[เรื่องสั้น] ขอให้รักเคียงข้าง 16/6/2556 จบแล้วนะคะ ย้ายได้เลยคะ ^^
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ขอให้รักเคียงข้าง 16/6/2556 จบแล้วนะคะ ย้ายได้เลยคะ ^^  (อ่าน 26737 ครั้ง)

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2013 19:39:21 โดย timtam »

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
สวัสดีคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของตัวเองล้วนๆ ไม่มีเค้าโครงเรื่องจริงหรืออิงชีวิตใครมา สถานที่และทุกๆอย่างในเรื่องจึงเป็นเรื่องสมมติ อยากให้ลองอ่านนะคะ สนุกไม่สนุกยังไงก็ติดตามอ่านและติชมได้ตามสบายนะคะไม่ว่าเพราะแต่งเรื่องแรกอาจจะไม่สมบูรณ์แต่ก็อยากให้ทุกคนได้อ่านนะคะ :mew2:

ตอนที่ 1
“โว้ย! แล้วทำไมไม่บอกต้องแต่ทีแรกวะว่าไม่เล่น” เสียงโวยวายของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย อาจจะเพราะด้วยอากาศที่ร้อนและการทำงานมายาวนานทำให้คนอยู่รอบตัวที่ต่างทำงานของตัวเองอยู่เงยหน้าขึ้นมองสถานการณ์ตรงหน้า
“เอ่อ...พี่ภีมครับเราใช้สตั๊นเล่นแทนไม่ได้เหรอครับ” ชายหนุ่มที่ยืนข้างๆชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่โวยวายเมื่อครู่เอ่ยขึ้น
“ก็ถ้าหาสตั๊นผู้หญิงได้กุจะโวยวายแบบนี้เหรอวะ” อีกคนยังคงโวยวายอย่างอารมณ์เสีย 
.
.
.
.
“ต๊ายดูท่ายัยนางเอกหน้าใหม่นี่จะสมจริงกับคำร่ำลือทีเดียว กล้าทำพี่ภีมผู้กำกับหัวเสียได้ขนาดนี้สงสัยนางจะอยู่วงการนี้ไม่ยืดซะแล้ว” ช่างเสริมสวยที่บรรจงแต่งหน้าให้นักแสดงภายในกองอยู่เอ่ยขึ้นหลังจากเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะพี่เอมมี่” นักแสดงสาวที่ช่างแต่งหน้ากำลังแต่งให้อยู่เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
“จะอะไรหล่ะคะคุณน้องปิ่น ก็แม่นักแสดงนางเอกหน้าใหม่ไฟแรงลองของด้วยการที่ไม่ยอมเข้าฉากบู้ล้างผลาญสะบั้นหั่นแหลก ทั้งที่ตอนแรกที่ได้บทก็รู้อยู่แล้วว่าต้องแสดงตกปากรับคำพี่ภีมซะดิบดี แต่เมื่อวานพอถ่ายฉากบู้เสร็จนะนางก็อิดออดๆ บอกว่าเข้าฉากแล้วขาเรียวสวยของนางมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆ นางแสดงไม่ไหวหรอกขอให้หาสตั้นมาแทนนาง”
เสียงพี่เอมมี่ช่างเสริมสวยสาวเทียมร่างใหญ่เอ่ยปากเล่าเรื่องพร้อมกับบรรจงแต่งหน้าให้ปิ่นดาราสาวซึ่งรับบทเป็นตัวร้ายในเรื่องแต่นิสัยดีมากในชีวิตจริงเล่าอย่างสนุกสนาน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของกองถ่ายละครหล่ะนะที่จะมีเรื่องเม้าท์และข่าวลือต่างๆมากมาย 
“เฮ้อออ” ผมได้แต่ถอนหายใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ตอนนี้ผมรอเข้าฉากมาเกือบครึ่งค่อนวันแล้วแต่ก็ยังคงต้องรอต่อไปเผื่อบางทีอาจจะได้เข้าฉากตัวประกอบแล้วได้เงินเพิ่ม แต่หน้าที่หลักๆของผมคือสตั้นนั่นแหละแต่ที่ตอนนี้ผมยังไม่ได้เข้าฉากก็เพราะแม่นักแสดงนางเอกสาวที่พี่เอมมี่ช่างแต่งหน้าพูดถึงนั่นแหละ จะกลับห้องก็ไม่ได้ อยู่นี่ก็เบื่อจะตาย
“ถอนหายใจอะไรวะไอ้ครีม” ผมเงยหน้าขึ้นมองซีเพื่อนที่ทำงานสตั้นแบบเดียวกับผม
“ก็เบื่อๆวะ อยากทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับห้อง”
“อะไรคิดถึงเมียที่ห้องเหรอวะ”
“-__________-”
“อ่อลืมไปอย่างมึงต้องคิดถึงผัวววว”
“ไอ้ซีกวนทีน” ผมหันไปตบหัวมันทันที ไม่แปลกที่มันจะแซวแบบนี้เพราะชีวิตผมที่ผ่านมาก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เข้ามาจีบ ผมก็คบหมดแหละแต่คือถึงจะคบผู้ชายคือผมก็คบแบบผมเป็นฝ่ายรุกนะจะให้ผมรับนี่คงจะไม่ไหวจริงๆขอบาย
“พักกองโว้ยยยยยยยยยยย” แล้วเสียงพี่ภีมผู้กำกับก็ตะโกนขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งคุยกับซีอยู่ 
“ซีกุไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”  ผมพูดจบแล้วก็ลุกเดินออกมาทันที
“พี่ภีมครับ เราติดต่อทางบริษัทจัดหาตัวแสดงแทนแล้วครับแต่สตั้นผู้หญิงนี่คิวเต็มหมดแล้วครับ ถ้าจะได้คือต้องอาทิตย์หน้าเลยนะครับ” ชายหนุ่มคนเดิมที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับเอ่ยขึ้น
“เอออาทิตย์หน้า ก็ต้องย้ายฉากจากที่นี่แล้วจะมาอาทิตย์หน้าได้ไงวะ โว๊ะพี่ละปวดหัวขอบใจมากน้องภู  ลองติดต่อบริษัทอื่นดูอีกทีนะ”
“ครับ”
ผมเงยหน้ามองพี่ภีมที่ยืนคุยกับพี่ภูทั้งที่อยู่ในห้องน้ำกำลังยืนฉี่นี่แหละพี่ภีมเป็นผู้กำกับที่จัดได้ว่าอยู่แนวหน้าของประเทศเลยทีเดียว พี่ภีมเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำ อืมมมก็คล้ำนะเพราะถ้าเทียบกับพี่ภูที่ยืนข้างๆรายนั้นนะตัวเล็กกว่าพี่ภีมเยอะแถมยังผิวขาวหน้าตาก็หล่อพอๆกับพระเอกในกองเลยแหละ  หลังจากที่ผมทำธุระเสร็จก็เดินหันหลังออกมาเพื่อไปล้างมือ แต่ตอนล้างมือนี่สิ ผมรู้สึกมีสายตาที่จับจ้องแผ่นหลังผมอยู่นะ ผมเลยตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองในกระจกก็พบกลับสายตาของพี่ภีมที่มองมา เอ่อ...หรือพี่เค้าจะไม่พอใจที่ผมฟังเค้าคุยกันเมื่อกี้วะก็ไม่ได้ตั้งใจนะก็ห้องน้ำมันที่สาธารณะนี่หว่า ผมยิ้มนิดๆก่อนจะรีบล้างมือแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำแต่....
“เห้ยเดี๋ยวก่อน ” เสียงพี่ภีมเรียก เรียกผมเหรอวะ
“ครับ”
“ชื่ออะไร”
“ครีมครับ”
“เป็นสตั้นใช่มั้ย” พี่ภีมถามหลังจากมองเสื้อยืดสีดำที่ใส่เป็นเสื้อของบริษัทจัดหานักแสดงแทนที่ผมใส่อยู่
“ครับ” ผมตอบสั้นๆกลับไป
“มานี่” พี่ภีมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรคว้ามือผมตัวปลิว ปลิวจริงๆนะเว้ยก็พอมายืนใกล้พี่ภีมแมร่งตัวยังกะยักษ์  ผมหันหน้าไปมองพี่ภู ก็พบว่ารายนั้นยิ้มนิดๆก่อนจะเดินตามมา นี่มันอะไรกันวะ บอกกุที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2013 19:40:14 โดย timtam »

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
สตั๊นสาวคนใหม๋แน่ๆ :)))

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 2
ซีน 12 เทค 3 1 2 3 แอคชั่นนนน
เสียงต่อสู้ เอฟเฟคต่างๆพร้อมโหมกระหน่ำทันที  การต่อสู้อันเป็นฉากหนึ่งของละครเรื่องนี้ดำเนินยาวนานไปกว่า 15 นาที ก่อนเสียงผู้กำกับจะดังขึ้น
“คัทททททททท ยอดเยี่ยม “
หลังจากสิ้นเสียงไอ้พี่ภีมผู้กำกับผมก็รีบวิ่งมานั่งพักทันที ผมมองไปที่นักแสดงคนอื่นๆที่ตอนนี้เหล่าคอสตูมกำลังวิ่งเข้ามารุมทึ้งจัดการให้
“ต๊ายยย น้องครีมคะมานั่งแอบตรงนี้นี่เองพี่เอมมี่ตามหาตั้งนานมานี่สิคะ” เออฟังไม่ผิดหรอกครับตอนนี้ผมก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีทีมคอสตูมมารุมทึ้งอีกคน ผมได้แต่ถอนหายใจ
“พี่เอมมี่ครับนี่ผมยังต้องแต่งหน้าอีกเหรอครับ” ผมบ่นอย่างปลงๆ
“ใช่สิจ้ะ แหมน้องครีมนี่ออกจะสวยนะคะแต่งแล้วเจิดมากอีนางเอกนั่นยังตกกระป๋อง พี่ภีมนี่ก็ตาถึงจริงๆ” พี่เอมมี่พูดพร้อมกับเอาเครื่องสำอางต่างๆโบกลงบนหน้าผมไปด้วย ใช่ตอนนี้ผมมาเป็นตัวแสดงแทนให้กับแม่นางเอกในฉากบู้ล้างผลาญนั่นไง จะเพราะใครหล่ะถ้าไม่ใช่เพราะพี่ภีมผู้กำกับตาถึงของพี่เอมมี่ที่บอกว่าด้านหลังของผมถ้ามองจะเหมือนผู้หญิงมีทรวดทรงองเอว  แถมส่วนสูงผมก็พอๆกับแม่นางเอกนั่น ใส่วิกซักหน่อยก็น่าจะเอามาแทนกันได้ แต่ประเด็นไม่ใช่อะไรหรอกก็แค่พี่แกให้เงินพิเศษผมเพิ่มไม่งั้นผมจะตกลงเหรอ แต่กว่าจะผ่านมาได้ผมก็เหนื่อยแบบรากเลือดหมดสภาพเลยเพราะกว่าจะผ่านแต่ละฉากนี่หลายเทคมาก แถมมันไม่ได้มีแค่ฉากเดียวแต่เป็นทุกฉากที่บู้ผมต้องแสดงแทนแม่นางเอกหมด ผมพยายามคิดถึงเงินที่รอผมอยู่
“ว่าไงจ๊ะน้องครีมคนสวย”
“อย่ากวนตีนไอ้ซี” ผมมองคนที่ยืนยิ้มล้อเลียนผมอยู่
“อะไรวะ ก็มึงสวยจริงๆนี่หว่า มาไหนถ่ายรูปหน่อยสิกุจะเอาไปลงไอจี” พูดเสร็จมันก็พยายามจะเอาโทรศัพท์มันมาถ่ายจริงๆ
“ไอ้ซีอย่านะมึง” ผมรีบคว้าโทรศัพท์มันมา ก็นะแค่นี้ผมก็อายนะเว้ยต้องมาแต่งหน้าทำผมแบบผู้หญิงแบบนี้ บอกตรงๆอายมากโว้ย
“ฮ่าๆ โอ๋ๆอย่างอนเลยนะมึงเดี๋ยวกูถ่ายให้แบบสวยๆเลย”
“ไม่ต้องเลยถ้ามึงถ่ายกูจะเอาความลับมึงไปบอกน้องแป้งของมึงแน่ ลองดูสิวะ” ได้ทีผมรีบเอาแฟนมันขึ้นมาขู่ทันที
 “เชี่ยครีมเล่นของสูงนะมึงอะ” มันตบหัวผมก่อนทำหน้าเซ็งๆแล้วก็นั่งลงข้างๆผม
“แต่มึงสวยจริงๆนะครีม”
“ขอบใจ กูรู้ตัวขอบคุณนะฮ้า”
“แหวะ สยองวะไอ้ครีมอย่าทำเสียงแบบนี้นะมึงขนลุก” ผมหันไปยิ้มให้มันก่อนจะชวนมันไปนั่งกินข้าวที่กองละครเตรียมมา
.
.
.
.
“พี่ภีมครับ คุณยี่หวามาแล้วนะครับจะให้เตรียมฉากต่อไปเลยไหมครับ”
“เฮ้อออ ฝากด้วยแล้วกันนะภู” คนตัวใหญ่ถอนหายใจก่อนจะหันมาสั่งงานผู้ช่วยของตนเองที่เดินเข้ามาบอก
“ครับ” คนตัวเล็กรับคำก่อนจะก้าวออกไป
“เดี๋ยวน้องภู” คนตัวเล็กที่ถูกเรียกน้องสะดุ้งขึ้น พร้อมกับเลือดฝาดที่แล่นริ้วขึ้นมาบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ก่อนจะมองไปมารอบตัวก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีใกล้พอที่จะได้ยิน ก่อนจะขานรับ
“ครับ  พี่ภีม”
“เหนื่อยหน่อยนะ แต่ก็ขอบใจที่อยู่ข้างกันนะ” คนตัวใหญ่พูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาแล้ววางมือบนหัวของคนที่ตัวเล็กกว่าลูบผมนุ่มนั้นอย่างเบามือ ก่อนจะเลื่อนมือมาคลอเคลียที่แก้มนิ่มของคนตัวเล็กที่ตอนนี้แก้มนั้นแดงก่ำ น้องภูก็ได้แต่ยกมือขึ้นจับยึดเสื้อของพี่ภีมไว้แน่น สายตาทั้งสองคนสบตากันอย่างสื่อความหมาย.....
“อะแฮ่ม...นี่มันกองถ่ายละครหนังบู้เลือดสาดสนั่นจอไม่ใช่เหรอวะ ดันมีฉากโรแมนติกแบบนี้ เปลี่ยนแนวหนังรึไง” เสียงของคนมาใหม่ที่ขัดทุกอารมณ์จนคนตัวใหญ่อย่างภีมต้องหันมาจ้องคนที่กล้าขัดช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับน้องภูของเค้าลง
“ไอ้ภาม!”
“เออ อะไรของมึงวะทำหน้าเหมือนเจอผีไอ้ภีม สวัสดีครับน้องภูของพี่ภีม” ชายหนุ่มมาใหม่ไม่วายต้องหันไปแกล้งน้องภูที่ตอนนี้กำลังหน้าแดง และยืนทำตัวน่ารักอยู่ข้างๆพี่ภีมของตัวเอง
“สัส ภามแกล้งน้องภู” 
“หวัดดีครับพี่ภาม”
“ครับน้องภูของพี่ภีม” ชายหนุ่มยังคงไม่เลิกแกล้งน้องภูอยู่ดี
“สัส ภามมึงนะเลิกแกล้งน้องภูของกุซักที  น้องภูครับน้องภูไปเซ็ทฉากต่อไปรอพี่เลยนะครับ เดี๋ยวพี่อยู่คุยกับไอ้ภามมันก่อน แล้วนี่มึงโผล่มาทำไม” หลังจากน้องภูเดินไป ภีมก็หันมาซักเพื่อนซี้ปึกที่อยู่ๆก็โผล่มาทันที
“นี่กุเพื่อนมึงนะไม่เจอกันมาตั้งนาน  แทนที่เจอกุจะดีใจนะไอ้ภีม”
“ครับไอ้คุณเพื่อนมาเฟีย กุก็นึกว่ามึงต้องอยู่ในโลกมืดไม่มีเวลามาเจอเพื่อนเจอฝูงแล้วไงวันนี้ขึ้นมาโลกสว่างนี้ได้วะ”
“ก็ไม่ไง ก็กุว่างกุเลยมา แล้วนี่มึงเลิกงานกี่โมงวะ”
“เหี้ยมึงมาไม่ดูเวล่ำเวลา งานกูกูทำเป็นเวลาที่ไหนวันนี้อยู่กินข้าวกับกูที่กองแล้วกันเดี๋ยวกูโทรสั่งให้”
ภีมพูดก่อนจะพาเพื่อนซี้เดินออกไปยังกองถ่าย
.
.
.
.
“เจ้เอมมี่ๆๆ นั่นใครอะๆ” หนึ่งในช่างแต่งหน้าพูดขึ้น
“อะไรของมึงยะอีเป้ย” เจ้เอมมี่ที่กำลังแต่งหน้าให้ผมอยู่เงยขึ้นมามองพี่เป้ยหนึ่งในทีมแต่งหน้าของกองนี้
“ก็คนนั้นไง คนที่อยู่ข้างผู้กำกับไง พระเอกใหม่เหรอหล่อแซ่บกระแทกตูดเป้ยมากเลยเจ้ นี่อีเด็กๆในกองนี่จ้องกันตาเป็นมันเลยนะ” พี่เป้ยสาวประเภทสองแต่งตัวสุดจี๊ดพูดขึ้นพร้อมกับกรีดนิ้วชี้ไปยังผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างพี่ภีม ผมเลยหันไปมองตาม อื้อหือ ผู้ชายอะไรวะยังกับหลุดออกมาจากภาพวาด ผมว่าพี่ภีมตัวใหญ่แล้วแต่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างพี่ภีมตอนนี้ดูจะตัวใหญ่กว่าพี่ภีมเล็กน้อย หน้าตาออกแนวลูกครึ่งแถบยุโรปนั่นจมูกหรือสันเขื่อนวะ  หน้าตายังกับเทพบุตรในตำรากรีกโบราณเลยแต่ที่ผมอิจฉาสุดเห็นจะเป็นพวกมัดกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแกร่งพวกนั้น  ถึงผมจะเป็นสตั้นแต่ก็ไม่บึกบึนไม่รู้ทำไมทั้งที่ออกกำลังกายก็เยอะแต่ไม่เห็นมีกล้ามเหมือนคนอื่นๆ มีแต่ตัวจะบางลงๆจนเอามาแต่งหญิงแบบนี้ เฮ้อคิดแล้วก็ปลงตัวเอง
“อุ๊ยต๊ายยยยยยยนั่นคุณภามเพื่อนคุณภีมเค้าแหละ นานๆจะโผล่มาทีให้เจ้กระชุ่มหัวใจ” เจ้เอมมี่มองตาหยาดเยิ้มไปยังผู้ชายที่ยืนข้างพี่ภีม
“เจ้หล่ะอยากรู้จริงๆรอบนี้คุณภามจะพาใครไปนะ” เจ้เอมมีพูดต่อ ผมเงยหน้ามองด้วยสายตางุนงงในประโยคของเจ้แก
“เอ้าๆแหมจะมาใสซื่ออะไรตอนนี้หล่ะยะคุณน้องครีม ก็หล่อรวยเริ่ดขนาดนั้นก็ต้องมีดาราเราในกองซักคนบ้างหล่ะที่อดใจไม่ไหวจนอยากจะทอดตัวบนเตียงให้ แต่พี่เห็นแล้วหล่ะคะว่าคราวนี้ใครจะเป็นคนทอดตัวบนเตียงให้คุณภามเค้าหน่ะ”
เจ้เอมมี่พูดพร้อมกับทำปากบุ้ยใบ้ไปทางที่คุณภามยืนอยู่ ผมมองตามไปพร้อมกับเหล่าบรรดาทีมช่างแต่งหน้าและนักแสดงที่กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่ นางเอกของเรื่องคุณยี่หวานั่นเองที่ตอนนี้กำลังยืนส่งสายตาหวานเยิ้มพร้อมกับพูดคุยกับคนที่ชื่อภาม ผมได้แค่ยิ้มเล็กๆเพราะยังไงนี่ก็วงการมายาที่หน้าตาใช้เป็นเครื่องมือต่างๆได้มากมายคนที่เกิดมาหน้าตาดีย่อมมีต้นทุนดีไปกว่าครึ่ง และยังไงซะวันนี้ในกองก็คงมีเรื่องสนุกให้ได้พูดคุยกันเป็นประเด็นอย่างไม่รู้จบ  ผมก็ได้แต่นั่งฟังพวกพี่ๆเค้าพูดคุยกันในระหว่างที่รอเข้าฉาก

...
มาต่อตอน 2 ก่อนจะไปกินข้าว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ตอนแรกนึกว่า
ผู้กินเด็ก เอ๊ย!
ผู้กินตับ  เอ๊ย!
ผู้กำกับ  เอ๊ย! ถูกแล้วววว

แหม่....ช่างกล้าเล่น
:try2:

กลับสู่เนื้อหา555นึกว่าผู้กำกับจะเป็นพระเอก
แต่พี่ท่านก็มีเจ้าของซะแล้ว ณ ตอนนี้คนที่มาวินที่สุดก็คงพี่ภาม

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
ปูเสื่อรอเรื่องใหม่ด้วยคนฮร๊าฟฟฟ

 :m18: :m18:

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 3
“ครีมครับมานี่สิครับเราจะคุยกันเรื่องเข้าฉาก” ผมนั่งอยู่ได้ซักพักพี่ภูก็มาเรียกผมไปเพื่อจะคุยกันก่อนเข้าฉากซึ่งนี่ก็เป็นฉากสุดท้ายแล้วของวันนี้ผมจะได้กลับห้องซักที
“คุณยี่หวาครับ นี่ครีมนักแสดงแทนคุณยี่หวาที่จะเข้าฉากบู้แทนนะครับ” พี่ภูพาเดินมาพร้อมกับแนะนำให้ผมรู้จักกับคุณยี่หวา
“คะ” เธอแค่ปรายตามองผมก่อนจะยิ้มเล็กน้อย
“ครีม ฉากสุดท้ายแล้วพี่ฝากด้วยนะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” พี่ภูหันมาพูดกับผมหลังจากชี้แจงให้แต่ละคนฟังเรียบร้อยถึงฉากที่ต้องแสดงผมหันมองไปรอบตัว  ก่อนจะสะดุดเข้ากับสายตาคู่หนึ่งก็คือคุณภามที่ตอนนี้มีคุณยี่หวานั่งอยู่ข้างๆ จ้องมาที่ผมทำผมขนลุกขึ้นมาทันที คนบ้าอะไรวะตาดุเป็นบ้า  ผมรีบหันหน้ากลับมาแล้วเตรียมตัวเข้าฉากทันที
.
.
.
.
เฮ้อ เสร็จซักทีฉากสุดท้ายของวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วย ดีตอนนี้ก็ได้เวลาพักผ่อนของผมซักที  ก่อนกลับผมก็ขอเข้าไปจัดการตัวเองซะก่อนจะให้กลับในสภาพนี้คงไม่ไหว เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องจะแตกตื่นกันหมด
“พี่เอมมีครับ มีอะไรล้างเครื่องสำอางพวกนี้ออกได้ไหมครับ” ผมเดินเข้ามาถามพี่เอมมี่ที่ตอนนี้ก็กำลังเริ่มเก็บของกันอยู่เพราะอาทิตย์หน้าเราจะย้ายกองไปถ่ายทำที่อื่นกันแล้ว
“มีๆ น้องครีมรอก่อนนะคะเดี๋ยวพี่เอมมี่ไปหยิบให้” ระหว่างที่นั่งรอผมก็เห็นพี่ภูเดินมาพร้อมกับพี่ภีมและคนชื่อภามที่ขนาบข้างมาด้วยคุณยี่หวา
“ครีมครับ”
“ครับพี่ภู ”
“อันนี้เป็นเงินค่าตอบแทนนะครับ” ผมมองซองสีขาวที่พี่ภูยื่นมาให้
“อ๋อ ค่าจ้างผมพี่ภูต้องโอนเข้าไปทางบริษัทของผมเลยนะครับเดี๋ยวทางบริษัทเค้าจะจัดการให้ผมอีกทีนะครับ”
“เอิ่ม...อันนั้นพี่ก็รู้แล้วครับแต่อันนี้เป็นแบบพิเศษครับ ถือเป็นค่าโบนัสอะไรแบบนี้” พี่ภูพูดอธิบายพร้อมกับยื่นซองเงินมาให้ผม ผมก็เข้าใจทันทีก่อนจะหยิบรับซองเงินนั้นมา จะเล่นตัวทำไมเค้าให้ผมก็รับผมยังต้องกินต้องใช้นะครับจะมาปฏิเสธได้ไง
“เดี๋ยว คุณภูคะนี่แม่นักแสดงแทนยี่หวานี่เป็นกระเทยเหรอคะ” หลังจากผมรับซองเงินมาเรียบร้อยแล้วคุณยี่หวาที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็พูดขึ้น แถมเป็นประโยคกระแทกกลางใจผมให้เจ็บจึกมาก เมื่อเช้าเป็นผู้ชายตอนนี้กุกลายเป็นกระเทยแล้ว
“ทำไมเหรอยี่หวา ตอนนี้เราก็ถ่ายครบทุกฉากที่ต้องใช้ตัวแสดงแทนแล้ว หรือยี่หวาไม่พอใจอยากจะถ่ายใหม่โดยใช้ตัวแสดงจริงทุกฉากหล่ะ ผมจะได้สั่งเปิดกองเริ่มตอนนี้เลย อ่อแล้วครีมเค้าไม่ได้เป็นกระเทยด้วยผมเป็นคนบังคับให้เค้าทำเอง” พี่ภีมพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของยี่หวาที่มองผมเหยียดๆ
“หี บังคับหรือเต็มใจกันคะก็เห็นอยู่ว่ารับเงินหน้าชื่นตาบาน” เธอยังคงสะบัดเสียงใส่ผมและพูดเหน็บพร้อมส่งสายตาเหยียดๆมาให้
“ก็ต้องขอโทษคุณยี่หวาแล้วกันนะครับที่ทำให้ไม่พอใจ แต่เรื่องเงินนี้ผมถือว่าผมทำงานก็ต้องได้รับเงินค่าตอบแทนบ้างเพราะผมก็ต้องกินต้องใช้จะดูถูกผมก็ตามสบายนะครับ ขอบคุณพี่ภูกับพี่ภีมมากนะครับ” ผมได้แต่ถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินมาหาเจ้เอมมี่ที่กำลังถือของมาให้ผม
.
.
.
.
หลังจากที่ผมจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย ผมก็กำลังเดินเพื่อออกไปหารถจะได้กลับห้องไปพักผ่อนซักที  แต่ระหว่างทางที่เดินไปเพื่อจะขึ้นรถประจำทางที่ปากซอย  ผมก็เห็นเงาวูบไหวอยู่ข้างๆรถหรูคันหนึ่ง ผมเหล่ตามองพักหนึ่งก่อนจะเห็นว่าเป็นคนใส่ชุดสีดำท่าทางไม่น่าไว้ใจกำลังยืนอยู่บริเวณรถ ซักพักชายชุดดำก็เหมือนจะรับรู้การมีตัวตนของผมจึงหันหน้ามามองทางผม ด้วยสัญชาตญาณทำให้ผมรีบหลบตัวเองลงข้างรถอีกคันทันที
“เร็วๆสิวะ พวกนั้นมันปิดกองกันแล้วเดี๋ยวก็มีคนแห่กันออกมาหรอกมึง” ผมได้ยินเสียงพวกมันคุยกันอยู่ซักพักก่อนจะได้ยินเสียงมอเตอร์ไซต์ขับเข้ามาเพื่อรับชายชุดดำสองคนออกไป
ผมแอบมองด้วยความสงสัยขโมยของก็ไม่น่าใช่เพราะขึ้นรถไปตัวเปล่า  แล้วพวกมันมาทำอะไรกัน ผมยังคงยืนมองอยู่ซักพักก่อนจะมีเสียงเรียกขึ้น
“น้องครีม”
“พี่ภู พี่ภีม...เอ่อ” ผมหันมองพี่ภูกับพี่ภีมกับผู้ชายที่ชื่อภาม
“นี่ภามเพื่อนพี่เอง ครีมกำลังจะกลับบ้านเหรอ” พี่ภีมพูดพร้อมแนะนำคนชื่อภามให้ผมรู้จัก ผมมองหน้าพี่เค้าแล้วก็ยิ้มให้ก่อนจะหันมาตอบพี่ภีม
“ครับ”
“อือ กลับดีๆหล่ะ” พี่ภีมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปยังรถที่ผมใช้หลบเมื่อกี้พร้อมกับพี่ภูที่ยิ้มให้ผมแล้วเดินตามพี่ภีมไป ส่วนอีกคนคือคุณภามก็เดินไปยังรถอีกคัน...
“คุณภาม!” ผมเรียกชื่อของคนที่ตอนนี้เดินไปที่รถ  ซึ่งเป็นรถที่พวกชายชุดดำน่าสงสัยพวกนั้นมายุ่งด้วย ซึ่งเสียงเรียกของผมทำให้คุณภามหันมามองพร้อมกับพี่ภูและพี่ภีมที่มองมาพร้อมๆกัน
“....” คุณภามได้แต่มองหน้าผมนิ่งคนบ้าอะไรวะตาดุชะมัด
“คือ เมื่อกี้ผมเห็นคนใส่ชุดสีดำสองคนมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวรถของคุณ ถ้ายังไงก็ดูแล้วกันนะครับว่าในรถมีอะไรหายรึเปล่า อ่อแล้วก็ผมจำป้ายทะเบียนมอไซต์ได้”  หลังบอกจบคุณภามก็กดโทรศัพท์ทันที ผมได้แต่ยืนมองตาปริบๆอยู่ ก็คงหมดหน้าที่เราแล้วมั้ง
“เอ่องั้นผมกลับก่อนนะ สวัสดีครับ” ผมหมุนตัวกลับทันที
หมับ มีมือใหญ่คว้าแขนผมไว้ทันทีที่ผมทำท่าจะเดินออกไป
“นายต้องอยู่กับฉัน” จะเป็นเสียงใครไม่ได้เลยนอกจากคุณภาม
.
.
.
.
ตอนนี้ผมกำลังนั่งกร่อยมาก เพราะแทนที่ผมจะได้กลับห้องไปนอนหลับหลังจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยตอนนี้ผมต้องมานั่งอยู่กับคุณภามที่บอกให้อยู่ก่อน  หลังจากที่เค้าไปโทรศัพท์เสร็จก็มีรถ 2 คันขับเข้ามาพร้อมผู้ชายเข้ามาจัดการกับรถของคุณภาม  ซึ่งผมคิดว่าคงจะเป็นบอดี้การ์ดนั่นแหละก็สไตล์การแต่งตัวนี่สไตล์เดียวกันหมดอย่างกับในละคร ผมหล่ะอยากถามเหลือเกินว่าค่าตัดสูทให้บอดี้การ์ดนี่เท่าไหร่กัน แต่จากสถานการณ์ตรงหน้าคงไม่เหมาะ
“ขอโทษนะครับพี่ภู เมื่อไหร่ครีมจะได้กลับห้องครับ คือมันก็เริ่มดึกแล้วผมกลัวรถจะหมดครับ” ผมหันมาพูดกับพี่ภูที่ตอนนี้นั่งเป็นเพื่อนผม และก็เป็นคนเดียวในที่นี้ที่ผมกล้าคุยด้วย ส่วนคุณภามกับพี่ภีมนั้นก็ไปยืนคุยกับพวกคนใส่สูทดำที่มากมายเต็มไปหมด
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับคงต้องรอพี่ภามเค้าจัดการธุระให้เสร็จก่อนนะครับ ครีมหิวรึเปล่า”
“เปล่าครับ ครีมแค่อยากกลับห้องแล้ว” ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆก่อนจะนั่งเงียบตามเดิม นี่มันเรื่องอะไรกัน
นั่งรออีกอึดใจหนึ่งคุณภามก็เดินเข้ามาพร้อมพี่ภีม
“เป็นยังไงบ้างครับพี่ภีมพี่ภาม” พี่ภูถามทันทีที่ทั้งสองคนเดินมาถึง
“อืมมีคนร้ายวางระเบิดรถไอ้ภามมันตอนนี้ลูกน้องมันจัดการเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วตอนนี้ผมกลับได้รึยังครับ” ผมถามขึ้นทันทีก็ผมอยากกลับแล้ว
“ยังไม่ได้ นายต้องอยู่กับฉันก่อนฉันยังไว้ใจนายไม่ได้”
“ฮะ นี่คุณภามมันไม่มากไปหน่อยเหรอคุณ” ผมอยากจะบ้าตายนี่มันอะไรกันผมเป็นคนบอกเรื่องคนร้ายพวกนั้นกลายเป็นว่าผมไม่น่าไว้ใจทำคุณได้โทษชัดๆ  ผมมองหน้าคนที่ตอนนี้ยืนทำหน้านิ่งตาดุๆนั่นยังจ้องมาที่ผมอยู่ แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้วเพราะผมเหนื่อยมาทั้งวันผมเลยตวัดตามองกลับบ้างผมก็คนนะคุณ
“ผมขอตัว” ผมไม่สนแล้วก็ผมจะกลับทำไมผมต้องเป็นแพะรับบาปในเรื่องที่ไม่ได้ทำด้วย ผมหันหลังกลับทันทีแต่...บอดี้การ์ดมันก็เข้ามาดักไว้ เออดีไอ้พวกบ้าอำนาจ ไอ้พวกคนรวย
“นี่คุณทำไมผมต้องมาอยู่รอคุณด้วยเมื่อไหร่ผมจะได้กลับห้อง ผมแค่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ผมผิดรึไง” ผมหันกลับไปตะคอกใส่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังทันทีไม่สนหรอกว่าเค้าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน  แต่ดูเค้าก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย ให้ตายสิผมมันคงพวกกำลังมดสินะ
“พี่ภาม คือ ภูว่า...” พี่ภูหันไปพูดกับคุณภามแต่หมอนั่นก็เดินมาจับมือผมก่อนจะพาเดินหรือเรียกว่าลากถูน่าจะดีกว่า ก่อนจะจับผมโยนเข้ารถที่เปิดประตูรออยู่ แล้วคุณภามก็ตามขึ้นมานั่ง
“ถ้าง่วงก็นอนซะ” หลังจากหมอนั่นขึ้นรถก้นหย่อนถึงเบาะก็สั่งทันที
“ผมไม่ง่วง ผมอยากกลับห้อง”
“ได้นายจะได้กลับห้อง ออกรถ” ผมมองนายภามที่สั่งลูกน้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีอาการตกใจอะไรในเรื่องของการวางระเบิดราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็แค่รถเสียแล้วโทรตามช่างมาซ่อมแค่นั้น  ส่วนผมเหรอตอนรู้ก็ตกใจนี่มันอาชญากรรมนะคุณแต่ตอนนี้ความเหนื่อยมันมีมากกว่าความตกใจซะแล้ว ไอ้ที่บอกว่าไม่ง่วงก็แค่อยากจะเอาชนะคนที่นั่งข้างๆ แต่ผมคงไม่ชนะหรอกอากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศภายในรถ เบาะนุ่มๆที่บ่งบอกคุณภาพของรถราคาแพงระยับทำให้ตาผมค่อยๆปิดลงอย่างช่วยไม่ได้ ยังไงก็จะได้กลับห้องแล้วนอนซักนิดก็คงดี...
...
มาต่ออีกตอน อ่านแล้วติได้ชมได้นะคะ อ่านทุกคอมเม้นต์คะ คืนนี้ก็ราตรีสวัสดิ์นะคะฝันดีคะนักอ่านทุกคน :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
พ่อตาดุจะทำยังไงกับครีมน๊า

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
 :katai5: :katai5:
อิภามเธอเป็นใครกันถึงมีคนวางระเบิดรถฮร้าาาาาาาา

ถ้าดูชื่อตัวละครนึกว่าครอบครัวเดียวกันหรือแฝด 3 ได้เลยทีเดียว

ภู-ภีม-ภาม

 :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 4
ภาม

ผมนั่งมองคนที่ตอนนี้หลับไปแล้วทั้งที่บอกไม่ง่วง...
“นายครับ ไปส่งคุณที่ไหนครับ”  คนขับรถเอ่ยภามขึ้น ผมมองคนข้างๆก่อนจะออกคำสั่ง
“กลับไปที่บ้าน”
ผมก็แค่ขี้เกียจปลุกคนนอนหลับให้ตื่นขึ้นมาบอกทาง อีกอย่างถึงยังไงก็ต้องยอมรับว่าเด็กคนนี้ช่วยชีวิตผมไว้ ก็น่าจะตอบแทนซักหน่อยจะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกัน  เมื่อกลับถึงบ้านผมก็จัดการสั่งให้ลูกน้องพาครีมไปนอนพักในห้องรับรองแขกจากนั้นผมจึงเดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง
“ว่าไงคุณเอกได้เรื่องไหม” ผมอยู่ที่ห้องทำงานกำลังคุยกับเอกมือขวาคนสนิท
“ครับ เราตามจับคนลอบวางระเบิดได้อย่างรวดเร็วจากเลขทะเบียนรถที่คุณครีมให้มาครับ ตอนนี้มันสารภาพแล้วครับว่าคุณอธิปเป็นคนจ้างวาน น่าจะมาจากการที่คุณภามไปตัดเส้นทางการค้ากับจีนเมื่อเดือนก่อนทำให้ทางนั้นค่อนข้างเสียรายได้มหาศาล” ผมพยักหน้ารับรู้ในวงการธุรกิจก็เป็นแบบนี้มีศัตรูอยู่ทั่วไปเราไว้ใจใครไม่ได้
“คุณภามจะให้จัดการยังไงต่อครับ”
“จับส่งตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แล้วแพร่กระจายข่าวออกไป  ทำให้นายอธิปไร้ที่ยืนในวงการนี้  ไปเจรจากับตำรวจด้วยอย่าให้นายอธิปปิดเรื่องนี้ได้ ฉันจะสั่งถอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทนายอธิป”
“ครับ”
“แล้วเรื่องเด็กนั่น”
“ครับเรื่องคุณครีมผมถามพวกมันแล้วครับ พวกคนร้ายมันบอกว่าไม่รู้จักครับ ส่วนนี่เป็นประวัติของคุณครีมครับ”
นายเอกพูดพร้อมกับวางซองสีน้ำตาลลงบนโต๊ะ
“อืม นายกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ขอบใจมากสำหรับวันนี้ ”
ผมหยิบซองที่เอกวางขึ้นมาเปิดอ่าน  ประวัติโดยทั่วไปของครีมก็เป็นแค่เด็กธรรมดาๆคนหนึ่งไม่มีอะไรน่าสงสัย ผมนั่งมองรูปของเด็กนั่นก็นับว่าเป็นเด็กผู้ชายที่หน้าตาดีถ้ามองก็ต้องบอกว่าหล่อ แต่ถ้ามองดีๆหล่ะก็หน้าแบบนี้ออกจะหวานเสียมากกว่า  แต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบวันนี้ต้องบอกว่าสวยกว่ายี่หวานางเอกของกองละครวันนี้เสียอีก หุ่นก็ดีทั้งทีเป็นสตั้นแต่กลับเอวบางร่างเล็กพอๆกับผู้หญิง หึชื่อก็หวานน่ากิน แต่ผมเป็นพวกไม่ชอบกินของหวานซักเท่าไหร่  แต่ชีวิตก็ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกใครจะรู้ผมอาจจะมีของหวานที่โปรดปรานมากที่สุดก็เป็นได้...
.
.
.
กุกกักๆๆ กุกกักๆ
ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนกว่า ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองประตูห้องทำงานเพราะรู้สึกว่าคนในบ้านน่าจะนอนหลับหมดแล้วแต่กลับมีเสียงแปลกดังอยู่นอกห้อง ผมปิดคอมที่ทำงานอยู่แล้วลุกขึ้นเพื่ออกไปดูที่มาของเสียง ผมค่อยๆเดินออกมาตามเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะเจอเข้ากับร่างของใครคนหนึ่งที่เดินคลำทางสะเปะสะปะเพราะในบ้านปิดไฟหมดแล้ว ผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นก่อนจะคว้าแขนได้แต่...ไวเท่าความคิดร่างตรงหน้าตวัดขากลับขึ้นมาทันที พร้อมกลับหันหน้ามาเพื่อเผชิญหน้าด้วยความเร็ว อืม...คงต้องยอมรับว่าฝีมือค่อนข้างดีแต่ก็ยังช้าไปผมจัดการคว้าแขนแล้วออกแรงดึงเล็กน้อยร่างตรงหน้าก็แทบจะปลิวเข้ามากระแทกกับอกของผมก่อนจะมีเสียงโวยวายตามมา
“ปล่อยนะเว้ย ใครวะ”
“ออกมาทำอะไรตอนดึกๆ” ผมก้มลงกระซิบถามที่ข้างหูคนที่กำลังดิ้นอยู่ในอกผมตอนนี้
“คุณภาม ปล่อยผมก่อนสิ อึดอัด” เสียงครีมพูดขึ้น ถ้าเปิดไฟอยู่ตอนนี้หมอนี่อาจจะเห็นหน้าตาไม่พอใจของผมก็เป็นได้ มีแต่คนอยากจะกอดผมแต่เด็กนี่กลับบอกว่าอึดอัดที่ถูกผมกอด ด้วยความหมั่นเขี้ยวผมเลยกอดให้แน่นกว่าเดิมขึ้นไปอีก
“โอ๊ยนี่คุณ ผมบอกให้ปล่อยไม่ได้ให้กอดให้แน่นขึ้น”
“ไม่ปล่อย ก็บอกมาก่อนสิลงมาทำอะไรดึกๆแบบนี้  ไม่แน่นายอาจจะมาขโมยอะไรก็ได้”
“คุณนี่มันคิดอะไรแง่ร้ายขนาดนี้วะ ผมหิวจะปล่อยผมได้รึยัง” ผมชะงักกับคำตอบที่ได้ยินทันที หิว หิวตอนเที่ยงคืนกว่านี่นะ ผมค่อยๆคลายมือออกก่อนจะเลื่อนมือมากุมมือเล็กๆของครีมเอาไว้ แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงโวยวายต่อ
“อะไรอีกเนี่ยคุณ ปล่อยผมสิ”
“ก็จะพาไปห้องครัวไง หรือว่าไปเองถูก”
“ไม่ถูก แต่จะจับมือทำไมเนี่ย”
“ก็แค่จับมือ จะหวงทำไม  เลิกพูดแล้วก็เดินตามมาด้วยหรือจะให้ลากไป”
“เออ หวงจะทำไม คุณนะเลิกบ่น แล้วผมก็เดินอยู่ หรือจะให้กลิ้งไป”
ผมยิ้มให้กับคำยอกย้อนของเด็กคนนี้จริงๆ คิดๆแล้วหมั่นไส้เลยเผลอบีบมือเล็กนิ่มๆนั่น
“โอ๊ยคุณ  เถียงไม่ได้ก็อย่ามาใช้กำลังดิ”
“ก็รู้ว่าใช้กำลังสู้ไม่ได้ก็อย่ามาเถียง”
แต่คำขู่ของผมคงไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่เพราะครีมก็ยังคงเดินบ่นให้ผมได้ยินมาเป็นระยะ
...
อย่าสับสนเรื่องภู-ภีม-ภาม นะคะ คือแบบคนแต่งชอบตัวอักษร ภ เลยชื่อขึ้นต้นด้วยตัวนี้เยอะ
ประกอบกับคิดไม่ค่อยออกด้วย 555+ :really2: ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สั้นคร๊า ไม่จุใจเลย  ภามดีแต่ใช่กำลัง ชิส์

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบของหวานที่ชื่อครีมไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ evz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
คุณภามกับครีมนี่ดูไม่ค่อยลงรอยกันดี อยากรู้จริงๆจะลงเอยกันยังไง :katai5:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
 :mew1:เขียนดีค่ะ แนวนี้ชอบอ่าน
++ เป็นกำลังใจให้คะ :L2: :L2:

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 5
ครีม

“บ้านคุณไม่มีอะไรกินเลยเหรอ” ผมหันไปถามเจ้าของบ้านที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้องครัว ในขณะที่ผมเดินสำรวจห้องครัวกว้าง ก็มันกว้างจริงพอๆกับห้องนอนผมเลย อุปกรณ์ทำกับข้าวต่างๆก็ครบครันจนผมอิจฉา
“ไม่รู้สิ ปกติฉันไม่ได้วุ่นวายในนี้”
“ถ้าผมเป็นคุณผมคงจะกลับมากินข้าวที่บ้านทุกวันเลย” ผมพูดพลางเปิดตู้เย็นหลังใหญ่เพื่อดูของสดต่างๆที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร  จนน่าจะพอเอามาทำกับข้าวได้ ผมจัดการเลือกวัตถุดิบต่างๆที่มีอยู่ออกมา
“คุณภามคุณจะกินข้าวไหมผมจะได้ทำเผื่อ” ผมหันมาถาม  ก็นะมันเป็นมารยาท ยังไงก็บ้านเค้านี่นา
“อืม นายทำเผื่อด้วยแล้วกัน”  เมื่อได้คำตอบผมก็จัดการลงมือทำเมนูง่ายๆ อย่างข้าวผัดเนี่ยแหละเร็วสะดวกแถมได้สารอาหารครบถ้วนผมใช้เวลาไม่นานในการทำก่อนจะยกมาเสิร์ฟคนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารกลางครัว
“นายนี่ทำอาหารคล่องนะ ทำให้ใครกินบ่อยรึไง” เมื่อผมวางจานข้าวลงคนตรงหน้าก็เอ่ยถามขึ้น ผมยักไหล่นิดๆ
“ผมไม่ชอบทานข้าวนอกบ้าน ถ้ามีเวลาก็ทำกับข้าวกินเอง อีกอย่างที่บ้านผมก็เปิดร้านอาหารด้วยผมเลยทำกับข้าวเป็นนิดหน่อย” ผมมองคนตรงหน้าที่ยังคงมองจานข้าวอยู่จนอดเอ่ยปากไม่ไหว
“กินซิคุณกลัวว่าผมจะใส่ยาพิษลงไปรึไง อะไรจะระแวงขนาดนั้น ผมไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกนะ ”
“นายดูท่าจะดูหนังมากไปนะครีม” คุณภามพูดก่อนจะยิ้มนิดๆ เออถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะกรี๊ดไปกลับรอยยิ้มบนหน้าหล่อของเค้าแต่ผมผู้ชายความรู้สึกอยากกรี๊ดมันเลยเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอิจฉาคนตรงหน้านี้มากกว่า
“อืมอร่อย ไว้วันหลังมาทำให้กินอีกนะ” หลังจากกินเข้าไปคำแรกคุณภามก็เอ่ยปากขึ้นซึ่งทำให้ผมยิ้มออกมาทันที นี่แหละความสุขเล็กของคนทำอาหาร แค่คนที่กินบอกว่าอร่อยก็ดีใจแล้ว
“ผมบอกแล้วฝีมือผมสุดยอดจะตาย แต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้คุณบอกวันหลัง หลังไหนอีกคุณนี่ผมยังไม่เป็นอิสระเหรอ ผมไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการวางระเบิดรถคุณซักหน่อย” ผมมองจ้องคนตรงหน้าอย่างหาเรื่องทันที
“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซักหน่อย ก็เผื่อเราจะติดต่อกันไปเรื่อยๆไง” ผมเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมองคนตรงหน้า ที่ยังคงกินข้าวอยู่ ก่อนจะประมวลผลในสมองน้อยๆของผม
“นี่คุณจะจีบผม หรือคุณไม่ไว้ใจผม ถ้าเป็นอย่างแรกตัดไปได้เลยเพราะผมไม่นิยมเป็นประเภทรับแน่นอนยกเว้นแต่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายรับแทนซะเอง ถ้าเป็นประเด็นที่สองคุณไม่ไว้ใจผมจนต้องจับตาดูหล่ะก็ตามสบายให้ลูกน้องคุณมาตามคุมได้เลย”
ผมพูดจบก็เห็นแววตาคนตรงหน้าที่แวววาวราวกลับว่าเรื่องที่ผมพูดมามันตลกงั้นแหละ นี่ผมออกจะจริงจัง แต่ชั่งเหอะผมก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
“แล้วถ้าเป็นทั้งสองประเด็นหล่ะฉันจะจีบนายโดยที่ฉันไม่เป็นฝ่ายรับแน่นอน  และฉันไม่ไว้ใจนายแต่ฉันจะไม่ส่งใครไปคุมแต่จะดึงนายมาอยู่ข้างกายฉันตลอดเวลาเลย ความคิดนี้เป็นยังไงน้องครีม” ผมแทบอยากจะสำลักกับการสารภาพและความคิดตรงๆของคนตรงหน้า
“ไม่ดี หยุด คุณผมขอกินก่อนกินเสร็จแล้วเรามาเจรจาตกลงกัน ผมหิวเรื่องนี้ต้องมาก่อน ส่วนคุณก็กินให้หมดนะ ผมเป็นคนทำคุณต้องกินนะ” พูดจบผมก็ก้มหน้าก้มตากินต่อที่ตัดบทไม่ใช่อะไรผมก็แค่ ขี้เกียจคิด ผมถามตรงเค้าตอบตรงแล้วผมก็เลยไปไม่เป็น เอาเป็นว่าขอต่อเวลาก่อน  .
.
.
.
หลังจากกินข้าวเสร็จผมยกจานไปเก็บเรียบร้อย ผมก็กลับมาเพื่อเปิดประเด็นกับคนตรงหน้า ซะที่ไหนกัน -*-
“คุณเรายกเรื่องนี้ไปคุยกันวันอื่นแล้วกันผมง่วง” ผมบอกคนตรงหน้าที่ทำหน้าอึ้งๆหลังจากผมพูดจบ ก็นะผมอยู่ง่ายกินง่ายเลี้ยงง่ายอะอิ่มแล้วก็ง่วง ง่วงแล้วก็คิดไรไม่ค่อยออก ผมอยากนอน
คนตรงหน้าหลังจากอึ้งไปกับประโยคของผมก็ลุกเดินเข้ามาจูงมือผมกลับห้องทันที โดยไม่ได้คิดว่าจะโต้แย้งหรือดื้อดึงถามอะไรผม ผมก็ขี้เกียจจะเถียงว่าเดินเองได้เลยปล่อยให้คุณภามเค้าจูงไปมา ยังไงก็ไม่เสียหายหรอก  เมื่อมาถึงห้องเค้าก้ปล่อยมือให้ผมเข้าห้อง
“มีผ้าเช็ดตัวไหม”
“อยู่ในตู้เสื้อผ้า” ผมก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้องทันทีก่อนจะรื้อเอาผ้าเช็ดตัวออกมาส่วนชุดเหรอก็ใส่มันชุดเดิมนี่แหละง่ายดี
“ไหนบอกง่วง” คนมาส่งที่ยืนมองการกระทำของผมอยู่เอ่ยขึ้น
“ก็มันเหนียวตัว ง่วงก็ง่วงแต่ผมนอนไม่ได้อะถ้าไม่อาบน้ำ”
“แล้วเสื้อผ้าหล่ะ”
“ใส่ของเดิมก็ได้ คุณอย่าถามเยอะสิผมสติไม่ค่อยดี” ผมรีบหันมาบอกคนที่ตอนนี้ยืนพิงประตูห้องอยู่ ก็นะเวลาง่วงคุณไม่เป็นเหรอมันตื้ออะคิดไรไม่ออก แล้วผมก็ไม่ใส่ใจคุณภามอีกเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำอย่างรวดเร็วพอออกมาก็พบว่าคุณภามไม่อยู่แล้ว ผมจึงกระโดดขึ้นเตียงและหลับลงทันที



ในตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาหกโมงกว่า มันตื่นเองโดยอัตโนมัติเพราะเป็นเวลาที่ผมตื่นประจำ บิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะมองไปรอบตัวแล้วเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว ใช่ตอนนี้ผมอยู่บ้านคุณภามและตอนนี้หน้าที่ผมหมดแล้วผมควรกลับได้แล้วมั้ง คิดได้ผมก็รีบคว้ากางเกงยีนที่ถอดวางพาดกับเตียงไว้มาใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบออกจากห้องแล้วตรงกลับบ้าน  ผมออกมาจากห้องก็พบว่าบ้านของคุณภามนี่ไม่น่าจะเรียกบ้านเท่าไหร่ คฤหาสน์น่าจะเหมาะกว่าหลังใหญ่ชะมัดผมมองรอบๆบ้านถึงเมื่อวานจะลงมากินข้าวแต่มันมืดทำให้ผมไม่ได้สำรวจบ้านหลังนี้เท่าไหร่ แต่ผมก็คงไม่มีเวลามาสำรวจอะไรมากนักเพราะผมควรจะรีบกลับห้องมากกว่า...ผมเดินมาเรื่อยๆ คือมันหลังใหญ่เกินไปแล้วผมก็รู้สึกงงๆว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ส่วนไหน ทางออกอยู่ตรงไหน ผมเดินมาเรื่อยๆจนเห็นประตูทางออก พอเปิดประตูออกไปผมก็พบกับสนามหญ้าโล่งกว้าง คือ มันก็คงเป็นไปตามสเต็ปบ้านคนมีเงินที่จะมีสนามหญ้าไว้หน้าบ้านหล่ะมั้ง ผมเลยเดินเรื่อยๆน่าจะได้พบประตูทางออกจากบ้านหลังนี้ซักที แต่...ผมมีลางสังหรณ์แปลกๆ รู้สึกมีสายตาจับจ้องรู้สึกเหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่...ทำให้ผมค่อยๆหันกลับไปมอง
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมวิ่งสุดชีวิตแต่ไอ้ตัวใหญ่ยักษ์หน้าขนก็วิ่งตามผมอย่างไม่ลดละ ตอนนี้สาบานได้เลยว่าผมเกลียดบ้านหลังใหญ่นี่มากมันจะใหญ่ไปไหนวะ ผมวิ่งๆๆๆๆ
ผลั่ก! อึก!
“ครีม” ผมจ้องคนที่ผมวิ่งชนทันที
“พี่ภู T^T” ผมครางชื่อคนตรงหน้าก่อนจะโผเข้ากอดทันที
“น้องภู!!!” กอดได้ไม่นานเสียงพี่ภีมกับคุณภามก็เอ่ยเรียกพี่ภูออกมา พี่ภูได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไปก่อนจะเอามือลูบหลังปลอบผม ส่วนไอ้หมายักษ์พันธ์เซนต์เบอร์นาดตอนนี้มันก็วิ่งเข้าไปหาเจ้าของมันอย่างคุณภามเรียบร้อย
.
.
.
.
“ดีขึ้นรึยังครับครีม” ตอนนี้ผมกลับเข้ามาอยู่ในบ้านคุณภามอีกครั้ง ผมพยักหน้าให้พี่ภู พร้อมกับสูดจมูกฟุดฟิดหลังจากร้องไห้งอแงไป น่าขายหน้าชะมัดนี่มันเป็นความลับของผมเลยนะเว้ย ผมเงยหน้ามองพี่ภูแต่เห็นสายตาพี่ภีมนี่แทบจะกินเลือดกินเนื้อผม คือ ผมก็ไม่ได้ตาบอดจนมองไม่ออกหรอกนะว่าสถานะพี่ภูกับพี่ภีมสองคนนี้มันไม่ใช่แค่พี่น้องหรือเพื่อนร่วมงานอะ
“ขอบคุณนะครับพี่ภู คือครีมตกใจ” ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปมองอีกคนคือคุณภามที่นั่งหน้านิ่งอยู่
“ตกใจอะไร  แล้วนายคิดจะทำอะไร”
“ผมก็จะกลับบ้านผมสิคุณภาม แล้วผมก็ตกใจหมาคุณนั่นแหละ”
“ตัวเล็ก”
“หืม”
“มันชื่อตัวเล็ก” ฮะ!!!ผมหล่ะอยากจะบ้า ไอ้คุณภามมีปัญหากับสมองรึไงวะ ตั้งชื่อมันมาได้ “ตัวเล็ก” ไอ้หมาบ้านั่นตัวใหญ่กว่าผมอีกนะ ผมได้แต่เบะปากใส่ไอ้เจ้าของหมา
“แล้วนายจะกลัวตัวเล็กทำไมมันออกจะน่ารัก” ผมเหลือบตามองคนพูดด้วยสายตารังเกียจนิดๆ มันน่ารักตรงไหนวะตัวใหญ่ยังกับช้าง
“ช่างผมเหอะ ผมอยากกลับห้องแล้ว”  ใครจะไปบอกหล่ะว่าผมกลัวหมาจะตาย ขนาดพวกชิวาว่าที่ว่าตัวเล็กผมยังวิ่งแล้วใหญ่ขนาดนั้นจะบ้าเหรอใครจะไปทนไหว
“ไม่นายมีเรื่องต้องคุยกับฉันก่อน” ผมมองหน้าคุณภามก่อนถอนหายใจ ผมทำท่าไม่พอใจ แต่พี่ภูก็พูดขัดขึ้นมาด้วยพี่ภูคงเห็นสถานการณ์ตรงหน้าที่เริ่มมาคุนิดๆ
“เอ่อ ครีมอยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิแล้วค่อยกลับนะ”
“ครับพี่ภู” ผมรับคำอย่างว่าง่าย คือ ที่จริงผมเป็นคนว่านอนสอนง่ายมากนะแต่เฉพาะกับคนที่ผมรู้สึกชอบอะถ้าไม่ชอบนี่คือผมก็ดื้อแบบสุดๆเลย กับพี่ภูพี่ภีมนี่คือผมรู้จักพี่สองคนจากในกองนิสัยพี่ๆก็ดีผมก็ชอบเลยไม่ดื้ออะไรแล้วก็ค่อนข้างเคารพเค้า
.
.
.
.
ภาม
“นี่มึงชอบครีมเหรอวะ” ไอ้ภีมเอ่ยถามเมื่อภูเดินออกไปพร้อมกับครีม
“คิดว่าไงหละ”
“ก็คิดว่าคนอย่างมึงไม่น่าจะทนให้ใครมาส่งสายตาไม่พอใจได้แบบครีม ไม่น่าจะทนให้ใครมาต่อปากต่อคำได้แบบครีมไงวะ” ผมยิ้มนิดๆ ไอ้ภีมมันเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆนิสัยใจคอต่างๆมันรู้หมดแหละ
“ก็น่าสนใจดี มึงก็อยากให้กูจีบครีมไม่ใช่รึไง” ผมพูดจบไอ้ภีมก็ยิ้มทันที ทำไมผมจะไม่รู้หล่ะก็มันหวงภูจะตายแล้วดูเหมือนน้องภูของมันตรงนี้ก็ดูท่าจะชอบครีมอยู่นิดๆนั่นแหละ แต่ภูดูท่าจะชอบแบบความรู้สึกพี่น้องมากกว่า เพราะเวลาที่เด็กนั่นงอแงก็น่ารักน่าปลอบดีเหมือนกัน แล้วมีเหรอที่ไอ้ภีมมันจะยอมมันขี้หึงขี้หวงจะตายไป
“มึงพูดแล้วนะ ไอ้ภามแล้วจะจีบเล่นๆหรือจริงจัง” ผมเลิกคิ้วกับคำถามไอ้ภีม
“เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเด็กนั่นต่างหาก ว่าจะทำให้กูหลงได้แค่ไหนกัน”
ในชีวิตผมมีคนเข้ามาเยอะแยะ แต่ทุกคนแค่เข้ามาแล้วก็ผ่านไปเพราะไม่มีใครที่จะทำให้ผมสนใจได้นานนัก...ก็ต้องลองดูว่าเด็กคนนี้จะมีอะไรให้ผมสนใจบ้าง
...
 :pig4:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โห รวดเร็วทันใจ :hao7:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
น้องครีมทำเสน่ห์ให้ภามหลงไม่ลืมหูลืมตา  อย่างแรกเริ่มจากเสน่ห์ปลายจวัก

ออฟไลน์ evz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เรารู้สึกว่าอนาคตพี่ภามจะหลงน้องครีมจนโงหัวไม่ขึ้น 5555 :hao7:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
 :z2: :z2:
อะโห.....ภามตอบตรงโดนใจแม่ยกอ่าา

อิพี่ภีมก็หึงไม่ดูหน้าเร้ยยยย

 :z13: :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] ขอให้รักเคียงข้าง
« ตอบ #19 เมื่อ: 30-05-2013 05:25:51 »





ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :hao6: :hao6:  รออยู่นะคะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ทันแล้ว กำลังมันเลย ขออีกตอนนะ  :impress2:

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
แง๊เค้าหายไป1อาทิตย์เพราะเปิดเรียนแล้ว เรียนหนักมาก...งานท่วมหัว  :sad4:วันนี้มาต่อแล้วนะ หวังว่ายังมีคนมารออ่านนะ  :mew2:

ตอนที่6
“กินข้าวเสร็จแล้วครีมกลับได้รึยังครับพี่ภู” ผมเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่แม่บ้านของนายภามเก็บโต๊ะอาหารเรียบร้อย
“นายถามผิดคนรึเปล่าครีม นายควรจะถามฉันไม่ใช่ภูนะ” ผมมองไอ้คุณภามอย่างไม่ใส่ใจก็ผมพอใจจะคุยกับพี่ภูมากกว่า
“ไอ้ภีมมึงหมดธุระแล้วไม่ใช่เหรอ กลับไปได้แล้วมั้ง”
“พี่ภู ครีมกลับด้วยนะ” ผมรีบหันไปหาพี่ภูทันที เพราะถ้าพี่ภีมกลับพี่ภูก็ต้องกลับด้วยแน่นอน แต่ผมคิดว่าผมพลาดอย่างแรง....
“คงไม่ได้หรอกครีม พี่กับภูจะไปเดทกันในวันหยุดพี่ก็หวังว่าครีมคงจะเข้าใจ”
“พี่ภีม!” พอพี่ภีมพูดจบพี่ภูหน้าแดงทันที เวรกรรมกู นี่พี่ภีมคงจะหึงที่ผมไปยุ่งวุ่นวายกับพี่ภูมากเกินไปจนเอ่ยดักคอกันเลย ผมทำหน้าเซ็งๆก่อนจะหันไปหาไอ้คุณภามที่ตอนนี้นั่งเหยียดยิ้มอยู่ เฮ้อออ
“คุณภาม คุณจะคุยกับผมก็คุยมาเลยมา ผมจะได้กลับซักที” หลังจากพี่ภีมลากพี่ภูกลับไปผมก็หันมาคุยกับคนตรงหน้าที่เหลืออยู่
“ไม่น่ารักเอาซะเลย”
“อะไรของคุณ”
“พี่ภาม เรียกสิ”
“ฮะ” อะไรของหมอนี่อยู่ๆจะให้เรียกพี่เนี่ยนะ
“ให้เรียกว่าพี่ภามไง ครีม”
“อะไรของคุณวะ” ผมมองคนตรงหน้า คนตรงหน้าก็ใช้สายตานิ่งๆจ้องกลับ ผมเงียบหมอนั่นก็เงียบเออดีเลยวันนี้คงไม่ต้องคุยกันหรอก
“พี่ภาม! ตกลงจะคุยไหมครับผมจะได้กลับ” เออสุดท้ายผมยอมก็ได้
“แทนตัวเองว่าครีมสิ” ผมเหวออีกรอบทำไมหมอนี่มันเอาแต่ใจแบบนี้วะ
“คุณภาม ผมกับคุณไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นซักหน่อย”  ใช่ผมมักจะแทนตัวเองว่าครีมเฉพาะกับคนที่ผมชอบอะ
“ตอนนี้อาจจะยังไม่สนิทกันแต่เดี๋ยววันข้างหน้าพี่กับครีมก็อาจจะสนิทกันก็ได้ใครจะรู้”
“ก็เพราะไม่มีใครรู้และผมก็ไม่ได้อยากสนิทอะไรกับคุณซักหน่อย อะไรวะ”
“ก็พี่บอกว่าจะจีบครีมไง”
“ก็ไม่ให้จีบไง พี่จะเป็นฝ่ายรับรึไงหล่ะ”
“ครีมคิดถึงแต่เรื่องเซ็กส์รึไง”
“ก็เออ ก็คบกันมันก็ต้องมีเซ็กส์กันสิ หรือคุณไม่คิดหล่ะ ถ้าคบกันไม่รู้แหละผมต้องเครียร์เรื่องนี้อะ” ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ผมคิดหรอก อยู่ๆพี่ภามเป็นใครก็ไม่รู้จะมาพิศวาสอะไรผมหนักหนา ยิ่งรวยขนาดนี้คบกันผมคงอึดอัดเปล่าๆ แล้วผมก็ไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบงมงายอะไรแบบนั้นด้วย ถ้าผมจะคบใครเป็นแฟนคือผมต้องรู้จักเค้าในทุกๆด้านก่อนอะ ถ้ารู้จักแค่ชั่วคืนก็เป็นแค่คู่นอนดีกว่า
“นอกจากเรื่องเซ็กส์จะเครียร์เรื่องอะไรอีก” คนตรงหน้าถามขึ้นราวกลับอ่านใจผมออก
“ผมไม่ชอบคุณ ตกลงไหม คุณจะมายุ่งอะไรกับผมเด็กธรรมดาๆ คุณเป็นใครผมก็ไม่รู้ แล้วผมก็ไม่เชื่อในเรื่องแบบว่ารักแรกพบมองหน้าแล้วใจบอกว่าใช่ผมไม่เชื่อ คนเราจะคบกันมันก็ต้องรู้จักนิสัยใจคอกันก่อนสิว่าไปด้วยกันได้ปะถึงจะคบกันได้คุณเครียร์ปะ”
“อืมเครียร์ งั้นเดี๋ยวฉันพานายไปส่งที่ห้องแล้วกัน”
เฮ้ยง่ายงี้ ผมมองคนที่บทจะเข้าใจก็เข้าใจขึ้นมาดื้อๆอย่างงงๆก่อนจะเดินตามคนที่ตอนนี้เดินนำผมออกไปแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
คุณภามเป็นคนขับรถมาส่งผมเอง โดยผมเป็นคนบอกทางเป็นระยะๆ นอกจากนั้นก็เงียบมาตลอดทางไม่มีการเซ้าซี้หรือท่าทางที่แสดงออกว่าคุณภามเค้าจะดื้อดึงจีบผมต่อเลย ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีนะ...
“คุณภามครับ ถึงห้องผมแล้วไม่จำเป็นต้องตามมาผมหรอกครับ” ผมหันไปพูดกับคนที่หลังจากรถจอดเรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังคงเดินตามผมมาติดๆตอนนี้
“ทำไมหล่ะก็พี่จะตามไปดูห้องครีมไง เราจะได้เริ่มทำความรู้จักกันบ้านพี่ครีมก็รู้จักแล้วแบบนี้ก็เท่ากับเราเริ่มรู้จักกันไปทีละขั้นไง”
“.....” ผมละอึ้งกับประโยคที่เค้าพูดออกมาเลย คือไอ้ที่เงียบมาตลอดทางนี่คือมาไม้นี้เหรอ
“ครีมลิฟต์มาแล้วนะ” ผมเดินตามเค้าไป พอเข้าลิฟต์มาผมกดชั้นที่ผมอยู่  เดี๋ยวสิๆแบบนี้มันอะไรกันวะ
“เดี๋ยวๆคุณ นี่ที่ผมพูดไปคุณเข้าใจว่ายังไงเนี่ย” เมื่อลิฟต์หยุดที่ชั้นของผม และเดินออกจากลิฟต์เรียบร้อย ผมก็หันไปถามทันที
“ก็เข้าใจว่าครีมอยากให้เรียนรู้นิสัยใจคอกันก่อนแล้วจะคบเป็นแฟนกันก็อีกเรื่องหนึ่ง”
“เฮ้ยทำไมเป็นงั้นไปนี่คุณเข้าใจผิดแล้ว”
“ไม่ผิดหรอก พี่กับครีมก็ดูนิสัยใจคอกันไป ถ้าครีมมั่นใจว่ายังไงก็ไม่มีทางชอบพี่ครีมจะกลัวอะไร”
ผมถอนหายใจมองคนตรงหน้า ก็นั่นไม่ใช่รึไงที่น่ากลัว คนเราก็มีเรื่องที่ต้องหวาดกลัวกันทุกคนไม่ใช่เหรอ...
“ห้องผม คุณจะเข้ามารึเปล่า” ผมไขกุญแจห้องแต่ยังไม่เปิดเข้าไปหันกลับมาถามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังก่อน
“แล้วครีมอยากให้พี่เข้าไปรึเปล่า”
“ไม่อยาก งั้นก็ลาก่อนนะครับ” ผมบอกลาก่อนจะรีบเปิดประตูแทรกตัวเข้าห้องแล้วปิดประตูอย่างรวดเร็ว ถามว่าเล่นตัวไหมตอบเลยว่าไม่ ตอนนี้ผมก็โสดอยู่แต่ผมก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนผมชินกับการอยู่แบบนี้ คือแบบคุณเคยไหมอยู่คนเดียวมาจนชินถ้าวันหนึ่งจะต้องมีคนก้าวเข้ามาอยู่ๆผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ผมก็เป็นแบบนี้พอกลัวแล้วผมก็ชอบหนีถ้าพี่เค้าอยากจะวิ่งตามก็ตามใจ ไม่แน่ซักวันอาจจะมีคนที่สามารถจับผมให้หยุดก็ได้...

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เดี๋ยวพี่ภามก็จับกดซะหรอก  :hao3:

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 7
1 เดือน...นับตั้งแต่วันที่ผมปิดประตูห้องให้คุณภาม ตอนนี้เหรอครับ...ชีวิตผมก็ยังดำเนินไปตามปกติ คุณภามเค้าก็ยังคงโทรมาหาผมบ้างเวลาที่เค้าว่าง มาหาผมบ้างแต่ก็ไม่บ่อยอาทิตย์ละครั้งเพราะรายนั้นดูจะมีธุระมากมายต้องจัดการแต่ก็ยังจะเจียดเวลาเพื่อมาหาผมอยู่ ก็นับว่าเป็นการอยู่ในช่วงเวลาเรียนรู้กันไป  ซึ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เค้าก็ไม่ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตผมมากเท่าไหร่  ซึ่งมันก็ดีเพราะไม่ได้ทำให้ผมอึดอัด ส่วนผมก็ยังทำงานของตัวเองรูปแบบการใช้ชีวิตก็ยังคงเหมือนเดิม...
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหนน้องครีม”
“ครีมอยู่ห้อง พี่ภามมีอะไรรึเปล่าครับ ครีมกำลังจะอาบน้ำ”
“อ๋อเปล่าหรอก พี่อยากได้ยินเสียงครีม ครีมไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยววันอาทิตย์นี้พี่ไปหานะครับ”
“ครับ” ผมวางสายลงใช่ตอนนี้สถานะความสัมพันธ์ของเราสองคนผมต้องยอมรับว่าเริ่มก้าวหน้ามากขึ้นกว่าที่เจอกันครั้งแรก แต่ไม่รู้ทำไมผมก็ยังรู้สึกว่ามันอาจจะหยุดอยู่ตรงนี้ยังไงไม่รู้ ไม่ใช่เพราะพี่ภามแต่เป็นเพราะตัวผมเองนี่แหละ...ไม่ได้รังเกียจ ติดออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำแต่มันก็ยังมีม่านหมอกเล็กๆที่ปกคลุมหัวใจผมอยู่  ผมสะบัดหัวก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ว่าไงซี”
“ว่าไงอะไรมึง กุรออยู่ข้างล่างเนี่ย”
“เฮ้ยกุลืม รอกุแต่งตัวแป๊บ” ผมไม่รอฟังเสียงสบถของไอ้ซีมันหรอกตัดสายมันแล้วรีบคว้าเสื้อกับกางเกงมาใส่ ใช่วันนี้ผมมีนัดกับเพื่อนเก่าสมัยมหาลัยนี่นาไอ้ซีก็เป็นหนึ่งในนั้นนั่นแหละ  ผมใช้เวลาแต่งตัวไม่ถึง10นาทีก็รีบวิ่งออกจากห้องมาทันที ผมลงมาข้างล่างก็เห็นรถเก๋งสีขาวของไอ้ซี ผมรีบพุ่งตัวไปที่รถแล้วขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
“เชี่ย” ผมหันไปยิ้มรับคำทักทายของไอ้ซีก่อนจะยักคิ้วข้างขวาให้มันสองที มันก็ขับรถออกไปทันที
ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าเราสองคนก็มาถึงที่หมาย ซึ่งสถานที่นัดพบจะเป็นที่ไหนไม่ได้เลยนอกจากผับ แต่ติดตรงที่ครั้งนี้มันไม่ใช่ผับธรรมดานะสิ
“เฮ้ย ทำไมรอบนี้มันหรูงี้วะ” ผมมองผับตรงหน้า แล้วหันไปถามไอ้ซี
“อ้าวกุไม่ได้บอกเหรอ ว่าวันนี้วันเกิดไอ้คุณชายพีมัน” คุณชายพีหรือไอ้พีเพื่อนสมัยมหาลัยของผมมันรวยมากนี่ก็คงปิดผับเลี้ยงเพื่อนๆอีกตามเคย ผมเหล่ตามองไอ้ซีก่อนมันจะสารภาพออกมา
“ไม่ต้องมามองกุเลย นู่นความคิดไอ้แพรวเว้ย ก็จะได้ไม่เปลืองตังไง พวกเราได้เจอกันแถมได้แดกฟรีอีกตั้งหาก” ผมส่ายหน้า ครับผมมีเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยอยู่สองคนคือไอ้ซีกับแพรว ส่วนไอ้พีเนี่ยแค่รู้จักกันเฉยๆ เรียกได้ว่ามางานวันเกิดมันคราวนี้มากินฟรีอย่างเดียวจริงๆ ผมว่าชีวิตคนรวยอย่างมันก็น่าสงสารนะเจอแต่พวกปอกลอกแบบพวกผมเนี่ย แต่ช่างเหอะยังไงผมก็ไม่รวยอะไรคิดซะว่าประหยัดเงินดี

ตอนนี้ผมเข้ามาในผับซึ่งจัดตกแต่งได้หรูและดูดีมากเลยทีเดียว แต่ถึงจะมีของตกแต่งเฟอร์นิเจอร์หรูหรามากมายที่นี่ก็ยังคงบรรยากาศเหมือนผับทั่วไปเสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงสีที่ยั่วยวนเหล่าผีเสื้อราตรี ผมเดินตามไอ้ซีไปที่โต๊ะที่พนักงานเดินนำเราไป
“ไงวะไอ้พี สุขสันต์วันเกิด” ก่อนจะถึงโต๊ะเราก็เจอเข้ากับเจ้าของงานที่ตอนนี้ถือแก้วไวน์อยู่ในมือ
“เห้ย ไอ้เชี่ยซี” หลังจากมันเห็นกันมันก็โผเข้ากอดกัน ไอ้ซีมันพวกมนุษย์สัมพันธ์ดีรู้จักกับคนเยอะแยะ ไม่แปลกหรอกที่มันจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย มันสองคนยืนคุยกันจนลืมไปว่าผมยืนหัวโด่อยู่รึเปล่าวะ
“เออ พีนี่ครีมไงจำมันได้เปล่าวะ” แล้วไอ้ซีก็นึกขึ้นได้คว้าเอาตัวผมที่อยู่ข้างหลังออกมา ผมได้แต่ยิ้มให้พี พีเป็นผู้ชายหน้าตาดีตามประสาคนมีเงินนั่นแหละดูดีด้วยการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงกับหน้าขาวใสผิวพรรณที่ผ่านการบำรุงมาอย่างดี
“ครีม จำได้สิวะ ใครจะจำไม่ได้ ราชินีเคะ นี่นา” ผมหุบยิ้มทันที
“เชี่ย” ผมสบถใส่หน้าเจ้าของวันเกิดอวยพรมันทันที
“ไอ้พีมึงก็ล้อมัน” เออนั่นมันเรื่องในอดีตนั่นแหละคือสมัยมหาลัยผมค่อนข้างจะมีผู้ชายมาจีบเยอะมาก จนผมรำคาญก็เลยทำตัวเหวี่ยงวีน เอาแต่ใจ  ถ้าใครเข้ามาผมก็จะทำตัวเอาแต่ใจจนพวกที่มาจีบรำคาญจนทนไม่ไหวกันไปข้างหนึ่งแล้วก็เลิกราไปเองนั่นแหละ จนหลังๆมาก็เลยได้ฉายามาแบบนั้นไปโดยปริยายนั่นแหละ
“โอ๋ๆ กุล้อเล่นก็เห็นหน้าแล้วแมร่งน่าแกล้ง แล้วเป็นไงทุกวันนี้มันมีผัวหรือมีเมีย” ผมเหยียดตามองคนตรงหน้าทันทีเพราะผมถึงจะมีผู้ชายมาจีบยังไงผมก็ยังพอมีผู้หญิงเข้ามาบ้าง บางทีก็มีผู้ชายน่ารักๆเข้ามาเป็นบางครั้ง
“อยากเป็นเมียกุลองดูไหมหล่ะพี” ผมเดินเข้าไปลูบโครงหน้ามันไอ้นี่มันตัวเท่าๆผมนั่นแหละ เป็นคุณชายแบบมันแรงจะมาสู้ผมได้รึไงผมค่อนข้างมั่นใจเลยว่าสามารถจับมันกดลงได้สบายๆ
“เห้ย กุล้อเล่น” มันถอยตัวหนีผมทันที
“กุก็ล้อเล่น”  ผมยิ้มให้มันก่อนจะแยกย้ายกันไป
“ไอ้ครีม ไอ้ซีโว้ยยยย ทางนี้” อ่านั่นแหละแพรวเพื่อนสนิทอีกคนนั่นเอง แพรวเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งหน้าตาคมมีเอกลักษณ์หุ่นนางแบบ ทุกวันนี้ทำงานบริษัท
“ไอ้ครีมเมื่อไหร่มึงจะเลิกสวยกว่าผู้หญิงวะ” พอผมหย่อนก้นนุ่งปุ๊บปากมันก็พ่นหมาออกมาทันที
“ก็มีผู้หญิงขี้เหร่อย่างมึงไงกุถึงหน้าตาสวยกว่า” มันเบะปากใส่ผมทันทีก่อนจะหันไปหาไอ้ซี
“เมียมึงไปไหน หรือมึงได้เสียกับไอ้ครีมแล้ว” ไอ้ซียิ้มก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอาในความปากหาเรื่องของเพื่อนรัก
“น้องแป้งเค้ากลับบ้านเว้ยวันนี้ นี่มึงเมนส์ไม่มาเหรอระรานชาวบ้านเค้าเนี่ย”
“ก็กุเหงาอะ นานๆจะเจอพวกมึงอะ” ผมมองแพรวที่เดินเข้ามากอดซบผมทันที ถึงจะปากร้ายแต่แพรวมันก็ขี้เหงาและรักเพื่อนมาก
“อ๊ะ สัสครีมเล่าเรื่องชายหนุ่มของมึงมาเดี๋ยวนี้นะ” ผมหันไปมองไอ้ซีทันที มีคนเดียวแหละมันก็ลอยหน้าลอยตาทันที
“พี่เค้าชื่อภาม” ผมก็เล่าให้แพรวฟังไปพร้อมกับกินเหล้าไป
"แล้วนี่ตกลงมึงยังไงเปลี่ยนรสนิยมเหรอวะ กูเคยเห็นพี่ภามของมึงในรูปข่าวกับเรื่องเล่าจากปากไอ้ซีมันนี่คือพี่เค้าจ้องจะงาบมึงนะ ไม่ใช่มึงงาบเค้า" แพรวพูดขึ้นหลังจากผมเล่าเรื่องพี่ภามให้ฟัง
"ก็รู้ กูก็บอกพี่เค้าแล้วว่ากูไม่เป็นรับแต่พี่ภามก็ดูจะไม่สนใจ คือทีแรกกูก็จะทำตัวแบบเหวี่ยงๆเหมือนตอนอยู่มหาลัยสลัดพี่เค้าออกไป แต่พี่เค้าก็ไม่ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตกูมากเกินไปเหมือนพวกที่มาจีบกูสมัยมหาลัยไง มึงเข้าใจไหม"
"สรุปมึงชอบพี่เค้า" ไอ้ซีพูดขึ้นพร้อมกับแพรวที่พยักหน้าเห็นด้วย
"ก็ชอบ ก็ไม่ได้รังเกียจ แต่ถามว่ารักไหมคงยังวะ" ผมพูดพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีก
"กลัวเหรอมึง" ไอ้แพรวถามต่อทันที
"กลัวสิ กูก็กลัวจนบางทีกูก็คิดว่ากูมักชอบปล่อยให้ความกลัวบ้าบอของกูทำร้ายตัวกูเองเรื่อย" ไอ้ซีตบที่ไหล่ผมเป็นเชิงปลอบใจอย่างที่บอกว่า2คนนี้สนิทกับผมมากมันรู้เรื่องต่างๆในชีวิตผมอยู่พอตัว 
"กูเชื่อว่าซักวันจะต้องมีคนที่ฉุดมึงขึ้นมาจากความกลัวได้ ใครซักคนที่รักมึงมากพอจะพิสูจน์ในสิ่งที่มึงกลัวได้ ซึ่งอาจจะเป็นพี่ภามหรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้" ผมถอนหายใจก่อนจะยิ้มให้แพรวแล้วพวกเราสามคนก็คุยเรื่องทั่วไปตามประสาเพื่อนเก่ากันต่อ
.
.
.
.
.
นี่ก็เวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว พวกเรานั่งซัดเหล้ากันเข้าไปค่อนข้างเยอะ แต่กลับไม่มีใครเมา ทุกคนก็แค่กรึ่มๆพวกผมมันพวกคอแข็ง
“กุว่าเรากลับกันเถอะพรุ่งนี้กุต้องไปหาน้องแป้งอีก”
“อือ เดี๋ยวกุไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ มึงก็ดูแพรวดีๆหล่ะเดี๋ยวแมร่งเมาแล้วไปปล่อยหมาใส่คนอื่น”
“สัส ครีมกุขอให้มึงโดนสอยตูด” ผมเอื้อมมือไปตบหัวแพรวหนึ่งทีก่อนรีบไปเข้าห้องน้ำ
ตอนเข้าห้องน้ำไอ้ซีก็โทรมาบอกว่ามันออกไปคอยผมอยู่ที่รถแล้วเพราะแพรวรู้สึกอยากอ้วกขึ้นมา ผมเสร็จธุระในห้องน้ำเสร็จก็ออกไปหาไอ้ซีที่ลานจอดรถทันที ผมมองไปรอบๆก็พบว่าที่นี่มีแต่รถหรูราคาหลักร้านทั้งนั้นเลยเหมาะสมกับผับหรูแห่งนี้เสียจริง ขณะที่ผมมองไปรอบๆ ตาของผมก็เหลือบไปเห็นผู้ชายชุดดำที่ยืนลับๆล่อๆอยู่ สัญชาญาณบางอย่างบอกว่าถ้าผมยังอยู่ที่นี่คงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ผมรีบมองหารถไอ้ซี แต่ขอโทษเถอะลานจอดรถที่นี่ก็กว้างเสียเหลือเกินผมพยายามมองหา แต่สายตาผมก็สะดุดเข้ากับร่างคุ้นตาร่างหนึ่งที่เดินออกมาจากผับที่เดียวกับผมพร้อมกับผู้หญิงรูปร่างคุ้นตาเพราะสามารถเห็นเธอได้ตามปกนิตยสารและละครทีวี  ภาพที่เห็นทำให้ผมชะงักไปชั่ววินาทีก่อนจะสะบัดหัวแล้วเมินภาพตรงหน้าไปมองหาเพื่อนของผมแทนแต่เมื่อผมหันไปก็พบว่าชายชุดดำนั้นดูท่าจะได้เจอเป้าหมายของตัวเอง  สมองผมประมวลผลอย่างรวดเร็วก่อนจะตัดสินใจกดโทรศัพท์ของตัวเองโทรหาคนที่เดินอยู่กับผู้หญิงตรงหน้า  สายตาผมจับจ้องร่างตรงหน้า และคอยเหลือบมองชายชุดดำด้านข้างซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลมากพอที่มันจะไม่สังเกตเห็นผมเพราะตอนนี้เป้าหมายตรงหน้ามันดูจะสำคัญกว่าสิ่งรอบข้าง
“ว่าไงครับครีม”
“พี่ภามที่ 3 นาฬิกา” เมื่อผมพูดจบร่างที่ผมเห็นอยู่ไกลๆยังคงยืนนิ่งแต่ผมเชื่อว่าเค้าเข้าใจและยังคงทำตัวปกติดี และผมรู้ว่าเค้าเข้าใจเพราะลูกน้องของเขาเพิ่มกำลังคุ้มกันขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีบางอย่างที่ผมพลาดไป...เพราะมือปืนที่จะคร่าชีวิตพี่ภามตอนนี้เมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์บางอย่างเปลี่ยนแปลงและเมื่อเบนสายตากลับมาก็พบกับผมที่ยืน ถือโทรศัพท์ค้างไว้ผมหันไปเผชิญหน้ากับมันและด้วยสัญชาตญาณคงจะทำให้มันรู้ว่าสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นน่าจะมีสาเหตุมาจากผม หรือไม่ก็ต้องการเก็บผมเพราะเป็นคนที่เห็นมันนี่แหละ  ไวเท่าความคิดปืนที่คาดว่าจะนำมาปลิดชีวิตพี่ภามตอนนี้ถูกนำมาใช้กับผมอย่างรวดเร็ว ไม่มีเสียงปืนเพราะปืนมันเก็บเสียงไง
“เหี้ย” ผมสบถอย่างหัวเสียเมื่อต้องมาถูกล่อเป้าซะเอง ผมหลบลงข้างรถอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่เร็วพอลูกกระสุนที่พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วถากต้นแขนผมไปนิดหน่อยแต่ก็เจ็บเอาเรื่อง ผมค่อยๆอ้อมไปตามตัวรถในลานจอดรถ ผมได้ยินเสียงกระจกรถแตกซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากกระสุนปืนแต่กลับไม่ได้ยินเสียงปืน นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว เพราะผมไม่มีทางรู้ว่ากระสุนมาจากทางไหนได้บ้าง ผมได้แต่เดินอ้อมไปตามรถเพื่อจะพาตัวเองออกไปจากลานจอดรถนี้อย่างน้อยก็ต้องเดินกลับเข้าร้านให้ได้ แต่...ขณะที่ผมเดินก้มหลบอยู่ก็มีมือใครซักคนมาคว้าตัวของผมไว้ผมหันกลับไปมองและพบว่าเป็นพี่ภามนั่นเอง สายตาของพี่ภามมันดุจนหน้ากลัว ผมได้แต่นิ่งเงียบจนพี่เค้าพาผมกลับมาขึ้นรถ ตอนนี้ผมว่ามือปืนนั่นไม่น่ารอดแล้วเพราะจำนวนบอดี้การ์ดของพี่ภามเค้ามีมากกว่าเยอะ เมื่อถึงรถผมกลับขืนตัวไว้ไม่ขึ้นรถ
“คือ ครีมมากับเพื่อนแล้วตอนนี้มันคงรอครีมนานแล้ว ยังไงครีมกลับก่อนแล้วกันนะครับ” ผมบอกคนตรงหน้าที่ยังคงทำสีหน้านิ่งดุจนหน้ากลัว
“โทรบอกเพื่อนครีม ว่าครีมจะกลับกับพี่” ผมเหลือบมองไปในรถที่มีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่แน่นอนจะเป็นใครได้นอกจากผู้หญิงที่เดินออกมาจากผับกับพี่ภาม  ซึ่งเอาหล่ะตอนนี้เธอไม่ได้นั่งในรถแล้วร่างสูงเพรียวบางตามหลักนางเอกชื่อดังก้าวลงมาจากรถก่อนจะมาจับแขนพี่ภาม
“ภามคะเป็นอะไรรึเปล่า ยี่หวาเป็นห่วงคุณแทบแย่ ยี่หวากลัวจังเลยคะภาม” ผมถอนหายใจก่อนจะไหวไหล่เล็กน้อยแล้วเดินออกมาเพื่อกดโทรศัพท์โทรหาไอ้ซี
“ซีมึงอยู่ไหนวะกุหา...” ผมยังไม่ทันพูดจบพี่ภามก็ก้าวเข้ามาแล้วดึงโทรศัพท์ไปจากมือผม
“ซีวันนี้ครีมจะกลับกับพี่ ซีไม่ต้องรอครีมแล้วกลับได้เลย แค่นี้นะ” โอเคนี่มันเป็นอะไรที่บ้าอำนาจเกินไปแล้ว ผมกับเค้าเป็นอะไรกันไหมก็ไม่ ตอนนี้ผมเจ็บทั้งแผลแล้วก็หงุดหงิดคนตรงหน้า
“คุณภามผมขอโทรศัพท์ผมคืน และมั่นใจได้เลยว่าผมไม่กลับกับคุณแน่” ใช่ตอนนี้ผมโกรธมากสรรพนามที่เรียกเค้าก็เปลี่ยนไปทันที
“ครีมอย่าดื้อกับพี่นะ”
“ผมไม่ใช่เด็กของคุณ เราไม่ได้เป็นอะไรกันคุณไม่สิทธ์มาสั่งผมว่าผมต้องทำอะไรยังไง” ผมหันหลังเดินออกมาทันที ผมก็ไม่เข้าใจทำไมเป็นงี้วะโอเคผมไม่พอใจมากๆเรื่องที่เค้ามากับคุณยี่หวา และนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่มีสิทธ์ที่จะไม่พอใจซึ่งมันทำให้ผมหงุดหงิดพอตัว
“หึงพี่เหรอ” ผมเดินมาได้ไม่กี่ก้าวหรอกเพราะพี่ภามก็ก้าวเข้ามารั้งผมไว้ทันที
“โอเค ผมไม่ได้หึงแต่ผมไม่พอใจมากคุณจีบผมอยู่ แล้วถึงมันจะเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะไปจีบใครคนอื่นก็ได้ด้วยในเวลาเดียวกัน แต่ผมไม่ชอบมาก สำหรับผมผมค่อนข้างเห็นแก่ตัว ถ้าคุณไม่ได้มีตาไว้แค่มองผม ไม่ได้มีปากไว้แค่คุยกับผม ไม่ได้มีสมองไว้แค่คิดถึงผม ไม่ได้มีหัวใจไว้เพื่อรักผมหล่ะก็ เชิญคุณออกไปจากชีวิตผมได้เลย” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้า แต่พบว่าสายตาที่ตอนแรกดุมากตอนนี้สายตากลับกลายเป็นสายตาหวานเยิ้มราวกับว่า....
“บ้าเอ้ย” ผมสบถทันทีเพราะเมื่อกี้มันก็เหมือนกับว่าผมไปสารภาพรักแบบเอาแต่ใจตัวเองสุด ๆ ยังไม่ทันที่ผมจะทำอะไรร่างสวยสุดยั่วยวนก็เข้ามาเกาะแขนพี่ภามอีกรอบ
“ภามคะนี่มันอะไรกัน คะ  เด็กผู้ชายคนนี้เป็นใครกันคะ” ผมจ้องร่างตรงหน้าก่อนจะหันหลังกลับเพื่อเดินออกไปหารถกลับห้องนอนซักที ถ้าไม่ได้ยินประโยคของพี่ภามเค้าซะก่อนนะ
“อืม เด็กผู้ชายคนนี้เหรอ จะอธิบายยังไงดีหล่ะครับ เอาเป็นว่า เด็กผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ทำให้ผมมีแต่ตาไว้แค่มองเค้า มีปากไว้แค่คุยกับเค้า มีสมองไว้คิดถึงเค้า และมีหัวใจไว้เพื่อรักเค้า ชัดพอที่คุณจะปล่อยผมได้รึยังครับยี่หวา”
“กรี๊ดดดดดดดดด ภามนี่คุณ นี่คุณ...เป็นเกย์เหรอ... ไอ้ผู้ชายทุเรศ”
ผมหันมามองคุณยี่หวาที่ฟาดมือลงบนหน้าของพี่ภามก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย พี่ภามหันมามองผมก่อนจะเดินมา
หา
“พอใจรึยังครับครีม”
“ถ้าพี่ภามโดนคุณยี่หวาตบอีกซักรอบครีมอาจจะพอใจกว่านี้” ผมเดินหันตัวกลับไปที่รถของพี่ภามที่มีบอดี้การ์ดยืนเปิดประตูรออยู่ทันที

__________________________________________________________
มาอีกตอนแล้วมีใครรออ่านอยู่ไหมนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
 :กอด1:


ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่ภามไปกับยี่หวาทำไม มันน่าโดนตบอีกสักทีนะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ที่ภามเดินออกมาพร้อมยี่หวาเนี่ย ยังไม่เคลียรน๊า

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ timtam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนที่ 8
“ครีมถอดเสื้อออกสิครับ” ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านของพี่ภามและกำลังถูกพี่ภามคะยั้นคะยอให้ถอดเสื้ออยู่ ไม่ใช่ว่าพิศวาสอะไรผมหรอกแต่เป็นเพราะไอ้แผลปืนถากที่ต้นแขนใกล้กับหัวไหล่นี่แหละ
“ก็บอกแล้วไงว่าแผลนิดเดียวพี่ภาม ครีมอาบน้ำแล้วไม่เป็นไรหรอกน่า”  ผมบอกอย่างหงุดหงิดเพราะตอนนี้มันตีสามกว่าแล้วแล้วผมก็ง่วงแล้วด้วย  ผมไม่ปล่อยให้เค้าคะยั้นคะยอต่อล้มตัวนอนลงบนเตียงทันทีดึงผ้าห่มคลุมเพื่อไม่ให้พี่ภามได้กวนได้อีก เมื่อหัวถึงหมอนผมก็เข้าสู่นิทราทันที
.
.
.
.
.
ภาม
ผมมองครีมที่มุดตัวลงที่นอนอย่างไม่แยแสผม ผมยิ้มนิดๆหนึ่งเดือนที่อยู่ในช่วงระยะเวลาเรียนรู้กันผมรู้สึกว่ามันอาจจะยังไม่พอเพราะผมรู้สึกอยากเรียนรู้คนๆนี้เรื่อยๆ 1เดือนที่ผ่านมาผมเรียนรู้ว่าครีมเป็นคนง่ายๆ ชอบอะไรเรียบๆ ถ้าคุยมาดีด้วยก็จะดีตอบ พูดตรง ติดออกจะเอาแต่ใจตัวเองแต่ว่าผมว่าครีมไม่น่าจะรู้ตัวเท่าไหร่นะ  มีโลกส่วนตัวสูงต้องคอยเว้นระยะห่างให้เค้าถ้าเข้าใกล้มากไปดูเหมือนครีมพยายามจะถอยห่าง  ผมจึงต้องเว้นระยะห่างให้ครีมบ้าง  ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนออกมาแล้วพบว่าคนใต้ผ้าห่มผืนใหญ่คงหลับไปเรียบร้อยแล้วผมจัดการค่อยๆดึงผ้าห่มออกแล้วดึงตัวครีมขึ้นมาถอดเสื้อออก อ๊ะ! อย่าคิดว่าผมจะฉวยโอกาสครีมหล่ะ ผมแค่จะทำแผลให้ครีมแต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะคนหลับนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลย ผมจัดการอุ้มครีมขึ้นให้นั่งบนตัก แล้วค่อยๆบรรจงทำแผลให้ ครีมก็ยังคงหลับสนิทจนกระทั่งทำแผลเสร็จ ผมมองไหล่ลาดมน ผิวนวลเนียนของครีมก่อนจะค่อยๆบรรจงจูบลงไปตามไหล่ลาดมนนั้น  เอาหล่ะหลังจากจูบที่ไหล่มนเพียงพอผมก็ควรจะใส่เสื้อให้ครีมก่อนดีกว่า ก่อนที่ผมจะอารมณ์เตลิดไปมากกว่านี้แค่ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าภามน้อยเริ่มคุกกรุ่นนิดๆแล้ว ผมใส่เสื้อให้ครีมเสร็จจะอุ้มครีมลงไปนอนลงที่เตียงตามเดิม แต่ครีมกลับเอื้อมแขนสองข้างโอบกอดรอบคอผมก่อนจะเอาหัวพิงซบมาที่ไหล่ของผม ตอนนี้เหมือนผมกำลังเลี้ยงลูกชายหนึ่งคนกล่อมให้นอนหลับ ผมยิ้มก่อนจะก้มลงจูบไปบนผมของครีมก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยมีครีมโอบกอดผมอยู่แบบนี้  ก็อุ่นดีเหมือนกันนะ...

ผมตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้วมองคนในอ้อมกอดที่ยังคงหลับอยู่ คาอกผมนั่นแหละ ผมขยับตัวไปอาบน้ำก่อนจะออกมาปลุกครีม
“ครีมครับ” ผมเรียกคนที่หลับอยู่แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น ผมค่อยๆโน้มหน้าลงไปกระซิบเรียกใกล้หู
“ครีมครับ น้องครีม” ครีมลืมตามองผมนิดหน่อยก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ผมยิ้มนิดๆเด็กขี้เซาเอ๊ย
“ถ้าไม่ตื่นเดี๋ยวตัวเล็กจะขึ้นมาปลุกนะ” สิ้นสุดคำพูดผมคนตรงหน้าลืมตาพรึ่บทันทีก่อนจะหันมาจ้องผมตาขวาง
“พี่ภาม ไม่ตลกเลยนะ ไอ้ตัวเล็กของพี่มันขึ้นมาบนนี้ด้วยเหรอ” ครีมลุกขึ้นนั่งก่อนมองไปรอบตัวราวกับกลัวว่าตัวเล็กแอบอยู่ที่ไหนซักที่ในห้อง ผมหล่ะขำจริงๆนะ ก็ครีมกลัวหมายังกับอะไรดีโดยเฉพาะไอ้ตัวเล็กหมาเซนเบอร์นาดของผมเนี่ยครีมจะกลัวมากผมเคยถามครีมแล้วครีมก็เคยเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆเคยโดนหมาไล่กัดมันเป็นความฝังใจมาถึงทุกวันนี้เลยกลัวมาก ไอ้ตัวเล็กของผมก็รู้สึกจะชอบครีมมากเจอทีไรเป็นต้องวิ่งเข้ามาหาทั้งที่ทุกทีมันเป็นหมาที่ไม่แยแสใครหรอก วันๆก็นอนขี้เกียจยกเว้นเวลามันเจอผมกับไอ้ภีมมันถึงจะกระตือรือร้นขึ้นมา แต่ดูท่าจะมีครีมเพิ่มมาอีกคนนะตอนนี้
“พี่จะพามันขึ้นมาแน่ถ้าครีมยังไม่ลุกไปอาบน้ำ ไปกินข้าวนะครับนี่มัน 11 โมงแล้ว” ครีมเบะปากเล็กๆของตัวเองใส่ผมก่อนจะสะบัดผ้าห่มออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป  ระหว่างรอครีมอาบน้ำผมก็นั่งตรวจเช็คอีเมลล์งานต่างๆ ซึ่งไม่นานเท่าไหร่ครีมก็ออกมาจากห้องน้ำ
“พี่ภามเสื้อผ้าครีมหล่ะ” ผมเหลือบตามองครีมที่ออกมาจากห้องน้ำโดยพันแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวยืนเปลือยอกอยู่ ให้ตายผมอยากจะดึงครีมมาที่เตียงแล้วจับกด
“มานี่ก่อนสิ” ผมเรียกคนตรงหน้าให้มานั่งที่โซฟาที่ผมนั่งอยู่  ครีมก็เดินมาอย่างว่าง่ายก่อนจะนั่งลงข้างๆผม ผมมองแผลที่ไหล่ของครีมซึ่งไม่มีอาการบวมแดง แผลยังดูดีอยู่
“พี่ทำแผลให้นะ” น้องพยักหน้าเป็นการอนุญาต  พูดถึงแผลก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้
“เมื่อคืนครีมกลัวรึเปล่า” ครีมมองหน้าผมก่อนถอนหายใจ
“เพิ่งมาถามตอนนี้เนี่ยนะ”
“ก็นั่นแหละ แล้วครีมคิดว่าไง” ผมถามพร้อมทั้งทำแผลให้ครีมไปด้วย
“ก็ไม่ว่าไง ครีมก็กลัวเป็นธรรมดาแหละปืนนะพี่ภาม แต่ครีมเห็นพี่อยู่ตรงนั้นถึงพี่จะยืนอยู่กับคุณยี่หวาก็เถอะ แต่ครีมรู้ว่าพี่ไม่ปล่อยครีมให้โดนยิงทิ้งหรอก”  ผมยิ้มกับคำตอบที่ได้ฟัง เพราะมันเหมือนว่าน้องกำลังบอกว่าน้องเชื่อใจผมอยู่
“ครีมครับเรื่องยี่หวามันไม่มีอะไรให้ครีมต้องกังวลนะ ที่เมื่อวานพี่ไปกับเค้าเพราะพี่แค่ไปตามเค้าให้ไอ้ภีม ก็นั่นแหละอย่างที่รู้เรื่องนิสัยยี่หวา  ไอ้ภีมเลยขอร้องพี่มามันคงไม่อยากให้งานละครมันพัง” ครีมมองผมก่อนจะพยักหน้า คือตั้งแต่เกิดมาคบใครผมกับไม่เคยต้องมานั่งอธิบายอะไรให้ใครฟังเลยนะ  ผมมองหน้าครีมแต่ครีมก็ยังไม่พูดอะไรออกมา
“โธ่ ครีมพูดอะไรหน่อยสิครับ” ครีมมองผมตาแป๋วก่อนจะพูดขึ้น
“พี่ภามครับ เสื้อผ้าครีมหล่ะ หนาวจะตายอยู่แล้ว” ผมมองหน้าครีมอึ้งๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปหาเสื้อผ้าให้ครีมใส่
ครีมใส่เสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาหาผมที่นั่งรออยู่ที่โซฟาก่อนจะยิ้มนิดๆ  หน้าครีมค่อยๆเลื่อนลงมาผม ผมใจเต้นรัวเร็วยังกับเด็กสาวที่ตกหลุมรักครั้งแรก ริมฝีปากนิ่มแตะลงบนปากผม แค่แตะอยู่แบบนั้นก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะเลื่อนมากระซิบข้างหูผม
“ขอบคุณนะครับที่อธิบายให้ครีมฟัง” ครีมผละออกไปแล้ว ผมได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ร่องรอยอุ่นๆยังคงติดที่ริมฝีปากผม เสียงกระซิบนุ่มๆ ยังคงติดหู  แค่สัมผัสแผ่วเบาไม่หวือหวาแต่กลับทำให้ใจผมเต้นรัวเร็ว พร้อมกับความร้อนที่กึ่งกลางลำตัวที่ก่อตัวขึ้น ให้ตายสิภามเอ๊ยแพ้เด็กก็วันนี้แหละวะ
.
.
.
.
.

“ไอ้ภามมึงเป็นอะไรวะ”
“อะไรของมึงวะไอ้ภีม” ผมหันมามองหน้ามันที่นั่งกระดิกเท้าอย่างน่าถีบ
“ก็กูเห็นมึงนั่งเหม่อมานานเป็นอะไร หรือว่าเรื่องที่กูให้มึงไปตามยี่หวานั่นน้องเค้าโวยวายว่าอะไรรึเปล่า ทะเลาะกันรึไง” ตอนนี้ไอ้ภีมมาหาผมเพราะมันรู้เรื่องที่ผมถูกลอบยิงเมื่อวาน แน่นอนแหละมันไม่ได้มาคนเดียวหรอกน้องภูของมันก็มาด้วยแต่ตอนนี้น้องภูของมันคงกำลังขลุกอยู่กับครีมนั่นแหละสองคนนั้นเข้ากันดีอย่างกับปี่อย่างกับขลุ่ยทิ้งให้ไอ้ภีมเป็นหมาหัวเน่าอยู่กับผมนี่ไง
“ก็เปล่า ไม่ได้ทะเลาะกันกูอธิบายให้ครีมฟังแล้วน้องเข้าใจ ที่กูเหม่อเพราะกูกำลังคิดถึงครีมอยู่” ไอ้ภีมทำหน้าขยะแขยงผมนิดๆ
“อย่ามาน้ำเน่าไอ้ภาม มึงกับครีมห่างกันไม่ถึง15นาที”
“ไม่ใช่เว้ย กุหมายถึงคิดถึงเรื่องของครีมต่างหาก กูว่าอีกไม่นานหรอกศัตรูรอบๆตัวกูคงระแคะระคายเรื่องครีม กูเลยแค่กังวลว่าครีมเริ่มจะไม่ปลอดภัยต่างหาก” ไอ้ภีมนั่งฟังพร้อมกับหรี่ตามองผมอย่างจับผิด
“มึงอย่ามาไอ้ภามกูรู้จักมึงดี” ผมถอนหายใจก่อนสารภาพ
“เออกูก็กังวลว่าครีมอาจจะหายไปเหมือนคนอื่น ก็ทุกคนแมร่งก็ต้องรักชีวิตตัวเองกันทั้งนั้นนี่หว่า”
“มึงถามครีมรึยัง”
“ถามแล้ว ครีมก็บอกว่ากลัว”
“ภามมึงลืมไปรึเปล่าว่าครีมช่วยชีวิตมึงมาสองครั้งแล้ว” ผมมองหน้าไอ้ภีมอีกครั้ง
“ก็เพราะแบบนี้ไงกูรู้ว่าครีมไม่เหมือนทุกคนที่กูผ่านมา ไม่เหมือนใครคนนั้นที่ทิ้งกูไปอย่างไม่ไยดีแต่ก็นั่นแหละเพราะเค้าไม่ได้ทิ้งกู ไม่ได้เป็นเหมือนคนอื่นๆยิ่งทำให้กูกลัวที่จะต้องสูญเสีย มึงก็รู้ว่ากูมันพวกศัตรูรอบด้าน แล้วกูกับครีมก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน คือกูจีบเค้าอยู่แล้วกูดูแลเค้าไม่ได้ตลอดนั่นเป็นสิ่งที่กูห่วง”
“มึงว่าอะไรนะภาม นี่มึงจีบน้องเค้าอยู่เหรอ ฮ่าๆๆๆ นี่มันเดือนกว่าแล้วมึงหมดน้ำยาแล้วเหรอวะฮ่าๆๆๆ” ผมหล่ะหมั่นไส้
“เออหัวเราะไปให้ตายเลยมึง  มึงกับภูนี่จีบกันเป็นปีกูยังไม่ล้อมึง” ไอ้ภีมมันหุบยิ้มทันที ก่อนจะเคร่งหน้าขรึม ใช่ไอ้ภีมมันตามจีบน้องภูของมันตั้งเป็นปีๆ หึหึ ยังมีหน้าหัวเราะกูนะไอ้ภีม
“เออ แล้วนี่มึงกับน้องไปถึงไหนวะ”
“ก็จูบจูบแบบไม่ใช่ดีฟคิส” ผมจ้องมันทันทีเพราะผมรู้มันกำลังหัวเราะผมอยู่แม้มันจะไม่มีเสียงเหมือนตอนแรกก็เถอะ
“กูไม่อยากเชื่อคนอย่างมึงจะมีวันนี้ หึหึ ในฐานะที่กูมีประสบการณ์มากกว่ามึงในเรื่องความรัก กูแนะนำว่ามันคุ้มค่าที่เฝ้ารอมากวะ” ไอ้ภีมเหยียดยิ้มก่อนจะลุกขึ้นตบไหล่ผมก่อนจะเดินออกไป คงจะไปหาน้องภูของมัน ผมมองแผ่นหลังเพื่อนสนิทของผมก่อนจะพิงตัวลงไปที่โซฟา แล้วหลับตาลง




ครีม
ตอนนี้ผมกำลังช่วยพี่ภูทำกับข้าว ใช่ตอนนี้ผมยังคงอยู่บ้านพี่ภาม แล้วเย็นนี้เราก็จะทานข้าวเย็นพร้อมกับพี่ภู พี่ภีมและพี่ภาม
“เอ่อ ครีมพี่ถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับพี่ภูจะถามอะไรครีมเหรอ” ผมเงยหน้าจากเขียงหั่นผักอยู่ขึ้นมามองพี่ภูที่กำลังยืนอยู่หน้าเตา
“ครีมรู้สึกยังไงกับพี่ภามเหรอ เอิ่มขอโทษนะที่พี่ละลาบละล้วงไป” ผมยิ้มบางกลับไปก่อนจะเอ่ยตอบไป
“ก็รู้สึกดี ไม่ได้รังเกียจหรอกครับแต่คือครีมก็บอกไม่ถูก ครีมมีนิสัยบางอย่างที่รู้สึกว่าแก้ไม่หาย ซึ่งมันก็ทำให้ครีมกลัว” ผมพูดไปแต่ไม่ได้เงยหน้ามองพี่ภู
“ครีมอาจจะหาว่าพี่เห็นแก่ตัวก็ได้แต่พี่ภามเค้าเป็นคนที่เติบโตมาในเอ่อครอบครัวธุรกิจแบบนี้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีใครซักคนที่สำคัญอยู่เคียงข้าง อย่างเหตุการณ์เมื่อคืนพี่อยากจะถามครีมว่าครีมคิดว่าไง” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ภู พร้อมกับคิดว่าทำไมทุกคนรอบตัวดูจะกังวลกับความรู้สึกของผมกับเหตุการณ์เมื่อคืน แต่พอคิดอีกทีผมว่าอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึกของผม...
“พี่ภูกำลังกลัวว่าครีมจะทิ้งพี่ภามไปเหรอครับ” พี่ภูพยักหน้ารับแต่โดยดีซึ่งมันทำให้สิ่งที่ผมคิดนั้นถูก
“ครีมคงให้สัญญากับพี่ภูไม่ได้ว่าตัวเองจะอยู่กับพี่ภามไปได้นานแค่ไหน แต่จากเหตุการณ์เมื่อคืนครีมต้องยอมรับว่าครีมกลัวแต่ตอนนี้ครีมก็ยังอยู่กับพี่ภามอยู่ เรื่องของเมื่อคืนมันก็ผ่านแล้วแล้วครีมก็ยังอยู่พี่ภามก็ยังอยู่นั่นแหละครีมก็คิดแค่นั้นแหละ” ผมไม่รู้ว่าพี่ภูจะเข้าใจผมไหม แต่พี่ภูก็ยังส่งรอยยิ้มมาให้ผม
“พี่คงพูดอะไรมากไม่ได้ แต่พี่ว่าถ้าพี่ภามจะมีใครซักคนที่จะเคียงข้างไปตลอดพี่ก็อยากให้เป็นครีมนะ” ผมยิ้มนิดหน่อยไม่ตอบอะไร ก่อนจะหันมาหั่นผักต่อ
.
.
.
.
“ครีมจะกลับหรือจะนอนนี่ต่อ” พี่ภามถามขึ้นหลังจากที่พี่ภีมกับพี่ภูกลับไปแล้ว
“พรุ่งนี้ครีมไม่มีงาน พี่ภามหล่ะ”
“พรุ่งนี้พี่มีประชุมตอน 10 โมงเข้าบริษัท 9 โมง”
“งั้นครีมนอนนี่ก็ได้แล้วตอนเช้าค่อยกลับ” พี่ภามยิ้มเมื่อผมบอกว่าจะนอนที่นี่ มือของพี่ภามเลื่อนมากุมมือผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็มือพี่เค้าก็อุ่นดี แล้วเราก็ต่างคนต่างนั่งดูทีวีกันต่อ
“ครีม”
“หือ” ผมขานรับทั้งที่ตายังจ้องมองทีวี แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่เรียก จนผมต้องละสายตาจากทีวีมามองคนที่นั่งข้างๆ ที่นั่งจ้องผมอยู่ สายตาของพี่ภามที่ดูจริงจังทำให้ผมเงียบเพื่อรอ...
“เป็นแฟนกันนะ”
“ห๊ะ!” พอผมอุทานออกไปทันที  สายตาที่จริงจังของพี่ภามแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่ดูเศร้าลงทันที มือพี่ภามที่กุมมือผมอยู่ผมรู้สึกว่ามันเย็นแปลกๆบางทีอาจจะไม่ใช่มือพี่ภามหรอกแต่อาจจะเป็นมือของผมด้วยก็ได้  ผมมองคนตรงหน้าที่แม้สายตาจะเศร้าลงแต่สีหน้าก็ยังเรียบนิ่งและเฝ้ารอคำตอบจากปากของผมอยู่  ผมคิดทบทวน 1 เดือนที่เรียนรู้พี่ภามมาพี่ภามทำให้ผมเห็นว่าพี่ภามเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ถึงธุรกิจหรือชื่อเสียงของพี่เค้าจะทำให้พี่เค้าจะดูไม่ธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผมพี่เค้าเหมือนจะเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่เดินกับผมอยู่เคียงข้างผม
“ครับเป็นแฟนกันนะครับพี่ภาม” พี่ภามยิ้มกว้างทันทีที่ผมเอ่ยออกไปก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น จนผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของพี่ภาม 
“เด็กบ้าเอ๊ย ตอนแรกพี่นึกว่าเราจะปฏิเสธ” พี่ภามบ่นขึ้นมาทั้งที่ยังกอดผมอยู่  ผมหัวเราะ
“ก็มันตกใจจริงๆ นี่นาผมไม่เคยมีแฟนด้วย”
“หืม” พี่ภามทำเสียงแปลกใจก่อนจะดึงตัวผมออกจากอ้อมกอด
“อะไรหล่ะ ก็ปกติก็นอนกับผู้หญิงบ้างผู้ชายบ้างแต่ก็แค่นอนด้วยไม่ได้เคยจริงจังกับใครนี่นา ไม่ได้คิดว่าต้องคบเป็นแฟนแบบนี้อะ” ฟังดูเหมือนผมชั่วเลยเน๊อะก็มันก็แค่เซ็กส์ที่เรายินยอมทั้งสองฝ่ายนี่นา ผมมองพี่ภามที่ตอนนี้ผมว่าพี่เค้าดูท่าจะไม่พอใจเท่าไหร่
“พี่ภามอย่ามาหงุดหงิดนะ เมื่อก่อนพี่ไม่เคยนอนกับผู้หญิงรึไงหล่ะ”
“ก็เคย แต่พี่ก็งี่เง่าพี่หวงครีมนี่นา” ผมมองคนตรงหน้าที่ทำท่างอแง คือแบบพี่ภามตัวใหญ่นะเพราะพี่เค้าเป็นลูกครึ่งแล้วคือแบบพอทำหน้างอแงมันให้ความรู้สึกว่าพี่เค้าเหมือนไอ้ตัวเล็กอะ
“ขอร้องเหอะตอนนี้พี่กำลังทำหน้าเหมือนไอ้ตัวเล็กนะ”
“หึ พี่หล่อกว่ามันตั้งเยอะ” พี่ภามสะบัดหน้ากอดอกทันทีที่ผมบอกว่าเค้าเหมือนไอ้ตัวเล็ก
“เหอะๆ  ขอร้องเหอะพี่ภามอย่ามาทำท่าแบบนี้นะตัวเองอายุตั้ง 28 แล้วไม่น่ารักซักนิด” ผมส่ายหน้ากับคนที่งอนไม่เลิกก่อนจะลุกขึ้น ผมว่าผมขึ้นห้องไปอาบน้ำดีกว่า แต่ขายังไม่ทันก้าวออกไปมือของคนงอนก็คว้าแขนผมไว้แล้วออกแรงดึง แน่นอนว่าตัวผมก็ล้มลงตามสเต็ปไปนั่งอยู่บนตักพี่ภามเค้านั่นแหละ
“อะไรเนี่ยพี่ภาม”
“จูบหล่ะ จูบหล่ะ”
“ห๊ะ!” ผมอยากจะบ้า สาบานเถอะว่าพี่เค้าอายุ 28
“ก็เป็นแฟนกันแล้วก็ต้องจูบกันสิ นะครับคุณแฟน เอาจริงๆพี่อยากจูบครีมจะตาย จูบกันเถอะ จูบกันเถอะ” โอ๊ยผมไม่ไหวแล้วตัวก็โตแล้วยังมาอ้อนแบบนี้ให้ตายเถอะ นี่มันยังกับไอ้ตัวเล็กเวลาวิ่งเข้ามาหาผมเลยแต่ถ้าตัวเล็กเป็นคนแบบพี่ภามไม่แน่นะผมอาจจะเลิกกลัวมันก็ได้....ผมลูบไล้โครงหน้าพี่ภามคิ้ว จมูก ไล่มาที่แก้มก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าลงไปหาแล้วค่อยๆบรรจงกดจูบลงไป ปากที่สัมผัสกัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลิ้นอุ่นที่เกี่ยวกระหวัดกันไป ผมจำไม่ได้ว่าเราจูบกันนานเท่าไหร่ หัวใจผมเต้นโครมครามจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา ทั้งๆที่มันไม่ใช่จูบแรกแต่เป็นครั้งแรกที่ใจผมเต้นบ้าคลั่งและรู้สึกอยากจูบคนตรงหน้าไปทั้งตัว

________________________________
แฮ่ๆ อัพอีกตอนคะ พรุ่งนี้วันจันทร์ต้องไปเรียนอีกแล้ว :sad4:
จะอัพอีกทีอาทิตย์หน้านะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นต์นะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
 :katai5:

เหมือนน้องครีมเคยซดมาม่าชามโตมาแล้วเลย (แอบมีปม)
ส่วนอิพี่ภามก็ศัตรูเยอะไปไหนเนี่ย ถามจริงออบเป็นมาเฟียปะ
รอติดตามฮร๊าฟฟฟ....

 :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด