[ต่อจากด้านบน]
“กินอะไร”
“ผมขอเป็นแกงจืดเต้าหู้สาหร่าย กับกุ้งผัดกระเทียมครับ แล้วเกียร์ละ”
“กุ้งผัดพริกนมสด ข้าวเปล่าสอง เปล่าหนึ่ง แข็งสอง” รวบยอดรวดเร็วครับคนนี้ โปรเฟสชันนอลในการสั่งคน
“เรียนเป็นยังไงบ้าง” มันถามอย่างนี้ทุกวัน เป็นปกติครับ
“ก็ดีครับ สนุกดี อ้อแล้วชุดกาวน์ที่ส่งซักจะได้รับวันนี้หรือเปล่าอะครับ พรุ่งนี้มันต้องใช้น่ะ”
“ได้แล้ว ค่อยไปรับเย็นนี้” ร้านไม่ได้ใกล้หรอกครับ ข้างล่างคอนโดนี่ละ
“แล้วเกียร์ละ เรียนเป็นยังไงบ้างครับ” ผมก็ถามมันกลับแบบนี้ตลอด
“น่าเบื่อ” มันก็ตอบแบบนี้ทุกที
“แล้วเข้าใจไหมละครับ”
“นิดเดียว” คุยกันไปสักพักอาหารก็มาเสริฟ ผมลงมือทานกันไปด้วย คุยกันไปด้วยมารยาทดี๊ดี
“นั้นลองไปหาครูสอนพิเศษเพิ่มไหม”มันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องฟิสิกส์ครับ ผมก็เคยสอนมันบ้างบางครั้ง แต่ทุกครั้งที่จบบทต้องไปจบบนเตียงทุกที จนผมต้องปณิธานกับตัวเองว่าจะเลิกสอนมันแบบถาวร
“หึ” มันส่ายหน้า
“ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนยกมือถามอาจารย์เลยนะครับ ตอนสอบจะได้ไม่ลำบากมาก”แต่ถ้าเป็นผมก็ไม่ยกมือถามหรอก มันเป็นนิสัยของผมน่ะ ไม่เข้าใจก็ปล่อยมันไปก่อน แต่ดอกจันทร์ตัวใหญ่ๆ พับหัวมุมเกือบครึ่งหน้านั้น แล้วมาหาคำตอบเอาเอง เวลาอาจารย์สอนจะได้ไม่ขาดตอน แล้วก็ไม่รบกวนเพื่อนๆในเซคด้วย แต่ก็ส่วนน้อยที่จะไม่เข้าใจขนาดนั้นนะครับ เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการสอนกันมาพอสมควรมีเทคนิคการสอนแบบที่นิสิตเข้าใจและจดจำได้ง่ายเยอะอยู่เหมือนกัน อีกอย่างถ้าผมไม่เข้าใจตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะมีคนไม่เข้าใจแล้วยกมือถามให้แทนน่ะ
“ขี้เกียจยกมือพูด เมื่อย” มีงี้ด้วย?!
“ผมว่าเกียร์ก็ยังไม่แก่นะครับ ทำเป็นไร้เรี่ยวแรงไปได้”ทีตอนกลางคืนแม่งคึกเอา คึกเอาไม่รู้เอาแรงม้ามาใส่เครื่องตัวเองหรืออะไร
“ก็ออมแรงไว้ทำกับไอรัก” เหอะๆ..ดูมัน
“ยังอยากทานข้าวได้อยู่ไหมครับ ปากน่ะ” กับมันเดี๋ยวนี้ผมแรงขึ้นนะ บอกเลยไม่พูดเท็จ
“เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเนอะ หึหึ” เอาไปถูกับเสาไฟฟ้าละสิ
“ทานเถอะครับ” ตักกับข้าวใส่จานให้รู้ว่าควรเงียบได้แล้ว มาเกี้ยวพาราสีเวลาอาหารแบบนี้ โต๊ะข้างๆได้ยินอาจจะพุ่งออกปากเอาได้
“ทำไมไม่กลืน” โถ ขนาดจะเคี้ยวข้าว มันยังสั่งได้เลยนะครับ อู้หู ดูมันยิ่งใหญ่เอามากๆ
“เดี๋ยวสิ ต้องอมให้ได้รสชาติก่อน”
“เก็บเอาไว้ในกระพุ้งแก้มแบบนี้ หมอทำฟันจะทำโทษ”หือออออ ผมคนครับ ไม่ใช่แฮมทาโร่
“ไม่เอาฟันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“เปลี่ยนวิธีกินสิ”
“มันติดไปแล้วอะครับ” พยายามเคี้ยวแล้วนะครับ แต่มันเร็วได้แค่นี้ ต้องเก็บเอาไว้ให้รสชาติซึมซับลงลิ้นก่อนแล้วค่อยกลืน พวกไอ้เนมจะเป็นคนนั่งรอตลอด
“ถ้าฟันผุ จะโดนจับขึง” ไอรักไม่กลัว กลัวไม่โดน อิอิ
“ก็มันเร็วได้แค่นี้นี่”เริ่มหน้ามุ่ยใส่มัน ปากยังอมข้าวไว้อยู่
“แล้วเคี้ยวตุ้ยๆไปทำไม กลืนสิ”มันทำหน้าดุแกมสั่ง ทำให้ต้องจำใจขยับกรามบดข้าวแล้วทำตามที่มันบอก
“อึก”
“ก็แค่นั้น” ดูมันปลื้มจิตปลื้มใจแบบโอเวอร์แอ็คติ้งมาก
หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมก็มาเลือกของเล็กๆน้อยๆไปฝากพ่อแม่เกียร์ในวันพรุ่งนี้ มันก็บอกว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายหรอก แต่ผมรู้สึกว่าถ้าไม่มีของติดไม้ติดมือไปให้ท่านแล้วมันจะเป็นการเสียมารยาทไปเสียหน่อยเลยมาซื้อกันก่อนน่ะครับ สักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นยกขึ้นมาดูก็ระบายยิ้มออกมาเต็มหน้า
“สวัสดีครับพี่ไออุ่นอุ๊นอุ่น” กรอกเสียงใสไปให้ เกียร์หันมามองแล้วจูงมือให้เดินขนานกัน
‘หึ’
“หือ เป็นอะไรเหรอครับ” ผมจะหยิบกระเช้ารังนกขึ้นมาดู แต่เกียร์ยั้งมือไว้ แล้วชี้ไปอีกยี่ห้อที่กำลังลดราคาอยู่ผมพยักหน้าให้ มันจับมือให้ผมเลือก พอได้แล้วก็เดินไปโซนอื่น
‘เรากับมาม๊าไปทำอะไรเอาไว้ละ’ อะเจ้ย เห็นรูปปกนิตยสารแล้วแน่ๆ เสียงแข็งมาเชียว
“แหะๆ ไอรักไม่ได้อยากทำเลยนะ ตัวเองก็รู้นี่ครับ”ต้องพูดจาอ่อนหวานครับ เพราะตอนนี้มีหลายกระทงอยู่ในตัว
‘แต่พี่ไม่ชอบตัวเล็กก็รู้’พี่แกย้อนครับ
“แล้วจะให้ไอรักทำยังไงตัวเองถึงจะหายโกรธละครับ” ผมทำเสียงจ๋อย หวังให้คนในสายใจอ่อนสงสารกันบ้าง
‘.....เฮ้อ พี่ไม่ได้โกรธเราหรอก ไหนๆก็โดนบังคับไปแล้วนี่ แต่ห้ามมีครั้งที่สองเด็ดขาด’ พี่อุ่นพูดเสียงอ่อนลง
“คร๊าบบบ ไม่ทำแล้วครับ หายงอนเค้านะ”ครั้งเดียวไอรักก็ระแวงหน้าระแวงหลังจะตายอยู่แล้ว ทั้งพี่ ทั้ง.....
“ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะตัวเล็ก พี่จะรีบไปจัดการเรื่องนี้’
“หืม ทำยังไงเหรอครับ”
‘เม็ดเงิน’ โห ทั่วประเทศ ต้องขายกิจการทางบ้านมาซื้อเอาไว้พอดี คนนี้ก็เวอร์อีกคน อาการหนักไม่แพ้คุณหมาน้ำแข็งเลยละ เหลือบไปเห็นเกียร์กำลังเดินไปโซนหนังสือ ตัวชะงักก่อนหยิบ............รูปผมขึ้นมา!!!!!!!!!!!!!!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ ไอรักงานเข้าไม่หยุดไม่หย่อนกับเรื่องเดียวกัน
“เอ่อ เต็มที่เลยครับ ตามสบายพี่อุ่นแล้วกันเนอะ เหอะๆแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ เหมือนพายุแถวนี้จะเข้า ครับๆ สวัสดีครับ” ก่อนวางพี่ไออุ่นบอกให้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง คิดถึง ผมก็ตอบรับไปแล้วรีบวางสาย หันไปยิ้มประจบให้คนหน้าทะมึนมืด สาวเข้าไปลูบแขนมันเบาๆ
“ไปดูผลไม้กันดีกว่าไหมครับ”ยัง ยังไม่กระดิก พลิกหน้าไปมา ดูรูปในเล่มสลับไปมาเหมือนตั้งใจอ่านข้อสอบ ก่อนเดินไปหาพนักงาน ผมรีบเดินตามไป เกิดเสียวสันหลังขึ้นมา ต้องวิ่งไปเกาะหลังคนข้างหน้า เดี๋ยวตาย
“เอาฉบับนี้ ทั้งสต๊อก”อุตะเสียงเรียบแฝงความน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น พนักงานมองหนังสือในมืออย่างงงปนอึ้ง แล้วหันมามองมัน ก่อนมาหยุดที่หน้าผม ทำหน้าตกใจสุดขีด เผลอทำหนังสือหล่น รีบเก็บขึ้นมา แต่ตายังอยู่ที่หน้าผม ก่อนสลับไปมองหนังสืออีกรอบ ถ้าเขาจะแสดงออกว่าตกใจขนาดนี้แล้วละก็นะ
“เฮ้ยเกียร์ ไม่ต้องหรอกครับ มันไม่ได้โป๊สักหน่อย”
“โป๊!” อูย จ๊ะๆ
“เดี๋ยวพี่อุ่นคงจัดการเองละครับ ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ไม่อยากให้ใครเห็นตอนนี้” มันไม่ยอม
“เอาหน่า ใจร่มๆเนอะ ยังไงพี่อุ่นก็ไม่ปล่อยเหลือไว้บนเชลฟ์หรอก เราไปดูอย่างอื่นดีกว่าครับ” รีบหยิบหนังสือในมือมันไปวางที่เดิม แล้วจูงมันออกจากโซนนั้น
“เดี๋ยวสิ”
“ครับ” ตอบแล้วหันไปมองมัน
“อยากเก็บไว้เล่มหนึ่ง”
“ไม่ต้องห่วงครับ ป่านนี้พี่จิมคงส่งไปให้ที่คอนโดกับบ้านผมตรึมแล้วละ” มันทำหน้าเหมือนถูกขัดใจก่อนพยักหน้าจำยอม แล้วเดินไปจ่ายเงินกัน แต่มันก็ยังดูหงุดหงิดอยู่ไม่หาย แถมบ่นพึมพำตลอดทางว่ามันโป๊ มันเห็นง่ามขา กูเงิบไปสิครับ ปราดเดียวที่มึงมองนี่สังเกตไปถึงช่องแคบบาบิโลนได้เชียวหรือ แต่ก็ง้อมันละครับ ซื้อบล็อคเซทการ์ตูนเรื่องปาร์แมนให้ก็ยิ้มแก้มแทบปริแล้ว
พอดีมันมีเวลาเหลือเยอะกว่าจะสองทุ่ม ผมเลยเดินไปดูรองเท้าใหม่สักหน่อย จะได้ใส่ไปพรุ่งนี้เลย เรื่องเสื้อผ้าไม่มีปัญหาครับ ส่วนใหญ่เวลาไปไหนมาไหนผมใส่เสื้อสีเรียบๆ เข็มขัด เสื้อไว้ในกางเกงเรียบร้อยอยู่แล้ว เรียกว่าเนี้ยบเลยละ ใส่ไปหาผู้ใหญ่ก็คงไม่น่าเกลียดอะไร
“คู่นี้สวยไหมครับ เอ่อหรือคู่นี้ดี” หยิบแบบรองเท้าหนังที่ถูกใจขึ้นมาเลือกสี มีสีน้ำตาลเข้ม กับสีดำ
“สีดำเข้ากับทุกสี แต่สีน้ำตาลเหมาะกับไอรัก”
“อ้าว แล้วเอายังไงดีละ”
“ในห้องเห็นมีแต่สีดำ” ถ้าสายตาจะมองสีน้ำตาลขนาดนั้นแล้วจะพูดอ้อมโลกทำไมวะ
“นั้นเอาคู่น้ำตาลแล้วกันเนอะ” มันพยักหน้า ผมเลยยิ้มตาหยีไปให้
“หึหึ น่ารักว่ะแม่ง” มันยกเสื้อสูทที่แขวนใกล้ๆขึ้นมาบังแล้วจุ๊บปากผมหลายที อ้ายเชรี่ยยยยยย สาธารณะนะเฮ้ยยยย สองรอบแล้วนะ เกรงใจคนรอบข้างบ้างเหอะ ยิ่งพอลดแขนลงแล้วเห็นพนักงานที่อยู่ใกล้ๆส่งสายตาแซวๆมาให้ ผมนี่แทบอยากจะติดไฮสปรีดกลับบ้านอะ เขาคงคิดว่ากูเป็นตุ๊ดแล้วแน่ๆ
เข็มสั้นชี้เลขเจ็ดพอดี เดินซื้อของเสร็จก็จะเอาไปใส่ในรถ แต่คนต่างลืมว่าเอารถมอเตอร์ไซค์มานี่หว่า ก็รีบกลับคอนโดกันฉิบหายเลยสิครับ ต้องรีบแบกไปไว้ในคอนโด แล้วขึ้นบีทีเอสไปห้างแทน เพราะเกียร์บอกว่าเร็วกว่า นายอชิระที่ไม่ค่อยได้ขึ้นก็หวิดโดนประตูหนีบไข่ไปที อับอายมากครับ คนที่เห็นขำส่ายหน้ากันใหญ่ ตอนแรกมันก็เจ็บอยู่หรอก แต่สักพักเขิน จนผมต้องยิ้มขำให้กับความเปิ่นของตัวเอง แต่ผมก็ต้องเขินอีกรอบเป็นล้านเท่าก็ตอนคุณน้ำแข็งมันแสดงความรักความเป็นห่วงกลางทางเข้าโดยการจับโน่นจับนี่แล้วถาม
“เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” กรูจะเป็นบ้าตายก็ตอนที่มึงมายืนจับไข่กูนี่ละ ฮึ่ยยยยยยๆๆ
ในรถไฟฟ้าช่วงนี้คนเยอะมากครับ ไม่รู้ว่าพนักงานพึ่งทำโอทีเสร็จ หรือมีประท้วงถึงได้มากมายขนาดนี้ เกียร์ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมากครับ จับมือผมแน่น ยังไม่พอยังดึงให้ไปยืนข้างหน้าแล้วโอบตัวเอาไว้ เหมือนกอดเป็นกลายๆ ถ้าจะถามว่าเขินไหมที่มันแสดงออกแบบไม่เกรงใจขนาดนี้ ตอบเลยว่าเขินมากครับ แต่ให้เลือกระหว่างโดนมันเมินเฉย กับห่วงกันโจ่งแจ้งแบบนี้ ผมเลือกอย่างหลังนะ
กว่าจะถึงสยาม เล่นเอาพวกผมเกือบตายได้ อีกคนปิกาจูโด่เด่ เสียดสีเข้ากับบริเวณก้นกบ ส่วนอีกคนก็เกิดอารมณ์ร่วมตามเพราะโดนปลุกเร้า(โดยไม่ได้ตั้งใจ) ยกข้อมือมาดู เลยไปสิบห้านาที พร้อมโทรศัพท์สั่นไม่หยุดแบบนี้ เป็นอันรู้กันว่าตอนนี้ ไอรักและคุณเกียร์กำลังไปสายครับ ผมรีบลากเกียร์เดินดุ่มๆเข้าห้าง
เดินเข้าชั้นโรงหนังก็ไม่ต้องหาอะไรมากครับ กลุ่มผมมีเสน่ห์อยู่ในตัวนะ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะครับ ก็แถวนั้นมีกลุ่มผู้ชายตัวใหญ่บ้าเกรียนใส่แว่นตาสามมิติกลุ่มเดียวนี่หว่า ไม่ต้องมองไปไหนไกลหรอก
“เฮ้ย ซื้อป๊อบคอร์นหรือยังวะ เรียบร้อยแล้วใช่ปะ ไปๆ เข้าโรงกัน” เนียนเดินไปตบไหล่เหมือนไม่ได้ทำผิด แต่พวกมันปรายหางตามอง
“อย่ามาเนียน สายยี่สิบนาทีนะสัส” อิอิ มึงก็พูดไปไอ้พิช
“สิบแปดนาทีเหอะ ชะอุ้ย เออๆกูผิดเองอะ รีบเข้าโรงเหอะ” กว่าจะเคลื่อนทัพได้ก็ต้องง้อพวกมันตั้งนานสองนาน แต่ผมก็ไม่ผิดนะครับ เพราะเข้ามาก็ยังเห็นโฆษณาอยู่เลย ถือว่ากะเวลาได้เกือบดีละมั้ง หึหึ
พอดูเสร็จพวกมันก็ไปต่อกัน มีผม เกียร์ ไทป์ ที่ขอกลับก่อน ไอ้ไทป์มันมีควิสพรุ่งนี้ครับ
“อันเดอร์แววววร์ แอ่”ตั้งแต่ออกโรง จนตอนนี้มานั่งทาครีมก็ยังติดปาก
“เสร็จยัง”มันคงเริ่มชินกับการทาครีมอันเชื่องช้าของผมแล้วละ ไม่ค่อยเร่งเร้าเหมือนแต่ก่อน
“อีกสองตัวครับ แปบหนึ่งนะ”
“อืม” เหมือนรู้เรื่องครับ แต่ลุกจากเตียงแล้วเดินมาทาๆ แปะๆให้ แล้วดึงมานอนด้วยกัน โห มึงมีสิทธิ์แบบสุด
“รีบนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาตอบลงตอบไลน์กับเขาบ้างก็ไม่ได้ มีมือดีคว้าแขนแล้วดึงไปโอบเอวแข็งเสียก่อน
“แปบเดียวนะครับ”
“ห้า” ถ้าไม่ติดว่ามึงแปรงฟันมาก่อนหน้านี้ กูคงสลบไปแล้วนะครับ ว่าแล้วก็เอื้อมไปหยิบมาดูแล้วรีบตอบให้มันเสร็จๆไป ส่วนใหญ่ก็รัวสติกเกอร์ไป ไม่ได้พิมพ์หรอกครับ เพราะเดี๋ยวยาวเกินห้านาที ไอ้น้ำแข็งจะดุเอา
ไม่ถึงห้านาทีก็วางมันลงที่เดิม แล้วหันมากอดคนข้างที่อ้าแขนรออยู่
“ตื่นเต้นอะ”
“อะไร” มันก้มลงแล้วเลิกคิ้วใส่
“พรุ่งนี้จะไปเจอพ่อตาแม่ยายแล้วอะ สรุปต้องสู่ขอเลยไหม” ผมแหย่
“หึหึ สินสอดแพงนะ ไหวเหรอ” มันอมยิ้มตอบ
“ไหวสิครับ เอาไปเลยทั้งตัวและหัวจายยย”ผมลากเสียงยาวๆ ยิ้มทะเล้นให้ มันหัวเราะใหญ่ แล้วพูดต่อ แถมบีบก้นผมเป็นจังหวะคำ
“ได้ มา นาน แล้ว ไม่ ต้อง การ อะ ไร อีก แค่ นี้ ก็ พอ” ตูดกูไม่ใช่ขวดซอสมะเขือเทศนะโว้ย บีบแล้วทำหน้าหื่นใส่อีก
“หวังฟันผมอย่างเดียวเหรอนี่” ผมตีหน้าเศร้า
“หึหึ อย่าแกล้งไม่รู้” มันพลิกตัวชะโงกมาไซร้คอนัวเนีย หายใจฟึดฟัดแรงๆ เครื่องไอรักยิ่งสตาร์ทติดได้ง่ายอยู่นะ ยิ่งตอหนวดสากๆมาโดนนี่ไม่ต้องบรรยายเลยครับ ฟิน
“เดี๋ยวเถอะ ไหนใครบอกให้นอนไวๆ หยุดเลยๆ”
“อืม… ฟืดด..” เสียงมันสูดหายใจแถวต้นคอนานเกือบสองนาที แล้วถอยหายใจล้มตัวนอนเหมือนเดิม
“ลืมอะไรหรือเปล่า” มันพูดลอยๆ หน้ายังแดงๆดำๆอยู่เลย หื่นว่ะ
“ฝันดีนะครับ” จูบแลกลิ้นกับมัน แล้วหอมแก้มตอกสองข้าง หน้าผากอีกฟอดใหญ่ ก่อนที่มันจะทำกลับเหมือนกัน
TBC------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
+ขอโทษที่หายไปนานนะคะ งานเยอะแบบสุดอะไรสุดดดด ปีสามแล้วอะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบมีเพิ่มมากขึ้น ต้องตามเรื่องที่ฝึกงานด้วย น้ำตาแทบนองแอบสองแก้มเลยทีเดียว กร๊าก
+เรื้องยืดเยื้อไปหรือเปล่าคะ คือความจริงคิดเอาไว้ว่าจะแต่งแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่กลัวคนอื่นจะเบื่อเอา ยังไงก็บอกกันได้นะคะ รับฟังทุกความคิดเห็น ชอบอ่านคอมเม้นต์ค่ะ ทำให้มีกำลังใจดี
+ส่วนเรื่อง 'แก่แล้วไง เล็กไม่เกี่ยง' มาต่อแน่ๆค่ะ แต่ขอเวลาจัดสรรชีวิตตัวเองก่อนนะคะ T0T
โซ่รักคนอ่านทุกคน