Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!) Special Children’s Day 9/01/2016 P.60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!) Special Children’s Day 9/01/2016 P.60  (อ่าน 1145531 ครั้ง)

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
นึกถึงเพลงนี้เลย...เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน...
ก๊ากกก. นานแค่ไหนก็รอจ้า

ยินดีด้วยที่น้องอเลนได้งานแล้ว  :mc4:
ขอให้ปรับตัวกับการเป็นมนุษย์ทำงาน
และมีความสุขกับการทำงานนะคะ

เมอรี่คริสต์มาสจ้า :กอด1:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:จะรอออออออจ้าาาาาาาาาาาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mjpnta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เข้ามารอด้วยคนค่ะ อิอิ คิดถึงพี่เหนือนะ

ออฟไลน์ sz4music

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
อย่าคิดมากไปการทำงานนะ ทำดีที่สุดก็พอ เรื่องนั้นดีในร้ายก็ช่างเต็มที่บนความถูกต้องก็พอ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เราเข้าใจค่า
สู้ๆ จะรอนะคะ

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
เป็นเด็กพี่เหนือ...ต้องอดทน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็ได้แต่หวังว่าจะได้อ่านในเร็ววัน

ออฟไลน์ magic-moon

  • mgKapleGD
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 498
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Pretty Girls from your city for night

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
รอได้ค่ะ ขอแค่แจ้งข่าวเป็นระยะๆแบบนี้ก็พอ  ^^

ออฟไลน์ wiwari

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1

ออฟไลน์ boooob

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :L1: :L1:รออยู่นะคะ ขอบคุณที่มาแจ้งข่าว :mew1:

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่คนแต่งมารายงานตัวบ้างไม่ทิ้งกันเลย เราก็มีกำลังใจรอเรื่องที่เรารักเราชอบค่ะ

สู้ๆนะคะคนเก่งของเรา :3123: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
สู้ๆนะคะ เด๋วก็ชิน 5555

ออฟไลน์ SAONG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะรอเรื่องนี้ต่อปายยยยยยย สู้ๆนะคะคนเขียน  :L2:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
มาลงชื่อรอฮะ
ขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะฮะ
เจอกันปีหน้า
Happy New Year 2015 krub ^_^

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0



Chapter 25……………………..“สีเทา”






                             ฝนซาลงไปมากแล้ว หลังจากอยู่ๆก็กระหน่ำตกลงมาราวกับว่าจะไม่มีทางหยุด ผมแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีเทาหม่นบดบังดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำลงพร้อมกับแสงสว่างที่เริ่มมอดดับลับขอบฟ้าไป...ฝนยังคงพรำลงมาเป็นละอองจางๆ สายลมหอบไอดินและกลิ่นชื้นของพื้นคอนกรีตลอยขึ้นแตะจมูก...ละอองฝนเกาะพรมตามไรผม...หยดลง เสื้อยืดสีขาวตัวบางเริ่มแนบติดลำตัว “ใครให้มึงใส่เสื้อบางแบบนี้” แว่วได้ยินเสียงคุ้นหู ภาพในความทรงจำทำให้มุมปากยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งแต่ก็ไม่เต็มที่เหมือนกับมีบางอย่างจุกอยู่ที่คอ เสียงหอบของลมหายใจทำให้ผมเริ่มรำคาญตัวเองแต่ก็ยังอยากที่จะกอบโกยอากาศเข้าสู่ปอดให้มากที่สุด หลังมือปาดหยดน้ำที่เกาะอยู่ข้างแก้มออกอย่างลวกๆก่อนจับกระชับสายกระเป๋าเป้ที่สะพายไว้ด้านหลังให้แน่นขึ้น แล้วค่อยๆเริ่มก้าวเท้าไปตามพื้นถนนชื้นแฉะ ทุกย่างก้าวช่างอ่อนล้าพอๆกับหัวใจผมที่อ่อนแรงลง ความเย็นยามเมื่อหยดของฝนตกกระทบบนใบหน้าช่างเหมือนใบมีดกรีดลงทั่วทุกอณูผิวหนัง...เจ็บไปหมดเลย “หัวใจ” ของผม ไม่รู้ว่าเพราะฝนเริ่มจะตกหนักขึ้นมาอีกครั้ง...หรือเพราะอะไรกันที่ทำให้มีหยดน้ำไหลลงมาที่แก้มผมอีก...ใช้มือเช็ดไปแล้ว มือสองข้างเช็ดแก้มตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า...หยดน้ำที่ไหลออกจากตาก็ไม่เหือดแห้งหมดไปซักที ก้อนสะอื้นที่ทดกลั้นไว้ ลมหายใจหอบโยนที่จุกอยู่ในลำคอเริ่มจะทนกลั้นไว้ไม่ไหว...ผมกำลัง “ร้องไห้” และ “หัวใจ” ของผมกำลังเป็นแผล...............ผมไม่ชอบฤดูฝน...เพราะฤดูฝนมักพัดพาคนที่รักให้จากผมไป…




“อ้าวไอ้ปอนด์ นึกยังไงกลับมาหอหรือมึงลืมอะไร? แล้วนี่พี่เหนือรออยู่ที่รถหรอวะไม่เห็นขึ้นมาด้วยกัน” หลังจากที่ผมเคาะประตูอยู่สามสี่ครั้งไอ้ธามก็เปิดประตูให้ผมแทรกตัวเข้าไปในห้อง...หอพักที่ผมแทบไม่ค่อยได้กลับมาซุกหัวนอนในช่วงเกือบสองสามเดือนที่ผ่านมา ผมก้าวเข้าไปนั่งบนเตียงของตัวเองวางกระเป๋าเป้ที่มีเพียงหนังสือกับอุปกรณ์เขียนแบบลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม...มีแค่ผมในตอนนี้ที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เห็นกีตาร์โปร่งตัวเก่าที่ไอ้ธามชอบเอามานั่งแกะคอร์ดแต่งทำนองแบบมั่วๆแล้วบังคับให้ผมฟังเหมือนทุกครั้งที่นั่งทำงานกันดึกๆ นานแล้วที่ไม่ได้ฟัง...หลังจากมีใครบางคนเข้ามาในชีวิต


“เล่นกีตาร์ให้กูฟังซักเพลงสิ กูอยากฟัง”


“มึง...”


“เอาเพลงที่มึงเล่นให้กูฟังตอนนั้น ชื่อเพลงไรนะ ....อึก...ฮึก...ที่กูบอกว่าเพราะกว่าฟังหมาหอนนิดหน่อย” เอ่อล้นออกมาอีกแล้ว...ผมเกลียดตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้ชะมัด


“ไอ้ปอนด์มึง...”


“ฮึก...เหี้ยเอ้ย...มึงอย่าพูดนะ อึก อย่าเสือกถามอะไรกูตอนนี้ ฮือ... เล่นกีตาร์ให้กูฟังก็พอ กูขอร้อง” สองมือผมยกขึ้นมาปิดหน้า...ก่อนจะดึงทึ้งผมตัวเองทั้งที่หมดแรงแม้แต่จะหายใจ ความอดทนของผมคงพังทลายลงในไม่ช้า

 
“มึงไม่เป็นไรนะ?” ไอ้ธามเดินเข้ามาตบไหล่แล้วถามผมเบาๆทั้งที่ผมยังไม่ทันได้เล่าอะไรออกไป มือมันบีบไหล่และโอบกอดผมไว้แน่น ผมไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่ก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้ ฝนกระหน่ำตกลงมาอีกครั้งเหมือนกับน้ำตาของผมที่เริ่มไหลออกมาอีกรอบคล้ายกับมันจะไม่มีวันหยุดไหลนับจากนี้ไป ไม่มีคำพูดหลุดออกจากปากไอ้ธามและผม มีเพียงเสียงสะอื้นที่ถูกกลบด้วยเสียงฝนที่สาดลงระเบียงห้องกระทบพื้นซีเมนต์


“ฮึก...ฮือ...กูไม่ไหวว่ะ ฮือ..” ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย สองมือกำแน่น หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เรื่องร้ายๆมักมาพร้อมกับสายฝนที่มักพัดพาให้ผมต้องพรากจากสิ่งสำคัญเสมอ...ทุกอย่างรวดเร็วไปหมดจนผมไม่ทันตั้งตัว...ผมไม่ทันได้เตรียมใจ...เพราะการที่มีอีกคนอยู่เคียงข้างในทุกวันมันทำให้ผมไม่เคยเผื่อใจไว้เลย


..................................................


...................................


.................



          5ชั่วโมงก่อน


“เฮ้ย! ไอ้เด็กเหนือ” รู้เลยครับว่าใครเรียก คิดว่าพี่มันจบไปเป็นโจรอยู่ภาคใต้ไม่ก็ไปสมัครเป็นทหารพรานแถวชายแดนกัมพูชาแล้ว ช่วงหลังๆเวลาผมโดนไอ้พี่เหนือบังคับให้ไปนั่งรอมันที่คณะก็ไม่ค่อยเห็นแก๊งพี่แชมป์มันแล้วครับได้ยินว่าไปฝึกงานอยู่ต่างจังหวัดสร้างวีรกรรมไว้เยอะพอตัว บริษัทไหนรับพี่แกไปคิดหนักหน่อยนะครับผมปวดหัวแทน ว่าแต่ยังจำมันได้ใช่ไหมครับ? ไอ้พี่แชมป์พี่รหัสพี่เหนือที่เจอกันก็เข้ามาทักว่าผมเป็นเด็กเหนือใช่ไหมหลังจากที่ผมโดนน้ำแข็งใสราดหัวเพราะพี่มันเห็นโรตีดีกว่าหัวผมเลยเข้ามาช่วยไว้ไม่ทัน นั่นแหละครับการพบกันที่ตราตรึงใจจนผมไม่คิดว่าชาตินี้จะลืมได้พอๆกับตอนแรกที่พบกันระหว่างผมกับไอ้พี่เหนือ


“ดีว่ะพี่ไม่เจอกันนาน เหนียงยานขึ้นเป็นกอง” ยกมือทูนหัวเสร็จจบประโยกก็โดนพี่มันโบกลงกลางกบาล กวนตีนมันซักหน่อยพอแก้กระสัยให้หายคิดถึง ชอบครับเวลาโดนใครตบกะโหลกแก้วหูเต้นระบำวิ้งวิ้งวิ้งดี


“ขอบใจที่ชม มึงก็เหมือนกันไม่เจอกันนาน ตูดบานขึ้นเป็นกองน้องรหัสกูจัดให้ทุกวันละสิถึงได้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น” โดนไปดอกใหญ่ๆปากหรือตีนวะที่พูด พี่มันยีหัวผมเล่นซักพักคนดังของมหาลัยก็เดินยิ้มร่าอวดความน่ารักเข้ามาหาผมกับพี่แชมป์


“หวัดดีครับพี่ทีม วันนี้ก็น่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ” หยอดไปหนึ่งดอกพอให้เห็นคนน่ารักได้อาย คนอะไรไม่รู้ยิ่งโตยิ่งดูน่ารัก แฮ่!


“โธ่! ไอ้พวกคนแมน&แฮนซั่มบอย คนหนึ่งมีผัว อีกคนก็ตามจีบผู้ชายแต่เสือกอยากจะได้กัน” ไอ้พี่แชมป์พูดจบพี่ทีมก็ยันโครมเข้าให้ เห็นน่ารักอย่างนี้โหดใช่เล่นเลยนะครับ เล่นดนตรีเก่ง ร้องเพลงเพราะ เรียนก็ระดับเกียรตินิยม แถมยังเคยเป็นเดือนมหาลัยอีก สมแล้วที่ไอ้ปอนด์คนนี้เลือกที่จะเป็นแฟนคลับแต่ถ้าได้เป็นแฟนครับขึ้นมานี่ผมจะปิดซอยเลี้ยงขนมจีนตีนไก่สามวันสามคืนเลยเอา แต่ก่อนจะได้กินตีนไก่ผมคงได้กินตีนท่านพี่เหนือก่อนแน่นอนปอนด์รับประกันครับโผมมมม


“หวัดดีครับปอนด์ แล้วมึงมากวนอะไรน้องกูไอ้กระหังกลับรัง” ตราบาปเดียวในชีวิตพี่ทีมคงเป็นการที่พี่ได้รู้จักกับไอ้พี่กระหังคนนี้นี่แหละครับ


“มึงแปลกใจใช่ไหมว่าทำไมคนหล่อๆอย่างกูถึงมาเป็นเพื่อนกับคนหน้าตาเหี้ยๆดูสถุลไร้สกุลรุนชาติอย่างไอ้ทีมได้” มึงก็ช่างกล้าพูด


“กรรมของพี่เองครับปอนด์ที่บ้านพี่ดันอยู่ข้างบ้านมัน เจอมันมาก็ตั้งแต่กระด้งเท่าฝาหอย ยังตั้งกระด้งบินเองไม่ได้ มาจนตอนนี้กระด้งใหญ่หัดบินไปกินขี้เองได้แล้วถึงอยากจะเลิกคบพ่อแม่ก็ดันมาเป็นเพื่อนกันซะได้ จะหนียังไงก็หนีมันไม่พ้นครับให้ตาย” ผมไม่รู้จะขำหรือสงสารไอ้พี่แชมป์ดีนะครับ พี่ทีมก็ตลกใช่ย่อยนี่ละมั้งที่ทำให้เป็นเพื่อนกับไอ้พี่แชมป์มันได้


“มึงหยาบคายกับกูมากไอ้ทีม อย่าให้กูแฉเรื่องของมึงนะ กูกุมความลับมึงอยู่นะครับ อย่าลืมๆๆ” พี่ทีมตาโตใหญ่เลยเหมือนจะเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆ


“เอ่อ...แล้วพวกพี่กำลังจะไปไหนกันหรอครับ?” ยืนคุยกันอยู่นานยังจับใจความไม่ได้จนผมต้องถามออกไป เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่คิดว่าสามทุ่มผมก็ยังไม่ถึงคอนโด


“กูมาทำเรื่องจบ นี่ก็ฝึกงานเสร็จพอดี มะรืนนี้นัดแดกเหล้า กูเลี้ยง! บอกไอ้เหนือด้วยบังคับให้มันมาให้ได้ ชวนเพื่อนมึงมากันให้ครบด้วยนะ โดยเฉพาะไอ้นนท์เพราะคนแถวนี้มันอยากเจอใจจะขาด” ตกเป็นภาระของกูไปตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วใครอยากเจอไอ้นนท์? แต่ของฟรีผมไม่เกี่ยงเสี่ยงตายแค่ไหนก็จะฉุดทุกคนไปให้ได้ครับขอพี่กระหังท่านจงวางใจ


“รับทราบครับพี่! จะไม่ให้มีขาดหายหัวไปซักคนเลยครับ!”


“ดีมากเด็กเหนือ! แล้ววันนี้ไม่เห็นมีLamborghini Bentley  Porsche  Maserati Ducati BMW  ยันม่า คูโบต้า คาวาซากิ ฮอนด้าเวฟ ฟรีโน่ไว้ขี่โก้ๆมารับมึงเลยวะ? มันไปไหนซะล่ะน้องรหัสสุดหล่อโคตรโหดบรรลัยของกู” คันหลังๆกูว่ามันไม่ใช่ว่ะ แล้วก็ร่ายมาซะกูคิดว่าโชว์รูมขายรถ อยากจะเถียงครับแต่ติดตรงไอ้พี่เหนือมันดันมีจริงๆ ไม่นับรวมห้าคันหลังนะครับ Ducatiล่าสุดผมเห็นจอดอยู่ในโรงรถสี่ห้าคันนานๆมันจะขี่ที ไว้ขี่ไปซื้อโจ๊กหน้าปากซอย ผมละโคตรหมั่นไส้ฉิบหาย พ่อรวยพ่อหล่อพ่อบ้านมีตังเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วไหมมึง เพราะคนแบบมึงนี่เองที่ทำให้โลกร้อน แต่ก็นั่นแหละครับผมเคยขัดใจพี่ท่านได้ที่ไหน


“มีเทสย่อยแล้วก็ทำโปรเจคต่อครับพี่ ผมขี้เกียจรอเลยขอมันกลับคอนโดก่อน”


“ปอนด์รีบไหมละครับ? กลับพร้อมพวกพี่ก็ได้นะแต่ต้องรอไอ้กระหังนี่ทำธุระของมันเสร็จก่อน” พี่ทีมเป็นคนเสนอ


“ไม่รบกวนดีกว่าครับพี่ทีม ผมไม่อยากมีปัญหากับพี่เหนือ รายนั้นสายเยอะชอบชวนทะเลาะวันนี้ผมเจ็บคอด้วยเถียงไปก็แพ้ไม่เสี่ยงดีกว่า ไว้หายเจ็บคอค่อยมาลองเสี่ยงกันนะพี่”


“ไม่เถียงมึงก็แพ้ ไปๆรีบกลับไปรอผัวอยู่ที่ห้องทำตัวเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายตกดึกก็กินนมข้นก่อนนอนนะ” ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่กูจะเตะปากเข้าให้


“ไปก่อนนะพี่ ไว้เจอกันครับ” พี่มันตอบเออๆก่อนจะเดินแยกไป


                 ผมเดินมารอรถเมล์อยู่ซักพัก เลือกนั่งด้านหลังติดกับหน้าต่าง นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถสาธารณะ บอกป้ายที่ลงพร้อมจ่ายค่าโดยสารกับกระเป๋ารถเมล์ ระหว่างรถเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนสายหลักใจกลางกรุงเทพฯสภาพสองข้างทางไม่ใช่ภาพน่ามองเท่าไหร่นัก คำว่าแออัดมองไปทางไหนก็ชวนให้หดหู่นั่นมากกว่าที่เห็นได้ชัดเจน แต่อาจจะเพราะบรรยากาศครึ้มสีเทาหม่นเพราะฝนกำลังจะตกหรือจะเพราะอะไรก็ตามที่ทำให้ผมหวนนึกถึงเรื่องราวมากมายในอดีต ภาพต่างๆไหลย้อนเข้ามาในห้วงความคิด ผมไม่ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากนักตั้งแต่มีอีกคนเข้ามาเพราะแม้แต่ความคิดของผมอีกคนก็ฉกฉวยเอาไปเป็นของตัวเองได้โดยง่าย คิดแล้วก็เหมือนโดนครอบงำเต็มรูปแบบ ทั้งสุขทั้งเศร้าล้วนแต่มีอีกคนคอยกำหนดกฎเกณฑ์ “สุดท้ายแล้วกลับเป็นผมที่ตกหลุมร้ายจนกลายเป็นรักโดยไม่รู้ตัว”...มันคงถึงเวลาแล้วที่ผมจะทลายกำแพงของตัวเองแล้วจับมือให้ใครอีกคนได้เข้ามาในโลกของผมอย่างเต็มใจซักที...วันนี้...ผมอยากจะพูดคำนั้น...คำที่มันรอฟังจากปากผมมาโดยตลอด อยากจะพูดออกไปให้ชัด…สำหรับคำว่า “รัก” คำนั้น


“ไม่กลับพร้อมคุณเหนือหรือครับคุณปอนด์”


“พี่เหนือมีสอบครับคงกลับดึกหน่อย ทานกันให้อร่อยนะครับ” ผมยื่นถุงชานมเย็นกับขนมครกร้อนๆให้พี่ยามที่เพิ่งแวะเข้าซอยก่อนถึงคอนโดไปเดินตลาดมาโดยทุกครั้งก็ไม่ลืมซื้อขนมติดไม้ติดมือมาฝาก


“ขอบคุณครับคุณปอนด์ วันนี้วันดีเลยนะครับ” พี่ยามยิ้มให้ แปลกใจกับคำพูดปิดท้ายแต่ก็ไม่ได้ถามออกไปว่าวันดีอะไร...สำหรับผมวันนี้คงจะเป็นวันดีจริงๆ


“กลับมาแล้ว” พูดกับตัวเองขณะใช้ขายันปิดประตูห้องก่อนจะหิ้วถุงของกินไปวางบนเคาเตอร์ในครัวรอกินพร้อมไอ้พี่เหนือที่ไม่รู้จะได้กลับตอนไหน


“กลับมาแล้วหรอครับคุณปอนด์” สะดุ้งจนเกือบทำจานร่วงหลุดมือ หันไปตามเสียงเรียกด้านหลังพบผู้ชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำทับเสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวดูเป็นทางการตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ชุดสูทราคาแพงรับกับใบหน้าดุดันและรอยยิ้มที่แอบแฝงความน่ากลัวหรือแม้แต่รองเท้าหนังมันปราบราคาแพงนั่น ประเด็นอยู่ที่นี่คือคอนโดของพี่เหนือ เป็นห้องของพี่เหนือ ผมแน่ใจว่าไม่ได้เสียบคีย์การ์ดหรือกดรหัสผ่านประตูคอนโดราคาแสนแพงเข้ามาผิดห้อง และผมก็แน่ใจว่าไม่เคยรู้จักคนคนนี้แม้แต่น้อย แล้วเขาเป็นใคร? เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง? ที่สำคัญคือเขารู้ว่าผมเป็นใครนั่นต่างหากที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว


“คุณเข้ามาได้ยังไง?!” เอ่ยถามเหมือนกับบทนางเอกละครไทยออกไปแบบโง่ๆ นี่ถ้ามันตรงเข้ามาปาดคอหรือใช้ปืนยิง ผมคงทำได้แค่หวีดร้องโหยหวนแล้วตะโกนแหกปากตามบทว่า อย่าเข้ามา อย่าเข้ามานะ พี่เหนือช่วยผมด้วยแบบนี้สินะ ไม่ล่ะถึงจะถามไปแบบนั้น แต่มือผมก็ถือสากหินซ่อนไว้ที่ด้านหลังแล้ว เพียงเท่านี้ผมก็รู้สึกปลอดภัยเหมือนใส่เสื้อเกราะไว้ไม่มีผิด


“นายท่านต้องการพบคุณ ท่านมีเรื่องจะตกลงกับคุณปอนด์ครับ” นายท่าน? ผมชักจะขำไม่ออกแล้วสิ ดูจากสีหน้าท่าทางของคนคนนี้แล้ว นายท่านที่ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับพี่เหนือ? ไม่นะ! หรือว่า! ไอ้พี่เหนือจะติดพนันบอล! เพราะมันชอบแข่งรถ! พอมันแพ้หนักๆเข้าก็ไม่มีเงินจ่ายให้พวกมาเฟีย มันถึงต้องเข้าไปพัวพันกับพวกค้ายาแล้วพอวันไหนมันไม่ว่างส่งยาให้ พวกมาเฟียก็จะมาตามเช็คบิลถึงที่ แล้วความซวยมันก็มาตกอยู่ที่ผม ไม่นะ ม่ายยยยยยยย! ผมยังไม่อยากตาย!


“หยุดจิตนาการก่อนเถอะครับคุณปอนด์” นี่หน้ากูแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอวะ ถึงว่าตอนเห็นสาวๆไอ้นนท์ต้องคอยตบหัวเรียกสติให้ตลอด ยิ่งถ้าเป็นไอ้พี่เหนือนี่แทบจะลากผมกลับห้องทันที


“คุณเป็นใคร แล้วเข้ามาได้ยังไง” เอาวะมีสากหินแท้ของขึ้นชื่อจากอ่างศิลายังไงกูก็ปลอดภัยถ้าให้เปรียบก็คงไม่ต่างจากตอน โทนี่ สตาร์ค สวมชุดไอรอนแมนไม่มีผิด?


“ผมเป็นเลขาของคุณท่าน คุณท่านคือพ่อแท้ๆของคุณเหนือฟ้าครับ” วูบหนึ่งเหมือนหล่นลงจากที่สูง จากนั้นความรู้สึกคล้ายกับโดนน้ำเย็นๆสาดใส่หน้าปลุกให้ตื่นจากฝันหวานอันแสนยาวนาน ความรู้สึกที่อยู่ภายในใจเริ่มก่อตัวขึ้น...ไม่คาดคิดว่าเวลานี้จะมาถึงเร็วแบบไม่ทันได้ตั้งตัวขนาดนี้...ไม่ใช่ไม่เคยคิด...ลึกๆแล้วก็รู้ดีว่าต้องมีซักวัน...หวังเพียงแค่อย่างน้อยก็ให้ผมได้พูดคำนั้นออกไป...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกิน ขอให้ผมได้พูดคำนั้นก่อน ขอเวลาให้ผมได้อยู่ในห้วงความฝันอันแสนหวานนานอีกนิดได้โปรดเถิดพระเจ้า...ในใจภาวนาแต่ขากลับก้าวตามหลังร่างที่เดินนำไปก่อนอย่างว่าง่ายรู้ตัวอีกทีก็มาหยุดยืนตรงโซฟาห้องรับแขก ผมจ้องมองไปยังบุคคลที่นั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสง่างามน่าเกรงขาม แม้จะเห็นแค่เพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างแต่กลับรู้เลยว่าคนคนนี้เป็นพ่อของพี่เหนือแน่...เหมือนกัน...เหมือนกันมากโดยเฉพาะสายตาแสนเย็นชานั่นช่างดูว่างเปล่าไร้จิตใจเหมือนตอนแรกที่ผมเจอพี่เหนือไม่ผิดเพี้ยน


“นั่งลงก่อนสิ กลับมาจากมหาลัยเหนื่อยๆ” ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ฟังจากน้ำเสียงและสีหน้าเรียบเฉยติดเย็นชานั่นแล้วผมอ่านไม่ออกและไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยว่าภายในใจของคนคนนี้มีอะไรซ่อนอยู่ ผมก้าวขาที่เริ่มสั่นท้าวด้วยความประหม่าและหวั่นในใจลงไปนั่งแบบกล้าๆกลัวๆตรงหน้าเขา แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นสบสายตาคนตรงหน้าแบบตรงๆ


“เรียนคณะสถาปัตย์อยู่ปีสองแล้วใช่ไหม?”


“คะ ครับ” ผมตอบออกไป โดยไม่คิดแปลกใจอะไรที่เขาจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวผม เพราะระดับเขาคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กชนชั้นรากหญ้าคนธรรมดาอย่างผม


“พ่อแม่เสียไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน อาศัยอยู่กับยายและครอบครัวของลุงกับป้าที่มีบ้านหลังเล็กๆอยู่แถบชานเมือง ประวัติขาวสะอาดไม่มีคดี การเรียนจัดอยู่ระดับปานกลาง ไม่เก่งด้านกีฬาแต่ชอบเล่นฟุตบอล ไม่เล่นดนตรีแต่ชอบฟังเพลง ไม่มีความสามารถอะไรเป็นพิเศษนอกจากการวาดภาพ รวมๆถือว่าไม่มีอะไรโดดเด่น” เหมือนโดนตบหน้าแรงๆฉาดใหญ่ ผมเผลอกัดริมฝีปากจนเจ็บไปหมด มือสองข้างที่จับกันเริ่มบีบแน่นหลังจากอารมณ์ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาทำให้ผมทั้งหวาดกลัว ขุ่นเคือง มึนงง และสับสน ผมควรทำยังไงดี พี่เหนือ...บอกผมที ถ้าพี่อยู่กับผมตรงนี้...ผมควรจะทำยังไงดี


“.................................”


“รู้จักกับเหนือฟ้าได้ยังไง คนธรรมดาๆแบบเธอไม่น่าจะมารู้จักกับลูกชายฉันได้” ผมถามคำถามนี้กับตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนเหมือนกัน


“เรามีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยครับ พี่เหนือเข้าใจว่าผมกรีดรถเขา”


“แล้วตอนนี้เธอกับลูกชายฉันอยู่ในสถานะไหน?” เป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบออกไปแบบไหน ต่อหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ ผมควรจะตอบตามความเป็นจริงหรือควรเงียบไม่ตอบอะไรออกไปดี เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน ทางออกเดียวที่ผมจะต้องพบเจอคงไม่พ้นเรื่องที่ผมหวั่นใจและหวาดกลัวว่ามันจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า


“ผมขอเลือกที่จะไม่ตอบคำถามที่คุณรู้อยู่แล้วได้ไหมครับ คุณแค่บอกผมมาว่าผมต้องทำยังไง”


“หึ ไม่แปลกใจเลยที่เธอทำให้ลูกชายฉันหลงได้ คงเพราะความอวดดีแบบนี้สินะ แต่ก็ดีเหมือนกันที่เธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายกว่าที่คิด ฉันจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้นานๆ” เขาพูดพร้อมยกยิ้มเย้ยหยันดูถูกทำราวกับผมเป็นเด็กอมมือที่เขาอยากจะบีบให้ตายช้าๆอย่างทรมานหรืออยากตายแบบรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ทันได้เตรียมใจ


“คุณต้องการอะไรจากผมครับ?” คำถามที่ตัวผมเองรู้คำตอบดีอยู่แล้ว หากแต่ถ้ามันจะมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นหรือน้อยกว่านั้นผมก็ยังไม่ละความหวัง 


“เลิกกับลูกชายฉัน ออกไปจากชีวิตลูกชายฉันซะ” หัวสมองว่างเปล่า เหมือนทุกอย่างหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ ผมเหมือนถูกบีบคอให้หายใจไม่ออกรู้สึกถึงความวูบโหวงในช่องท้องกับหัวใจที่เต้นรัวแรง ความชื้นของเหงื่อที่ซึมมาตามขมับและมือทั้งสองข้างที่บีบกันแน่นกว่าเดิม ไม่มีหนึ่งเปอร์เซ็นที่ผมขอ ความหวังของผมว่าเรื่องทุกอย่างจะไม่เป็นไปในทางที่เลวร้ายแต่ก็ไม่เป็นผลในเมื่อคนตรงหน้าพูดออกมาด้วยแววตาจริงจัง


“ผะ ผมทำผิดอะไรอย่างนั้นหรือครับ” ภาวนาด้วยความหวังอันน้อยนิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แต่ซักวันผมก็ต้องตื่นจากฝันซักที โลกความจริงมันเจ็บปวดกว่าที่คิดนะครับ กับคนธรรมดาต่ำต้อยริจะไปคู่ควรกับเจ้าชายได้ยังไง คงมีแค่ในโลกของนิยายเท่านั้น…


“ฉันขอเป็นฝ่ายเลือกที่จะไม่ตอบคำถามที่เธอรู้คำตอบอยู่แล้วบ้างนะ เธอไม่ผิดหรอก...ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ลูกชายฉันไปเลือกคนอย่างเธอ ฉันรู้นิสัยลูกชายฉันดี การจะดึงมันออกมาจากเธอนั้นคงยากเรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยมากกว่า ฉันถึงต้องให้เธอเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง”


“แล้วตัวเลือกของผมละครับ..............มีทางไหนให้ผมเลือกได้บ้าง?”


“ไม่มี ทางเลือกเดียวของเธอคือเดินออกไปจากชีวิตเหนือฟ้าให้เร็วที่สุด เพราะฉันจะส่งมันไปเรียนต่อที่แคนนาดาในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า คิดว่าคนอย่างมันคงไม่ได้บอกอะไรให้เธอรู้ในเรื่องนี้ ตอนนี้ก็รับรู้ไว้ซะ” ขอบตาร้อนผ่าวกับดวงตาที่เริ่มมีน้ำใสคลออยู่เต็มหน่วย จมูกผมคงแดงจัดจากการทนอดกลั้นอารมณ์บางอย่างที่ปะทุขึ้นมา ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจทันทีที่คนตรงหน้าพูดจบประโยค ทุกอย่างรวดเร็วพังทลายลงอย่างรวดเร็วจนผมแทบหยุดหายใจลงตรงนี้ เพราะความที่ผมเป็นคนไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะความที่วางใจไม่คิดเผื่อใจไว้ว่าถ้าวันหนึ่งผมต้องกลับไปอยู่ตรงที่เดิมที่ผมเคยอยู่ ผมหลงลืมตัวตนเข้มแข็งของตัวเองในแบบเมื่อก่อนตอนที่ไม่มีอีกคนเคียงข้างเหมือนอย่างตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง ผมไร้หนทางออก...ไร้ทางเลือก

 
“แล้วถ้าผมไม่ทำ...”







                          มีต่ออีกน้าาาาาาาาาา :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0





“แล้วถ้าผมไม่ทำ...”


“ฉันจะทำให้เธออยู่ในรั้วมหาลัยอย่างสงบสุขไม่ได้อีก ครอบครัวเธอจะต้องได้รับความเดือนร้อนไปด้วย เธอก็รู้ว่าฉันสามารถทำได้ทุกอย่าง” น่ากลัว...รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวตอนที่เผลอสบสายตาแสนเย็นชานั่น คนตรงหน้าช่างราวกับปีศาจร้าย ผมรู้ดีว่าคนระดับเขาย่อมทำได้ทุกอย่างตามที่พูด


“ผม...”


“จากที่ฉันตรวจดูห้องนี้ก็ไม่มีข้าวของอะไรของเธอเพิ่มขึ้นมามากนัก นับว่าเธอไม่เหมือนกับคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตลูกชายฉันเพื่อหวังเพียงแค่เงิน คงไม่ยากเกินไปใช่ไหม...ถ้าฉันจะให้เวลาเธอครึ่งชั่วโมงในการเก็บเสื้อผ้าแล้วย้ายออกไปจากที่นี่ซะ กลับไปอยู่ในที่ของเธอได้แล้ว หมดเวลาเล่นสนุกของลูกชายฉันซักที อีกหน่อยเขาต้องมีหน้าที่รับผิดชอบธุรกิจมากมายที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อเขา ถ้าจะมาจมปลักอยู่กับคนอย่างเธอเขาก็จะไม่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และแน่นอนว่าคนเป็นพ่ออย่างฉันทนเห็นลูกชายของตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ได้...เธอคงเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม?”


“ครับ...ผมเข้าใจ...ผมจะออกไปจากชีวิตของลูกคุณ...ตอนนี้......และผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกขอให้คุณวางใจและอย่าทำอะไรครอบครัวของผม ผมมีแค่พวกเขา...ได้โปรด” ไม่รู้ว่าผมจะทนอดกลั้นน้ำตาไว้ได้นานแค่ไหน รู้แค่ตอนนี้ผมเหมือนร่างไร้วิญญาณที่เดินหายเข้าไปในห้องนอนที่กำลังจะ “เคย” เป็นของเรา คว้ากระเป๋าเป้ใบเก่าขาดๆที่พี่เหนืออยากจะโยนของผมทิ้งวันละหลายรอบขึ้นมาวางไว้ที่ปลายเตียง สองมือลูบหน้าที่ชื้นเหงื่อ สมองรับรู้ทุกสิ่งอย่างหากแต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะสั่งการให้เป็นอย่างใจ มือสองข้างสั่นท้าวพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเร็ว เจ็บไปหมด ปวดไปแล้วทั้งใจ สายตาพร่ามัวจากม่านน้ำตาเริ่มมองหาข้าวของที่เป็นของตัวเอง เสื้อผ้า หนังสือ อุปกรณ์เขียนแบบ ไล่มาจนสิ่งของเล็กน้อยๆที่พี่เหนือมันซื้อให้ ส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นผมจึงไม่คิดจะหยิบมาด้วยเพราะมันไม่ใช่ของผมมาตั้งแต่แรกเหมือนกับคนที่ให้ก็อาจจะไม่ใช่ของผมมาตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน ผมวางโทรศัพท์เครื่องแพงที่พี่เหนือซื้อให้ทั้งที่ผมบอกว่าไม่จำเป็น ภาพหน้าจอเป็นภาพที่ผมแอบถ่ายมันตอนนั่งเฝ้าผมต่อโมเดลจนหลับไป ทั้งที่ไล่ให้ไปนอนเท่าไหร่ก็ไม่ยอม ปากบอกว่าจะรอดูฟุตบอลแต่จริงๆผมรู้ว่ามันรอผม เกือบสิบนาทีที่ผมนั่งอยู่บนเตียงแบบนั้น ไฟหน้าจอโทรศัพท์ที่ผมวางทิ้งไว้บนหัวเตียงดับไปนานแล้ว ผมคว้ากระเป๋าเป้ใส่หลัง สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ รวบรวมความกล้าก่อนจะก้าวขาเดินออกมาจากประตูห้อง ยกมือไหว้และโค้งลาคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิมด้วยท่าทางสบายๆ สายตาเย็นชาคู่เดิมที่มองตรงมาบ่งบอกถึงความพึงพอใจ


“ลูกชายฉันไม่ชอบคนโกหก ฉันพูดแค่นี้หวังว่าเธอคงรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป” ผมชะงักไปหลังจากที่กำลังจะก้าวพ้นประตูห้องที่มีอีกคนยืนเปิดกว้างรอให้ผมเดินออกไปตามคำสั่งผู้เป็นนาย เรื่องราวต่างๆไหลเข้ามาในหัวราวกับฉายภาพสไลด์ที่เหมือนกับจะไม่มีวันหยุดถ้าตัวผมไม่ตายลง มือขวายกขึ้นกำแหวนที่พี่เหนือให้ไว้พร้อมกับสร้อยคล้องอยู่ที่คอ ขอแค่สิ่งนี้ แค่สิ่งนี้เท่านั้นที่ผมจะไม่มีวันคืนให้ “กูรู้ว่าถ้าให้มึงใส่ไว้ที่นิ้วมึงคงทำหาย” “แหวนวงนี้ก็เหมือนใจกู กูไม่มีวันรับคืนหวังว่ามึงจะรักษาไว้ให้ดี” ตอนนี้ผมไม่รู้เลย ไม่รู้เลยว่าผมจะเป็นคนรักษาหัวใจพี่...หรือเป็นคนที่ต้องผลักไสออกไปกันแน่...


...............................................


...............................


..............

...


“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปวะ?” ตอนนี้ฝนหยุดตกไปแล้ว เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงที่ผมนั่งบอกเล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ให้ไอ้ธามที่นั่งกอดผมอยู่ตลอดได้ฟัง จนผมต้องบอกมันไปว่าผมไม่เป็นอะไรแล้วหลังจากสติเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางมันถึงยอมปล่อยให้ผมได้อยู่กับตัวเองซักพัก รู้ตัวอีกทีก็มีขวดโค้ก2.5ลิตรจำนวนครึ่งโหลตั้งอยู่ตรงหน้าพร้อมกับน้ำแข็งถุงใหญ่สองถุง มันยื่นแก้วที่เทโค้กจนเต็มส่งให้ผม ผมรับมาถือไว้อย่างงงๆ ก่อนที่มันจะยกแก้วของมันมาชนกับแก้วในมือผมพร้อมกับ...


“แด่ความเจ็บช้ำของลูกสะใภ้ที่พ่อตาไม่รัก” จบประโยคก็กระดกโค้กเข้าปากตัวเองรวดเดียวจนหมด ก่อนจะหยิบเลย์ห่อสีเหลืองรสเค็มแบบอริจินอลเสมอต้นเสมอปลายปริมาณติดก้นถุงกรอกเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย


“มึงจะปล่อยให้กูเศร้าบ้างไม่ได้หรอวะ?! ในชีวิตมึงกะจะให้กูเฮฮาตลอดเวลาให้ได้เลยใช่ไหม?!” พูดไปแบบนั้นแต่ก็ยกโค้กซดโฮกให้ชื่นใจแล้วเรอออกมาชุดใหญ่ใส่ไม่ยั้งอย่างที่ชอบทำ


“เรอขนาดนั้นมึงอ้วกใส่หน้ากูเลยดีกว่าไอ้ปอนด์”


“ได้หรอวะ?”


“สัด! มึงหยุดเลย!” กำลังจะยื่นหน้าเข้าไปมันดันผลักหัวผมออกมาซะก่อน จากที่เครียดๆอยู่ก็เริ่มที่จะกลับมายิ้มได้บ้าง 


“มึงอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับไอ้นนท์ ไอ้ไนท์นะ สองคนนั้นยิ่งชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไว้กูจะหาโอกาสบอกพวกมันเอง”


“ปังๆๆๆๆๆๆๆ” พูดไม่ทันจบประโยคเสียงทุบประตูรัวเป็นจังหวะดังขึ้น และเมื่อไอ้ธามเดินไปเปิดเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครร่างควายๆของเพื่อนรักที่พูดยังไม่ถึงสองวินาทีเศษก็วิ่งถลาเข้ามาโอบกอดผมทำเหมือนผมกำลังจะตาย


“ปอนด์ลูกพ่อ โดนพ่อตาใจร้ายมันทำอะไรบ้างไหนบอกพ่อมาสิลูก ตาบวมเชียว ไม่เอาไม่ร้องนะคนดีของปะป๊า” พูดจบก็จูบกระหม่อมผมสามที อื้อหืออออออ กลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ฟิลหอมขึ้นตา


“ไอ้ธาม! มึงใช่ไหม” ผมหันไปคาดโทษไอ้ตัวดีที่เอาแต่ฉีกซองเลย์แล้วเลียเหมือนหมา ในครัวมีเกลือปรุงทิพย์อยู่ถุงใหญ่กูว่ามึงไปยกมาเทกรอกปากเลยดีกว่าเห็นแล้วทุเรศลูกตา


“มึงไม่ต้องไปโทษมันเลยไอ้ปอนด์ ถ้ามีปัญหาแล้วไม่พึ่งพาเพื่อน ไม่ช่วยกันหาทางแก้ไข มึงเก็บไว้คนเดียวแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นวะ มีแต่ทุกอย่างจะแย่ลงกว่าเดิม” ประโยคดีมีสาระต้องของหล่อโคตรพ่อเท่านั้นละครับ ที่มันพูดก็ถูกแต่ผมแค่ไม่อยากให้พวกมันต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องบ้าๆของผมไปด้วย


“แล้วนี่ไอ้พี่เหนือมันจะยอมหรอ มันหลงมึงจะตาย”


“กูไม่รู้ พ่อมันบอกว่าถ้ากูไม่เลิกกับมัน กูจะไม่มีที่เรียน แถมยายกับลุงกูก็จะโดนลูกหลงไปด้วย”


“นี่มันมาเฟียชัดๆ ตกลงไอ้พี่เหนือมันมีพ่อเป็นมาเฟียรึเปล่าวะ?!” กูก็คิดแบบมึงแหละไอ้นนท์ ยิ่งถ้ามึงได้เจอกับตัวนะ แค่เผลอไปสบตาก็ยังขนลุกไม่หาย


“ระหว่างนี้มึงจะหลบหน้าไอ้พี่เหนือมันได้ยังไง เรียนก็อยู่ที่เดียวกันคณะก็อยู่ติดกัน แล้วมึงก็น่าจะรู้ดีที่สุดว่าไอ้พี่เหนือของมึงมันนิสัยยังไง” นั่นแหละที่กูยังคิดไม่ตก กูไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน ถ้าแค่เดินไปบอกมันว่าเลิกกันเถอะ มีหรือที่มันจะยอมง่ายๆ ผมรู้จักมันดีว่ามันร้ายกาจแค่ไหน ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอย่างที่โบราณเขาว่าไว้จริงๆ


“แค่กูลองคิดตอนที่มันกลับห้องแล้วรู้ว่ามึงหอบเสื้อผ้าหนีมันมา กูก็สยองแล้วไอ้ปอนด์” ไอ้ธามพูดไปทำท่าขนลุกขนพองไปด้วย ส่วนผมในหัวมีเรื่องให้คิดเยอะแยะเต็มไปหมดจนผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ในชีวิตไม่เคยเจอเรื่องอะไรให้หนักใจเท่านี้มาก่อน ยกเว้นตอนที่เจอกับพี่เหนือครั้งแรก นั่นผมเรียกว่ามหาวิบากกรรมเลยก็ว่าได้


“มึงพูดเดี๋ยวแม่งก็โผล่มาตอนนี้หรอก มันยิ่ง...”


“ปัง! ตู๊มมมมม! เปรี้ยงงงงงงงงง! ไอ้ปอนด์!”


“เหี้ย!!!!” พร้อมใจแจกสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำกันโดยไม่ได้นัดหมาย หลังจากที่ประตูหอพักซอมซ่อที่ด้านหน้ามีสติ๊กเกอร์ตราสโมสรฟุตบอลดังแห่งอังกฤษสองสโมสรเด่นหราติดอยู่พร้อมกับหมายเลขห้อง555ที่มักโดนจดบัญชีหนังหมาไว้บ่อยๆว่าชอบทำเสียงดัง เป็นแหล่งมั่วสุม และสารพัดความเหี้ยต่างๆนาๆที่ถูกพูดถึงอยู่เป็นประจำ ตกตะลึงตาค้างไปตามๆกันเมื่อเห็นประตูไม้บานใหญ่หักขาดสองท่อนปลิวว่อนผ่านไปกระทบผนังห้องด้านหลังต่อหน้าต่อตา ไอ้ธามที่กำลังยกโค้กกรอกปากอยู่ถึงกับเผลออ้าปากค้างจนโค้กไหลกลับออกมาจากปากหกเรี่ยราดเลอะเทอะหน้าขาตัวเองเต็มไปหมด แต่ดูท่ามันจะช็อคไปจนไม่รับรู้อะไรแล้ว


“พะ พี่เหนือ” ผมพูดเสียงเบา ยังตกใจไม่หายที่เห็นพวกพี่มันพังประตูห้องเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ให้ตายเถอะวันนี้มันวันซวยอะไรของผมวะ ถึงได้มีแต่เรื่องเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้


“โทษทีว่ะ กูกะแรงพลาดไปหน่อย” อ้าว มึงเองหรอไอ้พี่แทนที่ทำประตูห้องกูหักครึ่ง เคาะก็ได้ไหม แล้วจะรีบอะไรกันขนาดนั้น กูดูจากเศษซากประตูขอยืมตีนมึงไปตอกเสาเข็มยังไหว นี่ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเหนือตีนบรรลัยลงมือเองคงไม่มีแม้เศษซากประตูไว้ให้ดูต่างหน้า


 “เดี๋ยวมึงกับกูมีเรื่องต้องเคลียร์กัน” ไอ้ไนท์พูดพร้อมกับชี้หน้าไอ้พี่แทนที่ใช้มือเกาท้ายทอยแบบเก้อๆ แล้วประตูห้องกูมีสภาพแบบนี้ใครจะรับผิดชอบวะ?


“ไปกับกู มึงไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ถึงบ้านไอ้แทนแล้วมึงอยากรู้อะไรค่อยถาม” ไม่ปล่อยให้ผมได้เอ่ยอะไรออกไปมันก็ตรงเข้ามาคว้าข้อมือผมก่อนจะจับลากให้ออกเดิน อีกมือมันก็คว้ากระเป๋าเป้ที่ผมยังไม่ทันได้รื้อข้าวของออกมาเก็บขึ้นมาพาดบ่าแล้วลากผมออกไป ตามด้วยไอ้พี่แทน ไอ้ไนท์ ไอ้นนท์ที่เดินตามออกมาแบบงงๆ ส่วนไอ้ธามยังคงช็อคไม่หายแต่ผมเห็นไอ้พี่มินเดินเข้าไปดูอาการมันแล้วจึงไม่ห่วงอะไรมาก อย่างน้อยวันนี้มันก็คงนอนที่หอไม่ได้ แต่จะได้ไปนอนที่ไหนนั้น คงต้องปล่อยให้พี่มินจัดการไปก่อน ดูท่าพี่มินก็ดูจะเต็มใจเอามากๆซะด้วย


“พี่เหนือ นี่มันอะไรกันวะพี่ ผมงงไปหมดแล้วนะ” มันเปิดประตูBMWสีขาวมุกรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งได้มาเมื่อสองวันก่อนแล้วบังคับให้ผมลงไปนั่งที่ข้างคนขับพร้อมปิดประตู ผมเห็นมันหันไปพูดอะไรกับไอ้พี่แทนสองสามประโยคด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะอ้อมมาที่นั่งด้านคนขับแล้วขับรถออกจากหอพักผมอย่างรวดเร็ว ผมรู้แค่ว่ามันกำลังพาผมไปบ้านไอ้พี่แทน จากนั้นตลอดทั้งการเดินทางมันก็ไม่ปริปากบอกหรือพูดอะไรกับผมอีกเลย ส่วนผมก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรมันตอนนี้ เพราะทั้งผมทั้งมันต่างก็มีเรื่องให้ต้องขบคิดไม่ต่างกัน เราทั้งคู่ต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศกับเส้นทางถนนสายหลักที่ทอดยาวไปพร้อมกับไฟสองข้างทาง รู้ตัวอีกทีผมก็มาหยุดอยู่ประตูรั้วบ้านขนาดใหญ่ที่มีชายชุดดำกว่ายี่สิบคนออกมาต้อนรับ มันจอดรถไว้ก่อนจะโยนกุญแจรถส่งให้หัวหน้าชายชุดดำคนหนึ่งรับไป แล้วเดินมากระชากแขนผมที่ยังยืนงงตะลึงในความใหญ่โตของบ้านไม่สิเรียกว่าคฤหาสน์จะถูกกว่า คิดว่าบ้านไอ้พี่เหนือมันหลังใหญ่มากแล้วนะแต่บ้านไอ้พี่แทนก็ไม่ต่างกันเลย ชาติที่แล้วพวกมึงทำบุญด้วยการกู้ชาติกันหรอครับชาตินี้ถึงได้เกิดมาบนกองเงินกองทองกันแบบนี้ มันพาผมเดินเข้ามาในบ้านเสมือนตัวเองเป็นเจ้าของ ก่อนจะส่งกระเป๋าเสื้อผ้าของผมให้แม่บ้านที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วรับไป จากนั้นไม่นานเจ้าของบ้านตัวจริง รวมถึงไอ้ไนท์ ไอ้นนท์ก็เดินตามเข้ามาสมทบ


“พี่เหนือนี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันวะ! ผมโคตรจะตามไม่ทันเลย?” ผมถามมันขึ้นมาทันทีหลังจากที่ไอ้พี่แทนพาพวกเราเข้ามาในห้องรับแขก ผมเห็นไอ้ไนท์หันไปสั่งให้แม่บ้านยกน้ำกับของว่างมาให้พวกเรา ทำเหมือนกับว่าตัวมันเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง ยิ่งเห็นมันคุ้นเคยกับทุกอย่างในบ้านเป็นอย่างดีจากการที่เดินไปห้องครัว ห้องน้ำ หรือทั่วทั้งบ้านได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องเอ่ยถามเจ้าของบ้านที่นั่งหัวโด่อยู่ข้างไอ้พี่เหนือตอนนี้เลยด้วยซ้ำนั่นยิ่งทำให้ผมแปลกใจ ส่วนไอ้พี่แทนที่นอกจากจะไม่ว่าอะไรมันแล้วผมยังเห็นมันตะโกนสั่งให้ไอ้ไนท์ไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นออกมาให้ด้วย อีกคนตอบกลับมาแค่ สัด! แต่สุดท้ายมันก็เดินกลับมาพร้อมกระป๋องเบียร์ในมือ


“กูไม่คิดว่าเขาจะกลับมาวันนี้ ถ้ารู้กูคงให้มึงรีบออกมาจากที่นั่น” พี่เหนือพูดขึ้นทำลายความเงียบ มีคำถามมากมายในหัวที่ผมอยากถามออกไป


“พี่รู้ว่าพ่อพี่จะมา?”


“พ่ออยากให้มันไปเรียนต่อ และวิธีเดียวที่จะทำให้มันยอมคือมาเล่นงานมึงที่เป็นจุดอ่อนเดียวในชีวิตมันไงไอ้ปอนด์”


“เดี๋ยวนะพี่แทน ผม...ผมไม่เข้าใจว่ะพี่”


“ผั๊วะ! ทำไมลูกกูโง่แบบนี้วะ โง่ไม่ดูเวล่ำเวลาโง่ไม่ถูกสถานการณ์เลยนะมึงอ่ะ” ไอ้นนท์ไม่พูดเปล่า แต่มันแถมฝ่ามือลงบนหัวผมไปหนึ่งทีเน้นๆ


“เพราะมึงเป็นแบบนี้ กูถึงปล่อยให้ห่างตัวไม่ได้ กูไม่มีวันยอมให้มึงหายไปจากชีวิตกูหรอกนะไอ้ปอนด์” แววตาติดเย็นชาที่ผมคุ้นเคยดูหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง...พี่เหนือก็ยังคงเป็นพี่เหนือ...ที่สามารถเข้ามาฉุดผมให้เข้าไปอยู่ในโลกของมันได้ตลอดเวลา...รู้ตัวอีกทีผมก็เข้าไปวิ่งวนอยู่ในโลกทั้งใบของอีกคนจนหาทางออกไม่เจอไปซะแล้ว


“พ่อพี่ขู่ว่าจะทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน ผมกลัวว่ะพี่” ผมบอกมันไปตามตรง ผมกลัว เพราะผมไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรในวันข้างหน้า ลำพังแค่ตัวผม ผมไม่ห่วงอะไร แต่กับครอบครัวของผม ผมมีแค่พวกเขา ทั้งชีวิตผมมีแค่พวกเขาที่ยังเหลืออยู่...ผมไม่อยากให้ชีวิตนี้ต้องสูญเสียคนสำคัญไปอีก


“กูถึงต้องตามใครบางคนกลับมา”


“ไอ้เหนือ นี่มึงอย่าบอกนะว่า!...” ไอ้พี่แทนทำสีหน้าตกใจเหมือนกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตายร้ายแรงที่สุดในชีวิต จะว่าไปผมเห็นมันกับพี่เหนือสบตากันพร้อมสายตาหนักใจจนอดสงสัยไม่ได้ว่า “ใครบางคน” ที่ว่าทำไมถึงได้มีอิทธิพลกับมันสองคนขนาดนั้น ในโลกนี้ผมคิดว่าจะไม่มีสิ่งใดที่ทำให้คนพวกนี้กลัวได้ แต่ผมคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ก็คราวนี้


“จากนี้ให้มึงพักอยู่กับกูที่บ้านไอ้แทนไปก่อน ช่วงนี้อย่าอยู่ห่างกู ห้ามไปไกลจากสายตากู ห้ามดื้อ ห้ามซน ห้ามโง่ ห้ามสงสัย ห้ามถาม...ห้าม...................................ห้ามมึงหนีกูไปอีก” วูบหนึ่งผมเห็นสายตาของมันสั่นไหว มันยื่นมือออกมาสัมผัสแก้มผมแผ่วเบาไล้นิ้วชี้ขึ้นสัมผัสดวงตาบวมช้ำที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักของผมราวกลับปลอบโยน ผมปล่อยให้มันได้ทำตามใจ เอนใบหน้าซบกับฝ่ามือใหญ่...แม้เป็นสัมผัสที่เย็นชืด...แต่กลับเป็นสิ่งที่ผมเสพติดและโหยหา


“พี่เหนือ...” จะซึ้งอยู่แล้วครับ ถ้าผมไม่ฉุกใจคิดได้ในเรื่องที่มันสั่งให้ผมห้ามโง่ด้วย


“ไปๆแยกย้ายกันไปนอนเอาแรง พรุ่งนี้ค่อยมาคิดกันว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนมึงไอ้ไนท์ มึงมีเรื่องต้องคุยกับกูยาว” ไอ้พี่แทนสั่งให้พวกเราแยกย้าย ไอ้นนท์เข้ามายีหัวผมแรงๆจนหน้าสะบัดพร้อมบอกให้ผมอย่าคิดมากก่อนมันจะขอตัวกลับบ้านไปแล้วบอกจะมาใหม่ในตอนเช้า ไอ้พี่เหนือจับมือผมให้เดินขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้านฝั่งซีกซ้าย ระหว่างนั้นต่อมเสือกผมก็ทำงานไปด้วย แม้ตอนนี้สมองผมจะทำงานหนักหลังจากพบเจอเรื่องราวมากมายให้มึนงงสับสนคงมีแค่ต่อมเสือกของผมเท่านั้นที่ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ตลอดเวลา


“มึงแกล้งกูใช่ไหม?” เหมือนเขารู้กันอยู่สองคน ผมนี่หูผึ่งหางกระดิกเลยทีเดียว


“แกล้งเชี่ยไร กูกำลังคุยโทรศัพท์กับไอ้เหนืออยู่ หันไปอีกทีมึงก็ขับรถออกไปหาไอ้ปอนด์แล้ว กูห้ามมึงทันซะที่ไหน”


“สัด! แล้วทำไมมึงไม่โทรมาบอกกู ไลน์ก็มีไหมไอ้ห่า กูจะได้ไม่รีบร้อนออกไปแบบนั้นถ้ารู้ว่าเดี๋ยวพี่เหนือจะไปพามันมาที่นี่” เอาละเว้ยเฮ้ยแค่มันโทรหากันกูก็อึ้งแล้ว นี่มันไลน์หากันกูนี่คิดภาพไม่ออกเลยว่ามันจะส่งสติ๊กเกอร์แบบไหนคุยกัน อาจจะเป็นหมีบราวน์กับน้องกระต่ายโคนี่ ขอกูวิ่งไปอ้วกก่อน


“มึงดูโทรศัพท์มึงหรือยัง กูโทรไปจนไม่รู้จะโทรยังไงแล้ว ไม่กวนตีนกูซักวันมึงจะขาดใจตายไหมไอ้ไนท์”


“หุบปากไปเลยไอ้แทน มึงยังมีอีกคดีติดตัวนะ ไปพังหอเพื่อนกูแล้วยังมาด่ากูว่ากวนตีนอีก”


“เจ้าคิดเจ้าแค้นนะมึง แล้ววันนี้จะนอนนี่หรือกลับบ้าน เสื้อผ้ามึงกูให้แม่บ้านซักไว้หมดแล้ว”


“กลับ! ป๊ากูเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเข้ามาตอนสายๆ”


“โอเคครับ ให้กูไปส่งไหมดึกแล้วอันตราย”


“ห่วงตัวมึงเองเถอะ”


“ทำไมมึงถึงดื้อแบบนี้วะ ไม่น่ารักเลย”


“เชี่ย! งั้นก็ไม่ต้องมารัก ไปไกลๆตีนกูเลย”


“ไม่ดื้อกับกูบ้างได้ไหมไอ้หล่อ” พูดเสร็จพี่มันก็ผลักหัวไอ้ไนท์ไปหนึ่งทีแต่ไม่ได้แรงมาก ก่อนจะล็อคคอทำท่าจะหอมแก้ม ทำไมผมถึงเห็นออร่าสีชมพูอมม่วงฟุ้งกระจายออกมารอบตัวพวกมันก็ไม่รู้ ทั้งที่มันกำลังกัดกันแถมตอนนี้ก็เริ่มใช้กำลังจะต่อยกันอยู่รอมร่อแล้ว ในสายตากูทำไมพวกมึงถึงศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้เขาเรียกว่าอะไรนะมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้วอะไรซักอย่างนั่นอ่ะ นี่มึงเป็นคู่กัดกันจริงหรอวะ? หรือในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จากคู่กัดมันจะกลายเป็นอย่างอื่นไปแล้ว? กูจะต้องหาโอกาสเค้นคอถามมึงให้ได้เลยไอ้ไนท์


“มึงจะเสือกเรื่องคนอื่นอีกนานไหม?” โอเครู้เรื่อง เดินเข้าห้องอย่างว่าง่ายทันทีทันใด จากนั้นมันก็สั่งให้ผมเข้าไปอาบน้ำ ผมอาบเสร็จก็มานอนรอมันที่เตียง ซักพักมันก็เข้าไปอาบบ้าง เกือบครึ่งชั่วโมงมันก็เดินออกมา ใส่ชุดนอนเหมือนกับของผม...


“ให้ผมช่วยเช็ดนะ”


“...............” ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ผมค่อยๆขยับเข้าไปหามันที่นั่งอยู่กลางเตียง แย่งผ้าขนหนูในมือของมันมาแล้วค่อยๆเช็ดไปตามเส้นผมสีดำที่เริ่มยาวขึ้นกว่าเดิมมาก ใบหน้ายามเมื่อเส้นผมเปียกน้ำช่างงดงามราวกับภาพวาด คำว่าสมบูรณ์แบบคงเหมาะสมกับมันที่สุดแล้ว...แค่คิดว่าทั้งเส้นผม...ใบหน้า...เรียวปาก...คิ้วเข้ม...ดวงตา...สันจมูก...ร่างกาย....รวมถึงหัวใจของคนคนนี้เป็นของผม...เลือดในกายก็พลันสูบฉีดขึ้นบนใบหน้าอย่างห้ามไม่ได้ ผมขยับมือสางผมที่เริ่มหมาดเบาๆ กลิ่นแชมพูแบบเดียวกับผมหอมขึ้นแตะจมูก...รู้ตัวอีกทีผมก็ก้มลงไปสูดความหอมฟอดใหญ่ๆเข้าเต็มปอด


“พี่เหนือ...พี่...ผมรักพี่ว่ะ...รู้ตัวอีกทีผมก็รักพี่ไปแล้ว...แม่งโคตรรักพี่เลย” รู้แค่ผมอยากพูด...พอคิดว่าจะพูด ปากดันเอ่ยออกมาทันที ไม่รู้จักสรรหาถ้อยคำหวานๆเหมือนอย่างในละคร ผมรู้แค่...ถ้าวันนี้ผมไม่พูดคำนี้ออกไป...วันข้างหน้าผมอาจไม่มีโอกาสได้พูดอีก


“มึงมันโคตรไม่โรแมนติก” มันจับมือผมไว้ทั้งสองข้างพร้อมหันมาจ้องหน้าผมแบบไม่พอใจ ยิ่งผมเห็นหน้ามันหงุดหงิดแล้วผมก็เผลอขำออกมา


“อื้อออออ....” มันประกบจูบผมอย่างรวดเร็ว...สอดแทรกลิ้นเข้ามาควานหาความหวานคล้ายกับกระหาย...เราทั้งคู่เสพติด...ต้องการ...ปรารถนาที่จะสัมผัสกันและกัน ผมถูกผลักให้นอนราบลงกับเตียง...ที่มีอีกคนตามมาทาบทับ...ปล่อยไปตามอารมณ์...จนเหมือนกับจะขาดอากาศหายใจ...ริมฝีปากผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง...ผมยกหัวขึ้นไปจูบปากมันเบาๆเป็นการเย้าแหย่...ดวงตาแสนเย็นชาคู่เดิมจ้องมองผม...รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อีกคนส่งผ่านมา


“ผมเป็นแบบนี้พี่ยังจะรักอยู่ไหม...ผมมันโง่ ซื่อบื้อ แถมไม่โรแมนติก...พี่ยัง...”


“ รัก ” ไม่ปล่อยให้ผมได้พูดจบประโยคมันก็พูดแทรกผมขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไล้ริมฝีปากลงบนเปลือกตาทั้งสองข้าง


“...................”


“มึงร้องไห้” กดจูบลงแผ่วเบา


“...................”


“กูปกป้องมึงไม่ได้”


“ก็ตอนนั้นพี่ไม่อยู่”


“มึงทิ้งกู”


“ผมไม่มีทางเลือก” ผมยกมือขึ้นลูบแก้มมันเบาๆทั้งสองข้าง


“ห้ามทิ้งกู”


“...........”


“อย่าบอกว่าจะยอมแพ้...อย่าเหนื่อยกับความรักของเราแม้วันข้างหน้ามึงต้องเจอกับปัญหามากมาย...อย่าปล่อยมือ...อย่าเอ่ยคำลา...อย่าพูดว่าจะไป...อย่าหายไปจากกู...และอย่าให้กูหายไปจากใจมึง” พูดจบมันก็โถมตัวลงมากอดผมไว้แน่น ร่างกายส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกมากมายให้กัน ไม่มีคำพูดใดต่อจากนี้...มีเพียงสัมผัส...ลมหายใจ...กับใจสองดวงที่เต้นไปพร้อมกัน...มือสองข้างที่สอดกระชับยามประสานร่างกาย...ส่งผ่านแรงปรารถนาทุกห้วงอารมณ์ หยาดเหงื่อ...จังหวะร่างกายที่ตอบรับกันด้วยความโหยหา...เสพติดกันจนยากจะถอดตัว...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ตกหลุมรักกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนี้...ผมคงไม่มีวันถอนตัวได้อีก


.............................................


...........................


.............


...


               08.00น. สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย


“จะกลับไปบ้านใหญ่เลยไหมครับคุณน้ำ”


“แล้วไอ้สามแสบมันไปไหน ถึงไม่มารับฉัน” ผมดำยาวตรง...ริมฝีปากสีแดงสด...มือเรียวที่เล็บฉาบด้วยสีทาเล็บสีแดงเลือดนกยกขึ้นถอดแว่นตาแบรนด์ดังออกเผยให้เห็นดวงตากลมโตทรงเสน่ห์ชวนให้หลงไหล...ใบหน้างดงาม...พร้อมกับหุ่นและการแต่งตัวเน้นทรวดทรงให้เด่นชัดเรียกสายตาใครต่อใครได้เป็นอย่างดี...หากแต่เพราะมีชายชุดดำนับสิบคนรายล้อมอยู่รอบกาย...นั่นก็ทำให้ผู้คนรอบข้างไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้หรือสบสายตาโดยตรง


“คุณเหนือรอคุณน้ำอยู่ที่บ้านคุณแทนครับ”


“ไม่เจอกันหลายปี หึ มีเรื่องให้จัดการเต็มไปหมด...คุณพ่อสุดที่รักกับไอ้น้องตัวดียังสร้างเรื่องให้ปวดหัวอีกตามเคย คราวนี้ฉันคงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวร” ยกยิ้มราวกับเป็นเรื่องสนุก หากแต่คำพูดที่ออกมาจากปากของ “น้ำฟ้า” หรือ ธารธารา นวพงษ์พันกูลแล้ว...ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามนั้น


การกลับมาคราวนี้...เธอคงต้องจัดการอะไรหลายๆอย่างหลังจากที่ปล่อยปะละเลยมานาน


และแน่นอนสำหรับเธอ “น้องชาย” เปรียบเสมือนหัวใจอีกดวง


หากจะมีอะไรมาทำให้หัวใจของเธอเป็นแผล


เธอไม่มีวันยอมเด็ดขาด...แม้อีกคนจะได้ชื่อว่าเป็น “พ่อ” ก็ตาม...



................................................................
















ก่อนอื่นเลยขอสวัสดีปีใหม่ ปี2015กับนักอ่านทุกคนนะคะ ขอให้เป็นปีที่ดี ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้กับนิยายเรื่องนี้ตลอดปีที่ผ่านมา ปีนี้ทั้งอเลนและI-AMก็ขอฝากตัวด้วยอีกปี ช่วยรัก สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ทั้งนิยาย นักเขียน และคนอัพนิยายกันไปเรื่อยๆนะคะ มีความสุข ร่ำรวยๆกันตลอดปีตลอดไปค่ะ :mc4: :L2: :3123: :L1: :call:

ปล.จะพยายามให้I-AMแต่งเรื่องนี้ให้จบภายในปีนี้แน่นนอนค่ะ ช่วยเม้นเป็นกำลังให้กันและกันด้วยนะ ทุกคอมเม้นมีความหมายเสมอค่ะ
ปล.2 หากเจอคำผิดต้องขอโทษด้วยนะคะ อาจมีเล็ดลอดสายตาไปบ้าง I-AMกำลังแต่งตอนพิเศษ จะเป็นคู่ไหนนั้นต้องลุ้นกันนะ ช่วงนี้ทั้งอเลนและI-AMต่างก็ยุ่งหากมาอัพช้าไปก็อย่าว่ากันเลยนะคะ จะพยายามให้I-AMแต่งให้เร็วที่สุดค่ะ :katai4: สำหรับคนที่รอมาตลอดก็ขอบคุณมากนะคะ อย่างที่บอกและย้ำเสมอว่าทุกคอมเม้นมีความหมายและเป็นกำลังใจอย่างดี I-AMมันเข้ามาส่องทุกคอมเม้นนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกคนเสมอ :mew3: :heaven
ปล.3 อเลนขอให้ดอกไม้กับนักอ่านทุกคนเหมือนเดิมค่ะ :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4: เจอกันตอนหน้านะ เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว o13 :bye2:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ของขวัญวันปีใหม่  :mew1:  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
จับมือแล้วผ่านไปให้ได้นะเหนือปอนด์สู้ๆๆๆๆ


HNY jraaaa

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ตะ ตาฝาด เหนือปอนด์มาแล้ว
อ่านช่วงแรกสงสารปอนด์เลย ดีนะมีแฟนเป็นพี่เหนือ อิอิ รอดูพี่สาวจะช่วยเหนือปอนด์ยังไง
สนุก ๆ สวัสดีปีใหม่คร่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2015 08:32:47 โดย kinjikung »

ออฟไลน์ tawanchai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ในที่สุดก็มาาาาาา o22

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม... :o12: ดีใจอ่ะกลับมาแล้ว...

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
HNY 2015 นะคะ
มาต่อให้หายคถ.แล้วววว
ขอบคุณมากน้าาา
มาต่อบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  ปี 2015 นี้หวังงว่าเหนือปอนด์จะมาบ่อยๆ   :mew1:

อ่านช่วงแรกๆแล้วตกใจเลย นึกว่าพี่เหนือเป็นอะไร 

พี่น้ำมาแล้ว มาจัดการคุณพ่อให้ที    :katai5:

ออฟไลน์ pattapong200320

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากกกกกก
รอพี่น้ำมาจัดการคุณพ่อ
^^

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
นึกว่าตาตัวเองฟาดไปซะอีกเห็นเรื่องนี้อัพ

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
เป็นของขวัญปีใหม่ที่คาดไม่ถึง5555 ตอนนี้แรกๆเศร้าอยู่นะ หลังๆต้องกลั้นขำ ทั้งที่ยังเศร้าๆ(เอ๊ะยังไง) ปอนด์มันยังคงโง่ๆสกิลรับมุขดีเลย์หลายวินาทีเหมือนเดิม5555 ยังคงติดตามเรื่องนี้อยู่ตลอดน้า เป็นกำลังใจให้ทั้งคนเขียนและคนโพส :L1:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
กรื้ดดดดด คนเขียนเอามาม่ามาฝากวันปีใหม่55555
พี่เหนือโครตน่าอิจฉาเลยชีวิต มีแบคดีเว้ย
ขอบคุณคนเขียนที่มาแต่งต่อ กระซิกๆ
แม้ว่าเราต้องกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นใหม่เพื่อเพิ่มอรรถรสที่ดี อิอิ
รอตอนต่อไปค่ะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด