อืม...ไม่รุ้จะเริ่มยังไง เริ่มที่สนใจเข้ามาอ่านแล้วกัน
เข้ามาอ่านเพราะรุ้สึกว่าชื่อเรื่องน่าสนใจดี แต่ดูจากชื่อเรื่องก็พอจะเดาแนวเรื่องออกว่าต้องดราม่าแน่ๆ
ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจหาเรื่องสั้นแนวสดใสๆเฮฮาๆอ่านแท้ๆ แต่พอเห็นชื่อเรื่องนี้ก็ดันสนใจขึ้นมา
ตอนแรกตัดใจจะไม่เข้ามาอ่านแล้วนะ แต่เลื่อนหาเรื่องอื่นไปมาชื่อเรื่องนี้ก็ผ่านตาตลอด
มันเลยคาใจ สุดท้ายก็ข้ามาอ่านจนได้ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แนวดราม่าจริงๆด้วย
ทั้งๆที่ไม่ชอบแนวนี้ แต่ก็รุ้สึกว่าน่าติดตาม เพราะเรื่องค่อยๆเล่าเฉลยปมออกมาทีละนิดๆ
ทั้งๆที่รุ้สึกอึดอัด เวลาอ่านแล้วมีปมให้สงสัย แต่มันก็เป็นเสน่ห์ให้น่าติดตาม
จากที่เราอ่าน จากที่เรารุ้สึกไม่รุ้ว่าจะตรงใจที่คนเขียนต้องการจะสื่อไหม
ก่อนอื่นเลยคือรุ้สึกว่าฟานไม่ผิด ทำไมตัวฟาน และทุกคนจะต้องว่าฟานผิด
โดยเฉพาะชื่อตอน ตอนสุดท้าย"บทลงโทษ"ที่เหมือนย้ำว่าฟานรุ้สึกผิดมากแค่ไหน
การที่ฟานลืม ว่าถอดสร้อยใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วคิดว่าทำหาย ไม่ใช่ความผิดซักหน่อย
คนที่ครหาฟานว่าผิด เพราะสูญเสียคนที่รักไป ก็เข้าใจว่าเสียใจ แล้วคิดไหมว่าฟานก็เสียใจเหมือนกัน
การที่ตราหน้าครหาฟานแบบนั้น คิดบ้างไหมว่าคุณได้ทำลายจิตใจคนอีกคนให้ตายลงไปอีกคนด้วย
ไม่เข้าใจสังคม ว่าทำไมถึงเป็นแบบนีั้น
เรามองว่าความรักของเต้คือการครอบครอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับฟาน
เหมือนจะเป็นการเห็นแก่ตัว แต่เราก็คิดว่าเป็นความรักที่บริสุทธฺ์
ส่วนความรักของฟานที่มีต่อเต้ ไม่ได้เริ่มจากรัก แต่เริ่มที่ความผูกพันธ์
ผูกพันธ์จนกลายป็นความรัก ผูกพันธ์จนแยกไม่ออกว่าเป็นความรักหรือแค่ความผูกพันธ์กันแน่
แต่ที่แน่ๆ คือ การมีเต้อยู่ข้างๆคือชีวิตของฟาน ไม่ใช่ขาดแล้วอยุ่ไม่ได้ แต่ขาดแล้วอยุ่ได้ลำบาก
เพราะเต้คือคนแสนดีที่คอนตามใจ เอาใจฟานตลอด แม้บางครั้งจะงอน จะขัดใจ น้อยใจกันบ้าง
แต่เต้จะไม่ทิ้งฟานไปไหนแน่ เต้จึงเป็นความทรงจำที่แสนดีสำหรับฟานเสมอ
เรามองว่าความรักของเต้ ทำร้ายฟาน และย้อนกลับมาทำร้ายตัวเต้เอง
เต้ยึดติดกับฟานมากไป ประกอบกับการไม่พูดกันให้เข้าใจ
ทำให้ฟานเริ่มไม่มีเพื่อน เมื่อฟานไม่มีเพื่อนก็เริ่มซึม แล้วคนที่เสียใจก็คือเต้
จนกลายเป็นการทำร้ายกันเอง โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
เรายังติดใจเรื่องที่เต้ตกอัฒจรรย์อยู่เลย ว่าเต้จงใจให้เป็นอย่างนั้นรึเปล่า
ไม่ได้หมายความว่าเต้ ตั้งใจกลิ้งตกลงมาเอง แต่คิดว่าเต้รุ้ตัวว่าจะตกลงมา
แต่ไม่ป้องกันอะไรเลย ปล่อยให้ตัวเองตกลงมาทั้งๆอย่างนั้น รึเปล่า
เพราะฟานเล่าว่า "ยังจำ "รอยยิ้ม" ของเต้ตอนตกลงมาได้" ทำไมเต้ถึงยิ้ม
เลยพาลทำให้คิดว่า เต้อยากครอบครองฟานไว้คนเดียวจนพยายามกันเพื่อนๆออกจากฟานรึเปล่า
แต่ณ จุดนี้เราอาจจะคิดมากไปเอง เพราะมันเป็นจุดเล็กๆน้อยๆ ไม่รุ้ว่าคนเขียนตั้งใจสื่อความหมายอะไรไหม
ตอนจบ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ชอบการจบแบบให้ไปคิดต่อเอาเองแบบนี้
เพราะอ่านแล้วรุ้สึกขัดใจ เหมือนอ่านไม่จบ แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร เพราะเข้าใจคนเขียน
ต่างคน ต่างความคิด ต่างรสนิยมความชอบ
ตามจริงอยากให้จบแบบแฮปปี้เอนด์ คือให้ฟานมีคู่ มีรักครั้งใหม่
แต่อีกใจก็รุ้สึกว่าด้วยเนื้อเรื่องแล้วฟานยังไม่พร้อม ถ้าจะจบแบบนั้นคงต้องใช้เวลา
และต้องต่อเรื่องให้ยาวไปอีก พอสมควรเลย เพราะรักครั้งเก่าเป็นความทรงจำที่ดี
และการจบแบบตายจาก นั้นยากที่จะลืมเลือน จนยากที่จะมีรักใหม่ได้ในเร็ววัน
แล้วรุ้สึกดีใจที่ไม่ให้ฟานตายตามไปด้วย เพราะเห็นมีบอกไว้ว่าตอนแรกจะให้ฟานตายตาม
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันจะเป็นตัวอย่างให้คนที่ผิดหวังในความรักให้คิดสั้นได้
และเรื่องนี้คงจะเศร้าเกินไป จนเป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำ เพราะทำให้หดหู่
ดีใจที่จบแบบให้ฟานเริ่มคิดได้ และเริ่มกลับมาพยายามใช้ชิวิตปกติ โดยมีเพื่อนๆที่แสนดีคอยช่วยประคอง
เป็นตัวอย่างให้คนที่ผิดหวังในความรัก หรือมีเรื่องท้อใจ ให้ลุกขึ้นเดินต่อได้อีกครั้งด้วย
(อ่านแล้วรุ้สึกรักในตัวละครเพื่อนๆทั้งสามของฟานมาก ในตอนสุดท้าย ที่ฟานบอกว่าได้ใช้ชีวิตต่อไปกับเพื่อนๆ)
โดยส่วนตัว รุ้สึกว่าการเขียนเรื่อที่มีการผูกปม แล้วค่อยๆคลายปมเฉลยที่ละนิดแบบนี้
บวกกับแนวเรื่องดราม่าอึมครึมแบบนี้ เป็นเนวเรืองที่เขียนได้ยากมาก
แต่คนเขียนก็เขียนออกมาได้ดี และน่าติดตาม รวมถึงมีจุดยืนที่จบเรื่องตามแบบที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ไม่ว็อกแว็กสับสน ไปกับคอมเมนต์จนเปลี่ยนพล็อตตัวเอง เพราะเราชอบที่จะอ่านเรื่องที่คนเขียน
ตั้งใจจะถ่ายทอดให้ มากกว่าเรื่องที่คนเขียนๆตามใจคนอ่าน
การถ่ายทอดตัวตนของตัวละครดีมาก ทำให้รุ้สึกถึงความเป็นตัวตนของแต่ละตัวละครได้เลย
ชอบตัวละครปรุง เพราะเป็นคนที่บางที่ดูเหมือนจะเล่นๆ เหมือนเด็กเฮฮาๆไปวันๆ
แต่จริงๆแล้วกลับมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่สูงมาก อาจเป็นเพราะเรียนจิตวิทยาด้วย
สุดท้ายคือไม่รุ้สึกผิดหวังที่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะ แม้เรื่องจะอึมครึมมาตลอดเรื่อง
จนอ่านมาถึงตอนสุดท้าย ก็ทำให้ฝนก็ตกลงมาจนได้ (เราร้องให้เองหล่ะ)
แต่ก็เป็นเรื่องที่ประทับใจเรื่องนึงเลย เป็นกำลังใจให้คนเขียนสร้างสรรค์ผลงานด๊ๆออกมาอีกนะ
ปล. ขอโทษที่เมนต์ยาวไปหน่อย แต่อยากจะพยายามบอกทุกประเด็นความคิด ความรุ้สึกของตัวเอง
ที่มีต่อ "เสียงที่ขาดหาย " ให้คนเขียนได้อ่าน ไม่รุ้จะเบื่อไปก่อนอ่านจบไหม
(ไม่แน่ใจว่าครบทุกประเด็นไหม เพราะอ่านในโทรศัพท์แล้วย้ายมาเมนต์ในคอม แต่แค่นี้ก็ยาวมากไปแล้ว)
