ตอนที่ 13ธันว์“Rrr Rrr....อืม กูใกล้ถึงแล้ว พวกมึงเข้าไปก่อนเลย....งั้นรอแป๊บ เฮียหลี่ผิงของมึงน่ะเส้นใหญ่อยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหา....เออๆ แค่นี้นะ” หลังกดวางสายจากไอ้นน ผมก็หันมาทางคนข้างตัวที่นั่งเก๊กหล่อ จ้องรอคำอธิบายของผมอยู่ก่อนแล้ว
“ไอ้นนโทรมาว่ามันเข้าไปในผับไม่ได้ เห็นว่ามีคนคุมหน้าประตูสกรีนคนเข้า ธันว์ก็เลยบอกให้รอเฮีย เพราะเฮียน่ะเส้นหย่ายยยย พาเข้าได้ไม่มีปัญหา ฮ่าๆ...อ๊ะๆ ธันว์รู้หรอก เฮียคิดจะขยี้หัวธันว์ล่ะเซ่ คิกๆ....อ่า! เฮียอ่ะ” ระหว่างที่ผมกำลังหัวเราะอย่างได้ใจ ด้วยสามารถหลบหลีกการกลั่นแกล้งของมังกรรูปหล่อได้สำเร็จ แต่ผมต้องหัวเสียนิดๆที่ต้องเสียแก้มให้มังกรเจ้าเล่ห์ตัวเดิม
วันนี้เฮียหลี่ผิงของผมหล่อมากเหอะ เนี้ยบไปตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่รู้จะแต่งอะไรนักหนาก็แค่มาเป็นผู้คุมผมเท่านั้น หรือความจริงมาเฟียรูปหล่อตั้งใจมาอ่อยสาวๆกัน
ผมที่ยกมือกุมแก้มและส่งสายตาพิฆาตปราบมังกร พร้อมแอบนินทามาเฟียใหญ่ในใจอยู่นั้น กลับโดนกระตุกต้นแขนจนตัวเซถลาเข้าหาอกแกร่ง ตามมาด้วยอ้อมกอดหลวมๆและแรงโยกตัวเบาๆ พร้อมถ้อยคำกระซิบขอโทษอย่างอ่อนหวานข้างหู
มังกรตัวนี้ก็ช่างร้ายกาจเพราะชอบนักล่ะที่ตบหัวแล้วมาลูบหลังกันเนี่ย แต่ผมที่โดนลูบหลังจนพาลจะโดนลูบส่วนอื่นๆไปด้วยกลับพอใจเล็กๆ ด้วยรู้สึกว่ากำลังถูกเอาใจและถูกแสดงความรักในแบบฉบับของนายน้อยหวางหลี่ผิงผู้ยิ่งใหญ่ ก็จะไม่ให้ผมแอบเหน็บคนรักได้อย่างไรกันล่ะครับ เพราะพอเฮียหลี่ผิงแค่โชว์หน้าหล่อๆกับการ์ดหน้าประตูแถมไม่ได้พูดสักแอะ การ์ดคนนั้นก็ก้มหัวให้เกือบถึงพื้นและแทบจะอุ้มพวกเราเข้าผับซะด้วยซ้ำ
“เฮียหลี่ผิงนี่สุดยอดว่ะ เส้นใหญ่จริงตามที่มึงบอก กูพูดกับมันปากแทบฉีก แถมจะยัดเงินให้อีกมันก็ยังไม่เอา ส่ายหน้าทำตาดุใส่กูท่าเดียว ไม่ให้กูเข้า จนกูต้องโทรหามึงนั่นแหละ” ไอ้นนยิ้มระรื่นชื่นชมไอ้เฮียของตัวเองกับผมใหญ่ แถมมีบ่นถึงเหตุการณ์ที่มันต้องเผชิญให้ฟังอีก ดูท่ามันจะร้อนใจอยากเจอหน้าพี่เบสแย่แล้วล่ะมั้ง
ผมเพียงพยักหน้าใส่ไอ้นนพร้อมฟังมันบ่นไปเรื่อยๆ และแอบสำรวจผับที่ตัวเองจะได้เข้าในคืนนี้ ซึ่งผมก็เลิกแปลกใจว่าทำไมผับแห่งนี้ถึงอยากมีคนเข้านักหนา ถึงขั้นต่อคิวรอแถวยาวเหยียดยืนขาแข็งเพียงเพื่อได้เข้ามาชื่นชม ด้วยการตกแต่งที่หรูหราทั้งวัสดุที่ใช้และเฟอร์นิเจอร์แปลกตา แถมผู้คนในนี้ก็แต่งตัวดูดีมีระดับ และจำกัดจำนวนคนที่อยู่ภายในทำให้ไม่แลดูอึดอัดมากนัก แต่ที่แห่งนี้ไม่ต่างจากผับอื่นตรงที่มีทั้งควันบุหรี่ ของมึนเมา เสียงเพลงที่ดังเกินระดับปกติ และผู้คนที่เข้ามาแสวงหาความสุขแบบฉาบฉวย
ผมที่นานๆจะได้เข้ามาสถานที่แบบนี้สักที จึงออกจะตื่นเต้นเล็กๆไม่ได้ ทำให้ได้แต่เดินตามแรงจูงของเฮียหลี่ผิงต้อยๆ เหมือนเด็กน้อยที่เข้าผับเป็นครั้งแรก ตามมาด้วยไอ้นลินไอ้นนและปิดท้ายด้วยพี่อู๋ จนกระทั่งพี่เป๋าที่คอยเปิดทางพาพวกเรามาถึงชุดโซฟามุมหนึ่งที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว แต่พอได้นั่งและกวาดตาไปรอบๆกลับเห็นแถบทุกส่วนของผับ
ไอ้นนไม่ลืมภารกิจของวันนี้ด้วยมันกวาดตาหาแฟนตัวเองทันที และบ่นพึมพำออกมาว่าไม่ยักเห็นไอ้พี่เบสทั้งๆที่ออกจากคอนโดก่อนหน้ามันนับชั่วโมง จนไอ้นลินต้องบอกให้มันใจเย็นๆและช่วยไอ้นนมองหาพี่เบสอีกคน ส่วนผมที่โดนมือใหญ่รั้งเอวไว้และแทบจะนั่งเกยไปกับตักของเจ้าของมือ ก็พยายามช่วยไอ้นนด้วยการชะเง้อคอหาพี่เบสเท่าที่จะทำได้
“Inch & Tease ยินดีต้อนรับนายน้อยแห่งหวางหย่งกังครับ” น้ำเสียงนอบน้อมที่ดังขึ้นทำให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องเจ้าของเสียง ซึ่งเป็นผู้ชายร่างเล็กวัยเกือบสามสิบในชุดสูทลำลองยืนส่งยิ้มสดใสให้ทุกคน หลังจากก้มหัวให้เฮีย
หลี่ผิงอย่างนอบน้อม
ผมเหล่หางตามองนายน้อยตระกูลหวางข้างตัวนิด ด้วยอยู่ๆก็เกิดนึกหมั่นไส้ขึ้นมา เพราะคิดไปแล้วว่าเฮียหลี่ผิงต้องมาที่นี่บ่อยมากแน่ๆ ไม่เช่นนั้นผู้จัดการร้านคงไม่ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองหรอก และผมก็น่าจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เหตุการณ์ที่หน้าร้านแล้ว เพราะการ์ดหน้าร้านก็ปล่อยให้พวกเราเข้ามาทันทีเพียงแค่เห็นหน้าอาเฮีย ซึ่งอาการของผมคงหนีไม่พ้นสายตาคมที่คอยจับจ้องมองผมตลอดเวลาอย่างแน่นอน เพราะจากหางตาผมเห็นเฮียหลี่ผิงกระตุกยิ้ม ก่อนนิ้วยาวๆข้างเอวจะสอดชายเสื้อเข้ามาไล้ผิวข้างเอวผมเบาๆเหมือนกำลังปลอบใจ
“คืนนี้ฉันแค่มาสังเกตการณ์เฉยๆ และไม่อยากเป็นจุดสนใจนัก ขอแค่เครื่องดื่มเบาๆกับของทานเล่นก็พอ” หลังคำพูดของเฮียหลี่ผิง ผู้จัดการร้านเพียงแค่รับคำและเดินจากไปอย่างรู้หน้าที่
“นลิน มึงเห็นไอ้เบสยังวะ มันไปไหนของมันวะ หรือว่าโดนใครลากไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นกูใจสลายแน่มึง” น้ำเสียงกระวนกระวายของไอ้นน ทำให้ผมละสายตาจากดวงตาวิบวับของคนข้างตัว หลังจากที่ผมตั้งใจส่งสายตาปรามเฮียหลี่ผิงที่แต๊ะอั๋งผมไม่เลิก
“ใจเย็นดิวะ มึงแน่ใจว่าเมียมึงมาที่นี่ ไม่ใช่ไปที่อื่นนะโว้ย แต่จะว่าไปเมียมึงก็มีสิทธิ์โดนลากว่ะ ไอ้พี่เบสสเปคเกย์ล่ำซะด้วย ขนาดมึงแมนๆยังหลงซะขนาดนี้”
“นลิน! มึงนะมึง ไม่ให้กำลังใจกันไม่พอ ยังแช่งกูอีกนะ” ไอ้นนที่โดนนลินแหย่ถึงกับควันออกหูด้วยแทงใจ เพราะพี่เบสเป็นตามปากไอ้นลินว่าจริงๆ
พี่เบสนั้นเป็นถึงเดือนโรงเรียนของเรา ที่มีลักษณะของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเหลือง หน้าตาจัดว่าหล่อเชียวล่ะ แม้บางมุมจะดูหวานจากขนตาหนาเป็นแพและลักยิ้มข้างแก้ม ซึ่งมักจะมีทั้งเกย์ล่ำกับสาวน้อยน่ารักมาแสดงความสนใจพี่เบสเสมอ ทำให้ไอ้นนต้องแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของอยู่บ่อยๆ ซึ่งผู้ชายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบนี้ ดันเสร็จไอ้ล่ำดำถึกประจำกลุ่มของผมซะได้
แต่อย่าไปบอกมันนะครับว่าผมแอบว่ามันแบบนั้น แม้ความจริงไอ้นนในสายตาคุณ มันอาจจะดูดีกว่าสิ่งที่ผมว่าก็เถอะ เราอย่าไปชมมันเป็นการดีเพราะมันจะยิ่งหลงตัวเอง
“นั่นใช่นายเบสรึเปล่า” เสียงเรียบนิ่งที่มาพร้อมอาการพยักพเยิดของเฮียหลี่ผิง สามารถยุติการต่อปากต่อคำของไอ้นนและนลินได้ชะงัด ไอ้นนถึงกับชะเง้อคอยาวไปในทิศทางดังกล่าวทันที
พี่เบสเดินมากับอาหมวยฮ่องกงหุ่นอวบอัด ดูท่าคงเพิ่งไปห้องน้ำด้วยกันมา มิน่าพวกเราถึงไม่เห็นพี่แกแต่แรก แถมผู้หญิงคนนั้นคงสนิทกับไอ้พี่เบสมากซะด้วย เพราะมีควงแขนและส่งยิ้มหวานจ๋อยให้กันด้วย ทำให้ไอ้เจ้าของตัวจริงอย่างไอ้นนกัดฟันกรอดจ้องเขม็งไม่วางตา ก่อนเสียงลอดไรฟันของไอ้นนจะดังขึ้น
“ผู้หญิงคนนั้นใครวะ นี่แสดงว่าไอ้เบสจีบผู้หญิงอื่นประชดกูใช่มั้ย ถ้าจริงอย่างที่กูคิด มันได้เห็นดีกับกูแน่!” หน้าตาท่าทางไอ้นนตอนนี้น่ากลัวมากครับ ผมไม่ค่อยได้เห็นมันลุคนี้บ่อยนัก และกลัวใจไอ้นนมันจะทำร้ายพี่เบสอย่างปากว่า
“นน ใจเย็นๆดิ เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ ขืนมึงวู่วามตัดสิน จากที่ไม่มีอะไรอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่นะโว้ย แถมมึงยังมีความผิดติดตัวอยู่ หากไปโวยวายใส่พี่เบสโดยที่ไม่ถามไถ่ มึงอาจจะโดนทิ้งนะ” ไอ้นนที่ขมุบขมิบเถียงผมเบาๆนั้น หุบปากสนิทพร้อมเบือนหน้ามามองผมตาโตทันที เมื่อคำว่า ‘โดนทิ้ง’ หลุดจากปากผมไปให้มันได้ยิน จนผมนึกขำแต่ขืนหลุดขำ ผมคงโดนมันกระทืบเป็นแน่
ส่วนไอ้นลินที่ไม่ได้คิดอย่างผม มันกลับหลุดขำกิ๊กออกมาซะได้ แต่ก่อนที่เพื่อนจะฆ่ากันตาย ผมจึงรีบยื่นแก้วเครื่องดื่มสีฟ้าใสให้ไอ้นนเป็นการตัดบท มันจ้องแก้วในมืออย่างขัดใจ ด้วยไม่ใช่ของที่ถูกปากเพราะระดับดีกรีของแอลกอฮอล์ช่างน้อยนิด แต่มันคงไม่สามารถขัดใจไอ้เฮียของมันที่เป็นคนสั่งได้ มันจึงได้แต่ส่งค้อนให้ผมแทน
‘แน่ะ! มึงไม่มีปัญญาต่อว่ามาเฟียใหญ่เองล่ะเซ่ แล้วเหวี่ยงใส่กูทำมาย ชิ!’
“ธันว์มันพูดถูก ใจเย็นๆไว้เพื่อน ดูท่าทีสองคนนั่นไปก่อน ฮึๆ” ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับไอ้นลิน มันก็ทำเป็นพูดดีทีเมื่อกี้ใครว้าที่หัวเราะซะดัง
หลังจากนั้นความสนใจของไอ้นนและไอ้นลิน ก็จดจ่อไปที่ไอ้พี่เบสและหมวยอวบคนนั้น ส่วนผมก็นั่งจิบเครื่องดื่มหวานเย็นสีสวยที่มีรสขมติดปลายลิ้นจนเพลิน โดยมีผู้คุมใหญ่นั่งประกบโอบเอวไม่ห่าง แถมพอผมจะขอพี่อู๋เติมเป็นแก้วที่สามก็กลับดึงแก้วผมหลบ พร้อมส่งสายตาดุๆเข้าใส่ผมอีกด้วย
ผมจึงรีบส่งยิ้มหวานประจบพร้อมคำขอด้วยเสียงอ้อนๆ จนดวงตาแข็งๆเริ่มอ่อนแสงลง เมื่อเห็นเป็นโอกาสว่าจะได้ชิมน้ำหวานสีฟ้าสวยแน่แล้ว ผมจึงยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มสากเสียหนึ่งที คุณๆที่ได้เห็นท่าทางของผมอย่าเพิ่งเหมารวมว่าผมเมานะครับ
‘ผมยางม่ายมาวซ้าหน่อย แต่ผมแค่รู้สึกอยากยิ้มอยากอ้อนใส่คนรูปหล่อข้างตัวเท่านั้นเอง’ ก็ใครใช้ให้เฮียหลี่ผิงหน้าตาดี จนสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมาส่งสายตาเชิญชวนให้กันล่ะ ผมที่เป็นแฟนย่อมอยากประกาศให้รู้ว่าคนนี้น่ะแฟนโผม!
“ฮึๆ เมาแล้วล่ะสิคนเก่ง แล้วแบบนี้เฮียจะให้เราคลาดสายตาได้ยังไงกัน เฮียให้อีกแก้วเดียวนะครับน้องธันว์” ผมรีบพยักหน้ารัวๆแทนคำตอบทันที แต่ถ้าหมดแก้วนี้ผมก็ใช้วิธีเดิมนี่แหละ ส่งยิ้มหวานๆและหอมแก้มนิดหน่อย ผมก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ คิกๆ
“อ้าว ธันว์เมาแล้วเหรอคะ ดีนะคะเนี่ยที่เฮียมาด้วย” ผมเงยหน้าจากปากแก้วและส่งยิ้มให้ไอ้นลิน เพราะเห็นด้วยกับคำพูดของมัน
ในนี้น่ะแอร์เย็นจะตายดีที่มีเฮียหลี่ผิงมาด้วย ผมจึงได้อ้อมกอดอุ่นๆคลายหนาว ก่อนจะหันไปส่งยิ้มขอบคุณเจ้าของอ้อมกอดอีกหนึ่งที ทำให้ผมได้รับรอยยิ้มหล่อๆและแววตาเอื้อเอ็นดูเป็นการตอบแทน พร้อมวงแขนรอบตัวที่กระชับแน่นขึ้น
“ฮึๆ เมาแล้วอ้อน ค่อยสมกับหน้าตามึงหน่อย”
‘เอาเลยนลิน มึงอยากพูดอะไรก็พูดไปกูไม่สน เพราะตอนนี้กูสนแค่แก้วในมือและมาเฟียรูปหล่อของกูเท่านั้น’ ว่าแล้วก็ขอสูดกลิ่นหอมๆของแผ่นอกที่ผมซวนซบหน่อยเถอะ
“ยั่วเฮียเหรอครับน้องธันว์” เสียงพูดเบาๆเหนือหัวทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นส่ายหัวเบาๆ พร้อมเอ่ยปฏิเสธแต่ทำไมผมบังคับลิ้นให้พูดชัดๆไม่ได้นะ หงุดหงิดชะมัด
ผมจึงคว้าแก้วบนโต๊ะขึ้นและยกดื่มรวดเดียว ทำให้รู้สึกถึงรสหวานปนขมพร้อมรอยอุ่นวาบจากลำคอจนถึงกระเพาะ แต่พอลืมตาขึ้นกลับเห็นเฮียหลี่ผิงกลายเป็นมังกรสองหัว ฮ่าๆ
“อ้าว ไอ้ธันว์เมาแล้วเหรอวะ นลิน กูทนไม่ไหวแล้วว่ะ”
‘อะไรกูไม่เมาสักหน่อย แค่กรึ่มๆเหอะ อ่า~ ทำไมวันนี้มาเฟียหย่ายหล่อจัง’
“อะไร มึงทนเสน่ห์ไอ้ธันว์ไม่ไหวไง”
‘อี๊! ธันว์ไม่เอาไอ้นนอ่ะ ธันว์จะเอาเฮียหลี่ผิงรูปหล่อยิ้มหวานคนเดียว’
“เฮ้ย! มึงหาเรื่องให้กูแล้วมั้ยล่ะ เฮีย ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะ”
‘แก้มเฮียหลี่ผิงหอมจัง แล้วทำไมเฮียต้องหัวเราะกับไอ้นนด้วยล่ะ ธันว์อยู่ทางนี้’ ผมคว้าแก้มมาเฟียรูปหล่อให้ก้มมองตัวเองทันที เมื่อได้สบตาแวววาวก็ส่งยิ้มหวานให้ซะเลย
“นลิน มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย ไปฉุดไอ้เบสออกจากผู้หญิงคนนั้นให้กูที กูไม่อยากได้ชื่อว่ารังแกผู้หญิง ดูดิ ยัยนั่นแทบจะจับมันแดกอยู่แล้วนั่น นะมึงช่วยกูหน่อย”
‘โอเค้ กูช่วยมึงเองไอ้นน’
“น้องธันว์จะไปไหนครับ”
‘เอ๋ คนหล่อนี่ก็เข้าใจอะไรยากเหมือนกันเนอะ ได้ยินอยู่ว่าไอ้นนขอความช่วยเหลือ น้องธันว์คนน่ารักของเฮียหลี่ผิงก็จะไปช่วยเพื่อนล่ะเซ่’
“จา ไปลาก พี่เบส..อึก...ห้าย อ้าย นน” ผมตอบไปแล้วแท้ๆ ทำไมเฮียหลี่ผิงถึงไม่ยอมคลายกอดให้ผมได้ช่วยไอ้นนล่ะ จึงออกแรงดิ้นน้อยๆทั้งๆที่เริ่มจะมึนหัว ‘อ๋อย! ใครจับผมใส่จานหมุนเนี่ย’
“เฮียหลี่ผิงพาไอ้ธันว์กลับก่อนเถอะค่ะ ดูท่าจะเมามากแล้ว ทางนี้เดี๋ยวนลินช่วยไอ้นนเอง”
‘ไม่เอาไอ้นลิน กูอยากช่วยไอ้นน’ แต่ทำไมตัวผมถึงลอยจากพื้นล่ะเนี่ย คิกๆ แต่แบบนี้ก็สนุกดีแฮะ
“น้องธันว์เกาะเฮียดีๆนะครับ เฮียจะพากลับบ้านของเราแล้ว”
เสียงนุ่มที่ดังข้างหูพร้อมลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดข้างแก้มนั้น ทำให้ผมรู้สึกไว้วางใจและอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด จึงใช้แขน
กอดรอบคอและใช้ขารัดรวบเอวคนพูดตามคำสั่งแต่โดยดี แถมซอกคอเฮียที่ชิดปลายจมูกก็หอมนัก จนอยากสูดกลิ่นหอมอยู่แบบนี้นานๆ ผมจึงฝังจมูกเข้าหาผิวเนื้ออ่อนตรงหน้าจนชิดกว่าเดิม และอยากจะรู้นักว่าผิวหอมๆรสชาติจะเป็นยังไง จึงลองแลบลิ้นเลียเพื่อชิมดู
“อ่า~ น้องธันว์~” รสชาติก็ไม่เท่าไหร่มันออกเค็มซะด้วยซ้ำ แต่ผมชอบเสียงหวานๆที่ดังเรียกชื่อผมมากกว่า และอยากได้ยินอีก ผมจึงลองใช้ลิ้นเลียชิมอีกครั้งพร้อมดูดผิวเนื้อนั้นแรงๆ
“ซี้ดดด อดทนไว้ก่อนที่รัก...อาอู๋ เปิดประตูเร็ว ตรงกลับบ้านเลย” ทำไมผมต้องอดทนด้วยล่ะ ขอชิมแค่เนี้ยทำหวงไปได้
‘น้องธันว์โกรธเฮียหลี่ผิงแล้วนะ จะหวงไปให้สาวที่ไหนชิมกัน’ ผมจึงกัดเนื้ออ่อนตรงซอกคอซะเลย จนได้กลิ่นเลือดพร้อมรสคาวในปาก เมื่อผละออกจึงได้เห็นปื้นน้ำสีแดงจางๆ
“อูยยย กัดกันเลยเหรอคนเก่ง” ผมทำคนรักเจ็บตัวแถมมีเลือดออกด้วย แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ดูท่าเฮียหลี่ผิงต้องเจ็บมากแน่ๆ แต่น้องธันว์ไม่ได้ตั้งใจทำจริงๆนี่ น้องธันว์แค่หวงเฮียหลี่ผิง....ฮึกๆ
“หืม ร้องไห้ทำไมคนเก่ง ชู่ๆๆ ไม่ร้องนะครับ” ปลายนิ้วอุ่นๆมาพร้อมคำปลอบประโลมให้ผมคลายความเสียใจ ก่อนปลายคางผมจะถูกเชยขึ้น ทำให้ได้พบกับแววตาแสดงความเอื้อเอ็นดูชัดเจน
“น้อง...ธันว์ ฮึกๆ ขอโทษ ที่ทำให้เฮียเจ็บ ฮือออ” ผมทำผิดเห็นๆแล้วทำไมอาเฮียถึงไม่ลงโทษผมล่ะ แต่กลับกอดปลอบพร้อมโยกตัวผมน้อยๆ ทำให้น้ำตาผมยิ่งไหลอาบแก้ม
“โอ๋ๆ ไม่ร้องคนเก่ง เฮียไม่เจ็บครับ ไหนให้เฮียดูหน้าคนหล่อของเฮียหน่อยเร็ว เฮียเช็ดน้ำตาให้หมดแล้ว เลิกร้องนะครับ ไหนน้องธันว์ยิ้มให้เฮียดูหน่อยสิ” เจ้าของรอยอุ่นจากปลายนิ้วตามผิวแก้มที่เช็ดน้ำตาออกจนไม่เหลือคราบ กำลังส่งยิ้มปลอบพร้อมคำหลอกล่อ
ผมที่กำลังสะอึกสะอื้นโอนอ่อนยอมทำตามคำคอ ด้วยการระบายยิ้มเต็มวงหน้า แถมด้วยจูบอีกทีที่ริมฝีปากหนาเบาๆ แทนคำขอบคุณที่เฮียหลี่ผิงไม่โกรธกัน
“น้องธันว์รักเฮียหลี่ผิงจัง”
“น้องธันว์~ เมาแล้วยั่วนะรู้ตัวมั้ย” ผมขมวดคิ้วเอียงคอใส่เจ้าของตักที่กำลังฉีกยิ้มกว้างตาพราว ก่อนรั้งต้นคอที่โอบไว้เข้าหา เพราะเริ่มไม่พอใจคนรูปหล่อที่กำลังหาความให้ซะแล้ว
“ธันว์ไม่ได้มาวซ้าหน่อย แล้วจะยั่วได้งาย เหอะ!” แน่ะ! ผมต่อว่าออกไปแท้ๆแต่ทำไมยังยิ้มหล่อให้กันอีก งั้นต้องพิสูจน์ว่า
‘โผม ม่าย ด้าย มาว’ แต่ก็ยั่วได้นะ!
ผมจึงเปลี่ยนจากหน้าบูดๆมาส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้คนหน้าหล่อ ก่อนยื่นหน้าไปหาจนปลายจมูกเราชนกัน และจ้องสบตาแวววาวที่แสดงออกถึงความถูกใจ พร้อมขยับสะโพกบดเบียดลงบนเป้ากางเกงที่เริ่มโป่งนูน จนได้ยินเสียงครางแผ่วหวิวออกจากลำคอหนาที่แดงระเรื่อลามไปจนถึงผิวหน้า
“อ๊า~” ริมฝีปากหนาแดงฉ่ำที่เผยอเปิดน้อยๆออกจากกัน ถูกผมประกบปิดและแทรกลิ้นผ่านเพื่อกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากอุ่น
ผมดูดกลืนตักตวงความหวานหอมของรสจูบเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้เมา เพราะคนเมาที่ไหนจะมีสติบรรจงปั้นจูบหวานๆแบบนี้มอบให้แก่คนรักได้กัน
“อ่าๆๆ....ใครว่าธันว์เมา! ถ้าเมา ธันว์จะจูบได้หวานจนเฮียหลี่ผิงเคลิ้มอยู่แบบนี้เหรอ”
“เฮียยังไม่เชื่อหรอก ก็แค่จูบ แต่ถ้าน้องธันว์อยากจะพิสูจน์ให้เฮียเชื่อล่ะก็ ฮึๆ พอถึงบ้านของเรา ธันว์ลองหาอะไรๆที่มากกว่าจูบมาพิสูจน์สิครับคนเก่ง”
“ได้!! ธันว์จะพิสูจน์ว่า ธันว์ ม่าย มาว”
..........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ใครว่าน้องธันว์เมา...ไม่เม๊า ไม่เมา เนอะ

เด็กอะไรเมาแล้วยั่วแถมน่าเอ็นดูเป็นที่สุด
ส่วนหลี่ผิงก็ช่างเจ้าเล่ห์สามารถหลอกล่อน้องให้ติดกับตัวเองอีกแน่ะ
ตอนหน้ามาดูกันค่ะว่า “ธันว์ ม่าย มาว” ผลออกมาจะเป็นเช่นไร
และคนเก่งของเฮียหลี่ผิงจะเข็ดมั้ย
+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์เช่นเดิม ขอบคุณจากใจค่ะ
เจอกันวันสีฟ้านะคะ
