เป็นได้แค่ตัวแทน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่าง เป็นได้แค่ตัวแทนตอนจบ กับตัวจริงคือเธอ อยากอ่านอะไรก่อนกัน

เป็นได้แค่ตัวแทนตอนจบ --> ไม่สนเว้ย เข้าข้างฟ่าง ไม่ต้องฟังมันละ ไอ้เหม เกลียดมัน 555+
ตัวจริงคือเธอ --> อยากฟังข้ออ้างของเหมอะ (แหม่งๆ วะ 555+)
ตูงก อยากอ่านทั้งสองเรื่องเลย

ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นได้แค่ตัวแทน  (อ่าน 577674 ครั้ง)

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
เป็นได้แค่ตัวแทน
« เมื่อ13-11-2012 23:33:13 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



                           ♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦♥♦






เป็นได้แค่ตัวแทน

Part 1
Part 2
Part 3
Part 4
Part 5
Part 6
Part 7
Part 8
Part 9
Part 10
บทสรุป






อุดหนุนผลงานคนเขียนได้ที่ MEB  :hao7:


           

[attachment deleted by admin]
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2016 11:53:54 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
"โห ไอ้เหม เค้าจะกลับกันหมดแล้ว ไม่มาพรุ่งนี้เลยหละ" เสียงร้องทักเชิงบ่นจากชายหน้าตี๋ ไม่ได้ทำให้คนที่มากับผมเดือดร้อนสักเท่าไหร่

พี่เหมแค่ยักไหล่ แล้วตอบอย่างไม่ยี่หระ "เออ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูค่อยมาละกัน"

พี่คนที่ร้องทักรีบจับแขนพี่เหมไว้ แล้วบอก "เฮ้ยๆ ไม่ต้องเลย มานั่งๆ สัด แค่นี้ทำเป็นน้อยใจ"

พี่เหมทำเสียงหึในลำคอ คนอย่างพี่เหมหนะเหรอจะน้อยใจ รำคาญเสียงบ่นซะมากกว่า

"แล้วนั่นพาใครมาด้วย อย่าบอกนะว่าเลขาคนใหม่" พี่ที่จับแขนที่พี่เหมถาม เมื่อเห็นว่าผมยืนอยู่ข้างๆ

"แฟนกู" พี่เหมตอบเรียบๆ แล้วบอกกับผม "เพื่อนพี่"

ผมยกมือไหว้ ไม่รู้ใครเป็นใครเพราะพี่เหมไม่ได้แนะนำรายตัว "สวัสดีครับ"

คนที่อยู่ในโตีะยกมือรับไหว้ผมและมองมาเหมือนอึ้ง ทำไมต้องอึ้งผมก็ไม่เข้าใจ หรือพี่เหมไม่เคยมีแฟน... หลังจากนั้นพี่ที่ร้องทักพี่เหมก็บอก "หวัดดีครับ พี่ชื่ออั๋นนะ ส่วนนั่นไอ้แฟรงค์ ไอ้ดิน ไอ้กรณ์ ไอ้มิว... แล้วน้องหละ ชื่อไร"

"ฟ่างครับ"

"ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องฟ่าง ผสมอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่ชงให้" พี่อั๋นถาม

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบ พี่เหมก็ตอบแทนซะก่อน "เป๊บซี่"

"โอเค ผสมเป๊บซี่นะ ไอ้ดินหยิบเป๊บซี่มาดิ๊"

"เป๊บซี่เพียวๆ" พี่เหมบอกเรียบๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ

"เฮ้ย ไรวะ มาเที่ยวทั้งจะให้น้องมันกินแค่เป๊บซี่เนี่ยนะ แอลกอฮอล์มันก็ต้องมีบ้าง"

พี่เหมมองหน้าพี่อั๋นนิ่งๆ "มันเป็นแฟนมึงเหรอ"

พี่อั๋นหน้าเสียนิดหนึ่ง ก่อนจะแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน "เป็นแฟนกูก็ดีสิ น่ารักขนาดนี้" แต่พี่เหมไม่ตลกด้วย ยังคงมองหน้าพี่อั๋นนิ่งๆ เหมือนเดิม จนอีกฝ่ายต้องบอก "เออๆ ไม่ใช่แฟนกู น้องมันเป็นแฟนมึง พอใจยัง"

"ถ้าเป็นแฟนกูมึงก็ไม่ต้องเสือก กูจะให้มันกินอะไรมึงก็ไม่ต้องแย้ง"

พี่อั๋นยักไหล่ ก่อนจะบอก "โทษที กูลืมไปว่ามึงไม่ชอบให้ยุ่งกับเด็กมึง"

"คราวหลังก็จำไว้ อย่ายุ่งกับเรื่องของกู"

"เฮ้ย เรื่องไม่เป็นเรื่องน่า ไอ้อั๋นมันก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ" พี่คนที่ชื่อกรณ์เอ่ยแทรกขึ้นมา

"มึงเสือกอะไรด้วย กูคุยกับไอ้อั๋น"

ถ้าปล่อยไว้ สถานการณ์คงจะบานปลายไปมากกว่านี้อีก ผมจึงรีบบอก "เอ่อ...คือ ผมคอแห้ง ขอเป๊บซี่ได้มั้ยครับ"

"ได้สิ อ๊ะ นี่ครับ" พี่คนนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อแฟรงค์ เพราะหน้าเหมือนฝรั่ง

ผมยื่นมือไปรับแก้วที่พี่เขาส่งให้ แล้วยิ้มให้ "ขอบคุณครับ"

พี่เขาก็ยิ้มให้ ก่อนจะทำท่าเหมือนสะดุ้ง แล้วยกแก้วเหล้าตัวเองกระดกลงคอ... ผมหันมองตามสายตาพี่แฟรงค์ก็เห็นพี่เหมทำหน้านิ่งๆ เหมือนเดิม แต่ตายังไม่หายดุ สงสัยจะเคืองพี่อั๋นอยู่ -_-!



หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญผ่านไป พี่อั๋นก็เรียกพนักงานให้นำเมนูมาให้ผมกับพี่เหม "สั่งตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้ไอ้เหมเป็นเจ้ามือ" ซึ่งพี่เหมก็ไม่ว่าอะไร แค่ยกเหล้าขึ้นจิบ

"พี่เหมจะสั่งอะไรมั้ยครับ" ผมถามเมื่อไม่เห็นพี่เหมหยิบเมนูขึ้นมาดู

พี่เหมส่ายหน้าปฏิเสธ "สั่งเถอะ พี่ไม่หิว"

ผมมองอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมเห็นพี่เหมแตะอาหารน้อยมาก ตอนเช้าก็ดื่มแต่กาแฟ ตอนเย็นก็แทบจะไม่เคยทานข้าว ไม่รู้กลางวันทานอะไรหรือเปล่า ผอมจนแก้มตอบหมดแล้ว... คิดแล้วผมก็ดันเผลอเอานิ้วไปแตะที่แก้มของพี่เหม พี่เขาก็เลยหันมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม ผมส่ายหน้าไม่อยากเซ้าซี้ ถึงพูดไปก็ไม่เคยฟัง แต่คิ้วพี่เหมก็ยิ่งเลิกขึ้นสูงไปอีก ผมเลยตัดสินใจบอก "ไม่ทานอะไร แก้มตอบหมดแล้ว"

พี่เหมส่งเสียงหึในลำคอ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอีกครั้ง แล้วไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้พี่เหมยกแขนขึ้นมาพาดพนักพิงของเก้าอี้ผม ก่อนจะเอียงศีรษะมามองเมนูที่ผมถืออยู่ แล้วชี้ไปที่ทอดมันกุ้ง "เอานี่ก็ได้"

"ข้าวด้วยนะครับ" ผมคะยั้นคะยอ อยากให้อีกฝ่ายทานอะไรมากกว่านี้... พี่เหมก็หันมามองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะบอกว่า 'ได้คืบจะเอาศอก' แต่ผมก็ทำใจดีสู้เสือ ยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้ แล้วอ้อนเสียงอ่อน "นะครับ... ข้าวผัดปู ทานนิดเดียวก็ได้ ที่เหลือเดี๋ยวฟ่างทานเอง"

พอพี่เหมถอนหายใจ แล้วพยักหน้า ผมก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่สามารถทำให้อีกฝ่ายทานอะไรได้บ้าง...

ผมสั่งข้าวผัดปู ทอดมันกุ้ง ไก่ทอดตะไคร้ สามอย่าง... หลังจากพนักงานรับออเดอร์ไปแล้ว ผมก็หันมาจะหยิบแก้วเป๊บซี่ขึ้นดื่ม เผอิญหันไปสบตากับพี่มิวพอดี... ผมก็ยิ้มให้ตามมารยาท ไม่แน่ใจว่าพี่เขาเห็นหรือเปล่าเพราะเขาไม่ได้ยิ้มตอบ แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบเฉยๆ

พออาหารมา ผมก็ตักข้าวผัดปูใส่จานพี่เหมสามช้อน ส่วนของตัวเองสามช้อนเหมือนกัน แต่เมื่อผมตักเข้าปากจนเกือบจะหมดจาน พี่เหมก็ไม่มีทีท่าว่าจะแตะสักนิดเดียว แม้แต่ทอดมันกุ้งที่เจ้าตัวสั่งเองก็เถอะ

ผมจิ้มทอดมันกุ้งในจานมาชิ้นนึง ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ราดน้ำจิ้มแล้วส่งเข้าปาก... ก่อนจะทำแบบเดิมแต่จิ้มไปจ่อที่ปากของพี่เหมแทน พอพี่เหมมองมาผมก็พยักหน้าแล้วบอก "อร่อยครับ"

พี่เหมอมยิ้ม ก่อนจะอ้าปากรับทอดมันกุ้งที่ผมป้อน...

ถึงจะอาย แต่ก็ต้องทน ไม่อย่างนั้นพี่เหมคงไม่ทานอะไร ผมจึงทำเป็นไม่สนใจกับสายตาของคนในโต๊ะ ทานเองบ้าง ป้อนพี่เหมบ้าง จนทอดมันกุ้งหมดจาน พี่เหมก็บอกว่าอิ่ม และผมก็อิ่มเหมือนกัน จึงหยุดทาน... รอให้ในท้องมันย่อย เดี๋ยวค่อยมาลุยใหม่ เสียดายของ 555+

อีกครั้งที่ผมหันไปสบตากับพี่มิวและยิ้มให้ แต่พี่เขาก็ทำเหมือนไม่เห็น ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบเช่นเคย...

ผมเดาสายตาของพี่เขาไม่ออก... จะว่ารังเกียจ หงุดหงิด หรือรำคาญมันก็ไม่ใช่ แต่เป็นสายตาที่หากผมตาไม่ฝาดมันแสดงถึงความอิจฉา

พี่เขาอิจฉาผมหรือ? อิจฉาเรื่องอะไร? และทำไมต้องอิจฉา?

ผมเฝ้าคิด แต่ก็ไม่สามารถจะหาเหตุผลมาอธิบายได้ จึงพยายามจะไม่เก็บมาใส่ใจ....



นั่งฟังคนอื่นๆ คุยกันสักครู่ น้ำเป๊บซี่ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วก็เริ่มจะออกฤทธิ์ ผมจึงสะกิดบอกคนที่นั่งข้างๆ "ไปห้องน้ำนะครับ"

พี่เหมไม่ตอบ ไม่พยักหน้า แต่ลุกขึ้นยืนเป็นเชิงบอกว่าจะไปด้วย... ผมไม่ได้ห้าม หรือบอกว่าไปคนเดียวได้ เพราะไม่อยากขัดใจ เดี๋ยวจะพาลอารมณ์เสียอีก...

"พี่รอข้างนอก" พี่เหมบอก แล้วหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ

ทำธุระเสร็จ เดินออกมา ผมได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน และหนึ่งในนั้นเป็นเสียงของพี่เหม ผมเลยยอมเสียมารยาทแอบฟัง...

"ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีมั้ย" เสียงนี้ผมไม่คุ้น

"สบายดี" นี่เสียงพี่เหม เอกลักษณ์เฉพาะตัว ถามคำตอบคำ 555+ แต่ที่แปลกคือมีประโยคต่อมาด้วย "อยู่ที่โน่นเป็นไงบ้าง สบายดีไหม"

"ก็ดี แต่เหงา คิดถึงที่นี่"

ทั้งคู่เงียบไปจนผมคิดว่าใครอีกคนคงไม่อยู่แล้ว กำลังจะก้าวเท้าออกไป แต่เสียงที่ไม่ใช่พี่เหมก็ดังขึ้นอีก...

"นายยังเก็บอยู่"

"อะไร"

"แหวนของเรา" เสียงที่ไม่ใช่พี่เหมบอก

ไม่มีเสียงตอบจากพี่เหม... หรืออาจจะมี แต่ผมไม่ได้ฟัง เพราะตอนนี้ในหัวมีแต่คำว่า 'แหวนของเรา'

หมายความว่าไง คนๆ นี้เป็นใคร เจ้าของแหวนที่พี่เหมแขวนไว้กับสร้อยที่สวมไว้ตลอดเวลาไม่เคยทอดแม้กระทั่งยามนอนหรือ

แหวนทองคำขาว... ที่มีลายสลักว่า 'M&H Forever'

ผมรู้ว่าแหวนวงนั้นคงมีความสำคัญกับพี่เหมมาก

ผมเคยสงสัยว่า 'M' คือใคร

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า 'M' คือใคร และตอนนี้ผมก็จำได้แล้วว่าเสียงไม่คุ้นนั่นคือเสียงของใคร

'พี่มิว'



"ทำไมเข้าไปนานจัง ทำอะไรอยู่" พี่เหมถามเมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำ

"แมลงมันบินเข้าตาครับ ฟ่างล้างตาอยู่"

"อ้าว ทำไมไม่เรียกพี่ ไหนดูซิ" น้ำเสียงห่วงใยที่นานๆ จะได้ยินซักที ทำเอาผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ "ไม่เป็นไรแล้วครับ ล้างออกแล้ว"

พี่เหมจิ๊ปากอย่างขัดใจ แล้วดันคางให้หน้าผมเงยขึ้น "อย่าดื้อ เดี๋ยวออกไม่หมด ตาอักเสบ ต้องควักลูกตาทิ้ง"

"บ้า" ผมหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา ทั้งขำทั้งเศร้า... ทำไมต้องดีกับผมผิดปกติ มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ที่พี่เหมกำลังทำอยู่ ไม่ได้ออกมาจากใจจริง แต่เป็นเพราะรู้สึกผิด 

"แสบตาเหรอ น้ำตาไหล"

"นิดหน่อยครับ" ผมตอบ... ซุกหน้ากับอกพี่เหม แล้วกอดอีกฝ่ายแน่นๆ ไม่รู้ผมจะมีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้อีกนานเท่าไหร่

วัตถุเย็นๆ ที่สัมผัสข้างแก้ม ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้น... แหวนวงนั้น 'M&H Forever'

แหวนที่เจ้าของกำลังจะกลับมาทวงคืน...

"ดีขึ้นหรือยัง" พี่เหมถาม

แม้ในใจจะร้องตะโกน 'แย่ลงต่างหาก' แต่ผมก็ฝืนตอบออกไป "ดีขึ้นแล้วครับ"

"จะกลับเลยมั้ย"

"แล้วคนอื่นหละครับ"

"ช่างมันเถอะ เดี๋ยวค่อยโทรบอก"

"ครับ กลับก็ดีเหมือนกันครับ"

กลับไปที่ห้อง... ห้องที่มีแค่เราสองคน... ห้องที่ผมคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน...



=justasubstitute=



ผมนั่งมองมือถือที่วางอยู่ตรงโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟากับนาฬิกาตรงผนังห้องที่บอกเวลาสองทุ่มด้วยความกระวนกระวายใจ

ปกติถ้าจะกลับช้า พี่เหมก็มักจะโทรมาบอกก่อนเสมอ...

อยากจะโทรไปหา แต่เพราะกลัวอีกฝ่ายจะหาว่าผมจู้จี้จุกจิก จึงพยายามข่มใจนั่งรอต่อไป



นั่งมองนาฬิกาจนเข็มสั้นชี้เลขเก้าและเข็มยาวชี้เลขสิบสอง แต่พี่เหมก็ยังไม่โทรมา...

ผมหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มไปยังชื่อ 'Hubby' ที่เมมไว้ตรง Favorite Menu แล้วกดโทรออก... ก่อนจะตัดสายทิ้ง

รออีกหน่อยแล้วกัน... พี่เหมอาจจะติดธุระสำคัญอยู่จึงไม่โทรมา



เข็มสั้นชี้เลขสิบและเข็มยาวชี้เลขสิบสองแล้ว แต่พี่เหมก็ยังไม่โทรมา...

ถ้าโทรไปหาตอนนี้ พี่เหมจะรำคาญไหม... จะว่าผมวุ่นวายไหม

ตอนยังเด็ก ผมเห็นแม่นั่งรอพ่อ... ไม่ว่าจะดึกดื่นเที่ยงคืน ถ้าพ่อยังมาไม่ถึงบ้าน แม่ก็จะไม่นอน

ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องเสียเวลานั่งรอ ทำไมไม่นอนก่อน แล้วค่อยลุกมาตอนที่พ่อกลับแล้ว...

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว... ผมเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่นั่งรอพ่อกลับมาบ้านแล้ว

ผมเข้าใจแล้วว่า... ภรรยาที่รอสามีกลับบ้านมีความรู้สึกอย่างไร

คิดถึง... แม้จะได้เจอหน้าแค่ก่อนนอนก็ยังดี

เป็นห่วง... เหนื่อยหรือเปล่า จะได้ทานอะไรมาหรือยัง

กังวล... ปลอดภัยดีใช่ไหม ทำไมยังกลับไม่ถึงบ้าน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า



เมื่อเข็มสั้นชี้เลขสิบเอ็ด เข็มยาวชี้เลขสิบสอง ผมก็ทนรอต่อไปไม่ไหว... กดโทรหาเจ้าของเบอร์ที่ผมเมมไว้ว่า 'Hubby'

[ฮัลโหล] เสียงพี่เหมดังมาตามสายโดยมีแบ็คกราวด์เป็นเสียงคุย เสียงหัวเราะและเสียงเพลงเบาๆ คงจะอยู่ในคลับที่ไหนสักแห่ง หรือไม่ก็ที่เดียวกับที่เขาพาผมไปพบเพื่อนวันนั้น

รู้สึกน้อยใจขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเอง 'ดีแล้วที่พี่เหมไม่เป็นอะไร' "เอ่อ... วันนี้พี่เหมจะกลับช้าใช่มั้ยครับ"

"อืม..." พี่เหมรับคำในลำคอ ก่อนจะถามเมื่อผมไม่พูดต่อ "ทานอะไรหรือยัง"

ผมเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่ยังไม่ได้แตะสักนิด ก่อนจะตอบ "ทานแล้วครับ พี่เหมหละครับ ทานอะไรบ้างหรือยัง หรือดื่มแต่เหล้า"

พี่เหมเงียบไปนิด ก่อนจะถามกลับ "รู้ได้ไงว่าพี่กำลังดื่มเหล้าอยู่"

"ได้ยินเสียงเพลงครับ" ผมบอก และต่อด้วยน้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นร่าเริง "อย่าดื่มแต่เหล้านะครับ เดี๋ยวไม่สบาย"

"ครับผม"

"งั้นแค่นี้นะครับ จะนอนละ ง่วง"

"ครับ ฝันดีครับ"

"ครับ ขอบคุณครับ แต่พี่เหมห้ามฝันนะครับ กลับมาบ้านก่อนค่อยฝัน... เมาไม่ขับครับ"

"หึ หึ"

"บายครับ"

"บาย"

เพราะอยากจะอยู่กับอีกฝ่ายให้นานที่สุด แม้จะไม่ได้พูดกันก็ตาม มันจึงเป็นความเคยชินที่ผมจะปล่อยให้พี่เหมเป็นคนกดตัดสายหรือไม่ก็ปล่อยให้สัญญาณมันขาดหายไปเอง...

'ใครโทรมาวะ'

'ไม่มีใคร'

'ไม่มีใครได้ไงวะ มีฝันดง ฝันดี บอกมาเหอะน่า ไอ้มิวมันไม่หึงหรอก จริงมั้ยวะ'

'เกี่ยวไรกับกู'

'อ๊ะ อ๊ะ ทำเป็นปากแข็ง แล้วใครวะ ร้องไห้ขี้มูกโป่งมาหากู'

'สัด'

'ฮ่า ฮ่า ฮ่า แทงใจดำอะดิ... แล้วเมื่อไหร่มึงสองคนจะคืนดีกันเนี่ย พวกกูลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้ว จริงมั้ยพวกมึง'

'ถะ ถะ ถั่วต้ม'

'ฮ่า ฮ่า ฮ่า'

'ก็ดีกันแล้วไง มึงเห็นพวกกูทะเลาะกันเหรอ'

'กูหมายถึงดีแบบเป็นแฟนกันเว้ย อย่าทำเป็นแกล้งโง่ สัด'

'หึ กูอะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว... มึงไปถามคนมีแฟนโน่นเหอะ'

'มีได้ก็เลิกได้ จริงมั้ยวะ ไอ้เหม... ไอ้เหม?'

'อะไร?'

'ได้ฟังกูมั่งป๊ะเนี่ย... กูบอกว่า คนที่มีแฟน... มีได้ก็เลิกได้ มึงว่าจริงมั้ย'

'...จริง'


เพราะคำสุดท้ายที่ผมยอมปล่อยให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ ไหลรินออกมา...

ผมปล่อยให้ตัวเองร้อง.... และร้อง

ร้อง... ให้น้ำตามันหมดไป

ร้อง... เผื่อความเสียใจจะทุเลาลง

ร้อง... ให้กับความงมงายของตัวเอง


http://www.youtube.com/v/0v7R_LwtHyY?version=3&hl=en_US&rel=0" type=
Song Credit: อยากจะร้องไห้ by ใหม่ เจริญปุระ

=justasubstitute=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2016 20:08:20 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หวั่นใจตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้วล่ะค่ะ แบบว่าเป็นโรคแพ้ดราม่า ไม่กล้าอ่านเท่าไหร่เดี๋ยวจะเฟล
แต่สุดท้ายก็กดจึ้กๆเข้ามาอ่านจนได้ แฮ่
โอ๊ยตาย ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย พี่เหมแกก็ยังเก็บแหวนคู่ไว้อยู่ ปวดใจแทนน้องฟ่างจริงๆ
นี่หมายความว่ายังไม่ลืมฝ่ายโน้นใช่ป่ะ ถ้าอย่างนั้นจะทำอะไรจะเลือกทางไหนก็รีบๆจัดการให้มันชัดๆไปเลย
แต่ไม่รู้เจ้าตัวคิดอะไรอยู่ ณ ตอนนี้ เท่าที่อ่านมา เรายังมองไม่เห็นท่าทีของเหมต่อมิวชัดเจนเท่าไหร่นะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
กำลังได้อารมณ์อยู่เชียว
ว่าแต่จบแล้วใช่ไหมคะ

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
"ปึ๊ก!"

"โอ๊ะ!"

"อ๊ะ!" คนที่เข็นรถมาชมผม รีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ "ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า อ้าว! น้องฟ่าง"

ผมที่กำลังก้มลงคลำตรงข้อเท้าที่ถูกล้อรถเข็นชนเงยหน้าขึ้นมองคนทัก "อ้าว"

"จำพี่ได้ไหมครับ พี่อั๋น เพื่อนไอ้เหมไง"

"ครับ จำได้ สวัสดีครับ... พี่อั๋นมาซื้อของเหมือนกันเหรอครับ"

พี่อั๋นยกมือไหว้ยิ้มๆ "ครับ พอดีผ่านทางนี้ แฟนพี่เลยฝากให้ซื้อของ... ว่าแต่เจ็บมากหรือเปล่า พี่ขอโทษนะ มัวแต่หาของเพลิน"

"ไม่เป็นไรครับ เจ็บนิดเดียว" ผมโกหก ที่จริงเจ็บมากๆ เลยต่างหาก ยิ่งตรงเอ็นร้อยหวายยิ่งเจ็บ "แล้วพี่อั่นต้องซื้ออะไรบ้างครับ"

พี่อั๋นควักกระดาษออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกางให้ดู "หมดนี่เลย"

"โห" เยอะมากครับ ยาวเป็นหางว่าวเลย "แล้วพี่อั๋นได้อะไรแล้วบ้างครับ"

พี่อั๋นส่ายหน้าแล้วยิ้มแหยๆ "ได้แค่นี้ครับ งง หาไม่เจอ"

ผมมองในรถเข็นของพี่อั๋นแล้วก็ต้องยิ้มออกมา เพราะรายการที่แฟนพี่เขาเขียนมาให้มีประมาณเกือบสามสิบอย่าง แต่พี่อั๋นกลับได้ของมาแค่สองสามอย่างเอง "งั้น เดี๋ยวผมช่วยมั้ยครับ"

"ถ้าไม่รบกวนก็จะดีมากเลยครับ ถ้าพี่หาคนเดียว กี่ชั่วโมงไม่รู้จะครบ นี่ก็หาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เพิ่งได้แค่นี้เอง"

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เห็นหน้าพี่อั๋นแล้วอดหัวเราะไม่ได้ ผมยื่นมือออกไป "งั้นเอาโพยมาครับ จะได้ดูว่ามีไรบ้าง"

"แล้วของน้องฟ่าง ได้ครบแล้วหรือยังครับ" พี่อั๋นถามอย่างเกรงใจ เมื่อเห็นรถเข็นของผมไม่มีอะไรสักอย่างเดียว

"ไม่เป็นไรครับ ผมจะซื้อของสด เอาไว้ทีหลังก็ได้ เดี๋ยวออกมาจากตู้แล้วมันจะเสีย"

"โอเค งั้นก็ลุยกันเลยครับ น้องฟ่างนำเลย เดี๋ยวพี่เข็นรถตาม"



"น้องฟ่างคบกับไอ้เหมมานานยังครับ" อยู่ดีๆ พี่อั๋นก็ถามออกมา หลังจากที่พวกเราเดินหาของตามโพยสักครู่

ผมหยิบแชมพูยี่ห้อตามที่ระบุในโพย นำไปใส่รถเข็นแล้วบอกพี่อั๋นโดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย "ประมาณครึ่งปีแล้วครับ" ห้าเดือนสิบวันก็น่าจะเกือบครึ่งปีละนะ

"โห ตั้งครึ่งปี แล้วมันเพิ่งจะพาฟ่างมาแนะนำให้พวกพี่รู้จักเนี่ยนะ"

"พี่เหมงานเยอะครับ ไม่ค่อยว่าง"

"เหรอ... แต่พี่ก็เจอมันทุกอาทิตย์นะ ไม่เห็นมันเคยเกริ่นให้ฟังสักนิดเลยว่ามีแฟน จนกระทั่งวันนั้นแหละที่อยู่ดีๆ มันก็พามา"

ผมชะงักมือที่กำลังจะหยิบครีมหมักผม ก่อนจะคว้ามากำไว้แน่น เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสังเกตุเห็นมือที่กำลังสั่นของผม... รอยยิ้มการค้าถูกส่งไปให้พี่อั๋น ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น "ช่วงนั้นผมยุ่งด้วยครับ ต้องทำเรื่องรับปริญญา"

"อ้าว ฟ่างเพิ่งจบเหรอ เรียนคณะอะไรครับ"

"ถาปัดครับ ออกแบบภายใน"

"อ้าว คณะเดียวกับไอ้มิวเลย เอกเดียวกันด้วย จำได้มั้ย ไอ้มิวเพื่อนพี่อะ วันนั้นมันก็อยู่" 

ผมพยักหน้า บอกเหมือนไม่รู้สึกอะไร "ครับ จำได้ พี่มิวที่ตัวขาวๆ หน้าสวยๆ"

"จะว่าไป น้องฟ่างก็หน้าคล้ายๆ ไอ้มิวนะ ถ้าบอกว่าเป็นญาติกันพี่ก็เชื่อ"

"บังเอิญมั้งครับ" อย่าให้ผมเหมือนพี่เขาเลย ผมไม่อยากเป็นตัวแทนใคร

"อืม... เรียนคณะเดียวกัน หน้าตาคล้ายกัน แถมยังเป็นแฟนไอ้เหมเหมือนกัน... สงสัยจะบังเอิญจริงๆ"

ผมหันมามองหน้าพี่อั๋นนิ่งๆ พยายามแกล้งโง่ต่อไปไม่ไหว "หมายความว่าไงครับ"

พี่อั๋นถอนหายใจเหมือนไม่อยากจะบอก แต่ผมรู้ว่าพี่เขาแกล้ง ถ้าไม่อยากจะบอก คงไม่โยงเรื่องมาเจอกันจนได้แบบนี้ "ก็... ไอ้มิวกับไอ้เหม มันเคยเป็นแฟนกันมาก่อน" พี่เขาหยุดพูดแล้วหันมามองหน้าผม ที่กำลังมองหน้าเขานิ่งๆ "น้องฟ่างจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ"

"พูดอะไรครับ"

พี่อั่นยักไหล่ "ก็... ที่ทั้งสองคนเคยเป็นแฟนกัน น้องฟ่างคิดว่าไง"

"คิดว่าพี่เหมเลิกกับพี่มิวแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไรนี่ครับ" ผมบอก แล้วดึงรถเข็นเป็นเชิงบอกว่าให้พี่อั๋นเข็นตามมา เพราะของที่ต้องการอยู่อีกล็อค เป็นการบอกกลายๆ ด้วยว่าต้องการยุติบทสนทนานี้แล้ว แต่ดูเหมือนพี่อั๋นจะไม่เข้าใจหรืออาจจะเข้าใจแต่ไม่สน ยังคงพูดต่อ "มันสองคนไม่ได้เลิกกัน ฟ่างรู้มั้ย" ผมไม่ตอบ... ดูโพยในมือ แล้วอ่านซ้ำไปซ้ำมา แต่ไม่เข้าหัว ไม่รู้ว่าแฟนพี่อั๋นสั่งให้ซื้ออะไร แล้วทำไมผมถึงบ้ามาช่วยพี่เขาซื้อของ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายก็แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการให้พี่เหมกลับไปคืนดีกับพี่มิว เพราะเสียงของคนที่ลอดเข้ามาในโทรศัพท์วันนั้นก็คือ พี่อั๋นนี่เอง "มันสองคนรักกันมาก... โดยเฉพาะไอ้เหม มันแทบจะไม่เคยอยู่ห่างไอ้มิวเลย"

ผมเลิกเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้สึก ถามพี่อั๋นเสียงสั่น "ถ้าเขาสองคนรักกันขนาดนั้น แล้วจะเลิกกันทำไมครับ"

"ไอ้มิวได้ทุนไปเรียนต่อที่ปารีส ทำให้มันต้องห่างกัน... แต่มันไม่ได้เลิกกัน... มันไม่เคยบอกเลิกกัน"

ผมยื่นโพยคืนให้พี่อั๋น แล้วบอกเสียงเบาหวิว "ผมนึกได้ว่ามีธุระ ขอโทษด้วยครับที่อยู่ช่วยต่อไม่ได้แล้ว" ทั้งผมและพี่อั๋นต่างก็รู้ว่านั่นคือข้อแก้ตัว... แก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่นั่นเป็นเพราะผมไม่อยากให้เขาได้เห็นน้ำตา... น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้...

"คืนไอ้เหมให้เจ้าของมันเถอะ" ผมหยุดเดินแต่ไม่หันกลับไปมอง เมื่อเสียงพี่อั๋นดังขึ้น "เรื่องของมันสองคนคงจะจบลงด้วยดี ถ้าไม่มีมือที่สาม"


ใครกันแน่ที่เป็นมือที่สาม...

ใครกันที่ทิ้งพี่เหมไป...

ใครกันที่ทำให้พี่เหมเสียใจ...

ใครกันที่ไม่เห็นค่า เหยียบย่ำความรักของพี่เหม...

แล้วตอนนี้ก็คิดจะกลับมาคืนดีง่ายๆ หรือ...


แล้วผมหละ...

คนที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อพี่เหม

คนที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อพี่เหม

คนที่ยอมอดทนทุกอย่างเพื่อพี่เหม

คนๆ นี้ไม่มีค่าคู่ควรกับพี่เหมเลยใช่ไหม...


เป็นผมใช่ไหม... ที่ต้องเสียพี่เหมไป



=justasubstitute=



คุณเคยเป็นแผลมั้ย... แผลที่ใกล้จะหายแล้วมันตกสะเก็ด... แล้วคุณก็แกะเกาจนเลือดออกอีกครั้ง

คุณรู้ว่าเลือดจะออก... แต่คุณก็ทำ

คุณรู้ว่าแผลจะหายช้า... แต่คุณก็ทำ

คุณไม่ได้โง่... แต่คุณรู้ว่าสักวันแผลมันจะหายไป

คุณทำ... เพราะต้องการพิสูจน์ว่าแผลมันหายแล้วหรือยัง


ผมก็เช่นกัน...

ผมรู้ว่ามันจะเจ็บ... แต่ผมก็ทำ

ผมเจ็บ... ผมร้องให้... และหวังว่าสักวัน น้ำตาจะหมดไป


ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา... ผู้หวังดีคนหนึ่งมักจะโทรมาบอกผมเกี่ยวกับการนัดเจอกันของพี่เหมและพี่มิวเสมอ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงทุกครั้ง

ใช่... ผมตามไปดู

ไม่... ผมไม่ได้ไปอาละวาด แค่ดูจริงๆ

ไม่... ผมไม่ได้เป็นนางเอก แค่ไม่กล้า

ผมไม่กล้า.. เพราะพี่เหมไม่เคยบอกรักผมสักครั้งเดียว

ผมไม่รู้ว่ามีสิทธิ์หรือเปล่า... มีสิทธิ์บอกใครๆ ว่าพี่เหมเป็นของผมไหม...


ผมยังคงทำตัวเป็นศรีภรรยาที่ดี

ดูแลทำความสะอาดบ้าน... แม่ผมเคยบอก 'บ้านน่าอยู่ คนก็อยากกลับบ้าน' แม้พี่เหมจะทำลายทฤษฎีดังกล่าวไปแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังคงทำตามที่แม่บอกอยู่ดี

หุงอาหารที่พี่เหมชอบ... แม้จะเป็นหมันทุกวันก็ตาม

และรอพี่เหมกลับมา... ผมไม่เคยหลับลงหากพี่เหมยังไม่ถึงบ้าน แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้ เพราะผมแกล้งหลับ ไม่อยากให้พี่เหมรู้ว่าผมรอ

เซ็กส์... เป็นเรื่องเดียวที่เราเข้ากันได้ดี

ดึกดื่นเที่ยงคืนหรือแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อย... แต่ถ้าพี่เหมต้องการผมก็ไม่เคยขัด

ผมพยายามศึกษา และข่มความอาย ทำตามหนังสือหรือหนังโป๊ที่เสิร์ชเจอในอินเตอร์เน็ต... แรกๆ ดูเหมือนพี่เหมจะแปลกใจ แต่รู้เลยว่าชอบ

บางครั้งหลังจากที่อีกฝ่ายหลับไปแล้ว ผมก็เคยนอนคิด... นี่ผมเป็นเมียหรือแค่นางบำเรอของพี่เหมกันแน่

ในสายตาของพี่เหม เคยมีผมอยู่ในนั้นบ้างไหม...

บ่อยๆ ที่ผมต้องเรียกร้องความสนใจจากพี่เหม... เข้าไปนั่งตัก ตอนพี่เหมอ่านหนังสือ ไม่อย่างนั้นพี่เหมก็จะสนใจแต่หนังสืออย่างเดียว... เข้าไปกอด ตอนที่พี่เหมยืนเหม่อ ไม่งั้นพี่เหมก็จะไม่หันมาเมื่อผมเรียก

ผมเคยสงสัย... พี่มิวต้องทำขนาดผมไหม... ต้องใจกล้าหน้าด้านขนาดผมไหม... เวลาพี่เหมอยู่กับพี่มิว พี่เหมสนใจอย่างอื่นมากกว่าพี่มิวไหม

คงจะไม่... เพราะพี่เหมรักพี่มิว

แต่... พี่เหมไม่ได้รักผม


ผมยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับพี่เหม...

ผมยอมสละทุนเรียนต่อที่ออสเตรเลีย... เพราะไม่อยากจากพี่เหมไปไกล

ผมยอมปฏิเสธบริษัทที่เพื่อนๆ หลายคนใฝ่ฝัน... เพราะพี่เหมต้องการให้อยู่บ้านเฉยๆ 

เพื่อนๆ บอกว่าผมโง่ ที่ยอมทิ้งความฝันเพื่อคนๆ เดียว...

แต่ความฝันของผมคือการได้อยู่กับคนที่เรารักไปจนตาย...

และผมก็ได้เจอคนที่ผมรักแล้ว... การที่ผมทิ้งทุกอย่างเพื่อพี่เหม คนที่ผมรัก เรียกว่าทิ้งความฝันไหม



ฝันของผมคือ...พี่เหม

แล้วฝันของพี่เหมหละ ใช่ผมไหม


http://www.youtube.com/v/_AaZLk0tJMQ?version=3&hl=en_US&rel=0" type=





=justasubstitute=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2013 16:59:14 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เฮ้ยยยยยทำไมพี่เหมใจร้ายแบบนี้หล่ะ

Singleman

  • บุคคลทั่วไป
ใจร้ายไปไหม เหม ทำแบบนี้ ฆ่ากันเลยดีกว่า

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
บอกได้คำเดียว so sad :m15:

ออฟไลน์ Benesmee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :sad4: เศร้าอ่า...พี่เหมทำแบบนี้ใจร้ายมากนะ
แล้วฟ่างจะต้องทนไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ไม่อยากให้จบเศร้าเลย  :monkeysad:
ทำไมคนที่ทุ่มเทต้องเป็นคนที่เสียใจ  :z3:
ถ้าไม่ลืมคนเก่าอย่ามีคนใหม่เลยดีกว่า  :angry2:
 :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] เป็นได้แค่ตัวแทน
« ตอบ #9 เมื่อ: 14-11-2012 00:40:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
ปวดใจหนึบๆเลยอ่ะ
เห้ย  แต่ชอบมาก 

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
บอกได้คำเดียว จุก อ่ะ
 :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
"อ้าว เฮ้ย นั่นพี่เหมนี่ นั่งอยู่กับใครวะ"

ผมมองตามมือไอ้นก เพื่อนสนิทของผมไปที่ร้านกาแฟที่พี่เหมกับพี่มิวนั่งอยู่ด้วยกัน "เพื่อนเค้า"

"มึงรู้จักเหรอ"

"อือ พี่มิว"

"งั้นก็ไปทักดิ นึกว่านั่งอยู่กับลูกค้า"

"ไม่ต้องหรอก เผื่อเค้าอยากคุยกับเพื่อน เห็นว่าพี่มิวเพิ่งกลับมาจากปารีส"

"อ๋อ กลับมานานยัง"

"เกือบสองเดือนแล้วมั้ง"

"อื้อ หือ มึง สองเดือน ไม่มีเรื่องไรคุยกันแล้ว ไป" แล้วมันก็ลากผมให้เดินไปยังโต๊ะที่พี่เหมกับพี่มิวนั่งอยู่ "พี่เหม หวัดดีครับ"

พี่เหมหันมามองพวกเราแล้วชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจะยกมือรับไหว้ไอ้นก "ไปไหนกันมา... นั่งก่อนสิ"

"ไม่เป็นไรครับ พวกเรากำลังจะไปกินเอ็มเคกัน เลี้ยงวันเกิดไอ้มิ่ง" ไอ้นกว่า แล้วเหลือบมองพี่มิว พี่เหมเลยแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน "เพื่อนพี่ ชื่อมิว... เพื่อนฟ่าง ชื่อนก" ไอ้นกยกมือไหว้พี่มิว ส่วนพี่มิวก็ยกมือรับไหว้แล้วยิ้มให้ แต่ไม่พูดอะไร

"พี่เหมกับพี่มิวมาทำไรกันครับ หรือแค่มากินกาแฟเฉยๆ ถ้ายังไงไปกินเอ็มเคด้วยกันมั้ยครับ หลายๆ คนสนุกดี" ไอ้นกเอ่ยชวน

พี่มิวยิ้มน้อยๆ แล้วบอก "ก็อยากไปอยู่เหมือนกัน นานแล้วไม่ได้กิน แต่เสียดาย หนังจะฉายแล้วอะดิ ไม่งั้นไปด้วยแน่ๆ"

"อ้าว มาดูหนังกันเหรอครับ เรื่องอะไรครับ"

"เรื่อง XXXX"

ไอ้นกพยักหน้าแล้วบอก "อ๋อ ครับ" ก่อนจะเหลือบมามองผมแว๊บนึง เพราะมันรู้ว่าผมอยากดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน กลัวว่ามันจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ผมเลยรีบตัดบท "ไปกันเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นรอ"

และมันก็เข้าใจ ยกมือไหว้พี่เหมกับพี่มิว ซึ่งผมก็ทำตาม...

"งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเจ้าของวันเกิดโมโหหิวหละแย่เลย" พอให้นกพูดจบ ผมก็รีบจ้ำนำหน้าออกไป... น้อยใจคนที่นั่งอยู่ ไม่อยากมองหน้า เพราะน้ำตาอาจจะไหลออกมา...


'พี่เหมครับ พรุ่งนี้ว่างมั้ยครับ ฟ่างอยากดูหนังเรื่องนี้อะ'

'พรุ่งนี้พี่ไม่ว่าง เอาไว้วันอื่นได้ไหม'

'ครับ งั้นเป็นอาทิตย์ได้ไหมครับ'

'วันอาทิตย์พี่นัดกับพวกไอ้อั๋นไว้'

'แล้ววันจันทร์หละครับ'

'โอเค'

'ขอบคุณครับ'



เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เสียงเพลงจากมือถือที่ผมตั้งไว้สำหรับเขาคนนั้นโดยเฉพาะก็ดังขึ้น... หากเป็นเวลาปกติ ผมคงรีบรับทันที ไม่ว่าจะน้อยใจอีกฝ่ายสักเท่าใด แค่โทรมาไม่ต้องง้อ ผมก็พร้อมจะยกโทษให้แล้ว...

แต่ ณ เวลานี้ อารมณ์นี้... ผมรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก

ไม่ใช่เฉพาะจิตใจเท่านั้นที่เหนื่อย... ร่างกายก็พลอยจะไม่มีแรงไปด้วย

ผมฝืนยิ้มให้เพื่อนๆ ที่มองมาแล้วลุกขึ้นยืน... พูดไม่มีเสียงว่าจะออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก

ทุกคนกลับไปเฮฮากันต่อ ยกเว้นไอ้นกที่มองมาอย่างเข้าใจ... ผมยิ้มให้มันเพื่อบอกให้รู้ว่าผมยังไหว ก่อนจะเดินออกมา...

เดินออกมานอกร้าน... เสียงเพลงจากมือถือก็หายไป ผมถือโอกาสนั้นเปลี่ยนเป็นระบบสั่น และไม่โทรกลับ

ผมเดินมาเรื่อยๆ จนเจอเก้าอี้ที่ห้างมีไว้สำหรับให้ลูกค้านั่งพักก็นั่งลง มองคนนั้นคนนี้เดินไปเดินมา

นึกถึงภาพพี่เหมกับพี่มิวอยู่ด้วยกันที่ร้านกาแฟ... เหมาะสมกันดี

นึกถึงหนังที่พี่เหมกับพี่มิวกำลังไปดู... เรื่องที่ผมอยากดูเหมือนกัน... เรื่องที่พี่เหมสัญญาว่าจะพาไปดูวันจันทร์ เพราะวันนี้ไม่ว่าง วันนี้พี่เหมจะต้องพาพี่มิวไปดู


เงยหน้าขึ้นมองยอดโดมของห้าง... แต่ก็มองไม่เห็น เพราะน้ำในตามันบดบังจนหมด


ผู้หญิงสองคนเดินผ่านมา พวกเธอคุยกันเรื่อง 'ถนนคนเดินที่สีลม'

ไม่ได้คิดอะไรเลย แค่ได้ยินผมก็ลุกเดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าทันที... แล้วก็เพิ่งนึกได้ว่ากระเป๋าตังค์อยู่ในกระเป๋าเป้ที่ร้านสุกี้ แต่ผมกลับไม่รู้สึกตะหนกตกใจหรือกังวลเลยแม้แต่น้อย กระเป๋าไม่กลัวหายเพราะเพื่อนๆ คงเก็บไว้ให้ แล้วจะขึ้นรถไฟฟ้ายังไง... ช่างมัน เดินไปก็ได้

ระหว่างที่เดินตามถนนไปเรื่อยๆ มือถือของผมก็ยังสั่นไม่ยอมหยุด... ผมหยิบมาดูแล้วก็ต้องแปลกใจ


Hubby 31 สาย

บักมิ่ง 5 สาย

ไอ้นก 10 สาย

และคนอื่นๆ อีก 7 สาย

รวมถึงเบอร์แปลกๆ อีก 3 สาย


ว้าว... ผมควรจะดีใจมั้ยเนี่ยที่มีคนคิดถึงเยอะขนาดนี้ แต่ทำไมผมไม่รู้สึกอะไรเลยวะ

ไม่ใช่ผมอยากเล่นตัว ให้คนโทรมาง้อเยอะๆ หรอกนะ

แต่ผมเหนื่อย... เหนื่อยมาก ผมไม่อยากรับสายใคร ไม่อยากอธิบายว่าทำไมอยู่ดีๆ ผมถึงมาเดินเล่นอยู่ที่สีลมโดยไม่บอกไม่กล่าวใคร

เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม...



ผมเคยรู้สึกโกรธ เกลียด ผิดหวัง เสียใจ น้อยใจ โดยเฉพาะหลังๆ ที่มักจะเสียใจและน้อยใจอยู่บ่อยๆ

แต่ตอนนี้... ผมกลับมีเพียงความรู้สึกที่สามารถอธิบายได้คำเดียว

เหนื่อย...



http://www.youtube.com/v/7jOxBdm4qLk?version=3&hl=en_US&rel=0" type=



=justasubstitute=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2013 16:59:37 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เฮ้อ สงสารน้องฟ่าง พี่อั๋นทำมาเป็นบอกให้น้องปล่อยมือ ทำไมไม่ไปบอกเพื่อนตัวเองล่ะ คนนั้นน่ะตัวดีเลยนิ
ถ้าพี่เหมไม่รักฟ่างแล้ว หรือไม่เคยรักตั้งแต่แรก แค่เอามาเป็นตัวแทน ตอนนี้ก็ปล่อยปละละเลยไม่สนใจ
ตอนที่พาไปแนะนำกับเพื่อนก็ไม่รู้เพราะมีจุดประสงค์จะประชดอะไรใครหรือเปล่า แถมยังมีไปนัดเจอกัน แหวนก็ไม่เคยให้ห่างตัว
คือไม่เข้าใจว่าทำกันขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ปล่อยน้องมันไป ให้จบๆกันเสียที
ในเมื่อน้องฟ่างปล่อยเองไม่ได้ พี่เหมคงต้องเป็นคนปล่อย จะรั้งไว้อีกทำไม มิวก็รออยู่แล้ว เพื่อนก็สนับสนุน
มันแย่ตั้งแต่ยังไม่เลิกกันแล้วมามีคนใหม่แล้วล่ะ แย่กับทั้งฟ่างทั้งมิวเลย แย่ๆๆ

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
อ่าน ตอนเหนื่อยแล้ว น้ำตามันก็ไหลออกมาดื้อๆเลย

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ่านตอนนี้แล้วเหนื่อยแทนฟ่าง  :sad4:


ออฟไลน์ PrAEw EiEi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-4
T_T  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

เจ็บโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เล่นซะน้ำตาคลอเรย :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
รู้สึกเหนื่อยไปกับฟ่างด้วย  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เข้าใจความรู้สึกเลย เศร้าอ่ะ น้ำตาไหล มาต่อเรื่อยๆนะครับ อย่าหายนะ  กลั๊วกลัว

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
สะเทือนความรู้สึก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] เป็นได้แค่ตัวแทน
« ตอบ #19 เมื่อ: 14-11-2012 02:19:09 »





ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :เฮ้อ: อ่านเเล้วเหนื่อยยยยย... แต่ก็อยากอ่านต่อ

ทำไมทำกันได้นะคนเรา ทำร้ายคนที่ไม่มีความผิด :z6:

อิพี่มิวหอกข้างเเคร่จริงๆ ไปแล้วจะมาทวงอะไรอีก... ว่าไม่ได้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง

เพราะงั้นสับมือทั้งสองคนทั้งสองข้างเลยเป็นไง o18 เอาไว้เเค่ฟ่างคนเดียวพอที่สมบูรณ์

พร้อมไปตบมือกับคนอื่นที่พร้อมดูแลได้ ให้บักด้วนสองโต๋อยู่โต๊ยกัน555  :m31:

ออฟไลน์ ParaBoLe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านแล้วอยากต่อยหน้าเพื่อนพี่เหมจังค่ะ

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
"น้องครับ น้อง"

ผมหันไปตามเสียงเรียก ก็เห็นผู้ชายที่น่าจะอายุมากกว่าผมไม่กี่ปีนั่งอยู่กับพื้นพร้อมกระดาษที่มีรูปเหมือนดาราเรียงๆ กันอยู่ตรงหน้า "ครับ?"

"น้องรีบไปทำธุระที่ไหนหรือเปล่า ถ้าไม่รีบพี่ขอวาดรูปน้องได้มั้ย" เขาถาม และคงจะเห็นผมทำหน้าแปลกใจ จึงบอก "แป๊บเดียว ไม่นานหรอก"

"แต่ ผมไม่มีตังค์ซื้อนะครับ"

"ไม่ต้องซื้อ พี่ให้ฟรีๆ แล้วก็จะให้ตังค์ค่าเป็นแบบด้วย"

เออ ดีเหมือนกัน เผื่อเห็นอะไรน่ากิน... ผมนั่งลงเป็นแบบให้พี่เขาวาด ไม่นานก็เสร็จ

"อ๊ะ ดูซะ เนี่ย หน้าของเราตอนนี้"

ผมรับภาพเหมือนของตัวเองมาดู พี่เขามีฝีมือมากทีเดียว วาดแป๊บเดียวแถมยังเหมือนมากด้วย แต่ที่ผมสะดุดตาคือแววตาในภาพที่จ้องตอบมาต่างหาก

ทำไมเห็นแล้วมันชวนหดหู่เหลือเกิน...

นี่เป็นแววตาของผมจริงๆ ใช่ไหม...

"รู้มั้ย ทำไมพี่ถึงขอวาดรูปน้อง" พี่เขาเอ่ยแทรกความคิดขึ้นมา ผมเงยหน้าไปมองนิ่งๆ ไม่พูดอะไร แต่แววตาแสดงคำถาม พี่เขาจึงพูดต่อ "เพราะแววตาของน้อง... เหมือนเพื่อนพี่คนนึง"

"แล้วเพื่อนพี่อยู่ที่ไหนครับ"

"มันตายไปแล้ว" พี่เขาบอกเสียงเศร้า "ฆ่าตัวตาย" ผมไม่รู้จะพูดอะไร เลยเงียบ และดูเหมือนพี่เขาก็ไม่ได้อยากให้ผมปลอบสักเท่าไหร่ "ก่อนฆ่าตัวตาย มันมีแววตาเหมือนน้องนี่แหละ"

ผมตกใจ มองพี่เขาตาโต "แต่ผมไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายนะครับ" ผมแค่เหนื่อยเฉยๆ แต่ไม่ได้อยากจะตายซะหน่อย

"แต่ถ้าตายไปน้องก็ไม่รู้สึกเสียใจใช่ไหม"

ผมคิดตาม ก่อนจะยอมรับเบาๆ "ครับ"

"น้องยังไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย แต่น้องกำลังเหนื่อยกับชีวิตมากๆ จนน้องไม่รู้สึกเสียใจถ้าจะต้องตายไป" พี่เขาวิเคราะห์ ซึ่งก็ตรงกับความรู้สึกผมตอนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน "ไอ้ที... เพื่อนพี่ มันก็เป็นอย่างน้อง  มันขับรถชนเสาไฟฟ้าตาย แต่มันไม่ได้เมา เบรคไม่ได้แตก ถนนไม่ได้ลื่น ไม่ใช่ทางโค้ง ทางก็สว่างโร่เพราะเป็นตอนกลางวัน เขาจึงสันนิษฐานว่ามันฆ่าตัวตาย"

ผมยังเงียบอยู่ ไม่รู้พี่เขาแค่ต้องการระบายให้ผมฟังหรือต้องการจะเตือนสติผม...

"แต่พี่ไม่คิดว่ามันฆ่าตัวตาย... พี่คิดว่าที่มันตาย เพราะมันไม่ได้คิดอะไร มันจึงขับรถชนเสาไฟฟ้า"

คนอื่นฟังแล้วอาจจะงง แต่ผมกลับเข้าใจ...

ไม่ได้อยากตาย... ก็แค่ไม่กลัว เลยทำ



รับไอศกรีมและตังค์ทอนแล้วผมก็เดินเลียไปดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมเหลือเงินติดกระเป๋าอยู่แปดสิบบาท ตอนแรกพี่คนที่ขอวาดรูปผมจะให้เงินผมสองร้อย แต่ผมเอาแค่ร้อยเดียว เพราะท่าทางพี่แกก็ไม่ค่อยจะได้กำไรเท่าไหร่ ผมไม่อยากเบียดเบียน... ก่อนจากกันเราสองคนก็แลกเบอร์มือถือกันไว้ พี่เขาชื่อ 'โจ้' และบอกว่า หากมีอะไรปรึกษาให้โทรไปได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องเกรงใจ แม้ว่าจะดึกดื่นขนาดไหน... เขาคงกลัวผมจะเป็นเหมือนเพื่อนเค้ามั้ง 


แล้วผมจะเป็นหรือเปล่า... ไม่แน่ใจครับ


หลังจากที่ฟังพี่เขาพูดแล้วก็ชักจะกลัวใจตัวเองอยู่เหมือนกัน... เพราะก่อนที่จะเจอพี่เขา ตอนที่ยืนอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า ผมมองลงมาที่พื้นแล้วก็คิดเล่นๆ ว่าถ้าผมโดดลงไปจะเจ็บมั้ย แล้วรถที่วิ่งไปมาจะชนมั้ย ผมมองอยู่นาน จนกลัวว่าตัวเองจะโดดลงไปจริงๆ เลยรีบลงบันใดมา... แล้วตอนที่ยืนรอสัญญาณไฟคนข้าม ผมก็คิดเล่นๆ อีกแหละว่า หากผมเดินออกไปตอนนี้แล้วรถชนจะเป็นยังไง จะเจ็บมั้ย จะรู้สึกยังไง แล้วคิดไปคิดมามันเพลิน ขาผมก็ก้าวออกไปเอง ดีแต่ว่าพี่ผู้หญิงที่ยืนข้างๆ จับไว้ แล้วบอก 'ยังเขียวอยู่' เขาคงคิดว่าผมไม่เห็นสัญญาณไฟ หลังจากขอบคุณพี่เขาแล้ว ผมก็สลัดหัวไล่ความคิดบ้าๆ ออกไป...


เพื่อนพี่โจ้ก็คงจะเหมือนผม... คิดไปคิดมามันเพลิน พอทำไปแล้วกลับตัวไม่ได้ เลยเหมือนฆ่าตัวตาย...


เดินเล่นไปเรื่อยๆ มือถือผมก็ยังสั่นเรื่อยๆ ควักออกมาดู 'Hubby' 68 สาย และแบตของผมก็ไม่เหลือสักขีดแล้วด้วย ไม่นานเครื่องคงดับ

ผมไม่ได้คิดแกล้งพี่เหม และไม่ได้น้อยใจแล้ว แต่อย่างที่บอก...

ผมเหนื่อย

ผมไม่อยากคุย

ผมไม่อยากเจอคนรู้จัก

ผมแค่อยากอยู่คนเดียว... ก็เท่านั้น


'อย่าอยู่คนเดียว หรือถ้าอยู่คนเดียวก็พยายามอย่าอยู่นิ่งๆ' พี่โจ้บอก


แล้วจะให้ผมทำไงวะ ไม่ให้อยู่นิ่งๆ กระโดดเหรอ... พอดีผมเห็นมีวงดนตรีมาเล่นอยู่ข้างหน้าพอดี เพลงมันส์ด้วย ผมเลยไปกระโดดกับคนอื่นๆ ที่อยู่แถวนั้น

โคตรเหนื่อยเลย... แต่ก็สนุกสุดๆ

นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้มันส์แบบนี้... แถมยังได้เพื่อนใหม่ด้วย มีคนขอเบอร์ผมเพียบ ผมก็แจกมั่วอะ ใครขอก็ให้ ไม่สนใจ ผู้หญิงผู้ชาย ขอมา ให้หมด... บ้ามากๆ 555+

หลังจากไปกระโดดมาจนเหนื่อย ผมก็นั่งพัก ซื้อน้ำมากิน แล้วเจอขอทาน เลยยกเศษเงินที่เหลือทั้งหมดให้ไป... ตอนนี้เหลือเงินติดตัวศูนย์บาท 555+

หายเหนื่อยแล้วผมก็เดินดูโน่นนี่ต่อ... คนไทยนี่ก็เก่งนะ ทำได้หลายอย่างเลย ผมก็อยากจะช่วยอุดหนุนนะ แต่ไม่มีเงิน  -_-! เลยต้องเดินดูเฉยๆ



เวลาผ่านไป มองนาฬิกาข้อมือที่ใส่อยู่ จะเที่ยงคืนแล้ว เหนียวตัวอยากอาบน้ำ แต่ไม่มีเงินกลับบ้าน ทำไงดี...

เหลือบมองนาฬิกา... เห็นกิ๊กก๊อกอย่างนี้ก็หลายพันอยู่นะ แลกกับค่าแท๊กซี่ละกัน

ผมเดินมาหยุดยืนตรงหน้าโรงแรมดุสิตธานี รอเรียกรถ... รถหายากมาก เพราะคนโบกเยอะ แล้วผมก็โดนคนโบกตัดหน้าด้วย แต่ก็ช่างเขาเถอะ ผมไม่รีบ เลยยืนรอไปเรื่อยๆ


"เอี๊ยด!!!!!"


เสียงล้อรถบดถนนดังมากๆ และดังใกล้ๆ กับตรงที่ผมยืนอยู่ด้วย... ใจหายวาบ คิดว่าเดี๋ยวต้องมีเสียง "ตูม!!" ตามมาแน่ๆ แต่ก็ไม่มี เลยยกมือที่ปิดตาออก

เจ้าของรถเปิดประตูลงมาแล้วเดินหน้าถมึงทึงมาหาผม แล้วตะคอก "ขึ้นรถ!!"

ผมมองตรงไปยังหน้ารถ ที่ประจำที่ผมเคยนั่ง... และก็เป็นดังคาด พี่มิวนั่งอยู่

ยกมือขึ้นลูบอก... แปลกใจ ทำไมมันสงบ ไม่ทุรนทุรายเหมือนทุกครั้งที่รู้ว่าพี่มิวกำลังมาทวงพี่เหมคืน

ผมเดินไปที่รถด้วยจังหวะการก้าวปกติ ไม่ลนลานอยากเอาใจพี่เหมเหมือนทุกครั้ง... นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่แปลก

ยกมือขึ้นลูบอกอีกครั้ง... ผมเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้

สลัดศีรษะไล่ความงงงวย ก่อนจะเปิดประตูหลังเพื่อขึ้นไปนั่ง แต่เสียงตะคอกก็ตามมาอีก "มานั่งหน้า!" ผมไม่ได้ถามแต่มองหน้าคนตะคอกนิ่งๆ จะนั่งได้ยังไงในเมื่อพี่มิวนั่งอยู่ แต่พี่เหมก็จัดการได้ "มิวไปนั่งหลังก่อนนะ"

ผมสลับมานั่งหน้าแทนพี่มิว ในรถไอ้นกก็นั่งอยู่ด้วย มันยิ้มให้ผมจืดๆ ผมก็ยิ้มจืดๆ ให้มันเหมือนกัน...

"เหม ช้าๆ หน่อย เดี๋ยวก็ตายกันหมดนี่หรอก" เสียงพี่มิวบอกพี่เหมตื่นๆ

พี่เหมขับรถเร็วมาก... เร็วจนน่ากลัว

มองกระจกหลัง... ไอ้นกจับราวตรงประตูไว้แน่น... ถ้าเป็นไปได้ มันคงอยากจะลงไปโบกแท็กซี่กลับเอง

ผมหันไปมองคนขับที่กำลังขบกรามจนเป็นสันนูน... คงจะโกรธผมที่ไม่รับโทรศัพท์

พี่เหมเป็นห่วง ผมเข้าใจ... ถึงไม่ได้รัก แต่คนอยู่ด้วยกัน ยังไงก็ต้องห่วง เล่นหายมา และไม่รับโทรศัพท์แบบนี้

ผมรู้ว่าผิด... ผมขอโทษ

แต่เอาเถอะ ไม่นานหรอก เดี๋ยวพี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของผมอีกต่อไปแล้ว... ผมขอเวลาแค่อีกไม่นาน

"พี่มิวครับ" ผมมองสบตาพี่มิวผ่านกระจกมองหลัง "ขอเอนเบาะนิดนึงได้มั้ยครับ นั่งสะดวกหรือเปล่า" เมื่อพี่มิวพยักหน้า ผมก็ปรับเบาะให้เอนลงนิดหนึ่ง ได้ท่านั่งที่สบายแล้วผมก็ยกแขนขึ้นกอดอก หลับตานิ่ง ไม่กังวลกับสปีดในการขับรถของพี่เหม... อย่างน้อย หากจะต้องตาย ก็ได้ตายพร้อมกับคนที่เรารัก

ผมไม่เสียดายชีวิตเลย...



"ฟ่าง"

ผมงัวเงียลืมตาตื่นเมื่อได้ยินเสียงเรียก พร้อมแรงเขย่า "ครับ?"

"ถึงแล้ว" พี่เหมบอก แต่ยังไม่ลงจากรถ และยังไม่ดับเครื่องด้วย... หันไปด้านหลัง ไม่มีใครเหลือแล้ว

ทำไมจึงไม่ดับเครื่อง... หรือจะไปหาพี่มิว

ถึงแม้ว่าใจผมจะสงบลงมาก... แต่ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจอยู่ดี

ผมปลดเบลล์ หันหน้าเข้าหาประตู กำลังจะเปิดออกไป แต่เสียงถามเรียบๆ หยุดเอาไว้ก่อน "จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ"

ผมก้มมองที่มือจับประตูนิ่งๆ ก่อนจะบอก "ผมขอโทษครับ" แล้วเปิดประตูลงมา เดินเข้าประตูคอนโด ไม่ได้หันไปมองว่ารถของพี่เหมแล่นออกไปหรือยัง...



แม้จะเดาได้ว่า ที่พี่เหมยังไม่ดับเครื่อง เพราะกำลังจะวนกลับไปหาพี่มิว... แต่ลึกๆ ในใจผมก็พยายามภาวนาว่าอย่าให้ผมเดาถูกเลย

ผมนั่งมองประตูหน้าห้อง... ตั้งแต่กลับมาจนเวลาล่วงเลยไปถึงตีสอง แต่ก็ไม่มีวี่แววของพี่เหม


นี่คงจะเป็นการไล่ทางอ้อมสินะ


อยากจะแกล้งโง่ไม่เข้าใจ... แต่จะยื้อต่อไปเพื่ออะไร

ลุกเดินเข้าไปในห้องทำงานของพี่เหม... หยิบปากกากับกระดาษออกมา


'ขอให้มีความสุขกับพี่มิว'

'ผมเสียใจที่ดีไม่พอ'

'รักหมดใจ'


ใบแล้วใบเล่าที่ผมเขียนข้อความลงไปแล้วขยำทิ้ง ทั้งข้อความที่ยาวจนมาถึงสั้น... และสุดท้ายก็มาจบอยู่ที่คำว่า


'ลาก่อน'


ผมไม่ได้ลงชื่อ... แต่คิดว่าพี่เหมคงรู้ว่าเป็นใคร

เอาไปวางไว้ที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะค้นกระเป๋าใบเก่งที่อยู่ในซอกลึกของตู้... กระเป๋าที่ผมซื้อเอง

สมบัติผมเกือบทุกชิ้น พี่เหมเป็นคนซื้อให้... เสื้อผ้า นาฬิกา สร้อย แหวน คีย์การ์ด

ผมคืนหมด... เก็บไปเฉพาะของที่เป็นสมบัติผมจริงๆ

และสมบัติส่วนตัวของผมก็น้อยจริงๆ ใช้เวลาเก็บไม่ถึงสิบนาทีก็หมด...

เดินไปถึงประตู ผมหันกลับมามองบ้านที่ผมอยู่มาเกือบแปดเดือนอีกครั้ง...

ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้... วันที่ผมต้องหันหลังให้กับมัน


ผมอยากรู้... พี่เหมจะสังเกตุไหมว่าผมหายไป

ผมอยากรู้... พี่เหมจะเสียใจไหม

ผมอยากรู้... พี่เหมจะคิดถึงผมไหม


สำหรับพี่เหม... ผมมีค่าสักนิดไหม



http://www.youtube.com/v/dHoNlAALq7Q?version=3&hl=en_US&rel=0" type=



=justasubstitute=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2013 16:59:59 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อุ๊บ๊ะ!!  อารมณ์กำลังได้เลย 

อิน จัด

ออฟไลน์ p_a_n

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :serius2:ค้างมากค่า อยากรุมากกกกกกก

tikka

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรา เราก้อเลือกเดินออกมา :o12:
ไม่มีประโยชน์จะรั้งคนไม่มีใจ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ปกติไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องเศร้าเท่าไร
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้าที่อยากอ่านตอนต่อไปใจจะขาด

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
บางทีเมื่อทุกอย่างมันคลุมเครือ การถอยออกมาอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ได้  :monkeysad:
มาต่อเร็วๆเน้อ เขารอบทสรุปอยู่ แต่ไม่จบเศร้าได้มั้ย  :z3:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
อึดอัดมาก สงสารน้องฟ่าง TT
มาต่ออีกนะคะ ปกติไม่อ่านดราม่า แต่เรื่องนี้ จะจบยังไงเราก็จะอ่าน

ปล. เราเกลียดเหมจังเลย

ออฟไลน์ MiU

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
อ่านแล้วได้อารมณ์มาก ๆ เลยค่ะ บีบหัวใจ  :m15:
....อยากจะรู้ว่าเหมจะรู้สึกยังไง น้องหายไปแล้วนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด