- 2 - “โอเคหรือยังโจ๊ก” ผมถาม หลังมันเป็นคนตรวจความเรียบร้อยให้แถมสอนวิธีเก็บงูด้วย จนตอนนี้บริเวณที่เคยเป็นกระเปาะกลับเนียนเรียบไม่มีรอยนูนเด้งให้เห็นอย่างน่าพิศวง แต่ผมต้องไม่นั่ง..ลองแล้วมันจุก
“อืม..ได้แล้วไปกันเถอะ” ตอนนี้ผมสวมเสื้อคลุมนักมวยเตรียมชั่งน้ำหนัก ก่อนหน้ารุ่นน้องสองคนชั่งกับคู่ชกไปแล้ว
“มาถ่ายรูปก่อน” พี่หนวดเรียกไปเข้ากล้องกับนักมวยต่างสถาบันตัวแทนจากอาชีวะ เราได้แต่สบตากัน หน้าตาดีนะไอ้นักมวยคนนี้ สูงกว่าผมเล็กน้อย แต่ล่ำพอสมควร ผมเพรียวกว่ามากเลยอ่ะ
“ทีนี่..ขอนักมวยจรดนวมแล้วหันมองกล้อง” ช่างภาพสั่งจัดท่า พวกผมก็ทำตาม คู่ชกมองหน้าผมนิ่ง
“เสร็จแล้ว ทางอาชีวะเริ่มชั่งก่อน” พูดจบเสื้อคลุมฝ่ายนั้นพี่เลี้ยงมาถอดออกรวมทั้งนวมที่ใส่ถ่ายรูปด้วย ตอนนี้คู่ชกผมนุ่งกางเกงในสีขาวตัวเดียว หน้าท้องซิกแพคไม่ต้องพูดถึง จัดเต็มเลยครับ
“55 กิโล” คนขานๆ ให้กรรมการจด ก่อนคู่ชกจะเดินลงจากตราชั่งแบบไม่แคร์สายตาใคร ดูชิวๆชินมากๆ
“ของโรงเรียนxxx เชิญได้เลย” กรรมการเรียก โจ๊กในฐานะพี่เลี้ยงปลดเสื้อคลุมผมออกถือไว้ให้ ส่วนนวมถอดรอตั้งแต่แรกแล้ว
“ฮู้!!!..ขาวมาก” เสียงแซวจากอีกฝ่าย ทำให้ผมหน้าร้อนวาบ กางเกงในสีขาวเหมือนกัน แต่ก็เดินขึ้นชั่ง..ท่ามกลางสายตาที่มองแล้วรู้สึกขนลุก
“53 กิโล” คนขานๆ ให้จด
“เสี่ยงเหรียญ หัวหรือก้อย” จู่ๆกรรมการหนึ่งในนั้นก็กวักมือเรียกผมสองคนเข้าไปประจันหน้ากัน ในสภาพนุ่งกางเกงในคนละตัว ต่างแต่อีกฝ่ายเป้านูนเป็นกระเปาะ แต่ของผมเนียนเรียบเป็นสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า
“ผมก้อย/หัวครับ” อีกฝ่ายเรียกหัว กรรมการโยนเหรียญตะปบ หงายออกมา เป็นก้อยของผมเรียก
“ถ้างั้นอาชีวะไปคุมน้ำหนักให้ได้ 53 ทางนี้ไม่ต้องเพิ่มน้ำหนักแล้ว แต่อย่าให้ต่ำไปกว่านี้ ก่อนแข่งสองวันเราจะเช็คน้ำหนักครั้งสุดท้าย” โจ๊กรีบเอาเสื้อคลุมให้ผมสวม อีกฝ่ายพี่เลี้ยงก็เอามาให้มันสวมเช่นกัน
“ยินดีได้ชกกับบูตัส” คู่ชกเดินเข้ามาโอบไหล่ผมพร้อมตบแปะๆ เหมือนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมได้แต่มองการกระทำของเขางงๆ
“จำเราไม่ได้..เอ็กซ์ไง” เขาคงเห็นผมมึน เลยแนะนำตัวอีกครั้ง คลับคลายคลับคลา แต่ยังนึกไม่ออก
“เราเคยฝึกมวยตอนเด็กด้วยกัน..จำได้ยัง” ถึงบางอ้อ เอ็กซ์คือเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนมวยไทยสมัยประถมคลาสเดียวกับผม แต่ตอนนั้นเจ้านี้ไม่ได้เรื่อง..โดนผมชกร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยนะ
“นายเองเหรอ..ทำไมจำเราได้” ถามอย่างสงสัย ท่ามกลางสายตาสนใจของโจ๊กกับพี่เลี้ยงอีกฝ่าย ซึ่งหน้าจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน
“เห็นตอนเดินออกมาก็จำได้แล้ว ว่าเป็นนาย” เอ็กซ์บอก
“เหรอ..ไม่อยากเชื่อว่าเราจะกลับมาเป็นคู่ชกกันอีก” ผมพูด
“แต่คราวนี้ไม่เหมือนครั้งนั้นแล้ว” ผมนิ่วหน้าสงสัย
“ก็ตอนนั้นเราแพ้นาย แต่ตอนนี้เราเป็นแชมป์มวยนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 นายล้มเราไม่ได้แล้วล่ะ” เอ็กซ์ยิ้มอย่างมั่นใจ แถมสายตาที่มองผมยังแปลกๆ หันไปสบตาโจ๊กเพราะมันสะกิดยิกๆ
“นายใช่ไหมที่ใช้ฉายา เอ็กซ์เมนศิษย์เอเลี่ยน” โจ๊กมันแทรกถามเอ็กซ์พยักหน้าให้ยิ้มๆ ผมงงอ่ะ ทำไมโจ๊กมันรู้จัก
“พ่อกูชอบมวย คู่ชกมึงเป็นนักมวยดังรุ่นเยาวชนตอนนี้”
“จริงดิ..นายเอาดีด้านชกมวยเลยเหรอ” หันไปถามเอ็กซ์อย่างตื่นเต้นดีใจไปกับมัน
“หึหึ..แรงบันดาลใจจากนาย ทำให้เรามาถึงจุดนี้” เอ็กซ์บอกผม
“เราเหรอ..” ยังไม่ค่อยเข้าใจ
“จำที่เราแพ้นายได้ไหม เราพูดกับนายว่ายังไง” นึกประโยคที่เอ็กซ์ชกแพ้แล้วร้องไห้ไม่ออก เขาบ่นอะไรไม่รู้ผมไม่ได้สนใจฟัง
“จำไม่ได้สิ นายไม่สนใจด้วยมั้ง เราจะทวนให้ฟังอีกครั้ง เราพูดว่าสักวันหนึ่งเราจะชนะนาย และทำให้นายเป็นแฟนเราให้ได้” ประโยคท้าย เลื่อนเข้ามากระซิบเฉียดหูผมไปนิดเดียว แต่ทั้งโจ๊กและผมได้ยินแน่นอน
“นะ...นาย” ผมมองหน้าเอ็กซ์อย่างอึ้ง
“นั่นแหละ งานนี้ถ้านายแพ้ต้องเป็นแฟนเรา” ตายเว้ย!..มันพนันนอกรอบอะไรเนี่ยะ
“เราไม่รับคำท้า” ผมปฏิเสธสั่นหัวพรืด โดนไม่ต้องเสียเวลาคิด
“รับไม่รับไม่สน..ยกเว้นนายชนะเราเท่านั้นถึงยอมถอย แต่คงยากดูนายตอนนี้แทบไม่เปลี่ยน ฝีมือเราไม่เหมือนเดิมแล้ว” เอ็กซ์ดูมั่นใจมาก ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรอีก
“นักมวยทุกคนมาถ่ายรูปหมู่หน่อย” จากนั้นพี่เลี้ยงแต่ละรุ่นก็พานักมวยของตัวเองมารวมกับคณะกรรมการ ที่ยืนประชุมอะไรกันไม่รู้ น่าจะเป็นเรื่องแผนการชกและระเบียบนั่นแหละ
โจ๊กพาผมไปยืนเข้าแถว โดยที่เอ็กซ์ตีคู่อยู่ข้างๆ แอบเอาไหล่เบียดผมอีก ดีนะที่ใส่เสื้อคลุมแล้ว แต่ที่น่าตกใจคู่ชกของรุ่นน้อง หนึ่งในนั่นมัน
“ไอ้สรร” มันเห็นผมยิ้มยักคิ้วให้อย่างกวนๆ ตายห่า..ไอ้นี่มันเป็นนักมวยตัวแทนของอาชีวะเหรอ แล้วคนข้างๆ ที่เดินตีคู่มาด้วย
“ไอ้เขม” มันมองพร้อมกับหรี่ตาให้อย่างกรุ่มกริ่ม พี่เลี้ยงไอ้สรร
“ไงบูตัส เฮ้ย!..ไอ้เอ็กซ์น้องบูเขาไม่แมน มึงเล่นแรงระวังโดนด่ารอบสนามนะโว้ย” ไอ้สรรแซวเอ็กซ์ อีกฝ่ายแค่ยักไหล่แบมือแบบไม่สนใจกับสิ่งที่ไอ้สรรมันพูด
รุ่นน้องอีกคนชกกับใครไม่รู้จัก แต่ดูน้ำหนักส่วนสูงแล้ว โรงเรียนผมเป็นรองหมดทุกคู่เลย ไอ้สรรก็ดูสูงแกร่งกว่ารุ่นน้องอีก ส่วนอีกคนก็ไม่ต่างกัน เอ็กซ์ก็สูงแน่นกว่าผมด้วย แถมเป็นนักมวยแชมป์เยาวชนต่างหาก
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“จริงหรือบูตัส” กนกมันตาโต ถามย้ำหลังโจ๊กเล่าให้พวกมันฟังว่าคู่ชกพวกผมเป็นใคร มันไม่ได้สิทธิ์เข้าไปในห้องชั่งน้ำหนักด้วย
“อืม..” ผมผงกหัวรับ
“อย่างนี้มึงงานหนัก ไอ้ห่าเอ็กซ์อะไรนั่นกะเอาชนะมึงชัวร์ มึงไหวไหมว่ะ..บูตัส” กนกถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นสมัยเด็กกูไม่กังวล แต่ตอนนี้มันดีกรีแชมป์เยาวชนด้วยสิ คงต้องศึกษาทางมวยมันดูก่อน ว่าแต่โจ๊กมึงพอจะหาเทปการชกของเอ็กซ์ที่พ่อมึงเคยดูให้กูได้ไหม อยากศึกษาทางมวยมันหน่อย” ผมหันไปคุยกับโจ๊ก
“ไม่มีปัญหา มันดังนะฉายา เอ็กซ์เมนศิษย์เอเลี่ยน ถามป๋ากูเกิลก็คงไม่ยากหรอก ว่าแต่มึงเร่งเอาหรือเปล่าล่ะ”
“เร็วได้ยิ่งดี” ผมบอก
“ไม่พ้นเจอพวกไอ้เขมมันจนได้ โลกมันกลมจริงๆว่ะ” โจ๊กมันเปรย ส่วนแบมนั่งฟังเงียบๆ มันไม่เคยเห็นหน้าพวกไอ้เขมไอ้สรรมาก่อน
“เอาน่าคิดอะไรมาก เหลือเวลาเป็นอาทิตย์ช่วงนี้มึงศึกษาทางมวยมัน ให้พี่หนวดช่วยแก้เกมก็น่าจะโอนะ” โจ๊กมันบีบไหล่ให้กำลังใจ
“ชะลัลลาๆๆๆ!!!!!” เสียงริงโทนโทรศัพท์ผมดัง หยิบมาดูเบอร์
“ไอ้เขม” ผมเปรย พวกเพื่อนชะโงกมาดูกันใหญ่
“มึงให้เบอร์มันตั้งแต่เมื่อไหร่” กนกถาม ผมไม่อยากตอบ ต่อให้ตัดสายทิ้งมันก็คงโทรมาอีก แถมโดนกดดันจากพวกโจ๊กให้กดรับพร้อมเปิดสปีคโฟนให้พวกมันฟังด้วย เลยจำใจต้องทำ
“ฮัลโหล..”
“ว่าไงบูตัส กูตกใจนะที่เห็นมึงเป็นคู่เอกชกกับไอ้เอ็กซ์” เขมมันคงห่วงถึงโทรมาถาม
“อืม..กูก็ประหลาดใจ ที่ไอ้สรรเป็นนักมวย” ผมบอกตามที่คิด
“มันเป็นนักมวยวิท’ลัย ส่วนไอ้เอ็กซ์มวยอาชีพ งานนี้วิท’ลัยกูตั้งใจใช้มันเรียกคนดู แฟนมวยมันเยอะ แต่ที่กูอึ้งคือไม่คิดว่าเป็นมึงที่เป็นคู่ชกไอ้เอ็กซ์ต่างหาก มึงเป็นนักมวยด้วยเหรอ..บูตัส” ผมเป็นมันก็แปลกใจ กนก โจ๊ก แบม ต่างสนใจฟังเงียบๆ
“กูโดนขอร้องให้ชก” บอกมันไปตรงๆ
“เหี้ย!..แล้วมึงไปรับปากทำไม” น้ำเสียงเขมดูมันกังวลจริงๆ
“ช่างเหอะ มึงมีเรื่องถามแค่นี้ใช่ไหม” ผมตัดบท
“มันคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว เหลือแค่อาทิตย์เดียว น้องมึงฝีมือมวยดีเล่นซะกูหน้ายับ มึงคงไม่กระจอกล่ะมั้ง” มันสรุปเอง
“บอลลูนต่อยเก่งขนาดนั้นเชียวเหรอ” รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ยินคำชมจากปากไอ้เขม ถ้าไม่ยอมรับมันคงไม่กล้าพูด
“อืม..ไม่ต้องย้ำกูหรอก ว่าแต่มึงอย่าทำให้หน้าใสๆช้ำเสียของล่ะ รักษาไว้ให้กูด้วย” มันเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย
“พ่องมึงสิ” ผมเหวี่ยง มันยังคิดจะจีบผมอยู่สิท่า
“ฮ่ะฮ่าๆๆ..ตุ๊ดห่าไรกวนตีน ผู้ชายหล่อรวยอย่างกูจีบควรดีใจนะมึง กูไม่เคยจีบตุ๊ดมาก่อนด้วย มึงคนแรกเลย..ฮ่าๆๆ” มันยังหัวเราะขำ แต่ผมอายหน้าแดงแล้ว พวกเพื่อนจ้องผมตาโตตามกัน หลังได้ยินไอ้เขมมันตอบแบบนี้
“ไอ้บ้า..กูมีแฟนแล้วไอ้นี่นิ”
“ช่างมึงดิ กูไม่ได้จีบแฟนมึง กูจีบมึงต่างหาก” หน้ามึนมากไอ้เขมมึงพูดได้ไม่อายปาก แถมคำพูดมันทำให้พวกแบมกลั้นหัวเราะหน้าดำหน้าแดงเห็นเป็นเรื่องตลก
“ช่างกู..คือไม่ให้มึงจีบเข้าใจไหม” ผมตะคอกใส่โทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ไม่เคยเจอใครกวนเท่าไอ้ห่าเขมมาก่อน
“กูเข้าใจ..แต่ไม่สนใจ เตรียมตัวเจอกูจีบให้ดี..ฮะฮ่าๆๆ” คราวนี้เสียงหัวเราะไม่ได้มีแค่เสียงมัน มีแทรกเข้ามาด้วย สงสัยมันเปิดโฟนให้เพื่อนมันฟังด้วยแน่ ระยำจริงคุยกับผมเสือกให้เพื่อนรู้ อ้าว! กูก็ทำนี่หว่า?
“ตลกไอ้ห่าเขม กลุ่มมันประสาทดีหรือเปล่าว่ะ” กนกเปิดประเด็นหลังผมปิดมือถือหนีไอ้เขมบ้า
“ถ้ามันประสาทดีคงไม่กวนกูหรอก” ผมบอก
“ไม่แน่นะมึง..มันอาจสนใจมึงก็ได้ ไม่งั้นผู้ชายเหี้ยที่ไหนจะตีมึนจีบตุ๊ดทั้งที่โดนปฏิเสธอย่างนี้ว่ะ” โจ๊กเสนอแนวคิด
“ไหนบอกมันเป็นแฟนชะนีหอยเหม็น” แบมถาม
“มันเพิ่งเลิกกับสายไหมหลังมีเรื่องกับบอล” ผมบอกให้พวกมันฟัง
“คงไม่ใช่งานนี้กะเอาคืนที่น้องมึงไปตีท้ายครัว เลยจีบมึงเข้าล่ะ” แบมพูด..ดูมีเหตุผล
“เออ..มีสิทธิ์เป็นไปได้” โจ๊กสนับสนุน
“ช่างสิ บูตัสมันไม่ได้สนใจนี่” กนกสรุป ก่อนทุกสายตาหันมองผม เพื่อขอคำยืนยัน
“อืม..กูมีแฟนแล้ว พวกมึงก็รู้” ผมบอกพวกมัน
“จร้า..อย่าให้กลายเป็นรักสามเส้าเข้าล่ะ ไอ้เขมหน้าไม่ได้บ้านๆเสียด้วย หล่อรวยอีกต่างหาก บทจะมีผัวไหลอย่างกับน้ำป่าทะลักเลยอีบู..เสน่ห์แรงแซงหน้าเข้ามหา’ลัยไปแล้ว” โจ๊กมันแซว เปรียบซะขนลุก
“ผัวเหี้ยไรมึง..ทำอย่างกับกูจะชอบใครที่หน้าตาเป็นหลัก ดูถูกน้ำใจกูแล้วโจ๊ก” ผมว่ามัน นั่นไม่ใช่นิสัยผมสักหน่อย
“ถ้ามันไม่เลือกรุ่นพี่หล่อๆตามหม้อตั้งแต่ม.4 คงมีแฟนไม่ซ้ำหน้า ไม่เก็บซิงมากระทั่งตอนนี้หรอก กระทั้งแต๊ปงูยังใสซิงซะ น้องหนุ่ยคงโชคดีถ้ามึงเปิดใจให้น้องมันเปิดซิง” แบมมันพูดแซวผมยิ้มๆ แต่ผมกระดากใจทันที ถ้าพวกมันรู้ว่าผมไม่ซิงจะคิดกับผมยังไง ซ้ำร้ายคนที่เปิดซิงดันเป็นบอลลูนด้วยสิ
“ไปเหอะ..ขึ้นห้องหมดคาบแล้ว” ผมเร่งพวกมันขึ้นเรียนคาบสุดท้าย ก่อนจะซ้อมหนักช่วงเย็น ซึ่งกนกกับโจ๊กมันอยู่ซ้อมประจำ ยกเว้นแบมอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับพี่ต้นว่างไม่ว่าง
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
บอลลูนพาแวะกินข้าวที่ใหม่ ไม่ได้ไปที่ตลาดนั้นอีก ไม่รู้เจตนาหลบหน้าลูกแพรหรือเปล่า แต่ยังเห็นโทรคุยกันอยู่ ส่วนใหญ่ลูกแพรโทรมา ที่ทำให้สงสัยเพราะบอลลูนดันอ้างว่า ช่วงนี้ซ้อมเหนื่อยเลยไม่อยากแวะผมจึงเดาเอาเอง..หลบแหง๋ๆ
“เอาอะไรอีกไหม” น้องถามระหว่างผมกินลาดหน้าทะเลจวนหมดส่วนบอลลูนซัดหอยทอดเป็นจานทีสอง หลังกินสุกี้แห้งไปจานหนึ่งแล้ว
“อิ่มแล้ว” ผมกินได้ไม่เยอะ จานเดียวก็จอด แต่น้องต้องมีเบิ้ล ไม่แปลกหรอก น้องโตเอาๆวัยกำลังเจริญอาหารจานเดียวคงไม่อยู่กระเพาะ
“ทำไมเลิกใช้มอเตอร์ไซค์ รถยนต์เปลื้องน้ำมันเปล่าๆ” ถือโอกาสถาม ตั้งแต่ย้ายที่กิน บอลลูนเปลี่ยนมาขับพีรูดแทนมอเตอร์ไซค์ ซึ่งผมเห็นว่าใช้มอเตอร์ไซค์ประหยัดกว่า น้องมองหน้า..ก่อนยกน้ำขึ้นจิบ
“อยากซ้อนท้าย..ชอบแว๊นเหรอ” ท่าทางกวนสายตาเกเร เห็นแล้วแปลกๆ ถามแค่นี้ก็กวนกลับด้วย
“เปล่า..มันประหยัดกว่า”
“ไม่ต้องคิดแทน อยากแบกกีตาร์หรือไง” น้องสวนกลับ
“ไม่ได้ลำบาก แบกไหว” ผมพูดตามความจริง
“แล้วใครดันกลัวหัวหด กอดเอวเกือบขาด..หึ” น้องอ้างครั้งนั้นตอนเจอพวกไอ้เขมขับซะเร็ว ผมเถียงไม่ออก
“จบงานค่อยสลับใช้ ช่วงนี้เซฟก่อน” หืม..ผมมองหน้างงๆ จบงานผมก็ต้องกลับไปนั่งรถโรงเรียน บอลลูนพูดเหมือนกับจะให้ผมกลับด้วย
“รถโรงเรียนสิ้นเดือนนี้ยกเลิก” น้องเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“ทำไม” จู่ๆ มาให้ผมยกเลิก ถึงเป็นเงินของน้องออกค่ารถก็เถอะ
“อยากประหยัดไม่ใช่ ไปกลับด้วยกันประหยัดกว่าไหม” เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย ตั้งแต่ผมเป็นแฟนกับหนุ่ยเหมือนน้องจะเปิดใจไม่กีดกันผมเท่าไหร่
ไม่รู้ผมทำหน้ายังไง แต่ที่แน่ๆ คิดว่าตัวเองคงกำลังยิ้ม ชำเลืองดูบอลลูน น้องยกน้ำขึ้นจิบไม่สบตาผมเลยเหะ ก่อนจะลุกไปจ่ายตังค์ ผมต้องรีบลุกตาม จะกลับก็ไม่บอกแถมจ่ายเงินเสร็จเดินลิ่วเลยนั่น
สบายใจไม่น้อยไม่ต้องนั่งฟังลูกแพรพูดไร้สาระ ไม่ต้องอึดอัด พอขึ้นรถบอลลูนก็เปิดเพลงฟัง ต่อให้เราพี่น้องไม่ได้คุยกัน แต่ภายในรถก็ดูบรรยากาศสบายกว่าแต่ก่อนมาก ชำเลืองมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของน้อง ซึ่งจ้องถนนอย่างตั้งอกตั้งใจ ผมอดยิ้มไม่ได้สิ้นเดือนนี้ผมไปกลับกับน้องทุกวันแล้วสินะ
เราสองพี่น้องย่นระยะห่างลงแล้ว ไม่คิดว่าน้องจะยอมให้ผมไปกลับด้วยในเวลาปกติ ยังแอบคิดว่าน้องกลัวอายด้วยซ้ำ แต่ดูจากที่น้องตัดสินใจวันนี้ คงลดทิฐิเรื่องผมลงบ้างแล้ว ผลของการเป็นแฟนกับหนุ่ย ทำให้ข่าวลือเรื่องผมกับน้องซาลงไป น้องหนุ่ยประกาศตัวชัดเจนว่าคบกับผม คงเพราะเหตุนี้น้องจึงไม่ต้องพะวงและระวังตัวอะไรกับผมอีก..?
มาต่อให้เร็วเลยค่ะ ชอบกำลังใจที่เม้นท์กันมากมาย ทำให้คนเขียนเร่งปั่นเร่งลง
ไม่อยากให้คนอ่านขาดใจรอ เหมือนไฟมันโหมกระพือ สมองโปร่งเพราะกำลังใจ
ตอนนี้พี่บูยังไม่ได้ชก มันยาวอ่ะ ไว้ตอนหน้านะ ตัดลงไม่ได้จริงๆ
Luk.
