรเข้ายังไม่ได้ถูกเมมชื่อ...ใครกันจะรู้เบอร์นี้นอกจาก....
/..ทำอะไรอยู่.../
“ กินขนมครับ” นึกแล้วเชียว...เสียงฝั่งนั้นดูอึกทึก....เหมือนรถวิ่งไปมาอยู่ตลอด...ถ้าเป็นอังกฤษ ตอนนี้ก็คงจะเกือบเช้าแล้ว....
/..ฉันกำลังจะขึ้นเครื่อง.../
“ ครับ...” มองหน้าพี่พิงที่ส่งยิ้มล้อเลียนให้ อะไรกัน...ก็แค่หยุดกินบัวลอยตามมารยาท แล้วก็ใช้มือเขี่ย ๆ ดอกกุหลาบที่อยู่บนโต๊ะเล่นก็เท่านั้นทำไมต้องมาล้อเลียนด้วย...ค้อนให้พี่พิงก่อนจะฟังต่อ....กำลังจะขึ้นเครื่องแสดงว่ากำลังจะกลับหรือจะไปไหน...
/ รอผมอยู่รึเปล่า /
“..........................”
/ …ว่าไง ถ้าผมกลับไปจะรอรับรึเปล่า.../ เสียงทุ้มที่ซักไซ้ทำให้จังหวะหัวใจเต้นผิดปกติขึ้นมาอีกแล้ว...แล้วจะให้ผมตอบยังไง เพราะดูเหมือนว่าอีกคนจะรอฟังคำตอบอยู่...
“ รอ...ก็ทุกคนก็รอครับ...”
/ ผมถามแค่คุณคนเดียว...ภรรยาผมรอผมกลับไปรึเปล่า..ตอบผมสิ../
“...ไม่ใช่...ถ้าจะพูด..แบบนี้ก็แค่นี้ นะครับ...” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ผมก็เผลอเด็ดดอกกุหลาบซะคอพับไปแล้ว...พูดออกมาแบบไม่กระดากเลยรึไง ภรรยา...ยังไงผมก็เป็นผู้ชายนะ...
/ แล้วรอรึเปล่า /
“ ก็บอกไปแล้ว ว่าทุกคนรอ...ก็รวมทั้ง ผม ด้วย” ถามมาแบบเสียงนิ่ง ๆ คล้าย ๆ เริ่มมีอารมณ์เลยตอบแบบกลาง ๆ ...พูดดี ๆ อย่างนี้ก็ดี ไม่อยากให้ต้องมาขู่หรือบังคับอะไร...
/ ก็ดี...ซอ../
“..ครับ...” ทำเสียงอย่างนี้อีกแล้ว...ทำไมเวลาไม่ได้เจอกันต้องมาทำเสียงแปลก ๆ จากตอนที่เห็นหน้ากันด้วย...มันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก และพูดอะไรไม่เป็นไปเลย...
“ ผมอยากกลับไปหาคุณเร็ว ๆ นะ “
ผมยังอึ้งเล็ก ๆ หลังจากที่อีกฝ่ายพูดเสร็จก็วางหูไปไม่บอกกล่าว...ค่อย ๆ วางโทรศัพท์ลงพร้อมกับส่งยิ้มให้พี่พิงที่จ้องดอกกุหลาบที่คอหักอยู่ในแจกันเพราะฝีมือผม
....ผมจะปิดโทรศัพท์แล้ว....
********************************************
เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงอยู่ข้าง ๆ หู ทำให้ผมต้องคว้ามือไปกดปิด...แต่...สิ่งที่สัมผัสได้ไม่ใช่แค่นาฬิกาปลุก...มันเหมือนผิวเนื้อคน...ใช้มือคลำ ๆ ทั้งที่ตาก็ยังไม่ลืม...ทำไมเหมือนนิ้วผมถูกงับ ๆ กัด ๆ และชื้น ๆ ด้วย...
“.....จะคลำอีกนานไหม...”
“.....คุณ..คุณโอ!....”
“ จะไปไหนเล่า..”
“ คือ ขอโทษครับ!..ปละ ปล่อยเถอะ ผมต้องไปเรียน..” ลืมตาทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหู แล้วรีบหันมองด้านขวามือของตัวเอง...มือผมตอนนี้ถูกปากคุณโองับอยู่...รีบดึงออกและเด้งตัวลุกขึ้น แต่ก็ไม่ทันแขนแข็งแรงที่คว้าเอวผมไว้ก่อน....จนต้องใช้มือดันแผงอกกว้างนั่นไว้...คุณโอยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงทำงานอยู่เลย...
“ ไหนว่าจะรอผม กลับมาก็เห็นนอนฝันไปแล้ว..”
“ก็...มันดึกแล้ว..เลยไม่รอ...ผมมีเรียนเช้าครับ ป่านนี้พี่พิงคงจะแต่งตัวเสร็จแล้วแน่ ๆ “ พูดไปก็แกะมือปลากหมึกออก...ถึงจะรู้สึกแปลก ๆ ที่โดนแอบย่องเข้าห้องมาอย่างนี้ก็เถอะ...
“ผมง่วงมากเลย...อย่ามาโกหก วันนี้คุณมีเรียนสิบเอ็ดโมง นี่พึ่งแปดโมงเช้า...นอนอีกนิดนะอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้รึไงครับ...คุณภรรยา..”
“..คุณโอ!..”
“ ก็บอกให้นอนนิ่ง ๆ ไง ก็แค่ให้ผมหลับก่อน...เมื่อคืนปากคุณนุ่มมากเลย...ทำให้ผมนอนไม่หลับ...”
“.....คุณ ทำอะไร!..........” ...ถามออกไปกับคำพูดกำกวม....ทั้งดันหน้าอก ทั้งแกมือออกจากช่วงเอว...แต่ก็ไม่ได้ผลซักทาง...ถอนหายใจ ก่อนจะกรอกตามองแพดาน...ยอมอยู่นิ่ง ๆ ...คนที่พูดหลับตาลงและนิ่งไป....แขนก็ยังกอดเอวผม จมูกโด่งหายใจรดซอกคอผมอยู่....คงจะมาถึงกลางดึก...ถ้าเปิดประตูคอนเน็คที่ก็ถึงห้องตัวเองแล้วแท้ ๆ ยังจะมาแวะห้องผมอีก....แล้วสรรพนามที่เรียกเนี่ย ผมจะห้ามได้ยังไง...ใครมาได้ยินมันคงไม่ดีแน่ ๆ
“.........................”
“.........................” คุณโอนิ่งสนิทไป และลมหายใจก็เริ่มเข้าออกสม่ำเสมอ....ผมหันมองใบหน้าหล่อเหลาของผู้นำ พยัคฆราช คงเป็นครั้งแรกที่ได้มองใกล้ๆ อย่างนี้...ใบหน้าเนียนสะอาด..คิ้วเข้ม ริมฝีปากยังสีสดอยู่แม้จะสูบบุหรี่...กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ได้กลิ่นจากผมนุ่มที่ถูกตกแต่งจากเจลใส่ผมรู้สึกว่ามันหอมดี...
...บ้าไปแล้วสิ...มานอนพิจารณาอะไรบนเตียง...ที่สำคัญ..คนข้าง ๆ นี่ก็หลับไปแล้ว...ผมก็ควรจะลุกขึ้นสิ...
“...................” ค่อย ๆ ขยับแขนแข็งแรงนั้นออกจากเอวตัวเอง...ก่อนจะเอาหมอนข้างมาให้กอดแทน....ห่มผ้าห่มให้อีกนิดนึงก็ได้...
ก๊อกๆๆ
“ คุณน้องคะ เอ่อ..”
“ตื่นขึ้นมาก็เห็นมานอนแล้ว สงสัยจะเดินไม่ถึงห้อง” ผมพูดกับคนที่เปิดประตูเข้ามาหลังจากเคาะแล้ว...
“งั้นคุณน้องไปอาบน้ำเถอะค่ะ...วันนี้คุณพิงจะพาไปเดินห้างก่อนเข้าเรียน...จะพาไปซื้อหนังสือค่ะ”
“ครับ บอกพี่พิงรอซอแป๊บครับ” พี่พิงบอกผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็เลยต้องตื่นเช้า แต่ตื่นมาดันเจอคนนอนดึกอีก...
ผมจัดการตัวเองภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ออกมาก็ยังเห็นร่างสูงนอนหลับอยู่ท่าเดิม...คงจะเพลียไม่น้อยถึงได้หลับสนิทขนาดนี้...ปล่อยให้นอนอยู่นี่ละกัน
“มาแล้วเหรอ..มา ๆ” ...เดินลงมาข้างล่างก็เห็นพี่พิงกำลังจิบกาแฟอยู่กับเจ้าสัว...
“เจ้าสัวตื่นเช้าจังครับ”
“ชินแล้ว...ฉันตื่นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร...แล้วเจ้าเสือล่ะเห็นมั่งไหม..เห็นว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อคืนไม่บอกกล่าวใคร..”
“..คือ...” จะบอกว่ายังไง...ว่านอนอยู่ในห้องผม...
“ บอกครับเจ้าสัว...”
“งั้นเหรอ ฮ่าๆๆ...แล้วตกลงอยู่ไหน...” พี่พิงพูดแล้วมุ่ยปากมาทางผม เจ้าสัวถึงกับหัวเราะแล้วหันมาพูดเหมือนหยอก...ทำอย่างนี้มันก็ยิ่งรู้สึกหน้าร้อน ๆ เข้าไปกันใหญ่...สรุปว่ากำลังรุมแกล้งผมกันอยู่ใช่ไหม...
“..อยู่..ในห้องซอครับ...”
“..งั้นเหรอ...สงสัยจะเข้าห้องผิด ห้องใกล้กันนิเนอะ..” ผมได้แต่ยิ้มแบบไม่เต็มที่ให้เจ้าสัว ผมไม่รู้เลยว่าเจ้าสัวรู้เรื่องของผมกับคุณโอแค่ไหน แล้วถ้ารู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น...จะคิดยังไง..และจะยังเมตตาผมอย่างนี้รึเปล่า...
เสียงประกาศดังเป็นระยะภายในห้างดัง ผมกำลังเลือกหนังสือที่จะใช้เรียน.....พี่พิงเลือกเสร็จแล้วก็ไปยืนอยู่ตรงชั้นหนังสือกีฬา ส่วนผมก็เลือกต่อเป็นพวกอ่านเสริม...จะได้เห็นวิธีหลากหลายนอกจากที่เรียน....
“ สูงจัง “
“.................”
“ มีบันได”
“ขอบคุณครับ” ผมรับหนังสือที่หมายตามาไว้ในมือ หลังจากมีคนใจดียื่นมือไปหยิบให้...ก่อนจะชี้มือไปที่บันไดเล็ก ๆ ด้านขวามือที่ผมยังไม่ได้มอง....
“....................”
“...คุณ นั่นเอง....” ส่งยิ้มให้คนที่ยืนล้วงกระเป๋ามองผมอยู่....เป็นคนเดียวกับที่ให้ผ้าเช็ดหน้าผมตอนนั้น....อีกคนแค่ยิ้มให้น้อย ๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร...ผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรเหมือนกัน...เล่นมายืนจ้องกันอย่างนี้...
“ ....................”
“งั้นผมขอตัวนะครับ..”
“..คุณคงเป็นคนของพยัคฆราชสินะ..”
“.......................” หันมองตามเสียงที่จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา....พยัคฆราช...ผู้ชายคนนี้รู้จักได้ยังไง....
“ ....ซอ...”
“ พี่พิงครับ ซอเลือกหนังสือได้แล้ว “ พี่พิงเข้ามาหา สายตาจ้องมองผู้ชายร่างสูงที่ยังยืนนิ่งอยู่ข้างชั้นหนังสือ....
“ ถ้าเลือกได้ก็ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวสาย”
“ ลงทุนกันจังนะครับ ท่าจะเป็นของสำคัญ”
“ครับ...สำคัญมาก...เพราะถ้าหากเกิดรอยขีดข่วนหรือพวกมดแมงมาตอมให้มัวหมอง...ก็คงต้องฆ่ายกลังครับ….ซอไปเถอะ..”
“กล้าดียังไง!!”
“อย่านะ!!” ผมขยับเข้าไปจับแขนผู้ชายคนนั้นด้วยความตกใจ เพราะจู่ ๆ ก็คว้าข้อมือพี่พิงไปบีบซะแน่น....แต่คนที่ถูกทำร้ายกับยืนนิ่งจ้องตาไม่มีท่าทีว่าจะเจ็บ ...ถ้าเทียบตัวแล้วพี่พิงกับผู้ชายคนนี้ก็คนละไซส์....
“…กล้าเสมอครับ...คุณสเตฟาน ปุญไพรคชสาร...กล้ามากกว่าที่พวกคุณคิด ถ้ายังไม่เลิกเล่นกับไฟ..”
“ พี่พิงครับ…ปล่อยนะไอ้บ้า!!” กลายเป็นผมที่ใจไม่ดี เพราะถึงพี่พิงจะไม่ร้องว่าเจ็บ แต่แขนที่ถูกผู้ชายคนนั้นบีบเป็นรอยน่ากลัวและดูเหมือนจะถูกบีบแน่นขึ้นไปอีก...ผมมองหาคนที่พอจะช่วยได้แต่ตอนนี้ในร้านหนังสือเงียบเหลือเกิน....
หมับ!
ปึก!
“หึ... ฝีมือดีนี่...เฝ้าไว้ดี ๆ นะ ฝากบอกเจ้าสัวของคุณ พร้อมกับผู้นำพยัคฆราชด้วย....ว่าแกงค์คชสารแดง..คิดถึงมาก แล้วว่าง ๆ จะไปเยี่ยม” ในที่สุดแขนพี่พิงก็ถูกปล่อย แต่มือเรียวนั่นกลับยื่นมาคล้ายกับจะแตะต้องตัวผมแทน... แต่ก็ช้ากว่าพี่พิงที่เคลื่อนตัวมายืนขวางผมไว้พร้อมกับปัดมือนั่นออกจนอีกคนเซไป...
“ หึ ๆ ..ถ้าคุณยังตอแยอยู่อย่างนี้ ไม่ช้าไม่นานพยัคฆราชคงได้คิดถึงพวกคุณเหมือนกัน...จะทำอะไรอย่าให้คนอื่นเขาอ่านเกมส์ออกสิ....กะจะบีบหัวใจของพยัคฆราช ด้วยวิธีอย่างนี้.....คุณยังเด็กมาก...จนไม่คิดว่า...เพียงแค่คุณล้ำเข้ามาในเส้นที่ถูกขีดกั้นไว้ คชสารแดงทั้งแกงค์ ก็แหลกเป็นผุยผงแน่....เพราะคนที่บดขยี้พวกคุณไม่ได้มีเพียงพยัคฆราช...หาข้อมูลหน่อยนะครับก่อนจะทำอะไร...แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าพวกคุณมันก็แค่มดแมง หรือไม่จริง”
“แกมัน!!!”
“อย่านะ!!หยุดระรานคนอื่นซักที!! ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร...แต่หยุดซะ...เป็นคนที่คนอื่นเกลียด...มันไม่มีความสุขหรอก.!!.” ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน วิ่งเอาตัวเข้าขวางผู้ชายที่เดินเข้าหาพี่พิง....ก่อนจะพูดตะคอกออกไปเสียงดัง....คนที่เดินหยุดชะงัก... จ้องหน้าผมแล้วนิ่งไป....
“.......................”
“พี่พิง...เจ็บไหมครับ..” ทิ้งให้ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่อย่างนั้น ...ผมฉุดมือพี่พิงให้เดินออกจากร้าน....ข้อมือขาวเป็นรอยเขียวช้ำขึ้นมาอย่างน่ากลัว...
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..ถ้าไม่จำเป็นอย่าห่างพี่นะ”
“ครับ..” ผมไม่รู้ว่าถ้าเกิดสู้กันใครจะชนะ แต่สายตาไม่มีใครยอมใครทั้งคู่....แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เป็นห่วงพี่พิงเหมือนกัน เพราะขนาดตัวที่ต่างกันของทั้งสองคน...
“พี่ซอ!”
“...............”
“พี่ซอจริง ๆ ด้วย!”
“...ซูกัส....” หันมองตามเสียงเรียกก่อนจะมองเห็นคนที่ผมไม่ค่อยอยากจะเห็น....คนที่เข้าไปแทนที่ผม และแย่งทุกอย่างไปแม้กระทั่งความรัก...ผมรู้ว่าซูกัสไม่ผิด...ผมคิดอิจฉาเธอไปเอง...ซูกัสเข้ามาจับแขนผมอย่างดีใจ...
“..พี่ซอ...พูดแล้วจริง ๆ ...แสดงว่าเรื่องที่คุณพ่อเล่าให้ซูกัสฟังก็เป็นความจริงสิคะ!...”
“...เรื่อง อะไร...” ...แต่พอได้ยินเสียงผมพูดเธอก็ค่อย ๆ ปล่อยแล้วพูดถึงคุณพ่อ...ผมใจหายเมื่อสีหน้าเธอเริ่มเป็นจากดีใจเป็นยิ้มเหยียด...แล้วริมฝีปากเคลือบลิปสีสดนั่นก็ค่อย ๆ ระบายยิ้มแล้วตวัดหางตามองผม...อะไรกัน...
“พี่ซอไปอยู่บ้านศัตรู!!เพียงเพราะอยากเอาชนะคุณพ่อ.!.บอกซูกัสสิคะว่าพี่ซอไม่ได้ไปอยู่พยัคฆราชจริงๆ ถ้าใช่ก็เท่ากับหัก
หลังคุณพ่อ หักหลังพวกเราพี่น้อง!”
“ ..ซูกัส หยุดนะ!!..” หักหลังเหรอ.....ตวาดใส่หน้าน้องสาวที่มายืนเสียงดังใส่ผมจนคนแถวนั้นเริ่มมอง....เธอรู้อะไรแค่ไหนกันถึงมีสิทธิมาว่า...ซูกัสเบิกตาเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะทำกริยาอย่างนี้ได้....ผมยอมและเสียสละมากเกินไปจนเคยตัวกันแล้วสินะ...
“...จริง ๆ สินะ..ที่พ่อบอกว่า...พี่ไปนอนให้ท่าผู้นำพยัคฆราชถึงบ้าน กะคั่วทั้งพ่อทั้งลูก!! พี่มันเลว!!”
เพี๊ยะ!!!
“.......................” เสียงฝ่ามือฟาดลงบนแก้มใสของน้องสาวผม....แต่ไม่ใช่ผมกลับเป็นพี่พิงที่ดันผมออก....แววตาจากดวงตาเรียวจ้องมองซูกัสเหมือนกับจะฉีกเนื้อเถือหนังออกมาได้...
“คนที่ใช้คำพูดต่ำ ๆ อย่างคุณ..กรุณาอย่าเอื้อนเอ่ยชื่อของพยัคฆราชให้มัวหมองเลยครับ...”
“กรี๊ดดดดดด!! แกกล้าดียังไงมาตบฉัน แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!! พี่ซอ! พี่กล้าปล่อยให้ไอ้บ้านี่ตบน้องได้ยังไง!...หรือมันเป็นผัวพี่อีกคน!!”
เพี๊ยะ!!!
“หุบปากซะ!...แล้วออกไปจากตรงนี้...เธอควรจะรู้อะไรให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะมาชี้หน้าด่าคนอื่น...ทำตัวให้สูงกว่าคนอื่นเขาถึงจะว่าเขาได้...เป็นลูกคนเลว...ก็ไม่จำเป็นต้องเลวตาม!!...ฝากบอกคุณพ่อด้วยนะ...ว่าพี่เกลียดคุณพ่อมาก!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
ผมเดินออกมาไม่สนใจคนที่ยืนกุมแก้มทั้งสองข้างของตัวเอง ข้างนึงจากมือพี่พิง และอีกข้างจากมือผมเอง....วันนี้มันวันอะไร...ทำไมเจอแต่คนที่จ้องจะทำร้ายความรู้สึก...และทำร้ายกัน...
“..ซอ...ไม่เป็นอะไรนะ....”
“ ไม่..ฮึก..ซอไม่เป็น ไร...ฮึก ฮืออ ไม่ เป็นอะไร!!”
พี่พิงกอดผมไว้....หลังจากที่มาถึงรถแล้ว...ความรู้สึกมันอัดแน่น...ที่ร้องไห้คราวนี้แตกต่างจากทุกครั้ง...ที่ผ่านมาผมร้องไห้เพราะความเสียใจที่คุณพ่อไม่รัก และร้องไห้กับโชคชะตาตัวเอง...แต่ครั้งนี้ร้องไห้เพราะความคับแค้นที่อยู่ในอก...ร้องไห้เพราะเจ็บใจ...และความเกลียดชังที่มันเริ่มจะท่วมท้นขึ้นมา....ผมจะเอาน้ำตาพวกนี้...ทำให้ตัวเองเข้มแข็งและยืนอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น...จะเลิกกลัว...นับจากนี้...
***

มาอีกตอนแล้วค่ะ...ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้...หนทางยังมีอีกมากมายให้น้องซอให้ฝ่าฟัน อย่างน้อย ๆ บรรยากาศระหว่างหนูซอกับพี่โอก็ดีขึ้นแล้วใช่ไหม...ยังไงซะก็ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยค่ะ