The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 444010 ครั้ง)

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
มาสั้นแต่เคลียร์นิ
^^

ออฟไลน์ ~tai~

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ยังรอพระเอกของเฟียตอยู่น้า  ลุ้นมากเลยว่าจะเป็นใคร

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเเทนเป็นพระเอกนิหนูปันปันเศร้าเลยนะ ฮ่าๆ แต่ไม่ใช่แน่นอนน

แทนนิชอบสกิลชิฟเนอะ ปันมันหึงแล้วนั่น ไปกอดเฟี๊ยตได้ไง :katai1:

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ปันตื่นมาเจอฉากเด็ดหรือเปล่า? หรือที่เรียกแค่ตกใจที่แก้ปัญหาไม่ต้องลอยค้างอยู่กลางน้ำแล้วเฉยๆ

ปอลอ.ถ้าพระเอกยังไม่มา จะเชียร์แทนเฟี๊ยตแล้วนะ แทนทำฟินหลายรอบละ =.,=

ออฟไลน์ jungjiyoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ไม่เบื่อน้าาาาา เราชอบสามพี เฮ้ยไม่ใช่!
เราขอบฟิคจิตละเอียด
แต่เอาจริงๆ ก็ ไม่อยากให้มีรักสามเส้าเท่าไหรนะ
เพราะปันดูเป็นคนดีแะ สงสารแข่เลย ถ้าจะไม่ได้สมหวังกับแทน
แอบอินไปแล้วตอนนี้ ว่าถ้าต้องเล่นเกมนี้เอง จะตามหา อ.ยอ รายการวิทย์ยับประยุทธมาร่วมทีม ทั่งชีวะ ฟิสิกส์ เคมี ต้องให้หมดเลย
เทพไปไหนนนนเนี่ย เฟี๊ยตคุง

Wednesday

  • บุคคลทั่วไป
หงะ...ขอพระเอกเถอะนะคนเขียน

แทนยกให้ปันเหอะ เนอะๆ 

:mew2:

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เอาใจช่วยนะคับ

สู้ๆ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เยส...ผ่านไปอีกขั้นแล้ว

แต่เหมือนจะค่อยๆ มีประเด็นระหว่างปันกับเฟี๊ยตเลยอ่ะ
ไม่อยากให้ทะเลาะกันเลย มาเจอมุกเรา 3 คนนี่ไม่ไหวนะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
มาสั้นก็ดีกว่าไม่มา ถึงใจวิหารกันแล้วดีใจจริง จะมีอะไรรออยู่นะ

ออฟไลน์ keniji01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: สู้ๆๆๆ  ให้กำลังใจครับ จินตนาการสำคัญที่สุด ทำตามความคิดที่ตั้งใจไว้ อย่าปล่อยให้อะไรหรืออิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมมาเปลี่ยนแปลงความฝันที่เรามี อย่ากลัวอย่าท้อที่จะเดินหน้าต่อไปครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ไม่เบื่อค่ะ ไม่เบื่อ
ติดตามต่อแน่นอน
(อาจหายบ้างช่วงสอบ555)

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :katai5: :katai5: :katai5: สนุก ๆๆๆ  ไม่เบื่อ ๆๆๆ

ออฟไลน์ hotoil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แทนเอาแล้วไง เฟี๊ยตซวยอีกแล้วว
เฟี๊ยตนี่ฉลาดจังบอกตามตรง คนแต่งหาข้อมูลนานไหมค่ะก่อนจะแต่งอ่ะ
เรื่องนี้ถ้ายาวแต่มีเรื่องให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด จะเบื่อทำไมละคะ สนุกดีออกเราว่า
แล้วแทนกับเฟี๊ยตจะอธิบายยังไง ปันอย่าเพิ่งโกรธฟังกันก่อน..

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เฟี๊ยตเก่งตลอดๆ
ว่าแต่ปันจะเกิดอาการหึงขึ้นหน้าป่าวน้ออ หรือจะเนียนเป็นตกใจว่าถุงลอยขึ้นมาได้ไง

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ไม่เบื่อหรอก จะยาวจะสั้นก็ยังมีให้อ่าน รอได้เสมอจ้า

ปันหึงอีกแล้ว

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆในที่สุดก็ออกได้แล้ว มั่ง555

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 58 Doors

   “อ๊าว ปัน ตื่นแล้วหรอ” เฟี๊ยตหันไปถามกับต้นเสียงนั้นในทันที พร้อมใช้มือทั้งสองค่อยๆ แกะตัวเองออกจากอ้อมกอดของเพื่อนชาย เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าทำไม แต่เขาแค่รู้สึกว่าการแสดงความสนิทสนมกับแทนเกินไปต่อหน้าปันนั้น ดูจะเป็นสิ่งไม่ค่อยสมควร

   “อืม” เสียงแปร่งๆ จากชายหนุ่มผิวขาวดังออกมาอย่างไม่ดังนัก น้ำเสียงนั่นดูเพี้ยนไปจากปรกติเล็กน้อย แต่เฟี๊ยตก็ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก

   “เฮ้ยย ปัน ดูดิ พวกเรารอดแล้วเว้ย ฮ่าฮ่าฮ่า เพราะเฟี๊ยตแท้ๆ เลย เฟี๊ยตโคตรเก่งอะ ฮ่าฮ่าฮ่า” แทนวิ่งเข้าไปหาเพื่อนผิวขาวของตน ก่อนจะจับต้นแขนเขย่าไปมาอย่างอารมณ์ดีอยู่อย่างนั้น

   “อืม” คำแปร่งๆ สั้นๆ คำเดิมหลุดออกมาจากปากของชายผู้นั้น ปันเดินหันหลังจากแทนไปเงียบๆ ก่อนจะแตะเข้าที่ผนังถุงลำเลียงนั้น และทันใดนั้นเอง ผนังของพาหนะจำเป็นของพวกเขาก็ปริขาดออกจากกัน แล้วจึงแผ่ตัวออกไปปกคลุมพื้นที่บริเวณผิวน้ำนั้นจนสนิท เปลี่ยนสภาพกลายลักษณะเป็นพื้นที่ให้เหยียบย้ำอยู่เหนือของเหลวนั้น ปันค่อยๆ ก้าวออกจากบริเวณที่เคยเป็นผืนน้ำอย่างช้าๆ จนมายืนอยู่บนส่วนของพื้นดิน เมื่อเฟี๊ยตและแทนเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามเพื่อนร่วมทีมไปอย่างช้าๆ จนไปยืนเคียงข้างกันอยู่ตรงใจกลางห้องโถงกว้างนั้นนั่นเอง

   ทีมมายาทั้งสามกำลังยืนอยู่บริเวณห้องโถงขนาดใหญ่ราวกับเป็นห้องประชุมของโรงแรมขนาดยักษ์อย่างใดอย่างนั้น พื้นผิวของมันประดิษฐ์ขึ้นด้วยวัสดุสีน้ำตาลเข้มราวกับนำเปลือกไม้มาประติดประต่อกันจนกลายเป็นสถานที่ดังกล่าว เมื่อกวาดตามองจนรอบทิศก็จะพบว่า ห้องดังกล่าวเหมือนเป็นทางเชื่อมส่วนกลางนำไปสู่เส้นทางต่างๆ มากมาย ทางเชื่อมที่เป็นราวกับประตูเล็กๆ ที่จะพาตัวเขาไปยังหนทางต่างๆ นั้นเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด ห้องนี้ปรากฏอยู่ในแผนที่ที่ไบเบิ้ลเคยแสดงให้เขาดูแล้ว เขายังจำมันได้ดีว่าที่นี่เป็นหนทางที่จะพาไปสู่ห้องลับได้ แต่เขาเองก็ไม่เคยจินตนาการว่ามันใหญ่โตมโหฬารขนาดนี้ มันวิจิตรบรรจงอย่างด้วยถูกประดิดประดอยไว้โดยธรรมชาติ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เฟี๊ยตเผลอซึบซับความสวยงามของสถานที่แห่งนั้นอยู่สักพักหนึ่งทั้งๆ ที่เขาเองก็ยังไม่รู้ตัว


   “อ๊าว ปันจะไปไหน” แทนเอ่ยเสียงดังขึ้นอย่างงงๆ เมื่อปันเดินออกจากบริเวณที่ยืนอยู่ไปยังด้านซ้ายมือฝั่งหนึ่งของห้องโดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น   

   “จะไปสำรวจสถานที่ จะให้ยืนดูเฉยๆ แล้วประตูมันวิ่งเข้ามาให้ดูรึไง” ปันตอบด้วยเสียงห้วนปนฉุน พร้อมก้าวเท้ายาวโดยไม่หันหาแม้แต่นิดเดียว

   “เฮ้ยย ไปด้วยดิ ไม่ชวนกันเลย” แทนพูดพร้อมขยับก้าวจะเดินตามไป ในขณะที่เฟี๊ยตก็กำลังจะตัดสินใจเดินไปในทิศทางนั้นด้วยเช่นกัน

   “จะมาดูตำแหน่งเดียวกันทำไมวะ ห้องตั้งกว้างขวาง แบ่งๆ กันไปดูดิ ไม่งั้นวันนี้จะหาทางไปต่อกันเจอไหม” มาถึงตอนนี้ เฟี๊ยตพูดได้เต็มปากเลยว่าปันนั้นมีอารมณ์ขุ่นมัวอย่างมากจนสังเกตได้ แต่ตัวเขาก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าความไม่พอใจเหล่านั้นมีต้นสายปลายเหตุมาจากที่ใด ชายหนุ่มหันไปมองหน้าแทนอย่างขอความคิดเห็นจากเพื่อนอีกคน แทนก็ได้แต่พยักเพยิดหน้าให้ตามใจปันในเวลานี้ไปก่อน กระแสน้ำนั่นดูจะไหลแรงขึ้นทุกที จะให้ใครสักคนเอาเรือไปขวางตอนนี้ก็คงจะไม่ดีนัก

   เฟี๊ยตหันไปมองหน้าแทนอย่างปรึกษาอยู่ในที ก่อนจะตัดสินใจแยกย้ายกันไปตามที่ปันต้องการ โดยที่เฟี๊ยตเลือกเดินฉีกออกมาทางฝั่งขวา ส่วนแทนเดินย้อนกลับไปทางด้านหลัง พวกเขาทั้งสามตกลงกันว่าจะสำรวจไล่ไปทางทวนเข็มนาฬิการอบเจ้าห้องโถงทรงกลมนั้น และเมื่อวนมาถึงจุดที่เพื่อนอีกคนเริ่มสำรวจเมื่อไหร่ ก็จะกลับมาเจอกันบริเวณใจกลางห้องดังเดิม

   เฟี๊ยตเดินไปยังบริเวณที่ตัวเองมุ่งหมายตาไว้นั้น เขารับผิดชอบหน้าที่ในการตรวจสอบซีกขวาของห้องไล่ไปตามผนังจนไปจรดบริเวณที่ปันกำลังเริ่มตรวจสอบอยู่ในเวลานี้ และยิ่งเขาเดินเข้าใกล้ผนังของสิ่งปลูกสร้างนั่นมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบว่าภาพที่เคยมองเห็นจากระยะไกลนั้น สวยงามขึ้นหลายเท่านักเมื่อมองจากระยะใกล้ๆ เช่นนี้ ลักษณะที่ดูคล้ายว่าเป็นเปลือกไม้ตามธรรมชาติจริงๆ นั้น เมื่อสังเกตดีๆ แล้วจะพบว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์มากกว่า ผนังนั่นถูกละเลงไว้ด้วยสีน้ำตาลเข้มแซมไปด้วยรอยแตกแกะสลักลายราวกับลำต้นของต้นไม้จริงๆ ฉันใดฉันนั้น พื้นผิวถูกปกคลุมด้วยสิ่งที่ถูกบรรจงสร้างให้มีลักษณะคล้ายเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวไปตามทางนั่น ราวกับว่ามันเป็นสถานที่ที่เคยเป็นอารยธรรมที่แสนยิ่งใหญ่ซึ่งล่มสลายลงท่ามกลางการโอบกอดของธรรมชาติ และปล่อยให้ป่าเขาลำเนาไพรได้กลืนกินสถาปัตยกรรมนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับพวกมันอย่างไม่สามารถแยกขาดออกจากกันได้

   ผนังของห้องโถงกว้างนั่นประกอบไปด้วยประตูจำนวนมหาศาลเรียงต่อกันไปจนสุดลูกหูลูกตา ลักษณะของมันเหมือนกับงานศิลปะเช่นเดียวกับผนังกำแพงและลวดลายเหล่านั้น เหนือขึ้นไปจากประตูดังกล่าวจะมีแผ่นป้ายไม้เล็กๆ ประดับไว้อยู่เหนือทุกบานประตู มันแสดงถึงรูปส่วนต่างๆ ของต้นไม้นั้นนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น ผล ดอก หรือแม้กระทั่งราก โดยหนึ่งบานประตูจะถูกกำหนดไว้ด้วยหนึ่งรูปเท่านั้น โดยจะไล่ลักษณะแตกต่างกันออกไป เฟี๊ยตค่อยๆ เดินไปตามทิศทวนเข็มนาฬิกาดังที่ได้ตกลงกันไว้ สายตาก็คอยมองสำรวจไปถึงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไปทุกบานประตู ซึ่งนั่นก็คือแผ่นป้ายเหนือแต่ละบานประตูนั่นเอง จนกระทั่งขาของเขาก้าวมาจนถึงบริเวณที่เฟี๊ยตมั่นใจว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจของเพื่อนผิวขาวของตน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจหันหลังกลับและเดินไปยังจุดนัดพบบริเวณใจกลางห้องโถงนั่นตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนแล้ว


   “ปัน เป็นไงบ้าง เจออะไรน่าสนใจหรือเปล่า” เฟี๊ยตพูดพร้อมหย่อนตัวลงข้างๆ เพื่อนของตน ในขณะที่แทนในเวลานี้ยังเดินสำรวจอยู่ริมผนังห้องอีกฝั่งหนึ่ง

   “ไม่หนิ” ปันตอบขึ้นโดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อย มือคู่นั่นมัวแต่ใช้ผ้าสะอาดขัดไพลินซึ่งเป็นอัญมณีที่ปลายคทาคู่กายอย่างขะมักเขม้น

   “ปันคิดๆ ไว้ยังว่าพวกเราจะเอายังไงต่อไปดี” เฟี๊ยตถามขึ้นเป็นเชิงปรึกษา

   “ปันไม่รู้หรอก หึ” ชายหนุ่มผิวขาวยังคงตอบในลักษณะเดิมอย่างนั้น


   “ปัน เฟี๊ยตถามตรงๆ นะ โกรธอะไรเฟี๊ยตหรือเปล่า มีอะไรพูดกันตรงๆ ได้นะ” เขาเอ่ยถามขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้ ในตอนแรกเขาไม่มั่นใจว่าปันกำลังไม่พอใจใครกันแน่ แต่จากการพูดคุยที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ เฟี๊ยตเริ่มคิดว่าใครคนนั้นที่ว่าน่าจะเป็นตัวเขานี่เองแหละ

   ชายหนุ่มผิวขาวหันมามองหน้าเขาเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มต้นพูดคุยกัน ในตอนแรก เฟี๊ยตคาดว่าจะได้เห็นสายตาของความโมโหอยู่บนใบหน้านั้น หากแต่เปล่าเลย ดวงตาคู่ตรงหน้าของเขานี่ฉายชัดไปด้วยความเสียใจปนน้อยใจอย่างที่เขาเองก็บรรยายออกมาไม่ถูก เขารู้ได้เพียงแต่ว่า เพื่อนผิวขาวตรงหน้าเขากำลังถูกความรู้สึกไม่ดีบางอย่างเกาะกินใจดวงนั้นอยู่ ปันทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกมาหลายต่อหลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอด ชายหนุ่มก็ตัดสินใจกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไปจนหมด ทิ้งไว้เพียงแต่สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆ มากมายที่ส่งมาให้เขา ซึ่งเฟี๊ยตเองก็ยากจะตีความหมายออกมาได้

   “ไม่มีอะไรหรอกเฟี๊ยต เรามันบ้าไปเอง ถ้าทำอะไรให้เฟี๊ยตไม่พอใจก็ขอโทษด้วยนะ เราไม่ได้ตั้งใจ เราจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น” ปันพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ขัดกับความหมองเศร้าที่ส่งมาจากหน้าต่างของหัวใจอย่างชัดเจน แล้วจึงหันกลับไปก้มหน้านิ่งอีกครั้ง เมื่อเพื่อนคนสุดท้ายของทีมเดินกลับมาครบองค์ประชุมในที่สุด


   “เราสงสัยประตูอยู่บานหนึ่งตรงฝั่งที่เราสำรวจ อยากให้ทุกคนไปช่วยกันดูหน่อย” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง หลังจากที่เริ่มปรึกษากันถึงหนทางต่อไป เขามีคำตอบอยู่ในใจมาตั้งแต่เห็นแผนที่จากไบเบิ้ลเป็นครั้งแรกแล้ว หากแต่มันก็เป็นเพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น เขายังต้องทำการพิสูจน์มันให้ได้

   “แทนกับเฟี๊ยตไปเถอะ เราขอนั่งพักตรงนี้แปบนึง เดี๋ยวเราเตรียมพวกอาหารไว้ให้ ยังไงพวกเราก็น่าจะต้องพักที่นี่คืนนี้อยู่แล้ว ไปกันเถอะ เดี๋ยวเรารอตรงนี้” ปันเอ่ยออกมาทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าไม่สบตาใครอยู่อย่างนั้น ก่อนที่มือบางนั่นจะหยิบสมุดการ์ดขึ้นมาเปิดไปเรื่อยๆ ราวกับว่ายังไม่ต้องการตอบคำถามใครในเวลานี้

   “โอเค ตามนี้ละกัน ของเราขอจานยักษ์ๆ เลยนะ วันนี้เหนื่อยมาก เดี๋ยวกลับมา” แทนลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยปากบอกกับเพื่อนสนิทอย่างไม่ต้องการจะขัดความต้องการของเพื่อนในเวลานี้ แล้วจึงพยักหน้าให้เฟี๊ยตหนึ่งครั้ง เฟี๊ยตซึ่งในเวลานั้นก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นจึงลุกขึ้นเดินนำแทนไปแต่โดยดี

   ชั่วเวลาสักพักหนึ่งที่เพื่อนทั้งสองลุกออกไปแล้ว ปันก็ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด ตัวเขาเองรู้ดีว่าการที่ตนอารมณ์ไม่ดีนั้นช่างเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลสิ้นดี เรื่องแบบนี้ไม่มีใครผิดสักคน หรือหากจะมีสักคนที่ผิด คงจะมีแต่เขาคนเดียว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะตัดสินใจไล่ความยุ่งเหยิงในหัวนั้นทิ้ง ก่อนจะเริ่มจัดแจงเรื่องอาหารเย็นให้เพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน


   “เฟี๊ยต ระวัง!” เสียงของเพื่อนชายที่แสนจะคุ้นเคยของปันดังลั่นขึ้นถัดออกไปบริเวณที่เฟี๊ยตและแทนเดินมุ่งหน้าไปนั้น เมื่อปันหันไป ก็พบว่าประตูบานหนึ่งเปิดออกกว้าง โดยมีแทนตะโกนลั่นอย่างเป็นห่วงเพื่อนใหม่อีกคนที่หายไปจากสายตาแล้วในเวลานี้ เพียงชั่วอึดใจหนึ่ง ปันก็เห็นว่าเพื่อนสนิทของตนตัดสินใจกระโดดพุ่งเข้าไปในประตูนั้น ก่อนที่มันจะกระแทกปิดเสียงดังสนั่นลั่นห้องโถงไปหมด ในวินาทีนั้นเอง ปันตัดสินใจทิ้งของทุกอย่าง แล้ววิ่งอย่างเร็วที่สุดไปยังประตูเจ้าปัญหาบานนั้น และเมื่อไปถึง เขาก็พบว่าลูกบิดประตูที่ควรจะมีอยู่เหมือนกับประตูบานอื่นๆ นั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว ปันใช้มือทุบประตูนั่นอย่างบ้าคลั่ง จิตใจตอนนี้เขาว้าวุ่นและร้อนรนไปด้วยความกังวลในสวัสดิภาพของเพื่อนทั้งสองคน และเมื่อบวกกับความรู้สึกในความไร้เหตุผลของตัวเองที่ผ่านมาแล้ว จิตใจของเขาในเวลานี้ราวกับมีไฟสุมไว้จนแทบควบคุมสติไว้ไม่ได้ เขาทุบประตูนั่นอย่างเกรี้ยวกราด พลางตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองคนจนเสียงแหบแห้งไปหมด ทั้งๆ ในใจเขาก็รู้ตัวว่ามันไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรเลย
   

“ผู้เล่น PharmaPhiat ใช้การ์ด Telephone (โทรศัพท์) เพื่อติดต่อกับท่าน ท่านจะรับสายเพื่อเชื่อมต่อการสื่อสารหรือไม่”

   “รับ!”

   “ปัน นี่แทนนะ ปันใจเย็นๆ นะ เรื่องราวทุกอย่างปรกติดี แค่เรากับเฟี๊ยตติดเข้ามาอยู่ในห้องลับของวิหารแล้ว ปันใจเย็นๆ นะ ตอนนี้ประตูมันปิดสนิท พวกเราหาทางเปิดจากข้างในไม่ได้เลย แต่ข้างในนี่มีกระจกหลายๆ บานเรียงซ้อนกันไปมาเหมือนกลไกการใช้แสงเหมือนในปิรามิดเลย ปัน พวกเราคิดว่าพรุ่งนี้เช้า ถ้ามีแสงลอดเข้ามาจากช่องว่างข้างบน เราจะต้องเปิดประตูนี้ได้แน่นอน คืนนี้ปันนอนในโถงนั่นคนเดียวก่อนนะ เดี๋ยวเรากับเฟี๊ยตอยู่ในห้องนี้ไปก่อน พอรุ่งเช้าวันพรุ่งนี้ ค่อยหาทางเปิดประตูเข้ามาข้างในนี่ด้วยกัน ปันโอเคไหม?”


จากผู้แต่ง : ตอนนี้เกือบไม่ได้มาลงแล้วครับ แต่งเสร็จตอนบ่ายสาม ฉิวเฉียดเลย เลยได้เอาตอนใหม่มาลงให้ฮะ

ทำไมแต่งๆ ไปแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองเร่งตัวเองให้ตัดตอนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ห้าห้า เห้อ สับสนในตัวเอง ห้าห้า

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ติดคอมเมนท์ไว้เหมือนเดิมนะครับ

ปั่นชีทมือหงิก

ประเด็นคือ น้องขอแคนเซิลเนื้อหาบทที่ทำชีทจบแล้ว เพราะไม่ออกสอบ คำถามคือ ทำไมน้องไม่แคนเซิลบทที่ยังไม่ทำชีทค๊าบบ ฮืออออออ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
สงสารปัน หลับไม่ลงแน่คืนนี้ ลมเพชรหึงมันป่วนในอก :katai1:


ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ถามว่าปันโอเคไหม.. ไม่เลย.. ไม่สักนิดเลย "อื้ม.. เราโอเค แค่นี้นะ" น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยตอบกลับไปก่อนวางสายจากการ์ด ก่อนน้ำตาจะรื้นขึ้นมาด้วยอารมณ์สับสน โกรธ และไม่เข้าใจ ทำไมสองคนนั่นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเลยนะ ทำไมไม่ใช่เขาที่ต้องติดอยู่กับ แทน.. เทียวถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ตนไม่ใช่หรือ ที่ไม่กล้าพูดไป

//จิ้นตอนถัดไป แล้วก็รู้ละว่าตัวเองเพ้อขนาดไหน ฮ่าๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
แทนกับเฟี๊ยตค้างคืนกันสองต่อสอง
อร้ายยยย~ แค่จิ้นก็ฟินแล้วอ่ะ >///<
ปันก็อย่านอยด์ไปเลยนะ เดี๋ยวให้เฟี๊ยตคู่ด้วย สามพีไปเลย 555+

ปอลอ.เป็นกำลังใจให้จ้า รอตอนต่อไป ^^

ออฟไลน์ jungjiyoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชั้นว่าแร้นนนนนนนน //ตบเข่าฉาด
สงสารปันอ้ะ ตอนนี้คงรู้สึกแย่ไปทุกเรื่อง
แต่เราเชื่อในเฟี๊ยตนะว่าจะต้องมีทางออกที่ดี
เฮ้อออออออ
ว่าแต่ว่า ใกล้เวลาตื่นแล้วสินะ
ถ้าออกไปเจอกันในโลกจริงคงรู้สึกแปลกๆน่าดู
ตอนนี้เขียนเนียนจนนึกภาพตามว่าเค้าคงสร้างฉาก ฉาบปูน
้วก็นึกได้ว่าเฮ้ยยย นี่มันเวอร์ช่วลเรียลิตี้นี่หว่า
แต่วววววววว

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
อุตะ .......




ซวยแล้วจ้าาาาาา


เราว่าปันเองก็คิดมากไป ทั้งๆที่ ทั้งแทนและเฟี๊ยตไม่ได้คิดอะไร เนอะ




ยังไงเฟี๊ยตก็รักเรา (โดนพี่คนเขียนถีบ)


55555555



ยิ่งผิดใจกัน ยิ่งจะทำให้การเดินทางลำบากขึ้นเรื่อยๆเเน่นอน .....



สงสารใครดี ?!?!



สุดท้ายก็ สู้ๆนะพี่คนเขียน ถึงจะไม่เข้าทุกวัน แต่สัญญาว่าจะอ่านทุกตอนและเม้นเท่าที่ทำได้เล้ยยยยยยย

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
น้องเฟี๊ยตก็ฉลาดเหมือนเดิม น่ารัก น่าฟัดที่ซู๊ดดด >//////////<

สงสารน้องปันอ่ะ T^T
อย่าบอกนะพระเอกเป็นแทน ไม่เอาได้มั๊ย สงสารน้องปัน เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ

เข้ามาอ่าน สี่ตอนรวดเลย ขอโทษนะค่ะ หายไปนาน เรียนหนักเจ้า

รอตอนต่อไปนะค่ะ ขนาดอ่าน 4 ตอน ยังไม่หายคิดถึงเลยอ่ะ สนุกเหมือนเดิม ^  ^
อย่าคิดมากนะค่ะ มีคนชื่นชมผลงานนักเขียนเยอะแยะเลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
สงสารปันปัน จัง โดนกีดกันตลอดเวลา คนเขียนนิอวยแทนกับเฟี๊ยตบ่อยไปไหมมมมม  ไหนจะกอดไหนจะคำชม ไหนจะติดอยู่ด้วยกันสองต่อสองอีก แล้วไหนจะตอนแทนแก้ผ้าอีก (อันนี้ปันก็อยู่ด้วยแต่ถ้าเฟี๊ยตเลือกมาหาแทนก่อนนิก็ไม่แน่นะ ฮ๋าๆ)เชอะๆๆๆๆๆ
 :z10:

kingdaemon

  • บุคคลทั่วไป
สงสารปันจังเบย :sad4:

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
ปันอย่าคิดมากนะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เฟี๊ยต-แทน ติดห้องลับซะแล้ว หาทางอกมาให้ได้นะ

ปันเองก็ใจร่มๆเข้าไว้ แต่ว่าทางที่ดีควรจะพูดอะไรออกมาบ้างนะ

ไม่ใช่เก็บไว้แล้วคิดเองคนเดียว เฮ้อ

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จิ้มๆ
ติดไว้ก่อนนะค่ะ เดี๋ยวกลับมาอ่าน ขอลุยสอบปลายภาคก่อนนะค่ะ
#คุณคนเขียนสู้ๆนะค่ะ วันนี้ถึงแม้จะไม่ได้อ่านแต่ก็ยังพกกำลังใจมาให้ค่ะ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 59 Unintentionally

 

            “ประตูนี้แหละ ที่เราคิดว่าน่าจะเป็นหนทางไปสู่ห้องลับที่พวกเราตามหา” ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายนาทีก่อน เฟี๊ยตพูดประโยคดังกล่าวเมื่อเขาและทีมบู๊ประจำกลุ่มได้มายืนอยู่หน้าประตูบานหนึ่ง

 

            “แน่ใจนะ” แทนเอ่ยคำดังกล่าวเชิงรำพึงมากกว่าจะต้องการคำตอบนั้นจริงๆ สายตาของหนุ่มแทนกวาดไปทั่วบานประตูดังกล่าว ซึ่งมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากประตูบานอื่นแต่อย่างใด

 

            “จุดสำคัญมันอยู่ที่นี่” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นพร้อมชี้มือไปยังป้ายแกะสลักที่อยู่เหนือประตูบานนั้น มันเป็นรูปของอวัยวะส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี “ดอกไม้” นั่นเอง

 

            “ดอกไม้ แปลกแฮะ ฝั่งเราไม่เห็นมีสักประตูเลย” แทนเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังคงจับจ้องไปที่ป้ายประตูดังกล่าวอย่างครุ่นคิด

 

            “ไม่แปลกหรอกแทน ถ้าทายไม่ผิด ประตูที่ประดับไว้ด้วยสัญลักษณ์ดอกไม้นี่น่าจะมีแค่ประตูเดียวในประตูทั้งหมดที่อยู่ในห้องโถงนี่”

 

            “ทำไมต้องดอกไม้หรอเฟี๊ยต” แทนเอ่ยถามอย่างเคร่งขรึม บุคลิกของชายหนุ่มในเวลานี้สลัดภาพของเด็กขี้เล่นออกไปอย่างสิ้นเชิง

 

 

“ณ ตำแหน่ง   ผิดแผกไป   ไกลธรรมชาติ
ความผิดพลาด   ปกปิดไว้   ให้หวงแหน
วิศิษฏ์สิ่ง   สถิตไว้   ในเขตแดน
เสาวภาคย์ดั่ง   เมืองแม้น   แมนบุรินทร์”

           

 

            “ดอกไม้เกี่ยวข้องกับกลอนบทนี้หรอเฟี๊ยต เราไม่เห็นเข้าใจเลย” แทนเอ่ยถามกลับเมื่อเฟี๊ยตพูดถึงบทกลอนดังกล่าวขึ้นมาโดยไม่มีคำอธิบายใดเพิ่มเติมทั้งสิ้น

 

            “ดอกไม้ไงแทน ดอกไม้ถือเป็นของที่ผิดไปจากธรรมชาติของวิหารแห่งนี้” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ

 

            “ทำไมหละเฟี๊ยต ต้นไม้มันก็มีดอกไม้เป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วไม่ใช่หรอ หรือดอกไม้ที่แปะอยู่ตรงประตูนี่รูปร่างมันผิดปรกติไป” แทนยังคงถามด้วยความไม่เข้าใจ

 

            “ต้นสนเป็นพืชตระกูลไร้ดอกหนะ แทน!”

 

 

            “แทนคิดว่าไง” เฟี๊ยตหันไปถามแทนอย่างต้องการความคิดเห็น หลังจากที่ชายหนุ่มเสนอข้อสันนิษฐานของตนไปแล้ว

 

            “ชัวร์!” คำตอบสั้นๆ ง่ายๆ ดังออกมาจากปากของชายหนุ่มผิวเข้มคนนั้น ไม่ต้องอะไรมากเลย แค่รอยยิ้มที่แสดงความมั่นใจในตัวเขา เท่านั้นก็เพียงพอ

 

            “ลองเข้าไปดูกันเลยไหม ชักจะตื่นเต้นเสียแล้ว” แทนพูดพร้อมกับถูมือไปมาราวกับเด็กตัวเล็กๆ ที่คันไม้คันมืออย่างเล่นของเล่นใหม่อย่างใดอย่างนั้น

 

            “รอปันก่อนดีกว่า” เฟี๊ยตพูดขึ้นเพราะรู้สึกไม่มั่นใจว่าการเปิดประตูนี่โดยที่ปันไม่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยจะเป็นการเพิ่มเชื้อไฟให้กองเพลิงนั่นอีกหรือเปล่า

 

            “เอางั้นก็ได้” แทนยักไหล่ขึ้นอย่างง่ายๆ ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อที่จะกลับไปยังบริเวณที่ปันยืนอยู่นั้น

 

            “แปบนึงนะแทน ขอดูอะไรอีกนิด” เฟี๊ยตพูดพร้อมกับเดินคืบเข้าไปใกล้ประตูนั่นเข้าไปอีก แต่ก่อนที่เขาจะทันได้รู้สึกตัวใดๆ ขาเขาก็เหยียบเขากับแผ่นอิฐชิ้นหนึ่งที่กดตัวลงไปตามแรงเหยียบของเขา

 

            “เฟี๊ยต ระวัง!” เสียงของชายหนุ่มที่อยู่ข้างเขาตะโกนดังลั่น พร้อมกันกับที่เฟี๊ยตพบว่า ประตูตรงหน้าเปิดออกทั้งๆ ที่เขาไม่ได้สัมผัสลูกปิดประตูนั่นแม้แต่น้อย ราวกับมีลมที่มีพลังปานช้างสารดูดตัวเขาเข้าสู่ภายใน ร่างกายเขาหลุดลอยเข้าไปในห้องลับนั้นอย่างควบคุมไม่ได้ และเมื่อเขาล้มลงก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น เขาก็ได้สติอีกครั้งหยิบสมุดการ์ดขึ้นมาเตรียมพร้อมต่อสู้ แต่ก็พบกับความว่างเปล่าของห้องขนาดไม่กว้างใหญ่นั้น ชายหนุ่มรีบหันกลับไปที่หนทางที่ตนเข้ามา ด้วยหวังว่าจะรีบหาหนทางกลับไปสมทบกับเพื่อนที่อยู่ภายนอก สายตาก็ปะทะเข้ากับเพื่อนผิวแทนที่กระโดดตามเข้ามาในที่แห่งนั้นราวกับจะตามเข้ามาช่วยเหลือเขาฉะนั้น และเพียงชั่วขณะเสี้ยวจิตเดียวหลังจากที่แทนเข้ามาในอาณาเขตของห้องนั้นได้สำเร็จ ประตูที่ทำจากหินหนาและหนักนั่นก็ฟาดกลับเข้ามาปิดสนิทดังเดิม ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ความเงียบอันน่าวังเวงจิตอีกครั้ง

 

 

            “Light!” เสียงที่กระด้างไปด้วยความเครียดดังมาทางข้างกายของเขา ปลายกระบอกปืนของแทนให้แสงสว่างราวกับเป็นดวงไฟจากแสงตะเกียงท่ามกลางความมืดอันน่าหวาดหวั่นใจนั้น มือหนาดึงแขนตัวเขามาอยู่ข้างกายอย่างระมัดระวังในภยันอันตรายที่ไม่อาจคาดการณ์ได้

 

            “แทน กลับไปที่ประตูก่อน กลับออกไปหาปัน!” เสียงของเขาดังออกมาอย่างเร่งร้อน พลางดึงแขนเพื่อนชายเพื่อไปยังประตูบานที่ปิดสนิทอยู่นั้น เมื่อเดินมาถึง เฟี๊ยตตรงเข้าสำรวจประตูแกร่งนั่น โดยปล่อยให้แทนถือปืนไฟคุมเชิงอยู่ด้านหลัง และเขาก็ต้องพบกับความจริงอันน่าผิดหวัง ประตูในเวลานี้ตีบตันราวกับเป็นผนังตอนหนึ่งเท่านั้น มันปราศจากลูกบิดประตูที่จะพาเขาออกสู่เบื้องนอก เฟี๊ยตลองพยายามใช้เท้าเหยียบๆ บริเวณใกล้ๆ ประตูดู เพราะหวังว่าจะมีกลไกที่เปิดประตูนี่เหมือนตอนที่พวกเขาถูกดึงเข้ามาข้างใน แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ไม่พบหนทางที่จะพาตัวเขาและเพื่อนออกไปจากที่แห่งนี้ได้ ชายหนุ่มกวาดสายตาไปจนทั่วประตูบานนั้นอย่างครุ่นคิดถึงกลไกต่างๆ ที่น่าจะเป็นไปได้ที่ใช้ในการเปิดประตูดังกล่าว สายตาของชายหนุ่มกวาดไปบนบนด้านหลังบานประตูที่ราบเรียบนั้น ก่อนจะพบกับวัตถุทรงกลมลักษณะคล้ายกระจกติดไว้อยู่ที่ใจกลางบานประตูนั่นเอง

 

            “แทน ฉายไฟไปรอบๆ ห้องหน่อย” เฟี๊ยตเอ่ยสั่งเพื่อนของตน เมื่อแทนได้ยินดังนั้น ก็พึมพำอะไรอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่แสงที่เคยมีลักษณะเป็นวงนั่นจะกลายเป็นลำแสง ฉายสาดไปแต่ละบริเวณของห้องนั้นราวกับไฟฉายก็ไม่ปาน สายตาของพวกเขาทั้งคู่ไม่พบคู่ต่อสู้ตามที่หวั่นเกรงแต่อย่างใด หากแต่พบกระจกที่วางระเกะระกะอย่างดูไร้แบบแผนเต็มไปหมด และลึกเข้าไปอีกหน่อยนั้น ก็เหมือนจะมีวัตถุหนึ่งลักษณะคล้ายแท่นวางสิ่งของอะไรสักอย่างประดิษฐานไว้

 

            “แทนลองฉายไฟไปตรงๆ ที่กระจกสักอันสิ” แทนปฏิบัติตามคำพูดเขาทันที โดยชายหนุ่มทดลองฉายแสงไปที่กระจกอันหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปนั่น และทันทีที่กระจกดังกล่าวต้องกับแสงไฟจากปืนไฟ มันก็ส่องแสงกระทบกันไปมา แต่ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นแต่อย่างใด

 

            “แทนลองฉายไฟไปบนเพดานหน่อย” ลำแสงจากมือชายหนุ่มกราดขึ้นสู่เบื้องบนทันที แสงสว่างนั่นทำให้ทั้งคู่พบกับช่องกระจกอันหนึ่งที่อยู่สูงขึ้นไปเบื้องบนนั่น ราวกับว่าเป็นช่องรับแสงสว่างในบ้านแบบตะวันตกอย่างใดอย่างนั้น

 

            “กระจกพวกนี้มันคืออะไรหรอเฟี๊ยต” แทนเอ่ยถามขึ้นในที่สุด

 

            “เราคิดว่ามันเป็นกลไกที่ใช้เปิดประตูนี่นะแทน กระจกเหล่านั้นน่าจะรับแสงมาจากช่องรับแสงอาทิตย์ข้างบนนั่นก่อนจะสะท้อนกับไปมาตามลำดับ และส่งมาที่ช่องกระจกนี่ อันนี้คือความคิดเรานะ” เฟี๊ยตพูดพร้อมไล่มือไปตามลำดับตามจินตนาการของเขา ก่อนจะมาสิ้นสุดที่ช่องกระจกเล็กๆ ที่แปะอยู่บนประตูนั้น แทนฉายไฟตามการชี้นิ้วของเฟี๊ยต ก่อนจะมาสิ้นสุดที่ช่องกระจกนั้นเช่นกัน

 

            “เราฉายไฟโดยตรงเข้าช่องนี่เลยไม่ได้หรอ” แทนเอ่ยถามอย่างร้อนรน ด้วยว่าเริ่มเป็นห่วงความรู้สึกของคนด้านนอกที่กำลังเป็นห่วงเขาและเฟี๊ยตอยู่เป็นแน่แท้

 

            “แทนก็ส่องไฟใส่มันอยู่ มันเป็นคำตอบที่ดีอยู่แล้วแทน เดี๋ยวเราจะใช้การ์ดโทรศัพท์ต่อสายหาปันนะ ฝากแทนคุยกับปันหน่อยละกัน” เฟี๊ยตพูดพร้อมกับเป็นสมุดหาการ์ดที่ต้องการ ก่อนจะสั่งติดต่อกับปลายสายที่คุ้นเคย

 

            “กรุณาแจ้งชื่อผู้เล่นที่ท่านต้องการติดต่อสื่อสาร อัตราค่าใช้บริการนาทีละ 1 เหรียญ หรือสั่งผนึกการ์ดเพื่อยกเลิกการใช้บริการ” เสียงนั่นดังขึ้นพร้อมกับที่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งลอยอยู่ตรงหน้าเขา เขาเอื้อมมือไปหยิบเครื่องมือสื่อสารนั่นอย่างคุ้นเคย

 

            “Punnawutt” เขาเอ่ยสั้นๆ

 

            “กรุณารอสักครู่ ระบบกำลังต่อสายไปยังปลายทางที่ท่านต้องการ”

           

 

            “ปัน นี่แทนนะ ปันใจเย็นๆ นะ เรื่องราวทุกอย่างปรกติดี แค่เรากับเฟี๊ยตติดเข้ามาอยู่ในห้องลับของวิหารแล้ว ปันใจเย็นๆ นะ ตอนนี้ประตูมันปิดสนิท พวกเราหาทางเปิดจากข้างในไม่ได้เลย แต่ข้างในนี่มีกระจกหลายๆ บานเรียงซ้อนกันไปมาเหมือนกลไกการใช้แสงเหมือนในปิรามิดเลย ปัน พวกเราคิดว่าพรุ่งนี้เช้า ถ้ามีแสงลอดเข้ามาจากช่องว่างข้างบน เราจะต้องเปิดประตูนี้ได้แน่นอน คืนนี้ปันนอนในโถงนั่นคนเดียวก่อนนะ เดี๋ยวเรากับเฟี๊ยตอยู่ในห้องนี้ไปก่อน พอรุ่งเช้าวันพรุ่งนี้ ค่อยหาทางเปิดประตูเข้ามาข้างในนี่ด้วยกัน ปันโอเคไหม?”

 

จากผู้แต่ง : อยู่ดีดี ผมก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ผมจะแต่งเรื่องนี้ไปได้อีกนานเท่าไหนหนอ? แต่งนิยายลงเวปนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะครับ T^T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด