#Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครที่สุดใน A BOY

น้องต้า
79 (41.6%)
วิคเตอร์
21 (11.1%)
พี่จิม
64 (33.7%)
หมอเซม
22 (11.6%)
แซมแฝดน้องพี่หมอ
4 (2.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 163

ผู้เขียน หัวข้อ: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26  (อ่าน 227293 ครั้ง)

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 32 กังวล

JIM Part

บ่ายวันอาทิตย์เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการพักผ่อน เช่นว่า ดูหนังเรื่องโปรด นอนฟังเพลงสบายๆ อ่านหนังสือคลายเครียด เป็นต้น

แต่สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่...

“จิมม แรงๆอีกนิดได้ไหม”

ผมมุ่นคิ้วเล็กน้อย เลื่อนสายตามองใบหน้าของคนตัวเล็กที่ช่วงตัวนอนเอกเขนกอยู่ในอ่างอาบน้ำ ใบหน้าแหงนเงยมองกัน ก่อนจะหลุบตาลงมองเส้นผมสีเข้มที่ตอนนี้ถูกฟองสีขาวของแชมพูปกคลุมไปทั้งศีรษะแล้วออกแรงขยี้ให้แรงขึ้นตามคำขอ

“อืมมม สบายยย”

แค่ฟังน้ำเสียงก็พอจะรู้แล้วเจ้าตัวกำลังสบายมากแค่ไหน ไม่ต้องเมื่อยแขนเมื่อยมือขยี้เอง นอนเฉยๆก็มีคนมาบริการถึงที่

บอกตามตรง เคยแต่สระผมให้ตัวเอง ไม่เคยสระผมให้ใครมาก่อนในชีวิต ไม่ว่าจะพ่อ แม่ หรือแม้แต่กานต์ก็ตาม

“จิมมม ตรงกลางหน่อยๆ” คำสั่งมาเรื่อยๆตามที่เจ้าตัวต้องการ

ผมแกล้งหยุดมือเสียดื้อๆ ไม่ทำตามคำสั่งเอาแต่ใจ และไม่ต้องเสียเวลารอนาน ไอ้คนที่นอนสบายก็เปิดเปลือกตาเงยหน้าขึ้นมองกัน ขยับหน้าปรับองศาให้ถนัดถนี่  ก่อนจะเบะริมฝีปากออกน้อยๆ แล้วส่งไม้ตายด้วยการส่งหมัดน็อก ออดอ้อนกันทางสายตา

...เห็นอย่างนี้แล้วปฏิเสธได้เหรอครับ? ก็ได้แต่เลื่อนมือไปขยี้ผมตรงจุดที่มันบอก

ทันทีที่ตามใจ ดวงตาคู่นั้นก็หลับพริ้มลงอีกครั้งก่อนจะส่งเสียงครางเบาๆในลำคออย่างมีความสุข อีกทั้งริมฝีปากก็อมยิ้มน้อยๆ

..เพราะใบหน้าอย่างนี้ไง ผมถึงขัดมันไม่ได้ทุกที ยิ่งเจอลูกอ้อนของมัน ไม่ว่าจะทางสายตาหรือทางการกระทำ ผมก็แพ้ราบคราบ

ส่ายหน้าหน่ายใจให้กับตัวเองที่หมดปัญญารับมือกับเด็กตัวแค่นี้ ผละมือออกจากกลุ่มผมสีเข้มแล้วเลื่อนไปคว้าฝักบัว เปิดน้ำแล้วค่อยๆล้างฟองแชมพูออกจากผมของมันอย่างระวัง

“หลับตาซะ” พูดดุเมื่อนัยน์ตากลมโตปรือขึ้นมอง มันก็เชื่อฟัง ทำตัวว่าง่ายหลับตาไปเหมือนเดิม

“เอียงหัวหน่อย”

มันยกหัวขึ้นตามคำสั่ง ณ ตอนนี้บอกอะไรก็เชื่อฟังหมดล่ะครับ ไม่มีดื้อให้เห็นหรอก

อยู่กับไอ้เด็กนี่ ไม่เบื่อเลยจริงๆ หาเรื่องวุ่นวายให้ผมได้ทั้งวัน ตั้งแต่เรื่องนอน ยันเรื่องกิน อาบน้ำแต่งตัวก็ต้องให้คอยบอก แต่ก็น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญหรือเบื่อมันเลย อาจจะมีบางครั้งที่เหนื่อยหรือรำคาญบ้าง ก็ตรงที่มันพูดจาไม่รู้เรื่อง

เมื่อคราบฟองสีขาวหมดไปจากเส้นผมสีเข้ม ผมก็เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ คว้าผ้าขนหนูผืนเล็ก วางโปะลงบนใบหน้าอีกคนที่กำลังมองผมตาแป๋ว

“เสร็จแล้ว” ว่าพลางยันกายลุกขึ้น หมุนตัวจะเดินออกจากห้องน้ำ ทว่ามันกลับจับมือผมรั้งไว้ หันกลับไปมองก็พบกับร่างที่สูงเพียงไหล่ที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนเก้ๆกังๆ ยกขาก้าวออกจากอ่างแล้วลงมายืนอยู่บนพื้นตรงหน้า

"จิมมม เช็ดผม" พูดพลางยื่นผ้าในมือออกมาสุดแขน

"เช็ดเอง"

สิ้นคำ ใบหน้าคนฟังก็บู้ลงทันควัน แต่ผมไม่หยุดยืนให้เสียเวลามากไปกว่านี้ รีบสับขาเดินออกไปทันที ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมาด้านหลัง ก่อนไอ้ตัวดีจะวิ่งตัดหน้าแล้วกางสองแขนขวางกั้นไม่ให้ผมเดินต่อ

ผมมองคนตรงหน้าที่สภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ หยดน้ำจากเส้นผมหยดแหมะใส่เสื้อจนเริ่มชุ่ม ทำให้บริเวณไหล่แนบไปกับเนื้อตัว ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มหวานแล้วยื่นผ้ามาตรงหน้าผมอีกครั้งแล้วพูดประโยคเอาแต่ใจ

"จิมเช็ดให้หน่อย"

ผมยังนิ่ง ไม่รับผ้ามาถือไว้

“จิมมม” เรียกชื่อด้วยเสียงลากยาว

น้ำเสียงแบบนี้...

วิธีการเรียกแบบนี้...

สายตาแบบนี้...

ลางร้ายครับ ลางร้ายชัดๆ!

เหตุการณ์ต่อจากนี้จะมีผลร้ายแรงต่อหัวใจของผมอย่างมากถ้าหากว่าไม่ทำตาม

...

“ไปนั่ง”

ฉวยหยิบผ้าในมือมัน ขณะที่อีกฝ่ายยิ้มกว้างดีใจรีบวิ่งไปนั่งปลายเตียงอย่างเริงร่า

ส่ายหัวอ่อนใจให้กับตัวเอง เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามันที่นั่งนิ่งๆ ริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มประดับ คลี่ผ้าในมือแล้ววางลงไปบนเส้นผมชุ่มน้ำก่อนจะเช็ดให้อย่างเบามือ

เช็ดไปได้สักพักก็ต้องชะงัก เมื่อมันพูดชมกันขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“จิมใจดีจัง”

“...” ขยับมือเช็ดผมให้มันต่อก่อนจะผงะไปอีกครั้ง เมื่ออยู่ดีๆมันก็แหงนหน้าขึ้นมามองสบตา นัยน์ตาคู่นั้นเอาเรื่องน่าดู ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย หวั่นใจว่าไอ้ดื้อจะแผลงฤทธิ์อะไรอีก

มันตะกายตัวขึ้นยืนบนเตียง แล้วยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ตอนนี้มันสูงกว่าผมที่ยืนบนพื้น ใบหน้าของผมอยู่ระดับเดียวกับแผ่นอกบาง

“จิม” เรียกชื่อด้วยน้ำเสียงและวิธีการเรียกที่ผมเริ่มจะเคยชิน พร้อมกับสองมือนุ่มที่ประคองหน้าผมให้แหงนเงยมองหน้ามัน

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ผมก็ไม่ได้นับกับการที่มันประคองแก้มผมอย่างถือวิสาสะอย่างนี้ เป็นคนอื่นอาจได้เลือดกบปาก หรืออย่างน้อยๆผมอาจเบือนหน้าหนี แต่กับมัน ความคิดพวกนั้นไม่อยู่ในหัวเลยสักนิด ..สัมผัสจากมือนุ่มๆ และสายตาคู่นั้นทำเอาผมไม่อยากผินหน้ามองไปทางไหน

“จิมห้ามใจดีกับคนอื่นนะ”

อีกครั้งกับคำพูดเอาแต่ใจ แต่เป็นคำพูดเอาแต่ใจที่พาลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ แววตาหวงแหนอย่างไม่ปิดบัง และเมื่อเวลาผ่านไป ผมยังคงนิ่งไม่หือไม่อือกับคำพูดนั้น เจ้าตัวก็เริ่มกัดปากด้วยความไม่แน่ใจ มือที่กุมสองแก้มก็ยิ่งจับกระชับมากกว่าเดิม

“ใจดีกับต้าคนเดียวนะ”

“..อืม”

อาจเพราะแววตา น้ำเสียงหรือท่าทางที่ทำให้ผมตกปากรับคำง่ายๆ แต่นั่นก็ทำให้ไอ้เด็กตรงหน้าดีใจยกใหญ่ กระโดดโลดเต้นบนเตียงสปริงจนตัวลอย

ผมได้แต่มองมัน และรู้ได้เองว่าคำตอบรับเมื่อกี้ที่ผมบอกมันไป ...ผมรู้ว่ามันจะเป็นไปตามนั้น เพราะผมคงไม่สามารถใจดีกับคนอื่นโดยไม่ฝืนความรู้สึกแบบนี้ได้อีก

Trrrrrrrrrr

หลุดออกจากภวังค์ พลันผละสายตาออกจากร่างที่กระโดดไปมาบนเตียง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังแทรกเข้ามา ผมรีบเดินไปหยิบมัน  ก่อนจะมองชื่อบนหน้าจอที่ปรากฏว่า ‘อนุชิต’

ปลายนิ้วสไลด์รับสายก่อนจะนำมาแนบหู

“ว่าไงครับ”

ผมนิ่งเพื่อรออีกฝ่ายพูด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พูดสักที มัวแต่อ้ำๆอึ้งๆ หากเป็นปกติผมคงตัดสาย ไม่รอฟังธุระของเขาแล้ว หากแต่ตอนนี้ มีสิ่งอื่นดึงความสนใจของผมให้หันเหไป ช่วยบรรเทาความใจร้อนไปได้พอสมควร

 “ว่าไงครับ” ทวนถามอีกครั้งอย่างใจเย็น เหลือบสายตามองคนบนเตียงที่หยุดกระโดดแล้วลงนั่งขัดสมาธิ ด้วยอาการหอบหายใจหน่อยๆ

“เอ่อ.. คุณจิม คือ ผมขอโทษ ที่ทำงานที่คุณมอบหมายล่าช้า ขอโทษครับ!”

ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยยังนึกไม่ออกว่าผมไปมอบหมายงานให้คุณอนุชิตเมื่อไร

“เรื่องที่คุณให้ผมสืบประวัติของน้องต้า ผมได้มาแล้วนะครับ ได้ทั้งชื่อจริง ที่อยู่บ้าน รวมถึงประวัติส่วนตัวต่างๆ” อีกฝ่ายพูดรัวเร็วจนผมแทบฟังไม่ทัน

“...” คิ้วที่ขมวดชนกันยิ่งขมวดเป็นปมแน่นกว่าเดิม เหลือบสายตามองไอ้ต้าที่ก็กำลังมองผมด้วยสายตาสงสัยไม่ต่างกัน

“...ผ ผมขอโทษครับ! แต่การที่มีเพียงรูปอย่างเดียวทำให้การสืบประวัติค่อนข้างยาก คือ...”

“ขอบคุณคุณมาก แค่นี้นะ” พูดตัดบทเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะอธิบายเหตุผลเพิ่มเติมก่อนจะตัดสาย ลดโทรศัพท์ลงถือข้างลำตัว

“จิม ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”

หน้าอย่างไหน?

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแสดงสีหน้าอย่างไรให้เด็กคนนี้เห็นอยู่ เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงแล้วยกมือลูบหน้าหวังจะปัดความรู้สึกไม่ดีที่ตื้อในอกออก

“จิมม”

น้ำเสียงมันดูหงอยลง และเมื่อมองสบตา.. ผมจะคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่า ว่ามันกำลังห่วงผมอยู่

“ไม่ได้เป็นอะไร..” ตอบให้มันสบายใจ ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยด้วยเพราะกำลังชั่งใจว่าจะบอกมันดีไหมว่าจะได้กลับบ้านแล้ว ...

“จริงๆนะ”

ผมพยักหน้าย้ำ ยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ

“รีบเช็ดผมให้แห้ง แล้วออกไปด้านนอก จะเปิดการ์ตูนให้ดู”

“เย้!!” ร้องไชโยดีใจยกใหญ่ที่วันนี้ผมยอมตามใจมันง่ายๆ มันร้องอยากดูการ์ตูนตลอดเวลา และผมก็จะขัดมันทุกครั้งด้วยรสนิยมไม่ตรงกัน

เรื่องกลับบ้าน ..ท้ายที่สุดผมก็เลือกที่จะไม่บอกมัน

วันนี้ มันอยากทำอะไร ผมจะไม่ขัด..

 คิดเพียงแค่ หากอยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปนานๆ ก็คงจะดี..

….

เพราะว่าที่ห้องไม่ค่อยมีการ์ตูน ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นหนังเสียมากกว่า ผมเป็นคนชอบดูหนัง ดูได้ทุกแนว ตั้งแต่หนังตลก ยันหนังไซไฟ แต่กับการ์ตูน ไม่กินเส้นกัน ต่างจากตัวจุ้นที่ร้องจะดูแต่การ์ตูนท่าเดียว จะรอดูทางช่องที่เขามีให้ก็ไม่สาแก่ใจมัน เพราะบางเรื่องก็ไม่เคยดู เลยไม่รู้เรื่อง

สุดท้ายเลยหาทางออกโดยการพามันลงไปเช่าที่ร้านใต้ตึก ที่ผมเองก็สมัครสมาชิกไว้เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้บริการสักเท่าไร

กำลังกวาดสายตาดูแผ่นหนังอยู่ตรงมุมแอ็คชั่น ไอ้จุ้นก็เรียกมาแต่ไกล

“จิมม”

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นผู้ชายไว้หนวดไว้เคราหน้าเคาท์เตอร์มองตามมันแล้วยิ้มกริ่ม รีบสับขาเดินไปหามันทันที ยืนบังร่างนั้นให้หายไปจากสายตายิ้มๆคู่นั้น

“เรียกทำไม ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นล่ะน่าดู” ขู่เอาไว้ก่อน แต่ถึงจะขู่ยังไง ตอนนี้ก็คงไม่ได้ผลกับไอ้คนตรงหน้าซะแล้ว

ในมือของมันมีแผ่นซีดีสองเรื่อง หน้าตาคิดหนักเหมือนตัดสินใจไม่ได้

“เอาเรื่องไหนดี” ไม่ผิดจากที่คิดเท่าไร

ผมปลายตามองหน้าปกที่ห่อหุ้ม ถึงบางอ้อเพราะเป็นการ์ตูนยอดนิยมที่คนรู้จักกันดี โคนันกับโดเรม่อน ค่อนข้างแตกต่างกันคนละแนว

“ก็เอาไปสองเรื่อง”

เพราะรู้ว่าอย่างมัน หากจะให้เลือกเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ผมคงได้เถียงกับมันอีกยาว

“ได้เหรอ”

หลุดยิ้มมุมปากกับนัยน์ตาเป็นประกายและรอยยิ้มหวานๆ

“อืม”

“แล้วนี่ล่ะ”

ได้ยินเสียงกรีดนิ้วบนสันกล่องซีดีทำให้ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วเลื่อนสายตาหันไปมองตามยังทิศทางที่ได้ยิน บนสันเขียนเอาไว้ว่า Prince of tennis

หืม?

“จะดู?”

พยักหน้ารับทันทีทันใด

สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ล่ะครับ ผมกำลังเอียน เพราะเพิ่งดูกับกานต์ไปเมื่อเดือนก่อน

“ที่ห้องกานต์มีแผ่น เดี๋ยววันหลังเอามาให้”

ปฏิกิริยาไม่ต่างจากตอนที่มันเห็นช็อกโกแลตวันที่กานต์เอามาฝาก หูกระดิก หางกวัดแกว่งไปมาอย่างเริงร่า ถลามาเกาะแขนของผมแล้วช้อนสายตาขึ้นมองอย่างมีหวัง

“เป็นผู้ใหญ่ห้ามโกหก”

“ถ้าเด็กไม่ดื้อ”

“ไม่ดื้อๆ สัญญา!” สองนิ้วยกขึ้นทาบคิ้วตะเบ๊ะท่าราวลูกเสือฝึกหัด พร้อมยิ้มหน้าแป้น

“หึ”

อยู่ด้วยกันไปนานๆ ก็เริ่มจะจับทางมันออก

“เอาเรื่องอื่นอีกไหม?”

รีบหันซ้ายหันขวาหาเหยื่อรายต่อไป เวลาดูมันเลือกซีดีก็เหมือนกับเวลาที่รอผู้หญิงช้อปปิ้งเลือกเสื้อผ้า เป็นการรอคอยไม่ต่างกัน ..หากจะมองหาจุดต่าง ก็คงจะต่างกันตรงที่ เวลามองมัน ไม่ว่ามันจะยืน หรือนั่ง ก็รู้สึกเพลิน และไม่อยากเร่งให้เวลาหมดไปเร็วๆ

....

เสร็จจากอาหารเย็นที่โทรสั่งรูมเซอร์วิส ผมกับต้าก็มานอนขลุกกันอยู่ที่เดิม หน้าทีวี

การ์ตูนเรื่องแล้วเรื่องเล่าจนแผ่นที่ลงไปเช่ามาเป็นตั้งค่อยๆหมดไป พอผมจะหลับ ก็ต้องถูกกวนถูกปลุกตลอด ต้ามันก็ฉลาด หาวิธีทำให้ผมยอมดูกับมันดีๆได้ โดยการหันมาตั้งคำถามใส่ผมเป็นพักๆ พอเคลิ้มจะหลับๆเข้าหน่อยก็มาอีกแล้ว

เหมือนอย่างตอนนี้...

“จิม ทำไมโคนันไปที่ไหนถึงได้มีแต่คนตาย” มันขยับกายที่นอนหงายดูทีวีหันมาถามผมที่นั่งพิงโซฟาอยู่ ผมปรายตามองหน้าจอสี่เหลี่ยมอีกครั้ง เห็นโคนันกำลังไขคดีปริศนาในบ้านแห่งหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองคนขี้สงสัย

“ไม่รู้”

มันมุ่ยหน้าลงนิดหน่อยแต่ก็ไม่เซ้าซี้ถามต่อ หันหน้ากลับไปนอนดูการ์ตูนอย่างลุ้นระทึกจนหน้าผากย่น เพราะจุดประสงค์ของมัน ไม่ใช่ถามเพื่อเอาคำตอบ นั่นคือผลพลอยได้ แต่เหตุผลหลักๆคือ ห้ามไม่ให้ผมหลับก่อนมัน

ร้ายไหมล่ะ?

....

นาฬิกาตีบอกเวลาสามทุ่ม โคนันจบไปนานแล้ว ตอนนี้บนหน้าจอกำลังมีหมีพูว์แอนด์เดอะแก๊งโลดแล่นอยู่

ตาแฉะเพราะดูทีวีเป็นอย่างไร ผมก็เพิ่งจะประสบปัญหานั้นก็วันนี้เอง ปกติเคยแต่ตาแฉะ ตาแห้งเพราะกองเอกสารที่กองพะเนินบนโต๊ะ ไม่ค่อยได้มีเวลาดูทีวีอย่างใครเขา นอกจากถูกบังคับจากบุคคลที่ปฏิเสธได้ยาก

จะว่าไป ลองให้ต้ากับกานต์มานั่งดูการ์ตูนด้วยกัน ผมคงถูกกันออกจากวงสนทนา เพราะกานต์มันเป็นประเภทได้หมด ง่ายๆสบายๆ หนังมันก็ดูได้ แต่การ์ตูนมันก็ติด ยิ่งถ้าไอ้เตี้ยรู้ว่าพี่กานต์ของมันคอการ์ตูนเดียวกัน คงได้ร้องหาทั้งวัน

อย่าหวังเลยครับ ว่าผมจะเปิดโอกาสให้สองคนนี้อยู่ใกล้กันอีก

ขยับพลิกกายหันมองคนข้างๆ ที่รู้สึกว่านิ่งเงียบผิดปกติ ก่อนความรู้สึกหนักแขนจะตามมา หันไปมองก็พบว่าคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีชวนผมดูนั่นดูนี่และจะคอยถามคำถามเรื่อยๆ ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว

ยิ้มบางๆมุมปาก ก่อนจะนอนตะแคงหันเข้าหาอีกคนทั้งตัวแล้วพับแขนนอนหนุนหัวแทนหมอน จัดระเบียบร่างกายให้สบายขึ้น

เสียงทีวียังดังผ่านเข้าโสตประสาทอย่างต่อเนื่อง หากแต่ผมไม่ได้ละสายตาออกจากใบหน้าขาว ค่อยๆใช้ปลายนิ้วเกี่ยวปอยผมที่ปรกใบหน้าออกให้อย่างเบามือ และเผลอมองใบหน้ายามหลับนั้นเนิ่นนาน

อยู่ๆคำพูดของกานต์ก็ลอยเข้ามาในหัว

รักครั้งใหม่ กับสาเหตุที่ทำให้มันกลายเป็นเด็ก 9 ขวบ

....

เวลาเพียงแค่นี้ ผมก็ยังคงคิดว่ามันเร็วเกินไปกับรักครั้งใหม่ ผมไม่สามารถเอาอะไรมาชี้วัดได้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยืนยาวหรือเปล่า เพราะขนาดคนที่คบหาดูใจกันมาหลายปีจนคิดจะแต่งงานด้วย สุดท้ายยังหักหลังกันได้อย่างเลือดเย็น

...และถ้ามันหายจากอาการป่วยนี้

ถ้าทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนที่มันปกติ

รอยยิ้มที่เคยมีให้ผม จะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?

สายตา..

เสียงเรียกชื่อ.. จะเหมือนเดิมไหม?

ถ้ามันจำได้ ถึงเรื่องเลวร้ายที่ผมทำกับมัน  มัน.. จะจากผมไปหรือเปล่า?

เผลอกลั้นลมหายใจเมื่อคิดมาถึงตรงนี้

“อ.. อื้ม”

อาจเพราะมือของผมสัมผัสผิวหน้าของมันแรงเกินไป ถึงทำให้แพขนตาขยับไหว ก่อนที่เปลือกตาสีนมจะค่อยๆเปิดปรือขึ้นช้าๆ นัยน์ตากลมโตยังดูง่วงงุน มันเงยขึ้นมองสบตา เปล่งเสียงถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

“จิม เป็นอะไร”

“ตรงนี้นอนไม่สบาย ลุกไปนอนที่เตียงดีกว่า” พูดบอกด้วยความหวังดีแต่อีกคนยังนิ่งเฉย และไม่มีทีท่าว่าจะลุก กลับเบียดตัวเข้าชิดจนใบหน้าขาวเกยบนแผ่นอกของผม แล้วเปล่งเสียงอู้อี้เป็นพยางค์สั้นๆ

“อุ้ม”

...ไม่อยากขัดใจ

ว่ากันว่า ถ้าตามใจเด็กมากๆ เด็กจะติด

ผมอยากให้มันติดผม

ติดจนไม่อยากจากผมไปไหน

ยกมือขยี้เส้นผมนุ่มอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆยันกายลุกขึ้นแล้วช้อนอุ้มอีกคนแนบอก กระชับวงแขนให้มั่นแล้วค่อยๆก้าวเดินอย่างมั่นคงจะตรงไปยังห้องนอน ทว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ตัวจุ้นในวงแขนก็ดูจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไร เพราะมันขยับตัวยุกยิกไปมาจนผมแทบจะเสียหลัก จากที่อุ้มในท่านอนหงายให้มันนอนสบายๆ มันกลับขยับพลิกตัวมากอดผมไว้ทั้งตัว

แขนเรียวสองข้างกอดรอบคอ ขณะที่สองขารัดแน่นที่ข้างเอวแล้วซุกซบใบหน้าที่ลาดไหล่

ได้แต่ส่ายหัวไปมา ไม่คิดขัดขืนหรือต่อว่าอีกฝ่าย กลับใช้มือรองบั้นท้ายของมันกันไม่ให้ลื่นตกแล้วก้าวเดินอย่างมั่นคงตรงไปยังห้องนอน มือหนึ่งที่ประคองแผ่นหลังบางไว้ผละออกเพื่อเปิดประตู

ผมกลัวว่า ท้ายที่สุด เด็กจะไม่ติดผม แต่เป็นผมที่จะติดเด็กเพียงฝ่ายเดียว

เมื่อประตูบานหนาเปิดกว้างออกผมก็เข้าไปข้างใน และค่อยๆวางลูกลิงลงบนเตียง แทนที่มันจะปล่อยมือปล่อยขาจากผมเพื่อไปลงนอนอย่างสบายๆ กลับดึงรั้งให้ผมลงนอนไปด้วยกัน

“หนัก” คนง่วงบ่นอุบ

ผมใช้มือยันเตียงไว้ ไม่ทิ้งน้ำหนักลงไปบนร่างอีกฝ่ายมากเกินควร พลางผละมองใบหน้าขาวที่มุ่ยลง

ใบหน้าของผมกับมันห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์ อีกทั้งช่วงตัวก็แทบจะแนบชิด.. ท่วงท่าชวนคิดลึก ทว่าเมื่อมองใบหน้าและแววตาของอีกฝ่าย ก็ทำให้ผมต้องหยุดความคิดลงเพียงเท่านั้น เพราะรู้ว่ามันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากไปกว่านี้ บริสุทธิ์จนผมไม่อยากทำลาย

“หนักก็ปล่อยสิ”

ผมบอกให้ปล่อยแต่สองแขนของมันกลับทำตรงกันข้าม ออกกแรงกอดคอผมแน่นมากกว่าเดิม แล้วขยับตัวต่ำลงจนใบหน้าอิงแอบแนบชิดแผ่นอก ขยับส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธอย่างดื้อรั้น

สัมผัสใกล้ชิดเพียงเสื้อผ้าคั่นกลางก่อปฏิกิริยาให้หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง

...ผม คงจะอาการหนักอย่างที่กานต์ว่าจริงๆ

เมื่อเห็นว่ายังไงๆมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย หนำซ้ำมันคงจะสามารถหลับไปทั้งๆอย่างนี้ได้ ผมจึงค่อยๆเบี่ยงตัวข้ามไปนอนที่เตียงอีกฝั่ง เมื่อลำตัวสัมผัสกับพื้นเตียงได้ ไอ้คนที่ยอมคลายกอดออกนิดหน่อยก็ตามเข้ามาติดๆ

ตั้งแต่วันที่มันกอดปลอบผมในห้องทำงานวันนั้น มันก็กลายเป็นเด็กติดสัมผัส

และเด็กนิสัยเสียคนนี้ ยังทำให้ผมติดกลิ่นกายหอมๆ และอ้อมกอดเล็กๆของมันจนถอนตัวไม่ขึ้น

“หลับหรือยัง” เอ่ยถามแผ่วเบาในความมืด ไม่มีเสียงตอบรับมีเพียงใบหน้าที่ขยับส่ายไปมาตรงแผ่นอก ผมยกมือขึ้นลูบศีรษะของมันแผ่วเบาโดยอัตโนมัติเหมือนที่เคยทำ

“ตอนนี้มึงอายุเท่าไหร่”

“เก้าขวบ” มันยอมตอบออกมาง่ายๆ คงจะกำลังเคลิ้มเมื่อมีคนลูบผมให้

“อืม...” เป็นคำตอบรับเพียงสั้นๆที่ผมมีให้มัน

อยากรู้เพียงเท่านี้

“นอนซะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า” สัมผัสที่แผ่นอกขยับพยักขึ้นลงอย่างว่าง่ายทำให้ผมลอบยิ้มบางๆ

เวลาที่มันเชื่อฟัง มันน่ารักนะครับ



ไม่สิ เวลาที่มันดื้อ ก็น่ารัก

 

...น่ารักจนผมถอนตัวไม่ขึ้น

 

จนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้เพียงเท่านี้


....

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
SAME Part

ตรู๊ดด...

ตรู๊ดด....

 

ตึง!

หมดแล้วกับความอดทนสำหรับการโทรหาใครคนหนึ่ง ไม่ว่าจะโทรกี่ครั้งๆ ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม ปลายตามองโทรศัพท์ที่ถูกเขวี้ยงลงบนพื้น ก่อนจะหลับตานิ่ง นิ้วมือบีบคลึงสันจมูก ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาช้าๆ

หลังจากมีเมสเสจด่าทอจากปรางทิพย์ส่งมาเมื่อวันก่อน ผมก็ติดต่อเธอไม่ได้อีก

ผลลัพธ์ของเกมส์ครั้งนี้เป็นอย่างไร เดาได้ไม่ยาก

...รสชาติของการสูญเสียเพิ่งจะเคยรู้สึกก็ตอนนี้  ของเล่นที่เคยมีอยู่ในมือ ผมกำลังจะเสียมันไป

ผมลืมตาขึ้นในความมืดเมื่อแว่วได้ยินเสียงรองเท้าสลิปเปอร์ดังลากพื้นอยู่ไกลๆ ก่อนไฟในห้องจะสว่างวาบ ทำให้ตาพร่าด้วยเพราะสายตาคุ้นชินกับความมืดมาเป็นเวลานาน คิ้วขมวดชนกันก่อนจะหันมองไปยังต้นเสียง เมื่อพบว่าใครคือเจ้าของเสียงเดินลากเท้า ผมก็ขยับกายลุกขึ้นนั่งจัดระเบียบร่างกายให้อยู่ให้สภาพที่พอดูได้ ไม่ใช่เอกเขนกอย่างเมื่อครู่

“สวัสดีครับพ่อ” เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

เมื่อกลับมาที่บ้านหลังนี้ การที่ไม่พบเขาอยู่ในบ้านถือว่าเป็นเรื่องปกติ

เขาเมินเฉยต่อคำทักทาย สีหน้าไม่ยินดียินร้าย และเริ่มเปิดประโยคสนทนาโดยการถามหาไอ้แซม

“รู้มั้ยว่าน้องแกหายหัวไปไหน”

ร้อยวันพันปีไม่มีการถามถึงหรอกครับ ไม่ว่าจะกับผมหรือน้อง เขาเพียงโอนเงินเข้าบัญชีในแต่ละเดือน อันเป็นหน้าที่ของบิดา เสร็จแล้วก็จบกัน แค่เงินในบัญชีแหว่ง เขาก็รับรู้ได้เองว่าลูกยังอยู่ดี ไม่ได้ตายจากไปไหน

“มันก็คงยุ่งๆกับงานที่ร้าน” ตอบปัดๆ ไม่ได้เจาะจงรายละเอียดมากไปกว่านั้น

“หึ ยุ่งเหรอ” น้ำเสียงเหยียดหยันอย่างสัมผัสได้เด่นชัด “น้องชายแกดีแต่สร้างเรื่องยุ่งๆให้ฉันน่ะสิ นี่แกก็คงไม่ได้ดูข่าวสารบ้านเมืองเลยใช่ไหม ถึงไม่รู้ว่าตอนนี้มันกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้น”

ดูก็รู้ว่าเขากำลังโกรธจัดอย่างที่นานๆครั้งจะเห็น

“อะไรครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“ตำรวจเข้ายึดร้าน และกำลังประกาศล่าหัวน้องแกอยู่” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขึ้นจมูกอย่างดูแคลน “หึ เป็นไง!? พวกมึงมันก็ดีแต่สร้างเรื่องให้กูไปวันๆ”

ล่าหัว?

“เกิดอะไรขึ้นกับน้อง” นั่งไม่ติดโซฟาจนต้องลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับพ่อ ริมฝีปากหนาของเขาเหยียดยิ้มแสยะ

“น้องมึงทำเรื่องสารเลวอะไรไว้บ้างล่ะ”

เพียงพริบตาเดียว ร่างของบุพการีก็ก้าวเข้าประชิด มือหนาที่เคยเลี้ยงผมมากำคอเสื้อแล้วกระชากเข้าหาตัว ก่อนจะกระซิบเสียงรอดไรฟัน

“กูเคยบอกมึงว่ายังไงหะไอ้เซม ให้มึงดูแลและเตือนๆน้องมันบ้างใช่ไหม” มือที่กำคอเสื้อของผมกำแน่นขึ้นจนเส้นเลือดปูดไปตามลำแขน

“แต่ดูสิ่งที่มึงทำกับกู!!!”

เพี้ยะ!!!

เสียงหวดอากาศ ก่อนฝ่ามือจะปะทะข้างแก้มด้วยความเร็วและแรง พลันความเจ็บแล่นปราดจนแก้มชาไปเป็นแถบ ผมกัดฟันข่มอารมณ์ก่อนจะใช้ปลายนิ้วปาดเลือดสีสด

“ถ้าเลือกตั้งสมัยหน้ากูไม่ได้ตำแหน่ง พวกมึงสองคนไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อ!!”

ผมหันหน้ากลับมามองผู้ชายตรงหน้าที่โทสะกำลังลุกโชติช่วงในดวงตาของเขา

“คนอย่างคุณมันเห็นแก่ตัว!”

“มึงว่ายังไงนะ”

เขาสืบเท้าเดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาฉายประกายน่ากลัว หากแต่ผมไม่คิดถอยหลังหนีแม้แต่ก้าวเดียว กลับจ้องตอบนัยน์ตาคู่นั้นอย่างไม่หวั่นเกรง

ตั้งแต่พ่อเริ่มเล่นการเมืองก็ทำให้ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนไป อำนาจ ชื่อเสียง และเงินทองดูดกลืนตัวตนของผู้ชายคนนี้จนไม่เหลือความเป็นมนุษย์

“กูถามว่าเมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร” เขากดเสียงต่ำในลำคอพลันมือหนากำรอบลำคอของผมแล้วแสยะยิ้มมุมปาก

..อีกหนึ่งหน้ากากจอมปลอมที่เขาบดบังความโกรธไว้ภายใต้ใบหน้าเย็นชา

“ทุกวันนี้กูทำทุกอย่างก็เพื่อพวกมึงสองคน...” กระซิบพูดรอดไรฟันราวกำลังอดทนอดกลั้นต่อแรงอารมณ์ที่กระพือ มือข้างนั้นที่กำรอบคอไม่ได้ออกแรงบีบ เพียงแค่กำไว้ให้ผมรู้สึกเหมือนตกอยู่ใต้อำนาจเขา “แล้วดูสิ่งที่มึงกับน้องของมึงตอบแทนกูสิ! กูให้มึงดูแลน้องไอ้เซม ทำไมมึงไม่ดู!! ชื่อเสียงที่กูสร้างมา น้องมึงทำลายป่นปี้ไปหมด!!!”

ผมเริ่มหายใจติดขัดขึ้นเมื่อมือของเขาข้างนั้นเริ่มบีบรัดลำคอของผมแรงมากขึ้น ผมกำมือแน่นข้างลำตัวไม่คิดจะต่อต้านหรือช่วยตัวเองให้หลุดออกจากสถานการณ์นี้

ผมรู้ดีว่าร่างกายของผมกำลังขาดอ๊อกสิเจน ถ้าเป็นอย่างนี้อีกเพียงนาทีเดียว ผมจะตาย.. ผมรู้

เขาทำให้ผมเกิดมา หากเขาคิดจะฆ่าผมให้ตายด้วยน้ำมือของเขา ผมก็ยอม

ทว่า..!

พลั่ก!

เขาปล่อยมือออกจากลำคอของผมแล้วเหวี่ยงผมสุดแรงจนผมเสียหลักทรุดล้มลงบนพื้น ผมนอนนิ่งไม่ไหวติงโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุดโดยอัตโนมัติ

เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ฆ่าผมให้ตาย..

แว่วหูได้ยินเสียงรองเท้าสลิปเปอร์เดินลากพื้นก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างหู

ผมรู้ดีว่า การกระทำครั้งนี้ของเขา จุดมุ่งหมาย ไม่ใช่จะฆ่าผมให้ตาย เขาเพียง ‘สั่งสอน’

ผมหายใจหอบจนตัวโยน ก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือหยาบที่กำลังลูบเส้นผมของผมไปมาในจังหวะสม่ำเสมอ

“อย่าทำให้พ่อผิดหวัง” เป็นคำพูดสั้นๆที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก

ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมองคนที่เลี้ยงผมมาซึ่งนั่งยองๆตรงหน้าอย่างหมดแรง

“หยุดทำงานที่โรงพยาบาลที่แกทำสักสองสามเดือน... หันไปทำประโยชน์ให้สังคมเห็น สร้างภาพลักษณ์ดีๆกลบเรื่องเน่าเฟะที่น้องแกทำ แค่นี้..ทำให้ฉันได้ไหม” สัมผัสที่ศีรษะยังคงลูบไปมาไม่ห่างหาย

“ผมทำได้ แต่..” ตอบรับกลับไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ เพียงแต่ผมมีข้อแม้.. “คุณต้องช่วยน้อง”

“หึ ได้” เขายกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพูดตบท้าย “อย่าทำให้พ่อผิดหวัง”

สิ้นคำพูดมือข้างนั้นก็ผละห่างจากผมของผมก่อนจะหยัดกายขึ้นยืน แล้วหมุนกายเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทิ้งให้ผมนอนอยู่ที่เดิมตามลำพัง

อย่าทำให้พ่อผิดหวัง ในความหมายของเขา คือ พ่อต้องได้รับเลือกตั้งสมัยหน้า

สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ต้องการ มีเพียงเท่านี้

ผมกับน้องก็เป็นแค่เบี้ยที่เขากำหนดมาว่าจะต้องเดินไปทิศทางไหน

กี่สิบปีกับชีวิตแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยรับรู้ เธอจากไปนาน.. นานจนใบหน้าของเธอเริ่มลางเลือนในความทรงจำ

ผมจำได้เพียง ..บ่วงเชือก ปลายเท้าของเธอที่ลอยคว้างกลางอากาศ สีหน้าทุรนทุราย ..และร่างกายที่กระตุกราวคนขาดอากาศหายใจ

เธอทนอยู่กับผู้ชายอย่างพ่อไม่ไหว

เธอทิ้งผมกับน้องให้จมอยู่กับขุมนรกบนดิน!

การฆ่าตัวตายไม่เคยอยู่ในสาระบบความคิดของผม เพราะมันน่าสมเพชเกินไป หึ

ผมค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งช้าๆ รอยยิ้มเย้ยหยันค่อยๆจางหายไป เปลี่ยนเป็นสีหน้านิ่งเรียบดังเดิม

สายตามองฝ่าออกไปยังกระจกใสที่เผยให้เห็นสีดำสนิทของท้องฟ้ายามราตรี มองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ในใจนึกห่วงเพียงคนเดียว

เกิดอะไรขึ้นกับมึง แซม..

 

 

 

_______________________________________

TALK :: อัพเสร็จก็เลยเวลานอนเสียแล้ว ฮ่าๆ ช่วงนี้รักตัวเอง ต้องนอนไวๆ จะได้หายเปื่อยT^T
ภาษาอาจจะแปร่งๆ มึนๆไปบ้างก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ แต่งตอนป่วย มึนๆ 555 แบ่งเป้นสองโพส ไม่รู้ทอล์คยาวหรือเนื้อหาเยอะ  :katai2-1:
มีเรื่องจะมาแจ้งเนอะ ใกล้เปิดเทอมแล้ว คงไม่มีเวลาแต่ง และลงได้บ่อยๆเหมือนกับตอนปิดเทอม เราเป็นประเภท แต่งได้เท่าไหร่ก็ลงเท่านั้น ไม่มีสต็อก ปิดเทอมก็แต่งไปลงไป 7-8 ตอนได้ ฟิตไงฟิต 555 ส่วนเปิดเทอมก็มาคอยดูกัน ว่าจะโผล่สักกี่ตอน 555
แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งนะคะ แค่อาจจะช้าบ้าง
ขอบคุณนะคะ สำหรับความเห็นและกำลังใจที่มอบให้ ที่เข้าใจกันด้วย ดีใจนะที่มีคนทวง 555 แต่ทวงมากๆเก๊าก็หนาวสั่น ฮา
แต่งแล้วคนชอบ ก็ดีใจจจจจจจ
เรื่องจะเป็นยังไงต่อ ก็ตามลุ้นกันนะฮับ
แอบเห็นนักอ่านบางคนแว้บไปอ่านอีกสองเรื่องด้วย ดีใจมากฮร่ะ ยิ้มแก้มปริเลยย Revenge & Sin <<(ถือเป็นการโปรโมทไปในตัว) 5555
โปรโมทมันเข้าไปปป จะอัพเมื่อใดก็ไม่รู้ (จะโดนรุมมั้ยพูดอย่างนี้ 555) เอาน่า เราไม่ทิ้งกันเนอะ ทุลักทุเลไปบ้างก็ต้องไปต่อให้จบ ฮึบๆ!
คืนนี้มาแบบ หวานๆปนหน่วง(หรือเปล่า??) 5555
ฝันดีนะคะ ขอบคุณน้า รักนะ จุ้บ
รักษาสุขภาพด้วย อย่าป่วย ไม่ดีเลย (ร่ำไห้แป้บ) 555

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ริวเป็นอะไรไหมเนี่ย แซมคงไม่ได้ทำอะไรริวหรอกนะ

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เกิดอะไรขึ้น  ค้างงงง!!!!!!

ออฟไลน์ kuro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-12
น่ารักจัง
เซมเป็นแบบนี้เพราะพ่อ แต่ก็รักน้อง
ให้ความรู้สึกเหมือนเรนจิกับโรจิเลย

ออฟไลน์ diduek

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
    • http://diduek-san.exteen.com/
ค้างงงงงงงงงงงง จิมอย่าเศร้าไปเลยน้าาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ minere_mi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
พี่จิมน่ารัก อ่อนโยนขึ้นทุกวันๆ...
แต่ไอ่สองแฝดนั่น!!!!ฮึ๋ยยยย!!!!

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
หายไวไว น้าาาา

เด๋วงี้น้องต้าก็จะได้กลับบ้านแล้วหรอ?

ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจชื่อเรื่องจริงๆเลย A BOY น้องต้าเป็นแบบนั้นจริงๆ

ถ้าต้ากลับบ้านต้ากับพี่จิมจะเป็นยังไงนะ แล้วถ้าต้าจำเรื่องทั้งหมดได้

โหดร้ายเกินไปมั๊ยอ่ะ? แต่เราก็รอลุ้น จุ๊บๆคนเขียนนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
so cuteee
ชอบมาก ทำไมจิมใจดีขนาดนี้

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
จิมใจดีจัง  :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zaszaq

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
จิมใจดี เพราะต้าอ้อนได้น่ารัก  :impress2:

ออฟไลน์ †คุณเขียด

  • ♣ เป็นคนดีแล้วค่ะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +376/-1
น้องต้าน่ารักจังเลยค่ะ

ละลาย :-[

กลัวน้องจำได้จังเลยอ่ะ

 :o12:

รอนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
น้องต้าเค้ามีลูกล่อลูกชนกับพี่จิมตลอด อิอิ

Viper_Wa

  • บุคคลทั่วไป
สาธุ!! อย่าให้น้องต้าจำได้เลย :call:

กำลังฟินกับคู่นี้อยู่  :hao6:

จิมก็นิสัยดีขึ้นจากหน้าตีนเป็นหลังมือเลยอ่า  :hao7:

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #494 เมื่อ08-11-2013 17:57:57 »

ตอนที่ 33 40%

JIM Part

เป็นเช้าอีกวันที่ผมตื่นก่อนมัน..

ว่ากันว่า คนตื่นเช้ามักได้เปรียบ

ผมไล่สายตามองสำรวจเครื่องหน้าของคนหลับข้างกายอย่างละเอียด ..ละเอียดจนแม้แต่ไม่ได้มองหน้าผมก็จำได้ขึ้นใจ

วินาทีนี้ ผมสามารถยอมรับกับตัวเองได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ผมเคยชินกับการที่ตื่นมาแล้วเห็นมันนอนอยู่ข้างๆ

เป็น ’ความเคยชิน’ ที่ผมอยากจะผลักไสออกไปให้ห่างจากตัวมากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของตัวเองได้

ผมชื่นชอบในกลิ่นหอมอ่อนๆของเรือนผมนี้

ผมต้องการที่จะกอดร่างนุ่มๆไว้แนบอกตลอดทั้งคืน

มันเป็นความเคยชินที่ส่วนลึกในใจบอกว่า ไม่อยากให้หายไป

...เปลือกตาสีน้ำนมยังคงปิดสนิท เหลือเวลาเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นทำงานในเช้าแรกของสัปดาห์อีกประมาณยี่สิบนาที แน่นอนว่ายี่สิบนาทีนี้ ผมไม่คิดจะปลุกมัน

ถ้าเป็นเมื่อหลายวันก่อน เหตุผลที่ผมไม่ปลุกมันคงเป็นเพราะ ผมต้องการความสงบ การที่สายตาเหลือบไปเห็นมัน ไม่ว่ามันจะเคลื่อนไหวหรือนั่งอยู่เฉยๆ ก็ดูขวางหูขวางตาและสร้างความรำคาญให้กับผมอย่างมาก แต่พอมาวันนี้ เหตุผลที่ผมไม่อยากปลุกมัน ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ผมเพียงอยากจะยืดเวลาในการมองใบหน้านี้ออกไปนานๆ

ทว่า สิ่งที่ตั้งใจไว้กลับล้มเหลว เมื่อขนตาเป็นแพที่บรรจบกันขยับไหวเบาๆ ก่อนเปลือกตาสีนวลจะค่อยๆเปิดปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า

แสงอาทิตย์ที่ว่าอบอุ่น ยังเทียบไม่ได้เมื่อริมฝีปากอิ่มสีเรื่อค่อยๆคลี่ยิ้มส่งมาให้ ผมมองรอยยิ้มนั้น ขณะที่ในหัวเริ่มจินตนาการคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันก่อน

ความนุ่มของกลีบปากที่เคยสัมผัส แม้จะไม่ล้ำลึกแต่มันกลับตราตรึงในความรู้สึก.. อยากจะจูบประทับแล้วบดขยี้ริมฝีปากคู่นั้นตามใจปรารถนา

“จิมม กอดหน่อย”

หัวของผมเริ่มแปรปรวน จินตนาการกับความเป็นจริงตีกันให้วุ่นไปหมด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ คนที่นอนข้างๆมันพูดจริงๆหรือผมแค่หูฝาดไปเอง หากคำพูดนั้นออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นจริง ก็อยากจะถามว่ากอดของมันมีความหมายแบบไหน เป็นกอดเพียงผิวเผิน หรือมากกว่านั้น.. ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยถาม ร่างของคนที่เพิ่งตื่นก็โผเข้าชิดจนใบหน้าซุกซบลงตรงแผ่นอก พร้อมกับแขนเรียวที่พาดลำตัวของผมแล้วกอดไว้แน่น

กอดของมัน ต่างจากสิ่งที่ผมกำลังคิด..

ผมยกมือขึ้นตระกองกอดตอบมันช้าๆ ก่อนจะกดริมฝีปากจูบซับเรือนผมหอมกรุ่นด้วยความรู้สึกพุ่งพล่าน พลางวางคางเกยบนศีรษะแล้วลอบถอนหายใจแผ่วเบา รีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง

“เมื่อคืนฝันดีไหม”

เริ่มต้นคำถามราวเด็กอนุบาล

จำได้ว่า ผมไม่เคยถามใครแบบนี้มาก่อน หากเป็นคนอื่นโดนผมถามแบบนี้ คงต้องถามผมกลับทันทีว่า ผมไม่สบายหรือเปล่า แต่ไม่ใช่กับเด็กน้อยในอ้อมกอด มันกระตือรือร้น แหงนหน้าจะเงยสบตา นัยน์ตาคู่นั้นพราวระยับ บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเต็มใจที่จะบอกเล่าประสบการณ์ฝันให้ฟัง

“ดีที่สุดเลย!” ยิ้มตาหยี ก่อนริมฝีปากอิ่มจะเริ่มขยับเจื้อยแจ้วเรียงร้อยถ้อยความ “เมื่อคืนฝันว่า จิมซื้อหมาให้ ตัวสีขาว ขนฟูๆ ตัวนุ่มๆ น่ารักมากเลย แล้วก็กินเก่งสุดๆ ให้อะไรก็กินหมดเลย จิมจะซื้อให้ใช่ไหม?”

ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ เริ่มไม่แน่ใจว่านั่นเป็นการเล่าความฝันของมัน หรือเป็นการอ้อนให้ซื้อลูกหมากันแน่

“รอให้โตกว่านี้ก่อน”

“ถ้าโตกว่านี้จะซื้อให้เหรอ”

“ถ้าตอนนั้นมึงยังอยากได้ ก็จะซื้อให้”

“จริงๆนะ”

ยิ้มขำกับดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะตอบรับสั้นๆในลำคอ เมื่อได้คำตอบถูกใจ มันก็ยิ้มกว้างจนผมอดไม่ได้ที่จะไล้ปลายนิ้วสัมผัสแก้มนุ่มนิ่มไปมา แล้วไล่ถามถึงเรื่องที่ยังค้างคาใจต่อ

“จำเรื่องก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่า?”

มันขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วนิ่งคิด มันเงียบไปนานจนทำให้มือของผมที่กำลังไล้แก้มนุ่มชะงักกึก หัวใจพลันกระตุกนึกกลัวว่ามันจะจำได้..

“จำได้!”

รู้เลยว่าหัวใจของตัวเองหยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ เผลอกลั้นลมหายใจ รอฟังคำตอบด้วยใจลุ้นระทึก

“เมื่อคืนเราดูโดเรม่อน โคนัน หมีพูว์ แล้วก็เงือกน้อย” พูดตอบด้วยรอยยิ้มซื่อๆ จนทำให้ผมต้องผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแปลกๆ

“ก่อนหน้านั้นล่ะ” ไล่เบี้ยถามต่ออย่างไม่ลดละ

“ก่อนหน้านั้นเหรอ...” มันขมวดคิ้วเป็นปมกลางหน้าผาก ริมฝีปากอิ่มสีเรื่อขยับขมุบขมิบไปมาก่อนจะเอ่ยตอบ

“จิมกินราดหน้าตอนเย็น แต่ไม่ได้กินกุ้ง” ว่าพลางหัวเราะชอบอกชอบใจ เพราะกุ้งในราดหน้าของผมถูกมันแย่งกินไปเสียหมดในมื้อเย็นเมื่อวาน

“ก่อนหน้านี้ล่ะ ตอนที่มึงกับกูเจอกันครั้งแรก จำได้หรือเปล่า” เป็นคำถามที่ผมรู้สึกกลัวกับคำตอบ

คราวนี้มันนิ่งไปนาน ใบหน้าบิดเบี้ยว ตวัดสายตามองผมอย่าง..โกรธๆ?

แขนเรียวที่พาดลำตัวผมถูกดึงกลับไป ก่อนมันจะยันกายนั่งขัดสมาธิพร้อมกับสองมือที่กอดอกแน่น ดวงตากลมโตหรี่ลงเล็กน้อยแล้วมองผมด้วยสายตาที่แปลกไป ผมเริ่มร้อนรนจนต้องทวนถามอีกครั้ง

“ว่าไง?”

“จิมใจร้าย!” พูดโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง

ความเครียดเริ่มก่อตัวเมื่อนัยน์ตากลมโตของอีกฝ่ายวาวระยับไปด้วยหยาดน้ำที่เอ่อคลอ ผมขมวดคิ้วแน่นพลันยันกายลุกขึ้น ละล้าละลังอยากจะปลอบประโลมแต่ปากกลับหนักจนพูดอะไรไม่ออก ในหัวมีเพียงคำสามพยางค์วนไปวนมา

..มันจำได้?

“จิมบีบคอ!”

บีบคอ?

ไม่.. นั่นไม่ใช่ครั้งแรก

หมายความว่า.. มันยังจำไม่ได้

เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และเมื่อผมยิ้ม น้ำตาเม็ดใสก็ร่วงผล็อยเปรอะแก้มนวล ฟันขาวเป็นระเบียบกัดริมฝีปากล่างอย่างแรงพลางมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำตัดพ้อต่อว่า

ที่ผมยิ้ม ไม่ใช่เพราะสะใจที่เคยทำมันเจ็บ

ความรู้สึกตอนนี้กับตอนนั้นมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ผมเพียงแค่ดีใจ ..ที่มันจำเรื่องก่อนหน้านั้นไม่ได้

“ตอนนี้ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เอ่ยถามแล้วเลื่อนสายตามองลำคอที่ครั้งหนึ่งเคยบีบมันด้วยสองมือของตัวเอง

มันส่ายหน้าจนผมยุ่ง ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผมไล้ปลายนิ้วแตะสัมผัสบนลำคอขาว เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้จะบีบคอเหมือนที่เคยทำเมื่อครั้งในอดีต คนตรงหน้าก็ผ่อนคลาย ไม่นั่งตัวเกร็งอย่างทีแรก

“โกรธหรือเปล่า”

มันมองผมด้วยความงุนงง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ ผมคลี่ยิ้มบางๆ ผละมือเลื่อนขึ้นสูง ลูบศีรษะของมันอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำได้

“พี่ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา ต่อไปนี้ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงอีก ยกโทษให้พี่นะครับ”

ไม่เคยคิดว่าเสียงตัวเองจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้ เห็นมันนิ่งค้างไปผมเองก็ชักอายๆ ละมือออกจากผมสีเข้ม แล้วลูบหน้าตัวเองแรงๆก่อนจะวางมันลงตรงหน้าตัก ตีสีหน้าเรียบเฉยมองอีกฝ่ายนิ่งๆแทน

“อื้ม สัญญานะจิม อย่าใจร้ายกับต้าอีก ใจดีได้อย่างเดียวพอ แล้วก็ ห้ามใจดีกับคนอื่นด้วย!” พูดยืดยาวด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ก่อนนิ้วก้อยเล็กๆจะกวัดแกว่งไปมาตรงหน้า

อยู่กับมันเหมือนผมได้ลดอายุตัวเองลงไปสิบกว่าปี ความจริง อายุขนาดผม คงไม่มีใครเขามาเกี่ยวก้อยสัญญาเด็กๆแบบนี้กันแล้ว

“จิมมม” มันเรียกชื่อด้วยการลากเสียงยาวเมื่อเห็นว่าผมยังนั่งเฉย นิ้วเล็กๆกระดิกไปมาเป็นการเร่ง ผมลอบถอนหายใจ ก่อนจะยอมยื่นนิ้วไปเกี่ยวก้อยกับมัน

เห็นรอยยิ้มกว้างบนริมฝีปากสีเรื่อก็พาลให้ยิ้มตาม

ถ้าทุกเช้า ตื่นขึ้นมาแล้วเป็นอย่างนี้ก็คงดี ต่อให้ต้องทำตัวเป็นเด็ก ลดอายุตามมันแล้วถูกคนอื่นล้อเลียนผมก็ยอม

“จิมม อาบน้ำกัน!”

“...” หัวใจเพิ่งจะเต้นด้วยจังหวะปกติได้ไม่ถึงนาที กลับต้องมาเต้นรัวด้วยประโยคสั้นๆของมันอีกแล้ว

ตายครับ.. คิดว่าคนเราจะมีความอดทนได้มากแค่ไหน?

“ถอดเสื้อสิ” ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทว่าจังหวะการเต้นของหัวใจกลับตรงกันข้าม

มันยิ้มกว้างดีใจ ดวงตาเต้นระริกก่อนจะกุลีกุจอรีบถอดเสื้อออกทางหัวอย่างรวดเร็ว

ชายเสื้อที่เลิกสูงเผยให้เห็นผิวขาวๆบริเวณหน้าท้องและช่วงเอว.. คนมองอย่างผมเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่ต่างกับเฒ่าหัวงูที่จ้องจะกินเด็กหนุ่มๆ แค่พูดยุ ไม่คิดว่าเด็กอย่างมันจะทำตาม แล้วผู้ใหญ่อย่างผมต้องทำอย่างไร..?

ไม่ไหวครับ..

รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อเสื้อตัวนั้นเลิกสูงมากกว่าเดิมจนเกือบจะเห็นจุดแต้มสีสดกลางแผ่นอก

ผมหยัดกายลุกขึ้นจากเตียง สองมือประสานกุมกลางลำตัวที่ตั้งตรงเคารพธงชาติแล้วรีบเดินเร็วออกจากห้องจนอีกคนบนเตียงไม่ทันตั้งตัว

เสียงประตูเปิดผลัวะตามหลังมาติดๆ ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านหลังก็ทำให้ผมเปลี่ยนจากเดินเร็วเป็นวิ่งโดยอัตโนมัติโดยไม่คิดจะหันกลับไปมอง

ปัง!

ปิดประตูห้องรับรองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนพร้อมลงกลอนเสร็จสรรพ ได้ยินเสียงทุบประตูรัวๆอยู่หน้าห้องพร้อมกับเสียงโวยวาย

“จิม!! ออกมานะ จิม!! ไหนบอกจะอาบน้ำด้วยกันไง! จิมมม ถอดเสื้อเสร็จแล้ว ออกมาสิ! จิม!!”

...ลอบกลืนน้ำลายอีกหนึ่งอึกเมื่อภาพผิวกายขาวๆยังฝังแน่นในความทรงจำ พาลให้ปวดหนึบไปทั้งลำกายจนอยากจะเปิดประตูแล้วกระชากเจ้าของเสียงร้องโวยวายข้างนอกให้เข้ามาช่วยกันปลอบประโลมลูกรัก!

!!

เป็นครั้งแรกที่วิ่งหนีอาหารอันโอชะ ทั้งที่ใจจริงอยากจะกระโจนเข้าใส่

รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั่น!

 

___________________________

TALK :: 40% นี้พอจะทำให้หายคิดถึงกันได้บ้างมั้ย? 5555
ใครค้างกับพี่แซมจากพาร์ทที่แล้ว รอติดตามต่อใน Revenge นะคะ หมดแล้ว จะไม่เจอพี่แซมใน A boy แล้ว (ดีใจมั้ย?) 555
40% นี้น้องต้าแกล้งพี่จิม 5555
ขอบคุณทุกความเห็นน่ารักๆค่ะ จุ้บบบ

ออฟไลน์ kuro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-12
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #495 เมื่อ08-11-2013 18:20:27 »

5555จิมหนี

ออฟไลน์ cakecoke

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #496 เมื่อ08-11-2013 18:48:10 »

 :m25:

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #497 เมื่อ08-11-2013 19:26:24 »

จิม อ่อนหัดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  :haun5:

atcharayee

  • บุคคลทั่วไป
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #498 เมื่อ08-11-2013 19:48:45 »

ชอบอ่ะ น่ารักเวอร์
สงสาร ถ้าต้าจำเรื่องราวได้หมดจะทำอย่างไง  :mew2:

ออฟไลน์ ไป๋ไป๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #499 เมื่อ08-11-2013 20:15:47 »

to...จิม

มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย อะจึ้ย!!!

ไม่ใช่แล้ว จิมกับต้าแค่เป็นพี่น้องท้องติด เอ้ย!! จิมเป็นพี่เลี้ยงเด็กเฉยๆ ไม่มีอะไรในก่อไผ่ ใช่ไหมจิม :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
« ตอบ #499 เมื่อ: 08-11-2013 20:15:47 »





ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #500 เมื่อ08-11-2013 20:38:42 »

จิมต้องใช้ความอดทนสูงเลยนะนั่น  >.<

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #501 เมื่อ08-11-2013 21:26:50 »

 :laugh: :laugh: :laugh:สงสารจิมเนอะ จะกินก็กินไม่ได้ เด็กเกิ๊นนนน
 :เฮ้อ: ถ้าน้องต้าจำขึ้นมาได้จริงๆจะเป็นไงนะ คำว่าให้อภัยเราว่ามันไม่มีอยู่ในหัวเลยอ่ะ

ดีใจที่คนคนนั้นจะไม่ได้เห็นใน A BOY แล้ว 555555 บอกตามตรง กลัวจริงๆ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #502 เมื่อ08-11-2013 21:58:34 »

น้องต้ายั่วพี่จิมแบบไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #503 เมื่อ08-11-2013 21:59:11 »

อดทนไปพร้อมๆกับจิมเหมือนกันค่ะ  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #504 เมื่อ09-11-2013 00:28:41 »

ให้มันหวานใสแบบนี้ตลอดไปได้มั้ยยยยยยย ฮืออคือมันน่ารักมาก คู่นี กัดหมอนนอนฝัน น้าาาาคนเขียน (ชื่อเรื่องก็บอกอยู่ว่าดราม่า แต่เราไม่อยากยอมรั้บบบบบบ)

ออฟไลน์ tsukishi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #505 เมื่อ09-11-2013 16:58:05 »

แน่จริง อย่าหนีนะจ๊ะ 555 :katai5:

ออฟไลน์ zaszaq

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #506 เมื่อ09-11-2013 18:13:51 »

 :hao7: :hao7: :hao7: จิมโดนยั่ว   ให้ต้าถอดแต่วิ่งหนีเอง  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #507 เมื่อ09-11-2013 20:00:33 »

5555 น่าสงสารจิม  :laugh:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #508 เมื่อ09-11-2013 23:33:57 »

อ่า  ...  ่ขอเวิ่นหน่อย

อยากบอกว่าช่วงนี้ติดเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ต้องมาคอยส่องทุกวัน  ถ้าอัพ..... ต้องกระโจนเข้าจิ้มเป็นอันดับแรก


อยากบอกว่าแต่ดีมากค่ะ  ธรรมชาติดีจริงๆ  หลงรักเด็กน้อยตัวโต   .....  ที่มีพี่โตกว่าคอยเอาใจ


อิอิ...  แอบสงสารพี่จิมนะ  แต่พี่จิมก็น่ารักมาก ที่วิ่งหนีออกมา  และดีใจมากๆ ค่ะ ที่ไอ้แซม มันจะไม่โผล่มาแล้ว

เป็นความสัมพันธ์ที่ลงตัวมากๆ  แต่ก็อดหวั่นใจกับอนาคตไม่ได้   

รู้แหล่ะว่ายังไงมันก็ต้องมาถึง  ....   แต่ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นเรื่องราวมันจะดำเนินไปยังไง  ไม่ค่อยได้เม้นค่ะ
ขออภัย  เน็ตกะลั่วมาก  คลิกๆ หลุด  อ่านได้จบนี่ต้องรอมันโหลด  8รอบได้  หลุดๆ เข้าๆ อยู่อย่างนั้น

ขอบคุณนะคะ  ยังไงก็ยังคงรอตอนต่อไปอยู่ดี  อิอิ  ไม่ได้อยากเร่งเลยนะ  แค่เค้าอยากอ่าน  คริคริ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 33 40% [8/11/56] P.17
«ตอบ #509 เมื่อ12-11-2013 16:15:18 »

รักจิมตอนนี้มากอ่ะ ไม่อยากให้ต้ารู้ความจริงทั้งหลายแหล่เลย มันเจ็บปวดเกินไป :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด