-บทลงโทษ-“ถ้าการจากพรากสำหรับฟานเป็นทั้งหมดของทุกสิ่ง” ปรุงคลายอ้อมกอดช้าๆ “ฟานก็เล่ามาทั้งหมดแล้ว”
สองมือค่อยๆประคองผมทรุดนั่ง ทันเห็นซำหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง
“แต่ฟานไม่เคยบอกเลยสักครั้ง ว่าคิดอะไร”
ผมก้มหน้า สายตาเหลือบแล เต้ในรูปส่งยิ้มให้ผมที่กำลังจ่อมจมกับความทรงจำ พยายามคิดหาคำตอบให้ปรุง
เกลียวคลื่นคดโค้ง ม้วนตัวเข้ามาใกล้ กระแทกตัวแรงจนสะอึก เสียงซัดซ่ากลับไปกลับมาดังหนวกหู
เสียงตึง กระชากผมกลับ ไม่มีคลื่น
ผมส่งยิ้มให้ซำ เลื่อนสายตาจับจ้องที่มาของเสียงกระแทกเมื่อครู่
“รูปน่ะ ใส่กรอบแล้ว” ค่อยๆแกะห่อกระดาษ ทีละชั้นๆ เสียงแควกควากระคาย
ซำยกมาวางตั้งตรงหน้าผม “ของขวัญวันเกิดนะ”
ผมพยายามยินดี พยายามชื่นชม
แต่ทำไม่ได้
ในกรอบหนาหนักนั้น ผืนผ้าใบขาวโพลน คล้ายในหัวผมตอนนี้ ว่างเปล่า ทว่าหนักอึ้งเหลือเกิน
ผมตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า มนุษย์เราสามารถควบคุมประสาทรับรู้ทางเสียงได้เหมือนประสาทรับรู้อื่นๆของร่างกายหรือไม่“อีฆาตกร” เสียงกระซิบแผ่วๆ เรียกผมให้เบือนหน้าหันไป
มองเห็นริมฝีปากอีกฝ่ายยกยิ้ม ค่อยโค้งสูงขึ้นๆจรดโหนกแก้ม
ผมสาวเท้าก้าวผ่านเร็วๆ
เราหลีกเลี่ยงการฟัง โดยไม่ฟังได้หรือเปล่า “รีบๆตายเสียทีเถอะ” เสียงราบเรียบ ทว่าหนักแน่นดังมาจากด้านหลัง ผมหันกลับไปดูความว่างเปล่า
เหมือนที่เราไม่อยากมอง จึงเลือกที่จะปิดเปลือกตาลงคนตรงหน้ากำลังหยิบยกมีดสนิมจับ บรรจงกรีดท้องแขนตัวเอง ย้ำหนักๆเพราะความทื่อของใบมีด
ผมลองสั่งตัวเอง ‘ไม่ฟัง’ แต่ทั้งๆอย่างนั้น เสียงก็ลอดเข้ามาให้ได้ยิน…ผมยืนเคว้ง ท่ามกลางเสียงด่าทอรายรอบ บ้างกระซิบ บ้างตะโกน เหลือบเห็นเต้วอบแวบอยู่ปลายหางตา รีบวิ่งไปหา หากเอื้อมคว้าได้เพียงอากาศ ในอกโหวงคล้ายมีช่องกลวง
“ไหนสัญญาจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไง” ผมพึมพำแผ่วหวิว
มือคู่หนึ่งยื่นมาตรงหน้า มองเห็นชื่อผมบนนั้นชั่วแวบ เสียงเอะอะเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น ค่อยๆเอื้อมมือไปคว้า กลัวจะหายไปอีก ขาก้าวเข้าไปหา ทีละก้าวๆ
พลันรู้สึกถึงแรงดึงกระชากจากด้านหลัง มือคู่นั้นหายไปแล้ว
หันกลับไปมอง สบตากับปรุง สำนึกรู้ตอนนั้นเองว่า ผมกำลังหยุดยืนอยู่กลางถนน เสียงรถบีบแตรสนั่นแผดแก้วหู
ปรุงกอดคอผม กระซิบค่อยๆ “เราต้องไปทางนี้” ก่อนจะค่อยๆลากผมกลับไป หูผมแนบไปกับอกปรุง ได้ยินเสียงตึกตักดังระรัว
คืนนั้นผมฝันถึงเต้ ซ้ำๆ เดิมๆ
สุดปลายสะพานนั้น เต้พยายามบอกอะไรบางอย่างกับผม
ผมตะโกนกลับ “ไม่ได้ยินเลย”
เต้ยังคงพึมพำพูดอะไรบางอย่างต่อไป เสียงคลื่นดังกลบเสียงเต้เป็นจังหวะขาดๆหายๆ น่ารำคาญ
ผมตะโกนสุดแรง ตั้งใจบอกเต้ว่าผมยังคงไม่ได้ยิน หากเสียงที่หลุดออกมากลับเป็นเพียงเสียงลมหวีดหวิว
..ไม่ได้ยินจริงๆนะ...
แต่ทั้งๆอย่างนั้น ผมก็ยังตะโกน
เหนื่อยเหลือเกิน
ค่อยๆไต่บันไดเตียงลงมา พยายามให้เกิดเสียงน้อยที่สุด เบสนอนหลับไกลออกไป ส่วนปรุงลืมตามอง
เราออกมายืนพิงราวบันไดหนีไฟด้านหลังหอพัก ท่ามกลางความมืดนั้น แว่วเสียงสัตว์ร้องแผ่วโหยเป็นระยะ ผมยืนก้มหน้ามองลงไปเบื้องล่าง
“ปกติคนเค้าจะมองดาวกันนะ” ปรุงเอ่ยลอยๆ
“มันติดน่ะ” ผมเลิกมอง หันมาหาปรุง “เวลาที่เห็นความมืด คิดว่ามันน่าจะมีอะไรในนั้น”
“แล้วเจออะไรหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้าช้าๆ “ยังไม่เจอ”
“หรือบางที มันอาจไม่มีอะไรตั้งแต่แรก” ปรุงยังคงพูดต่อไปช้าๆ
“แต่เพราะมีความหวัง มนุษย์ถึงยังมีชีวิตอยู่”
เสียงทอดถอนใจเบาๆ หากในภาวะสงัดเช่นนี้ คล้ายจะดังก้องสะท้านสะเทือน
“ความตายไม่ช่วยลบล้างความผิดหรอกนะ”
ผมมองหน้าปรุง “แล้วโทษประหารจะมีไว้เพื่ออะไร”
“เตือนคนที่เหลือ ให้กลัว” มือปรุงยื่นมาประคองใบหน้าผม
“ส่วนฟาน ต้องมีชีวิตอยู่” ใบหน้าแนบชิด เสียงกระซิบริมหู
“เพื่อไม่ให้เต้ตายจากไปจริงๆ”
เดินกลับมาถึงหน้าห้อง เบสเปิดประตูผางออกมาโดยแรง สีหน้าเลิ่กลั่ก พอเห็นหน้าเราสองคน จึงค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้นคล้ายคนหมดแรง
“ตื่นมาไม่เจอ...” พูดได้แค่นี้เบสก็นิ่งไป
ผมรีบรุดเข้าไปหา “ขอโทษๆ กลัวผีแย่เลยสินะ”
ปรุงฉุดเบสให้ลุกขึ้น หัวเราะคิกคัก “ฉี่ราดหรือเปล่าเนี่ย”
เบสปัดมือปรุงออก ทำท่ากระฟัดกระเฟียดเดินเข้าห้องไป เดี๋ยวคงมีรายการง้อกันอีกยาว
ผมยิ้มมองภาพตรงหน้านิ่งนาน ถึงวันหนึ่งเราต่างต้องแยกย้ายจากกันไป
แต่วันนี้ผมยังมีคนเหล่านี้ข้างๆกาย
ผมปล่อยชีวิตผ่านไปแต่ละวัน อยู่กับเพื่อนที่รู้ใจ แต่ก็ไม่พร้อมรับใครใหม่ๆเข้ามา คงเพราะสำหรับผม การจากพรากเป็นเรื่องโหดร้ายที่สุด
ครั้งหนึ่ง ซำบอกรัก ผมปฏิเสธกลับไป
ซำหัวเราะ “รู้อยู่แล้วล่ะ”
สีหน้าซำในตอนนั้นเหมือนคล้ายคนโล่งใจและคล้ายจะร้องไห้ในคราวเดียวกัน
“คนในความทรงจำงดงามเสมอล่ะ” ปรุงพูดลอยๆกลางวงข้าว ‘เลี้ยงปลอบใจคนอกหัก’ ค่ำคืนนั้นเอง
ผมยังคงแว่วถ้อยเสียงบริภาษในบางขณะที่เผลอไผล และแม้บางครั้งจะเห็นภาพเงาอดีตเลือนรางควะคว้างอยู่เบื้องหน้า กระนั้นผมได้เพียงแต่มองนิ่งๆ ดื่มด่ำภาพเบื้องหน้า ซึมซับทุกสรรพเสียง ไม่คิดจะลืม ไม่คิดจะหลีกหนีอย่างที่เคย
ก้าวเดินผ่านวันและคืนอย่างช้าๆ เรียนรู้ที่จะรับบทลงโทษทั้งหมดมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ผมยังหายใจอยู่ ...
http://www.youtube.com/v/HD39PFOaf-s?version=3&hl=en_US&rel=0