♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 50
Turn the lights out now babe, I'll take you by the hand
ปิดไฟซะที่รัก และผมจะจับมือคุณไว้เอง
Special Matt & Ramin # part 12:
[Ramin talks]
“กินข้าวหรือยัง” ไอ้แมทถาม ทั้งที่ผมเป็นแบบนี้ แต่มันก็ยังมีใจคิดเป็นห่วงผม ผมร้องไห้อีกรอบ เงยหน้ามองมันที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วก็กอดเอวมันไว้แน่น
“ยัง ฮึก”
ไอ้แมทลูบหัวผมไปมาเบาๆ น้ำหนักมือมันเบามาก แต่ก็อบอุ่นมากเช่นกัน ได้ยินเสียงมันถอนหายใจผมก็ยิ่งร้อง แค่กลัวว่ามันจะโกรธ แค่กลัวว่ามันจะไม่รักผม ผมก็ร้องไห้จนทำอะไรไม่ถูกแล้ว
“เป็นอะไร มีอะไรทำไมไม่บอกกู”
พอมันถาม ผมก็เงียบ ผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ผมกลัว ผมกังวลไปหมดทุกอย่าง ผมกระชับกอดเอวมันแน่นขึ้น กลัวว่ามันจะหายไป ไม่เอาอีกแล้ว ชีวิตที่ไม่มีมันทรมานเกินไป ผมทนไม่ได้ถ้าจะต้องจากมันอีกครั้ง
“กูทำผิดอ่ะ กูทำผิด กูขอโทษ ฮืออ”
“มึงทำอะไรผิด บอกกูสิ” เสียงมันนิ่ง ไม่โวยวายเหมือนแต่ก่อน เหมือนจะดี แต่ผมอยากให้มันตะคอกโวยวายกับผมเหมือนเดิมมากกว่า ผมรักมันที่เป็นแบบนั้น รักมัน รักมันคนเดียว
“ไม่เอา มึงจะเกลียดกู มึงจะต้องไม่รักกูแล้วแน่ๆ ฮึก” ผมไม่กล้าบอก มันร้ายแรงไป ไอ้แมทจะต้องเสียใจแน่ๆ ผมไม่อยากให้มันเสียใจ
“กูไม่เกลียดมึงหรอกน่า บอกกูมาเถอะ”
ไอ้แมทแกะมือผมออกจากเอวมัน แต่ผมไม่ยอม มันเลยบอกว่าจะนั่งลงที่โซฟาข้างๆผม ผมเลยปล่อยมือ แต่พอมันนั่งลงผมก็โผเข้ากอดมันทันที ผมอยากกอดมัน และผมไม่อยากมองหน้ามัน ผมไม่อยากเห็นสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวดของมัน ผมคงทำใจไม่ได้แน่ๆ
“มึง ฮึก มึงจะต้องเกลียดกูแน่ๆ” ผมสะอื้นจนพูดแทบไม่เป็นคำ ไอ้แมทยังคงลูบหลังผมเรื่อยๆ
“มึงจะมารู้ใจกูดีกว่าตัวกูได้ยังไงครับ กูบอกว่าไม่เกลียดก็ไม่เกลียดสิ”
ยิ่งมันพูดดีด้วย ทำดีด้วย ผมยิ่งรู้สึกแย่ แย่จนอยากจะตายหายไปเลย
“บอกกูเถอะ มึงเป็นแบบนี้กูจะขาดใจแล้วนะ” น้ำเสียงของไอ้แมทแหบระโหยเหมือนคนหมดแรง มันดันตัวผมออก ค่อยๆบรรจงเช็ดน้ำตาที่ไหลเปรอะเปื้อนใบหน้าออกให้ผม ผมเม้นปากที่สั่นระริกของตัวเองแน่น ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหามันจนริมฝีปากเราสัมผัสกัน มันนิ่งอึ้งไป ผมค่อยๆถอนออกมา
“จูบกูที จูบกูหน่อย” ผมร้องของวิงวอน ไม่รอช้ามันจูบผมตามคำขอทันที จูบนี้ที่ผมอยากได้ อยากให้แค่มันเท่านั้นที่จูบผม แค่ไอ้แมทคนเดียวที่ผมจะยอม
วงแขนกว้างของไอ้แมทกอดกระชับร่างกายให้แนบติดกันรับรู้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นของอีกฝ่าย ลิ้นอุ่นจ้วงเข้ามาในปากก่อนจะดูดดุนลิ้นของผมอย่างเชี่ยวชาญ จูบของมันราวกับต้องการส่งต่อความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านปลายลิ้นนี้ ให้ผมได้รับรู้ความรู้สึกของมัน ผมเองก็โต้ตอบมันกลับเช่นกัน ถ่ายทอดความรักของผมส่งไปให้มัน ไม่รู้ว่ามันจะรู้ไหม แต่ผมรักมันมาก
จุ๊บ
ก่อนที่ผมจะหมดลมหายใจ ไอ้แมทก็ถอนจูบออก ทิ้งท้ายด้วยการจุ๊บที่แก้มผมแรงๆ ถ้าเป็นอารมณ์ปกติผมคงจะเขิน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่ผมกำลังเครียดแบบสุดๆ ปวดหัวจะแทบจะระเบิ
“ทีนี่ก็บอกกูมาได้แล้ว ถ้าอิดออดกูจับปล้ำแน่” ไอ้แมทขู่จริงจัง
“ก็ปล้ำเลยดิ” แล้วผมก็ตอบมันไปอย่างจริงจัง ผมพูดจริง ถ้าเป็นมัน จะทำอะไรผมก็ยอม
“อย่ามาท้ากูนะ กูทำจริง”
“อยากทำก็ทำดิ”
แต่ถึงผมจะพูดไปอย่างนั้น แต่ไอ้แมทก็ยังนิ่ง มันเงียบรอให้ผมพูด รอให้ผมเล่าออกมา ผมใจสั่นด้วยความกลัว ใจนึงก็อยากที่จะพูดออกไป แต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้า ยิ่งสายตากดดันของมันผมยิ่งคิดอะไรไม่ถูก ผมนั่งเงียบนานมาก มันก็ทำใจเย็นรอจนผมพร้อมที่จะเล่าให้มันฟัง
“สัญญานะ ว่ามึงจะไม่เกลียดกู ไม่เลิกรักกู”
“อืม”
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก็เริ่มเล่าโดยที่ไม่มองหน้ามัน
“มีวันหนึ่งก่อนหน้านี้กูไปกินเหล้ากับพี่ๆในคณะที่คอนโดพี่คนหนึ่ง เพื่อนๆกูก็ไปด้วย กูก็ไม่คิดอะไรเพราะเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่รู้จักกัน คืนนั้นกูดื่มเมามาก ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่ส่งแก้วให้กูตลอด กูก็ไม่คิดอะไรจนรู้สึกง่วง กูอยากกลับบ้าน แต่กูไม่อยากรบกวนมึง พอดีพี่เจ้าของห้องบอกว่าให้กูไปนอนที่ห้องเล็กได้ กูก็เลยเข้าไปนอนแบบมึนๆ รู้ตัวอีกทีก็มีคนกำลังจูบกูอยู่...แล้วมันก็...ฮึก” ผมเล่าถึงตรงนี้ก็รู้สึกน้ำลายฟืดคอไปหมด แค่จะออกเสียงยังรู้สึกว่ายาก
“ใคร! แล้วมึงโดนใครทำอะไรไหม!!! เชี่ยเอ้ย!!! มึงบอกกูสิ” ไอ้แมทที่ควบอุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เขย่าตัวผมจนหัวสั่นหัคลอนไปหมด ผมร้องไห้ออกม มันยิ่งทวีความบ้าคลั่งให้ไอ้แมท มันดึกผมเข้าไปกอดแน่นจนรู้สึกเหมือนกระดูกจะแตก
“ไม่ มันยังไม่ได้ทำอะไรกู แต่ก็เกือบ ฮืออ กูขอโทษ กูไม่สะอาดแล้ว” ผมโดนคนอื่นที่ไม่ใช้มันกอดจูบ แตะต้องสัมผัสเนื้อตัวจนขนาดผมเองยังรู้สึกขยะแขยงตัวเองเลย แล้วมันล่ะ มันจะรับได้เหรอ มันต้องโกรธต้องเกลียดผมแน่ๆ
“ไอ้เชี่ยเอ้ย!!! มันไม่ได้ทำอะไรมึงจริงๆชาไหม มันทำอะไรบ้าง” ไอ้แมทถามร้อนรุ่ม ผมประคองแก้มทั้งสองข้างของผมเอาไว้ ในดวงตาของมันมีน้ำตาคลอ แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ผมทำให้มันเสียใจ
“มันกำลังจะเอาเข้ามา แต่กูขัดขืนจนมีคนเพื่อนเข้ามาช่วย ฮืออ”
“มันเป็นใคร” เสียงกดต่ำกับแนวสันกรามที่ขบเข้าหากันแน่นบ่งบอกว่าไอ้แมทมันโกรธมากแค่ไหน แต่ผมส่ายหน้า ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่ผมไม่อยากบอก ไม่ใช่อยากปกป้องไอ้รุ่นพี่เหี้ยนั่น แต่ผมไม่อยากให้ไอ้แมทไปมีเรื่อง
“มึงจะบอกกูหรือจะให้กูไปสืบเองห๊ะ!!!” แมทตะคอกใส่ผมเสียงดังลั่นบ้าน
“ไม่เอา กูไม่อยากให่มึงไปมีเรื่องกับใคร”
“แต่มันทำเมียกูนะ! มันทำกับคนที่กูรัก มึงจะให้กูทนเหรอไง!!!”
“ไม่เป็นไร แค่มึงไม่รังเกียจกูก็พอแล้ว กูคงทนไม่ได้ถ้าต้องเลิก...อื้อออ”
ไอ้แมทบดเบียดจูบก่อนที่ผมจะพูดจบ ผมปล่อยให้มันจูบแม้ว่าตัวเองจะเจ็บปาก เพราะมันทั้งกัดขบดูดดึงและเม้มแรงๆ จนอารมณ์มันสงบลง แต่ยังมีแววคลุกรุ่นในดวงตาอยู่
“เจ็บ” ผมบอกมัน ไอ้แมทไล้หัวแม่โป้งที่ริมฝีปากผมเบาๆ เพราะมันแตกจนได้เลือด ไอ้แมทเลยก้มลงจูบแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม
“อย่าพูดว่าเลิก ยังไงกูไม่มีทางเลิกกับมึงแน่นอน” ผมได้สบดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงจัง มือไม้สั่น ประคองหน้ามันไว้เช่นกัน แนบหน้าผากกับหน้าผากมัน
“กูรักมึงนะ กูขอโทษที่ไม่ระวังตัว กูกลัวมาก กลัวมึงจะโกรธและเกลียดกูถ้าหากรู้เรื่อง”
ตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็คิดเรื่องนี้มาตลอด ผมไม่พูดกับใคร เอาแต่กังวลว่าจะทำยังไงถ้าไอ้แมทรู้เรื่องแล้วจะไม่เกลียดผม เอาแต่คิดว่าถ้าวันนั้นผมไม่ไปดื่มเหล้า มันคงไม่เป็นแบบนี้ ทำไมความรักของผมอุปสรรคมันถึงได้เยอะขนาดนี้วะ!
“ตกลงคือมึงจะไม่บอกกูใช่ไหมว่าใครเป็นคนทำ”
“กูขอโทษ แต่พวกพี่คนอื่นก็รุมกระทืบมันไปแล้วล่ะ นี่ก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน มันบอกทำไปเพราะเมา” และมันก็ชอบผมด้วย มันมาขอโทษผมแล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วผมก็อยากให้ผ่านไป แต่ผมกังวลเรื่องไอ้แมทที่สุด
“เฮ้ออ ทำไมถึงเป็นแบบนี้วะมิน มึงรู้ไหมว่ากูกังวลมากแค่ไหนที่มึงเป็นแบบนี้ ไม่พูดไม่คุยกับกู ไม่บอกว่ามึงเป็นอะไร กูรอให้มึงพูดแต่มึงก็ไม่ยอมบอกกูเลย” ไอ้แมทตัดพ้อผม ตอกย้ำความผิดของผมให้เด่นชัดขึ้นไปอีก
“กูขอโทษ แต่อย่าเกลียดกูนะ แค่นี้กูก็เกลียดตัวเองจะแย่แล้ว” ผมซบหน้าลงกับไหล่มันอ้อนๆ
“กูไม่เกลียดมึงหรอก แต่กูโมโหมึงเข้าใจไหม ต่อไปนี้มึงจะเชื่อฟังกูได้หรือยัง ต่อไปนี้จะดื้อกับกูไหม” มันดูผมครับ กลับมาแล้ว ไอ้แมทคนเดิมของผม ผมชอบที่มันคอยดุคอยเป็นห่วงผมแบบนี้
ยอมรับเลยว่าหลังจากที่เกิดเรื่องแล้วมันไม่ใส่ใจผมแบบเดิม ผมคิดไปเองต่างๆนาๆว่ามันรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากคุยไม่อยากเจอผมไปซะแล้ว ทำให้ผมยิ่งไม่กล้าคุยกับมันเข้าไปใหญ่
“ไม่ดื้อแล้ว แต่ไปนี้กูจะฟังมึงทุกอย่าง”
ผมไม่ได้พูดเพื่อเอาใจมัน แต่ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ผมจะเป็นเด็กดีของมัน มันจะได้รักผมเยอะๆ
“แมท...”
“หืม” มันกอดตัวผมโยกไปมา จูบที่ขมับผมอยู่หลายที
“กอดกูที กอดกูนะ...” ผมเงยหน้ามองมันยั่วๆ ผมต้องการมันมากในตอนนี้ ให้มันเข้ามาลบร้างทุกสิ่งทุกอย่างบนร่างกายและจิตใจ
“ไม่บอกกูก็คิดจะกอดอยู่แล้ว คืนนี้กูจะจับมือมึงไว้เอง”
หลังผมค่อยๆเอนลงกับโซฟา ทุกวินาทีที่มีมันช่างมีค่าสำคัญผมมาก รอยสัมผัสของมันทำให้ผมรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร ทุกทีทุกจุดที่เคยมีใครได้แตะต้อง ไอ้แมทเป็นคนที่ลบล้างมันออกไปจนเหลือเพียงสัมผัสของมันเท่านั้น มันรักผมจนผมแทบสำลักคความสุขตลอดทั้งค่ำคืน
ขอบคุณที่รักกูนะไอ้แมท
“มินรักแมทนะ”
“มิน ขึ้นไปเอาคอมมาให้หน่อยดิ”
“อืม แปบ” ผมตะโกนบอกไอ้แมทที่อยู่ที่ห้องนั่งเล่น ส่วนผมอยู่ในห้องน้ำ ขึ้นไปชั้นสองเอาคอมให้มัน ทุกก้าวย่างต้องเดินอย่างระมัดระมังเพื่อไม่ให้ประตูหลังเกิดการเสียดสีมากนัก
เมื่อคืนมันกระทำผมไม่ยั้งเลยจริงๆ แม้จะดีใจที่มันยังรักผม แต่พอผมบอกให้มันหยุดตอนใกล้จะเช้า แต่มันก็ไม่ยอมหยุด บอกว่ามันลบล้างรอยไม่เสร็จ สุดท้ายไม่รู้ว่ากี่ท่าต่อกี่ท่า ที่ไหนบริเวณไหนของบ้านที่ผมโดนมันจัดการ ตื่นมาอีกทีก็บ่ายกว่า ดีที่ว่ามันทำกับข้าวไว้ให้ผมกินแบบเต็มอิ่ม แต่พอกินเสร็จมันก็ใช้งานผมต่อ โดยให้ผมขึ้นมาหยิบของให้มัน ทั้งที่มันควรจะรู้ว่าผมเดินโคตรจะลำบาก!!!
“อูยยย” ขึ้นมาถึงห้องได้ ขาผมก็สั่นไปหมด ต้องนั่งพักสักแปบถึงจะหิ้วคอมลงไปให้มันได้
“ช้าจังวะ” นั่น ยังมีมาบ่นอีก ผมทิ้งตัวลงข้างๆมัน แย่งรีโมตมาถือไว้เอง วันนี้อาการดี แดดไม่ค่อยออก ลมหนาวพัดเข้ามาในบ้านเพราะไอ้แมทเปิดหน้าต่างเกือบทุกบาน ผมเอื้อมหยิบผ้าห่มผืนบางมาห่อตัว เอนตัวดูหนัง
“มินมิน ลุกไปหยิบแตงโมมาให้หน่อยดิ” ไอ้หล่อใจร้ายมันสั่งผมอีกแล้วครับ แต่ผมเห็นมันจดจ้องอยู่ที่คอมด้วยความเคร่งเครียดเลยยอมลุกขึ้นไปหยิบให้ แต่ทำไมมันต้องเรียกผมว่ามินๆด้วยวะ ยังกับชื่อผู้หญิง
“อ๊ะ” ผมส่งจานห้มัน มันรับไปกิน ผมอยากกินบ้างเลยเอื้อมมือไปหยิบ
เพี๊ยะ!
“เอ๋! ตีกูทำไม กูจะกิน” ผมแหวใส่มัน อยู่ๆก็ตีมือผม ทำเหมือนจะไม่ให้กิน
“เดี๋ยวมือเลอะ มากูป้อน” มันจ่อแตงโมมาที่ปากผม ผมเลยงับไปคำ ไม่หมดชิ้น แล้วก็ได้แต่มองส่วนที่เหลือบินเข้าปากมันไป มันหยักคิ้วกวนๆผมทีหนึ่ง ผมเลยเอาหมอนฟาดมันไปทีด้วยความหมั่นไส้
อย่าคิดว่ามันปล่อยให้ผมนอนพักอย่างสบายใจนะ เพราะมันแกล้งผมทั้งวัน เดี๋ยวให้ไปหยิบน้ำ มีจดหมายมาส่งก็ให้ผมออกไปหยิบ ผมนี่แทบจะคลานไป ถ้าไม่ติดว่ามันรักผมนะ ผมคงคิดว่ามันเกลียดผมแน่ๆ ถึงได้ทำร้ายผมขนาดนี้
“มินมิน...”
“ไม่เอาแล้ว ไม่ทำแล้วโว้ย!!!” ผมร้องโวยวายอย่างเหลืออด แม่งจะให้ผมทำอะไรอีกแน่ๆเลย ผมไม่ไหวแล้ว ผมลุกเดินไม่ไหวแล้วนะ!!!
“ไหนบอกจะเชื่อฟังกูไง” มันหันมาย้อนหน้าตาย ผมได้แต่เข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันไปกับความกวนตีนของมัน
“แต่กูเจ็บตัวอยู่นะแม่ง!” ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้มัน งอนครับ แต๋วแตกก็ยอม แต่ไม่ไหวจริงๆ ปวดร้าวไปหมดทั้งตัว
“โอ๋ๆ กูแค่ลงโทษนิดหน่อยเอง อะไรวะ” มันพูดกลั้วขำ ผมละอยากจะต่อยหน้ามันจริงๆ
ไอ้ผัวเชี่ย! แกล้งกูได้ลงคอ!!!
“ลองมาเป็นคนโดนบ้างไหมล่ะ!” ผมหันไปมองหน้ามันเคืองๆ
“ไม่ล่ะ มึงเป็นเมียกูนิ มึงทำหน้าที่นี่ก็ถูกแล้ว” มันยิ้มหล่อใส่ผม ไอ้ที่โกรธอยู่แทบหายหมด แม่งร้าย
“แล้วกูเจ็บเนี่ย ไม่สงสารกูหรือไง ถึงได้แกล้งกูนะ” ผมตัดพ้อมันบ้าง มันทำหน้าสำนึกผิดแวบเดียวก็ทำหน้าเข้มใส่ผมแทน
“คราวหลังถ้าไม่มีกูไปกินเหล้าด้วย ห้ามไปกินเองโดยพลการ เข้าใจไหม ถ้ารู้ว่ามึงฝ่าฝืนคำสั่งละก็ กูเอาตาย!” มีขู่อีกแม่ง ดุขนาดนี้ใครจะไปกล้าวะครับ
“เออ กูไม่ไปแล้ว”
ไม่ต้องให้มันมาเตือนมาบอก ผมก็คิดได้ครับว่าต่อไปนี้จะไม่แตะเหล้ากับคนที่ไม่รู้จักดีอีกเด็ดขาด เข็ดแล้วครับ
“ดีมาก เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ไหนน้องมินเจ็บตรงไหนครับ ให้พี่แมทดูหน่อยสิ” ไอ้แมททำท่าจะถลกกางเกงผมลง แต่ผมคว้าหมับเอาได้ มันมองหน้าผมอย่างมาดร้าย ไม่ทันได้ตั้งตัวผมก็กระโจนขึ้นมาหาผมบนโซฟา แล้วมันก็
“อื้อออ ไม่เอา อ๊ะ...”
“กูจะเอาอ่ะ มึงจะทำไมครับมินมิน”
แล้วผมก็...เรียบร้อยโรงเรียนมันไปอีกรอบครับ
เจ็บจนน้ำตาจะไหล!
“พรุ่งนี้กูพาไปทำบุญนะ เอาไหม”
“อืม” ผมพยักหน้า นอนผิงอกมันอยู่ในอ่าบอาบน้ำ โดยมีมันทำหน้าที่อาบน้ำให้ผม แรงมือที่ลูบไล้ตัวผมขับกล่อมให้ผมเคลิ้มจนหลับคาอกมันไป
วันต่อมาไอ้แมทปลุกผมแต่เช้าไปทำบุญที่วัดใกล้ๆบ้าน ผมให้มันแวะเซเว่นแล้วก็ซื้อของที่จำเป็นจัดเป็นชุดสังฆทานเอง ชุดหนึ่งชุดใหญ่ๆ ทำแบบนี้เราเลือกของเองได้ครับ ของใช้ของกินอย่างน้ำผมไม้หรือชาอะไรพวกนี้แยกออกจากของใช้พวกผงซักฟอกได้ ถ้าไปซื้อที่เขาจัดไว้ใส่ถังแล้ว มันไม่ค่อยได้ประโยชน์และเอาอะไรไปใช้ได้จริง แบบนี้ดีกว่าครับ
เสร็จแล้วก็ไปซื้อจีวรพระ และของที่จำเป็นเอาไปถวายพระ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทีแรกไอ้แมทจะเป็นคนออก แต่ผมไม่ยอม มาทำบุญผมก็อยากจะช่วย ให้มันออกคนเดียวผมก็ไม่ได้บุญนะสิ แต่ดีที่ครั้งนี้มันยอมผม ผมกับมันเลยออกกันคนล่ะครึ่ง
“หลวงพ่ออยู่ไหมครับ” ไอ้แมทถามลุงแก่ๆคนหนึ่ง ผมยกมือไหว้ตามมัน
“อยู่ข้างในล่ะพ่อหนุ่ม เข้าไปเลย”
“ขอบคุณครับ”
ไอ้แมทเดินนำผมไปที่กุฏิของหลวงพ่อ ดูมันทำอะไรทะมัดทะแมง รู้ว่าถาดอยู่ตรงไหน อะไรอยู่ตรงไหน
“ไปนั่งรอไป เดี๋ยวกูจัดการเอง” มันไล่ผม ผมเลยเดินไปนั่งตรงหน้าหลวงพ่อที่ดูนิ่งสงบ บริเวณวัดก็สงบร่มเย็น จิตใจที่ว่าวุ่นมานานก็สงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ
ไอ้แมทวางของที่เราทำมาถวาย ทั้งชุดสังฆทานและอาหาร ก่อนจะประเคณส่งให้หลวงพ่อ ช่วงที่หลวงพ่อให้พร ผมก็ประนมมือรับผมด้วยจิตใจที่สงบและอิ่มเอิบ
“ว่าไงเรา เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้มา น้องชายไปไหนล่ะ” หลวงพ่อถามไอ้แมท ท่านคงหมายถึงต้นหอม
“เขาไม่ว่างนะครับ วันนี้ผมเลยพาเพื่อนมา อยากจะให้หลวงพ่อให้พรมันหน่อย ช่วงนี้เจอแต่เรื่องไม่ดี”
หลวงพ่อมองหน้าผมก่อนจะกวักมือให้ผมเข้าไปหาใกล้ๆ ผมค่อยๆคลานเข้าไปหาท่าน ประนมมือแล้วท่างก็ให้พรก่อนจะเป่าหัวให้ผม
“เอาเถอะ ทุกสิ่งอย่างในชีวิตทั้งดีและไม่ดีเป็นบทเรียนอันล้ำค่า ต่อไปนี้ชีวิตของลูกก็จะเจอแต่สิ่งที่ดีๆแล้วนะ ขอให้ทำดี อยู่ในศีลในธรรม ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ว่าอะไรก็ทำร้ายเราไม่ได้หรอกลูกเอ้ย”
ผมจะเก็บเอาทุกคำสอนของหลวงพ่อมาใช้ในการดำเนินชีวิต จริงอย่างที่หลวงพ่อบอก ถ้าผมไม่ประมาท เรื่องร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น
“สบายใจแล้วสิ”
“อืม ขอบใจนะที่อยู่เคียงข้างกู” ผมมองสบตามัน มันยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น ผมหันกลับไปมองบ่อปลาอีกครั้ง
ฉีกขนมปังโยนลงไปในบ่อน้ำที่มีปลาสวายและปลานิลแหวกว่ายแย่งกินขนมปังกัน เห็นแล้วน่ารักดีครับ แต่ละตัวก็อ้วนๆกันทั้งนั้นเลย สงสัยวันๆจะเอาแต่กิน
“หมดแล้ว เอาอีกไหม” ไอ้แมทถาม แต่ผมส่ายหน้า หมดไปห้าก้อนได้แล้วครับ พอแล้ว
ก่อนกลับผมเจอยายแก่ๆนั่งอยู่หน้าวัด ผมให้ไอ้แมทจอดรถ ผมลงไปยืนอยู่ตรงหน้ายาย นั่งยองๆแล้วล้วงเงินในกระเป๋าใส่แก้วให้ยาย มองแล้วสะท้อนใจว่าลูกหลายยายหายไปใน ผมไม่รุ้ว่าเงินที่ให้ไปยายจะเอาไปทำอะไร แต่ผมทำแล้วผมสะบายใจก็เพียงพอแล้วครับ
และผมก็บอกกับตัวเองไว้ว่า ผมจะดูแลพ่อกับแม่ตัวเองให้ดีที่สุดในยามที่ท่านแก่เฒ่า จะเลี้ยงดูให้ท่านสุขสบาย เพราะพ่อแม่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ ถ้าผมไม่ได้เกิดมา ผมก็คงไม่ได้เจอไอ้แมท และคงไม่มีความสุขมากขนาดนี้
...............................
ผ่านแล้วนะ หมดแล้วนะเรื่องราวที่เลวร้าย ตอนนี้ก็มานับเวลาถอยหลังที่เรื่องนี้จะจบ อีกไม่กี่ตอนเท่านั้น เฮ้ออ ใจหาย

^_^
