บทส่งท้าย
http://www.youtube.com/v/GGy1S8iYwf0“เฮียปั้น...บลูเริ่มสงสัยแล้วนะ ว่าโปรตอนเป็นลูกพี่ปูนหรือลูกเฮียกันแน่”ไอ้บลูนิ่วหน้าเมื่อผมอุ้มหลานชายวัยขวบเศษเข้ามาในบ้าน “จริงๆเฮียไปแอบไข่เอาไว้แล้วเอาชื่อพี่ปูนมาอ้างใช่ไหม”คิ้วขมวดแต่ก็ยังคงสาละวนกับการทำโมเดล
“ไม่สงสารหลานมันรึไง”ผมรู้ดีว่าไอ้บลูมันไม่ถูกกับเด็กและหมา มันบอกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือการควบคุม
“เฮียเข้าใจไปเรื่องไหนเนี่ย...พี่ปูนก็อีกคน ไม่ได้อยากจะว่าหรอกนะ มีปัญญาทำ แต่ทำไมไม่มีปัญญาเลี้ยงวะ”ไอ้บลูวางมือจากโมเดลตรงหน้า ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว
รู้สึกว่ายิ่งแก่ เซลล์กลัวเมียยิ่งลุกลาม
ผมยืนงงได้ไม่นานไอ้บลูก็เดินกลับมา ในมือมีแก้วใสที่มีไอน้ำเย็นเกาะพราว
เกร๊ง!!!
แก้วบรรจุน้ำเย็นที่มันตั้งใจจะเอามาให้ผมถูกกระแทกวางบนโต๊ะกระจก...เดี๋ยวนี้ ข่มกูตลอด
“ส่งโปรตอนมาดิ”ตาขวาง ปากบ่น แต่มันก็เลี้ยงโปรตอนมามากกว่าคนที่เป็นพ่อเป็นแม่รวมกันอีกมั้ง
“มามา”เหมือนจะรู้งาน มือป้อมเล็กพยายามเอื้อมหาคนหน้านิ่ว
“เรียกปะป๊าสิ ปะป๊า”ไอ้บลูรับเจ้าตัวเล็กไปก็พยายามสอนอะไรของมันก็ไม่รู้
“แม่ม”
“แม่งอะไร...โด่ แค่นี้ทำไม่พอใจ”เออเว่ย แม่งคุยกันรู้เรื่องด้วย
“แม่มแม่ม”พูดแบบอมเหงือกเสร็จ โปรตอนก็เอาหัวซบบ่าม่าม๊ามันอย่างอ้อนๆ
“หิวรึไงไอ้อ้วน”ไอ้บลูมันยิ้มออกแล้วครับ
ให้รู้ซะบ้างหลานใคร ตลอดทางผมสอนมาอย่างดี
“แล้วเฮียอ่ะ จะยืนขวางเจ้าที่เจ้าทางอีกนานไหมวะ..”โอเค เกิดเป็นกู แค่ยืนหายใจก็ผิดสินะ
ขึ้นมาบนห้องผมก็จัดแจงอาบน้ำอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงเล หลายคนอาจคิดว่าไอ้บลูเดี๋ยวนี้ดูหงุดหงิดหงุดเงี้ยวไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อน คือจะว่าไงดีล่ะ สำหรับผมมันก็เหมือนเดิมนะ ไม่ใช่น่ารักเหมือนเดิม แต่คือกวนส้นตีนเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมหน่อย...แต่กูชิน
ถามว่าโกรธไหมที่ช่วงนี้มันชอบเหวี่ยงใส่ผม ตอบเลย ไม่โกรธ เพราะไอ้บลูมันไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน แต่ช่วงนี้โปรเจกต์ห่าเหวอะไรฃไม่รู้บานตะไท มันเลยค่อนข้างเครียดสะสม อีกอย่างก็สไตล์เด็กใกล้จบอ่ะครับ ทั้งโปรเจกต์ ทั้งหน้าที่แม่บ้าน ทั้งหน้าที่เมีย ...สมน้ำหน้ามัน เสือกแรดมีผัวก่อนเรียนจบ
ตอนนี้ผมต้องอธิบายสาเหตุที่บอกเลิกไอ้บลูเมื่อสมัยข้าวใหม่ปลามันใช่ปะวะ คือหลินมันอยากให้ไอ้บลูมันเกลียดผมไง ให้แม่งเข้าใจว่าผมนอกใจ ไอ้ผมเองจะอธิบายก็อธิบายไม่ได้ แล้วคือผมไม่อยากเดินตามเกมส์หลิน รู้สึกเสียเชิงด้วย ก็เลยชิงเลิกกับไอ้บลูไปก่อน และด้วยนิสัยเมียผม ที่ทุกคนพอจะรู้ว่ามันขี้เสือก ดังนั้นคนอย่างไอ้บลูน่ะ ไม่นานเดี๋ยวมันก็รู้ความจริงด้วยตัวเอง...แต่ก่อนมันรู้ หัวกูก็เย็บไปหลายเข็มนะ
ส่วนเรื่องที่บ้านมัน เขาก็รู้กันตั้งแต่วันที่มันพาผมไปแล้วล่ะ วันต่อมาป๊ามันก็เรียกผมไปคุย กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเส้นเลือดในสมองผมก็เกือบจะแตกเหมือนกัน
เล่าแค่นี้ล่ะกัน ขี้เกียจว่ะ เขาบอกว่าไอ้พวกที่ชอบนึกแต่เรื่องอดีตแม่งมีแต่พวกคนแก่ พอดีผมเพิ่ง23ยังไม่แก่ ดังนั้น...กูไม่เล่าแล้ว
“เฮีย เย็นนี้จะกินไร”เสียงถามจากหน้าห้องทำให้ผมรู้ว่าไอ้บลูอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“อะไรก็ได้”
“ไปหากินที่อื่นล่ะกัน...ทำไมเป็น”แล้วก็ได้ยินเสียงกระแทกเท้าลงบันได
คือถ้ามันเป็นผู้หญิง ผมคิดว่ามันท้องแล้วนะ...อารมณ์มึงแปรปรวนเกิน
เดินลงมาชั้นล่างก็เห็นไอ้บลูนั่งป้อนข้าวโปรตอนอยู่ เจ้าเด็กอ้วนจอมงอแง(กับคนอื่น)นั่งว่านอนสอนง่ายสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บนตักไอ้บลู
“อื๊อ”โปรตอนเบือนหน้าหนีช้อนพลาสติกคันเล็ก
“อย่ามาเอาแต่ใจที่นี่นะ”เพิ่งเคยเห็นโปรตอนดื๊อกับไอ้บลูมันครั้งแรก “ไม่กินก็ไม่ต้องกิน”ไอ้บลูวางช้อน เอาไอ้เด็กอ้วนเจ้าปัญหาไปวางไว้บนโซฟา ส่วนตัวมันก็มาเก็บช้อนเก็บชามเข้าครัว
ไม่รู้แม่ลูกเขาทะเลาะอะไรกัน แต่ดูคราวนี้ไอ้บลูจะโกรธจริง เมื่อไม่เห็นม่าม๊าอยู่ในสายตา โปรตอนก็เริ่มน้ำตาร่วง เบะปากเตรียมแผดเสียง แต่ดูคราวนี้ไม่ยอมแผดเสียงเว่ย คงจะรู้ว่าไอ้บลูไม่ชอบเสียงเด็กร้อง(กูก็เดาไปส่งเดช) ร่างกลมปุ๊กลุ๊กพยายามคลานลงจากโซฟา
แต่ก่อนที่ลูกชายชาวบ้านจะมีอันเป็นไปจนกูเองก็ไม่รู้จะไปทำใช้ยังไงนั้น... ผมที่ซุ่มดูเหตุการณ์จากตรงบันไดก็รีบเข้าไปอุ้มเด็กชายที่น้ำตานองขึ้นมา แต่พาผมอุ้ม ก็ดิ้นเหมือนอยากจะลง ก็เลยปล่อยลงกับพื้น
พอโดนวางลงพื้น ก็รีบคลานไปหาม่าม๊าที่นั่งตัดโมเดลอยู่มุมห้องแทบจะทันที
“ฮึก มัม มัม”
“ไม่ต้องมาพูด ตัวบอกว่าหิว เราก็อุส่าทำต้มจืดให้”ไอ้บลูว่าแล้วก็ติดโมเดลมันต่อ
“แม่ม ฮึก ฮึก”
“ไม่ต้องมาขอโทษ”ไอ้บลูพูดแล้วก็อุ้มเด็กที่พยายามปีนขึ้นไปบนตักให้ออกห่าง
“มามา ฮึก มัม ฮึก”
“ไม่ให้อภัย ไปไหนก็ไป”แล้วก็ตัดโมเดลต่อ
“ฮึกๆ มัม”แล้วร่างป้อมก็พุ่งเข้าใส่โมเดลที่ไอ้บลูทำมาสองวันสองคืน
แต่ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กอ้วนแรงน้อยไปหรือโมเดลไอ้บลูมันทนเกินไป มันเลยไม่พังลงมาให้สะใจเล่น
“เฮียปั้น!!!”คนแม่ตะโกนหน้าแดงก่ำ
“แง๊!!!!”ตัวลูกร้องตามมาติดๆ
“เอาออกไปไกลๆบลู”แล้วความซวยจะตกมาที่ใคร...ถ้าไม่ใช่กูน่ะ
สรุปวันนี้ผมเลยต้องเอาโปรตอนไปฝากไอ้ปิน ตอนแรกแม่งก็บ่นงุ้งงิ้งๆสะดีดสะดิ้งจะไม่เอา แต่พอเมียมันชอบเจ้าเด็กอ้วนเท่านั้นแหละ เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้าตีนทันที
กลับมาบ้าน ไอ้บลูก็ตั้งโต๊ะรอแล้ว มื้อเย็นก็มีแค่ต้มจืดกับไข่เจียว ...ชีวิตกูนี่น่าสงสารจัง แดกแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้วมั้ง
“เฮียเอาไอ้อ้วนไปทิ้งไว้ไหน”ผมว่าไอ้บลูมันไม่ได้เกลียดเด็กอะไรหรอก...มันก็แค่ขวางโลก
“โยนทิ้งไว้แถวๆข้างทาง”ตอบเสร็จก็ตักข้าวเข้าปาก
“ตลก...เอาลูกเขาไปโยนทิ้ง แล้วจะไปหาที่ไหนมาใช้เขาว่ะ”
“เออว่ะ...งั้นเรารีบไปทำลูกใช้พี่ปูนกันเหอะ”ผมวางช้อนเตรียมจะลุก แต่เมื่อสบตาขวางๆของเมียบังเกิดเกล้าก็ทำเอาผมที่กำลังคึกถึงกับฝ่อในทันที
“อย่ามากวนตีนเฮีย...เอาไปไว้ไหน”
“ก็เอาไปคืนพ่อมันนั่นแหละ ป่านนี้ก็คงเอาไปฝากเลี้ยง ไม่ก็จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงแล้วล่ะมั้ง”ผมเห็นไอ้บลูมันขมวดคิ้ว สักพักก็ยิ้ม สักพักก็ขมวดคิ้วอีก...ทำกายบริหารหน้าอยู่รึไง
“สันนิบาทแดกหน้าหรอ”ผมถามด้วยความเป็นห่วงเมียอย่างสุดหัวใจ
“อยากให้มันแดกหน้าเฮียด้วยปะล่ะ”ตาขวาง...
คิดว่ากูกลัวหรอ
ไม่ได้กลัวเว่ย
“....”แค่เกรงใจ
ถามว่าผมเริ่มกลัวเมียต้องแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ะ รู้ตัวอีกทีก็ไม่กล้ามีปากเสียงไปแล้ว อาจเป็นเพราะหลังๆเวลาผมตะคอกตะหวาดใส่ มันชอบแอบไปนั่งซึมนั่งเสียใจตีโพยตีพายว่าผมมีเมียน้อยล่ะมั้ง ผมก็เลยขี้เกียจจะเถียง ยอมๆแม่งไป เวลามันอารมณ์ดี ผมก็ลากมันขึ้นเตียงง่ายด้วย...ถือว่า วิน-วิน ทั้งคู่
“ไอ้อ้วนมันจะได้กินข้าวปะวะเฮีย มันชอบแกงจืดเต้าหู้ไข่มากเลยนะเฮีย”ชอบหรอ? ได้ข่าวว่าที่ทะเลาะกับมึงก็เพราะมันไม่ยอมกิน
“มันร้อง เดี๋ยวเขาก็หาไรให้กินนั่นแหละ”ผมพูดไปทั้งที่ตาเสมองทีวีที่เปิดเอาไว้เพื่อดูคนมากกว่า
“แล้วนมอ่ะเฮีย ถ้าอุณหภูมิไม่ถึง ท้องมันจะเสียนะ”ไอ้บลูมันยังคงบ่น
“เขาคงเลี้ยงเด็กเป็นแหละ”
“แล้วตอนตีสาม โปรตอนมันชอบตื่นนะ”ยัง ยังไม่จบ
“เขาเลี้ยงเด็กเป็น”ผมหันมาย้ำอีกครั้ง ไอ้บลูก็เงียบไป
.
.
.
เอามาลงก่อน(หมดตัวล่ะ) ถ้าวันอาทิตย์ไหวจะมาต่อนะคะ จุบุๆๆๆๆๆๆๆๆ
คอมเม้นตอนจบ ประทับใจน้ำตาปริ่มเลยค่ะ(แอบปริ้นแปะไดอารี่ด้วย
)
จะพยายามทำตามคำขอของทุกคนนะ
ขอบคุณทุกคนมากๆเลยคร่า(แล้วเขียดจะรีบกลับมานะ
)