ตอนที่ 15 “หวาน”“กอดวาสิเต…วา…ยอม”
ร่างสูงสะดุ้งไหวเมื่อได้ยินประโยคกระชากใจจากแฝดพี่ คำที่โหยหา คำที่รอคอย ตกใจไม่น้อยเลยที่พี่ชายยอมโอนอ่อน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แทบไม่ยอมให้สัมผัสกาย
"ว...วา อย่าล้อเตเล่นแบบนี้สิ..."
"....วา...พูดจริง วาอยากให้เต...กอดวา"
ร่างกำยำของเตโชหันกลับมาสวมกอดร่างพี่ชายไว้ในอ้อมแขน ฝังใบหน้าลงบนลาดไหล่บอบบาง พร้อมซุกปลายจมูกโด่งเข้าดอมดมกลิ่นหอมกรุ่นจากซอกคอขาว ฝ่ายวาโยเองก็แผ่นหลังของแฝดน้องไว้มั่น เงยหน้าขึ้นเกยไว้กับไหล่หนาของเตโชไว้พร้อมหลับตาลงซึบซับความอบอุ่นที่กำลังแผ่ซ่านระหว่างสองร่าง
"ทำไมล่ะครับ...ทำไมถึงยอม...?"
เตโชกระซิบเสียงพร่าอยู่ที่ริมหูแฝดพี่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เพื่อให้ทั้งร่างของพี่ชายแนบชิดไปกับกายตน
"ก...ก็เพราะรัก...ละมั้ง..."
วาโยตอบออกไปเสียงแผ่ว ใบหน้าร้อนผ่าวเห่อแดงซุกลงกับอกกว้าง เมื่อรับรู้ว่าส่วนกลางร่างกายของแฝดน้องกำลังตื่นตัวแข็งขัน และตอนนี้มันกำลังเสียดสีกับท้องน้อยของเขาอยู่
"ดีใจจังครับวา เตดีใจที่สุดเลย วารักเตแล้ว ในที่สุด วาก็รักเต..."
"อืม..."
"วาครับ...วาไม่หลอกเตใช่มั้ย รักเต..จริงๆใช่มั้ยครับ?"
"อืม...ไม่รู้สิ ก็วา ไม่ได้รู้สึกเกลียดหรือกลัวเตเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนี่ แต่กลับรู้สึกว่า...เอ่อ...อยากอยู่ใกล้ๆ อยากอยู่แบบนี้ไปตลอด..."
"...วา...."
ร่างสูงผละออกเล็กน้อยก่อนเชยคางแฝดพี่ที่ก้มหน้างุดๆด้วยความเขินอายขึ้น แล้วบรรจงประทับริมฝีปากลงไปแผ่วเบาที่หน้าผากมนเป็นรางวัลกับคำพูดหวานหู
"จะอะไรก็ได้ครับวา แค่วายอมรับเต ยอมอยู่กับเต แค่นี้เตก็ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว"
".........บ้า..."
"หึหึ...บ้ารักวาไงครับ..."
จุ๊บ...
ไม่รอให้แฝดน้องพูดคำน่าอายออกมาอีก วาโยรีบเขย่งเท้าขึ้นประทับจูบที่ริมฝีปากช่างจ้อนั่นเป็นการปิดปากทันที เตโชที่เหมือนจะตกใจน้อยๆในคราแรก แต่เพียงครู่ก็หลับตาลงยอมรับรอยจูบหวานล้ำจากแฝดพี่ และเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกไล่คุมเกมในที่สุด
.
.
.
.
.
.
เสื้อเชิ๊ตตัวบางค่อยๆหลุดออกจากลาดไหล่ขาว ผิวเนียนค่อยๆขึ้นรอยแดงจากรอยจูบ และรอยไรหนวดที่ครูดไปกับผิว
"อ๊า...อือ...เจ็บจัง...หนวดเตบาด..."
"ขอโทษนะ เมื่อเช้าเตลืมโกน...อา...ตัววาหอมจัง"
"อ๊า! เต...อื้อ อย่าเลียแบบนั้นสิ...อื้อ"
วาโยสะดุ้งร่างเมื่อโดนน้องชายเลียกระตุ้นอยู่ที่ยอดอก การถูกกระหวัดลิ้นถี่ๆแบบนั้น ทำเอาวาโยเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว เสียงหวานครางอื้ออึงไม่หยุดพร้อมกับร้องห้ามแผ่วเบา หารู้ไม่ว่ายิ่งห้ามด้วยน้ำเสียงที่แทบขาดใจเท่าไหร่ เตโชก็ยิ่งฮึกเหิมอยากไล้เลียชิมความหวานจนทั่วร่างแบบไม่ให้ว่างเว้นแม้สักอณูขุมขน
"อื้อ...เต...อ๊ะ..."
เสียงทุ้มหวานแหบพร่า เมื่อร่องสะดือโดนลิ้นร้อนรุกราน ตอนนี้สองมือของเตโชกำลังปลดเปลื้องปราการที่เหลือของแฝดพี่อย่างเร่งรีบ ชายหนุ่มปลดตะขอและถอดกางเกงพร้อมชั้นในตัวจ้อยของวาโยออกไปจนพ้นทาง ก่อนจะรีบกำจัดพันธนาการของตัวเองออกไปให้พ้นตัวด้วย
"เต...วา...หนาว.."
เสียงทุ้มหวานออดอ้อนขึ้น จนไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะสามารถพูดแบบนั้นออกไปได้ แต่ตอนนี้วาโยไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาเหนียมอายอะไรอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อรังรักนี้มีแต่เขากับแฝดน้องเพียงสองคน จะไปสนใจอีกทำไมว่าโลกจะเป็นอย่างไร วิปริต ผิดบาป ชั่วช้า เขาไม่อยากนึกถึงมันอีกแล้ว ในเมื่อเขาได้รับความรักจากน้องชายมามากขนาดนี้แล้ว ทำไมเขาจะยังต้องเล่นตัว ไม่ตอบแทนในน้ำใจอันยิ่งใหญ่นั้นด้วยรักของเขาบ้าง ยิ่งเมื่อได้กอดก่ายแนบกายกับน้องชายแบบนี้เขาก็นึกถึงคำพูดของคุณย่าขึ้นมาได้ว่า...
“แฝด” เป็นชีวิตและสายใยอันแนบแน่น เป็นความสัมพันธ์อันลึกซึ่งเกินคำบรรยายที่ยากจะแยกออกจากกันได้ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
“แฝด” ย่อมไม่มีวันแยกจากกัน... เดินทางมาสู่โลกนี้ด้วยกัน จึงควรอยู่ด้วยกันชั่วชีวิตตราบลมหายใจดับสูญ
“แฝด” ภาวะแห่งความผูกพันที่แสนจะพิเศษ เกิดมาพร้อมกับชะตากรรมที่ต้องยอมรับแบบไร้เงื่อนไข ความผูกพันที่เชื่อมโยงระหว่างคนทั้งคู่ แม้ระยะทางจะไกลสักเพียงไหนก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับใจที่เชื่อมต่อถึงกันเลยแม้แต่น้อย
“แฝด” คือนิยามของคำว่า คนเดียวใน 2 ร่าง
“แฝด” คือ 2 ชีวิตที่อยู่ภายใต้หัวใจดวงเดียวกัน
เพราะแบบนี้ไงล่ะ เขากับเตโชถึงไม่สามารถห่างกันได้ ไม่ว่าจะพรากกันกี่ครั้ง หรือห่างเหินกันนานแค่ไหน ในท้ายที่สุดก็จะกลับมาพบกัน และอยู่ด้วยกันอีก ไม่ว่าใจเขาจะอคติกับเตโชมากแค่ไหน แต่เพราะสายลึกลับที่มีระหว่างกัน ทำให้เขาไม่สามารถเกลียดแฝดน้องคนนี้ได้ตลอด เพราะความรักมากมายที่น้องชายฝาแฝดคนนี้มอบให้ มันซึมซาบเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างมากล้น จนในที่สุดเขาก็ตกลงไปในหลุมรักที่ลึกสุดลึกนี้อย่างง่ายดาย ลึกล้ำจนไม่อาจเอ่ยปากว่าจะแยกจากกันได้อีก ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่ได้เอ่ยปากออกไปความรู้สึกที่เขามีให้เตโชตอนนี้มันมากมายแค่ไหน แต่ในสักวันเขาจะบอกออกไปให้ได้ จะบอกคำว่ารักออกไปอย่างเต็มปาก...ให้ได้
"อ๋า! เต... อื้อ วาจะไม่ไหวแล้ว! ..."
วาโยครางเสียงหลง เพราะโพรงปากร้อนที่ครอบครองส่วนกลางร่างของเขาอยู่นั้น ทั้งหยอกเย้า ทั้งดูดเลีย ทำเอาเสียวซ่านจนแทบจะปลดปล่อย ร่างขาวนอนหงายเริ่ดแอ่นโค้งราวกับคันธนู สองขาถูกจับให้ชันเข่าพร้อมอ้าออกกว้างในท่าที่ล่อแหลม ตรงส่วนสงวนนั้นมีใบหน้าหล่อเหลาของแฝดน้องฝังอยู่ เสียงหยาบโลนน่าอาย จ๊วบจ๊าบไม่เลิก ความร้อนและชื้นฉ่ำจากโพรงปากและน้ำลาย ทำเอาวาโยสะท้านหนัก สองมือจิกผมของเตโชแรงขึ้น ด้วยอารมณ์ที่ทยานสูงอย่างยากจะหักห้าม
"อ๊ะ! เต เต อ๊า วาจะแตกแล้ว อื้อ! ปล่อยก่อน!..."
"อือ...ไปเลยครับวา...อึก!..."
"อ๊ะ!...อ๊า...."
"....อืม...เก่งมากครับวา...น่ารักที่สุดเลย"
"อะ...ไอ้บ้า คายออกมานะ...ส...สกปรก...."
จะห้ามจะเตือนก็แค่นั้น เสียงแหบระโหย กับร่างที่กะปลกกะเปลี้ยหอบสะท้านเพราะเพิ่งผ่านจุดสุดยอดหมาดๆของวาโยนั้นไม่ได้ทำให้เตโชกลัวหรือเชื่อฟังเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งกระพือโหมอารมณ์ดิบโดยสัญชาตญาณสัตว์ป่าของเตโชให้ลุกโชติขึ้นกว่าเดิม
"ทำไมล่ะครับ คนดี ของวาอร่อยจะตาย หวานมากเลยนะ..."
"หยุดพูดนะ....อื้อ..."
อยากบ่นว่าคนบนร่างบ้างแต่เพราะนิ้วแกร่งนั้นเริ่มรุกรานเบื้องล่างอีกครั้ง ทำเอาวาโยแทบกลืนก้อนสะอื้นจากแรงเสน่หาไม่ทัน
"ก็วาเซ็กซี่ขนาดนี้ จะให้เตอดใจไหวได้ยังไงครับ"
"อ๊า....เต....อื้อ"
ความเย็นของเจลทำให้วาโยสะดุ้งเล็กน้อยในตอนแรก แต่เพียงครู่ความเย็นนั้นก็กลายสภาพเป็นความเร่าร้อนจนขนลุกชัน
"อือ...วาครับ อย่ารัดนิ้วเตขนาดนั้นสิ ขยับไม่ได้เลย"
"มะ...ไม่ไหว..อื้อ!"
ร่างบางเกร็งสะท้านอีกครั้งเมื่อถูกนิ้วแกร่งของแฝดน้องทะลวงเข้ามาในร่างจนสุดข้อ แค่นิ้วเดียววาโยก็แทบทนกับความเสียวซ่านไม่ไหวอยู่แล้ว นี่เตโชยังจะเพิ่มเป็นสอง เป็นสามนิ้ว เพิ่มความหฤหรรษ์ให้แฝดพี่จนเจ้าตัวเล็กครางเร่าๆไม่หยุด
“พร้อมแล้วนะครับวา ...ขอเต เข้าไปนะครับ...”
เตโชขอร้องด้วยเสียงออดอ้อน เพราะตอนนี้อาวุธร้ายของเขาแข็งเกร็งจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
"นะครับ...คนดี...อึก!..."
วาโยไม่ได้ตอบคำออกไป แต่ยกตัวขึ้นคล้องแขนกับคอเตโชแทนคำตอบ เตโชซุกไซร้ข้างแก้มชื้นเหงื่อของแฝดพี่แทนคำขอบคุณที่อนุญาต ก่อนจะเริ่มการบรรจุกระสุนอันเขื่องเข้าลำกล้อง
"อึก! อื้อ.. อา..."
ถึงจะพร้อมจนแทบละลายอยู่แล้ว แต่วินาทีที่ส่วนหัวผลุบเข้าไปวาโยก็ถึงกับลมหายใจขาดห้วง ความอึดอัดคับแน่นทำเอาหายใจหายคอแทบไม่ทัน
"อึก...วาครับ ผ่อนคลายหน่อยสิ เตเข้าไปไม่ได้..."
"อ๊ะ ม...ไม่ไหว...อื้อ!"
เพราะร่างบางเกร็งจนการสอดใส่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เตโชจึงปลุกเร้าส่วนหน้าของแฝดพี่อีกครั้งเพื่อให้วาโยได้ผ่อนคลายลง
"อ๊ะ อะ อื้อ อ๊า อ๊ะ อ๊ะ !!"
แล้วก็ได้ผล ในที่สุดเตโชก็สามารถเข้าไปได้จนสุด ด้วยความที่อดทนมานานเกินไป ดังนั้นพอได้เข้าสู่ส่วนลึกของพี่ชายได้ เตโชก็แทบจะหมดความอดทน สัญชาตญาณดิบพลุ่งพล่าน เรียกร้องให้ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นอย่างหิวกระหาย แต่สติที่ยังเหลืออยู่คอยเตือนว่า ห้ามทำรุนแรงกับวาโยเด็ดขาด ความดีกับความหื่นตีกันยุ่งเหยิง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายบนใบหน้าหล่อเหลา คิ้วหนาขมวดมุ่น ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเพื่อสะกดความกระหายให้เบาบาง ทั้งที่แสนจะยากนักเนื่องด้วยร่างพี่ชายช่างแสนเย้ายวน ภายในตอดรัดจนเขาแทบจะสำลักความสุขสม อยากกระทำรุนแรง อยากกระแทก อยากทะลวงลึกๆ เขาอยาก เขาต้องการ...
"อ๊ะ เต...อ๊ะ..."
"ว...วา เตอยากทำแรงๆ อึก!..."
"อ๊ะ เต อื้อ อ๊า..."
ร่างสูงเคลื่อนไหวอ่อนโยน พยายามเก็บงำความคลุ้มคลั่งของตัวเองไว้ แต่ความเสียวซ่านกำลังจะทำให้เขาขาดสติ
"ไม่เป็นไรนะวา เต...อึก...เตจะไม่รุนแรง..."
"อ๊ะ...อื้อ...อ๊ะ...เต.."
".....วา?.......อึก.."
สองมือของวาโยเอื้อมขึ้นไปจับประคองหน้าของเตโชไว้มั่น ก่อนจะยกตัวขึ้นไปจูบที่ริมฝีปากบางของแฝดน้องแผ่วเบา อ่อนหวาน พร้อมเอ่ยคำที่เตโชรอคอย
"เต...ทำวาสิ...ทำกับวาอย่างที่เตอยากทำ.....อ๊ะ..."
"..?....วา?..."
"ไม่เอาอ่อนโยน อ๊ะ ไม่เอา ทำสิเต...อื้อ...ทำแรงๆ...อ๊ะ! โอ๊ววว!!"
ราวกับราชสีห์ที่ถูกปลดออกจากกรง เตโชทยานไปตามที่ได้รับการอนุญาตทันที ชายหนุ่มตรึงข้อมือทั้งสองของแฝดพี่ไว้เหนือศรีษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนแขนอีกข้างช้อนบั้นท้ายของวาโยขึ้นเพื่อรับการสอดใส่ พลางกระทั้นร่างหนักหน่วง จนพี่ชายครางไม่เป็นภาษา
"อุ๊ อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊า โอ้ว อ๊ะ อ๊ะ !!"
"ซืดดด... วาครับ วาฟิตจัง...อืออ....ตอดของเตใหญ่เลย..."
"ต...เต...เต...อื้อ...อ๊ะ อูวว อ๊ะ เต!?"
วาโยเรียกชื่อน้องชายเสียงหลง เมื่อจู่ๆก็ถูกจับให้พลิกคว่ำหน้าลงทั้งที่ส่วนล่างยังถูกสอดคาอยู่
"เต...? อ๊ะ อื้อ อื้อ!..."
ยังไม่ทันจะได้ตกใจ วาโยก็โดนรุกรานรุนแรงเข้าเสียก่อน ไหล่เขาถูกกดลู่ไปกับที่นอน โดยส่วนสะโพกถูกมือแกร่งช้อนขึ้นสูง ร่างหนาของแฝดน้องที่ประกบอยู่ด้านหลังนั้นก็จ้วงแทงไม่ยั้งจนแทบไม่มีเวลาให้หายใจ วาโยแอบคิดในใจเหมือนกันว่า ที่ยอมให้แฝดน้องทำรุนแรงกับตนได้นี่ ช่างเป็นความคิดที่ผิดโคตรๆ แต่พอได้ยินเสียงน้องชายครางกระเส่าอยู่ด้านหลัง ความคิดทุกอย่างก็มลายหายไปหมด เหลือเพียงความเสียวกระสัน และความรู้สึกที่ว่า "ดีแล้ว ที่ยอม"
"อ๊ะ อ๊ะ เต เต อ๊ะ อ๊า เต โอ้ว!!"
"อ๊ะ! วา!!..."
ในจังหวะสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะถึงฝั่งฝัน เตโชคว้าตัวพี่ชายขึ้น จับใบหน้านั้นเอี้ยวมาจูบกับตนดูดดื่ม ก่อนจะปลดปล่อยธารรักร้อนเข้าสู่ร่างพี่ชาย แล้วลงไปนอนทับร่างบางของแฝดพี่อยู่อย่างนั้น
"วา...ขอโทษ...เตขอโทษ เผลอทำรุนแรงกับวาไปจนได้..."
เสียงหอบทุ้มกระซิบพร่าอยู่บนแผ่นหลังของพี่ชาย จุดสุดยอดที่เพิ่งผ่านพ้น ทำเอาหัวสมองของเตโชขาวโพลน ร่างสูงจึงได้แต่นอนทับพี่ชายอยู่แบบนั้นไม่ไปไหน
"อืม...ไม่เป็นไรครับคนดี...ไม่...เป็นไร..."
วาโยครางเสียงแผ่วเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนผลอยหลับไปทั้งๆอย่างนั้น การถูกทำให้ถึง ตั้งสองครั้งนี่ เล่นเอาเหนื่อยแทบขาดใจเลยจริงๆ
.
.
.
.
.
.
ครื่นนนน.....ซ่า.....
เสียงคลื่นกระทบฝั่งรื่นหู เช้าวันนี้ก็สดใสเหมือนสองสามวันที่ผ่านมา วาโยตื่นออกมาสูดอากาศแต่เช้า ร่างกายเขาคลายความเมื่อยขบไปเยอะแล้วจากกิจกรรมเมื่อสามวันที่ผ่านมา จำได้ว่าวันนั้นเขาตื่นขึ้นมากลางดึกโดยมีเตโชทับอยู่บนตัว แถมปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นลุกจากตัวเขาเสียที กว่าจะดิ้นออกจากร่างใหญ่โตของน้องชายได้ เล่นเอาเขาหมดแรงเลยทีเดียว แต่ที่แย่ไปกว่านั้นอีกก็คือ ช่วงล่างของเขาตลอดตั้งแต่สะโพกลงไปนั้นเมื่อยชาไปทั้งแถบ จนไม่มีแรงแม้แต่จะเดินเข้าห้องน้ำชำระร่างกายด้วยซ้ำ เพราะแค่ก้าวลงจากเตียงได้เขาก็ร่วงไปกองแผละอยู่บนพื้น ให้ได้สมเพชตัวเองทันที หลังจากนั้นก็เป็นภาระให้เตโชรับผิดชอบอุ้มไปอาบน้ำกินข้าวอยู่เป็นวันๆเลยทีเดียว
"ตื่นเช้าจังครับวา"
ระหว่างกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงหน้าระเบียง รู้สึกว่าน้องชายตัวแสบเขาจะตื่นแล้ว และตอนนี้ก็กำลังกอดเขาจากด้านหลังอยู่
"วาก็ตื่นของวาแบบนี้ตลอดแหละ ไม่เห็นแปลก"
"หืม? ไหงเมื่อก่อนไม่เห็นยอมลุก จนต้องปลุกมากินข้าวทุกที"
เตโชกระเซ้าเสียงหวาน
"ก็ตอนนั้นเตใจร้ายนี่ ล่ามวาไว้ แล้ววาจะมีกระใจตื่นมาทำไมล่ะ"
วาโยเองก็ไม่ยอมแพ้ แกล้งทำเสียงงอนๆบ้าง
"เตขอโทษ อย่างอนสิครับ ก็ตอนนั้นวาดื้อนี่นา..เตก็เลย.."
"พอเหอะ ไม่ฟังแล้ว..."
ยิ่งเห็นว่าเตโชหน้าเสีย พยายามง้อ วาโยก็ยิ่งแกล้งงอนไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เผลอหัวเราะขำคนที่ตั้งหน้าตั้งตาง้ออยู่จนได้ เตโชถึงกับแอบฉุนพี่ชายขี้แกล้ง จนต้องลงโทษโดยการกอดรัดและฟัดแก้มขาวของพี่ชายหนักๆ เจ้าตัวแสบจะได้เข็ดหลาบเสียที
"นี่เต..."
"หืม?"
"สงสัยมานานแล้ว เต...ซื้อเกาะนี้มาได้ยังไงเหรอ? แล้วตอนนี้เตทำอะไรอยู่? ทำไมถึงมีเงินเลี้ยงดูวาเยอะขนาดนี้ล่ะ?"
วาโยหันไปสบตาแฝดน้องแล้วถามคำถามที่คาใจอยู่นานออกไป เพราะเตโชอยู่กับเขาที่เกาะนี้ตลอด ตัวแทบจะติดกัน 24 ชั่วโมง แล้วเอาเวลาที่ไหนไปทำงานหาเงินกัน หรือถ้าเกิดเจ้าตัวจะมีเงินเก็บมากมายอยู่แล้ว แต่อายุเพียงแค่นี้ เตโชหาเงินมาจากไหน กลัวเหลือเกินว่าน้องชายอาจเผลอทำอะไรที่ผิดพลาด
"เตเล่นหุ้นน่ะ"
"หุ้น?"
"อืม ตอนที่เตไปเรียนที่อเมริกาปีแรก พอดีว่าไปรู้จักกับโบรกเกอร์มือดีเข้าน่ะ เราค่อนข้างคุยกันถูกคอ เขาเลยช่วนสอนเตเล่นหุ้นน่ะ"
"มัน...ได้เงินดีขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"ก็ดีอยู่นะ ปีแรกที่เตเริ่มเล่น ก็ได้กำไรมาเหนาะๆ ประมาณ แสนดอลล์ได้ ก็ราวๆ เกือบสี่ล้านบาทน่ะ"
"สี่ล้าน!! เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ!!?"
"ก็นะ ก็ได้กำไรมาตลอดจนตอนนี้แหละ"
"สุดยอด"
วาโยทั้งอึ้งทั้งชื่นชมน้องชายโดยไม่มีปิดบัง
"เตนี่ อัจฉริยะจริงๆด้วยสินะ..."
"แต่เกาะนี่ เตใช้เงินที่ได้จากอย่างอื่นซื้อมาน่ะ"
".......หืม? เงินจากที่อื่น?"
"วาคงรู้จากพ่อแล้วใช่มั้ยว่าเตทำให้บริษัทเราร่วมลงทุนกับ AWC ได้น่ะ"
"อ่า..ใช่ เตทำยังไงเหรอ?"
"บังเอิญเตเขียนโปรมเจ็คส่งเข้าประกวดของ AWC น่ะ แล้วชนะเลิศ ทาง AWC จึงขอซื้อตัวโปรเจ็คพร้อมแผนดำเนินงานที่เตเขียนขึ้นพร้อมกับตัวเตไว้ ด้วยจำนวนเงินที่มากพอจะซื้อเกาะนี้ได้สบายๆ...ถึงสัมปทานของมันจะไม่ถูกกฏหมายนักก็เถอะ..."
"เพราะอย่างนั้น AWC เลยยอมร่วมลงทุนกับบริษัทของพ่อสินะ"
"อืม...เพราะโปรเจ็คที่ฉันเขียนขึ้น มันต้องมีการร่วมลงทุนกับบริษัทของพ่อด้วยยังไงล่ะ"
"อย่างนี้นี่เอง..."
เตโชยิ้มน้อยๆ ก่อนซุกหน้าลงบนไหล่บางของพี่ชาย อะไรบางอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ ‘ความฉลาดเกินไปของเขา เคยทำให้พี่ชายรังเกียจ’
“เต...ทำทั้งหมดนั่น เพื่อวาใช่มั้ย?...”
“.............??........วา?”
“เหนื่อยมั้ยเต...ทำคนเดียวตั้งขนาดนั้น เต...เหนื่อยมากหรือเปล่า?”
เตโชแทบไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำถามแสนอ่อนหวานนั่นจากปากของพี่ชายฝาแฝด เขานึกว่าจะโดนเสียดสีเหมือนที่แล้วๆมาเสียอีก ยังไม่ทันจะหายตะลึงดี มืออุ่นๆของพี่ชายก็แนบอยู่ข้างแก้มของเขาเสียแล้ว
“ขอโทษนะเต ที่วาทำไม่ดีกับเตมาตลอด จนทำให้เตต้องเหนื่อยอยู่คนเดียว...”
“วา...”
“จากนี้ไป เตจะไม่ต้องเหนื่อยคนเดียวแล้วนะครับ วาจะอยู่เป็นเพื่อนเอง”
เตโชไม่มีคำพูดใดๆออกมา แต่กลับกอดพี่ชายไว้แน่นๆแทน ตะกอนอะไรก็ตามที่เคยอยู่ที่หัวใจ ก้อนอะไรสักอย่างที่เคยจุกอยู่ที่คอ ตอนนี้มันกำลังละลายออกมา ละลายกลายเป็นหยาดหยดแห่งความรัก และปิติยินดี
วาโยเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเองก็ได้แต่กอดน้องชายคนเดียวของตนไว้ในอ้อมแขนแล้วปล่อยให้หยาดน้ำอุ่นไหลลงจากหางตาเงียบๆ
.
.
.
.
.
“วันนี้เรามาฉลองครบรอบการอยู่ด้วยกัน ครบ 2 เดือนเต็มกันดีกว่า”
จู่ๆบ่ายวันหนึ่ง เตโชก็โพล่งขึ้น ขณะที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่
“นึกคึกอะไรขึ้นมากัน เต?”
วาโยถามไถ่ออกไปแบบไม่ใคร่ใส่ใจนัก ตั้งแต่วันที่โดนจับตัวมา จนถึงวันนี้ก็ครบ 2 เดือนเต็มๆ ที่ได้อยู่ด้วยกัน 2 คน ช่วงเดือนแรกแม้จะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่พอนานไปก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น จนเข้าเดือนที่สอง ถือว่าเป็นเดือนแห่งความรักของทั้งคู่เลยทีเดียว จะทำอะไรก็หวานกันไปหมด จนวาโยเองก็อดแอบเลี่ยนตัวเองเล็กๆไม่ได้ ที่ถูกน้องชายทั้งรัก ทั้งเอาใจใส่ดูแลขนาดนี้ ขนาดเรื่องบนเตียง ก็แทบไม่ขาดเลยเหมือนกัน จนบางทีวาโยก็แอบคิดว่า ‘สงสัยต้องออกกฎ เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงเสียแล้ว อย่างน้อยก็เรื่องเวลา ถ้าเป็นไปได้ แค่อาทิตย์ละครั้งก็พอ ไม่ใช่วันเว้นวันแบบตอนนี้...’
“วันนี้วันสำคัญนะวา เมื่อเดือนที่แล้วเราก็มัวแต่ทะเลาะกันเลยไม่ได้จัดเลย”
“แค่สองเดือนเนี่ยนะเต ครบปีก่อนไม่ได้รึไง ค่อยฉลอง...”
“ไม่เอาครับ เตจะฉลองวันนี้”
“.............ตามใจ แล้วจะฉลองยังไงล่ะ?”
สุดท้ายพี่ชายอย่างวาโยก็ยอมโอนอ่อน ตามใจน้องชายคนดีในที่สุด
“ทำบาร์บีคิวแล้วกันนะ วาชอบบาร์บีคิวนี่ ใช่มั้ย?”
“อืม...ก็ดีนะ แล้วอุปกรณ์กับวัตถุดิบล่ะ?”
“รู้สึกว่าเตาย่างจะอยู่ในโกดังน่ะ เดี๋ยวเตจะขับเรือไปเกาะนู้นซื้อของสดก่อน วาจะไปด้วยกันมั้ย?”
“อืม.....ก็..”
“ไม่ดีกว่า ไม่ให้ไป เดี๋ยวเจอไอ้บ้าบอสมาก้อร่อก้อติกอีก เตไม่ชอบ ไม่ให้ไปดีกว่า”
“เอ้า? หึหึ ไอ้บ้านี่ วาไม่ไปหรอก ขี้เกียจ เดี๋ยววาเตรียมของอยู่ที่นี่ดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเตกลับมาจัดการเอง เจ้าหญิงของเตอยู่เฉยๆดีกว่านะครับ”
“หึ...ไอ้บ้า” (-/////-)
บ่นได้แค่นั้นแล้วก็ได้แต่ทำหน้าแดงและแอบอมยิ้มเล็กๆ เขาไม่ชินสักทีกับการโดนน้องเรียกว่าเจ้าหญิงเนี่ย
.
.
.
.
.
หลังจากเตโชออกเรือไปได้สักพักใหญ่ วาโยก็เริ่มเบื่อที่จะนั่งรอเฉยๆ จึงเข้าไปรื้อของในโกดัง ถึงเตโชจะบอกว่าจะเป็นคนจัดการเอง แต่ในฐานะพี่ชาย วาโยก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง โกดังเล็กๆที่วาโยไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่นัก มีแต่อุปกรณ์เครื่องมือมากมายจนเต็มแน่น วาโยทั้งรื้อทั้งค้นอยู่ตั้งนาน กว่าจะหาเตาย่างบาร์บีคิวเจอ
“รกสุดๆเลยนะเนี่ย เจ้าเตนี่มันนักซุกจริงๆวุ้ย”
“อื้อหือ มันอะไรนักหนาฟร๊ะ เอาของพวกนี้มาตั้งทับเตาได้ไงวะ หือ..จะเอาเตาออกมายังไงเนี่ย...”
“ชิ ถึงว่า จะขอกลับมาทำเอง ก็รกขนาดนี้นี่หว่า...”
พั่บ...
ในขณะที่กำลังรื้อของที่สุมทุมอยู่บนเตาย่างบาร์บีคิวลงอยู่นั้น จู่ๆก็มีซองอะไรสักอย่างตกลงที่เท้า
“หืม? ซองอะไรเนี่ย...ขยะอีกหรือเปล่าวะ”
วาโยไม่ได้ใส่ใจซองนั้นมากมายนัก แต่ก็ลองเปิดดูเผื่อเป็นเอกสารสำคัญจะได้เอาเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทาง
“เอ๊ะ?... ใบรับรองการรักษา...โรงพยาบาลจิตเวช...?...”
ทันทีที่เอกสารบางอย่างในซองนั้นปรากฏสู่สายตา มือของวาโยเย็บเฉียบ ก่อนจะกวาดตาอ่านบางอย่างในเอกสารนั้นตาไม่กระพริบ
‘ชื่อคนไข้ : นายเตโช สิทธานุเวศวัฒน์’
‘อายุ : 16 ปี’
‘Case : Delusional Disorder’
‘ชื่อภาษาไทย : โรคหลงผิด’
‘อาการคนไข้ : รู้สึกหลงรักฉันท์ชู้สาวกับพี่น้องร่วมสายโลหิต อาจเป็นอาการกลุ่มย่อยของอาการ Erotomanic type’
‘แพทย์เจ้าของไข้ : จิตแพทย์ XXX’
‘บันทึกการรักษา : ......................................................................................’
‘วันที่เข้ารับการรักษาล่าสุด : ..................................’
“วันที่เข้ารักษาล่าสุด... สองเดือนที่แล้ว...”
วาโยใจเต้นระทึก สองมือที่ถือเอกสารนั้นสั่นระริก ก่อนตัดใจรีบเก็บเอกสารที่ไม่ควรเห็นนี้เข้าซอง แต่ทว่า...“เห็นเข้าจนได้นะ...วา”........................................................................................
หวานไม่จริงนี่หว่า....อุ้ย!!
ขอโทษที่หายหัวไปนานนะคะ สงกรานต์บ้านนอกก็อย่างนี้แหละค่ะ มันไม่มีเน็ต
วันนี้กลับมาได้เลยได้ต่อเสียที
ตอนหน้าจะเป็นยังไงต่อไปน่อ น้องวาโยของเรา
ปล. ถ้าคำผิดมันเยอะ ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะจ๊ะ เดี๋ยวเขาเข้ามาแก้อีกทีจ๊ะ
รักนะจุ๊บๆ
[attachment deleted by admin]