เช้าวันกำหนดผ่าตัด พระจันทร์แอบตื่นเต้นเล็กๆหลังจากที่มีคนเข้าออกห้องของเขามาตั้งแต่เช้ามืด เขาถูกเตรียมพร้อมทั้งตรวจเลือดและทำความสะอาดร่างกายไว้เรียบร้อย ซึ่งตลอดเวลา ทั้งคุณศิลา คุณหญิงดารกานต์ และคนรักของเขา สุริยะมณฑลคอยช่วยเหลือและอยู่ด้วยกันตลอด พระจันทร์จึงค่อนข้างผ่อนคลายในระดับหนึ่ง
ก่อนถึงเวลสเข้าห้องผ่าตัด พระจันทร์ได้เอ่ยปากขอกับสุริยะมณฑลและทางโรงพยาบาลไว้ว่าอยากจะเข้าไปพบพี่สาวสักครั้ง เพื่อบอกเล่าข่าวดีที่ในวันนี้หลานของพี่เขาจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว
พระจันทร์ใช้เวลาอยู่ในห้องนั้นไม่นาน เพราะตอนนี้พี่สาวของเขาไม่รับรู้อะไร แต่กระนั้นพระจันทร์ก็ยังยินดี ตอนที่เห็นว่ามือพี่เขากระตุกเหมือนจะรับรู้ได้ตอนที่เขาบอกไปว่าพี่ดาวกำลังจะมีหลาน อยากให้พี่นั้นหายไวๆจะได้มาช่วยเขาเลี้ยงหลานด้วยกัน พอเห็นว่าพระจันทร์ได้บอกกล่าวกับพี่สาวจนพอใจแล้วนายแพทย์เชษฐาก็เป็นฝ่ายพยักหน้าบอกสุริยะมณฑลว่าได้เวลาแล้ว ชายหนุ่มจึงเป็นคนเข้าไปเข็นรถของคนรักพาไปห้องผ่าตัดด้วยตัวเอง
...ประตูหน้าห้องผ่าตัดปิดลงไปแล้ว เหลือเพียงคุณหญิงดารกานต์และสามี พร้อมซานตง ตี้เฉินและลูกน้องคนสนิทของคุณศิลาอีกสองคนเท่านั้นที่ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัด คุณหญิงดารกานต์ยืนลุ้นจนมือเย็นอยู่กับสามี ถึงหล่อนจะรู้มาแล้วก็เถอะว่าได้หลานชาย แต่การเห็นภาพแบบสี่มิติรึจะสู้การเห็นภาพของจริง อย่างไรเสียการมายืนลุ้นหลานคลอดหน้าห้องแบบนี้ก็เป็นครั้งแรก เพราะตอนหนูลินคลอดหล่อนเองไม่เคยมีโอกาสได้ยืนรอแบบนี้ เด็กคนนี้จึงนับเป็นหลานคนแรกของหล่อนที่หล่อนได้มีโอกาสดูแลเขาตั้งแต่อยู่ในท้องจนกระทั่งถึงเวลาคลอดแบบนี้
แต่แล้วเมื่อการผ่าตัดผ่านไปได้เกือบสี่ชั่วโมง ชายหนุ่มคนหนึ่งที่คงทำงานอยู่ในโรงพยาบาลรีบวิ่งมายังบุคคลที่ยืนออกันอยู่หน้าห้องผ่าตัด เพื่อบอกข่าวร้ายอะไรบางอย่างให้กับผู้รับเป็นเจ้าของไข้ของคนป่วยคนหนึ่ง ที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ได้สติ...ว่าในตอนนี้ เธอคนนั้นได้หมดลมหายใจไปแล้วเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา...และคล้อยหลังข่าวนั้นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก พร้อมกับข่าวดีที่ว่าการผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดี พร้อมกับที่เด็กน้อยนั้นได้ออกมาลืมตาดูโลกครบทั้งสามสิบสองประการ ที่สำคัญยังสมบูรณ์แข็งแรงในแบบที่นอนในตู้อบไม่กี่วันก็ไม่มีอะไรน่าห่วง รวมทั้งตัวแม่ของเด็กที่อาจช็อกเมื่อได้ทราบข่าวร้าย...แต่ดารกานต์ก็หวังว่าความดีใจที่ได้ลูกมาสู่อ้อมอกจะทำให้พระจันทร์เข้มแข็งและก้าวพ้นความเสียใจเมื่อได้ทราบว่า...
...พี่สาวของเขา...ดวงดาว ได้ลาลับจากโลกนี้ไปตลอดกาลอย่างสงบเสียแล้ว...
-------------------------------
“คุณแม่...น้องหนูหน้าตาแบบนี้เหลอ” เสียงถามเจื้อยแจ้วดังมาจากเด็กน้อยข้างตัว ที่ตอนนี้กำลังพยายามจะปีนขึ้นมาบนตักของสามีซึ่งนั่งเอนหลังอยู่ข้างๆน้ำฟ้าบนเตียง เมื่อได้ที่นั่งเหมาะเหม็งแล้วก็ชะโงกหน้ามองดูรูปภาพในไลน์กลุ่มครอบครัวที่ฉายอยู่บนหน้าจอไอแพดของผู้เป็นบิดา
รังสิมันต์ก้มหน้าลงไปจูบกลางกระหม่อมลูกชายแล้วเอ่ยตอบพร้อมถามคำถามไปว่า
“ใช่ครับ น้องหล่อเหมือนหนูมั้ย”
“ทำไมน้องตัวแดงๆ” เด็กน้อยไม่ตอบแต่ถามกลับด้วยความอยากรู้ ไล้นิ้วเล็กๆลงบนซีกแก้มน้องชายในรูปภาพแล้วทำปากจู๋เลียนแบบน้องที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในกระบะเด็กอ่อน
“ก็น้องเพิ่งคลอด น้องเลยตัวแดง ตอนหนูเพิ่งคลอดหนูก็ตัวแดงๆแบบนี้แหละ...อืม ตอนนั้นหนูตัวเล็กกว่าน้องอีกมั้ง” น้ำฟ้าตอบแทนคนเป็นบิดา มองหนูลินที่พยายามทักทานน้องชายคนใหม่ผ่านรูปภาพก็ยิ้มขำ ท่าทางจะเห่อน้องอยู่ไม่เบานะนี่
“แต่ตอนนี้หนูตัวใหญ่กว่า...” ไวโอลินชูแขนแล้วทำท่าเบ่งกล้าม แต่เนื้อนุ่มๆที่เด้งดึ๋งๆอยู่บนลำแขนกลมป้อมทำให้น้ำฟ้ากับรังสิมันต์หันมองสบตากันแล้วหัวเราะขำเล็กๆ ทั้งคู่หันมองลูกชายด้วยความรัก แล้วเป็นรังสิมันต์ที่คว้าตัวลูกชายขึ้นมาสู่วงแขนแล้วกอดแน่นๆ ในขณะที่น้ำฟ้ายื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มแล้วก็ฟัดๆตามพุงตามแขนอย่างชื่นใจ
“ตอนนี้หนูตัวใหญ่กว่า...อ้วนกว่าด้วยใช่มั้ยครับ” คนผมยาวผู้สวมบทบาทของมารดาเอ่ยเย้าลูกน้อย ซึ่งแทนที่จะสลดกลับยิ้มยิงฟันน้ำนมขาวๆให้คุณแม่ แล้วพยักหน้ารับอย่างจริงจัง
“หนูเป็นพี่ ต้องตัวใหญ่ จะได้ปกป้องน้อง...” เด็กน้อยบอกผู้ปกครองด้วยความใสซื่อ ชอบนักกับความอบอุ่นที่รายล้อมอยู่รอบตัว ยิ่งพอได้มีน้องเหมือนคนอื่นๆเขาอีกก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เขาทำท่าคิดก่อนจะเริ่มจาระไนของเล่นที่ตัวเองตั้งใจเตรียมไว้จะเอาไปแบ่งให้น้องเล่นด้วย คนเป็นพ่อกับแม่ก็ตั้งใจฟังลูกชายพูดเสียงเจื้อยแจ้วไปจนเจ้าตัวเริ่มง่วง แล้วเกาะเกี่ยวแขนของบิดากับผมของมารดาไว้แล้วหลับไปในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ของบุคคลที่รักเขาที่สุดในโลก
“เราเอาของเล่นของหนูลินไปเป็นของขวัญรับขวัญหลานแทนสร้อยข้อมือข้อเท้าดีมั้ย” รังสิมันต์เอ่ยถามคนรัก น้ำฟ้ายิ้มน้อยแล้วเอียงหน้ามองตอบคนรัก หรี่ตาเล็กๆเหมือนเด็กเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยไปว่า
“ถ้าคุณกล้าให้ ผมก็กล้าห่อ แล้วให้เจ้าตัวเขาเป็นคนถือไปให้เองเลยดีมั้ย”
รังสิมันต์ยักไหล่ตอบแต่ไม่พูดอะไร เขายื่นหน้าไปหอมแก้มเด็กหนุ่มผมยาวเป็นการจูบราตรีสวัสดิ์ ก่อนจะกดส่งข้อความแสดงความยินดีอีกครั้งไปให้พี่ชายที่อัพรูปลูกชายลงในไลน์กลุ่มรัวๆไม่หยุด แม้จะมีการส่งข้อความมาโต้ตอบข้อกล่าวหาของน้องชายว่าไม่ได้บ้าเห่อลูก แต่การกระทำที่ขัดแย้งกันก็ทำให้รังสิมันต์ปัดข้อแก้ตัวนั้นของพี่ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
...ในที่สุด ครอบครัวของพวกเขาก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่...
...เจ้า ‘รุ่งอรุโณทัย’… ตัวแทนของช่วงเวลาที่มาบรรจบกันของพ่อและแม่…
…ของขวัญแสนพิเศษที่ครอบครัวของเขาได้มาอยู่ในมือแล้ว…
-----------------------------------
.
.
.
แห่ะๆ เรื่องนี้ก็ดำเนินมาจนเกือบจบ แบบสุดๆแล้วนะจ๊ะ...
ตอนหน้าก็จะเป็นบทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้แล้ววว
ยังไงก็ขอฝากนิยายรายเดือนเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยอีกเรื่องนะจ๊ะ
น้องรุ่งอรุโณทัยเป็นเด็กใหม่ ที่มีชื่อยาวเรียกยากเหมือนพ่อมัน น้องมีชื่อเล่นนะคะแต่อาจจะเผยคราวหน้าในตอนจบจริงๆ ยังไงก็ขอบคุณทุกๆโพสต์และคอมเมนต์ในนิยายเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ แพทรักทุกคนค่ะ!!!