ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] แจ้งข่าวหน้า 11 (11/11/13)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] แจ้งข่าวหน้า 11 (11/11/13)  (อ่าน 145297 ครั้ง)

ออฟไลน์ สักวัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #240 เมื่อ01-08-2013 22:07:43 »

-19-
I'm Yours

http://www.youtube.com/v/a7ss2D_OYqk?version=3&hl=en_US


ผมได้ยินเสียงถอนหายใจตัวเองเมื่อเขียนคำสุดท้ายลงในกระดาษข้อสอบ วิชาสุดท้ายจบลงแล้ว...

ผมวางปากกา ใจคิดถึงคนที่บอกว่าจะรออยู่ที่ห้อง ผมอนุญาตให้ทะเลเข้ามาในความคิดหลังจากพยายามผลักไสออกไปเพื่อจะได้มีสมาธิในการสอบ เพื่อนๆแต่ละคนดูเหมือนจะมีสิ่งที่อยากจะทำหลังสอบเสร็จจึงดูปลอดโปร่งโล่งใจพอๆกัน พวกที่สอบเสร็จแล้วชวนกันไปสังสรรค์อย่างเห็นเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ผมบอกกับพวกมันว่าให้ไปร้านพี่ตินถ้ามาได้เพราะวันนี้ผมไปเล่นที่นั่นรวมทั้งไอ้ตูนด้วย พอตกลงกันได้ผมก็ปลีกตัวออกมาก่อน ผมเจอร็อคอยู่ใต้อาคารเลยแวะเข้าไปหาก่อนกลับ มันนั่งใส่หูฟังเล่นโทรศัพท์แต่ก็เหลือบตามามองเมื่อผมนั่งลงข้างๆ

“หิวข้าว ตูนล่ะ"
“เดี๋ยวก็มา จะหมดเวลาแล้ว" ผมพูด ร็อคเลิกเล่นมือถือแล้วดึงหูฟังออกเพื่อจะคุยกับผม
“รีบไปไหนรึเปล่า ไปกินข้าวกัน"
“เลรออยู่ เดี๋ยวก็ต้องกลับ แต่มาบอกมึงก่อนว่าอาทิตย์หน้ากูจะขอลางานทั้งอาทิตย์"
“ไปไหนวะ" มันถามผมแต่ตากลับมองไอ้ตูนที่กำลังเดินมากับพวกเพื่อนๆ
“กูจะไปเที่ยวกับเล แต่ไม่แน่ว่ากี่วันเลยลาไว้อาทิตย์นึง"
“เออ ไปเหอะ นานๆจะไปสักทีนะมึงน่ะ วันไหนบ้างก็โทรลาเด็กเองนะ วงเดี๋ยวกูให้ม่อนมาเล่นแทนให้" ผมพยักหน้าตอบรับ ตูนเดินมาถึงพวกเราพอดีและชวนผมไปกินข้าวเหมือนที่ร็อคชวนผมจึงปฎิเสธอีกครั้ง

“แล้วเจอกันตอนเย็น"

ผมบอกลาแล้วขับรถกลับห้องอย่างคนใจร้อน พอถึงที่ยังไม่ทันขึ้นข้างบนก็เจอพี่ปาล์มที่นั่งว่างไม่มีลูกค้ามองอย่างรู้ทันบอกกับผมว่าทะเลรออยู่บนห้องเป็นชั่วโมงแล้ว  ผมเดินขึ้นห้องด้วยความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อาจเป็นเพราะผมรอเวลาที่จะเจอทะเลอยู่ตลอดหรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่นผมก็ไม่มีเวลามาใส่ใจ

ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเอง จิตใจสงบลงเมื่อเห็นทะเลนอนอยู่บนเตียง ห้องคงจะร้อนมากทะเลถึงถีบทุกอย่างให้พ้นจากตัว มีเพียงหมอนใบเดียวที่ทะเลนอนคว่ำแล้วกอดมันเอาไว้ ผมพยายามเดินให้ไร้เสียง ไม่อยากจะปลุกให้ตื่นเพราะทะเลดูหลับลึก ผมเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นมานอนบนเตียงกับทะเล นี่แหละคือเวลาแสนสุขที่ผมรอคอย ผมนอนตะแคงกอดอกมองทะเลเนิ่นนานจนในที่สุดทะเลก็เห็นความเคลื่นไหวจากเปลือกตา ทะเลค่อยๆลืมตาขึ้นและกระพริบถี่ พอเห็นผมทะเลก็ส่งยิ้มมาให้ทั้งที่งัวเงีย

“กลับมานานรึยัง" ผมส่ายหัวตอบ ไม่ได้พูดอะไร
“เลเก็บกระเป๋ามาแล้ว จะพาไปเที่ยววันไหน"
“บอกน้าวิทย์กับน้าเพลงแล้วเหรอ"
“บอกแล้ว บอกด้วยว่าไปหลายวัน ยังไม่รู้กลับวันไหน" ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าน้าวิทย์กับน้าเพลงจะรู้ไหมว่ามากับผม ลึกๆในใจกังวลอย่างบอกไม่ถูก
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พ่อกับแม่ไม่ห้ามก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ"
“อืม...ดีแล้ว” ผมลูบหัวทะเลและพยายามยิ้มให้ไม่ต้องคิดอะไรมากไปด้วยอีกคน
“ตกลงไปวันไหน" ทะเลถามเอาคำตอบ ผมรู้ว่าทะเลอยากจะไปวันนี้เลยด้วยซ้ำเพราะดูท่าเตรียมพร้อมมาหมดแล้ว
“พรุ่งนี้..."

คำตอบคงเป็นที่พอใจทะเลจึงขึ้นมาโถมทับบนตัวผมแล้วกอดแน่น ผมกอดตอบแล้วซุกไซ้ซอกคออย่างสบโอกาส ทะเลหัวเราะออกมาเบาๆแล้วจู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นไล่ผมไปจัดกระเป๋า ผมทำเฉยไม่อยากทำทะเลจึงเดินไปเก็บของให้ผมแทน 

บ่ายๆเราออกมาหาอะไรกินแล้วก็หาซื้อของใช้จำเป็นที่ต้องเอาไปด้วย ทะเลจดมาเป็นรายการเหมือนเราไปกันหลายคนหรือไม่ก็ไปกันหลายวัน เราไปกันเองไม่ได้มีรถผมจึงต้องคอยปรามไม่ให้ของเยอะจนเกินไปจนยัดเข้ากระเป๋าไม่ลง หลังจากซื้อของกันจนครบแล้วทะเลก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป กล้องถ่ายรูป...กล้องดิจิตอลตัวโปรดที่เอาไว้ถ่ายรูปเล่นทะเลกลับลืมมันซะสนิท แม้อยากจะกลับไปเอาแต่ก็คงจะไม่ได้ในเมื่อตอนนี้น้าวิทย์กับน้าเพลงคิดว่าทะเลไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้นเราจึงตกลงกันว่าจะเดินหาซื้อกล้องที่ใช้ได้พอถูไถกับการเที่ยวในครั้งนี้

เราใช้เวลาจนถึงเย็นเดินเล่นและซื้อของอย่างไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ผมแวะเอาของมาเก็บที่ห้องก่อนจะไปร้านพี่ติน ใจจริงก็อยากให้ทะเลรออยู่ที่ห้องแต่ทะเลก็ปฎิเสธตามคาด วันนี้เพื่อนที่คณะท่าทางจะมากันเยอะและเตรียมปลดปล่อยกันเต็มที่ผมเลยไม่อยากให้ทะเลไปอยู่ท่างกลางเพื่อนผมในสภาพแบบนั้นเท่าไหร่
 
อย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อไปถึงที่ร้านก็คลาคล่ำไปด้วยคนคุ้นเคย ไม่เฉพาะแต่รุ่นตัวเองยังมีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องหรือแม้แต่คนต่างคณะติดสอยห้อยตามกันมา ผมเดินเข้าไปหาพวกในวงที่อยู่ตรงบาร์ก่อนให้พวกมันช่วยดูทะเลให้ในระหว่างที่ผมโดนเพื่อนในกลุ่มลากตัวไป พวกมันยืนยันหนักแน่นไม่ให้ผมต้องห่วงในขณะที่ทะเลเริ่มหน้างออยากจะตามไปกับผม ทะเลไม่รู้หรอกว่าผมไม่อยากให้ใครชวนทะเลชนแก้วหรือแม้แต่ชวนคุย มันหงุดหงิดเวลาที่มีคนทำแบบนั้นทั้งที่บางคนก็ดูบริสุทธิ์ใจ

พอฝากทะเลไว้กับเพื่อนสนิทได้ผมก็หายมาอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งจนถึงเวลาใกล้ขึ้นเล่นไอ้ร็อคถึงมาตาม ป็อปที่เดินมาด้วยดูอารมณ์เสียมากแต่ผมก็ไม่มีเวลาถาม ผมมองหาทะเลอีกครั้งและเห็นว่าอยู่กับปาร์คจึงส่งสายตาเป็นการบอกว่าให้มันดูทะเลให้ด้วยระหว่างนี้

แอลกอฮอล์ที่ผมได้รับทำให้ผมใส่อารมณ์เต็มที่ แสงไฟวูบวาบและเสียงโห่ร้องปลุกอารมณ์ให้คล้อยตามได้ไม่ยาก ผมไม่เคยเบื่อที่จะได้เล่นเพราะผมชอบบรรยากาศเข้มข้นของทุกสิ่งอยู่รวมกันที่ตรงนี้ มันคืออารมณ์ดิบที่ไม่ผ่านการกลั่นกรองทางสมอง เพียงแต่ปล่อยให้ความรู้สึกพาไป วันนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดคืออารมณ์ของมือกีตาร์ที่พาให้เพลงของเราฟังดูดุดันร้อนแรง ไม่บ่อยนักที่ป็อปจะอารมณ์เสียจนพาอารมณ์เพลงมาถึงในจุดนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักเมื่อมันได้ระบายออกมาที่นี่ ผมมองคนที่น่าจะเป็นต้นเหตุของป็อปที่ยืนอยู่กับทะเลก็ดูมีท่าทีหัวเสียไม่ต่างกัน

ทั้งผม ร็อค และตูนแอบแลกสายตากันอยู่หลายครั้งด้วยความสงสัยและเป็นห่วง เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ผมก็มายืนอยู่กับทะเลปล่อยให้พวกเพื่อนๆที่ดูจะประคองสติกันไม่อยู่แล้วสนุกกันต่อไป ทะเลที่อยู่ข้างๆผมมองอย่างตั้งคำถาม คำถามของทะเลก็เหมือนๆกับคำถามของพวกเราที่ยืนกันอยู่ตรงนี้และไม่มีใครรู้คำตอบ เราถูกกดดันด้วยอารมณ์ที่ยังคงคุกรุ่นของคนสองคนอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวได้ไม่นานนักป็อปก็ขอตัวกลับก่อน พอป็อปออกไปพวกเราก็เบนสายตามาที่ปาร์คที่ดูเหมือนกำลังต่อสู้อยู่กับอารมณ์ของตัวเอง ปาร์คทำนิ่งเฉย แต่หากดูจากสายตาทุกคนก็รู้ว่าปาร์คอยากตามออกไปมากแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละ เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งสิ้น นาทีที่ปาร์คไม่อาจปฎิเสธความต้องการของตัวเองได้อีกเขาก็วิ่งออกไปโดยไม่แม้แต่จะบอกลาเพื่อนสักคำ

...

วันนี้กับเมื่อวานดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อคืนนี้แม้จะดื่มหนักกว่าจะกลับก็ดึกมากแต่ทะเลก็ยังตื่นเช้ามาปลุกผมเพื่อทวงสัญญา ผมใช้เวลาหลับบนรถทัวร์ที่มุ่งลงใต้อยู่หลายชั่วโมงกว่าจะตื่นเต็มที่ก็เกือบจะถึงจุดหมาย เรานั่งรถต่อเรือใช้เวลาทั้งวันในการเดินทาง ตอนนี้เราอยู่บนเรือที่จะพาไปเกาะๆหนึ่งฝั่งอันดามัน ไม่ว่ามองออกไปทางไหนเราก็ถูกล้อมรอบด้วยผืนน้ำ เป็นผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มไม่คุ้นตาปราศจากความทรงจำไม่เหมือนที่ๆเราจากมา ผมสูดลมทะเลเข้าลึก เริ่มจะตื่นตัวกับบรรยากาศแปลกตา

ไม่นานผมก็เห็นเกาะที่เป็นจุดหมายของเรา พอใกล้เข้าไปเรื่อยๆน้ำทะเลก็เป็นสีฟ้าอ่อนกระจ่างใส มันสวยจนผมจ้องมองไม่ละสายตา เกิดอยากกระโจนลงไปทันทีทันใด ผมหันไปมองทะเลที่ยังคงสนใจแต่การถ่ายรูป เสียงชัตเตอร์ของกล้องดิจิตอลดังอยู่ข้างๆผมตลอดจนไม่แน่ใจว่ามีรูปผมอยู่ในกล้องมากเท่าไหร่แล้ว ทะเลกดชัตเตอร์อีกครั้งแล้วลดกล้องในมือลงเมื่อเห็นผมหันมาสนใจ สีหน้าทะเลดูเหนื่อยล้าจากการเดินทางแต่ก็ดูกระตือรือร้นในขณะเดียวกัน ผมขยับปีกหมวกแก๊ปที่ทะเลใส่เอียงไปด้านข้างมาบังแดดด้านหน้าให้แม้แสงจะอ่อนลงแล้ว พอเรือแล่นช้าลงผมกับทะเลก็เตรียมตัวเก็บของ

หลังจากลงเรือกว่าจะหาที่พักได้ก็เย็นจนพระอาทิตย์ตกดิน เราไม่ได้จองที่พักจึงลำบากหน่อยเพราะถึงจะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวแต่นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่ดี รีสอร์ทที่เราเข้าพักดูเงียบสงบ บ้านพักเล็กๆไม่ได้หรูหราอยู่กลมกลืนกับธรรมชาติ ทันทีที่เข้าห้องทะเลก็เริ่มเดินไปเดินมาสำรวจห้อง ห้องน้ำ ไม่เว้นแม้แต่ในตู้ เมื่อไม่มีอะไรให้สำรวจอีกต่อไปทะเลก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงข้างผมที่นอนอยู่ก่อนแล้ว

“อย่าเพิ่งนอน ไปกินข้าวกันก่อน" ทะเลทำท่าจะหลับผมเลยต้องพูดดักไว้ก่อน ทะเลพยักหน้าตอบดูหมดพลังงานเมื่อหัวถึงหมอนผมเลยปล่อยให้ทะเลนอนพักไปแล้วลุกขึ้นเอากระเป๋าเราสองคนไปเก็บให้เป็นที่เป็นทาง

ด้วยความที่เหนื่อยสะสมมาตลอดการเดินทางคืนนั้นเราก็นอนหลับยาวไปจนสายๆของเช้าวันใหม่ ทั้งผมและทะเลไม่ได้ต้องการทำอะไรเป็นพิเศษในวันนี้จึงปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปกับการนอนเอื่อยเฉื่อยอยู่บนเตียง พอตกบ่ายค่อยไปเดินเล่นหากิจกรรมทำ เราจองทัวร์ดำน้ำในวันพรุ่งนี้ก่อนจะเช่าเรือคายัคพายเล่นรอบๆเกาะ

เราตระเวนไปทั่วจนเย็นย่ำ แค่มาถึงที่นี่ไม่เท่าไหร่ผมก็อยากจะอยู่ต่อไปนานๆเท่าที่จะเป็นไปได้ มีบางช่วงที่ผมรู้สึกว่ามันพิเศษ เช่นเวลาที่เรามีเรื่องขัดใจกัน หรือทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่บอกได้ว่าเราสบายใจแค่ไหนที่เห็นเรื่องพวกนี้สำคัญพอที่จะทะเลาะกัน

ผมแอบกกกอดช่วงเวลาพิเศษนี้เอาไว้ไม่ได้บอกทะเลว่าผมชอบมันแค่ไหน...

เวลาผ่านไปไม่ได้เร็ว ไม่ได้ช้า จากวัน สองวัน เป็นสามวัน

เราเที่ยวทุกๆที่จนไม่เหลืออะไรให้สำรวจอีกต่อไป แต่ทั้งผมและทะเลไม่มีใครพูดถึงวันกลับ อ้อมกอดของกันและกันยังเป็นสิ่งที่เราต่างก็ต้องการและโหยหา ไม่มีทางที่เราจะอยากกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอันไม่แน่นอนที่รออยู่...


เสียงเพลงเศร้าสะเทือนใจที่เราแบ่งปันผ่านหูฟังคนละข้างดูเข้ากับแสงยามบ่ายและเสียงคลื่นอย่างน่าประหลาด ในมือของผมมีหนังสือ ในมือของทะเลมีกล้อง แต่ไม่มีใครสนใจสิ่งที่มีอยู่ เรามองออกไปที่น้ำสีฟ้าใสระยิบระยับจากแสงแดด เป็นเหมือนที่ๆคุ้นเคยแต่ก็ไม่ใช่ ผมกำทรายสีขาวไว้ในมือและปล่อยให้มันร่วงปลิวไปกับลม ดื่มด่ำความรู้สึกจากภายใน ทรายสีขาวในมือของผมละเอียดจนไม่สามารถปั้นออกมาเป็นรูปเป็นร่างแต่ดูบริสุทธิ์งดงาม พลันภาพอดีตอันเงียบเหงาก็วาบเข้ามาในความทรงจำ หากว่าทรายสีขาวของที่นี่จะให้ค่าแทนความรู้สึกสุขใจ ทรายหยาบๆที่เคยเล่นสนุกกับมันอยู่คนเดียวก็ให้ค่าแทนความว้าเหว่ที่ฝังลึกไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

“พี่บลู...พี่คิดเหมือนกันไหมว่าไม่อยากให้พระอาทิตย์ตก...ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้...ไม่อยากให้ถึงวันต่อๆไป" ทะเลเอ่ยถามผมเนิบช้ากับสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้
“คิด..." ผมตอบ โปรยทรายลงบนมือทะเลที่รองเอาไว้ ก่อนจะกอบกุมมือที่เต็มไปด้วยทรายนั้นไว้อีกที 
“เลมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับพี่บลู...ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่รู้สึกแบบนี้พี่รู้รึเปล่า..."
“เพราะเลเห็นพี่เป็นเพื่อนเล่น"
“ตอนเด็กๆคงใช่...แต่ตอนนี้พี่บลูไม่ใช่..." ทะเลพูดแล้วมองผมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติมว่าตอนนี้ผมเป็นอะไรสำหรับเขาแต่ผมกลับรู้สึกเหมือนโดนบอกรักทางสายตา

ผมเป็นคนไม่ค่อยบอกความรู้สึกตัวเองออกมาทางคำพูด เพราะความรู้สึกบางอย่างก็ยากที่จะหาคำมาอธิบาย ผมอยากบอกทะเลว่าผมก็มีความสุขเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน แต่มันก็ไม่อาจใช้คำว่าความสุขได้ในเมื่อความรู้สึกผมมันมากมายเกินกว่าคำๆนั้น

ทะเลหยิบกิ่งไม้แถวนั้นมาเขียนชื่อของผมแล้วส่งไม้นั่นให้ผมเขียนชื่อของทะเลลงไปข้างกัน จากนั้นทะเลก็ถ่ายรูปทรายสีขาวที่มีชื่อเราสองคนเก็บเอาไว้...

มันไม่ใช่รูปที่มีผม...ไม่ใช่รูปที่มีทะเล...เป็นแค่ชื่อของเราที่เขียนบนทราย...แต่เมื่อผมย้อนกลับมามองภาพนี้ทุกครั้ง...ผมจะคิดถึงความทรงจำที่นี่ของเราเสมอ...

ผมกับทะเลนั่งกันอยู่ที่หาดจนเห็นเค้าของเมฆฝน น้ำทะเลดูลึกลับแปรปรวนเมื่อปราศจากแสงจากดวงอาทิตย์ ชื่อของเราสองคนที่เขียนเอาไว้ค่อยๆเลือนลงจากหยดน้ำ ต้นไม้ที่เรานั่งอยู่ดูจะไว้สำหรับหลบแดดโดยเฉพาะจึงไม่ได้ช่วยอะไรเลยในเวลานี้ ทะเลเก็บไอพอด กล้อง และหนังสือของผมใส่กระเป๋าแล้วชวนกลับบ้านพัก คนที่อยู่แถวหาดก่อนหน้านี้ต่างก็แยกย้ายหลบฝนไปหมดแล้ว เราเปียกขึ้นทุกทีจนต้องลุกขึ้น ไม่ทันที่ทะเลจะเดินไปไหนผมก็ฉุดทะเลกลับมาก่อน

เพราะรู้ว่าที่ตรงนี้ไม่มีใครผมถึงยังอยากอยู่ตรงนี้...ตรงที่รอบด้านเป็นม่านฝนและมีเพียงเราสองคน ผมเบียดทะเลจนหลังติดต้นไม้แล้วค่อยๆก้มหน้าลงเข้าไปใกล้ ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจ ผมมองทะเลที่หลับตารอสัมผัสแล้วแตะริมฝีปากคนตรงหน้าเบาๆ...

ผมทำทุกอย่างเหมือนครั้งแรกที่เราจูบกัน...คลอเคลีย...บดเบียดซ้ำๆโดยไม่ได้รุกล้ำ

จูบกลางสายฝนดำเนินไปยาวนานจนเราทั้งคู่เปียกปอน ผมจับมือทะเลวิ่งกลับบ้าน อารมณ์ปั่นป่วนไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผมรอทะเลไขห้องอย่างใจร้อน ไม่ต้องบอกทะเลก็คงจะรับรู้ว่าจูบนั้นมีผลต่อผมอย่างไร แค่ประตูห้องปิดลงเท่านั้นเราก็โผเข้าหากันด้วยความต้องการ สัมผัสร่างกายกันและกันอย่างร้อนแรง ตัวเราสองคนที่เปียกโชกทำให้พื้นเป็นรอยหยดน้ำตามทางจนถึงห้องน้ำ ผมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของทะเลออกจนเปลือยเปล่า ดันทะเลเข้าไปใต้ฝักบัวแล้วเปิดน้ำ ทะเลยังโอบแขนทั้งสองข้างไว้ที่รอบคอผมไม่ปล่อยดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้งและอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ ผมรู้ว่าทะเลคงไม่อยากให้ผมจ้องมองร่างของตัวเองจึงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจแต่การกระทำนี้มันทำให้ผมยิ่งคลั่ง

ผมจับข้อมือทะเลออกและตรึงไว้ที่ผนังห้องน้ำ ทะเลปรือตามองผมที่กำลังจ้องมองมาที่ร่างของตัวเองแล้วหลบสายตา ผมมองความอ่อนใสไร้เดียงสาของทะเลด้วยความหวามไหว มันดูน่าบดขยี้ให้แปดเปื้อนอย่างที่สุด ผมเป็นฝ่ายจูบทะเลอีกครั้ง พยายามยับยั้งตัวเองสร้างความคุ้นชินให้ทะเลก่อน เริ่มรุกเร้าสร้างความทรมานให้ทะเลเช่นเดียวกับที่เขาทำต่อความรู้สึกผม ให้เขาทรมานเจียนคลั่งอย่างที่ผมเป็น...

ทะเลทรุดลงนั่งเมื่อผมรุกเร้าหนักเข้า แววตาใสๆเต็มไปด้วยความต้องการอย่างเปิดเผย ผมปลดกางเกงของตัวเองแล้วดึงทะเลขึ้นมานั่งตัก กดตัวทะเลลงมาเพื่อให้รับผมเข้าไป ถึงเวลานั้นผมก็ปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองพัดพาไป อารมณ์หนักหน่วงรุนแรงถูกส่งต่อไปหาทะเลที่ตอบสนองทุกสัมผัสอย่างเต็มใจ

ทะเลจิกทึ้งเสื้อผมพยายามเก็บกลั้นเสียงร้องครางไม่ให้ดังเกินไปอย่างที่ชอบทำตอนถึงจุดนั้นของอารมณ์ ต้นขาทั้งสองข้างบีบเกร็งรัดเอวผมแน่นก่อนจะผ่อนคลายลง

เมื่อครั้งแรกของเราจบลงกลางสายน้ำใต้ฝักบัว ครั้งต่อมาก็เริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง 

วันนั้นและตลอดทั้งคืนเราไม่ได้ออกจากห้องไปไหน ผมเห็นฝนที่ยังคงตกอยู่ตลอดจากหน้าต่าง รู้สึกเปลี่ยวเหงาจนต้องกอดทะเลไว้เพื่อเติมเต็มบางอย่างภายในใจ บางครั้งการร่วมรักของเราก็รุนแรงด้วยตัณหา แต่บางครั้งก็อ่อนโยนด้วยความรัก ทะเลมักเรียกร้องคำว่ารักจากผมในเวลาแบบนี้ เหมือนๆกับที่ผมเรียกร้องให้เขาเรียกชื่อผมเพื่อรู้สึกถึงความมีตัวตน

เมื่อถึงยามเหนื่อยอ่อนเราเพียงกอดก่ายกัน เป็นของกันและกันผ่านความรู้สึก ผ่านความร้อนจากร่างกายที่แนบสัมผัส

ผมซบอกทะเลหลับตา นิ้วของทะเลเกี่ยวพันเส้นผมของผมเล่น รู้สึกอิ่มเอมสุขใจ ผมไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้...ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่านี้ ผมได้ยินเสียงหัวใจ ได้กลิ่นของทะเลที่จดจำได้ขึ้นใจ ความสุขมันเรียบง่ายเวลาที่ไม่มองมันผ่านความเจ็บปวด ผมรู้สึกว่าเราเป็นของกันและกัน ผมเป็นของทะเล...ทะเลเป็นของผม เป็นความรู้สึกลึกซึ้งเท่าที่จะลึกซึ้งได้...รักเท่าที่จะรักได้...

ผมบอกทะเลว่าเขาเป็นโลกทั้งใบสำหรับผม เป็นคำพูดจากใจที่ไม่ใช่คำว่ารัก ทะเลไม่ได้พูดอะไรตอบเมื่อได้ยินเพียงแต่กอดผมแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ...ทะเลร้องไห้ให้กับความสำคัญของตัวเอง ร้องไห้ให้กับผม ร้องไห้ให้กับสิ่งที่กัดกินผมอยู่ภายใน ผมรู้ว่าทะเลเข้าใจมันทั้งหมด เข้าใจว่าการเป็นโลกทั้งใบของผมนั้นมีความหมายมากแค่ไหน

เวลานี้ผมไม่นึกกลัวอีกแล้วอนาคต
อะไรจะเกิดก็ช่าง

ถ้าหากว่ามันจะเลวร้าย...ผมก็จะนึกถึงช่วงเวลานี้...
ช่วงเวลาที่ผมมีทะเลอยู่ข้างๆ...ยิ้มให้ผม...ร้องไห้ให้ผม



รักผม

...

เรากลับจากที่นั่นในอีกสองวันถัดมา เกือบจะครบหนึ่งอาทิตย์ที่ผมลางานเอาไว้จึงไม่สามารถยื้อช่วงเวลานี้ให้นานขึ้นได้อีกแล้ว ผมชวนทะเลอยู่ที่ห้องผมอีกสองสามวันเพราะยังอยากที่จะอยู่ด้วยกันอีกสักหน่อยซึ่งทะเลก็ไม่ได้ปฎิเสธ

ผมกลับมาทำงานเต็มเวลาชดเชยส่วนที่ขาดไปด้วยจึงไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากนักแต่ก็รู้สึกดีทุกครั้งเมื่อนึกว่ามีคนรออยู่ และยิ่งเป็นความสุขใจเมื่อเปิดประตูมาและเจอคนๆนั้น แค่วันนี้วันเดียวที่ผมไม่อยู่ห้องของผมก็ดูเปลี่ยนไป ทะเลล้างรูปที่เราไปเที่ยวมาทั้งหมดเอามาแปะบนผนังห้องบนหัวเตียงเต็มไปหมด มีรูปที่เราถ่ายคู่กัน รูปที่ทะเลถ่ายผม รูปที่ผมถ่ายทะเล รูปทะเล รูปท้องฟ้าปะปนกันไป ผมสะดุดตากับรูปทรายที่เขียนชื่อเราสองคนไว้ก็ตอนนั้น มันอยู่ท่ามกลางรูปของเราแต่ก็โดดเด่น ผมนึกชอบมันขึ้นมาทันทีเพราะยังจดจำช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกนั้นได้

“เลก็ชอบรูปนี้" ทะเลกระโดดขึ้นเตียงมากอดผมจากข้างหลังแล้วพูดขึ้นเมื่อเห็นผมมองอยู่ที่ภาพนี้

ผมดูรูปทุกรูปของเราอยู่นิ่งนาน ทะเลก็กอดผมไว้นิ่งๆ ต่างคนต่างนึกถึงสถานที่แห่งนั้นที่อยู่ห่างไกล ผมจับมือทะเลที่กอดเอวผมอยู่แล้วก็นึกอยากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมาโดยพลัน

“เลกล้าสักไหม" จู่ๆผมก็ถามขึ้น
“กล้า แต่ก็ไม่เคยคิดจะสัก" ทะเลมองหน้าผมอย่างสงสัย "พี่อยากให้เลสักเหรอ"
“อืม...สักที่เดียวกัน...”ทะเลพยักหน้าตอบตกลงทันทีโดยไม่แม้แต่จะถามว่าเราจะสักตรงไหน

ผมพาทะเลลงมาข้างล่างหาดูว่าพี่ปาล์มกลับไปหรือยัง โชคดีที่พี่ปาล์มยังอยู่ถึงแม้ว่าจะเย็นมากแล้ว ผมบอกพี่ปาล์มว่าอยากให้สักชื่อของทะเลตรงตำแหน่งด้านข้างนิ้วนาง ซึ่งเป็นที่ๆไม่โจ่งแจ้งเกินไปมีแค่ตัวเองเท่านั้นที่จะเห็น และทะเลก็จะสักชื่อของผมลงไปตรงนั้นเช่นเดียวกัน

การสักชื่อของอีกฝ่ายลงไปเป็นการสื่อสิ่งที่อยู่ในใจผมออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง มันสื่อนัยยะหลายอย่างทั้งการเป็นของกันและกัน และแทนค่าความรักที่ไม่มีวันลบเลือน

แม้จะกะทันหันแต่ทะเลก็ตอบรับความต้องการของผมด้วยรอยยิ้มที่บอกว่าเขาเต็มใจ ผมให้ทะเลเป็นคนเลือกแบบตัวอักษรที่จะเขียนเป็นชื่อของเราสองคน การสักชื่อแค่นั้นเจ็บเพียงแค่เล็กน้อย และภายในเวลาไม่นานเราก็มีชื่อเล็กๆของอีกฝ่ายอยู่บนนิ้ว รอบๆชื่อยังเป็นรอยแดงสดใหม่  ผมกับทะเลต่างก็พอใจและจ้องมองไม่ลดละ

ถึงจะเป็นการตัดสินใจเพียงชั่วแล่นแต่มันกลับให้ความรู้สึกท่วมท้น บ่อยครั้งหลังจากนั้นที่เราลูบไล้นิ้วของอีกคนอย่างพอใจที่เห็นชื่อของตัวเองอยู่บนนั้น...เป็นความรู้สึกพอใจลึกๆที่ได้เป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์...

ผมคิดว่ารอยสักอันนี้มีความสำคัญแต่ไม่คิดว่าในเวลาต่อมามันจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ


ทะเลอยู่กับผมต่ออีกสามวันหลังจากนั้น

ตลอดอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกัน เรากอดกัน  พลอดรักกัน ร่วมรักกัน บอกรักกัน ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
เราใช้มันอย่างคุ้มค่าราวกับรู้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสุดท้าย...

ก่อนที่ทุกอย่างมันจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการพบเจอ

ก่อนที่เราจะจากลา...





Song Titles : I'm Yours
Artist :  The Script

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนหน้าสุดท้ายแล้ว  o18

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #241 เมื่อ01-08-2013 22:31:18 »

มีหลายความรู้สึกทั้งรัก ซึ้ง เศร้า ปะปนกันไปหมด
ยังไม่ปลอดโปร่ง ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นอีก

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #242 เมื่อ01-08-2013 23:53:02 »

ขอแฮปปี้นะคะๆๆๆๆๆ ToT

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #243 เมื่อ02-08-2013 00:40:16 »

มีคนเคยบอกว่าการจากลามีอยู่เพื่อพบกันใหม่

เราเชื่อนะ

คือเห็นประโยคสุดท้ายนี่ใจแว้บละ55

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ :man1:

ออฟไลน์ iamew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #244 เมื่อ02-08-2013 01:01:04 »

จากลาในแง่ไหน?
เพราะเล่าเรื่องจากมุมของคนที่มีหลุมดำในใจอย่างบลูซินะ เลยรู้สึกว่าพอจะมีความสุขมันก็ยังมีความเศร้าแฝงเร้น

อะไรจะเกิดก็เกิดเถอะ เตรียมใจไว้แล้ว

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #245 เมื่อ02-08-2013 04:55:41 »

 :hao5: ชอบเรื่องนี้ๆ ให้ความรู้สึกหน่วงๆดีจังเลย

แต่เราแอบคิดว่าคงจะจบไม่เศร้า(ละมั้ง?!)   :hao3:

มาต่อเร็วๆน้าา :mew1:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #246 เมื่อ02-08-2013 07:54:07 »

อ่านแล้วหน่วงมากก
รอตอนต่อนะฮะ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #247 เมื่อ02-08-2013 10:29:24 »

 :a5:  ตอนหน้าสุดท้าย!!!!!!!!!!!!!!!!!!    ง่ะ จะจบยังไงน้ออออออออออ :hao5: :hao5:  อย่าเศร้าน๊าาาไม่อยากกินมาม่าจะจบอยู่แว้วววว :katai1:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #248 เมื่อ02-08-2013 12:33:16 »


เรื่องนี้ก็สนุกไปอีกแบบแตกต่างจากเรื่องรักหวานแหววทั่วไป

จะรอติดตามว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร

+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #249 เมื่อ02-08-2013 14:01:53 »

อย่าจบแบบเศร้าเลยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
« ตอบ #249 เมื่อ: 02-08-2013 14:01:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #250 เมื่อ02-08-2013 21:50:31 »

การจากลาหรอ :hao7:

อะไรจะลาไปไหน ใครจะไปไหน :katai1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #251 เมื่อ20-08-2013 11:51:14 »

มารอน้องทะเล

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 19 ] 01-08-13
«ตอบ #252 เมื่อ21-08-2013 16:58:27 »

ตามอ่านจนทัน แต่อดใจหายกับตอนจบไม่ได้

ออฟไลน์ สักวัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #253 เมื่อ29-08-2013 02:38:01 »

-20-
Yellow

http://www.youtube.com/v/yKNxeF4KMsY?hl=en_US&version=3


บ้านที่เคยเป็นที่พักพิงอยู่ในระยะสายตาใกล้เข้าไปทุกทีแล้ว...

ช่วงสามสี่ทุ่มแบบนี้รถที่มีบนถนนเบาบาง  ผมขับรถเอื่อยเฉื่อย กินลม มองข้างทาง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนบอกให้ทะเลกลับบ้านแต่การกระทำกลับสวนทางกับคำพูด ผมคิดว่าตอนนี้น้าวิทย์กับน้าเพลงคงต้องเริ่มเป็นห่วงบ้างแล้ว อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมานี้มันยาวเกินกว่าปกติที่ทะเลไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งไหนๆ ต่อให้แกล้งทำเป็นลืมไม่อยากให้ทะเลกลับไปก็หนีความเป็นจริงไม่ได้อยู่ดี

หน้าบ้านเปิดไฟส่องสว่างเอาไว้ราวกับกำลังรอคอยคนที่จะกลับมา พอเราไปถึงผมก็จอดรถแล้วดับเครื่อง ทะเลลงมายืนอยู่ตรงหน้ายังไม่เดินเข้าบ้านและมองผมอย่างสังเกตท่าที

“ไว้อีกวันสองวันเลจะไปหาใหม่นะ" ผมพยักหน้า ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะใจหายไปทำไมกับการจากลาแค่ชั่วคราว
“จะรอ" ทะเลยิ้มรับคำพูดผม ถอยหลังไปจนถึงประตูบ้านแล้วค่อยหันหลังเปิดเข้าไป

...จะรอ...

เป็นคำที่ผมบอกทะเลทิ้งท้ายเอาไว้ และหมายความตามนั้นตลอดอีกหลายปีต่อมา...

...

ช่วงที่ทะเลเพิ่งกลับไปผมก็กลับมาสอนและอยู่กับเพื่อนซะส่วนใหญ่ ทั้งซ้อมเพลงใหม่และไปไหนๆกับพวกมันบ้าง ผมไม่ได้คิดอะไรมากที่ทะเลไม่ได้มาหาอีกเป็นอาทิตย์หลังจากนั้น แม้จะคิดถึงหรืออยากเจอแต่ผมก็อดทนรอ  ผมเลิกคิดแง่ร้าย เหม่อลอยหรือซึมเซาเหมือนแต่ก่อนเวลาที่ไม่มีทะเล ผมคิดว่าความเชื่อใจนั้นช่วยได้ รอยสักบนนิ้วนั้นก็ช่วยได้ มันเป็นความรู้สึกเหมือนมีกันและกันอยู่ตลอดโดยไม่ได้พบหน้า ทำให้อุ่นใจทุกครั้งที่ผมคิดถึงทะเล

“มีเด็กมาถามหามึงเยอะนะช่วงนี้" อยู่ดีๆร็อคก็พูดขึ้นขณะที่เรามานั่งสูบบุหรี่หน้าตึก เป็นช่วงต้นชั่วโมงที่ต่างคนต่างรอนักเรียนของตัวเอง
“เด็กที่ไหน"
“ก็ทั้งเด็กที่กูสอนแล้วก็เด็กป็อป ตั้งแต่กลับมาหน้าตามึงรับแขกกว่าแต่ก่อน มีแต่เด็กมากรี๊ดจนบางทีกูก็อิจฉานะ" ผมฟังแล้วได้แต่หัวเราะกับคำพูดของมัน
“จะอิจฉาทำไม ตูนไม่ได้มากรี๊ดกูด้วยซะหน่อย"
“ทำเป็นเล่นไป ผู้ชายแอบมองมึงอยู่เงียบๆก็มี กูเห็น"
“เพ้อเจ้อ" ผมว่า มันมองหน้าผมยิ้มๆแล้วเปลี่ยนเรื่อง
“เหมือนกูไม่ได้เจอเลนานแล้ว ฝากบอกหน่อยว่าคิดถึง" ผมเหล่มองมันแล้วก็ถอยหายใจ พอมันพูดถึงทะเลผมก็นึกอยากเจอเหมือนกัน
“กูก็ไม่ได้เจอมาเป็นอาทิตย์แล้ว บอกจะมาหาแล้วก็ปล่อยให้รอ..."
“มึงก็ไปหาเองสิ บ้านอยู่แค่นี้"
“.....”
“ทำไมวะ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันอีกใช่ไหม"
“ไม่มีหรอก คิดว่าวันสองวันนี้ไม่มาเดี๋ยวกูก็คงไปหา" ผมพูดเพื่อให้มันและตัวเองสบายใจ ผมดูออกว่าร็อคเป็นห่วง ถ้อยคำหยอกเล่นของมันมักทำให้ผมผ่อนคลายสบายใจที่จะเล่าเรื่องของตัวเองแบบนี้เสมอ

“นึกว่าหายไปไหน" ผมกับร็อคหันไปมองตามเสียงเห็นป็อปที่เดินออกมา "เด็กมึงสองคนเพิ่งโทรมาลา" ป็อปบอกแล้วนั่งลงข้างๆ
“ว่างเหมือนกันเหรอ" ป็อปพยักหน้าตอบคำถามผมแล้วขอบุหรี่จากเราสองคนบ้าง

หมดจากชั่วโมงนี้เราทุกคนก็ไม่มีสอนแล้ว วันนี้เป็นวันพุธที่มีเด็กเรียนน้อยและก็ไม่ต้องไปเล่นที่ร้านต่อเราเลยนั่งคุยกันไปเรื่อย ไปๆมาๆป็อปมันก็ถามถึงเรื่องเจ็ทสกี เพราะรู้ว่าผมรักมันไม่แพ้ดนตรีที่คลุกคลีอยู่ทุกวันมันถึงแปลกใจที่ไม่ได้เห็นผมขลุกตัวอยู่ที่หาดขี่เจ็ทสกีทั้งวันอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ

“ไม่ได้ขี่ตั้งแต่ออกจากบ้าน นานมากแล้ว ถ้าจะเล่นจริงๆก็ต้องไปเช่า"
“ไปไหมล่ะ ตอนนี้เลยก็ได้" ป็อปชวน ผมมองควันลอยอ้อยอิ่งยังไม่ได้ตอบอะไร มันสองคนก็มันได้เร่งรัดให้ผมพูด ทิ้งเวลาให้ผมคิด เจ็ทสกีไม่ใช่แค่การไปเล่นสนุกธรรมดาทั่วไปสำหรับผม ที่ไม่ได้กลับไปเล่นเพราะผมยังคิดถึงเจ็ทสกีคู่ใจทั้งสองลำ ผมมองไม่เห็นว่ามีทางไหนที่จะได้ขี่มันอีกครั้งหากความสัมพันธ์กับน้าวิทย์ยังคงเป็นแบบนี้ มองไม่เห็นว่าจะได้กลับไปแข่งอีกได้ไหมหากไม่มีมัน หรือว่าสุดท้ายแล้วผมต้องตัดใจจากทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด

ป่วยการที่จะคิดมาก...
ในที่สุดผมก็ลุกขึ้นแทนคำตอบ

“ไปรถมึงนะ ยืมชุดไว้เปลี่ยนด้วย" ผมบอกไอ้ร็อค มันยิ้มกวนตีนเหมือนรู้อยู่แล้วว่ายังไงผมจะไป

เราสามคนกลับมาที่ชายหาดซึ่งเป็นที่ประจำของเราหลังจากห่างหายไป ผมเลือกเช่าเจ็ทสกีกับพี่ที่รู้จักกันดีที่อยู่แถวนั้นโดยไม่ได้ตอบอะไรเมื่อเขาถามถึงเจ็ทสกีของผม พอได้ลองขี่จริงๆแล้วมีความแตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยในความรู้สึกแต่ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิดไว้ ยังไงการได้เร่งความเร็วและความรู้สึกที่ได้ปลดปล่อยมันก็ทำให้ผมเป็นสุขได้มากกว่าที่จะยึดติดอยู่กับสิ่งใด

ป็อปกับร็อคที่เป็นคนชวนแค่มานั่งจิบเบียร์อยู่เป็นเพื่อนมองดูผมที่เป็นจุดเล็กๆอยู่กลางทะเลเพียงเท่านั้นก็ถือเป็นการผ่อนคลายของพวกมันแล้ว ผมใช้เวลาอยู่บนทะเลได้ไม่นานพระอาทิตย์ก็ตกดิน สองเท้าของตัวเองได้แต่จำใจเดินขึ้นฝั่งมานั่งจิบเบียร์กับพวกมันก่อนที่เราจะกลับ ยามนี้รู้สึกดีที่มีเพื่อนทั้งสองที่ยังคงอยู่กับผมไม่ไปไหน เราสามคนและที่นี่เกือบทุกอย่างให้ความรู้สึกเหมือนตอนเราอายุสิบเจ็ด เหมือนตอนที่เราได้รู้จักกันใหม่ๆ แต่ในความเหมือนนั้นก็มีความต่าง อะไรที่ผ่านมาไม่อาจทำให้ผมเป็นผมคนนั้นตอนอายุสิบเจ็ด เราทุกคนไม่เหมือนตัวเองในอดีต เราเติบโตมาด้วยกัน เปลี่ยนไปด้วยกัน แต่ก็ยังคงอยู่ด้วยกัน เป็นความสำคัญของเพื่อนที่น้อยครั้งนักที่ผมจะนึกถึง...

“กูกับร็อคว่าจะถามมึงนานแล้ว...แต่ยังไม่มีจังหวะเหมาะ” ป็อปหันมาพูดกับผม สีหน้าบอกบ่งบอกความสำคัญของคำถาม ร็อคเองก็มองทั้งผมและป็อปอย่างรอคอยอะไรบางอย่าง
"บลู ถ้ากูขอให้มึงมาทำเพลงจริงจังกับพวกกู จะมีทางเป็นไปได้ไหมวะ"

ผมเงียบ ยังไม่ได้ตอบอะไรไปในทันที ความหมายของทั้งสองคนผมเข้าใจมันดี ที่พวกมันถามอย่างจริงจังขนาดนี้คือพวกมันตัดสินใจแล้วว่าจะผลักดันวงของเราไปสู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งจุดนั้นถึงเราจะเคยคุยกันบ้างแต่ผมก็ยังไม่เคยคิดถึงขนาดนั้นจริงๆจังๆมาก่อน แม้จะเข้าใจ แต่ผมก็ต้องใช้เวลาคิดถึงความต้องการของตัวเอง

“คิดไปก่อน ยังไม่ต้องรีบตอบก็ได้ มันเป็นความฝันของกู แต่อาจไม่ใช่ฝันของมึง..."
"แต่ถ้าหากว่ามันใช่กูก็จะดีใจมาก" ร็อคพูดเสริมพี่มัน อีกครั้งที่คำพูดของมันทำให้ผมยิ้ม
“มึงถามตูนเรื่องนี้รึยัง"
“ถามแล้ว แต่มันก็เหมือนมึง ยังไม่ได้ตอบ" ผมพยักหน้า ผมกับตูนเรียนด้วยกัน คณะเดียวกันย่อมเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังเรียนอยู่เป็นการเรียนรู้เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับอนาคต หากเปรียนเทียบกับผมแล้วการตัดสินใจของตูนน่าเป็นห่วงกว่าผมอยู่มาก เพราะสิ่งที่ผมเรียนอยู่ผมก็รักมันเท่ากับดนตรี เลือกทางใดทางหนึ่งผมก็รักมันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าผมจะเลือกทางไหนก็เท่านั้นเอง

“จริงๆแล้วความฝันของกู…ไม่เหมือนพวกมึงหรอก" ผมพูดออกมาตามความรู้สึก ณ เวลานั้น พอผมบอกพวกมันก็มองหน้าผมเหมือนกลัวว่าผมจะปฏิเสธ คงไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะพูดมันคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจ เรื่องที่ผมไม่เคยบอกพวกมันหรือบอกใครมาก่อน ผมสูดหายใจเข้าลึกหรี่ตาเพ่งมองอะไรที่อยู่แถวนั้นก่อนจะเริ่มพูดต่อ “ตอนเด็กๆกูมีความหลังฝังใจ รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีตัวตนในสายตาของคนอื่น กูไม่มีแรงผลักดันในการใช้ชีวิต อยู่ก็เพราะต้องอยู่ อยู่ทั้งที่ไม่รู้ว่าอยู่เพื่ออะไร กูถามตัวเอง คำถามมันผุดขึ้นมาทุกครั้งที่เจ็บ ทุกครั้งที่เหงา แต่กูก็เด็กเกินไปที่จะรู้คำตอบ…มันก็เลยกลายเป็นความฝัน…ฝันของกูไม่เหมือนคนอื่น มันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเลยถ้าเอาไปเปรียบเทียบกัน กูแค่อยากรู้ว่ากูเกิดมาเพื่ออะไร นั่นแหละฝันของกู…มีแค่นั้นเอง…”

ป็อปกับร็อคนิ่งเงียบรับฟังสิ่งที่ผมพูด จริงอยู่ว่าพวกมันไม่เคยถาม หลายครั้งที่มีท่าทีสงสัย แต่มันก็เว้นพื้นที่ส่วนตัวไว้ให้ พอผมบอกเล่าเรื่องราวออกมาเองเพียงเล็กน้อยทั้งสองคนจึงมองผมด้วยสีหน้าและแววตาบอกความรู้สึกที่เหมือนกัน

“กูคิดว่ามึงน่าจะเจอคำตอบแล้ว” หลังจากที่เงียบมานานป็อปก็พูดประโยคนี้ ผมมองที่ป็อป แต่ป็อปไม่ได้มองที่ผม สายตามองตรงไปที่ใดสักแห่ง
“อืม” ผมตอบรับ ละสายตาจากเพื่อนก้มมองกระป๋องเบียร์ที่อยู่ในมือ

ไม่จำเป็นต้องบอกคำตอบ



สองวันผ่านพ้น ทะเลก็ยังไม่ได้มาหา ผมเริ่มคิดถึงเหตุผลว่าอะไรทำให้ทะเลออกมาไม่ได้ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงปิดเทอม และเหตุผลเดียวที่ผมคิดออกก็คือน้าวิทย์…

ผมตัดสินใจไปหาทะเลตอนกลางคืนอีกครั้งเมื่อไม่สามารถสงบจิตใจได้อีกต่อไป ผมรู้สึกอัดอัดกับคำถามที่ถามตัวเองอยู่ตลอดว่าทำไมและเริ่มฟุ้งซ่านขึ้นทุกทีเมื่อหานั้นคำตอบไม่ได้

ที่หน้าบ้านปิดไฟมืดและเงียบ มีแค่เสียงรถผมที่ทำลายความเงียบเหล่านั้น
ผมรอ

จากนาที เป็นชั่วโมง
รู้สึกทรมานร้อนรนขึ้นทุกที

ทะเลหลับ ไม่อยู่ โดนห้าม หรือทะเลไม่อยากลงมาหา คำถามที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วน ทั้งรู้สึกสับสนไม่เข้าใจ

สุดท้ายผมก็กลับมาพร้อมความรู้สึกนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้ อะไรที่สำคัญ วันเวลาเดิมๆกลับมาอีกครั้งและครั้งนี้ก็หนักหนาสาหัสกว่าเก่า ผมไปบ้านทะเลอีกหลายวันหลังจากนั้นแต่ก็เป็นเหมือนเดิม ทุกๆคืนไฟจะปิดเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ ไม่มีความเคลื่อนไหวในความมืด โลกเหมือนหยุดนิ่งระหว่างที่ผมเฝ้ารอ รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้า

ตอนนี้ผมอยากเจอทะเลแทบบ้าแล้ว ความรู้สึกนี้มันทำให้ผมเลือกที่จะไปเผชิญหน้ากับน้าวิทย์ มันเป็นวิธีเดียวที่ผมคิดได้ เป็นวิธีเดียวที่จะได้คำตอบ แค่ใช้ความกล้าเดินเข้าไปหา ขอแค่ได้เจอ ให้รู้ว่าทะเลไม่ได้เป็นอะไร แค่ได้คำตอบ แค่รู้สาเหตุ ถึงจะเป็นเรื่องไม่น่าฟังก็ยังดีกว่าไม่รู้อยู่แบบนี้

ผมเอาเวลาว่างตอนบ่ายวันหนึ่งไปที่บ้าน พี่ๆที่อู่มองผมอย่างแปลกใจแต่ก็ทักทายเป็นกันเองไม่ผิดไปจากเมื่อก่อน พอผมถามหาน้าวิทย์พี่มดกลับบอกว่าไม่อยู่ ไม่มีใครอยู่นอกจากช่างเพราะน้าวิทย์ น้าเพลง และทะเลไปกรุงเทพ อีกสองสามวันนี้น่าจะกลับ ผมรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินแบบนั้น ตัดความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับทะเลออกไป ผมตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็จะมาที่นี่อีก อยากมาคุยกับน้าวิทย์ ไม่อยากหลบๆซ่อนๆอีกทั้งที่น้าวิทย์ก็น่าจะรู้เรื่องของเรา

พี่มดพูดคุยเล่าเรื่องราวตั้งแต่ผมไม่อยู่ให้ฟังว่าปฏิกิริยาที่น้าวิทย์กับทะเลมีต่อกันเป็นอย่างไร ทะเลาะกันบ่อยแค่ไหนกว่าทะเลจะออกจากบ้านแต่ละครั้ง ทั้งสองยังคงมึนตึงใส่กัน และน้าวิทย์ก็ดูเครียดกับเรื่องของผมกับทะเลมากจนเดี๋ยวนี้พวกช่างชอบเกี่ยงกันไม่อยากเข้าหา

ระหว่างที่พี่มดเล่าผมมองไปที่เจ็ทสกีของผมที่จอดอยู่ด้านใน เห็นมันยังจอดอยู่ที่เดิมของมันไม่ได้หายไปไหนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองยังคงอยู่ที่นี่

“พี่เห็นเฮียดูแลมันแทนบลูอยู่บ่อยๆ บางทีก็ไปลูบๆคลำๆ เห็นแล้วก็เศร้าว่ะ” พี่มดพยักพเยิดไปที่เจ็ทสกีของผมแล้วว่า   

ผมรับฟังพร้อมๆกับความเสียใจ กลับออกมาจากที่นั่นพร้อมกับความรู้สึกผิด ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจแต่ผมก็สร้างรอยร้าวเอาไว้กับครอบครัวของผม ผมรู้ว่าน้าวิทย์รักทะเล และน้าวิทย์ก็รักผม ผมไม่เคยนึกถึงความรู้สึกน้าวิทย์ให้ลึกซึ้งเลยว่าการที่เขาไล่ผมออกจากบ้านไม่เพียงแต่จะทำให้ผมเสียใจ แต่คนที่เอ่ยปากไล่ก็เสียใจเจ็บปวดไม่แพ้กัน


ผมไปที่บ้านตอนกลางวันแทนที่จะเป็นตอนกลางคืนตลอดอาทิตย์จากวันนั้นแต่ก็ยังไม่มีใครกลับมา น้าวิทย์โทรมาสั่งงานทุกวันจากคำบอกเล่าของพี่มดแต่ก็ไม่ได้บอกอยู่ดีว่าจะกลับวันไหน

ผมรอด้วนความอดทน
จนในที่สุดพวกเขาก็กลับมา

น้าวิทย์กับน้าเพลงกลับมา…แต่ทะเลไม่ได้กลับมา

น้าวิทย์กับน้าเพลงมาถึงในเช้าวันหนึ่ง ผมไปถึงตอนเย็นวันนั้นจึงได้พบกับทั้งสอง เมื่อได้เผชิญหน้ากันน้าวิทย์ก็มองผมอย่างสำรวจตรวจตราแล้วบอกให้ผมเข้าไปคุยกันในบ้าน ผมแปลกใจ มองหาทะเลด้วยความรู้สึกร้อนรนอยากเจอ

น้าเพลงเข้ามาหาถามความเป็นอยู่ของผมด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เจอหน้า เราสามคนขึ้นมาที่ชั้นบน คนที่ผมคิดว่าจะได้เจอก็ไม่อยู่บนนี้ น้าวิทย์กับน้าเพลงดูมีเรื่องที่จะคุยกับผมจริงจังยิ่งทำให้นึกหวั่นใจ เรื่องเดียวที่ต้องคุยกันเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากเรื่องของทะเล

“เลอยู่ไหนครับ” ผมทนไม่ไหวถามคำถามที่อยากรู้ที่สุดออกไป
“กรุงเทพ” น้าเพลงบอก ไม่ได้ขยายความเพิ่มเติมแล้วหันไปมองน้าวิทย์
“เลจะอยู่ที่นั่น ไม่กลับมาแล้ว” ผมใจหาย เจ็บเสียดด้วยความไม่เข้าใจว่าอะไรคือไม่กลับมาแล้ว “น้าให้เลย้ายไปเรียน ไปอยู่กับป้าที่นั่นจนกว่าจะเรียนจบ” น้าวิทย์หยุดดูท่าทีของผมก่อนจะพูดต่อ

“บลู…น้าตกลงกับเลแล้ว และน้าก็จะขอร้องบลูเหมือนกับที่น้าขอเล…” ผมสบตากับน้าวิทย์ เห็นชัดๆเต็มตาถึงความเหนื่อยล้า และความลำบากใจกับสิ่งที่เขาจะบอก

“น้าอยากให้บลูกับเลห่างจากกันจนกว่าเลจะเรียนจบ บลูทำให้น้าได้ไหม”

ไม่ได้ เป็นคำตอบแรกที่เข้ามาในหัว แต่ผมก็ไม่ได้พูด

“ในสายตาน้าเลยังเด็ก น้าอยากให้เลโตพอที่น้าจะเชื่อในการตัดสินใจเรื่องของบลู”น้าวิทย์อธิบายด้วยเหตุผล ไม่เหมือนกับคราวที่แล้วที่ใช้อารมณ์ตัดสินเรื่องของเรา ผมรับฟัง เข้าใจและเจ็บปวดเพราะรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธ

“หลังจากเลเรียนจบ ถ้าผมกับเลยังรู้สึกเหมือนเดิม…น้าวิทย์จะยอมรับเรื่องของเราใช่ไหมครับ...”
 
น้าวิทย์มองผม เว้นระยะเล็กน้อยเหมือนลังเลใจ แต่ที่สุดแล้วก็ตอบออกมา

“ใช่”

หนทางที่จะให้น้าวิทย์ยอมรับเรื่องของเราตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าผมในแบบที่ไม่คาดคิด นับจากนี้ไปจนถึงวันที่ทะเลเรียนจบคือเวลาห้าปี มันคือเงื่อนไขของเวลา และผมไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจ ทะเลก็คงจะปฏิเสธมันไม่ได้เหมือนๆกัน น้าวิทย์เลือกหนทางนั้นให้ผมกับทะเลแล้ว...

ถึงจะเข้าใจแต่ผมก็เจ็บเมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอคนที่ผมรัก คนที่เป็นโลกทั้งใบสำหรับผม

ผมพยักหน้าตอบรับกับสิ่งที่น้าวิทย์ขอแล้วซบหน้าลงกับฝ่ามือ พยายามเก็บกลั้นอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ ผมนั่งอยู่แบบนั้นไม่รับรู้สิ่งใดๆรอบตัว ไม่ได้มีใครพูดอะไรอีก เวลาผ่านไปในความเงียบ ผมสัมผัสได้ว่ามีมือมาลูบหลังของผมอย่างปลอบโยน สัมผัสอบอุ่นที่ผมจำได้นั้นทำให้ผมร้องไห้ ผมสะอื้นเหมือนครั้งแรกที่น้าเพลงจับมือผม ผมครวญครางอย่างเจ็บปวดเหมือนครั้งแรกที่น้าเพลงกอดผม

“น้าเพลง...” ผมกอดน้าเพลงแน่น หวังว่ามันจะบรรเทาความเจ็บปวดของอนาคตนับจากนี้
“บลูรักน้องไหม"
“รัก...ผมรักทะเล...”
“น้องก็รักบลู ร้องไห้เหมือนบลู น้ารู้ว่ามันเจ็บแต่ถ้าบลูกับเลผ่านมันไปได้ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เจ็บอีก...เวลาไม่กี่ปีน้าเชื่อว่าบลูจะโตขึ้น อยู่ด้วยตัวเองได้...ดูแลน้องได้...แล้วน้าก็จะไม่ห่วง"

น้าเพลงกอดตอบผม พูดปลุกปลอบใจผมที่อีกครั้งมันเจ็บร้าว น้าเพลงไม่สนใจที่จะลุกขึ้นไปเปิดไฟทั้งที่รอบด้านปกคลุมไปด้วยความมืดเพียงแต่นั่งอยู่กับผม น้าวิทย์ไปจากตรงนี้นานแล้วหลังจากที่ผมตอบตกลงแต่โดยดี

“บลูต้องเข้าใจน้าวิทย์นะ ต้องเข้าใจว่ามันยาก"
“ผมรู้ ผมขอโทษ...”

น้าเพลงส่ายหน้ายิ้มให้ผม และพูดคำพูดที่ผมอยากได้ยินจากน้าวิทย์กับน้าเพลงที่สุด

"บลูไม่ได้ทำอะไรผิด...ความรักของบลูไม่ใช่เรื่องผิดนะลูก...”

...

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าวงของเรามีเป้าหมายเดียวกัน เมื่อผมกับตูนตอบตกลงกับคำชวนก็สร้างความสุขให้พวกมันเป็นอย่างมากราวกับว่าความฝันเป็นจริงแล้วทั้งที่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ

ผมเดินหน้าต่อไปโดยใช้วงของเราเป็นจุดเริ่มต้นกลับมาลุกขึ้นยืนหลังจากที่พายุผ่านไป ผมไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะมีเพื่อนแต่ก็ยังรู้สึกเหงาเมื่ออยู่ลำพังในห้องเล็กๆของตัวเอง

วันนั้นหลังจากกลับมาผมซุกกายบนเตียงที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นของทะเล พยายามเก็บกอดจดจำไว้ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ไปไหนเป็นเวลาหลายวันจนเป็นไข้ สร้างความลำบากให้เพื่อนต้องดูแลยามผมอ่อนแอทุรนทุรายเหมือนจะตายไปต่อหน้าต่อตาพวกมัน ผมพูดพร่ำถึงความหลังอันเจ็บปวดเมื่อไม่ได้สติ บางครั้งเรียกร้องไม่ให้ใครทิ้งผมไป แต่บางครั้งก็ผลักไสเหมือนเห็นผู้คนที่ทรมานผม ทำร้ายผมในอดีต

ผมเจ็บเหมือนจะตาย แต่ก็ผ่านมันมาได้

ทุกความเจ็บปวดที่ผ่านมาทำร้ายผม...ความรักที่ว่าสวยงามก็ทำร้ายผม...แต่ไม่ได้ฆ่า คนเราไม่ได้ตายง่ายดายถึงเพียงนั้น
ในเวลาต่อมาเมื่อความเสียใจเจือจางผมก็เลือกใช้ชีวิตต่อไปด้วยความหวังและเฝ้ารอ

ผมเรียน ในขณะเดียวกันก็ทำเพลง ทำงานไปด้วย ผมกลับไปหาน้าวิทย์กับน้าเพลงบ่อยๆซึมซับความรู้สึกเดิมๆเป็นครั้งคราว นานๆทีน้าวิทย์หรือน้าเพลงจะเล่าให้ผมฟังบ้างว่าทะเลเป็นยังไงบ้าง ผมรู้สึกว่าน้าวิทย์กำลังเฝ้าดูความรักของเราด้วยความรู้สึกที่ค่อยๆเปลี่ยนไปตามระยะเวลาและเห็นสายตาอ่อนโยนบางครั้งที่ทอดมอง

เกือบสามปีผ่านไป มีแค่ความรู้สึกของผมที่มีต่อทะเลยังคงเดิมในขณะที่ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนแปลง ทันทีที่ผมกับตูนเรียนจบฝันของป็อปกับร็อคก็เป็นความจริง

เราได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงค่ายหนึ่งทำให้ชีวิตผมหลังจากนั้นไม่เหมือนเดิม พวกเราเริ่มเป็นที่รู้จักซึ่งไม่เป็นที่คุ้นชินกับผมอย่างมาก คนที่เข้าหามีมากมายแต่ผมก็เว้นระยะห่างกับพวกเขาเอาไว้ โลกส่วนตัวผมเริ่มถอนร่นเข้ามาจนเหลือแค่ห้องของตัวเองที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผมอย่างแท้จริง

จากวันที่ทะเลไม่อยู่ห้องของผมที่ทะเลตกแต่งเอาไว้ก็ยังเหมือนเดิม ผมปล่อยไว้แบบนั้นเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนทะเลยังคงอยู่กับผม ผมจะนึกถึงทะเลที่นอนข้างๆเมื่อผมนอนบนเตียง จะนึกถึงช่วงเวลาที่เราไปเที่ยวกันเมื่อมองภาพบนฝาผนัง นึกถึงเสียงกีตาร์เมื่อผมอ่านหนังสือ รายละเอียดทุกอย่างผมจดจำได้หมดกระทั่งเสียงบอกรักของทะเลที่ยังก้องอยู่ในความทรงจำ

ตอนนี้ทุกครั้งที่ผมคิดถึงทะเลมันทำให้ผมยิ้มได้

ผมไม่ได้บอกคำตอบกับเพื่อนตอนที่คุยกันเรื่องความฝันของผม...เพราะคิดว่ามันรู้...
คำถามที่ว่าเกิดมาเพื่ออะไร...ผมคิดว่าตัวเองโชคดีที่เจอคำตอบ

คนบางคนวิ่งวนแหวกว่ายอย่างน่าเจ็บปวดอยู่กับความว่างเปล่า ผมพบเจอด้านมืดในจิตใจมนุษย์และรู้ว่าเมื่อเขาทำสิ่งเหล่านั้นมันไม่ใช่ความสุข แต่เพียงแค่ปลดปล่อยความทุกข์ของตัวเอง
 
ผมเคยแหวกว่ายอยู่ในความเจ็บปวดเช่นเดียวกันแต่ในขณะเดียวกันผมก็เรียนรู้...เราไม่ใช่แค่เกิดมาเพื่ออะไร...แต่สามารถเกิดมาเพื่อใครได้เช่นกัน

ไม่ว่าทะเลจะรู้หรือไม่แต่ผมคิดว่าทะเลเกิดมาเพื่อผม...เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ให้ความรักที่คนอย่างผมโหยหา และเมื่อผมโตขึ้นผมถึงได้ตอบตัวเองว่าผมก็เกิดมาเพื่อทะเล

ผมอยากทำให้ทะเลมีความสุข อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคนๆนี้โดยไม่ได้หวังอะไรนอกจากรอยยิ้ม อยากเป็นฝ่ายให้มากกว่าเป็นฝ่ายได้รับ

ผมอยากจะอยู่เพื่อคนๆนั้น...เพื่อทะเลของผม


.
.
.
.

ในวันที่น้าวิทย์กับน้าเพลงยื่นเงื่อนไขให้กับผม ผมกลับมาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง เป็นกระดาษที่น้าเพลงยื่นให้ก่อนจาก...กระดาษที่เขียนข้อความของทะเลที่ฝากถึงผม ตอนนี้มันแปะอยู่ที่หัวเตียง อยู่ท่ามกลางภาพของเรา

ผมอ่านข้อความนั้นซ้ำ ที่มีเพียงแค่สั้นๆ และใช้ชีวิตทุกๆวันอยู่กับปัจจุบัน




'รอเลนะ เลรักพี่บลู'





                                  -END-



Song Titles : Yellow
Artist :  Coldplay

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในที่สุดก็จบจนได้  :hao5:
เขียนนิยายนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ นับถือคนที่เขียนนิยายแล้วมาต่อได้อย่างสม่ำเสมอมาก เรากว่าจะเขียนได้แต่ละตอนนี่สาหัสสุดๆ

ขอบคุณมากเลยนะคะที่อ่านจนมาถึงตรงนี้ ไม่รู้ว่าตอนจบจะถูกใจกันไหม แต่เราคิดว่ามันจบแบบที่เราต้องการมากที่สุดแล้ว
เขียนๆเรื่องนี้บางทีก็ร้องไห้ เราตกใจมากที่มันเป็นไปได้ ไม่เคยรู้เลยนอกจากอ่านเรื่องของคนอื่นแล้วตอนเขียนเองก็ร้องไห้ได้เหมือนกัน เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ

ขอยกรายชื่อเพื่อขอบคุณนักอ่านที่ให้กำลังใจเราตรงนี้เป็นการพิเศษ แค่เล็กๆน้อยๆแต่มีความหมายสำหรับมากเราค่ะ
 
igaga , BBChin JungBB , แมวดำ , -Blackcloud- , Jthida , fuku , Ellette , janamanza , phakajira ,
bulldog17 , didi , MEME_B , Syntyche , iforgive , indy❣zaka , sin , irksome , Alyssa , mujika_keita,
chisarachi , kwangun , Millet , krappom , กุหลาบเดียวดาย , berlyn,pharm , Tasaitatsu , Blurry,
♥lvl♀‘O’Deal2♥ , Kaewkaew , vipkava , mamimew , ka[ze]na , papangki , Fujoshi , yayee2,
Skell_Xiao , uknowvry , Lovecartoon1996 , wargroup , Windyne ,poppycake , nicedog,
tumprom , smmikie , เมล่อนคอซอง , 111223 , suck_love , kwangkoyha , sweetbasil , Minnie~Moo,
pockypocky , myd3ar , honey honey drop , อายทำไม


และขอขอบคุณนักอ่านขาประจำที่เม้นให้เกือบทุกตอน อยากบอกว่าบางคนตอนไหนไม่เจอแอบใจหาย คนอ่านยิ่งน้อยๆอยู่ 555

drasil , Sofa , AGALIGO , นางฟ้า , nunnan , 1wariya1 , aloney , 403 , candynosugar+ ,
oaw_eang , ammamooty , -west- , soluna , Starry , iamew , malula , BeeRY , Theomen

ขอบคุณสำหรับนักอ่านที่ตามอ่านเงียบๆด้วย คิดว่าน่าจะมีอยู่บ้าง  :pig4:


ตั้งแต่ต้นมีแพลนไว้ว่าจะทำเรื่องนี้เป็นหนังสือ ใฝ่ฝันมานานอยากมีหนังสือบ้าง คิดว่าคงจะเป็นแค่เล่มเล็กๆดูจากจำนวนหน้าแล้ว แต่เดี๋ยวไปจัดการเขียนตอนพิเศษก่อนแล้วไว้มาบอกรายละเอียดอีกที นักอ่านคนไหนสนใจก็บอกกันหน่อยนะคะ(เหมือนสำรวจคร่าวๆให้รู้ว่ามีบ้างไหม) น่าจะเขียนเรื่องของทะเลเพิ่ม แล้วก็มีเรื่องของป็อปกับร็อค บางตอนอาจเอาลงที่นี่ด้วย  :man1:

สุดท้ายขอบคุณที่ติดตามและหวังว่าจะได้เจอกันอีกในเรื่องหน้านะคะ

สักวัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2013 01:53:31 โดย สักวัน »

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #254 เมื่อ29-08-2013 07:42:19 »


ขอบคุณนะคะสำหรับงานเขียนที่เราประทับใจมากเรื่องหนึ่ง

ชอบตอนจบแบบนี้นะคะ ...มันไปได้ดีกับโทนและอารมณ์ของเรื่องราวทั้งหมด


ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #255 เมื่อ29-08-2013 08:09:17 »

จบแล้ววว ขอบคุณสำหรับนิยายจ้าาา
 :mew4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #256 เมื่อ29-08-2013 08:42:28 »

ไชโยจบแล้ว


หลังๆ เราไม่กล้าเข้ามาอ่านค่ะ เพราะเราเครียดมากอ่านแล้วอินจัด (- -"
รออ่านแบบรวดเดียวจบ เป็นตอนจบที่คุ้มค่ากับการรอคอยมากๆ
ขอบคุณที่สร้างบลูและทะเลขึ้นมานะคะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #257 เมื่อ29-08-2013 13:01:12 »

ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆจ้า
ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีจริงๆไม่ว่าเศร้า ผิดหวัง หดหู่ รวมทั้งอารมณ์รัก
ทำให้อินไปกับทั้งบลูและทะเล ที่สำคัญภาษาสละสลวยมาก แถมยังได้ฟังเพลงเพราะๆตั้งหลายเพลง
เรายกมือจองสองเล่มเลยจ้า ชอบจริงๆนะ

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #258 เมื่อ29-08-2013 13:09:55 »


จบได้ดีนะ---ให้มันเป็นเรื่องในอนาคต
แล้วให้คนอ่านได้คิดต่อไปด้วย

ถ้ามั่นคงซะอย่างก็จะผ่านไปได้อย่างแน่นอน
ไม่ต้องไปทำตัวประชดชีวิตหรือต่อต้านรุนแรงอะไร
แค่พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเราจริงจังนะไม่ได้เล่นๆ

ดีใจด้วยที่จบจนได้แต่ก็แอบเสียดายที่จบซะแล้ว
แต่ไม่เป็นไรถ้ามีเรื่องใหม่ก็จะคอยติดตามต่อไปนะ

+ 1 + เป็ดจ้า

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #259 เมื่อ29-08-2013 13:49:44 »

ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ด แต่วันนี้พอเขามา เห็นเป็นตอนจบ รีบอ่านเลย
และก็เป็นอีกตอนที่ต้องเสียน้ำตาอยู่หน้าจอ (เข้าใจความรู้สึก ทั้งของบลู เพลง วิทย์)
ด้วยการใช้ภาษา ลีลา ท่วงทำนองในการเขียนชั้นเยี่ยม จึงทำให้คนอ่านอินเนอร์ไปกับตัวละคร
แถมจบเรื่องราวลงแบบ...แบบ...แม้ปมจะคลี่คลายแล้ว(แถมเป็นไปในทางที่ดีอีกด้วย)
แต่ก็ดูเหมือนจะยังมีอะไรเล็กๆคาใจคนอ่าน(สงสัยจะเป็นเราคนเดียวกระมัง)
ทำให้คนอ่านเกิดมีคำถามขึ้นในใจได้อีก ให้คนอ่านคิดจินตนาการต่อไปอีก
แบบนี้จัดว่า เป็นการจบนิยายแบบมืออาชีพเลยนะ อยากบอกอีกทีว่า นิยายเรื่องนี้เยี่ยมจริงๆ
ขอบคุณมากสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
« ตอบ #259 เมื่อ: 29-08-2013 13:49:44 »





ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #260 เมื่อ29-08-2013 14:51:53 »

ชอบอ่ะ ผ้ใหญ่ก็ทำตัวได้ดีมากๆ ให้โอกาสเด็กด้วย :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #261 เมื่อ29-08-2013 14:55:58 »

อ่าาจบแล้ว แอบใจหายนะเนี่ย ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยค่ะ เรียนอย่างเดียวเลยนี่ก็อ่านรวดเลย π_π
ถึงแม้มันจะจบแบบ(แอบ)แฮปปี้ (รึเปล่านะ..แต่คงใช่)แต่มันก็หน่วงๆอยู๋ดี 55 ตั้งแต่ต้นจนจบภาษาดีมากๆเลยอะชอบๆ

ขอบคุณมากๆเลยนะคะ><

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #262 เมื่อ29-08-2013 16:28:14 »

 :hao5:  ซึ้งอ่ะ จบสวยมากเลยค่ะ ชอบอารมณ์เวลาอ่านมากๆเลย มันอบอุ่น ปน หน่วงๆ

ขอบคุณคนแต่งมากเลยค่ะ แต่งเรื่องอื่นต่อน้าา :กอด1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #263 เมื่อ29-08-2013 16:30:22 »

อ้าวววววววววววว

แล้วไม่มีตอนได้เจอกันหรอ

ให้รออย่างเดียวมันไม่ฟินอ่าาาาาา

TTTT^TTTT

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #264 เมื่อ29-08-2013 18:43:25 »

 :a5:   อยากได้ตอนพิเศษ อ่าาาาาาาา  :hao5:

จบได้เฉ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  (วิบัติเพื่อเสียง) :katai3:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #265 เมื่อ29-08-2013 19:23:50 »

จบได้ละมุนมาก
ไม่ได้รู้สึกค้างคาอะไร เหมือนมีคำตอบในตัวว่าบลูจะรอ และเลจะกลับมาโดยไม่ต้องเขียนถึงบทสรุป
สัมผัสได้ถึงความรักที่ลึกซุึ้งของทั้งสองคนจริงๆค่ะ
ภาษาเรื่องนี้เขียนสวยมาก อ่านแล้วเหมือนหลุดไปในโลกของเลกับบลูจริงๆเลย
ขอบคุณนิยายสนุกๆเรื่องนี้นะคะ ^_^ 

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #266 เมื่อ29-08-2013 19:51:53 »

ก่อนหน้านี้งานเยอะมาก มาอ่านอีกที จบแล้ว แว้กกกกกก :katai1:
เป็นตอนจบที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มอยู่นะคะ ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆให้อ่านค่ะ
สนใจรวมเล่มด้วยคน อยากอ่านตอนพิเศษหลังจากนี้จังเลย จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันไหมนะพี่บลูกับน้องเล :mew6:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #267 เมื่อ30-08-2013 00:42:54 »

เขียนเก่งมากกกกกกกกกกกก อ่านแล้วหน่วงทั้งเรื่อง อยากอ่านตอนพิเศษจังค่ะ ตอนนี้บลูเป็นคนของประชาชนแล้วสินะ แต่เชื่อว่าอย่างบลูคงยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเลอยู่แล้ว

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #268 เมื่อ30-08-2013 01:09:17 »

พกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :mc4: :mc4:

คือแฮปปี้ ถึงไม่ได้เจอกัน แต่เราคนอ่านสามารถรับรู้ได้ว่ามันแฮปปี้ จบมีความสุขในแบบของบลูและทะเลเอง  :katai2-1:

ขอบคุณ คุณสักวัน มากนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: ที่ไม่ทำร้ายจิตใจคนอ่าน ทั้งที่คนอ่านอย่างเราก็เตรียมใจไว้แล้วว่าถ้าเรื่องดำเนินมาแบบนี้ มันต้องจบไม่สวยแน่ๆ รักคุณสักวันที่สุดเลยยยยย  :m3: :m3:

สาบานเลยว่าอ่านไปลุ้นไปมากกก

อ่านบรรทัดนี้ตาเหลือบบรรทัดถัดไป เป็นตอนจบที่ทำให้เรายิ้มกว้างที่สุดดดดด [เพิ่งมายิ้มกับตอนนี้แหละ ตอนก่อนหน้าคือโศก น้ำตาไหลพราก]

ขอบคุณที่ทำให้บลูรู้จักกับความสุข คือต้องเจอกับความทุกข์ ความทรมาน ต้องพบเจออะไรมากมายตั้งแต่เด็ก และเกินกว่าเด็กทั่วไปจะรับได้ เพียงเพื่อให้ได้เจอกับทะเล มันคุ้มจริงๆค่ะ  :sad4:

me/บุคมาร์กไว้เป็นเรื่องประทับใจอีกเรื่องหนึ่ง

+1 +เป็ด  :t2:

แล้วจะรอเรื่องต่อไปนะคะ


ออฟไลน์ mamimew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] 29-08-13 -จบ-
«ตอบ #269 เมื่อ30-08-2013 10:50:03 »

จบแล้วววววว

จริงๆแอบเสียดายที่ไม่ได้มารอตอนใหม่แล้ว 5555

ก็สารภาพว่าบางตอนอ่านบ้างเม้นบ้างไม่เม้นบ้าง  แต่ติดตามเรื่อยๆ

จบแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบเนาะ ไม่หนักหน่วงเท่าไหร่หลังจากหน่วงมาทั้งเรื่องแล้ว

อยากได้หนังสือนะจริงๆ อยากได้ตอนพิเศษแบบ หลังจากเลเรียนจบด้วย

อยากรู้ว่าเค้าจะใช้ชีวิตต่อด้วยกันแบบไหนนะอะไรงี้ 55555

ก็ขอบคุณคนแต่งที่ทำให้เรามีนิยายน่าติดตามแบบนี้อ่านกันเนอะ

ชอบภาษาที่ใช้ในเรื่อง แล้วชอบการสื่อสารของบลูมาก

ชอบหลายๆประโยคที่พออ่านเจอแล้วแอบจุก แบบ มันแบบ เจ็บเลยยย 555555

ถ้าแต่งเรื่องอื่นอย่าลืมมาบอกกันนะคะ จะคอยติดตาม ^^

 :-[  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด