ตอนที่ 12
ครีมหลังจากค่ำคืนที่ปรับความเข้าใจไป ตอนนี้ผมก็กลับมาอยู่กรุงเทพเรียบร้อย ผมได้เจอกับพี่อลิสซึ่งมารอเจอผม ตัวจริงพี่เค้าสวยกว่าในนิตยสารที่ผมเห็นและนิสัยก็น่ารักมากจนทำให้ผมสนิทกับพี่อลิสได้ไม่ยากจนพี่ภามหมั่นไส้ รีบไล่ให้พี่อลิส
กลับฮ่องกงไป แต่เมื่อพี่อลิสกลับไปเรื่องก็ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่....
“ครีมครับ ย้ายไปอยู่กับพี่เถอะนะ” ใช่ตอนนี้พี่ภามกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้ผมไปอยู่ด้วย ผมก็ปฏิเสธทุกครั้งไปเพราะผมคิดว่ามันเร็วไปก็เพิ่งคบกันมาได้แค่ 4 เดือนกว่าเองแล้วผมก็ไม่คุ้นกับบ้านหลังใหญ่แบบบ้านพี่ภามด้วยแล้วที่บ้านผมอีก ผมเลยปฏิเสธทุกครั้งไป
“พี่ภาม ครีมก็บอกแล้วไงว่าครีมยังไม่พร้อม”
“แล้วเมื่อไหร่ครีมจะพร้อมหล่ะครับ” ผมวางช้อนซ้อมลงบนจาน ใช่ตอนนี้เรากำลังมากินข้าวกันซึ่งไม่ใช่ที่บ้านของพี่ภาม และไม่ใช่ที่ห้องผมแต่เป็นที่ร้านอาหารบรรยากาศดีๆร้านหนึ่งในกรุงเทพนี่แหละ ตั้งแต่วันนั้นที่เราปรับความเข้าใจกันพี่ภามก็ไม่มีข่าวควงกับผู้หญิงที่ไหนอีก ถ้าจะมีก็เป็นข่าวว่าควงหนุ่มน้อยน่ารักซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ใครที่ไหนก็ผมเองนั่นแหละ ถึงจะไม่ชอบข่าวนั่นเท่าไหร่แต่ผมก็ต้องตั้งรับเพราะพอจะเดาออกว่าพี่ภามจะเริ่มเปิดตัวผมมากขึ้น แม้ตอนนี้พี่ภามจะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อใดๆเลย แต่สื่อก็ตามข่าวได้ดี พี่ภามกับผมไปไหนก็มีรูปหลุดออกมาอยู่ทุกครั้งไป แต่รูปมันก็ไม่ชัดเท่าไหร่หรอก และแม้ว่าผมจะถูกจับตามองจากนักข่าวหรือมีพวกสังกัดต่างๆมาติดต่อให้ผมทำงานวงการบันเทิงผมก็ปฏิเสธไปอย่างทันที...ผมไม่ได้อยากดัง ผมก็แค่อยากเป็นครีมผู้ชายธรรมดาของพี่ภามแค่นั้นเอง แต่ผมไม่บอกพี่ภามหรอกก็มันน่าอายจะตาย
“ก็เมื่อครีมพร้อมนั่นแหละครับ” ผมดื่มน้ำก่อนจะตอบพี่ภามไป พี่ภามมองผมก่อนจะพูดขึ้น
“พี่อยากไปบ้านครีม” ผมมองหน้าพี่ภาม พี่เค้าก็เป็นแบบนี้ไม่เข้าใจว่ามีเครื่องอ่านความคิดผมรึไง ผมถอนหายใจ ก็นั่นแหละสิ่งที่ผมกลัวนั่นแหละ
“วันเสาร์นี้ถ้าพี่ภามว่าง แล้วก็เผื่อใจซักนิดแล้วกันนะครับ เตรียมทิชชู่ด้วยก็ดี”
“ขู่พี่เหรอครับ”
“เปล่า ครีมให้เตรียมให้ครีมต่างหาก เผื่อครีมร้องไห้ขี้มูกโป่ง” พี่ภามหัวเราะก่อนจะจิบไวน์ ผมได้แต่เบะปากใส่พี่ภามด้วยความหมั่นไส้
.
.
.
.
วันเสาร์
พี่ภามขับรถมารับผม ผมก็บอกเส้นทางไปยังบ้านของผม ผมไม่รู้ว่าผมตัดสินใจถูกไหมกับเรื่องนี้ผมกลัวและกังวลมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยการที่จะเดินเข้าไปเพื่อบอกกับเตี่ยและแม่ว่าแฟนผมเป็นผู้ชาย แต่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆผมตอนนี้กับทำราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาซะเหลือเกิน ผมบอกทางมาเรื่อยๆ ผมไม่ง่วงซักนิด ใครมันจะกล้าหลับลงกัน เมื่อร้านอาหารและบ้านอันคุ้นตาเริ่มปรากฏขึ้นใจผมก็เต้นรัวเร็ว มือก็ค่อยๆเย็นลง ผมสูดหายใจเข้าออก จนกระทั่งรถพี่ภามจอดสนิทผมก้าวลงจากรถเดินนำพี่ภามเพื่อเข้าไปในบ้านที่ผมโทรบอกทุกคนแล้วว่าวันนี้ผมจะกลับและอยากให้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก ขณะที่กำลังเดินไปมืออุ่นๆของพี่ภามก็คว้ามือเย็นๆจากความตื่นเต้นของผมไปจับ
“พี่อยู่กับครีมตรงนี้นะครับ” เพียงประโยคเดียว แต่ช่วยให้หัวใจที่เต้นรัวเร็วของผมค่อยๆกลับมาเต้นในจังหวะเดิม พี่ภามกลายเป็นฝ่ายเดินนำผมเข้าไปในร้าน ทันทีที่ก้าวเข้าไปทุกสายตาก็จับจ้องมาที่พี่ภามทันทีเพราะคนคนนี้ดูจะสะดุดตาเหลือเกินทั้งรูปร่างหน้าตาและการแต่งตัว
“ขอโทษนะครับคุณร้านเราเปิด 11 โมงนะครับ” เสียงเฮียของผมเอง
“ขอโทษครับ ผมมากับครีมครับ” พี่ภามเบี่ยงตัวออกเพื่อให้เฮียได้เห็นผมอย่างชัดเจน ผมยกมือไหว้เฮีย เฮียพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองมาที่พี่ภามและมองกลับมาที่ผม แน่หล่ะนั่นเป็นคำถามว่าพี่ภามเป็นใคร
“เข้าข้างในเถอะครีมมีเรื่องจะคุยด้วย เจ้น้ำตาลอยู่ด้วยรึเปล่า” ผมไม่ตอบคำถามเพราะคิดว่าจะบอกเมื่ออยู่กันพร้อมหน้า
“อยู่ มันแลกเวรกับเพื่อน” ผมเดินตามเฮียเข้าไปในร้าน โดยมีพี่ภามเดินตามเข้ามา เฮียพาเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารซึ่งอยู่ติดระเบียงมองเห็นทะเล มีสายลมเย็นๆพัดผ่านมา ที่โต๊ะอาหารทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเมื่อผมก้าวเดินเข้ามาก็พบว่าทุกสายตาจ้องมองมา ไม่ได้มองมาที่ผมหรอก แต่เป็นคนแปลกหน้าที่อยู่ด้านหลังผมมากกว่า สายตาทุกคนดูแปลกใจ มีแต่
เจ้น้ำตาลที่ตาโตและอ้าปากค้าง ผมสวัสดีทุกคนบนโต๊ะ พี่ภามก็ทำแบบเดียวกับผม ทุกสายตายังคงจับจ้องมองมาอย่างสงสัย ยกเว้นเจ้น้ำตาลถ้าผมเดาไม่ผิดเจ้ที่ชอบอ่านนิตยสารดารายามว่างน่าจะรู้แล้วว่าเรื่องสำคัญของผมวันนี้คืออะไร ผมมองพี่ภามที่สีหน้ายังคงนิ่งสงบ ผมหันหน้ามามองทุกคนในครอบครัวก่อนจะเอ่ยปากแนะนำคนข้างๆ
“สวัสดีครับ ผมชื่อภาม เป็นแฟนของครีมครับ” ผมกัดปากตัวเองทันที เมื่อพี่ภามแนะนำตัวเองโดยไม่รีรอให้ผมได้เอ่ยปากพูด หลังจากพี่ภามแนะนำตัวทุกคนนิ่งเงียบทันที ผมก้มหน้าลงเพื่อรอคำพูดมากมายที่อาจจะถาโถมเข้ามา
“เพราะคุณมันเป็นเพราะผู้ชายอย่างคุณที่เอาแต่มั่วผู้หญิง จนลูกมันผิดเพศแบบนี้” เสียงแม่เอ่ยต่อว่าพ่อ ผมเงยหน้าขึ้นทันที
“คุณมันก็ดีแต่โทษคนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง ไม่เคยเลย ถ้าคุณไม่บ้าผลาญเงินมีเวลาดูลูกลูกมันจะเป็นแบบนี้ไหม วันๆคุณทำอะไรบ้างนอกจากจะเอาเงินไปผลาญซื้อบ้าบออะไรของคุณ” เตี่ยหันกลับไปตวาดแม่ทันที ผมมองภาพตรงหน้าหัวใจราวกับเหมือนจะหยุดเต้น น้ำตารื้นขึ้นมาทันที เพียงเพราะผมตัดสินใจบอกทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน
มือใหญ่คว้ามือของผมเข้าไปกุมทันที
“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยถ้าคุณมีเวลาให้ฉันไม่เที่ยวไปกกผู้หญิง คิดว่าฉันจะต้องออกไปหาความสุขนอกบ้านไหม”
“แล้วถ้าคุณมันไม่เอาแต่บ้าเงิน บ้าวัตถุคุณคิดว่าผมจะออกไปหาผู้หญิงพวกนั้นไหม”
“หยุดซักทีเถอะครับ” เสียงที่ดูมีอำนาจของพี่ภามเอ่ยขึ้นอย่างเฉียบขาดซึ่งหน้าแปลกที่เตี่ยกับแม่หยุดการทะเลาะลง สายตาสองคู่หันมามองที่พี่ภาม
“ออกไปจากบ้านผม ส่วนแกครีมไปลาออกจากงานที่กรุงเทพแล้วกลับมาบ้าน” เตี่ยหันมาสั่งอย่างเฉียบขาด แต่มือของพี่ภามก็ยังคงกุมมือผมไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยออก
“ทำไมแกถึงทำแบบนี้ครีม ทำไมแกต้องผิดเพศ” แม่ผมมองมาที่ผมด้วยสายตาว่างเปล่า
“เตี่ย แม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ” เจ้น้ำตาลพูดขึ้น
“หุบปากแกไปน้ำตาล แกก็อีกคน แกทำไมไม่ดูแลน้อง แกมันเป็นพี่สาวภาษาอะไร แกด้วยตาข้าวแกมันเป็นพี่ชายคนโตทำไมไมรู้จักสั่งจักสอนน้อง” แม่หันไปต่อว่าเจ้น้ำตาลกับเฮีย เจ้น้ำตาลกัดปากทันที ส่วนเฮียจ้องมองมาที่ผมที่ยังคงยืนนิ่ง
“ผมสอนน้องเสมอว่าถ้ามีความรักก็ให้มันดูแลรักของมันให้ดี เมื่อโกรธให้คุยกันอย่าทะเลาะ อย่าเป็นเหมือนเตี่ยกับแม่” เฮียข้าวพูดขึ้น เจ้น้ำตาลน้ำตาไหลลงมาทันทีที่เฮียพูดจบ เตี่ยกับแม่ยืนเงียบ เตี่ยหันมามองผมก่อนจะพูดขึ้น
“รักแบบพวกแกฉันจะคอยดูว่ามันจะไปได้ไกลซักกี่น้ำ จำไว้นะถ้าวันไหนแกซมซานกลับมาฉันจะรอตอกย้ำแกอยู่ครีม” เมื่อเตี่ยพูดเสร็จก็เดินออกไปทันทีไม่หันกลับมามองอีกเลย เหลือแม่อีกคนที่มองมาที่ผม
“เป็นเพราะฉันเลี้ยงแกไม่ดีสินะ” แม่พูดออกมาทั้งน้ำตา จนทำผมสะท้อนใจ
“ไม่ใช่ แม่ครีม ครีมผิดเอง” ผมรีบเข้าไปจับแขนแม่
“หึ ช่างมันเถอะยังไงฉันก็ขอให้แฟนแกไม่เจ้าชู้มักมากเหมือนเตี่ยแกแล้วกัน” แม่หันไปมองหน้าพี่ภามก่อนจะเดินออกไปอีกคน ผมยืนปล่อยให้น้ำตาไหล พี่ภามเดินเข้ามาโอบกอดผม เจ้น้ำตาลเดินเข้ามาตรงหน้าผม ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ภามเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีฝ่ามือเล็กๆของเจ้น้ำตาลก็ตวัดลงบนใบหน้าของพี่ภาม
“นี่สำหรับข่าวคาวมากมายของนายที่ทำให้น้องฉันเสียใจ” เจ้น้ำตาลพูดเสร็จก็หันกลับมาหาผมก่อนจะคว้าตัวผมไปกอด
“ครีมฉันยังเป็นเจ้แกเสมอนะ แกกล้าหาญมากวันนี้ที่เดินเข้ามาบอกความจริงกับทุกคนที่บ้าน มีอะไรก็โทรมาหาเจ้นะ”
ผมกอดเจ้น้ำตาลก่อนปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา เมื่อเจ้น้ำตาลคลายอ้อมกอดออกผมก็เห็นเฮียข้าวยืนอยู่ ผมปาดน้ำตาออก เมื่อเฮียก้าวเข้ามา
“เจอแล้วนะครีมความรักของครีม ดูแลมันให้ดี อย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดเข้าใจมั้ย” ผมพยักหน้ามืออุ่นๆของเฮียลูบลงที่หัวของผม ผมเงยหน้าขึ้นมองเฮียก่อนจะพบว่าตอนนี้พี่ภามเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณนะครับ” พี่ภามพูดกับเฮียข้าวและเจ้น้ำตาล
“ผมไม่ได้มองความรักของพวกคุณผิดเข้าใจไหม ผมรู้ว่าความรักแบบพวกคุณนั้นน่าสงสารขนาดไหน มีคนอีกมากที่ไม่เข้าใจอย่างเตี่ยผม ทุกคนมักจะมองว่าความรักแบบนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนซักวันต้องเลิกกัน แต่ก็อย่างที่คุณเห็นสภาพครอบครัวของผมว่าถึงจะเป็นความรักแบบผู้ชายกับผู้หญิงที่ถูกต้องที่ทุกคนยอมรับ แต่มันก็ไม่ได้เป็นหลักประกันเลยว่าความรักแบบนี้จะมีความสุข การมีลูกไม่ได้แปลว่าจะทำให้คนสองคนรักกันมากขึ้น อย่างที่คุณเห็นพวกเค้าไม่เคยหยุดทะเลาะกันเลยตั้งแต่วันที่มีผมจนกระทั่งวันที่มีครีม พวกเค้ามีลูกเหมือนเป็นเครื่องที่ผูกรั้งพวกเค้าทั้งสองคนไว้ไม่ให้แยกทางกันในแง่ของสังคมและร่างกาย แต่ในแง่ของความรู้สึกผมคิดว่ามันไม่เหลือแล้วหล่ะ สำหรับผมบางทีการแยกกันอยู่แต่ยังมีความรู้สึกรักกันมันคงทรมานน้อยกว่านี้ ความรักแบบของคุณมันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความรักแท้ที่ต้องใช้หัวใจรักเพื่อผูกมัดกันและกันมีอยู่จริง” เฮียข้าวพูดก่อนจะเดินเข้ามาตบไหล่พี่ภามเบาๆ
“น้องผมอาจจะกลัวความรักเพราะสภาพครอบครัวที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่ผมคิดว่าคุณจะช่วยรักษานิสัยนี้ของเค้าได้ ฝากด้วยหล่ะ”
“ผมจะไม่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ครีมเสียใจ เพราะในบางครั้งเราก็มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันและทำให้ครีมต้องร้องไห้ แต่ผมจะสัญญาว่าในทุกครั้งที่ครีมร้องไห้ผมจะเป็นคนที่เช็ดน้ำตาให้ครีม ในเวลาที่ครีมอ่อนแอผมจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างครีมและโอบกอดครีม ผมจะทำให้เห็นว่าความรักของผมก็ทำให้ครีมมีความสุขไม่ได้น้อยไปกว่าความรักของชาย-หญิงที่คนตีตราว่าถูกต้องเหมาะสม”
เฮียยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านอาหาร เจ้น้ำตาลเดินเข้ามาจูงมือผมกับพี่ภามเพื่อไปส่งที่รถที่จอดอยู่นอกร้าน
“มีความสุขกับความรักครั้งนี้นะครีม เรื่องของเตี่ยกับแม่เจ้ว่าตอนนี้เตี่ยกับแม่คงไม่สนใจหรอก ก็อย่างที่รู้นั่นแหละ กลับมาหาเจ้บ้างหล่ะ เหมือนฉันมาส่งแกเข้าหอลงเรือนเลยนะเนี่ย” เจ้น้ำตาลยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหาอีกคน
“คุณภาม หวังว่าฉันคงไม่เห็นข่าวของคุณกับผู้หญิงที่ไหนอีกนะคะ” พี่ภามยิ้มรับ
“เรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่ที่ครีมแล้วครับ ถ้าครีมมาอยู่กับผมผมก็คงไม่ต้องมีข่าวกับผู้หญิงพวกนั้นหรอกครับ” ผมถลึงตาใส่คนที่หันหน้าไปพูดออดอ้อนเจ้น้ำตาลอยู่โดยลืมไปแล้วว่ารอยแดงจางๆบนใบหน้านั้นมาจากฝ่ามือของคนที่ตนเองกำลังอ้อนอยู่
“นี่ครีมแกทำไมไม่ไปอยู่กับคุณภามเค้าฮะ เดี๋ยวเหอะแกอย่าปล่อยเชียวนะผู้ชายแบบคุณภามนี่มีผู้หญิงรอจะงาบเค้าอยู่ทั่วประเทศนะยะ ไปเลยนะกลับไปแกย้ายข้าวย้ายของไปอยู่กับคุณภามเลย หัดหวงแล้วก็ยั่วยวนเอาอกเอาใจซะบ้างผัวจะได้รักได้หลง” ผมหน้าเหวอทันทีที่โดนเจ้น้ำตาลเทศนาเรื่องนี้ ในขณะที่พี่ภามผมดูออกว่ากำลังกลั้นหัวเราะอยู่ก็นัยน์ตาสั่นระริกขนาดนั้น
เมื่อขึ้นรถมาทั้งผมและพี่ภามต่างนิ่งเงียบ
“ที่พี่สาวเราพูดหมายความว่ายังไงเหรอครีม ที่บอกว่าเตี่ยกับแม่เราเค้าไม่สนใจหน่ะ” ผมมองไปยังถนนข้างหน้าที่รถกำลังจอดติดอยู่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์เป็นวันหยุดทำให้รถค่อนข้างเยอะ
“ก็อย่างที่พี่ภามเห็นคือเตี่ยกับแม่เค้ามะเลาะกัน แล้วคือก็เป็นแบบนี้มานานมากเวลามีเรื่องอะไรเข้ามามันก็เหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยนั่นแหละ เรื่องสำคัญคือชีวิตเตี่ยกับชีวิตแม่ เพราะเดี๋ยวเตี่ยก็ออกไปหาผู้หญิงข้างนอกอยู่ดี ส่วนแม่เดี๋ยวก็คงออกไปหาความสุขในแบบของแม่นั่นแหละ”
“บางที่พี่ก็สงสัยว่าระหว่างการเลิกกันไปกับการอยู่แบบนี้แบบไหนเจ็บปวดกว่ากัน”
“ผมก็เคยคิดแบบนี้ เมื่อก่อนเตี่ยกับแม่เค้าก็จะแยกทางกันแต่เฮียข้าวเป็นคนขอไว้ เตี่ยกับแม่ก็อยู่กันมาแบบนี้ แต่ผมก็คิดนะว่าบางทีทั้ง2คนอาจจะยังรักกันอยู่นิดๆหล่ะมั้งแต่มันก็มักจะมีความคิดอีกอันแทรกเข้ามาว่าถ้ารักกันแล้วทำไมถึงทำร้ายกันแบบนี้ผมก็ไม่เข้าใจ” พี่ภามเลื่อมมือมากุมมือผมไว้
“เตี่ยครีมเคยพาผู้หญิงมาบ้านไหม”
“ไม่เคยหรอกส่วนใหญ่เตี่ยก็ออกไปเที่ยวตามพวกผู้หญิงหากินหล่ะมั้งผมก็ไม่รู้ แต่ไม่เคยมีหรอกที่จะพาเข้าบ้านหรือจะมาอาละวาดใส่แม่ครีม”
“ครีมมีน้องที่ไหนอีกไหม”
“ครีมว่าไม่มีนะ เพราะมันเงียบสงบมานานมากตั้งแต่ครีมเกิดจนตอนนี้ครีมอายุ23 ครีมก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมาพูดว่าเป็นน้องครีมเลยนะ พี่ภามถามทำไมเหรอ”
“พี่แค่คิดว่าบางทีเตี่ยครีมเค้าก็อาจจะมีแนวทางความรักในแบบของเค้านะ ครีมเคยได้ยินไหมนอกกายแต่ไม่เคยนอกใจ”
ผมพยักหน้าก่อนจะเข้าใจในสิ่งที่พี่ภามบอก
“แต่ก็เจ็บอยู่ดี พี่ภามจะทำแบบนี้กับครีมไหม” เมื่อถามออกไปผมแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองนี่ถามบ้าอะไรออกไป รถนี่ก็จะติดนานเกินไปไหม
“ทำสิ ทำแต่กับครีมคนเดียวทั้งร่างกายและหัวใจ ครีมก็ช่วยทำกับพี่จนพี่ไม่สามารถนอกกายครีมได้เลยนะครับ” เสียงกระซิบที่ข้างหูจนผมขนลุกกับริมฝีปากอุ่นๆที่ประทับลงมาบนแก้ม ทำให้ผมรู้สึกเขินจนอยากจะละลายไปตรงนี้เลย ประโยคฟังดูชวนผมเสียตัวแบบแปลกๆ
.
.
.
.
ผมตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าเราเข้าสู่กรุงเทพแล้ว
“เดี๋ยวแวะกินข้าวกันก่อนะครีม” ผมพยักหน้าเพราะนี่มันก็เที่ยงแล้ว พี่ภามพาผมเข้าร้านอาหารเป็นร้านอาหารซึ่งบรรยากาศดีและตกแต่งสบายๆ
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วไปคอนโดครีมนะครับ ครีมจะได้เก็บของ” ผมเหลือบตามองพี่ภาม
“เอาจริงดิ”
“ครีม” พี่ภามทำเสียงดุทันที
“ก็...”
“ก็อะไรครีม เรื่องครอบครัวครีมเราก็เดินไปบอกแล้วว่าเราคบกัน ยังเหลือเรื่องอะไรอีกครีม บอกพี่มาพี่จะเครียร์ให้หมด”
“ครีม...ถ้าอยู่ด้วยกันแล้ว แล้ววันหนึ่งพี่ภามเบื่อครีมหล่ะหรือ หรือพี่ภามอาจจะ...”
“ครีม ไม่กลัวไปก่อนนะ ครีมคิดว่าความรักของพี่หมดอายุง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็จะไปรู้เหรอ ขนาดเตี่ยกับแม่ครีมยัง...”
“ครีม พี่ไม่ใช่เตี่ยกับแม่ของครีม พี่คือพี่ คือผู้ชายคนหนึ่งที่รักครีมอยากอยู่กับครีมเข้าใจมั้ย ครีมอาจจะกลัวเพราะมุมมองความรักของครีมติดลบ แต่สำหรับพี่มันอาจจะไม่ติดลบแต่มันก็เจ็บปวดเพราะการสูญเสีย พี่แค่ไม่อยากเสียครีมไป”
“ครีมขอโทษ พี่ภามเบื่อครีมมั้ย ครีมงี่เง่าวะ”
“ถ้าเบื่อพี่จะนั่งอธิบายอยู่ตรงนี้เหรอครับ ครีมคิดอะไรก็พูดออกมา สงสัยก็ถามพี่อย่าวิ่งหนีพี่เข้าใจไหม อย่าทำร้ายพี่ด้วยการทอดทิ้งพี่ให้จมอยู่กับคำถามว่าทำไมครีมถึงหายไป” ผมมองพี่ภาม พี่ภามกลัวการสูญเสีย ไม่อยากมีของสำคัญหรือของรักเพราะมันเจ็บปวดที่ปกป้องไม่ได้ และเจ็บปวดกับการถูกทอดทิ้งให้เดินคนเดียวบนเส้นทางแสนอันตราย ผมรู้เรื่องพวกนี้เพราะพี่ภีมกับพี่ภูและพี่อลิสพูดให้ผมฟัง เราทุกคนต่างมีความเจ็บปวดในแบบของตัวเอง คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งถ้าครั้งนี้ผมจะลองเดิมพันดูกับพี่ภาม
“พี่ภามถ้าครีมหายไป หรือครีมวิ่งหนีพี่อีกก็ช่วยตามครีมกลับมาทีนะ ช่วยทำให้ครีมรู้ว่าพี่ภามรักครีมมากจนไม่อยากปล่อยครีมไปที เพราะครีมก็รักพี่ภาม ครีมจะอยู่กับพี่ภามนะ” ทันทีที่ผมพูดจบพี่ภามก็ยิ้มรับทันที
“หึ อย่าคิดเลยว่าจะได้หนีพี่ไปไหนเลยครีมนับจากนี้....”
______________________________________________________________________________________