พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย  (อ่าน 139812 ครั้ง)

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



ย้อนไปเมื่อวันที่เกิดเหตุการณ์ชวนระทึกขวัญ เมื่อหลายเดือนที่แล้ว อันเป็นสาเหตุให้คุณย่าต้องมาอยู่กับเรา

   “นู....ที่นั่นเป็นยังไงมั่ง”

   “แตกตื่นกันใหญ่เลยครับ ตอนนี้ไม่เป็นอันทำงานกันแล้ว คนออกมาจากตึกกันหมดเลย แล้วพี่นิวล่ะครับ”

   เขาเป็นฝ่ายโทรมาหาผมด้วยความเป็นห่วง เพราะที่ทำงานผมเป็นตึก 3 ชั้น ถึงผมจะอยู่ชั้นสอง

แต่ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ก็ควรหลีกเลี่ยงการอยู่บนอาคารสูงไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

   “คนงานแตกตื่นเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ยอมขึ้นนั่งร้านกันซะงั้น สงสัยวันนี้คงไม่ทำต่อแล้ว อีกสักพักพี่คงกลับบ้านเลย”

   “อืม....ของผมก็คงกลับเร็วเหมือนกัน ออฟฟิศแถวนี้ก็คงกลับไล่ ๆกัน เหมือนเขาจะถือโอกาสกันนะครับ ฮ่า ๆ

แผ่นดินไหวนิดเดียว ก็ตื่นตกใจกันเป็นแถว นี่ถ้าเจอสึนามิเหมือนที่เขาหลักปีนั้นคงแย่ไปตาม ๆ กัน”

   ผมทำเป็นหัวเราะ ทั้งที่เมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา ตอนที่รู้สึกว่าที่นั่งมันโคลงเคลง ก็ตื่นตกใจกับเขาเหมือนกันนั่นแหละ

   “นั่นสิ แต่ที่บ้านเราก็ไม่น่าเจอแผ่นดินไหวหนัก ๆอย่างที่อินโดฯหรอก”

   “ว่าไม่ได้เหมือนกันนะครับ แผ่นดินไหวที ก็เกิดรอยแยกของเปลือกโลกที มันอาจจะเปลี่ยนแนวมาเป็นประเทศไทยสักวันก็ได้ใครจะไปรู้”

   “พูดเหมือนอยากเจอนะ”

   “โถ่! พี่นิวก็ ผมก็ปากเก่งไปงั้นแหละ เอาจริง ๆก็กลัวหัวหด ตะกี้นะครับ ตอนที่มันไหวครั้งแรกน่ะ

ผมรู้สึกว่าพื้นมันโคลงเคลง คิดถึงเรื่องแผ่นดินไหวหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะใช่จริง ๆ”

   “ก็นูไม่เคยเจอนี่ ที่ไซต์งานนี่หนักเลยนะ สลิงก์ไหวไปมาจนน่ากลัวเลยล่ะ คนงานที่อยู่บนนั่งร้าน ร้องโหวกเหวกใหญ่เลย

ไม่ต้องสั่งให้ลงมันก็ตะกายลงมาเสียจนแทบร่วง”

   “นึกแล้วเสียวไส้นะครับ.....”

   ผมกับพี่นิวพูดถึงสถานการณ์เรื่องแผ่นดินไหวอีกสองสามคำ ผมก็จะวางสาย เพราะรู้สึกว่าผู้คนรอบข้างที่แห่กันออกมาจับกลุ่มคุยกัน

เริ่มสลายตัวกลับเข้าที่ทำงานกันบ้างแล้ว หัวหน้าผมก็พยักหน้าชวนให้กลับเข้าไปทำงานต่อ

ก่อนเราจะบอกลากันทางโทรศัพท์ พี่นิวก็พูดขึ้นมาว่า

   “นูพรุ่งนี้ย่าพี่จะมานะ”

   “อะไรนะ คุณย่าน่ะเหรอครับจะมา”

   “อืม....จะมาอยู่ชั่วคราวน่ะ ทางโน้นเขาไม่อยากให้อยู่ กลัวจะเหมือนปีที่เกิดสึนามิ”

   “ครับ”

   ผมตอบรับด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก พูดว่าดีใจน่ะไม่ใช่แน่ แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกรังเกียจหรือไม่อยากต้อนรับ

   “เอายังไงดี นูอยู่ได้ไหม หรือว่าจะกลับไปอยู่บ้าน”

   “ทำไมผมต้องกลับไปอยู่บ้านด้วยล่ะ”

   “อ้าว...ก็เผื่อนูอึดอัดเวลาที่ย่ามาอยู่ด้วย”

   “มันไม่สำคัญหรอกครับพี่นิว ผมแค่....เฮ้อ.... ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณย่ามาอยู่ชั่วคราวแค่นั้นเอง ยังไงก็เป็นคุณย่าของพี่นิว ผมต้องอยู่ได้สิครับ”

   ผมเกือบจะพลั้งปากพูดออกไปว่า ผมแค่คนอาศัย...หลุดปากออกไปพี่นิวคงโกรธอีก

   “อืม...งั้นก็ดี พี่ก็อยากมีนูอยู่เป็นเพื่อน”

   “เป็นเพื่อน?”

   ผมทวนคำของพี่นิวทำเสียงสูงแกล้งล้อ

   “หึ ๆ อย่ามากวน เดี๋ยวจะโดนดี”

   “กล้าเหรอ....คุณย่ามาอยู่ด้วยน่ะ พี่นิวจะมาทำรุ่มร่ามกับผมไม่ได้น้า”

   “ก็ให้มันรู้ไปว่าจะรอดไปได้ตลอด ยังไงย่าก็นอนห้องแม่นู่น”

   “ผมก็นอนห้องผมไง”

   “เหอะ....ถึงจะนอนคนละห้องก็ใช่ว่าจะรอดนะจะบอกให้”

   “ผมจะรอดู ฮ่า ๆ”

   เป็นอย่างที่พี่นิวพูดนั่นแหละ  พอเรามีแขกมาพักด้วย ผมก็ย้ายกลับมานอนห้องตัวเองทุกครั้ง ตามประสาคนขี้กลัว...

กลัวเรื่องของผมกับพี่นิวจะหลุดออกไปนอกบ้าน  ส่วนครั้งนี้คุณย่ามาพักก็คงต้องเปิดห้องคุณแม่ให้ 

แต่จะว่าไปแล้วต่อให้เราสองคนนอนห้องเดียวกัน คุณย่าก็คงไม่มาเปิดดู




   หลังเลิกงานกลับมาถึงบ้าน เราสองคนก็พูดถึงการที่คุณย่าจะมาอยู่ร่วมบ้านอย่างจริงจัง

   “นูอยู่ได้นะ ไม่อึดอัดนะ”

   สีหน้าพี่นิวไม่ค่อยดีนัก จะเป็นด้วยห่วงผม หรือว่า กลัวความแตกก็สุดจะเดา

   “จะบอกว่าไม่อึดอัดก็คงไม่ได้หรอกครับ แต่ผมทนได้”

   “ถึงกับต้องทนเลยเหรอ”

   พี่นิวหน้าเจื่อนลงไปอีก ซึ่งผมเข้าใจว่าในฐานะที่เขาเป็นคนกลาง โน่นก็คุณย่า นี่ก็....คนรัก

ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะประสานให้คนที่เขารักทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างดี ไม่มีปัญหา

   “ถ้าผมพูดตรง ๆ พี่นิวก็อย่าเก็บมาคิดมากนะ”

   เขาผงกหัว รอฟัง

   “ผมไม่ชินกับการที่มีผู้ใหญ่มาก ๆ อย่างคุณย่ามาอยู่ด้วย พี่นิวน่าจะรู้ เพราะอย่างนี้นี่ไง เวลาครอบครัวพี่นิวไปเยี่ยมคุณย่าที่โน่น ผมถึงไม่เคยไปด้วยเลย”

   “ชวนก็ไม่ยอมไป”

   “คิดว่าผมไม่รู้หรือไง ว่าฐานะของผมไม่เคยได้รับการรับรองจากครอบครัวพี่นิวที่โน่น”

   พี่นิวทอดสายตามาที่ผมด้วยความเห็นใจ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่การรับผมเป็นลูกบุญธรรมของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้รับการรับรอง

โดยเฉพาะจากคุณย่าซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่สุด เมื่อคุณย่าไม่รับทราบเสียคนหนึ่ง คนอื่น ๆ  ก็พลอยที่จะเมินเฉยกับผมเป็นธรรมดา

   ผมเคยไปกราบคุณย่าครั้งหนึ่ง หลังจากที่คุณแม่ขอผมมาเป็นลูกร่วมปีแล้ว

คุณย่าไม่ได้ถามอะไรแม้แต่คำเดียว

ไม่....แม้แต่จะพูดคุยกับผมอย่างเป็นกันเองเสียด้วยซ้ำ

ซึ่งผมในเวลานั้น ไม่เข้าใจสถานการณ์เอาเลย ได้แต่คิดไปว่า เราเป็นเด็ก ไม่รู้จะคุยอะไรกับท่าน ทั้งในฐานะเด็ก และความเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

แต่ยิ่งนานวัน ผมก็เริ่มเข้าใจจากการสังเกตปฏิกิริยาญาติคนอื่น ๆ ของพี่นิวว่า คงไม่มีใครยอมรับผมเข้าเป็นคนในครอบครัวใหญ่

เพราะเหตุที่คุณย่าเองท่านก็ยังไม่เคยเอ่ยปากรับรอง

   หลังจากที่ได้รู้ ผมก็พยายามทำตัวห่างจากกิจกรรมในครอบครัวใหญ่ของพี่นิว

แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเคยชวนไปหลายครั้ง แต่ผมก็มักจะยกเอากิจกรรมรวมญาติของฝ่ายพ่อมาเป็นข้ออ้าง

ทำให้ท่านไม่รบเร้าอีก เพราะท่านรู้ว่าตลอดเวลาที่ผมมาอยู่กับพี่นิว ผมก็แทบจะไม่ได้กลับไปหาพ่อกับแม่

นอกเสียจากโอกาสสำคัญ และในเทศกาลประจำปีเท่านั้น

   นาน ๆ ครั้งผมจะได้พบคุณย่าของพี่นิว ซึ่งก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่คุณย่าเดินทางมาเยี่ยมเยียนพันธมิตรทางธุรกิจของครอบครัว

และแทบจะไม่ได้มาพักที่บ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะงานเลี้ยงสังสรรค์มักจะจัดที่สมาคมที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่

หรือไม่ก็จัดตามโรงแรม ซึ่งการเปิดห้องพักของโรงแรมต้องสะดวกกว่าที่บ้านแน่ ๆ

ดังนั้นผมคงไม่ต้องบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณย่าจะเรียกว่าห่างเหินก็ยังน้อยเกินไป

ส่วนตัวผม.........ผมได้รู้จักคุณย่าผ่านการบอกเล่าและการพูดคุยในครอบครัวของพี่นิวเท่านั้น

ส่วนคุณย่าก็คงไม่ได้ให้ความสนใจผมในฐานะใด ๆ.....

ดีไม่ดี คุณย่าคงจะลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งผมเคยเข้าไปกราบคารวะท่าน หรือลืมไปแล้วว่า นายนูคนนี้มีตัวตน





บรรยากาศภายในบ้านระหว่างที่คุณย่ามาอยู่ด้วย ไม่ได้เลวร้าย หรือน่าอึดอัดอย่างที่ผมคิด 

ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคยกับการดูแลผู้สูงอายุวัยคุณย่า

บางครั้งก็กลัวจะทำให้ท่านรำคาญที่ผมเป็นผู้ชายซึ่งไม่สามารถดูแลเอาใจใส่ได้ดีเท่ากับผู้หญิง

แต่คุณย่าก็เป็นหญิงเหล็กเสียเหลือเกิน ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณย่าถึงได้กุมบังเหียนกิจการของตระกูลมาได้จนป่านนี้

เช้าแรกมาถึง ผมกุลีกุจอตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมอาหาร เพราะพี่นิวบอกว่า คุณย่านั่งโต๊ะอาหารเช้าก่อนเจ็ดโมงทุกวัน

อาหารมื้อแรกผมทำข้าวต้มหมู.....ง่ายแสนง่าย  แต่ทำยังไงถึงจะให้อร่อยถูกปากคุณย่า ผมก็สุดรู้

ได้แต่ทำไปตามความเคยชิน....ตามรสมือคุณแม่ อย่างที่คุณแม่เคยสอน

เจ็ดโมงเช้า ผมยกข้าวต้มหมูตั้งโต๊ะ หลังจากขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว พร้อมที่จะไปทำงาน

คุณย่าส่งยิ้มน้อย ๆมาให้ พอทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นอยู่บ้าง

“ตื่นแต่เช้าสินะ”

“ครับคุณย่า”

พี่นิวเลื่อนเก้าอี้ให้คุณย่านั่ง ตรงหัวโต๊ะที่คุณแม่เคยนั่งเป็นประจำ แล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างขวา ส่วนผมนั่งตรงกันข้ามกับเขา ซึ่งก็คือซ้ายมือของคุณย่านั่นเอง

“ย่าได้กลิ่นต้มข้าวแต่เช้า ทำอาหารเช้าเองหรือเราน่ะ”

“ทำบ้างครับคุณย่า แต่ไม่ทุกวัน บางวันก็ซื้อมาเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วเอามาอุ่นตอนเช้า”

   (ผมเว้นไว้ไม่ต่อจนจบว่า....บางเช้าพี่นิวต้องหิ้วท้องไปกินที่ทำงาน เพราะผมตื่นสาย ฮ่าฮ่า)

คุณย่าตักข้าวต้มคำแรกขึ้นชิม ผมก็ได้แต่มองตามแล้วลุ้น.....

“อืม....”

“เป็นไงครับย่า พอทานได้ไหม”

หลานชายคนโปรดก็คงจะลุ้นไปกับผมด้วย เขาถามคำถามที่ผมเองก็อยากรู้

“ใช้ได้”

คุณย่าตักหมูก้อนขึ้นชิมอีกคำ ก่อนจะตอบ

“ซื้อหมูสับสำเร็จมาล่ะสิ”

“ครับ มีอะไรเหรอครับคุณย่า”

“วันหลังซื้อหมูสามชั้นมาสับเองดีกว่านะ ของสำเร็จเขาผสมมันหมูมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ แถมบางทีเอาหมูไม่สดมาผสม มันมีกลิ่น”

“เอ้อ...ผมซื้อจากซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านน่ะครับ ไม่คิดว่า...”

“ช่างเถอะ ย่าไม่ได้ว่าเรา แค่บอกว่าอย่างไหนมันดีกว่า”

“ครับ”

“แต่ฝีมือเราน่ะใช้ได้ทีเดียวนะ ย่าชอบ”

....คุณย่าชอบ!!......

คุณย่าชอบข้าวต้มหมูที่ผมทำ!!

พี่นิวเหลือบตาขึ้นสบตาผมพร้อมกับนัยน์ตาเป็นประกาย....แอบเชียร์ผมล่ะซี้




เช้าต่อ  ๆมา ผมก็ยังคงเตรียมอาหารให้คนทั้งบ้านเช่นเคย จากที่ไม่ได้ทำอาหารอย่างจริงจังมาร่วมปี ผมก็เริ่มฟื้นฟูเมนูที่ถนัด

โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์  ถ้าไม่มีงานที่ต้องไปสะสางที่ทำงาน ผมก็สรรหาอาหารสดมาปรุง โดยมีคุณย่าคอยบอก 

จากที่ผมเคยรู้สึกเกรง ๆ ในความเป็นผู้ใหญ่ของท่าน  ผมก็เริ่มรู้สึกว่า ภาพลักษณ์ที่ลูกหลานเห็น

หรือแม้แต่ผ่านการบอกเล่าของพี่นิว ทำให้คุณย่าดูเป็นหญิงเหล็ก ที่จริงจัง และเข้มงวดในสายตาของผมมานานนับสิบปีทีเดียว

แท้ที่จริงคุณย่าก็เป็นเพียงหญิงสูงวัยธรรมดา ๆคนหนึ่ง ที่ยังไม่เคยลืมงานบ้านงานครัว

เพียงแค่มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าแม่บ้านทั่วไปเท่านั้นเอง

“ใส่กระชายด้วย ไม่ต้องมาก”

   ผมตำเครื่องแกงส้มตามคำบอกของคุณย่า เป็นสูตรของคนภาคกลาง ที่ผมไม่ค่อยได้กินบ่อยนัก เพราะทำไม่เป็น

แกงส้มปักษ์ใต้เป็นสูตรใส่ขมิ้น และกลิ่นพริกขี้หนูสด ให้รสเผ็ดร้อน

ในขณะที่แกงส้มภาคกลางจะมีรสชาติเบากว่า ใส่กระชายแทนขมิ้นเพื่อกลบกลิ่นคาวของปลาน้ำจืด

และได้ความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกเม็ดใหญ่สีแดงที่ตากจนแห้ง แถมก่อนจะเอามาตำเครื่องแกง ยังต้องแกะเอาเม็ดและไส้ตรงกลางออกไปอีก

รสชาติจึงไม่เผ็ดเท่าแกงปักษ์ใต้...และผมก็ชอบรสนี้มากกว่าแกงปักษ์ใต้ด้วยล่ะ

   เมื่อเช้าผมก็ตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปตลาดนัดใกล้บ้าน ตามคำสั่งคุณย่าที่ให้ไปหาผักกระเฉดกับปลาช่อน

และกุ้งสดตัวโตหน่อย คุณย่าอยากกินแกงส้ม หลังจากที่จำเจอยู่กับอาหารเช้ารสชาติจืด ๆ ฝีมือผม

 และอาหารกลางวันจากร้านอาหารตามสั่งที่พี่นิวหิ้วมากินมื้อกลางวันทุกวัน

ส่วนมื้อเย็นก็แกงสำเร็จรูปบ้าง ไข่เจียวบ้าง หมูทอดบ้าง หรือไม่ก็ผัดผักง่าย ๆ ที่ผมสามารถทำได้อย่างรวดเร็วหลังจากกลับจากทำงาน

เพื่อจะได้กินมื้อค่ำพร้อมหน้ากันสามคน

   “ปลาช่อนน่ะต้มก่อนนะแล้วแกะเอาแต่เนื้อมาโขลกกับเครื่องแกง”

   ผมทำตามเป็นขั้นตอน และพยายามจดจำอย่างไม่ให้ตกหล่น เผื่อว่าจะได้ทำให้พี่นิวกินบ้าง

   “เรานี่มันคล่องแคล่วดีนะ”

   ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มรับคำชมของคุณย่า ทันได้เห็นสายตาที่ท่านมองมา....จะเข้าข้างตัวเองไปไหมนะ

ถ้าผมจะคิดว่าท่านก็เอ็นดูผมอยู่เหมือนกัน

   ความรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่กับคุณย่าลดน้อยถอยลงไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัวเลย

จากที่ผมคอยแต่จะตัวลีบเมื่อต้องเดินผ่านจุดที่คุณย่านั่งอยู่แม้กระทั่งหน้าโทรทัศน์  ก็คืบหน้าเป็นนั่งดูโทรทัศน์ร่วมกันสามคน

 ราวกับเป็นคนในครอบครัวที่อยู่ร่วมบ้านกันมานาน



   วันเสาร์วันหนึ่งหลังจากที่คุณย่ามาอยู่กับเราได้เดือนเศษ ผมมีกิจกรรมพิเศษที่ทำงาน

นั่นคือการทำความสะอาดเครื่องใช้ไม้สอย พื้นที่ทำงาน รวมไปถึงจัดเอกสารที่สั่งสมมาตลอดปี

นับเป็นกิจกรรมระดับชาติกันเลยทีเดียว สาเหตุก็เพราะปีนี้มีหนังสืออนุมัติให้ทำลายเอกสารที่เคยเก็บไว้มานับสิบปี

และถึงวาระที่จะต้องทำลายทิ้ง.....เหนื่อยแทบรากเลือด!!!   

นั่นก็เพราะกำลังกายของผู้ชายเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ถ้าหากพนักงานที่ทำงานของเราส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

   ตกเย็นกลับถึงบ้าน เขี่ยขาตั้งรถมอเตอร์ไซค์ลงได้ ผมก็แทบอยากจะลงคลานกันเลยทีเดียว

   ....หอม.....

   หอมกลิ่นต้มหวาน....อะไรสักอย่าง ถ้าไม่ปลาหมึกต้มหวาน ก็คงเป็นกุ้งหวานของโปรดของผม

   ผมเดินตามกลิ่นไป....ไม่ใช่ที่ไหนหรอกครับ แค่ในครัวบ้านเรานี่เอง

   ที่หน้าเตา....ร่างสันทัดที่ยังแลดูกระฉับกระเฉง ของผู้หญิงวัยใกล้แปดสิบ กำลังสาละวนอยู่กับหม้อบนเตา

   “คุณย่าครับ”

   “อ้อ....กลับแล้วหรือ”

   “คุณย่าทำอะไรอยู่ครับ...หอมจัง”

   ความคุ้นเคยที่เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้ผมกล้าพอที่จะชะโงกหน้าไปดูในหม้อ  ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อน แค่ทักทายแล้วผมก็คงเลี่ยงขึ้นห้องไป

   “ปลาหมึกต้มหวาน”

   ของโปรดผมจริง ๆด้วย

   “ลูกน้องพี่นิวเขาเอาปลาหมึกมาให้เมื่อกลางวัน ย่าก็เลยทำของชอบของเรา”

   คุณย่ารู้!!

   “คุณย่ารู้ได้ยังไงครับว่าผมชอบ”

   “ก็พ่ออะไรล่ะ คนที่ฝากปลาหมึกมาน่ะ เขาบอกย่าว่าเราชอบ ไปบ้านเขาทีไรแม่เขาก็ทำให้ไว้ให้กินประจำ...ไม่ใช่เรอะ”

   “อ๋อ...พี่ขนุนครับ ญาติพี่ขนุนเขามีเรือประมง”

   “นั่นล่ะ....ไปอาบน้ำก่อนไป๊ เสื้อผ้าเลอะเทอะหมดแล้ว เดี๋ยวพี่นิวกลับมาจะได้ตั้งโต๊ะกัน”

   ผมเดินยิ้มอารมณ์เบิกบานขึ้นบ้านไปเพื่อจะอาบน้ำ แต่งตัวลงมารอรับพี่นิว ซึ่งอีกสักพักคงกลับ

เพราะเราคุยกันตั้งแต่ตอนที่ผมยังอยู่ที่ทำงานว่า เขากำลังขับรถออกจากไซต์งานที่ต่างอำเภอแล้ว คาดว่าใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็คงถึง


   ท้องฟ้ายังไม่มืด แค่เพียงสลัวลงเพราะตะวันลับฟ้าไปแล้ว  ผมเดินลงมาชั้นล่างอย่างสดชื่น กระปรี้กระเปร่า 

ผมรู้ตัวดีว่า ไม่ใช่แค่กระแสน้ำเย็น ๆ หรอกที่ทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้

หากแต่เป็นเพราะว่า ความรู้สึกบางอย่างเปลี่ยนไป....

ที่เคยคิดไว้ว่าบรรยากาศที่บ้านเราคงจะอึดอัด อึมครึม เมื่อมีผู้ใหญ่ที่น่าเกรงขามมาอยู่ด้วย กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ทุกอย่างดูคลี่คลาย นอกจากนั้นผมยังรู้สึกอบอุ่นคล้าย ๆ กับตอนที่คุณแม่อยู่ด้วยเสียด้วยซ้ำไป

   เสียงพูดคุยดังแว่ว ๆ ตอนที่ผมกำลังเดินผ่านเคาน์เตอร์ด้านหน้าห้องครัว พี่นิวคงจะกลับมาแล้ว และกำลังคุยอยู่กับคุณย่า

   “พี่นิวคืนน้องไปซะนะลูก.......”

   ผมไม่ได้ยินประโยคต่อไป เพราะเสียงเปิดน้ำจากก๊อกตรงอ่างล้างจาน

“.................................”

   “.....ถ้าไม่ไหวก็ขายไปซะ ย่าไม่อยากให้เอาน้องเข้ามาเกี่ยว”

   “แล้วที่ย่ารับปากผมไว้ล่ะครับ ถ้าผมทำไม่สำเร็จ ย่าก็จะทวงสัญญาใช่ไหม”

   “เวลาของย่าไม่ได้เหลือเยอะนะ แล้วแต่พี่นิวก็แล้วกัน ที่ผ่านมาพี่นิวก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมกับย่ามาพอสมควรแล้วนี่ จะทำอีกสักครั้งย่าก็คงรู้ไม่เท่าทันหรอก”

   “ย่าอะ.....-*@#%*--^--...฿= &*-*..]..<#$....”

   “ไม่ต้องมาอ้อนเลย ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวย่าจะตั้งโต๊ะ หิวแล้ว”

   ผมรีบมุดลงใต้เคาน์เตอร์ เมื่อรู้สึกว่ามีใครกำลังเดินออกมาจากห้องครัว  มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ

เมื่อรู้ตัวว่าเรากำลังแอบฟังคนอื่นคุยกัน และไม่อยากถูกจับได้


   ทั้งที่จับต้นชนปลายไม่ได้ว่าคุณย่ากับพี่นิวคุยเรื่องอะไรกัน แต่ลางสังหรณ์ในใจมันบอกว่า ผมน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่บ้าง

และถ้าเดาไม่ผิด น่าจะคุยกันเรื่องกิจการส่วนตัวของเราสองคน

   อารมณ์ที่เบิกบานแต่แรก ค่อย ๆ หุบลงจนรู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเองมันมัวซัว

ทั้งที่ความจริงมันก็เป็นของมันอย่างนั้นเองตามเวลาโลก

ผมรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงขึ้นมาบ้างแล้ว อาจจะเป็นเพราะเริ่มสงสัยว่าจะเป็นเรื่องที่ผมไปเกี่ยวข้องแน่ ๆ แต่ทำไมผมถึงไม่ได้อยู่ในวงสนทนานั้นด้วย

เป็นธรรมดาที่ผมจะรู้สึกหวั่นไหวไปกับการสนทนาที่ผมถูกกันไว้ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้อง.....ถึงยังไงผมก็ยังเป็นคนนอกสำหรับตระกูลพี่นิวอยู่ดีสินะ

   ยามโพล้เพล้ ที่พระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว แต่ดวงจันทร์ยังไม่โผล่ แม้แต่ดวงดาวก็ยังหรี่แสง

มีเพียงแสงไฟจากภายในบ้านลอดผ่านบานประตูออกมา

ผมได้แต่นั่งทอดหุ่ยอยู่ตรงหน้ามุขคนเดียวมืด ๆ ไม่ได้ยี่หระกับฝูงยุงที่บินตอมแล้วรุมจิกปากลงบนเนื้อหนัง

เพราะไม่หาญกล้าพอที่จะเข้าไปสู้หน้าคุณย่า ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร....

ผมมันขี้ขลาดเกินไปหรือเปล่า ที่ไม่กล้าเผชิญกับบางสิ่งที่คิดไปเองว่ามันอาจจะทำร้ายจิตใจ หรือ บางสิ่งที่จะทำให้ความสุขลดน้อยลง


   ผมนั่งซุกอยู่ในมุมจนกระทั่งมีเงาทอดบังแสงสว่างตรงช่องประตู

   “มานั่งอยู่ทำไมมืด ๆ ไปกินข้าวกันได้แล้ว”

   “ครับพี่นิว”

   เหมือนหุ่นยนต์ที่มีคันบังคับ บอกให้ทำอะไรก็ทำ เพราะไม่อยากคิด ไม่อยากพูด ขอแค่หายใจอย่างเดียว

   “ไหนล่ะคนชอบปลาหมึก ย่าไม่เห็นเราตักเลย”

   “ครับ”

   พี่นิวมองมาที่ผม จังหวะเดียวกับที่ผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว....ตาของเราสบกัน .....ผมเห็นแววตาห่วงใยที่มองมา

   ...พี่นิวก็คงรู้ว่าผม “ไม่ปกติ” นัก ในมื้อค่ำมื้อนี้...

   ผมต้องฝืนทำเหมือนไม่มีอะไรในใจ แม้จะยิ้มไม่ออก แต่ผมก็ตักข้าวปลาอาหารใส่ปากจนกระทั่งหมดจานไป ทั้งที่ไม่รู้รสชาติของมันสักนิด




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:49:04 โดย NuNew »

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ผ่านการทดสอบขั้นต้นแล้ว รอฟังผลขั้นต่อไปจ้า
มาต่อแล้วมาเลยนะ อย่าหายไปนานจนจะลืมแล้ว
สู้ๆค่ะ ดูคุณย่าก็ใจดีนี่ นูชอบตีตนไปก่อนไข้หรือเปล่า

รอตอนต่อไปค่ะ

 :yeb: :yeb: :yeb:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เคยอ่านเจอมา

..อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด..
..อยู่ท่ามกลางหมู่มิตรให้ระวังพูดจา..

เท่าที่อ่านตอนนี้ที่นูเล่ามา
ไม่เห็นเลยว่าคุณย่าจะน่ากลัวตรงไหน
แต่กลับดูอบอุ่น น่าเข้าไปกอดแล้วซบที่ตักมากกว่า

นู..น่าจะเป็นคนที่คิดมากเอาการอยู่น่ะ
ดีแล้วที่มีที่รักเป็นพี่นิว คอยดูแล เอาใจใส่อยู่ข้างๆตลอด
ที่รักเค้าคงเป็นห่วงมากนะ กับอาการคิดไปไกล ขี้กลัวซะขนาดนี้
 :m29:

ไม่รู้ดิ..ทำไมรู้สึกอยากกอดคุณย่าขึ้นมาซะงั้น
 :กอด1:

บวกหนึ่ง บวกเป็ด ต้อนรับการกลับมาต่อ series อีกครั้ง
 :3123: นู&นิว

Singleman

  • บุคคลทั่วไป
ต่อไปจะเป็นยังไงน้า รอลุ้นรีบๆมาต่อนะครับพี่นิว

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ฝากประชาสัมพันธ์ค่ะ[/size
   รักใครชอบใครช่วยโหวตให้ด้วยค่ะ สำหรับเรื่องนี้ยังไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของเรื่อง ก็ถือโอกาสขออนุญาตตอนนี้เลยนะคะน้องนู
ขอบคุณที่ไม่ว่าพี่ และขอเสียงโหวตจากเป็ดท่านอื่นด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ


รางวัลนิยายสุดประทับใจ :
1.1 พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ โดย NOO โพสต์เมื่อ 27-09-2012
1.2 กรูส์รักเมิงได้ไงว่ะ ไอ้เด็กเเว้น โดย new10 โพสต์เมื่อ 01-06-2012
1.3 ไอ่น้องรหัส..ตัวแสบ โดย ไอ่หนุ่ม หลังไมค์ โพสต์เมื่อ 20-08-2013
1.4 Yes,I love him" โดย jivetea โพสต์เมื่อ 06-06-2013
1.5 รักจริงยิ่งกว่านิยาย โดย jusmintan โพสต์เมื่อ 05-08-2013


2.รางวัลนิยายสุดโศก :
2.1  Unbelievable Love & Unintentional Love โดย rainbow67 โพสต์เมื่อ 11-08-2012
2.2  Office Worker】เผลอรักหนุ่ม OT โดย 403 โพสต์เมื่อ 18-03-2013
2.3

3.รางวัลนิยายสุดฮา :
3.1 กรูส์รักเมิงได้ไงว่ะ ไอ้เด็กเเว้นโดย new10 โพสต์เมื่อ 01-06-2012
3.2 ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร โดย AGELA โพสท์เมื่อ 23-05-2013
3.3 รับกระเทยทานเพิ่มไหมคะ โดย น้องฐา โพสต์เมื่อ 27-04-2011


4.รางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น :
4.1  รักจริงยิ่งกว่านิยาย โดย jusmintan โพสต์เมื่อ 05-08-2013
4.2  พันธนาการ...รัก โดย dek-zaal3 โพสต์เมื่อ 30-12-2012
4.3  พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ โดย NOO โพสต์เมื่อ 27-09-2012
4.4 ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร โดย AGELA โพสต์เมื่อ 23-05-2013


5.รางวัลเรื่องสั้นประทับใจ :
5.1 ชื่อนิยาย โดย ชื่อนักเขียน โพสต์เมื่อ ใส่วันเดือนปี
5.2 ชื่อนิยาย โดย ชื่อนักเขียน โพสต์เมื่อ ใส่วันเดือนปี


6.รางวัลนิยายดองเค็มแห่งปี :
6.1 ใครว่าทำดีแล้วได้ดี ทำไมผมทำดีแล้วได้สามีอ่ะ!!โดย ชื่อ Namioto โพสต์เมื่อ 17-05-2011
6.2 ชื่อนิยาย โดย ชื่อนักเขียน โพสต์เมื่อ ใส่วันเดือนปี


7.รางวัลนักเขียนดาวรุ่ง :
7.1 ไอ่หนุ่ม หลังไมค์
7.2 new10
7.3 AGELA
7.4 NOO
7.5  jivetea


8.พระเอกยอดเยี่ยม :
8.1 นัด จาก กรูส์รักเมิงได้ไงว่ะ ไอ้เด็กเเว้น โดย new10 โพสต์เมื่อ01-06-2012
8.2 บอมบ์ จาก ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร โดย AGELA โพสท์เมื่อ 23-05-2013
8.3 ตั้ม จาก ไอ่น้องรหัส..ตัวแสบ โดย ไอ่หนุ่ม หลังไมค์ โพสต์เมื่อ 20-08-2013
8.4 พี่นิว จาก พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ โดย NOO โพสต์เมื่อ 27-09-2012
8.5 


9.นายเอกยอดเยี่ยม :
9.1 นู จาก พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ โดย NOO โพสต์เมื่อ 27-09-2012
9.2 นิว จาก กรูส์รักเมิงได้ไงว่ะ ไอ้เด็กเเว้น โดย new10 โพสต์เมื่อ01-06-2012
9.3 น้องภู จาก รักข้ามรั้ว...ไอ้ตัวแสบ โดย K.Pupoom โพสต์เมื่อ 23-11-2011
9.4 วาย จาก ไอ่น้องรหัส..ตัวแสบ โดย ไอ่หนุ่ม หลังไมค์ โพสต์เมื่อ 20-08-2013


10.ตัวร้ายยอดเยี่ยม :
10.1 ชื่อตัวร้าย จาก ชื่อนิยาย โดย ชื่อนักเขียน โพสต์เมื่อ ใส่วันเดือนปี
10.2 ชื่อตัวร้าย จาก ชื่อนิยาย โดย ชื่อนักเขียน โพสต์เมื่อ ใส่วันเดือนปี


11.นักอ่านยอดเยี่ยม
   - สมาชิกเล้าเป็ดทุกคน


ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นูมาอัพเดทเรื่องราวให้รู้แล้ว คนเราในแต่ละวันมันก็มีเรื่องไม่ซ้ำกันเลยเนอะ
แต่นูก็ยังคงเข้มแข็งและสามารถผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้อย่างดีเยี่ยมเลยนะคะ

เป็นกำลังใจให้นูกับนิวเสมอนะคะ สู้สู้  :กอด1:

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2


ขอบคุณทุก ๆคนนะครับที่ยังรอคอยแม้ว่าเจ้าของกระทู้จะัทิ้งไปนานแสนนาน

แต่ผมก็เป็นคนรักษาคำพูดนะเออ บอกซะก่อน

สัญญาว่าจะโพสท์จนจบก็ต้องจบครับ ถ้ามาไม่ได้ ก็จะฝากคนอื่นไว้ให้มาโพสท์แทน

แต่ตอนนี้ยังมาเองได้อยู่ ก็อยากจะบอกว่าคิดถึงนะครับ คิดถึงจริง ๆ

ขอบคุณสำหรับการติดตาม การรอคอย ถ้อยคำให้กำลังใจ

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คอมเม้นท์ที่เสมือนข้อเตือนใจของคุณ broke-back

ไม่ว่าผมหรือใคร ๆ ก็เก็บไว้บอกตัวเองได้ครับ

.."..อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด....อยู่ท่ามกลางหมู่มิตรให้ระวังพูดจา...."

สุดท้ายคือขอบคุณพี่เอม-อยากรัก สำหรับ โหวต  ทั้งนิยาย และตัวละคร

ผมคิดเสมอว่า ตัวเองไม่ใช่มืออาชีพ ยังมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง แก้ไข

และอีกหลายอย่างที่ต้องการคำีชี้แนะจากนักอ่านทุกคน

แต่เหนืออื่นใด ผมมีความสุขที่ได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้

หากมันจะทำให้ทุกคนที่ได้อ่านมีความสุข ผมก็รู้สึกดีใจมากแล้วครับ

ไม่ต้องมีรางวัลผมก็พร้อมจะนำเสนอ(หน้า)

หรือหากมันจะทำให้หลายคนต้องเสียน้ำตา ก็ขอให้ถือเสียว่า

ทุกชีวิตต้องพบเจอ ต้องผ่านความสุข ทุกข์ โศก จะได้สบายใจว่า.... ตูข้าไม่ได้ทุกข์อยู่คนเดียว....

แม้ผมเองจะดูเหมือนว่าโชคดีที่มีคนที่เรารัก และคนที่รักเรา แต่มันก็หวานอมขม ผสมผเสกันไป

จนบางคนอาจจะคิดไปว่า อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องมีใครยังดีเสียกว่า ไม่ต้องมีความทุกข์ใจ

คืนนี้ออกจะดึกไปหน่อยนะครับ ผมโพสท์ 2 ที่ ต้องลงในบ้านตัวเองให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะมาที่นี่ได้

มันเป็นพันธสัญญาทางใจครับ ไม่ว่ากันนะ





 :n1:









   รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ คุณย่าให้พี่นิวขับรถพาไปเยี่ยมญาติครอบครัวหนึ่งซึ่งอยู่ต่างอำเภอ ในขณะที่ผมนึกอยากพักผ่อนมากกว่า

เพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ แต่ติดที่คำขอของคุณย่า

   “นั่งไปเป็นเพื่อนพี่นิวด้วยสิเราน่ะ  บ้านโน้นมีแต่คนแก่ ๆ พี่นิวคงไม่มีเพื่อนคุย”

   ตอนสาย ๆ เราจึงออกรถกัน ระหว่างทางคุณย่าแวะซื้อขนมเปี๊ยะที่ร้านเก่าแก่แห่งหนึ่งเพื่อจะไปฝากญาติที่เราจะไปเยี่ยม

พอเห็นขนมที่ร้าน คุณย่าก็นึกอะไรขึ้นมาได้

   “เออ...ย่าลืมไปเลยพี่นิว  กว่าเราจะกลับก็คงบ่าย ๆ ย่าไม่ได้เอาชามา แถวนี้มีร้านไหนขายชาของย่าบ้างไหมนี่”

   “ผมเอามาด้วยแล้วครับคุณย่า”

   ผมหันไปบอกคุณย่าที่นั่งเบาะหลัง

   “อ้าว....เหรอ....เออ ดี ๆ ลูก คนแก่ขี้หลงขี้ลืมก็เป็นภาระลูกหลานแบบนี้ล่ะนะ”

   “ไม่หรอกครับย่าปกติถ้านั่งรถไปไหนไกลหน่อย นูเขาก็จะเตรียมเครื่องดื่มกับของว่างเผื่อทุกครั้งแหละ ถึงย่าไม่อยู่ก็เถอะ”

   “งั้นเหรอ ขอบใจนะ”

   “ไม่เป็นไรครับ คุณย่าจะทานขนมกับน้ำชาเลยไหมครับ ผมชงใส่กระติกมา”

   คุณย่ายิ้มให้พร้อมกับบอกว่า ขอลงไปเลือกขนมก่อน เสร็จแล้วขอจิบชาหนึ่งถ้วยกับขนมเจ้าอร่อยที่ไม่ได้ลิ้มรสมานาน

   ความรู้สึกยินดีที่ได้ทำบางสิ่งบางอย่างให้กับคนอื่นมันดีเช่นนี้เอง แค่เพียงคุณย่าส่งยิ้มมาพร้อมคำขอบใจ

ผมก็พร้อมจะลืมสิ่งที่ได้ยินกระท่อนกระแท่นเมื่อวานนี้ให้หมด....บางทีผมคงคิดมากไปเอง

คุณย่ากับพี่นิวอาจจะแค่ปรึกษาหารือเรื่องธุรกิจกัน ไม่เกี่ยวอะไรกับผม


   ออกมาจากบ้านญาติคนนั้นเอาตอนบ่ายจัดแล้ว ผมรู้สึกเพลีย ๆ อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยล้ามาจากเมื่อวานนี้

แล้วยังพักผ่อนไม่เต็มที่ ขากลับก็เลยถือโอกาสหลับมาในรถ แต่ยังไงก็หลับไม่สนิท

ทั้ง ๆ ที่ง่วงงุน แต่ประสาทหูก็ยังทำงาน

   “ย่าจะปลดเกษียณแล้วนะพี่นิว”

   “ก็ดีครับ ย่าจะได้พักผ่อน”

   “ย่ามาอยู่กับพี่นิวได้ไหม”

   “ย่าจะอยู่ได้เหรอครับ ผมไม่ค่อยได้อยู่บ้าน อย่างที่ย่าเห็นน่ะแหละ นูก็ไปทำงาน เราสองคนคงไม่ค่อยได้ดูแลย่านะครับ”

   “ถ้าย่าจะอยู่จริง ๆ ก็ไม่ต้องให้เราสองคนมาดูแลหรอก ย่ายังไม่แก่ขนาดนั้น ย่าจะเอาคนมาอยู่ด้วย

จะได้ดูแลเราสองคนไปด้วย อย่างน้อยก็ดูแลบ้าน ดูแลเสื้อผ้าให้”

   “ก็แล้วแต่ย่านะครับ”

   ดวงตาผมปิดสนิท แต่สมองกลับคิดวุ่นวาย.....ถ้าคุณย่ามาอยู่ด้วยจริง ๆ......



   .......................................



ผมจะทำยังไงดี?

v

v

v

v

v
มีต่อครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:49:43 โดย NuNew »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



คุณย่ามาอยู่เสียหลายเดือน  ราวกับว่าได้เกษียณจริง ๆ อย่างที่พูด

แต่ไม่ใช่หรอกครับ.....ก็แค่มาอยู่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ........

หลังจากที่ผมได้ยินในรถวันนั้นแล้ว ก็ยังไม่มีคำยืนยันชัดเจน และคุณย่าก็ยังคงเป็นผู้บริหารสูงสุดของกิจการกงสีเหมือนเดิม

ในระหว่างนี้ยอดค่าใช้จ่ายจากการใช้โทรศัพท์ที่บ้านพุ่งสูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

เนื่องจากคุณย่าโทรไปที่ออฟฟิศใหญ่ทุกวัน จนบ้านเรากลายเป็นกองบัญชาการไปแล้ว

เงินค่าใช้จ่ายประจำบ้านที่คุณแม่โอนมาให้ทุกเดือนเคยเหลือทิ้งไว้ในบัญชี ช่วงนี้กลับไม่เหลือเลย

เดือนที่ผ่านมาต้องจ่ายค่าล้างแท็งก์น้ำ เดือนถัดมาซ่อมแอร์ ทำให้ต้องดึงเงินคงเหลือในบัญชีที่สะสมไว้มาเป็นค่าใช้จ่ายชดเชย

ผมกำลังจดตัวเลขลงสมุดบัญชีตอนที่พี่นิวเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นเช็คให้ บอกว่าให้เอาไปเข้าบัญชี

“โห....ตั้งแสนห้า”

ผมพึมพำตาโต จำได้ว่าลายเซ็นบนเช็คเป็นของคุณย่า กับคุณลุง พี่ชายบุญธรรมของคุณพ่อ

ซึ่งมีอำนาจในการสั่งจ่ายเงินจากบัญชีบริษัท ผมรับมาพร้อมกับถามออกไป

“ค่าอะไรครับ”

“ค่าที่พักพร้อมอาหาร”

ผมขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองพี่นิวอย่างงง ๆ

“คุณย่าให้มา บอกว่าเอาไว้เป็นค่ากับข้าว”

พี่นิวตอบยิ้ม ๆ

“สั่งพี่ว่าต้องให้นูนะ ห้ามเอาเข้าบัญชีส่วนตัว”

“มันเยอะอะพี่นิว ไปเอามาทำไมก็ไม่รู้ คุณย่าแค่มาพักผ่อนกับเรา ทำไมต้องให้เงินตั้งเยอะตั้งแยะด้วยล่ะครับ”

พี่นิวขยี้หัวผมเบา ๆ แล้วก็แกล้งว่าปนหัวเราะ ก่อนจะเดินไปทำงานของตัวเองที่โต๊ะหน้าโทรทัศน์

“สงสัยย่ากลัวนูให้กินข้าวต้มทุกวันมั้ง”

ผมเดินหาคุณย่า เพื่อจะขอบคุณที่ตีเช็คมาให้

คุณย่าคงรู้ว่าช่วงที่มาอยู่ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก

แต่ถึงจะมากแค่ไหน พี่นิวก็เป็นหลาน แถมยังเป็นหลานคนโต คนโปรดอีกต่างหาก

แค่คุณย่าคนเดียวไม่ได้ทำให้เงินในบัญชีค่าใช้จ่ายของบ้านร่อยหรอลงไปเท่าไรเลย

ส่วนค่าโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น เอาเข้าจริง ๆแล้ว เราทำเรื่องขอเบิกไปที่บริษัทตามตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงก็ยังได้

คุณย่ากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลังที่หน้ามุข อากาศร้อนไม่มาก ได้ลมโชยมาก็พอจะบรรเทา ไปบ้าง

“คุณย่าครับ”

“มีอะไรหรือเรา”

“ผมมาขอบคุณคุณย่า”

“อืม...เก็บไว้ทำของอร่อย ๆให้ย่ากินก็แล้วกัน”

“แต่มันมากเกินไปนะครับ”

“ไม่หรอก เดี๋ยวย่าก็จะมาอยู่ด้วย ย่าให้แค่นั้นแหละ เลี้ยงย่าตลอดชีวิตไหวไหมล่ะ”

คุณย่าพูดยิ้ม ๆ ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีขึ้นมาก จากที่ผมเคยคิดว่าคุณย่าคงจะดุน่าดู เดี๋ยวนี้ก็ชักจะเปลี่ยนความคิดไปแล้ว

แต่ผมอึ้ง!! .......ไม่ได้เตรียมตัวกับคำตอบแบบนี้

โดยฐานะที่แท้จริง ผมไม่ได้เป็นอะไรกับตระกูลนี้เลย แล้วผมจะพูดอะไรได้นอกจาก

“คุณย่าจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ครับ พี่นิวเป็นหลานยังไงก็ต้องเลี้ยงคุณย่าไหวอยู่แล้ว”

“ฉลาดตอบนะเราน่ะ.....ย่าพูดเล่นหรอก”

ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี แต่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกมาตอนนี้ก็ยังไงอยู่ แล้วดูทีท่าคุณย่าเหมือนมีเรื่องจะคุยกับผมต่อ

เพราะท่านขยับท่าที่กำลังเอนหลังเป็นนั่งตัวตรง

“ย่ามาอยู่ตั้งนานแล้ว ยังไม่เคยรู้เลยว่านูทำงานที่ไหน รู้แต่ว่าทำงานธนาคาร”

“ผมอยู่ธนาคาร XX ครับคุณย่า”

“อืม...บ้านเรามีบัญชีธนาคารนี้ไว้รับเงินค่าจ้างเหมางานเท่านั้นเอง อยู่ที่โน่นมันสะดวกธนาคารใกล้บ้านมากกว่า

เป็นลูกค้ากันมานานเสียจนรู้จักคุ้นเคย ไม่อยากย้ายไปที่อื่น”

บริษัทกงสี มีบัญชีกับธนาคารถึง 4 แห่งด้วยกัน ในบัญชีของ 3 ธนาคาร ยกเว้นธนาคารนายจ้างของผม มีเงินหมุนเวียนธุรกิจรวมกันนับร้อยล้านต่อปี

“ต้องหาเงินฝากเยอะไหมล่ะ”

“ก็พอสมควรครับคุณย่า”

“เดี๋ยวย่าจะให้พี่นิวเอาเงินไปฝากให้สัก 5 ล้าน”

“ขอบคุณครับคุณย่า แต่ผมเกรงใจ....”

“เกรงใจทำไม เป็นลูกเป็นหลานบ้านนี้ แต่ไม่มีเงินฝากของที่บ้านไปช่วย ย่าก็อายเขาแย่สิ”

   ประโยคนี้ของคุณย่า ทำเอาผมตื้นตันจนน้ำตาคลอ ไม่ใช่เพราะได้ “เงินฝาก”

แต่เป็นเพราะคำว่า “เป็นลูกเป็นหลานบ้านนี้” ต่างหาก


   ....นี่ใช่ไหม คำรับรองที่ผมไม่เคยได้รับจากครอบครัวพี่นิว....

ผมลงไปคุกเข่าที่พื้นตรงหน้าคุณย่าแล้วกราบไปบนตัก พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณออกไป รู้สึกได้ถึงน้ำหนักมือที่ลูบลงมาบนหัวเบา ๆ

“ตั้งใจทำงานนะเรา ขยันขันแข็งเข้า เป็นผู้จัดการเมื่อไร ย่าจะฝากให้สัก 20 ล้าน”

“โอ้โห....มาประจบขอเงิน 20 ล้านกับย่าเหรอเนี่ย”

เสียงหลานคนโปรดของคุณย่าดังอยู่เหนือหัวผมนี่.......แอบย่องมาไม่ให้ได้ยิน

“กลัวผมประจบขอเงินจริง ๆเหรอครับ”

“จริงไม่กลัว กลัวไม่จริง...นะครับย่า”

และแล้วอากาศรอบ ๆ ตัวที่ว่าร้อนก็เริ่มคลายลง ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันแสนสุขของครอบครัว



ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้สัมผัสคุณย่าในมุมนี้

ความเอื้อเอ็นดูที่ส่งผ่านมาให้หลายต่อหลายครั้ง ทุกวันที่ได้อยู่ร่วมชายคา พอกพูนความรู้สึกเคารพรัก และยำเกรงไปในเวลาเดียวกัน

แม้ว่ายังมีบางเรื่องราวที่ยังไม่คลี่คลาย

แต่ในวันนี้ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขได้โดยไม่ต้องหลอกตัวเอง หรือทำใจให้ยอมรับกับสถานะที่เป็นอยู่.....

มันเป็นความสุขที่อิ่มเอิบอยู่ในหัวใจเงียบ ๆ กับครอบครัวเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่เคยคิดฝันมาก่อน







*************



พรุ่งนี้อาจจะได้แวะมานะครับ แต่ไม่รับปาก เผื่อเหนื่อยจนไม่ไหว เพราะมีประชุมตอนเย็นครับ

กินข้าว อาบน้ำ เสร็จจะไปให้ที่รักตบตูดกล่อมนอนซะหน่อย

 :z1:

คืนนี้.....ราตรีสวัสดิ์ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:50:29 โดย NuNew »

ออฟไลน์ Feuy_qty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คืนก่อนอ่านถึง 6th page ซัดไปตีห้า ตื่นเจ็ดโมงไปทำงาน
ในสภาพซอมบี้มากจนที่ทำงานสงสัย
เมื่อคืนกะเอาให้จบ แต่อ่าน 7th page ไปครึ่งเดียว น๊อกจ้ะ
สลบยันเช้า น้ำไม่ได้อาบด้วย กร๊ากกก
คืนนี้เลยเข้ามาอ่านต่อ ยังไงต้องเอาให้จบ ใช้เวลาตั้งแต่ห้าทุ่มจนตีหนึ่งกว่า
อยากจะกรี๊ดอยากจะวิ่งรอบบ้าน คือดีใจตามทันแล้วว จะได้นอนแล้วว..
แต่ยัง ยังไม่จบแค่นั้น นูเข้ามาอัพตอนล่าสุดอีก จัดต่อเลยคร่าาา
จากนี้ก็จะรอเกาะติดชีวิตนูนิวต่อไป จนกว่าจะหมดสัญญาของนูล่ะนะ
ตอนนี้ก็ตกหลุมรักนูนิวไปแล้วเรียบร้อย แอบเสียดายเหมือนกันนะที่เพิ่งมาเจอ
ชีวิตรักของนูนิวสอนอะไรเยอะอยู่เหมือนกันนะ เป็นนิยายดีมีประโยชน์ว่างั้น 5555 

ปล.เคยมีใครถามมั๊ยว่านูคิดจะรวมเล่มรึป่าว คืออยากให้ทำอ่ะ ..แต่สงสัยนิวจะไม่ยอม แค่มาโพสนี่ก็หวิดจะมีมวยแล้ว 555

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
โห มาเสียตอนคนอื่นเขานอนกันแล้ว ไม่หลับไม่นอนหรือไง แล้วกล่อมพี่นิวนอนหรือยังล่ะ

เข้าเรื่อง ตอนนี้พี่รู้สึกรักคุณย่าขึ้นมาแล้วเกือบจะเท่ากับรักคุณแม่ คุณย่าคงเห็นถึงความดี
การปฏิบัติตัวของน้องนูที่ดูแลหลานในใส้ของคุณย่าและดูแลคุณย่าอย่างดี เป็นแม่บ้านที่ดี(มั้ง)ของนู อิอิ
จริงๆคุณย่าก็ใจดีเหมือนกันนี่ น้องนูเป็นประเภทวิตกจริต ทำเอาพี่เครียดเป็นปีๆแถมหายไปนานนนนนนนนนนมาก
จนคนอ่านลืมเลย
ตอนนี้มาแล้วมาเลยนะ ขยันมาอัพหน่อย(อย่ามาดึกเพราะพี่เด็กอนามัย)

จะรอตอนต่อไปจ้า
 :katai2-1: :katai4: :katai2-1: :katai4:

ปล. 1.ฝากกราบคุณย่าที่เริ่มรักน้องนู  :o9:
      2.บอกขอบคุณพี่นิวที่รักน้องนู :give2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2013 01:40:28 โดย อยากรัก »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่นิวออกมาพูดแค่ไม่กี่ประโยค..ตอนท้าย
แต่ไง..เอาใจเราไปได้หมดเลย
 :-[

คนอบอุ่น น่ารัก
ใครอยู่ใกล้ๆ ก็สัมผัสได้
จริงม่ะ..คุณนู
  :mew1:

คนเราตอนที่ยังไม่รู้จักกันมากนัก
ก็มักจะคิดไปเอง ต่างๆนานา
แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆ ใต้หลังคาเดียวกัน
ก็จะรู้เองว่า..อยู่ร่วมกันได้หรือเปล่า

อันนี้คงยืนยันได้จาก...คุณย่า กับ คุณนู
พอจิตสัมผัส ใจก็ขานรับต่อเนื่องกันไป

 :กอด1: ดีใจด้วยครับ
คุณย่า..พี่นิว..คุณนู

อบอุ่นดีครับ
+1 แถมเป็ด ที่ให้ความรู้สึกดีดี

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
รอตอนต่อไปค่า
 :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:

mengsama

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักเหมือนเดิม ^^ 

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ยิ้มไปร้องไห้ไป ชีวิตคุณนูผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



มีนักอ่านหน้าใหม่ ๆ แวะมาด้วยล่ะ ดีใจจัง

ส่วนนักอ่านประจำเห็นแล้วก็ชื่นใจครับ ที่ยังไม่ทิ้งกัน แวะเวียนมาให้กำลังใจกันอยู่เสมอ

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณทุก ๆ คำที่พูดถึงผม ที่รักของผม และเรื่องราวของเรา

ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำ คำติ คำชม ยินดีน้อมรับครับ



แถ่น แทน แท้นนนนน


มาต่อกันเลยครับ จะบอกว่า ที่เพิ่งเข้ามาเพราะว่า ที่รักหลับแล้ว   :katai3:

อยากให้เวลากับเค้ามาก ๆ ครับ ชดเชยกับที่เคยทอดทิ้งให้เค้านอนเหงาเปล่าเปลี่ยว

ช่วงที่เห่อ  MSN ตอนนี้ไม่มีเอ็ม มีแต่ skype ที่ใคร ๆ ก็ไม่ค่อยเล่น หันไปไลน์ักันหมด


  :z2:


แล้วก็.......ปลุกปล้ำกันอยู่นานกับบทที่กำลังจะลง เกลาไปเกลามา ไม่ถูกใจซักที  :-[

ฝืน ๆ อ่าน sex scene กันหน่อยแล้วกันครับ บอกตรง ๆ ว่าไม่ค่อยถนัดอ่ะ  :hao6:






เราช่วยคุณย่าเก็บข้าวของลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ โดยมีผมเป็นคนนั่งพับเสื้อผ้ากองไว้อย่างเป็นระเบียบ

และพี่นิวเป็นคนเอาลงกระเป๋า

“พับ ๆ เข้าเถอะน่า ไปถึงโน่นย่าก็ต้องรีดใหม่อยู่ดี”

“ไม่ได้สิพี่นิว ถึงย่าจะเอาไปรีดอีกทีก่อนจะใส่ ก็ต้องระวัง ไม่งั้นเนื้อผ้าดี ๆ จะเสียหมดรู้ไหม”

คุณย่าเอ็ดพี่นิวเสียงเขียว อย่างที่ผมไม่ค่อยจะได้ยิน ก็เพราะความเป็นหลานคนโปรดนี่แหละ

จะทำอะไรมันก็เข้าตาไปหมด นาน ๆ พี่นิวจะโดนคุณย่าดุสักที....ผมล่ะถูกใจเสียจนอดที่จะเป็นลูกคู่ไม่ได้

(ลูกคู่=นายว่าขี้ข้าพลอย.....อิอิ)

“นั่นสิครับคุณย่า ใครเขาจะไปเหมือนพี่นิวล่ะ ถ้าผมไม่จัดกระเป๋าให้ล่ะก็ เป็นได้ใส่ทั้งยับ ๆ ทุกที”

พูดจบปุ๊บ...ผมก็รีบหุบปาก เพราะคิดว่าตัวเองเผลอพูดมากไปหน่อย คุณย่าจะทันได้คิดหรือเปล่า

ว่าผมพูดเป็นนัยว่า เป็นคนจัดกระเป๋าให้พี่นิวเวลาเดินทาง.....ก็นั่นมันหน้าที่ของภรรยาชัด ๆนี่นา

“พี่นิวอย่ากดผ้าลงไปแบบนั้นสิครับ ข้างล่างมันยับหมดพอดี”

“อ้าว...ก็ไหนคุณย่าบอกว่าก่อนใส่ยังไงก็ต้องรีดก่อน ก็พับ ๆ ใส่ไปเถอะน่า จะได้เก็บได้เยอะ ๆ”

“เอ๊...คู่นี้จะมาเถียงกันเรื่องจัดกระเป๋าทำไมล่ะเนี่ย ไป ๆ ย่าจัดเองดีกว่า หนวกหู”

“โอ๋ ๆ ผมไม่เถียงแล้วก็ได้ย่าอะ”

หลานรักลูบแขนเหี่ยวย่นของคุณย่าป้อย ๆ เอาใจ เห็นแล้วชวนให้หมั่นไส้อาการประจบเหลือเกิน

สำหรับลูก ๆ หลาน ๆ คงคุ้นเคยกับภาพเหล่านี้ แต่ผมที่ไม่ได้ย่างกรายเข้าไปร่วมกิจกรรมครอบครัวของพี่นิว

มันก็เลยดูแปลก ๆ แต่ในสายตาของผมก็น่ารักน่าเอ็นดูดี

(ถึงแม้ผมจะหมั่นไส้นิด ๆ แต่สำหรับคนที่เรารัก อะไร ๆ มันก็น่าดูไปหมดแหละ)

ผมนั่งพับผ้าให้พี่นิวจัดลงกระเป๋าจนเรียบร้อยหมด พร้อมปิดกระเป๋า

“หนักจัง....พรุ่งนี้เพื่อนย่าจะมารับกี่โมงครับ”

“สาย ๆ หน่อย ตอนเช้าเขาต้องไปส่งหลานเรียนพิเศษ”

ตามนั้นครับ.......

คุณย่ากำลังจะไปบ้านเพื่อนที่อยู่อีกอำเภอหนึ่ง นัดให้มารับหลังจากมาส่งหลานเรียนพิเศษที่นี่

ก็อย่างว่าล่ะครับ เมืองที่ผมอยู่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการศึกษาในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว

ยิ่งสถาบันกวดวิชา ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ติวเตอร์กอบโกยกันจนรวยไปไม่รู้จักเท่าไร

บางคนเปิดสถาบันได้ปีเดียวก็ถอยรถเบนซ์กันเลยทีเดียว

“ย่าจะกลับวันไหนโทรมานะครับ ผมไปรับเอง”

พี่นิวอาสารับใช้อย่างแข็งขัน ทั้งที่ถ้าเวลานั้นมาถึง ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าตัวเองจะอยู่รับใช้ได้หรือเปล่า

“ไม่ต้องหรอก อยากกลับวันไหน ย่าจะให้เพื่อนมาส่ง”

เพื่อนที่คุณย่าพูดถึง เป็นรุ่นน้องหลายปี รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน ผมรู้มาแค่นั้น

พอถึงเวลาที่เพื่อนคุณย่ามารับจริง ๆ ผมกับพี่นิวจึงพร้อมใจกันเรียกคุณป้า เพราะยังสาวเหลือเกิน

เชื่อแล้วว่ารุ่นน้องหลายปีจริง ๆ

“จี้จะไปอยู่กี่วันก็ได้นะ อยู่นาน ๆ เลย วัน ๆ เค้าอยู่แต่กับหลานตัวเล็กนี่แหละ

ลูกชายกับลูกสะใภ้ ไปทำงานกันหมด เหงาจะตาย”

คุณป้าเรียกคุณย่าว่า “จี้” แปลว่าพี่สาว บอกให้รู้ถึงความสนิทสนมที่เทียบเคียงได้กับญาติทีเดียว

“เรื่องอะไรจะไปอยู่นาน หลานชายจี้ก็มีตั้งสองคน”

“เอ้อ...ว่าจะถามเหมือนกันว่าอีกคนน่ะใคร”

คุณป้าหันมามองทางผม

“คนนี้ลูกบุญธรรมตาใหญ่ ขอมาเลี้ยงนานแล้ว”

“มิน่าล่ะ ไม่เคยเห็น ป้าเคยเห็นนิวตอนเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยก ไม่นึกว่าเป็นหนุ่มแล้วจะตัวโตแบบนี้ เหมือนใครน่ะจี้”

“เหมือนเตี่ยจี้ เธอไม่เคยเห็นหรอก เตี่ยเสียนานแล้วตั้งแต่จี้ยังเด็ก ๆ อยู่เลย”

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมเพิ่งจะรู้ ผมนึกว่าพี่นิวจะเหมือนคุณปู่เสียอีก เพราะคุณปู่ก็สูงใหญ่

เพียงแต่คุณปู่จะมีผิวขาวไม่เหมือนพี่นิวซึ่งผิวสองสีค่อนมาทางขาว คล้ายคุณย่า

แต่ก็ไม่เหมือนอีกนั่นแหละ ผมแอบมาถามพี่นิวทีหลัง พี่นิวก็บอกว่าผู้ใหญ่เขาพูดกัน

ส่วนผมมาคิดต่อเองว่า....มิน่าล่ะ พี่นิวเป็นหลานคนโปรดของคุณย่าก็เพราะเหมือนคุณเตี่ยของคุณย่านี่เอง

แถมยังมีดีกรีลูกชายของลูกชายคนโตเสียอีก ผมออกจะรู้สึกเห็นใจคุณย่าด้วยซ้ำไปว่า

ท่านคงไม่มีโอกาสได้ชื่นชมเหลน ที่หลานชายคนโปรดเป็นผู้ให้กำเนิด

คุณป้าขับรถพาคุณย่าไปแล้ว เราสองคนก็มานั่งมองหน้ากัน เหมือนไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี

เพราะหลังจากที่คุณย่ามาอยู่ได้พักใหญ่ เราก็เคยชินกับการอยู่อย่างระมัดระวังตัว ไปพร้อม ๆกับการดูแลคุณย่า

ซึ่งการที่เราต้องใส่ใจกับท่าน ทำให้เราห่างเหินกันในเรื่องอย่างว่าไปโดยปริยาย




และ.......ดูเหมือนพี่นิวจะรู้ตัวก่อนว่าจะทำ “อะไร”

ดังนั้นทันทีที่เดินเข้าสู่ตัวบ้าน ยังไม่ทันได้ตั้งตัวผมก็โดนลากไปที่โซฟาหน้าโทรทัศน์.....


ผมควรจะเล่าดีไหมหนอ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบนโซฟาตัวนั้น?








** มีอีกนี้ดดดนึง   :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:50:51 โดย NuNew »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



นานแล้วเหมือนกันที่เราไม่ได้ใช้โซฟาเป็นที่สร้างสรรค์สวรรค์น้อย ๆ ของเรา

เบาะนุ่ม ๆของโซฟาที่รองรับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของผมให้ความรู้สึกถึงเส้นใยสากปนระคายนิดหน่อย

แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมต้องครางครวญแทบจะคลั่งแบบนี้

ฝ่ามือใหญ่อุ่น ๆ ที่ทาบลงมาบนแผ่นอกเรียบ ๆ ของผม ก่อนนี้เคยนุ่มนิ่ม

เพราะเป็นฝ่ามือของคุณหนูที่ไม่เคยต้องหยิบจับงานบ้านอย่างฝ่ามือของผม 

แต่วันนี้ฝ่ามือใหญ่คู่นี้ผ่านงานโยธาที่นับเป็นงานกลางแจ้งที่สมบุกสมบันมาไม่น้อย

ความสากระคายของมือคู่นี้ต่างหาก ที่ลูบไล้บีบเคล้นบนเนื้อตัวของผมเสียจนต้องครางแทบไม่เป็นภาษา


เสียงหอบหายใจที่ดังอยู่ข้างหู ทำเอาไรขนลุกชันไปตลอดทั่วทั้งตัว

ไหนจะลิ้นร้อนที่ลากไล้ไปตามผิวอ่อนข้างใบหู ซอกคอ ลาดไหล่

เรื่อยไปจนผมรู้สึกได้ว่ากำลังละเลียดอยู่ใต้วงแขน ทั้งที่ยังหลับตา

แขนสองข้างถูกยกขึ้นไปเหนือหัว และถูกกดทับเบา ๆ ด้วยมือข้างหนึ่งของพี่นิว

มืออีกข้างที่ว่างก็ใช่ว่าจะอยู่เฉย....บีบจิกเบา ๆ ที่หัวนม.....เล่นแบบนี้ผมขาดใจตายกันพอดี

“ยะ....อา...”

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ร้องห้าม มันก็ถูกริมฝีปากอิ่มกดลงมาปิดไว้เสียแล้ว

ความรู้สึกวูบวาบ แตกซ่านอยู่ภายในช่องท้อง ก็เหมือนทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน

แต่คราวนี้ผมกลับรู้สึกล้ำลึกมากกว่าเดิม อาจจะเป็นด้วยสถานที่....

ในห้องนอนที่รโหฐานให้ความเป็นส่วนตัว เราสามารถปลดเปลื้องอารมณ์

ปล่อยให้มันเป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ ได้อย่างเต็มที่

โดยไม่ต้องระงับยับยั้งอารมณ์หรือสุ้มเสียงที่มันจะเล็ดลอดระหว่างทำกิจกรรม

แต่ตรงนี้.......เหมือนเรากำลังเปิดเปลือยบทรักกลางแจ้ง มันให้ความตื่นเต้น เสียวกระสันไปอีกรูปแบบหนึ่ง.....

แบบที่เรา “ไม่เคย” กันมานานมากแล้ว

“ตรง....นี้....เลยเหรอ”

“อืม”

พี่นิวตอบด้วยเสียงในคอ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาดูดเลียตามร่างกายผมไปจนถึงขอบกางเกง

ชั่วพริบตากางเกงผมก็ถูกรูดออกไปกองที่ปลายเท้าทีเดียวทั้งสองชั้น....ผมเปลือยทั้งตัวแล้ว 

ในขณะที่พี่นิวยังสวมเสื้อผ้าเต็มยศอยู่เลย ผมก็เลยเริ่มดึงทึ้งเสื้อผ้าของเขาบ้าง

“อย่าเพิ่ง....ใจร้อนจริง เรามีเวลาด้วยกันทั้งคืน”

พี่นิวกลับเข้าใจไปว่าผมใจร้อนเสียอีกแน่ะ

แถมยังแกล้งด้วยการดึงเสื้อของตัวเองที่ผมอุตส่าห์เลิกขึ้นทางหัวกลับลงมาอย่างเดิม

“อื้อ....”

ผมส่งเสียงออกไปเมื่อถูกขัดใจ

พี่นิวยกตัวขึ้นมาให้ใบหน้าเราเสมอกันแล้วประกบปากลงมาบดจูบ

แรงดูดดึงที่ปลายลิ้นทำเอาผมขนลุกเกรียว ไม่ทันไร ทั้งโพรงปากก็ถูกกวาดด้วยลิ้นร้อน ๆของพี่นิว

รู้สึกเสียวซ่านอยู่แหมบ ๆ พี่นิวก็ทั้งบดทั้งเบียดช่วงกลางของผมด้วยการหมุนควงสะโพก

....โอย....ไม่ซี้ดไม่ไหวแล้วล่ะผม

“ซี้ด”

“หึหึ”

คนบ้าอะไรไม่รู้ชอบแกล้งจริง ๆ

“ถอดเหอะ”

ผมร้องขอเสียงพร่า ให้เขาถอดเสื้อผ้าออก  พร้อมทั้งส่งแววตาออดอ้อนไปให้

ผมอยากสัมผัสเนื้อต่อเนื้อทุกสัดส่วนกับเขา

“นะ...”

“เดี๋ยว”

“ฮื้อ”

ผมบ่นอย่างขัดใจ แล้วก็ต้องส่งเสียงครางฮือออกมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“อยากฟังเสียงนูครางนาน ๆ”

พี่นิวกระซิบเสียงสั่น ผมรู้ว่าเขาเองก็กำลังทรมานไม่น้อยไปกว่าผม

แต่อยากเล่นเกมยื้ออย่างนี้ก็เอา ผมน่ะยังไงก็ได้

“ถอดสิครับ....เดี๋ยวจะครางให้ดังกว่านี้อีก....นะ”

พี่นิวโปรยยิ้มหวานฉ่ำ คิดไปตามที่ผมบอก แล้วจัดการลอกคราบตัวเองโดยผมไม่ต้องลงมือ

ผมไม่ได้โกหกเขาหรอก (....ผมไม่ได้เจ้าเล่ห์ขนาดน้าน....)

มันเป็นข้อเสนอที่จะให้ได้อย่างที่ตัวเองต้องการแค่นั้นเอง

เนื้อกายสีนวลของพี่นิวในร่มผ้านุ่มมืออย่างเคย ผมลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลัง

จิกเบา ๆ เมื่อเขากดร่างย้ำลงมาตรงท่อนกลางลำตัว และแน่นอนที่ผมครวญครางอยู่ใต้ร่างใหญ่หนา

พยายามข่มความอายทำเสียงให้ดังกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอยากทำตามสัญญา ถ้าเขายอมเปลือยตามใจผม

ทั้ง ๆ ที่......อายแสนอาย เห็นกันมาตั้งเท่าไร แต่ผมก็ยังอาย

เพราะนี่มันเพิ่งจะกลางวันแสก ๆ แต่ถ้ามันทำให้เขาพึงพอใจ ผมยอมก็ได้

“ขึ้นไปบนห้องไหม”

ผมส่ายหน้า ส่งสายตาท้าทายไปยังนัยน์ตาคู่เรียวที่จ้องมา ก็ใครกันเริ่มเอาไว้ตรงนี้

“อยากได้ยินเสียงนูดังกว่านี้”

....นั่นสินะ....ตรงนี้มันห้องรับแขก ดีไม่ดี อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกไปให้ใครได้ยิน

....แหม....ผมอยากได้บ้านกลางที่ดินสักสิบไร่ จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครมาได้ยิน

“ไปก็ได้”

นึกถึงภาพพระเอกช้อนร่างเปลือยเปล่าของนางเอกขึ้นอุ้ม โอบประคองกันขึ้นห้อง........ไม่ใช่เลย

หยิบกางเกงมาสวมแค่ตัวเดียว ที่เหลือกวาดไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินขึ้นห้องตามกันไป

เหมือนว่าจะพักยกแล้วต่อไม่ติด.......ไม่มีเสียล่ะ

แค่เห็นเตียงใหญ่อยู่ตรงหน้า เราสองคนก็ไม่รอช้าที่จะจัดการกับเสื้อผ้าคนละชิ้นที่ติดกายอยู่

ก่อนจะบรรเลงเพลงรักอย่างไร้รอยต่อ


ผมเคยบอกหรือยังว่าห้องพี่นิวนอกจากผนังจะหนากว่าผนังด้านอื่น ๆ แล้ว ยังยิงแผ่นกั้นเสียงอีกชั้นทับด้วยยิบซั่มอีกชั้น

เหตุผลหลักก็เป็นที่รู้กัน (กันเสียงเล็ดลอดออกไปข้างนอก 555)

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ หลังจากที่เราอยู่กันตามลำพัง พี่นิวก็ย้ายตู้เซฟจากห้องใหญ่มาฝังในผนังห้องตัวเอง

เหตุผลรองทำให้เหตุผลหลักสำเร็จด้วยงบประมาณปรับปรุงห้องนับแสน (แต่คุ้มค่าการใช้งานมาก)

ผิวสีนวลตาของพี่นิวประจักษ์แก่สายตาของผมอีกครั้ง.....

มันช่างน่าหลงใหลเหลือเกินที่ได้ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อนุ่มลื่นของเขา

ทุกพื้นที่ที่ผมสัมผัส แผดเผาอารมณ์ของพี่นิวให้รุ่มร้อน ผมรู้ได้จากเจ้านิวน้อยที่มันค่อย ๆ ผงาดจนกลายเป็นเจ้านิวยักษ์

นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับผม ที่ถูกฝ่ามือของพี่นิวทั้งปลุกทั้งปั่นจนมันแทบระเบิด

มันเป็นความทรมานเมื่อทุกครั้งที่รู้สึกใกล้จะระเบิด ผมก็จะโดนแกล้งด้วยการรามือ

แล้วคนแกล้งก็หันมาฉกปากผมไปจูบดื้อ ๆ

“ฮือ~~~”

ผมโวยวายได้แค่นั้นแหละ เพราะอาการเสียวซ่านจนหลังลอยขึ้นจากฟูก

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ พร่า ๆ ในลำคอ ทำเอาผมหวิวในช่องท้องทุกที

“ถ้า...ถ้าแกล้ง....ผมอีก....คราวนี้ ผมหยุด จริง ๆ อย่ามาว่ากันนะ....ฮ้า....”

ไม่ทันได้ทำอย่างที่พูด ผมก็โดนรุกไล่ด้วยปลายลิ้นทั้งที่ซอกคอและติ่งหู ตามมาด้วยเสียงยั่วเย้า

“หยุดพี่ได้จริง ๆ เหรอ แต่พี่หยุดไม่ได้แล้วนะ....”

“หยุดไม่ได้แล้วเมื่อไรจะจัดการให้ผมซะทีเล่า”

“ทำเองไหม”

ท้า.....กล้าท้านายนู.....??

ผมรับคำท้าด้วยการพลิกตัวเองขึ้น แล้วสลับให้พี่นิวลงไปนอน

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ยังยั่วเย้าผมไม่หยุด

นอกจากหัวเราะจนนัยน์ตาเยิ้มแล้ว พี่นิวก็ไม่ได้ทำอะไรอีก ปล่อยให้ผมดำเนินการต่อแต่เพียงผู้เดียว


ก็....ไม่บ่อยนักหรอกที่ผมจะเป็นฝ่ายคุมเกม.....อ่า....ถ้านับจากจำนวนครั้งที่เรามีอะไรกันอะนะ

จะเป็นเพราะผมขี้เกียจหรือเพราะพี่นิวชอบที่จะเป็นผู้นำ ก็อย่าไปรู้มันเลย

ผมจับส่วนขยายของพี่นิวมากำหลวม ๆ จ่อมันเข้ากับตัวเองแล้วกดลงเบา ๆ เพื่อทดสอบความลื่นไหลก่อน

พี่นิวยื่นหลอดเจลมาให้.....ใจคอจะไม่ช่วยกันเลยใช่ไหม

ผมรับมาอย่างกระฟัดกระเฟียด

แล้วปฏิบัติการหล่อลื่นมันด้วยมืออีกข้างที่เพิ่งผละออกจากการค้ำแผ่นอกตึงแน่นของคนข้างใต้

“ซื้ดดดด....พี่นิว....ช่วยหน่อย”

“ให้ช่วยยังไง”

ยังจะมีหน้ามาถาม......ทำอย่างกับไม่เคย

ผมกดตัวเองลงช้า ๆ ทั้งที่มันก็ไม่ฝืดเท่าไร แต่ถ้าอีกฝ่ายให้ความร่วมมือ มันก็คงจะให้ความรู้สึกดีกว่านี้

“โอ๊ะ.....เบาหน่อย”

ผมอุทานเมื่อถูกสวนมาเสียแรง

“แบบนี้ใช่ไหม”

สะโพกที่ยกขึ้นมาสวนทางกับสะโพกผมที่กดลง มันแค่รู้สึกอึดอัดคับแน่นในตอนแรก

แต่หลังจากนั้น.....มันก็ทั้งเสียวทั้งมันไปพร้อม ๆกัน

“ฮือ....พี่นิว.....อา....”

“ดังอีก”

“ฮื้อ....”

ผมกลั้นเสียงที่น่าอายนั่นไม่ไหว เพราะแรงกระแทกย้อนขึ้นมาจากคนข้างใต้ ทำเอาขาสั่นจนหมดแรง

อย่างมากที่ทำได้ตอนนี้คือประคองตัวเองให้อยู่เหนือกว่าจนกว่าเกมจะจบ

......แต่ผมก็ได้แค่คิด.......

พี่นิวจับผมพลิกลงไปคลานเข่า แล้วประกบข้างหลัง โดยที่เรายังไม่ได้แยกกายออกจากกัน

ท่าที่ผมต้องบิดตัวให้ลงไปคู้เข่าลงอย่างที่พี่นิวต้องการเล่นเอาเสียววูบจากสันหลังไปจนถึงส่วนปลายที่มีหยดน้ำปริ่มรออยู่

ความเสียวที่แล่นปรี๊ดมาแค่วูบเดียว ทำเอาผมอ่อนแรงจนต้องฟุบลงไปนอนคว่ำทั้งตัว

“ไม่ไหวแล้วเหรอ”

คำถามหยอกล้อ ผมนึกหน้าเขาออกเลยว่าต้องกำลังยิ้มอยู่แน่ ๆ ทำให้ผมมีแรงฮึดขึ้นคุกเข่าในท่าเดิม

พร้อมกับที่แรงกระแทกจากด้านหลังเข้าไปจนลึกสุดตัว

“ฮา......ซี้ด...”

ไม่ใช่เสียงผมแน่ ๆ เพราะผมกำลังจุก จากอาการจุกก็ค่อย ๆกลายเป็นเสียวซ่านแทน

เสียงลมหายใจหอบกระเส่าจากคนที่ผลักตัวเองเข้ามาในตัวผม กับเสียงครางของผมเอง

....ดังอย่างที่พี่นิวต้องการโดยที่ผมไม่รู้ตัว ทุกท่วงท่าเป็นไปตามแรงอารมณ์ของเราสองคน

“ดีไหม”

“ฮืม...อ้า...”

“ฮึก!”

“พี่นิว แรงอีก....แรง ๆ”

ไม่ต้องเอ่ยปากซ้ำพี่นิวก็กดตัวเองเข้ามาเต็มกำลังตามที่ผมร้องขอ

“ผมจะ...แตก....แล้ว...นะ”

เสียงพูดหอบ ๆ ของผม มันสั่นกระเส่าเสียจนไม่น่าเชื่อว่าผมจะเป็นคนพูดมันออกไป

“อืม....พี่ด้วย  อีกนิด...นะ....ดีจัง พูดอีกสินู.....”

“พูด....อะ...อะไร..”

“พูดเหมือนเมื่อกี้”

“ผม...จะ...แตกแล้ว....”

ผมพูดออกไปตามนั้น....คิดว่าใช่คำนี้นะ......แตก!  ผมไม่เคยพูดอะ

แต่มันคงมีปฏิกิริยาต่อพี่นิวมากทีเดียว  ทันทีที่ผมพูดออกไป แรงกระแทกกระทั้นเข้ามาถี่ ๆ จนเข่าแทบทรุด

ทำเอาผมต้องเพิ่มความเร็วรูดรั้งของตัวเองให้สอดรับกับจังหวะที่พี่นิวขยับโยกเข้ามาบ้าง 

พี่นิวรัวเท่าไร ผมก็รูดตัวเองเร็วขึ้นเท่านั้น

“ซี้ด.....อา....อื้ม....”

เสียงครางฮึมฮัมอย่างสะใจของพี่นิวเร้าอารมณ์เสียจนผมสุดที่จะทนไหว

ความอุ่นระอุพุ่งเข้ามาภายในตัวผมพร้อม ๆ กับความฉ่ำแฉะที่ปริล้นจนเปื้อนอุ้งมือ

หลั่งพรูลงบนผ้าปูนอนสีฟ้าผืนโปรดของพี่นิว

ร่างใหญ่ทรุดลงมากดน้ำหนักลงบนตัวผม ปลายจมูกซุกอยู่ตรงข้ามแก้ม พึมพำถ้อยคำที่ทำเอาผมเหวอ

“ชอบอะ....คราวหลังพูดคำว่าแตกกับพี่แบบนี้อีกนะ”

ไอพี่นิวบ้า!!!!!!!!

คิดบ้างไหมเนี่ย ว่าผมอายจนหน้าจะระเบิดอยู่แล้ว











****ถ้าจบแค่นี้      :mew2:

       ตอนหน้าที่จะมาลงมันสั้นนิดเดียว แล้วผมก็คงจะเกริ่นนำไม่ถูก

       ต่อไปอีกหน่อยแล้วกันครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:51:22 โดย NuNew »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



อีกหลายวันต่อมา



“พูดสิ...อ่า....”

“อื้อ....ซี้ด....”

จะให้พูดอะไรในเวลาอย่างนี้เล่า

“พูด.....อื้ม...เร็ว ๆ....”

ผมได้ยินพี่นิวพึมพำเสียงพร่า ทั้งช่วงล่างก็กำลังดันตัวเองเข้ามาไม่ยั้ง ทั้งรัวทั้งเร็ว

ส่วนผมแทบไม่มีสติคิดอะไรทั้งนั้น นอกจากรอเวลาแห่งความสุขเสียวกระสัน อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“นู....เร็ว...อ่า....”

ผมไม่รู้ว่าพี่นิวกำลังพูดถึงอะไร

“พี่นิว....เร็ว ๆ”

ผมเร่งพี่นิวบ้าง เพราะกำลังจะถึงฝั่งอยู่แล้ว

“...นู....พี่จะแตกแล้ว....ซี้ด...”

เสียงกระซิบพร่า ๆ แหบ ๆ แต่มันช่างเซ็กซี่ชะมัด

....อืม.....อ่า.....มันดีอย่างนี้นี่เอง.....

“ผม...ก็...จะ....แตก...ละ..แล้ว....”

พร้อมกับเสียงที่แผ่วหาย เราก็ถึงที่หมายพร้อมกัน





หลังจากหายจากอาการหอบเหนื่อย ผมก็นึกถึงเสียงกระซิบของพี่นิวประโยคสุดท้ายขึ้นมาได้

“เดี๋ยวนี้พูดคำนี้เป็นด้วยเหรอพี่นิวอะ”

ใบหน้าหล่อ ๆ ที่คล้ำขึ้นจากสมัยวัยรุ่น ซุกอยู่ตรงบ่าผม นัยน์ตาขุ่นมองมาอย่างเคือง ๆ

“ก็ใครล่ะที่ไม่ยอมพูด”

“อ้าว....”

เหวออีกแล้วนายนู

เพิ่งนึกออกว่า เขาเคยขอให้พูดคำนั้นตอนที่เรากำลัง  “ซั่ม” กัน

....คำที่ผมได้ฟังเขาพูดออกมาแล้วมันดีจริง ๆด้วย


....แตก......


ผมได้อะไรมากมายจากการอ่านนิยายในบอร์ด รวมทั้งคำศัพท์แซ่บ ๆ ที่เร้าอารมณ์

ระหว่างที่เราปฏิบัติภารกิจติดพัน

v
v
v
v

ภาษารักวันละคำ คราวหน้านะครับพี่นิว


......ซั่ม........








 :pig4:   และ ราตรีสวัสดิื์ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:51:48 โดย NuNew »

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ชอบทำให้(หวาด)เสียว คุณย่าคล้อยหลังไปไม่เท่าไหร่ จัดการกันที่โซฟาแล้ว
เกิดคุณย่าลืมของย้อนกลับมาแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่อยากคิด คริคริ  :katai1:

รอรายงานผลตอนต่อไปค่ะ :3129: :3129: :3129:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ยินดีกับนูที่ได้รับการยอมรับจากคุณย่า

แต่ไอ้ฉากหลังจากที่คุณย่าไปแล้วนี่ซิ
เล่นเอาเลือดพุ่งกันเลยทีเดียว แซ่บเว่อร์
แล้วคราวหน้าถ้าพี่นิวชวน xx อย่าลืมพูดซั่มนะคะ

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
หวาดเสียวจริงๆค่ะ กลัวคุณย่าย้อนกลับมา อิอิ
อ่านนิยายในบอร์ดได้ศัพท์ใหม่ๆไปพูดกับพี่นิวเพิ่มความตื่นเต้นก็ดีนะคะคุณนู

ออฟไลน์ heroza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อุ๊ย..... ผลจากการเก็บกฏ ตอนที่คุณย่าอยู่นี่ร้อนแรงจริงๆ   :hao5:

ปล.อ่านไปทั้งเขินทั้งมีความสุขไปด้วยเลย  :katai5:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
** มีอีกนี้ดดดนึง
:m20: ยังงี้ ผมว่ามันไม่นิดนึงแล้วล่ะคร้าบบบบ

เล่นซะ...คนอ่าน กา-ฉูด เลย
 :pighaun:

พอคุณย่า พาเพื่อน เลื่อนออกรถ
หลานสองคน เสื้อผ้าปลด อดไม่ไหว
ต่างโรมรัน พันเป็นเกลียว เสียวกันไป
คุณย่าโผล่ มาเป็นไง ใจร้อนจริง

คุณพี่นิว ลิ่วล่อง คล่องแคล่วแข็ง
น้องนูแซง หน้าระเรื่อ เหงื่อหยดติ๋ง
ช่วยกันทำ มาหากิน เป็นระวิง
กี่รอบดี พี่นิวกลิ้ง น้องนูตาม



หุหุ :o8: อ่านแล้วอินตาม
คิกคิก

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
วันนี้พี่นูจะมาใหมนะ  :katai4:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด