ตอนที่ 14 “หึง” ลมทะเลเรื่อยอ่อนกระทบอยู่กับผิวกาย เพื่อช่วยพัดผ่านความร้อนจากเปลวแดดให้พอบรรเทา ฟ้าสีครามสด สดจนไม่มีแม้แต่เมฆสักก้อน บ่งบอกว่าวันนี้อากาศดีกว่าทุกวัน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวการที่จะเห็นฟ้าโปร่งๆแบบนี้ค่อนข้างยากทีเดียว เพราะอากาศดีและแดดกำลังเหมาะ ทำให้มีคนมานอนอาบแดดกันอยู่หนาตา โดยเฉพาะชาวต่างชาติผิวขาวตาน้ำข้าวทั้งหลายที่อยากเปลี่ยนสีผิวขาวอมชมพูของตัวเองให้เป็นสีแทนแสนทรงเสน่ห์ สาวๆชาวยุโรปหลายคนกำลังนอนปิ้งตัวเองอยู่บนชายหาดขาวสะอาด บ้างก็ใส่สายเดี่ยว กางเกงว่ายน้ำ บ้างก็ใส่เป็นบิกินี่ หรือที่น่ามองกว่านั้นคงเป็นแบบที่นอนเปลือยหลังแล้วใส่เพียงกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วเพียงตัวเดียว เป็นเป้าสายตาให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้แต่จ้องกันตาเป็นมัน นอกจากสาวๆสะโอดสะองเหล่านั้นแล้วก็ยังมีชายหนุ่มที่เป็นคนรักบ้าง เพื่อนบ้าง ญาติบ้างของสาวเจ้าเหล่านั้นนอนคุมอยู่ข้างๆด้วย ไม่เพียงแค่วัยหนุ่มสาว กระทั่งวัยเกษียร ก็มีทั้งนอนอาบแดด ทั้งเคินเคียงคู่อยู่ที่ชายหาดหลายคู่ ดูแล้วยิ่งคึกคัก จนน่าลงไปเล่นน้ำที่ชายหาดด้วย ดูท่าทางจะสนุกใช่ย่อย
"เหม่ออะไรอยู่ครับ วา? ไม่สั่งอาหารเหรอ? ไหนบ่นว่าหิวไงครับ..."
"......อ่า...อืม...มองบิกินี่เพลินน่ะ"
เพราะมัวแต่นั่งเหม่อมองผู้คนที่ไม่ได้เจอมาร่วมเดือน จึงโดนน้องชายฝาแฝดบ่นเอาเล็กน้อย วันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ถูกพามาอยู่ด้วยที่เกาะส่วนตัวของแฝดน้อง ที่เขาได้ออกมาเจอผู้เจอคน ทำให้วาโยเผลอมองนู่นนี่จนลืมสั่งอาหาร จนเตโชต้องคอยเรียกเตือนสติอยู่หลายหน
"ตื่นคนรึไงครับวา เงียบเชียว"
"บ้าเหรอ...ก็ถูกขังอยู่บนเกาะร้างไม่เจอใครเลยมาตั้งเดือนนึงนี่ มัน...ก็มีบ้างแหละนา..."
วาโยได้แต่เถียงอุบอิบ เพราะอย่างน้อยที่น้องชายฝาแฝดพูดมามันก็คือเรื่องจริง ถึงจะจี้ใจดำไปหน่อยก็เถอะ
"เต...ขอโทษนะ ที่ขังวาอยู่แต่ในบ้านตั้งเป็นเดือน เอ่อแล้วตอนนี้วารู้สึกยังไงบ้างครับ ดีขึ้นมั้ย เกาะนี้สวยมากเลยนะ คนก็เลยเยอะ"
"อืม...ก็ดี สวยดี"
วาโยยิ้มหวานให้เตโช น้องชายฝาแฝดที่คอยแต่จะใช้สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่มองเขาไม่ขาด จนแทบจะทนนั่งจ้องตาไม่ไหว เพราะเขาได้แต่อายหน้าแดงเลยทีเดียว
ตั้งแต่วันที่เขาสัญญาว่าจะรักเตโชในฐานะคนรัก ก็ล่วงมาได้กว่าสามสัปดาห์แล้ว แรกๆเตโชก็เหมือนว่าจะไม่ค่อยเชื่อ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่ามันคงจะลำบากที่จะให้วางใจในความรักเขาในทันที
‘เตรู้...ว่าที่วายอมรับรักเต...เพราะวาต้องการอิสระ...วาต้องการไปจากเต'
‘แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เตก็มีความสุขแล้ว...ขอบคุณนะครับ คนดีของเต'
คำตัดพ้อที่แฝดน้องเคยแอบกระซิบแผ่วตรงหลังคอเขา ตอนที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ด้วยเตโชคิดว่าเขาหลับลึกไปแล้ว แต่ที่จริงเขายังรู้สึกตัวอยู่ จำได้ว่าน้ำเสียงนั้นเศร้าสร้อย และเจ็บปวด จนเขาอยากจะเอื้อมมือไปกอดปลอบคนช่างน้อยใจนั้นไว้ในอ้อมอกเหลือเกิน แต่ก็เกรงว่าจะเป็นการให้ความหวังที่มากจนเกินไป เพราะถึงแม้เขาจะรู้สึกรักน้องชายฝาแฝดเกินกว่าคำว่าพี่น้องร่วมสายเลือดไปแล้ว แต่เขาเองก็ยังไม่ได้มั่นใจว่าจะเป็นความรักที่เทียบได้กับของแฝดน้อง ดังนั้นวาโยจึงทำได้แค่ปล่อยให้ผ่านไป เก็บความรู้สึกรวดร้าวที่แฝดน้องส่งมาไว้ในใจเงียบๆ คนเดียว
‘รอก่อนนะเต...ขอเวลาวาอีกนิดนะ...อีกนิดเดียว...'
ตั้งแต่ได้ยืนยันคำว่ารัก เตโชก็เลิกล่ามพี่ชาย ด้วยโซ่เส้นยาวนั้นอีก ชายหนุ่มเลือกที่จะลองวางใจพี่ชายของตัวเองดูสักครั้ง โดยการมอบอิสระทางร่างกายเล็กๆให้ ถึงอย่างไรเกาะที่ร้างไร้ผู้คนนั้นก็ยากจะหลบหนี และจนผ่านมาถึงตอนนี้ พี่ชายของเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบลี้โบยบินออกจากอ้อมอกเขา เตโชจึงเลือกที่จะวางใจในวาโยอีกขั้น โดยการพานั่งเรือออกมาที่เกาะข้างๆเพื่อเป็นการเที่ยวพักผ่อนด้วย เกาะทึ่เตโชพามานั้นมีขนาดใหญ่กว่าเกาะส่วนตัวของชายหนุ่มประมาณ 3 เท่าตัว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาไม่ขาดสาย ขนาดที่ว่าช่วงนี้เป็นฤดูมรสุม ฝนตกไม่เคยขาด นานๆฟ้าจะใสให้เห็นแดดสักที แต่ก็ยังมีคนอยู่เต็มชายหาดเลยทีเดียว ดังนั้นจึงเป็นการดีที่เขาจะพาพี่ชายฝาแฝดมาเปิดหูเปิดตาบ้าง และเป็นอย่างที่คิด พี่ชายของเขาดูท่าทางจะสนุกและมีความสุขกับการดูของชำร่วยเล็กๆ ดูทะเลสวยๆ ชายหาดที่เต็มไปด้วยเม็ดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าครามเหมือนกับสีของท้องฟ้า มียอดคลื่นล้อประกายแดดระยับสวยงามน่ารื่นรมย์ แต่ที่น่าหมั่นไส้เล็กน้อย คือพี่ชายฝาแฝดตัวเล็กของเขานั้น ชอบเหล่แต่สาวๆที่ใส่บิกินี่น้อยชิ้นเดินไปเดินมานี่สิ ทั้งๆที่มีเขาอยู่ข้างๆทั้งคน ยังมัวแต่เหล่สาวอยู่ได้ เห็นแล้วอยากรีบลากกลับบ้านไปลงโทษบนเตียงเสียให้เข็ด เขายิ่งอุตส่าห์เห็นแก่พี่ชายว่าอยากให้อีกฝ่ายพร้อมเต็มที่ก่อน เลยไม่เคยแตะต้องเกินเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งที่เขาอยากสอดใส่เข้าไปในร่างแฝดพี่ใจจะขาด อยากมีเซ็กซ์ที่เร่าร้อน แต่ก็ต้องอดทน รอให้พี่ชายเป็นฝ่ายเรียกร้อง รอมาจนจะครบเดือนก็เหมือนจะไม่มีทีท่าว่าจะมายอมตกเป็นของเขาเสียที จนความอดทนเขาจะหมดอยู่รอมร่อ จนต้องพาออกมาเที่ยวเพื่อยืดเส้นยืดสายคลายเครียดด้วยนี่แหละ เพื่อลดความหื่นของเขาเองด้วย ทั้งๆที่อยากจะสวีทด้วยแท้ๆ แต่พี่ชายก็กลับเหม่อมองแต่พวกสาวๆจนอยากจะพากลับเสียเดี๋ยวนี้จริงๆ
"วา...เตอยากกลับแล้ว..."
"หือ?...เดินย่อยก่อนสิ ยังอิ่มอยู่เลยอ่ะ ค่อยกลับไม่ได้เหรอ?"
"ก็วาของผมทำตัวไม่น่ารักเลยนี่นา..."
"อะไรอีกล่ะ...งอนอะไรอีกเนี่ย"
"ไม่รู้ล่ะอยากกลับแล้ว..."
"เอ้า...?"
พูดจบเตโชก็เดินนำหน้าลิ่วๆ ทำเอาวาโยถึงกับงงตึ๊บ อยู่ด้วยกันดีๆมาจนถึงเมื่อกี๊นี้แท้ๆ จู่ๆก็งอนกันซะดื้อๆ ทำไงได้ จึงได้แต่วิ่งตามน้องชายต้อยๆ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก "ง้อ" เท่านั้น
"วา!!"
"…!!?"
"เฮ้ย...วาจริงด้วย! สบายดีป่าววะ!?"
หมับ'
"เอ๊ะ!?"
ขณะกำลังวิ่งตามง้อแฝดน้องอยู่ดีๆ ก็โดนเสียงที่ไม่คุ้นตะโกนเรียกจากด้านหลัง ยังไม่ทันจะได้หันไปมองก็โดนคว้าไหล่ไว้อย่างแรงจนถึงกับเซ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่เขาไม่คุ้นตา แต่พอเหลือบมองขึ้นไปบนใบหน้า ความทรงจำบางอย่างก็ผุดขึ้นทันที
"...บอส?"
"เอ้ย จำเราได้ด้วยอ่ะ ดีใจว่ะ อิอิ"
วาโยได้แต่ยืนตกตะลึง เมื่อต้องมาเจอคนรู้จักที่นี่ เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่ย้ายโรงเรียนตอน ม.3 เพื่อนที่เหมือนจะสูงใหญ่ขึ้นกว่าตอนนั้นมาก หน้าตาดูกร้านกว่าวัยเล็กน้อย คงเป็นเพราะไรหนวดเขียวครึ้ม ที่ขึ้นอยู่รอบปาก แต่ด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรที่คุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น กับแววตาซุกซนของเพื่อนคนนี้ทำให้วาโยจำได้เกือบจะทันที
"ไม่เจอกันตั้งนานแน่ะ นายไม่โตขึ้นเลยนะวา ฮ่าๆ ตัวเท่ากับตอน ม.3 เลยมั้งเนี่ย"
"...นาย...ตัวโตเกินไปต่างหากล่ะ...หน้าแก่ด้วย..."
เมื่อถูกตอกหน้ากลับไปว่าแก่ บอสถึงกับหัวเราะเสียงดังลั่น ขำจนตัวงอ เล่นเอาวาโยที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยถึงกับทำหน้าไม่ถูก
"พ...พอแล้วบอส หัวเราะเยอะไปแล้วนะ"
"ฮ่าๆ...หึหึ ก็นายน่ารักอ่ะวา น่ารักเหมือนเดิมเลยอ่ะ "
"น่ารัก? บ้าเหรอ ตรงไหนกัน ฉันผู้ชายนะ..." (-*-“)
"อืม...ก็น่ารักอยู่ดี ตัวเล็กๆ พูดน้อย หน้าแดงก็ง่าย...น่ารัก ใช่ป่ะล่ะ..."
"อะ..ไอ้บ้าบอส...โอ้ย!"
ระหว่างที่วาโยและบอสกำลังจะเริ่มโต้เถียงกัน จู่ๆวาโยก็โดนกระชากไปข้างหลังแบบทั้งตัว
"............อ้าว....เตโช? นายก็อยู่...ด้วยเหรอ?"
บอสหยุดยิ้มทันทีที่เห็นหน้าของเตโช แน่นอนว่าเตโชตอนนี้หน้าโหดราวกับจะฆ่าคนได้เลยทีเดียว บอสได้แต่ส่งเสียงทักออกไปเบาๆ แต่ดวงตาก็ไม่ได้ละจากร่างของวาโยที่ถูกดึงเข้าไปจมอยู่ในอ้อมกอดของแฝดน้อง และสีหน้าของเตโชที่จ้องเขาราวกับจะป่นเขาให้ย่อยยับลงตรงนี้
"เฮ้ย...เราบอสเอง เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกับวาไง นายจำเราไม่ได้เหรอเตโช?"
"..............จำได้"
"เฮ้ย เราไม่ได้จะทำอะไรวาหรอกน่า อย่าโหดนักสิ ไม่เจอกันตั้งนาน...เอ่อ วา ไปกินข้าวกับเรามั้ย?"
".........หา...เอ่อ..."
วาโยอึกอักทันทีที่ถูกบอสชวนกินข้าว เพราะแค่เจอคนรู้จักเขาก็ตกใจจะแย่ เขาไม่อยากเจอกับใครทั้งนั้น สถานภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ของเขากับเตโช ไม่ควรจะได้พบเจอกับใครทั้งนั้น
"เอ่อ...เรา ก...กินกันมาแล้ว..."
"เฮ้ย อย่าปฏิเสธกันอย่างนั้นดิ โรงแรมเราอยู่ตรงนั้นไง โรงแรมของบ้านเราเอง ไปนะ..."
"วา กลับ!"
"เอ๊ะ? อ๊ะ!"
"เอ้ย เดี๋ยวสิ วา เตโช!!?"
ถึงร้องเรียกออกไปก็ไม่มีการตอบสนอง เตโชคว้าตัวพี่ชายไว้แล้วผลักให้เดินนำอยู่ข้างหน้า โดยเอาร่างสูงใหญ่ของตัวเองกันไว้ที่ด้านหลัง แล้วจ้ำพรวดออกไปไม่เหลียวมองคนที่ยังคงยืนอึ้งอยู่ ‘หวงพี่ชายขนาดนั้นเลยเหรอวะ…’ ตอนแรกบอสคิดอยู่ในใจแบบนั้น แต่ยิ่งเห็นการกระทำของเตโช ยิ่งมองสีหน้าของวาโย บอสก็เริ่มเอะใจเล็กๆว่า ‘ระหว่างฝาแฝดสองคนนี้ ไม่ปกติ’
.
.
.
.
“เต… เต โอ้ย ฉันเจ็บนะ…”
หลังจากแยกกับบอสแล้ว เตโชก็พาแฝดพี่บึ่งเรือกลับมาที่เกาะทันที ชายหนุ่มได้แต่เงียบงันจนน่ากลัว วาโยเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้น้องชายโกรธเรื่องอะไร และโกรธมากแค่ไหน เกรงว่าถ้าเข้าผิดเหลี่ยมอาจโดนเล่นงานจนอ่วมเหมือนแต่ก่อน เมื่อเรือจอดเทียบท่าได้ เตโชก็ฉุดกระชากลากถูพี่ชายเข้าบ้านโดยไม่ออมแรงนัก จนวาโยถึงกับต้องร้องโอดโอย เป็นการขอร้องให้เบามือลง
“…เต…นายเป็นอะไรไปเหรอ?...”
“………………..”
“โกรธฉันเรื่องอะไรเหรอ..?”
“………………..”
“…เต…?”
วาโยเริ่มหมดหนทางเมื่อแฝดน้องไม่ยอมพูดไม่ยอมจา ยืนหันหลังทะมึนให้ทั้งที่ยังคงอารมณ์กรุ่นโกรธ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไม่พอใจเรื่องอะไร…แต่ถ้านายอารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ค่อย…เอ่อ…มาคุยกันก็แล้วกันนะ…”
เมื่อเห็นว่าหมดประโยชน์ที่จะคุยกับคนที่โกรธไม่หยุด เสียเวลาจะง้อคนที่งอนไม่เลิก วาโยเลยกะจะหนีไปในห้องก่อน บางทีหากต่างคนต่างเงียบกันสักพัก รอให้อารมณ์เย็นลงหน่อย อาจคุยกันง่ายขึ้น
“เตหึง…”
ก่อนจะได้ก้าวพ้นร่างใหญ่ของน้องชายไป จู่ๆเตโชก็เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว แต่คำที่แสนจะเบานั้นกระแทกหูวาโยเข้าอย่างจังจนแทบหงายหลัง
“อะ…อะไรนะเต?”
“….เตหึงวา..”
“หึง? หึงเนี่ยนะ!? กับใครที่ไหนกันเต?”
วาโยถึงกับหน้าร้อนวูบ เมื่อเจอคำพูดที่คาดไม่ถึง แถมตอนนี้แฝดน้องของเขาที่ยังคงยืนหน้างออยู่นั้น กลับหน้าแดงเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขินอายเป็นเด็กๆ จนนึกสภาพเตโชคนก่อนที่ไม่เคยแพ้ใครและหยาบกระด้างไม่ออกเลย
“ก็วา…มัวแต่มองสาวๆชุดบิกินี่อยู่ได้ ไม่ยอมสนใจเตที่อยู่ข้างๆบ้างเลย! แล้วไหนจะไอ้บ้าบอสนั่นอีก จู่ๆโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ มาตีสนิทวาอยู่ได้ เตไม่ชอบ!!...”
คำพูดสารภาพที่พรั่งพรูออกจากปากน้องชาย เล่นวาโยลมแทบจับ หน้าร้อนๆวูบคล้ายจะเป็นลมให้ได้ คิ้วเรียวของชายหนุ่มขมวดมุ่นราวกับสงสัย หากแต่มุมปากนั้นกลับแอบเผยอยิ้ม
“…เป็นเด็กรึไงเต…เรียกร้องความสนใจเหรอ?...” (-////-)
“ไม่รู้ล่ะ…ก็เตหึงนี่!!” (-Ψ-)
“…เด็กบ้า…” (>////<)
“อย่าจับนะ!!!”
“อ๊ะ!?”
รู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้าจนอดเอื้อมมือไปสัมผัสไม่ได้ แต่เพียงแค่แตะโดนแขนเพียงนิดเท่านั้น มือของวาโยก็โดนสะบัดเสียกระเด็น เล่นเอาอารมณ์หวานๆกระเจิดกระเจิงเลยทีเดียว
“อย่าแตะต้องเตตอนนี้วา เพื่อตัววาเอง!”
“…………..??”
ใบหน้าคมดุนั้นหันมองหน้าพี่ชายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จนวาโยที่ยืนงงอยู่ยังต้องหลบสายตาที่จ้องมาราวกับจะคาดคั้นความผิด
“เอ่อ…เตโกรธ ขนาดนั้น…เลยเหรอ?”
เมื่อถูกปฏิเสธโดยไม่คาดคิดจากคนตรงหน้า วาโยก็ถึงกับน้ำตารื้นขึ้นเล็กน้อย เขาไม่อยากให้น้องชายโกรธ ไม่อยากโดนผลักไส ความรู้สึกที่อื้ออึงนี้เขาไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน ตั้งแต่ถูกจับมาที่นี่ วาโยเป็นฝ่ายเข้าหาเขา สัมผัสเขา แตะต้องเขา เรียกร้องเขา ฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนเสมอ แต่วันนี้ วันที่เขาต้องการเป็นฝ่ายเริ่ม กลับโดนปฏิเสธแบบไม่เหลือเยื่อใย ชายหนุ่มถึงกับจุกจนหัวใจกระตุกวูบเลยทีเดียว
“………..ตอนนี้เตกำลังมีอารมณ์…”
“ห๋า!?” ∑ (OAo”)
ก่อนน้ำตาหยดแรกจะหยาดรินจากหางตา จู่ๆเตโชก็พูดคำชวนสะอึกขึ้นมาอีกครั้ง
“ใช่วา เตกำลังมีอารมณ์ เตอยากระบายมาก มันพลุ่งพล่านจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
“อะไรของนายว๊ะ!!” \\(>////<)//
“ก็เราไม่มีเซ็กซ์กันมานานแล้วนะวา! เพราะวาขอร้องไว้ เพราะเตอยากถนอมวา และตอนนี้เตก็อยากรักษาสัญญาไว้ให้ได้ เพราะงั้นอย่าแตะต้องเต!”
“…………….”(>////<”)
“ตอนนี้เตอยากสอดใส่เข้าไปในตัววามากนะ หากขืนยังไม่เลิกยั่วกัน ต่อให้ต้องข่มขืน เตก็จะเอาวาให้ได้ แล้วถ้าเกิดได้เริ่มเมื่อไหร่ ก็จะไม่ยอมหยุดจะกว่าจะเหนื่อยตายไปข้าง…หรือต่อให้วาสลบ เตก็จะไม่หยุด…”
“………ไอ้…ลามก…” <(>//A//<”)>
“หึ…เงียบแล้วกลับห้องไปเลย เตจะออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก”
พูดจบเตโชก็หมุนตัวเดินเลี่ยงวาโยไปเพื่อออกข้างนอก สีหน้าเครียดขึงอ่อนลงเล็กน้อย ก่อนเอื้อมมือมาลูบผมของพี่ชายที่กำลังยืนก้มหน้างุดๆแผ่วเบาครั้งหนึ่ง ถอนหายใจอ่อนโยนแล้วก้าวจากไป
‘หมับ!’
“……………..!?”
ก้าวพ้นตัวพี่ชายได้เพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆร่างสูงก็โดนคว้าเอาไปกอดหมับ โดยมีพี่ชายซุกหน้าอยู่กับแผ่นหลัง สองแขนเรียวนั้นสั่นไหว แต่กลับกอดเอวแกร่งไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เตโชเองก็ถึงกับตกใจที่ถูกคว้าไปกอดเอาดื้อๆแบบนี้
“เฮ้ย…วา…พูดไปไม่ได้ฟังรึไง….!?”
“………………..”
“….วา?”“กอดวาสิเต…วา…ยอม”…………………………………………………………………………………………
มาดึ๊ก ดึก 555+ มัวแต่ยื่น ภษ. ออนไลน์วันสุดท้าย ป๊าด!! เสียเวลาแต่งนิยายสุดๆ
เต&วา ยังคงหวานๆ เรื่อยๆ เย้ๆ!!
แต่ขอโทษนะตะเอง
คนเขียนขอเตือนให้ท่านผู้อ่านเตรียมเสื้อชูชีพกับตะเกียบไว้ให้แม่นมั่น
เพราะคลื่นใหญ่กำลังจะมา และมหกรรมมาม่ากำลังจะมี
ใกล้จะจบทั้งที ไหนๆก็สัญญาไว้ว่าจะ Happy End.
ก่อนจบขอสักนิดก็แล้วกันเนอะ (เพื่อความอูมามิ)

ขอบคุณที่ติดตามนะค๊า
(คนเขียนจะหายไปทุกวันหยุด โปรดอย่าตกใจ เก๊าขอโต๊ด)
