#Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครที่สุดใน A BOY

น้องต้า
79 (41.6%)
วิคเตอร์
21 (11.1%)
พี่จิม
64 (33.7%)
หมอเซม
22 (11.6%)
แซมแฝดน้องพี่หมอ
4 (2.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 163

ผู้เขียน หัวข้อ: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26  (อ่าน 227305 ครั้ง)

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
พี่จิมน่ารักว่ะ ต้าเริ่มเชื่อใจจิมแบบเตอร์แล้วใช่มั้ย กลัวจิงๆเดี๋ยวมีคนมาทำร้ายน้องอีก

ออฟไลน์ kuro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-12
สุดยอดอ่ะ ต้าน่ารักจิมก็หวาน

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
ชอบมากกกกกก น่ารักกจังคู่นี้
ตอนแรกๆจิมดูโหดมาก ชอบต้าละซิ ชอบต้าละซิ

ออฟไลน์ salaseen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักกกกกกกกกอะะะะ
น้องต้าของป้าาาา o18 :o8:

ออฟไลน์ waxman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องต้าน่ารักมากก อยากให้จิมจัดสักดอกจริงๆ  :hao6:

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 28 สืบ 30%

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นและถูกผลักเข้ามาจากด้านนอกทำให้ผมละสายตาจากแฟ้มเอกสารขึ้นมองคนที่กำลังเดินเข้ามา

 "คุณจิมเรียกผมมาพบ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ"

ผมวางมือจากงานที่ทำ เอนหลังพิงพนักโซฟามองคนตรงหน้าอย่างครุ่นคิด

"เชิญนั่งก่อนครับ"

ผายมือไปยังเก้าอี้ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะสำหรับแขก หลังจากที่นายอนุชิตนั่งลงเรียบร้อยผมก็เริ่มเข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อม

"คุณรู้จักเด็กที่ชื่อต้าใช่มั้ย"

อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูงก่อนจะตอบรับ

"ครับ ใช่น้องคนนั้นที่นั่งเล่นอยู่ด้านนอกกับพวกคุณเรหรือเปล่าครับ"

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ

"ผมต้องการให้คุณค้นหาที่อยู่ของเด็กคนนั้นแล้วนำมันมาให้ผม คุณทำได้หรือเปล่า"

อีกฝ่ายหน้าเหวอเล็กน้อย ด้วยคงไม่คาดคิดว่าจากหน้าที่การงานของตนจะต้องมารับทำงานอย่างนี้

"เอ่อ.. น้องชื่อจริงว่าอะไรครับ"

ผมขมวดคิ้ว

"คุณก็สืบสิครับ ผมให้เวลาคุณ 3 วัน เอาล่ะ หมดธุระของคุณแล้ว ผมจะทำงานต่อ" ผมตัดบทโดยการก้มหน้าลงจัดการกองเอกสารบนโต๊ะต่อ

"...ครับ" อีกฝ่ายตีสีหน้ายุ่งยากแต่ก็ยอมรับงานใหม่แต่โดยดี ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

การสืบหาประวัติหรือที่อยู่ของคนๆหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ถึงจะมีแค่รูปร่างหน้าตาเป็นข้อมูลเพียงอย่างเดียวก็ตาม...

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ได้ยินเพียงเสียงนาฬิกาที่เดินติ๊กๆ

ผมนั่งอ่านเอกสารอันแล้วอันเล่า แต่ก็ยังไม่หมดเสียที ปกติงานในส่วนของผมก็มากพออยู่แล้ว ตอนนี้งานที่ผมต้องรับผิดชอบกลายเป็นคูณสอง ยิ่งมากกว่าเดิมเข้าไปอีก เรียกได้ว่า ทำงานจนไม่มีเวลากระดิกตัวไปไหน เพราะว่างานในส่วนของพี่กานต์ถูกโอนมาให้ผมเป็นคนรับผิดชอบ ตอนนี้มันต้องบินไปเจรจาธุรกิจที่สิงค์โปร กว่าจะกลับก็คงประมาณอีกสองวัน

สองวันนี้คงเปรียบเสมือนนรกสำหรับผม เรื่องงานน่ะไม่เท่าไหร่ แต่อีกเรื่องสิ ค่อนข้างสาหัส

ประตูถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง โดยไม่มีการเคาะบอกกล่าวล่วงหน้า ผมเงยหน้าขึ้น กำลังจะอ้าปากเอ่ยต่อว่าคนที่เข้ามาโดยพละการ แต่ก็ต้องหุบฉับเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนทำ

มันแง้มประตูออกน้อยๆ ยื่นหน้าที่มีรอยยิ้มเห็นทั้งฟันบนและล่างเข้ามา มือสองข้างจับที่เปิดไว้ เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้ต่อว่า มันก็ค่อยๆย้ายตัวเองเข้ามาในห้องทีละนิด จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า อีกฝั่งของโต๊ะทำงาน

ผมรอให้มันพูดธุระ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่พูดอะไร หรือจะแค่เข้ามากวนเฉยๆ?

คิดดังนั้นผมก็ผละความสนใจจากมัน ลดสายตาลงหันเหความสนใจที่ไปเอกสารในมือแทน แต่ใช่ว่าผมจะปิดการรับรู้ภายนอกไปเสียทั้งหมด เพราะการที่มีมันอยู่ใกล้ๆ ทำให้ผมไม่มีสมาธิมากพอจะทำความเข้าใจกับอ่านตัวอักษรที่ติดกันเป็นพืด และตัวเลขมากมายที่หมายถึงผลกำไร หรือขาดทุน

จากหางตาผมเห็นมันยืนหมุนซ้ายหมุนขวาราวกับทำตัวไม่ถูก ก่อนมือขาวจะยื่นมาด้านหน้าแล้วเคาะลงที่โต๊ะทำงานของผมสองก๊อก

“...จิมมม” มันลากเสียงยาว ละมือข้างที่เคาะโต๊ะค้างกลางอากาศ

ผมรู้ดีว่าการเงยหน้าขึ้นมาถามและคุยกับมันตรงๆ เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเข้าใจจุดประสงค์ของมัน แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงยังทำนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้ บางทีอาจเป็นเพราะ ผมอยากเห็นปฏิกิริยาของมัน ว่าจะทำยังไงต่อไปมากกว่า

และก็ไม่ปล่อยให้ผมรอนาน มันวางมือลงกับโต๊ะ แล้วเอื้อมมืออีกข้างมาจับแฟ้มเอกสารหมายจะดึงไป ติดที่ว่าผมยังจับพลาสติกแข็งไว้แน่น เลยทำให้มันไม่สามารถเอาไปได้

ผมตวัดสายตามองมันอย่างดุๆ

แต่ถึงจะตีหน้านิ่งหรือทำตาดุแค่ไหน มันก็ไม่ได้มีท่าทางกลัวเลย กลับกัน มันเริ่มเรียนรู้วิธีตอบโต้.. ริมฝีปากสีเรื่อเริ่มเบะออก มือก็ยังรั้นจับแฟ้มไว้ไม่ปล่อย

“จิมม” มันเรียกชื่อผมอีกครั้งโดยไม่มีคำนำหน้าเหมือนเดิม

ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่ควรถือสาหาความกับเด็ก แต่การเรียกแบบนี้สำหรับผมมันไม่ชินจริงๆ นอกจากเพื่อนหรือคนในครอบครัวแล้ว ปกติก็ไม่มีใครเรียกชื่อของผมห้วนๆแบบนี้ อาจเป็นเพราะตำแหน่งหน้าที่การงานที่อยู่เหนือคนอื่น จึงทำให้ชื่อของผมมีคำว่า “คุณ” นำหน้าเสมอ แม้แต่คนอื่นที่ไม่ได้ร่วมงานด้วยกัน แต่หากมีอายุน้อยกว่าเพียง 1 ปี หรืออ่อนเดือนกว่า ก็จะมีคำว่า “พี่” นำหน้าเสมอ

ยิ่งกับไอ้เด็กคนนี้ที่อ่อนกว่าทั้งวุฒิภาวะและวัยวุฒิ แล้วยิ่งมารู้ว่าความจริงแล้วมันเป็นเด็ก 9 ขวบในคราบของเด็กม.ปลาย แต่กลับเรียกชื่อห้วนๆ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

“พี่จิม” ผมพูดเสียงเรียบ แก้คำเรียกให้มันเสียใหม่

มันไม่เพียงแต่ไม่ทำตาม ปากเล็กๆกลับสวนมาทันควัน

“จิม”

“พี่จิม”

“จิม!”

“...”

“จิมมม” ผมขมวดคิ้วเริ่มรู้สึกว่าถูกเด็กกวนประสาท มันนิ่งไปสักพักก่อนจะเรียกชื่อผมไม่หยุด

“จิม จิม จิม จิม จิม จิม จิม จิม จิม จิม” เหมือนมันกำลังสนุก เพราะริมฝีปากอิ่มขยับยิ้มบางๆ นัยน์ตาใสๆคู่นั้นก็ระยิบระยับเป็นประกาย

“ดื้อ”

คำพยางค์เดียวที่จำกัดความเป็นมัน และแน่นอน ไอ้เด็กดื้อตรงหน้าก็ไม่วายเถียงกลับ

“ไม่ดื้อ” ปากยื่นปากยาว ผละตัวยืนตรงๆแล้วกอดอกแน่นด้วยท่าทางอยากจะเหนือกว่า

“จิมมมมมม”

ลองจินตนาการภาพคนอื่นที่มาเรียกชื่อผมอย่างนี้แล้วรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะตั๊นหน้ามันสักสองสามที แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองอีก ทำไมพอไอ้เด็กนี่เรียกแล้ว กลับรู้สึก ..เอ็นดู

ผมนิ่วหน้ารีบปัดความคิดประหลาดออกจากหัว กระแอมไอเป็นการใหญ่ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อมุ่งไปยังธุระของมัน

“เข้ามาทำไม?” ถามพลางขยับตัวเล็กน้อยปรับเปลี่ยนท่านั่งให้สบายขึ้น มันร้องอ้อในลำคอเบาๆ ก่อนจะหัวเราะแล้วเกาหัวแก้เก้อที่ตัวเองหลงลืมธุระสำคัญไป

“พี่เรให้มาถามว่า จิมจะออกไปกินข้าวข้างนอกเอง หรือจะฝากพี่เรซื้อ”

ผมกวาดสายตามองงานบนโต๊ะอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจ

“ฝากซื้อ”

โดยปกติแล้ว เวลาพักกลางวัน หากงานล้นมืออย่างเช่นวันนี้ ก็จะได้คุณเรคอยซื้อข้าวซื้อน้ำขึ้นมาให้

“จิมอยากกินไร”

“มึงจะซื้ออะไรก็ซื้อมาเถอะ”

มันทำหน้ามุ่ย เบะปาก ก่อนจะต่อว่าผม

“เขาอุตส่าห์พูดเพราะๆด้วย แต่ตัวเองดันพูดไม่เพราะ ไม่คุยด้วยแล้ว จิมนิสัยไม่ดี ไปหาพี่เรดีกว่า” พูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที ผมมองประตูที่ค่อยๆปิดสนิทลงช้าๆ ห้องกลับมาเป็นปกติสุขไร้ความวุ่นวายอีกครั้ง

หากเปรียบช่วงชีวิตที่สงบสุขในช่วงเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นเหมือนตะกอนที่ถ่วงอยู่ก้นแก้ว... ตอนนี้น้ำแก้วนั้นคงจะขุ่นคั่กเพราะตะกอนได้ถูกกวนขึ้นจนปั่นป่วนไปหมด

แม้ว่าบรรยากาศในห้องนี้จะกลับมาเงียบสงบแล้วก็ตาม แต่ผมรู้ดี ในความเงียบสงบกำลังมีบางสิ่งเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย

หวังเพียงอย่างเดียว.. เวลา 3 วันต่อจากนี้ คงจะมากพอที่จะไม่ทำให้น้ำในแก้วขุ่นมากกว่าเดิม

 

.............

 
TALK :: รอบนี้ขออัพกระปิบกระปอยมาแบบเป็นเปอร์เซ็นต์เนอะ 55
เปอร์เซ็นถัดไป ใครที่รอพี่เตอร์ พี่เตอร์มาด้วยล่ะ -....- อดใจรออีกนิดเนอะะะะ
ขอบคุณทุกคำคอมเม้นท์มากๆค่ะ
ดีใจแทนพี่จิม ฮาาา (ปกติโดนด่าตล๊อดดด) 5555

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :z2:
รอออออ

ออฟไลน์ kissu111

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :oo1: รอต้าร์โดนจิ้มอยู่นะคะนิว  :katai3:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ชักไม่อยากเจอพี่เตอร์ กำลังหลงจิมมมมมมของน้องต้าร์อยู่เลยอ่ะ

ออฟไลน์ tsukishi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บอกได้คำเดียวว่า "จิมซึน"
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อทันใจมากค๊าาา >,.<
พี่จิมน่ารักอ่ะ
ต้าก็น่ารัก น่ารักมากเดี๋ยวพี่จิมทนไม่ได้นา~
มาต่อเร็วๆนะค๊ะ
รักคนแต่จุ๊บๆ
 :-[ :impress2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เขาชอบแบบนี้ๆๆๆ   :katai2-1:
แบบเก่าอย่าเพิ่งกลับมาน้าา

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า
มันคนละเรื่องกันแล้ว

หวานไป ชิวไป
มันคือการพักยกก่อนมาม่าชามโตจะมาเสริฟสินะ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
จิมเริ่มหลงต้าร์แล้วนะนั่น

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
สนุกค่ะ สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ยังไงก็รอตอนต่อไปนะคะ 

ออฟไลน์ ไป๋ไป๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่ารักทั้งคู่เรย

รอติดตามต่อไป

 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ่านแล้วติดเลยอ่ะ จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ   :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
แล้วทำไมโผล่มาแค่นี้ล่ะคนเขี๊ยนนนนนนนน
เออ... ตามอ่านมาตั้งแต่เช้า
ทำเอาเราแบบ...ชาๆบอกไม่ถึง
เหมือนโดนทุบด้วยค้อนปอนด์เลย =[]=!!
แซมแม่งโคตรชั่วอ่ะ เกลียดมาก...เกลียดทุกครั้งที่มันปรากฎตัว
ส่วนจิม...เราว่านายทำตัวดีขึ้นนะ
ส่วนเซม...เรารักเธอว์ ><

ปล.ตอนที่คนเขียนเฉลยเรื่องอายุของต้าอ่ะ เราแบบ....




คนเขียนเป็นคนแต่งโคนันใช่มั้ยคะ?





มันดู...ต้องคิดแบบเยอะๆอ่ะ สมองกลวงๆอย่างเรานี่แบบ..จับไม่ติด 555555555555

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 28 สืบ 100%

VICTOR Part

“ไอ้วิค!”

“...”

“ไอ้วิคเตอร์!!”

“หะ..”

“เหม่ออะไรวะ”

ห้วงความคิดสะดุดลง ก่อนจะหันไปมองหน้าคนถามที่นั่งข้างๆกัน และเพราะคำถามนั้นของมันทำให้บทสนทาในกลุ่มเพื่อนหยุดลงกะทันหัน ทุกสายตาจับจ้องตรงมา ผมเลิกคิ้วก่อนจะโวยวายกลบเกลื่อน

“มองไรกูวะ เอ้า หยุดคุยกันทำไม คุยต่อดิ”

ไม่ทันแล้วครับ สถานการณ์วิกฤตยากต่อการกู้คืน พวกมันสามสี่ตัวพุ่งประเด็นมาที่ผม และยิงคำถามมาจนผมแทบพรุน

“ฮั่นแน่! ไอ้วิค มัวแต่นั่งคิดถึงสาวที่ไหนแต่หัววันวะ”

“ใครวะ พามาให้เพื่อนรู้จักหน่อยสิคร้าบบ อย่าเก็บไว้กิน เอ้ย.. อย่าเก็บไว้เชยชมคนเดียวดิวะ”

“พวกกูเพื่อนมึงนะเว้ย”

“หุบปากไปเลยพวกมึง” ยกมือชี้หน้าพวกมันทีละตัว แต่ไอ้พวกนี้หนังหน้า ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก

“พี่วิคเตอร์ฉุนเว้ย ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้เป๊บ มึงจะไปแซวเพื่อนทำไม ดูดิ ชูหางหน้าตั้งพร้อมจะกัดมึงแล้วน่ะ”

“มึงน่ะตัวดีไอ้โค้ก หุบปากไปเลย” พูดพลางมือก็ม้วนสมุดที่วางบนโต๊ะเป็นแท่งเรียวก่อนจะฟาดกระหม่อมมันด้วยความรักและปราณี

“ผัวเมียตีกันตลอดอ่ะพวกมึง”

“ผัวเมียพ่อง!” คุณชายโค้กหันไปด่าไอ้หมาเป๊บทันควัน ก่อนไอ้พุฒิผู้รักสงบจะเอ่ยทะลุขึ้นกลางป้องเสียงเรียบ แต่ดึงความสนใจจากพวกผมได้ชะงักนัก

“อีก 5 นาทีได้เวลาเรียนว่ะ วิชานี้สาย 5 นาทีถือว่าขาด กูไปล่ะ” มันพูดจบก็ไม่รอช้ารีบลุกก่อนใครเพื่อน พวกผมมองหน้ากันก่อนจะรีบลุกขึ้นตาม เหลือบมองนาฬิกาก็จริงอย่างที่ไอ้พุฒิมันว่า ตึกเรียนกับคอฟฟี่ช้อปแม่งไกลกันคนละโยชน์ โกยได้ก็โกยล่ะครับ

ความรู้สึกหนักอึ้งที่ติดค้างมาตลอดสามวันนับตั้งแต่ที่น้องออกจากบ้านปลิวหายไปทันทีเมื่ออยู่กับไอ้พวกนี้ ไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องอื่นมากหรอกครับ เพราะต้องคอยด่าคอยปรามพวกมันไม่ให้คิดอกุศลซะมากกว่า

ยิ่งเรียน ยิ่งยากคำนี้ก็ได้ยินและเข้าใจมาตั้งแต่สมัยอยู่ม.ปลาย เรียนอะไรเยอะแยะโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ ในชีวิตประจำวันสแควรูทอะไรนั่นก็ไม่เห็นได้ใช้ ใช้อย่างมากก็บวก ลบ คูณ หาร ยิ่งพอเข้ามหา’ลัย สองปีแรกก็ชิลๆดี แต่ปีสามนี่มันอะไร? การเรียนก้าวกระโดดจนตั้งตัวไม่ทัน คะแนนเข้าห้องที่ถึงแม้จะน้อยนิด แต่สำหรับชีวิตในปีนี้ เป็นคะแนนน้อยนิดที่จะไม่มีทางให้มันหดลงแน่ๆ

....

“เฮ้ย! เช็คชื่อยังวะ” เมื่อเข้ามาในห้องได้ก็พบว่าอาจารย์เข้ามานั่งประจำที่โต๊ะเสียแล้ว ไอ้โค้กสะกิดถามเพื่อนข้างหน้า เมื่อสาวเจ้าส่ายหน้าบอกว่ายัง พวกผมก็พากันถอนหายใจเฮือกอย่างพร้อมเพรียง

ได้ยินกิตติศัพท์ของวิชานี้มาเยอะว่าแจก F เป็นว่าเล่น ไม่ได้อยากทำตัวเป็นเด็กเรียน ที่เข้าเรียนเป๊ะๆ แต่สถานการณ์มันบังคับให้ต้องเป็นไปอย่างนั้น

หลังจากเช็คชื่อเสร็จ การสอนก็เริ่มขึ้น แต่เมื่อมองไปยังคนอื่นๆในห้อง ก็ใช่ว่าพวกมันจะตั้งใจเรียนอะไรมากมาย ไอ้คนข้างๆผมก็เหมือนกัน เริ่มขยับตัวยุกยิกหันไปหาไอ้พวกข้างหลังแล้ว

“เรื่องค่ายเอาไงวะ ปีนี้พวกมึงจะไปกันป่ะ”

“ถามหมาๆว่ะเชี่ยโค้ก มึงประธานค่ายไม่ใช่ไง ถ้าไม่ไปพวกกูคงโดนมึงกวนตลอดเช้าบ่ายสิวะ”

เมื่อคนถามได้รับคำตอบที่ค่อนข้างเป็นที่พอใจก็ยิ้มหน้าบาน วางข้อศอกลงกับพนักเก้าอี้แล้วพลิกตัวหันไปคุยด้วยท่วงท่าที่ถนัดมากขึ้น อีกมือที่ถือปากกาไว้ขยับหมุนเล่น

“เออ ทำดีมาก กูว่าจะไปพิษณุโลกว่ะ เริ่มทำโครงการละ งานนี้พวกมึงคงเหนื่อยกันหน่อย”

“จิ๊บๆว่ะ” ไอ้เป๊บพูดบอก ตบท้ายด้วยการขยิบตาส่งยิ้มยียวน

ป๊อก!

ปากกาที่ถืออยู่ในมือไอ้โค้กถูกฟาดลงเบาๆที่กลางกระหม่อมมัน ไอ้เป๊บทำหน้าทำตาเอาเรื่อง จะไม่ยอมท่าเดียว ทว่า..

“พวกคุณจะคุยกันอีกนานมั้ยคะ ถ้าไม่อยากเรียนก็เชิญออกไปจากห้องจะได้ไม่รบกวนการเรียนของคนที่เค้าตั้งใจเรียน”

ไม่ได้ระบุว่าพวกคุณที่ว่าหมายถึงใคร แต่สายตาของคนที่ถือปากกาไวท์บอร์ดกลับจ้องมาที่พวกผม ทำให้คนอื่นๆในห้องพลอยหันมองตาม

“ซวยแล้วไงกู” ไอ้โค้กทำปากขมุบขมิบพูดเสียงเบา ก้มหน้าลงหลบสายตา มือหยิบปากกาจับในท่าเตรียมเขียน ทำมือขยุกขยิกคล้ายจะกลับมาตั้งใจเรียนอีกครั้ง

อาจารย์หน้าห้องหันกลับไปสอนต่อ สักพักก็มีกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือเลื่อนมาตรงหน้า

ผมอ่านข้อความบนนั้นแล้วหันไปมองคนข้างๆเล็กน้อย เขียนคำตอบที่อยู่ในใจลงไป ก่อนจะเลื่อนกลับไปหามันอีกครั้ง

มันอ่านข้อความนั้นแล้วยิ้ม พลางพูดเสียงเบา

“ขอบใจว่ะ”

......

เคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจนอยากจะหยุดเวลาไว้หรือเปล่า?

ตอนนี้หากทำได้ ผมอยากจะหยุดเวลาเอาไว้เพียงแค่ในห้องเรียน ไม่ใช่ว่าอยากเรียนต่อ เพียงแต่ผมไม่อยากให้ถึงเวลากลับบ้าน

ความรู้สึกหนักอึ้งที่หายไปขณะหนึ่งเข้ามามีอิทธิต่อจิตใจอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้ ยิ่งเข็มสั้นใกล้ชี้เลขสี่ และเข็มยาวใกล้ชี้เลขสิบสองเมื่อไหร่ ความกังวลก็ยิ่งเด่นชัดจนคนรอบข้างยังสังเกตเห็น

“มึงเป็นไรวะวิค ไม่สบายเปล่าวะ กูว่าหน้ามึงซีดๆตั้งแต่ตอนพักแล้วนะ” ไอ้โค้กที่เป็นเพื่อนเรียนนั่งข้างกันเอ่ยถาม แม้มันจะกวนตีน แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง มักจะคอยสังเกตเพื่อนแต่ละคนตลอด

“เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร” เอ่ยตอบปฏิเสธไปด้วยลำคอแห้งผาก บางครั้ง เรื่องบางเรื่องก็อยากเกินกว่าจะเล่าให้คนอื่นฟังได้

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ครูมีธุระจะปล่อยก่อนเวลา”

คำพูดนั้นถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในประเทศเลยก็ว่าได้ ปกติแล้วอาจารย์คนนี้ไม่เคยปล่อยนักศึกษาก่อนเวลาเลยแม้แต่นาทีเดียว มีแต่สอนเกินเวลา เพราะงั้นผลตอบรับของคำพูดนั้นจึงเกิดเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีไปทั้งห้อง ใช่ครับ.. ทั้งห้อง ยกเว้นเพียงแค่ผม

“เงียบ!” เหมือนคำประกาศศิต ยังผลให้ทั้งห้องเงียบกริบในทันที ดวงตาดุๆแก่ความรู้ปรายมองใบหน้าของนักเรียนในปกครอบทีละคน ก่อนจะเริ่มพูด “พวกเธอก็โตๆกันแล้ว เก็บๆอาการกันหน่อยไม่เป็นหรือไง หรือว่าดีใจที่สัปดาห์หน้าฉันจะควิซพวกเธอสามบท และแน่นอน คะแนนควิซของคาบหน้า ไม่หารรวมกับครั้งอื่นๆ เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย” ริมฝีปากแสยะยิ้มอย่างสมใจ เมื่อได้ยินเสียงโอดครวญจากเหล่านักศึกษาดังขรม

เพราะนั่นถือเป็นการฆ่านักศึกษาทางอ้อม โหดร้ายเสียยิ่งกว่าหยิบไม้เรียวมาฟาดก้นเหมือนตอนเด็กๆอีก

ทว่ายิ่งได้ยินเสียงโอดครวญ อาจารย์ประจำวิชานี้ก็ยิ่งยิ้มมากกว่าเดิม เธอเก็บของแล้วเดินเฉิดฉายออกจากห้องอย่างไม่แคร์สิ่งใด

ไอ้โค้กเป็นคนแรกที่หันหลังไปหาบรรดาเพื่อนฝูงที่นั่งอยู่ด้านหลังพวกผม

“แม่ง เจ๊แกโคตรโหด ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสามความโหดไม่เบาลงเลย มีแต่เหี้ยมกับเหี้ยมขึ้นทุกวัน”

ผลัวะ!

คุณชายพุฒิคนดีประจำกลุ่มถึงกับทนไม่ไหวฟาดฝ่ามือลงกลางกระบาลน้อยๆของไอ้โค้กเสียเต็มแรงจนมันหน้าทิ่มลงกับโต๊ะ

“นินทาครูบาอาจารย์มันบาปกรรมนะครับ” พูดพลางปัดมือไปมาแล้วยิ้มมุมปาก

ไอ้โค้กเงยหน้าขึ้น ยกมือลูบหัวที่เพิ่งถูกฟาด ปากอ้าเตรียมจะก่อสงครามน้ำลายขนาดย่อมๆ ทว่าผมกลับรีบลุกขึ้นยืนหลังจากเก็บของเสร็จทำให้สองฝ่ายที่กำลังจะโรมรันต้องหยุดชะงักกลางครัน

“วันนี้กูมีธุระ กลับก่อนนะเว้ย” อาศัยช่วงเวลาชุลมุนในการพาตัวเองออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เพราะรู้นิสัยเพื่อนของตัวเองดี พวกมันไม่มีทางปล่อยให้ผมกลับได้ง่ายๆแน่ๆ หากยังไม่รู้ว่า ธุระที่ผมหมายถึงคืออะไร

 

ทางเดินที่ปกติมักจะทอดยาว วันนี้กลับรู้สึกว่ามันคล้ายจะหดสั้นกว่าปกติ

เดินไม่กี่นาทีก็มาถึงรถเก๋งสีดำเป็นมันที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ

ยิ่งอยากให้เวลาเดินช้าลงเท่าไหร่ ก็ราวกับเข็มนาฬิกายิ่งเร่งเวลาเดินเร็วขึ้นเท่านั้น

 

วันนี้ทุกอย่างดูเป็นใจไปเสียทั้งหมด ตั้งแต่คาบเรียนที่เลิกเร็วกว่าปกติ อีกทั้งการจราจรบนท้องถนนก็ไม่ติดขัดเลยสักนิด เหมือนกับทุกอย่างเป็นใจให้ผมกลับถึงบ้านได้อย่างรวดเร็ว

ดับเครื่องยนต์ลงทันทีที่รถเคลื่อนเข้าจอดในโรงจอดรถ รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัวโดยเฉพาะขาที่เหมือนโดนถ่วงด้วยหินก้อนใหญ่ทำให้ยากต่อการขยับกายลงออกไปยืนด้านนอก

ผมทอดสายตามองเข้าไปในบ้าน ..ทุกอย่างดูปกติ

ผมเป็นเพียงผู้ชายขี้ขลาด

เป็นผู้ชายที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง

เป็นผู้ชายที่เก่งแต่วิ่งหนีปัญหา

วันนี้เป็นวันครบกำหนดที่น้องจะกลับบ้าน ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอ ไม่ใช่ว่าไม่รักน้อง ..ผมเพียงแต่กลัวผลลัพธ์ของการรักษา

ถ้าเกิดว่ามันได้ผล

ถ้าน้องหายล่ะ..?

คิ้วขมวดเป็นปมแน่นกลางหน้าผาก หนักอึ้งไปทั้งใจ..

ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยย่างก้าวที่ไม่มั่นคง

“กลับมาแล้วเหรอตาเตอร์” เสียงร้องทักของผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดดังออกมาจากห้องครัว ผมหันไปมองเห็นเพียงแผ่นหลังของแม่ที่ตรงเอวมีเชือกของผ้ากันเปื้อนผูกเป็นโบว์ไว้ง่ายๆ

“ครับ กลับมาแล้ว” พูดตอบพลางกวาดสายตาไปทั่วบ้านเพื่อมองหาร่างเล็กๆของน้องชาย

“หิวมั้ย” แม่วางมือจากกระทะแล้วหันมาถาม ผมส่ายหน้าปฏิเสธแล้วหันหน้าไปมองหาต่อ

“หาอะไรน่ะ?”

“น้อง..” เค้นเสียงตอบแผ่วเบา กลืนน้ำลายหนืดลงคอหนึ่งอึกก่อนจะถามด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม “น้องล่ะครับ น้องอยู่ไหน”

“อ้อ ยังไม่กลับ บางทีอาจจะกลับพรุ่งนี้”

ยังไม่กลับ?

ผมพรูลมหายใจออกทางปากด้วยความโล่งอก ก่อนจะชะงักเล็กน้อย กระแสความเป็นห่วงแล่นริ้วไปทั้งใจ

“แต่ที่คุยกันไว้คือสองวันกลับไม่ใช่เหรอครับ”

“มันก็ใช่ แต่การรักษาอาจจะยืดเยื้อไง พอๆ น้องน่ะปลอดภัยน่า อยู่ในความดูแลของหมอ ไม่ต้องห่วงหรอก” แม่โบกมือไปมากลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด “ไปๆ ไปอาบน้ำจะได้ลงมากินข้าว”

ผมตอบรับแล้วเดินขึ้นห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

การที่ได้รู้ว่าน้องยังไม่กลับบ้าน ทำให้ผมรู้สึกโล่งอก

วางใจที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

...ไม่มีคำครหา ไม่มีสายตาผิดหวัง ไม่มีคราบน้ำตาของพ่อและแม่ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

วันนี้ผมยังคงได้รับความรักจากพ่อและแม่เหมือนที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก

ผมเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวและขี้ขลาด

ผมเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่อง

...ผม ควรทำอย่างไรดี

 

.....

 

TA Part

“จิมมมม” ผมเรียกชื่อนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงหลายครั้งเสียจนอีกฝ่ายคงจะเริ่มชิน ถึงได้ไม่ทำหน้ายักษ์ใส่เหมือนตอนแรกๆ

“อืม” เขาตอบรับเบาๆด้วยเพราะรู้ว่าหากนิ่งเงียบไม่ตอบรับสักคำแล้ว ผมจะเรียกชื่อเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมพูด

ผมขยับตัวนั่งหันข้าง หลังพิงกับประตูรถ มองใบหน้าด้านข้างของเขาที่สายตาคมคู่นั้นกำลังเพ่งอยู่ที่ถนนตรงหน้า พี่จิมกำลังตั้งใจขับรถ

“อยากกลับบ้าน” ผมพูดออกมาเบาๆ เรียกสายตาของอีกคนให้หันมามองได้ขณะหนึ่ง

ถึงการไปทำงานกับจิมจะสนุก ได้เล่นกับพี่เร พี่ต้นแล้วก็บรรดาพี่สาวทั้ง 5 คน แต่ก็ไม่เหมือนกับตอนที่ได้อยู่บ้าน

อยากกลับไปกอดพ่อ กอดแม่ แล้วก็เล่นกับเตอร์

“อึ่ก.. จิมม อยากกลับบ้าน ฮึก..” พยายามกลั้นน้ำตา ไม่ให้ร้องไห้ออกมา แต่พอคิดถึงพ่อกับแม่กับเตอร์ น้ำตาที่เก็บกดไว้ก็ไหลออกมาได้ง่ายๆ พี่จิมหันมามองหน้าผม นัยน์ตาคู่นั้นชะงักไปวูบหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าไปยังถนนตรงหน้าเหมือนเดิม

“อย่าร้องไห้” น้ำเสียงที่ใช้พูดไม่ใช่โทนเสียงดุ

“จิมพาไปส่ง ฮึก.. ย อยากกลับบ้าน ฮึก ฮืออ..” ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาป้อยๆ แต่ยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยิ่งไหล

“อีก 3 วัน” เขาพูดออกมาเรียบๆ โดยไม่หันหน้ามามองผมเลยแม้แต่น้อย “อีก 3 วันจะพาไปส่ง หยุดร้องไห้ได้แล้ว” ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่กระแสเสียงนั้นอ่อนลง

อ่อนลงจนเกือบจะอ่อนโยน

ผมเบะปากหยุดร้องไห้แล้วป่ายหน้าเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อ

“อย่า อึ่ก.. อย่าโกหกนะ”

“อืม” เขาทำเพียงตอบรับในลำคอเบาๆ ผมขยับตัวกลับมานั่งดีๆเหมือนเดิม ริมฝีปากเริ่มยิ้มได้อีกครั้งพลางยกมือขึ้นมาแล้วนับนิ้วของตัวเอง

วันนี้วันพุธ

หนึ่ง...พฤหัสบดี

สอง... วันศุกร์

สาม... วันเสาร์

วันเสาร์จะได้กลับบ้านแล้ว คิดถึงที่นอนนุ่มๆกับน้องเป็ดในห้องเตอร์ที่สุด อยากกลับไปกอด จะกอดแน่นๆ เอาหน้าซุก แล้วก็นอนทับให้แบนเลย

.....

มื้อเย็นวันนี้จบลงที่ร้านข้าวใกล้ที่พัก ผมกินข้าวผัดกุ้ง จิมกินข้าวผัดปู กลับมาถึงห้องก็โดนไล่ให้ไปอาบน้ำ ชุดนอนวันนี้หลวมโคร่ง เพราะเป็นเสื้อของจิม ไหล่ตก มองดูเงาสะท้อนที่กระจกก็ดูตลกดี แต่เนื้อผ้านิ่มและใส่สบาย หลังจากประแป้งที่หน้าเสร็จ ผมก็อาศัยช่วงเวลาที่จิมเข้าไปอาบน้ำกระโดดขึ้นเตียงแล้วยึดรีโมทมาครอง

นิ้วกดลงบนปุ่มรีโมท ลองสุ่มเลขช่องการ์ตูนเลขเดียวกับที่เคยดูที่บ้าน พลันรอยยิ้มปรากฏบนหน้าเมื่อโทรทัศน์ที่ห้องจิมใช้เลขเดียวกันกับที่บ้าน ผมลากผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุมกายก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยวางรีโมทไว้บนพุง ดวงตาจับจ้องจอสี่เหลี่ยมที่ปรากฏภาพลูกแมวตัวลายสีเทาขาว

เผลอยิ้มตามกับการกระทำของมัน แล้วรู้สึกหมั่นเขี้ยวจนต้องคว้าหมอนของจิมมากอดไว้แน่น อ้าปากงับหมอนแล้วมุดหน้าลงไป

พลันเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้ผมรีบหันไปมอง จิมอาบน้ำเสร็จแล้ว

“จิมมมมม”

เขาเหลือบสายตาหันมามองแวบหนึ่ง แล้วก็เบือนกลับไปในเสี้ยววินาที ผมมุ่ยหน้า ตะกายตัวลุกขึ้นยืนแล้วกระโดดผลุงลงไปบนพื้นก่อนจะใส่เกียร์วิ่งไปหาร่างสูงแล้วคว้าข้อมือหนา ออกแรงลากจนขายาวๆนั่นยอมเดินตามมา

“อะไร” เขาถามขึ้นเมื่อหยุดยืนอยู่หน้าทีวี

“จิมว่าจี้น่ารักมั้ย”

“ไม่” เขาตอบกลับโดยไม่หยุดคิดแม้แต่น้อย

ผมนิ่งไปนิด ในหัวเร่งหาวิธีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่

“จิมนั่ง” ออกแรงลากคนตัวสูงกว่าให้เข้าไปใกล้เตียงแล้วผลักกายหนาให้นั่งลง

“อย่าเพิ่งลุกสิ!” ดุเสียงดังเมื่อเขาทำท่าจะลุกขึ้นยืน รีบออกแรงกดไหล่หนาไว้ ผิวจิมเย็น คงเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ หยดน้ำยังเกาะพราวบนอกอยู่เลย

“อะไรของมึง”

“จิมดู จี้น่ารักมั้ย” ผมชี้ไปที่ทีวีอีกครั้ง บนหน้าจอสี่เหลี่ยมปรากฏภาพลูกแมวตัวเล็กๆที่ยืนด้วยขาหลังสองข้าง อีกสองขาหน้ายกขึ้นแปะประตูมุ้งลวดก่อนจะกางกรงเล็บเกาะกับช่องลวดเล็กๆ แล้วออกแรงดันจะเปิดประตู

ผมยิ้มขำเมื่อมันเปิดประตูออกไม่ได้ เพราะประตูบานนั้นถูกไม้ดามเอาไว้ ทำให้จี้เซล้มไป

“น่ารักมั้ยย” หันไปถามคนที่นั่งบนเตียง รอยยิ้มบนหน้าค่อยๆจางลง กลายเป็นบูดบึ้งเมื่อจิมเบือนหันไปมองอย่างอื่น

“จิม!”

“อะไรของมึงนักหนา พอๆ กูจะไปแต่งตัว”

“ไม่ให้ไป” ผมย้ายตัวเองไปขวางหน้า แล้วใช้สองมือกดไหล่หนาทั้งสองข้าง ออกแรงกดจนร่างหนายอมทิ้งกายลงนั่งอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ส่วนผมก็ก้มหน้ามองสบนัยน์ตาติดจะดุนั่นตรงๆไม่หลบไปไหน

“จิมว่าจี้น่ารักมั้ย”

“...” เขาไม่ตอบอะไร มีเพียงคิ้วเข้มที่คล้ายจะขมวดชนกันเล็กน้อยตรงกลางหน้าผาก

“จิม!” ผมเรียกชื่อเขา จึ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อใบหน้าคมคายเบือนหันไปทางอื่นอีกแล้ว

ทำไม? จี้น่ารักจะตาย

ละสองมือออกจากไหล่แกร่งแล้วยกขึ้นประคองแก้มสาก จับบังคับให้หันมามองกันตรงๆ

“อยากได้”

“...อะไร” เขานิ่งเงียบไปสักครู่ก่อนจะถามออกมา

“จิมซื้อให้หน่อยได้มั้ย” ผมพูดแล้วยิ้มหวานตามแบบที่เคยชิน ตอนที่อยากได้อะไร พออ้อนพ่อกับแม่กับเตอร์แบบนี้  พ่อกับแม่กับเตอร์ก็ตามใจตลอด

“...”

ทำไมจิมเงียบ หรือว่าไม่ได้ผล?

ผมกัดริมฝีปากอย่างคิดหนัก ก่อนจะงัดไม้ตายไม้สุดท้ายขึ้นมา!

สองมือที่ประคองแก้มสากไว้กระชับให้มั่นขึ้น แล้วค่อยๆโน้มใบหน้าลงต่ำ สายตามองนิ่งที่ผิวเนื้อที่มือไม่ได้ปกปิด ก่อนจะกดจมูกและปากลงไปเต็มๆ

ฟอดด~

สูดจมูกหอมแก้มร่างสูงเสียฟอดใหญ่ก่อนจะค่อยๆละหน้าออกห่างแล้วมองสบกับนัยน์ตาที่ดูเหมือนจะเบิกตากว้างเล็กน้อยนั้นนิ่งๆ

“พรุ่งนี้พาต้าไปซื้อจี้นะ”

“...”

“จิมมม” ผมเรียกชื่อเขาอีกครั้งเมื่อจิมเอาแต่นิ่งเงียบ

คิ้วเข้มยิ่งขมวดเป็นปมแน่นกว่าเดิม เขามีท่าทีอึกอักเล็กน้อยก่อนจะหลุบตามองมือผมที่ยังแปะแก้มเขาอยู่ทั้งสองข้าง พลางมือหนายกขึ้นแล้วค่อยๆจับมือผมออกจากแก้ม

ทำไม? จะซื้อให้แล้วเหรอ?

ทว่าร่างหนากลับใช้ช่วงเวลาที่ผมดีใจ ลุกพรวดขึ้นแล้วรีบก้าวยาวๆเดินออกห่างทันที ผมเบิกตากว้าง ปากอ้าค้างเล็กน้อยด้วยคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะชิ่งหนีกันซึ่งๆหน้า

“จิม!!” ตะโกนลั่นห้องเตรียมใส่เกียร์จะวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย ทว่าคนรู้ทันกลับหมุนกายกลับมาแล้วยกมือชี้หน้า!

“หยุด! ถ้าอยากได้ตุ๊กตาแมวอะไรนั่นห้ามเข้าใกล้กู”

หะ..

ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปใกล้พี่จิมชะงักค้างลอยเหนือพื้น กระพริบตามองปริบๆ ไม่เข้าใจกับสีหน้ายุ่งเหยิงนั้น

แต่.. เขารับปากว่าจะซื้อจี้ให้ผมแล้วใช่มั้ย?

“จิมมมม” ร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความดีใจ ขยับขาจะวิ่งเข้าไปหา ทว่าร่างสูงกลับก้าวถอยหลังแล้วชี้หน้าผมก่อนจะปรามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแข็งกว่าเดิม

“หยุด!!”

หะ...

ผมนิ่งค้างอยู่กับที่อีกครั้ง

หยุดทำไมอะ.. แค่จะถามว่า จะซื้อให้จริงๆใช่หรือเปล่า

อ อ้าว.. จิมเดินหนีผมทำไม!!?

ปัง!

ประตูห้องถูกปิดดังโครมใหญ่ไล่เลี่ยกันกับที่ร่างสูงเดินออกจากห้องไป ผมมองตามด้วยความรู้สึกงงงวย ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา เมื่อปฏิบัติการณ์สำเร็จ

จี้~

 

 

_____________________________________________

TALK :: อ่านเม้นท์ไปก็ขำไป เชื่อมั้ย ว่าเนี่ย มันฟ้าหลังฝนจริงๆ ไม่มีอะไรแล้ว (มั้ง)
แต่จะว่าไปก็จริงอย่างที่นักอ่านบางท่านว่า มันคนละเรื่องกันจริงๆ 5555
พี่จิมเริ่มหลงน้อง แล้วนักอ่านล่ะ เริ่มหลงน้องกับพี่จิมกันหรือยังงงงง
เจอพี่จิมโหมดนี้ ทำเอาแต่งแทบไม่ได้ ขำพี่มัน 55 แลดูจะแพ้ทางน้องไปซะทุกทาง
ขอบคุณความคิดเห็นน่ารักๆที่มีให้มากๆเลยนะคะ อ่านไปยิ้มไปเลย
เพื่อเป็นการตอบแทน จะรีบไปปั่นตอนที่ 29 มาให้ได้อ่านกันเร็วๆเนอะ
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ จุ้บบบบบ
รักนักอ่าน

 

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :z1:

โอ้ววว  น่ารักอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cakecoke

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
 :hao7:

 จิม  ต้า น่ารัก

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สงสารจิม  :z1: เป็นคนดีก็เป็น แสดงว่าคืนแรกนี่

 ด้านมืดของแกใช้มั๊ย ทำกับน้องต้าได้ซาดิสขนาดนั้นอ่ะ :jul1:

ออฟไลน์ ไป๋ไป๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อร๊ายยย....จิมน่ารักอ่ะ

แพ้ทางน้องต้าซะด้วย หุหุ

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
ฟ้าหลังฝนจริงๆๆด้วย   :mew1:    ทำไมน่ารักอย่างนี้  ทั้งจิมและต้า  น่ารักฟุดฟุด

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
เด็กมันรุกหนักเว้ยเห้ย!!

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กลัวอดใจไม่ไหวล่ะสิ จิมมมมม

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
5555555555.
จิม รีบหนีไปทำอะไรอ่ะ หุหุๆ
ทนความน่ารักของน้องไม่ได้ละสิ
 :o8:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
จิมแพ้ลูกอ้อนต้าสินะนั่น

ออฟไลน์ waxman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao7: น้ิองต้า อ้อนพี่จิมซะ กลัวอดใจไม่ไหวเลยทีเดียว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด