ตอนที่30
http://www.youtube.com/v/GWrZO4D5BDQ กรุ๊งกริ๊ง!!
เสียงกระพรวนที่บานประตูดังกังวานเพื่อบานประตูถูกพลัก
“โทษทีหลิน พอดีวันนี้อาจารย์แกเลท”ผมพูดทั้งที่เหงื่อโทรมกาย...แดดแม่งส่องซะหน้ากูไหม้เลย
“ไม่เป็นไรบลู...ถ้าเป็นบลู ไม่ว่านานเท่าไหร่หลินก็รอได้”หลินยิ้มให้ผม วันนี้มันดูดีกว่าทุกวันนะครับ เพราะแค่แต่งหน้าอ่อนๆ “บลูทานไรดี”
“เอาโกโก้ปั่นก็ได้”ผมบอกทั้งที่นั่งหอบ
“ร้อนมากเลยดิบลู เหงื่อท่วมเชียว เดี๋ยวหลินเช็ดให้”ไม่ทันรอให้ผมอนุญาต กระดาษทิชชู่ก็กดลงบนหน้าผากผมอย่างบรรจง
“ขอบคุณนะหลิน แต่บลูเช็ดเองก็ได้”ผมพยายามดึงทิชชู่จากมือคนตรงหน้า
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกบลู”กูไม่ได้เกรงใจเว่ย แต่กูอาย...คนมองแม่งทั้งร้านแล้วเนี่ย
แต่ช่วยไม่ได้เนอะ ก็คนมันหล่อ
คริ!
“ว่าแต่หลินเถอะ นัดบลูมามีเรื่องไรหรอ”ในขณะที่หลินเผลอผมก็รีบฉวยทิชชู่ในมือหลินมาเช็ดเองทันที
“อ่อ นี่จ๊ะของฝาก”หลินยกถุงกระดาษสีแดงหรูหราขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“อะไรอ่ะหลิน”ผมถามอย่างใคร่รู้
“ช็อคโกแลต...หลินไปฝรั่งเศสมา”ทำไมคนไปเมืองนอกชอบซื้อช็อคโกแลตกลับมากันนักวะ
“ขอบคุณครับ”
ผมกับหลินนั่งคุยสัพเพเหระเกี่ยวกับเรื่องที่เธอไปทั่วฝรั่งเศสกันไปได้สักพัก โกโก้ปั่นที่ผมสั่งไปก็มาเสิร์ฟ เอาไงดีวะครับ จะถามไปโต้งๆเลยดีไหม แต่ถ้าถามไปแล้วมันแกล้งไม่รู้หรือโกหกขึ้นมาผมจะทำไง
“บลู...ไม่รู้ว่าบลูจะเชื่อไหม แต่ผ่านมาสามปีแล้วตั้งแต่ตอนที่เราเลิกกัน.. หลินก็ไม่รู้ทำไมนะบลู แต่หลินลืมบลูไม่ได้...”หลินสูดหายใจเข้าเต็มปอด “หลินรักบลู”รู้สึกเหมือนหูแม่งวิ้ง
อะไรวะ...กูงง
“ตอนนี้หลินก็ว่าง บลูเองก็ว่าง...เรากลับมาคบกันได้ไหมบลู”สีหน้าคนพูดนั้นเว้าวอน
“หลินรู้ได้ไงว่าบลูว่าง”ผมถามกลับไปตรงๆ
“ปั้นบอกหลินว่าเลิกกับบลูแล้ว”อ่อ นี่นอกจากทิ้งกูแล้วยังเอาไปส่งต่อสัมปทานอีกหรอ
“อืม...”ไม่รู้โมโหอะไร....ไม่รู้ว่าโมโหที่ไอ้เฮียส่งต่อผมง่ายๆ หรือโมโหที่หลินอยากจะกลับมาง่ายๆกันแน่ “หลินมีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีบลูจะขอกลับก่อน”ผมคว้าถุงของฝากมาไว้ในมือ
ไม่ได้งกนะเว่ย แต่กลัวเสียมารยาท คนเขาอุส่าเอามาฝาก...ไม่ได้งกจริงจริ๊ง
“บลู...บลู อย่าทำแบบนี้”ผมหันมองคนที่น้ำตาไหลพราก
ชิบหายล่ะ!...คนมองกูทั้งร้าน
“เฮ้ย! หลินใจเย็นๆ”ผมหยิบทิชชูออกมาจากกล่องไม้ ก่อนจะเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้กับหลิน
“หึ...บลูนี่ใจดีจัง”หลินคลี่ยิ้มพลางดึงมือผมไปอังข้างแก้ม “อ๊ะ...”ผมดึงมือออกด้วยความโมโหนิดๆ
“เราคงเชื่ออะไรหลินไม่ได้แล้วใช่ไหม”ผมพูดจบหลินก็หน้าเสียไปเลย “อะไรที่เริ่มจากการหลอกลวงน่ะ มันไม่จีรังหลอกนะหลิน”
เหมือนผมกับไอ้เฮีย...สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด
“หลินขอโทษ หลินแค่ยังไม่อยากให้บลูกลับ”เธอบอกเสียงแผ่ว
“หลินก็ควรพูดออกมาตรงๆ ไม่ใช่ทำแบบเมื่อกี้”เป็นไงล่ะ ได้ทีใส่ใหญ่เลยกู
“หลินขอโทษ...”ถึงกูจะเลว ชอบนิทาชาวบ้าน แต่พอเห็นหน้าสำนึกผิดของคนตรงหน้าแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้
“เฮ้อ”ผมถอนหายใจออกมา “หลินมีเรื่องอะไรอยากบอกเรารึเปล่า”
“หลินรักบลู”เงิบแดกเลยกู...อย่ามาทำหน้าจริงจังใส่กูนะเว่ย
“บลูไม่ตลกนะหลิน เหอะๆๆๆ”ผมหัวเราะในลำคออย่างเสียจริต
“หลินก็ไม่ตลกนะบลู”ชะอุ้ย! ตีหน้านิ่งใส่กูด้วย
“แต่หลินไม่คิดว่าหลินเปลี่ยนใจง่ายไปหน่อยหรอ ก่อนหน้านี้หลินก็คบกับเฮียปั้น แล้วตอนนี้หลินยังจะมาขอคืนดีกับเรา หลินต้องการอะไร เราไม่เข้าใจว่ะหลิน”ผมขยี้หัวตัวเองอย่างวิตก คือผมไม่เข้าใจจริงๆ คิดไม่อะไรไม่ออกแล้วโว้ยยยย
“ถ้าหลินบอกว่าหลินไม่เคยคิดอะไรกับปั้น บลูจะเชื่อไหม”ผมฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว “หลินคบกับปั้นเพราะหลินอยากมีโอกาสใกล้ชิดบลูอีกครั้ง แต่หลินพลาดเอง หลินเลือกคนผิด เพราะปั้นก็ชอบบลูเหมือนกัน ... แทนที่หลินจะได้ใกล้ชิดบลูอย่างที่หวัง กลายเป็นถูกกันให้ไกลยิ่งกว่าเดิมซะอีก”หลินแสยะยิ้มอย่างแค้นๆ “ตอนแรกหลินอยากจะกลับมาปลอบบลูแบบเนียนๆ ให้บลูค่อยๆซึมซับความรักของหลิน”หน้าแม่งเพ้อมากอ่ะ
“....”
“แต่หลินไม่อยากโกหกบลูอีกแล้ว ที่ปั้นเลิกกับบลูส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลิน”ราวฟ้าผ่าลงกลางใจ ผมกำมือแน่นอย่างควบคุมอารมณ์ “แต่ส่วนใหญ่น่ะเป็นเพราะตัวเขาเอง...”
ผมนั่งฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากหลิน ฟังไปฟังมารู้สึกว่าตัวเองมีเขาแล้วแดกหญ้าได้ขึ้นมาทันที แต่ถึงหลินจะโกหกผม ทำลายความรักของผม แต่ผมก็พร้อมให้อภัยเธอ ที่ผมให้อภัยไม่ใช่ว่าเธอพร่ำบอกว่ารักผมหรอก แต่เป็นเพราะในตาเธอ...ผมเห็นสิ่งที่เธอบอกนั้นจริงๆ
หลินบอกว่าจะคืนของที่หลินใช้ขู่ไอ้เฮียให้กับผม แต่ต้องไปเอาที่คอนโด เอ่อ กูหมายถึงเอาของนะ ไม่ใช่เอาแบบที่คิดๆกัน ห้องหลินอยุ่ชั้น17 เลาภายในลิฟต์นั้นช่างยาวนานไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากเราทั้งคู่ จนเมื่อลิฟต์เปิดออกช่วงขาเรียวสวยภายใต้กางเกงยีนส์ขายาวสีซีดก็ก้าวนำออกไป
ประตูห้องถูกเปิดออก ห้องนี้ทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาว ผมเข้าไปนั่งที่โซฟา ส่วนหลินก็เดินเข้าไปในห้องที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นห้องนอน ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับแผ่นซีดี
แกร๊ก!!!
แผ่นพลาสติกรูปวงกลมแผ่นบางถูกหักคามือหลิน
“นี่เมมโมรี่กล้อง”หลินนั่งลงข้างๆผมแล้วยัดบางสิ่งบางอย่างที่เธอพูดใส่มือผม “ในนี้มีคลิปบลูกับปั้นวันที่บลูโดนมอมยา”พูดถึงตรงนี้นัยน์ตาเธอก็สั่นระริกก่อนที่หยาดน้ำตาใสจะไหลเอ่อออกมา “ตอนที่ขึ้นไปช่วยบลูหลินแอบวางกล้องไว้ แล้วช่วงที่บลูกับปั้นไม่อยู่ หลินก็บอกลุงยามว่าหลินลืมของไว้ ขอให้ลุงช่วยเปิดห้องบลูให้หน่อย ซึงก็ง่ายแหละบลู เพราะหลินเป็นคนมาช่วยบลู ลุงก็เลยเปิดให้”เธอเหล่าถึงตรงนี้ผมก็พอเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง...เธอใช้สิ่งที่อยู่ในมือผมขู่ไอ้เฮีย
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบจนตอนนี้ผมได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของตัวเอง
“ที่จริงหลินกลับมาได้สักพักแล้วล่ะ รอยเล็บที่คอปั้น ไม่รู้บลูสังเกตเห็นไหม แต่หลินทำเอง คิสมาร์คก็ด้วย หลินทำทุกอย่างเอง...”พูดถึงตรงนี้หลินน้ำตาไหลพราก ตกลงไอ้เฮียมันไม่ได้นอกใจผมใช่ไหม...แอบดีใจเบาๆ “หลินเลวใช่ไหมบลู บลู ฮึก เกลียดหลินแล้วใช่ไหม”ถามว่าเกลียดไหม...คงตอบได้แค่ว่า เกลียดไม่ลง
เห็นแบบนี้กูแพ้น้ำตาสตรีนะโว้ย
“....”ผมไม่รู้จะพูดอะไร จึงเอามือไปปาดน้ำตาให้คนตรงหน้าแทน “เฮ้ย!”ผมร้องสุดเสียงเมื่อหลินผลักผมให้ราบไปกับโซฟา
“อยู่เฉยๆนะบลู...แล้วจะดีเอง”ห่า...จะดีเองตรงไหนล่ะ
โดนผู้หญิงข่มขืนนี่ รู้ไปถึงไหนกูได้อายถึงนั่นแน่
“หลิน ปล่อย”ผมพยายามเธอออก แต่สัมผัสนุ่มๆที่มือนี่อะไรวะ “เฮ้ย!”ผมสะดุ้งรีบปล่อยมือ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่ามือนั้นคือ...airbag
“มาจับแบบนี้ หลินเขินนะบลู”บอกว่าเขิน แต่เสือกหัวเราะนี่นะ “บลูนี่น่ารักจัง”หลินกดริมฝีปากลงข้างแก้มผม ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นมานั่งแบบเดิม
“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะหลิน ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่บลู หลินรู้ไหมจะเกิดอะไร”ผมยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะจัดเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง
“ก็เพราะเป็นบลูไง บลูน่ะเป็นสุภาพบุรุษจะตาย”หมายถึงกูแม่งไก่อ่อนชิบหายสินะ
“แล้วถ้าบลูอะไรหลินขึ้นมาล่ะ”
“หลินก็จะยอมไง”หลินยิ้มร่า “ตอนที่เราคบกัน บลูรักหลินบ้างไหม”
ตอนนั้นผมก็ยังเด็กนะ ถึงจะเคยมีแฟนมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเหมือนกับหลิน ถึงมันจะผ่านมานานพอควรแต่ผมก็ยังจำได้ ผมแอบชอบหลินมาร่วมปี แต่ก็ไม่กล้าจีบ เพราะแบบมันสวยเกินเอื้อมว่ะ แล้วตอนนั้นทั้งผมและหลินเองก็ต่างมีแฟนด้วยกันทั้งคู่ จนมาตอนม.4หลินก็มาจีบผมเอง แล้วเราก็คบกัน เยิบกัน และเลิกกัน
ถามว่าผมรักไหม ผมปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่าตอนนั้นผมรักหลิน คิดดู ถ้าไม่รักผมคงไม่จำแม่งมาจนวันนี้หรอก ทุกวันนี้ชื่อแฟนที่จำได้ก็มีหลินกับเฮียปั้นนี่แหละที่ยังฝังลึกอยู่ในเหง้าสมอง ซึ่งมันก็คงเป็นไปตามหลักจิตวิทยาที่เขาบอกว่าคนเรามักจำครั้งแรกได้ขึ้นใจ ซึ่งทั้งสองคนก็ต่างเป็นครั้งแรกของผมทั้งคู่...แม้จะคนละทางก็เหอะ
แต่ตอนนี้กับตอนนั้นมันหนังคนล่ะม้วนแล้วว่ะ เรื่องผมกับหลินถ้าเป็นหนังเป็นละครมันก็คงอวสานไปแล้ว ความรักที่ผมมีให้เธอตอนนั้นก็จบไปแล้วเช่นกัน แต่กับไอ้เฮียมันยังไม่ใช่ ถึงแม้มันจะมาบอกเลิกผม แต่ผม...ยังไม่ได้เลิกเว่ย
“หลินเป็นรักแรก”จริงจังเลยเนี่ย ขนาดอิน้องน้ำฝนแฟนตอนอนุบาลยังไม่ได้เป็นรักแรกของกูเลยนะ
“บลูก็รักแรก”หลินหันมายิ้มให้ผม
“ไม่จริงมั้ง”ก็ก่อนจะมาคบกับผม หลินก็ชื่อเสียงด้านผู้ชายไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก “แฟนเก่าหลิน หล่อกว่าบลูทั้งนั้น”
“หล่อกับรักมันคนละคำกันนะบลู”โอเค กูเงียบก็ได้ “รักแรกมันลืมยากเนอะบลู... แต่ถึงจะลืมยากมันก็เป็นรักที่จบไปแล้ว...หลินเข้าใจแล้วล่ะ”หลินโผเข้ากอดผม ...โอ้ว Airbag ทิ่มนมหนู “หลินจะคืนความรักให้...แต่หลินเองก็ไม่รู้หรอกว่าพี่ปั้นอยู่ที่ไหน แต่ที่ห้อง1704มีคนที่น่าจะรู้อยู่ บลูลองไปถามดูนะ”หลินผละออกจากอ้อมแขนผม
“ขอโทษนะหลิน...แล้วก็ขอบคุณ”ผมบับมือเธอเบาๆ
“หลินสิที่ต้องขอโทษ...รีบไปเถอะบลู อย่าเสียเวลากับหลินอีกเลย”คำพูดแม่งดราม่าสัดๆ
หลินเดิมจูงมือผมมาที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตูแล้วไปตามไขปริศนาว่าไอ้เฮียหายหัวไปไหน เสียงหลินก็ดังขึ้นอีกรอบ
“บลูเชื่อไหม ต่อให้จนตรอกอย่างไงหลินก็จะไม่มีวันใช้คลิปนั้นทำร้ายบลู”
“หลินทำร้ายบลูตั้งแต่ตอนที่หลินคิดจะเอามันมาขู่แล้วล่ะ”หลินก้มหน้าน้ำตาปริ่ม แต่ผมกลับดึงหลินเข้ามากอด ก่อนจะประทับจูบลงไปบนหน้าผากมน “แต่ว่าหลินน่ารัก บลูจะให้อภัย”ผมพูดยิ้มๆก่อนจะเปิดประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะไปไหนไกล “เฮ้ย!”ผมร้องเสียงหลงเมื่อฝ่ามือของอีกคนตะปบเข้าเต็มบั้นท้าย
“เป็นแค่ไก่อ่อนแท้ๆยังกล้ามาเหิมเกริมกับดิฉันอีกนะคะคุณชนานนท์”มาซะเต็มยศเลยกู “รีบไปเถอะ ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ”หลินแสยะยิ้มร้าย ยืนกอดอกพิงกรอบประตู
ผมรีบๆถอยห่างออกมา ไม่มีคำเอ่ยลาใดๆ หลินค่อยๆปิดประตูลง เพียงแว่บเดียวก่อนที่ประตูจะสนิท ใบหน้าตัวร้ายที่ส่งให้ผมเมื่อกี้กลายเป็นอีกคนหนึ่ง อีกคนที่ใบหน้าเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
...ห้อง1704...
หันซ้ายแลขวา ห้องฝั่งตรงข้ามหลินนี่เอง ผมกดกริ่ง รอสักพักก็มีเสียงดังมาจากอินเตอร์คอมพ์
/”หวัดดีครับ”/
“ดีครับ”ผมพูดกลับ โบกมือให้กับกล้อง
แล้วนี่กูมาหาใครวะ ลืมถามหลินด้วย แต่ช่างแม่ง มาถึงขนาดนี้แล้วมันก็ต้องลุยอย่างเดียวแล้วล่ะวะ
/”มาหาปินใช่ไหมครับ”/หืม?ไอ้ปิน /”ใช่บลูที่เป็นเพื่อนปินกับเฟาหรือเปล่าครับ”/
“อ่อ ใช่ครับ”ผมบอกทั้งที่หน้ายังมึนๆ...ไอ้เชี่ยปินมาทำอะไรที่นี่วะ
/”สักครู่นะครับ...ปิน ไปเปิดประตู...”/ได้ยินเสียงไอ้ปินแว่วๆ /”รอสักครู่นะครับ”/แล้วสัญญาณการเชื่อมต่อก็ตัดไปเลย
กรุกกรักๆ
แกร๊กกกก
แอ๊ดดดดดด
“เฮ้ย!”ผมคลี่ยิ้มเมื่อเห็นไอ้คนที่เปิดประตูมันสะดุ้งโหยงเมื่อเจอหน้าผม “ชิบหายแล้ว ไอ้เชี่ยบลูมา!!”ไอ้ปิดทำท่าจะปิดประตู แต่ผมก็เร็วอ่ะครับ กระแทกสวน ทำให้ไอ้ปินเซไปนั่งจุ่มปุกอยู่บนพื้น
“หวัดดีจ๊ะ เพื่อนรัก”ผมคลี่ยิ้มหวาน
“เป็นอะไรอ่ะ เสียงดังเชียว”เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับผมที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุดนอนขายาวแขนยาวลายทางขาวสลับน้ำเงินวิ่งออกมาดูก่อนจะประครองไอ้ปินขึ้นมา “เมื่อยหรอ”ถามไอ้ปินตาแป๋ว
“ทำไมเฌอไม่บอกว่าเป็นมันอ่ะ”ไอ้ปินถามเสียงอ้อนๆ..ถุย กูขนลุก
“ทะเลาะกันหรอ”ยังถามหน้าซื่อ
“เปล่าหรอก ไอ้ปินมันดีใจ...เฌอใช่ไหม”ถ้าจำไม่ผิด รุ้สึกจะเป็นเพื่อนเสมิร์ฟของอิเตี้ยมัน “แล้วทำไมเพื่อนเรามาอยู่กับเฌอได้ล่ะ... มันหายหัวไปตั้งนาน”
“ก็เราเจอปินมาเป็นลมอยู่หน้าห้องเราน่ะ ถามไปถามมาถึงรู้ว่าห้องปินถูกปีนน่ะ วิ่งหนีมาจนเป็นลมอยู่หน้าห้องเรา ...แล้วปินกลัวก็เลยขอมาอยู่กับเราน่ะ น่าเสียดายเนอะ เพิ่งเซ็นสัญญาเช่าแท้ๆ ยังอยู่ได้ไม่คุ้มเลย คอนโดนี้ก็ไม่ยอมรับผิดชอบอะไรด้วย เอาแต่บอกว่าไม่มีใครปีน นิสัยไม่ดีเลย”เฌอถอนหายใจทำหน้าเนือยๆ ส่วนผมก็หันไปมองไอ้เชี่ยปินที่ยืนเหงื่อตกอยู่ข้างๆเฌอ “ทั้งที่เราก็อยู่ห้องข้างๆกันแต่โชคดีนะที่ห้องเราไม่มีใครปีน แต่เราก็เห็นใจปินนะ ไม่กล้าบอกแม่เพราะกลัวแม่เป็นห่วง แม่เราก็ขี้เป็นห่วงเหมือนกัน”
“โอโห...”มึงตอแหลไฟแล่บมากไอ้เชี่ยปิน “เราขอเข้าไปข้างในได้ไหมเฌอ”
“เข้ามาเลยๆ...”ผมเดินเข้ามาตามคำชวน ก่อนที่เฌอจะเดินนำไปที่ห้องรับแขก “งั้นตามสบายเลยนะ เราขออ่านหนังสือก่อน”ผมฉีกยิ้มให้เฌอก่อนจะพยักหน้า
ห้องนี้ก็คล้ายๆห้องหลินนั่นแหละครับ ต่างกันที่ห้องนี้จะเน้นไปทางโทนสีฟ้าขาวดูแล้วสะอาดตาเหมาะกับเจ้าของห้องดีเหมือนกัน
“มึงมาทำไมวะ...แล้วใครบอกมึงว่ากูอยู่ที่นี่”ไอ้ปินกระซิบกระซาบถามผม
“กูขอไม่อ้อมค้อมนะไอ้ปิน เพราะกูมีเวลาไม่มาก ไอ้เฮียอยู่ไหน ถ้ามึงไม่บอก เรื่องที่มึงตอแหลเฌอ กูจะบอกเฌอ”ผมพูดเสียงเรียบ
“กูตอแหลอะไรไม่ทราบ”แหน่ะ ตีหน้ากวนส้นตีนกูอีก
“เรื่องที่มีคนปีนห้องมึง นี่มันชั้น17ไอ้ชิบหาย”
“กูโคตรปวดหัวกับพวกมึงสองมึงสองผัวเมียเลยว่ะ”ไอ้ปินจิ้มๆไอโฟนมันสักพักก็ส่งมาให้ผม “ถ้าอยากคุยกับมันก็โทรไปเบอร์นี้ เอาเครื่องกูไปโทรก็ได้แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอามาคืน”มันฉุดกระชากผมให้ลุกขึ้น “ตอนนี้มึงรีบไปเหอะว่ะ เดี๋ยวเฌอแม่งสงสัย”สงสัย? สงสัยอะไร “กูบอกว่าทะเลาะกับพวกมึงอยู่เลยไม่มีที่ไป”ไอ้ปินกระซิบกระซาบ
“ก็ได้ๆ งั้นกูถามอีกเรื่อง ทำไมเฮียต้องดรอปเรียนด้วยวะ”ไอ้ปินมีสีหน้างงงวยเมื่อผมพูดว่าดรอปเรียน
“อ่อ เอ่อ คือมึงจำตอนมันขับรถเสยเสาไฟฟ้าได้ปะ จริงๆแล้วแม่งยังไม่หายเว่ย กระดูสันหลังแม่งทับเส้นเหี้ยไรไม่รู้ มึงรีบไปเถอะ รีบตามไปดูใจผัวมึงเถอะ กูไหว้ล่ะไอ้สัตว์ รีบไป”ผมมองไอ้ปินที่ลุกลี้ลุกลน...นี่ไอ้เฮียเป็นหนักขนาดนี้เลยหรอ
แล้วยิ่งวันนั้นมันโดนผมกระทืบเข้าไปอีก ป่านนี้ไม่ใกล้ตายแล้วหรอวะ
ผมรีบวิ่งออกไปจากห้อง ในโฟนในมือนั่นสั่นไหวเพราะมือผมที่สั่นเทา...กูจะเอาไอโฟนไปขาย ไม่ใช่ล่ะ ไอ้เฮียมึงอยู่ที่ไหน ผมกดโทรออกเบอร์ที่ไอ้ปินให้มา ในใจนั้นร้อนรนไปหมด
/”ว่าไง”/น้ำเสียงยียวนกวนส้นตีนดังขึ้นจากปลายสาย
“เฮียปั้น เฮีย ฮึก อยู่ไหน”ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว...มึงอย่าเพิ่งตายนะโว้ย กูยังไม่อยากเป็นหม้ายผัวตายตั้งแต่ยังเป็นละอ่อน
/”ไอ้บลูหรอ มึงโทรมาทำไม”/นี่หรือคือคำทักทายของมึง
“อือ บลูรู้เรื่องหลินแล้ว ฮึก หลินให้เมมโมรี่มา มึงอยู่ไหนอ่ะเฮีย”ผมถามทั้งที่น้ำตาไหลพราก ผมกดปุ่มตรงลิฟต์ ได้แต่ยืนรอทั้งที่ใจห่อเหี่ยว
/”อ่อ งั้นหรอ”/มึงช่วยตื่นเต้นกับกูหน่อยเหอะ /”กูอยู่ญี่ปุ่น”/มันพูดจบผมก็เบิกตาโพลง...ห่า แม่งไปซะไกลเลย กูอุส่าจะไปดูใจสักหน่อย
“เฮียเป็นหนัก ฮึก ขนาดหมอในไทย ฮึกๆๆ รักษาไม่ได้เลยหรอ ฮืออออ”
/”หมออะไรของมึงวะ”/มึงอย่ามาตีมึนกลบเกลื่อนเลยเฮีย กูรู้ความจริงหมดแล้ว
“เฮีย บลูจะไปหาเฮีย ฮือออ บลูจะไปขอเงินม๊า เฮียอย่าเพิ่งตายนะ”ผมบอกก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ที่มาถึงพอดี
/”มึงจะมาทำไม อีกสองวันกูก็กลับแล้ว”/หมอญี่ปุ่นแม่งเจ๋งแท้วะ รักษาไม่กี่วันนี่หายเลยเรอะ
“ห๊า หายไวแท้วะ”ผมโพลงออกไป
/”หายอะไรของมึง นี่กูมาขายโปรเจ็กต์กับพี่กู”/ห๊า...ขายโปรเจ็กต์
“เฮียไม่ต้องมาหลอกบลู บลูรู้ความจริงหมดแล้วเรื่องกระดูกสันหลังทับเส้น แล้วถ้าเฮียแค่ไปขายโปรเจ็กต์จริง ทำไมต้องดรอปเรียนด้วย”กูดูซีรีย์บ่อยโว้ย พระเอกแม่งหลอกนางเอกไม่ยอมบอกว่าเป็นลูคีเมีย อย่ามาหลอกกูซะให้ยาก
/”ดรอปอะไรวะ ถ้าจำไม่ผิดกูลาหยุดแค่อาทิตย์เดียวเองนะ...มึงไปโดนใครเขาหลอกมาวะ”/
“....”เอ๊ะ รู้สึกเหมือนกูแดกหญ้าได้
ไอ้เชี่ยปิน ที่มึงกุเรื่องขึ้นเมื่อกี้ เพราะอยากให้กูไสตูดไปไกลๆใช่ไหมไอ้สันขวาน แล้วเมคเรื่องได้จังไรมาก...หัวใจกูเกือบหยุดเต้นแน่ะ
/”แล้วมึงรู้เรื่องหลินได้ไง”/
“หลินบอกบลูเอง แต่บลูไม่เข้าใจอ่ะเฮีย ทำไมเฮียไม่บอกอะไรบลูเลยวะ ถึงบลูจะดูโง่ๆไปบ้าง แต่สองหัวมันต้องดีกว่าหัวเดียวดิเฮีย”ถึงจะโล่งอกแต่กูก็น้อยใจเป็นนะเว่ย
/”ก็มันไม่ให้กูบอกมึง”/มึงก็เลยต้องเชื่อมันว่างั้น /”กูไม่กล้าเอามึงเข้าไปเสี่ยงหรอก...กูขอโทษมึงนะที่กูทำให้มึงเสียใจ ที่บอกไม่พร้อมคบกัน ตอนนั้นกูน้อยใจมึง แต่พอกูมาคิดดูดีๆมึงแม่งไม่รู้เรื่องอะไรนี่หว่า กูแม่งพาล แถมตอนบอกเลิกอีก หมัดกับตีนมึงหนักชิบหายเลยว่ะ”/
“ถ้าวันไหนเฮียคิดมีเมียน้อยก็คิดถึงหมัดคิดถึงตีนบลูไว้ละกัน”ผมพูดกลั้วหัวเราะ
/“มีมึงคนเดียวกูก็พอแล้ว”/ไม่ต้องมาหวานเลยไอ้สลัด...กูเขิน /”กูกลับไปเมื่อไหร่กูจะเอามึง”/น้ำลายแทบติดคอตาย
“แค่กๆๆ”
/”อีกสองวันมึงแก้ผ้านอนถ่างขารอกูบนเตียงได้เลย”/พูดจาติดเรทฉ.หาพ่อมึงหรอ /”แต่ก่อนกูกลับ มึงก็ลองไปคุยกับป๊ามึง ว่าจะให้มึงแต่งออกหรือให้กูแต่งเข้า”/
“แค่กๆๆๆ”ถึงกับสำลักน้ำลาย
/”ไปถามป๊ามึงเอง กูไม่บอกหรอกว่ากูกับป๊ามึงตกลงอะไรกัน”/ทำไมทุกคนในเรื่องนี้แม่งชอบให้กูลำบากกันแท้วะ บอกกูเลยไม่ได้หรอฟะ /”กูรักมึงนะบลู”/
“อือ บลูก็รักเฮีย...รีบกลับมานะ”รู้สึกอยากแกล้งมันคืนเหมือนกัน “บลูจะถ่างขารอ ฮ่าๆๆๆ”อิห่าแกล้งเขาแต่หน้ากูร้อนเอง
/”ปากดี... ถ้าทำไมได้อย่างที่พูด มึงจะโดน หึๆๆ”/ไอ้เฮียพูดก่อนจะหัวเราะเจ้าเล่ห์ /”แค่นี้ก่อนนะ กูขอไปเตรียมงานก่อน”/
“อือ รีบกลับมานะ”
/“อืม”/
เอาล่ะ ในช่วงที่ว่างนี้ผมก็คงต้องไปสืบปริศนา(ที่หวังว่าจะเป็นปริศนาสุดท้าย)จากป๊าสินะ
-----
เนื้อหา+ทอล์ค+ตอบคอมเม้นรีต่อไปนะจ๊ะ
