ผมออกมายืนนิ่งๆ ที่หน้าคอนโด... ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปทางไหนดี
และผมก็ใช้วิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยตัดสินใจ... โยนหัวโยนก้อย
หัวไปทางขวา
ก้อยไปทางซ้าย
ล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์สีซีดที่ผมใส่อยู่ ควานหาเหรียญที่อาจะหลงติดอยู่ข้างใน...
"คุณหนู ดึกแล้วจะไปไหนครับ"
ผมหันไปมองคนถาม... ลุงยามของคอนโดหนะเอง เขาคงจำผมได้เพราะชอบซื้อเครื่องดื่มชูกำลังมาฝากบ่อยๆ "ไป...." เสียงขาดหายไปจากลำคอ ผมเลยหยุดพูด ยิ้มแหยๆ ให้แกแล้วบุ้ยใบ้ไปทางซ้ายมือ ก่อนจะออกเดินไปทางนั้น...
ดีเหมือนกัน... ไม่ต้องโยนหัวโยนก้อย เพราะหาเหรียญไม่เจอพอดี
ก่อนออกจากคอนโด ผมเอาสมุดบัญชีของตัวเองมาดู... มีเงินอยู่ประมาณสองหมื่นกว่าๆ
น่าจะอยู่ได้ระหว่างที่หางานทำ...
เงินสองหมื่นนี้ เป็นเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของผมเอง เงินค่าแรงตอนเป็นเด็กเสิร์ฟของร้านอาหารในโรงแรมที่ผมและพี่เหมเจอกัน
หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย... แต่ถึงไม่ทำงานผมก็ยังมีเงินเดือนๆ ละห้าหมื่น ที่พี่เหมโอนให้ไว้ใช้ส่วนตัวทุกเดือน ซึ่งผมก็แทบจะไม่ได้ใช้ เงินที่ร่อยหลอลงเป็นเพราะนำมาซื้อของมาทำอาหารให้พี่เหมทาน...
เงินในบัญชีน่าจะเหลือสามแสนกว่า... แต่ทั้งบุ๊คแบงค์และบัตรเอทีเอ็มผมก็ไม่ได้เอามา
คืนเจ้าของเขาไป...
"ฟ่าง?"
วูบหนึ่งที่ความหวังอันแสนริบหรี่ฉายแสงเรืองรองขึ้นมา... พี่เหม?
ผมเงยหน้าขึ้นมองคนเรียกแล้วหัวใจที่กำลังฟูฟองก็เหี่ยวแฟบลงทันใด... ไม่ใช่
ไม่ใช่พี่เหม...
"พี่โจ้?"
"ใช่ พี่เอง" พี่โจ้ตอบแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของป้ายรถเมล์ ประกายตาฉายแววห่วงใย "ฟ่างโอเคมั้ย ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้"
ผมอ้าปากจะบอกว่า 'โอเค' แต่ก้อนแข็งๆ มันดันขึ้นมาจุกที่ลำคอจนพูดไม่ออก จึงได้แต่พยักหน้าพร้อมเช็ดน้ำตาออกจากแก้มลวกๆ
พี่โจ้มองผมนิ่งๆ ชั่วครู่ก็ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ผม ก่อนจะบอก "ไม่สบายใจอะไร บอกพี่ได้นะ"
ผมพยักหน้าขอบคุณ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะกำลังพยายามเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเป็นพัลวัน... มาจากไหนหนักหนา ทำไมไม่หมดเสียที
เราสองคนนั่งอยู่ด้วยกันเงียบๆ จนน้ำตาผมเริ่มจะแห้ง พี่โจ้ก็ถาม "ฟ่างจะไปไหนหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
จะไปไหนดี... ผมยังไม่รู้เลย
กลับบ้าน... แค่มีลูกเป็นเกย์ พ่อกับแม่ก็ทุกข์ใจจะแย่ แล้วนี่ผมยังจะมีหน้าไปบอกท่านทั้งสองอีกหรือว่าโดนทิ้ง
ไปหาไอ้นก เพื่อนสนิทของผม... ถ้ามีแค่มันคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่แฟนมันหละ แค่ไปเที่ยวคงได้ แต่ไปพักด้วยนี่คงจะไม่อยากต้อนรับสักเท่าไหร่
ไอ้มิ่งหละ... ไอ้มิ่งมีพี่น้องหลายคน แค่ครอบครัวมัน ห้องก็จะไม่พออยู่แล้ว
ขอแค่มีพี่เหม ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการอะไร... ที่ผ่านมาจึงไม่เคยสังเกตุ
ผมเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยมาก... เพิ่งรู้ตัว
"พี่กำลังจะกลับบ้านที่แพร่" พี่โจ้เอ่ยขึ้นมา เมื่อเห็นผมเงียบไปไม่ยอมตอบ "ไปกับพี่มั้ย"
ผมหันไปมองหน้าพี่โจ้ ไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายล้อเล่นหรือเปล่า...
"ถ้าฟ่างไม่รังเกียจบ้านคนจน"
=justasubstitute=
ผมนอนฟังเพลงจากคลื่นวิทยุท้องถิ่น ที่ตอนนี้กำลังคั่นรายด้วยการพูดถึงเรื่องของความรัก หนึ่งในผู้ฟังที่โทรเข้ามา เล่าว่าเขาถูกแฟนทิ้ง และดีเจก็ปลอบใจ "เอาน่าน้อง คิดซะว่า อกหักดีกว่ารักไม่เป็น น้องยังโชคดีกว่าอีกหลายคนที่ไม่เคยมีความรักแม้แต่ครั้งเดียว..."
'อกหักดีกว่ารักไม่เป็น'
ใครเป็นคนบัญญัติคำพูดนี้ ผมสงสัย
สงสัยว่า คนๆ นั้นเคยอกหักจริงๆ หรือเปล่า... คนๆ นั้นเคยรักใครสุดหัวใจไหม...
ถ้าหากว่าเคย... คำๆ นี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน
เพราะถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ขอรู้จักกับคำว่ารักเลย...
แต่จะโทษใครได้...
ถ้าจะโทษคงต้องโทษความอวดดีของผมเอง... ที่คิดว่าจะสามารถทำให้เขาลืมเจ้าของแหวนวงนั้นได้
โง่งมงาย... มองโลกเป็นสีชมพู ไม่เคยเผื่อใจไว้สำหรับความผิดหวัง
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นได้แค่ตัวสำรอง... แต่ก็แกล้งทำเป็นลืม หลอกตัวเองไปวันๆ ว่ามีค่ามากพอที่ทำให้เขาลืมคนๆ นั้น
ต่อแต่นี้... คงต้องยอมรับความเป็นจริงเสียที
ผมลุกออกจากเปลญวนที่นอนเล่นอยู่ ปิดวิทยุแล้วเดินเข้าไปในบ้าน...เข้าห้องนอนของพี่โจ้ ที่ผมมาอาศัยนอนด้วย
กระจกที่ติดอยู่กับตู้เสื้อผ้า สะท้อนให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีรูปร่างโปร่งบาง หน้าตาพอดูได้ แต่ซีดเซียวไปหน่อย... คงเป็นเพราะผมที่ยาวจนเกือบจะเลยไหล่
ผมยาว... พี่เหมชอบ
ผมยาว... เหมือนพี่มิว
แต่ผมไม่อยากเหมือนพี่มิว... ผมไม่อยากเหมือนใคร
กรรไกรตัดกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นตรงมุมห้องถูกหยิบขึ้นมา... ผมปอยหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าถูกประเดิมก่อน
ผมอีกปอยถูกตัดฉับ...
อีกปอย...
และอีกปอย... จนไม่สามารถกำขึ้นมาตัดได้อีกต่อไป กรรไกรตัดกระดาษจึงถูกวางลงที่โต๊ะญี่ปุ่นเหมือนเดิม
กระจกที่ติดอยู่กับตู้เสื้อผ้า สะท้อนให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีรูปร่างโปร่งบาง ผมบนศีรษะถูกตัดแหว่งเป็นหย่อมๆ ช่างเทวดาก็แก้ไม่ได้ นอกจากโกนอย่างเดียว... หน้าตาของเขาคงจะพอดูได้หากไม่มีน้ำตาเจิ่งนองเต็มสองข้างแก้มแบบนี้...
ผมยิ้มให้กับเงาตัวเอง... ต่อไปก็ไม่ต้องเป็นตัวแทนใคร
หึ หึ... สมเพชตัวเอง
ทำเพื่ออะไร ยังไงตัวจริงเขาก็กลับมาแล้ว เหมือนไม่เหมือนนึกหรือว่าเขาจะแคร์
ยังไงเขาก็ไม่แคร์แล้ว...
http://www.youtube.com/v/gcr3MxZIJk8?version=3&hl=en_US&rel=0" type==justasubstitute=