@@@โดยLuk {My..Love} ความรักของเพื่อนแท้ ที่ยั่งยืนถาวรตลอดกาล
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

รบกวนโหวต..ให้คะแนนตัวละครที่คุณชื่นชอบสักนิดนะคะ

บูตัส
278 (61%)
บอลลูน
41 (9%)
โจ๊ก
66 (14.5%)
กนก
6 (1.3%)
แบม
65 (14.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 394

ผู้เขียน หัวข้อ: @@@โดยLuk {My..Love} ความรักของเพื่อนแท้ ที่ยั่งยืนถาวรตลอดกาล  (อ่าน 1271494 ครั้ง)

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
+1

ขอบคุณค่า   :L2:   :pig4:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
รอลุ้นไปเรื่อยๆว่าเมื่อไหร่บอลลูน
จะเปิดใจสักที :z2:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
โจ๊กกนกนี่ยังไง ๆ อยู๋นะ กนกทายาให้โจ๊กโจ๊กมีเขินด้วย บอลเป็นห่วงบูก็บอกบูไปตรง ๆ สิ เพื่อนผู้หญิงคนนั้นนี่นิสัยแย่พอ ๆ กันเลยนะนั่น

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
แหม~ ทำเป็นเท่ เชอะๆๆ
ก็ได้ๆ ยอมรับว่าเท่ นิดๆ :o8:

คู่รองก็ดูเหมือนโจ๊กจะรู้สึกก่อน และแสดงออกกว่านะ
หนกไม่ค่อยแสดงอาการ แล้วยังมีเดียร์อยู่แล้วด้วย

ออฟไลน์ whipcream

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ท่าทางบอลลูนจะเป็นหนุ่มซึน...รียยอมรับหัวใจตัวเองไวนะ

ออฟไลน์ thepopper

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ห่วงบูบ้างแล้วล่ะซิ

ไอ้น้องปากแข็ง

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
My love 
Part 11



   ตั้งโต๊ะเสร็จ ผมขึ้นไปเคาะเรียกบอลลูนทานข้าว มื้อนี้ตั้งใจทำของโปรดน้องเป็นพิเศษ แทนคำขอบคุณที่ไปช่วยแก้ไขสถานการณ์
   แอบชะงัก..หลังได้ยินเสียงกีตาร์ ดีดๆหยุดๆฟังไม่เป็นเพลง กีตาร์มาจากไหน น้องซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้ามีอยู่ในห้องผมต้องผ่านตาสิ 

   “ก๊อกๆๆ ทานข้าว” เรียกเสร็จผมกลับมารอที่โต๊ะ พร้อมคำถามที่ยังคาใจ บอลลูนตามลงมาไม่นาน ชุดนักเรียนครึ่งท่อนเสื้อกล้ามสีดำแทนเสื้อนักเรียน ขับผิวขาวของน้องให้สว่างขึ้นอีก

   ผมตักข้าว น้องกวาดสายตาสำรวจอาหาร หน้าหล่อดูพอใจหลังเห็นกับข้าวบนโต๊ะ แน่สิของโปรดทั้งนั้น ไข่ยัดไส้ แกงจืดลูกรอก พะแนงไก่
   บอลลูนตักพะแนงใส่จานให้ผมเช่นเคย ค่อยลงมือทานเงียบๆ กินไปไม่กี่คำผมตัดสินใจเปิดการคุย ถ้าผมไม่เริ่มคงไม่มีใครพูดขึ้น

   “พี่ได้ยินเสียงกีตาร์ ซื้อมาเหรอ” บอลลูนเหลือบตามองหน้า อึดใจใหญ่น้องถึงยอมเอ่ยปาก

   “ซื้อมานานแล้ว” บอกเสร็จหันไปตักข้าวเข้าปากต่อ

           “ไม่เคยเห็นมาก่อน” ผมเปรย ไม่อยากให้คำตอบปิดการสนทนา หลายวันไม่ได้ทานมื้อเย็นด้วยกัน น่าจะอาศัยโอกาสนี้พูดคุยบ้าง

           “เก็บไว้ในรถ” น้องบอกเสียงเรียบ ไม่ได้แสดงความรำคาญ ใจชื่นขึ้นหน่อย มิน่าผมไม่เคยเห็น สงสัยวันนี้นึกครึ้มถึงหยิบเอามาเล่น

          “เล่นไม่เป็นเพลง” น้องขมวดคิ้วหลังผมพูดจบ แต่ก็ไม่หน้าบึ้ง นึกว่าจะหงุดหงิดใส่เสียอีก..ที่ผมหลุดพูดแบบนั้น

          “แกะคอร์ดอยู่ ไม่ได้เล่นเพลง” บอลลูนอารมณ์ดีเหะ คุยได้เรื่อยๆ บรรยากาศค่อยหายอึดอัดลงหน่อย

          “ที่จะเล่นโชว์วันงานนะเหรอ” ผมคุยสลับตักข้าวกินไปด้วย ชักจะทานคล่องขึ้น หลังผ่อนคลายลงไปเยอะ

          “อืม..” น้องตอบสั้นๆเราเงียบกันไปครู่ นึกหาเรื่องมาคุยไม่ออก ความจริงยังแอบเคืองอยู่ แต่พอน้องมาช่วยผม เลยรู้สึกดีถึงได้อยากคุย

          “ขอบใจนะ” พูดตามที่รู้สึก บอลลูนจ้องหน้าผม

         “จะขึ้นชกไม่ใช่หรือ ไปมีเรื่องเดี๋ยวก็ไม่ได้ชกหรอก” น้องพูดมา ผมหลุดยิ้มทันที นี่น้องห่วงผมใช่เปล่า

         “พรุ่งนี้เริ่มซ้อมแล้ว มื้อเย็นคงไม่ได้ทำ เลิกสามทุ่มเชียวแหละ” ถือโอกาสบอกเสียเลย ตารางพี่หนวดเลิกประมาณนี้

          “กลับช่วงนั้นเหมือนกัน ต้องซ้อมดนตรี” ดีใจจนบอกไม่ถูก ผมได้รู้เรื่องส่วนตัวของน้องบ้างแล้ว แม้จะเริ่มจากเรื่องซ้อมดนตรีก็เถอะ

         “ซ้อมที่โรงเรียนเหรอ” จำได้ว่าพี่หนวดขอห้องซ้อมให้พวกน้อง

          “อืม..” ตอบสั้นมาก ทำให้หมดเรื่องคุย สนใจกินข้าวจนหมดจาน รวบช้อนดื่มน้ำเสร็จ กำลังจะลุกเอาจานไปเก็บ

          “เดี๋ยว!” บอลลูนเรียกไว้ รอฟังน้องจะพูดอะไร

          “บูเลิกเป็นตุ๊ดไม่ได้ใช่ไหม” ผมอึ้งไปอึดใจ คำถามนี้ควรตอบยังไง การเป็นตุ๊ดมันนึกอยากเป็นก็เป็นอยากเลิกก็เลิกได้ด้วยหรือ ผมเลือกที่จะเงียบไม่ตอบดีกว่า

         “เลิกไม่ได้สินะ” น้องสรุปเรียบร้อย ผมยังคงเงียบ

          “เก็บจานเสร็จ ยืมโทรศัพท์บูหน่อย” แอบแปลกใจ แต่ก็พยักหน้าเดินเอาจานไปเก็บ ค่อยขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ไม่คิดถามเอาไปทำไม มาถึงบอลลูนอิ่มพอดี ผมยื่นโทรศัพท์ให้ น้องรับไปกดเบอร์ยิกๆแล้วโทรออก ผมยืนมองการกระทำของน้องอย่างสงสัย หรือโทรศัพท์น้องเงินหมดไม่ได้เติมตังค์ เลยยืมของผมใช้

        “เหี้ย..กูเอง” คงเพื่อนในกลุ่ม ฟังจากการใช้ภาษา

         “เบอร์ที่มึงอยากได้” ผมไม่รู้ปลายสายคุยอะไร ได้ยินแต่บอลลูน

         “อืม..จะคุยไหม” พูดเสร็จ น้องส่งโทรศัพท์มาให้

          “ไอ้หนุ่ยจะคุยด้วย” ผมรับมาแบบงงๆ น้องหนุ่ยคนที่เลี้ยงข้าวผมคราวนั้น ยังไม่ได้เลี้ยงคืนน้องเค้าเลย

          “บูตัสครับ” ผมกรอกเสียงไป

          “ผมหนุ่ยน๊า..” ปลายสายคุยกลับมาน้ำเสียงอ้อนด้วย

          “อ่า..ว่าไงครับ” รู้สึกจักกะจี้หูพิลึก

          “พี่บูทำอะไรอยู่ครับ” ผมชำเลืองมองบอลลูน น้องไม่ได้มองอยู่ ลงมือเก็บจานเคลียร์โต๊ะเดินเข้าครัวเงียบๆ

          “พี่เพิ่งทานข้าวเสร็จ” บอกน้องเค้าไป ไม่รู้คิดยังไงขอคุยกับผม

          “อร่อยไหมครับ” ถามเหมือนไม่มีอะไรจะคุย หยิบเอาเรื่องที่ผมเพิ่งบอกมาพูดเฉย

           “ก็อร่อยดี” จะบอกได้ไงว่าไม่อร่อย ผมทำเองนิ

          “พี่บูกินเยอะๆนะครับ จะได้มีแรงต่อยมวย”

           “อืม..หนุ่ยมีอะไรกับพี่หรือเปล่า” ตัดบท ฟังแล้วไม่มีเรื่องสำคัญอะไรเลย ชวนคุยเรื่อยเปื่อยเสียมากกว่า
           “เออ..พี่บูรำคาญเหรอครับ” น้องอ้ำอึ้งก่อนถามผมกลับ

            “เปล่า..พี่คิดว่าเราอยากคุยกับบอลเสียอีก” ผมเข้าใจแบบนั้น ไปไงมาไงคุยกับผมเอาได้

           “ครับๆ ถ้าพี่บูไม่ว่างผมขอคุยกับบอลหน่อย” ผมเดินถือโทรศัพท์ไปยื่นให้บอลลูนในครัว น้องกำลังยืนล้างจานอยู่

           “เพื่อนจะคุยด้วย” ผมบอกสั้นๆ น้องหันมองเช็ดมือกับผ้าลวกๆ รับโทรศัพท์เดินไปคุยตรงโซฟา ผมเลยลงมือล้างจานต่อจนเสร็จ ออกมาบอลลูนนั่งดูทีวี เลยแวะเข้าไปขอโทรศัพท์คืน

           “โทรศัพท์ไม่ใช้แล้วใช่ไหม” น้องมองหน้า ก่อนหยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะข้างโซฟายื่นให้ กำลังจะหันหลังขึ้นห้อง

           “เดี๋ยว!..คุยกันหน่อยสิ” น้องเรียกผมอีกแล้ว น้อยครั้งที่บอลลูนชวนคุยก่อน ชักแปลกๆแต่ก็แอบดีใจลึกๆ วันนี้เราคุยกันเยอะขึ้น

           “อืม..” ผมนั่งลงที่ว่าง

           “ไอ้หนุ่ย..บูรู้จักใช่ไหม” น้องถาม ผมพยักหน้า 

           “มันอยากคบบูเป็นแฟน” บอลลูนบอก..น้ำเสียงไม่ได้ล้อเล่น

           “อะไรนะ” หน้าผมคงดูประหลาด บอลลูนถึงกับกลั้นขำ

            “ฟังไม่ผิดหรอก..ไอ้หนุ่ยให้ช่วยติดต่อ..มันชอบบู” น้องยืนยัน

            “เออ..ไหนบอกเพื่อนบอลเกลียดตุ๊ด” ผมประหลาดใจสุดๆ

            “ไม่ได้บอกเพื่อนเกลียดตุ๊ด บอลนี่แหละเกลียดตุ๊ด” น้องย้ำผมรู้สึกแปล๊บในอกทันที

            “แล้วทำไมถึงติดต่อเพื่อนให้พี่” ไม่เข้าใจ เกลียดแล้วช่วยเพื่อน

             “มันเซ้าซี้ให้ช่วย บูก็เลิกเป็นตุ๊ดไม่ได้ คบกับมันไม่เสียหายอะไรนี่” เหตุผลที่ฟัง ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจเพิ่มขึ้น

            “คือ..พี่ไม่ได้ชอบหนุ่ย” ถึงน้องหนุ่ยจะหน้าตาดีเข้าขั้นหล่อ ความจริงกลุ่มบอลลูนหน้าตาดีกันทุกคน แต่ผมไม่ได้ชอบ

            “ก็ลองคบดูดิ นิสัยมันใช้ได้นะ” น้องเชียร์เพื่อน

             “ทำไมถึงอยากให้พี่คบ” ถามตรงๆ

             “ไม่ดีหรือไง..บูมีแฟนจะได้ไม่มีคนเอาเรื่องเราไปพูดแบบนั้นอีก” เหตุผลที่น้องบอก ทำผมอึ้งไปหลายวิ

             “บอลกำลังคบลูกสาวห้องซ้อมดนตรีอยู่” น้องไม่ยอมสบตาผมตอนพูดประโยคนี้ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จะบอกว่าตัวเองกำลังจะมีแฟนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ติดต่อน้องหนุ่ยให้ผม

             “แล้วไง..” ผมอยากรู้

             “ลูกแพรเรียนคอนแวนต์ม.4 เขาถามข่าวลือที่ได้ยินจากเพื่อนเรื่องบูกับบอล...ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า” น้องเว้นไม่พูดในส่วนนั้น แต่ผมพอเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ยังคงไม่สบตามองหน้าผมเช่นเดิม

             “แล้วยังไงอีก” ถามต่อ

              “บอลไม่อยากให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา ถ้าบูคบกับไอ้หนุ่ย ช่วยตอบคำถามโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก” ผมเข้าใจทันที เราต่างเงียบ น้องก็ไม่พูดอะไรไม่ยอมสบตามองหน้าผมด้วย ผมจมอยู่กับความคิด ทบทวนสิ่งที่ฟังหลายรอบ นานพอสมควรตัดสินใจบอกน้องไปว่า

             “อืม..บอกน้องหนุ่ย พี่จะลองคบดู” พูดจบลุกเดินขึ้นห้อง ไม่สนใจด้วยว่าบอลลูนจะแสดงสีหน้ายังไง


             เข้ามาในห้องโทรหาแบมก่อนเลย เรื่องแบบนี้คุยกับโจ๊กไม่เหมาะมันยังไม่มีแฟนไม่ต่างกับผม คนมีประสบการณ์อย่างแบมซึ่งคบกับพี่ต้นมาสองปี น่าจะแนะนำผมได้ดีที่สุด

             “ว่าไงบูตัส” แบมรับสาย

              “ว่างคุยหรือเปล่า” กังวลกลัวมันอยู่กับพี่ต้น แล้วผมดันไปขัด

             “คุยได้ ตอนนี้อยู่บ้าน” สะดวกแหละ

             “กูมีเรื่องปรึกษา” ผมเริ่ม

              “ว่ามา” แบมมันไม่พิรี้พิไร ถ้าเป็นโจ๊กอย่างน้อยกัดคำคุยคำ ตามนิสัยที่มักใช้กับผมประจำ

             “คือ..เพื่อนบอลลูนที่ชื่อหนุ่ย..ขอกูคบ” ผมบอกตรงๆ แบมเงียบไปสักพัก ก่อนถามผมกลับ

              “แล้วมึงว่าไง” คิดแล้วว่ามันต้องถามแบบนี้

              “กูบอกบอลลูน จะลองคบดู” มันเงียบไปอีก ค่อยถามมา

             “มึงชอบน้องเขาหรือเปล่าล่ะ”

             “กูเฉยๆไม่ได้เกลียด” ผมบอกไปตามที่รู้สึก

            “คิดยังไงมีแฟนตอนนี้ ก่อนหน้ากูเห็นรุ่นพี่รุ่นน้องขายขนมจีบมึงเป็นว่าเล่นไม่ยักสน” เรื่องจริงมีคนเข้ามาแสดงท่าทีอย่างที่แบมมันพูด แต่ผมไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นห่วงแต่ดูแลน้อง กลัวไม่มีเวลา..มีแฟนต้องมีเวลาให้กันด้วย ดูกนกกับแบมเป็นตัวอย่าง ผมคิดว่ายังไม่พร้อมมีแฟน เลยไม่เปิดโอกาสให้ใครรวมทั้งตัวเอง ตอนนี้น้องมีเหตุผลที่อยากให้ผมมีแฟน ลองมาคิดดูมีแฟนก็ไม่เสียหายอะไร ถ้ามันทำให้บอลลูนสบายใจได้

              “ไม่รู้สิ..กูแค่อยากลอง” ผมบอกมันไป

              “มึงมันบ้าอยากลองมีแฟน..ช่างเถอะกูไม่รู้ว่ามึงต้องการอะไรแน่ แต่ถ้าอยากให้โอกาสน้องหนุ่ยก็ไม่ผิด ลองดูก็ไม่เสียหาย” แบมมันบอก ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นหน่อย

              “อืม..กูคิดเหมือนมึง” ผมบอกมันไป

             “มีอะไรอีกหรือเปล่า” มันถาม

             “กูต้องทำตัวยังไง น้องมันเด็กกว่ากูด้วยสิ” ผมพูดถึงความหนักใจที่หน่วงอก บอกไปไม่ปิดบัง ผมไม่เคยมีแฟนเสียด้วยสิ

             “ไม่ต้องคิดมาก มันเป็นฝ่ายขอคบ เดี๋ยวมันก็นำมึงเองแหละ มึงแค่ตอบรับหรือปฏิเสธก็พอ อันไหนชอบก็ยอมรับ อันไหนไม่ชอบก็บอกไปตรงๆ ให้มันปรับตัวเข้าหามึงเอง” แบมมันแนะนำ

             “จะดีหรือ รุ่นพี่ไม่ต้องเทคแคร์ กนกมันยังดูแลน้องเดียร์เลย” ผมยังรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่

              “เฮ้อ! บูตัส..มึงไม่ต้องคิดเยอะ ถ้าอยากดูแลมันเดี๋ยวเหตุการณ์จะสอนมึงเองว่าอันไหนควรดูแล อันไหนมึงควรอยู่เฉยๆ ช่วงนี้รับการดูแลจากมันก็พอ เผื่อไม่ใช่ไปกันไม่ได้ มึงจะได้มีคำพูดตอนขอเลิก น้องมันจะได้ไม่เจ็บมาก ขืนมึงไปดูแลสิ มันจะเข้าใจว่ามึงมีใจชอบมันไปแล้ว ตอนเลิกมึงแหละผิดมหันต์ พอเข้าใจไหม” แบมอธิบายยืดยาว ทำให้ผมได้คิด จริงของมัน ผมแค่บอกลองคบดูก่อนนี่นา

               “ขอบใจว่ะ ตกลงกูจะทำอย่างที่มึงบอก” รับปากไป

              “อืมเจอกันพรุ่งนี้” ได้อะไรหลายอย่างจากคำแนะนำของแบม ถือว่าเลือกปรึกษาไม่ผิดคนจริงๆ จากนั้นผมอาบน้ำ จัดตารางเรียนเตรียมอุปกรณ์ซ้อมมวยใส่กระเป๋าให้พร้อม เห็นไฟหน้าจอโทรศัพท์มีข้อความเข้า

              “ขอบคุณครับบูตัส นอนหลับฝันดี ฝันถึงหนุ่ยบ้างนะ” น้องหนุ่ยคงรู้จากบอลลูนว่าผมตอบรับ  ถึงส่งข้อความมา สรรพนามเรียกพี่ไม่มีด้วย พัฒนาข้ามขั้นไปเร็วจริง

               “ข้าวต้มปลา” ผมเรียกน้องทานข้าวต้ม วันนี้บอลลูนลงมาเช้าเหะ น้องไม่ตอบเดินเอากระเป๋ามาวางที่โต๊ะ ลากเก้าอี้นั่งจัดการตักข้าวต้มที่ผมจัดไว้ให้โซ้ยเอาๆ น้องกินอย่างเอร็ดอร่อยดูแล้วรู้สึกดี..ภูมิใจฝีมือตัวเอง

              “ซ้อมเสร็จรอที่ยิมฯ” จู่ๆน้องก็พูดขึ้น หมายความน้องจะให้ผมกลับด้วยงั้นสินะ

              “จะให้พี่รอบอลเหรอ” ถามให้แน่ใจ น้องมองหน้า

              “อืม..” เอ้..ทำไมเกิดใจดีขึ้นมา

              “แล้วถ้า..บอลซ้อมเสร็จก่อนพี่ล่ะ” น้องจะมารอผมไหม

              “เดี๋ยวโทรไป” น้องตอบสั้นๆ แต่ผมกลับยิ้มไม่หุบ


                มาถึงโรงเรียน..โจ๊กกับกนกมันถึงก่อนแล้ว พอเห็นผมลงจากรถโรงเรียนพวกมันก็ยืนรอ เพื่อเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องพร้อมกัน ผมไม่ได้มากับบอลลูนเพราะต้องขึ้นรถโรงเรียน แอบเห็นน้องขับพีรูดมาอีกแล้ว

                 “เป็นอะไรมึง..หน้าตาสดชื่นผิดหูผิดตา” โจ๊กกอดคอผมโยก ก่อนจะถามน้ำเสียงติดหมั่นไส้นิดๆ

                  “เหรอ..หน้ากูดูดีขนาดนั้น” ผมหรี่ตาอมยิ้มกวน มันไม่ทันได้ตอบ ดันมีคนเรียกผมเสียก่อน

                 “บูตัส..” ผมหันไปตามเสียง น้องหนุ่ยเร่งฝีเท้าเข้ามาหาผม โจ๊กกับกนกมองหน้าผมใหญ่ ก่อนหันไปยิ้มให้น้องหนุ่ย ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มตอบจนปากจะฉีกถึงแก้มแล้วมั้ง

                “อ่ะ..หนุ่ยซื้อมาฝาก” มาถึงน้องก็ยื่นถุงขนมให้ ผมรับมาแบบงงๆ

                “ช็อกโกแลต กินแล้วอารมณ์ดี” น้องหนุ่ยบอก มียิ้มกรุ่มกริ่มให้อีกต่างหาก คราวนี้โจ๊กกับกนกมันหันมองกันเอง แต่ไม่ได้พูดอะไร

                “ขอบใจนะ แล้วน้องหนุ่ยไม่แบ่งไปกินบ้างล่ะ” ผมถาม มือน้องเหลือแต่กระเป๋านักเรียน ในถุงขนมก็มีตั้งสองกล่อง

                “ไม่หรอก..หนุ่ยซื้อให้บูตัส อารมณ์ดีจะได้ยิ้มบ่อยๆ หนุ่ยชอบมองตอนบูตัสยิ้ม” น้องหนุ่ยยังยิ้มกว้าง ผมเขินแล้วเหะ

                “ขอตัวก่อนนะ” ชิ่งก่อนดีกว่ามันชักแปลกๆอ่า..

                “อืม..ขออะไรอย่างได้ไหม” น้องมองผมตาหวานเลยเชียว

               “อะไร” ถามไปแล้ว

                “อย่าเรียกน้องได้ไหม..เรียกหนุ่ยเฉยๆได้เปล่า” ผมอึ้งกะพริบตาปริบๆ พอจะเข้าใจทำไมถึงอยากให้เรียกแบบนั้น

               “อือ..” ผมพยักหน้าให้

              “พักเที่ยงเดี๋ยวไปทานข้าวด้วย” น้องหนุ่ยพูดจบ ยกมือบายก่อนหันไปยิ้มให้โจ๊กกับกนก แล้วชิ่งออกไปทันที ไม่รอฟังผมตอบรับหรือปฏิเสธ

              “แหะๆ..” ผมหันไปยิ้มเจื่อนให้มันสองคน

              “เล่ามา..อย่าเนียน” โจ๊กมันคว้าคอผมหมับ กระชากเข้าไปเหน็บจักกะแร้หายใจแทบไม่ออก

             “อา..ไอ..เอ้า” พูดอู้อี้ประท้วง..มันถึงยอมคลายแรงควายออก

             “เล่าให้พวกกูฟัง อย่าบอกไม่มีอะไรเป็นอันขาด กูสองคนกินข้าวไม่ใช่กินขี้” มันบอกพร้อมกับพยักเพยิดให้กนก เพื่อขอแรงสนับสนุน

          “มึงกินคนเดียวเหอะขี้ อีห่า..กินข้าวไม่ใช่กินหญ้า” กนกแก้..โจ๊กมันพูดผิด ผมหัวเราะทันที ตลกหน้ามันอ่ะ เออแดกไปแล้ว

            “อย่าเนียนขำกู มึงยังมีคดีอยู่ เห็นหงิ๋มๆ แรดนะมึง” แล้วมันก็แว้งมากัดผมแทน ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปด้วยกัน พร้อมกับการเล่าของผมไปสนิทกับน้องหนุ่ยได้ยังไง เกิดอะไรทำไมพวกมันไม่รู้

             สุดท้ายโดนมันโบกหัวไปที โทษฐานไม่เล่าให้มันฟังตั้งแต่เมื่อคืน เสือกเล่าให้แบมรู้คนเดียว แทนที่จะประชุมสายมันจะได้ไม่ตกข่าว ผมได้แต่ลูบหัวปอยๆ ไม่กล้าแวดรู้ว่าต้องโดน..ถ้าหากมันรู้ทีหลัง

            พักเที่ยงเพื่อนในห้องต่างล้อผมกันใหญ่ สาเหตุมาจากหน้าห้องเด็กม.ต้น รูปร่างผอมสูงหน้าตาดีสองคนมายืนเป็นอาหารตาตั้งแต่อาจารย์ยังไม่ปล่อย เมื่อห้านาทีก่อน พอเพื่อนรู้ว่าน้องๆ มาหาใคร เท่านั้นแหละ เสียงวี๊ดวิ้ว..ผิวปากล้อผมก็ดังขึ้น รู้สึกหน้าตัวเองคงแดงไปแล้ว ปากเพื่อนแต่ละคนมันเหลือเกินจริงๆ

            “ว้าววว!!!..บูตัสแม่งกินเด็กเว้ย!..หล่อด้วยกรี๊ด..ขวัญใจกูเสร็จอีบูจนได้..อิจฉาว่ะ..บลาๆๆๆ” นั่นแหละเพื่อนเหี้ย..พอเห็นผมเขินยิ่งเอาใหญ่  ผมเดินออกมาพร้อมกนก แบม โจ๊ก เหมือนปกติ ที่ไม่ปกติเพราะรุ่นน้องหน้าหล่อสองคนยืนยิ้มเรียกเรทติ้งอยู่หน้าห้องรอผมอยู่

              “รีบมารับเลยเนอะ..อะไรจะขนาดน้าน!!!” โจ๊กมันแซวน้องหนุ่ยที่ยืนตีคู่กับน้องเอก เจ้าตัวเกาหัวเกรียนแกรกๆ หน้าแดงก่ำ

              “พี่โจ๊กอย่าแซวดิ” ยิ่งน้องเขินพวกมันยิ่งขำ พาผมหัวเราะไปด้วย ขี้อายแล้วดันทำอะไรแบบนี้อีก

              “ไปกันเถอะ แล้วไม่กินกับเพื่อนเหรอ” ผมช่วยแก้สถานการณ์ ทั้งที่ตอนแรกผมเป็นคนเขิน แต่พอเห็นน้องเขินจนหน้าแดงก่ำกลายเป็นผมขำลืมความเขินไปเฉยเลย

              “พวกมันไปรอแล้ว หนุ่ยมาแวะรับบูตัสก่อน ไอ้วิทย์กับไอ้บอลมันจองโต๊ะไว้ให้” ผมพยักหน้ายิ้มๆ แอบเห็นโจ๊ก แบม กนกสบตากันขำๆ บางทีการมีแฟนก็ไม่ได้เลวร้ายสักนิด ดูน้องหนุ่ยก็ออกจะน่ารักดี ตลกนะผมว่า

               จากนั้นพวกเราพากันไปโรงอาหาร แต่กนกแวบไปรับน้องเดียร์ บอกจะพามากินด้วย ผมสบายไปเลย มาถึงน้องหนุ่ยดูแลเทคแคร์เสร็จ อาสาซื้อข้าวซื้อน้ำถามด้วยผมจะกินอะไร ที่สำคัญน้องเลี้ยงผมอีก
               ต้องปฏิเสธจนหัวสั่นไม่อย่างนั้นผมไม่กิน น้องถึงยอมรับเงินไป ขืนให้รุ่นน้องมาเลี้ยงคงดูแย่พิลึก พวกเพื่อนแซวผมใหญ่ ได้แต่นั่งเฝ้าโต๊ะระหว่างที่พวกมันไปซื้อข้าวกัน

               บอลลูนกลับมาคนแรก น้องนั่งตรงข้ามเหลือบตามองผม พอเห็นผมมองอยู่มียักคิ้วกวนทีหนึ่ง อึ้งไม่คิดน้องจะทำใส่ เหมือนโดนแซวเลย แล้วทำไมผมต้องหน้าร้อนด้วยว่ะ..โดนเพื่อนแซวยังไม่เขินเท่านี้ พอเป็นบอลลูนดันอยากเอาหน้ามุดโต๊ะ คงเพราะบอลลูนเป็นน้องเลยเขินหนัก
               ยังดีที่พวกมันทยอยมากันแล้ว ผมไม่ต้องตกอยู่ในบรรยากาศหน้าไหม้นานกว่านี้ ส่วนคนทำลอยหน้าลอยตากินข้าวหน้ามึน ไม่ยักสนรอบข้าง แอบเห็นสาวๆมองบอลลูนตาเยิ้ม




ต่อด้านล่าง




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2012 15:02:37 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




               ยอมรับน้องเด่นมาก รูปร่างสูงเท่าโจ๊ก 185 ได้ หน้าตาลูกครึ่ง ผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาเทาอมฟ้า จมูกโด่งแหลมคิ้วเรียวขนตายาว ปากบนบางเฉียบปากล่างกับอิ่มเต็มแดงสด หน้าใสไม่มีขี้แมงวันหรือจุดดำสักเม็ด ที่สำคัญขาวเด่นเสียขนาดนี้ ไม่แปลกพอใครรู้ว่าเราสองคนเป็นพี่น้อง ต่างคาดเดาได้ทันทีว่าไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา เคมีหนังหน้าโคตรจะบอก

              “นี่ครับของบูตัส” น้องหนุ่ยวางจานข้าวพร้อมน้ำตรงหน้าผม เงยหน้าส่งยิ้มให้แทนคำขอบคุณ น้องยิ้มตอบตาหยีหน้าแดงนิดๆ เมื่อไหร่มึงจะเลิกเขินกูซักทีเนี่ยะ แล้วน้องก็นั่งแหมะติดกับผม

              ก่อนพวกที่เหลือจะทยอยลงนั่ง ผมนั่งคู่น้องหนุ่ย กนกคู่น้องเดียร์ โจ๊กนั่งกับแบม ฝั่งตรงข้ามเป็นบอลลูน น้องเอก น้องวิทย์

              “พี่บูเริ่มซ้อมวันนี้เหรอครับ” น้องเอกถาม

              “อืม..” ผมตอบเบาๆ กำลังเคี้ยวข้าวอยู่

              “พวกผมซ้อมอยู่ห้องดนตรี” น้องเอกยังเป็นคนชวนคุย

             “เหรอ..เลิกดึกไหม” โจ๊กมันอยากรู้

             “สามสี่ทุ่ม แล้วแต่ครับ” น้องบอก

             “พี่แวะไปดูได้เปล่า” โจ๊กขอหน้าตาเฉย

             “ไปดูซ้อมดนตรีได้ ถ้าไม่คิดไปจีบพวกผมนะ..ฮะฮ่าๆๆ” น้องวิทย์ชิงพูดเสียก่อน พร้อมกับเรียกเสียงหัวเราะตามมา

             “อูย!!วิทย์ครับ พี่ไม่นิยมกินเด็ก สบายใจได้จร้า” โจ๊กมันแกล้งออกแต๋วมีค้อนปะหลับปะเหลือก เรียกรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะได้อีกระลอก ต่างรู้ว่ามันแกล้งทำ

             “พี่โจ๊กสนหญิงไหม..เพื่อนผมมันปิ้งพี่อยู่ ผมบอกแล้วนะว่าพี่ไม่ชอบหญิงหรอก มันบอกไม่สนด้วยสิ” น้องเอกบอก โจ๊กหน้าเหวอไปทันที

             “ฮะฮ่าๆๆ..น้องเค้าใจกล้านะมึง ไม่ลองคบดูละ กูไม่เห็นมึงจะสนหนุ่มคนไหนจริงๆจังๆ เผื่อคนพบตัวเองใหม่..คึคึ” แบมมันสนับสนุน แอบหัวเราะอีกต่างหาก พาเอาพวกผมอมยิ้มไปตามกัน

             โจ๊กมันทำหน้าปุเลี่ยนๆ ไม่ใช่ไม่มีสาวมาขายขนมจีบมันนะ ถ้าจะพูดกันตรงๆ มันได้รับกุหลาบกับช็อกโกแลตวาเลนไทน์จากสาวๆ แทบทุกปี แต่กลับหนุ่มๆดันได้จากพวกตุ๊ดกระเทยเสียนี่ ไม่รู้ว่าพวกหลังคิดยังไง แต่เท่าที่ทราบมา พวกนั้นไม่สนับสนุนให้มันเป็นตุ๊ด แต่อยากให้มันเป็นเกย์รุก แต่ละคนเสียดายรูปร่างหน้าตามันจริงๆจังๆ

             ผมไม่รู้มันคิดยังไง ได้แต่หัวเราะขำกับจดหมายที่แนบมากับขนม พร่ำรำพันขอร้องมันประมาณนี้ มันไม่มีปิดเอาให้พวกผมอ่านหมด ยังจำคำพูดของกนกได้

             “กูว่าข้อเสนอพวกนี้มึงน่าพิจารณาดูนะโจ๊ก ตอนมึงอยู่บ้านกูเห็นมึงแมนดีออก” กนกมันเห็นด้วยกับคำแนะนำจากแฟนคลับของโจ๊ก

            “แล้วถ้ามีคนขอให้มึงเลิกเป็นทอม..มึงเอาหรือเปล่า” โจ๊กมันไม่ตอบดันย้อนถามกนกกลับ

            “ไม่รู้..ถ้ากูเลิกเป็นทอมได้ คงเพราะมีคนทำให้กูรักมันได้มากกว่าการที่กูรักตัวเองแล้วล่ะ” คำตอบของกนก โจ๊กมันไม่พูดอะไรอีก นอกจากนั่งยิ้มหยิบช็อกโกแลตขึ้นมาแกะแจกพวกผม ทั้งที่พวกผมก็มี ของกนกได้จากสาวดี้ ของแบมจากหนุ่มๆ


            ของผมส่วนใหญ่รุ่นพี่รุ่นน้อง ดันเป็นผู้ชายแทบทั้งนั้น ทำให้รู้ว่าความเป็นตุ๊ดของผมนี่เปล่งกระจายตั้งแต่ห้าร้อยเมตรเลยมั้ง ทั้งที่ผมไม่ได้แรดหน้าตาก็ธรรมดานะ ไม่ได้เด่นอะไรเหมือนใครเค้า

             “บูตัส..” ผมสะดุ้งหลังน้องหนุ่ยเรียกซะดัง พลอยทำให้ทั้งโต๊ะมองผมไปด้วย

             “อะไร..นั่งติดกันแค่นี้” ผมลืมตัวมองน้องตาขุ่น ก็เล่นทำให้ผมกลายเป็นจุดสนใจนิ

             “ก็เรียกเบาแล้วไม่ได้ยิน ใจลอยคิดอะไรอยู่” น้องหนุ่ยนิ่วหน้า ผมเพิ่งรู้ตัวจมอยู่กับความคิดจริงด้วยสิ

             “เปล่า..แล้วเรียกทำไม” แถเปลี่ยนเรื่องดีกว่า ทั้งที่พวกมันยังมองผมอยู่ บอลลูนมีมองแวบเดียวก่อนจะสนใจเขี่ยน้ำแข็งในแก้วเข้าปากเคี้ยวกร๊วบๆ ท่าเคี้ยวน้ำแข็งดูเท่ได้อีกน้องกู

              “จะถามว่าอิ่มแล้วใช่ไหม หนุ่ยจะเอาจานไปเก็บ” ผมก้มมองจานตัวเองก่อนพยักหน้าให้ น้องเลยรวบเก็บจานของน้องของผมรวมคนในโต๊ะ พยักหน้าให้น้องวิทย์ที่อาสาช่วยขน เดินออกไปกันสองคน

             “อืม..มีแฟนดี เลยเป็นเจ้าหญิงไปเลยซิมึง” โจ๊กมันแซว

             “แค่พี่บูตัสหรอก ที่ไอ้หนุ่ยมันบริการซะขนาดนี้” น้องเอกพูดขึ้น

              “หมายความว่าไง” กนกมันถาม

              “แฟนเก่ามันดาวคอนแวนต์ มันยังไม่ใส่ใจดูแลเหมือนพี่บูเลย” น้องเอกเฉลย ผมอึ้ง..ในโต๊ะดันเงียบกันอีก

              “ทำไมน้องหนุ่ยถึงเลิกกับแฟนล่ะ” เป็นผมที่ทำลายบรรยากาศถามเสียเอง

              “มันเลิกตอนม.2 พอเริ่มรู้ตัวว่าสายตามักมองหาแต่พี่ชายเพื่อน มันก็รู้แล้วว่าไม่ได้รักแฟนหรอก ไม่อยากให้เขาเสียเวลาไปกับมัน” คำบอกเล่าจากปากน้องเอก คงไม่ต้องบอกพี่ชายเพื่อนคนนั้นคือใคร แต่ผมสงสัยนี่น้องแอบชอบผมมาปีกว่าแล้วหรือ

            “ไปยัง..พวกมึง” น้องหนุ่ยชวนหลังเก็บจานกลับมา พวกเราเลยขยับตัวลุกออกจากโรงอาหาร ดูท่าคงไม่รู้ว่าก่อนหน้าตัวเองเป็นประเด็นการสนทนาในโต๊ะด้วยสิ เห็นหน้าหล่อส่งยิ้มให้ผมตาหยี่

            “บูตัส..ทำอะไรต่อ” น้องถามผม เลยหันมองหน้าแบม คือไม่รู้สิปกติเวลาเหลือพวกผมก็ไปนั่งม้าหินข้างอาคาร รออ๊อดเข้าเรียน แต่ตอนนี้ผมคบกับน้องหนุ่ยเลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่รู้สิไม่เคยมีแฟนมาก่อน

            “พวกพี่ต้องอ่านหนังสือเตรียมแอดฯ” แบมตอบแทนผม น้องพยักหน้าเข้าใจ

            “งั้นผมไม่กวน ตั้งใจล่ะเจอกันเย็นนี้” น้องดูเข้าใจง่ายจริง ผมพยักหน้าให้ เห็นรอยยิ้มกว้างจริงใจของน้องแล้วใจมันโหวงบอกไม่ถูก ก่อนน้องจะแยกไปรวมกับเพื่อน

             “หน้ามึงดูไม่ดี เป็นอะไร” โจ๊กถาม ตอนนี้มีผมสามคน กนกมันแยกไปส่งน้องเดียร์

             “ไม่นี่ หน้ากูเป็นยังไง” คือผมไม่รู้ว่าทำหน้าแบบไหน

             “เหมือนคนขี้ไม่ออก” โจ๊กบอก ผมอยากถีบมันจริงๆ เปรียบอะไรไม่เคยพ้นขี้สักเรื่อง

             “กูขี้ทุกเช้า ไม่ออกเหี้ยไร” เลยกวนตีนมันเสียเลย

             “เดี๋ยวก็ชิน คิดอะไรมากมึง” แบมมันพูดขึ้นมาลอยๆ เหมือนมันจะเข้าใจว่าผมคิดอะไร เลยสบตามันตรงๆ..มันยื่นมือมาตบไหล่ผมเบาๆ พอโจ๊กเห็นแบมมันทำอย่างนั้น ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้น มันคว้าคอผมไปกอดอย่างที่ชอบทำ

             “เฮ้อ!ค่อยดูไปมึง ถ้าไม่ใช่ก็ห่างเองแหละ ไม่กี่เดือนเราก็เป็นนิสิตปีหนึ่งแล้ว เรียนรู้การมีแฟนไว้ก็ไม่เสียหาย เผื่อมึงไปเจอในมหาลัยยังไง” คำพูดของมันทำผมอดไม่ได้ เข่าใส่ก้นมันไปที

             “ปึก!..ทำเหมือนกูมักง่ายหลายใจนะมึง” ผมแหวไม่จริงจังนัก

             “ฮะฮ่าๆๆ..เริ่มกลับมาห้าวได้แล้วสิ อีชอบแบกโลก ชอบนักเก็บความรู้สึกชาวบ้านมาแบกไว้ทุกเรื่อง” มันเอามือขยี้หัวผมแล้ววิ่งหนี ผมเลยไล่เตะมันเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพวกเราสามคน ดันเล่นกันเหมือนเด็กๆ

              บางทีเพื่อนก็เข้าใจเรามากที่สุด ผมไม่ต้องพูดอะไรพวกมันยังรู้ความคิดผมเลย เข้าใจมากกว่าคนที่เรารู้จักมาตั้งแต่แบเบาะเสียอีก

             ผมเคยมีคำถาม ทำไมถึงเข้าไม่ถึงความคิดของบอลลูน ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความต้องการความนึกคิดของน้องเลย ทั้งที่ผมคิดว่าผมใส่ใจน้องมากที่สุด แต่สุดท้ายผมเหมือนไม่รู้อะไรเท่าไหร่

              ในขณะเดียวกัน น้องก็ไม่รู้จักผมเช่นกัน เราโตมาด้วยกัน แต่ดูเหมือนเข้าถึงกันยากเหลือเกิน เพื่อนเสียอีกที่เข้าใจผม ล่วงรู้ความคิดผม ถ้าไม่มีพวกมันอยู่เคียงข้าง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเหลือใครปรับทุกข์ และผมจะมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะกับเขาบ้างไหม..??




อ้างถึง
jelatin99
ลูกเป็ดวิ่งซุกซน
 
สำหรับบอล....อีกนานเลยกว่าจะเข้าใจและยอมรับความเป็นตุ๊ดของบูตัสได้
อาจจะยอมรับพร้อมกับรู้สึกว่า"รัก"บูตัสจริงๆก็ได้นะ เพราะด้วยความที่เป็นเด็กในวัยนี้ด้วย
และอีกอย่างคือน้องมี"ปม"ที่ไม่ดีเกี่ยวกับตุ๊ด เราเข้าใจความรู้สึกนะ หากว่าเรามีปมเกี่ยวกับอะไรแล้ว
ไม่ว่าจะนานแค่ไหน มันก็ยังฝังรากลึกอยู่ในความรู้สึกอยู่ดีอ่ะ
คงได้แต่รอวันที่น้องเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ทั้งความคิดและการกระทำล่ะ
แต่สงสารบูตัสแฮะ กว่าจะถึงวันนั้นคงเจ็บจนด้านชาเลยมั้ง ก็นะด้วยความเป็น"พี่"อีกทั้ง"คำสั่งเสีย"จากแม่ มันค้ำคออยู่อ่ะ

สำหรับบูตัส....เราก็เข้าใจอารมณ์ความรู้สึก รวมถึงความคิดและการกระทำของบูตัสนะ
ด้วยความที่เหลือกันแค่สองคนพี่น้อง และด้วยความที่เป็น"พี่"(คำๆนี้เป็นอะไรที่โคตรจะแบกภาระเลย)
มันเลยเป็นตัวบีบบังคับไปโดยปริยาย ให้มีความคิดความอ่านเกินตัว เสมือนว่าเป็น"ผู้ใหญ่"โดยสมบูรณ์แล้ว
แต่จริงๆก็เห็นได้ว่ายังมี"จุดพลาด"อยู่สังเกตได้จากการที่บูตัสยอมรับว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับน้องเลย
ไม่รู้ว่าน้องเล่นดนตรี ทำกับข้าวเป็น ชกมวยเป็น...สิ่งเหล่านี้มันเกิดจากการยึดติด"ภาพลักษณ์"ของความเป็นน้อง
ก็ไม่แปลก เพราะความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เคยเลี้ยงน้อง เลี้ยงลูก
เรามักจะติดภาพลักษณ์ว่า"พวกเค้าเหล่านี้ยังเด็กอยู่" ต้องคอยประคบประหงมและดูแลอย่างให้ดี
ทั้งๆที่เค้าสามารถดูแลตนเองได้แล้ว เมื่อเค้าเริ่มเติบโตขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นตอนต้นด้วยแล้ว
จะเป็นช่วงที่เค้าพยายามที่จะเลียนแบบ"ผู้ใหญ่" อีกทั้งยังเป็นวัยที่เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
ติดเพื่อน ไม่เอาผู้ใหญ่ อยากรู้อยากลอง รวมถึงชอบที่จะเป็นจุดสนใจของสังคมและมีความสนใจในเพศตรงข้าม
ดังนั้นอะไรก็ตามที่ผู้ใหญ่เค้าทำแล้วให้ความรู้สึกว่าเท่ห์ ดูดี เด็กวัยนี้ทำตามหมดแหละ
แต่ไม่ชอบให้ผู้ใหญ่มายุ่งเรื่องของตน มีความเชื่อมั่นว่าสามารถรับมือได้หมด จัดการเองได้
ถ้าผู้ใหญ่มายุ่งก็จะอารมณ์เสีย เพราะทำให้รู้สึกว่าเราไม่เป็นผู้ใหญ่ เหมือนโดนดูถูกประมาณนี้
ด้านอารมณ์ คงไม่ต้องถาม เพราะอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย(ฮอร์โมน เป็นตัวแปรสำคัญ)
เด็กวัยนี้จึงไม่มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์ มักเรียกวัยนี้ว่า"พายุบุแคม"(เห็นภาพ การทำลายล้างเลย ฮ่าๆๆ)

เพราะงั้นเราจึงเข้าใจในตัวอารมณ์ของทั้ืงบอลลูนและบูตัสนะและที่กล่าวมายืดยาวออกปากอ่าวทั้งหมดนี้
เพราะจะบอกว่า....เราเอาใจช่วยบูตัสนะ ฮ่าๆๆ
ปล.  รอตอนต่อไปน้าา

อยากจะบอกว่า คุณเป็นคนอ่านที่วิเคราะห์ตัวละครได้ลึกซึ้งจนคนเขียนทึ่งอ่ะ

แทบจะเข้ามานั่งอยู่ในใจคนเขียนแล้วเนี่ยะ  นั่นแหละคือความคลุมเครือที่ยังอึมครึม ซึนๆกันอยู่

ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามกันอย่างเนืองแน่น ขอบคุณทุกเม้นท์ทุกโพสฯ ค่ะ

รักคนอ่านทุกคน ขอ :กอด1: ทีสิค่ะ

Luk. :pig4:

ปล.รวมเล่มของลูกแก้วยังเปิดโอนอยู่นะคะ บ็อกเซทเหลือแค่ 12 บ็อกค่ะ ใครต้องการเก็บไว้
รบกวนติดต่อที่เมลล์  luxilove_19690 แอท hotmail ดอท com :L1:

ปลล.กดบวก 1 และเป็ดน้อย ให้ทุกเม้นท์แทนการขอบคุณค่ะ จากใจคนเขียน อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2012 12:43:22 โดย luxilove »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :undecided:


ขอให้พี่ไปเป็นแฟนกับเพื่อน เพราะกลัวแฟนตัวเองเข้าใจผิดเนี่ยนะ....... :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังนะบอลโอกาศมันไม่มีให้บ่อยๆนะอยากให้บูมีแฟนทีทั้งดีๆและก้อรักบูมากๆบอลมันจะใด้หายอึนๆสักที

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
อีกนาน สำหรับพ่อบอลของพี่

หึหึ ถึงขนาดผลักไสพี่ เพื่อให้ ตัวเองและแฟนไม่ผิดใจกัน


นี่แหละเด็ก 15 ของจริง เพราะคุณลักษณ์เขียน นิสัยตัวบอลได้ สมจริงมากนะสำหรับเรา เราถึงได้อินและชอบมาก


แต่เราคิดว่า การที่บูตัสคบหนุ่ย น่าจะทำให้ใครเต้นได้ไม่มากก็น้อย

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :กอด1:

เอาใจช่วยบูตัสเหมือนเดิม การมีแฟนอาจจะทำให้บูตัสสดใสขึ้นก็ได้นะ

แต่เรื่องรักคงเป็นอีกเรื่อง  เอาเถอะถึงต้องจบด้วยการเลิกลาแต่ก็ขอให้

เลิกด้วยดีและเป็นพี่น้องกันได้น้า   :L1:

บวกเป็ดก๊าบ

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
สงสารหนุ่ยล่วงหน้าดีมั้ยเนี่ย
เอ้ะ หรือสองคนนี้จะจบลงด้วยความเข้าใจ
หรือแอบเชียร์หนุ่ยดี เค้ามั่นคงในรักมาเป็นปีเลยนะ  :z2:

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปก็ไม่ชอบบอลไปทุกๆวัน เห้ออออออ ทั้งความคิด และ พฤติกรรม ถ้าคิดจะพลักใสแล้วไปข่มขืนให้เค้ามีตราบาปทำไมว่ะ

puu142

  • บุคคลทั่วไป
ทิ้งอดีตให้เป็น พี่ - น้อง..............ดีที่สุด

                   ......................อย่าคิดมากเลยนะบูตัส

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
พอบูตัสมีแฟนจริงจัง จะกลายเป็นบอลลูนเองรึเปล่าที่จากนี่จะมองแต่คนพี่ หน่ะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เข้ามาบอกว่าอ่านแล้วครับ
แต่ยังไม่รู้จะพูดอะไร  5555+
ขออ่านตอนต่อไปก่อนนะครับ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เมื่อถึงวันที่บอลจะต้องตามง้อบูเมื่อไหร่ ขอให้เลือดตากระเด็น และทรมานในใจอย่างที่สุด  :call:

ส่วนน้องบู ขออย่าได้มีอารัยที่รุนแรงไปกว่าโดนน้องข่มขืนทั้งทางร่างกายและจิตใจเลย  :m15:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
คิดว่าบอลไม่ได้ทำเพื่อแฟนสาวซะทีเดียวหรอก
แต่อยากให้พวกข่าวลือไม่ดีๆมันจบไปมากกว่า

หนุ่ยก็ดีนะ จริงใจ ดูแล เอาใจ แต่ไม่ตามติดเกินไป ชอบๆ
พระรองเกาหลีชัดๆ หุๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ไหวอะป่าว ไหวอะป่าว เบเบ้ ถ้าไม่ไหวก็บอกหนุ่ยตรงๆนะ ไม่อยากเห็นใครเสียใจ

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
อ่านตอนนี้แล้วสงสารหนุ่ย เหมือนจะมาเป็นตัวขัด ฆ่าเวลาอะไรสักอย่าง
ยิ่งรู้ว่าชอบบูตัสมาตั้งนานขนาดเลิกกับแฟนสาวด้วยก็ยิ่งสงสาร
ถ้าสมหวังได้ก็ดีไป และดีใจด้วยเพราะถือว่ารักจริง
แต่ถ้ากลับมาเป็นบอลกับบู ก็เศร้าไปเพราะบอลดันเป็นพ่อสื่อให้ซะแล้วนี่
ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูกอ่ะ เอาเป็นว่ารออ่านตอนต่อไปล่ะกันนะฮะ

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
รักตัวเองมากเกินไป....รึป่าวบอลลูน :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
เชียร์น้องหนุ่ย โย่วๆๆ  :z2: :z2:

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
รอสงสารหนุ่ยล่วงหน้า  แล้วก็สมน้ำหน้าอีน้องบอลล่วงหน้าเช่นกัน....แต่ถ้าจำไม่ผิด  เหมือนน้องที่ชื่อวิทย์ก็จะอะไรกับบูด้วยนะ...หรือแค่แซวเล่น????

ออฟไลน์ Ella

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อ่านแล้วรู้สึก เจ็บอ๊ะ...บอล เล่นผลักพี่ไปให้เป็นแฟน เพื่อนเฉยเลย เพราะกลัวแฟนเข้าใจผิด  :m31:

อยากให้ตอนหลัง บอล เจ็บกับการกระทำตัวเองมาก ๆ เลย วันที่รู้ตัวว่ารัก บู แล้ว บู ไม่สนใจ

หรือไม่ก็ให้ บู ได้ไปเรียนต่อไกล ๆ กลับมาอีกที โตและสวยมาก ๆ เลย เอาให้ บอล อึ้งไปเลยอ๊ะ .....อิอิอิอิ :call:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
บางทีการที่พี่บูมีแฟนอาจจะทำให้อะไรบางอย่างดีขึ้นก็ได้นะ
เคยแต่ดูแลเอาใจใส่น้อง ลองโดนดูแลเอาใจใส่บ้างก็ไม่เลว
อย่างน้อยก็ทำให้พี่บูยิ้มได้บ้างล่ะน่า อาจจะขำๆมากกว่าก็เถอะ
ค่อยๆดูกันไป บอลลูนเองก็มีแฟนใหม่แล้ว ลองเว้นช่องว่างดูบ้าง
ไม่แน่บอลลูนอาจจะคิดได้ว่าไม่อยากให้พี่แบ่งเวลาไปให้ใครก็ได้
แต่มันก็เพิ่งเริ่มต้น เอาใจช่วยพี่บูเสมอนะคะ :L2:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดเช่นเคยค่ะ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
อั๋ยยะ ช้านเชียร์หนุ่ยยยยยยยยยยยยย  น่ารักมากๆ
เป็นหนุ่ยได้มั้ยยยย    :-[

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไปๆมาๆ หนุ่ยอาจจะพันธ์เดียวกับบูก็ได้ คิคิ
อยากให้ถึงตอนมหาลัยจัง หนุ่มๆน่าฟัดกว่าเยอะ

ออฟไลน์ thepopper

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด