พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย  (อ่าน 140048 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ขอติดตามอ่านด้วยคนนะคะ เป็นเรื่องเล่าที่ดีมากเลยคะ

สงสารน้องนูอ่ะ ผ่านเรื่องร้ายมาเยอะจริงๆ :monkeysad:

มันผ่านไปแล้ว และตอนนี้น้องมีความสุขดีใช่มั๊ยคะ

ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆเข้ามาอีกเลย ขอให้รักกันตลอดไปนะคะ :กอด1:

    :L2:   :L1:  :L2:

vvhite

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ !!!
พี่นูมาต่อแล้ว
คิดถึงพี่นูมากนะครับ  :กอด1:
จะคอยเป็นกำลังใจให้พี่นูเสมอครับ
:L2: :L2:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



ขอบคุณที่ยังมีคนให้การต้อนรับครับ

ตอนนี้ผมกับพี่นิวยังอยู่สุขสบายดี อยู่ด้วยกันทุกวัน จนจะเบื่อหน้ากันแล้วมั้งครับ 555+

บันทึกหน้าที่ 7 เป็นช่วงที่ผมเริ่มรู้จักเว็บบอร์ดนิยายชายรักชาย

และตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องของตัวเองออกเผยแพร่

ความรู้สึกตอนนั้นก็คงเป็นเพราะ...ในเมื่อชีวิตจริงผมไม่อาจจะเที่ยวร้องแรกแหกกระเฌอ ให้ใครต่อใครได้รับรู้

แต่ในโลกนิยาย ผมเป็นตัวของตัวเองได้ ผมสามารถประกาศความรักของตัวเองได้อย่างอิสระ

จะสุขหรือเศร้ามันก็คือช่วงชีวิตหนึ่งที่ได้ผ่านพ้นมาแล้ว

แม้ว่าปัจจุบันปัญหาบางเรื่องยังไ่ม่หมดไป  แต่เราสองคนก็หาความสุขร่วมกันได้พอสมควร

หากว่าวันหนึ่งวันใดปัญหาบางเรื่องมันจะย้อนกลับมาให้เราได้แก้ไขอีกครั้ง

ผมเชื่อว่าเราเข้มแข็งขึ้นมากพอที่จะรับมือกับมันได้ครับ

 เลิฟเลิฟครับทุก ๆคน   :กอด1:








       แล้วเย็นวันหนึ่ง ผมกลับมาจากทำงาน พบพี่นิวนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมฯ ของผม หลังจากที่กลับจากดูไซต์งานที่ต่างจังหวัด

      ทันทีที่ผมเข้าบ้าน พี่นิวก็เงยหน้าขึ้นมองดูผมด้วยแววตากังขาแกมระแวง

      ผมคงไม่มีอะไรจะแก้ตัวอีกแล้ว พี่นิวคงได้อ่านเรื่องราวของเราสองคนที่ผมเตรียมโพสท์ในบอร์ด เขาคงอยากรู้

ว่าผมมีเหตุผลอะไรถึงได้ผูกเรื่องราวของเราให้เป็นนิยาย

      ผมบอกเขาไปว่า ผมจะโพสท์ลงในเว็บไหน

       “ผมไม่ได้ใช้ชื่อจริงซะหน่อย”

      “แต่อ่านแล้วก็พอเดาได้ว่าเราอยู่ที่ไหน”

      “แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีแหละว่าเราเป็นใคร”

      “เพื่อนพี่กับเพื่อนูคงพอรู้”

      “แล้วคนไหนล่ะครับที่จะเข้ามาอ่าน มันไม่ใช่เว็บไซต์ที่ใคร ๆ จะเข้าซะหน่อย”

      พี่นิวเงียบไป เพราะไม่อยากโต้เถียงกับผมมากกว่าจะเป็นการยอมรับ จากนั้นเขาก็ปลีกตัวไปทำงานที่โต๊ะประจำ

หน้าโทรทัศน์

      ส่วนผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าครัวทำกับข้าว

      บรรยากาศอึมครึมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทั่งถึงเวลาเข้านอน พี่นิวก็ปิดประตูห้องเก็บตัวเงียบ ไม่มีการร่ำลาด้วยคำว่า

 “ฝันดี” เหมือนเช่นเคย

      ผมทำไม่รู้ไม่ชี้กับอาการเฉยเมยของพี่นิว จับลูกบิดประตูจะผลักเข้าไป แต่....มันติดล็อก

      ผมถอยกลับเข้าไปในห้องของตัวเองด้วยหัวใจที่เศร้าหมอง และต้องการความเข้าใจอย่างเร่งด่วน....ผมทำผิดมากนักหรือ
 
ผมชอบอ่านหนังสือ ชอบเขียนหนังสือ พี่นิวก็รู้ดี มันจะแปลกอะไรถ้าผมอยากจะเขียนเรื่องราวของตัวเองบ้าง

      ผมเคยใช้เวลาในการเขียนนิยาย แต่มันไม่เคยจบ อาจจะเป็นเพราะว่า เรื่องราวแบบนั้นมันไม่ใช่หัวจิตหัวใจของผม

ผมแค่พยายามเขียนมันออกมาจากความรู้สึกรักที่มีต่อใครคนหนึ่ง แต่ผ่านการแปลงค่าให้เป็นความรักปกติของหญิงชาย

แต่ละเรื่องมันก็เลยไม่เคยจบ เพราะมันไม่ได้ออกมาจากหัวใจรักที่แท้จริงของตัวเอง

      ทำยังไงพี่นิวถึงจะเข้าใจสิ่งที่ผมทำ...ผมหาคำตอบไม่ได้ ที่ผ่านมาผมแทบจะไม่เคยเรียกร้องความเข้าใจจากเขาเลย

เพราะพี่นิวจะมีให้ผมเสมอโดยที่ผมไม่ต้องร้องขอ พอถึงคราวที่จะต้องร้องขอผมกลับพูดไม่ออก บอกไม่ได้



      มันอึดอัด อึกอักอยู่หลายวัน...ระหว่างนั้น ผมแทบไม่มีสมาธิทำงาน ไม่มีแก่จิตแก่ใจจะพิมพ์เรื่องต่อ
 
ผมคิดว่า พี่นิวก็เช่นกัน

      แล้วก็ถึงวันหยุด....เป็นอีกวันที่เราได้หยุดงานพร้อมกัน ซึ่งหาได้ยากยิ่ง

      หลังจากที่ผมทำงานในบ้านเสร็จ....ซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจากเรื่องกินล้วน ๆ ผมทนอึดอัดต่อไปไม่ไหว

หากต้องอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน ในบรรยากาศแบบนี้ ผมคงบ้าแน่

      ผมหยิบกุญแจรถก่อนจะเดินไปบอกพี่นิวที่ห้องหนังสือ

      “ผมจะไปบ้านแม่นะ”

      “กลับตอนไหน”

      พี่นิวไม่เงยหน้าขึ้นจากสมุดงานมามองหน้าผมเลย

      “เย็น ๆ ครับ คงอยู่กินข้าวเย็นที่นั่นเลย ของพี่ผมเตรียมไว้ให้แล้วนะครับ”

      ผมตั้งใจตั้งแต่ต้นว่าจะกลับเย็น แต่ประโยคต่อจากนั้นผมเพิ่งคิดได้ตอนนี้เอง เมื่อได้เห็นท่าทีที่พี่นิวแสดงออกมา

อย่างหมางเมินเต็มที

      “อืม”     
 
      ไม่ทัดทานกันสักคำ เขาคงเหม็นหน้าผมแล้วมั้ง ที่ถามว่าจะกลับตอนไหนก็คงเพราะอยากรู้ว่า จะต้องทนมองหน้าผมตอนไหน

อีกล่ะสิท่า

      ผมแทบจะเดินย้อนกลับเข้าห้องตัวเองแล้วหยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปค้างบ้านแม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ทำแบบนั้น

มันก็เหมือนเด็กไม่รู้จักโต เอะอะอะไร ไม่พอใจอะไรก็จะกลับบ้านท่าเดียว....ไม่ไปค้างก็ได้....แต่ตอนนี้ขอผมไปซบตักแม่

เพิ่มพลังใจก่อนเป็นไร....ส่วนพี่นิว....ขอให้จมอยู่กับกองเอกสาร ขอให้แฟ้มงานล้มทับตายไปเลย แล้วผมจะมาเก็บ

ศพเอง...คนบ้า....


      แม่ดีใจเหมือนเคยที่ลูกชายแวะมาหา

      หลายครั้งที่ผมไม่สบายใจ ทุกข์ร้อนใจ (ส่วนใหญ่ก็เรื่องเขาแหละ...แต่ผมไม่ค่อยจะเล่าให้แม่ฟัง)

ผมได้มาเห็นหน้าแม่แล้วชื่นใจบอกไม่ถูก เหมือนพลังใจหลั่งไหลจากตัวแม่มาสู่หัวใจผม เข้าบ้านทีไรผมจะรู้สึกถึงไอรัก

ที่ล้อมรอบกาย ทั้งอบอุ่นและชุ่มชื่นหัวใจ แต่ที่ผมไม่ค่อยได้แวะเวียนมาบ่อยเท่าที่ควร เพราะผมคิดว่า ลึก ๆ แล้วแม่รู้

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่นิว เพียงแต่แม่ไม่พูด ผมเชื่อว่าแม่คงเห็นมันเป็นเรื่องแหกคอก เพียงแต่ไอ้คนที่มันแหกคอก

เป็นลูกแม่ ทำให้แม่จำต้องยอมรับ ผมกลัวว่าผมจะหลุดพฤติกรรมบางอย่างที่พ่อกับแม่รับไม่ได้ออกมาให้ท่านเห็น....

ผมกลัวท่านทั้งสองเสียใจ สิ่งเดียวที่ผมจะทำให้ท่านได้เพื่อชดเชยกับความเป็นลูกชายที่ท่านต้องสูญเสีย

นั่นก็คือ ความภาคภูมิใจในตัวผม  นอกเหนือจากเรื่องของหัวใจแล้ว ผมจะพยายามทำให้ท่านทุกอย่าง

เท่าที่คนอย่างผมสามารถจะทำได้

     
       พ่อเข้าไปพักระหว่างที่หน้าร้านไม่มีลูกค้า คงปล่อยให้แม่คุมคนงานไปคนเดียว ผมได้โอกาสก็เลยเข้าไปคุยกับพ่อ

....นานแล้วที่เราไม่ได้คุยกันตามลำพังสองคน

      พ่อกับผมไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไร เพราะผมติดแม่มากกว่า รองลงมาก็คือพี่ชาย  ส่วนพ่อ

ผมมองพ่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในบ้านมาตลอด พ่อเก่ง พ่อแข็งแรง พ่อเป็นพ่อค้าที่ฉลาดและมีคุณธรรม

เพราะพ่อไม่เคยเอาเปรียบใคร มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมจำได้เพราะมันติดอยู่ในความทรงจำก็คือ พ่อเป็นนักฟังเพลงตัวยง

ตอนเด็ก ๆ ผมต้องฟังเพลงที่พ่อชอบทุกวัน ทั้งเพลงไทย ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ผมเคยเห็นกรุเพลงเก่าของพ่ออยู่ในลังใต้บันไดที่บ้าน

สักวันผมจะเข้าไปรื้อมันออกมาดู

      “พ่อเรียนน้อย ย่าของลูกบอกว่า คนค้าขายไม่ต้องเรียนหนังสือมากหรอก แค่อ่านออกเขียนได้ บวกเลขทอนเงินได้ก็พอแล้ว”

      พ่อเล่าให้ฟังถึงความจำเป็นที่พ่อไม่ได้เรียนหนังสือสูง ๆ

      “เขามีโรงเรียนนอกระบบนี่ครับ”

      “สมัยนั้นเขาเรียกศึกษาผู้ใหญ่ เรียนกันตอนค่ำ ๆ กว่าพ่อจะเก็บร้านตอนสองทุ่ม โรงเรียนก็เลิกแล้ว”

      “แย่จัง”

      “มันก็ไม่แย่นักหรอก อย่างน้อยเราก็มีอาชีพ ค้าขายอย่างพ่อ เป็นนายตัวเอง ทำเท่าไรได้เท่านั้น  เราน่ะแหละ...”

      พ่อจิ้มหน้าผากผมที่นั่งอยู่ที่พื้นตรงปลายเท้าพ่อ มันได้ระดับมือพ่อพอดี

      “เป็นลูกจ้างเขาน่ะ แล้วแต่นายจ้างเขาจะสั่ง งานธนาคารมันโก้ก็จริง แต่อีกหน่อยมันจะเหนื่อยมากขึ้น

เพราะการแข่งขันมันสูงขึ้นทุกวัน ลองคิดดูสิลูก เดี๋ยวนี้น่ะ ลูกหาลูกค้ายากขึ้นไหม”

      ผมพยักหน้าเห็นด้วย

      “ธนาคารใกล้บ้านเรา มาตื๊อพ่อให้ไปฝากเงินแทบทุกวัน แต่พ่อบอกว่า ลูกพ่อก็ทำงานธนาคารเหมือนกัน

ยังไงก็ต้องฝากให้ลูกก่อน เขายังจะขอแบ่งยอดนิด ๆหน่อย ๆ แม่เขาเกรงใจที่เราต้องไปแลกเหรียญบ่อย ๆ

ก็ต้องฝากให้เขาบ้าง”

      “ก็ผมจะเอามาให้แม่ก็ไม่เอานี่”

      “มาได้ทุกวันรึเปล่าล่ะ”

      “ผมก็แลกมาทีละเยอะ ๆ สักอาทิตย์ละครั้งก็ได้มั้ง ห้าพันพอไหมครับพ่อ”

      “แล้วจะแลกมาทีละมาก ๆ ให้เงินมันจมทำไมล่ะ อย่างมากพ่อก็แลกไว้วันละสี่ซ้าห้าร้อย ขาดเหลือก็ปันจากร้านข้าง ๆ

ก็พอได้อยู่”

      ไม่ได้คุยกันนาน ๆ บางทีผมยังเคยนึกว่าแล้วผมจะมีอะไรมาคุยกับพ่อนักหนา แต่เอาเข้าจริง เราสองคนกลับพูดคุยกัน

เรื่องโน้น เรื่องนี้ ไม่รู้จบ จนแม่ต้องมาตามพ่อให้ออกไปดูสินค้าที่สั่งไว้ เป็นรถหกล้อที่บรรทุกสินค้าจนเพียบ

พ่อรับใบส่งของมาเทียบกับสมุดสั่งสินค้าที่อยู่บนโต๊ะ

      สิ่งที่พ่อกำลังทำ ทำให้ผมเห็นภาพตัวเอง ตอนที่รถส่งพัสดุเครื่องเขียนแบบพิมพ์ของสำนักงานมาส่งที่ธนาคาร

ผมต้องตรวจดูหีบห่อให้ตรงกับใบส่งของก่อนจะลงชื่อรับ จากนั้นก็มาตรวจสอบกับรายงานการสั่งพัสดุว่าได้รับครบตามจำนวน

และวาระที่สั่งจากเว็บไซต์ เนื่องจากธนาคารของผมมีระบบการทำงานที่ผ่านเครือข่ายเกือบทั้งหมด ตามนโยบายลดภาวะโลกร้อน

ซึ่งเรามีการเตรียมตัวมาหลายปีแล้ว โดยเริ่มจากการรวบรวมรายงานทุก ๆอย่างไว้เป็นฐานข้อมูลในอินเทอร์เน็ต

จะใช้งานเมื่อไรก็ล้วงเข้าไปในเครือข่าย จนกระทั่งปัจจุบันได้ขยายผลไปยังการให้บริการผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ

ผลก็คือเราลดการใช้กระดาษลงอย่างเห็นได้ชัด และในพื้นที่ที่ติดตั้งเครื่องฝากและถอนอัตโนมัติสะอาดตา

จนแทบจะไม่เห็นเศษกระดาษบันทึกรายการปลิวว่อนไปทั่วลานอีกแล้ว

      “พ่อ หัดเล่นคอมฯ กันเหอะ”

      “หือ?”

      พ่อหันมาทำหน้าประหลาดใจ

      “นึกยังไงชวนพ่อเล่นคอมฯ”

      “ผมจะให้พ่อทำบัญชีสินค้าในคอมฯ”

      “เหอะ ๆ พ่อแก่เกินกว่าจะมานั่งเล่นอะไรแบบนั้นแล้วล่ะลูก”

      “เอาน่า...ลองดูก่อน ถ้าพ่อไม่ไหวจริง ๆ ก็ค่อยเลิก แต่ผมว่าพ่อทำได้”

      และนั่นก็เป็นก้าวแรกที่ทำให้พ่อผมในปัจจุบันนี้ ติดคอมพิวเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว(555)

      รถหกล้อแล่นออกไปหลังจากยกของลงหมดแล้ว ผมกำลังจะก้าวไปช่วยคนงานยกหีบห่อที่กองอยู่ริมทางเท้า

เข้าไปเก็บในร้าน แต่เมื่อผมมองตรงไปที่ฝั่งตรงกันข้าม ก็พบกับรถคันที่คุ้นตาจอดอยู่

      ชายหนุ่มที่นั่งหลังพวงมาลัยรถกำลังหันหน้ามาทางผม เหมือนว่าเขานั่งอยู่ในท่านั้นอยู่นานแล้ว ผมเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

เพราะเขาลดกระจกด้านข้างลง เสื้อยืดคอย้วยมันก็ตัวที่ผมเห็นเขาใส่ก่อนที่ผมจะออกมาเมื่อตอนสายนี้

และถ้าเดาไม่ผิดเขาสวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีเทาซีด ๆ ที่เขาชอบใส่อยู่กับบ้านเสมอ  ส่วนรองเท้า

......และแล้ว.........เขาก็ก้าวลงมาจากรถ



...อีแตะคีบ!!!




        พี่นิวเดินไปไหว้แม่ที่กำลังหยิบของให้ลูกค้า แล้วเดินเข้าไปด้านในไหว้พ่ออีกคน ทำเหมือนเมื่อเช้านี้
 
ระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      “วันนี้ไม่ทำงานเหรอนิว”

      “หยุดเตรียมงานครับพ่อ พรุ่งนี้ต้องออกต่างจังหวัด”

      นั่น...ไม่บอกผมมั่งล่ะ จะรอให้ผมรู้เองพรุ่งนี้รึไง

      “ไปแถวนั้นบ่อย ๆระวังตัวมั่งนะ ข่าวมีทุกวัน ไม่รู้เมื่อไรจะจบซะที”

      “ลูกน้องผมช่วยดูให้อยู่ครับ ถ้ามีอะไรไม่น่าไว้ใจเขาจะโทรมาบอกก่อน”

      “มีลูกน้องเป็นคนพื้นที่มันก็ดีเหมือนกันนะ ไว้ใจได้ใช่ไหม”

      “เขาเป็นลูกน้องคุณพ่อมาก่อนครับ คุณพ่อส่งให้มาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ”

      “งั้นก็ยิ่งดีใหญ่ คนดี ๆ ซื่อสัตย์ไว้ใจได้น่ะ หายากขึ้นทุกวัน คนแบบนี้ต้องเลี้ยงเขาดี ๆ”

      “คุณพ่อก็สั่งไว้ครับ แต่พี่ศรน่ะผมเห็นเขามาตั้งแต่เด็กแล้วครับ จะว่าลูกน้องก็ไม่เชิง ผมนับถือเขาเหมือนพี่ชายมากกว่า”

      พี่ศรเคยทำงานกับคุณพ่อตั้งแต่เขายังเรียนวิทยาลัยเทคนิค ถ้าผมจำไม่ผิด คนนี้แหละที่ทางบ้านไม่มีเงินส่งให้เรียน

แล้วคุณพ่อของพี่นิวรับไว้ทำงานด้วย ส่งให้เรียนด้วย สายใยนี้จึงมากกว่าลูกน้องกับเจ้านาย แต่เป็นสายสัมพันธ์ฉันญาติมากกว่า


      สบโอกาสที่ได้อยู่กันตามลำพัง ตอนที่ผมเตรียมของกินเล่นกับน้ำชาตอนบ่ายให้พ่อกับแม่ พี่นิวก็ทำทีเป็นเข้ามาช่วย

จัดกาน้ำชาใส่ถาดให้

      “เย็นนี้เรากินข้าวที่นี่กันนะครับ”

      “ผมกินที่นี่อยู่แล้ว แต่ของพี่อะ ผมเตรียมไว้แล้วที่บ้าน จะมากินที่นี่ทำไมอะ”

      “ก็มันไม่อร่อย”

      ใช่สิ...ฝีมือทำอาหารของผมมันไม่ได้เรื่องนี่ ที่ผ่านมาก็คงฝืน ๆ กระเดือกลงคอสินะ

      “พี่นิวอยากกินอะไรล่ะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้”

      “กินข้าวต้มไหม พี่อยากกินหมูกรอบร้านแปะ”

      ร้านแปะ...เป็นร้านข้าวต้มที่เลื่องชื่อของเมือง พ่อของแปะเป็นคนก่อตั้งร้าน จนปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดี

แม้แต่นายทหาร นายตำรวจ ยศใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ ยังต้องถามหาเวลาที่มาตรวจราชการ

      “ก็ได้ครับ อย่างอื่นอะ”

      ผมตอบอย่างหงอย ๆ แล้วถามเมนูอื่นเพิ่ม ที่จริงแล้วผมตั้งใจจะให้แม่ทำต้มขาหมูผักกาดดองให้กินเย็นนี้

แต่มีเมนูคั่นรายการของพี่นิวเสียแล้ว ผมค่อยกินวันหลังก็ได้

      “แล้วแต่นูละกัน”

      “ครับ”

      ร้านแปะเปิดตอนห้าโมงเย็น ผมต้องรออีกประมาณ 2-3 ชั่วโมงถึงจะออกไปซื้อ ระหว่างนี้ผมก็ขึ้นไปชั้นลอย

ซึ่งจัดไว้เป็นห้องนั่งเล่น โดยมีพี่นิวเดินตามาติด ๆ จะบ่นว่าตามทำไมก็ไม่ได้ เพราะทุกทีที่มาด้วยกัน เราก็จะนั่งดูหนัง

ฟังเพลงกันในห้องนี้แหละ ง่วงขึ้นมาก็นอนหลับกันในห้องนี้ จนมันเป็นเหมือนห้องส่วนตัวของผม วันไหนผมมาที่นี่

ถ้าหน้าร้านไม่มีอะไรให้ทำ ผมก็ขึ้นมาขลุกอยู่ข้างบน

      “เย็นนี้กลับด้วยกันนะ”

      “ผมก็ไม่ได้จะมาค้างนี่ครับ”

      “ไม่...พี่หมายความว่า นั่งรถกลับด้วยกัน แล้วให้หนุ่ยขี่มอเตอร์ไซค์นูไปส่งให้ที่บ้าน”

      หนุ่ยคือเด็กคนงานหน้าร้าน นิสัยดีมีความรับผิดชอบ เป็นเด็กในร้านคนเดียวที่ผมไว้ใจให้จับรถ

      จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย...ทำหน้าแบบนี้ ยังกับว่าหลายวันที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำมึนตึงกับผมงั้นแหละ

      “ไปดูหนังกัน”

      “ผมไม่อยากดู”

      “งั้น....ไปนั่งรถเล่น”

      “เปลืองน้ำมัน”

      “ไปทะเลกันไหมล่ะ”

      “มืด....ไม่เห็นอะไรหรอกครับ”

      ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้พี่นิวเขากำลังง้อผมอยู่ จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนเขา ก็แค่ผมไม่เข้าใจว่า

แค่ผมเขียนนิยายไปโพสท์บนเว็บนี่ ทำไมต้องไม่พอใจด้วย ทำอย่างกับว่าผมจะไปประกาศให้ใครต่อใครรู้เรื่องของเรางั้นแหละ

      พูดถึงความกลัวว่าความลับของเราจะแตก เราสองคนก็คงไม่ต่างกัน แต่ในความกลัวนั้น ผมแคร์พี่นิวมากกว่าตัวเองเสียอีก

เพราะถ้าใครสักคนรู้ว่าผมเป็นเกย์ ก็คงไม่แคล้วที่เขาจะต้องรู้ว่าคู่ของผมไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากพี่นิว

      “แล้วนูอยากไปไหน”

      “กลับบ้านนอน”

      “อื้ม...ดีเลย ที่จริงพี่ก็ไม่ได้อยากไปไหนนอกจากกลับบ้านอะนะ”

      แล้วจะชวนผมทำไมเนี่ย????


      เป็นอันว่าเย็นนั้นเราก็กินข้าวต้มกุ๊ย กับข้าว 4-5 อย่างของร้านแปะ ตามที่พี่นิวบอก เพราะบังเอิญพ่อกับแม่

ก็พลอยอยากเหมือนพี่นิวไปด้วย ที่ผมกะว่าจะมากินข้าวฝีมือแม่ก็เป็นอันพับไป เพราะพี่นิวคนเดียวเลย

ผมกระซิบกับแม่ก่อนจะกลับบ้านว่า พรุ่งนี้ให้แม่ทำต้มขาหมูผักกาดดองไว้ให้ ผมจะมากินมื้อเที่ยงด้วย

      “อยากกินแล้วทำไมไม่บอกแม่แต่วัน จะได้ไม่ต้องไปซื้อข้าวต้มกิน”

      “ก็พี่นิวเขาอยากกินข้าวต้มนี่แม่”

      “ถ้านูไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินสิลูก ทำไมต้องตามใจพี่เขาด้วยล่ะ”

      คำตอบที่ผมไม่ได้บอกแม่ไปก็คือ...เพราะผมรักเขา อะไรที่เป็นความต้องการของเขา ผมก็ไม่อยากขัด

....ถ้าไม่จำเป็น!!!



     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:27:11 โดย NuNew »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
          


         ก่อนจะกลับผมว่าพี่นิวคงไปคุยอะไรกับแม่เรื่องรถของผม หนุ่ยถึงได้มาขอกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ไป แล้วบอกว่า

เดี๋ยวจะเอาไปส่งให้ที่บ้าน เพราะพี่นิวจะไม่เป็นคนไปบอกหนุ่ยอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ได้บอกก็ต้องเป็นแม่นั่นแหละ....

เดี๋ยวนี้ชักจะร้ายกาจขึ้นทุกวันนะพี่นิว เข้าทางแม่ตลอดแบบนี้ผมก็แย่สิ

      “ผมจะไปกินน้ำชากับไอ้ต้องก่อนนะพี่นูแล้วจะเอาไปส่งให้สักสามทุ่ม”

      “เออ...ห้ามไถลนะ บอกว่าไปกินน้ำชาแล้วก็อย่าแอบไปกินเหล้าอะ ไม่งั้นพี่จะให้แม่หักเงิน”

      “โห....ไม่เคยอะ พรุ่งนี้ก็ต้องมาทำงานอีก”

      “ให้มันจริงเหอะ พรุ่งนี้พี่จะมาดู”

      ผมควักตังค์ให้หนุ่ยไปสองร้อย เป็นสินน้ำใจที่จะเอารถไปส่งให้ที่บ้าน

      “ขอบคุณครับ แต่ร้อยเดียวก็พออะพี่นู”

      “เอาไปเหอะ ดูแลรถพี่ดี ๆ ด้วย”

      พี่นิวยืนรอให้ผมจัดการเรื่องรถกับหนุ่ยเสร็จ ก็หันมาพยักหน้าให้ไปขึ้นรถ...เบื่อตัวเองจังเลยผม

ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายก็ต้องยอมเขาทุกที

      “ไม่ไปทะเลแน่เหรอ”

      ผมเหล่ไปมองคนพูดด้วยหางตา ตอนที่เขากำลังหมุนพวงมาลัยนำรถออกจากที่จอด

      “2 ทุ่มเนี่ยนะครับ”

      “ถ้านูจะไป กี่ทุ่มพี่ก็จะพาไป”

      โหย...มีหยอด รู้อยู่ว่าผมไปไหนไม่รอด ไม่ต้องมาหยอดก็ได้

      “ไม่ต้องหรอกครับ ตอนนี้ไม่อยากไป ผมอยากนอน เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับอะ”

      “เป็นอะไรนอนไม่หลับ”

      น้ำเสียงเอื้ออาทรที่เป็นไปโดยธรรมชาติของพี่นิวทำผมใจอ่อนยวบอีกแล้ว จะบอกว่าเพราะเขานั่นแหละ

ที่ทำผมนอนไม่หลับ ไม่ใช่แค่คืนนี้ด้วย แต่หลายคืนมาแล้วตั้งแต่ที่เขาทำหมางเมินกับผมวันโน้น

แต่จะให้บอกไปตรง ๆ ก็จะกลายเป็นการทำร้ายน้ำใจไปเสีย เพราะดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุ

      “เครียดเรื่องงานน่ะครับ”

      “ก็บอกแล้วว่าให้มาทำงานกับพี่ นูก็ไม่เอาท่าเดียว”

      “อย่าเลยครับ เจอกันทั้งที่บ้าน ทั้งที่ทำงาน พี่นิวจะเบื่อหน้าผมแย่ แค่นี้ก็ยังต้องคอยหลบคอยหลีก”

      “พูดงี้แปลว่างอนอะไรพี่อยู่ใช่ไหม”

      ผมเบี่ยงสายตาออกนอกหน้าต่างรถ...ไม่ได้งอนสักหน่อย

      “เรื่องเขียนหนังสือใช่ไหม”

      “เปล่า”

      “ก็นูทำอะไรไม่บอกพี่”

      ผมจะพูดอะไรได้ เพราะก็จริงอย่างที่พี่นิวว่า ใครจะไปนึกล่ะว่า กะอีแค่เขียนนิยายสักเรื่องหนึ่งอย่างที่เคยเขียน

จะต้องขออนุญาต....ถึงจะเป็นเรื่องของเราก็เถอะ มันก็เป็นเรื่องของผมครึ่งหนึ่งด้วยนี่นา

      มืออุ่น ๆ เอื้อมมาจับมือผมไว้แล้วบีบเบา ๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ผมรู้ว่าอารมณ์ตัวเองยังไม่ปกติ

พูดอะไรกันไปตอนนี้ อาจจะจบไม่สวยก็ได้

      “อ้ะ..ถึงบ้านแล้ว อย่าทำหน้างอสิ พี่อุตส่าห์ไปรับนะ”

      “ผมกลับเองก็ได้”

      ผมลงจากรถปิดประตู แล้วไขกุญแจประตูเข้าบ้าน และหลังจากที่พี่นิวเอารถเข้าโรงจอดแล้ว เขาก็เดินตามมา

      “พูดงี้พี่เสียใจนะนู”

      “ผมขอโทษครับ แต่ผมเอารถไปพี่นิวก็เห็น แล้วผมก็บอกแล้วว่าจะกลับเย็น ๆ นี่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่นิวไปที่ร้านทำไม”

      “ทำไมอะ ไม่อยากให้พี่ไปเหรอ”

      “ผมไม่ได้ว่าอย่างงั้น”

      “แต่นูพูดว่าไม่รู้ว่าพี่ไปทำไม มันหมายความว่ายังไง ถ้าไม่ใช่เพราะไม่อยากให้พี่ไป”

      “ผมเหรอ ไม่อยากให้ไป พี่นิวนั่นแหละที่ทำเหมือนไม่อยากให้ผมอยู่”

      “พี่ทำแบบนั้นตอนไหน”

      “ไม่รู้ แต่หลายวันแล้วที่พี่นิวทำเหมือนไม่เห็นหัวผม เดินสวนกันก็ไม่มองหน้า เมื่อเช้าผมอุตส่าห์มาบอก

ว่าจะไปบ้านแม่ ก็ยังไม่มองหน้ากันสักนิด ไม่พูดกับผมสักคำแบบนี้มันหมายความว่าไงอะ”

      ผมจ้องตาเขา เงาที่สะท้อนออกมามันบอกผมว่า เขาเสียใจ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า เขาเสียใจเรื่องอะไร

แล้วการที่เขาทำเย็นชากับผมติดต่อกันมาหลายวัน ผมไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นสิ

      “แล้วนูล่ะ ตัดสินใจทำอะไรตามลำพัง ไม่บอกพี่สักคำ มันหมายความว่ายังไง ถ้าวันนั้นพี่ไม่ไปใช้คอมฯ เครื่องนั้น

นูจะบอกพี่ไหม”

      “มันก็แค่นิยายหนึ่งเรื่องที่ผมเขียนจากชีวิตคนจริง ๆ”

      “แต่คนนั้นมันคือเราสองคน”

      “แล้วทำไมพี่นิวต้องคิดมากด้วยอะ ถ้าพี่นิวได้อ่านมันจริง ๆ พี่นิวก็ต้องรู้สิว่ามันห่างตัวเราไปเยอะเลย
 
แม้แต่ชื่อผมก็สมมติเอา ไม่มีใครในนั้นที่ใช้ชื่อจริงแม้แต่คนเดียว”

      “แต่ถ้าคนรู้จักเราเข้าไปอ่าน เขาก็อาจจะเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร”

      “แล้วมันจะมีไหมล่ะครับคนที่ว่าน่ะ เขาจะเข้าเว็บนั้นไหม ดูสิครับ รอบ ๆตัวเรา คนที่เรารู้จักน่ะ จะมีสักคนไหม

ที่เขาสนใจเรื่องคนกลุ่มนี้”

      “เราไม่มีทางรู้หรอกนู แต่พี่ไม่สบายใจ”

      “ขอให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมชอบได้ไหมครับพี่นิว ผมอยู่บ้าน ผมว่าง ผมไม่มีอะไรทำ ผมเหงา”

      “ก็ทำไมไม่ออกไปไหนต่อไหนล่ะ เพื่อนก็มี”

      “วันหยุดใคร ๆ เขาก็อยากพักผ่อน วันหยุดของผม ผมอยากอยู่ตามลำพังกับพี่ แล้วพี่มีเวลาให้ผมไหม”

      “ก็พี่ไปทำงาน”

      “ผมรู้ว่างานพี่นิวเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แต่ผมก็ไม่เคยเรียกร้องนี่ ผมขอแค่เวลาที่ผมอยู่คนเดียว

ขอให้ผมได้ทำอะไรที่ผมทำแล้วมีความสุขบ้าง แค่นี้พี่ก็ให้ผมไม่ได้เหรอ”

      ...............

      “พอเหอะ ผมไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว”

      ผมรีบตัดบทก่อนที่พี่นิวจะพูดอะไรต่อ ผมยังไม่อยากทะเลาะด้วย

      ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้าน พี่นิวก็พูดไล่หลังมา
     
      “พี่อ่านจบแล้วนะ พี่ยอมให้นูเอาไปลงก็ได้ หวังว่าจะไม่มีใครสนใจเรื่องของเรามากนักหรอกนะ”

      “เรื่องอะไรอะ”

      ผมหันหน้ากลับมาท้วง
 
     “ที่ผมเขียนก็เพราะผมอยากให้มีคนสนใจ อยากให้ใคร ๆ ได้อ่าน ถ้าเขียนแล้วไม่มีคนอ่าน ผมจะเขียนไปทำไม”

      “มานั่งคุยกันให้รู้เรื่องก่อน พี่ว่าเราน่าจะได้คุยกันจริง ๆจัง ๆ สักที”

      พี่นิวลากมือผมมานั่งที่โซฟาตัวยาว (ปรับเป็นเตียงนอนได้เลยนะเนี่ย อิอิ)


      “พี่ขอถามนูก่อนว่า ทำไมนูถึงเขียนหนังสือ”

      “ผมชอบอ่าน อ่านแล้วผมก็อยากเล่า”

      “เพราะนูอยากบอกใคร ๆ ถึงความรู้สึกนึกคิดถูกไหม”

      “ก็ใช่สิครับ”

      “ถ้าคนอ่านคล้อยตามสิ่งที่นูบอก เขาก็ชอบ นั่นแปลว่านูเขียนเก่ง เรื่องของนูสนุก”

      “ก็คงงั้น”

      ผมนึกถึงตอนที่ผมอ่านเรื่องของคนอื่น ผมก็รู้สึกประมาณนี้

      “แล้วทำไมนูถึงไม่พอแค่เรื่องที่นูแต่ง ทำไมถึงเขียนเรื่องของเรา”

      “ก็ผมอยากบอกให้คนอื่นรู้นี่”

      ผมอยากให้เขารู้ว่าผมมีคนรัก...คนรักของผมเขาแสนดีแค่ไหน....และเรารักกันแค่ไหน
 
      “ถ้าเป็นนู เรื่องไหนที่นูชอบ นูอยากรู้จักคนเขียนไหม”

      “ผมก็คงแค่อยากรู้ว่าเป็นใคร อาจจะอยากรู้นิดหน่อยว่าเขาอายุเท่าไร กำลังทำอะไร

แต่ถ้าถึงกับต้องรู้จักเบื้องหน้าเบื้องหลังก็คงไม่หรอก”

      ผมพูดถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนเขียนเรื่องในบอร์ดที่เคยอ่าน อยากรู้จักมันก็ใช่ แต่ผมก็เข้าใจดีว่า

บางคนเขามีโลกส่วนตัวของตัวเอง และไม่พร้อมจะเปิดเผยกับใคร

      “แล้วนูกะเกณฑ์ให้คนอื่นคิดเหมือนนูได้เหรอ”

      “ถ้าพี่นิวจะหมายถึงว่า ต่อไปเกิดมีคนอยากรู้จักผมจากเรื่องที่ผมเขียนล่ะก็ พี่นิวคิดมากไปแล้วล่ะครับ

ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ กะอีแค่เขียนนิยายลงเน็ตเนี่ย ใคร ๆ เค้าก็ทำกันเยอะแยะไป

มันไม่มีทางจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ไปได้หรอก เว่อร์อะคิดได้ไง”

      “พี่ไม่ได้หมายความถึงขนาดนั้นสักหน่อย แต่ที่พูดเนี่ย เพราะพี่อยากจะบอกว่าคนที่เขาอยากรู้จักเราน่ะ

บางคนเขาก็มีความพยายามอย่างไม่น่าเชื่อที่จะทำให้รู้ให้ได้ แต่เอาเถอะ เมื่อมันยังมาไม่ถึง

พี่ก็จะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ ไว้นูเจอเองก็คงรู้ว่าต้องจัดการยังไง”

      “พี่นิวอะคิดเยอะ จะมีใครเข้ามาอ่านสักกี่คนยังไม่รู้เลย”

      ผมอารมณ์ดีขึ้นเมื่อพี่นิวยอมอ่อนให้   
   
      “ก็ต้องมีสิ พี่อ่านเรื่องที่นูเขียนแล้วมันก็โอเคอยู่นะ ถ้าไม่เกี่ยงว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเราสองคน พี่คงชมได้เต็มปากกว่านี้”

      “จริงเหรอครับ พี่นิวว่าผมเขียนเป็นไงมั่ง”

      ผมกระตือรือร้นอยากรู้ว่าพี่นิวรู้สึกยังไงกับสำนวนภาษาที่ผมใช้

      “ก็อ่านรู้เรื่องดีนี่”

      “นั่นคำชมเหรอครับ อ่านภาษาไทยออก ก็รู้เรื่องทั้งนั้นแหละ พี่นิวอะ ช่วยวิจารณ์ให้มันสร้างสรรค์หน่อยได้ไหมอะ”

      “ไม่ไปให้น้าจิ๊บช่วยวิจารณ์ดูล่ะ เขาก็นักอ่านไม่ใช่เหรอ”

      “เออเนอะ....”

      ผมนึกขึ้นมาได้แต่....

      “แต่นี่มันเรื่องของเราอะ ถ้าผมเอาไปให้เขาอ่าน....แล้ว....”

      “น้าจิ๊บรู้คนเดียวก็คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง นูจะได้มีคนช่วยคิดไง”

      “พี่นิวไม่ว่าอะไรแน่นะ”

      “อืม...พี่แล้วแต่นูนะ น้าจิ๊บก็เหมือนญาตินู อันที่จริงพี่ว่า เขาก็อาจจะสงสัยเรื่องเราน่ะแหละ แต่ไม่อยากยุ่งมากกว่า”

      “ผมก็ว่าเขารู้”

       ต่อให้พี่นิวมั่นใจ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดยังไงถ้าผมบอกออกไปว่า ผมกับน้าจิ๊บ เรารู้กันมานานแล้ว

รู้แม้กระทั่งว่าผมกำลังจะเขียนเรื่องไปโพสท์บนเว็บที่น้าจิ๊บเป็นสมาชิก ก็แม้แต่เรื่องที่ผมกำลังเขียนนิยาย

ผมยังไม่บอกพี่นิวเลย ถ้าขืนบอกว่าน้าจิ๊บเป็นคนเปิดโลกเกย์ให้กับผม อะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่รู้

      “แล้วก็นี่อีก พี่ล่ะสงสัยนัก นูไปรู้จักเว็บนี้ได้ยังไง ก่อนนี้พี่ไม่เคยเห็นนูเล่น”

      “ผมเสิร์ชจากกูเกิ้ล”

      “ฟลุคมากเลยนะนั่นน่ะ อยู่ ๆ ทำไมถึงสนใจเรื่องแบบนี้ขึ้นมาล่ะครับ”

      เอาล่ะสิ...ผมไม่ได้เตี๊ยมคำตอบไว้ซะด้วย

      “ก็ผมมีเวลาว่างมากนี่”

      “พี่ให้ไปช่วยงาน นูไม่ไป แต่กลับมีเวลามาเล่นเรื่องไร้สาระนี่ได้อะนะ”

      “ผมเบื่อหน้าเลขาพี่ ทำยังกะผมจะไปฮุบกิจการ รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถึงผมไม่ใช่เจ้าของ ผมก็เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่ง

ทำแบบนั้นไม่คิดเหรอว่า ผมจะไล่ออกเข้าสักวันน่ะ”

      “แต่เขาเก่งนะ ช่วยงานพี่ได้เยอะเลย ถ้าพี่ต้องหาคนใหม่ก็ไม่รู้จะได้อย่างนี้หรือเปล่า”

      “ก็เพราะพี่นิวให้ท้ายอยู่เรื่อยไง ถึงได้ทำตัวเป็นคนโปรด”

      “คนทำงานดี เราก็ต้องชมเขาบ้าง ดูแลเขาดี ๆ เขาจะได้ทำงานให้เราเต็มที่ จะว่าโปรดก็โปรดอยู่หรอก”

      “พี่นิว!!!!”

      พูดชมยายคนนั้นต่อหน้าผมได้ไง รู้อยู่แล้วว่าผมไม่ชอบหน้า

      “ทำท่าแบบนี้อีกแล้ว”

      พี่นิวพูดพร้อมกับยกมือขึ้นเสยคางผม แถมยังหัวเราะใส่ผมอีก

      “ก็แค่พนักงานคนหนึ่ง จะคิดไปไหนเนี่ย”

      “เขาไม่ชอบหน้าผม ผมก็ไม่ชอบหน้าเขา”

      “พี่ว่านูไม่ชอบหน้าเขาก่อน เขาเห็นท่าทีนูเขาก็เลยไม่ชอบมั่งมากกว่า”

      “เข้าข้างเขาทำไมอะ กะเลขาเนี่ย จะเอาใจอะไรนักหนา”

      “ถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่พี่ไว้ใจ มอบหมายให้ทำอะไร ก็แทบจะไม่มีพลาด”

      “เอาเหอะ แตะต้องไม่ได้ก็จะไม่แตะแล้ว ชมกันเข้าไป เข้าข้างกันเข้าไป”

      จากนั้นก็มีประโยคต่อว่าต่อขานเลขาของพี่นิวอีกนิดหน่อย ถึงบรรยากาศตอนนี้จะดูขุ่นมัว แต่อย่างน้อยผมก็ใจชื้น

ที่สามารถเบี่ยงประเด็นที่ผมเข้าไปเล่นเว็บเกย์ออกไปได้ เท่าที่ผมรู้สึกได้ตอนนี้ พี่นิวคงไม่ชอบใจเท่าไรที่ผมเล่นเว็บนี้

ถ้าจะห้ามก็คงไม่ได้ ผมกลัวว่า ความไม่ชอบใจทั้งหมดจะไปลงที่ “ผู้แนะนำ” ซึ่งถือว่าเป็นต้นเหตุของกิจกรรมทั้งหมด

ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งให้รู้จะดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:28:02 โดย NuNew »

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
พี่นิวเป็นผู้ใหญ่มากเลยอ่ะแต่ก็มีมุมน่ารักๆเวลาอยู่กับนูฮ่าๆ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่น่าจะเรียกว่า ทะเลาะ
น่าจะเป็น ง๊องแง๊ง ใส่กันอ่ะ

สีสันของคนมีคู่
มีคนให้ปรึกษา พูดคุยกัน

ต่างจากเรา..ไม่มี
กาซิก

ชื่นชม..แต่แอบอิจฉาเล็กๆ

ฝากบอกคุณนิวด้วยนะ..เรื่องที่นูเขียนให้อ่าน
สนุก..สนุกมากกกกกกกก ทำให้เสียน้ำตาไปมากโข
แต่ชอบนะ เรื่องบีบคั้นอารมณ์ผสมจิตใจ อย่างโปรด

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
พี่นูงอนพี่นิวก็ง้อ
น่ารักดีนะคะ
ทะเลาะกันบ้าง
สร้างสีสันให้ชีวิตคู่ 5555

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นูปล่อยให้พี่นิวง้อเยอะๆเลยนะ^^

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
น่าเห็นใจน้องนูนะ เหงาอยู่คนเดียวบ่อยๆ :undecided:

แต่อย่างที่พี่นิวพูดก็ถูกนะคะ น้องควรระวังเรื่องการสืบค้นด้วย

จุ้นเน๊อะ! :m23: เข้าเรื่องดีกว่า พ่อแง่แม่(พ่อ)งอนน่ารักดีค่ะ รสชาดของชีวิตเลย

รอตอนต่อไปนะคะ


    ปล.   คอนเฟิร์มกับพี่นิวด้วยคนว่านูเขียนได้ดีมากน่าอ่านค่ะ  o13 o13

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้อยู่ด้วยกันไปนานๆนะ อย่าเพิ่งเกิดเรื่องอะไรเลย ตอนนี้เหมือนเหตุการณ์สงบก่อนพายุเข้าเลยอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j_world

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-4
หุหุ..เบื้องหลัง..กว่าจะมาเป็นเรื่องเล่า ให้เราติดกันงอมแงม  o13

ขอบคุณนูคนเล่าเรื่อง..  o14
ขอบคุณพี่นิวคนอนุญาต  :kikkik:

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
เป็นการงอนกันที่น่ารักมากค่ะ พี่นูก็บอกพี่นิวซิค่ะ ว่าคนอ่านน่ารัก ไม่สร้างความวุ่นวายใจแน่นอน อย่าให้พี่นูเลิกพิมพ์นะ

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
  ดูเหมือนว่าพี่นิวจะกลัวไปทุกๆอย่างเลย   แต่ถ้าให้ลองเดาดูนะค่ะ  ตุ๊กตาคิดว่าพี่นิวกลัวเรื่องราวที่ตัวเองเป็นสาเหตุต่าง ๆ 

ให้นูต้องเสียใจ  ต้องทรมาน  มันเหมือนกับการตอกย้ำตัวเองด้วย  ยิ่งเป็นความรู้สึกของนิวที่บรรยายด้วยแล้ว

 มันคือความรู้สึกจริง  ๆ  มันคือความเจ็บปวดจริง ๆ  ของนู  ซึ่งแทบจะทุกอย่างเกิดมาจากพี่นิวทั้งนั้น  ทั้งจากตัวเอง

 และรอบข้าง   ยิ่งมีคนต่อว่ว  บางที  มีทั้ง   :z6:   รึอาจจะ   :beat:   รึแม้แต่   o18   รึอาจบางทีจะมีการยุให้นูเลิกกันไปเลย

  ***แล้วก็ขอโทษนะค่ะ  ที่มีความคิดแบบนี้  นูช่วยถามพี่นิวให้ตุ๊กตาทีนะ  ว่าที่ตุ๊กตาคิดเนี้ยมีแนวโน้มรึว่าใกล้เคียง

กับความคิดของพี่นิวรึเปล่า  ขอโทษอีกทีนะค่ะ   :call:     

       +1  ให้จ้า   ยังติดตามอยู่นะจ๊ะ  เรื่องหลักเมื่อไหร่จะมาต่อค่ะ  ตุ๊กตารออยู่นะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2013 19:56:28 โดย took-ta_naka »

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองไปอยู่ที่ไหนมาจึงได้พลาดไม่ได้อ่านเรื่องนี้ ตั้งแต่แรก
คุณนูเขียนได้ดีมาก ทำเราร้องไห้ตลอดเลย  :m15:  อยากให้คุณนูรักตัวเองให้เยอะนะ   :กอด1:
จะติดตามต่อไปจนกว่าจะเลิกเขียน  :กอด1:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
นูอ่ะ ใจอ่อนกับพี่นิว ตลอดเลย  :z3:

ก็คนมันรักนี่เนอะ สู้ ๆ แล้วกันนะ  :กอด1:

Huo_To

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะคับ รักหนักแน่น นี่แหละเนื้อคู่ เห็นปุ๊ปรู้ปั๊ปตั้งแต่ม. 1
ทำบุญร่วมกันไว้เยอะๆ อุปสรรคต่างๆ จะได้ผ่านพ้นไปได้โดยง่าย ^^

เพิ่งได้อ่านรวดเดียว เขียนเก่งมากเลยคุณนู

ออฟไลน์ gang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังสนุกมากครับ คิดถึงนะครับ ดูแลสุขภาพ

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2


Sofa     ก็เพราะเขาน่ารักไงครับ ผมถึงได้รัก

broke-back  เคยมีคนบอกว่า คนอยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ผมเลยบอกพี่นิวว่า ผมต้องเป็นลิ้นแน่ ๆ เพราะเป็นผมที่เจ็บตลอด

เพราะฟันของกัดให้ลิ้นเจ็บ เขาบอกว่า เขาไมได้กัดแค่ที่ลิ้นที่เดียวซะหน่อย ทีอื่นเขาก็กัดมาหมดแล้วทั้งตัว อายแทบดิ้นตายไป

เลยผม

bobie ง้อก็ไม่ค่อยจะเป็นหรอกครับพี่นิวน่ะ เขาเป็นคนทื่อ ๆ แต่จริงใจ อาศัยว่าน่าสงสารผมก็ไม่อยากงอนนาน 5555

gambee  พี่นิวง้อไม่เก่ง งอนนานเกินผมกลัวเค้าเปลี่ยนใจไม่ง้อต่อผมจะลำบาก

Zinub  ไม่จุ้นครับพี่ ขอบคุณที่เป็นห่วง รักผมห่วงผมก็รู้จักผมในนิยายแค่นี้ก็พอนะครับ นิยายนี่ก็ผมตัวจริงนี่แหละ เปลี่ยนแค่ชื่อ

ไม่เห็นแค่หน้า นอกนั้นจริงหมดครับ


Hongyia หลังจากนี้ไม่มีเรื่องอะไรหนัก ๆแล้วครับ

j_world  ตอนที่เล่านี่ก็เกือบ ๆ จะทันปัจจุบันแล้วครับ อีกไม่กี่ตอนเอง

namtarn11 ไม่เลิกพิมพ์ครับ คนอ่านน่ารักอย่างนี้  กำลังใจก็มา

took-ta_naka ก็คงเป็นอย่างที่คุณตุ๊กตาว่าแหละครับ แต่พี่นิวเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกครับ ไม่ถามล่ะไม่ค่อยยอมบอกอะไร

หน้างี้ก็นิ่งซะ จนบางทีผมก็อดสงสารไม่ได้ อ่านไปอีกซักพักคงรู้แหละว่าผมก็งี่เง่าเป็น แหะ ๆ ถึงตอนนั้นอย่าเกลียดผมน้า

nokkaling ขอบคุณครับ คนอ่านไม่หาย ผมก็ไม่หายรับรองเลย

aa_mm  ใช่แล้วครับ ก็รักคนนี้ถึงได้ยอมอ่อนให้

Huo_To ผมก็หวังว่าเราจะเป็นเนื้อคู่กันจริงๆนะ แต่ไม่เห็นได้ยินใครเคยบอกเลยว่า เนื้อคู่มีแบบเพศเดียวกันได้ด้วย 555

Gang หวัดดีครับเก่ง สบายดีเหรอครับ ผมก็คิดถึงเก่งเสมอนะ ชื่อเนี้ยะ ไม่เคยลืมเลย











      “หายโกรธพี่รึยัง”

     “ผมไม่ได้โกรธนะ”

       “แต่หนีไปบ้านโน้น”

        “หนีที่ไหน ผมบอกก่อนไป ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

        “ก็แล้วทำไมต้องไปด้วยล่ะ วันหยุดทั้งทีแทนที่จะอยู่ด้วยกัน กลับหนีไปบ้านแม่นู่น”

           ทีตอนนี้ล่ะมาพูด ทีตอนนั้นล่ะไม่ห้าม
 
           “อ๋อ...รู้ด้วยเหรอครับว่าวันหยุดทั้งที น่าจะได้อยู่ด้วยกันน่ะ ดูหน้าพี่อยากจะให้ผมอยู่เหลือเกินนี่”

          “พี่ก็อยู่ของพี่เฉย ๆ พี่ไปทำอะไรให้”

        “ก็เฉยไง เฉยจนผมนึกว่าพี่นิวไม่อยากเห็นหน้าผมเนี่ย”

         “ยิ่งกว่าอยากเห็นหน้าอีก ไม่งั้นจะแล่นตามไปถึงโน่นเหรอ ข้าวปลาก็ยังไม่ได้กิน เพิ่งจะได้กินมื้อเย็น

พร้อมนูอะรู้หรือเปล่า” 

       “ก็ใครเค้าใช้ให้อด ผมทำทิ้งไว้ให้ก็บ่นไม่อร่อย แล้วจะให้ผมทำไง”

       “ก็มันไม่อร่อยจริง ๆอะ”

      “ใช่สิ ผมมันทำอะไรก็ไม่อร่อย ทีหลังก็ซื้อเขากินแล้วกัน ผมไม่ทำไม่แทมมันแล่ว”

      “พี่ไม่ได้ว่านูทำไม่อร่อย แต่พี่จะบอกว่า กินคนเดียวมันไม่อร่อยต่างหาก อะไรเนี่ย มองพี่ในแง่ร้ายตลอดเลย”

      อ้าว...ก็บอกว่าไม่อร่อย ใครจะไปรู้เล่าว่าหมายความว่าไม่ได้กินกับผมแล้วมันไม่อร่อยน่ะ....เขินสิทีนี้ผม

      “พี่นิวไม่พูดกับผมตั้งหลายวัน”

      “ก็พูดนะ แต่พูดเท่าที่จำเป็น”

      “โกรธเรื่องที่ผมเขียนนิยายลงเว็บอะเหรอ”

      “เปล่า ไม่ได้โกรธ แต่น้อยใจที่นูทำอะไรไม่บอก”

      “ไม่คิดว่าต้องบอกนี่ กะแค่นิยาย”

      บอกว่าเอาไปเผยแพร่ก็อดดิ แต่ความแตกแล้วก็ต้องให้พี่นิวเขาอนุญาตก่อนแค่นั้นเอง

      “สรุปว่าผมเอาไปลงได้ใช่ปะ”่

      “ได้....แต่มีเงื่อนไข”

      พี่นิวดูจริงจังขึ้น แต่ผมชักจะรู้สึกว่าผมกำลังจะถูกมัดมือให้ยอมทำอะไรบางอย่าง เพื่อแลกกับสิ่งที่ผมขอ

คือการได้โพสท์นิยายบนเน็ต

      “อะไรอีกอะ”

      “ทุกอย่างของเรา นูจะไม่เปิดเผยกับใคร”

      “ผมก็ไม่คิดจะทำอย่างงั้นอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องบอกเลย”

      “ถ้างั้นพี่ก็ไม่มีปัญหา”

      ผมยอมรับข้อตกลงด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ก็เห็นอยู่แล้วว่าเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ พี่นิวไม่จำเป็นต้องกังวล

ตั้งแต่แรก ถ้าเขายอมเข้าใจผมตั้งแต่วันนั้น เราก็ไม่ต้องหมางเมินกันอยู่ได้ตั้งหลายวัน

....ผมไม่ทันได้นึกว่า คำว่า “ทุกอย่างของเรา” มันจะกินพื้นที่มากมายมหาศาล....มากเท่าที่พี่นิวต้องการเลยทีเดียว



      ถึงเวลาเข้านอน ผมถูกฉุดเข้าห้องพี่นิวเอาดื้อ ๆ หลังจากคืนที่เขาล็อกห้องไม่ให้ผมเข้า ผมก็ไม่เปิดเข้าไปอีกเลย

นอกจากเวลาที่เขาไม่อยู่ผมถึงจะเข้าไปเก็บห้องให้

      “อนุญาตให้ผมเข้ามาได้แล้วเหรอครับ”

      “ก็ใครห้ามล่ะ”

      “ล็อกประตูห้องเนี่ย จะเรียกว่าห้ามได้ไหมล่ะครับ”

      พี่นิวอมยิ้ม...รู้ล่ะสิ ว่าผมย้อนเข้าให้ ก็เขาก็ทำจริง ๆนี่นา

      “ก็แค่คืนเดียวน่ะแหละ อยากลองใจคนดูซิว่าจะง้อกันมั่งไหม”

      “ขนาดนี้ยังต้องลองใจกันอีก ไม่รู้รึไงว่าทำผมร้องไห้”

      “ไม่จริงอะ แค่นี้ไม่ทำให้นูร้องไห้หรอก”

      โถ่...อย่ามารู้ทันอย่างนี้สิ

      “พี่นิวเห็นเหรอว่าผมไม่ได้ร้องไห้ ตัวเองน่ะปิดประตูเงียบอยู่ในห้อง ผมจับลูกบิดประตู

พี่นิวก็ต้องได้ยินเสียงก็อกแก็กมั่งแหละ แต่ไม่สนใจ ไม่ออกมาเปิดประตูให้ผมแบบนั้นน่ะ

เรียกว่าตั้งใจจะไม่ให้ผมเข้าใช่ไหมล่ะ”

      “พี่อยากให้นูง้อพี่มั่งนี่ พี่ก็น้อยใจเป็นนะ แค่ประตูห้องล็อกน่ะ นูไม่มีความสามารถรึไง กุญแจทั้งบ้าน

ตัวเองก็เก็บไว้หมด กะแค่ไขเข้าไปง้อพี่ก่อน นูยังไม่ทำเลย”

      “โหย ก็จะเข้าไปง้ออยู่นั่นไง แต่ดันเจอประตูติดล็อก ก็แปลว่าเจ้าของห้องเขาไม่อยากให้เราเข้า

แล้วใครจะด้านหน้าเข้าไปล่ะครับ เกิดเขาไล่ส่งออกมาจะทำไง”

      “พี่ไม่ทำอย่างงั้นหรอก ก็รออยู่”

      “ใครจะไปรู้ล่ะ”

      โต้กันไปมาจนเหนื่อยก็ไปไม่พ้นเรื่องที่พี่นิวเขารอให้ผมง้อ แต่ผมไม่ง้อ แล้วผมรู้อารมณ์เขาซะเมื่อไรล่ะ

สรุปว่าจะให้ผมผิดให้ได้ใช่ไหมเนี่ย

      “แล้วจะเอายังไงกับผมอะ เรื่องนิดเดียวพี่นิวก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่”

      “ปลอบก่อนสิ พี่ขวัญเสียนะ”

      มุกอ้อนมาเลย....ผมฉลองศรัทธาด้วยจูบที่ข้างแก้มไปทีหนึ่ง

      “นี่ด้วย”

      คนขี้อ้อนเอียงแก้มอีกข้างมาให้ตามคาด

      “อื้อ”

      ปากจู๋ ๆ ยื่นเข้ามาใกล้ บอกเจตนาว่าผมต้องยื่นปากเข้าไปชิด ผมทำตามใจเขา แล้วกลั้นขำไปด้วย

ตัวก็โตยังจะเล่นอะไรเป็นเด็กอยู่ได้

      แล้วตัวผมก็โดนคว้าหมับรวบเข้าไปกอดซะแน่น

      “อะไรอีกอะเนี่ย”

      “เลิฟซีนไง”

      พี่นิวกระซิบใกล้ ๆ....ใกล้ซะจนผมได้สูดเอาลมหายใจของพี่นิวเข้าปอดไปด้วย

ผมว่าเวลาที่เราได้กลิ่นอายจากผิวกายคนที่เรารัก ในบรรยากาศที่ชวนให้วาบหวาม คงไม่มีใครปฏิเสธนะ

ว่าเราแทบอยากจะนอนทอดร่างในอ้อมกอดแล้วปล่อยให้เขาทำอะไรตามแต่ใจ ผมในตอนนี้ก็เหมือนกัน

แต่ติดตรงที่ว่า ไม่ว่าเราจะเคยใกล้กันแบบเนื้อแนบเนื้อมาแล้วไม่รู้กี่หน ผมก็ยังไม่วายเขินทุกครั้งที่พี่นิวพูดเรื่องทำนองนี้

      “บ้าแล้ว ได้คืบจะเอาศอกอยู่เรื่อยนะ”

      “นะ....เราแยกกันนอนหลายคืนแล้วอะ คิดถึง”

      “ก็ใครเริ่มก่อน”

      “งั้นพี่จะไถ่โทษด้วยการให้นูเป็นคนจัดการเองทั้งหมดเลย พี่จะอยู่เฉย ๆ ดีไหม”

      เอาเปรียบกันเห็น ๆ

      แต่เอาเถอะ....คราวนี้ผมจะเป็นช้างเท้าหน้า...เอ๊ย...ควาญช้างมั่ง

      ควาญช้างก็ต้องขึ้นขี่ช้างจริงไหมครับ

      ผมจำใจก้าวถอยหลังเข้าหาเตียงกว้าง เพราะถูกคนที่ตัวโตกว่าจำกัดอิสรภาพ

แล้วผมจะแปลงร่างเป็นควาญได้ยังไงเนี่ย...ไหนพี่นิวบอกให้ผมจัดการเองไง

อีแบบนี้ผมน่าจะเสียเปรียบเขามากกว่า

      พอหลังแต่เบาะ พี่นิวก็ไม่ออมมือ ทั้งรุกไล่ผมด้วยปาก พร้อม ๆ กับมือไม้ที่อยู่ไม่สุข

      กระดุมเสื้อนอนหลุดลุ่ยด้วยฝีมือคนที่บอกว่าจะอยู่เฉย ๆ ฝ่ามือร้อน ๆ ลูบไปทั่วแผ่นอกเปลือย

สะดุดตรงตุ่มไตเขาก็ทั้งบีบทั้งบี้ เสียววาบจนแทบจะร้องให้หยุด แต่ลีลาของพี่นิวที่ตามมาหลังจากนั้น

กลับทำให้ผมลืมไปเลยว่าจะต้องเป็นฝ่ายควบคุมให้ได้

      พี่นิวเงยหน้าจากการคลุกวงในขึ้นสบตา นัยน์ตาเชื่อมทำเอาผมมือไม้สั่นด้วยความหวั่นไหว

ผมแกะกระดุมเสื้อให้เขาบ้าง การค่อย ๆ แกะทีละเม็ดอย่างช้า ๆ สร้างความทรมานให้พี่นิวไม่ใช่น้อย

แต่เขาก็อดทนรอจนเม็ดสุดท้ายหลุด สาบเสื้อเผยออกให้เห็นกล้ามอกแน่น ๆ ของคนหนุ่มฉกรรจ์

      แต่ก่อนที่พี่นิวจะล้มตัวลงมาอีกครั้ง ผมก็กุมไหล่เขาไว้ทั้งสองข้าง แล้วจับเขาพลิกให้นอนหงายลงไป

อยู่เบื้องล่าง....บอกแล้วผมจะเป็นควาญช้างเอง

      ผมรู้ว่าที่พี่นิวบอกให้ผมจัดการเอง ไม่ได้แปลว่าเขาจะยอมเป็นฝ่ายรับให้ผม เขาคิดว่าคงเหมือนครั้ง

อื่น ๆ ที่....(คุณก็รู้ว่าแบบไหน 555)....





   ตอนหน้าพี่นิวจะได้เสียเลือดมั่งแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:29:15 โดย NuNew »

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
แว้ก ตัดฉับแบบนี้เลยเหรอ คุณนู

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ชอบอารมณ์แบบเถียงกันงุ้งงิ้งๆจังเลย
น่ารักมากๆเลยพี่นู
แต่เสียดายไม่น่าตัดฉับตอนสุดท้ายเลยอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยย อยากเห็นพี่นิวเสียเลือด

hongyia

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่าน Nc

ออฟไลน์ railay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 983
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
 :pig4: :pig4: :pig4:
อยากให้พี่นูลงเรื่องของปืนกับปอจัง เคยอ่านค้างไว้ยังไม่จบเลย

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
^
^
      น้องเรย์ใช่มั้ยครับ

      พี่นูลงแล้วนะ ตอนนี้อยู่ในหมวดนิยายที่จบแล้ว

อ้อนนักรักซะดีแมะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-02-2013 09:36:07 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
นูนะนู จบให้ค้างซะงั้น :serius2:

แล้ว...แล้ววว....ใครทำพี่นิวของนูหัวแตกหรออ :impress:(...เห็นว่าเสียเลือด^^)

รอตอนต่อไปนะคะ

ขอแว๊บบบ :a1:....ตามไปอ่าน"อ้อนนักรักซะดีแมะ"ของนูอย่างว่อง

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :เฮ้อ:    ดีกันก็ดีแล้วค่ะ

    +1   ให้จ้า

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
 :m24: เข้ามาติดตามความเคลื่อนไหว

vvhite

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้  !!!!
พี่นูมาต่อแล้ว
คิดถึงพี่นูมากๆเลยครับ  :กอด1:
ปล. จะคอยเป็นกำลังใจให้พี่นูเสมอนะครับ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2



 :really2:   ......อย่างไม่มีปี่ มีขลุ่ย

อ่านต่อกันได้เลยครับ 




   ไม่รู้ว่าผมตกเป็นฝ่ายรับให้พี่นิวรุกอยู่คนเดียวได้ยังไง เอาเป็นว่าผมไม่เคยคิดเรื่องรุก เรื่องรับมาก่อน

จนได้อ่านนิยายบนเว็บ ผมถึงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่เราจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ (?)อยู่ฝ่ายเดียว

      ด้วยสรีระที่ไม่ได้ถูกสร้างให้เอื้อต่อการร่วมรักแบบนี้ ย่อมทำให้ผู้ถูกรุกล้ำมีอาการเจ็บทั้งขณะพายุโหมกระหน่ำ

(ถึงแม้ว่ามันจะมีอาการเสียวซ่านแทรกซ้อน) และหลังพายุสงบ

       สำหรับผมแล้ว การยินยอมพร้อมใจเกิดขึ้นจากความรักล้วน ๆ ที่สนับสนุนด้วยการปลุกเร้าอารมณ์ให้เคลิ้มตาม

และในทางตรงข้าม พี่นิวก็น่าจะยอมผมบ้าง ถ้าเขารักผม (ผมคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่ไหมครับ)

      การทำให้คู่รักของเรามีความสุขด้วยการสัมผัสร่างกายทุกรูปแบบ มันนำพาเอาความสุขที่เลิศล้ำเหนือคำบรรยาย

มาสู่เราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

      ร่างเปล่าเปลือยที่เสียดสีกันอย่างแผ่วเบาเนิบนาบ  ทำให้ภายในกายค่อย ๆ ระอุทีละน้อย จนลุกโหมเป็นเพลิงกาม

ที่ต้องปล่อยให้มอดไหม้เรา  จนกว่าจะสุขสมกันไปทั้งคู่ และหากทุกจังหวะของการเคลื่อนไหวสอดคล้องประสานกันไป

ทุกท่วงท่า การจะแตะไต่ ก่ายเกี่ยวกันไปจนถึงสวรรค์คงไม่ใช่เรื่องยาก

      ผมรู้สึกได้ทุกครั้งที่เราก่ายกอดกันว่า เราคงเกิดมาเพื่อกันและกัน เพราะไม่ว่าครั้งไหนที่เพลงรักบรรเลง

ไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะหยุดลงกลางคันหากเราไม่ต้องการ (ซึ่งเราไม่เคยต้องการให้มันหยุดลงกลางคัน

เว้นเสียแต่ว่า ใครสักคนจะถูกกลั่นแกล้ง 555)

      ลีลารักของผมคงไม่เลวนัก เพราะพี่นิวนอนหลับตาครางติดต่อกันจนเหนื่อยหอบ

ก็คงไม่ต่างกันกับเวลาที่ผมเป็นฝ่ายถูกรุกบ้าง  ฝ่ามือใหญ่ร้อนผ่าวของเขาลูบหนัก ๆ ไปทั่วแผ่นหลังของผม

ผิวเนื้อเนียนของพี่นิวในร่มผ้าเป็นสีนวลสว่างกว่าผิวส่วนที่คล้ำแดด โดยเฉพาะที่ท้องน้อย

ปลายลิ้นของผมรับรู้รสหวานของชายชาตรีเมื่อแตะไปโดนหยดน้ำที่ปริ่มออกมารอ

ในทันทีนั้นผมก็โดนกดให้ครอบปากลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว นั่นเป็นการแสดงออกด้วยภาษากายของพี่นิว

ว่าเขาต้องการอะไร แต่เขาไม่ยอมอยู่เฉย ๆ ให้ผมได้ใช้ปากได้ตามใจชอบ

การยกสะโพกขึ้นในขณะที่ผมกดหน้าลง ทำให้พี่นิวเข้าไปจนสุดคอหอย

แต่เพราะเราทั้งเคยตั้งรับและรุกไล่กันมาจนพอรู้ทาง ทำให้ผมโก่งคอทัน

แทนที่ผมจะโดนกระทุ้งหลอดคอ พี่นิวกลับสำลักลมหายใจตัวเองเพราะความเสียว

จนต้องร้องออกมาดัง ๆ จากปฏิบัติการชิวหาพาเพลินของผม

      ผมเลื่อนตัวขึ้นไปประกบปาก เสียงงึมงำอย่างพอใจปนเสียงหอบหายใจดังจากลำคอของพี่นิว

พร้อมกับลิ้นที่ตวัดกวัดไกวเข้ามาในปากผมอย่างไม่ลดละ

      “อยู่เฉย  ๆนะครับ”

      พี่นิวพยักหน้าสนองตอบ ผมดอมดมไปทั่วใบหน้าแล้วไล่ลงมาตามร่างกายจนถึงที่หมาย

      จะมีใครเหมือนผมไหม....ที่ชอบซุกไซ้กลุ่มขนส่วนกลางลำตัว กลิ่นฮอร์โมนเพศชายระเหยปนมากับกลิ่นอับที่สะอาด

เพราะเจ้าของ (หมายถึงผม...อิอิ....) ดูแลอย่างดี

       ผมชอบสูดดมกลิ่นกายพี่นิวอยู่สองแห่ง  ที่ซอกคอด้านข้าง กับตรงนี้แหละ

ได้กลิ่นนี้ทีไรผมเป็นต้องขนลุกชันด้วยความซ่านกระสันอยากจะเบียดกายเข้าหาไปเสียทุกที

      ผมขยับขึ้นทาบบนตัวพี่นิวอีกครั้ง อารมณ์วาบหวิวที่ได้สูดดมกลิ่นฮอร์โมนตรงนั้น

ทำให้ผมอยากบดเบียดส่วนกลางลำตัวของเราเข้าด้วยกัน แผ่นอกของเราทาบกันจนชิด

เสียงแสกสากของไรขนที่ขยี้กันไปมา  กระตุ้นน้ำลายออกมาจนเต็มสองข้างแก้ม

ตอนนี้ผมอยากจูบปากเต็มอิ่มนี้แล้วบดขยี้แรง ๆ โดยไม่ต้องมีลิ้นเข้ามาเกะกะ

 ริมฝีปากของพี่นิวถูกดูดอยู่นานจนช้ำ ผมก้มดูสีแดงสดที่เกิดจากการกระทำของตัวเองอย่างพอใจ....

ดวงตาเยิ้มฉ่ำมองมาที่ผมอย่างเรียกร้อง เขาคงอยู่ในอารมณ์ที่จวนจะสุกงอม แต่ผมยังไม่ได้ครึ่งทางเลย....

ก็จุดประสงค์ของผมยังไม่ได้เริ่มต้นเลยนี่นา

      ผมจับพี่นิวพลิกคว่ำ แล้วขึ้นไปนอนทาบ ไล่จูบจากท้ายทอย หลังไหล่ จนมาถึงเนินสะโพก

ตรงซอกขาหนีบเป็นจุดที่เข้าถึงได้ยาก

     ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นสัญชาตญาณของคนที่เคยบุกทะลวงประตูหลังของคนอื่นแล้วก็กลัวจะถูกเอาคืน

อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยที่จะทำให้เขายอมเปิดประตูบ้านตัวเอง

      นี่เป็นครั้งแรกที่ผมใช้ลิ้นกับร่องก้นของเขา  ฟังเสียงฮือฮาแผ่ว ๆ คิดว่าเขาคงพอใจอยู่เหมือนกัน

ทั้งมือทั้งปากของผมทำงานประสานกันราวกับเคยทำมาเป็นร้อยครั้ง  ทั้งที่จริง ผมก็เพียงแค่อาศัยประสบการณ์

ของคนที่เคย “ถูกกระทำ” เท่านั้นเอง ดูไปแล้วผมจะได้เปรียบเขาตรงที่  ผมรู้จุดกระสันที่วัดได้จากความรู้สึกของตัวเอง

ในขณะที่พี่นิวรู้จากคำให้การของผม....มันต่างกันนะ

      เกมของผมผ่านไปพักหนึ่ง  ก็ได้เวลาสับขอลงบนคอช้างล่ะ  เจลหล่อลื่นอยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้ว

ผมบีบมันใส่มือตัวเองลูบไล้ปลายนิ้วให้ทั่วพร้อมปฏิบัติการ

      ซอกคอเป็นจุดที่ผมนึกอยากฝังรอยเขี้ยวไว้ทุกครั้งที่เราร่วมรัก  แต่เราก็รู้กันว่ามันไม่เหมาะ
 
ผมจึงเพียงจูบและแตะด้วยปลายลิ้น

      “ผมขอนะครับ”

      ผมพูดพร้อมกับสอดปลายนิ้วไปที่ช่องทางฟิต ๆ นั่นอย่างช้า ๆ  พี่นิวสะดุ้ง  กระถดตัวหนี

แต่ไม่เป็นผลเท่าไร  เพราะน้ำหนักตัวผมที่กดทับอยู่ทำให้มันไม่ง่ายที่จะหนีห่างออกไป

      “ไม่เอา”

      เสียงพี่นิววิงวอนเหมือนเสียงแมวร้อง  จะโวยวายเสียงดังก็ไม่ดี  เดี๋ยวอารมณ์ที่ต่อเนื่องไว้จะขาดผึง

อุตส่าห์เริ่มไว้ดีมาจนถึงขนาดนี้ เหลืออีกไม่กี่ก้าวเราก็จะได้ถึงจุดหมายกันแล้ว

      “ให้ผมนะ....นะครับ....ไหนบอกให้ผมจัดการแล้วพี่นิวจะอยู่เฉย ๆ ไง”

      “แต่พี่....พี่ไม่เคยนี่”

      “ผมก็ไม่เคย....เพิ่งมาเคยก็กับพี่นิวนี่แหละ....นะครับ....”

      .....ใคร ๆ มันก็ต้องมีครั้งแรกกันทุกคนแหละน่า...กล้า ๆ หน่อยพี่นิว...ทีผมยังไม่เคยโอดครวญเลยนี่นา

เวลาที่พี่ต้องการน่ะ…..ผมได้แต่บอกพี่นิวในใจ

      “นะ”

      ผมคะยั้นคะยอเขาต่อไป  ทั้งมือและปากก็ใช้ความพยายามให้เขาเคลิ้มตามให้ได้

รวมทั้งพยายามวนนิ้วไปรอบ ๆ ปากทางให้เขาเคยชินกับการรุกล้ำก่อนจะเอาจริง

      “นึกยังไงอะ....อื้อ....”

      พี่นิวสะดุ้งอีกครั้งตอนที่ผมเสียบนิ้วลงไปช้า ๆ แล้วดึงออก

      “ก็ผมอยากลองดู....นะครับ....ผมไม่อยากไปลองกับคนอื่นนี่”

      “เฮ้ย...ได้ไง...ไม่ให้ไปลองกับใครทั้งนั้นแหละ....โอ๊ย.....”

      เป้าหมายหลงกลแล้ว ผมก็แทงนิ้วพรวดเข้าไป  หลังจากที่ล่อหลอกด้วยการสอดเข้าไปตื้น ๆ

แล้วดึงออกอยู่หลายครั้ง เสียงพี่นิวร้องด้วยความตกใจ  แต่คงไม่ได้เจ็บอะไรนักหรอก อาจจะมีบ้างแค่จุกนิด ๆ
 
แค่นิ้วกลางนิ้วเดียว ขนาดมันยังห่างจากของจริงตั้งเยอะ

      เขาคงรู้ว่าผมเอาจริง  ก็ยอมดี ๆ จะว่าไปพี่นิวเองก็ไม่ค่อยขัดใจผมเท่าไร อะไรที่เขายอมได้

เขาก็ไม่เคยอิดออด  อย่างเรื่องนี้ผมว่าเขาใจง่าย เอ๊ย...ตกลงใจง่าย ๆ ไม่รู้ว่าเพราะผมลีลาดี

หรือว่าเขาเองก็อยากลอง 555

      ช่องทางแคบ ๆ ที่ผมพยายามจะสอดใส่เข้าไป  มันไม่ใช่แค่แคบ ฟิต และเข้ายาก

แต่มันยังทำให้ผมรู้สึกเจ็บไปด้วย....ตรรกะของมันก็คือ ฝ่ายรับก็เจ็บกับการถูกบุกทะลวง

แม้ว่าจะมีตัวช่วยที่ชื่อ เจลก็ตาม  ส่วนฝ่ายรุกก็เจ็บ กว่าจะฝ่าด่านเข้าไปได้สักครึ่งทาง

ผมก็ถูกตอด ถูกบีบจนปวด แต่ในความปวด ๆ ตึง ๆ มันก็มีความรู้สึกมัน ๆ แทรกอยู่ด้วย

สมัยเด็ก ๆ ถ้าใครเคยปวดฟัน ผมว่าน่าจะคล้ายความรู้สึกของผมตอนนี้ ปวดฟันแต่ก็มันดี

      “นู...พี่เจ็บ”

      เสียงพี่นิวกระซิบแผ่ว ๆ จะด้วยเกรงใจผมหรือว่าเขาเจ็บจริง ๆ ก็ไม่รู้ได้

แต่เสียงนั้นกระตุ้นต่อมเสียวของผมอย่างแรง  ผมขยับนั่งคุกเข่า แล้วบีบเจลใส่มือกองใหญ่ให้เป็นตัวช่วย

      “นิดเดียวนะครับ ตอนแรกของผมก็อย่างงี้แหละ....อีกเดี๋ยวมันก็ดีไปเองแหละพี่นิว”

      ผมให้กำลังใจเขาเต็มที่ กลัวเขาจะถอดใจซะก่อนที่ผมจะจ้ำบึ้ด ๆเสร็จ

      ชโลมเจลไปที่น้องชายจนทั่วแล้วผมก็พยายามดันมันเข้าไปใหม่ให้ลึกกว่าเดิม

ผลของมันทำให้พี่นิวถอยตัวร่นขึ้นไปที่หัวเตียง จนผมต้องยึดขาเขาไว้อีก

แต่เจ้ากรรม มือผมมันเหนอะไปด้วยเจล ขาพี่นิวก็เลยลื่นหลุดมือไปได้

แต่ผมก็ยังไม่หลุดออกจากตัวเขาอยู่ดี

      “อย่าแกล้งผมดิ ไม่อยากให้ผมไปลองกับคนอื่นไม่ใช่เหรอ”

      คำขู่คำเดิมได้ผลดีเยี่ยม คราวนี้พี่นิวนิ่งสนิท ปล่อยให้ผมเอาแต่ใจ(?) ไปเรื่อย ๆ

      “เจ็บ....”

      พี่นิวหลับตาปี๋ เสียงบ่นเบา ๆ แทรกออกมาจากไรฟัน แต่ผมก็ยังไม่หยุด เพราะมันหยุดไม่ได้

เห็นสวรรค์ลอยลงมารำไร ใครจะปล่อยไปง่าย ๆ

      “อีกนิดเดียวครับ.....อ้า......สุดยอดเลยพี่นิว”

      ผมหลับหูหลับตาซอย เมื่อรู้สึกว่าเข้าอยู่ไปในตัวพี่นิวจนสุดลำ

ตอนนี้ทุกอย่างลื่นไหลไปตลอดช่องทางที่บีบรัดรอบ ๆ แต่เหมือนว่าผมจะยังเข้าไปได้อีกสักหน่อย

ถ้าพี่นิวขยับก้นให้สูงกว่านี้

      “พี่นิวโก่งตัวหน่อยสิครับ ผมอยากเข้าไปข้างในให้ลึกกว่านี้”

      “นู....พี่จะไม่ไหวแล้ว”

      “ผมช่วย”

      ผมสอดมือจะเข้าไปจับพี่นิวน้อยรูด แต่พี่นิวปัดมือผมให้เบี่ยงออก

      “ไม่ต้อง”

      ก็ดีครับ ผมอยากจับสะโพกพี่นิวกระแทกเข้ามาหาตัว ตอนที่ผมกระแทกตัวเองเข้าไป

จังหวะนี้ทำให้ผมเข้าไปได้ลึกสุด ๆ พี่นิวอยู่เฉย ๆ อย่างที่ผมขอไว้ แล้วก็ปล่อยให้ผมคุมเกมเอง

บอกจริง ๆ ว่าการที่ผมจับพี่นิวให้ทำอย่างที่ต้องการได้ ยิ่งทำให้ผมลำพองใจ

เสียงพี่นิวสูดปากคงจะเสียวเต็มทีแล้ว  ผมเร่งเครื่องเพราะตอนนี้ดาวเต็มฟ้าระยิบระยับไปหมดแล้ว

คลื่นความเสียวแล่นไปตามลำขา พุ่งเข้าท้องน้อย แล้วไหลวนอยู่ตรงนั้น

จนท้ายที่สุดทะลุออกจากตัวผมเข้าสู่ร่างกายพี่นิว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผมเกร็งกระตุกให้หยาดน้ำรักออกจากตัว

หลังจากหยดสุดท้ายถูกส่งออกไป เรี่ยวแรงที่คึกคักราวกับกระทิงเปลี่ยวของผมก็หายไปหมด

ผมทรุดตัวลงคร่อมพี่นิวโดยไม่ทันได้สนใจว่าเขาถึงปลายทางแล้วหรือยัง

      เป็นเกมกามที่ผมเพิ่งจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรก สุขสุด ๆ ตอนที่ตัวเบาราวกับจะลอยได้

แล้วทุกอย่างก็แตกกระจาย พร้อมกับน้ำรักพุ่งผ่านลำกล้อง เสียดายที่ผมไม่ได้เห็นตอนที่มันสาดไปบนลำตัวพี่นิว

แต่ก็รู้สึกไม่เลวที่ได้อยู่ในตัวเขาจนนาทีสุดท้าย

      ผมหยุดหอบแล้วก็หันมาสนใจพี่นิวที่ยังนอนนิ่งอยู่ใต้ร่างของผม

      “สุดยอดเลยพี่นิว”

      “...........”

      “ทำไมมันดีอย่างงี้อะ”

      “...............”

      “พี่นิวมีความสุขไหมครับ”

      พี่นิวพยักหน้าทั้งที่ตายังหลับสนิท

      “พี่นิวอยากทำผมมั่งไหม...ผลัดกัน”

      พี่นิวส่ายหน้า ไม่น่าเชื่อว่าคืนนี้ผมจะรอดตัว

      “ไปอาบน้ำกันนะครับ เลอะหมดเลยอะ”

      ผมค่อย ๆ ถอนกายออกจากพี่นิว รู้สึกถึงความเหนอะ และหนืดตอนที่มันเคลื่อนตัวออกมา
 
ผมคว้ากระดาษชำระที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง เพื่อจะเช็ดสิ่งที่ยังตกค้างให้หมดไปบางส่วนก่อน

แต่พอผมก้มดูน้องชายตัวเอง ก็ต้องเบิกตากว้าง

      ผมลืมประสบการณ์ครั้งแรกของตัวเองตอนนี้ไปได้ยังไง

      สิ่งที่ตกค้างหลังพายุพิศวาสผ่านไป มันทำให้ผมตกใจแทบสิ้นสติ

เลือดสีแดงฉานเปียกอยู่บนผ้าปูนอนแผ่เป็นวงกว้าง กลิ่นคาวเลือดและคาวน้ำกามของผม

ปนเปกันเป็นกลิ่นแปลกไม่คุ้นจมูก ที่ก้นของพี่นิวเปรอะคราบเลือดเป็นปื้นเหนียว

รวมไปกับน้ำของผม ดูน่าสะอิดสะเอียน

      ผมถลาเข้าไปประคองพี่นิวที่ยังนอนซมอยู่ท่าเดิม

      “ผมขอโทษ”

      ผมระดมจูบลงไปที่ใบหน้าด้านข้างที่ซบอยู่บนหมอน ใบหู ขมับและไรผม

ไม่ได้สนใจว่ามันจะถูกส่วนไหนบ้าง เจตนาก็เพื่อแสดงความขอโทษที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้

      ครั้งแรกของผมมันก็นานมาแล้ว แต่ทั้งที่พี่นิวในวัยนั้นก็แค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อวัยวะสืบพันธุ์ยังไม่ขยายเต็มที่

ยังทำให้ผมเสียเลือดไปไม่ใช่น้อย และด้วยร่างกายที่เล็กกว่าก็ยังทำเอาผมเจ็บแทบตาย

แต่ผมจำได้ว่าพี่นิวอ่อนโยนกับผมเพียงไหน บทรักของพี่นิวอาจจะดูงุ่มง่ามตามประสาคนที่ยังไม่เคย

แต่ก็เต็มไปด้วยความเอาใจใส่และไม่เคยจะจ้วงจาบเอาแต่ได้

      แล้วดูผมทำกับเขาสิ....ร่างกายผมก็ใช่ว่าจะเล็กนัก พละกำลังก็ใช่ย่อย

ยิ่งเวลาที่พายุอารมณ์โหมกระหน่ำก็อย่าหวังเลยว่าจะยั้งมันให้หยุดได้

      “พี่นิวครับ เป็นไงมั่ง”

      “เจ็บสุด ๆไปเลย”

      พี่นิวค่อย ๆ พลิกตัวพยายามที่จะนอนหงาย แต่ดูจากสีหน้าที่แสดงอาการเจ็บ ผมก็เหมือนจะรู้สึกเจ็บแทน

เพราะจำรสชาติครั้งแรกได้ดี  แม้ว่าเราจะเคย ๆ กันมาหลายต่อหลายครั้ง ก็ใช่ว่าแต่ละครั้งผมจะไม่รู้สึกอะไร

เพียงแต่ความเคยชินต่อความเจ็บที่รู้ว่าที่สุดแล้วความเสียวกระสันจะทำให้เราพุ่งขึ้นสู่จุดสุดยอดไปพร้อมกัน

ทำให้เรายังคงโหยหาความสุขจากการเสพสมร่วมรักกันอยู่เสมอ

      ผมมองร่างกายใหญ่โตของคนที่  ”รักผม”  นอนเหยียดแขนเหยียดขาอย่างคนสิ้นเรี่ยวแรงแล้วน้ำตาแทบจะหยด

ความสุขจากตัณหาของผม ทำเขาเจ็บถึงเพียงนี้เชียวหรือ

      “พี่นิว...ผมขอโทษ”

      “ขอโทษพี่ทำไม พี่ดีใจที่ทำให้นูมีความสุข”

      ผมโผลงไปซบอกพี่นิวแล้วปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น เพราะความอยากลอง นิสัยเอาแต่ใจของผมแท้ ๆ

ถึงได้ทำให้คนที่ “ผมรัก” ต้องเจ็บแบบนี้

      “ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมขอโทษ”

      “ทำไมอะ ไม่ชอบหรอกเหรอ”

      “ไม่เอาแล้ว.....ผมไม่ชอบแล้ว พี่นิวเลือดออกขนาดนี้.....จะให้ผมทำอีกได้ยังไง”

      ผมนอนสะอื้นกับอกพี่นิวไปพูดไปอย่างกระท่อนกระแท่น

      “จริง ๆ นะ”

      ผมพยักหน้าให้สัญญา

      “ไม่คิดจะไปลองกับใครอีกด้วยนะ”

      “ครับ ผมสัญญา ผมไม่ลองแล้ว”

      “งั้นไปอาบน้ำกัน.....ซู้ดดดดด......”

      พี่นิวขยับตัวเพื่อจะลุกลงจากเตียง แต่เจ็บเสียจนแขนขาเกร็งไปหมด

      ผมทำได้เพียงประคองไหล่พี่นิวไปห้องน้ำ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ เพราะพี่นิวคงทำเองไม่ถนัด

      ตอนที่ผมเอานิ้วล้วงเข้าไปข้างในตัวเขา เพื่อจะให้สิ่งสกปรกของผมไหลออกมา มันกลับมีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย

ยิ่งทำให้ผมใจเสียเข้าไปใหญ่

      “ไม่เป็นไรหรอก เลือดหยุดแล้วไม่เห็นเหรอ ที่เห็นน่ะมันแค่ตกค้างอยู่ข้างใน”

      “ยังเจ็บอยู่ไหมครับ”

      “อย่าควานเข้าไปก็แล้วกันมันยังแสบอยู่นิด ๆ ถ้าไม่ไปโดนก็ไม่เท่าไร”

      ผมก็เลยต้องบอกให้พี่นิวเบ่งลมเพื่อให้ช่องทางขยายตัว ตอนผมสอดนิ้วเข้าไปจะได้ไม่เจ็บ

      “ซี้ดดดด....อย่าควงสิ มันเสียวนะ”

      “อ้าว...ไหนบอกแสบ”

      “ก็แสบ แต่มันก็เสียว ๆอะ นูรู้สึกแบบนี้ด้วยหรือเปล่า  ตอนที่พี่ทำ”

      ผมพยักหน้าโดยไม่กล้ามองหน้าพี่นิว รู้สึกเลยว่าตัวเองหน้าร้อน ก็บอกแล้วว่าผมยังอายอยู่

ทุกครั้งที่พี่นิวถามเรื่องอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะถ้าเรายังไม่ได้อยู่ในบทรัก หรือว่าอยู่บนเตียงนอน



      ประสบการณ์เสียวเพียงครั้งเดียวของผมกับการได้ทำลายประตูพี่นิว มีทั้งความประทับใจ

และทำให้ผมรู้สึกผิดไปพร้อม ๆ กัน

      ไม่น่าเชื่อว่า หลังจากครั้งนั้น แม้ว่าพี่นิวจะเป็นฝ่ายชวนให้ผมเล่นประตูหลังของเขา

ไม่ว่าจะเกิดจากอารมณ์ที่อยากลองใจ หรือว่าอยากเอาใจ ผมกลับไม่รู้สึก “อยาก” อีกเลย

ภาพเลือดสีแดงฉานที่แผ่อยู่บนผ้าปูนอนยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ

      มิหนำซ้ำเดี๋ยวนี้เวลาที่ผมมีอารมณ์ขึ้นมา แทนที่ผมจะรู้สึกเสียวในจุดที่ผู้ชายควรเสียว

แต่ความรู้สึกวูบวาบกลับไปเกิดที่ตำแหน่งอื่นซะงั้น....(คุณก็รู้ว่าตรงไหน 555)

ผมคงเกิดมาเพื่อจะเป็นฝ่ายรับเสียล่ะมั้ง แต่ทำไมไม่รู้ ความรู้สึกนี้ของผมไม่เคยเกิดขึ้นเพราะใคร

นอกจากพี่นิวเพียงคนเดียวเท่านั้น

      ผมเคยนึกถึงตัวเองเวลาที่ถูกคนอื่นสัมผัส เหมือนในนิยายบางเรื่องที่ตัวละครมีความสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน

สำหรับผม....แค่คิดผมก็แทบจะทนตัวเองไม่ได้ การคิดถึงสัมผัสของคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่ผมรัก

นอกจากอารมณ์ “ใคร่อยาก” จะไม่เกิดแล้ว ผมคิดว่าสัมผัสจากใครก็คงไม่ทำให้ผมรู้สึกเต็มอิ่มได้เท่าคน ๆ นี้แน่ ๆ

เพราะความรักทำให้เราเป็นอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ เพื่อคนที่เรารัก เหมือนกับที่พี่นิวยอมเป็นรับให้ผม

ทั้งที่เขาเองคงไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะถูกผมร้องขออย่างอุกอาจเช่นนั้น (แต่ผมว่าเขาคงเข็ดมากกว่า)
       

   
   
      ในที่สุดนิยายของผมก็ได้ไปปรากฏในนั้น หลังจากข้อตกลงระหว่างผมกับพี่นิวถูกร่างขึ้นอย่างจริงจัง

      ผมโพสท์ตอนแรกแล้วลองอ่านทบทวน เป็นการพิสูจน์อักษรไปในตัว อ่านแล้วก็มีขัด ๆ บ้าง
 
ไม่ราบรื่นเหมือนนิยายของนักเขียนคนอื่นที่ผมเคยอ่านมาก่อน แต่ทำไมไม่รู้ ผมอ่านไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

      ...ความรู้สึกขณะนั้นก็คือ...

      ผมดีใจที่ได้ประกาศความรักให้ใคร ๆ ได้รับรู้ “ความรัก” ที่ผมไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้
 
แม้แต่บุพการีของตัวเอง

      ผมคิดไม่ออกว่า...หากเพียงคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ยินดีต้อนรับผมเป็นสมาชิกในครอบครัว...

ผมจะได้พบความสุขถึงเพียงนี้หรือเปล่า....ผมจะได้อยู่กับคนที่ผมรักหรือเปล่า...ชีวิตของผมจะเป็นเช่นไร

      ขอบคุณทุก ๆ คนที่รักผม

      ขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้าใจตัวตนของผม

      ขอบคุณ คุณพ่อกับคุณแม่ ที่ให้โอกาสผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก

      และสุดท้าย...

      ขอบคุณน้าจิ๊บ ผู้ที่ลากผมออกมาจากโลกแห่งความมืดสู่แสงสว่าง

แม้จะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ  ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะมองเห็น

แต่นั่นก็มีค่ามากมายสำหรับผม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2015 14:32:31 โดย NuNew »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด