บทส่งท้าย
“เฮียปั้น...บลูเริ่มสงสัยแล้วนะ ว่าโปรตอนเป็นลูกพี่ปูนหรือลูกเฮียกันแน่”ไอ้บลูนิ่วหน้าเมื่อผมอุ้มหลานชายวัยขวบเศษเข้ามาในบ้าน “จริงๆเฮียไปแอบไข่เอาไว้แล้วเอาชื่อพี่ปูนมาอ้างใช่ไหม”คิ้วขมวดแต่ก็ยังคงสาละวนกับการทำโมเดล
“ไม่สงสารหลานมันรึไง”ผมรู้ดีว่าไอ้บลูมันไม่ถูกกับเด็กและหมา มันบอกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือการควบคุม
“เฮียเข้าใจไปเรื่องไหนเนี่ย...พี่ปูนก็อีกคน ไม่ได้อยากจะว่าหรอกนะ มีปัญญาทำ แต่ทำไมไม่มีปัญญาเลี้ยงวะ”ไอ้บลูวางมือจากโมเดลตรงหน้า ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว
รู้สึกว่ายิ่งแก่ เซลล์กลัวเมียยิ่งลุกลาม
ผมยืนงงได้ไม่นานไอ้บลูก็เดินกลับมา ในมือมีแก้วใสที่มีไอน้ำเย็นเกาะพราว
เกร๊ง!!!
แก้วบรรจุน้ำเย็นที่มันตั้งใจจะเอามาให้ผมถูกกระแทกวางบนโต๊ะกระจก...เดี๋ยวนี้ ข่มกูตลอด
“ส่งโปรตอนมาดิ”ตาขวาง ปากบ่น แต่มันก็เลี้ยงโปรตอนมามากกว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่รวมกันอีกมั้ง
“มามา”เหมือนจะรู้งาน มือป้อมเล็กพยายามเอื้อมหาคนหน้านิ่ว
“เรียกปะป๊าสิ ปะป๊า”ไอ้บลูรับเจ้าตัวเล็กไปก็พยายามสอนอะไรของมันก็ไม่รู้
“แม่ม”
“แม่งอะไร...โด่ แค่นี้ทำไม่พอใจ”เออเว่ย แม่งคุยกันรู้เรื่องด้วย
“แม่มแม่ม”พูดแบบอมเหงือกเสร็จ โปรตอนก็เอาหัวซบบ่าม่าม๊ามันอย่างอ้อนๆ
“หิวรึไงไอ้อ้วน”ไอ้บลูมันยิ้มออกแล้วครับ
ให้รู้ซะบ้างหลานใคร ตลอดทางผมสอนมาอย่างดี
“แล้วเฮียอ่ะ จะยืนขวางเจ้าที่เจ้าทางอีกนานไหมวะ..”โอเค เกิดเป็นกู แค่ยืนหายใจก็ผิดสินะ
ขึ้นมาบนห้องผมก็จัดแจงอาบน้ำอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงเล หลายคนอาจคิดว่าไอ้บลูเดี๋ยวนี้ดูหงุดหงิดหงุดเงี้ยวไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อน คือจะว่าไงดีล่ะ สำหรับผมมันก็เหมือนเดิมนะ ไม่ใช่น่ารักเหมือนเดิม แต่คือกวนส้นตีนเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมหน่อย...แต่กูชิน
ถามว่าโกรธไหมที่ช่วงนี้มันชอบเหวี่ยงใส่ผม ตอบเลย ไม่โกรธ เพราะไอ้บลูมันไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน แต่ช่วงนี้โปรเจกต์ห่าเหวอะไรฃไม่รู้บานตะไท มันเลยค่อนข้างเครียดสะสม อีกอย่างก็สไตล์เด็กใกล้จบอ่ะครับ ทั้งโปรเจกต์ ทั้งหน้าที่แม่บ้าน ทั้งหน้าที่เมีย ...สมน้ำหน้ามัน เสือกแรดมีผัวก่อนเรียนจบ
ตอนนี้ผมต้องอธิบายสาเหตุที่บอกเลิกไอ้บลูเมื่อสมัยข้าวใหม่ปลามันใช่ปะวะ คือหลินมันอยากให้ไอ้บลูมันเกลียดผมไง ให้แม่งเข้าใจว่าผมนอกใจ ไอ้ผมเองจะอธิบายก็อธิบายไม่ได้ แล้วคือผมไม่อยากเดินตามเกมส์หลิน รู้สึกเสียเชิงด้วย ก็เลยชิงเลิกกับไอ้บลูไปก่อน และด้วยนิสัยเมียผม ที่ทุกคนพอจะรู้ว่ามันขี้เสือก ดังนั้นคนอย่างไอ้บลูน่ะ ไม่นานเดี๋ยวมันก็รู้ความจริงด้วยตัวเอง...แต่ก่อนมันรู้ หัวกูก็เย็บไปหลายเข็มนะ
ส่วนเรื่องที่บ้านมัน เขาก็รู้กันตั้งแต่วันที่มันพาผมไปแล้วล่ะ วันต่อมาป๊ามันก็เรียกผมไปคุย กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเส้นเลือดในสมองผมก็เกือบจะแตกเหมือนกัน
เล่าแค่นี้ล่ะกัน ขี้เกียจว่ะ เขาบอกว่าไอ้พวกที่ชอบนึกแต่เรื่องอดีตแม่งมีแต่พวกคนแก่ พอดีผมเพิ่ง23ยังไม่แก่ ดังนั้น...กูไม่เล่าแล้ว
“เฮีย เย็นนี้จะกินไร”เสียงถามจากหน้าห้องทำให้ผมรู้ว่าไอ้บลูอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“อะไรก็ได้”
“ไปหากินที่อื่นล่ะกัน...ทำไมเป็น”แล้วก็ได้ยินเสียงกระแทกเท้าลงบันได
คือถ้ามันเป็นผู้หญิง ผมคิดว่ามันท้องแล้วนะ...อารมณ์มึงแปรปรวนเกิน
เดินลงมาชั้นล่างก็เห็นไอ้บลูนั่งป้อนข้าวโปรตอนอยู่ เจ้าเด็กอ้วนจอมงอแง(กับคนอื่น)นั่งว่านอนสอนง่ายสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บนตักไอ้บลู
“อื๊อ”โปรตอนเบือนหน้าหนีช้อนพลาสติกคันเล็ก
“อย่ามาเอาแต่ใจที่นี่นะ”เพิ่งเคยเห็นโปรตอนดื๊อกับไอ้บลูมันครั้งแรก “ไม่กินก็ไม่ต้องกิน”ไอ้บลูวางช้อน เอาไอ้เด็กอ้วนเจ้าปัญหาไปวางไว้บนโซฟา ส่วนตัวมันก็มาเก็บช้อนเก็บชามเข้าครัว
ไม่รู้แม่ลูกเขาทะเลาะอะไรกัน แต่ดูคราวนี้ไอ้บลูจะโกรธจริง เมื่อไม่เห็นม่าม๊าอยู่ในสายตา โปรตอนก็เริ่มน้ำตาร่วง เบะปากเตรียมแผดเสียง แต่ดูคราวนี้ไม่ยอมแผดเสียงเว่ย คงจะรู้ว่าไอ้บลูไม่ชอบเสียงเด็กร้อง(กูก็เดาไปส่งเดช) ร่างกลมปุ๊กลุ๊กพยายามคลานลงจากโซฟา
แต่ก่อนที่ลูกชายชาวบ้านจะมีอันเป็นไปจนกูเองก็ไม่รู้จะไปทำใช้ยังไงนั้น... ผมที่ซุ่มดูเหตุการณ์จากตรงบันไดก็รีบเข้าไปอุ้มเด็กชายที่น้ำตานองขึ้นมา แต่พาผมอุ้ม ก็ดิ้นเหมือนอยากจะลง ก็เลยปล่อยลงกับพื้น
พอโดนวางลงพื้น ก็รีบคลานไปหาม่าม๊าที่นั่งตัดโมเดลอยู่มุมห้องแทบจะทันที
“ฮึก มัม มัม”
“ไม่ต้องมาพูด ตัวบอกว่าหิว เราก็อุส่าทำต้มจืดให้”ไอ้บลูว่าแล้วก็ติดโมเดลมันต่อ
“แม่ม ฮึก ฮึก”
“ไม่ต้องมาขอโทษ”ไอ้บลูพูดแล้วก็อุ้มเด็กที่พยายามปีนขึ้นไปบนตักให้ออกห่าง
“มามา ฮึก มัม ฮึก”
“ไม่ให้อภัย ไปไหนก็ไป”แล้วก็ตัดโมเดลต่อ
“ฮึกๆ มัม”แล้วร่างป้อมก็พุ่งเข้าใส่โมเดลที่ไอ้บลูทำมาสองวันสองคืน
แต่ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กอ้วนแรงน้อยไปหรือโมเดลไอ้บลูมันทนเกินไป มันเลยไม่พังลงมาให้สะใจเล่น
“เฮียปั้น!!!”คนแม่ตะโกนหน้าแดงก่ำ
“แง๊!!!!”ตัวลูกร้องตามมาติดๆ
“เอาออกไปไกลๆบลู”แล้วความซวยจะตกมาที่ใคร...ถ้าไม่ใช่กูน่ะ
สรุปวันนี้ผมเลยต้องเอาโปรตอนไปฝากไอ้ปิน ตอนแรกแม่งก็บ่นงุ้งงิ้งๆสะดีดสะดิ้งจะไม่เอา แต่พอเมียมันชอบเจ้าเด็กอ้วนเท่านั้นแหละ เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้าตีนทันที
กลับมาบ้าน ไอ้บลูก็ตั้งโต๊ะรอแล้ว มื้อเย็นก็มีแค่ต้มจืดกับไข่เจียว ...ชีวิตกูนี่น่าสงสารจัง แดกแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้วมั้ง
“เฮียเอาไอ้อ้วนไปทิ้งไว้ไหน”ผมว่าไอ้บลูมันไม่ได้เกลียดเด็กอะไรหรอก...มันก็แค่ขวางโลก
“โยนทิ้งไว้แถวๆข้างทาง”ตอบเสร็จก็ตักข้าวเข้าปาก
“ตลก...เอาลูกเขาไปโยนทิ้ง แล้วจะไปหาที่ไหนมาใช้เขาว่ะ”
“เออว่ะ...งั้นเรารีบไปทำลูกใช้พี่ปูนกันเหอะ”ผมวางช้อนเตรียมจะลุก แต่เมื่อสบตาขวางๆของเมียบังเกิดเกล้าก็ทำเอาผมที่กำลังคึกถึงกับฝ่อในทันที
“อย่ามากวนตีนเฮีย...เอาไปไว้ไหน”
“ก็เอาไปคืนพ่อมันนั่นแหละ ป่านนี้ก็คงเอาไปฝากเลี้ยง ไม่ก็จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงแล้วล่ะมั้ง”ผมเห็นไอ้บลูมันขมวดคิ้ว สักพักก็ยิ้ม สักพักก็ขมวดคิ้วอีก...ทำกายบริหารหน้าอยู่รึไง
“สันนิบาทแดกหน้าหรอ”ผมถามด้วยความเป็นห่วงเมียอย่างสุดหัวใจ
“อยากให้มันแดกหน้าเฮียด้วยปะล่ะ”ตาขวาง...
คิดว่ากูกลัวหรอ
ไม่ได้กลัวเว่ย
“....”แค่เกรงใจ
ถามว่าผมเริ่มกลัวเมียต้องแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ะ รู้ตัวอีกทีก็ไม่กล้ามีปากเสียงไปแล้ว อาจเป็นเพราะหลังๆเวลาผมตะคอกตะหวาดใส่ มันชอบแอบไปนั่งซึมนั่งเสียใจตีโพยตีพายว่าผมมีเมียน้อยล่ะมั้ง ผมก็เลยขี้เกียจจะเถียง ยอมๆแม่งไป เวลามันอารมณ์ดี ผมก็ลากมันขึ้นเตียงง่ายด้วย...ถือว่า วิน-วิน ทั้งคู่
“ไอ้อ้วนมันจะได้กินข้าวปะวะเฮีย มันชอบแกงจืดเต้าหู้ไข่มากเลยนะเฮีย”ชอบหรอ? ได้ข่าวว่าที่ทะเลาะกับมึงก็เพราะมันไม่ยอมกิน
“มันร้อง เดี๋ยวเขาก็หาไรให้กินนั่นแหละ”ผมพูดไปทั้งที่ตาเสมองทีวีที่เปิดเอาไว้เพื่อดูคนมากกว่า
“แล้วนมอ่ะเฮีย ถ้าอุณหภูมิไม่ถึง ท้องมันจะเสียนะ”ไอ้บลูมันยังคงบ่น
“เขาคงเลี้ยงเด็กเป็นแหละ”
“แล้วตอนตีสาม โปรตอนมันชอบตื่นนะ”ยัง ยังไม่จบ
“เขาเลี้ยงเด็กเป็น”ผมหันมาย้ำอีกครั้ง ไอ้บลูก็เงียบไป
.
.
.
http://www.youtube.com/v/HCAaATjFZXk
(อิมเมจน้องโปรตอน)
Rrrrrrrrrrr
ขณะที่ผมกำลังจิบโกโก้ร้อนพร้อมกับดูเลี้ยงเล่าเช้านี้อยู่นั้น โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็เริ่มสั่น
“มีไร”ผมกรอกเสียงห้วนๆลงไปเพราะรู้ว่าเป็นไอ้ปิน
/”น้องโปรไม่สบาย”/
“ทำไงให้ไม่สบายได้ แล้วเป็นอะไรมากเปล่า”ผมพยายามข่มอารมณ์พูดเสียงเบา เพราะกลัวไอ้บลูได้ยิน...วันนี้มันมีพรีเซนโปรเจกต์
/”หมอบอกน้องโปรตรอมใจ มึงมาดูหลานที กูมีพรีเซนเช้า”/พูดจบมันก็วางสายไปอย่างไว
บางทีก็ไวไป...กูยังไม่รู้ว่าอยู่โรงบาลไหนเลยไอ้น้องเหี้ย!!
“บลู...”ผมเรียกไอ้บลูที่กำลังสารวนประโฉมพอกหน้าพอกผิวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
“ว่างาย”มันเลิกคิ้วมองผมผ่านกระจก
“ไม่มีอะไร”คิดดูดีๆ... ขืนรู้ให้มันรู้เรื่องน้องโปร วันนี้พรีเซ้นท์โปรเจ็กต์วันนี้มันได้ล่มแน่
พูดจบก็หันหลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแทน เดี๋ยวนี้โกหกอะไรแม่งไม่ได้ล่ะ แค่มองตาไอ้บลูมันก็รู้แล้ว สัญชาตญาณเมียขี้หึงแรงชิบหายด้วยเดี๋ยวนี้
หมับ!!
แรงกอดจากด้านหลังทำให้ผมเอี้ยวตัวหมุนไปกอดอีกคนโดยที่ไม่กลัวเสื้อจะยับ
แม่ะ!! ยิ่งยับสิ ยิ่งดี...จะได้มีประเด็นสนทนาตอนเช้าก่อนทำงาน
ถ้ามันรู้ว่าตัวเองติดทำเนียบเมียเด็กสุดร้อนแรงมันจะทำหน้ายังไง
“เฮียปั้น”ไอ้บลูเกยคางลงบนบ่าผม เอ่ยเสียงอ้อนๆ
“ครับ”ผมกระซิบข้างใบหูขาวก่อนจะจูบซอกเนียนละเอียดอีกที
“ถ้าบลูมีลูกให้เฮียได้คงดีเนอะ”อ้วกแทบพุ่ง ผีห่าซาตานอะไรดลใจอะไรให้เมียผมคิดอะไรแบบนี้
“...”พูดไม่ออก แต่ถ้านิ่งนานไปเดี๋ยวแม่งจะงอนอีก ผมเลยกระชับกอดมันแน่นให้มันรู้ว่าผมตั้งใจฟังมันอยู่
“เผื่อวันไหนเฮียปั้นไม่รักบลูแล้ว บลูได้มีอะไรผูกมัดเฮียไว้”คือคำนั้นผมต้องเป็นคนพูดปะวะ ผมแก่โทรมดำขึ้นทุกวัน ไม่ได้มาขาวผ่องหน้าตึงเปรี๊ยะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ดูไอ้บลูดิ เมื่อก่อนหน้ามันเป็นยังไงผ่านไปสามปีกว่าก็ยังเหมือนเดิม
“แค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้ว อีกอย่างเราก็มีน้องโปรแล้วไง”ผมดึงตัวไอ้บลูออกมาก่อนจะก้มจูบลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่ม
“มันไม่เหมือนกันอ่ะเฮีย บลูอยากลองท้องเอง”หัวใจจะวายตาย หัวมันไปกระแทกอะไรมาวะ... จะว่ากระแทกหัวเตียงก็ไม่น่าใช่ ผมเอาหมอนรองให้มันตลอดนะ “เห็นเจ้บลูมแล้วบลูอิจฉาอ่ะ ได้กินนู้นกินนี่ คนนู้นคนนี้ซื้อมาบำรุงตลอด”โอเค คือมึงอยากกิน?
“เดี๋ยวกูซื้อให้กิน ถึงกูจะไม่ได้รวยมาก แต่เมียคนเดียวกูเลี้ยงได้สบายมาก”ตบไหล่มันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
“มันไม่ใช่แค่นั้นดิเฮีย เจ้บลูมมันดูมีความสุขมากเลยอ่ะ...”
“แล้วที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี้มึงไม่มีความสุข?”ผมสวนขึ้นทันควัน
“เฮียอย่าเพิ่งงอนดิ คือมันก็มีความสุข แต่มันเหมือนถึงจุดอิ่มตัวแล้วอ่ะ เฮียต้องทำงาน ถ้ามีลูก เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นไง”คือที่มึงพูดมาเนี่ยมึงลืมอะไรไปหรือเปล่า...มึงไม่มีมดลูก
“งั้นกูจะพยายามเอามึงให้นานขึ้นก็แล้วกัน เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น”กระซิบถามเสียงกระเซ่า
“ซอร์รี่นะที่รัก เก๊าพรีเซ้นท์คนแรกอ่ะ... แล้วอีกอย่าง ถึงเฮียจะเป็นลูกเจ้าของบริษัท แต่เฮียก็ต้องไปทำงานให้ตรงเวลานะครับ”พูดจบไอ้บลูก็ยื่นหน้ามาจูบผมเร็วๆ ก่อนที่จะผละกลับไปเซ็ทผมต่อ
อ่อยตลอด ยั่วตลอด แต่พอไอ้เราจะสนองแม่งก็บินหนีไปทุกที ถ้าไม่ติดว่ามันมีพรีเซ้นท์นะ พ่อจะกระชากแล้วเหวี่ยงลงเตียงแม่ง!!
วันนี้ก็เป็นเช่นทุกวัน ผมขับรถมาส่งไอ้บลูก่อนที่ผมจะไปทำงาน มันพรีเซ้นท์เสร็จเที่ยง เดี๋ยวจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง แต่ผมบอกมันว่าให้ไปหาผมที่บริษัทผมลางานตอนบ่าย
เที่ยงครึ่งไอ้บลูมานั่งรอผมอยู่ที่คอฟฟี่ช้อปด้านล่าง เล่ารุ่นพี่รุ่นพ่อรุ่นน้ารุ่นอารวมทั้งเด็กฝึกงานต่างลงมาชะเง้อชะแง้ทำคือยืดคอยาวดูไอ้บลูผู้มีดีกรีเป็นกัปตันชมรมคาราเต้ ซึ่งสืบตำแหน่งต่อจากผมเอง
บ้านกูนี่โคตรเถื่อนเลยเนอะ เป็นกัปตันทั้งผัวทั้งเมีย
“เลิกงานแล้วหรอ”ไอ้บลูยกนาฬิกาขึ้นดูเมื่อเห็นเดินเข้ามาใกล้โต๊ะที่มันนั่งอยู่ “ที่วนๆอยู่นี่เพื่อนร่วมงานเฮียปะ”ผมพยักหน้า...คือแม่งลงมาทั้งแผนก ถ้าเมียกูไม่รู้ก็ควรพามันไปเช็คสมองล่ะ
“อืม.. แล้วนี่รอนานไหม”มันส่ายหน้ามองผมตาแป๋ว
“แล้วเฮียจะพาบลูไปไหนอ่ะ...”ไอ้บลูลุกขึ้นเดินตามผมมา
“ไปโรงบาล”ผมบอกมันเสียงเรียบ
“เอ่อ สวัสดีครับ”แบลูยกมือไหว้เหล่าเพื่อนร่วมงานผมที่จับกลุ่มมองมาทางพวกผมอย่างมีพิรุธ
“อย่าไปใส่ใจมาก เดี๋ยวต้องคุยยาว”ผมกระซิบบอกให้ได้ยินทั้งสองคน
“ทำไมอ่ะ...”
“น้องโปรอยู่โรงบาล”พอผมพูดจบไอ้บลูก็ตาเบิกโพลง ก่อนจะเดินลิ่วๆนำผมออกไป
“เดินซะไว มึงรู้หรอว่ารถอยู่ไหน”ผมตะโกนถามมันเมื่อออกมาข้างนอก
“ไม่รู้...เฮียก็รีบๆสิ ถ้ารู้ว่าแก่แล้วงุ่มง่ามแบบนี้นะ...”คือกูแก่กว่ามึงปีเดียว “เร็วๆสิ จะยืนให้รากงอกหรือไง”เจอตะคอกไปทีกูงี้รนเลย วิ่งไปปลดล็อครถแทบไม่ทัน
เดี๋ยวก่อนนะ... ไอ้พวกที่อ่านกันหน้าสลอนอย่าได้คิดว่ากูหงอกลัวเมียอะไรเด็ดขาดเลยนะ แค่เกรงใจเฉยๆเว่ย
ตลอดทางระหว่างบริษัทมาโรงบาลไอ้บลูมันก็นั่งนิ่งๆไม่มีปฏิกิริยาใด จนเมื่อผมจอดรถที่โรงบาลเท่านั้นแหละ ถ้าเหาะได้แม่งคงเหาะไปแล้วมั้ง
เมื่อวนรถขึ้นไปชั้นสามผมก็เจอที่ว่างพอดี จอดรถเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินตรงเข้าไปในโรงบาลติดต่อที่เคาน์เตอร์ก็รู้ห้องที่หลานชายตัวน้อยอยู่ ในหัวผมไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นห่วงนะ แต่การเจ็บไข้ได้ป่วยมันเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างถ้าโปรตอนตรอมใจจริงๆ ก็คงมาจากไอ้บลู ดังนั้นคนที่จะแก้ปัญหาตรงนี้คือเมียผมไม่ใช่ผมว่ะ...รู้สึกกูแค่เป็นตัวประกอบเรทค่าตัวต่ำๆยังไงก็ไม่รู้
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้องผมก็เห็นไอ้บลูนั่งหันหลังให้ประตู ลูบหัวเจ้าเด็กอ้วนที่นอนหลับตาพริ้มที่ข้อพับแขนป้อมๆมีสายน้ำเกลือเสียบไว้
“พี่ปูนรู้เรื่องยัง”ไอ้บลูหันมาถามผมเสียงนิ่ง
“ไอ้ปินน่าจะโทรบอกแล้วแหละ”พูดจบผมก็ลากเก้าอี้อีกตัวไปนั่งข้างๆไอ้บลู
“อืม... แล้วจะมาเมื่อไหร่”คือพี่ปูนประจำอยู่ที่ญี่ปุ่นมาถึงนี่เร็วสุดก็คงดึกๆ แต่อย่างไอ้พี่ปูน ยืดยาดกว่ากูอีก ก็คงพรุ่งนี้ล่ะมั้ง
“น่าจะพรุ่งนี้”
“ที่บลทำเหมือนไปชอบโปรตอนน่ะ”เคยมีช่วงนั้นด้วยหรอ กูเห็นมึงก็นั่งประคบประหงมมันตลอด “บลูอยากให้พี่ปูนดูแลลูกเองบ้าง ถึงเราจะรักน้องโปร แต่มันก็คงไม่เหมือนพี่ปูนหรอก บลูไม่อยากให้น้องโปรโตมาดราม่าเหมือนละครหลังข่าว”พูดจบมันก็ทิ้งหัวลงพิงไหล่ผม
“กูว่า... มึงเลิกดูละครไหม”พอผมพูดจบมันก็เหลือบตามองผมอย่างเอาเรื่อง...ไม่เลิกสินะ “ไม่รู้นะบลู กูว่ามึงอย่าคิดอะไรให้ซับซ้อนเลยว่ะ ถ้ามึงรักโปรตอน มึงก็แสดงออกมารัก ส่วนไอ้เรื่องโตมาจะดราม่าไหม ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเหอะ เราทำดีที่สุดแล้ว”อธิบายแทบไม่ทันเลยกู
“อือ...”มันหลุบตาลงครางรับในลำคอ “ถ้าบลูอยากให้โปรตอนอยู่กับเรา เฮียจะว่าไหม”ไม่ว่าจ้ะ ดีใจด้วยซ้ำ เพราะผมเองก็ถูกชะตากับเจ้าเด็กอ้วนนี่ด้วย
ขืนปล่อยให้อยู่กับพ่อมันคงไม่พ้นโดนโยนให้พี่เลี้ยง ส่วนเรื่องจะเอาไปฝากไว้กับคุณแม่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องที่มันเพิ่งหย่ากับเมียนั้นมันยังปิดคุณแม่อยู่
“มา มา”เสียงเล็กๆที่แหบพร่าเรียกให้ผมกับไอ้บลูหันไปมอง “ฮึกๆ มา มา”มือเล็กๆปัดป่ายมาทางผมกับไอ้บลู “ฮึก อุม มามา”
“เฮียกดเรียกพยาบาลที”ไอ้บลูบอกก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วอุ้มเจ้าเด็กอ้วนมานั่งบนตัก
“ฮึกๆ มามา”ร้องแล้วก็ซบหน้าลงกับหน้าท้องไอ้บลู
คือบางทีมึงก็จะอ้อนเก่งไปนะ
เมื่อพยาบาลเข้ามาตรงดู โปรตอนมันก็ไม่ยอมปล่อยมือจากม่าม๊ามันเลย ทำให้คุณน้าพยาบาลร่างท้วมต้องถอนหายใจแล้วปรับเสาน้ำเกลือให้สูงขึ้นเพื่อไม่ให้เลือดไหลย้อน
“ต้องให้น้ำเกลืออีกนานไหมครับ”ไอ้บลูถามทั้งที่มันกำลังนอนเหยียดตัวอยู่บนเตียง
“หมดถุงนี้ก็ไม่ต้องแล้วค่ะ ถ้าหมดแล้วกดเรียกได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”ผมกับไอ้บลูกล่าวขอบคุณก่อนจะมานั่งเล่นกับเจ้าตัวเล็กเจ้าของแก้มที่ยุ้ยๆที่มักจะแดงเสมอ แต่ตอนนี้มันกลับซีดเผือดไปถนัดตา
“ว่าไงคนเก่งหนูไม่สบายหรอ”ผมหยิกแก้มยุ้ยไปเบาๆด้วยความหมันเขี้ยว
“อือ...”คือครางตอบตามประสาเด็ก หรือว่ารู้เรื่องวะ
“เจ็บไหม”ไอ้บลูถามเจ้าเด็กอ้วนที่นอนซบอยู่บนพุงมัน
“มา มา”พูดจบก็หลับตาพริ้มมือกำเสื้อนักศึกษาแน่น ราวกับกลัวว่าม่าม๊ามันจะหายไปไหน
“หลับแล้วว่ะ”ผมบอก ไอ้บลูก็พยักหน้าแล้วลูบหัวเล็กที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีอ่อนนุ่มลื่นอย่างเบามือ
พอน้ำเกลือหมดถุง โปรตอนก็ได้รับการถอดสายน้ำเกลือออกจากแขน แต่ถึงจะถอดสายน้ำเกลือแล้ว แต่เจ้าเด็กอ้วนก็ยังกลับบ้านกับพวกผมไม่ได้อยู่ดี ผมต้องกลับไปเอาเสื้อผ้าของใช้ แล้วก็ซื้อกับข้าว เพราะไอ้บลูจะอยู่ดูโปรตอนเอง อย่าเรียกว่าอยู่ดู เรียกว่าต้องอยู่น่าจะดีกว่า เพราะเจ้าเด็กอ้วนมันยังกำเสื้อไอ้บลูไม่ยอมปล่อยอยู่เลย
“เฮียเอาชุดมาให้โปรตอนใส่กลับพรุ่งนี้ด้วยนะ”ไอ้บลูบอกผมในขณะที่ยังคงอุ้มโปรตอนขึ้นมาซบบนบ่าแล้วเดินวนไปวนมา
“อืม.. เดี๋ยวรีบมา...จะเอาอะไรเพิ่มก็โทรบอกแล้วกัน”ไอ้บลูพยักหน้ารับ
เมื่อกลับมาถึงบ้านผมก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอรถของพี่ชายผมจอขวางรั้วบ้านอยู่ ไอ้สัตว์ ถ้ากูขับมาเร็วๆนี่ขอบอกว้าข้างรถมึงนี้...ไม่เหลือ
ผมถอยรถออกมาก่อนจะกดรีโมทย์เปิดรั้วบ้าน พี่ปูนมันก็ถอยรถกออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหักรถเข้าไปจอดในโรงรถบ้านผม ผมขับตามเข้าไปแล้วก็กดปิดรั้ว
ลงจากรถผมก็เข้าบ้านไปเก็บของโดยที่ไม่ได้กล่าวทักทายอะไรตามประสาพี่น้อง อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งผมโกรธมันเรื่องโปรตอนด้วยมั้ง ที่มันบังคับให้ผมกับไอ้ปินปิดคุณแม่ไว้ว่าหลานยังอยู่ญี่ปุ่นกับมัน
“ปั้น...น้องโปรเป็นยังไงบ้าง”มันถามผมเมื่อผมออกมาจากบ้าน
“ก็ถอดสายน้ำเกลือแล้ว บลูมันดูอยู่”
“อืม”ปูนมันเดินนำไปที่รถผมก่อนจะเข้าไปนั่ง
ถึงแม้ว่าผมกับพี่ปูนจะเป็นพี่น้องที่ไม่ค่อยพูดอะไรกันเท่าไหร่ แต่ผมก็ดูรู้ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรปิดไว้ แล้วคนอย่างมันก็คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิง ก็เพราะเรื่องผู้หญิงนี่อีกแหละที่ทำให้แม่น้องโปรขอหย่าแล้วทิ้งลูกไว้กับมัน
ผมซื้อกับข้าวที่ร้านอาหารหน้าปากซอยสองสามอย่างใส่กล่อง ก็รีบขับรถพาไอ้พี่ปูนมาเยี่ยมลูกมันที่โรงบาล ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง ไอ้บลูกับโปรตันหันมายิ้มให้ผม แต่เมื่อเห็นใครตามมาด้วยไอ้บลูก็หุบยิ้มทันที โปรตอนเมื่อเห็นม่าม๊าหุบยิ้มก็เลยหุบยิ้มตาม ก่อนจะซบหน้าลงบนอกไอ้บลูอย่างอ้อนๆ
“หวัดดีครับพี่ปูน”ไอ้บลูพูดขึ้นเสียงเรียบ
“หวัดดีบลู น้องโปรดิ้อไหม”
“ไม่นี่ครับ สงสัยแกจะรู้ว่าพ่อแม่ไม่ค่อยสนใจ เลยไม่ค่อยอยากจะเป็นภาระใคร”เอาแล้วไงบรรยากาศแม่งมาคุแล้วไง
“ปั้นพี่ขอคุยอะไรหน่อย”ผมพยักหน้าแล้วก็เดินนำออกไปนอกห้อง
เมื่อประตูปิดลงผมก็รีบชิงพูดก่อนทันที
“ถ้าจะด่าเมียผมว่าปากดีไม่ต้องนะ...เพราะผมเองก็ทำอะไรแม่งไม่ได้หรอก”
“เรื่องนั้นพี่รู้...แต่คือ ถ้าพี่จะเอาโปรตอนกลับจะดีกว่าไหม เพราะบลูก็ดูเหมือนไม่พอใจที่พี่เอาโปรตอนมามาฝาก”
“ใช่ ไอ้บลูมันไม่พอใจพี่ที่เอาโปรตอนมาทิ้งๆขว้างๆไว้แล้วไม่สนใจ แต่สำหรับตัวโปรตอนมันก็รักดีกันดีนะ ถ้าพี่ปูนจะเอากลับมันคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะมันก็อยากให้โปรตอนได้รับความรักจากพ่อมากกว่า”ผมอธิบาย
“อืม แล้วพี่ก็อยากปรึกษาว่ะ พี่กำลังจะแต่งงานใหม่ ปั้นคิดว่าไง... โปรตอนจะได้มีแม่”
“พี่ปูนอย่าเอาโปรตอนไปอ้างเลย ถ้าอยากให้โปรตอนมีแม่ พี่ตามไปง้อพี่วีไม่ง่ายกว่าหรอครับ”หน้าซีดเลยมึง คิดว่ากูรู้ไม่ทันหรอ
“พี่ก็กังวลอยู่ ว่าคนใหม่เขาจะเข้ากับน้องโปรได้ไหม”
“งั้นก็ลองเอากลับไป ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เอากลับมา”ผมบอก พี่ปูนก็กุมขมับ
แกร๊ก
ประตูห้องออกเปิดออก พร้อมกับไอ้บลูที่อุ้มโปรตอนไว้แนบอก
“ไม่ต้องเอาไปไหนทั้งนั้นแหละครับ บลูจะเลี้ยงของบลูเอง น้องโปรไม่ใช่สิ่งของที่พอไม่ชอบไม่ต้องการจะได้เอามาทิ้งขว้างเอามาคืน บลูเลี้ยงของบลูมา บลูรักของบลู ใครไม่ต้องการแต่บลูต้องการ... แล้วพี่ปูนจะกลับวันไหนครับ...”ไอ้บลูพูดทั้งที่หน้าแดงก่ำเพราะแรงโมโห
“บลูใจเย็นๆ”ผมแตะไหล่ไอ้บลู แต่ก็โดนมันสะบัดออก
“เฮียก็อีกคน...”ไอ้บลูเหลือบตามองผมอย่างคาดโทษ
ปัง!!
ประตูโดนกระแทกปิด ผมหันไปยิ้มให้พี่ชายอย่างฝืนๆ
“ไม่เป็นไร ที่บลูพูดก็ถูก เดี๋ยวพี่จะไปหาคุณแม่ แล้วบอกเรื่องวี ยังไงก็ฝากน้องโปรด้วยนะ”
“ให้ไปส่งไหม”พี่ปูนส่ายหัวปฏิเสธ ก่อนจะเดินลอยๆเหมือนคนไม่ค่อยมีสติออกไป
กลับเข้ามาในห้อง ผมก็ต้องเลิกคิ้วแปลกใจ เพราะแทนที่จะเจอเมียทำหน้าโหดใส่ กลับกลายเป็นว่าไอ้บลูกำลังปั้นหน้ายิ้มคุยงุ้งงิ้งๆกับโปรตอนด้วยสีหน้ามีความสุขราวกับโลกนี้เป็นของมัน
“เฮียปั้น เจ้าอ้วนเป็นของเราแล้วใช่ไหมอ่ะ”อ่อ ที่มึงทำโกรธนี่เป็นแผนจะแฮฟลูกชาวบ้าน? “โปรตอนเป็นของม่าม๊าแล้วนะ”เลิกขึ้นยิ่งกว่าเดิม ม่าม๊า? เห็นปกติน้องโปรเรียกทีนี่จะเป็นจะตาย
“ม่าม๊า...”ผมทวน
“ก็บลูเห็นเจ้บลูมมันดูมีความสุขเวลามันแทนตัวเองว่าม่าม๊าอ่ะเฮีย”คือมึงแค่อิจฉา “ส่วนเฮียก็เป็นปาป๊า ส่วนโปรตอนก็เป็นอาตี๋น้อยลูกของเรา”พูดจบแล้วมันก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
เมียกูท่าจะบ้า... แต่ปาป๊าหรอ
เขินแปลกๆว่ะ...ไม่เคยคิดว่าจะได้เป็น
ผมเดินเข้าไปหาไอ้บลูนี่นั่งเล่นกับน้องโปรอยู่บนโซฟา ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไอ้บลูก็จะรวบทั้งแม่และลูกมากอดไว้ รู้สึกความสุขมันตีตื้นขึ้นจนล้นหัวใจ
“ตี๋น้อยเรียกปาป๊าเร็ว ปา ป๊า”โปรตอนเงยหน้ามองผม
“ปา ปา”เออเว่ย ว่าง่ายแท้
“นี่ เห็นโรงบาลแล้วคิดถึงสมัยก่อนเนอะ”ผมกระซิบบอกไอ้บลู
“จะบ้าหรอเฮีย”ไอ้บลูก้มหน้างุด
“น่านะ คิดว่าทำน้องให้โปรตอน”เหมือนโปรตอนจะเห็นด้วย เพราะเอาแต่ยิ้มโชว์เหงือกแดงแจ๋ “เห็นไหมตั้วตี๋ก็อยากได้น้อง”
“รู้ดี”ไอ้บลูพูดแล้วก็ยิ้มเขินๆ “แล้วก็... กูไม่มีมดลูกเว่ย”ไอ้บลูหันมาโวยวายทั้งที่หน้ามันยังแดงแปร๊ด
“ก็กูเห็นมึงชอบพูดเรื่องท้อง กูก็นึกมึงมี”
“ถ้ามีไม่ต้องมายึดลูกชาวบ้านเขาหรอกเฮีย”มันบอก
“น่านะ...มันนานแล้วนะ”ผมซบหัวลงบนบ่ามันแบบที่น้องโปรชอบทำเวลาอ้อนม่าม๊า
“คือ...บลูว่าช่วงนี้มันหลวมน่ะเฮีย”ไอ้บลูพูดเสียงแผ่ว
“หรอ...งั้นยิ่งต้องให้กูสำรวจแล้วล่ะว่าหลวมจริงไหม”พูดจบก็โดนไอ้บลูทุบไปที
“ไม่เอา”พูดแล้วก็ก้มหน้า
“เอา”ผมพยายามซุกหน้าไปที่คอมัน “หรือบลูไม่รักพี่แล้วใช่ไหม”อย่าคิดว่ากูดราม่าไม่เป็น
“งั้นรอลูกหลับก่อนนะ”ไอ้บลูพูดเบาๆ ผมก็หอมแก้มมันอีกที
ผมกอดไอ้บลูไว้แน่น ก่อนจะภาวนาในใจให้น้องโปรรีบง่วงนอนเร็วๆ...