………………………29……………………..
ชลธร
ผมถอนหายใจอย่างยากเย็นพลางยกของเหลวสีอำพันขึ้นดื่ม อย่าเพิ่งว่าผมเลย ผมรู้ว่าเหล้ามันช่วยอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมอยากเมา อยากจะขาดสติไปสักพัก เพื่อจะได้หลีกหนีจากโลกแห่งความจริง โลกที่ผมเป็นโง่ เหอะ ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคนที่จบปริญญาเอกด้วยเกียรตินิยม อย่างผมจะโง่จนมองไม่ออกว่าฟ้าไม่เคยรัก ไม่เคยจริงใจกับผมเลยสักนิด ทำไมผมถึงโง่แบบนี้นะ
เพล้ง!!!
ขวดสีใสที่ข้างในเคยมีเหล้าอยู่เต็มถูกผมคว้างไปกระแทกพนังจนแตกกระจาย เศษแก้วบางส่วนกระเด็นมาบาดผิวของผมจนเลือดไหลซิบ ผมได้แต่มองเลือดที่ไหลออกมาอย่างเฉยชา
เลือดโง่ๆ เอาออกมาซะบ้างก็ดี
ผมมองไปรอบๆบ้านด้วยหัวใจที่ปวดหนึบไม่ว่าจะมองไปมุมไหนภาพในอดีตที่ผมเคยทำร้ายเมฆกลับสะท้อนเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ผมรู้สึกผิด ผิดที่ทำร้ายเมฆซ้ำแล้วซ้ำเล่า กี่ครั้งที่ผมทำร้ายร่างกาย กี่ครั้งที่ผมทำร้ายจิตใจ กี่ครั้งที่ผมทำให้เมฆร้องไห้ แล้วผมต้องทำยังไงต่อไป ทำยังไง ถึงจะชดเชยความผิดที่ผมเคยทำไว้กับเมฆ ????
“เฮ้ย ไหงเมาเป็นหมาแบบนี้อ่ะพี่ใหญ่” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเข้ามาพยุงผม
“นี่เลือดออกด้วยนิ มานี่เลยนั่งเลยนะ เดี๋ยวผมทำแผลให้”
“อื้อ ใครน่ะ” ผมถามพลางเพิ่งมองคนที่เข้ามาช่วยพยุง แม้ว่าตอนนี้สติผมจะเหลือน้อยเต็มที
“ผมเองพี่”
“ผมไหนว่ะ ไม่รู้จักคนชื่อนี้เว้ย”
“ไอ้พี ของพี่ไง ไอ้พี่บ้าเนี่ยเมาแล้วลืมน้อง ไปๆ ไปล้างหน้าจะได้สร่างเดี๋ยวผมทำแผลให้” เจ้าพีบอก ผมส่ายหน้าเพื่อลดความเมาก่อนจะเข้าไปล้างหน้าตามที่พีบอก
“แล้วนี่มาได้ไง” ผมเอ่ยถามหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ
“ก็มาดูในพี่นะแหล่ะ พี่หมอฝากมาน่ะ” เจ้าพี ตอบเสียงใสพลางลงมือทำแผลให้ผมไปด้วย พีเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเองครับ
ค่อนข้างสนิทกัน เผลอๆผมสนิทกับเจ้าพี มากกว่าน้องชายอย่างเจ้าเล็กซะอีก ก็อย่างว่าตอนไปอยู่เมืองนอก เจ้าเด็กนี่มันก็เกาะแข้งเกาะขาผมไปด้วย เจอกันทุกวัน ไม่สนิทไม่รู้จะว่ายังไงแล้วรับ
“พี่หมอเนี่ย น่าจะไปเป็นหมอดูแทนหมอคนเนาะ ดูแม่นชะมัดว่า พี่ใหญ่จะออกมาสภาพนี้ ฮ่าๆๆ” เจ้าน้องชายหัวเราะร่า ก่อนที่จะ
โดนผมเขกหัวเพราะความหมั่นไส้
“เหอะ อย่ามาล้อผู้ใหญ่นะไอ้เด็กแสบ”
“โถ่พี่ ผมก็แค่อยากให้พี่ยิ้มบ้าง พี่รู้เปล่าว่าสองวันมานี่ คนอื่นเขาเป็นห่วงพี่กันขนาดไหน”
“ครับๆ มาดูแล้วก็กลับไปดิ พี่อยู่คนเดียวได้ พี่ไม่เป็นอะไรหรอก”
“ไม่อ่ะ พี่หมอบอกว่า ถ้าพี่ยังไม่ยอมเลิกกินเหล้า ไม่ให้ผมกลับ ผมต้องทำตามคำสั่งพี่หมอ ส่วนพี่ก็เป็นเด็กดีเชื่อฟังผมเข้าใจ
ป่ะ”
“เหอะ ” ผมแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ พี่หมอนะพี่หมอขนาดตัวเองไม่ว่างยังส่งไอ้ตัวแสบนี่มาคุมผมซะงั้น
“แล้วพี่ล่ะ มีเรื่องอะไรนักหนา ถึงได้เมาเป็นหมาขนาดนี้”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็กน่า”
“เด็กที่ไหน ผมโตแล้วนะ จบมหาลัยแล้วด้วย เหอะ พี่ใหญ่ ผมรู้นะว่าพี่มีเรื่องกลุ้ม แล้วมันก็ต้องเป็นเรื่องของคนที่ผมเจอวันนั้นด้วยใช่ไหม” ไอ้เด็กแสบคาดคั้น
“เจอครั้งเดียวจำแม่นเชียวนะ”
“จำแม่นดิ เพราะว่าวันนั้นพี่ทิ้งผมไว้ที่ร้านเฉยเลย ทั้งๆที่พี่ไม่เคยทิ้งผมสักครั้ง แสดงว่าคนๆนั้นน่ะต้องสำคัญกับพี่มากแน่นอน”
สำคัญ ???
นั่นสิ สำหรับผม เมฆ สำคัญหรือเปล่า …..
ผมรู้แค่ว่า คนแรกที่ผมนึกถึง คือเมฆ ผมมักจะ โกรธแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าเมฆ ไปไหนโดยที่ไม่บอก หรือหายไป มันมากกว่าตอนที่ผมเห็นว่าฟ้ากำลังจะถูกไอ้ชินปล้ำซะอีก นั่นมันหมายถึงว่า เมฆสำคัญกับผมหรือเปล่า
“นั่งทำหน้าเครียดอะไรกันห่ะ สองคนนี้” เสียงที่สามดังขึ้นก่อนที่ผู้ชายท่าทางขี้เล่นคนนึงจะเดินเข้ามา
“พี่หมอ มาก็ดีแล้วช่วยตรวจพี่ใหญ่หน่อยดิ เป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ จู่ๆก็กินเหล้าเมาอย่างกะหมา แถมยังทำร้ายตัวเองอีก”
เจ้าพีฟ้องคนมาใหม่ซะยกใหญ่
“ไงว่ะ เป็นเอามากเลยละสิ” พี่หมอยกยิ้มก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
“เหอะ” ผมแค่นยิ้ม พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นั่นไงๆ เป็นเอามากจริงๆด้วย พี่หมอตรวจดูสิ”
“พี พี่เป็นหมอ หัวใจ ก็จริงนะ แต่ว่า เรื่อง “หัวใจ” ของไอ้ใหญ่ พี่ช่วยไม่ได้จริงๆ ของแบบนี้ต้องให้เจ้าตัวเขารักษาของเขาเอง”
“พูดอะไรกันเนี่ย ไม่เห็นเข้าใจเลย ไหนๆพี่หมอก็มาแล้ว ก็ดูแลต่อเลยแล้วกัน ผมจะไปรับไลน์เบล ที่โรงเรียนพอดี ไปนะ”
“เอ๋า มีอะไรจะปรึกษาพี่ไหมไอ้น้อง” พี่หมอเอ่ยถามหลังจากที่พีกลับบ้านไปแล้ว
“ไม่รู้สิพี่ ผม ไม่รู้จะพูดอะไร มันสับสน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว เร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ติด” ผมบอกออกไปด้วยความสับสน เมื่อ
ก่อนผมเฝ้าบอกตัวเองว่าเกลียดเมฆ แต่พอวันที่ผมเห็นเมฆ โดนรถชนหัวใจผมกลับเจ็บปวด ผมรู้สึกว่า ตัวเองจะเสียเมฆไปไม่
ได้ ผมไม่อยากเสียเขาไป
“ถามใจตัวเองสิ ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร แล้วตกลงตอนนี้ หัวใจแก อยู่ที่ใครกันแน่”
“ผม ผม …ไม่..”
“ไมรู้ กับไม่ยอมรับมันต่างกันนะ ไอ้น้อง แกลองวางเหตุผลร้อยแปดประการที่แกคิดอยู่ตอนนี่ลงไปซะ แล้วลองใช้ความรู้สึก
ล้วนๆมาตัดสินซิว่าไอ้อาการทั้งหมดที่แกเป็นมาเนี่ย มันหมายความว่าอะไร”
“แต่ผมยังรักฟ้าอยู่”
“เอ๊ะ ไอ้นี่ การที่แกยึดมั่นในรักน่ะมันก็ดี แต่แกน่ะกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า ยอมรับหัวใจตัวเองซะเถอะใหญ่ พี่ไม่อยากให้
แกนั่งเสียใจในวันที่สายไปเหมือนที่พี่เคยเป็น แกรู้หรือเปล่า ว่าวันที่นัททิ้งพี่ไปอเมริกากับคู่หมั้นเขาน่ะ พี่เจ็บแค่ไหน ไอ้เสียใจที่เสียเขาไปก็ส่วนนึง แต่ที่พี่เจ็บกว่าคือ พี่ไม่เคยได้บอกเขา สักครั้งว่าพี่ “รักเขา” ”
ผมได้แต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาจริงๆแล้วผมรู้สึกยังไงกับเมฆกันแน่ รัก หรือว่า เกลียด???
“ค่อยๆคิดไปแล้วกัน พี่รู้ว่าแกสับสน แต่พี่เชื่อนะว่าแกมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วเพียงแต่ว่า แกไม่กล้าที่จะยอมรับมันเท่านั้นเอง
แต่ขอเตือนไว้อย่าง แกน่ะมีเวลาคิดทั้งชีวิต แต่น้องเมฆคงไม่มีเวลารอทั้งชีวิตนะ”
“พี่หมายความว่ายังไง เมฆเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามอย่างร้อนรน ไหนหมอบอกว่าเมฆปลอดภัยแล้ว
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แต่เวลาน่ะ มันไม่รอแกหรอกนะไอ้ใหญ่ อย่ารอจนถึงวันที่มันสายเกินไป ”
“อ้าวตาใหญ่ ทำไมวันนี้กลับบ้านได้ล่ะลูก” แม่เอ่ยทักทันทีที่ผมเดินเข้ามาในบ้าน
“ก็ผมคิดถึงแม่นิครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วกอดแม่เอาไว้แน่น
“แหม ปากหวาน ฉันไม่ใช่สาวๆนะยะ ไม่ต้องมาปากหวานใส่หรอก”
“ผมคิดถึงแม่จริงๆนะครับ”
“ใหญ่ เป็นอะไรหรือเปล่าลูก” แม่เอ่ยถามพลางลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
“แม่ครับ แม่เคยทำผิดไหม เคยทำผิดกับใครสักคนหรือเปล่า” ผมถามด้วยหัวใจที่สับสน
“เคยสิลูก”
“แม่เคยทำผิดกับคนๆนึง ผิดมากซะจนแม่ไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งชาติจะชดเชยให้เขาหมดหรือเปล่า”
“ใครเหรอครับ”
“น้องชายของลูกไงจ๊ะ” แม่บอกเสียงแผ่ว
“ครั้งนึง แม่เคยโทษเล็กว่าเป็นต้นเหตุของทุกอย่าง โยนความผิดให้เล็กสารพัด ทั้งๆที่น้องไม่ได้เป็นก่อมันสักนิด กว่าแม่จะรู้ ทุกอย่างมันก็เกือบจะสาย แม่เกือบจะเสียลูกชายของไป เพราะทิฐิ ของตัวเอง ” แม่บอกผมทั้งน้ำตา
“แม่ครับ อย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวไม่สวยนะ”
“โถ่ ตายจริง แม่ร้องไห้เหรอจ๊ะ นี่ฉันจะหมดสวยไหมเนี่ย” แม่บอกก่อนจะอมยิ้ม
ผมยังคงกอดแม่ไว้แน่น เรื่องของแม่กับเจ้าเล็กแม้ว่ามันจะแตกต่างจากผม แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เราสองคน ต่างโยนความผิดให้คนอื่นทั้งคู่ มันคงเป็นนิสัยเสียของมนุษย์มั้งครับแทนที่เราจะยอมรับความเจ็บปวดไว้ แต่เรากลับเลือกที่โยนความผิดไปให้คนอื่นเพื่อให้ เราไม่ต้องทนทุกข์คนเดียว
“แม่ครับ ถ้าเกิดวันนึง ใหญ่ทำให้แม่ผิดหวัง แม่จะเสียใจไหม”
หากว่าวันนึงแม่รู้ว่า ลูกชาย คนนี้ ทำอะไรไว้บ้าง แม่จะเกลียดผมหรือเปล่า ??
“ถ้าเป็นคุณหญิงทิพย์ คนก่อนก็คงเสียใจมากเลยล่ะ แต่ตอนนี้แม่รู้แล้ว ว่าไม่ว่าจะเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง มันไม่ได้มีค่าเท่ากับครอบครัวหรอก เรามีกันอยู่แค่นี้นะลูก แม่ไม่มีวันเกลียดใหญ่ ”
“ขอบคุณนะครับแม่” ผมบอกก่อนจะกอดแม่แน่น วันนี้ผมอ่อนแอ ผมสับสน และผมไม่มีที่ไป แต่อ้อมกอดของแม่ยังเป็นที่พักที่ดีที่สุดเสมอ
“อ้าว เล็กทำไมวันนี้กลับมาบ้านล่ะลูก” เสียงของแม่เอ่ยทักคนมาใหม่ ก่อนที่เจ้าเล็กจะยกมือไหว้แม่แต่กลับไม่ยอมปรายตามองผมสักนิด
“คือว่า ผมจะเอาพีพี มาฝากแม่ไว้สักสามวันนะครับ เพราะไอ้วัตต้องไปติดต่อลูกค้าที่ฮ่องกง ผมเองก็ต้องทำงานแล้วก็เฝ้าไอ้
เมฆมันที่โรงพยาบาล จะปล่อยให้เจ้าตัวแสบอยู่กับยะขิ่นก็ไม่กล้า รายนั้นเอาพีพีไม่อยู่หรอกครับ เดี๋ยวจะพากันซนซะเปล่า”
“โถ่ แม่ก็นึว่าอะไร แม่คิดถึงเจ้าตัวแสบจะแย่ มาอยู่นานๆก็ได้นะ ทำเป็นคนอื่นคนไกลนะเราเนี่ย ดีเลยไหนๆวันนี้ ลูกชายแม่มา
พร้อมกันทั้งที อยู่กินข้าวเย็นกับแม่ก่อนนะเดี๋ยวพีพี น่ะให้คนขับรถไปรับก็ได้ ”
“ก็ได้ครับ” เจ้าเล็กตอบแม่ แต่เจ้าน้องชายตัวดีก็ยังไม่ยอมมองผมสักนิด
“แล้วนี่ ตาเมฆเป็นยังไงบ้างล่ะลูก แม่ไปเยี่ยมแค่ครั้งเดียว ตอนนี้ฟื้นหรือยัง” แม่ถามออกไป ซึ่งมันเป็นคำถามที่ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน
“ฟื้นแล้วครับ เพิ่งจะฟื้นเมื่อช่วงสายๆนี่เอง แต่ว่าคงต้องนอนโรงพยาบาลอีกสักระยะครับ ถ้ายังผมขอตัวไปจัดห้องให้พีพีก่อนนะครับ” เจ้าเล็กบอกก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไป
“ผมขึ้นข้างบนก่อนนะครับแม่ ไม่ได้เจอห้องตัวเองตั้งนาน คิดถึงจะแย่ เดี๋ยวตอนเย็นลงมาทานข้าวด้วยนะครับ” ผมบอกก่อนจะเดินตามเจ้าน้องชายขึ้นชั้นสอง
“เล็ก พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
“ไม่ได้ เพราะผมไม่มีอะไรจะคุยกับพี่” น้องชายตอบเสียงห้วน
“พี่แค่อยากรู้ว่าเมฆเป็นยังไงบ้าง”
“มันยังไม่ตายหรอก ถ้าพี่หวังให้มันตายก็เสียใจด้วยแล้วกัน !!” เจ้าเล็กตะคอก
“พี่ไม่เคยอยากให้เมฆตาย!!”
“หึ น้อยไปนะสิ ความเจ็บปวดของมัน คือความสุขของพี่ไม่ใช่หรือไง ตอนนี้พี่คงจะมีความสุขมากอยู่ละสินะ อย่าพยายามมาทำดีตอนนี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์ ผมเคยบอกพี่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าผมรักมันมาก และตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะไม่ยอมให้พี่ทำอะไรมันอีกเด็ดขาด!!!”
“เล็กพี่ขอร้องล่ะ จะให้พี่ทำอะไรก็ได้ แต่พี่ขอไปเจอเมฆสักครั้งได้ไหม”
“พี่จะไปเจอมันทำไม แค่นี้มันยังเสียใจไม่พออีกเหรอ”
“พี่แค่อยากไปขอโทษ ” ผมบอกเสียงแผ่ว คำนี้คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะให้เมฆได้ ผมรู้ ว่าแค่ขอโทษมันไม่พอชดเชยในสิ่งที่เมฆเจอมาได้ แต่ผมก็แค่อยากจะขอโทษสักครั้ง
“หึ ได้ ผมจะให้พี่เจอมัน แต่มีขอแม้นะ”
“อะไร”
“ผมขอให้การเจอกันครั้งนี้ของพี่กับมัน เป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย!!!”
........................TBC.............................
อีพี่ใหญ่ มันจะดราม่าแล้วนะจ๊ะ
ว่าแล้วก็ไปปัั่นนิยายต่อดีกว่าเนาะ

ปล ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
