แค่แจ้งให้ทราบ@@รายละเอียดรวมเล่ม@@นิยาย {My..Love} กามเทพบ้า ตุ๊ดซ่ากับทอมแสบ
จำทำการเปิดโอนทีเดียว 1 ก.พ – 5 มี.ค 56
ไม่เปิดจองนะคะ โอนเลยค่ะ ปิดโอนหนังสือส่งทันทีรายละเอียดหนังสือ1.นิยายมี 4 เล่มจบ
2.เนื้อในกระดาษถนอมสายตา จำนวน 1,400 หน้าต่อ 4 เล่มรวม ตกเล่มละ 350 หน้า
3.ที่คั่นหนังสือ 4 แบบ ตามปกสี่เล่ม
4.ตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเล้าฯ 5 ตอน เป็นของคู่เอก 2 ตอน คู่รอง 3 คู่ 3 ตอน
รับประกันการจัดแพคอย่างดี กันกระแทกแน่นหนาแน่นอนค่ะ
ราคานิยาย+ บ็อกเซท 1,700 บาท รวมค่าจัดส่งลง EMS
(บ็อกเซท เพียง 200 ชุดเท่านั้นค่ะ)
รายละเอียดของแถมพิเศษสำหรับผู้สั่ง 200 ท่านที่โอนเงินภายในกำหนดครบ1.ฟรีค่าจัดส่ง EMS ตามน้ำหนักหนังสือเกือบ 2 กิโลกรัม
2.ฟรีเรื่องสั้นขนาดกลาง {กระสวยร้อยหัวใจ} จำนวน 150 หน้า ราคา 200 บาท แถมให้
3.บ็อกเซทขนาดจัดเก็บหนังสือ 4 เล่ม ความกว้าง 10 มิลฯ
มูลค่า 200 บาท
รายการของแถมทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ารวม 450 บาทค่ะ
ปล.ใครที่ต้องการกอดหนังสือชุดนี้ไว้ครบเชท ทั้งเรื่องสั้น
รบกวนหยอดกระปุกรอได้เลยค่ะ วันละ 50 บาทได้แน่นอน

ปลล2.มีคำถาม ไม่รวมบ็อกเซท ราคาเท่าไหร่? หนังสือทั้งชุด 4 เล่ม ตกเล่มละ 400 บาทค๊า
รวมเบ็ดเสร็จ 1,600 นะคะ หลัง 200 คนแรก จ่าย 1,600 ไม่ได้บ็อกเซท ไม่ฟรีค่าส่ง EMS
เป็นแบบส่งธรรมดาค่ะ ลงทะเบียนไม่ได้ น้ำหนักเกินระเบียบค่ะ แต่มีสิทธิ์ได้แถมเรื่องสั้น
รอดูยอดสรุปตอนโอนเป็นเกณฑ์ตัดสินอีกทีค่ะ ยังไงสั่งบ็อกก็คุ้มกว่าเยอะมากค่ะ
My love
Part 42
[Special Joke] “ถามหน่อย ไอเดียใครวะ หักมุมแบบนี้” อดอยากรู้ไม่ได้ ความคิดไอ้หนกไม่น่าใช่ มันไม่ลึกซึ้งขนาดนี้หรอก
“ไอ้แบม” กูว่าแล้ว อีห่านี่สุดยอดความร้ายกาจชะมัด
“ทำไม..มึงไม่พอใจ” มันละสายตาจากถนน มองผมแวบก่อนหันกลับไปทำหน้าที่สารถี
เรากำลังไปดูหนังที่ผมอยากดู ใช้คำว่าบังคับมันออกจากบ้าน หลังกลับจากงานอำลาเมื่อคืน
ต่างกลับพร้อมครอบครัว บ่ายแก่ๆผมโทรจิกมันออกมาแกมบังคับ
“ก็ไม่เชิง แค่เสียความรู้สึกนิดหน่อย” เปรยเบาๆ
“เสียความรู้สึก เรื่องอะไร..ที่มึงไม่ได้แต่งสวยอย่างชอบนะเหรอ”
อีห่านิ..มันพยายามยัดเยียดให้ผมเป็นตุ๊ดจนได้ ให้ตาย..เดี๋ยวพ่อเหลืออด
ยัดลูกเข้าท้องให้รู้แล้วรู้รอดเสียดีไหม...ฮึ่มมมม!!!
“เงียบไม่พูด แทงใจดำสิท่า” ยังอีก ที่เงียบคือตัดความรำคาญ ดันเสือกไม่ยอมจบ
“หนก..มึงเคยมั่นใจไหมว่ากูแมน ไอ้ที่บอกเสียความรู้สึก เพราะกูตั้งใจเล่นเป็นตัวพระนางคู่กับมึง
ดันพลิกเป็นบูตัส อุตส่าห์ซ้อมแทบตายมันย่อมมีบ้าง พวกมึงรวมหัวแกล้งกู ล่อซะกูเป็นผีป่า ระยำไหมหืม..
รู้เห็นเป็นใจกันแบบนี้ ดีที่กูไม่กระทืบเรียงตัว” ไม่ยอมจบ กูจัดเต็มให้เลย
“แบมมันกลัวงานกร่อย บูตัสป้ำๆเป๋อๆ มึงก็เห็นมันมั่วบทตายห่า ไอ้แบมเลยคิดดึงเอาจุดด้อยตรงนี้
มาเป็นจุดเด่นแทน ขืนบอกมึงคงย้ำให้มันเป็นนางเอกจนได้ สุดท้ายตลกฝืดแน่นอน ไม่ได้มีแต่มึงที่ไม่รู้
พวกที่เล่นต่างไม่มีใครรู้ บูตัสมันก็ด้วย ยกเว้นกูกับไอ้ตี๋สองคน แบมมันเรียกไปพลิกบทนิดหน่อย”
กูขอเว้นมึงไว้เป็นศัตรูอันดับสุดท้ายในชีวิต อีห่าแบมน่ากลัวสุดๆ หน้าสวยชวนตะลึง ลองใครได้รู้จักตัวตน
อีนี่สมฉายาสวยประหารตัวแม่จริงๆ พี่ต้นตายสนิทเจอมันไม่มีกระดิกไหนหรอก
“เออ..ผ่านไปแล้วช่างเหอะ อย่างน้อยก็ออกมาดี พ่อแม่กูชมใหญ่เล่นดีกว่าตลกสามช่าอีก”
พ่อพูดจริง ไม่คิดว่าพวกเราเล่นขำได้ขนาดนั้น แกหัวเราะท้องแข็ง เจ๋งสุดเป็นอีห่าบูท่าทางมึนๆอึนๆ
พูดผิดถูกของมัน ติดตราตรึงใจผู้ชมเหลือเกิน ถ้ามันไม่ติดแพทย์แนะให้เป็นตลกอาชีพคงรุ่ง
“อืม..ป๊าม๊ากูก็ชม” ดีใจแทนมันเหมือนกัน ครอบครัวชมใหญ่
“ไปจองรอบหนังก่อนไหม หรือหาอะไรกินก่อน” ผมถาม หลังจอดรถเข้ามาในห้างเรียบร้อย
“ไปจองรอบก่อนดีกว่า ดึกไม่ได้นะโจ๊กเต็มที่ 2 ทุ่ม พักนี้ป๊าม๊ากูเริ่มเกริ่นเรื่องมึงแล้ว
บอกกูกับมึงตัวติดกันแบบนี้ ให้มันชัดเจนกันหน่อย” คิดไว้แล้ว วันใดวันหนึ่งต้องมาถึง
ยิ่งพักหลังผมขยันมีของติดมือไปฝาก ชัดมากถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ อาศัยเข้าทางพ่อแม่
มีแต่อีห่านี่แหละอึนได้อึนดีพอกับอีห่าบูเลย น่าจับเป็นคู่แฝดเสียเลย
“อืม..ขึ้นชั้นบนกัน” พยักหน้าให้ไปขึ้นลิฟท์
“Rrrrrzzzzz!!!” เสียงเพลงโทรศัพท์ของมันดัง เงื้อมหูฟังเนียนๆ น้อยครั้งโทรศัพท์มันจะมีสายเข้า
“ฮัลโหล” ไอ้หนกขานรับ
“เดียร์..” เสียงมันครางแผ่วชื่อคนปลายสาย แต่หูผมได้ยินชัด มีเหลือบตามองผม
ก่อนหันหน้าหนี ทำแบบนี้กูชักเริ่มหงุดหงิดแหละ
“ไม่ว่าง ติดธุระไปไม่ได้” เสียงไอ้หนกบอก อดีตแฟนมันนึกยังไงชวนไปหาวะ อย่าเสือกรีเทิร์นตอนนี้ล่ะมึง
“อะไร..อย่าทำนะ” เสียงมันเริ่มดังอย่างลืมตัว ผมยืนรอนิ่งๆ หน้ามันเจื่อนไปถนัด
“เดียร์..ทำแบบนี้เพื่ออะไร” น้ำเสียงชักเริ่มไม่สู้ดี พานทำผมใจไม่ดีตามไปด้วย เกิดอะไรวะ
“เอาเถอะก็ได้ เจอกันที่ร้านxxxx ครึ่งชั่วโมง” อ้าว! เสือกรับปากไปเฉยเลย
เรื่องหนังที่ผมอุตส่าห์วางแพลนไว้เป็นหมันดิ
“แค่นี้นะ จะรีบไป” พูดจบมันตัดสาย หันหน้ามาทางผมสายตาสำนึกผิด
แทนการขอโทษกลายๆ ผมนิ่งรอฟังมันจะพูดอะไร
“โจ๊ก..ยกเลิกก่อนวันนี้ กูมีธุระด่วน” ผมยังคงเงียบ มันเริ่มวางมือวางไม้ไม่ถูก
คงเห็นผมจ้องไม่วางตา วิธีการไม่พูดไม่ตอบแบบนี้ มันย่อมรู้ว่าผมไม่สบอารมณ์สุดๆ
“โจ๊ก..แยกตรงนี้นะ โทษทีกูไปส่งไม่ได้” พูดจบตั้งท่าจะเลี้ยวกลับ มือเร็วกว่าที่คิด
คว้าหมับจับข้อมือมันลากออกมายังลานจอดรถ ตัวมันแทบจะปลิวแต่ไม่กล้าส่งเสียง
ผมรู้มันไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาคนในห้างที่เดินกันพลุกพล่าน เลยทำตัวสงบเสงี่ยมตามมาโดยดี
กะพอลับตาคนมันค่อยเอาคืน อ่านทางมันถูกหมดน่า
“ปล่อยกู ไอ้โจ๊ก” ว่าแล้ว พ้นประตูมาลานจอดรถ คนบางตามันขึ้นเสียงทันที
มืออีกข้างพยายามแกะมือผมออก เลยออกแรงบีบกระชากมันตัวปลิว
“โอ้ย!..กูเจ็บโจ๊ก” เสียงมันอ่อนลง หน้าเหยเกคงเจ็บไม่น้อย
“อธิบายมา” เสียงนิ่งห้วน พยายามข่มอารมณ์ที่ปรี๊ดด้วยการหายใจยาวๆ
ยอมรับโมโหจนแทบอยากบีบคอใครก็ตามที่แกว่งเท้าหาส้น
“กูติดธุระ” ยังมีหน้าเลี่ยงอีก
“หนก..บอกไม่บอก” ผมหรี่ตาขู่แล้ว สัมผัสได้ตัวมันเริ่มสั่นนิดๆ
ข้อมือที่ผมจับอยู่ส่งแรงให้รู้ ลึกๆมันกลัวอารมณ์โมโหของผม เคยเห็นมาแล้วตอนมันโดนแกล้งสมัย ม.3
สี่ต่อหนึ่งผมล่อซะพวกนั้นหลับทั้งยืน ตั้งแต่นั้นมันกลัวมากไม่เคยแหย่ หรือขัดใจทำผมโมโหขั้นรุนแรงสักครั้ง
“เดียร์โทรมา” มันอ้อมแอ้มตอบ
“เรื่องนั้นกูรู้ ประเด็นมึงเปลี่ยนเบอร์แล้วไม่ใช่ มันได้มาจากไหน หรือว่ามึง..” เจตนาค้างไว้ จับสังเกตท่าทีมัน
“เปล่านะ..กูไม่เคยให้ ถ้ารู้กูจะรับสายต่อหน้ามึงเหรอ”
“สัด..แสดงว่าลับหลังกูคุย” ผมสบถจนมันสะดุ้งโหยง
“ไม่ใช่ กูยกตัวอย่าง ไม่เคยคุยตั้งแต่เลิกแล้วเหอะ” มันค้อน
“มันมีเรื่องอะไรต้องติดต่อมึง” เข้าประเด็นเลยดีกว่า
“ปล่อยแขนกูก่อน เจ็บ” เออ..ลืมไป พอปล่อยมือมันรีบคลำป้อยๆ แดงเป็นรอยมือผมเลย นี่กูแรงไปเปล่าวะ
“มันให้กูไปเจอ กูเปลี่ยนสถานที่ขอเลือกเอง” ยังมีมุมฉลาดไม่โง่ เข้าใจหาช่องได้เปรียบ
“ทำไมมันต้องการเจอมึง ไหนเลิกติดต่อไปนานแล้วหืม” เค้นความจริงมันใหญ่
ทำเป็นนักสืบโคนันแล้วกู โคแนนให้อีอึนตัวแม่มันรับไป
“กูไม่รู้ ปฏิเสธแล้วแต่มันไม่ยอม” พอได้ยินว่ามันปฏิเสธตอนแรก แล้วทำไมเสือกมายอมตอนหลัง
“ดีแล้วนี่ เลิกก็ให้มันขาด มันทำมึงเท่าไหร่ห๊ะ!..แล้วนี่นึกยังไงถึงจะไปเจอมัน”
เผลอตะคอกไปอีก ยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด มันหดคอหนีดูน่าสงสารเชียววุ้ย บทมันกลัวเป็นเอามาก
ตัวแค่นี้จับหักสองท่อนได้สบาย
“มันขู่ถ้ากูไม่ยอมไปเจอ มันจะเอารูปคู่ที่กู...” ดันพูดทิ้งไว้อีก
“รูปคู่อะไร” เร่งแล้ว อย่ามากั๊กกูตอนนี้ องค์กำลังลงอีห่า
“รูปกูจูบกับมัน” หืม..แรงสัด กูยังไม่เคยจูบมึง
“ทำไม มันขู่อะไร”
“มันจะเอาให้ป๊าม๊าดู” ฉิบหาย อีเดียร์มันเพี้ยนเหี้ยไร
“มันทำไปทำไม มันเป็นคนขอเลิกมึงไม่ใช่” กูงง?
“กูไม่รู้ ถึงจะไปเจอ อยากรู้มันต้องการอะไร” สงสัยมันคงไม่รู้จริง
“งั้นไปกัน” ผมดึงกุญแจรถที่มันถือ กะทำหน้าที่เสียเอง
“เฮ้ย!..โจ๊ก” พยายามจะแย่งคืน แต่ผมชูแขนสูงตะคอกเสียงห้วน
ในใจนึกอยากด่า ‘ชั่วโมงนี้มึงฟังกูอีห่า’
“หยุด..จะยอมให้กูพาไปหรือมึงไม่ได้ไป เลือกเอา” สุดท้ายเดินคอตกขึ้นไปนั่งคู่ผม
ซึ่งทำหน้าที่สารถีพาไปส่งอดีตจัญไร ตามร้านที่มันบอก ผมรู้จักเป็นร้านเค้กน่ารักๆ
เคยไปกินกับมันบ่อย อยู่ย่านโรงเรียนเก่า
"หนก..พี่โจ๊ก” เดียร์หน้าเจื่อนสนิท หลังเห็นไอ้ทอมไม่ได้มาคนเดียว
“พี่มาในฐานะแฟน เดียร์มีธุระอะไรกับแฟนพี่หืม” ไม่เสียเวลา ดึงเก้าอี้นั่งปุ๊บเปิดประเด็นทันที
“หนกตลกใช่ไหม เรื่องที่คนพูดกันยังไงเดียร์ก็ไม่เชื่อหรอก” เสือกหันไปถามไอ้ทอมแทน ทั้งที่ผมเป็นคนเปิด
“เดียร์เชื่อไม่เชื่อ ไม่สำคัญสำหรับพี่เลยครับ เดียร์ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย
มันเรื่องส่วนตัวของพี่สองคน” ผมซัดกลับไม่เปิดช่อง
“หึ..พี่จะพูดยังไงก็ช่างเดียร์ไม่มีทางเชื่อ ทอมที่ไหนเปลี่ยนใจไปคบผู้ชายแค่ไม่กี่เดือน
แถมเป็นตุ๊ดที่เป็นเพื่อนสนิท” มุมนี้ของเธอไม่เหลือคราบสาวน้อยน่ารักให้เห็น แววตาเยาะหยันชะนีกร้านชีวิตชัดๆ
“แล้วยังไง ไม่เห็นแปลก ดี้อย่างเดียร์ยังเอาเพื่อนในห้องเป็นผัวได้ จะแปลกอะไรที่พี่กับหนกจะเป็นแฟนกัน”
ไม่จำเป็นต้องพูดดีด้วย ถึงไม่เคยด่าผู้หญิง ใช่สิ้นลายยอมโดนข่มง่ายๆ
“พี่โจ๊ก แรงไปหรือเปล่าคะ” เธอขึ้นเสียง ดีตรงเรานั่งโอเพ่นแอร์ใต้ร่มไม้สวนข้างร้าน ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่
“แล้วคำพูดเดียร์ไม่แรง อย่าเสียเวลาให้หนกมาหาธุระอะไรครับ” ผมเหมารวบตั้งแต่มาถึง
ไอ้ทอมหุบปากเงียบ ตกลงกันในรถก่อนแล้ว ยกเป็นหน้าที่ผม มันไม่กล้าหือหรอก
“เดียร์ต้องการเงินห้าหมื่น” พูดง่ายฉิบหาย
“ต้องการเงิน แล้วมาบอกพวกพี่ทำไม..ไปขอพ่อแม่เราสิ” สวนซ้าา!
ต่อด้านล่าง