ห้องนั่งเล่นของบ้านถูกดัดแปลงให้เป็นห้องทำงานชั่วคราวของพระจันทร์ อุปกรณ์ทุกอย่างถูกนำมาวางไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนเจ็ดโมงเช้าตามคำสั่งของเขา พระจันทร์ดูตื่นเต้นมากอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่การตื่นเช้ามาดูแบบแปลนเดิมแล้วก็ให้เขาบอกรายละเอียดงานให้แล้วจดไว้ในสมุดเล่มเล็กของเขาที่มักจะพกติดตัวเอาไว้เสมอ
หลังจากทานอาหารเช้าด้วยกันเสร็จสุริยะมณฑลก็ปล่อยให้พระจันทร์เริ่มลงมือทำงานโดยมีเขานั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ พระจันทร์จะหลับตาครั้งละครึ่งนาทีถึงหนึ่งนาทีก่อนที่จะเริ่มวาดโครงสร้างใหม่ ลายเส้นแรกที่วาดลงไปในกระดาษขาวตั้งตรงแหน่วราวเอาไม้บรรทัดทาบ แต่พระจันทร์ใช้แค่มือที่ลากเส้นตรงเหล่านั้นขึ้นมาด้วยความสามารถพิเศษ สุริยะมณฑลมองตามการขยับมือของพระจันทร์ที่สามารถวาดโครงสร้างตึกคร่าวๆทั้งตึกขึ้นมาได้ตามแปลนเดิมภายในเวลาแค่ชั่วโมงครึ่งด้วยความทึ่งจัด ขนาดหัวหน้าคนเก่าของเขาที่ลาออกไปยังไม่สามารถทำได้เร็วขนาดนี้เลย
...ทำไมเขาถึงเพิ่งรู้เอาตอนนี้นะ ว่าเก็บเพชรไว้ในมือ...
มหาวิทยาลัยฮ่องกงเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก การที่พระจันทร์สามารถสอบเอาทุนเรียนฟรีมาเป็นของตัวเองได้คงไม่ใช่แค่ฟลุ๊ก ความสามารถที่มีคงเรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์...เขาพลาดเองจริงๆที่ไม่ได้ใส่ใจเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรก...
พอใกล้เที่ยง สุริยะมณฑลก็ลุกขึ้นไปเข้าครัวเตรียมอาหารเที่ยง เมนูรายวันเขาถามแม่มาแล้วว่าควรทำอะไรบ้าง แน่นอนว่าต้องเป็นเมนูที่เขาทำเป็นและมีสารอาหารครบถ้วน เน้นปลา ไข่ และผักเป็นสำคัญ วันนี้เขาเลยจะทำข้าวคลุกน้ำพริก ผักต้ม กับปลาทูทอด แถมไข่ต้มแสนอร่อยฝีมือเขาให้อีกนิด มื้อนี้ก็พร้อมให้สำหรับคนต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับกระดาษใบโตบนโต๊ะทำงาน
ดวงตาคมเหลือบมองเวลาและผักที่เหลือจากที่เอาไปลวก คิดว่าถ้าทำแกงจืดเพิ่มอีกอย่างก็น่าจะทัน ได้ซุปร้อนๆไว้ให้ซดคล่องคอแล้วก็ไว้ทำให้พระจันทร์ตัวอุ่นก็น่าจะดี...คิดแล้วสุริยะมณฑลก็ลงมือทำโดยไม่รีรอ มือหนาหยิบฉวยมืดหั่นผักแล้วก็ปั้นก้อนหมูสับอย่างคล่องแคล่ว...ยอมรับว่าตอนนี้ฝีมือแม่บ้านแม่เรือนของเขานี่พัฒนารุจหน้าไปมากจนเข้าขั้นปรมาจารย์เลยทีเดียว
“จันทร์ พักมือแล้วมากินข้าวก่อน” คนกลายร่างเป็นพ่อบ้านเต็มตัวเอ่ยเรียกเมียรักที่ขมักเขม้นทำงานสลับตำแหน่งกันให้มาทานข้าว ทว่าคนทำงานกลับตอบกลับมาให้สุริยะมณฑลต้องเดินออกไปตาม
“อีกแป๊บนึงนะ ขอจันทร์...ต่อที่ตรงนี้อีกนิด”
“ไม่ได้ครับ...วางดินสอก่อน” คราวนี้ตัวคนพูดมายืนซ้อนหลังแล้วหยิบดินสอออกไปจากมือพระจันทร์ด้วยตัวเอง “ไปทานข้าวกับพี่ก่อน เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ หมอบอกว่าให้ทานอะไรร้อนๆอุ่นๆไว้ ร่างกายจะได้ไม่หนาว”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างมีหลักการ จัดการปลอบคนงอแงนิดหน่อยที่ถูกพรากมาจากงานที่รักที่ชอบกลางคัน ก่อนจะพานั่งลงร่วมโต๊ะแล้วบริการตักข้าวให้เสร็จสรรพ
“โห...พี่ยะ บริการดีขนาดนี้จันทร์ก็ไม่ลดค่าจ้างให้หรอกนะ”
กลิ่นข้าวคลุกน้ำพริกหอมๆทำให้พระจันทร์น้ำลายสอ ส่วนไข่ต้มกับปลาทูทอดก็ถูกจัดเรียงไว้อย่างน่าทาน แกงจืดส่วนที่เป็นซุปก็ถูกตักแยกใส่ถ้วยเล็กไว้ต่างหากให้ตักซดได้ง่ายอีกด้วย สุริยะมณฑลนั่งลงฝั่งตรงข้าม โต๊ะทานข้าวตัวนี้ไม่กว้างมาก เป็นโต๊ะรูปวงกลมขนาดพอให้นั่งได้สี่ที่ ระยะห่างระหว่างกันจึงไม่มากเท่าไรและนั่นก็ทำให้สุริยะมณฑลชอบมาก
เขาเลื่อนจานปลาทูทั้งสองตัวมาที่หน้าตัวเอง จากนั้นก็ลงมือแงะเนื้อปลาขาวๆหอมๆเค็มกำลังพอดีใส่ให้ในจานคนนั่งตรงข้าม พลางร่างสูงใหญ่ก็ออกปากถามอย่างเอาใจใส่
“ทานได้หมดนะ ไม่มีอะไรที่เหม็นใช่มั้ย”
“รู้สึกเหมือนปลากับไข่มันคาวนิดหน่อย แต่คงแค่รู้สึกไปเองมากกว่า แต่จันทร์ทานได้ไม่มีปัญหา” ว่าแล้วเขาก็ตักข้าวเข้าปากคำใหญ่เป็นการอวด คนเป็นพ่อบ้านรีบออกปากเตือนให้ทานข้าวช้าๆคำน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดเม็ดข้าวที่ติดอยู่ข้างปากแล้วเอามาทานเอง
“ฮื้อ...” พระจันทร์ส่งเสียงแก้เขิน ในขณะที่อีกฝ่ายเพียงหัวเราะขำกับท่าทีหน้าแดงแล้วก้มงุดๆกินข้าวต่อไม่พูดไม่จา
“เขินทำไม ทีเมื่อวานยั่วพี่เสียของขึ้นยังไม่เห็นจะเขินขนาดนี้เลย”
ยิ่งเขินก็ยิ่งขุด สนุกคนตัวใหญ่เขาล่ะ กินข้าวแกล้มแก้มแดงๆของคนรัก มันทำให้อาหารอร่อยขึ้นเยอะเชียว
“เอาหมูสับหรือเต้าหู้ไข่ดี” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถามพลางถือช้อนกลางเตรียมตัก
“เอาสองอย่างเลย” คนกินจุผิดคนท้องทั่วไปเอ่ยขอ แน่นอนว่าได้ตามที่ต้องการในทันที
สุริยะมณฑลยิ้มน้อยๆ รู้สึกดีใจที่พระจันทร์ทานข้าวได้ และไม่ค่อยมีอาการแพ้มากเหมือนที่แม่เคยเล่าตอนช่วงที่พระจันทร์มาอยู่โรงพยาบาลใหม่ๆ เขาไม่รู้หรอกนะว่าการดูแลคนท้องเขาต้องทำกันยังไง ตอนแม่ท้องน้องๆก็ได้พยาบาลพิเศษกับพ่อคอยดูแล ส่วนเขาถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำที่ฮ่องกงนี่ตั้งแต่เด็ก นานๆทีถึงจะได้กลับบ้าน นี่เขาก็พยายามศึกษาหาข้อมูลทุกอย่าง ที่จะช่วยให้เขาดูแลพระจันทร์ได้ดีที่สุด แน่นอนว่าเขาไม่ไว้ใจให้คนอื่นดูแล งานที่ว่ารักนักรักหนายังวางมือได้โดยไม่ลังเล...ความรักนี่เอาชนะได้ทุกสิ่งจริงๆ
“อิ่มมั้ย อยากกินอะไรหวานๆล้างปากหรือเปล่า” ในจานปลาเหลือแต่ก้าง ส่วนแกงจืดก็เหลือแต่น้ำแกง กับข้าวที่ทำกินกันแค่พอสองคนทานพร่องไปเกือบหมดทุกจาน ซึ่งทำให้สุริยะมณฑลอมยิ้มอย่างพอใจเป็นที่สุด
“อืม...อยากกินผลไม้มากกว่า” พระจันทร์ทำท่าคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยากทานอะไรต่อ เรื่องของหวานเขาไม่ค่อยพลาด เพราะปกติก็เป็นคนชอบของหวานอยู่แล้วด้วย
“มีแอปเปิ้ล อโวคาโด องุ่น มะม่วง แตงโม สาลี่...”
“ไม่มีอะไรที่รสเปรี้ยวๆบ้างเลยเหรอ อย่างพวกส้มหรือสัปปะรด...อะไรแบบนี้” พระจันทร์เอ่ยถามแทรกเมนูผลไม้ยาวเหยียดที่ไม่ต้องออกไปหาข้างนอกก็มีสำรองเอาไว้ในตู้เย็นเรียบร้อย
สุริยะมณฑลถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะพึมพำเบาๆว่า...
“มาแล้วสินะ อาหารสำหรับคนท้อง...”
“อะไรเล่า...ทำสีหน้าแบบนี้ จันทร์ไม่กินก็ได้นะ” เห็นคนรักถอนหายใจ พระจันทร์ก็นึกว่าไปทำให้เขาลำบากใจ กำลังจะเดินเอาจานบนโต๊ะไปเก็บให้ที่ซิงค์อีกฝ่ายก็รีบเดินเข้ามาหาแล้วเอาแขนเกาะเกี่ยวเอวเขาไว้พร้อมแย่งจานไปถือเองทั้งหมด
“ใครจะยอมปล่อยให้เมียกับลูกตัวน้อยในท้องหิวกัน พี่แค่คิดว่า...ในที่สุด พี่ก็จะได้ดูแลคนท้องเต็มขั้นสักทีนะ...” สุริยะมณฑลกกกอดคนในอ้อมแขนแน่นขึ้น เอื้อมมือไปวางจานลงในอ่าง แล้วจึงใช้สองมือที่ว่างกอดอุ้มคนตัวไซส์มินิขึ้นไปวางตรงที่ว่างข้างซิงค์ จับขังเอาไว้ในวงแขน บังคับให้มองสบตากันเพื่อสื่อความจริงใจออกไปให้เห็นผ่านทางสายตา แล้วจึงเอ่ยต่อไปว่า
“ก็ตั้งแต่จันทร์มาอยู่กับพี่ เราก็ไม่ค่อยมีอาการแพ้เหมือนที่แม่กับน้ำฟ้าบอกพี่ไว้เลย...บอกตามตรง พี่อยากเห็นเราอาเจียนเหมือนคนอื่นๆเขาบ้าง...”
“โรคจิต! คนบ้าอะไรอยากเห็นคนอ้วก มีแต่คนเขาไม่อยากดูแลคนป่วย...” พระจันทร์ทุบปักเข้าไปที่ไหล่ แต่สะดุ้งสะเทือนคนที่หนาไปทั้งหน้าทั้งตัวที่ไหนล่ะนั่น
“แต่พี่พร้อม พร้อมมากๆด้วย พี่อยากเห็นจันทร์นอนตัวนิ่มอยู่บนเตียง มองพี่น้ำตาคลอๆ เห็นแล้วมันน่ารักน่าแกล้ง...ดีกว่าให้จันทร์มาทำตัวแข็งแรงแล้ววิ่งไปวิ่งมาทำงานทั่วบ้านอยู่อย่างนี้ตั้งเยอะ”
“แหวะ อย่าหวังเลยว่าจะจับนกน้อยตัวนี้ขังเอาไว้ในกรงๆได้ง่ายๆ กล่อมไม่สำเร็จหรอก...แล้วนี่ผลไม้ที่ขอไปจะได้กินมั้ยเนี่ย มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละพี่ยะ” พระจันทร์ว่าพลางเอามือดันๆแขนเขาออกเพื่อที่เขาจะได้ลงจากซิงค์ได้
แต่นั่นล่ะนะเขาต้องทำใจ เพราะถ้านักธุรกิจอย่างพี่ยะไม่ได้กำไรก็คงไม่ยินยอมทำอะไรให้เขาง่ายๆ นวลแก้มหอมนิ่มๆก็เลยถูกกดถูกหอมดอมดมไปเสียจนเขาพอใจ แถมท้ายยังต้องยอมให้ชายหนุ่มเขาจูบล้างปากกับปากของตัวเองอีก ตอนแรกพระจันทร์คิดว่ามันจะจบแค่นั้น ที่ไหนได้ พอถูกเขาอุ้มลงมายืนที่พื้นได้แล้วยังถูกเขาเอาปากประกบเข้ากับกกหู แล้วลามเลียมาจนถึงซอกคอ ขนอ่อนพระจันทร์ลุกซู่ไปทั้งร่าง นี่ถ้าไม่ลงมือดิ้นและข่มขู่จริงจังว่าจะไม่รัก เขาคงได้โดนปลุกปล้ำอยู่ในห้องครัวนี่แน่...ยิ่งตอนนี้ทั้งบ้านเหลือกันอยู่แค่สองคน พี่ยะก็เหมือนจะยิ่งเพิ่มระดับความหื่นไม่เลือกที่ขึ้นเป็นสองเท่า เหนื่อยพระจันทร์ที่ต้องหาวิธีหยุดอารมณ์คนตรงหน้านี่สุดๆ
คุณพ่อบ้านเต็มตัวหยิบจานผลไม้ที่หั่นเตรียมไว้ใส่จานอย่างสวยงามไปที่ห้องนั่งเล่น เพราะคนติดพันงานออกแบบกลับไปนั่งประจำที่แล้วเริ่มลงมือต่อเรียบร้อยแล้ว สุริยะมณฑลจิ้มชิ้นสัปปะรดหั่นพอคำยื่นไปจ่อบริการให้ถึงปาก พระจันทร์ไม่ได้หันมองด้วยซ้ำว่าถูกป้อนอะไรมาให้ทาน แต่เด็กหนุ่มก็อ้าปากรับไปทานอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มป้อนคนรักบ้าง ป้อนตัวเองบ้างจนเกือบหมด งานที่มาจากฝีมือตวัดปลายวาดของพระจันทร์ก็คืบหน้าไปมากจนเกือบเสร็จ เหลือเพียงแค่ตัดเส้นให้ภาพมันคมชัดและเก็บรายละเอียดบางส่วนก็เป็นอันเสร็จ
“ถามจริงๆ ทำไมวาดเสร็จเร็วขนาดนี้ งานนี้มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” เพราะทึ่งจัดเลยอดรนทนไม่ไหวออกปากถามคนรัก ซึ่งคนกำลังทำงานมือเป็นระวิงก็ตอบให้โดยไม่ต้องมองหน้า
“ทำงานตามออเดอร์คนอื่นน่ะไม่อยากเท่าไรหรอก ไม่ต้องคิดอะไรมาก มีสิ่งที่เขากำหนดมาไว้ให้อยู่แล้ว อาศัยจินตนาการของเรานิดหน่อยก็เป็นรูปเป็นร่างได้ ผิดกับการวาดรูปตามใจฉัน อันนัั้นมันต้องอาศัยความรู้สึกและจินตนาการของเราเองทั้งหมด ถ้าไม่ถูกใจเราก็ต้องลบทำใหม่ หลายครั้งแน่ะกว่าจะได้อย่างที่ต้องการ...”
สุริยะมณฑลพยักหน้ารับว่าเข้าใจสิ่งที่พระจันทร์พูดแล้วก็เดินเอาจานออกไปเก็บ กลับมาก็นั่งรอนอนรอทำงานกับคอมพิวเตอร์ของตัวเองไปพลาง จนเกือบๆสี่โมงเย็นพระจันทร์ก็ค่อยๆลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้วมองผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“เสร็จแล้วนะพี่ยะ...” เด็กหนุ่มหันไปเรียกคนรักที่นั่งอยู่บนโซฟาใกล้ๆ คนร่างสูงใหญ่กว่าหลายเท่าก็ลุกเดินมาหา มองจ้องกระดาษแผ่นโตที่ตอนนี้มีรูปแบบโครงสร้างตึกออฟฟิศใหม่ที่มีดีไซน์โมเดิร์นผสมผสานกับธรรมชาติเข้ากันอย่างลงตัว ผิดจากแปลนเดิมที่แทบจะไม่มีต้นไม้ แต่ของพระจันทร์มีทั้งสวนและหน้าต่างเพิ่มขึ้น เขาลองจินตนาการของจริงออกมาแล้วว่าถ้าสร้างได้ออกมาตามนี้เป๊ะๆคงเป็นตึกออฟฟิศที่น่าจะฮือฮาไม่น้อย เพราะขนาดแค่เป็นรูปวาดยังสวยขนาดนี้เลย
“รีบเอาไปส่งให้ลูกค้าเร็ว เขานัดไว้ห้าโมงไม่ใช่เหรอ”
“อืม” สุริยะมณฑลพยักหน้ารับ “แต่ถ้ารอบนี้ไม่ผ่านอีกพี่จะยกเลิกออเดอร์แล้วซื้อภาพนี้เก็บไว้สร้างเป็นออฟฟิศใหม่เองแล้วนะ ฝีมือดีขนาดนี้พี่จ้างต่อยาวเลยได้มั้ยเนี่ย...”
“อืม...ถ้าคุณเจ้าของบริษัทสนใจ ผมจะลองบอกอาจารย์ที่ปรึกษาขอลงฝึกงานที่ออฟฟิศคุณก็ได้นะครับ”
“ฝึกงานอย่างเดียวไม่พอ พี่ขอจ้างต่อตลอดชีวิตเลยได้มั้ย เงินเดือนพี่จ่ายไม่อั้น แถมสวัสดิการก็ดี มีรถรับส่งฟรีตลอดชีพอีก” ว่าแล้วก็ต้องวกเข้ามาหยอดคนตัวเล็กให้แก้มแดงเล่น พระจันทร์มองสายตาหวานเยิ้มนั่นแล้วก็เริ่มเสียวสันหลัง
“...ขึ้นอยู่กับความประพฤติของคุณเจ้าของบริษัทด้วยนะครับ ถ้าทำตัวดี ผมก็อาจอยู่ต่อ...”
“ถึงพี่ทำตัวไม่ดี จันทร์ก็ไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว ขืนหนีไปทำงานกับบริษัทอื่นในฮ่องกงสิ พี่ตามไปส่องหัวหน้างานจันทร์ไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลยคอยดู”
“เวอร์น่ะ รีบเอาไปส่งได้แล้วครับ บอกผลจันทร์ด้วยนะว่าเป็นยังไง เดี๋ยวจันทร์ขึ้นไปนอนก่อน ตอนนี้เริ่มรู้สึกเมื่อยมือขึ้นมานิดๆแล้ว” พระจันทร์ทำท่ายืดแขนบิดตัวเบาๆไล่ความเมื่อยขบ แต่สุริยะมณฑลที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งงานให้ลูกน้องมารับงานไปสานต่อกลับรั้งแขนพระจันทร์ไว้ แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูเล็กว่า
“ถ้าเมื่อยมากเดี๋ยวพี่นวดให้ ถือเป็นรางวัลพิเศษให้พนักงานดีเด่น...พี่จะนวดให้อย่างดีจนสบายตัวไปถึงค่ำเลย”
สายตาวิบวับนั่นหวานเชื่อมนั่นทำให้พระจันทร์ขนลุกเกรียว แววว่าจะไม่ได้เมื่อยแค่มือลอยมาแต่ไกล โธ่เอ๊ย...ทำไมเขาถึงทำดี แต่ไม่เคยได้ดีเลยสักทีนะ...ได้มาแต่สามีจอมหื่นแบบนี้ตลอดเลย!
---------------------------------