พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 14:33:48

หัวข้อ: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 14:33:48
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

อ่านเรื่องของคนอื่นมาก็มาก จนอยากลองแต่งเองดูบ้าง
ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ชอบ-ไม่ชอบ ก็บอกกันได้ค่ะ น้อมรับคำติชมจากทุกท่าน
ขอบคุณค่ะ


เสียงที่ขาดหาย

-คำถาม-

ผมตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า มนุษย์เราสามารถควบคุมประสาทรับรู้ทางเสียงได้เหมือนประสาทรับรู้อื่นๆของร่างกายหรือไม่
เราหลีกเลี่ยงการฟัง โดยไม่ฟังได้หรือเปล่า เหมือนที่เราไม่อยากมอง จึงเลือกที่จะปิดเปลือกตาลง หรือไม่อยากสัมผัส ก็เพียงไม่ยื่นมือออกไป
ทำได้ไหม ที่จะไม่ฟัง ผมลองสั่งตัวเอง ‘ไม่ฟัง’ แต่ทั้งๆอย่างนั้น เสียงก็ลอดเข้ามาให้ได้ยิน

สมองเป็นสิ่งมหัศจรรย์นะ คุณคิดเหมือนผมไหม
เพราะทั้งที่เราอุดหูจนแน่นที่สุดเพียงใด สมองก็พยายามตีความหมาย พยายามให้มนุษย์รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจากสายตา แม้จะผิดเพี้ยนจากความจริงไปบ้าง
นั่นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่สมองเคยจดจำแล้วจึงแปรผลออกมาในรูปแบบที่เคยรับรู้ 

การหลีกหนีจากเสียง อาจมีเพียงแค่การตัดการรับรู้ทั้งหมด

หรือต่อคำถามของผมนั้น คำตอบอาจมีเพียงแค่ ความตาย
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 14:38:18
-ท่ามกลางเสียงร้องไห้-

ผมกำลังนั่งเหม่อมองผู้คน  หลังผ่านขั้นตอนการยื่นเอกสารและรายงานตัวขึ้นทะเบียนนักศึกษา 
การยืนท่ามกลางกองทัพมนุษย์แปลกหน้ากระหนาบรอบทิศ มันสร้างความกดดันให้กับผม
บางขณะก็รู้สึกเหมือนสายตาที่ดุดันจากด้านหลังจับจ้องพุ่งตรงมาที่แผ่นหลัง เกิดความไม่มั่นใจ วูบๆวาบๆ คล้ายคนจับไข้
บางพักผมลืมกระทั่งสูดลมหายใจเข้าออก รู้สึกคล้ายเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างรอบตัวคล้ายภาพช้าในขณะที่ผมขยับได้ปกติเพียงผู้เดียว

เมื่ออึดอัดจนถึงที่สุดผมก็หาทางออกด้วยการยกเอกสารในมือขึ้นมาตรวจทาน  เสียงกรอบแกรบของการพลิกหน้ากระดาษช่วยปลุกภาวะเนิบช้า
กระตุ้นให้ผมหายใจคล่องขึ้น
แล้วจู่ๆภาวะปกติก็กลับมา เสียงรองเท้าเบียดพื้นห้องเอี๊ยดอ๊าด เสียงพูดคุยกันข้ามแถว เสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกนักศึกษาถึงรายการเอกสารที่ต้องใช้ เสียงถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายจากคนด้านหลัง 
สรรพเสียงต่างๆไหลบ่าเข้ามาเหมือนน้ำที่พุ่งพรวดไหลออกมาจากก๊อกที่เปิดค้างจนสุด

ผมหัวหมุนกับขั้นตอน ยื่นเรื่อง รับเอกสาร แล้วก็ยื่นใหม่ที่ห้องถัดไปเหมือนไม่สิ้นสุด ขั้นตอนกินเวลาไม่นานแต่ค่อนข้างวุ่นวายสับสน
ที่ผมจำได้ลางๆคือตอนโดนจับให้ไปต่อแถวถ่ายรูปติดบัตร ผมไม่พร้อมแต่ไม่มีทางเลี่ยง เมื่อคนด้านหลังก็มาต่อแถวเป็นการบังคับกลายๆให้ผมเข้าไปนั่งประจำที่เพื่อถ่ายรูป นาทีที่แสงแฟลชวาบเข้าตาผมรู้เลยว่ารูปผมที่ออกมามันต้องเด๋อด๋าไม่น้อย

ผมเดินลากขามาหยุดที่ม้านั่งใต้ต้นหูกวาง หย่อนตัวลงนั่งอย่างช้าๆ เหลียวหันไปมองแถวผู้คนเบื้องหลัง แทบไม่อยากเชื่อว่าเพิ่งเดินจากมา ผ่อนลมหายใจช้าๆ ตัดขาดจากความสับสนเหล่านั้น

เพราะเพื่อนกว่าครึ่งเลือกเรียนมหาวิทยาลัยใกล้บ้านเกิด และอีกบางส่วนเลือกเข้ากรุงเทพ มีเพียงผมตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ
นาทีนี้ผมอยู่คนเดียว

เหม่อมองผู้คนแล้วอยู่ๆผมก็นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ความรู้สึกแปลกที่แปลกถิ่นเคยเกิดขึ้นกับผมครั้งหนึ่งเมื่อเข้าชั้นเรียนอนุบาลเป็นวันแรก



ตอนนั้นผมนั่งนิ่งๆอยู่กลางห้อง รอบด้านมีเด็กวัยเดียวกันนั่งร้องไห้เสียงดังจนครูต้องเข้าไปปลอบ
ผมได้แต่กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็สะดุดเข้ากับสายตาคู่หนึ่งจากอีกฟากของห้อง ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะมองมาที่ผมนานแล้ว เพราะเมื่อสบตากัน เด็กคนนั้นก็ยกยิ้มให้จนตาปิด ในมือถือห่อขนมที่ผมไม่รู้จัก
เมื่อผมส่งยิ้มตอบกลับไป เด็กคนนั้นก็ลุกเดินมาหาผมที่โต๊ะ

“กินกับเต้นะ” ถุงขนมถูกยื่นมาพร้อมคำเอ่ยชวน

ผมจำไม่ได้ว่าตอบกลับไปว่าอะไร รู้แค่เรานั่งเบียดบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน แกว่งขาดุกดิก ผลัดกันหยิบขนมมากินคนละชิ้นท่ามกลางเสียงร้องไห้งอแงที่คล้ายจะแผ่วลง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 15:36:18
-เปิดกล่อง-

ผม เกร็งข้อแขนยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ค่อยๆยกข้ามขั้นบันไดหอพักอย่างช้าๆ อีกมือกำเศษกระดาษจดเลขห้องทั้งที่เลขมีแค่สามตัว แต่ผมก็เลือกที่จะจดไว้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

ตามทางเดินหน้าห้องระเกะระกะ กระเป๋าเสื้อผ้า ลังกระดาษ ถุงกระสอบใบโต รองเท้าผ้าใบเน่าๆกระจัดกระจายกลางทาง
ผมต้องพยายามเดินหลบ ระมัดระวังไม่ย่ำเท้าเหยียบไปโดน ตาก็กวาดหาเลขห้อง

ผมสะดุ้งสุดตัว เมื่อประตูบานซ้ายเปิดผางออกมาเฉี่ยวไหล่ไปนิดเดียว หน้ายับๆยุ่งๆชะโงกออกมาครึ่งตัว อีกฝ่ายชะงักไปครู่ ตาคู่นั้นมองผมกวาดขึ้นลง ก่อนจะเอ่ยทัก

“ห้องนี้ป่ะ?” ยิ้มแค่มุมปาก เท้าแขนกับลูกบิด ก่อนจะค่อยๆเอนตัวอิงกรอบประตู

“304” ซึ่งมันไม่ใช่ห้องนี้

ผมเดินผ่านไป ด้วยไม่รู้จะคุยอะไรอีก ประตูบานถัดไปคือที่หมายของผม
เคาะประตูห้องสองทีพอเป็นมารยาท ได้ยินเสียงเบาๆจากด้านในเป็นเชิงอนุญาตผมจึงเปิดเข้าไป
ในห้องไม่ต่างจากทางเดินด้านนอกเลย

ผู้ชายผิวคล้ำตัวใหญ่นั่งกลางห้องหันหน้ามาทักทายผม สำเนียงติดทองแดงฟ้องให้ผมรู้ว่าเราต่างก็ใหม่สำหรับที่นี่เช่นเดียวกัน

“เตียงเดี่ยวเราขอได้ไหม ไม่เคยนอนเตียงสองชั้น เออ เราชื่อเบสนะ” อีกฝ่ายพูดรวดเดียว พร้อมบุ้ยหน้าไปทางเตียงเดี่ยวที่ชิดผนังอีกด้าน

“ฟาน” ผมตอบสั้นๆ ลากกระเป๋าเดินทางมาไว้ปลายเตียง ก่อนจะนั่งบนเตียงชั้นล่าง เบสชะงักมือที่กำลังง่วนกับการรื้อของ

“ชื่อหรอ มาจากอะไร สเตฟาน?” ถามแล้วก็หัวเราะ

“ภาษาไทยเนี่ยแหละ คือเก้งน่ะ ตอนเกิดแขนขาเล็ก” เบสพยักหน้าส่งเสียงงึมงำทำนองว่ารับรู้

“คณะอะไรน่ะ เราเรียนนิติ” เบสชวนคุยต่อแต่มือเริ่มกลับไปรื้อของต่อเหมือนเดิม

ผมมองเพลินๆ เท้าแขนกับหัวเข่า ยังไม่อยากทำอะไร
“มนุษย์”



______________มีต่อนะคะ_________
แต่งในเวิร์ดแล้วค่อยๆเอามาลงในบอร์ด ไม่รู้ว่าจะแจ้งชื่อตอนใหม่ตรงชื่อเรื่องยังไง รบกวนแนะนำด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 16:55:14
-ต่อ-

เบสขอตัวลงไปทานข้าว หลังจากรบเร้าชวนผมอยู่เป็นนาน เสียงโหวกเหวกนอกห้องเริ่มเบาลง

ผมเปิดกระเป๋าเดินทาง คิดจะจัดเรียงเสื้อผ้าเข้าตู้ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ หยิบห่อผ้าสีฟ้าออกมาแกะปมที่ผูกไว้ กางออกจนเต็มผืน
ตัวการ์ตูนสเมิร์ฟออกมาทักทาย สีค่อนข้างซีดจางตามอายุการใช้งาน กลางห่อผ้านั้นมีกล่องพลาสติกสีฟ้าเข้มขนาดครึ่งกระดาษเอสี่วางอยู่

ค่อยๆเปิดฝาอย่างระมัดระวัง เพราะผมรู้ว่าข้างในมีสิ่งของอัดแน่นเพียงไร ผมไม่อยากให้ของกระจายปนไปกับบรรดาข้าวของของเบส

สิ่งที่กระทบสายตาเป็นสิ่งแรกคือ สร้อยเงินประดับจี้ เป็นรูปกวางโผนทะยาน ดูปราดเปรียวหากอ่อนหวานด้วยพลอยเม็ดเล็กสีชมพูติดตรงตา
ผมหยิบสร้อยเส้นนั้นซุกกลับเข้าไปในกล่องจนลึกสุด เลือกหยิบรูปใบแรกสีน้ำตาลเก่าคร่ำขึ้นมาดู

เด็กชายตัวเล็กทางซ้ายนั่งบนจักรยาน มีเด็กชายตัวใหญ่กว่าอีกคนกำลังจับจูงหันมายิ้มใส่กล้อง ในขณะที่คนนั่ง คราบน้ำตาติดเป็นทาง
หลังภาพมีลายมือหวัด

‘ฟานหัดขี่จักรยาน ๙ ส.ค. ๒๕๔๕’





ยังจำเสียงร้องไห้ในตอนนั้นได้อยู่เลย วันนั้นพ่อถอดล้อพ่วงออกจากจักรยาน บอกกับผมว่าได้เวลาเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ผม เด็กชาย 8 ขวบที่กำลังจะก้าวเป็นผู้ใหญ่แบบกะทันหัน เหลียวหาตัวช่วยด้วยใบหน้าเหยเก

“เดี๋ยวเต้ช่วยจับ”
เด็กชายตัวใหญ่กว่ากันไม่กี่มากน้อย เทียบกับจักรยานคันท่วมเอว ก่อให้เกิดความลังเล แต่เพราะอีกฝ่ายรับปากหนักแน่น ผมจึงพยักหน้ารับ

เพียงออกตัวถีบไปได้ไม่เท่าไร ก็ล้มโครม ผมลุกมานั่งอย่างงงๆ ก้มดูหัวเข่าที่แสบแปลบ
เลือดไหลจากปากแผลเหมือนเป็นสิ่งกระตุ้นให้รู้สึกเจ็บกว่าที่ควร ผมร้องโฮออกมาดังลั่น เต้วิ่งเข้ามากอดผม กระซิบคำขอโทษ ใช้ชายเสื้อพยายามเช็ดน้ำตาให้ แต่ผมเบี่ยงหน้าหนีด้วยความโกรธ เต้จึงหันไปเช็ดเลือดที่หัวเข่าผมแทน

ผมตะโกนบอกพ่อที่กำลังหัวเราะลั่น บอกจะไม่ขี่จักรยานอีกแล้ว แล้วหันมาอาละวาดใส่คนข้างๆ เต้ยิ้มปลอบ

“ฟานไม่ขี่ก็ได้ เต้พาซ้อนตลอดชีวิตเลย”

“โกหก” ผมตะโกนใส่หน้า

“เต้สัญญานะ”




.....รับปากหนักแน่นอีกแล้ว …….
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: everlastingly ที่ 17-12-2012 17:26:02
 :pig4: :mc4: แต่งดี แม้พรรณนาบ้าง แต่อ่านแล้วเข้าใจเห็นภาพง่าย จะติดตามอ่านต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 17:43:09
-จักรยานผูกโบว์-

“กฎของหอพักนักศึกษามีอยู่ว่า ไม่อนุญาตให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 นำรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์มาใช้ ...”

เสียงอาจารย์ประจำหอพักร่ายยาวเกี่ยวกับระเบียบของหอให้นักศึกษาปี 1 ฟังในห้องอ่านหนังสือประจำหอ

วันนี้เป็นวันต้อนรับและทำความรู้จัก เพราะหอพักไม่ได้มีเพียงเด็กปี 1 เท่านั้น การเลือกห้องอยู่ที่การมาลงทะเบียนเข้าพักบางคนมาพร้อมเพื่อนเก่า ก็จูงมือกันไปลงทะเบียนอยู่ห้องเดียวกัน
ห้องหนึ่งอยู่กันสามคน พอเหมาะกับห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
ผมและเบสที่ไม่รู้จักใคร ถูกจับลงชื่อไว้ห้องเดียวกัน และสำหรับเพื่อนร่วมห้องอีกคนนั้น ยังไม่เห็นหน้า

“ก็ถ้าห้ามเอารถมาใช้ แล้วจะไปเรียนยังไงวะ” เบสกระซิบถามผมเป็นเชิงบ่นเสียมากกว่า

“สำหรับการเดินทาง นักศึกษาสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้อำนวยความสะดวกให้ โดยจะมีจุดรับบริการ ...........” อาจารย์ร่ายยาวต่อไปเหมือนได้ยินคำบ่นของเบส

ผมขี้เกียจฟัง กฎพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน ที่ไหนๆก็เหมือนกันหมด คงไม่มีหรอกนะ อนุญาตให้ทำร้ายผู้ร่วมหอพักได้ตามอัธยาศัย หรือ หอพักนักศึกษานี้มีสุราจำหน่าย รับชำระเป็นบัตรเครดิต

ในเมื่อไม่อยากสนใจฟัง ได้แต่นั่งนิ่งๆก็จะเป็นการกล่อมให้เคลิ้มหลับเสียเปล่าๆ ผมลองกวาดสายตาดูรอบๆห้อง มองหน้าคนแล้วแอบเดาคณะที่เรียนในใจ หน้าประมาณนี้น่าจะสนใจด้านไหน แน่นอนพวกใส่แว่นผมจัดไปอยู่สายวิทยาศาสตร์เป็นมายาคติไปแล้ว ใส่แว่นหมายถึงเรียนเก่ง และเรียนเก่งหมายถึงนักวิทยาศาสตร์ แพทย์

นั่งเดาไปเรื่อยๆ ก็สบตากับคนเมื่อตอนกลางวัน นั่งยิ้มมองมา แวบแรกผมเกือบลืมไปแล้ว แต่คุ้นที่รอยยิ้มนั้น ผมจ้องกลับไป

เบสสะกิดถาม “รู้จักกันหรอ เห็นมองมานานแล้ว”

ผมส่ายหน้า แต่เมื่อนึกขึ้นได้ก็พยักหน้า ได้คุยด้วยนี่ถือว่ารู้จักหรือยังนะ

“ตกลงว่ารู้จักหรือไม่รู้จักกันแน่ คุยกับฟานแล้วปวดหัววุ้ย แล้วชื่ออะไร คณะเดียวกันหรือไง” ถามรวดเดียวเร็วปรื๋อ ผมเลือกตอบคำถามแรก

“ทักกันตรงทางเดินเมื่อตอนกลางวันน่ะ ห้องติดกัน”

“งั้นเดี๋ยวก็ได้รู้จักกัน”

เบสยังพูดอะไรต่ออีกแต่ผมไม่ได้สนใจฟัง เหลือบตามองกลับไปที่คนนั้น อีกฝ่ายยังมองมาอยู่

ผมต้องยิ้มตอบหรือเปล่า ถ้าไม่ได้อยากยิ้มหรือมีเรื่องรื่นเริงอะไร มันจะเป็นการเสียมารยาทไปไหมถ้าหันหน้าหนีกลับมาดื้อๆ

ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เราต่างจ้องมองกันอยู่คนละฟากของห้อง


ไม่มีการลุกเดินมาหา


เสียงอาจารย์หายไปจากความสนใจของผมนานแล้ว......
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -จักรยานผูกโบว์- (17 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 19:26:45
-ต่อ-

เสียงกระดิ่งจักรยานดังอยู่เบื้องหลัง เสียงกังวานใสเรียกร้องให้หันกลับไปมอง
รอยยิ้มนั้นอีกแล้ว

“ไปตึกไหน”

นั่นเค้าถามผมหรือ ลองเหลียวมองรอบตัวก็ไม่พบใคร เบสออกไปก่อนหน้าผมเพราะเรียนคนละเวลากัน

“ถามคุณนั่นแหละ เรียนไหน ขึ้นมาสิ ไปส่ง”

“เกรงใจ เดี๋ยวเดินไปก็ได้ ใกล้นิดเดียว” ผมตอบส่งๆไป จริงๆก็ไกลอยู่
ตอบไปตาก็มองโบว์สีชมพูสะท้อนแสงที่ถูกผูกไว้ตรงแฮนด์รถ
หวานไปไหม
หน้าเข้มแม้จะขาว ตัวสูงไม่บางจึงดูเหมือนโครงร่างใหญ่ ถ้าจะชอบประดับของกุ๊กกิ๊กก็ไม่ผิดอะไร แต่สีชมพูสะท้อนแสงเชียวนะ ไม่เลือกหน่อยเหรอ

คิดแล้วผมก็อมยิ้มนิดๆ เอียงคอมองโบว์ สายตาคงฟ้องอะไรออกไป เค้าจึงตอบกลับมา

“ไม่ได้ติดเองหรอกนะ ก็นี่ไงโครงการจักรยานผูกโบว์อ่ะ ไปด้วยกันลดโลกร้อน เมื่อวานอาจารย์ก็อธิบายให้ฟัง ได้ฟังบ้างหรือเปล่าเนี่ย”
เสียงนั้นติดจะขำมากกว่าจะต่อว่าเป็นจริงเป็นจัง

“ขึ้นมาๆ เดี๋ยวพาซ้อน”

วูบนั้น ใบหน้าหนึ่งลอยมาซ้อนทับ ผมชะงักงัน

อีกฝ่ายคงคิดว่าผมยังเกรงใจอยู่ จึงตบเบาะหลังเบาๆเป็นการเร่ง ผมค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งซ้อนท้าย เอ่ยเบาๆ
“เราตัวหนัก ผลัดกันขี่ไม่ได้นะ เราขี่จักรยานไม่เป็น”

เสียงทุ้มหัวเราะลั่นเป็นคำตอบ

หลังบอกจุดหมายปลายทางไปแล้ว ก็มาแนะนำตัวกัน ผมได้รู้มาว่านายโบว์ชมพูคนนี้ชื่อ ซำ ที่ไว้ผมสกินเฮดไม่ใช่เพราะใจรัก แต่เพราะเป็นกฎของคณะ ซำเรียนคณะวิจิตรศิลป์

“เรียนเสร็จกี่โมง” ซำจอดหน้าตึกที่ผมต้องขึ้นไปเรียน

การถามเช่นนี้ เป็นการบอกเป็นนัยๆว่าจะมารับใช่ไหม ถ้าผมบอกไม่ต้องเพราะเกรงใจก็จะซ้ำรอยเมื่อเช้า สุดท้ายผมก็จะอดทนต่อรอยยิ้มใจดีนั้นไม่ได้

“...ยังไม่แน่ใจ” ตอบเป็นกลางๆอย่างนี้น่าจะถูกต้องกว่า ไม่ปฏิเสธกันจนเกินไป อาศัยความคลุมเครือ

ซำหัวเราะเบาๆ “ใครมาก่อนก็รอตรงม้านั่งตรงนั้นนะ” พร้อมกับชี้มือไปทางใต้ต้นไม้หน้าตึก แล้วขี่รถจากไป ทิ้งผมไว้เบื้องหลัง




ผมเดินลงตึกมาโดยลืมไปแล้วถึงคำนัดแนะที่ซำทิ้งท้ายไว้ เมื่อมีเสียงเรียกชื่อจึงถึงกับสะดุ้ง หันไปก็เห็นซำนั่งเอนๆหลังส่งยิ้มมา ใบหน้ามีเหงื่อเกาะพราว

“จะเดินไปถึงไหนน่ะ นัดไว้ตรงนี้ไง” พูดไปยิ้มไปอย่างนี้ จะเป็นการต่อว่าก็ไม่น่าจะใช่นะ

“เลยป้าย” ไม่บอกดีกว่าไหมว่าลืม

แล้วซำก็หัวเราะออกมา เส้นตื้นไปไหมพ่อคุณ

“นั่งก่อนก็ได้ ขี่มาจากไหนน่ะ เหงื่อเพียบ” ผมรีบบอกเมื่อเห็นซำลุกมาจะคว้าจักรยาน

“ตึกเรียนรวม” ซึ่งมันห่างจากตึกคณะผมพอควร ตึกรวมอยู่กลางทางระหว่างหอพักมาตึกคณะผม นั่นหมายความว่าซำขี่ย้อนไปมาเพียงเพื่อมารับ-ส่งผม



ซำยิ้มให้ผมที่กำลังยืนอึ้งอยู่ พลางตบเบาะหลังเบาๆ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -จักรยานผูกโบว์- (17 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 20:31:35
-คุ้นชิน-

ผมโทรศัพท์หาแม่เพื่อรายงานตัวตามสัญญาที่ให้ไว้ว่า หากจะมาเรียนเชียงใหม่ให้โทรติดต่อกันอย่าขาดหายไป อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
เพราะเกรงใจเบสที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ผมจึงออกมาคุยตรงระเบียงหลังห้อง
มองออกไปเห็นดอยสุเทพอยู่ไกลๆ จำได้ว่าเคยมาเที่ยวเมื่อตอนปิดเทอมใหญ่ สมัยอยู่ ป. 6 ผมซื้ออะไรไปฝากเต้นะ ที่คั่นหนังสือติดตุ๊กตาชาวเขาหรือเปล่า 

คุยกับแม่ กับคำถามทั่วๆไป กินอยู่ยังไง เงินพอใช้หรือเปล่า ผมตอบได้ทุกอย่าง หากมาสะดุดคำถามสุดท้าย

“จะได้กลับบ้านเมื่อไรลูก”

ผมไม่ได้ตอบแม่กลับไป ได้แต่คิดอย่างเอาเป็นเอาตายว่า ตกลงผมได้ซื้ออะไรไปฝากเต้ตอนนั้น อะไรที่ทำให้เต้ยิ้มกว้างจนจำได้ขึ้นใจ



อะไรกันนะ



“ไปเรียนพร้อมซำทุกเช้าเลยเหรอ”
ผมรู้ว่าเบสสงสัยแต่ไม่กล้าถามมานาน เรียนต่างคณะกัน แต่ไปรับไปส่งทุกวัน ถ้าเป็นรูมเมทอย่างเบสก็ไม่น่าแปลก แต่นี่กลับเป็นแค่คนข้างห้อง

ทุกเช้าหรือเปล่านะ ผมเอียงคอพลางนึกถึงวันที่ผ่านๆมาตลอดเกือบเดือน

“แถวนี้เค้าพูดกันว่านายสองคนจีบกัน”
เบสพูดต่อไปเรื่อยๆ คล้ายเป็นการกระตุ้นให้ผมตอบ แต่ผมยังนึกไม่ออกเลยนะว่าไปพร้อมซำทุกวันหรือเปล่า ผมขอนับก่อนสิ

“ไม่ใช่ทุกเช้านะ”  ก็ถ้าวันไหนผมเรียนบ่ายก็ไม่เจอกัน
เบสทำหน้าเบื่อหน่าย “แต่ก็บ่อยๆใช่ไหมล่ะ”

ผมไม่ตอบอะไร เบสคงถือว่านั่นคือการตอบรับ


“ตกลงจีบกันจริงป่ะ”





สมัยเด็กมีอะไรให้ล้อเลียนเพื่อนได้ตั้งมากมาย ปมด้อย นิสัยแปลกๆ ชื่อพ่อแม่ ตอบคำถามครูผิด
หรือหากใครสนิทกันผิดปกติก็โดนล้อว่าเป็นแฟนกัน

ผมกลายเป็น “คุณนายของชายเต้” ตอนม. 1 เพราะซ้อนจักรยานเต้มาเรียนทุกเช้า
ผมโกรธมาก เพราะการเป็นคุณนาย ไม่ใช่คำยกย่องใครอย่างสมัยนี้ แต่มันหมายความถึงคนที่หยิบจับอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ขยันแต่งหน้าปากแดงไปวันๆ
ซึ่งคนในตลาดใช้คำนี้เพื่อประชดประชันคนที่หมั่นไส้

แล้วทำไมผมต้องเป็นคุณนาย แล้วทำไมเต้ได้เป็นคุณชายอยู่คนเดียว





_____________
ขอกลับบ้านก่อนค่ะ จะกลับมาต่อ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -คุ้นชิน- (17 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-12-2012 20:36:18
มาต่อไวๆนะคะ เรื่องน่าติดตามดีค่ะ

เป็นกำลังใจให้น้า + ^^
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -คุ้นชิน- (17 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 17-12-2012 23:22:41
ปลื้มใจที่รู้ว่ามีคนกำลังอ่านอยู่ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่มีให้นะคะ  :กอด1:



-ต่อ-

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาหลายปี ตอนเช้าผมทานข้าวที่แม่เตรียมทิ้งไว้ให้ เพราะพ่อแม่เป็นครูโรงเรียนประถมต่างอำเภอต้องออกจากบ้านแต่เช้า ผมมีหน้าที่ล็อกประตูบ้านให้เรียบร้อย

ยกมือไหว้ศาลพระภูมิตรงมุมบ้าน หันมาเลื่อนประตูรั้วฝืดๆพอให้เอาตัวลอดออกมาได้ เสื้อนักเรียนจะยับก็ช่าง แต่แล้วมันก็ต้องมีมือจากอีกฝั่งของรั้วมาช่วยเลื่อนให้จนกว้างเสมอ

ผมทำเป็นมองไม่เห็นรอยยิ้มกว้างๆกับจักรยานคันเดิม เดินนำลิ่วๆออกจากตรอกไปถนนใหญ่


“ฟาน” เต้เรียกเสียงดัง แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ สาวเท้าไวขึ้น

“ฟานๆ จะไปซื้ออะไร” เพราะทางที่มุ่งไป มีร้านขายเครื่องเขียนร้านใหญ่อยู่หัวมุมถนน เรามักไปซื้อร้านนั้นเพราะมีของให้เลือกเยอะ


“วันนี้เราต้องไปกับสองแถว” ผมหมายถึงรถประจำทางสายที่วิ่งผ่านหน้าโรงเรียน  คิวรถอยู่ตรงข้ามตรอกบ้านผมนี่เอง


แสร้งทำทีมองซ้ายขวาดูรถก่อนข้ามถนน ทั้งๆที่ถนนโล่งแสนโล่ง แต่เพราะไม่อยากสบตาคู่นั้น
เต้ไสรถจักรยานมาขวางหน้า
แย่จริง เผลอมองจนได้


“ใส่ใจทำไมกับที่ไอ้กิจมันล้อ เดี๋ยวมันก็เลิก”
ผมได้แต่ก้มมองปลายเท้า สงสัยอยู่แต่เพียงว่า เต้รู้ได้อย่างไรว่าผมกังวลเรื่องนี้อยู่ เต้อยู่คนละห้องกับผม หรือเรื่องนี้จะรู้กันทั้งโรงเรียน ผมจะ....

“ขึ้นมานะ” เสียงนั้นขัดขึ้น แผ่วอยู่ข้างขมับ เต้มักจะใช้วิธีนี้เมื่อต้องการอ้อนวอนขออะไรบางอย่างจากผมเสมอ และมันก็สำเร็จทุกครั้งไป



พักกลางวัน ผมเดินผ่านกลุ่มของกิจตรงโต๊ะประจำหน้าโรงอาหาร กลั้นใจเดินผ่าน แต่กลับไม่มีเสียงโห่แซวเหมือนเช่นเดิม กวาดตามองผ่านๆอย่างแปลกใจ กิจ หัวโจกของกลุ่มไม่อยู่ในนั้น คนที่เหลือต่างมองมาที่ผมนิ่งๆ


ผมก้าวขาผ่านไป แปลกใจปนโล่งอก


เย็นนั้น เต้นั่งรอกลับพร้อมผมที่เดิม ที่จอดจักรยานข้างกำแพงโรงเรียน ภาพที่แสนคุ้นชิน
แต่วันนี้มีที่แตกต่างออกไป
ตรงโหนกแก้มเต้มีรอยช้ำน่ากลัว


แต่เต้ยังยิ้มรับผมเหมือนกับทุกๆวัน






ขอโทษนะคะ ที่เขียนมาทีละนิดละหน่อย จังหวะในหัวตอนคิดเรื่องนี้มันช้าๆเนิบๆ พิมพ์ไปแก้ไป บางครั้งห้วนสั้น
จะพยายามเขียนให้ดีกว่านี้ อย่าเพิ่งเบื่อจะอ่านนะคะ
วันนี้ขอตัวนอนก่อนค่ะ  :bye2:  :bye2:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -คุ้นชิน- (17 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 18-12-2012 08:53:43
-หลงใหล-

โทรศัพท์สั่นครืดคราดบนโต๊ะ ผมปิดเสียงไว้ ด้วยเกรงใจเบสที่ต้องท่องหนังสือหนักแม้เพียงปีหนึ่ง
เบอร์โทรศัพท์ที่น้อยคนจะรู้ อาจเป็นแม่

“ครับ” ผมตอบรับสาย ปลายสายแว่วเสียงพ่อไกลๆ

“ฝนตกหนักไหมลูก”  แม่คงกลัวผมไม่สบายมากกว่าอยากรู้สภาพภูมิอากาศ ด้วยรู้นิสัยกันดี ผมไม่เคยพกร่ม

ตอบกลับให้แม่คลายกังวล  ทอดสายตามองไกล ดอยสุเทพหายไปแล้ว



หมอกขโมยภูเขาของเราไป ... ใครนะเคยพูดไว้



แม่บ่นพ่อให้ฟัง แว่วเสียงพ่อค้านเบาๆเป็นระยะ หัวเราะไปตาก็กวาดไปข้างห้อง
ซำนั่งหันข้างให้ กระดานวาดภาพขนาดใหญ่พิงระเบียง กระดาษยังขาวสะอาด ผมนึกเดาว่าซำจะวาดรูปอะไรลงไป


“บ้านนั้นกลับมากันแล้วนะ” เสียงแม่แผ่วเบา



ผมเห็นเมฆฝนเรี่ยอยู่เชิงดอย





เสียงเคาะประตูหนักๆ ก่อนเจ้าของเสียงจะก้าวเข้ามาพร้อมไม้ค้ำยัน เฝือกที่ขาขาวเด่น ผมจ้องตาค้าง
เหมือนได้ยินเสียงกระซิบข้างขมับ


‘อย่าลืมนะ ....อย่าลืม’



“เมาปลิ้นน่ะ รถล้ม” ผมไล่สายตากลับไปมองหน้าคนพูด ตาตี่ ปากบางเฉียบ อาจจะเชื้อจีน
เบสถามไถ่ด้วยประโยคยาวๆ เหมือนวันแรกที่ผมเจอ ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง


ใจประหวัดนึกถึงเสียงหวีดร้องในวันนั้น ...


ยังไม่จบ จะไปเขียนต่อที่ทำงานนะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -หลงใหล- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 18-12-2012 09:58:51
 :เฮ้อ: เต้ดูมีอิทธิพลกับฟานอย่างมากเลย แต่ว่าเต้ไปไหน...

แม่บอกว่าบ้านนั้นกลับมาแล้วนะ... หมายถึงบ้านไหน บ้านเต้รึเปล่า? ที่ว่าอย่าลืมนะคงเป็นคำพูดของเต้

โอยยยยยย... สับสนดีเเท้ ชอบตัวของฟานจริงๆ ดูนิ่งๆ อึนๆดี... แต่เกิดอะไรขึ้นกับเต้และฟานกันนะ...

ซำรุกหนักเหมือนกัน555 หรือเรียกว่ามาเเบบสม่ำเสมอดี... รู้สึกว่าฟานมองซำบางครั้ง เพราะทำให้นึกถึงเต้

เป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เคยคุ้นชิน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -หลงใหล- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 18-12-2012 13:16:58
-หลงใหล -ต่อ-

เด็กผู้ชายหวงเวลาพักกลางวันยิ่งกว่าสิ่งใด ต่างรีบเร่งตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวกลืนหยาบๆ ใจห่วงไปที่สนามฟุตบอล
วิ่งไล่เตะกันเองบ้าง หัวเราะเสียงดัง หมดพักกลางวัน เดินกลับห้องเรียน เสื้อชุ่มโชก เหม็นเหงื่อ
เป็นเช่นนี้ทุกวันๆ

แต่ก็ไม่ตลอดไป


ไม่มีสัญญาณใดๆมาเตือน เหมือนภาพในหนังที่ตัดฉากกะทันหัน ผมเลิกเล่นฟุตบอลช่วงพักกลางวัน เมื่อจู่ๆผมค้นพบว่า เด็กผู้หญิงมีกลิ่นที่แตกต่างจากเด็กผู้ชาย
ผมใช้เวลาหมดไปกับการนั่งฟังเพลงในห้องเรียน แอบมองใครบางคนอย่างเงียบๆ
 
มิ้ม เด็กผู้หญิงผิวขาว นั่งโต๊ะเรียนแถวหลังผม 2 แถว มิ้มมักจะนั่งจับกลุ่มคุยกับเพื่อนในห้องเรียนตอนช่วงพักกลางวัน
มิ้มมีกลิ่นเหมือนลูกองุ่นที่ถูกขบในปาก หอมซ่านก่อนทิ้งกลิ่นจางๆที่ปลายลิ้น

คงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่รู้สึก เพราะทุกครั้งลับหลังมิ้ม เด็กผู้ชายแถวหน้าจะพากันใช้ศอกถองใส่กันบ้าง แอบผลักกันจนเกือบชนมิ้มบ้าง
ส่วนผม ก่อนออกจากห้องเรียนจะทำเป็นรีรอทุกครั้ง รอจนมิ้มเดินผ่าน ผมจะค่อยๆเดินตามหลัง
ไม่มีเหตุอะไรให้ชวนคุยด้วย จึงได้แต่ลอบมองแผ่นหลังมิ้ม รู้สึกหวามในอกแต่ไม่แสดงพิรุธใดๆออกไป


ผมทำเช่นนั้น จนกระทั่งจบม. 3




ปิดเทอมเตรียมขึ้นม.ปลาย เรารู้สึกเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  เริ่มอยู่ไม่ติดบ้าน เรานัดเจอกับพวกเพื่อนๆที่โรงเรียนเสมอ
ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร แค่ไปเจอหน้ากัน  เด็กผู้หญิงในชุดไปรเวทดูแปลกตา
มิ้มนั่งติดเต้ ทุกครั้งที่มองไปมิ้มจะช้อนสายตามองเต้เสมอ



และนั่นเป็นสายตาที่ผมฝันถึง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -หลงใหล-(ต่อ)- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 18-12-2012 15:39:59
-รำคาญ-

เสียงเรียกชื่อผมจากหลังห้องดังลอดเข้ามา ผมเดินออกไป คุยกันข้ามระเบียง ซำชวนผมออกไปข้างนอก
บ่อยครั้งที่เรามักจะออกไปนั่งริมสระน้ำแถวคณะวิทยาศาสตร์ ซำเรียกที่นั่นว่าจูลาสสิคปาร์ค เพราะที่นั่นมีต้นปาล์มให้อารมณ์ดึกดำบรรพ์ ร้างผู้คน
ซำนั่งวาดรูป ส่วนผมนั่งฟังเพลง

'เหมือนหลุดมาโลกอดีตเลยนะ' ครั้งหนึ่งซำหันมาพูดกับผม แล้วก็ยิ้มชอบใจ

ระหว่างเรา ดูเหมือนไม่ค่อยมีการสนทนาสักเท่าไร

คนในห้องโขยกเขยกมายืนข้างผม ซำทำหน้าแปลกใจ ผมจึงต้องแนะนำ

“ชื่อปรุง รูมเมทอีกคน ขาหักเลยเพิ่งมา”

“เด็กวิจิตรป่าวนาย ทรงผมมันฟ้อง”

ซำพยักหน้าให้ “คณะอะไร”

“มนุษย์ เหมือนฟาน แต่เราเรียนจิตวิทยา” ผมเองก็เพิ่งรู้

“เห็นชวนกันไปไหน ไปด้วยคนดิ” ปรุงย้ายจากพิงกำแพงมาเกาะไหล่ผมแทน
ผมเหลือบตาลงมองขาข้างที่เข้าเฝือก กำลังจะห้ามออกไป แต่ปรุงพูดขัดขึ้นมา

“ไปไหว อยู่ห้องก็เบื่อ”
ผมมองหน้าปรุง ยังลังเล หากซำไหวไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ


“ขอเตรียมของแป๊บเดียว” ผมพูดตัดบท




“ซำวาดเฝือกให้หน่อยนะ” ปรุงยิ้มประจบ ตาตี่ๆเหลือเป็นขีดเล็กๆ

ตอนนี้เรานั่งอยู่ใต้หอ เป็นสวนหย่อมเล็กๆ ผมถามเหตุผลที่ซำไม่พาไปจูลาสสิคพาร์ค ซำมองหน้าผมนิ่งๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร
หรือเพราะไม่อยากให้ปรุงเดินไกล

อีกฝ่ายถอนหายใจ “มันจะติดหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“ลองดิ เนี่ยๆ กลางๆเลย เด่นดี” ปรุงชี้ๆให้ซำวาด

สองคนวุ่นวายกับการวาดเฝือก ผมนั่งห่างออกมา มองเพลิน
ถ้าคุณได้เห็นภาพผู้ชายตัวโตๆสองคนมานั่งทำอะไรน่ารักๆอย่างระบายสีเฝือกตอนนี้ คุณคงนั่งยิ้มเหมือนที่ผมกำลังเป็น




“เซ็นให้ที” เต้ยื่นปากกาเคมีให้ผม พลางพยักพเยิดไปทางแขนข้างที่ใส่เฝือก
ผมเมินหน้ากลับไปสนใจหนังสือการ์ตูนในมือต่อ ผมไม่อยากมีชื่อในนั้น


ก็เฝือกนั่นมันเกิดเพราะผม



วันนั้นเรานัดกันไปโรงเรียนเหมือนทุกที นั่งกันบนอัฒจันทร์ ที่ขั้นบนสุดนั้นผมนอนมองต้นสนเหนือหัว ลูกสนหล่นกราว ผมคว้ามาดู
เต้เดาะลูกบาสเล่น พื้นอัฒจันทร์เป็นไม้ แรงสั่นสะเทือนทำให้ผมเริ่มรำคาญ

“ไปเล่นไกลๆเลย”

เต้หัวเราะ ทรุดลงนั่งข้างหัวผม เอื้อมมาแย่งลูกสนในมือ ก่อนจะค่อยๆวางเรียงบนปลายจมูกผม
ผมปัดออกแรงๆ เหลือบตามอง เต้ก้มหน้ามาใกล้จนมองเห็นหน้าเบลอๆ

ผมผุดลุกขึ้นนั่ง เต้คว้าแขนผมไว้

“ไปไหน”

ผมกระชากแขนกลับ เตรียมก้าวลงจากอัฒจันทร์
“กลับ”

“รอเดี๋ยวสิ กลับพร้อมกัน” เต้หันไปหยิบลูกบาส มือหนึ่งก็รั้งแขนผมให้รอ

ผมสะบัดตัวแรงๆ ลูกบาสหลุดจากมือ เสียงกระแทกดังตึงใหญ่ เรียกสายตาเพื่อนๆหันมามอง


มิ้มหวีดร้องเสียงดัง ก่อนเสียงคนอื่นๆจะเอะอะโวยวายตามมา



เพราะสิ่งที่ตกกระแทกพื้นไม้อัฒจันทร์ขั้นล่างสุด คือลูกบาส

ส่วนเต้


นอนกลิ้งอยู่บนพื้นดิน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย อัพเพิ่ม -หลงใหล- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 18-12-2012 15:41:39
:เฮ้อ: เต้ดูมีอิทธิพลกับฟานอย่างมากเลย แต่ว่าเต้ไปไหน...

แม่บอกว่าบ้านนั้นกลับมาแล้วนะ... หมายถึงบ้านไหน บ้านเต้รึเปล่า? ที่ว่าอย่าลืมนะคงเป็นคำพูดของเต้

โอยยยยยย... สับสนดีเเท้ ชอบตัวของฟานจริงๆ ดูนิ่งๆ อึนๆดี... แต่เกิดอะไรขึ้นกับเต้และฟานกันนะ...

ซำรุกหนักเหมือนกัน555 หรือเรียกว่ามาเเบบสม่ำเสมอดี... รู้สึกว่าฟานมองซำบางครั้ง เพราะทำให้นึกถึงเต้

เป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เคยคุ้นชิน

 o13  เดาเก่งจังค่ะ อย่าเพิ่งรีบเดาถูกนะ เดี๋ยวไม่ลุ้น >___<
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: everlastingly ที่ 18-12-2012 17:58:40
 :pig4: ขอบคุณคนแต่งมากนะ จะรออ่านต่อไป เพราะเรื่องราวมันยังดูคลุมเครืออยู่ o13
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-12-2012 18:24:09
เอ๊ะ เมทคนใหม่มันยังไงกันเน้ออ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 18-12-2012 21:52:45
 o22 เดาถูกเหรอคะเนี่ย... ไม่เป็นไร ยังมีอีกมากที่เรายังเดาไม่ได้555 อย่างเช่นตอนล่าสุดนี่

ฟานรู้สึกผิดมากสินะที่เต้เจ็บเพราะตัวเอง... แต่ที่ซำไม่พาเพื่อนใหม่ไปสวนดึกดำบรรพ์(?)

คงเพราะจะให้ไว้เป็นที่ของซำกับฟานรึเปล่า?... เมทใหม่ฟานดูแปลกๆไงไม่รู้ (หรือคิดมากไป)

แบบอยากไปด้วยมันก็ใช่เเต่ดูตามๆติดๆยังไงไม่รู้ แล้วยังมีเรื่องเขียนเฝือกอีก เอิ่มมม... สงสัยนะเนี่ย

อิอิ รออยู่นะคะ :กอด1:  +เป็ดให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 18-12-2012 21:57:54

ฟานเกลียดเต้ เพราะมิ้มชอบเต้ใช่ไหม

แล้วที่ซำไม่พาไปจูลาสติคพาร์คเพราะต้องการให้เป็นสถานที่ลับระหว่างซำกับฟานใช่ไหม

เดาได้แค่นี้แหละ อย่างอื่นไม่รู้ 555
รอคนแต่งมาเฉลยค่ะ คืนนี้จะมามั้ยน้อ

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 18-12-2012 22:50:12
มันดูคลุมเครือ แต่สิ่งที่แน่ใจคือ เต้มีอิทธิพลต่อฟานมาก
ส่วนซำก็เป็นคนที่มีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้บางทีเผลอนึกถึงเต้ขึ้นมา

แต่เต้กลับมาแล้วใช่ไหม ? บ้านหลังนั่นหนะ ....
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: putiinez ที่ 18-12-2012 23:18:47
อ่านแล้วหน่วงๆนิ่งๆอึนๆยังไงไม่รู้ 55

ชอบเวลาที่บรรยายแล้วสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน รู้สึกเหมือนมันไม่สะดุดเลย ยิ่งอ่านของปัจจุบันยิ่งอยากรู้อดีตมากขึ้น
แต่อ่านแล้วสังหรณ์ใจเรื่องเต้ยังไงไม่รู้ เรายิ่งชอบเดามั่วอยู่  :laugh:

มาต่อนะะ เป็นกำลังใจให้จ้าาา >[]<
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-12-2012 23:54:01
บรรยากาศครึ้มๆคล้ายฝนใกล้ตก พายุกำลังจะเข้า
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 00:14:52
everlastingly
cattydoggy
U_Ton
Aoya
GETIIZ
putiinez
bulldog17

ขอกอดแรงๆๆๆ โทษฐานเสริมสร้างกำลังใจให้เราค่ะ  :กอด1:  :กอด1:

เข้ามาอัพเพิ่ม แล้วได้มาเจอความคิดเห็น ที่บอกจะติดตาม มันทำให้หัวใจเราพองฟู

ถ้าจะมีใครที่เข้ามาอ่านแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น เราก็รักนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 00:17:46
-ทิ่มแทง-

“เมื่อคืนฟานละเมอด้วยล่ะ”

ผมชะงักขาที่กำลังไต่บันไดเตียง เพราะขาปรุงยังไม่หาย ผมจึงย้ายไปนอนเตียงชั้นสองแทน

มองลอดขั้นบันได ปรุงส่งยิ้มให้ แต่ตาจ้องเขม็ง

“ไม่ถามหรือไง ละเมออะไรบ้าง”
ผมเหยียบถึงขั้นสุดท้าย กระโดดลงพื้นเสียงดัง ตาสบตา ผมยืนนิ่งงัน ราวกับหยุดหายใจ

เบสเปิดประตู ก้าวพรวดพราดเข้ามา ผ้าขนหนูพันเอวไว้หลวมๆ เนื้อตัวยังมีหยดน้ำเกาะพราว
“พวกมีเรียนบ่าย อย่ามาโอ้เอ้ให้เราอิจฉาได้ไหม”

ปรุงหัวเราะค่อยๆ “ก็แล้วจะลงวิชา 8 โมงไปทำไมล่ะ”

“วิชาบังคับโว้ย มีเซคเดียว” เบสสวมเสื้อผ้าลุกลน ตามองนาฬิกา มือกลัดกระดุมเสื้อ

ปรุงแกล้งทำเสียงเป็นจังหวะเร่งเร้าเพิ่มความร้อนรน เบสร้องโวยวาย



ผมยังหายใจอยู่





“เรามีรายงาน ต้องไปค้นหนังสือที่หอสมุด วันนี้ปรุงไปเรียนคนเดียวไหวไหม”

สองวันที่ผ่านมา ผมนั่งรถไฟฟ้าไปเรียนพร้อมปรุง เพราะเรียนวิชาพื้นฐานด้วยกัน

ปรุงเกาคาง หัวเราะแผ่วเบา ไม่ตอบอะไร ผมแปลท่าทีนั้นไม่ออก จึงหันหลังออกเดิน

ปรุงค่อยๆเดินตาม


เสียงทึบๆจากไม้ค้ำกระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คล้ายเสียงชีพจร ดังไล่หลังผมมา






ไม่มีใครคุยกับผมเป็นระยะเวลาเท่ากับที่เต้ขาดเรียนไป และทุกๆครั้งที่ผมเดินผ่าน เสียงพูดคุยจะหยุดลงทันที เหมือนมีใครกระชากปลั๊กวิทยุ ตัวผมชาดิก รับรู้ได้ว่าทุกสายตากำลังจับจ้อง เป็นสายตาแห่งการลงทัณฑ์

ขึ้นชั้นม.ปลาย ผมได้อยู่ห้องเดียวกับเต้ ดูเหมือนเพื่อนทุกคนพยายามกันที่ข้างตัวไว้รอเต้มานั่ง


ที่ข้างๆผม ว่างเปล่า



หลังพักเที่ยงของวันหนึ่ง เต้ก็กลับมาเรียน เหมือนห้องจะสว่างขึ้น เพื่อนทุกคนนั่งล้อมเต้ แย่งกันถาม ชวนกันคุย เสียงหัวเราะดังออกไปถึงระเบียง เพื่อนห้องถัดไปชะโงกหน้ามาทักทาย

เต้เป็นที่รักของทุกคนเสมอ



โรงเรียนเลิก ผมเดินไปคิวรถสองแถว มีเต้เดินตามมาใกล้ๆ ผมไม่ได้หันกลับไปมองแต่รู้จากเสียงเพื่อนทักเต้ตลอดเส้นทาง

เรานั่งติดกันบนรถ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไร

ถึงหน้าบ้าน ผมเลื่อนประตูฝืดๆ เต้ยื่นมือข้างที่ไม่เจ็บช่วยเปิดออกจนกว้าง
ผมก้าวเข้าไป เต้ยังไม่ปล่อยมือ ผมเลื่อนปิดไม่ได้

เงยหน้าสบตากัน สายตานั้นกำลังวิงวอน


“เข้าป่ะ”



เต้ยิ้มกว้างๆเป็นคำตอบ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -รำคาญ- (18 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 19-12-2012 00:18:40
บรรยากาศดูอึกครึมเหมือนฟ้าครึ้มฝนเลย
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-12-2012 00:36:33
T_______Tแอบหน่วงในใจ

นายเต้ นายไปอยู่หนใดเน้อออออ

+ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 01:16:25
-ต่อ-

“ทำไมต้องเซ็นด้วยล่ะ เดี๋ยววันนึงก็ต้องเอาออก”
ผมโย้ตัวหนีเต้ที่พยายามดึงหนังสือการ์ตูนผมออกไป

“กำลังใจไง นะๆ” เหตุผลไม่เข้าท่าเลย


“เซ็นนะๆๆๆ” เต้รบเร้าเป็นเด็กๆ เอื้อมมือมาเขย่าไหล่ผมไปด้วยเป็นจังหวะ ผมหยิบปากกาขึ้นมาตัดรำคาญ

“เอ้า จะให้เซ็นว่าอะไร”

“ใครเค้าถามกันอย่างนั้นล่ะ มันต้องเขียนสิ่งที่ฟานอยากบอกสิ” เต้ทำหน้าบูด


ผมมองหน้าเต้ ทำหน้าจริงจัง

“เราจะไม่เหมือนคนอื่น เราจะเขียนสิ่งที่เต้อยากได้ยินจากเรา”
เป็นการปัดภาระได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว




เต้ย้ายมานั่งแปะตรงหน้าผม กระซิบเสียงเบา....







“ไม่อยากรู้จริงๆเหรอ” ปรุงชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมา ทำเสียงกระซิบกระซาบ

ผมละสายตาจากหนังสือตรงหน้า
“อะไร”

“ก็ที่ฟานละเมอไง”

ผมควรจะอยากรู้เพื่อตัดปัญหา คิดได้อย่างนั้นจึงส่งสายตาทำนองให้ปรุงเล่ามา

ปรุงทำหน้าจริงจัง เหลียวหน้าเหลียวหลังล่อกแล่ก แต่ดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่น่าวางใจพอ จึงย้ายตัวเองมานั่งข้างผม

ปรุงป้องปาก กระซิบข้างหู

“ฟานพูดว่า.......ซำจ๋าาาาาา ฟานรักซำที่สุดดดดดด”


ผมปิดหนังสือเสียงดัง หันหน้าไปมองปรุงที่กำลังหัวเราะคิกคัก

ผมไม่พูดอะไร

ปรุงวาดแขนมาพาดบนพนักเก้าอี้ตัวที่ผมนั่ง เท้าคางจ้องหน้าผม
ผมรู้สึกคล้ายโดนกักขัง
 
“โกหกน่ะ แต่ไม่บอกก็คงรู้อยู่แล้วสิเนอะ” ปรุงย้ายมือที่เท้าคางอยู่ เอื้อมมาจับผมปอยหนึ่งทัดหูให้ผม



“ฟานพูดซ้ำๆว่า........


ไม่ได้ยินเลย....อะไรนะ......เราไม่ได้ยิน....”



ผมนั่งตัวแข็งทื่อ เสียงคลื่นดังสะท้อนในหัว



“ฟานอยากฟังอะไร.......”

เสียงปรุงเหมือนมาจากที่ไกลๆ ทั้งๆที่หน้าปรุงเริ่มเข้ามาใกล้ผมทุกทีๆ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง-ต่อ- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 19-12-2012 04:02:17
มันคืออะไรกันแน่เสียงที่ขาดหายนั่น
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง-ต่อ- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-12-2012 07:47:06
บรรยายเรื่องได้น่าอ่านมากค่ะ  ภาษาชวนให้ติดตาม  เนื้อเรื่องทำให้สงสัย  แบบนี้ชอบมากกกกกก  o13
อัพบ่อยๆนะคะ  อยากอ่านต่อแว้ว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง-ต่อ- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yuthaiz2 ที่ 19-12-2012 09:18:56
อยากรู้จังว่าเกิดอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง-ต่อ- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 19-12-2012 10:02:49
 o22 ปรุงงงงง... นายเป็นใครเนี่ย ต้องการอะไรจากฟาน... รู้สึกว่าปรุงรู้มากไปแล้ว

พาลให้นึกอยากรู้ว่าฟานละเมอว่าอะไร... เกี่ยวกับเต้สินะ เเต่โอ้ยยยย... เดาไม่ถูก

ความสัมพันธ์ของฟานกับเต้ดูน่ารักแบบหม่นๆ งอนง้อกันเงียบๆ แต่ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้

เต้ดูไม่ยอมปล่อยมือจากฟาน... ฟานที่รำคาญ แต่สุดท้ายก็คอยเเต่มองหา คิดถึง เสียใจอยู่อย่างนั้น

พอมาอ่านเเบบปัจจุบันมีปรุงเข้ามาแทรกกับฟานเเละซำ ทำให้อะไรๆดูน่ากังวลไปหมดเลย...

สงสารฟานจัง เหมือนถูกรุมทั้งอดีตและปัจจุบัน ตอนแรกคิดว่าปรุงปิ๊งซำซะอีก... ไหงมารุก(แบบน่ากลัว)ใส่ฟาน

ปล. รออยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง-ต่อ- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 10:56:13
-หลบภัย-

ผมนั่งมองซำค่อยๆจรดปลายพู่กันอย่างช้าๆ ภาพร่างด้วยดินสอสีอ่อนจางลายเส้นยุ่งเหยิง จนผมดูไม่ออกว่าซำกำลังจะวาดรูปอะไร
เรานั่งริมสระน้ำที่เต็มไปด้วยกอผักตบชวา ผมมองไม่เห็นความสวยงามเลยสักนิด

แต่สายตาของคนเรียนศิลปะ อาจมองเห็นไม่เหมือนเรา


ซำเหลียวหน้ามามองผม พู่กันในมือถูกลดลงมาแกว่งในกระป๋องน้ำ ผมไม่ได้หลบตา เป็นนาน จนซำเองเป็นฝ่ายถอนสายตากลับไป

เสียงหัวเราะเก้อๆดังแผ่วๆ
“จ้องจนเกร็งแย่แล้ว”

“อึดอัดหรือเปล่า” ผมถามเบาๆ

ซำหันมายิ้มให้ผม ไม่ตอบอะไร หันกลับไป จุ่มพู่กันกับสีในถาด จับจ้องไปยังผืนผ้าใบที่ผมยังคงดูไม่ออกอยู่ดีว่าเป็นรูปอะไร
ผมเลื่อนสายตาลงมามองกระป๋องน้ำ สีบิดตัวเป็นสายไหวระริก

ลมพัดเบาๆหอบกลิ่นฝนมาจากที่ไกลๆ




“ไม่ลืมของไว้นะ” ซำถามย้ำกับผม แต่จริงๆคงถามตัวเองมากกว่า ก็ในเมื่อผมไม่ได้พกอะไรมาด้วยเลย เรากำลังเตรียมตัวกลับหอ

“ซดอ้วก คืออะไรน่ะ” ผมตอบกลับไปด้วยคำถาม เขม้นมองไปยังลายมือโย้เย้บนกระดาษแข็งแผ่นเล็กๆ มันถูกผูกร้อยไว้กับหูกระเป๋าเป้ของซำ

ซำมองตามสายตาผม “ชื่อคณะ”

ผมช้อนสายตามองซำเป็นเชิงขอร้องให้อธิบาย

ซำก้มหน้า ท่าทางเอียงอาย
“มันต้องมีการแสดงให้รุ่นพี่ดู ซำไม่รู้จะเล่นอะไร” ซำเล่าถึงที่มา แล้วก็เริ่มออกเดินนำช้าๆ เหมือนไม่อยากให้ผมเห็นสีหน้าตอนนี้

“แล้ว.....” ผมลากเสียงกระตุ้นให้ซำพูดต่อ

“ตอนรอคิว ซำก็วิ่งออกไปซื้อโจ๊กคัพ” ถึงตอนนี้ผมเริ่มเดาได้ลางๆ หยุดเดินตาม ซำที่เดินนำหน้ายังไม่รู้ตัว

“พอถึงเวลา ซำก็โกยโจ๊กเข้าปาก...” ใช้คำว่าโกยเลยเหรอ ผมยกมือปิดปากแน่น

“แล้วก็ออกไป ชักแหง็กๆๆๆๆ คายโจ๊กออกมาเรี่ยราดเต็มพื้นเลย” ถึงตอนนี้ผมสะกดกลั้นไม่ไหวแล้ว


ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นถนนจนตัวงอ เอามือกุมท้อง น้ำตาเล็ด
ซำหันมา ทำหน้าตกใจ จ้องผมที่ยังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่เป็นนาน ผมมองหน้าซำพลางนึกถึงตอน ‘ชักแหง็กๆๆๆ’ ถ้าขอให้ซำทำให้ดู คุณว่าเค้าจะยอมไหม คิดไปแล้วก็ยิ่งขำ

ซำก้มหน้า หัวเราะเขินๆปลายเท้าเขี่ยพื้นเล่น สลับเงยหน้ามามองผมเป็นพักๆ
ผมหยุดหัวเราะแล้ว เช็ดน้ำหูน้ำตาป้อยๆ ยิ้มยังค้างอยู่ เริ่มออกเดินต่อจนมายืนเคียงข้างซำ

ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เพราะซำยังหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่


เริ่มจะค่ำแล้ว ไฟหน้ารถที่ขับสวนมาสาดกระทบใบหน้าเราทั้งคู่ ดวงตาซำต้องแสงแพราวพราวชั่วขณะ

ซำอ้อมแอ้ม “ก็...ไม่ค่อยเคยเห็น...ฟานหัวเราะ”


“ถ้ารู้อย่างนี้ จะแขวนป้ายนี้ตั้งแต่แรก”




มีคนพอใจกับเสียงหัวเราะของผมด้วยหรือ........







“พรุ่งนี้สอบสังคม”
ผมครางในลำคอ เป็นสัญญาณรับรู้ แผ่นเกมกระจายเกลื่อนข้างตัว มือกดปุ่มบังคับยิงศัตรู เสียงถูกปิดเอาไว้

“นี่ชีต วิชาเลขขึ้นบทใหม่แล้วนะ” เต้คุ้ยกระเป๋ารกๆด้วยมือข้างเดียว “เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วสอนให้”

ผมเหม่อมองเฝือกสีขาว ที่ไม่ว่าเพื่อนคนไหนขอเซ็น เต้ก็จะปฏิเสธด้วยใบหน้ายิ้มๆ
‘ไม่เอา จะเขียนคำหยาบใช่ไหม เดี๋ยวหม่อมแม่พิโรธ’ เรียกเสียงโห่ฮาจากเพื่อน แล้วก็เปลี่ยนเรื่องอื่นแทน


“เมื่อไหร่จะได้ถอด”

เต้มองตามสายตาผม “เฝือกน่ะนะ” ค่อยๆปลดผ้าคล้องแขนออก


เต้ยื่นเฝือกมาตรงหน้า ให้ผมได้เห็นชัดๆ ตัวอักษรที่เคยถูกผ้าคล้องแขนปิดบังไว้



‘รัก’

ตัวหนังสือโย้เย้

เฝือกถูกลดต่ำลง มองเห็นหน้าเต้



“จะเก็บไว้ตลอดชีวิตเลย...”




บนจอโทรทัศน์ มีตัวหนังสือสีแดงคาดเต็มหน้า



“You Lose!”







เกี่ยวกับตอนนี้ ขออนุญาตเขียนอธิบายหน่อยนะคะ
เพราะมันมีการพาดพิง
ชื่อคณะ 'ซดอ้วก' มีอยู่จริง ตอนนั้นคนเขียนเดินผ่านเด็กวิจิตรคนหนึ่งสมัยเรียน สงสัยถึงที่มา เค้าก็เล่าให้ฟังค่ะ เป็นผู้หญิง
ขออนุญาตเอามาแต่งในนิยายเรื่องนี้ จะมีใครว่าอะไรไหมหนอ

หากเจ้าตัวหรือเพื่อนๆมาอ่านเจอ แล้วรู้สึกไม่พอใจ กราบขอโทษด้วยนะคะ

ปล. ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ขึ้นหน้าใหม่ ดีใจที่เข้ามาอ่านกัน คนที่เดาไว้ ขออนุญาตไม่เฉลยน้าาา
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -หลบภัย-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 19-12-2012 11:14:10
รออ่าต่อน๊า มาต่อไวๆ เป็นกำลังใจค้าบ :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -หลบภัย-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-12-2012 11:19:26
มันอึมครึมและอยากรู้อ่ะ เต้ในอดีตกับซำในปัจจุบัน?
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -หลบภัย-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 19-12-2012 14:17:32
จับปรุงมาเขย่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ฟานละเมอว่าอะไร ละเมอถึงเต้ใช่ไหม
เต้ ฟาน  มันดูเป็นความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ

อ่านไปอ่านมา ชักคิดถึงเต้แล้วอะ เต้หายไปไหนนนนน รู้ไหมว่ามีคนเค้าคิดถึง  :z3:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -หลบภัย-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 15:22:30
-ฝาดเฝื่อน-

“เสร็จแล้วนะ มากินด้วยกัน” พี่เลียบ รูมเมทของซำเอ่ยชวน กลางห้องมีหม้อไฟฟ้าตั้งอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่น มาม่าในหม้อเดือดปุด

“ฟาน ใช้ส้อมแทนตะเกียบนะ หมดพอดี”
ผมหันไปมองก้อง รูมเมทซำอีกคน กำลังจัดเตรียมถ้วยชาม

“ตามสบายเลย เราไม่หิวน่ะ” ผมยิ้มให้ พลางคว้าหนังสือการ์ตูนตรงหัวเตียงมาเปิดอ่าน

ซำขมวดคิ้ว เดินมานั่งข้างๆ เอ่ยเบาๆ “เกรงใจทำไม นี่ทำเผื่อไว้แล้ว”

ผมส่ายหน้า “ไม่หิวจริงๆนะ”

ซำมองหน้าผมนิ่งๆพักหนึ่ง แต่ไม่ได้เซ้าซี้อะไร เอื้อมไปหยิบหนังสือการ์ตูนมาอีกตั้งใหญ่วางตรงหน้าผม “นั่นเล่มเก่าแล้ว หิวก็ลุกมานะ”
ผมยิ้มขอบคุณ เปิดหนังสืออ่านเงียบๆ



พักนี้เบสเข้าห้องเชียร์เลิกดึกทุกวัน ผมมักใช้เวลาช่วงหัวค่ำ ขลุกอยู่ห้องซำ จนพี่เลียบและก้องเริ่มคุ้นเคยกับผมแล้ว บางวันมีตั้งวงไพ่ ผมจะเป็นคนนั่งดูอยู่บนเตียงของซำ มองมายังวงไพ่กลางพื้นห้อง

‘ป้องกันคนขี้โกง’

นั่นคือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพราะผมเล่นไพ่ไม่เป็น
แต่ถ้าวันไหนที่สองคนนั้นไม่อยู่ห้อง ซำจะงัดอุปกรณ์วาดรูปออกมาสอนผมวาดภาพ

‘พี่เลียบไม่ชอบกลิ่นสีน่ะ’ ซำบอกผม ตอบข้อสงสัยที่ว่าทำไมต้องรอให้อยู่ตามลำพัง




เสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงเบส “มาตามเด็กหนีออกจากบ้านคร้าบบบ”
ซำหัวเราะพรืด ผมหน้ามุ่ย เบสยืนรอผม มองหน้าแต่ไม่ได้ว่าอะไร เราออกเดินกลับห้องพร้อมๆกัน เป็นเช่นนี้ทุกวัน



เบสไม่เคยถามอะไร







“ฟานหายป่วยแล้วหรือลูก” แม่ถามขึ้นมา หลังจากที่ผมขอให้แม่ช่วยรีดชุดนักเรียน
ผมนั่งพิงผนังห้องอยู่ด้านหลัง จากตรงนี้มองไม่เห็นสีหน้าของแม่

“เต้บอกพรุ่งนี้มีสอบครับ”

แม่หันมามองหน้าผม “ไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”




ผมได้แต่มองพื้นกระดาน





ไม่น่าเดินมาเลย ผมได้แต่ร่ำร้องในใจ วันนั้นมีการสุ่มจับคู่ทำรายงาน ผมได้คู่กับเพื่อนในกลุ่มของมิ้ม ช่วงพักกลางวันผมเดินไปหาที่โต๊ะประจำ
มิ้มนั่งหันหลังให้ผม

เกือบก้าวไปถึง ได้ยินเสียงมิ้มพูดขึ้นมา “คู่กับอีตุ๊ดคุณนายเนี่ยนะ”

คนรอบโต๊ะนั่งเงียบ ตัวแข็ง พยายามสะกิดมิ้ม บางคนกลอกตามามองผมช้าๆ



ผมภาวนาให้ได้เห็นสีหน้าตกใจจากมิ้ม



มิ้มเบือนหน้า ปรายหางตามองมา ยกยิ้ม





เบื้องหน้าผมนั้น บานหน้าต่างติดฟิล์มสีชาสะท้อนภาพผมที่กำลังยืนนิ่งชัดเจน





วันนั้นผมกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพแบบไหนกันนะ ผมจำได้แค่ว่าเปิดโทรทัศน์ นั่งดูรายการเกมโชว์อะไรสักอย่าง ในมือประคองชามสลัด ตามองโทรทัศน์เขม็ง

ตักใส่ปาก เคี้ยวกลืนโดยไม่มอง เดาจากรสสัมผัส ภาพจากโทรทัศน์สลับไปมารวดเร็ว

‘ฝรั่ง’

‘มะเขือเทศ’

‘ข้าวโพด’

‘มะเขือเทศอีกแล้ว แม่ใส่ให้เยอะไปแล้วนะ’
ผมคิดเมื่อมีผลเล็กกลมเกลี้ยงเข้าปาก กัดแรงๆ


ผมขบกัดโดนเม็ด รสฝาดเฝื่อนกระจายทั่วปาก เศษเม็ดบางส่วนไหลเข้าคอ

‘ฟานชอบกินองุ่น แม่ใส่ให้เยอะๆ แล้วต้องกินผักด้วยล่ะ’  ผมจำได้แล้ว แม่บอกทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนออกจากบ้าน


กลิ่นที่เคยคิดว่าหอม ถึงตอนนั้นกลับรู้สึกหอมเอียน



‘อีตุ๊ดคุณนาย’


ผมค่อยๆบ้วนสิ่งที่อยู่ในปากออกมา องุ่นสีแดงคล้ำเละๆเต็มอุ้งมือ

ลมตีพรวดจากท้อง โก่งคออาเจียน จนแม้ไม่มีอะไรออกมาก็ยังคงขย้อนลมอยู่เป็นนาน น้ำตาไหลพราก แสบคอแสบจมูก รู้สึกเปลี้ย คล้ายร่างกายไร้กระดูก


ผมนอนกองพับไปตรงนั้นเอง


ไม่ได้ยินเสียงโทรทัศน์

ไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู

ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาประคองผม





หูผมได้ยินแต่เสียงมิ้มดังซ้ำไปซ้ำมา
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ทิ่มแทง- (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 19-12-2012 15:38:40



“ฟานพูดซ้ำๆว่า........


ไม่ได้ยินเลย....อะไรนะ......เราไม่ได้ยิน....”




นี่คือคำตอบของคำถามที่สงสัยกันค่ะว่า ฟานละเมอว่าอะไร

ปรุงก็เลยถาม “ฟานอยากฟังอะไร.......” ประมาณ เสียงอะไรที่ฟานอยากจะได้ยิน

ประมาณนี้ค่ะ 

ขออภัย ก้มโค้งๆเลย ที่ทำให้งงกันนะคะ  :monkeysad:


ปล. อย่าเกลียดปรุงน้าาา
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 19-12-2012 17:29:26
อยากฟังคำที่เต้พูดหรออ :really2:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 19-12-2012 18:09:34
 :a5: เสียงที่อยากได้ยินเหรอ... เสียงเต้ไง555 (เอาตัวเองเป็นที่ตั้งสุด)...

เริ่มอินมาเป็นระลอกแล้ว... รู้สึกเหมือนเวลาอ่านเรื่องสั้น(ที่ไม่เห็นจะสั้น)เลย... โดยเฉพาะประโยคของฟานที่บอกว่า

"เบสไม่เคยถามอะไร"... ชอบมากมาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม (เอ้อ แปลก) ที่ไม่กลับห้องนี่ เพราะปรุงด้วยหรือเปล่า

หรือปรุงก็ไม่อยู่... อยากตีปากเด็กมิ้มจริงๆ ไปว่าคนอื่นเค้าตุ๊ด แถมทำหน้าอย่างกับนางร้าย เป็นเเต่เด็กเลยนะ...

อาการออกอย่างเเรง ชอบเต้ แต่เต้ดูแลแต่ฟานล่ะสิ อิจฉาสินะ... ถ้าเราเป็นเพื่อน มีเพื่อนเเบบนี้เอาลิควิดกรอกปากให้

ปากโสโครกจริงๆ... แต่ฟานคงเจ็บใจ ช็อคเลยนะนั่น ที่เข้ามาประคองนั่นคือ...เต้ ???

ตอนนี้รู้สึกรักซำ แต่ก็รู้สึกว่ารักเพราะเป็นภาพสะท้อนของเต้วัยหนุ่มยังไงไม่รู้... อืม 555 เต้ตัวจริงไหนเนี่ย

ซำจะกลายเป็นเต้ในความคิดเราเเล้วนะเนี่ย... บรรยากาศหม่นๆแบบนี้ยิ่งชวนให้อยากคิดว่าเต้คือซำ(ถึงจะไม่ใช่ก็เถอะ) :กอด1:

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 19-12-2012 18:19:42
นี่สินะเสียงที่ขาดหายไป คือเสียงของใคารสักคน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: putiinez ที่ 19-12-2012 21:15:04
มิ้มเป็นตัวแปรของเรื่องทั้งหมดรึเปล่านะ ระหว่างเต้กับฟาน /me ปูพรมแดงให้นางเดินไปยังสายตัวร้ายเกรดC
สงสารฟานจัง รู้สึกอึมครึมยังไงก็ไม่รู้
สงสัยว่าเสียงที่หายไปนี่พูดอะไร ;3;
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 19-12-2012 22:49:22

เนื้อเรื่องอ่านสนุกมากเลยค่ะ มีอะไรให้คิดตลอดเวลา
ทั้งอดีตของฟาน ทั้งการกระทำของซำและปรุง

อ่านตอนก่อนหน้าแล้วติดใจอยู่หน่อยนึง
ในห้องสมุดฟานได้ยินเสียงปรุงไกลออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่หน้าของปรุงใกล้เข้ามา
ตรงนี้ปรุงคงไม่ได้จูบฟานใช่ไหมคะ

แล้วก็ตอนนี้ที่เบสกลับดึกบ่อยๆ ทำให้ฟานต้องมาอยู่ที่ห้องของซำรอเบส
แล้วปรุงหายไปไหนล่ะคะ

คิดว่าคงต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ เกี่ยวกับปรุง

เสียงที่หายไปคือ เสียงที่ฟานอยากได้ยินใช่ไหมคะ
ฟานคงฝังใจถึงกับเก็บไปละเมอ

ติดตามๆๆๆ
 :กอด1: :กอด1:



หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 20-12-2012 08:26:10
-คลาย-


ฝนเม็ดโต ตกใส่หน้าผากผม แรงจนสะดุ้ง สอดส่ายสายตาหาที่แวะหลบ

จังหวะก้าวชะงัก ผมถูกกระชากแขนจากด้านหลัง


“เรียกตั้งหลายที ไม่ได้ยินหรือไง” ปรุงตะโกนแข่งเสียงฝน  ก่อนจะลากผมเดินไปยังรถยนต์ที่จอดเทียบทางเท้า ประตูด้านหลังเปิดค้างอยู่

ปรุงดันผมเข้าไป ที่เบาะหลังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว
ผมที่เพิ่งตั้งสติได้ตั้งท่ากระโจนออก แต่ไม่ทัน ปรุงสอดตัวเข้ามานั่ง ปิดทางออกผมหมดสิ้น


เสียงเพลงดังกระหึ่มลั่นรถ ผมหันไปมองคนข้างๆ พยายามพูดแข่งกับเสียงเพลง ปรุงทำสัญญาณมือเป็นทำนองว่าไม่ได้ยิน ผมต้องชะโงกหน้าไปตะโกนข้างหู


“เค้าห้ามปีหนึ่งเอารถมาใช้นะ”

เสียงหัวเราะจากปรุง ดังจนกลบเสียงเพลง




ที่ที่เราไป เป็นตึกร้างนอกเขตเมือง ภายในตึกโล่งกว้าง อาศัยแสงสว่างจากช่องว่างที่ทะลุถึงกันระหว่างชั้น คาดว่าน่าจะเจาะไว้เพื่อทำเป็นลิฟต์
ตอนที่เราไปถึงนั้นมีคนรุ่นๆเดียวกันรออยู่แล้วเกือบสิบคน ปรุงเดินนำผมเข้าไป


ผมคิดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ จนต้องหยุดชะงักไตร่ตรอง ปรุงเดินกลับมาจูงมือผมให้เดินต่อ
ผมกระตุกแขนกลับมาอย่างแรงเมื่อคิดได้


ปรุงหันมามอง


“ถอดเฝือกแล้วเหรอ”

ปรุงยิ้มกว้างจนเห็นฟัน




“น่าจะถามอย่างอื่นมากกว่าไหม” ปรุงเอียงคอ มองหน้าผม



“เช่น...ปรุงพาฟานมาทำอะไรที่ตึกร้าง” ปรุงหัวเราะคิกคัก แต่ดวงตาไม่ยิ้มด้วยเลย





เรื่องนั้นสำคัญกว่าการที่ขาหายอีกหรือ.....







“ทำไมไม่เรียกเต้” เสียงเต้กราดเกรี้ยวดังลั่นห้องพักผู้ป่วย

ผมยืนอยู่หน้าตู้เย็น น้ำในแก้วกระฉอกด้วยแรงสั่นจากมือผมที่ถืออยู่

เต้ปรี่เข้ามาหาผม

“ก็เราแค่หิวน้ำ ไม่อยากปลุก”

เต้กดจูบข้างขมับ กระซิบแผ่ว “แล้วจะมีเต้ทำไม”



มือผมหยุดสั่นแล้ว




ผมมารู้จากแม่ว่า วันนั้นเต้เป็นคนเปิดประตูเข้ามาพบผมและเรียกรถพยาบาล เต้ยืนกรานขอเป็นคนนอนเฝ้าผมทั้งที่แม่บอกว่าจะเป็นคนเฝ้าเอง
ทั้งที่รู้สึกพิกลอยู่ที่จะให้คนแขนหักมาคอยพยาบาลคนป่วย แต่แม่ก็ทนแรงเซ้าซี้ไม่ไหว



เต้ย้ายมานอนเบียดผมบนเตียงคนไข้ จับมือผมไว้ ชวนคุย

“ทำอย่างนี้แล้วคิดถึงตอนเด็กๆเนอะ”

“ที่เต้เคยแย่งผ้าห่มเราแล้วนอนถีบเราตกเบาะน่ะเหรอ”
เต้หัวเราะ กระชับมือผมแน่น ผมบีบตอบเบาๆ

“ผ้าผืนนั้นยังอยู่หรือเปล่า”

ผมตอบเนือยๆ “เต้ฉี่รดนี่นา แม่เอาไปทำผ้าขี้ริ้วเปื่อยหมดแล้ว”

เต้ยกมือผมขึ้นมาจูบ พูดทั้งแบบนั้น “เก็บไว้ตลอดชีวิตเลยนะ”



ผมคลายมือออกช้าๆ เต้ยังคงพึมพำอะไรต่ออีกเป็นนานก่อนค่อยๆเงียบไป



เราหลับกันไปทั้งแบบนั้น ผมไม่รู้หรอกว่าเต้ฝันถึงอะไร เพราะในตอนเช้า ใบหน้ายามหลับใหลของเต้ยิ้มละไม

ผมค่อยๆดึงมือออกจากการเกาะกุม ถดตัวลงจากเตียงอย่างช้าๆ
เข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ภาพผมที่สะท้อนมาจากกระจกเหนืออ่างล้างมือ แววตาอิดโรย



ได้ยินเสียงจากนอกห้องน้ำ ผมรีบจัดการธุระ เปิดประตูออกมาทันเจอสีหน้าประหลาดใจของนางพยาบาล เธอกำลังเปิดแฟ้มวุ่นวาย


คงไม่เข้าใจว่า เหตุใดคนบนเตียงที่ควรเป็นผู้ป่วยภาวะโรคเครียดหน้าตาซึมเซียว

กลับกลายเป็นคนเจ็บแขนหักหน้าตาอิ่มเอิบไปได้
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย -ฝาดเฝื่อน-......หน้า 2 ค่ะ (19 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 20-12-2012 08:43:03
มิ้มเป็นตัวแปรของเรื่องทั้งหมดรึเปล่านะ ระหว่างเต้กับฟาน /me ปูพรมแดงให้นางเดินไปยังสายตัวร้ายเกรดC
สงสารฟานจัง รู้สึกอึมครึมยังไงก็ไม่รู้
สงสัยว่าเสียงที่หายไปนี่พูดอะไร ;3;

ขำก๊ากเลย ชอบค่ะ ปูพรมแดงให้นางเดินไปยังสายตัวร้ายเกรดC

เอาเป็นว่าถ้าบทไหนมีบท She เราจะจั่วหัวตัวเป้งๆว่า

เสียงที่ขาดหาย ......ภาวะ NC ......

ย่อมาจาก นางร้ายสายC นะคะ

นี่สินะเสียงที่ขาดหายไป คือเสียงของใคารสักคน

อยากฟังคำที่เต้พูดหรออ :really2:

อย่าเพิ่งเดาถูกกันน้าาาาาาาา

:a5: เสียงที่อยากได้ยินเหรอ... เสียงเต้ไง555 (เอาตัวเองเป็นที่ตั้งสุด)...

เริ่มอินมาเป็นระลอกแล้ว... รู้สึกเหมือนเวลาอ่านเรื่องสั้น(ที่ไม่เห็นจะสั้น)เลย... โดยเฉพาะประโยคของฟานที่บอกว่า

"เบสไม่เคยถามอะไร"... ชอบมากมาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม (เอ้อ แปลก) ที่ไม่กลับห้องนี่ เพราะปรุงด้วยหรือเปล่า

หรือปรุงก็ไม่อยู่... อยากตีปากเด็กมิ้มจริงๆ ไปว่าคนอื่นเค้าตุ๊ด แถมทำหน้าอย่างกับนางร้าย เป็นเเต่เด็กเลยนะ...

อาการออกอย่างเเรง ชอบเต้ แต่เต้ดูแลแต่ฟานล่ะสิ อิจฉาสินะ... ถ้าเราเป็นเพื่อน มีเพื่อนเเบบนี้เอาลิควิดกรอกปากให้

ปากโสโครกจริงๆ... แต่ฟานคงเจ็บใจ ช็อคเลยนะนั่น ที่เข้ามาประคองนั่นคือ...เต้ ???

ตอนนี้รู้สึกรักซำ แต่ก็รู้สึกว่ารักเพราะเป็นภาพสะท้อนของเต้วัยหนุ่มยังไงไม่รู้... อืม 555 เต้ตัวจริงไหนเนี่ย

ซำจะกลายเป็นเต้ในความคิดเราเเล้วนะเนี่ย... บรรยากาศหม่นๆแบบนี้ยิ่งชวนให้อยากคิดว่าเต้คือซำ(ถึงจะไม่ใช่ก็เถอะ) :กอด1:

เนื้อเรื่องอ่านสนุกมากเลยค่ะ มีอะไรให้คิดตลอดเวลา
ทั้งอดีตของฟาน ทั้งการกระทำของซำและปรุง

อ่านตอนก่อนหน้าแล้วติดใจอยู่หน่อยนึง
ในห้องสมุดฟานได้ยินเสียงปรุงไกลออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่หน้าของปรุงใกล้เข้ามา
ตรงนี้ปรุงคงไม่ได้จูบฟานใช่ไหมคะ

แล้วก็ตอนนี้ที่เบสกลับดึกบ่อยๆ ทำให้ฟานต้องมาอยู่ที่ห้องของซำรอเบส
แล้วปรุงหายไปไหนล่ะคะ

คิดว่าคงต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ เกี่ยวกับปรุง

เสียงที่หายไปคือ เสียงที่ฟานอยากได้ยินใช่ไหมคะ
ฟานคงฝังใจถึงกับเก็บไปละเมอ

ติดตามๆๆๆ
 :กอด1: :กอด1:


ดีใจที่ชอบกันนะคะ ว่าแต่ลิควิดกรอกปากเลยหรือ แอบกลัวนะเนี่ย

เรื่องที่หน้าปรุงเข้ามาใกล้ ขอสารภาพว่า เราจงใจทิ้งไว้ เป็นช่วงเวลาให้คนอ่านจิ้นบรรเจิดค่ะ
แม่ยกปรุงก็อาจอยากให้จุ๊บุ หรือคนเกลียดปรุงก็ไม่อยากให้จุ๊บๆ
เป็นสิทธิ์ของคุณแว้ววววววว  :laugh:  :laugh:

อาจจะอ้างถึงคนอ่านไม่ครบ เพิ่งหัดใช้บอร์ดค่ะ เริ่มงงๆ
แต่อยากจะบอกว่า ยินดีที่ได้อ่านเสียงตอบรับจากทุกคนจริงๆนะคะ /โค้งงามๆ

สำหรับตอนนี้ เริ่มรู้สึกตัวว่า เราใจร้ายกับฟานไปหรือเปล่าเนี่ย หรือเราแอบซาดิสต์เล็กๆ  :serius2:  :serius2:


หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 20-12-2012 11:26:11
ห๊ะ ผู้ป่วยเปลี่ยนไป ทำไปได้นะเต้เดี๋ยวพยาบาลก็เข้าใจผิดหรอก
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 20-12-2012 12:40:22

ปรุงพาฟานไปไหน
ตั้งแต่เริ่มเรื่องมายังเดาพระเอกไม่ออกเลย
แต่คาดหวังไว้ว่าขอให้เป็นเต้ เพราะปรุงดูเป็นคนแปลกๆ อ่ะ
แล้วในห้องสมุดขอจิ้นว่าปรุงไม่ได้จูบฟานนะคะ

มาต่อไวๆ น้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-12-2012 12:59:52
อะไรยังไงงง?และค้าง เดี๋ยวปรุง เดี๋ยวเต้ ?


คนละสีดีมั้ยคะสำหรับตัวอักษร พาร์ทปัจจุบันและอดีตเลื่อนอ่านมาเรื่อย ๆ แล้วงงสงสาคนแก่หน่อย 555
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 20-12-2012 13:29:55
ไปทำอะไรกันที่ตึก...

เต้อยู่ไหน...เง้ออออ

:pig4:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 20-12-2012 16:54:10

ชอบเรื่องนี้นะ
ที่เล่าเรื่องปัจจุบันสลับกับอดีต

ตอนแรกคิดว่าซำหรือปรุงคือเต้รึเปล่า---แต่ก็ไม่ใช่

เอาเป็นว่าไม่เดาแล้วดีกว่า---รออ่านอย่างเดียวละักัน

แต่เบสเป็นเพื่อนที่ดีนะ---ซำก็ดูท่าทางจะดี---ส่วนปรุงไม่น่าจะทำร้ายกันมั้ง

+ เป็ดจ้า

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 20-12-2012 17:15:23
อะไรยังไงงง?และค้าง เดี๋ยวปรุง เดี๋ยวเต้ ?


คนละสีดีมั้ยคะสำหรับตัวอักษร พาร์ทปัจจุบันและอดีตเลื่อนอ่านมาเรื่อย ๆ แล้วงงสงสาคนแก่หน่อย 555

ขอบคุณที่แนะนำนะคะ
แก้ไขเรื่องสีแล้วค่ะ

สีดำ = ปัจจุบัน
สีน้ำ้เงิน = อดีต นะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ



หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-คลาย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 20-12-2012 17:20:20
-ปล่อย-

วันที่ผมตัดสินใจกลับไปเรียน เช้านั้นเต้มายืนรอรับผมที่หน้าบ้าน เราเดินไปขึ้นรถสองแถวด้วยกัน เต้กอดคอผมไปตลอดทาง
หยุดยืนหน้าห้องเรียน ทุกสายตาหันมามอง ผมส่งยิ้มให้ หลายคนหลบตา

ผมเลือกเดินเข้าไปหาคนที่ส่งยิ้มตอบ

การเริ่มต้นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แค่บังเอิญเห็นกระเป๋าคนข้างๆ ห้อยพวงกุญแจตัวการ์ตูนที่ผมรู้จัก ผมก็ได้มีเพื่อนใหม่ พักกลางวันมีเพื่อนกินข้าว
เย็นวันนั้นผมไม่ได้กลับบ้านพร้อมเต้


การไปโรงเรียนไม่ใช่สิ่งที่ต้องฝืนอีกต่อไป



“เดี๋ยวนี้นอนดึกทุกวันเลยนะ” ระหว่างมื้อค่ำวันหนึ่ง พ่อก็เปรยขึ้นมา

แม่รีบฟ้องพ่อ “โทรศัพท์น่ะสิ ดึกๆได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆคักๆ” ก่อนหันมาถามผม

“จีบสาวหรือเปล่าน่ะเรา”
พ่อเหลือบตามองผม แวบหนึ่งผมเห็นพ่อแอบยิ้ม

“เปล่า....เพื่อน คุยกันเรื่องหนัง” ผมลากเสียงยาว ออกอาการร้อนตัว

“เจอกันที่โรงเรียนทุกวัน มีเรื่องอะไรคุยนักหนานะ” แม่บ่นอีกยาว แต่สีหน้าเป็นปลื้มเหลือเกิน



เราต่างรู้โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำ เวลาในบ้านเริ่มเดินต่อแล้ว




“เออ...ใช่ๆๆๆ...โคตรฮาเลยตอนนั้น” ผมหัวเราะเมื่อปลายสายพูดถึงหนังสือการ์ตูนเรื่องที่กำลังฮิต
ผมกำลังจะบอกถึงตอนที่ผมชอบที่สุดของเรื่อง แต่จู่ๆสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหาย



มือใครบางคนยื่นมากดตัดสายจากด้านหลัง

ผมค่อยๆวางหูโทรศัพท์ เสียงแผ่วเบากระซิบข้างขมับ



“อย่าลืมสิ เต้เป็นคนเจอฟานนะ”


ไล่สายตามองไป เต้ยิ้มให้ผม รอยยิ้มเหมือนวันนั้น





วันที่เต้ค่อยๆทิ้งตัวลงจากอัฒจันทร์....ยิ้มนั้นยังติดตา







ได้ยินเสียงเรียกชื่อผม หันไปก็เห็นเจ้าตัวชูหนังสือการ์ตูนโบกไปมา
“อ่านต่อป่าว”

เต้กอดคอผม หันไปยกมือทำสัญญาณขอตัว ก่อนพาผมเดินห่างออกมา
“เย็นนี้ไปกินน้ำแข็งใสกัน”



ผมไม่จำเป็นต้องตอบกลับไป







มือใหญ่ สากระคาย จับแขนผมไว้ทั้งสองข้าง ตาสบตา เขาหัวเราะหึหะในลำคอ ผมรู้สึกฝืดคอ กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เสียงพูดคุยดังรอบตัว
ปรุงนั่งอยู่ไม่ห่าง มองผมแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อนข้างๆ เสียงเชียร์เร่งเร้าค่อยๆกระหึ่มรอบวง

คนตรงหน้าปล่อยมือผมโดยไม่ทันตั้งตัว ผมลื่นไถลไปด้านหน้า ก่อนจะล้มจ้ำเบ้า

ผมหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
ปรุงตะโกนกลั้วเสียงหัวเราะ

“ถ้าอยากเป็น ก็ต้องลุกเอง”



ผมก้มมองปลายเท้า โรลเลอร์เบลดคู่โตชวนให้หวั่นใจ แต่เพราะเสียงเชียร์รอบๆทำให้ผมกัดฟันลุกยืน




ผมนั่งพักกินน้ำ เจ็บระบบทั้งตัว ดูเหมือนแขนจะถลอกด้วย แต่วินาทีที่ลมตีปะทะหน้า ผมรู้สึกคล้ายจะบินได้ ลืมความเจ็บไปหมดสิ้น

“ไม่เล่นเหรอ” ผมถามปรุง พลางมองไปข้างหน้า มีคนเล่นสเก็ตบอร์ดด้วยแฮะ

“พอเดินได้ แต่ยังขัดๆอยู่” ปรุงยกขาให้ผมดู ก่อนหันไปมองเพื่อน “นี่ขอแค่ได้นั่งดูก็ยังดี”

“ขอบคุณนะที่พามา” ผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

“ไว้จะพาไปโดดบันจี้” ปรุงจับหัวผมโยกเบาๆ
เรานั่งเงียบๆ มองไปเบื้องหน้า เป็นพักใหญ่


“ชอบป่ะ” ปรุงถามโดยไม่หันมองผม
ผมพยักหน้า แต่นึกได้ว่าปรุงไม่ได้มองอยู่ กำลังจะพูดตอบไป แต่ปรุงขัดขึ้น

“จะพามาตั้งแต่แรกแล้ว มัวแต่หลบหน้ากัน”
ผมสะดุ้ง เหลือบมอง ปรุงยังคงมองไปด้านหน้า

“รู้ด้วยเหรอ” ผมถาม เสียงอ่อย

ปรุงหัวเราะเบาๆ

“ทำไม” ผมค่อยๆกลั้นใจถาม
ปรุงเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย ผมจึงต้องถามใหม่

“ทำไมถึงอยากพามา”


ปรุงจ้องหน้าผม นิ่งนาน ยื่นมือมา นิ้วโป้งเกลี่ยอยู่ที่หัวตา


“เพราะสนใจ... ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า...”
ปรุงทำเหมือนอยากพูดอะไรต่อ ผมนิ่งฟัง



“เพราะฟานทำหน้า...เหมือนพร้อมจะตาย”
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 20-12-2012 17:33:14
กรรม คำสุดท้ายน่ากลัวแปลกๆนะ TT
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yuthaiz2 ที่ 20-12-2012 18:57:21
ปรุงนี้ชักไม่แน่ใจว่าจะมาดีหรือมาร้าย

เต้ ท่าทางจะรักฟานมากจนดูจิตไปเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 20-12-2012 19:18:28
“เพราะฟานทำหน้า...เหมือนพร้อมจะตาย”

เงิบบบบบบบบบบบบดิ  :a5: ปรุงพูดซะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 20-12-2012 19:36:13
 o22 เอ่อ... มาเเบบนี้ไปไม่เป็นเลย ปรุงดูลึกลับ... ส่วนเต้ตอนนี้ดูจิตๆไงชอบกล

เต้เหมือนต้องการยึดฟานไว้กับตัวเอง... ไม่ยกให้ใครอารมณ์นั้น คบเพื่อนได้ แต่ต้องสำคัญน้อยกว่าเต้

ส่วนปรุงดูลึกลับ แต่กลายเป็นว่าไม่ร้ายเเล้ว เอ้ออออ... มาเเบบนี้ไม่เดาเเล้ว555  :laugh:

เดี๋ยวเดาผิด จะผิดหวัง พระเอกเป็นฆาตกร นางเอกเป็นแพะ ส่วนคนร้ายกลายเป็นตำรวจ ว๊ากกก...

แบบนั้นกัดลิ้นเเน่ๆ... แต่ยังไงเต้ก็เป็นคนเดียวที่อยู่ข้างฟานไม่ว่ายังไงก็ตาม เป็นทั้งกำลังใจ กำลังกาย

รวมไปถึงสั่นประสาทในเวลาเดียวกัน... เริ่มแอบกลัวว่า เต้หายไปนี่ไปบำบัดจิตหลังจากแสยะยิ้มน่ากลัว :serius2:

กระวนกระวาย... รออ่านต่อค่ะ... ช่วงนี้อาจมาๆหายๆ ไม่ได้เม้นทุกตอน แหะๆ... ติดสอบๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 20-12-2012 19:37:06
ฟานทำหน้าเหมือนพร้อมจะตาย
ปรุงก็เลยพามาเล่นกีฬา X-tream ช่ายม่ะ 
o22

ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดว่า "เสียงที่ขาดหาย" เนี่ย มันหายไปตลอดกาลแล้วหรือเปล่า

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-12-2012 19:40:32
ขอบคุณเรื่องสีอักษรค่ะ

อ่านง่ายขึ้นเยอะเลย
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 20-12-2012 21:06:06
เป็นกำลังใจให้คนเขียน^^   เรื่องอดีตก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องปัจจุบันก็อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 20-12-2012 21:15:40
เต้น่าจะเป็นอะไรไปสักอย่าง เพราะว่าสภาวะของฟานดูเป็นสภาวะที่ทางจิตวิทยาคล้ายๆจะเรียกว่า Hallucina Reality เป็นเหมือนการดำรงชีวิตที่ถูกฉีกประสาทสัมผัสเนื่องจากเจอ Trauma อะไรสักอย่าง เหมือนกับเขาเริ่มมองโลกในแง่ของการปลงและไม่ไยดีอะไรกับชีวิตเลย มนุษย์ปกติไม่น่าจะมีอุปนิสัยแบบนี้ ยกเว้นการเจอเหตุการณ์ช็อกอะไรสักอย่าง อาการแบบนี้ทำให้ผู้ป่วย ทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์อะไรที่กระตุ้นกับความทรงจำ จะพยายามดึงเหตุการณ์ในอดีตกลับมาเพื่อปลอบโยนตัวเอง

ถ้าเต้ไม่เสียชีวิต ก็แสดงว่าอาจจะไปที่ไหนสักแห่งหรือมีแฟนหรืออะไรสักอย่าง (ผมเริ่มผิดสังเกตตั้งแต่ตอนที่บอกว่าบ้านนั้นกลับมาแล้วน่ะครับ)

ส่วนตัวผมชอบการบรรยายเชิงความคิดที่เรียบง่ายแบบนี้นะครับ และอันนี้อาจจะต่างกับความชอบส่วนตัวหน่อยตรงที่อยากให้เรื่องนี้แฮปปี้เอ็นดิ้ง เพราะปกติผมเป็นคนไม่ชอบเรื่องจบแบบ Idealistic Ending นะครับ แต่เรื่องนี้เห็นอาการของตัวนางเอกแล้ว......ไม่ไหวแฮะ จะให้จบรันทดมันก็น่าสงสารเกิน

อีกเรื่องคือผมคิดว่าซำกับปรุงเป็นเหมือนภาพสะท้อนของเต้ให้กับฟาน แต่ไม่สามารถทดแทนเต้ได้ เพราะว่าความเป็นตัวของตัวเองและความผูกพันที่ติดลึกที่สองคนนี้มีให้กัน ตรงจุดนี้ทำให้ผมชอบฟาน เพราะเขามีความเด็ดเดี่ยว ความรู้สึกของเขาไม่เปลี่ยนไปง่ายๆ ความผูกพันเชิงรักแบบ eros ของฟานมุ่งตรงไปยังเต้คนเดียวเท่านั้น นี่แหละจุดที่สำหรับผมมันไคลแมกซ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 20-12-2012 21:17:47
เอ๋ ตอนแรกก็ว่าปรุงดูแปลกๆ แล้วเต้ก็ดูเหมือนชอบฟานแบบกุ๊กกิ๊ก น่ารักๆ
แต่กลายเป็นเต้ที่เป็นคนแปลกๆ เสียเอง ชอบจนน่ากลัว
คิดว่าปรุงคงเป็นคนมาปลดปล่อยฟานจากอดีตใช่ไหมคะ เพราะปรุงมองฟานทะลุปรุโปร่งเลย

รอค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 20-12-2012 21:27:11
รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 20-12-2012 22:03:17
เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากค่ะ เราชอบที่คนเขียนขยันอัพ อิอิ ล้อเล่นหนะ

ฟานดูพยายามหลบเลี่ยงความทรงจำในอดีต  แต่ดูเหมือนเต้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฟานนะ

แอบเชียร์ซำเบาๆ อยากให้ซำช่วยเปลี่ยนโลกให้ฟาน ^ ^

มาต่อไวๆนะคะ จะติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 20-12-2012 22:29:10
ชอบจังประโยคนี้ "เพราะฟานทำหน้าเหมือนอยากจะตาย" ว่าแต่มันทำไงอ่ะ หน้าแบบนั้น อยากเห็นจังหน้าของฟานน ณ ตอนนั้น
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 20-12-2012 22:35:48
ประโยคสุดท้ายนั่น
อืม ก็ว่าจริงนะ ดูชีวิตประจำวันของเขา เหมือนจะเฉยๆ(รึป่าว)
ปลงๆ ไม่คิดอะไรให้ปวดหัว

พอเจอ เม้นท์ Grey Twilight
อู้ว วิชาการมา ได้ความรุ็ไปด้วยแฮะ
แต่ก็แอบสงสัยเต้ เอะ เขาหายไปไหน แล้วกลับมาแล้ว
มีอะไรเกิดขึ้นจากนี้มั้ยนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-12-2012 02:23:24
เกิดอะไรขึ้นระหว่างฟานกับเต้กันแน่หว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 21-12-2012 07:26:48
สนุกมากๆเลยค่ะ
อ่านไปอ่านมากลายเป็นเต้ที่ทำให้ฟานไม่ค่อยมีเพื่อน (?) มั้ยน้อ ฮ่าๆ เดาค่ะๆ
รออ่านอยู่นะคะ ><
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ปล่อย-......หน้า 2 ค่ะ (20 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 21-12-2012 08:20:12
-ฉุดดึง-

ผมไม่แปลกใจอีกต่อไปแล้ว กับคำพูดปรุง เค้ารู้มาตลอด

แต่ไม่ทั้งหมด

ดังนั้น ผมจึงไม่กลัว


ผมยกขวดน้ำจรดริมฝีปากซ่อนรอยยิ้ม จิบช้าๆ คล้ายได้ยินเสียงน้ำที่ล่วงผ่านพ้นลำคอ ปรุงไม่ละสายตาไปจากผมเลย

“ฟานมีอะไรอยากเล่าหรือเปล่า”

“ปรุงจะช่วยเรางั้นหรือ” ถึงตอนนี้ซ่อนไว้ไม่ไหวแล้ว ผมยิ้มเยาะ

“เปล่านี่” ผมถึงกับยิ้มค้าง เปล่างั้นหรือ ทำไมล่ะ
ปรุงอ่านสีหน้าประหลาดใจของผมแล้วมองเฉย



“เวลาเห็นคนอยู่กลางบ่อโคลน...เค้าอาจจะแค่กำลังยืนอยู่ก็ได้” ปรุงเลิกมองผมแล้ว

“แล้วจะเดินผ่านไปเฉยๆอย่างนั้นหรือ” ผมกระซิบ ไม่ได้อยากรู้คำตอบ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า

“ก็ทำอย่างตอนนี้ไง” ปรุงหันมายิ้ม “เฝ้ามอง ตราบใดที่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ คนนั้นก็แค่กำลังเล่นโคลน”


“เราไม่ใช่หนูทดลอง”

“ก็ไม่ได้บอกว่าใช่ ทำไมล่ะ อยากให้เราทำอะไร” ปรุงเกาคางทำหน้าครุ่นคิด “จะสอนวาดรูปก็ไม่เป็นซะด้วยสิ”


ขวดน้ำในมือถูกเหวี่ยงไปกระแทกขาปรุง
ปรุงก้มหน้ามอง หัวเราะ “ดุซะด้วย”

“ทำไมต้องยั่วโมโหเราทุกครั้งเรื่องซำ”

ปรุงหมุนขวดน้ำบนพื้นเล่น “การแสดงออกเป็นเรื่องจำเป็นนะ”
ปรุงหยิบขวดน้ำวางตั้งตรงหน้าผม “ระเบิดมาซะบ้างสิ”


ปรุงลุกยืน ก่อนเดินออกไปได้ยินเสียงผิวปากเป็นท่วงทำนองไม่คุ้นเคย ทิ้งผมนั่งจ้องขวดน้ำนั้น



ร่องรอยบิดเบี้ยว ค่อยๆคืนตัวเสียงดังเบาๆ แกรบ...แกรบ






ยังมีต่อนะคะ แต่ขอไปแต่งต่อที่ทำงานค่ะ (แอบโอ้เอ้อยู่บ้าน)

อ่านความคิดเห็นที่เดากันมา ได้แต่อุทานในใจว่า "อกอีแป้น"   o22

ขอบคุณจริงๆค่ะที่วิเคราะห์กันมามากมาย
แม้จะเดามาถูกทางแล้ว แต่สัญญาได้ไหมว่าจะตามอ่านต่อไป  :monkeysad:  :monkeysad:




หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-......หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-12-2012 11:00:52
รออ่านต่อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-......หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 21-12-2012 11:14:37
เราชอบนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-......หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 21-12-2012 14:41:46
-ต่อ-

“กลับมาดึกเชียว” เบสที่กำลังนั่งพับผ้าบนเตียงเงยหน้าขึ้นมาทักผม “ซำมาถามหาหลายทีแล้ว...อ้าว ไปด้วยกันหรอกเหรอ”
เบสถามขึ้นมา คงเพราะเพิ่งเห็นปรุงเดินตามเข้าห้องมาติดๆ

“ไปไหนกันเนี่ย ไม่ชวนเลย” เบสบ่นเป็นเชิงน้อยใจ

“ซื้อขนมมาฝากน่า” ปรุงโยนถุงให้ เบสตะครุบมาดู พูดพึมพำ “ก็ยังดี”

ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ เปิดลิ้นชักมองหาอุปกรณ์ทำแผล

“แล้วไปถึงไหนกันมาน่ะ” เบสพยายามยื่นถุงขนมมาตรงหน้าผมเป็นการเชิญชวน ผมส่ายหน้า

“นู่นนนน วงแหวนเส้นซุปเปอร์” ปรุงอธิบายเส้นทางคร่าวๆ

เบสปาขนมโดนหัวปรุง “ไปตั้งไกล ขนมหลอกเด็กนี่ใต้หอก็มีขาย”

ปรุงหัวเราะลั่น บ่นไม่จริงจัง “เลอะหมด เสื้อนี่ใส่ได้อีกสามวันเลยนะ”

เบสโบกมือไล่ “โสโครก ไปล้างไป๊”
ปรุงหัวเราะคิกคัก เดินออกจากห้อง

ผมแต้มยาที่แผลเสร็จแล้ว เตรียมแปะปลาสเตอร์ด้วยมือเดียว เบสเงียบไปจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

“ยิ่งปิดไว้ ยิ่งหายช้านะ”

ผมลอบถอนหายใจ “กลัวแสบตอนโดนน้ำน่ะ”

เบสลุกมาหา เช็ดมือกับกางเกง “ไม่ถนัดหรอก เดี๋ยวช่วย”
ผมยื่นปลาสเตอร์ให้เบส


“มันก็แค่ปิดไว้หลอกตัวเองว่าไม่มี แต่เอาเถอะ...” เบสมองหน้าผม


“พร้อมจะเอาออก ก็บอกมาแล้วกัน”






คืนนั้นผมฝันถึงเต้


เราต่างกอดเกี่ยวกันใต้ผืนน้ำ ลำแสงสุดท้ายของวันทอลอดมาจางๆผ่านพื้นผิว
ผมเอื้อมมือ ถีบตัวขึ้นไปหาแสงนั้น


เต้กระตุกแขนผม มองกลับมาหา ใบหน้านั้นคล้ายจะร้องไห้


ผมวาดแขนกลับมาโอบกอดเต้ เต้กอดผมไว้แน่น


เราต่างค่อยๆดิ่งลึกลงไปเบื้องล่าง




ที่แห่งนั้น มืดมิด ราวไม่มีที่สิ้นสุด






สะดุ้งตื่นขึ้นมา ยกมือลูบใบหน้า แสงไฟนอกห้องสาดเข้ามาตามช่องกระจกฝ้าเหนือหัว มองเห็นแผ่นปลาสเตอร์ห้อยร่องแร่ง

ผมลูบปิด กดย้ำๆจนแนบสนิทกับผิวหนังดังเดิม

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-12-2012 17:26:01
อยากรู้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่อ่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 21-12-2012 18:13:00
ทุกคำพูดของตัวละครเหมือนมีนัยยะแฝงทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 21-12-2012 19:05:45
อ่านต่อแน่นอนจ้า ยิ่งคาดเดา ก็ยิ่งลุ้นๆ ว่ามันจะเป็นเหมือนที่เราคิดมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 21-12-2012 20:06:35
ทุกสำนวนมีลับลมคมใน ทุกที่ทุกตอนทุกคนมีปมหมดเลย เดาไม่ถูกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 21-12-2012 20:16:48
ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าอะไรคือสิ่งที่อยู่ในใจของฟาน

คนเขียนสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 21-12-2012 20:52:05
 o22 ชักจะสงสัย เบสรู้อะไรรึเปล่า หรือว่าฟานเเสดงสีหน้า นัยน์ตากังวลออกไป... เบสเลยถาม

แต่ครั้งนี้ปรุงมีบทบาทมากกว่าซำนะ... หรือว่าจริงๆเเล้ว ซำเป็นเเค่คนปลุกความรู้สึกแบบเต้ให้กับฟาน

ฉากความฝันของฟาน หมายถึงต่างไม่ปล่อยมือจากกันรึเปล่า... สงสัยยยย!!! แต่ไม่รู้ทำไมพอถึงฉากนี้

เหมือนย้อนไปนึกถึงตอนที่คุยกับปรุงเรื่อง "คนกลางบ่อโคลน" ถ้าไม่ร้องก็ไม่ช่วย เพราะไม่ได้เเสดงว่า

ต้องการความช่วยเหลือ... เออเน๊อะ ภาพเหมือนที่ฟานถีบตัวขึ้นและเห็นเต้ทำหน้าเหมือนจะร้องฟานเลยยอม

จมตัวลงมา ถ้าจะจมก็จมไปด้วยกัน... :o8: ระหว่างเต้กับฟานมีอะไรเกิดขึ้นกันเเน่ ที่เต้ไม่โผล่มาในตอนปัจจุบัน

คงไม่ใช่เพราะไม่มีตัวตนอยู่ในโลกปัจจุบันนี้เเล้วหรอกนะ :serius2: ไม่นะ... คาดหวังจะได้เจอเต้สักครั้ง อิอิ

 :กอด1: คนเขียน555 สอบเสร็จ น็อค เปิดคอม แล้วก็อ่านๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 21-12-2012 21:04:21
ค้างอะไรมันยังไง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-12-2012 21:12:35
แง้ว  ครึ่งตอน ไฉนมันสั้นเยี่ยงนี้ค๊าาา  :sad4:
มาต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ฉุดดึง-...(ต่อ-จบบท)..หน้า 3 ค่ะ (21 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 22-12-2012 07:22:26
-ดูแล-

ตอนเด็กๆ เต้กับผมจะมีผ้าห่มคนละผืน เป็นลายการ์ตูนไม่เหมือนกันเพื่อให้จำง่าย แต่เต้ก็มักจะมาแย่งของผมไปห่มเสมอ ผมตื่นมาร้องไห้ทุกครั้ง

ผมเคยถามแม่ถึงเหตุผลที่เต้มาแย่งที่นอนผมทุกคืน แม่บอกแค่ เต้มีน้องแล้วก็กำลังอยู่โรงพยาบาล
ผมจึงถามต่อว่า เต้จะมาอยู่กับเรานานไหม แม่พูดอะไรที่ผมไม่เข้าใจ

แต่ไม่ใช่คำตอบที่ผมอยากฟัง



“ก็เต้ชอบสเมิร์ฟ” เต้ทำหน้าเหยเก น้ำตาปริ่ม เมื่อผมพยายามแย่งผ้าห่มคืน
“แบ่งให้วันนึงก็ได้” ผมตัดสินใจเมื่อน้ำตาเต้ไหลลงมาแล้ว

นับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด เพราะหลังจากวันนั้น เต้ไม่เคยกลับไปนอนที่นอนเต้อีกเลย พอแม่มาเห็นก็มักจะหัวเราะ ไม่ยอมดุว่าเต้ ส่วนผม ได้แต่ยืนทำหน้ามุ่ย



ผมไม่ชอบพวกผู้ใหญ่เอาซะเลย พวกเขามักจะกีดกันพวกเราออกจากวงสนทนา แล้วก็ชอบทำให้ผมขายหน้าอยู่เสมอ
เย็นวันหนึ่ง พ่อเต้มาทานข้าวที่บ้านผม เต้นั่งข้างๆผม กำลังแกว่งช้อนในมือเล่น
พวกผู้ใหญ่กำลังคุยกันว่าจะให้เต้อยู่บ้านผมอีกระยะหนึ่ง เต้โวยวาย

“เต้จะไปดูน้อง” เต้เคาะช้อนเป็นจังหวะกระทบขอบชาม เม็ดข้าวกระเด็นมาติดแขนผม

“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวก็ติดกัน แม่เค้าดูน้องดีแล้ว เต้ต้องอยู่นี่นะ” พ่อเต้พยายามหว่านล้อม

เต้งอแงหนักกว่าเดิม แม่ผมที่นั่งเงียบๆอยู่เหลือบมาเห็นผม โพล่งขึ้นมา
“เต้มาดูแลฟานดีกว่าไหม เนี่ย ไม่ไหวเลยโตแล้วยังกินข้าวเลอะเทอะอีก”

ผมอ้าปากค้าง ทุกคนเบือนหน้ากลับมาหาผม พ่อเต้หัวเราะขำ
“ใช่ นี่ไง เต้ต้องคอยดูแลฟานนะ”

เต้ยิ้มให้ผม เอื้อมมือมาปัดเม็ดข้าว “เต้ดูฟานเอง”
ผู้ใหญ่หันกลับไปคุยกันต่อ ปล่อยผมให้นั่งเบื้อใบ้


มือไม้เต้ยังวุ่นวายกับการปัดเช็ดแขนผม “ตลอดชีวิตเลย”

คล้ายเต้จะพูดกับตัวเอง







“ปอดอักเสบ...ใช่ๆ แทรกซ้อน” เสียงซุบซิบจากพวกผู้ใหญ่โต๊ะหลังลอยมาให้ผมได้ยินเป็นพักๆ
“ไม่ทันสิ เห็นว่าตรวจเจอช้า” แล้วเสียงก็หยุดไป ตอนที่พ่อเต้จูงเต้มาหาผมที่โต๊ะ ผมนั่งเล่นคนเดียว


“เต้มาดูฟานตรงนี้นะ อย่าเพิ่งไปยุ่งกับแม่เค้าตอนนี้เลย” พ่อเต้จับเต้นั่งข้างผม ไม่ถามผมสักคำ

“แม่ร้องไห้” เต้ทำท่าจะวิ่งกลับไป
พ่อเต้จับไว้ “อย่าไปเกะกะนะ ตอนนี้ผู้ใหญ่ต้องทำธุระกัน” เต้ทำตัวแข็งเป็นสัญญาณเตรียมอาละวาด

“เป็นเด็กต้องนั่งตรงนี้ นี่ไง ฟานก็อยู่” เต้หันมาจ้องผม
“เป็นเด็กดี อย่าดื้อนะ เสร็จแล้วจะลงมารับ” พ่อเต้ทิ้งท้ายไว้ หันไปฝากฝังเราสองคนกับคนโต๊ะหลัง


ผมหันไปมอง ทุกคนยิ้มให้ผมหวานหยดย้อย



ทั้งๆที่ใส่ชุดสีดำน่ากลัว
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-..หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 22-12-2012 07:54:53

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าฟานดูเป็นคนเก็บกดยังไงไม่รู้ หรือคิดไปเอง  :m28:
แต่ว่าฟานไม่ค่อยพูดแล้วก็ชอบคิดโน่นนี่อยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-..หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 22-12-2012 08:34:55
-ต่อ-


“ไหวป่ะ” ปรุงรั้งเท้ารอผม

ผมไม่ตอบอะไร หายใจหอบหนักๆ
“ไม่ไหวก็พัก คณะเราไม่ต้องวิ่งเหมือนพวกนั้นหรอก” ปรุงลากแขนผมให้มาหลบข้างทาง เสียงฝีเท้าตุบตับๆๆ เริ่มดังเข้ามาใกล้

พ้นโค้งมา ผมเห็นผู้คนกอดคอวิ่งขึ้นมาเป็นแถวหน้ากระดาน คนที่เดินอยู่ข้างหน้า ต่างพากันหลบให้ทาง


ผมมองหน้าแต่ละคนที่วิ่งผ่าน มองเห็นเป็นหน้าตัวเอง



ผมตัดสินใจเข้าร่วมพิธีรับน้องขึ้นดอย ทั้งๆที่ปฏิเสธไม่เอารุ่น ตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องเชียร์

ผมไม่ได้รังเกียจสังคม ผมแค่ยืนยันไม่ทำตามกฎเพียงข้อเดียวเท่านั้น





‘ทำไมไม่แขวนป้ายชื่อ’ รุ่นพี่คนหนึ่งยืนตะคอกข้างหูผม

ผมยืนนิ่ง ไม่ตอบอะไร รุ่นพี่กลุ่มใหญ่จึงกรูเข้ามาล้อมผม เสียงตะคอกเอะอะจับใจความไม่ได้


เมื่อไม่ได้คำตอบใดๆจากผม รุ่นพี่คนหนึ่งจึงสั่งซ่อมปีหนึ่งทั้งหมด

‘ผมไปเอง จบไหม’
ผมเหวี่ยงป้ายชื่อทิ้งกลางห้อง ลุกเดินออกไป เพื่อนมองหน้าผมไม่เข้าใจ แต่ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ใครฟัง




ผมนั่งบนขอบถนน จิบน้ำที่ได้รับแจกจากโต๊ะข้างทาง อากาศชื้นเย็น มองไกลออกไป เห็นเมืองเล็กนิดเดียว

“แผงวงจร” ปรุงโพล่งขึ้นมา ผมหันไปมอง

“เมืองไง มองตอนนี้เหมือนแผงวงจรไฟฟ้าน่ะ”

“มันไม่เป็นระเบียบอย่างนั้นหรอก” ผมแย้ง นึกถึงสภาพตรอกเล็กตรอกน้อยตัดกันยุ่งเหยิง

“ใช่ ทุกสิ่งงดงามเสมอ จนเมื่อมาสัมผัสเอง” ปรุงหัวเราะ พลางบุ้ยหน้าให้หันไปดูด้านหลัง


ขบวนคณะซำกำลังเดินไต่ทางชันเข้ามาใกล้
มองเห็นซำแบกเสลี่ยงเดินนำขบวน เราต่างสบตากัน จนเมื่อขบวนผ่านไป ปรุงฉุดผมให้ลุกยืน


“จนค่ำก็ไม่ถึงหรอก นั่งจนรากงอกแล้ว”




คืนนั้นผม เบสและปรุง นั่งมองหน้า เหยียดขากันกลางห้อง สภาพหมดแรง
เบสทิ้งตัวลงนอนกลิ้งไปมาที่พื้น ร้องเพลงหงุงหงิง ปรุงเอานิ้วจิ้มๆขาเบสให้โดนโวยวายเล่น

ได้ยินเสียงซำร้องเรียกจากหลังห้อง
ผมค่อยๆกระดืบคืบคลานไปหา ปรุงหัวเราะขำสภาพผม


เรายืนเกาะราวระเบียงคุยกัน นานแล้วที่ไม่ได้ทำแบบนี้
ซำชวนคุยอยู่เป็นนาน ก่อนจะลา ซำทิ้งท้ายจะไปส่งผมเรียนพรุ่งนี้เช้า ผมตั้งท่าปฏิเสธด้วยเกรงใจ
แต่ซำไม่อยู่รอฟัง


เดินกลับเข้าห้องมา ปรุงได้แต่มองผม ไม่พูด ไม่ถามอะไร

เบสผิวปากไม่เป็นเพลง นอนมองเพดาน แต่เหลือบตามามองเราเป็นพักๆ



หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-12-2012 08:51:56
ลุ้นอะ จะเป็นงัยต่อ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 22-12-2012 09:54:12
เบสนี่ดูชิลจัง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-12-2012 11:16:08
อยากรู้ที่เต้กระซิบบอกฟานจัง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 22-12-2012 12:04:16
ทุกสายตามองมาที่ฟานคนเดียว
ราวกับมีอะไรในใจอยุ่
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 22-12-2012 13:21:20
เมื่อไหร่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเต้ง่ะ   :sad4: :sad4:   :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-12-2012 13:26:00
เมทห้องนี้ดูแปลกๆทุกคนเลย *-*

แล้วอดีตเป็นยังไงหว่า อยากรู้ทุกปมแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 22-12-2012 13:35:09
 :-[ ตอนนี้รู้สึกเหมือนทุกคนน่ารักดีจัง... เป็นความรู้สึกบรรยายไม่ถูก ชอบที่เบสไม่ค่อยพูดอะไร

แต่คอยมองดูห่างๆ อยู่ข้างๆเป็นบางเวลา ชอบซำที่ไม่ได้เร่งเร้า ไม่ได้บอกอะไร แต่ให้สังเกตเอง

แล้วก็ชอบปรุงที่ดูลึกลับหน่อยๆ อยู่ข้างๆแต่ไม่ได้ช่วยอะไร แต่ก็ไม่ได้ขัดขาอะไรกัน... ความสัมพันธ์แปลกดี

แต่สงสารเต้เล็กน้อย เด็กน้อยที่ถูกกันจากวงผู้ใหญ่... น้องของเต้เสียสินะ วันที่ทุกคนสวมชุดสีดำ...

แต่ไม่เข้าใจเรื่องรอยยิ้มหวานหยดย้อยนั่นเลย... หรือเป็นการปลอบใจเด็กๆ เต้รักฟานเเบบน้องรึเปล่าเนี่ย

แต่ก็ดูยึดติดแบบแปลกๆด้วย เรื่องรับน้องนึกดูแล้ว ตอนที่โดนว๊ากนี่ปวดตับจริงๆ... บางทีเราไม่ได้ทำอะไรผิด

ก็หาเรื่องว๊ากอยู่ดีเเหละ... ไหว้เเล้ว หาว่าไม่ไหว้เอย ถ้างั้นการไหว้โดยถูกบังคับจะมีคุณค่าอะไรเมื่อไม่ได้มากจากใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 22-12-2012 13:54:11
ดีใจจังค่ะ ที่เขียนไปแล้วคนอ่านเข้าใจที่เราอยากเสนอ
ตอนนี้เราตั้งใจอยากจะให้มันคลายหลังจากที่ใจร้ายกับฟานมามากเหลือเกิน

เป็นช่วงเวลาพักใจนะคะ  o18

สำหรับที่รอให้เฉลยปมในใจ กลัวว่าถึงตอนนั้นไปแล้วจะผิดหวังจัง

มันไม่ซ่อนเงื่อนอย่างที่คิด แค่ยังไม่ถึงเวลาน่ะค่ะ


อดใจรอก่อนเน้อ

ขอบคุณที่ยังคงติดตามค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 22-12-2012 15:53:07
มารอตอนต่อไปตอนนี้เหมือนจะคลายปมออกมาบ้างละ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-ดูแล-.(ต่อ-จบบท).หน้า 3 ค่ะ (22 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 23-12-2012 17:07:52
-วันเกิด-


วันนี้ของเมื่อสิบปีที่แล้ว ผมได้รับของขวัญวันเกิดเป็นแผลที่หัวเข่า และยืนมองพ่อไสจักรยานเก็บเข้าโรงรถด้วยใบหน้างอง้ำ

วันเกิดของปีถัดมา ผมนอนซมด้วยพิษไข้ ได้แต่คิดน้อยใจในโชคชะตา ก็ในเมื่อหนึ่งปีมีวันเป็นร้อย ทำไมต้องจำเพาะจะต้องมาเป็นไข้ในวันนั้นด้วย


ผมพยายามนึกทบทวนไล่มาทีละปีๆ

จนมาถึงวันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน ผมได้ทำอะไรบ้าง
นึกย้อนไป ผมอยู่ที่ไหน ...


และ....อยู่กับใคร



ก้าวเข้าห้องมา ก้มตัวถอดรองเท้า มือคลำหาสวิตซ์ไฟ ยังไม่ทันได้กดเปิด เสียงก๊องแก๊งเป็นจังหวะอยู่ด้านหลังเรียกให้ผมหันไปมอง

“ยังไม่ต้องเปิด มาเป่าเทียนก่อน”
“เอ่อ มันลำดับหลังสุดเลยหรือเปล่า ตอนนี้กินก่อนมั้ง”
“เอาไงก็ได้ หิวนานแล้วอ่ะ”


เสียงคนทุ่มเถียงกันเบาๆกลางห้อง ผมเขม้นตามอง “อยู่ครบเลยนะ ทำอะไรกันมืดๆ” ผมถามออกไปตอนที่เปิดไฟแล้ว

เบสทำหน้าเพลียๆ “ก็บอกแล้วยังไม่ต้องเปิด”
ปรุงเอนตัวพิงเบส กุมแขนเบส ทำท่าแทะเล่น “หิวจริงๆนะ มากินเร็วๆๆ”
ซำตบพื้นข้างตัวเบาๆ ชวนผมมานั่งข้าง “มานั่งสิ เดี๋ยวเบสเหลือแต่กระดูก”
ผมทรุดตัวลงนั่ง ยังไม่เข้าใจ ตากวาดไปเจอเค้กสีน้ำตาล ตรงกลางปักป้ายพลาสติกสีสวย ‘Happy Birthday’


“รู้ได้ยังไง”
“เมื่อวาน แม่ฟานบอก” อ้อ ผมลืมไป แม่เคยขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนๆผมไว้ ‘เผื่อฟานหนีเที่ยว’

“ขอบคุณนะ” ผมยิ้มตาหยี ได้ยินเสียงลมหายใจสะดุดจากคนข้างๆ

โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นครืดคราด “แม่คงโทรมา กินกันไปก่อนเลยนะ”
ผมลุกออกจากวง เดินไประเบียงหลังห้อง ล้วงโทรศัพท์มาได้ก็กดรับสาย ไม่ได้ดู


“ครับแม่”

ผมรอฟังเสียงปลายสายอยู่เป็นพัก ชะโงกหน้าดูเหตุการณ์ในห้องไปพลางๆ เห็นเบสจับน่องไก่ยัดใส่ปากปรุง ผมหัวเราะคิก



“....มีความสุข...ก็ดีแล้ว”




ผมกำโทรศัพท์แน่น แม้ปลายสายจะวางไปแล้ว

‘บ้านนั้นกลับมากันแล้วนะ’


ผมจำได้แล้ว

วันนี้ของปีที่ผ่านมา .... ผมทำอะไร






“แม่ภา” ผมเรียกแม่เต้ว่าแม่ภา เพราะถูกห้ามเรียกป้า หรือน้า เพราะแม่กับแม่ภาไม่มีใครยอมแก่กว่ากัน

“ฟาน เข้ามาเลยลูก” แม่ภาตะโกนตอบจากในห้องครัว
ผมเดินไปหา ยกมือไหว้ แม่ภาพยักหน้าให้ “แม่เราล่ะ”
“จะตามมาทีหลังครับ เห็นจะรอพ่อก่อน” ผมมองไปบนโต๊ะที่มีกับข้าวจัดวางอยู่ “ผมช่วยนะ”
“ไม่ต้องๆ ไปหาเต้ไป”

ได้ยินเสียงวิ่งลงบันไดมาตึงตัง “ฟาน ทำไมมาช้า” เต้ตะโกนหา ทั้งที่ยังไม่เห็นตัว

แม่ภาส่ายหน้า ยิ้มระอา “ไปหาเถอะไป๊ เดี๋ยวได้เอะอะไม่เลิก”

เต้มาถึงตัวผมก่อน ฉุดแขนให้วิ่งตาม ปากก็ตะโกนบอกแม่ภา “ฟานไม่กินองุ่นนะแม่ อย่าใส่ไปนะ”



ผมไม่ชอบห้องนอนเต้เลย มันสะอาด เป็นระเบียบ จนผมไม่กล้ากระดิกตัว
ผมเคยแกล้งสลับหนังสือที่เรียงสันอยู่บนชั้นวาง หยิบเล่มชั้นล่างมาวางชั้นบน ปะปนหมวดหมู่
วันต่อมา หนังสือกลับมาเป็นเช่นเดิม
ราวกับเป็นผมเองที่ฝันไปว่าเคยเคลื่อนย้ายอะไรในห้องนี้


ผมนั่งหมิ่นๆที่ขอบเตียง เบี่ยงตัวมามองเต้ที่กำลังหยิบอะไรกุกกักในลิ้นชักโต๊ะ  เต้เดินกลับมาทรุดนั่งคุกเข่าบนพื้นหน้าผม

“สร้อยนี่เต้สั่งทำพิเศษเลยนะ”
กวางตัวเพรียว ท่วงท่ากระโจนดูปราดเปรียว ทว่าอ่อนหวานด้วยพลอยเม็ดเล็กสีชมพูติดแทนตา

“มันของผู้หญิงนี่” ผมท้วง พลางพลิกจี้ในมือกลับไปกลับมา

เต้ยื้อสร้อยจากมือผม ค่อยๆเหนี่ยวคอผมมาใกล้ ผมใช้สองมือยันบ่าเต้ไว้ด้วยกลัวหน้าคะมำพื้น ใบหน้าเราสองคนอยู่ชิดกัน


“กวางตัวนี้ก็คือฟานนะ พลอยสีชมพูนี้คือหัวใจเต้” เต้ค่อยๆติดตะขอสร้อย มือสั่นเทาสัมผัสโดนเบาๆที่หลังคอ


ผมเหลือบตามองเต้ ก่อนรับรู้สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก

เลื่อนสายตาจับจ้องมองไปเบื้องหน้า

ประตูห้องแง้มเปิดช้าๆ



แม่ภามองมาที่เรานิ่งนาน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-....หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 23-12-2012 17:51:17
 :a5: แม่เห็นแล้ว ทำไงดี!!!... เเม่ภาว่าอะไรรึเปล่า??? ความคิดผู้ใหญ่จะว่่ายังไง... ไม่ใช่พยายามจับเเยกนะ

นี่เป็นเรื่องในวัเกิดของฟานเมื่อปีที่เเล้วเหรอ... อย่างนั้นก็ผ่านไปไม่นานสินะ แล้ว"กลับมาเเล้ว"

แปลว่า เคยไปอยู่ที่ไหนมา???... ฟานวันเกิดทั้งที มีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้านะ ตักตวงให้มากเข้าไว้...

ไม่ได้ลืมเรื่องวันเก่า แต่วันนี้ปล่อยวางไว้สักพัก ตอนนี้มีซำ ปรุง แล้วก็เบสรออยู่ในห้อง พร้อมจะอวยพรวันเกิดให้ฟานอยู่

รีบกลับเข้าไป แล้วสนุกสนานกับเพื่อนดีกว่า ความสุขอยู่ตรงหน้าเเล้วนะ แค่คว้าเอาไว้...  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-....หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 23-12-2012 17:59:39
-วันเกิด -ต่อ-

งานเลี้ยงจบลงอย่างไรผมจำไม่ได้ ผมรู้แค่ว่า เค้กที่ป้อนเข้าปากไป หวานเลี่ยน ติดลิ้น

ผมกำลังเกาะโถส้วม โก่งคออาเจียนอย่างหนัก เจ็บสีข้างจนไม่อยากขยับตัว
ค่อยๆฝืนยันตัวลุกขึ้นมา โผเผเกาะผนังห้องน้ำ แง้มประตูเปิดออกมา

ปรุงยืนพิงอ่างล้างหน้า เบสยืนหน้านิ่งเฝ้าทางเข้าออก และซำค่อยๆเดินมาหาผมที่กำลังยืนงงอยู่

ผมไม่ได้พูดอะไร ซำเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผม

เป็นปรุงที่พูดออกมาก่อนใคร

“ตั้งแต่รู้จักกันมา ฟานไม่เคยกินอะไรให้เห็นเลย”
มือซำสั่นเล็กน้อย มองหน้าผมแล้วถามขึ้นมา “ทรมานสินะ”

ผมก้มหน้าลง อยากจะสะกดกลั้นน้ำตา

แต่ทำไม่ได้

ค่อยๆเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก


“เราจะลบล้างความผิดบาปอย่างไรดี”






แม่ภาไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องเมื่อตอนเย็นเลย
คืนนั้นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดผมจบลงเพราะพ่อดื่มหนักจนฟุบไปบนโต๊ะ ต้องช่วยประคองกันขึ้นรถกลับบ้าน โดยมีพ่อเต้ไปส่ง

เช้าวันต่อมานั้น เต้ขาดเรียน
สร้อยคอที่สวมอยู่นั้น หนักอึ้งราวกับถ่วงด้วยลูกเหล็ก

คืนนั้นเป็นอีกคืนที่ผมหลับตาไม่ลง

เย็นวันต่อมาแม่ภาโทรหาผม ขอให้ช่วยคุยกับเต้ให้ที เต้ขังตัวเองไม่ออกมานอกห้องสองวันแล้ว
ตอนที่ไปถึงนั้น แม่ภานั่งนิ่งๆอยู่กลางห้อง พอเห็นหน้าผม น้ำตาก็ไหลพราก

“ฟานบอกเต้นะลูก แม่ไม่ว่าแล้ว”
พูดถึงแค่นั้น แม่ภาก็เงียบไปผมจึงเดินจากมาอย่างไม่เข้าใจอะไรนัก

เคาะประตูห้อง ตะโกนร้องเรียกเต้ ยืนรอไม่กี่อึดใจ เต้ก็เปิดประตูคว้าผมไปกอดแน่น
“แม่ภาไม่ว่าอะไรแล้ว” ผมกระซิบบอกเต้ข้างหู
เต้กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม รู้สึกอุ่นชื้นตรงหัวไหล่

ค่อยๆดันตัวออก เช็ดคราบน้ำตาให้เต้ ตาแดงก่ำจ้องเขม็ง ผมลดสายตาตั้งใจจูงมือเต้ไปนั่ง


ลมหายใจหยุดค้างชั่วขณะ เมื่อได้เห็น
ที่ท้องแขนเต้นั้น มีชื่อผมติดอยู่



ตัวอักษรนั้นเป็นสีเลือด


“เต้กรีดเอง...


...ก็เราจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไง”
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 23-12-2012 18:06:35
ขออภัยที่มาทีละขยัก

บางครั้งพอพิมพ์เสร็จแล้วก็ตื่นเต้น อยากให้คนอ่านได้อ่านเร็วๆ
อยากรู้ว่าคนอ่านจะรู้สึกอย่างไร

แอบลุ้นว่าจะมีใครเข้าใจที่เราสื่อไปหรือเปล่า

มันเลยมาทีละน้อยๆแบบนี้
อย่าเพิ่งรำคาญกันนะคะ
คราวหน้าสัญญาว่าจะมาแบบปกติ ไม่ให้เสียอารมณ์กันนะคะ

 :pig4: ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 23-12-2012 18:37:04
 :กอด1: เข้มแข็งนะฟาน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 23-12-2012 19:00:19
เต้แอบจิตจริงๆด้วย :a5:

น่ากลัวยังไงบอกไม่ถูก ว่าแต่ฟานเป็นอะไร ทำไมกินเค้กแล้วต้องอ้วกอะ

น่าสงสารจัง :impress3:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 23-12-2012 19:05:36
 :กอด1: มาทีละขยัก แต่ขยันขนาดนี้ไม่เป็นไรค่ะ555... ชอบๆ

เต้รักรุนเเรงมากเลย สลักชื่อคนที่รักไว้บนท้องเเขน... น่ากลัวนะ แต่ก็หมายถึงจะไม่ลืม รักมากๆ

เอ่อ... ไม่รู้คนอ่านโรคจิตเปล่า แต่รู้สึกชอบจัง ดูขมุกขมัว น่าหวาดกลัว และก็รู้สึกเหมือนเต้จะไม่ปล่อยมือ

จากกันจริงๆ... ฟานเป็นอะไร ทำไมถึงอาเจียนล่ะ หรือว่าเพราะนึกถึงเรื่องตอนนั้น เเล้วเกิดความเครียด...

ติดใจตรงคำว่า "ตั้งเเต่รู้จักกันมา ฟานไม่เคยกินอะไรให้เห็นเลย" พาลให้คิดว่าฟานเป็ฯอย่างอื่นไปนะนั่น

ทุกคนดูสงสาร เห็นใจฟานมากๆ เหมือนจะรู้อะไร แต่ก็เหมือนไม่รู้อะไร เอ้อ... สับสนมากกก  :กอด1:ฟานนนนน
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 23-12-2012 19:17:45
“กวางตัวนี้ก็คือฟานนะ พลอยสีชมพูนี้คือหัวใจเต้”
เป็นความรักที่บริสุทธิ์เนอะ
แต่พออ่านลงมาเรื่อย ยอมรับว่าตกใจมาก ตัวเย็นวาบอะเลย  :z3: :z3:
เด็กตัวแค่นั้นมีความคิดแบบนี้ได้ยังไง

ตัวอักษรนั้นเป็นสีเลือด“เต้กรีดเอง......ก็เราจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไง”
ทำไมเต้ถึงทำแบบนั้น กรีดแขนตัวเองทำไม
อดที่คิดไม่ได้ว่าที่เต้หายไปเพราะไปรักษาอาการทางจิตหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-12-2012 19:59:06
โหย น่ากลัวเลยอะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 23-12-2012 20:22:21
แล้วเป็นไงต่ออะ???? ค้างเสียแล้ว  :o12: (แอบอู้การบ้าน) มาเป็นกำลังใจให้นักเขียน ^^
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 23-12-2012 20:24:49
ตอนนั้น เมื่อปีที่แล้วน่ะ ฟานรู้สึกกับเต้ เหมือนที่เต้รู้สึกกับฟานหรือเปล่า
เพราะเท่าที่อ่านมา เหมือนฟานเฉยๆ มากกว่านะ ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร
เฉยๆ แต่ไม่ได้ขัดใจ ยอมถูกเต้ลากไปลากมาจนเต้ถลำลึกหรือเปล่า

แล้วพอถูกฟานปฏิเสธ เต้เลยอาการหนักจนปางตาย
ฟานเลยคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองมาจนทุกวันนี้

สามหนุ่ม ซำ เบส ปรุง ลุ้นว่าใครจะมาปลดปล่อยฟานจากความรู้สึกที่เกาะกินจิตใจฟานอยู่
รีบมาไวๆ นะคะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: luvsin ที่ 23-12-2012 20:45:11
ชอบการเล่าเรื่องของคนเขียนมาก o13
แต่เราแอบกลัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 23-12-2012 21:08:46
แงงงงงงงง เตเต้หายไปไหน มาหาฟานที่หอสิ วันเกิดฟานน๊า

จะได้คู่กันหรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-12-2012 21:41:19
เต้ ?
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Yuthaiz2 ที่ 23-12-2012 21:48:08
มาบ่อยๆทุกวันชอบค่ะ

เต้ดูจิตจริงด้วย แต่เราก็ชอบนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 23-12-2012 22:37:52
เต้น่ากลัวอ่าาา

=o="
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 23-12-2012 22:48:21
อ่านแต่ละตอนจบแล้วบอกไม่ถูกอะ

ทุกอย่าง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ เหมือนมีนัยยะ(เขียนยังไง?)ตลอด

ต้องคิดตามทุกคำพูดว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เห็นหรือเปล่า

อ่านแล้วอึดอัดดี

ชอบอะ (อ้าว)

 o13

ขอบคุณมากคร้าบบ

 :pig4:



หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-12-2012 22:52:41
อ่านแล้วอึดอัด แต่ก็ยังอยากอ่านต่ออยู่ดี
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 24-12-2012 01:26:50
มันต้องมีช่องว่างอะไรซักอย่างระหว่างเต้กับฟานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 24-12-2012 10:57:33
เต้ จิตไม่ไหวแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 24-12-2012 11:13:00
ดูมันเศร้าๆยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 24-12-2012 11:13:24
ดูมันเศร้าๆยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-วันเกิด-...(มีตอนต่อ)...หน้า 4 ค่ะ (23 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 24-12-2012 11:24:46
-โอบอุ้ม-

ทั้งๆที่ต่างก็มองเห็นสัญญาณผิดปกติ แต่เราก็แสร้งทำเป็นไม่รับรู้

“แม่ คืนนี้ฟานค้างบ้านเรานะ” เต้พูดขึ้นมากลางวงอาหาร
กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ที่ผมจะต้องมาทานมื้อเย็นที่บ้านเต้

ผมที่เพิ่งรู้หมายกำหนดการของตัวเอง ชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปาก ทุกคนเงียบกริบ
เต้ตักกับข้าวใส่จานผมจนพูน ในนั้นมีผักที่ผมไม่ชอบ

“กินเยอะๆนะ ฟานผอมไปแล้ว” เต้มองผม เฝ้ารอ
ผมตักผักชิ้นนั้นเข้าปาก เคี้ยวช้าๆ


ขมเหลือเกิน



แสงจากโคมไฟข้างถนนลอดเข้ามาในห้อง เรานอนจับมือกัน เต้ร้องเพลงเบาๆ
ผมหลับตา ไล้ปลายนิ้วไปตามรอยแผล สะกดชื่อตัวเอง

...นี่คือเรา...

ผมหลับไปทั้งแบบนั้น แว่วเสียงเพลงขับกล่อมจากเต้ทั้งคืน





ผมสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกถึงแสงแดดที่แยงตา ตลบผ้าห่มออกจากตัวร้อนรน ผมไม่เคยตื่นสายขนาดนี้มาก่อน
ปรุงและเบสหันมามอง

“ดีขึ้นไหม ล้างหน้าแล้วลงไปหาอะไรกินกันเถอะ”  เบสทักขึ้นมา อะไรคือดีขึ้น

ผมมองรอบตัวช้าๆ งุนงง มีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม อะไรที่ไม่ใช่แค่เพียงผมตื่นมาบนเตียงเดี่ยวของเบส


ผมเห็นแล้ว บนโต๊ะของผม กล่องพลาสติกสีฟ้าหายไป
กระโจนลงจากเตียง ได้ยินเสียงกรอบแกรบที่เท้า ผมก้มมอง
กล่องที่ผมมองหาอยู่นี่เอง ข้าวของในนั้นกระจายเกลื่อน อารมณ์พลุ่งพล่าน

“ถึงขนาดค้นของกันเลยเหรอ” เค้นเสียงถามออกมา มองเห็นสร้อยคอขดอยู่ข้างฝ่าเท้า ผมเลื่อนสายตาจับจ้องเพื่อนร่วมห้องหาคำตอบ

เบสมองหน้าปรุง อึกอักคล้ายจะพูดแต่ไม่พูด ถอยหลังช้าๆไปนั่งบนเตียง
ปรุงเดินเข้ามาหาผมช้าๆ สองแขนอ้าออก กอดประคองผมไว้

“เมื่อคืน ฟานหยิบออกมาเล่าให้พวกเราฟังเอง จำไม่ได้เหรอ”

ผมยืนนิ่งค้าง จะหายใจยังไม่กล้า เป็นนานช้า
“เล่าให้ฟัง...ทั้งหมดเลยเหรอ” เสียงที่หลุดออกมา สั่นเจือสะอื้น


“ไม่รู้หรอก ทั้งหมดนั้นมันแค่ไหนกันล่ะ”





เต้แสดงความรักต่อผมอย่างเปิดเผยมากขึ้น แสดงความเป็นเจ้าของรุนแรง ผมต้องอยู่ในสายตาเต้ตลอดเวลา พวกผู้ใหญ่ต่างลงความเห็นว่า เป็นพฤติกรรมวัยรุ่น หากพ้นช่วงนี้ไปทุกอย่างจะดีขึ้น

แล้วมันเมื่อไหร่กันล่ะ...


เพื่อนๆดูเหมือนจะไม่แปลกใจอะไร รู้แค่เพียงว่าผมกับเต้คบกัน ส่วนใหญ่ก็รับได้ ด้วยเห็นความสนิทสนมที่เต้มีให้ผมมาตลอด

แต่บางส่วนก็รับไม่ได้ เช่นมิ้ม
ทุกครั้งที่เต้จ้องมองผมนานๆ มิ้มจะมองเมิน และบางครั้งก็ลุกเดินหนี

นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมลำพองใจ


ผมเรียนรู้วิธีสร้างความสุขอย่างง่ายๆ เมื่อไรที่เห็นมิ้มอยู่ไม่ห่าง ผมแค่หันไปส่งยิ้มให้เต้ เพียงแค่นั้นในอกผมจะอุ่นซ่าน มีบางครั้งเผลอหลุดหัวเราะออกมา จนเต้สงสัย ผมได้แต่โบกไม้โบกมือตอบวุ่นวาย เป็นเชิงว่าไม่มีอะไร

ก็มันไม่มีอะไรจริงๆนี่นา..


ใกล้ถึงช่วงเทศกาลปีใหม่เข้าไปทุกที เมืองที่ผมอยู่ ฤดูหนาวกลับไม่หนาว พวกเพื่อนๆวางแผนโดดเรียนกันไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เป็นการเที่ยวส่งท้าย เพราะนับจากนี้ไปจะมีแต่การสอบ

ผมอยากไป แต่เต้ไม่ “ถ้าอยากไปไหน เต้พาไปก็ได้ ไปกันสองคนไง นะ”
ผมยืนกรานหนักแน่น เบี่ยงตัวหนีเต้ก่อนจะโดนลูกไม้ออดอ้อนแบบเดิมๆ

เต้จะไปเข้าใจอะไรได้ ก็ในเมื่อเต้อยู่ท่ามกลางวงล้อมเพื่อนๆตลอดมา แต่ผมไม่ใช่

เป็นครั้งแรกที่ผมดื้อดึงจนชนะ



ที่ที่เราไป เป็นหาดที่ไม่มีคน เพื่อหลบสายตาผู้ใหญ่ เพื่อรู้สึกถึงอิสระ
เราโดดน้ำเล่นกันจากสะพานหินที่ยื่นยาวมายังน้ำลึก แข่งกันถีบตัวให้สูงที่สุด ม้วนหน้าม้วนหลังให้ได้หัวเราะกัน
ผมไล่เลาะเกาะขอบหินหาที่พักเหนื่อย เต้ตามผมติดๆ
ผมหันกลับมายิ้มให้เต้ทุกครั้งที่หางตาเหลือบเห็นมิ้ม ชั่วแวบนั้นผมรู้สึกว่ายิ้มที่มีให้เต้มันจะหวานล้ำกว่าปกติ


เราโหนตัวขึ้นมานั่งบนสะพาน แกว่งขาเป็นจังหวะเดียวกัน เต้ลูบหัวหูที่เปียกน้ำให้ผม สัมผัสเบาสบายจนเคลิ้มหลับตา

“สร้อยหายไปไหน” เสียงเต้เกรี้ยวกราดดังขึ้น ผมสะดุ้ง
ยกมือคลำหา ที่คอโล่ง ใจหายวาบ ตาเผลอกวาดไปทั่ว ได้ยินเสียงเพื่อนเรียกให้กลับจากชายหาดไกลๆ

“อาจจะหลุดหาย....” ผมตอบเสียงแผ่ว
เต้หย่อนตัวลงน้ำ ทำท่าจะงมหา ผมรีบทิ้งตัวตามลงไป “ไม่เจอหรอก กลับเถอะนะ เย็นแล้วด้วย”

“ขึ้นไปนั่งรอนะ ..” เต้ยังพูดไม่ทันจบ คลื่นลูกโตก็ซัดมาปะทะ
เต้บ้วนน้ำทะเลที่คงทะลักเข้าปาก หัวเราะให้ผม ก่อนจะมุดดำลงไป



นั่นเป็นเสียงหัวเราะสุดท้ายที่ผมได้ยินจากเต้



หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-โอบอุ้ม-......หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 24-12-2012 11:28:36
จากใจคนเขียน

พยายามเหลือเกินจะไม่ทำร้ายความรู้สึกคนอ่าน
แต่ก็ทำใจทำลายพล็อตเดิมของตัวเองไม่ได้

ที่ไม่ตอบคำถามคนอ่านก่อนนี้ ไม่ใช่หยิ่งน้าาา  :sad4:  แค่กลัวว่าจะเผลอหลุดบอกอะไรๆไป

ซึ่งตอนนี้ก็บอกแล้ว

อย่าผิดหวังจนเลิกอ่านนะคะ

รออ่านต่อเถิด

เพราะคนเขียนโรคจิตกว่าที่เห็น  o18
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-โอบอุ้ม-......หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 24-12-2012 11:40:23
เห้ย...!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-โอบอุ้ม-......หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 24-12-2012 12:02:20
 :monkeysad: โธ่ เต้
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-โอบอุ้ม-......หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 24-12-2012 12:34:57
 o22 เต้ๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!... เต้คงไม่ได้... เหลือไว้เพียงความทรงจำในอดีตจริงๆหรอกนะ เอ่อ... จากที่ว่าเต้น่ากลัว

เเต่ก็น่ารัก... ตอนนี้เต้น่าสงสารมากๆเลย ทำไมนะ ทั้งที่เป็นคนดีขนาดนั้น ฟานยิ้มให้เต้หวานหยด ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้ามิ้ม

มันเป็นการเเสดงให้เห็นว่าเหนือกว่าสินะ สิ่งที่มิ้มเคยเยาะ ตอนนี้มันทำร้ายตัวเอง ในเมื่อเต่เลือกตุ๊ดที่ตัวว่า ทั้งที่ตัวเชื่อมั่น

ว่าตัวเองดีกว่าเยอะ... มันก็คงสะใจดี แต่ถ้ารอยยิ้มนั้นมาจากความรู้สึกนั้นอย่างเดียวก็ดูจะใจร้ายไป... ฟานรักเต้มั้ย???

หรือว่าเเค่ผูกพัน... เเต่ถ้าไม่รักคงไม่คบ ไม่สุขใจเวลาได้อยู่ด้วย ได้รู้สึกว่านั่นคือที่ของตัวเองหรอกใช่มั้ย... เเต่พอเกิดเรื่อง

มันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และพื้นที่บางส่วนของตัวเองสูญหายไป... อยากรู้ความรู้สึกของฟาน โดยที่ไม่คาดเดา ให้เห็น

ความรู้สึกจริงๆ แต่ตอนนี้เหมือนค่อยๆชัดขึ้นเน๊อะ... ฟานเรื่องที่เล่าให้เบส ให้ปรุงฟัง ทั้งหมดมันเป็ยังไงเหรอ??? :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย ....-โอบอุ้ม-......หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 24-12-2012 12:50:32
-วิงวอน-

แสงไฟสาดต้องผิวน้ำทะเลที่ดำมืด ผู้คนสับสนวุ่นวายวิ่งผ่านผมไป มีบางคนไล่ผมให้ไปนั่งรอที่ชายหาด ผมไม่แม้แต่จะเหลือบแล
ผู้ปกครองถูกตามตัวมา ผมไม่ได้เดินกลับไปหา ยังคงนั่งปักหลักเฝ้ารอต่อไป

นานช้า กว่าจะได้ยินเสียงร้องบอกต่อๆกัน “เจอแล้วๆ”
ผมลุกขึ้นไปหา สุดปลายสะพานนั้น ผมยังมองไม่เห็นเต้
ได้ยินเสียงบางคนบ่นงึมงำไม่ห่าง “ก็หนีมาเล่นกันทำไมที่นี่ กินคนทุกปีล่ะ หาดนี้”


หันกลับไปมอง เจ้าหน้าที่อุ้มเต้ขึ้นมา ค่อยๆวางบนพื้นสะพาน ผิวเต้ขาวซีดกว่าที่เคย ชื่อผมบนแขนเต้ก็ดูจะชัดเจนขึ้น
ในมือเต้นั้น ว่างเปล่า


ดูเหมือนแม่ภาจะพยายามวิ่งเข้ามา ได้ยินเสียงตะโกนเรียกหาเต้ดังแต่ไกล เพื่อนบางส่วนร้องไห้  ผมหันกลับไปมอง

วินาทีนั้น เสียงคลื่นดังกลบทุกสรรพเสียง ภาพตรงหน้าเคลื่อนไหวช้ากว่าที่เป็น
ราวโทรทัศน์ที่กดปุ่มปิดเสียงไว้ มองเห็นเพียงปากคนตรงหน้าขยับพะงาบขึ้นลง

ผมเห็นมิ้มพยายามกระโจนเข้าหาผม เพื่อนบางคนต้องคอยจับไว้วุ่นวาย
เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ผมไม่ได้ยิน


“........”


“........................”

อะไรนะ ผมพยายามตั้งใจฟัง


“.....................กร......”



“.................................อีฆาตกร!!......”


ได้ยินแล้ว คราวนี้เป็นทีของเสียงคลื่นที่หายไป



ตัวเริ่มแห้ง สัมผัสบางอย่างบริเวณหน้าขา ผมล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง
ควานเจอ หยิบมาดู


สร้อยคอที่ตามหา อยู่ตรงหน้าผมนี่เอง




เที่ยงนั้น แม่โทรศัพท์ถึงผม ไถ่ถามถึงเรื่องเมื่อวาน
“แม่ก็กำลังจะโทรหาฟานนะ แต่พอดีแม่ภาเค้ามาหาถึงบ้าน”

แม่อวยพรวันเกิดยืดยาว กล่าวทิ้งท้ายก่อนตัดสายไป
“ไว้โทรหาแม่ภาเค้าบ้างนะ เค้าเองก็คงคิดถึง”


ผมไม่ได้บอกแม่ไปหรอกว่า เมื่อวานนี้เราได้คุยกันแล้ว แม้ผมจะเป็นฝ่ายรับฟังอยู่ข้างเดียวก็ตาม





ผมขังตัวเองอยู่ในห้อง เหม่อมองอะไรตรงหน้าเป็นระยะเวลานานๆ ในมือกำสร้อยคอเส้นนั้น หยิบยกมาจูบเบาๆเป็นพักๆ ตรงตำแหน่ง ’หัวใจของเต้’
ในตอนที่ล้มตัวลงนอน คล้ายกำลังจับมือเต้ แว่วเสียงผมเอง ร้องเพลงขับกล่อมตัวเองลำพัง
 
แม่ภามาเยี่ยมผมตอนบ่ายวันหนึ่ง แม่ที่ลางานอยู่เฝ้าผมจึงขอตัวออกไปทำธุระนอกบ้าน

“ไปเรียนบ้างหรือเปล่าลูก” แม่ภาลูบหัวผมเบาๆ
ผมส่ายหน้าช้าๆ แม่ภาถอนหายใจยาว

“เต้เค้าคงเสียใจถ้าเป็นแบบนี้” ผมกำสร้อยแน่นขึ้นกว่าเดิม

แม่ภาเหลือบมองมาเห็น ค่อยๆแกะมือที่กำแน่นของผมออกช้าๆ

ทีละนิ้วๆ

หยิบสร้อยในมือ มาทาบบนลำคอผม บรรจงสวมให้ ติดตะขอช้าๆ เหมือนที่เต้เคยทำให้ผมไม่มีผิด

“แม่ขอร้องล่ะนะลูก....” แม่ภาพูดช้าๆเจือสะอื้น




“รีบๆตายไปเสียทีเถอะ นะลูกนะ”


น้ำตาแม่ภากลิ้งตกลงมาบนฝ่ามือผม ทีละหยดๆ ผมค่อยๆหลับตาที่แห้งผาก


ทั้งๆที่สร้อยถ่วงหนัก แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันกำลังหดรัดรอบคอช้าๆ ราวงูรัดเหยื่อ



ลืมตาขึ้นมา แม่ภาหายไปแล้ว
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 24-12-2012 13:24:04
 :z10: ทรมานจริงๆ เริ่มเกิดความรู้สึกสับสน... เเม่ภาเหรอที่คุยกับฟานเมื่อวาน... เมื่อวานนี่วันไหน... วันเกิดรึเปล่า???

อย่างนั้นคำว่า"บ้านนั้นกลับมาเเล้ว" ... จะกลายเป็นว่า ไม่มีเต้ให้กลับมาด้วย เเม่ภาอาจทำใจไม่ได้ จนถึงเมื่อเวลาสมควร 

:เฮ้อ: โอยยยย สับสน หน่วงใจ เศร้า... ความรู้สึกหลายๆอย่างชัดเจนเเล้ว ฟานก็รักเต้สินะ เหมือนกับที่เต้รักฟาน...

สงสารเต้ และก็สงสารฟาน... และเกลียดยัยมิ้มจริงๆ ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเเท้ๆ ไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่นเลยเเท้ๆ...

ความรู้สึกของคนที่สูญเสียคนที่เรารัก และรักเราน่ะ ยิ่งใหญ่กว่าคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรับรู้อะไรมากมายเลยด้วยซ้ำ...

เมื่อคนที่เรารักตายไป เราไม่ลืมหรอก และยังจะจำฝังใจ เหมือนเค้ายังอยู่ด้วยซ้ำ แต่คนออื่นน่ะ เวลาผ่านไป เดี๋ยวก็ต้อง

ลางเลือน... เพราะงั้นฟานถึงเป็นอย่างทุกวันนี้สินะ... ตอนนี้เรียกน้ำตาจริงๆ :impress3: ฟานเต้ :กอด1:

+เป็ดค่ะ... เป็นกำลังใจ ไม่ผิดหวังเลยที่ได้อ่าน  :กอด1:

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 24-12-2012 13:52:44
ฟานคงเคยชินกับการที่มีเต้อยู่ใกล้จนไม่รู้ใจตัวเองจนวันที่เสียเต้ไปอย่าถาวร
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 24-12-2012 15:09:50
แม่ภาาาาาาาาาาาาาาาาาา...
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 24-12-2012 15:24:38
เต้ไม่อยู่แล้ว ไม่อยู่บนโลกนี้แล้วใช่ไหม  :z3:
เต้จากไปตั้งแต่วันที่ไปหาสร้อยให้ฟาน  แต่จริงๆแล้วสร้อยอยู่ในกระเป๋ากางเกงฟาน ฮรือออออออออออออออออออออ :sad4:

ถ้าฟานจะรู้สึกผิดไปตลอด มันก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนเลือกเส้นทางที่ทำให้เต้เดินไปตาย
เห้ออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-12-2012 15:26:08
โอ๊ยยยยยยย

 :z3:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 24-12-2012 15:29:01
เศร้า :sad4:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-12-2012 15:45:56
พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว เรื่องนี้มันดำมืดดีแท้
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 24-12-2012 16:21:56
อืมม์...

......Hallucina twisted disorder จริงๆซะด้วย สงสัยจะแย่แฮะแบบนี้ อาการหนักกว่าที่ผมเคยเจอนะ เท่าที่ผมอ่าน ฟานพยายามเหนี่ยงรั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเต้เอาไว้กับตัวเอง ทั้งเรื่องไม่ยอมใส่ป้ายชื่อเพราะจะไปแทนที่สร้อยของเต้ ทั้งเรื่องที่ทานอะไรไม่ค่อยลง อย่างนี้ถ้าเป็นไปเรื่อยๆ ตามตำรามีสิทธิ์ฆ่าตัวตายเข้าสักวันนะครับ

ชอบเต้อ่ะ สงสารเต้มาก ฟานก็เข้าใจแหละว่ายังเด็ก ยังอยากเอาชนะ และยังไม่รู้ว่าความรักคืออะไร ข้อดีข้อหนึ่งที่เราพอจะมองได้ของ Hallucina Disorder ก็คือ ในความเป็นไปได้ที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการนี้ มันจะเกิดขึ้น เมื่อจิตใจของผู้ป่วยถูกกระทบกระเทือนด้วยเรื่องของบุคคลที่สำคัญมากเทียบเท่าชีวิตตัวเอง ซึ่งในกรณีนี้ ตีความได้กลายๆว่าฟานเองก็รักเต้ แต่ไม่รู้เกี่ยวกับใจของตัวเองที่แน่ชัด อันนี้สังเกตได้ ว่าเป็นบุคลิกส่วนตัวของฟานที่ค่อนข้างเงียบ และค่อนข้างจัดการความรู้สึกตัวเองได้ไม่ค่อยดี เลยตัดสินใจที่จะปกปิดความรู้สึกนั่นเอาไว้

การรักษาผู้ป่วยแบบนี้ให้คนนอกยุ่งด้วยยาก (ยังรู้สึกไม่อยากให้เต้ตายเลย เพราะว่ามันจะทำให้โทนเรื่องดาร์คเพิ่มขึ้นสุดๆเลยนะครับ) ผมมองว่าถ้าให้สามหนุ่มนั่นคนใดคนหนึ่งมาดามใจ แล้วพล็อตมันจะไปเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องได้ยังไง? ตอนนี้ยังเข้าใจว่าเสียงที่ขาดหายไป เป็นเสียงของทั้งฟาน และเต้ แต่ไอ้การที่จะเอาคนอื่นมาร่วมด้วยเนี่ย.... มันจะทำให้สเกลและโฟกัสของตัวละครเปลี่ยนนะครับ ฝากไว้ด้วยนิดนึง

ปล. Hallucination disorder เป็นชื่อเล่นของการทางประสาทที่เกิดสภาวะจิตหลอน ตัวแต่ละโรคอาจมีชื่อเฉพาะแตกต่างกันออกไป แต่หลักๆเวลาเราพูดกันก็จะใช้คำนี้แหละครับ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 24-12-2012 17:18:06
เคว้ง เดินไปไม่ถูกเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 24-12-2012 17:40:10
ดูทุกคนเสียใจที่เต้ตาย
อยากบอกว่าคนเขียนก็เสียใจไม่แพ้กัน

ตั้งใจว่าเต้มีปมตอนเด็กให้รู้สึกว่าเค้าสามารถดูแลใครสักคนได้ เมื่อถูกกีดกัน จึงยึดมั่นฟานเหลือเกิน

แต่เพราะหากสองคนเกาะเกี่ยวกันอยู่แบบนี้ เค้าจะไม่เติบโต คนเขียนเลยปล่อยให้เต้ตาย

ถึงได้บอกไป กลัวผิดหวังกันจังเลย  :monkeysad:

สำหรับคุณ Grey Twilight ขอบคุณสำหรับคำวิเคราะห์มากๆค่ะ
อยากบอกว่า คนเขียนไม่มีความรู้เรื่องจิตวิทยาเลย
ก็ให้รู้สึกละอายใจ คนเขียนเขียนเพื่อสนองความต้องการระบายล้วนๆ ขอโทษนะคะที่ทำให้บางคนผิดหวังอยู่บ้าง

แต่เพราะคำวิเคราะห์ของคุณ ทำให้หลายๆครั้งคนเขียนพยายามกระเสือกกระสนหาทางหนีการคาดเดาของคุณ (เพื่อ?)

ตอนนี้ก็ได้แต่จะมุ่งไปตามพล็อตที่วางไว้แต่ต้น ซึ่งมันก็ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันนะคะ ทุกคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้เสมอมา่  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 24-12-2012 20:48:00
โอ้ จะเป็นยังงัยต่ออะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 24-12-2012 22:12:37
ตอนนี้เม้นท์ไม่ค่อยออก

แต่มันก็จริงนะคะถ้าเต้กับฟานยังอยู่ด้วยกัน เต้ก็จะเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่
แล้วฟานก็ต้องทนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรหรือไม่ต้องรู้สึกอะไร เพราะเต้คิดแทนให้หมดแล้ว
โลกของฟานจะมีเพียงเต้คนเดียว ฟานจะถูกกีดกันออกจากคนอื่น
เป็นเหมือนตุ๊กตาที่เต้จับนั่ง จับยืน และต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต

งั้นแม่ภาก็เสียลูกไปทั้งสองคนเลย มิน่าถึงเสียใจมากจนออกปากไล่ฟานให้ไปตาย
แต่ว่าน่าจะหยุดคิดหน่อยนึงนะคะ ฟานยังเด็ก แค่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องขึ้นก็เสียใจมากพออยู่แล้ว
ยังมาเจอคำพูดนี้เข้าไปอีก ถ้าฟานทำร้ายตัวเองขึ้นมา เชื่อว่าแม่ภาก็คงไม่มีความสุขหรอกค่ะ

จบเรื่องนี้แล้วขอเรื่องใหม่ต่อเลยนะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-12-2012 23:33:20
ซีนอารมณ์ ..... อึ้งอะเม้นไม่ออก
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 5
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 25-12-2012 11:43:25
ตามอ่านทันแล้วคะ

-----------------------
หดหู่ดีแท้ ลองเราเป็นฟานหน่อย ก็คงสติแตกเหมือนกัน
 
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 25-12-2012 15:01:38
จะโทษมิ้นคนเดียวก็ไม่ถูกนะ ต้องโทษฟานเพราะฟานเป็นคนฆ่าเต้ให้ตายทั้งเป็นแถมฆ่าอย่างเลือดเย็นด้วย ทำเองเจ็บเองปวดใจเอง ตายเพราะสร้อยที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของฟานเอง ถ้ารักกันจริงคงไม่ยืนหนิ้งให้แฟนตายไปต่อน่าต่อตาหรอก ที่เป็นอยู่แค่รู้สึกผิดละมั้ง เฮ้อเสถือนใจอย่างแรง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -โอบอุ้ม- + -วิงวอน- .....หน้า 4 ค่ะ (24 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 26-12-2012 18:12:40

-บทลงโทษ-

“ถ้าการจากพรากสำหรับฟานเป็นทั้งหมดของทุกสิ่ง” ปรุงคลายอ้อมกอดช้าๆ “ฟานก็เล่ามาทั้งหมดแล้ว”
สองมือค่อยๆประคองผมทรุดนั่ง ทันเห็นซำหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง

“แต่ฟานไม่เคยบอกเลยสักครั้ง ว่าคิดอะไร”
ผมก้มหน้า สายตาเหลือบแล เต้ในรูปส่งยิ้มให้ผมที่กำลังจ่อมจมกับความทรงจำ พยายามคิดหาคำตอบให้ปรุง
เกลียวคลื่นคดโค้ง ม้วนตัวเข้ามาใกล้ กระแทกตัวแรงจนสะอึก เสียงซัดซ่ากลับไปกลับมาดังหนวกหู

เสียงตึง กระชากผมกลับ ไม่มีคลื่น
ผมส่งยิ้มให้ซำ เลื่อนสายตาจับจ้องที่มาของเสียงกระแทกเมื่อครู่
“รูปน่ะ ใส่กรอบแล้ว” ค่อยๆแกะห่อกระดาษ ทีละชั้นๆ เสียงแควกควากระคาย
ซำยกมาวางตั้งตรงหน้าผม “ของขวัญวันเกิดนะ”
ผมพยายามยินดี พยายามชื่นชม
แต่ทำไม่ได้

ในกรอบหนาหนักนั้น ผืนผ้าใบขาวโพลน คล้ายในหัวผมตอนนี้ ว่างเปล่า ทว่าหนักอึ้งเหลือเกิน





ผมตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า มนุษย์เราสามารถควบคุมประสาทรับรู้ทางเสียงได้เหมือนประสาทรับรู้อื่นๆของร่างกายหรือไม่

“อีฆาตกร” เสียงกระซิบแผ่วๆ เรียกผมให้เบือนหน้าหันไป
มองเห็นริมฝีปากอีกฝ่ายยกยิ้ม ค่อยโค้งสูงขึ้นๆจรดโหนกแก้ม
ผมสาวเท้าก้าวผ่านเร็วๆ


เราหลีกเลี่ยงการฟัง โดยไม่ฟังได้หรือเปล่า

“รีบๆตายเสียทีเถอะ” เสียงราบเรียบ ทว่าหนักแน่นดังมาจากด้านหลัง ผมหันกลับไปดูความว่างเปล่า


เหมือนที่เราไม่อยากมอง จึงเลือกที่จะปิดเปลือกตาลง

คนตรงหน้ากำลังหยิบยกมีดสนิมจับ บรรจงกรีดท้องแขนตัวเอง ย้ำหนักๆเพราะความทื่อของใบมีด


ผมลองสั่งตัวเอง ‘ไม่ฟัง’ แต่ทั้งๆอย่างนั้น เสียงก็ลอดเข้ามาให้ได้ยิน…



ผมยืนเคว้ง ท่ามกลางเสียงด่าทอรายรอบ บ้างกระซิบ บ้างตะโกน เหลือบเห็นเต้วอบแวบอยู่ปลายหางตา รีบวิ่งไปหา หากเอื้อมคว้าได้เพียงอากาศ ในอกโหวงคล้ายมีช่องกลวง

“ไหนสัญญาจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไง” ผมพึมพำแผ่วหวิว

มือคู่หนึ่งยื่นมาตรงหน้า มองเห็นชื่อผมบนนั้นชั่วแวบ เสียงเอะอะเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น ค่อยๆเอื้อมมือไปคว้า กลัวจะหายไปอีก ขาก้าวเข้าไปหา ทีละก้าวๆ

พลันรู้สึกถึงแรงดึงกระชากจากด้านหลัง มือคู่นั้นหายไปแล้ว
หันกลับไปมอง สบตากับปรุง สำนึกรู้ตอนนั้นเองว่า ผมกำลังหยุดยืนอยู่กลางถนน เสียงรถบีบแตรสนั่นแผดแก้วหู

ปรุงกอดคอผม กระซิบค่อยๆ “เราต้องไปทางนี้” ก่อนจะค่อยๆลากผมกลับไป หูผมแนบไปกับอกปรุง ได้ยินเสียงตึกตักดังระรัว





คืนนั้นผมฝันถึงเต้ ซ้ำๆ เดิมๆ
สุดปลายสะพานนั้น เต้พยายามบอกอะไรบางอย่างกับผม
ผมตะโกนกลับ “ไม่ได้ยินเลย”

เต้ยังคงพึมพำพูดอะไรบางอย่างต่อไป เสียงคลื่นดังกลบเสียงเต้เป็นจังหวะขาดๆหายๆ น่ารำคาญ
ผมตะโกนสุดแรง ตั้งใจบอกเต้ว่าผมยังคงไม่ได้ยิน หากเสียงที่หลุดออกมากลับเป็นเพียงเสียงลมหวีดหวิว

..ไม่ได้ยินจริงๆนะ...

แต่ทั้งๆอย่างนั้น ผมก็ยังตะโกน


เหนื่อยเหลือเกิน






ค่อยๆไต่บันไดเตียงลงมา พยายามให้เกิดเสียงน้อยที่สุด เบสนอนหลับไกลออกไป ส่วนปรุงลืมตามอง
เราออกมายืนพิงราวบันไดหนีไฟด้านหลังหอพัก ท่ามกลางความมืดนั้น แว่วเสียงสัตว์ร้องแผ่วโหยเป็นระยะ ผมยืนก้มหน้ามองลงไปเบื้องล่าง

“ปกติคนเค้าจะมองดาวกันนะ”  ปรุงเอ่ยลอยๆ
“มันติดน่ะ” ผมเลิกมอง หันมาหาปรุง “เวลาที่เห็นความมืด คิดว่ามันน่าจะมีอะไรในนั้น”
“แล้วเจออะไรหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้าช้าๆ “ยังไม่เจอ”

“หรือบางที มันอาจไม่มีอะไรตั้งแต่แรก” ปรุงยังคงพูดต่อไปช้าๆ
“แต่เพราะมีความหวัง มนุษย์ถึงยังมีชีวิตอยู่”

เสียงทอดถอนใจเบาๆ หากในภาวะสงัดเช่นนี้ คล้ายจะดังก้องสะท้านสะเทือน
“ความตายไม่ช่วยลบล้างความผิดหรอกนะ” 

ผมมองหน้าปรุง “แล้วโทษประหารจะมีไว้เพื่ออะไร”
“เตือนคนที่เหลือ ให้กลัว” มือปรุงยื่นมาประคองใบหน้าผม

“ส่วนฟาน ต้องมีชีวิตอยู่” ใบหน้าแนบชิด เสียงกระซิบริมหู

“เพื่อไม่ให้เต้ตายจากไปจริงๆ”






เดินกลับมาถึงหน้าห้อง เบสเปิดประตูผางออกมาโดยแรง สีหน้าเลิ่กลั่ก พอเห็นหน้าเราสองคน จึงค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้นคล้ายคนหมดแรง
“ตื่นมาไม่เจอ...” พูดได้แค่นี้เบสก็นิ่งไป
ผมรีบรุดเข้าไปหา “ขอโทษๆ กลัวผีแย่เลยสินะ”
ปรุงฉุดเบสให้ลุกขึ้น หัวเราะคิกคัก “ฉี่ราดหรือเปล่าเนี่ย”
เบสปัดมือปรุงออก ทำท่ากระฟัดกระเฟียดเดินเข้าห้องไป เดี๋ยวคงมีรายการง้อกันอีกยาว
ผมยิ้มมองภาพตรงหน้านิ่งนาน ถึงวันหนึ่งเราต่างต้องแยกย้ายจากกันไป

แต่วันนี้ผมยังมีคนเหล่านี้ข้างๆกาย





ผมปล่อยชีวิตผ่านไปแต่ละวัน อยู่กับเพื่อนที่รู้ใจ แต่ก็ไม่พร้อมรับใครใหม่ๆเข้ามา คงเพราะสำหรับผม การจากพรากเป็นเรื่องโหดร้ายที่สุด

ครั้งหนึ่ง ซำบอกรัก ผมปฏิเสธกลับไป
ซำหัวเราะ “รู้อยู่แล้วล่ะ”
สีหน้าซำในตอนนั้นเหมือนคล้ายคนโล่งใจและคล้ายจะร้องไห้ในคราวเดียวกัน
“คนในความทรงจำงดงามเสมอล่ะ” ปรุงพูดลอยๆกลางวงข้าว ‘เลี้ยงปลอบใจคนอกหัก’ ค่ำคืนนั้นเอง



ผมยังคงแว่วถ้อยเสียงบริภาษในบางขณะที่เผลอไผล และแม้บางครั้งจะเห็นภาพเงาอดีตเลือนรางควะคว้างอยู่เบื้องหน้า กระนั้นผมได้เพียงแต่มองนิ่งๆ ดื่มด่ำภาพเบื้องหน้า ซึมซับทุกสรรพเสียง ไม่คิดจะลืม ไม่คิดจะหลีกหนีอย่างที่เคย

ก้าวเดินผ่านวันและคืนอย่างช้าๆ เรียนรู้ที่จะรับบทลงโทษทั้งหมดมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต



ผมยังหายใจอยู่ ...



http://www.youtube.com/v/HD39PFOaf-s?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 26-12-2012 18:18:10
ทำใจแก้ไขอยู่นาน จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นจบแบบนี้

บางใครอาจผิดหวัง

อยากบอกว่าจริงๆแล้ว ตั้งใจให้ฟานตายตาม แต่ทำใจไม่ได้ เราก็รักฟานไม่น้อยไปกว่าเต้เลย

เสียงที่ขาดหาย ตั้งใจจะหมายถึงเต้ ความคุ้นชินที่อยู่ๆก็หายไป ไม่มีใครมากระซิบบอกว่าจะดูแลไปตลอดชีวิตอีกต่อไป

มันอาจจะห้วน สั้น ทื่อๆ ไปบ้าง ผิดความคาดหมายใครต่อใคร

คนเขียนอยากบอกขอโทษเป็นล้านๆครั้ง  :monkeysad:

ยังไงก็ตาม ขอบคุณที่ติดตามอ่าน + ให้กำลังใจมา ณ ที่นี้ค่ะ

ยังรักคนอ่านเหมือนเดิม  :L2:
 
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 26-12-2012 18:24:02
ประมาณว่า อารมณ์เรื่องสั้นเลย
ไว้จะติดตามผลงานนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 26-12-2012 18:39:21
เฮ้อ บอกไม่ถูกอะ แต่ก้อสมกับชื่อตอนอะนะ อยู่ทรมานกว่าตายอีกอะ

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 26-12-2012 18:53:21
ชอบจังตอนสุดท้าย ออกมาแบบนี้ดีที่สุดแล้ว ให้แง่คิดได้หลายอย่างเลย
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 26-12-2012 20:07:35
กำ... จบแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 26-12-2012 20:46:01
จบซะแล้ว เศร้าๆเนอะ แต่อย่างน้อยคนเขียนก้อยังให้ฟานได้คิดว่า รอบตัวฟานนั้นยังมีเพื่อนที่พร้อมจะรับฟังและดูแลฟานอยู่

แอบจิ้นปรุงกะเบส เบาๆ

จะรอติดตามผลงานเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 26-12-2012 20:49:12
ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ... เราทุกคนต้องก้าวเดินต่อไป
ช่วยมีชีวิตต่อไปด้วยนะฟาน 

ขอบคุณมากค่ะ...
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 26-12-2012 20:49:26
คือจะบอกว่า....จบห้วนไปนิดนึงนะครับ แต่โดยรวมถ่ายทอดคอนเซปต์ออกมาได้ดีครับ เข้าใจอารมณ์และเข้าใจฟีลลิ่งพอใช้ได้เลย เป็นเรื่องสั้นที่พูดถึงความพรากจากและการจากลาได้ดีระดับหนึ่ง โดยรวมถือว่าดีครับ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 26-12-2012 21:00:24
จบแบบงงๆนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 26-12-2012 21:01:08
จบแบบงงๆนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 26-12-2012 21:10:19
 :กอด1: ยังมีลมหายใจอยู่... เพราะอย่างนั้นถึงต้องก้าวเดินต่อไป... ถ้าให้ฟานตายตามก็เป็นเพียงเเค่การขจัดปัญหา

โดยการฆ่าทิ้ง... ฟานตาย เต้ก็ตาย การตายของเต้จะไม่เกิดผลอะไรเลย นอกจากแค่ทำให้คนที่เขารักรู้สึกผิด... เป็นตราบาป

และตายไปทั้งที่ยังถูกกล่าวหา ตายทั้งที่ยังไม่ได้แก้ไข... แต่ถ้าฟานอยู่ต่อ เต้ก็ยังอยู่... อย่างน้อยๆก็ยังมีชีวิตอยู่ในใจ

ใครบางคนที่เห็นความสำคัญของเขาเช่น ฟาน... ฟานมีชีวิต มีลมหายใจ ใช้ชีวิตอยู่ อาจเป็นการทดแทนการใช้ชีวิตที่เต้

ไม่ได้ใช้... เพราะเต้ยังมีตังตนอยู่ในใจฟาน สิ่งที่เต้พยายามบอกฟานมาจากปลายสะพานนั่น อาจจะอยากบอกให้ฟานก้าว

ไปต่อก็ได้ ในเมื่อเต้อยู่ที่ปลายสะพานแล้ว เวลาของเต้หยุดลงที่ตรงนั้น... เต้ก็ไม่ได้หายไปไหน วันหนึ่งเมื่อถึงเวลา

เดี๋ยวก็ได้เจอกันเอง... ขณะที่ฟานยังมีเวลาเดินต่อ ยังมีลมหายใจให้ไปต่อ ก็เเค่เดินต่อไปจนกว่าวันที่จะไปถึงจุดที่เต้ยืน

ไม่ได้จากไปไหน แค่หยุดอยู่ที่เดิมที่ฟานยังไปไม่ถึง... (เหมือนต่อเรื่องเลย... อิอิ แค่อยากจะคิดว่าสิ่งที่เต้อยากบอกเป็น

แบบนี้ คงให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับเต้ดี แม้จะดูรักแรงฝังใจ แต่เต้ก็เป็นคนอบอุ่นดูแลใส่ใจฟานนะ) :กอด1:

+1 ให้คนเขียนค่ะ... ขอบคุณสำหรับเรื่องของเต้เเละฟาน เรื่องของฟานเเละเพื่อนที่เเสนดีค่ะ...
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 26-12-2012 21:13:51
จชแบบเศร้าๆเหงาๆป่วง
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Lunatan ที่ 26-12-2012 21:41:17
เรื่องนี้เศร้าจังT T แต่เราก็ชอบมากเลยนะ
ไม่ใช่ชอบเพราะเหตุผลที่ว่าชอบเสพดราม่านะ
แต่เราชอบตรงที่เนื้อเรื่องมันบีบอารมณ์แต่ก็มีเหตุผล
ไม่ใช่ความบังเอิญแต่ทุกความรู้สึกของตัวละครมันมีที่มาที่ไป
ภาษาที่ใช้ก็ดีบรรยายให้น่าติดตามมากเพราะเหมือนมีปมซ่อนอยู่ในทุกๆตอน
ส่วนตอนจบเราว่ามันก็ดีแล้วล่ะการตายมันก็เป็นแค่การหนีปัญหาแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
การมีชีวิตต่อไปมันก็คือโทษที่ฟานต้องรับแล้วล่ะ ในเมื่อฟานได้เผชิญหน้ากับปัญหาแล้ว
สักวันคงจะเลิกเจ็บปวดไปเอง เพราะบางทีความผิดพลาดในอดีตก็เป็นเหตุผลในการที่ต้องมีชีวิตอยู่

เอิ้กกก...เราเวิ่นอะไรมาซะยาวเนี่ย555
ยังไงก็เอาใจช่วยคนเขียนน้า จะรอผลงานต่อไปอีกนะ
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-12-2012 22:32:16
คนที่จากไปก็จากไป คนที่อยู่ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: pixie ที่ 26-12-2012 23:47:13
ถึงเสียงเต้จะหายไป แต่เต้ก็ยังอยู่กับฟานในความทรงจำ ขึ้นอยู่กับว่าฟานจะจดจำเต้ด้วยความรู้สึกแบบไหน เหมือนเสียงพี่โจ้ที่ยังอยู่ในความทรงจำของเรา เพลงของพี่เค้ายังก้องอยู่ในหู เสียงสูงใสโปร่งที่ทรงพลัง  ( ร้องมาคำแรกก็จำได้แล้วค่ะ ) แม้เขาจะจากไปเป็นสิบปีแล้ว

แล้วสักวันจะไปหา ...

อินเกิน55 แต่หลังๆเหมือนจะนอกประเด็น ขอบคุณผู้เขียนมากนะคะ :)
ยังงงๆเรื่องแม่เต้ สรุปแม่เต้อยากให้ฟานตายเพราะแค้นที่เป็นต้นเหตุให้ลูกตัวเองตาย หรือเพราะรู้ว่าเต้อยากอยู่กับฟานตลอดชีวิตเลยให้ฟานตามไปอยู่ด้วยหว่า หรือคนเขียนเขาเฉลยไว้แล้วแต่เราอ่านข้ามเอง - -a
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 27-12-2012 00:08:25
เพิ่งได้เข้ามาอ่านก็ต่อถึงตอนจบซะแล้ว ช้าไปนิดไม่ว่ากันนะคะ 
ชอบที่บทสนทนาน้อยๆ ให้ความรู้สึกว่าฟานเป็นคนไม่ค่อยพูด
ชอบที่บทบรรยายเยอะหน่อย ให้ความรู้สึกว่าฟานมีอะไรใจเยอะพอสมควร
ชอบที่คุณเรียบเรียงประโยคได้เท่จัง อธิบายไม่ถูกว่าเท่อย่างไร
ชอบที่ความคลุมเครือในบรรยากาศเอื่อยๆของเรื่องทำให้เรื่องน่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ
ชอบจังค่ะ

หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 27-12-2012 02:01:56
โอยยยยย โหดร้ายเอามากๆ

T__________T///

:pig4:
:L2:
หัวข้อ: Re: เสียงที่ขาดหาย .... -บทลงโทษ- จบแล้วนะคะ .....หน้า 5 ค่ะ (26 ธ.ค. 55)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 27-12-2012 04:34:09
จบดีมากเลยค่ะ  :กอด1:
ถึงจะไม่แฮปปี้เอ็นด์   แต่มันรู้สึกดีมากกกกอ่ะค่ะ   o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 27-01-2013 23:06:56
เรื่องนี้ทำให้เราปวดตับมากเลย  เรื่องเมื่อก่อนอยากรู้พอรู้แล้ว :o11: จิตตกไปเลย
พอดีเราเป็นคนที่ไม่ชอบการเล่นน้ำทะเลอ่ะ เวลาเห็นคนอื่นเล่นยังกลัวเขาจะจมน้ำตาย เต้จากไปแบบนั้นอ่านแล้วอืม... จุดอ่อนฉันเลย

แถมจบแบบ...ทรมานจิตใจเราอีกตางหาก //ถ้าใจเราปล่อยวางแล้วทุกอย่างต่อจากนี้ไม่มีทางสวยงามหรอก
 :pig4: :pig4: :pig4: ทั้งนี้ขอขอบคุณนักเขียนมากๆ นะคะ เรื่องนี้แต่งดีมากเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_a_n ที่ 29-01-2013 03:34:38
 :sad4:เพิ่งเคยมาอ่านเศร้ามากเลยค่ะแต่ก้สนุกมาก สงสัยว่าฟานตั้งใจไม่ใส่สร้อยรึเปล่าแล้วแม่ภายังคิดอยากให้ฟานตายอยู่มั้ย ความจริงแล้วรู้สึกว่าฟานไม่ได้รักเต้อาจแค่เป็นคนเงียบๆ ส่วนปรุงเนี่ย..ทำไมถึงดูออกทุกอย่างเลยน้า แปลกใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: GinePoPo ที่ 29-01-2013 09:34:05
กลับมาตอบหลายๆความสงสัยค่ะ

ไม่นึกว่าจะมีคนอ่านอยู่ ขอบคุณหลายๆคนที่ชอบเรื่องนี้นะคะ

กับเรื่องของปรุง
ปูเรื่องไว้แต่ต้นว่าปรุงเรียนจิตวิทยา
ปรุงสนใจสีหน้าครั้งแรกของฟาน
ปรุงจับสังเกตของฟานเป็นระยะ
จริงๆแล้ว เพื่อนทั้งสามคนก็คอยดูแลฟานนั่นแหละค่ะ แต่ด้วยความต่าง
เบส ติดจะโผงผาง พูดทุกอย่าง แต่ไม่เคยตั้งคำถามเหมือนรอคอยให้ฟานพูดออกมาเอง
ซำที่รักฟาน แต่ความ'ติสท์ของเค้า  :laugh: ก็ใช้วิธีลากเข้าโลกส่วนตัวของเค้าเป็นระยะๆ

ส่วนปรุง คนเขียนชอบคาแรคเตอร์แบบนี้ค่ะ สารภาพไว้ว่าจริงๆอยากจับเป็นพระเอกผู้กอบกู้ฟาน
แต่ไม่ได้
ทั้งๆที่ปรุงพยายามศึกษาฟานมาตั้งแต่ต้น เวลาล้มก็ไม่เข้าไปประคองทันที แต่สอนให้ลุกขึ้นยืนเอง
พยายามสร้างแรงกดดันให้ฟานระเบิดออกมา (แม้จะโดนเกลียด โดนหลบหน้า)

เห็นไหม ปรุงน่ารัก

แต่เค้าขาด ความผูกพัน
ก็เลยมาแทนเต้ไม่ได้

กับคำพูดสุดท้ายที่ว่า "คนในความทรงจำงดงามเสมอ"

ไม่ได้แปลว่ายอมถอย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะขยับหน้าสานสัมพันธ์

ชอบความไม่ชัดเจน แล้วก็อยากให้จิ้นบรรเจิด
ตอนจบของคนอ่านทุกคน จะได้ไม่ซ้ำกัน

เรื่องแม่ภา ตั้งใจละเอาไว้ให้คิด อาจไปฟื้นฟูจิตใจ หรืออาจย้ายบ้านหนีไปชั่วคราว
หรืออะไรก็ตาม แต่เค้ากลับมาแล้ว

ตั้งใจเขียนผ่านมุมมองของฟาน จึงมีแต่เฉพาะเรื่องที่ฟานรู้จริงๆ หรือใส่ใจๆจริงๆค่ะ

เรื่องใหม่ ตกไปหน้าไหนแล้วก็ไม่ทราบ มีพล็อตเล็กๆในหัว รองานซาๆแล้วจะมาต่อนะคะ
หากมีคนติดตาม ก็ยินดีค่ะ

รักทุกคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bluebird ที่ 12-04-2013 02:05:04
โอ้ ประทับใจมากๆเลยค่ะ
เป็นความเศร้าที่อ่านจบแล้วก็ยังรู้สึกวูบๆโหวงๆอยู่เลย
กลัวใจฟานมาก ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย กลัวจะทำอะไรไม่ดีกับตัวเอง
ดีใจที่ตอนจบเป็นแบบนั้นนะ ดีใจที่ยังหายใจอยู่
ต้องขอบคุณเพื่อนทั้งสามคน ฟานโชคดีมากที่ได้เจอ
สงสารเต้ และสงสารฟานไปด้วยพร้อมๆกัน

รอคอยเรื่องต่อไปของคนเขียนนะคะ : ))
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 12-04-2013 03:09:49
เขียน​ได้​ดีมากๆค่ะ เสียดาย​ที่เต้ตาย​ ชอบพระเอก​แบบเต้น่ะค่ะ​ รอติดตาม​ผลงาน​เรื่อง​ต่อไป​นะ​คะ​
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 12-04-2013 03:34:10
ชอบครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KawaYuuMI ที่ 12-04-2013 20:41:50
"ผมยังหายใจอยู่...." ยังหายใจเพื่ออะไร ฟานคงเข้าใจแล้ว... สินะ... ยังหายใจ เพื่อดำรงชีวิตในส่วนของเต้และตัวเอง อยู่... เพื่อใช้ใจดวงนี้มองผ่านและจดจำในสิ่งที่เต้ไม่มีโอกาส อยู่...เพื่อที่จะรัก... ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดแสนสาหัส อดีต ก็เป็นได้แค่ความทรงจำ ที่เราเลือก ที่จะ 'จำ' 'เก็บซ่อน' หรือ 'โยนมันทิ้ง' เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาดีมากๆ ยอมรับเลยว่า อ่านแล้วจุกมาก อธิบายมาเป็นคำพุดไม่ออกเลย เสียงที่ขาดหาย อืม... เข้าใจแล้ว คือสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน แล้วจู่ๆมันก็หายไป...
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 15-04-2013 04:30:02
เฮ่อ เป็นเรื่องเครียดทางอารมณ์อีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 15-04-2013 13:02:57
คุณคนแต่งมีวิธีการเขียนเรื่องได้น่าสนใจมากค่ะ

อ่านไปได้ 2-3 ตอนแรก ก็ทำให้รู้สึกอยากอ่านต่อ

ตัวละครน่าสนใจทุกตัวเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้กับงานชิ้นต่อ ๆ ไปนะคะ

ป.ล. แอบน้ำตารื้นตอนที่ปรุงบอกว่า “คนในความทรงจำงดงามเสมอ"  :monkeysad:
(แอบคิดถึงคนในความทรงจำของตัวเอง 55555+ T^T)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 15-04-2013 13:40:46
อ่านแล้วหน่วงหนักในหัวใจมาก



ชอบนะเรื่องนี้


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 15-04-2013 15:06:32
อ่าาา ตอนจบแอบหวังเล็กๆว่า เต้จะกลับชาติมาเกิด
เพื่อเป็นเหตุผลว่าทำไมฟานถึงกลับมาฝันถึงเต้บ่อยๆ *0* #ฝันนั้นงดงามเสมอ #พาดพิง 555555555
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ ^^

#ไม่ทราบว่าคนเขียนเรียนมนุษย์จิต เหรอคะ? #พอดีก็แอบอยากเรียนเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-04-2013 17:38:09
จบเศร้าแต่เราโอเคนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 17-04-2013 21:08:53
บีบหัวใจจัง ร้องไห้เลย ชอบมากๆ เต้ไม่น่าตายเลยเนาะ TT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: สตางค์ ที่ 24-04-2013 19:34:49
โอเค...อ่านจบแล้ว...
เอิ่ม ต้องขอโทษนะคะที่เมนท์รวดรอบเดียว(มาเจอในห้องนิยายจบแล้ว)
ก่อนอื่นต้องบอกว่าไม่ผิดหวังที่ได้อ่านเรื่องนี้
โทนเรื่องถึงจะสีหม่นไปนิดตามธีมของฟาน(ผู้ซึ่งรู้สึกว่า
ตัวเองมีตราบาปและแบกรับเอาไว้) มันกัดกินใจให้จิ้นในด้านมืดแต่มันก็เพลิดเพลินมากค่ะ #####

สารภาพตามลำดับ: ที่จิ้นตามคือฟานมีปมในอดีต ซำคือคนที่ขุดอดีต(เต้) กลับมา ฟานมักเอาซำมาซ้อนทับกับเต้แต่รอยทับของเงากลับไม่สนิทแนบ(ดูจากการซ้อนท้ายจักรยาน) คนต่อมาปรุง(อร๊ายยยยยย ขอกรีดร้อง อิฉันเป็นแฟนคลับอิตานี่อย่างไม่รู้ตัว) ปรุงใส่เฝือกกลายเป็นกระตุ้นฟานให้นึกถึงเต้ (สารภาพ ตอนแรกอิฉันคิดว่ามันกะรวบทั้งซำและน้องฟาน 555+ยิ่งฉากบ้านร้างยิ่งกลัวเอ๊ะ หรืออินี่จะหลอกน้องมารุมโทรม แต่ตอนหลังพ่อคุณเอ๊ย แมนมั่กๆ) หลังจากเห็นปรุงในด้าน(โรลเลอร์เบลด) มันทำให้คิดขึ้นมาได้  เอ๊ อิปรุงนี่มีคำว่าจิตวิทยามาแพลมๆ นา ส่วนเบส เป็นเพื่อนที่ดีที่พร้อมจะรับฟังแต่จะไม่ก้าวเข้าไปหากเจ้าของเขาไม่เปิดประตูเชิญ  ในเรื่องของเต้(ตัวละครในอดีตแต่ปมเยอะกว่าตัวละครปัจจุบัน) ตอนแรกเดาไว้ว่าเต้คงตายแล้วเพราะเสียงที่ขาดหายไปคงเป็นเสียงของเต้  และสิ่งที่เต้กระซิบให้ฟานเขียนคงไม่พ้นคำว่า'รัก' เพราะที่เฝือกมีตัวใหญ่บะเอ้งซะขนาด เต้ยึดฟานเป็นของตัวเองน่าจะตั้งแต่ที่แม่บอกว่าให้ดูแลฟาน ทุกอย่างในชีวิตเต้มีแต่ฟานจนกลายเป็นความหลงใหล ยึดติด และครอบครอง  ในขณะที่ฟานไม่ได้รักเต้ในเชิงชู้สาวแต่ที่ทำเพราะแค้นสาวที่เคยชอบ(เป็นส่วนใหญ่)และกังวลอาการทางจิตของเต้(เหมือนเลี้ยงไข้ รักษาให้หายขาดไม่ได้) ##สารภาพว่าเดาการตายของเต้ผิด 555+  ตอนแรกที่เดาคือเต้อาจจะเป็นโรคอะไรซักอย่างหรือตายแบบจิตๆต่อหน้าฟานเพราะฟานตีตัวออกห่าง ก่อนตายก็พูดจิต'ดูนะฟาน ดูเลือดของเต้สิ มันไหลเพราะฟาน เต้รักฟาน อย่าลืม  อย่าลืมเต้'ตายด้วยรอยยิ้มหลอนๆไรงี้ 555+ อุฟฟฟฟฟฟ แต่เต้จมน้ำตายเพราะควานหาสร้อยที่ไม่เคยหล่นที่ไหน  ####อยากจะคิดที่ฟานฝันเห็นเต้ที่ปลายสะพาน เพราะอยากให้เต้พูดคำว่ายกโทษให้หรือเปล่าแต่เสียงนั้นกลับขาดหายไปเพราะฟานไม่เคยยกโทษให้ตัวเอง และที่แม่ภาบอกให้ตายไปน่ะคือเงาเต้ในตัวฟานใช่ไหม#####

ขอโทษที่เวิ่นเสียเยอะแยะนะคะ แต่แบบว่ามันอดไม่ไหวจริงๆค่ะ :) ชอบเรื่องที่คุณเขียนนะคะ ขอบคุณค่ะ:)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-04-2013 23:29:16
เป็นเรื่องสั้นที่น่าประทับใจจริงๆค่ะ ชอบมากๆเลย มันบีบหัวใจดีเหลือเกิน (คนอ่านเป็นสาย M เข้าขั้นเลยฮ่ะ  :mew4:)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TiTeE ที่ 20-05-2013 20:05:21
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 21-05-2013 15:43:58
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกค่าา :katai5:

อ่านแล้วอึมครึมเลยนะค่ะ
ทุกประโนคที่ตัวละครพูดมีนัยแฝงอยู่ตลอด
เหมือนให้คิดว่าอะไรที่หายไป
ดูชื่อเรื่องแล้วพยายามคิดว่าคืออะไรฮาาา
สงสารฟานมากอันนี้ตรงๆ เหมือนจมอยู่กับอดีต คล้ายๆโรคซึมเศร้ารึเปล่าไม่แน่ใจ?
ชอบเรื่องนี้นะค่ะ คว่มรักไม่จำเป็นต้องจบด้วยแฮปปี้เอ็นดิ้งเสมอไปเนอะ:)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: penda ที่ 22-05-2013 03:29:32
อืม...ไม่รุ้จะเริ่มยังไง เริ่มที่สนใจเข้ามาอ่านแล้วกัน
เข้ามาอ่านเพราะรุ้สึกว่าชื่อเรื่องน่าสนใจดี แต่ดูจากชื่อเรื่องก็พอจะเดาแนวเรื่องออกว่าต้องดราม่าแน่ๆ
ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจหาเรื่องสั้นแนวสดใสๆเฮฮาๆอ่านแท้ๆ แต่พอเห็นชื่อเรื่องนี้ก็ดันสนใจขึ้นมา
ตอนแรกตัดใจจะไม่เข้ามาอ่านแล้วนะ แต่เลื่อนหาเรื่องอื่นไปมาชื่อเรื่องนี้ก็ผ่านตาตลอด
มันเลยคาใจ สุดท้ายก็ข้ามาอ่านจนได้ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แนวดราม่าจริงๆด้วย
ทั้งๆที่ไม่ชอบแนวนี้ แต่ก็รุ้สึกว่าน่าติดตาม เพราะเรื่องค่อยๆเล่าเฉลยปมออกมาทีละนิดๆ
ทั้งๆที่รุ้สึกอึดอัด เวลาอ่านแล้วมีปมให้สงสัย แต่มันก็เป็นเสน่ห์ให้น่าติดตาม

จากที่เราอ่าน จากที่เรารุ้สึกไม่รุ้ว่าจะตรงใจที่คนเขียนต้องการจะสื่อไหม
ก่อนอื่นเลยคือรุ้สึกว่าฟานไม่ผิด ทำไมตัวฟาน และทุกคนจะต้องว่าฟานผิด
โดยเฉพาะชื่อตอน ตอนสุดท้าย"บทลงโทษ"ที่เหมือนย้ำว่าฟานรุ้สึกผิดมากแค่ไหน
การที่ฟานลืม ว่าถอดสร้อยใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วคิดว่าทำหาย ไม่ใช่ความผิดซักหน่อย
คนที่ครหาฟานว่าผิด เพราะสูญเสียคนที่รักไป ก็เข้าใจว่าเสียใจ แล้วคิดไหมว่าฟานก็เสียใจเหมือนกัน
การที่ตราหน้าครหาฟานแบบนั้น คิดบ้างไหมว่าคุณได้ทำลายจิตใจคนอีกคนให้ตายลงไปอีกคนด้วย
ไม่เข้าใจสังคม ว่าทำไมถึงเป็นแบบนีั้น

เรามองว่าความรักของเต้คือการครอบครอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับฟาน
เหมือนจะเป็นการเห็นแก่ตัว แต่เราก็คิดว่าเป็นความรักที่บริสุทธฺ์
ส่วนความรักของฟานที่มีต่อเต้ ไม่ได้เริ่มจากรัก แต่เริ่มที่ความผูกพันธ์
ผูกพันธ์จนกลายป็นความรัก ผูกพันธ์จนแยกไม่ออกว่าเป็นความรักหรือแค่ความผูกพันธ์กันแน่
แต่ที่แน่ๆ คือ การมีเต้อยู่ข้างๆคือชีวิตของฟาน ไม่ใช่ขาดแล้วอยุ่ไม่ได้ แต่ขาดแล้วอยุ่ได้ลำบาก
เพราะเต้คือคนแสนดีที่คอนตามใจ เอาใจฟานตลอด แม้บางครั้งจะงอน จะขัดใจ น้อยใจกันบ้าง
แต่เต้จะไม่ทิ้งฟานไปไหนแน่ เต้จึงเป็นความทรงจำที่แสนดีสำหรับฟานเสมอ

เรามองว่าความรักของเต้ ทำร้ายฟาน และย้อนกลับมาทำร้ายตัวเต้เอง
เต้ยึดติดกับฟานมากไป ประกอบกับการไม่พูดกันให้เข้าใจ
ทำให้ฟานเริ่มไม่มีเพื่อน เมื่อฟานไม่มีเพื่อนก็เริ่มซึม แล้วคนที่เสียใจก็คือเต้
จนกลายเป็นการทำร้ายกันเอง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
เรายังติดใจเรื่องที่เต้ตกอัฒจรรย์อยู่เลย ว่าเต้จงใจให้เป็นอย่างนั้นรึเปล่า
ไม่ได้หมายความว่าเต้ ตั้งใจกลิ้งตกลงมาเอง แต่คิดว่าเต้รุ้ตัวว่าจะตกลงมา
แต่ไม่ป้องกันอะไรเลย ปล่อยให้ตัวเองตกลงมาทั้งๆอย่างนั้น รึเปล่า
เพราะฟานเล่าว่า "ยังจำ "รอยยิ้ม" ของเต้ตอนตกลงมาได้" ทำไมเต้ถึงยิ้ม
เลยพาลทำให้คิดว่า เต้อยากครอบครองฟานไว้คนเดียวจนพยายามกันเพื่อนๆออกจากฟานรึเปล่า
แต่ณ จุดนี้เราอาจจะคิดมากไปเอง เพราะมันเป็นจุดเล็กๆน้อยๆ ไม่รุ้ว่าคนเขียนตั้งใจสื่อความหมายอะไรไหม

ตอนจบ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ชอบการจบแบบให้ไปคิดต่อเอาเองแบบนี้
เพราะอ่านแล้วรุ้สึกขัดใจ เหมือนอ่านไม่จบ แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร เพราะเข้าใจคนเขียน
ต่างคน ต่างความคิด ต่างรสนิยมความชอบ
ตามจริงอยากให้จบแบบแฮปปี้เอนด์ คือให้ฟานมีคู่ มีรักครั้งใหม่
แต่อีกใจก็รุ้สึกว่าด้วยเนื้อเรื่องแล้วฟานยังไม่พร้อม ถ้าจะจบแบบนั้นคงต้องใช้เวลา
และต้องต่อเรื่องให้ยาวไปอีก พอสมควรเลย เพราะรักครั้งเก่าเป็นความทรงจำที่ดี
และการจบแบบตายจาก นั้นยากที่จะลืมเลือน จนยากที่จะมีรักใหม่ได้ในเร็ววัน
แล้วรุ้สึกดีใจที่ไม่ให้ฟานตายตามไปด้วย เพราะเห็นมีบอกไว้ว่าตอนแรกจะให้ฟานตายตาม
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันจะเป็นตัวอย่างให้คนที่ผิดหวังในความรักให้คิดสั้นได้
และเรื่องนี้คงจะเศร้าเกินไป จนเป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำ เพราะทำให้หดหู่
ดีใจที่จบแบบให้ฟานเริ่มคิดได้ และเริ่มกลับมาพยายามใช้ชิวิตปกติ โดยมีเพื่อนๆที่แสนดีคอยช่วยประคอง
เป็นตัวอย่างให้คนที่ผิดหวังในความรัก หรือมีเรื่องท้อใจ ให้ลุกขึ้นเดินต่อได้อีกครั้งด้วย
(อ่านแล้วรุ้สึกรักในตัวละครเพื่อนๆทั้งสามของฟานมาก ในตอนสุดท้าย ที่ฟานบอกว่าได้ใช้ชีวิตต่อไปกับเพื่อนๆ)

โดยส่วนตัว รุ้สึกว่าการเขียนเรื่อที่มีการผูกปม แล้วค่อยๆคลายปมเฉลยที่ละนิดแบบนี้
บวกกับแนวเรื่องดราม่าอึมครึมแบบนี้ เป็นเนวเรืองที่เขียนได้ยากมาก
แต่คนเขียนก็เขียนออกมาได้ดี และน่าติดตาม รวมถึงมีจุดยืนที่จบเรื่องตามแบบที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ไม่ว็อกแว็กสับสน ไปกับคอมเมนต์จนเปลี่ยนพล็อตตัวเอง เพราะเราชอบที่จะอ่านเรื่องที่คนเขียน
ตั้งใจจะถ่ายทอดให้ มากกว่าเรื่องที่คนเขียนๆตามใจคนอ่าน
การถ่ายทอดตัวตนของตัวละครดีมาก ทำให้รุ้สึกถึงความเป็นตัวตนของแต่ละตัวละครได้เลย

ชอบตัวละครปรุง เพราะเป็นคนที่บางที่ดูเหมือนจะเล่นๆ เหมือนเด็กเฮฮาๆไปวันๆ
แต่จริงๆแล้วกลับมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่สูงมาก อาจเป็นเพราะเรียนจิตวิทยาด้วย

สุดท้ายคือไม่รุ้สึกผิดหวังที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะ แม้เรื่องจะอึมครึมมาตลอดเรื่อง
จนอ่านมาถึงตอนสุดท้าย ก็ทำให้ฝนก็ตกลงมาจนได้ (เราร้องให้เองหล่ะ)
แต่ก็เป็นเรื่องที่ประทับใจเรื่องนึงเลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนสร้างสรรค์ผลงานด๊ๆออกมาอีกนะ
ปล. ขอโทษที่เมนต์ยาวไปหน่อย แต่อยากจะพยายามบอกทุกประเด็นความคิด ความรุ้สึกของตัวเอง
ที่มีต่อ "เสียงที่ขาดหาย "  ให้คนเขียนได้อ่าน ไม่รุ้จะเบื่อไปก่อนอ่านจบไหม
(ไม่แน่ใจว่าครบทุกประเด็นไหม เพราะอ่านในโทรศัพท์แล้วย้ายมาเมนต์ในคอม แต่แค่นี้ก็ยาวมากไปแล้ว)
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 25-06-2014 20:47:18
กำลังสงสัยตัวเองว่าเราเข้ามาเจอเรื่องนี้ได้ยังไง หน่วงๆนี่มันแนวโปรดเราเลย เขียนดีมากจริงๆคะ เราสงสารฟานอ่ะ แอบเชียร์ให้ปรุงทลายกำแพงในหัวใจน้องได้สำเร็จ แต่ถึงไม่ได้คู่กันก็ไม่เป็นไรแค่น้องฟานมีชีวิตอยู่ต่อไปเราก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 04-07-2014 00:53:57
ขอบคุณมากๆนะครับ
อ่านแล้ว เครียด อึดอัดสุดๆ
T__________T///
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-01-2015 22:49:09
อ่านแล้วให้ความรู้สึกแปลก จิตตก มึน งง เศร้า

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ ที่ 23-08-2016 01:59:45
เห้อออออออ นิยายหน่วงๆแบบนี้แหละเราชอบ แต่บางทีมันก็นะทำใจไม่ค่อยได้  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 23-08-2016 08:29:48
โอ้ยยย น้ำตานี่หยดแหมะเลยค่ะ
คนแต่งแต่งดีมากชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-08-2016 14:41:21
อ่านตอนแรกๆเห็นกล่าวย้อนหาเต้ก็คิดๆนะว่าทำไม อาจเพราะเต้ตายอ่ะป่าว ไม่คิดว่าจะเดาถูกอ่ะ
จบเศร้าๆ

แต่ชีวิตต้องเดินต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 03-04-2019 20:22:28
อ่านจบแล้วเรารู้สึกขอบคุณคนเขียนมากเลยค่ะที่ให้ฟานได้มาเจอกับซำ ปรุง เบส คิดไม่ออกเลยถ้าหากฟานไม่เจอเพื่อนดีๆแบบนี้น้องจะให้อภัยตัวเองได้ตอนไหน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]เสียงที่ขาดหาย -บทลงโทษ- จบแล้ว ย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-08-2021 11:42:45
 o13