Brothers
Chapter 8- The Complicatedness
ปลายนิ้วผอมลูบริมฝีปากตัวเองไปมา เสือขมวดคิ้วมุ่น หวนคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองสามวันที่แล้ว ตุลา..ผู้ชายคนนั้นกล้าดีเหลือเกิน กล้าทำแบบนั้นกับเขาได้อย่างไร ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดหัวใจนัก หากแต่เขาทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อทุกวันนี้อีกฝ่ายกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านแล้ว
เพราะเมษา..บอกว่ามาได้ทุกวันก็ดี ตุลย์เลยสนองให้ ส่วนเขากลายเป็นคนอึดอัดใจแทน
“หายป่วยแล้วหรือครับ” เสือสะดุ้ง เขาเหลือบมองกระจก เห็นตุลายืนพิงบานพับด้วยท่าทีสบาย
“หายนานแล้ว!” แก้มขาวขึ้นสีแดงเรื่อ เมื่อคิดถึงตอนที่ริมฝีปากถากกันเบาๆ หากแต่มันสั่นสะท้านไปทั้งหัวใจของเสือ เขาพยายามคิดว่าตัวเองไม่เคยถูกกระทำแบบนี้มากกว่าคิดว่าตุลาทำให้เขาหวั่นไหว
“ผมเห็นคุณมาเข้าห้องน้ำนาน คิดว่าเป็นลมในห้องน้ำเสียอีก”
เสือหน้าเสีย ตุลาพูดเหมือนเขาเป็นพวกเด็กขี้โรค ป่วยออดๆแอดๆแบบนั้นแหละ ร่างผอมหันหลังกลับ พลางถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด “ผมสบายดี แล้วก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนที่คุณกล่าวหา”
ตุลายิ้มน้อยๆ นึกเอ็นดูเสือ บางมุมก็เป็นเด็กเอาแต่ใจดี บางมุมก็เงียบขรึมราวกับในหัวมีอะไรให้คิดมากมาย และบางครั้งสีหน้าเจ้าตัวก็บอกอะไรได้หลายๆอย่าง
นับตั้งแต่นั้นมา เสือก็ตั้งใจทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะไม่อยากอยู่ใกล้ตุลา แม้ว่าโต๊ะทำงานจะห่างกันพอให้หันหลังหลับหน้าได้ แต่เขารู้สึกได้ว่ามีคนจ้องกลับมาตลอด เวลาทานข้าว เสือจะทานก่อนหรือหลังอีกฝ่ายหนึ่งชั่วโมง เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าอันแสนน่าเบื่อ
ทว่ามันก็แค่ในที่ทำงานเท่านั้น กลับมาบ้านเมื่อไหร่เสือต้องเจอรถตุลาจอดไว้ข้างๆเหมือนเคย แม้ว่าเขาจะแวะเที่ยงห้าง ซื้อของนานแค่ไหน กลับมาก็ยังเห็น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มันดึกเสียจนตุลาร้องขอคุณน้าว่าอยากนอนที่บ้านด้วย แน่นอนตุลานอนกับเด็กเมษา
ปลายนิ้วผอมยกขึ้นกดโทรศัพท์หานิคกี้ วันนี้เขานานเพื่อนสนิทไว้ไปดูคอนโดด้วยกันตอนเย็น และไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะมีงานเข้ามากะทันหันเหมือนครั้งที่แล้วหรือเปล่า
‘ว่าไงพ่อเสือ’
“ตอนเย็นเลิกงานกี่โมง ให้ไปรับหรือเปล่า”
ปลายสายหัวเราะคิกคัก นึกถึงใบหน้าของตุลาแล้วนิคกี้อดใจเต้นไม่ได้ ‘ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปรับนายเอง’
“แต่รถของฉัน..”
‘ไม่เป็นไรหรอก ไม่หายแน่นอน เชื่อฉันสิ’
นิคกี้กดตัดสายทันที เพราะรู้ว่าเสือต้องหาหลักการสารพัดมาเป็นเหตุผล แต่เขาอยากเห็นหน้าตุลานี่..อีกฝ่ายหน้าตานิ่งๆ สุภาพบุรุษอย่างที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น..เวลามองตากันทีไรเหมือนเขาถูกดูดเข้าไปในวังวนของอีกฝ่าย
ถึงจะดูไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหนก็เถอะ..
เรียกว่าเสือห่อเหี่ยวเหลือเกิน เขาไม่ได้หวงรถ แต่ไม่อยากให้นิคกี้มารับแล้วต้องรออีกฝ่ายในห้องเดียวกับตุลา มันทำให้เสือวางตัวไม่ถูกทุกครั้งที่อีกฝ่ายเอ่ยปากถามนั่นถามนี้ แม้มันเป็นคำถามทั่วไป..สำหรับเสือแล้วเรียกได้ว่าแปลกมา เขาอาจจะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมแต่เด็กเลยกลายเป็นแบบนี้
“ผมนึกว่าคุณจะกลับแล้วเสียอีก”
“ยังไม่กลับ”
ตุลาพยักหน้า พลางนั่งมองร่างผอม..ในทุกครั้งที่ตอบคำถาม เสือไม่เคยขยายรายละเอียดหรือชวนเขาคุยสักนิด สำหรับคนมีเพื่อนมากอย่างเขาแล้ว..มันแปลกไม่น้อยเลยทีเดียว “แล้วรออะไรอยู่”
“รอเพื่อน”
เพื่อนที่ว่าคงชื่อนิคกี้อะไรนั่น เขาไม่แปลกใจเลยที่เสือไปไหนก็ไปกับเพื่อนแค่คนเดียว บางทีมันอาจจะดีด้วยซ้ำมีเพื่อนคนเดียวแต่จริงใจดีกว่ามีเพื่อนมากมายแต่เสแสร้ง ตุลาพบคนมากหน้าหลายตาหลายประเภท ทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป สำหรับเขาแล้ว..มันไม่เป็นปัญหาสักนิด
“คุณหิวหรือเปล่า เห็นเมื่อเที่ยงทานข้าวไปนิดเดียวเองนี่ครับ”
ตุลารู้ว่าเสือหลบหน้าเขาด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มันไม่สามารถลดความสนใจเขาได้สักนิด ขณะที่แอบมองอยู่ห่างๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เขารับรู้หมด แม้กระทั่งดื่มน้ำก็เถอะ..มันอาจจะเป็นนิสัยของตุลย์ เวลามีเพื่อนก็มักห่วงแบบนี้อยู่เรื่อย
“ผมไปเอานมให้ไหม”
ร่างผอมมุ่นคิ้ว นม..ทำไมต้องนมด้วย มันมีความหมายแอบแฝงหรืออย่างไร ทั้งตุลย์และเมษต่างก็ชอบเอามาให้เขาทุกครั้งที่..หิว และเสือไม่เคยปฏิเสธด้วยสิ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเพื่อนผมคงมาแล้ว” เขาหันมองออกไปไม่เห็นวี่แววของนิคกี้ พอหันกลับมาก็เห็นแววตารู้ทันของตุลาแล้ว เขาล่ะเกลียดเรื่องแบบนี้ที่สุด..มันทำให้เขาเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วถูกจับได้
“ผมคงไม่ต้องพูดนะ”
สุดท้ายแล้วชายหนุ่มก็ต้องนั่งดื่มนมจนได้..
เสือก้มมองนาฬิกาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่ก็เกือบสี่โมงครึ่งแล้ว นิคกี้ยังไม่โผล่มาสักที ยิ่งนั่งนานเขายิ่งอึดอัดต่อสายที่ตุลาที่มองมาเป็นระยะ จนกระทั่งอีกฝ่ายสังเกตเห็นได้
“เป็นอะไรครับ”
“นิคกี้มาช้า”
ตุลาอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นเสือมุ่นคิ้วอย่างหงุดหงิดใจ คนอย่างเสือนี่แหละ..เอาแต่ใจที่สุด ไม่ใช่ใครอื่นในบ้านหรอก “เดี๋ยวก็มา”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสือรีบคว้าแล้วกดรับทันที “อยู่ไหนแล้ว”
‘ถึงแล้ว เดี๋ยวขึ้นไปรับนะ’ ปลายสายตัดทิ้งไม่ทันได้ฟังคำปฏิเสธของเสือ นิคกี้มาทีไรเป็นอันได้คุยกับตุลานานเลยทีเดียว เผลอๆได้ชวนไปดูคอนโดกับเขาอีกแน่ๆ
ไม่ถึงสิบนาที นิคกี้ก็มายืนตรงหน้าพลางยิ้มแฉ่งอย่างคนอารมณ์ดี “เสือน้อยรอป๋านานหรือเปล่า”
ร่างผอมเบือนหน้าหนี เสือน้อย..ทำให้เขาเขินอายนิดๆ “นานมาก นึกว่าไม่มาซะอีก”
“ป๋าไม่ผิดนัดเสือน้อยหรอก” นิคกี้หัวเราะเมื่อแกล้งเพื่อนสำเร็จก่อนหันไปทักทายตุลา “สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับคุณนิคกี้ มารับเสือเหรอครับ”
นิคกี้พยักหน้า ดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษจนเสือชักน้อยใจนิดๆแล้วสิ “ว่าจะพาพ่อเสือน้อยไปดูคอนโดสักหน่อย ไปด้วยกันไม่ครับ”
เสือหน้าบิดเบี้ยว เห็นไหมล่ะ..เป็นไปตาที่เขาคิดถึงอย่าง ชวนกันไปดูจนได้ ตอนนี้เขาก็ได้แต่ภาวนาให้ตุลาบอกปฏิเสธโดยพลัน
“ครับ ผมจะได้ช่วยเลือกที่สะดวกๆให้ด้วย”
เสือมุ่นคิ้วตลอดทาง วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินแปลกๆ แม้จะนั่งคู่กับนิคกี้หน้ารถก็ตาม แต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่คุยกับตุลา คนที่นั่งอยู่ข้างหลัง เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนเงียบๆ คุยไม่ค่อยสนุก เพื่อนหลายคนเลยไม่ค่อยคุยด้วยเท่าไหร่
แต่ครั้งนี้..เสือน้อยใจจริงๆ..
ร่างผอมกำมือแน่น ทั้งตุลาและเมษาจะทำให้เขาช้ำใจไปถึงเมื่อไหร่ ดวงตาคมมีหยาดน้ำคลอน้อยก่อนเขาจะกล้ำกลืนมาลงอย่างรวดเร็ว
“เสือก่อนกลับแวะทานข้าวเย็นก่อนไหม” นิคกี้เห็นเพื่อนเงียบมาตลอดทาง สงสารว่าจะคิดมากอีกแล้ว
“ไม่หิว”
“หิวหน่อยเถอะ กลับบ้านไปเอาอะไรลงท้องบ้างหรือเปล่า”
ตุลายกยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นคนบางคนออกอาการดื้อแพ่ง “แวะไปเยาวราชไหม”
“แต่ว่ามันดึก..” เสือแย้งทันควัน เขาไม่ชอบที่พลุกพล่าน มีอยู่ครั้งหนึ่ง..นิคกี้ชวนเขาไปตอนเวลาสามทุ่ม ผู้คนมากมาย แถมรถยังติดอีกต่างหาก ทำเอาเสือเกือบเป็นลมอยู่หลายครั้งเพราะเดินเบียดกันไปเบียดกันมา
“ไม่เป็นไรดีกว่า ผมมีงานต้องทำต่อด้วยสิ” นิคกี้เสริม เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบไปในที่แบบนั้น ครั้งก่อนชวนไป โดนโกรธตั้งหลายวัน
หลังจากนั้นทั้งนิคกี้และตุลาก็คุยกันเรื่องอื่น ปล่อยให้เพื่อนตัวผอมนั่งเม้มปากครั้งแล้วครั้งเล่า
คอนโดที่เสือว่าอยู่แถวสี่พระยา ตุลาเงยหน้ามองตึกสูง..เสือคงรักความสบายไม่ได้น้อยถึงได้เลือกทำเลที่ที่ดินมาราคาแพงแบบนี้
“ที่นี่หรือ”
เสือพยักหน้าเงียบๆก่อนเดินเข้าไป เขาติดต่อกับพนักงานไว้แล้ว
“ผมมาดูห้อง”
พนักงานสาวพาหนุ่มร่างผอมและเพื่อนอีกสองคนขึ้นไปดูยังแบบห้องพัก ตุลาได้แต่ถอนหายใจ..แน่นอนว่าเสืออาจจะไม่ได้บอกคุณลุงหรือไม่เคยพูดกับใครด้วยซ้ำ หากนิคกี้ไม่ชวนเขามาวันนี้ ตุลาคงไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าตัวตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียว
“ห้องนี้มีสามห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว แถมติดถนนใหญ่ด้วยนะคะ การเดินทางสะดวก มีรถสาธารณะให้บริการหลายอย่างเลยค่ะ” หล่อพูดเจื้อยแจ้วตามประสา ส่วนเสือก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างนี้ ตุลาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้เลือกห้องใหญ่ขนาดนี้
“เสือ” ร่างผอมหันมองตุลาด้วยความสงสัย มีอะไรจะถามหรือเปล่า
“คุณบอกคุณลุงหรือเปล่าครับ”
เสือหลุบตามองต่ำ บอกหรือ..กับคนที่ไม่เคยสนใจกันน่ะหรือ บอกไปทำไม “ไม่จำเป็น”
“แต่เขาเป็นพ่อคุณนะ” หนุ่มนักเรียนนอกดึงแขนขาวมาใกล้ จ้องริมฝีปากอิ่มที่เม้มน้อยๆแล้วนึกถึงครั้งแรกที่ได้สัมผัส มันนุ่มนิ่มอย่างประหลาดจนอดไม่ได้จะกลั่นแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่เห็นเกี่ยวตรงไหน ปล่อยผมได้แล้ว”
ตุลายังดื้อดึง เขารั้งเสือไว้ “ตั้งสามห้องนอน คุณจะเอาไปทำอะไรมากมาย”
“เผื่อผมมีครอบครัว จะได้เก็บให้พวกเขา”
เสือเป็นผู้ชายทั่วไปที่ฝันว่าอยากมีครอบครัวเล็กๆ ภรรยา แล้วก็ลูกสักคนสองคน การเลือกทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ก็สะดวกสบายหลายอย่าง ทั้งการเดินทาง อาหาร แถมยังมีตลาดใกล้ๆอีกต่างหาก นั่นแหละความฝันของเขา
“งั้นเหรอ” คำว่าครอบครัวทำเอาตุลารู้สึกแปลกๆ
“ผมขอตัว”
เสือตั้งใจจองคอนโดทันทีที่เขาฟังรายละเอียดจบ ทว่าใครบางคนกลับเข้ามาขัดดื้อๆพร้อมกับลากเขาออกมา ส่วนนิคกี้เองก็คงอึ้งไม่น้อยที่จู่ๆตุลาดึงเพื่อนสนิทออกไปไม่บอกไม่กล่าว
ร่างผอมยื้อยุด พลางถามอย่างหงุดหงิด ผู้ชายคนนี้เอาอีกแล้ว..มายุ่งวุ่นวายกันไม่พออีกหรือ “ปล่อยผม!”
ชายหนุ่มยอมปล่อยแต่โดยดี เขาไม่พอใจที่เสือไม่ปรึกษา ไม่บอกอะไรใครเลย ทำราวกับตัวเองเกิดมาจากตอไม้อย่างนั้นแหละ “คุณควรกลับไปปรึกษาคุณลุง”
“ทำไม..เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย!”
ตุลากัดฟันกรอด เสื้อหัวแข็งกว่าที่เขาคิดไว้มาก นี่ขนาดไม่สนใจคนเลี้ยงดูเลยหรือ “คุณรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเกี่ยวอะไรกับคุณ แค่บอก..มันไม่เสียหายตรงไหน”
นิคกี้ถอยออกมายืนห่างๆพลางสังเกตคนทั้งคู่ ระหว่างตุลากับเสือ..มันมีอะไรมากกว่าที่เขาเห็นหรือเปล่านะ
เสือบิดแขนออก เขาชักเกลียดสองพี่น้องนี่แล้วจริงๆ “ทั้งคุณและเมษาทำไมชอบยุ่งวุ่นวายเรื่องคนอื่น รู้ไหม..ผมรำคาญ”
หลายปีที่พ่อแต่งงานใหม่ เขาย้ายมาอยู่ในบ้านอันแสงอึดอัดเพราะตัวเองปีกกล้าขาแข็งไม่พอ เสือคิดว่าทุกอย่างไม่เคยเป็นของเขา รวมถึงพ่อด้วย พ่อเป็นของคนอื่น ไม่เคยสนใจกัน เฉยชา..ในวันรับปริญญาของเสือ พ่อก็ไม่มา แน่นอนว่าญาติคนอื่นๆก็ไม่รู้
เสือเหงาและโดดเดี่ยว เขาไม่อยากเจ็บอีกแล้ว.. ยิ่งมีเมษาและตุลามาวุ่นวาย มาทำเป็นห่วงใย เขายิ่งถอยห่างเพราะความหวาดกลัว
“ปากดี ปากดีจริงๆ” ความเกรี้ยวกราดฉายชัดในแววตาของตุลา เขาโกรธจริงๆ โกรธเด็กคนนี้มาก..ตุลาเคยคิดว่าเขาใจเย็น สามารถทนกับอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาโดยไม่แสดงออกว่ารู้สึกชิงชังมากแค่ไหน ทว่าวันนี้..เขาทนไม่ไหวแล้ว
ร่างผอมเซถอย ทันทีที่ตุลาแสดงท่าทีคุกคาม เสือถูกกระชากโดยแรง ทั้งที่ไม่เคยถูกปฏิบัติอย่างนี้มาก่อน
“คุณ..อื้อ!”
ริมฝีปากอุ่นบดขยี้จนรู้สึกเจ็บ เสือเบิกตากว้าง มันไม่ใช่จูบที่อ่อนโยนเลยสักนิด เต็มไปด้วยอารมณ์ดิบเถื่อนล้วนๆ ร่างผอมทุบตีอีกฝ่ายโดยแรง เขาอ้าปาก พยายามหอบใจเมื่ออากาศเริ่มหมดลง
“อื้อ..อย่า” เสือตัวสั่นน้อยๆ เขาผลักอกกว้างออก..แต่ตุลาแข็งแรงกว่าที่คิด ทั้งกักกันอิสรภาพ ไม่ยอมปล่อยให้เขาหายใจได้สักวินาที ยิ่งเนิ่นนานเท่าใด..ความรู้แปลกใหม่ก็ประดังเข้ามา
ปลายฟันขบกัดริมฝีปากอิ่มจนช้ำชอก ตุลารู้ตัวว่าเขาทำอะไรลงไป ทว่าความหอมหวานของเสือทำให้เขาไม่อยากปล่อยเจ้าตัวเป็นอิสระ ถ้านานกว่านี้มีหวังเสือเสร็จเขาแน่ๆ
ตุลย์ปล่อยร่างผอมก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดมากกว่านี้ “ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไร คิดซะว่าทำทาน” ว่าจบเจ้าตัวก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมาเลย หากไม่ผิด..หยาดน้ำข้างหางตาเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ตุลาทำรุนแรงเกินไป
เสือเดินออกไปราวกับวิญญาณออกจากร่าง ผู้ชายคนนั้น..จูบเขาสองครั้งสองครา ครั้งแรกอ่อนโยนนุ่มนวลราวกับขนนก แต่ครั้งที่สองดุดันราวกับผู้ล่าเหยื่อ
“เสือ..เป็นอะไรหรือเปล่า” ดวงตาคมเหลือบมองเพื่อนพลางส่ายหน้า นิคกี้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่เขาก็ขลาดเกินจะเข้าไปขัด “ฉันขอโทษที่ปกป้องนายไม่ได้”
“ฉันควรปกป้องตัวเองบ้าง..จริงไหม”
“เสือ” นิคกี้ดึงเพื่อนมากอด เขาสังเกตเห็นริมฝีปากบวมช้ำเพราะแรงกัด เฮ้อ..ตุลานะตุลา หากอ่อนโยนกว่านี้เขาเชียร์ขาดใจเลย
เมษาวิ่งหน้าตื่นออกมารับพี่เสือ เห็นพี่ชายหน้าซีดเลยไม่กล้าถามอะไร พอหันไปคุยกับพี่นิคกี้ อีกฝ่ายก็เหยียบคันเร่งออกไปซะมิด เกิดอะไรขึ้นกันแน่..
“ปุ้มปุ้ย พี่เขาเป็นอะไรอ่ะ”
เจ้าตูบร้องหงิงๆแล้วฟุบหน้า ก่อนมันจะไปวิ่งเล่นตามประสาของมัน เฮ้อ..เกิดเป็นปุ้มปุ้ยก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรมาก เกิดเป็นเมษาคิดหนักเลยจะเอาใจพี่เสืออย่างไรไม่ให้อีกฝ่ายโกรธ
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกไอ้เมษ”
ร่างเล็กหันหลัง ปะทะกับแผ่นอกพี่ตุลย์ แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกมาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง “พี่ตุลย์! มาทำไมไม่บอก แล้วมาได้ยังไง”
“ก็ขับรถมาน่ะสิ”
“แล้วมาทำไมอ่ะ” เด็กเมษายิงคำถามรัวๆเมื่อวานก่อนก็โผล่มา แถมเป็นที่รักที่เอ็นดูของพ่ออีกต่างหาก ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปเจ้าชายน้อยมีหวังตกกระป๋อง เจ็บถึงใจแน่ๆ
“อ้อ..มาเอางานกับเสือ บังเอิญลืมไว้”
เมษามุ่นคิ้ว เจอกันทุกวันแล้วลืมอะไรอีก จริงๆให้พี่เสือเอาไปให้พรุ่งนี้ก็ได้นี่นา เด็กแสบคิดไปไกล รู้สึกอยากให้พี่เสือพักผ่อนมากกว่า เห็นตอนกลับมาบ้านเหมือนจะเป็นลมอย่างนั้นแหละ “พี่ตุลย์นี่ วันหลังก็แล้วกัน วันนี้เมษเห็นพี่เสือเหนื่อย อยากให้พี่เสือได้พักผ่อนเยอะๆ”
“หืม..อาการเป็นยังไง” ตุลาถาม ก่อนออกมา..เขาไม่ทันสังเกตอะไรมากนัก
“ก็ตาแดงๆ แถมหน้าซีดๆ เมษว่าพี่เสือต้องเครียดมาก”
“เดี๋ยวพี่ขึ้นไปดูหน่อย”
เด็กแสบเหลือกตา แล้วดึงมือพี่ชายไว้ เวลานี้เขาควรทำคะแนน ไม่ให้พี่ตุลย์มาแทรกแซงเพราะกลัวพี่เสือรักพี่ตุลย์มากกว่า “อะไรเล่าพี่ตุลย์! เดี๋ยวเมษไปดูเอง พี่เสือเป็นพี่ชายเมษนะ”
“แล้วพี่ไม่ใช่พี่นายหรือไงเมษา”
“ก็ใช่ แต่เมษอยากดูแลพี่เสือมากกว่าไง”
ตุลาขมวดคิ้ว เขาหันซ้ายหันขวาหาตัวช่วย “ไปดูหมาของนายดีกว่า โดนแมวกัดเกือบตายแล้วนั่น”
คนหูเบาหันตามนิ้วชี้พี่ชาย พลันมองหาปุ้มปุ้ยหมาแสนซน น่าเสียดายที่มันเป็นหมากลัวแมว ครั้งก่อนโดนแมวข้างบ้านกัด ได้แผลตรงต้นคอไม่พอยังวิ่งหนีแมวทุกครั้งที่เห็น แบบนี้มันควรเลี้ยงต่อไปไหมล่ะ
หนุ่มนักเรียนนอกเบี่ยงความสนใจน้องก่อนวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะรู้สึกพิเศษอะไรนักหนา..แต่เขาแค่รู้สึกผิดต่อเสือก็เท่านั้นเอง คนที่อยากมีครอบครัวสมบูรณ์แบบเพื่อลบล้างอดีตอันแสนเจ็บปวด ไม่น่าต้องเจออะไรแบบนี้เลย
เขาก็เคยคิดฝันว่าอยากแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนกัน..
“ตุลย์มาทำอะไรจ้ะ” แม่ถาม เมื่อเห็นลูกชายคนโตวิ่งขึ้นบันได
“ผมลืมงานครับแม่” ตุลาว่าจบก็รีบไปห้องติดบันได หวังว่าเจ้าตัวจะไม่เสียใจจนทำอะไรโง่ๆหรอกนะ
ปลายนิ้วสะอาดแตะยังลูกบิดเย็นจัด..ก่อนค่อยๆบิดมันแล้วผลักเข้าไป ในห้องว่างเปล่า..ทว่าเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ เขามองซ้ายมองขวา หาคนที่ห้วงคำนึงตลอดการขับรถมาที่นี่
“เสือ” ตุลย์ปิดประตูแผ่วเบา ภายในห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีตรงไหนที่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิด “เสือครับ..คุณอยู่ตรงไหน”
ดวงตาสีเข้มมองไปยังมุมห้อง เห็นใครบางคนนั่งขดตัวแน่น ด้วยความเป็นห่วงเขารีบวิ่งเข้าไปหาเพราะกลัวเจ้าตัวจะเป็นอะไรไป “เสือ!”
หนุ่มร่างผอมเงยหน้าก่อนถอยหลังหนีราวกับรังเกียจเต็มประดา “คุณ..มาทำไม”
“ผมขอโทษ”
เสือเบือนหน้าหนี ใครๆก็ขอโทษ พ่อก็ขอโทษ เมษก็ขอโทษ ขอโทษแล้วทำกับเขาอย่างนั้นทำไม “มันเอาคืนไม่ได้”
“ผมแค่อยากแสดงความรับผิดชอบ ผมไม่น่าใช้อารมณ์กับคุณเลย” ตุลาดึงมือขาวมากุมไว้ทั้งที่เจ้าตัวพยายามดึงออกอย่างยากเย็น “ยกโทษให้กันได้หรือเปล่า”
ร่างผอมเม้มปาก ยังเจ็บอยู่เลย สงสัยตอนเช้าต้องบวมน่าเกลียดแน่ๆ “ไม่..”
หนุ่มนักเรียนนอกถอนหายใจ เขาแตะริมฝีปากนุ่มด้วยความถนอม ทั้งที่มันก็สวยขนาดนี้ ทำไมเขาถึงใช้อารมณ์กับมันได้ “ผมไม่ว่าอะไรหากคุณไม่ให้อภัย ถ้าเป็นผมคงทำใจยาก”
“พูดจบหรือยัง” เสือขืนมือออกน้อยๆ ยิ่งใกล้เขายิ่งใจเต้นแรง..ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย
“ยังครับ”
ดวงตาคมฉายแววแปลกใจนิดหน่อยก่อนสงบราบเรียบตามเดิม “อะไรอีกล่ะ”
“ผมมาบ้านนี้บ่อยจนเกือบเป็นเหมือนสมาชิกแล้ว ถ้ายังไง..เรียกผมว่าพี่ตุลย์จะดูสนิทกว่านะ”
เสือหลุบตามองต่ำ ให้เรียกใครว่าพี่..เขาไม่เคยหรอก อย่างนั้นคงต้องเรียนเมษาว่าน้องเมษแล้วล่ะ “ไม่เห็นเกี่ยวกันสักหน่อย”
ตุลาหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นสีเรื่อบนแก้มขาว “เรียกพี่ตุลย์หน่อย..อยากได้ยิน”
เขาก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าตัวเองเหมือนปลาไหลแค่ไหน..ในเมื่อเรื่องเก่าเจ้าทุกข์ยังไม่ยอมความ ก็ช่างมันเถอะ..
“ไม่เอา เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดสักนิด อีกอย่าง..ผมก็ไม่เคยนับคุณเป็นพี่ด้วย” เสือดึงมือออกแต่อีกฝ่ายกลับกระชับจนแน่น แบบนี้จะหนีไปไหนได้
“คุณกำลังจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก อย่างนี้ก็ควรทำตัวสนิทๆกับครอบครัวไว้เผื่อจะได้คิดใหม่”
“ผมคิดดีแล้วว่าผมควรออกไปอยู่คนเดียวมากกว่า”
“เสือหัวรั้นกว่าที่พี่คิดไว้นะ” แก้มขาวเห่อร้อน เสือถอยหลังหนี ทำไมเขารู้สึกว่า..ตุลารุกมากกว่าปกติ “ออกไปได้แล้ว”
“เรียกพี่ว่าพี่ตุลย์ก่อนสิ”
“ได้คืบเอาศอก เรื่องก่อนผมยังไม่ได้รับคำขอโทษคุณสักนิด”
ตุลายิ้มน้อยๆ พูดมากขนาดนี้แสดงว่ายอมใจอ่อนแล้วล่ะ “งั้นพี่ขอแก้ตัวได้ไหม”
“แก้ตัวอะไร”
หนุ่มนักเรียนนอกเจ้าเล่ห์กว่าที่คิด ในขณะที่เสือกำลังหน้าหน้างงๆ เขาก้มปิดปากน้องด้วยความละมุนละม่อม อย่างน้อยก็อยากปัดเป่าความรุนแรงครั้งก่อนได้บ้างล่ะนะ
เขารั้งร่างผอมแนบชิดติดกาย ปลายลิ้นละเล็มค่อยๆสอดแทรก รุกรานเสือ เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นเป็นระยะ..รสจูบของน้องหวานล้ำเหมือนหยดน้ำผึ้ง น่าแปลกใจที่เขาเลือกใช้ความรุนแรงกับสิ่งน่าถนอมแบบนี้
เหมือนโลกของเสือหยุดหมุน ตุลาต้องการอะไรกันแน่..เขายังคงสับสนงงงวยต่อพฤติกรรมอีกฝ่ายนัก บางครั้งก็ตั้งท่าไม่ชอบใจ..บางครั้งก็ห่วงเกินความจำเป็น
“อืม..พอ”
“พี่ขอโทษ เสือยกโทษให้พี่ได้หรือเปล่า”
เสือส่ายหน้า เขาไม่รู้จะทำอย่างไรแต่ส่ายหน้าไว้ก่อน เมื่อครู่ตุลาทำเอาจิตใจของเขาล่องลอยไปไหนไม่รู้
“เสือ..”
“พอแล้ว..อย่าพูดถึงอีก ผมลืมไปหมดแล้ว”
ตุลย์ปล่อยร่างผอมเป็นอิสระ เห็นริมฝีปากฉ่ำวาวแล้วอดประทับจูบอีกครั้งไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับหัวใจเขาหนอ..ถึงได้อยากถนอมอีกฝ่ายแบบนี้ แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะไม่ชอบหลายสิ่งหลายอย่างที่เสือทำก็ตาม
“คุณกลับไปได้แล้ว”
“พี่..”
เสือยกมือขึ้นปิดปากอีกฝ่ายแล้วช้อนมอง เขาไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบครอบครัวที่ตุลามอบให้หรอก “ทำตัวเหมือนเดิม ผมไม่ใช่น้องคุณและคุณไม่ใช่พี่ผม ไม่ต้องพยายามหรอก..และผมไม่คิดมากเรื่องในวันนี้ ถือว่ามันผ่านไปแล้วกัน”
ก่อนตุลาจะได้พูดอะไร เสียงเจ้าเด็กเมษาพร้อมเคาะห้องรัวๆหลายสิบทีก็ดังขึ้น “ไอ้พี่ตุลย์ คนเจ้าเล่ห์ ทำอย่างนี้กับเมษได้ยังไง!!”
ร่างสูงกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนลุกขึ้นแล้วดึงเสือไปนั่งบนโซฟาแทน ตอนแรกที่เห็น เขาตกใจแทบตาย นึกว่าเสือคิดสั้นจนสติแตกไปแล้วเสียอีก
“รอเดี๋ยวสิเจ้าเมษ!”
เขาเดินไปเปิดประตู ไม่ทันได้แง้มก็โดนผลักใส่อย่างไรก่อนเจ้าเด็กตัวแสบจะวิ่งถลาเข้ามาหาพี่เสือ โดยไม่สนใจเลยว่าตุลาเจ็บหน้าผากแค่ไหน
“พี่ตุลย์ทำอะไรพี่เสือ!! บอกเมษมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” เมษากอดพี่เสือแน่น อีกฝ่ายผอมกว่าแต่สูงกว่าเขามากนัก
ตุลามองภาพนั้น เหมือนแม่แมวกำลังปกป้องลูกอย่างนั้นแหละ “ก็..”
“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ” เสือร้อนหน้าไปหมด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาง่ายเกินไปหรือเปล่าที่ปล่อยให้ตุลารุกล้ำความคิดของตัวเอง
“คอยดูนะถ้าพี่ตุลย์ทำอะไรพี่เสือ เมษจะฟ้องแม่ว่าพี่ตุลย์รังแก!”
“เฮ่ย! ไอ้เมษพี่เป็นพี่นายนะเว่ย”
เมษาหันไปมองพี่เสือ โดยเฉพาะที่ริมฝีปาก..วันนี้มันฉ่ำและบวมแปลกๆนะ “พี่เสือ..เมษว่าแมลงกัดปากพี่เสือแน่ๆ”
ปลายนิ้วผอมแตะริมฝีปากตัวเอง มันบวมและปวดนิดๆ เพราะฝีมือคนเดียวในหนึ่งวัน
“เมษไปบอกแม่ให้หายามาให้นะ”
เด็กไฮเปอร์รีบวิ่งลงไปข้างล่างอีกครั้ง มิวายขู่พี่ชายว่าห้ามเข้าใกล้พี่เสือเกินสองเมตร
ดูเหมือนทุกอย่างจะวุ่นวายไปหมดทั้งตุลาและเมษา..
แอวร๊ยยยยยยยยยย
เค้าขอโทษอย่างแรงที่มาช้าเพคะเพคเพคะ TT
ยังไม่ได้ตอบคอมเมนท์เลยอ่ะ ไว้สอบเสร็จก่อนล่ะกันนะ 5555555555 มาอู้ไม่แต่งนิยายเบาๆสัก 8 วันได้
ก๊ากๆ เพิ่งแต่งเสร็จเมื่อกี๊เองนะ มีคำผิดตรงไหน เดี๋ยวไปแก้อีกที
อีกนิด อิอิ เค้าว่าเรื่องนี้ต้องเจอแฟนเก่าพี่เสือดีกว่า อิอิ เดี๋ยวไม่มีตัวร้ายแล้วไม่สนุก (?)
คนเขียนว่าพี่ตุลย์เริ่มจะเข้าใจตัวเองนิดหน่อยล่ะ เฮ้อๆ หนักใจเบาๆ
ไม่รู้ว่าพี่เสือโดนกินเมื่อไหร่ดี 555555
แล้วเจอกันตอนหน้า ประมาณอีก 2 อาทิตย์ได้ค่า
ปล.ตอนนี้แต่งเพลินมากๆ 8 หน้าเห็นจะได้ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์นะ จุ้บคนอ่านอย่างแรงค่า