● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1179866 ครั้ง)

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
เย้ ได้อ่านแล้ว ขอบคุณฮะ

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
 :กอด1: น่ารักกกกกกกกกกกกกกก  :man1:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ร่างสนธิสัญญากันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
คิมจะอดใจไม่ชอบพี่ภพได้เหรอ  :laugh:

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
ไม่รอดแน่คิม ไม่รอด ต้องไม่รอดดดด
เพราะถ้าคิมรอดคนเขียนจะไม่รอด! o18  ขู่ๆ คิคิ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ายยยยยยยยยยยยยย


ทำสัญญากันแล้ว

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
เย่ๆๆๆ กลับมาแย๊ววว  :กอด1:
เงื่อนไขห้ามน้องครีมไปลวนลามใคร จะฮาไปไม๊คะ 555 ให้ความรู้สึกยังกะนายเอกเราเป็นโรคจิตเลย
แต่ก็เสียดายที่พี่ภพจะอดลวนลามน้องด้วย เราออกจะชอบ (พอดีเป็นคนสองมาตรฐาน)

รอติดตามการแข่งขันอันดุเดืิอดในตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
อั้ยยยะ คิดถึงคนแต่งมากกก โดดกอด  :กอด1:

มีความรู้สึกว่าตอนนี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้แหะ5555

แต่ฮามากตอนที่พูดว่่า"คิมหันต์มองเขาด้วยสายตาเหมือนเห็นเป็นแมลงสาบเกาะโถส้วมสาธารณะ"
แหม่ บรรยายซะละเอียด5555 :laugh:

รักคนแต่งมากมายย  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
จีบให้ติดนะพี่ภพ ตั้งหนึ่งปีจีบติดอยู่แล้วล่ะเนอะ  คึคึ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เชียร์เฮียภพ สุดใจขาดดิ้น 5555

เฮียสู้ๆ เฮียสู้ๆ เย้ๆๆๆๆๆ

แต่กฏห้ามลวนลามของคิมหันต์ ขัดใจจัง

เฮียห้ามลวนลามลาม งั้นคิม ทำเองและกันเนอะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Porsche23

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้เฮียภพชนะ !! เชียร์สุดใจขาดดิ้นค่าาา ~~

จะได้รักกัน คบกันสักที คิคิ

แต่เสียดาย.. ลวนลามไม่ได้.. (เอ๊ะ!?)

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
....ไม่ครบหนึ่งปีก็ตัดสินกันได้แล้วม๊างงงง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สัญญาหนึ่งปี! ในระหว่างนี้ต้องมีเรื่องสนุกๆแน่เลย เอาใจช่วยพี่ภพให้จีบคิมสำเร็จ สู้ๆ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หนึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหก :laugh:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
โบกธงเชียร์พี่ภพเต็มที่ :mc4:


 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ห้ามลวนลามงั้นเหรอ พี่สามภพจะทำได้เหรอ หุหุ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
กฎเกณฑ์สวนทางกันอย่างนี้แล้วจะชอบกันได้อย่างไร?!?

รอดูฝีมือพี่ภพค่ะว่าจะแน่แค่ไหน และคิมว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร
(55มันคล้องจองพอดี^^)

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อ่านตอนนี้หลายรอบมาก เค้าจีบกันแล้ว อร๊ายยย :impress2: ฝันหวาน

จิ้นล่วงหน้าสามสี่ช่วง จะเป็นยังไงต่อน้า จะเกิดอะไรขึ้นน้า น้องคิมจะน่ารักใส่พี่ภพขนาดไหนน้า พี่ภพจะเซอร์ไพรส์น้องคิมยังไงบ้างน้า

อร๊ายยย :m25:

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ห้ามพี่ภพเรียกน้องครีมแล้วเหรอ เราออกจะชอบอ่ะ
งั้นเราขอเรียกไปก่อน จนกว่าน้องครีมจะสั่งห้ามนะ (หัวเราะ)

ต้องขอโทษน้องครีมด้วย เพราะคงต้องเชียร์พี่ภพแล้วล่ะ
เข้าข้างน้องครีมไม่ได้จริง
พี่ภพ สู้ๆ นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ชอบประโยคสุดท้าย

ก็แค่วันธรรมดาทั่วๆ ไป  ที่เรื่องพิเศษๆ มักเกิดขึ้นเสมอ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เอิ่ม...หนักใจกับเงื่อนไขประหลาดๆพวกนี้แฮะ
รู้สึกหน่วงชอบกล

cutybuay

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอตอนใหม่  :m7:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 29 – บ้านพี่ขาดคนหุงข้าว

       
                 พวกเขาพากันกลับมาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ รถจอดอยู่หน้ารั้วบ้านสีขาวสองชั้นหลังเดิม ดุ๊กดิ๊กลูกรักของพ่อคิมกิมจิดันจมูกตัวเองออกมาผ่านช่องแคบ ๆ ใต้ประตูรั้วเหล็ก ฟาดหางลงกับพื้นตุบ ๆ พร้อมส่ายก้นไปมา จำได้ว่าเป็นเสียงเครื่องยนต์จากรถของสามภพ และเข้าใจผิด(หรืออาจจะถูก?)ว่าเป็นแขกสำคัญคนหนึ่งของเจ้านาย

                 คิมหันต์เปิดประตูก้าวขาลงจากรถ ไม่ลืมสะพายเป้ของตัวเองลงไปด้วย แต่กลับลืมว่ามือถือและกระเป๋าสตางค์ยังไม่ได้คืน สภาพงัวเงียขี้ตาอยู่บ้างด้วยช่วงท้ายของเส้นทางนั้นหลับปุ๋ยมาเกือบตลอด ส่งเสียงทักทายสัตว์เลี้ยงขนทองด้วยความคิดถึง “ไง..ลูกพ่อ”

                 หมาอ้วนได้ยินแล้วยิ่งระริกระรี้ ต่างจากคนเรียกที่ยกมือขยี้ตา อีกมือก็เกาหัวสีทองเป็นกระเซิงแกรก ๆ เดินตุปัดตุเป๋เข้าไปหา

               ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ประสาทเสียทั้งหมดกินระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวันกว่าเท่านั้นเอง เกินจากยี่สิบสี่ชั่วโมงที่สามภพประมูลได้มานิดหน่อย แต่คงต้องปล่อยเลยตามเลย ถือว่าชดใช้ที่เขาก่อเรื่องหนีออกจากโรงแรมเมื่อเช้าให้ต้องตามกันวุ่นวาย (เดี๋ยวสิ...นั่นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้าเองหรือ? เขานึกว่าผ่านมาได้สักสองสามวันแล้วเสียอีก) แม้เด็กหนุ่มไม่เห็นรู้สึกว่าอยากชดใช้ตรงไหน และหากสามภพไม่แจ้นตามมาเรื่องก็คงจบไปแล้ว แต่จะให้เป็นมนุษย์เถรตรง ยึดเวลาบ่ายโมงเป๊ะตามข้อตกลงแล้วหารถกลับบ้านเองก็ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่านัก

                 สามภพนั่งลังเลบนอยู่รถครู่ใหญ่ มองตามแผ่นหลังเด็กหนุ่มผมทองซึ่งเดินไปย่อตัวหน้าประตูรั้วบ้านตัวเองโดยไม่ยอมเปิดเข้าไป ยื่นมือทำอะไรสักอย่างกับหมารักซึ่งมุดจมูกออกมา เพ่งดูดี ๆ จึงเห็นว่ากำลังพยายามเอานิ้วอุดจมูกหมา จากนั้นเจ้าตัวก็หัวเราะร่าเมื่อเห็นว่าพ่อโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ออกอาการฟุดฟิดดันมือตัวเองออก หมาอ้วนผู้น่าสงสารไถลตัวไปด้านข้างจากอีกฝั่งรั้วโดยหน้ายังมุดออกมาเท่าที่จะทำได้

               "ไอ้เด็กเวร" ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า ช่างเป็นมนุษย์อะไรที่ขี้แกล้งแม้กระทั่งกับหมาตัวเองที่บอกว่ารักนักหนา เป็นประเภทยิ่งชอบยิ่งแกล้งหรืออย่างไรกัน

                 เขาตัดสินใจดับเครื่องยนต์ ชะเง้อไปอีกฝั่งเพื่อควานหาอะไรบางอย่างในลิ้นชักด้านซ้าย เคยเก็บไอ้นั่นไว้นานจนเกือบลืมไปแล้ว ไม่แน่ใจนักว่ามันจะยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า

                 “...อ๊ะ!”

                 สมุดเล่มเล็กสำหรับชอร์ตโน้ตตอนทบทวนหลังเรียนหล่นออกมาขณะกำลังรื้อของ ตามด้วยทัมป์ไดรฟ์ซึ่งเซฟไฟล์เนื้อหาเลคเชอร์จากอาจารย์และเขายังไม่ได้เปิดอ่านกระเด็นตามออกมา ส่วนสิ่งที่ต้องการนั้นอยู่ลึกสุดของลิ้นชักด้วยถูกยัดเอาไว้นานแล้ว

                 ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ก้มลงเก็บสมุดและทัมป์ไดรฟ์เข้าที่ ใบเสร็จอะไรสักอย่างซึ่งร่วงตามลงมาถูกโยนทิ้งลงถังขยะด้านหลัง ส่วนอีกมือถือห่อขนมบิสกิตยับย่นเอาไว้ จากสภาพห่อเดาว่าข้างในคงโดนทับแหลกไปมากทีเดียว ยืดตัวชะเง้อมองไปยังเด็กหนุ่มเจ้าบ้านซึ่งจนป่านนี้เพิ่งคิดเปิดประตูรั้ว มัวแต่แกล้งหมาอยู่นั่น

               ว่าแต่ลืมไปแล้วหรือเปล่า? เรื่องโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองซึ่งยังถูกเขายึดไว้อยู่เลย

                 “คิม!”
   
                เขาร้องเรียก เปิดประตูรถเดินตามลงไปพร้อมกับห่อขนมในมือ เจ้าของชื่อหันมามองตาขวางขณะที่เบียดตัวเองผ่านประตูรั้ว เปิดทางไว้แคบเพียงนิดเดียวกะว่าไม่ให้ใครนอกจากเจ้าตัวผ่านเข้าออกได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย ถ้าคิดอยากเข้าบ้าน คราวนี้ก็จะปีนรั้วเสียรู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องรอคนเรียกตำรวจหรือเอาหมาร็อตไวเลอร์มาไล่ฟัดให้เสียเส้น

                 “อะไรอีกล่ะ?”  คิมหันต์ถามกลับน้ำเสียงเซ็งโลก พอเบียดร่างตัวเองพ้นธรณีประตูเข้าไปได้ก็รีบลากรั้วปิดฉับ ลงกุญแจเอาไว้เสียเรียบร้อยพร้อมกับยักคิ้วกวน ๆ ใส่เขา

                 “มือถือไม่เอาแล้วหรือ?”
 
                “....”

                 เด็กหนุ่มทำหน้าเอ๋ออยู่แวบหนึ่งเหมือนคนยังไม่ตื่น หลังจากนั้นก็อ้าปากค้าง นึกขึ้นมาได้อีกว่านอกจากมือถือแล้วยังมีกระเป๋าสตางค์ (ที่ไม่ค่อยมีเงิน) เป็นตัวประกันอยู่ด้วย

                 “หรือจะฝากพี่ดูแลไว้ก่อน”

                 ดูทำพูดจาเข้า

                 “เอาของผมคืนมา” เขาว่าพลางยื่นมือลอดซี่เหล็กของประตูรั้ว ตาจับจ้องอีกฝ่ายอย่างคาดคั้น “ทั้งมือถือ แล้วก็กระเป๋า’ตังค์ด้วย”

                 ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านกับสายตาอีกฝ่าย เริ่มตระหนักได้ว่าความใจเย็นคือสิ่งจำเป็นทุกครั้งที่คุยกับคิมหันต์ เพราะถ้าผ่านส่วนน่าหงุดหงิดนี้ไปได้ เขารู้ดีว่ายังมีอะไรสนุก ๆ จากไอ้เปี๊ยกนี่ให้ดูอีกเยอะทีเดียว

                 “เปิดประตูให้พี่เอาเข้าไปคืนสิ”

                 อีกฝ่ายขมวดคิ้ว บ่นออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “คืนให้ผ่านรั้วก็ได้รึเปล่าวะ!?”

                 “พาเที่ยวตั้งเยอะ ขับรถก็ไกล” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไม่คิดจะชวนเข้าไปนั่งดื่มน้ำสักหน่อยรึไง?”

                 “ผมไม่ได้ขอให้พาไปสักหน่อยนี่หว่า”

                 คิมหันต์ยักไหล่ ทดสอบความอดทนเขาอีกระดับด้วยการกอดอกตบเท้าแปะ ๆ อย่างน่าหมั่นไส้ แต่ระหว่างนั้นก็ต้องคอยเขี่ยดุ๊กดิ๊กที่เข้ามาคลอเคลียเหมือนเป็นลูกแมวยักษ์จนยืนไม่ค่อยอยู่ไปด้วย เล่นเอาคะแนนความเท่ลดฮวบลงอีกหลายระดับ   

                 สามภพหัวเราะหึ ๆ  ช่างกล้าพูดว่าไม่ได้ขอ แล้วใครกันเมื่อวานนี้ที่ตะแง้ว ๆ ให้เขาพาแวะซานโตรินี่บ้าง เข้าตลาดซิคาด้าบ้าง แป๊บหนึ่งหิวน้ำ เดี๋ยว ๆ ก็จะกินอาหารทะเลริมหาด ข้อเรียกร้องเยอะตลอดแต่มาทำเป็นลืม ให้ตายเถอะเด็กอะไร

                 “อืม..ไม่ขอก็ไม่ขอ” เขาตัดบท พูดจบก็เดินเลี่ยงออกไปด้านข้าง ทันเห็นสายตาโล่งใจของคิมหันต์แวบหนึ่ง ก่อนตาชี้ ๆ นั่นจะเปลี่ยนเป็นเบิกกว้างเมื่อเห็นเขาเอามือคว้าขอบกำแพง ออกแรงโหนเพียงนิดหน่อยก็เหวี่ยงตัวเองขึ้นไปนั่งยิ้มกริ่มอยู่บนนนั้น มองลงไปยังเห็นหมารักของคิมหันต์ส่ายก้นดุกดิกสมชื่อ แลบลิ้นแหะ ๆ วนไปเวียนมาใต้ฝ่าเท้าอย่างขี้เล่น กระดี๊กระด๊าผิดกับเจ้าของลิบลับ หน้าตาเด็กหนุ่มบอกชัดเลยว่าคงอยากทำหน้าที่แทนสัตว์เลี้ยงด้วยการกระโจนงับแข้งเขาหลุดจากเข่าเต็มทีแล้ว

                 “ปีนทำไมอีกเนี่ย!” ไอ้เด็กแสบโวยวายทันควัน ยิ่งดูร้อนรนก็เหมือนลูกชายขนฟูสีทองจะยิ่งคึกคัก คราวนี้เลยพันแข้งพันขายกใหญ่ ทำเจ้าของเดินสะดุดหัวเกือบทิ่ม หากไม่ติดว่าคิมหันต์เอามือยันกำแพงไว้ทัน

              “โอ๊ะ!”

                 จังหวะเดียวกับที่เขากระโดดลงมาตรงหน้าในตำแหน่งเหมาะเหม็ง คาดการณ์ไว้แล้วว่าอยู่ในจุดซึ่งคิมหันต์กำลังถลาเข้ามาพอดี เรื่องบังเอิญอะไรไม่มีหรอก ใครจะเชื่อของแบบนั้น โอกาสมันต้องสร้างเองต่างหาก

               “.....”

                 เขายกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ตีหน้านิ่งขณะที่อีกฝ่ายเอาจมูกจิ้มมากลางอกเขาเพราะแรงส่งจากการสะดุดเมื่อครู่ มือทั้งสองข้างของคิมหันต์ยังค้ำกำแพง กลายเป็นอยู่ในท่าซึ่งดูคล้ายกับกำลังโอบเขาไว้ทั้งตัว

                สามภพกลั้นยิ้ม ..ตำแหน่งไม่เลวเลย

                 “ลวนลามพี่หรือ?” เขาถามเสียงขรึม ไม่เข้ากับความรู้สึกที่เป็นอยู่ขณะนี้สักนิด

                 “ห..ห๊ะ!?”

                 คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาเข้าพอดี กะพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้ง ก่อนพวงแก้มจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อพร้อมกับนัยน์ตาซึ่งเบิกกว้างขึ้นกว่าเก่า...กว้างขึ้นจนอดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงว่าเวลาปกตินั้นตาตี่ขนาดไหน

                 “บอกห้ามลวนลามนี่เพราะว่าตั้งใจจะทำเองใช่ไหม?”

                 “เชี่ย!”

                 เขาหัวเราะใส่เด็กหนุ่มซึ่งผงะถอยหลังออกห่างทันทีที่ตั้งตัวติด (ซึ่งก็กินเวลาพอสมควรทีเดียว) แถมแทนที่จะถอยไปดี ๆ ยังผลักเขาไปชนกำแพงเสียอีกแน่ะ กรรมติดจรวดเลยทีเดียวเพราะถอยไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็สะดุดหมาอ้วนซึ่งยืนแลบลิ้นแหะ ๆ รออยู่ข้างหลัง เสียท่าลงไปนั่งแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ผมสีอ่อนซึ่งล้อมกรอบใบหน้าอยู่ยิ่งขับให้เห็นชัดว่าสีผิวแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

                 “ลุกเร็วเด็กน้อย” สามภพเดินตามเข้าไปเจตนาจะช่วยเหลือ ยื่นมือตัวเองออกไปให้อีกฝ่ายจับ แต่คิมหันต์กลับมองค้อนมายกใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง ทำฟอร์มปัดฝุ่นออกจากกางเกงแบบหล่อ ๆ  จากนั้นจึงหันไปชี้หน้าคาดโทษกับลูกชายสุดรักพร้อมกับส่งเสียงบ่น 
   
                 “ไอ้หมาเวร!”

                 คนมองส่ายหน้าขำ ๆ ถอยไปสะดุดมันเองยังมีหน้ามาโทษหมาอีก

                 “ดุ๊กดิ๊ก...มานี่มา” ชายหนุ่มดีดนิ้วเรียกโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ซึ่งจะทำหน้าจ๋อยตอนโดนเจ้านายดุสักหน่อยก็ไม่มี พอเห็นสิ่งที่เขาล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วถึงกับระริกระรี้เข้าหา น้ำลายหยดแหมะลงพื้นอย่างไม่เก็บอาการสักนิด ไม่รู้เลี้ยงกันอย่างไรกลายเป็นหมาเอ๋อน้ำลายยืดใครเรียกก็ส่ายก้นเข้าใส่แบบนี้  “มา ๆ กินดี ๆ หนุ่มน้อย”

                คิมหันต์จ้องทั้งคนทั้งหมาทรยศตรงหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แสนปวดหัวกับไอ้ลูกชายของตัวเอง ถ้ามีโจรจะขึ้นบ้านแล้วเอาขนมปังกรอบมาล่อมันคงรีบคาบกุญแจมาให้ไขเข้าง่าย ๆ  ไหนจะยังแขกไม่ได้รับเชิญหน้าโหดนี่อีก ทีกับเขาเรียกไอ้เด็กเปรตบ้างละ ไอ้ตี๋เกรียนบ้างละ ไอ้เปี๊ยกไอ้แสบอย่างนั้นอย่างนี้ พอเห็นลูกชายสุดหล่อ(น้อยกว่าตัวเองนิดหน่อย)ของเขา มาทำเรียก ‘หนุ่มน้อย’  น่าขนลุกสุด ๆ
   
                 “แหวะ! หนุ่มน้อย” เขาดัดเสียงล้อเลียนแล้วบ่นต่องุบงิบ “ไอ้หมาตะกละต่างหาก!”

                 “เจ้าของเป็นไง สัตว์เลี้ยงก็อย่างนั้น” สามภพเปรยขึ้นลอย ๆ  ย่อตัวลงเกาหูสิ่งมีชีวิตอ้วนใหญ่ขนทองที่ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าถูกยกมาเป็นประเด็น สนแต่เรื่องกินตรงหน้า ไม่ถึงอึดใจก็ฟาดขนมที่เขาเอามาเสียเกลี้ยงแถมยังทึ้งห่อพลาสติกไปนั่งเลียท่าทางเปี่ยมสุข

                 “งั้นสัตว์เลี้ยงพี่คงสติไม่ดี”

                 ชายหนุ่มเหลือบมองเจ้าของปากมอมซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า จริงเลย...ห้ามลวนลามแต่ไม่ได้ห้ามต่อยหน้าแหกใช่ไหม หากเป็นคนอื่นมาพูดจาอย่างนี้คงได้มีเรื่องกันไปแล้ว

                 “เรานี่มัน...” 

                 เขาโคลงศีรษะอ่อนใจ ต่อให้กวนประสาทขนาดไหนก็ต่อยไม่ลงแล้วตอนนี้ ทำเมินหันไปคุยกับก้อนขนสีซึ่งหมอบอยู่ข้าง ๆ “ดุ๊กดิ๊ก เจ้านายแกปากหมาว่ะ อยากเปลี่ยนพ่อไหม?”

                 หมาร่างอ้วนไม่ตอบ แต่เลียไม้เลียมือเขาแทน ดูเป็นสัญญาณอันดี ร้อนถึงเจ้าของตัวจริงต้องรีบเข้ามาดึงปลอกคอพาจูงไปทางเข้าบ้านตัวเองพร้อมกับประกาศอ้างสิทธิไปด้วย

                 “นี่ลูกชายผม!”

                 เขาลุกขึ้นเดินตาม ขณะที่เด็กหนุ่มก็รีบตบสะโพกดุ๊กดิ๊กให้รีบไปสะบัดก้นวิ่งตามไปถึงประตูบ้าน อดขำกับท่าทีขี้หวงไม่ได้ “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

                 “พี่บอกจะเป็นพ่อมันอยู่นั่นไม่ใช่รึไง!?”

                 “งั้นเราก็เป็นแม่แทนสิ”

                คนฟังถึงกับสะดุดขาตัวเองอีกรอบ    “...อ...ไอ้พี่เพี้ยน! แม่งพูดเชี่ยอะไร!”

                 สามภพหัวเราะในลำคอพลางยักคิ้วล้อเลียน “จีบไง ไม่เข้าใจหรือ? ทำไมหัวช้านัก” 

                 คิมหันต์เหวอไปอีกครู่หนึ่ง แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่าเขาก็เสียพลังชีวิตไปกับคำพูดตัวเองไม่น้อย เอ่ยถึงตรงนี้แล้วรู้ตัวเลยว่าหน้าร้อนนิดหน่อยแต่ยังเก็บอาการได้ดีอยู่ เผลอเกร็งนิ้วเท้าเสียแน่นในรองเท้าผ้าใบ พูดเองใช่ว่าไม่อาย เกิดมาไม่เห็นเคยต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้เพื่อจีบใครหน้าไหน แต่มาไกลถึงนี่คงต้องบอกว่าช่างหัว อายกว่านี้กับเรื่องไอ้แสบตรงหน้าก็เจอมาแล้วไม่รู้เท่าไร

                 หลังจากเสียเวลาตั้งหลักอยู่อีกอึดใจ เด็กหนุ่มจึงส่ายหน้าเพลีย ๆ พยายามควบคุมอาการให้เป็นปกติพร้อมกับโบกมือไล่ “เอาของผมคืนมาแล้วพี่กลับบ้านไป”

                 “เดี๋ยวก็กลับแล้ว” เขาตอบอย่างขอไปทีแล้วเดินมายืนรออยู่ข้างอีกฝ่าย จ้องมองมือซึ่งกำลังไขกุญแจประตูบ้าน ถูกล็อคเอาไว้จากข้างนอกเช่นนี้บอกให้รู้ว่าตอนนี้คงไม่มีคนอยู่  “แล้วพี่สาล่ะ?”

                 “อยู่ร้าน มืด ๆ ก็กลับ”

                 “ปกติเราอยู่คนเดียวประจำหรือ?”

                 คิมหันต์เงียบไป ผลักประตูบ้านเปิดออกแล้วหันมาจ้องเขาอย่างหวาดระแวง “ทำไม? คิดอะไรไม่ดีอยู่รึไง”

                 “นี่เห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย”

                 “พี่ไม่อยากรู้หรอกเชื่อดิ”

                 “เลวร้ายขนาดนั้นเชียว?”

                 เด็กหนุ่มไม่ตอบ ทำเพียงแต่แสดงสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะเดินนำเข้าบ้าน สั่งห้ามดุ๊กดิ๊กที่เนื้อตัวยังมอมแมมให้รอข้างนอกพร้อมสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าเดี๋ยวมาเลี้ยงมื้อเย็น จากนั้นจึงหันมาเอ่ยทวงกับเขาอีกรอบ “มือถือกับกระเป๋าสตางค์ผมล่ะ?”

                 “เดี๋ยวคืน” เขาผัดผ่อนไปเรื่อยแบบเสียมิได้ เรียกเสียงจิ๊ขัดใจจากคนฟัง ระหว่างที่เขาถอดรองเท้าเดินตามเข้าไปในบ้านอย่างถือวิสาสะ

               คิมหันต์เปิดไฟจนสว่างโร่ทั้งห้องโถง ดึงม่านหน้าต่างทุกบานในห้องนั้นเปิดจนสุด ชี้แจงเจื้อยแจ้วไปด้วยว่าเผื่อมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นคนข้างนอกจะได้เห็นและอาจบุกเข้ามาช่วยได้บ้าง หรืออย่างน้อยโทรแจ้งตำรวจให้หน่อยก็ยังดี ซึ่งเขาว่าความคิดคิมหันต์บางทีก็เพี้ยนยิ่งกว่าที่เจ้าตัวชอบว่าเขาเสียอีก

                 “นี่..” สามภาพร้องเรียก แต่โดนอีกฝ่ายตัดหน้าขึ้นก่อน

                 “นั่งตรงนี้ อย่าเพ่นพ่าน” เด็กหนุ่มชี้ไปยังโซฟาซึ่งเหมือนจะเป็นตำแหน่งโปรดของเจ้าตัว (สามภพยังนึกไม่ออกว่าแล้วคิมหันต์ไม่โปรดโซฟาตัวไหนบ้าง) ใช้รูปประโยคเหมือนสั่งสัตว์เลี้ยงได้น่าเตะเป็นที่สุด โดยเฉพาะเมื่อรวมเข้ากับสีหน้าเบื่อโลกแต่ยังไว้ลายเรื่องกวนโมโหขณะเอ่ยปากถามต่อ “หิวยัง จะกินอะไร?”

                 เมื่อกี้ฟังผิดไปหรือเปล่า

                 “หืม?”

                 “ถามว่าจะกินอะไร?” ถ้อยคำอีกฝ่ายเริ่มขยับเป็นโทนเสียงสูงประหลาดหู ยกมือขึ้นเท้าเอวอย่างเหลืออด จ้องดี ๆ จึงเห็นสีแดงจางแต้มบนใบหน้ามู่ทู่ “ไม่กินก็เอาของผมวางไว้บนโต๊ะแล้วกลับบ้านซะ!”

                 “ทำอาหารเป็นหรือ?”

                 “อุ่นเป็น” คิมหันต์ยักไหล่ เสมองไปทางอื่น “แล้วก็ทอดไข่เป็น.. ต้มไข่ได้ ต้มมาม่าอร่อย..แฮ่ม..! ประมาณนั้น”

                 สามภพกลอกตา อดหัวเราะละเหี่ยใจออกมาไม่ได้ "ได้แค่นี้ยังกล้าถามว่าจะกินอะไร ถ้าบอกอยากกินหูฉลามน้ำแดงจะมีปัญญาทำให้ไหม?”
     
                 “เรื่องมากแม่งก็ทำเองไปเลยปะ!?”

                 “ก็ได้” เขาพยักหน้าเออออ ถือโอกาสวางโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ที่เจ้าของเรียกร้องขอคืนไว้ที่มุมโต๊ะกระจกใกล้ตัว ก่อนจะลุกเดินตามไปที่ทางเข้าห้องครัว มองสำรวจเห็นตู้เย็นยังอยู่ที่เดิมจึงปรี่เข้าไปหา “มีอะไรอยู่บ้างล่ะ?”

                 “เฮ่ย ๆ ๆ เดี๋ยวก่อน” คิมหันต์รีบพุ่งเข้าขวาง ไม่รู้ว่าตัวเองขัดแข้งขัดขาอีกฝ่ายทำไมนักหนาเหมือนกัน แต่เห็นแล้วมันอดค้านไม่ไหวอยู่เรื่อยไม่ว่าสามภพจะทำอะไร “ผมหมายถึงให้ไปทำกินเองที่บ้านพี่”

                 “อะไรเนี่ย” ชายหนุ่มปราศจากทีท่าจะฟังเขาพูดแม้สักนิด ก้มหน้ามุดหายไปในช่องเก็บของในตู้เย็น น่ายันโครมเข้าไปแล้วปิดฝาตู้นักเชียว “...มีกะหล่ำปลี..แล้วก็..ถุงเปล่า? หืม...หมดแล้วหรือ”

                 “ตาหรือตูด! ต้องมีอีกดิ” ปากไวรีบค้านไปแล้วเรียบร้อย พูดอะไรมาก็ค้านหมดนั่นแหละ หมั่นไส้

                 สามภพขุดวัตถุทรงเหลี่ยมออกมาได้อีกหนึ่ง “อีซี่โก”

                 “กินไอ้นั่นแหละง่ายดี” เขาพยักพเยิดให้อีกฝ่ายส่งข้าวกล่องมา “ผมเอาข้าวผัดปู”

                 “ไม่เอาละ กินจนเบื่อ” สามภพบอกปัดแล้วจับมันยัดเข้าที่เดิม

                 “แล้วมันใช่ธุระผมต้องหาอะไรที่พี่ชอบให้กินไหมเนี่ย!”
   
                 “ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มหันไปยิ้มชอบใจ ลูบผมทองสว่างของอีกฝ่ายแปะ ๆ “เดี๋ยวหาเอง ไปนั่งรอดี ๆ”

                 เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว..เริ่มข้องใจว่าตกลงนี่บ้านใครกันแน่!?   มัวแต่ยืนบ่นหงุงหงิงอยู่ที่เดิมจนสามภพคงเห็นว่าเขาเกะกะ จะเปิดประตูตู้เย็นก็ทำได้ไม่สุด จึงได้ลุกขึ้นหาเก้าอี้แถวนั้นตัวหนึ่ง ลากมาไว้ใกล้ ๆ แล้วกดไหล่เขาให้นั่งลงพร้อมคำสั่งชวนเจ็บจี๊ด

                 “นั่งนี่ อย่าเพ่นพ่าน”

                 “อะไรวะเนี่ย!?”

                 “ไม่งั้นก็ไปหุงข้าว”

                 “ห๊ะ!?”

                 “หุงข้าว ทำเป็นไหม?”

                 คิมหันต์ส่ายหัวดิก ลุกขึ้นมาเบียดเขาหน้าตู้เย็น “ผมไม่ทำเรื่องยุ่งยากอย่างนั้นหรอก เอาข้าวกล่องมาอันนึง”

                 “กินแต่ของอย่างนี้ไงถึงได้เตี้ย”

                 “เชี่ย!”

                 “แถมปากหมาด้วย”

                 “ไอ้เฮียเพี้ยน!”

                 “เอ้า ไปหุงข้าว”

                 ชายหนุ่มว่าพลางคว้าไหล่คิมหันต์ไว้แล้วแงะเจ้าตัวออกจากตรงนั้น ที่ต้องเรียกแงะเพราะอีกฝ่ายเกาะประตูตู้เย็นแน่นเป็นตุ๊กแกเลยเดียว กว่าจะแกะออกมาได้ก็ตอนตู้เริ่มเขยื้อนจนน่ากลัวว่าจะล้มนั่นเองเด็กหนุ่มจึงยอมปล่อยมือ

                 “ด..เดี๋ยวก่อนเด้!”

                 “เร็ว ๆ หิวแล้ว” เขาเร่ง แม้ความจริงมื้อเที่ยงสนนราคาสามพันกว่ายังไม่น่าย่อยหมดเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่รู้สึกอยากแกล้งเล่นเท่านั้นเอง ออกแรงจับเด็กหนุ่มพลิกตัวแล้วผลักเบา ๆ ไปทางหม้อหุงข้าว กำชับปิดท้ายให้กับสีหน้างงโลกเหมือนลูกหมาหลงในดงเพนกวินของคิมหันต์ 

               “ใส่น้ำไม่ต้องเยอะล่ะ พี่ไม่ชอบข้าวแฉะ”

   

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-




ยังมีต่อค่ะ
v
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2013 11:34:14 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ยกที่ 29 (ต่อ)




                 วัตถุดิบในตู้เย็นมีไม่มากนัก ท่าทางคนบ้านนี้คงไม่ค่อยได้ทำอาหารกินเองบ่อยเท่าไร ตัวเขาเองใช่จะมีฝีมือเรื่องเข้าครัวมากมายแต่ก็เคยทำมาบ้างเพราะออกมาอยู่นอกบ้านคนเดียวตั้งนาน และหลังจากฟังเมนูที่คิมหันต์อ้างว่าตัวเองทำได้ ชายหนุ่มก็เชื่อขึ้นมาทันทีว่าเรื่องนี้เขาน่าจะเหนือกว่าอีกฝ่ายแน่นอน

                 พอหุงข้าวเสร็จเจ้าบ้านก็หายตัวออกไปข้างนอก บอกว่าจะไปเลี้ยงลูกชาย ปล่อยเขาเงอะงะอยู่ในครัวให้ควานหาอุปกรณ์เอาเอง บอกอย่างปัดความรับผิดชอบว่าอยากหยิบอะไรก็รื้อ ๆ เอา อยู่แถวนั้นทั้งหมดนั่นแหละ จากนั้นก็ถลาออกไปฟัดกับหมา ส่งเสียงดังเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ

                 กว่าจะเสร็จเรียบร้อย ฟ้าก็มืดพอดี ข้างนอกฝนเริ่มตกปรอย ๆ ดับอากาศอบอ้าวอันดำเนินมาเกือบตลอดบ่าย อาหารมีแค่สามอย่างตามปริมาณวัตถุดิบในตู้เย็นและความพยายามในการปรุงของเขา (ซึ่งก็ไม่ได้มีมากนัก) พอยกไปตั้งไว้บนโต๊ะเสร็จปุ๊บ คิมหันต์ก็คล้ายจะล่องลอยตามกลิ่นมาโดยไม่ต้องเรียก เนื้อตัวมอมแมมเป็นเด็กกลับมาเชียว เดินไปล้างไม้ล้างมือพอเป็นพิธีแล้วก็รีบแจ้นกลับมาเยี่ยมหน้ารอบจานอาหาร

                 “อะไร?”

                 คนที่ค้านหัวชนฝามาตั้งแต่แรก ตอนนี้กำลังทำจมูกฟุดฟิดอยู่เหนือโต๊ะ มองควันจาง ๆ สีขาวลอยกรุ่นเหนือจานชามซึ่งวางไว้บนนั้น เอาส้อมเขี่ยชิ้นกะหล่ำปลีในจานขึ้นมาอย่างสนอกสนใจ

                 “อันนั้นไส้กรอกทอด” สามภพชี้แจงเริ่มจากมุมสุดของโต๊ะ(แม้ไม่ต้องบอกก็เห็นอยู่ว่าอะไร) น้ำเสียงภาคภูมิใจเจืออยู่ในถ้อยคำ ก่อนจะหันมาทางจานที่เด็กหนุ่มกำลังเขี่ยอยู่ “แล้วนี่กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา เคยกินไหม?”

                 “เคยแล้ว ก็งั้น ๆ ละ” คิมหันต์ลอยหน้าลอยตา แม้เห็นชัดเลยว่ายังลอบชะเง้อมองจานที่สาม “แล้วนั่น..? ซากอารยธรรมอะไรอ้ะ”

                 ไอ้เด็กนี่ช่างบังอาจมาเรียกไข่ตุ๋นของเขาว่าเป็นซากอารยธรรม อุตส่าห์ใส่นมสดลงไปด้วยแบบที่มารดาเขาเคยบอก ถึงใช้ไมโครเวฟอบก็ทำเสียเนื้อเนียนขนาดนี้ ฟังแล้วอดไม่ได้จะเอานิ้วจิ้มหน้าผากจนคนพูดหน้าหงาย “ไข่ตุ๋นว้อย!”

                 เขานึกว่าอีกฝ่ายจะสวนกลับ แต่ผิดคาดที่เจ้าตัวกลับยิ้มเผล่พร้อมเสียงหัวเราะแหะ ๆ  ชิงเอาช้อนจ้วงไข่ตุ๋นขึ้นมายัดใส่ปากต่อหน้าต่อตาตั้งแต่คนทำยังไม่ทันได้ชิม

                 “โฮ่ย!! ฮ้อน!!!!”

                 จากนั้นก็พ่นพรวดออกมาเต็มมือตัวเอง ช้อนกระเด็นหล่นพื้น เศษไข่ตุ๋นชิ้นเล็ก ๆ บางส่วนร่วงตามลงไป พ่นลมออกทางปากฟู่ ๆ เพื่อระบายความร้อน ตะกละจนได้เรื่องเลยไง
   
                 “เด็กอะไรวะ” เขาขมวดคิ้วแต่ยังเผลอขำ “กินแม่งโคตรซกมก”

                 “ทำไมไม่เตือนก่อนเล่าว่าร้อน!”

                 “เห็นควันก็ควรจะรู้ไหม?” สามภพเอ่ยกลั้วหัวเราะใส่คนที่โบกมือพั่บ ๆ อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากแดงเจ่อขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนน่าสงสาร หันไปคว้ากระดาษทิชชูส่งให้ รู้สึกเริ่มสลับสถานะเจ้าบ้านและแขกกันจริง ๆ เสียแล้ว “เอ้า เช็ดให้เรียบร้อย”

                 เด็กหนุ่มยังมัวแต่โบกมือไปมา นัยน์ตาวาววับด้วยหยดน้ำคลออยู่น้อย ๆ ซึ่งคงดูดีกว่านี้มาก หากเจ้าของสายตาไม่ได้กำลังทำหน้ามุ่งร้ายเขาชนิดขัดกับสภาพตัวเองเช่นนี้ แล้วใครจะอดใจไม่หัวเราะลั่นได้ลง

                 “ขำบ้าอะไร?”

                 “มานี่” เขาไม่สนใจคำถาม กวักมือเรียกไอ้ตัวแสบ คงเป็นรอบที่หนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดล้านได้แล้ว (เวอร์ไปนิด เขารู้น่า) และถ้าเช่นนั้น นี่ก็จะเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดล้านเช่นกันที่คิมหันต์ไม่เคยเดินมาตามเขาบอกสักครั้ง จบลงที่ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหาเองอย่างทุกที “นิ่ง ๆ เลอะแก้มหมดแล้ว”

                 สามภพหยุดตรงหน้าอีกฝ่าย มือซ้ายจับด้านบนตรงกลางกระหม่อมไว้ให้เลิกขยับตัวยุกยิก ส่วนอีกมือซึ่งถือกระดาษทิชชูอยู่ยกขึ้นมาเช็ดเศษไข่ตุ๋นบนแก้มออกให้ สภาพดูไม่จืดเอาจริง ๆ ไม่อยากเชื่อว่าเขามาถูกใจอะไรไอ้เด็กเกรียนนี่ได้

                 คิมหันต์ตัวกระตุกนิดหน่อยตอนเขาเอามือไปแปะอยู่ข้างแก้ม ซึ่งช่วงนี้ดูจะอมชมพูติดสีเลือดฝาดอยู่ตลอดเวลาอย่างน่าสงสัย ออกท่าทางคิดขยับตัวหนีแต่ติดตรงมือเขาวางอยู่บนศีรษะ (คิดถูกจริง ๆ ที่จับไว้ก่อน) ว่าแต่อย่างนี้คงไม่เรียกลวนลามหรอกใช่หรือเปล่า?

                 “...ป..ปล่อยเว้ย!” พอเห็นว่าทำอะไรไม่ได้ก็เริ่มโวย “ผมเช็ดเองได้”

                 “หมดแล้ว” เขายิ้มน้อย ๆ ยักไหล่แล้วปล่อยมือออกมา กำลังจะพูดต่อก็ได้ยินเสียงท้องร้อง ‘โครกกก...กกก...’  ดังขึ้นขัดจังหวะ แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงท้องเขาในเมื่อยังไม่ได้รู้สึกหิวขนาดนั้น และอยู่กันตามลำพังเช่นนี้ ต้นเสียงก็คงมีแต่ไอ้แสบที่ยืนทำหน้าแดงก่ำอยู่นี่เอง

                 “หิวแล้วหรือ? ทำไมกินล้างกินผลาญงี้วะ”

                 “บอกแล้วไงว่าเด็กกำลังโต” คิมหันต์ก้มหน้างุดพลางแถไปเรื่อย ยกมือขึ้นลูบท้องตัวเองป้อย ๆ

                 “ข้าวสุกยัง ไปตักมาดิ”

                 ยังพูดไม่ทันจบอีกฝ่ายก็เผ่นแผล็วหายเข้าครัวเหมือนอยากหลุดจากตรงนี้เต็มแก่ ครู่เดียวก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับจานในมือสองใบ วางมันลงบนโต๊ะส่ง ๆ แล้วผลักใบหนึ่งในนั้นมาทางเขา ไอสีขาวลอยม้วนวนขึ้นมา พร้อมกับกลิ่นหอมกรุ่นที่ขนาดไม่ได้หิวมากก็ยังรู้สึกท้องไส้พร้อมใจกันเรียกร้องหาอะไรมาเติม
   
                 เจ้าบ้านผู้ยกจานข้าวมาวางไม่เอ่ยชวนอะไรสักคำ พอขยับเก้าอี้นั่งลงได้ก็รีบก้มหน้าก้มตาโซ้ยแหลกทันที จะบ่นว่าแล้งน้ำใจก็พูดได้ไม่เต็มปาก ในเมื่ออุตส่าห์ตักข้าวมาเผื่อด้วย สามภพเห็นท่าอีกฝ่ายสนุกสนานกับการกินแล้วให้แอบกระหยิ่มในใจ อย่างน้อยเขาก็ค่อนข้างเชื่อมั่นฝีมือตัวเองพอสมควร แถมท่าทีสวาปามนั้นก็ทำเอาความมั่นใจไหลมาเทมาเสียยกใหญ่

                 ชายหนุ่มระบายลมหายใจยาวเหยียดออกมาหนึ่งเฮือก ทั้งเอ็นดูทั้งมันเขี้ยวคนตรงหน้า ถ้าจะคุยกันดี ๆ ได้อย่างนี้ไปเรื่อย อนาคตมีแนวโน้มว่าค่อนข้างสดใสทีเดียว

               เขาส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มบางบนริมฝีปาก หยิบช้อนส้อมขึ้นมาก้มลงเขี่ยข้าวในจาน แต่พอมองให้ชัด ๆ เท่านั้น รอยยิ้มอิ่มเอมกลับหายวับไปราวกับมีคนลอกมันออกจากใบหน้าเขาฉับพลัน

                 “คิมหันต์..นี่อะไร”

                 เจ้าของชื่อเหลือบตาขึ้นมองเล็กน้อย ปากเคี้ยวไข่ตุ๋นตุ้ย ๆ แต่ยังมองเห็นรอยยิ้มมุมปาก บางทียิ้มบนใบหน้าเขาที่โดนลอกออกไปคงถูกเอามาแปะไว้บนหน้าไอ้ตี๋นี่เอง

                 “ข้าวไง”  คิมหันต์ตอบเสียงอู้อี้

                 “ทำไมแฉะเป็นข้าวต้มงี้วะ!” เขาบ่นแล้วตักมันขึ้นมาดูใกล้ ๆ  เอียงช้อนหน่อยเดียวก็ข้าวหล่นแหมะลงไปกองรวมกันในจานเหมือนโจ๊กข้นคลั่ก “บอกแล้วไงว่าอย่าใส่น้ำเยอะ”

                 เด็กหนุ่มทำตาแป๋ว ส่งยิ้มใสซื่อผิดเวล่ำเวลาเป็นที่สุด “จะจีบผมอะ ไม่รู้หรือว่าผมชอบกินข้าวนิ่ม ๆ”

                 สามภพกุมขมับ จากนั้นก็ยกมือเลยขึ้นเสยผมอย่างปลงตก นึกขุ่นเคืองตัวเองที่หวังมากไปหน่อยว่าจะญาติดีกับคิมหันต์ได้ในเร็ววัน ประเมินเด็กนี่ต่ำเกินไปครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่รู้จักเข็ด

                 “น่า ๆ กินเหอะ” ไอ้ตัวแสบยังยิ้มยียวนเหมือนจะช่วยย้ำ แถมยังเอื้อมมือมาตบไหล่เขาป้าบ ๆ อีก “พี่ก็แก่แล้ว กินข้าวงี้แหละได้ไม่ลำบากฟันปลอม”

                 “ไอ้เด็กคิม!”

                 “ครับลุง” คิมหันต์เอ่ยรับกระตือรือร้น ไข่ตุ๋นชิ้นสุดท้ายถูกตักออกไปต่อหน้าต่อตา เหลือแต่ถ้วยเปล่าโดยที่เขาซึ่งเป็นคนทำยังไม่ได้ชิมสักแอะ

                 “ไอ้เกรียน!”

                 เด็กหนุ่มยักไหล่ งาบไข่ตุ๋นคำสุดท้ายเข้าปากสีหน้าเคลิบเคลิ้ม “ทุกคนก็ว่างั้น”

                ".......”


                 หนทางความรักที่หลงคิดว่าสดใส ดูเหมือนจะกลายเป็นแค่แสงริบหรี่เสียแล้ว




   
- หมดยกที่ 29 -





-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-



ต้องให้เฮียร้องเพลง 'บ้านพี่ขาดคนหุงข้าว อยากให้เจ้าเป็นคนช่วยหุงงงง~'
//เพลงดักแก่สุด ๆ (ฮา)
พี่ภพทำอาหารเป็นนะคะ ไม่เก่งมากแต่อย่างน้อยก็กินได้กว่าอาตี๋เกรียน 5555

คราวนี้ลองมาแบบมีย่อหน้าดูค่ะ หวังว่าจะอ่านง่ายขึ้น (หรือเปล่านะ) แต่ถ้าชอบแบบเดิมมากกว่าบอกได้นะคะ ไม่รู้เอาไงดีจะได้อ่านสบายตากว่ากัน :D

ดูเหมือนหลายเสียงแอบขัดใจเรื่องเฮียโดนงดลวมลามน้อง คนเขียนก็ขัดใจค่ะ (อ้าว?) 5555
แต่ไม่ต้องห่วง ลวนลามไม่ได้มันต้องมีทางอื่นให้ก๊าวใจสิน่า ฮาา
คราวนี้มีของแถม หลังจากครั้งก่อนอู้ เลื่อนไปรีพลายถัดไปโลด

กอดฟัดคนอ่าน >w< ขอบคุณค่ะ  :กอด1: :L2: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2013 10:47:54 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ดูเดิ้ลจากตอนที่แล้ว



เพิ่งไปอ่านเจอความหมายของ 'จูบที่ข้อมือ' มาล่ะค่ะ หมายถึง 'ความปรารถนา ความอยาก ตัณหา'
//ทำไมพี่ภพเป็นคนแบบนี้~~~~~



อันนี้แอบเอาเฮียเพี้ยนมาวาดเล่นในธีมแฟนตาซี (ความจริงคือวาดส่งเว็บ tweeria ค่ะ ไม่รู้ใครเล่นบ้างหรือเปล่า) แฮร่ ๆ


หน้าโฉดตล๊อด =3=


ต่อด้วยสองเคะ คิมหันต์กับปิ่นหยก

เป็นเพื่อนกันเท่านั้นจริง ๆ นะคะตามเนื้อเรื่อง เป็นไงมาไงถึงรักกันนักไว้คงได้เขียนถึง แต่ถ้าจะจิ้นขำ ๆ ไม่ว่าอะไรค่ะ
//แอบเห็นมีจิ้นภพเจี๊ยบเยอะกว่าที่คิด เฮือก!

ว่าแล้วก็แปะนิดนึง สองเสะบ้าง สามภพกับอาทิตย์



พบกันตอนหน้าค่าาา ^o^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2013 13:47:18 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 อินุ้งคิม กวนทีนสม่ำเสมอ ยังงี้มันต้องให้น้องเผลอลวนลามพี่เขา
รึไม่ก็ให้พี่ภพทำเรื่องให้เป็นเหตุบังเอิญบ่อยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2013 23:54:56 โดย moredee »

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
โห อนาคตเฮียกำลังจะสดใส ดับวูบเพราะโดนเกรียนใส่ซ๊าง้านนนนนนนน   :laugh:  :laugh:  :laugh:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เกรียนได้คงเส้นคงวาจริงๆ  แต่ก็ชอบนะ ได้โปรดจงเกรียนต่ออีกเยอะๆ เฮียภพจะได้จัดหนักให้สักทีสองที

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด