● เล่ห์รักฤดูร้อน ●
ยกที่ 4 – ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก
“ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาครับ”
หัวเกือบทิ่มพื้นแล้วว้อย! ผลักลงมาอะไรนักหนา แรงผลักไสเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเมื่อเขาทำท่าจะไม่พูดอะไรต่อจนที่สุดแล้วต้องยอมเปิดปากตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ...ของถนัดแต่ใช่ว่าจะเต็มใจ
“ผมกังวลเกินไปหน่อยเรื่องความปลอดภัย พอดีอยู่บ้านคนเดียว แล้วพี่คนนี้ก็ทำตัวน่ากลัวมาก
อุ๊!”
ทีนี้ตามมาด้วยอะไรสักอย่าง เดาว่าเป็นสันมือฟาดลงที่ท้ายทอย ไม่ได้แรงอะไรแต่หงุดหงิดเป็นบ้า ไอ้คนไร้มนุษยธรรม! ตำรวจยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ยังจะมาทำร้ายร่างกายคู่กรณี “....ไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนพี่สาว” เขากัดฟันอ้อมแอ้มตอบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก่อนจะกระทืบส้นใส่รองเท้าผ้าใบไอ้เขี้ยวข้าง ๆ ไปด้วยหนึ่งที แล้วก็โดนฟาดลงมาอีกป้าบแลกกันคนละดอก อร๊าก! อดทนไว้คิมหันต์!
“เรื่องก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับ” สามภพเอ่ยขึ้นในที่สุด แขนล็อคคอเด็กหนุ่มผมทองไว้แน่น ดูผิวเผินเหมือนเริ่มเข้าใจกันดีน่าซาบซึ้งหากไม่นับเรื่องแรงรัดนั้นมากเกินระดับความสนิทสนมไปไกลโข “เด็กมันเข้าใจผิด”
“.....”
“ใช่ไหม....ครีม?”
เสียงแหบลอยอยู่ข้างหู เล่นเอาขนลุกซู่!
“ใช่ แต่ไม่ได้ชื่อครีม” ว่าแล้วก็กระทืบอีกที แต่คราวนี้โดนชักเท้าหนีออกไปทันควันเลยพลาดส้นกระแทกพื้นคอนกรีตแข็งโป๊กให้เจ็บใจเล่น คุณตำรวจอยู่ฟังเขาขอโทษขอโพยอีกสองสามครั้งก่อนจะถอยทัพกลับไปเมื่อได้รับคำสารภาพแบบแหลสดว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ เหลือทิ้งไว้เพียงเขา สามภพ กับหมาขนทองที่แลบลิ้นแหะ ๆ ยืนวังเวงบนซากปรักหักพังทางอารมณ์
เขายืนมองรถตำรวจเคลื่อนตัวห่างออกไป..ซึ่งคล้ายจะหิ้วหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเขาหายไปด้วย
“ปล่อยได้แล้วพี่!”
คำสั่งนั้นของคิมหันต์เหมือนไปกระตุ้นชายหนุ่มให้นึกได้ว่ายังล็อคคออีกฝ่ายอยู่ สิ้นคำนั้นปุ๊บก็รีบผลักร่างโปร่งออกห่างทันทีก่อนจะเอามือปัดตามเสื้อตัวเองประหนึ่งไม่อยากให้มีอณูความกวนประสาทสีทอง ๆ เกาะติดเสื้อผ้า เงยหน้าขึ้นอีกครั้งจึงได้เห็นว่าไอ้เด็กแสบซึ่งเซถลาไปชนกำแพงกำลังมองกลับมาท่าทางขุ่นเคือง และสามภพก็ไม่ลังเลสักนิดที่จะจ้องตากลับไปไม่ยี่หระ ในเมื่อสถานการณ์โดยรวมแล้วเป็นเขาต่างหากที่ต้องเคือง
“แล้วเรื่องรถจะเอายังไง” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก รวบรวมสติแล้วเริ่มบทสนทนาโลกแตกอีกครั้ง
“คิดเองดิ ปกติต้องมีคนเคี้ยวข้าวให้หรือเปล่า?”
ยัง..มันยังไม่สำนึก ไม่นับเรื่องปล่อยเขาโดนตำรวจพุ่งเข้าชาร์จ ล็อคแขนล็อคขาอยู่กับพื้นตั้งนานสองนานกว่าจะคุยกันรู้เรื่องอีก
“ก็ถ้าไอ้คนนั้นมันทำฟันคนอื่นใช้ไม่ได้ก็ควรมาเคี้ยวให้ไหม?”
คิมหันต์คล้ายจะเงิบไปนิดหน่อย แต่ยังขอลอยหน้าลอยตา “พูดอย่างกับผมเป็นคนปล่อยยางรถพี่”
“ไม่ใช่แกแล้วหมาที่ไหน”
ไอ้ดุ๊กดิ๊กส่งเสียงร้องงี้ดขึ้นกลางวงสามภพเริ่มหน่ายจะต่อล้อต่อเถียง มากกว่านี้อีกนิดอาจได้มีวางมวยแล้ว ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแสดงสัญญาณว่าใกล้หมดความอดทน ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองแล้วถามเสียงเคร่งขรึม “เบอร์อู่ล่ะ?”
“ทีเมื่อกี้เสนอให้ไม่เห็นสน” คิมหันต์เถียงกลับขณะที่จัดคอเสื้อตัวเองให้เรียบร้อยทำท่าจะหนีเข้าบ้าน
“อย่ามายึกยัก!”
ยังไม่ทันได้ชิ่ง ปกเสื้อซึ่งเพิ่งเข้าที่ก็โดนคว้าขึ้นไปหิ้วไว้อีกแล้ว มือใหญ่กำมันแน่นแล้วยกขึ้นสูงจนเขาต้องเขย่งปลายเท้าตาม สายตากดดันส่งมาถึงคมชัดทุกพิกเซลในระยะใกล้พอจะได้ยินคำขู่ที่แทบไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ
“เพราะความอดทนพี่มีไม่มาก แล้วบังเอิญว่าพี่ใช้มันใกล้หมดแล้วตอนคุยกับตำรวจ”
“เป็นแต่เรื่องใช้กำลังเข้าว่าเหรอ ไร้อารยธรรมว่ะ” เด็กหนุ่มยักคิ้ว และยังใจกล้าพอจะส่งยิ้มหยันไปปรากฏอยู่ตรงมุมปาก นี่มันบ้า...แต่ก็น่าเสี่ยง ยั่วโมโหคนแบบนี้ให้สติแตกน่าสนุกจะตาย อย่างน้อยเขาก็เป็นน้องชายของสิสิรซึ่งเป็นเพื่อนกับอันนา ไม่น่าถึงกับมีลงไม้ลงมือ
ใช่ไหม…?
วูบบบ...!!"เฮ่ย!!!"กำปั้นลุ่น ๆ เหวี่ยงเหนือศีรษะไปนิดเดียว รู้สึกได้เลยว่ามันเฉี่ยวปลายผมสีทองสว่างกระจุกบนสุดของเขาไปด้วย คิมหันต์นั่งขาสั่นอยู่กับพื้นด้วยความตกใจ ก้อนเนื้อในอกเต้นตูมตามเหมือนกลองที่มีคนเอาไม้รัวฟาด นี่ถ้าก้มหลบช้ากว่านี้อีกสักเสี้ยววินาทีเขาไม่อยากจะคิดถึงสภาพหนังหน้าตัวเองเลย
“ไอ้พี่ภพ!! แม่งเอาจริงเหรอวะ!!!?”“พี่ได้บอกสักคำหรือครับว่าพูดเล่น” ชายหนุ่มตอบกลับมาสีหน้าเรียบเฉย...เรียบเฉยเกินระดับความหงุดหงิดซึ่งเขาคาดไว้ว่าเจ้าตัวน่าจะกำลังรู้สึก และ ณ จุดนี้เขาเริ่มเหงื่อตกด้วยเดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายจะเอาอย่างไรต่อ ลุยมาอีกหมัดไหม หรือเมื่อครู่แค่ขู่...ไม่นะ...เหวี่ยงมาเต็มแรงอย่างนั้นเรียกว่าตั้งใจฆาตกรรมได้เลยนะ แล้วนี่พี่แกพอหรือยัง สถานะพร้อมเจรจาหรืออยู่ในแบทเทิลโหมด ทำไมดูมีรังสีอำมหิตคืบคลานไต่แข้งไต่ขาเหมือนแมลงลึกลับที่มองไม่เห็นตัวอย่างน่าประหลาด
เวรเอ๊ย...ไอ้เพื่อนรักตัวต้นเหตุมัวสวีทกับแฟนอยู่ที่หอพัก แล้วนี่เขากำลังใช้วันเสาร์แสนสุขสันต์ให้หมดไปกับเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย!
สามภพยืนรอ เมื่อครู่แค่ขู่เท่านั้นจึงได้พลาดเป้า จะให้ต่อยจริงคงกลายเป็นรังแกเด็ก แม้ยอมรับว่าอีกฝ่ายว่องไวใช้ได้ แต่ก็เห็นชัดว่าหมัดขู่ของเขาได้ผลดีทีเดียว
"ว่ายังไง?"
“รู้แล้ว” เด็กหนุ่มบ่นงุบงิบอย่างเสียมิได้ แต่รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ร่างกายเขาไม่ได้ถูกสร้างมาให้ต่อยตีกับหมาบ้า ก่อนจะมีการออกอาวุธอื่นตามมาเขาก็ชิงควานหาโทรศัพท์มือถือคู่ใจขึ้นมากดยุกยิก “เดี๋ยวหาเบอร์ให้” ว่าแต่เอาเบอร์ร้านขายโลงศพให้แทนได้ไหม หมั่นไส้!
“ไม่ต้องหา แกนั่นแหละโทร เดี๋ยวแม่งเอาเบอร์ร้านขายโลงมา”
แสนรู้เกินไปไหมครับเฮีย!! กรูตกใจจนจะเปลี่ยนจากตาตี่เป็นตาสองชั้นได้แล้ว“เร็ว! โทร หรือหน้าแหก” คอเสื้อโดนดึงจนตัวลอยหวือเป็นครั้งที่สาม ถูกใจอะไรเสื้อตัวนี้นักหนา อยากได้นักเดี๋ยวถอดให้เลย เขานิ่งใส่ออกอาการดื้อแพ่ง และโดนกดดันต่อด้วยบรรยากาศทะมึนพร้อมกับคำสั่งเสียงแข็งไร้ความสวยงามทางภาษา ปิดท้ายด้วยชื่อเรียกสยองรูหู “เลือกมา ครีม”
“พี่เพ้ออะไร!”เขาเกิดลูกฮึด สะบัดทีเดียวคอเสื้อหลุดจากมือพี่เขี้ยวตรงหน้า ย่อเข่าทิ้งน้ำหนักลงบนปลายเท้าด้วยฟุตเวิร์คแบบนักมวยแล้วทะลวงหมัดใส่หน้าไอ้พี่ภพเต็มครึ่งปากครึ่งจมูก ส่งร่างอีกฝ่ายซึ่งไม่ทันตั้งตัวเสียหลักกระเด็นไปกระแทกกำแพงไหลรูดหมดท่าลงกองกับพื้น ว่ะฮ่ะฮ่า!
“ฮัลโหล..ผมคิมเอง มีรถยางแบนสี่ล้อเลยอ้ะ......หา...ใช่ ๆ เปล่า ไม่ได้รั่ว....แบบว่าจุกยางหลุดไปอะเฮีย ไม่รู้ดิ จุกยางมันคงทะเลาะกับยางรถมั้ง เตียงหักแยกทางอะไรงี้....เฮ่ย เปล่ากวนตีน.......อื้อ หน้าบ้านผมนี่แหละ”
สามภพยืนพิงกำแพงอยู่ข้าง ๆ ดวงหน้าหล่อเหลาอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบ ฟันเขี้ยวด้านหน้ายังดูสวยดีตอนลอบยิ้มสะใจ ไม่ได้จูบหมัดแล้วถลาไปชนกำแพงแต่อย่างใด
แฮ่ม! ฉากต่อยสุดเท่เมื่อกี้แค่มโนภาพในหัวเขาน่ะ คนมันจินตนาการกว้างไกล
ตัวอย่างกับควาย น้ำลายฟูมปากเป็นหมาบ้า ใครจะโง่ไปหาเรื่องเอาชนะด้วยแรงวะ!................................................................
...............................
.
.
.
.
คิมหันต์ วานิชตระการกูล น้องชายคนเล็กที่หล่อสุดในบรรดาพี่น้องเพราะเป็นผู้ชายคนเดียว(แต่อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้น) วันนี้ดำรงตำแหน่งเจ้าบ้านอย่างเป็นทางการ
วัสสานะ ผู้เป็นพี่สาวคนโตหรือเจ้ใหญ่ของเขาไปเฝ้าร้านยาตั้งแต่เช้าบอกว่าคืนนี้จะไม่กลับบ้าน สิสิร พี่สาวคนรองกลับหอพักที่มหาวิทยาลัยกับอันนาไปแล้วหลังแยกกันที่ร้านเค้ก บ้านน้อยสองชั้นสีขาวซึ่งขับไล่สามภพออกไปได้แบบทุลักทุเลเมื่อตอนบ่าย เวลานี้มีเพียงความสงบสุขอันประกอบด้วยปัจจัยสองอย่างคือเขาและไอ้ดุ๊กดิ๊ก
หลังจากจับมันอาบน้ำ(เหนื่อยบรรลัย...ตัวโตเป็นหมา...เออ...มันเป็นหมา) เช็ดตัว เป่าขน ลูบโลชั่นบำรุง แล้วเปิดประตูให้มันวิ่งระริกระรี้เข้าบ้าน วนเวียนไปทั่วอยู่สองสามรอบก่อนจะกระโจนขึ้นนอนขดบนโซฟาตัวโปรดของเขา เด็กหนุ่มก็ปล่อยไอ้อ้วนขนทองเบียดกระแซะเขาอยู่บนโซฟาซึ่งใช้นอนอ่านหนังสือเรียนสลับกับหันมาเกาหูให้ไอ้ลูกชายเป็นระยะ
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนฟ้าเริ่มมืด ท้องเริ่มร้อง สมาธิขาดช่วงเพราะถูกแทรกด้วยความคิดว่าค่ำนี้จะกินอะไรดี ลุกขึ้นเกาพุงเดินตรงไปทางตู้เย็น ก่อนเสียงคุ้น ๆ จะดังขึ้นจากหน้าบ้าน
"คิม!"
และความสงบสุขในค่ำวันเสาร์ของเขาก็จบลงตรงนี้“คิมหันต์!”
เขาอยากทำเบลอใส่เสียงนั้น เพราะสมองดันระบุตัวตนเจ้าของเสียงได้แล้วตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นหน้า ไอ้พี่ภพ! มันกลับมาทำไมอีก
"ไอ้คิม!"
เขาเปล่าจุดธูปเรียกนะ!
“น้องครีม!”และหลังจากวีออสสีบรอนซ์คันนั้นก็ไม่ได้ไปปล่อยลมยางใครแล้วด้วย!
ช่างเหอะ ทำหูทวนลมซะ เดี๋ยวก็ไป ...นั่น..เงียบแล้ว
ติ๊งหน่อง…เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง
ติ๊งหน่อง....ติ๊งหน่อง....ไอ้ดุ๊กดิ๊กงัวเงียขึ้นจากโซฟา เดินส่ายก้นมายืนข้างเจ้าของที่หน้าประตู
ติ๊งหน่อง
ติ๊งหน่อง
ติ๊งหน่อง
ติ๊งหน่อง
ติ๊งหน่อง
“เว้ยยยย!!!!” ท่าทางจะรัวมันมือ สงสัยบ้านจนไม่เคยเล่นออด คิมหันต์สติขาดผึงในบัดดล เปิดประตูบ้านเดินจ้ำพรวดพราดผ่านสวนขนาดย่อมไปหยุดอยู่หน้ารั้วโดยมีหมาวิ่งตามหลัง เห็นหน้านิ่งสนิทของอีกฝ่ายขณะที่ยังเอานิ้วจิ้ม ๆ อยู่กับออดหน้าบ้านแล้วไมเกรนจะขึ้น
“พี่มาทำอะไรอีกวะ!"
“หาที่นอนคืนนี้”
เขาส่งสายตาว่างเปล่ากลับไป นี่บ้านเขาติดป้ายว่าเป็นโรงแรมตั้งแต่เมื่อไหร่??
“ไม่มี”
“เปิดประตู”
“บ้าเปล่า! กลับไปนอนบ้านพี่ดิวะ!”
“รถซ่อมแอร์ด้วยเลย ที่อู่บอกพรุ่งนี้ถึงได้”
“พี่ก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปเด้!!”
“พี่ไม่ชอบขึ้นรถเมล์” ชายหนุ่มให้เหตุผลพร้อมกับยักไหล่
"แท็กซี่ไง! หรือไม่ก็เดินกลับ อยากคลานกลับก็ได้เอ้า!"
“เปิด ไม่งั้นจะปีนรั้วเข้าไป”
“ปีนรั้ว?” เด็กหนุ่มหรี่ตา ทำหน้าล้อเลียน “แล้วผมก็โทรแจ้งตำรวจอีกรอบ”
“รอบที่สอง บ้านหลังเดิมในวันเดียวกัน...เคยฟังเรื่องเด็กเลี้ยงแกะไหม...?” สามภพยิ้มเย็น ยกมือสองข้างขึ้นยึดกับขอบกำแพง ออกแรงโหนตัวเพียงเล็กน้อยก็เอาขาขึ้นไปพาดได้สำเร็จ ก้มลงมองคิมหันต์ที่อ้าปากค้างอยู่เคียงคู่กับหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก่อนจะหย่อนตัวลงมาด้านในของบริเวณบ้าน “น้องครีมผู้ใสซื่อคิดว่าเขาจะมาไหมครับ?”
“ไอ้พี่ภพ! บุกรุกบ้านคนอื่น” เด็กหนุ่มคาดโทษขณะที่พยายามสงบสติอารมณ์ คิดไว้ว่าพี่สาวคนโตกลับมาต้องคุยกันเรื่องหาเศษแก้วมาโบกติดกับกำแพงบ้านแล้ว แต่ตอนนี้เอาไงกับผู้บุกรุกตรงหน้านี้ก่อนดี
เอาละ...เย็นไว้ คิมหันต์หายใจเข้าออกช้า ๆ ออกซิเจนจะได้เข้าปอดแลกเปลี่ยนก๊าซสู่กระแสเลือดเผื่อสมองจะแล่นกว่านี้ ปลายนิ้วหมุนโทรศัพท์มือถือตัวเองพลิกไปมา จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม บางทีถึงไม่มีไพ่อยู่ในมือแต่ทำให้คนอื่นเชื่อว่ามีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เข้าท่า
“ผมถ่ายคลิปตอนพี่ปีนเข้ามาไว้ มีหลักฐานอย่างนี้พี่ว่าเขาจะเชื่อไหมล่ะ”
ชายหนุ่มชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที หลังจากนั้นก็แสยะยิ้มกลับมา
“ขอบใจที่บอกว่ะ”
โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เครื่องมือสื่อสารที่เขาอ้างว่าถ่ายคลิปเอาไว้ก็โดนกระชากไปต่อหน้าต่อตา ที่บอก
‘อ้างว่า’ เพราะความจริงเขาไม่ได้ถ่าย มัวแต่ตกใจอยู่ใครจะหยิบมาถ่ายทัน ตั้งใจว่าแค่ขู่เท่านั้นเอง พอสิ่งนั้นไปอยู่ในมือสามภพความลับในประโยคดังกล่าวก็แตกดังโพละออกมาทันที
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอ่านโกหกผู้ใหญ่” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ เมื่อเอาโทรศัพท์มาดูแล้วไม่เห็นจะมีคลิปอะไรอย่างที่ว่า ถือวิสาสะเลื่อนไปรูปอื่นในอัลบั้มก็เห็นแต่รูปถ่ายหน้าตาประหลาดของเจ้าของมือถือและคนอื่น ๆ ซึ่งเขาไม่รู้จักนอกจากไอ้ดุ๊กดิ๊ก มีที่คุ้นหน้าบางคนเหมือนจะเป็นน้องชายอันนาและแฟนของเด็กนั่นแต่เขาไม่ได้สนใจนัก เลื่อนไปเรื่อยจนสายตาสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างที่ทำให้หลุดเสียงหัวเราะออกมา
“..หึ..”
รูปนี่อะไร เสื้อกล้ามชมพูแปร๊ด หัวทอง มัดจุกทรงต้นมะพร้าว ใช้ยางรัดผมรูปสตรอเบอร์รี่แบบเดียวกับหมาแล้วถ่ายรูปยิงฟันคู่กัน คิดยังไงถึงกล้าเก็บเอาไว้ในมือถือ
“เฮ่ย! แกนี่ฮาใช้ได้ว่ะ”
เขาหันไปส่งสายตาเวทนาใส่เด็กหนุ่มตัวเป็น ๆ คนเดียวกับในรูปซึ่งตอนนี้กำลังเหวี่ยงมือไม้พยายามเอาเครื่องมือสื่อสารของตัวเองคืน แต่น่าสงสารที่ด้วยส่วนสูงซึ่งเสียเปรียบอยู่ไม่น้อยจึงถูกเขายันหน้าผากไว้ง่าย ๆ ด้วยมือข้างเดียว และระหว่างที่ตัวประกันยังอยู่ในอำนาจเขา ความคิดอะไรบางอย่างก็แวบขึ้นมาในหัว
“เอาคืนมา!!”
ชายหนุ่มทำหูทวนลม เปิดแอพพลิเคชันสำหรับแช็ืทยอดฮิตขึ้นมาจากโทรศัพท์ของคิมหันต์ จัดการเซิร์จหาไอดีของตัวเขาแล้วแอดไป หลังจากนั้นก็ส่งรูปที่ว่าหาตัวเอง
“ไอ้พี่ภพ! หูหนวกรึไง!”
ไอ้หมาน้อยยังโวยวายไม่หยุด เอาหัวดันสู้มือเขาอย่างน่าหัวเราะ สามภพรอจนแถบสีเขียวขึ้นเต็ม การส่งไฟล์สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยจึงส่งมือถือคืนให้เจ้าของซึ่งรีบตะครุบราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า และสีหน้าตื่นตะลึงของเจ้าตัวเมื่อเห็นหลักฐานซึ่งค้างอยู่บนหน้าจอว่าเขาทำอะไรลงไปก็ให้ความมั่นใจกับชายหนุ่มว่าคืนนี้เขามีที่นอนฟรีแน่ ๆ อาจจะรวมถึงอาหารเย็นและมื้อเช้าวันรุ่งขึ้นด้วย ก็ดีเพราะเขาขี้เกียจเทียวไปเทียวกลับ รอจนแอร์รถยนต์ซ่อมเสร็จพรุ่งนี้ค่อยกลับคอนโด แถมได้อยู่แกล้งไอ้เด็กเวรนี่ให้สาสมกับที่ทำเขาไว้แสบก็อาจจะไม่เลวนัก
คิมหันต์มองมือถือตัวเองแล้วพึมพำละล่ำละลัก “เลววว!! พี่ทำเชี่ยอะไรไปวะ!!!”
“ถามเล่นหรือโง่จริง” ชายหนุ่มกระตุกมุมปาก ชูมือถือของตัวเองที่โหลดรูปถ่ายเจ้าปัญหามาเก็บไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้วให้ดู ซูมเต็มจอตรงหน้าผากเหม่ง ๆ และยางรัดผมรูปสตรอเบอร์รี่
“แต่พี่ชอบรูปนี้ว่ะ”
แทนประโยคยียวนซึ่งน่าจะได้รับกลับมาอย่างบทสนทนาก่อนหน้านี้...คิมหันต์ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
แล้วใบหน้าเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ฮาฉิบหาย!-หมดยกที่ 4-
========================
ผลัดกันรุกผลัดกันรับนะจ๊ะหนุ่ม ๆ ไม่ทำอะไรบ้างคงเสะคิมหันต์ไม่ได้ lol
แถมรูปวาดเล่นค่ะ พอดีเมื่อวันนั้นดูมวย (พี่บัวขาวโหดยิ่งนัก) เลยวาดพี่ภพใส่นวมมั่ง 555

*เปลี่ยนคำนำหน้าตอนเป็น "ยกที่" มีคนในทวิตเตอร์แนะนำมา ดูเหมาะกว่าจริง ๆ ด้วยค่ะ *หัวเราะ*
ขอบคุณผู้อ่าน พบกันตอนหน้านะคะ ^o^
