มือของผมที่กำลังดึงกางเกงของเขาลงไปกองที่ตาตุ่มหยุดลงทันที ผมเงยหน้ากลับขึ้นไปมองดวงตาของเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“พี่ว่าไงนะ”
“กูบอกว่ากูอยากให้มึงเอากู ไม่ได้ยินรึไง”
“พี่พูดจริงอะ”
“จริง”
“ไม่”
เขาชักสีหน้าทันที “มึงจะปฏิเสธกูรึไง”
“ก็ใช่อะดิ ผมจะไม่ยอมให้พี่ทำแบบนั้นเพราะแค่พี่รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำหรอกนะเว้ย”
“มึงเอาอะไรมาพูดวะ ไม่ได้ฟังที่กูเพิ่งบอกไปรึไง กูบอกว่ากูอยากให้มึงเอากู มึงเข้าใจภาษาคนรึเปล่าวะเนี่ย”
“ผมเข้าใจภาษาคนทุกอย่างนั่นแหละ และพี่ก็เคยบอกผมด้วยว่าพี่รู้สึกติดค้างผมอยู่ พี่อยากจะตอบแทนผม ซึ่งผมไม่เคยคิดและไม่เคยต้องการแบบนั้น พี่ต่างหากที่ไม่เข้าใจภาษาคนรึไง”
เขาชันตัวขึ้นนั่ง “นี่มันเหี้ยอะไรวะเนี่ย! เฮ้ย! นี่กูกำลังบอกให้ผู้ชายอีกคนเอาตูดกูเป็นครั้งแรก แต่มึงกลับปฏิเสธเนี่ยนะ! มึงไม่คิดบ้างรึไงว่ากูต้องใช้ความกล้าขนาดไหนถึงจะพูดแบบนั้นออกไปได้น่ะ กูคิดว่ามึงอยากจะเอากูมาตั้งนานแล้วซะอีก!”
“ไอ้อยากน่ะมันก็อยากอยู่หรอก แต่ผมแค่อยากให้พี่แน่ใจจริงๆ ว่าพี่ต้องการแบบนั้น ไม่ใช่แค่พูดเพราะอยากชดเชยอะไรให้ผม หรือรู้สึกว่าจำเป็นต้องทำเพื่อให้ผมรู้สึกดีอะไรแบบนั้น”
“ไม่ใช่มึง แต่เป็นกูต่างหากที่อยากรู้สึกดี มึงไม่เข้าใจรึไงวะ เวลามึงโดนกูเอา กูเห็นมึงก็เสียว มีความสุขตลอด แล้วถ้ากูอยากจะลองรู้สึกแบบนั้นบ้างไม่ได้รึไงวะ และที่สำคัญ จำไว้ด้วยว่ากูไม่คิดอยากจะไปลองกับใครคนอื่นนอกจากกับมึง!”
ผมนั่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปอย่างไรดี ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าเขาไม่ได้ต้องการจะตอบแทนอะไรผมมากไปกว่าอยากจะลองรู้สึกถึงความสุขแบบที่ผมเคยรู้สึกเวลาเขาทำผมบ้างเท่านั้นเอง และสิ่งที่ทำให้ผมพูดไม่ออกมากที่สุดคือการที่เขาบอกว่าเขาอยากให้ผมเป็นคนแรก และเป็นคนๆ เดียวที่จะมอบความสุขนั้นให้แก่เขาด้วย
“ช่างแม่ง! กูไปหาเอาจากคนอื่นก็ได้วะ!” เขาคำรามเบาๆ พลางทำท่าจะลุกออกจากเตียง
“ตลกแล้ว” ผมรีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ “ผมขอโทษ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ”
“กูไม่ต้องการคำขอโทษ แต่กูต้องการอย่างอื่น ไม่เข้าใจรึไง”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมขอโทษ เมื่อกี้ผมแค่คิดว่าพี่อาจจะแค่อยากทำแบบนั้นเพียงเพราะอยากจะชดใช้ให้ผมสำหรับ...”
“แล้วไง มันจะผิดอะไรนักหนากับการอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อคนที่ทำสิ่งดีๆ ให้แก่กูมาแล้วเยอะแยะวะ” เขาขัดขึ้น “มึงเองก็ทำแบบนั้นเพื่อกูมาตลอดไม่ใช่รึไง”
“เรื่องนั้นมันก็จริง...”
“พรุ่งนี้กูก็ไม่อยู่แล้วนะ พลุ ถึงกูจะไม่ได้พูดออกไป แต่กูก็รู้ดีว่าเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก หรือครั้งหน้ากูอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาแบบมีลมหายใจก็ได้” เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ไอ้พลุ กูอยากทำแบบนี้กับมึง แค่มึงคนเดียว กูอยากทำเพื่อเราสองคน กูอยากให้มีอะไรบางอย่างพิเศษติดไปกับกูด้วย และก็อยากทิ้งบางอย่างที่พิเศษไว้กับมึงเหมือนกัน... เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่แค่การตอบแทนตื้นๆ พรรค์นั้นหรอกนะ เข้าใจรึเปล่า”
“ผมเข้าใจแล้ว และผมก็ดันโง่เองที่ทำลายความรู้สึกของพี่ ผมขอโทษ...” ผมพูดเสียงแผ่วเบาจนแทบเป็นการกระซิบ ผมแทบจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อแล้วด้วยซ้ำ แต่แล้วผมก็รู้สึกมือของเขาที่วางลงบนไหล่ของผม
“อยากเริ่มใหม่มั้ยล่ะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ปกติกูไม่ค่อยให้โอกาสผู้ชายเอาตูดกูเป็นครั้งที่สองหรอกนะ แต่กับมึงกูยกเว้นให้” รอยยิ้มและคำพูดติดตลกของเขาทำให้ความตึงเครียดจางลง
ผมหัวเราะเบาๆ แล้วจึงโน้มตัวเข้าหาเขา “เป็นเกียรติมากครับ คุณรติบดี”
เขาหัวเราะและกอดรัดตัวผมลงไปกลิ้งบนเตียง จากนั้นก็คว้ามือเข้าจับและขยำไอ้น้องชายของผม เมื่อมันเริ่มแข็งตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็ดึงกางเกงของผมลง ผมเตะมันออกไปจากตัวและจัดการทำแบบเดียวกันกับเขา ผมเลื่อนตัวลงใช้ปากให้กับเขาจนกระทั่งไอ้น้องชายของเขาแข็งตัวจนสุด
“ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว เอากูเลยเถอะ” เขาพูดเสียงกระเส่า
ผมยังคงใช้ลิ้นเลียท่อนลำของเขาพลางใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยที่ประตูหลังของเขาเบาๆ อยู่ตลอด เขาส่งเสียงครางอย่างไม่ขาดสาย จนในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลง
“พอได้แล้ว! เดี๋ยวกูก็แตกก่อนหรอก รีบๆ เอากูสักทีสิวะ!” เขาพูดพร้อมยกตัวขึ้นจับข้อมือผมไว้แน่น
ผมยิ้มให้เขาก่อนจะลุกออกจากเตียงเพื่อไปหยิบเจลล่อหลื่นกับถุงยางออกจากกระเป๋าของเขา จากนั้นก็เริ่มทาเจลหล่อลื่นลงบนประตูหลังของเขาพร้อมกับใช้นิ้วชี้สอดใส่เข้าไปอย่างช้าๆ เขาแอ่นหน้าอกขึ้นพร้อมกับส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ ผมพอบอกได้จากสีหน้าว่าเขาคงจะรู้สึกเจ็บ แต่เขาก็ไม่ยอมส่งเสียงโอดโอยหรือบอกให้ผมหยุดแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งเมื่อผมเริ่มสอดนิ้วที่สามเข้าไปแล้ว เขาก็ยังคงกัดฟันและคอยช่วยตัวเองไปด้วยอยู่ตลอดเวลา จนผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสีหน้าเหยเกของเขานั้น เขากำลังเจ็บหรือเสียวอยู่กันแน่
“พร้อมรึยัง” ผมถาม
“ใส่เข้ามาได้เลย พร้อมนานแล้ว” เขาตอบด้วยเสียงที่แหบพร่า
“โอเค” ผมตอบรับพร้อมกับจับส่วนหัวน้องชายจ่อเข้าที่ประตูหลังของเขา
“ไม่ต้องกลัวกูเจ็บ” เขาพูดย้ำ
ผมรู้ว่าเขาคงไม่ยอมให้ผมปฏิบัติกับเขาราวกับเป็นคนบอบบางคนหนึ่งอยู่แล้ว และผมก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นด้วยเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงสอดใส่ท่อนลำเข้าไปในประตูหลังของเขารวดเดียวจนมิดด้าม เราสองคนต่างก็ร้องครางออกมาเสียงดังเป็นจังหวะเดียวกัน
“ซี้ดดด..ด..ดส์!! รูพี่แม่งโคตรฟิตเลยว่ะ!”
“อึ๊กกก.กก..!! อาาา...า..ห์!” เขาหอบ
ผมรู้ว่าเขาคงรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย จึงแช่ค้างเอาไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง เขาเอื้อมมือมาจับสะโพกผมเอาไว้ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมองหน้าผม แววตาของเขาแลดูเว้าวอน และเมื่อเขาเริ่มหายใจเป็นปกติแล้ว เขาก็พยักหน้าให้ผมเบาๆ
ผมค่อยๆ ขยับสะโพกเข้าออก เริ่มจากช้า เป็นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ การเคลื่อนตัวของผมทำให้เราทั้งคู่ต้องส่งเสียงครางออกมาเป็นจังหวะเดียวกัน และในที่สุดไอ้น้องชายของเขาที่เคยหดลงเล็กน้อยก็กลับมาแข็งตัวจนสุดและพาดเป็นลำขนาดเขื่องอยู่บนหน้าท้องอันแข็งเกร็งของเขา
ผมร่วมรักกับเขาด้วยทุกท่วงท่าและลีลาที่ดีที่สุดเท่าที่ผมมีและทำได้เพื่อให้เขาประทับใจกับประสบการณ์ครั้งนี้แบบไม่มีวันลืม ผมรู้สึกถึงความพิเศษบางอย่างเวลาที่เราสบตากัน ดวงตาของเขาเป็นประกายและอ่อนโยนอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน สิ่งๆ นั้นทำให้กิจกรรมของเราที่เริ่มต้นด้วยความร้อนแรงแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนและนุ่มนวลในตอนท้าย ผมยกขาข้างซ้ายของเขาขึ้นและระดมจูบลงบนปลายขาส่วนที่ถูกตัดออกเหมือนเมื่อครั้งนั้น
พี่คิวยื่นมือมาลูบหน้าอกของผมและกระซิบออกมาเบาๆ “ไอ้พลุ... มึง... มึงทำแบบนี้อีกแล้ว...”
“ก็ผมชอบนี่ ผมบอกไปแล้วว่าผมชอบร่างกายของพี่ ทุกส่วน ไม่ว่าจะขาข้างนี้หรืออีกข้าง กล้ามเนื้อทุกส่วนของพี่ ผมชอบพี่...” ผมจูบลงบนโคนขาของเขาอีกครั้ง “อาา..าา.. พี่คิว ผมรักพี่ว่ะ ผมรักพี่จริงๆ”
“กูรู้อยู่แล้ว พลุ กูรู้... เพราะงั้นกูถึงได้ทำแบบนี้กับมึงไง...”เขาพูดเสียงกระเส่า “อาาา...าา.. กูจะแตกแล้วว่ะ พลุ มึงใกล้รึยัง”
ผมพยักหน้า และจากนั้นก็เริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น พี่คิวจึงใช้มือสาวไอ้น้องชายของตัวเองไปด้วย และอีกไม่กี่นาทีถัดมา เราสองคนก็หลั่งออกมาพร้อมๆ กัน ผมล้มตัวทับลงบนร่างกายของเขาอย่างหมดแรงและนอนอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งก่อนจะมีกำลังพอที่จะถอนไอ้น้องชายออกจากประตูหลังของเขาได้
“แม่งงง...” เขาสบถเบาๆ “ดูซิมึงทำอะไรกับกูเนี่ย...”
“ผมทำอะไร” ผมถอดและโยนถุงยางลงบนพื้นก่อนละล้มตัวลงนอนข้างๆ เขา
“มึงทำให้กูรู้สึกเหมือนเป็นคนละคนเลยว่ะ”
“พี่ก็เป็นพี่คนเดิมนั่นแหละ”
“ไม่จริงหรอก...” เขาหันมามองหน้าผม “มึงเปลี่ยนกูไปแล้วจริงๆ”
“พี่ไม่ได้เป็นเกย์หรอก ผมรู้ และพี่ก็รู้ พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น”
“แต่กูไม่ได้กำลังพูดถึงเรื่องพวกนั้นนี่หว่า” เขาแย้ง “เมื่อกี้มึงพูดว่ามึงรักกูเหรอวะ”
“ใช่... ครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าที่ผมคิดเสียอีก “ผมว่าผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ และผมว่าหลังจากนี้ไม่ใช่แค่พี่หรอกที่คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไป เพราะผมเองก็คงเปลี่ยนไปเหมือนกัน” ความคิดที่ว่าเขาจะจากผมไปไกลเริ่มทำให้ใจผมหวั่นไหวอีกครั้ง
“แต่กูไม่รู้ว่ากูจะรักมึงได้แบบเดียวกับที่มึงรักกูรึเปล่านะ พลุ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนรู้สึกผิด และก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไรออกไป เขาก็รีบชิงพูดต่อเสียก่อน “แต่กูเองก็รักมึงเหมือนกัน จะรักแบบไหนก็ไม่รู้ล่ะ แต่กูรู้ว่ากูรักมึง”
ผมเงียบไปครู่หนึ่ง “พี่คิว พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก พี่จะคิดยังไงกับผมก็ได้ ผมเข้าใจ ผมไม่เรียกร้องให้พี่ต้องรู้สึกแบบเดียวกับผมอยู่แล้ว ถ้าผมอยากได้พี่เป็นของตัวเองคนเดียวจริง ตอนนั้นผมคงไม่ยอมให้พี่ไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นหรอก”
“ถ้างั้นมึงอยากได้อะไรจากกู”
“ไม่อยากได้อะไรเลย”
“จริงเหรอวะ” เขาพูดอย่างไม่อยากเชื่อ
“จริง แต่ก็...”
“แต่อะไร”
“แต่ผมขอแค่ให้พี่เอาความรักที่ผมมีต่อพี่เนี่ย ติดตัวไปกับพี่ด้วยก็พอ ผมอยากให้พี่ลองเก็บรักษามันเอาไว้ ความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นอาจจะเป็นแค่เพียงเมล็ดพันธุ์ ผมอยากให้พี่ให้เวลากับมันและดูว่ามันจะงอกเงยขึ้นได้รึเปล่า ถ้าวันนึงพี่รู้สึกพิเศษกับผมและรักผมแบบเดียวกัน มันก็คงจะดี แต่ถ้าไม่ ผมก็ขอแค่พี่ไม่ลืมว่ายังมีคนๆ นี้ที่รักและเป็นห่วงพี่มากๆ อีกคนก็พอ”
คราวนี้เป็นคราวของเขาที่เงียบไปบ้าง “...กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครจริงๆ ไม่ว่าจะกับผู้หญิงคนไหน กูก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ กูไม่เคยให้ใครได้เข้ามาใกล้ชิดกับกูเท่านี้มาก่อนเลย”เขาพูดเบาๆ “กูรู้สึกเหมือนมึงเป็นเพื่อนสนิท เป็นน้องชายที่กูไม่เคยมี และเป็นคนพิเศษ... พิเศษจริงๆ ว่ะ โดยเฉพาะหลังจากคืนนี้ กูว่ากูคงไม่มีวันลืมมึงและเรื่องราวของเราแน่นอน”
“ผมรักพี่ว่ะ พี่คิว ผมว่าผม...” ผมหลับตาลง พยายามฝืนกลั้นน้ำตา ไม่ให้มันไหลออกมา
“นานแล้วนะ ที่กูไม่ได้รู้สึกพิเศษแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกเป็นคนพิเศษของใครเลย กูรู้สึก... ไม่รู้ดิ สมบูรณ์อะ มันเติมเต็มอย่างบอกไม่ถูก กูต้องขอบใจมึงจริงๆ พลุ ที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตกูแบบนี้ มึงชักทำให้กูรู้สึกว่ากูไม่อยากจากไปแล้วนะ”
“แต่พี่ก็ต้องไป”
“ใช่...”
“ดูแลตัวเองดีๆ นะเว้ยพี่ ผมรู้ว่าไม่ว่าพี่จะกลับไปที่นั่นในฐานะอะไร ไปปฏิบัติงานแบบไหน มันก็ยังอันตรายอยู่ดี จะเป็นตายร้ายดียังไงพี่ก็ต้องกลับมา แล้วก็ต้องพาไอ้น้องชายนี่กลับมาด้วยนะเว้ย” ผมกำไปที่ไอ้น้องชายของเขาแล้วบีบเบาๆ
เขาหัวเราะ “สรุปคือมึงติดใจแค่ไอ้นั่นของกูใช่มั้ยเนี่ย”
“ผมติดใจพี่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เดินเข้าไปในห้องแล้วต่างหาก”
เขาชันตัวขึ้นและถอดสร้อยคอทหารออก เขาแกะป้ายชื่อโลหะแผ่นเล็กๆ อันหนึ่งออกและยื่นให้กับผม
“เก็บเอาไว้นะ จนกว่ากูจะกลับมาอีก และจำไว้ว่าถ้าหากว่าวันหนึ่งกูจะตกลุมรักผู้ชายสักคนจริงๆ คนที่กูอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย คนๆ นั้นคือมึงแค่เพียงคนเดียว”
“ขอบคุณครับ” น้ำตาของผมไหลออกจากดวงตาและหยดลงบนป้ายชื่อในมือ “แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับพี่ ดีใจจริงๆ...”
.................... จบ ....................
จบละครับ อีกแนวที่ผมไม่เคยแต่งมาก่อน ยากเหมือนกัน แต่ยังไงก็ขอบคุณมากๆๆๆ ที่ทนอ่านจนจบนะครับ เรื่องใหม่จะมาเร็วๆ นี้ ติดตาม ทักทาย ติชม พูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/ExecutionerNovel เหมือนเดิมนะครับ ยังคงน้อมรับทุกคำติเช่นเคยนะครับ ถ้าตรงไหนปรับปรุงได้ จะนำไปใช้กับนิยายเรื่องต่อๆ ไปครับ ^^