ตอนที่ 20 (100%)
[Pontz x Joe]
[Joe]
Rrr
เสียงสั่นเตือนข้อความดังขึ้นขณะที่ผมกำลังจกเลกเชอร์อยู่
“แน็ต จดดีๆนะมึง กูดูมือถือแปป” ผมวางปากกาแล้วหันไปบอกไอ้แน็ตที่นั่งจดอยู่ข้างๆก่อนจะหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋า
Pontz:กูรออยู่หน้าคณะแล้วนะ
รีบเหลือเกินนะมึง กลัวกูจะไปกับใครล่ะ
Rrr
ไอโฟนของผมสั่นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นไลน์จากพี่ฮอร์น
P’Horn:กินข้าวกับพี่มั้ย??? *0*
ผมยิ้มขำๆกับอีโมของพี่แกก่อนจะพิมพ์ตอบไป
Joe:มีนัดแล้ว
P’Horn:ว้า มาช้าตลอดเบยย YY”
Joe:ครั้งหน้าแล้วกันพี่
P’Horn:จะไม่พลาดแล้ววว \(^^)/
ผมอ่านก่อนจะกดล็อคหน้าจอแล้วยัดไอโฟนกลับเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม
“คุยกะใคร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” ไอ้แน็ตถามผมโดยที่ตาไม่ได้ละมาจากสมุดเลยแม้แต่น้อย
“พี่ฮอร์น” ผมตอบสั้นๆก่อนจะจดต่อ
“ผัวใหม่เหรอ?”
ไวกว่าความคิด มือผมก็ฟาดลงไปเต็มๆกลางกบาลของไอ้แน็ต
“โอ๊ยยยย เชี่ย!!!” ไอ้แน็ตเผลออุทานออกมาเสียงดัง
“นักศึกษาตรงนั้นมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ?” อาจารย์ที่ยืนปิ้งสไลด์อยู่หน้าห้องชะงักก่อนจะหันมาถามไอ้แน็ตพร้อมกับจิดตามอง
ลอดแว่นออกมา
“เอ่อ ขอโทษครับอาจารย์”ไอ้แน็ตยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวก่อนจะก้มลงจดต่อ
อาจารย์ถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะก้มลงไปปิ้งสไลด์ต่อด้วยความเร็วมากกว่าเดิม
จารย์คร้าบบบบ โกรธไอ้แน็ตก็อย่ามาลงกับนักศึกษาคนอื่นๆแบบนี้สิครับ
“ไปกินข้าว” ผมเดินไปสะกิดไหล่ไอ้ป๊อนซ์ที่มานั่งรอผมพร้อมกับหนังสือกองโตที่เอามาอ่านระหว่างรอ
“อ่ะ อืมมม เรียนเสร็จแล้วเหรอ?” ป๊อนซ์หันมาถามผมก่อนจะก้มลงไปเก็บของแล้วเอามาถือไว้
“โจไปกินข้าวเหรอ?” ไอ้แน็ตที่เพิ่งจะเก็บของเสร็จของวิ่งถลาลงมาจากตึกจนหน้าเกือบคว่ำลงจูบบันได
“เออ” ผมหันไปตอบสั้นๆก่อนจะเดินตามหลังป๊อนซ์ไปต่อ
“กูอ่ะ” มันพูดพร้อมกับชี้เข้าหาตัวเอง
“ผัวมึงโดดเรียนมารออยู่ใต้ต้นไม้โน่นนน” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปยังเมฆที่มาจอดรถยืนรออยู่ได้พักใหญ่ๆแล้ว
“ห๊ะ!! ไอ้ชิบหายเอ๊ยยย” ไอ้แน็ตโวยวายออกมาก่อนจะเดินตรงไปหาเมฆที่ยังคงยืนหน้านิ่งอยู่ ไม่รู้จะเก๊กเหี้ยไรนักหนา
“จะกินอะไรอ่ะ?” ป๊อนซ์เปิดประตูเอาหนังสือวางเบาะหลังก่อนจะเงยขึ้นมาถามผม
“ตอนบ่ายมีเรียนป่ะ?” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทน
“ไม่มี” มันตอบกลับมาสั้นๆพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นเชิงสงสัย
“งั้นไปร้าน XXX แล้วกัน มันอยู่นอกเมืองหน่อยอ่ะ รู้จักป่ะ?”
“อืมรู้จักๆ เคยไปสองสามครั้งละ”
“งั้นก็ดี กูจะได้ไม่ต้องบอกทาง” พูดจบผมก็เปิดประตูแล้วนั่งลงตรงเบาะข้างคนขับทันที
ป๊อนซ์ขับรถเรื่อยๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไรเพราะตอนบ่ายเราสองคนไม่มีเรียนอยู่แล้ว
“มึงจะกินไรอ่ะ?” ป๊อนซ์มองเมนูผ่านๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามผม
“อยากกินกุ้งเผา” ผมดูเมนูก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ
“สั่งดิ กูกินด้วย” มันพูดพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ
“อืม งั้นเอากุ้งเผาครับ” ผมหันไปสั่งพนักงานที่ยืนรออยู่ข้างๆ
“ครับ” พนักงานพยักหน้ารับคำก่อนจะก้มลงจดรายการที่ผมสั่งไป
“เอาไรอีกอ่ะ?”
“เอ่อ แล้วก็...” ผมพูดเกริ่นออกมาก่อนจะทำหน้าคิดหนัก กินไรดีวะกู
“เอาข้าวสวย 2 จาน แกงจืดเต้าหู้ไข่ หมึกนึ่งมะนาว ทอดมันกุ้ง ยำรวมมิตร ครับ” ป๊อนซ์เงยหน้าขึ้นสั่งก่อนจะหันมายิ้มให้ผม
ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงแปลกใจ ทำไมของที่มันสั่งไป แม่งของชอบผมทั้งนั้นเลยล่ะ??
“จะเอาอะไรอีกมั้ย?” ป๊อนซ์หันมาถามผมก่อนจะปิดเมนูและยื่นกลับไปให้พนักงาน
“ไม่อ่ะ แค่นี้ก่อนก็ได้” ผมส่ายหน้านิดๆก่อนจะปิดเมนูแล้วส่งคืนให้พนักงานเช่นกัน
พนักงานรับเมนูก่อนจะก้มให้นิดๆแล้วเดินเข้าครัวไป
“ไม่ได้มากินกันแบบนี้นานแล้วเนอะ” จู่ๆป๊อนซ์ที่นั่งเงียบมานานก็พูดขึ้นมา
“หึ! พูดอย่างกับจำได้แล้ว” ผมหัวเราะออกมานิดๆก่อนจะพูดประชดมันไป
“แล้วถ้ากูบอกว่าใช่ล่ะ” ป๊อนซ์พูดเสียงนิ่งพร้อมกับแสดงสีหน้าจริงจังออกมาจนผมอดคิดไม่ได้ว่ามันจะพูดความจริง
“กูไม่เชื่อ!” ผมพูดออกมาชัดเจนก่อนจะก้มลงเล่นไอโฟนโดยไม่ได้สนใจคนตรงหน้าว่าจะแสดงสีหน้าอย่างไรออกมา
“เดี๋ยวกูแกะให้” ป๊อนซ์นั่งมองผมเอาส้อมจิ้มๆกุ้งตัวโตในจานก่อนจะยกไปแกะซะเอง
“กูแกะได้” ผมพูดเสียงแข็งพร้อมกับพยายามจะเอากุ้งคืน
“อย่าดื้อได้มั้ย?” ป๊อนซ์พูดเสียงเหนื่อยๆก่อนจะลงมือแกะกุ้งโดยไม่สนใจคำท้วงติงของผม
“อ่ะ กินซะ” หลังจากแกะกุ้งจนเหลือแต่เนื้อ มันก็ยกมาใส่ในจานของผม
“ก็บอกว่าแกะได้ๆ” ผมยังคงพึมพำต่ออย่างไม่พอใจ มันทำอย่างกับผมไม่มีมือจะทำเองงั้นแหละ
“แต่กูอยากแกะให้ จบนะ” มันนิ่งก่อนจะพูดตอบกลับมาแล้วก็เริ่มเอากุ้งตัวที่สองไปแกะต่อ
“แก แกว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกันป่ะ?” เสียงซุบซิบนินทาจากผู้หญิงโต๊ะข้างๆดังขึ้น
“เป็นแฟนดิแก ดูแลกันขนาดนั้น”
“หึๆ” ป๊อนซ์ที่น่าจะได้ยินบทสนทนานั้นเหมือนกันก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“หัวเราะอะไรของมึง?” ผมถามมันเสียงขุ่น
“เอาน่า ช่างเขาเหอะ อย่าอารมณ์เสียดิ” มันพูดพร้อมกับยกกุ้งตัวที่สองมาใส่ในจานของผม
“กินเองบ้างเหอะ” ผมแหวออกมาพร้อมกับยกกุ้งตัวนั้นกลับไปใส่จานของมัน
“มึงกินไปเหอะ กูเห็นมึงกินกูก็อิ่มแล้ว” มันพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม และยกกุ้งตัวนั้นกลับมาใส่จานผมอีกครั้ง
“เหอะ! โชว์แมนเรียกเรตติ้งรึไง?” ผมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะลงมือกินโดยไม่สนใจมันที่กำลังตัดโน่นตักนี่ให้อยู่เรื่อย
“แก เค้างอนกันน่ารักเนอะ” มาอีกละ โอ๊ยยยยย ให้กูได้กินแบบสงบๆเถอะขอร้อง
“เออ พี่อีกคนก็ดูแคร์จังเลยเนอะ ตักนั่นตักนี่ให้กินตลอดเลย”
“รำคาญ!!” สิ้นเสียงของผู้หญิงคนที่สองผมก็พูดออกมาเสียงดังจนหลายๆโต๊ะหันมามอง
“โจ” ป๊อนซ์พูดปรามผมพร้อมกับเอามือมาวางบนหลังมือผมแล้วบีบเบาๆ
“...” ผมไม่พูดอะไรแต่ตวัดสายตาไปมองป๊อนซ์แบบโกรธๆ
“กูขอ” ป๊อนซ์พูดเสียงอ่อนก่อนจะลูบบนหลังมือผมเบาๆ
“แต่กูไม่ชอบ!” ผมพูดพร้อมกับตวัดตาไปมองที่โต๊ะนั้น ทำให้ผู้หญิงสองคนนั้นถึงกับหน้าซีดจนเห็นได้ชัด
“เดี๋ยวกูไปพูดให้” ป๊อนซ์บอกผมก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โต๊ะนั้นโดยมีสายตาของผมจับจ้องอยู่ตลอด
มันก้มลงพูดอะไรกับสองคนนั้นก็ไม่รู้ เพราะมันพูดเสียงเบามาก อาจจะเป็นเพราะเกรงใจโต๊ะอื่นๆ พูดจบสองคนนั้นก็กรี๊ดกร๊าด
ออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มและก้มหัวให้ผมนิดหน่อยเป็นเชิงขอโทษ
“มึงไปพูดอะไร?” ผมถามทันทีที่ป๊อนซ์เดินกลับมาถึงโต๊ะ
“ก็แค่บอกว่ามึงไม่ชอบให้มอง” มันตอบก่อนจะก้มลงแกะกุ้งต่อ
“ไม่เชื่อ! พูดแค่นั้นแล้วทำไมต้องยิ้มกรี๊กกร๊าดกันด้วย” ผมยังไม่พอใจในคำตอบของมัน เลยเริ่มทำการแค่นต่อ
“แล้วกูก็บอกไปว่ากูกำลังง้อมึงอยู่ กูพูดอะไรไปมึงก็ไม่เชื่อ น้องเค้าเลยกรี๊ดแล้วก็พูดให้กำลังใจกูมา” ป๊อนซ์พูดด้วยน้ำเสียงตัด
พ้อก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ก็มึงชอบโกหกกู” ผมพูดออกไปตามความจริง
“นั่นมันเมื่อก่อนโจ ตอนนี้ไม่แล้ว” ป๊อนซ์พูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง
“หยุดพูดเรื่อยเปื่อยแล้วทำให้กูเห็นดีกว่า” ผมมองหน้ามันพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะก้มลงกินต่อโดยมีมันนั่ง
ยิ้มและมองตามการกระทำของผมตลอดเวลา
“จะไปกินอะไรอีกมั้ย?” ป๊อนซ์ถามหลังจากที่จ่ายตังค์แล้วเดินออกมาจากร้านเมื่อกี๊
“เดี๋ยวขับไปเรื่อยๆแล้วแวะร้านก๋วยเตี๋ยวให้กูหน่อย” ผมพูดก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งประจำที่
“ไม่อิ่มเหรอ?” ป๊อนซ์เปิดประตูแล้วนั่งลงประจำที่คนขับก่อนจะถามผมกลับด้วยสีหน้าแสดงความเป็นห่วง
“ก็แค่อยากกิน” ผมตอบกลับก่อนจะหยิบการ์ตูนในกระเป๋าขึ้นมาอ่าน
“โจ กูขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้กูจำทุกอย่างได้แล้วจริงๆ กูไม่รู้จะทำไงให้มึงเชื่อ”จู่ๆป๊อนซ์ก็พูดขึ้นพร้อมกับหันมา
มองหน้าผมนิดๆ
“มึงก็แค่ทำออกมาด้วยความจริงใจเท่านั้นก็พอ”ผมพูดตอบก่อนจะเอนเบาะแล้วหลับตาลง
“ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วปลุกกูด้วย” ผมหันไปสั่งเป็นครั้งสุดท้าย ป๊อนซ์ก็พยักหน้ารับคำ ก่อนที่ผมจะหลับไป
“พรุ่งนี้เดี๋ยวมารับนะ” ป๊อนซ์พูดขณะที่มาจอดส่งผมหน้าคอนโด
“อืม ถ้าช้าแม้แต่นาทีเดียวกูจะไปเอง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปบอก
“ครับ” มันรับคำก่อนจะช่วยหยิบของๆผมจากเบาะหลังแล้วยื่นมาให้
“โจ” หลังจากเอาของมาถือไว้จนหมดมันก็เรียกผมไว้
“หืม??” ผมส่งเสียงในลำคอด้วยความสงสัย
“กลับไปอยู่หอในกะไอ้แน็ตได้มั้ย อยู่แบบนี้กูเป็นห่วง” ป๊อนซ์พูดพร้อมกับจับที่ไหล่ของผม
“กูอยู่มาได้ตั้งหลายเดือนแล้ว อยู่ต่อไปอีกก็คงไม่เป็นไรหรอก”
“แต่...”
“กูบอกว่ากูอยู่ได้” ป๊อนซ์กำลังจะแย้งต่อ แต่ผมก็รีบพูดขัดมันไว้เสียก่อน
“อืม งั้นก็ดูแลตัวเองดีๆแล้วกัน” ป๊อนซ์ปล่อยมือจากไหล่ของผมก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“อ่ะ” ผมยื่นถุงก๋วยเตี๋ยวที่เพิ่งแวะซื้อไปให้มัน
“หืม??”
“เอาดิ กูให้” ผมพูดร้อมกับยัดถุงก๋วยเตี๋ยวใส่มือมัน
“ให้กูทำไม ก็ไหนมึงบอกว่าอยากกินไง” ป๊อนซ์ถามพร้อมกับพยายามคืนให้กับผม
“กูจะซื้อให้มึงนั่นแหละ เมื่อกี๊ตอนอยู่ที่ร้านมึงก็ไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไหร่?” ผมพูดพร้อมกับเปิดประตูเพื่อจะลงจากรถ
“เอ่อ ขอบใจนะ” ป๊อนซ์ทำหน้าอึ้งๆก่อนจะพูดขอบคุณออกมา
“อืม” ผมรับคำในลำคอก่อนจะเดินลงจากรถและขึ้นห้องไป
Rrr
แรงสั่นในกระเป๋าทำให้ผมต้องหยุดเดินก่อนจะหยิบมันออกมาดู
ไลน์จากป๊อนซ์
Pontz:ขอบใจนะที่เป็นห่วงกู กูไม่รู้หรอกว่ามึงทำเพราะเป็นห่วงรึเปล่า แต่กูก็จะคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันใช่แล้วกันนะ
ผมอ่านจนจบนิ่งไปนิดนึงก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
Joe:อืม
ในเมื่อมึงบอกว่าจำได้แล้ว กูก็มีวิธีทดสอบในแบบของกู และถ้าครั้งนี้มึงโกหกกูอีก มึงก็อย่าหวังว่าจะได้เจอกูอีกเลย!..............................................................................TBC...................................................................................
มาต่อให้ครบร้อยเปอร์แล้วนะจ๊ะ
หลังจากเพิ่งอัพคู่ พีดี ระบายอารมณ์ไปวันก่อน
วันนี้ก็มาต่อคู่หลักกันต่อออออออ
อ๋อ จะบอกว่าให้โจกลับมาน่ารักใสๆเหมือนเดิมคงไม่ได้แล้วน้าาาา แต่อาจจะน่ารักแบบทื่อๆตามสไตล์ไป
ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าโจจะเอาคืนป๊อนซ์ด้วยวิธีไหนอีก (ฤทธิ์น้องโจยังมีอีกเหลือล้น
)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์เด้ออออออ
#อ่าน&บวก1 ให้ทุกเม้นต์เลยยย
รักคนอ่านนะจ๊ะ KATIEZZ