[NueaFah Part]
“ฉุดผมขึ้นรถ ไม่คิดจะพูดอะไรกับผมหน่อยหรอครับพี่เหนือ” รำคาญ...ยิ่งเห็นมันมาอยู่ใกล้ๆ ยิ่งน่ารำคาญ น่ารำคาญจนแทบทนไม่ไหว...ไม่เหมือน...ไม่เหมือนกันซักนิด
“...........................”
“ผมมีพ่อมีแม่นะครับ จู่ๆก็มาฉุดคนอื่นเขาขึ้นรถแล้วพาไปไหนไม่รู้แบบนี้ ผมแจ้งข้อหาลักพาตัวได้นะ” ปากที่พูดไม่หยุด...ตาโตๆที่คอยมองมา...ทำขู่เหมือนเสือทั้งที่ตัวสั่นเหมือนลูกแมวแรกเกิด...เห็นแล้วขัดลูกตา...ไม่น่ารักเหมือนไอ้หมาโง่บางตัวซักนิดเดียว...ไม่เหมือนกันซักนิด...หมาโง่ๆที่พูดไม่หยุด...ดื้อด้าน...ชอบเถียง...หัวรั้น...ไม่รู้ทำไม...แต่ไม่รู้ทำไม...เพียงแค่เห็นมันยิ้ม...ต้องเผลอหลุดยิ้มตามทุกที
“..........................”
“เฮ้! นี่ผมนั่งมากับคนใบ้รึไง เมื่อกี้ละทั้งดุด่า ทั้งตะคอกใส่ โดนพี่ปอนด์ไล่แค่นี้ถึงกับเศร้า แบร่! คนขี้ขลาด” ทั้งที่เวลานี้คนที่นั่งอยู่ข้างๆต้องเป็นมัน...ทั้งที่เวลานี้ต้องมีเรื่องให้เถียงกันไปตลอดทาง...ต้องได้บ่นตอนมันทำไอศกรีมเลอะปาก...ด่ามันว่าซกมก...แทนที่จะสำนึกกลับยิ้มอย่างภูมิใจ...กินหกเลอะเทอะมากกว่าเดิมจนทนไม่ไหว...เอามือไปเช็ดปากให้มันแทบทุกครั้ง...แล้วจะได้ยินมันแอบพูดเบาๆ
“แฟนใครวะแม่งน่ารัก” ตามมา
“หึ...”
“อะ อะไร เป็นบ้าหรือไง อยู่ดีๆก็ยิ้มขึ้นมา...ยิ้มเป็นกับเขาด้วยแฮะ” ท้ายประโยคเสียงเบาเหมือนคุยกับตัวเอง...แต่ก็ยังได้ยิน...ลูกแมวยังไงก็เป็นแค่ลูกแมว...แถมยังเป็นตัวน่ารำคาญที่สุดเท่าที่เคยเจอ ไม่อยากมองหน้ามัน แต่ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองมาไม่ละสายตา
“เงียบซักนาทีจะตายไหม?”
“เหอะ! ปากหรอนั่น ไม่รู้ว่าทำไมพี่ปอนด์ถึงได้ชอบคนแบบนี้ได้” รู้สึกหงุดหงิดทันทีที่ชื่อไอ้ปอนด์หลุดออกมาจากปากเด็กบ้านี่
“เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดด!”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยย! จะเบรกก็บอกกันก่อนสิไอ้บ้านี่!” ตั้งใจเยียบเบรกแล้วหักเลี้ยวจอดข้างทางกะทันหัน...ตั้งใจเอาให้หัวมันกระแทกจะได้หุบปากซักที แต่ดูท่าจะได้ผลตรงข้าม
“จะเงียบได้หรือยัง”
“ไม่! มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง ใหญ่มาจากไหน ก็แค่คนนิสัยเลวๆ ทำไมฉันต้องฟัง” ทนไม่ไหวจนต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ให้มันหยุดพล่ามซักที...จ้องตามันให้มันกลัว...ทั้งที่ตัวสั่นไปหมด...น้ำตาเริ่มคลอเบ้า...แต่ก็ยังกัดปากทำใจแข็งจ้องตาตอบกลับมา...ดื้อด้าน
“........................” กลายเป็นเกมส์จ้องตา...เด็กหัวรั้นอยากเอาชนะ...ถือซะว่าเล่นกับมันค่าเวลาให้เด็กบ้านี่หุบปากบ้าง
“จะ จ้องอะไรนักหนา ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง” ปากเก่งทั้งที่รู้ว่ายังไงก็แพ้...หน้าแดง...หูแดง...เขินเป็นกับเขาด้วยรึไง
“หึ อย่างมึงเนี่ยนะหล่อ” ผลักหัวมันไปทีข้อหาไม่เจียม
“ฮึ่ย! กล้าดียังไงมาเล่นหัว ฉันให้แค่พ่อกับแม่และพี่เสือเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้” ไม่ตบกบาลแยกก็ดีเท่าไหร่แล้ว...ออมแรงให้มากแล้วนะ...เป็นทุกทีคงไม่ยั้ง
“เมื่อไหร่”
“ห๊ะ? อะไร?”
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกตามไอ้ปอนด์ รู้ไหมมันน่ารำคาญ”
“อยากให้ผมเลิกตามพี่ปอนด์” แขนเรียวเล็กยกพาดโอบรอบลำคอทั้งสองข้างของผม มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกชนกัน
“คิดจะทำอะไร?” ถามออกไปทั้งที่จมูกมันเริ่มคลอเคลียอยู่ที่แก้ม
“ก็อยากให้ผมเลิกตามพี่ปอนด์ไม่ใช่หรอ...งั้นพี่ก็มาแทนที่พี่ปอนด์ให้ผมสิ” ปากเก่ง...ทำใจกล้า...ดูก็รู้ว่าอ่อนหัด
“มึงยั่วกู?”
“แล้วพี่ชอบไหมละครับ” มันกดปากลงที่แก้ม...ถูกหอม
“กูคิดว่ากำลังถูกเด็กสามขวบลวนลามซะอีก”
“ไอ้พี่เหนือ!”
“เอามือออกไปด้วยกูร้อน”
“มึงมัน...!”
“ปากไม่นุ่มอย่าเสือกมาหอมแก้มกูอีก เหมือนเอากระดาษทรายมาถู” หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด ก่อนจะเปิดกระจกด้านของตัวเองแล้วพ่นควันออกมา...ผิดสัญญากับไอ้ปอนด์อีกจนได้...เพราะมึงคนเดียว...ทำให้กูโมโหจนต้องหาบุหรี่มาระงับอารมณ์
“แต่ผมว่าพี่ปอนด์คงอยากเห็นภาพนี้นะครับ” มันชูรูปที่อยู่ในจอมือถือให้ดู...เข้าใจเลือกมุมให้เห็นด้านที่เหมือนผมเป็นฝ่ายกระทำ...ทั้งตอนที่จมูกชนกัน...ตอนที่ปากมันสัมผัสแก้มผม...ทำสีหน้าเหมือนถูกบังคับ...ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อน...เด็กนี่ร้ายกว่าที่คิด
“คิดจะเบล็คเมล์กู?” อัดบุหรี่ในมือเข้าปอด...หวังให้นิโคตินจะเข้าไปดับเพลิงโทสะที่เผาผลาญจิตใจไม่ให้แสดงความเกรี้ยวกราดออกมา
“โอ๊ะ! ผมดันเผลอกดส่งไลน์ไปให้พี่ปอนด์ซะแล้วสิครับ จะเป็นยังไงนะถ้าพี่ปอนด์เห็นรูปนี้พร้อมข้อความที่ผมเติมแต่งลงไปนิดหน่อย
“พี่เหนือทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง” คิดว่าพี่ปอนด์จะเชื่อใคร? ผม หรือ พี่ ” เด็กมันร้าย...แต่ร้ายยังไงก็ยังมีจุดอ่อน...ไร้เดียงสาเกินไปที่จะสู้
“ชีตาร์!” มาถึงได้ซักทีนะ...ให้เสียเวลารอตั้งนาน...ช้ากว่านี้อีกนิด...คงได้กระทืบเด็กเวรนี่แน่
“พะ พี่เสือมาได้ยังไง”
“พี่ต้องถามต้าร์มากกว่าว่ามาอยู่กับไอ้เหนือได้ยังไง?!” คนพี่ถือวิสาสะเปิดประตูแล้วฉุดแขนน้องมันให้ออกไปนอกรถ
“มึงเล่นตุกติก ไม่แฟร์ เอาพี่เสือมาเกี่ยวกับเกมส์นี้ได้ยังไง”
“กูแค่ให้มันมารับมึง ยังไม่ได้บอกเรื่องที่มึงทำมาทั้งหมดหรอกนะ แต่นี่เป็นการเตือน....อย่าเสือกมายุ่งเรื่องของกูกับไอ้ปอนด์อีก” ไม่ต้องรอให้ไอ้ปอนด์บอกก็ตั้งใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตั้งใจไว้อยู่แล้ว...ปิดเกมส์อ่อนหัดแสนน่าเบื่อของไอ้เด็กนี่ซักที คิดว่าจะมีอะไรให้เล่นสนุกค่าเวลามากกว่านี้ แต่มันทั้งน่าเบื่อน่ารำคาญกว่าที่คาดไว้มาก...รอเวลา อดทนทำตามสัญญาว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องติวหนังสือได้ถึงสองอาทิตย์กว่า ยอมรอจนได้โอกาส...ทันทีที่ไอ้ปอนด์บอกให้ตามเด็กนี่มาก็แอบส่งข้อความไปบอกไอ้เสือไว้แล้ว ไม่ต้องบอกรายละเอียดอะไรคนอย่างไอ้เสือมันมีวิธีจัดการน้องชายมันเอง...แค่น้องมันมาเกี่ยวกับผม...มันก็เดาได้แล้วว่าน้องมันกำลังทำอะไรอยู่...ผมบอกแล้วว่าทุกคนมีจุดอ่อน...แล้วผมก็ชอบเอาจุดอ่อนนั้นมาใช้เพื่อคุมเกมส์
“กูจะคุยกับน้องกูเอง”
“ไอ้พี่เหนือกูไม่ยอมแพ้มึงหรอกนะ เกมส์นี้มันยังไม่จบ ตัวหมากถูกส่งไปแล้วรอแค่เวลาให้กูรุกฆาตเท่านั้น!"
“หึ...มึงรู้จักไอ้ปอนด์น้อยไป” พูดทิ้งท้ายให้เด็กนั่นทำหน้าสงสัย...มึงรู้จักไอ้ปอนด์น้อยไปจริงๆ...เพราะถ้ามึงรู้จักไอ้ปอนด์ดีพอ...มึงจะไม่เดินหมากแบบนี้
“.....................” ไอ้เสือลากแขนน้องมันให้เดินไปขึ้นรถ เด็กเวรหันมาจ้องผมอย่างอาฆาต...มองยังไงก็เหมือนลูกแมว...เป็นแค่ลูกแมวแท้ๆ ผมยกยิ้มอย่างผู้ชนะส่งให้มันไปที...ลับหลังไอ้ปอนด์และพี่ชายตัวเองกลับร้ายกาจขนาดนี้...ทั้งที่ต่อหน้าก็ทำตัวสมเป็นลูกแมวอยู่หรอก...ครั้งหน้าถ้ายังข่วนไม่เลิก...คงต้องหาเจ้าของซักคนให้มารับไปเลี้ยง
[PON Part]ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมต้องนั่งรอ หลังจากเกิดเรื่องผมก็กลับมารอพี่เหนือที่คอนโด พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ ผมเพิ่งรู้ว่าห้องที่เคยอยู่แทบจะทุกวันมันกว้างกว่าที่เห็น เงียบกว่าที่เป็น และเวลาผ่านไปช้ากว่าทุกๆวัน เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วที่ผมเหลือบมองนาฬิกาข้างผนัง ห้าทุ่มกว่า...ทำไมยังไม่กลับมาอีก? หาอะไรทำเพื่อให้สมองไม่คิดไปเรื่อยเปื่อย เปิดทีวีนอนดูการ์ตูนช่องโปรด ภาพในหัวพาลให้นึกถึงตอนไอ้พี่เหนือมันด่าว่าปัญญาอ่อนแต่ก็ยอมให้ผมนั่งดูจนจบทั้งที่ตัวเองอยากดูช่องอื่น ตัดใจปิดทีวีเดินไปหยิบหนังสือนิยายมาอ่าน ไม่ทันไรภาพที่ไอ้พี่เหนือชอบยืมตักของผมเป็นหมอนตอนที่มันอ่านหนังสือก่อนสอบก็แวบเข้ามาในหัว ในเมื่อทีวีกับหนังสือไม่สามารถดึงความคิดของผมกลับมาได้ ผมคงต้องหันไปพึ่งของอร่อยๆในตู้เย็น หยิบแซนวิสทูน่าขึ้นมากัดคำโตๆได้สองคำก็เริ่มอิ่ม ฝืนกินต่อไปไม่ไหว ในใจก็คิดไปว่าอีกคนมันจะหาอะไรทานรึยัง ไปทานข้าวที่ไหน...หรือตอนนี้กำลังอยู่กับใคร...แค่คิดใจมันก็เจ็บไปหมด...หวังว่าสายน้ำเย็นๆจากฝักบัวจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนี้ได้ ผมเปิดน้ำเย็นๆใส่หัวตัวเอง ทุกทีเวลานี้ต้องโดนอีกคนบ่นไล่ให้มาอาบน้ำ แต่วันนี้ไม่มีเสียงบ่น ไม่มีเสียงขู่บังคับ...ไม่มีแล้วพี่เหนือที่อาบน้ำด้วยกัน ผมใส่ชุดนอนที่อีกคนซื้อให้ นานๆครั้งจะตามใจมันเพราะปกติผมใส่เสื้อกล้ามกางเกงบอลก็นอนได้แล้ว กดเปิดทีวีอีกครั้ง ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาที่เคยคิดว่าแคบเวลานั่งเบียดกันสองคน...แต่ตอนนี้มันกลับกว้างเกินไปสำหรับผม กดไล่ดูช่องต่างๆโดยไม่ลืมที่จะกดข้ามช่องที่เกี่ยวกับรถยนต์ไป...เพราะอีกคนชอบ...แค่เห็นก็ยิ่งคิดถึง ไล่ไปจนถึงช่องเพลง ตอนนี้กำลังเปิดเพลง ดีอย่างไร ร้องโดย ที เจ็ตเซ็ตเตอร์ ซึ่งทำเอาผมปวดใจหนักกว่าเดิม แต่ก็ยอมวางรีโมททีวี คว้าหมอนอิงมากอดก่อนจะทิ้งตัวนอนลงอย่างไร้เรี่ยวแรง...ปากก็ร้องคลอตามเสียงเพลงที่ดังมาจากทีวี
กดเบอร์ไปจะคุยกับเธอ
อยากเคลียร์เรื่องราวที่เราโกรธกัน
ต้องง้อกันเป็นประจำ ก็เธอไม่ฟังฉันบ้างเลย
อยากบอกกันให้เธอเข้าใจ
ไม่อยากให้เธอทำตัวเฉยเมย
รู้ไหมมันทรมาน กับการไม่มีเธออย่างนี้
มองดูนาฬิกา อยากโทรหาเธอคุยกันอย่างเคย
จะถามคำที่เก็บไว้
โกรธกันแล้วในใจของเธอมีความสุขไหม
โกรธกับฉันจะทำให้เธอดีใจใช่ไหม
ถ้าไม่ยอมเปิดใจเข้าหากัน ก็บอกให้ฉันรู้ที
โกรธกันแล้วมันดีอย่างไร
อยากให้เรากลับไปเหมือนเดิม
กลับมารักกันด้วยความเข้าใจ
รู้ไหมมันนานเท่าไหร่ ที่ไม่มีใครข้างๆ กัน
ไม่มีคนที่คอยห่วงใย ไม่ได้พบใครที่เคยผูกพัน
รู้ไหมฉันจะไม่ทน กับการไม่มีเธอต่อไป
[แนะนำให้เปิดเพลงนี้ฟังไปด้วยตอนอ่านจะเข้าถึงอารมณ์ของปอนด์ได้มากขึ้นนะคะ ลองทำดู ]“................................” และผมก็ไม่ทนจริงๆ เรียกว่าทนไม่ไหวมากกว่า...ยิ่งฟังก็ยิ่งคิดมาก...จนต้องปิดทีวีอีกรอบ...เพราะเพลงมันเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้เกินไป
“ผมตามใจพี่แล้วนะ วันนี้ยอมใส่แล้วไอ้ชุดนอนลายหมีพูร์ถือไหน้ำผึ้งเนี่ย แล้วทำไมไม่กลับมาซักที...กลับมาหาผมได้แล้วไอ้วายร้าย” ผมนอนขดตัวกอดหมอนอิงรอมันอยู่บนโซฟาซักพัก ก่อนจะมีเสียงเตือนจากมือถือเครื่องแพงที่มันซื้อให้แต่ผมไม่ค่อยได้ใช้ มันยุ่งยาก ใช้ไม่เป็น จะมีก็แต่เอาไว้เล่นเกมส์ และที่สำคัญคือนอกจากเพื่อนในกลุ่มมันก็ไม่อนุญาตให้ผมเมมเบอร์ใครไว้อีก แล้วจะซื้อให้กูเพื่อ!?
“ใครส่งอะไรมาวะ?” กว่าจะสไลด์ปลดล็อคหน้าจอได้ก็งมอยู่นาน โปรแกรมแชทยอดฮิตตอนนี้มีข้อความแจ้งเตือน เป็นน้องชีตาร์ไม่ใช่ไอ้คิมหรือไอ้ธามอย่างที่คิด ผมกดเข้าไปเพื่ออ่าน...ทันทีที่เห็นข้อความและรูปภาพสองรูปผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก...มือไม้สั่นไปหมด...หัวใจเต้นรัวเร็ว...ขอบตาร้อนผ่าว
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้” รูปแรกเป็นรูปที่พี่เหนือกับน้องจมูกชนกัน รูปที่สองเป็นรูปที่เหมือนน้องถูกบังคับให้หอมแก้มพี่เหนือ ที่แน่ใจว่าน้องไม่ยินยอมเพราะข้อความที่น้องส่งมาด้วย
“ฮึก พี่เหนือ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้” ทนไม่ไหว...ผมทนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ตอนนี้ทั้งน้ำตา น้ำมูก น้ำลาย ผมปล่อยมันให้ไหลไปตามห้วงอารมณ์อย่างเต็มที่ จนเมื่อรู้สึกถึงการมาของคนที่ผมนั่งรอมากว่าเจ็ดชั่วโมง ทันทีที่เสียงปิดล็อคประตูดังขึ้น ผมก็วิ่งโผเข้าหาร่างของไอ้พี่เหนือทันที
“ปอนด์” มันดูตกใจที่จู่ๆผมก็วิ่งเข้าไปกอดและซุกหน้าลงกับแผงอกของมันแน่น กอดมันไว้เหมือนไม่ได้เจอหน้ากันแรมปี...กอดมันไว้เหมือนกับมันจะหายไป ไอ้พี่เหนือลูบหัว ลูบหลังผมเบาๆ ผมปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆ
“พี่เหนือทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น เพราะผมใช่ไหม ฮึก เป็นเพราะผมดื้อ พี่ถึง ฮืออออออออออ” ผมปล่อยโฮไปอย่างไม่อาย ปากก็พล่ามความอัดอั้นที่อยู่ในใจไม่หยุดหย่อน
“มึงเห็นรูปนั่นแล้ว? มึงฟังกูนะปอนด์”
“พี่ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากฟัง! พี่นั่นแหละที่ต้องฟังผม!” สองมือเช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวกๆ ถ้าไม่ได้พูดตอนนี้ผมต้องสติแตกจนเป็นบ้าแน่ๆ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ หัวใจของผมมันทนไม่ไหวอีกแล้ว!
“ปอนด์มึงฟังกู...”
“ไม่! พี่นั่นแหละฟังผม! พี่ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลย! มันมากไป! มันมากเกินไปจริงๆ”
“ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะ ปอนด์...”
“พี่ทำไมถึงได้โง่แบบนี้! ผมขอโทษพี่เหนือ ผมผิดเองพี่ ผมขอโทษว่ะพี่”
“มึงฟังกู......................หะ?! มึงว่าไงนะ?” ทำหน้งงงทำไม โธ่ พี่เหนือคนดีของผม ผมกอดมันแน่นเลยครับตอนนี้ มันที่ยังทำหน้าสงสัยไม่หายแต่ก็กอดผมตอบพร้อมกับยกตัวผมขึ้นในท่าเดิมแล้วเดินมาตรงโซฟาเพื่อวางผมลง ตอนนี้ผมไม่ร้องไห้แล้ว แต่กลายเป็นลิงแสมเกาะต้นมะพร้าวไม่ยอมปล่อย
“ผมขอโทษนะที่บังคับให้พี่ไปขอโทษน้องมัน แถมพี่ยังทุ่มเทเพื่อผม ยอมลงทุนทำในสิ่งที่ไม่ใช่นิสัยตัวเองแบบนั้นอีก”
“............................” อ้าวงง มันทำหน้างงหนักกว่าเดิม กูพูดไม่ชัดเองหรือมึงโง่วะครับ
“ผมตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยว่ะพี่ พี่ยอมตามไปหาน้องมันผมก็ว่าพี่โคตรใจแล้วนะ นี่ถึงขั้นทำตัวอ่อนโยนเอ็นดูน้องมัน มีจมงจมูกชนกัน หอมแก้มน้องน้อยเยี่ยงพระเอกซีรี่ย์เกาหลี ถ้าผมเป็นชเวปอนด์โดพี่ก็คงเป็นเหนือคิมทันสินะ คนเหี้ยไรใจหล่อสัดๆ ใจพี่แม่งหล่อมากอ่ะ!” พูดเสร็จก็กระโจนกอดมันแน่นๆอีกรอบ ฮึ่ยยยย! หมั่นเขี้ยว แฟนผมมุ้งมิ้งน่ารักเอ็นดูเด็ก นี่ถ้าตอนนี้ผมแดกมันได้ผมแดกไปแล้ว หยุดทำตัวน่ารักแบบนี้ซักทีได้ไหม...หัวใจผมจะทนไม่ไหวแล้ว
“ปอนด์มึงไหวนะ?”
“ผมต้องถามพี่มากกว่า ผมรู้ว่าพี่ฝืนที่ทำตัวอ่อนโยนแบบนั้น ขอบใจนะพี่ที่ทำเพื่อผม ตอนเห็นรูปมือผมสั่นไปหมด จู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา เห็นพี่อ่อนโยนแบบนั้นผมทนไม่ได้จริงๆ...แฟนผมแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ” พูดเองก็เขินเอง กอดมันแน่นกว่าเดิม...มันกอดตอบผมเหมือนทุกครั้ง ผมเอาหน้าซุกซอกรักแร้มัน ตอนนี้มันทำอะไรผมก็ปลื้มครับ นี่ขนาดผมฝังหน้าเข้าไปในซอกรักแร้มันแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอดผมยังว่ามันหอมเยี่ยงกลิ่นดอกซากุระยามลมพัดโชยมากลางทุ่งกว้าง
“มึงไม่โกรธกูที่กูปล่อยให้เด็กนั่นหอมแก้ม?”
“ไม่โกรธ โกรธทำไม เห็นพี่อ่อนโยนกับเด็กได้ผมก็ดีใจ แต่ผมรู้สึกผิดมากกว่าที่ไล่พี่ไปขอโทษน้อง ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ผมจะไม่ดื้อกับพี่แล้ว พี่ยังโกรธผมอยู่ไหม?” ตอนนี้ผมวางหัวไว้ที่อกมัน สองมือโอบรอบเอวมันไว้หลวมๆ
“โกรธ...โกรธมาก...แต่เพราะมึงทำตัวน่ารัก แถมยังอาบน้ำตัวหอมใส่ชุดนอนที่กูซื้อให้แล้วยังมานั่งรอกู กูยอมลดโทษให้กึ่งหนึ่ง” อะไรวะ ทำขนาดนี้ยังลดโทษให้แค่ครึ่งเดียว ศาลหล่อช่างใจร้าย
“พี่แม่งใจร้ายกับผมอีกแล้ว...ถ้าหอมแก้มล่ะ?”
“โทษเหลือสถานเบา”
“ฟอดดดดดดดดดดดดดดด” พูดแล้วก็จัดให้ทันทีครับ มันเอียงแก้มทั้งซ้ายทั้งขวาสลับไปมาให้ปากผมประทับจูบ ตอนนี้เลยกลายเป็นกระสุนหอมแก้มแบบยิงรัวๆหลายนัดซ้อน อีกภาพก็คงไม่ต่างจากไก่จิกข้าวเปลือก พอก่อนไหม? ก่อนคอมึงจะเคล็ดไม่ก็ปากกูคงบวมก่อน
“ถ้าจูบโทษจะเหลือแค่จ่ายค่าปรับ” มันพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“จัดให้ดั่งใจครับเจ้านาย” พูดจบก็โน้มคอมันลงมาบดจูบ...ไม่รีบร้อน...ค่อยๆซึมซับความรู้สึกของกันและกัน...อ่อนหวาน...นุ่มนวล...เหมือนกับผมกำลังไล่ชิมของหวาน...ค่อยๆละเลียดชิมทีละนิด...ปล่อยตามใจ...ให้ความรู้สึกนำพา
“วันนี้มึงทำตัวน่ารัก” มันพูดก่อนจะกดจมูกลงข้างแก้มผมเหมือนตบรางวัล...พี่นั่นแหละที่ทำตัวน่ารัก...ยังไม่รู้ตัวอีก
“พี่เป็นโทมิเหนือเจอร์ของผม~” ไอ้ธามไม่น่าเอาซีรีย์เกาหลีมาป้อนสมองผมในช่วงหลังๆมานี่เลย กลายเป็นว่าติดงอมแงมไปโดยปริยาย และคนที่นั่งดูเป็นเพื่อนผมจะมีใครถ้าไม่ใช่ไอ้พี่เหนือ ดูไปก็ด่าไปว่าผมบ้า เพ้อเจ้อ ไร้สติ แต่พอถึงตอนที่พระเอกจะทิ้งนางเอกไป มันดันโวยวายด่าพระเอกซะยกใหญ่ นี่ถ้ามันทะลุจอไปกระทืบพระเอกได้มันคงทำไปแล้ว สรุปจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ดูตอนจบเลยครับ เพราะไอ้พี่เหนือมันอาละวาดหักแผ่นซีรี่ย์ทิ้งหมดซะก่อนก็เป็นอันคว่ำโต๊ะอดดูกันไป มึงอินกว่ากูอีกสัด!
“ปอนด์มึงรู้ไหมว่ามึงไม่เหมือนใครที่กูเจอมาจริงๆ กูชอบความมองโลกในแง่ดีของมึง มึงโง่แบบนี้ต่อไปน่ะดีแล้ว” เหมือนจะเป็นคำชม? กูก็ยืดอกรับสิครับแบบนี้ อย่า...บอกว่าอย่ายิ้มแล้วชมกู...กูเขิน...กูดีใจ...เดี๋ยวกูลอย
“อย่าชมดิวะพี่ เขินว่ะ”
“หึ บอกแล้วว่ามึงรู้จักไอ้ปอนด์น้อยไป”
“พี่ว่าไงนะ?” เห็นมันบ่นงึมงำอะไรกับตัวเอง...แล้วรอยยิ้มร้ายๆนั่นอะไร กลับสู่โหมดเดิมอีกแล้วหรอวะ
“มึงยังเหลือจ่ายค่าปรับนะอย่าลืม” ตอนนี้มือมันเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วครับ เลื้อยเป็นงูเลยนะมึง แล้วปากจะไซร้หาอะไรครับแถวๆกกหูกูเนี่ย ดีได้ไม่ทันไร ความหื่นมาอีกแล้ว
“ค่าปรับให้จ่ายเป็นอะไรวะพี่ ผมไม่มีตังนะ เดี๋ยวต้องจ่ายค่าอุปกรณ์ทำโปรเจคตอนปีสามอีก” ยิ้ม...ยิ้มแบบนี้กูรู้เลย...แล้วจะแลบลิ้นทำไม...หล่ออย่างเดียวไม่พอ...มึงขอความดาร์ค ความแบด ความร้ายมาพ่วงด้วยทำไม...รู้ไหมว่าแค่จ้องตาก็ใจสั่น...อย่าร้ายกับกูนักได้ไหมวะ?!
“จ่ายเป็นตัวมึง”
“ถ้าค่าปรับเป็นตัวผมงั้นผมก็จ่ายค่าปรับให้พี่ไปแล้วเกือบแทบทุกวันดิวะ ขี้โกง! ชอบเอาเปรียบ!”
“เปล่า กูมันขี้เอา แล้วก็ไม่ได้เอาเปรียบ...แต่เอามึง” เชี่ยยยยยยยย! ชัดเจนได้อีก
“แล้วถ้าผมไม่จ่าย?!”
“มึงก็ต้องติดคุก...ติดอยู่บนเตียงกับกูทั้งคืน” เหมือนกูมีทางเลือก? แต่ฟังๆดูแล้วกฎหมายมาตราไหนของมึงวะเลือกข้อไหนกูก็เสียเปรียบ แล้วก็ไม่ได้ต่างกันเลยกูจะจ่ายค่าปรับหรือไม่จ่ายเนี่ย!
“ผมจ่ายก็ได้ แต่ผมขอเป็นคนคุมเกมส์นะ”
“หึ...ยังไม่เลิกคิดจะกดกูอีกหรอ?”
“ไม่! ให้ตายก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ วันนี้ผมจะทำให้ได้คอยดู!”
“ยอมครับ...แล้วทำให้ได้อย่างที่พูดนะ” พูดจบมันก็ช้อนตัวผมขึ้นแล้วพาผมไปที่เตียง...กูต้องเป็นฝ่ายอุ้มไม่ใช่หรอวะ แค่เริ่มแรกมันก็ไม่ใช่แล้ว กูว่ามันไม่ใช่แล้วนะ แล้วทำไมเสื้อผ้ากูถึงเริ่มถูกมึงถอดหายไปทีละชิ้นสองชิ้น มันไม่ใช่แล้ว กูว่ามันไม่ใช่แล้วนะ อะไรคือมึงคร่อมร่างกู....กูว่ามันไม่ช่ายยยยยยยยยยยย!!!!!
......................................................
..........................
......
..
“อือ...อะ...อ๊า..อึก..อ่ะ” ฝันเป็นจริง...ในที่สุดก็ได้กดไอ้พี่เหนือสมใจ...และผมเป็นคนคุมเกมส์เองทั้งหมด
“อึก...ปอนด์...อย่าใจร้อน...ค่อยๆเดี๋ยวเจ็บ” เห็นไหมมีกลัวเจ็บ...มีบอกให้เบาๆ ได้ครับเดี๋ยวปอนด์จะทำค่อยๆนะพี่เหนือคนดี
“อือ...อ๊ะ...มะ...ไม่เข้า...พี่เหนือ...อึก...” ผมพยายามแล้ว...ทิ้งน้ำหนักลงไป...แต่ทำยังไงก็ไม่เข้า...จนไอ้พี่เหนือต้องโน้มคอผมที่ยังทาบทับร่างของมันลงไปบดจูบแรงๆ...มืออีกข้างก็สะกิดที่หน้าอกผมให้สะดุ้งเป็นระยะ...ก่อนจะผละไปจับเอวของผมไว้...จากนั้นมันก็
“อ๊า...อ๊ะ...เบาๆ...ผมเจ็บ” ทุบไหล่มันแรงๆไปที...เห็นมันยกยิ้มร้าย...แกล้งผมอีกแล้ว...ถึงได้กดตัวผมให้กลืนกินร่างของมันแบบนี้...ใช่ครับ...ย้ำว่า...กดตัวผมให้กลืนกินร่างของมัน...บอกแล้วว่าผม..........................จะเป็นคนคุมเกมส์เอง...แล้วมันก็จัดให้สมใจครับ...รวดเดียวมิดคันเกียร์...ต่อไปก็หน้าที่ผมต้องใส่เกียร์เดินหน้าแล้วสินะ
“อ๊า...อื้ม...อ๊ะ...พี่...ผมว่าแบบนี้...อ๊ะ...มันไม่ถูกนะ...อ๊า” พูดไปแต่ก็ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น...กดน้ำหนักรับร่างของมันให้เข้ามาได้ลึกเต็มที่...ลึกไป...ลึกจนขาแทบไม่มีเรี่ยวแรง...อีกคนก็คอยแต่จะแกล้งกระดกตัวขึ้นกระแทกฝังร่างมันเข้ากับตัวผม...น่าโมโห...เอามือซ้ายวางทาบที่หน้าท้อง...ส่วนมือขวายันไปด้านหลังเพื่อใช้เป็นแรงส่งตัวยามยกขยับเคลื่อนกายขึ้นลง...รับร่างของอีกคนที่นอนยิ้มร้ายจ้องมองมาไม่วางตา...วันนี้มันก็กลับมาร้ายใส่ผมอีกตามเคย
“ฮัก...อ๊ะ...อ๊ะ...อื้อ...” ผมได้คุมเกมส์สมใจ...จะช้า...เร็ว...เบา...หรือแรงแค่ไหนก็ได้ดั่งใจ...ที่สำคัญผมได้กดไอ้พี่เหนือแล้วครับ...ได้ “กด” ลงไปแบบเน้นๆเลย...แค่คิดก็เจ็บใจ มึงหลอกกูอีกแล้วไอ้พี่เหนือ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“อึก...ปอนด์ครับ...ข้างในนะ” เวลาแบบนี้ละพูดเพราะ...ทำไมผมจะไม่รู้ความหมายที่มันขอ
“อ๊ะ...เคยห้ามพี่ได้ด้วยหรอวะ! อ๊ะ...แต่อาบน้ำให้ด้วยละกัน...อ๊ะ อือ” คุมเกมส์ต่อไปเรื่อยๆตามจังหวะที่ตัวเองบังคับ...เห็นสีหน้าตอนมันทรมานเวลาที่ผมขยับกายเชื่องช้าแล้วก็สะใจดีเหมือนกัน...ชอบแกล้งดีนัก...โดนคืนซะบ้าง
“อ๊ะ...อึก...ผมลืมถาม...ค่าปรับ อ๊ะ...ต้องจ่ายกี่รอบวะพี่?” เห็นมันยิ้มแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ตามใจ”
“อ๊า...อึก..ตะ ตามใจผมหรอ?” มึงปราณีกูแล้วใช่ไหม...งั้นกูจ่ายแค่รอบเดียวพอ...ไม่อยากกดมึงแล้ว...คุมเกมส์อะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น!!!!!
“ตามใจกูต่างหาก” เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!
“สัด!” เผลอสบถคำหยาบใส่มันไป...จากนั้นผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเพราะมันลงโทษผมด้วยการสวนกายขึ้นมากระแทกร่างผมรัวเร็ว...รู้อีกทีผมก็ครวญครางไม่หยุด...ตามใจมันก็...ปาไปเกือบฟ้าสางโน่นละครับผมถึงได้นอน ถ้ารู้ว่าจ่ายค่าปรับจะทำผมหมดแรงไปขนาดนี้ผมคงไม่ยอม...รู้แบบนี้เลือกติดคุกผมคงไม่ต้องออกแรงเองไปแล้ว...เพราะท่านผู้คุมคงเป็นคนจัดการให้เองทุกอย่าง
แต่ผมว่า...ผมไม่ควรทำ “ผิดพลาด” ให้ต้องโทษแบบนี้อีกจะเป็นการดีที่สุด
บอกแล้ว...ว่าผมน่ะคุมเกมส์?
บอกแล้ว...ว่าผมจะกดมันให้ดู?
เห็นไหมว่าผมทำได้...และได้ทำ!!!!!
แต่ทำไมผมถึงไม่ดีใจซกนิดเดียว....ไอ้เชี่ยพี่เหนือ....หยุดร้ายกับกูซักวันมึงจะตายไหม?!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สำหรับเรื่องราวในวันนี้มันทำให้ผมได้รู้...ว่าผมจะไม่มีวันปล่อยให้มันหันหลังเดินจากผมไปอีก...ผมจะไม่ยอมยืนมองแผ่นหลังของมันที่ค่อยๆห่างออกไป...ผมสัญญากับตัวเองไว้แบบนั้น
ไปต่อกันด้วยตอนพิเศษเลยนะคะ โบนัสเอาใจนักอ่านที่หายไปนานมากกกกกกกกกกก