รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ  (อ่าน 196027 ครั้ง)

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ปัตคิดเองเออเอง ปัตคิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วพี่พาร์ทมีความสุข

ปัตเห็นใจคนอื่น แต่ปัตลืมที่จะเห็นใจคนที่รักปัตอย่างพี่พาร์ทนะ

แล้วถ้าพี่พาร์ทรู้ความจริงขึ้นมาก เรื่องมันอาจจะแย่กว่าที่คิดก็ได้

ปล.ไม่ชอบที่ปัตทำแบบนี้ พี่พาร์ทไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้ใครต่อใคร พี่พาร์ทก็เป็นคนที่มีหัวใจนะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อืม.... อย่าว่าไรเลยนะ
เราว่ามุกนี้นี่.... ปัตโหดร้ายเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ thejaoil

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ไม่ค่อยเห็นด้วยกะปัตเหมือนกันแฮะ มันทำให้เจ็บทุกคน

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
UNIT 30 เวลา...

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าของวันหยุด .............ดันตัวลุกขึ้นบนเตียง มองทุกอย่างรอบๆ ตัว  น่าแปลก....ทุกอย่างมันเหมือนเดิมจนน่าใจหาย

กลิ่นจางๆ และความรู้สึกอบอุ่นลอยกลุ่นอยู่ทั่วห้อง  ไม่ว่าผมจะเดินไปมุมไหน  สิ่งของทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นระเบียบเช่นเดิม 

แบบเดิมที่น้องเคยทำ  ร่องรอยที่เหลืออยู่ทำให้ผมรู้สึกราวกับถูกโอบกอด ถูกจ้องมอง สนใจ และใส่ใจจากใครคนหนึ่งทั้งที่ผ่านมาสองเดือนครึ่ง

แล้ว  แต่ผมกลับไม่เคยพบหน้าน้องอีกเลย มีเพียงผลงานที่น้องยังทำฟรีแลนให้กับทางบริษัทอยู่  ผมสัมผัสได้แค่ตัวอักษร แม้กระทั่งภาพวาด

จนแอบคิดถึง คิดไปเองรึเปล่าว่าภาพมันให้อารมณ์แปลกดูมันขุ่นมัวในจิตใจอย่างบอกไม่ถูก  ภาพนั้นองค์ประกอบหลักที่ต้องการจะสื่อ

ก็มีแค่ตึกของร้านขนมชื่อดัง พร้อมแบนด์เก๋ไก๋ ติดอยู่บนป้ายร้าน มีผู้คนมายืนต่อแถวกันขวักไขว่ กลิ่นอาหารหอมยวนใจจนแต่ละต้องสูด

ลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อจะดอมดมความหอมของขนม แต่........กลับมีอยู่มุมหนึ่งที่ผมคิดว่าอาจจะไม่มีใครมองเห็นม้านั่งตัวยาว

มีชายคนหนึ่งสวมหมวกนั่งชนเข่าอยู่บนนั้น  ภาพเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นจุดสนใจ แต่ผมกลับเห็นมันอย่างชัดเจน นี่น้องกำลังบอกใบ้


อะไรรึเปล่าว่าน้องก็เหงาไม่ต่างจากผม  หากคิดย้อนกลับไปก็ยังมีอีกเรื่องที่มันเป็นเรื่องน่าบังเอิญอย่างน่าประหลาด อยู่ดีๆ พี่ภีมก็โทรมา

บอกว่าจะส่งแม่บ้านมาดูแลห้องให้  เพราะทนความรกรุงรังไม่ไหว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เห็น เคยจะใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่สักนิด

สามารถนอนบนโซฟา ทั้งดีหัวก็หนุนทั้งแขนตัวเองและกระป๋องเบียร์ไปด้วยแท้ๆ  แถมอาหารที่ทำเตรียมไว้ให้รสมือมันแทบจะเหมือนน้องไม่มีผิด

เหมือนจนเกินไป จนทำให้ผมเจ็บร้าวเล็กๆ แต่น้องจะทำสิ่งเหล่านั้นเพื่ออะไรหล่ะ  ในเมื่อตอนนี้ก็คงมีคนที่น้องอยากเอาใจอยู่แล้ว

ทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ไล้มือเบาๆ บนพื้นที่ว่างข้างๆ ตัว ที่เคยมีใครบางคนอยู่ตรงนั้น..........คิดถึงเหลือเกิน


.

.



“ติ๊ด ๆๆ   ติ๊ด ๆๆ   ติ๊ด ๆๆ  ”  ผมสะดุ้งนิด  ๆ เอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในมือถือ ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปอีกรอบเมื่อไหร่  นึกขึ้นได้ว่าต้อง


ไปเยี่ยมปิ่น  เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว วันนี้พ่อไม่ว่างผมต้องไปคนเดียว อีกสิบนาที จะหกโมงแล้วถ้าขืนออกช้ากว่าเจ็ดโมงนี้

น้าสาวคงไปทำธุระไม่ทันแน่  ทั้งๆ ที่ผมอุตส่าห์รับปากแล้วแท้ๆ ดันเผลอหลับไปซะนี่  วิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำลวกๆ เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี

หยิบเสื้อกับกางเกงเข้าชุด  แล้วออกจากห้องไป.

.

.

“ว่าไงน้องสาวพี่  วันนี้เป็นไงบ้างคะ?”  ผมเดินตรงไปที่สวนหย่อมหน้าของ รพ. ตามที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่ 

“หวัดดีค่ะพี่พาร์ท  วันนี้ก็ดีค่ะ”  ปิ่นหันมายิ้มให้ผม ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวเช่นเดิม ผมขยี้หัวน้องเบาๆ  แล้วนั่งลงบนม้านั่งใกล้ปิ่น

“น้าสาวไปแล้วเหรอครับ?”

“ไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”  ปิ่นยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบเด็กๆ ทั้งสีหน้าและแววตา  น่าเสียดาย....ที่เวลาปิ่นเหลือน้อยเต็มที 

“วันนี้น้าสาวบอกว่าต้องไปเซ็นต์เอกสารของบริษัทที่สระบุรีหน่ะค่ะ  วันนี้คงกลับค่ำๆ”  แววตาน้องหม่นลงนิด แต่ก็ยังพยายามยิ้มเจื่อนให้ผม


“เหงาเหรอครับ....ไม่เป็นไรนะวันนี้พี่ว่างจะอยู่เป็นเพื่อนเราทั้งวันเลย”  พูดเสร็จก็เกือบหลุดขำ กับท่าทีตื่นเต้นดีใจจนเกินเหตุนั่น
“จริงเหรอคะ  โหพี่พาร์ทใจดีที่สุดเลย”  ปิ่นยิ้มแป้น  ดึงมือผมไปจับแน่น

“ทานอะไรรึยังหืม?”   ปิ่นส่ายหน้าเบาๆ  แทนคำตอบ

“หิวมั้ยคะ?  เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้ทาน” 

“ยังไม่หิวเลยค่ะ  อีกสักพักนะคะขอเวลาสักครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทานไม่ลงจริงๆ”  ปิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด  ผมพยักหน้ารับ 

นับวันอาการของปิ่นดูจะทรุดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการไม่อยากอาหาร อาจเป็นเพราะจิตใจของน้องที่เริ่มหดหู่ ผมว่าน้องรู้ดีว่าตอนนี้

สภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างไร  ผมถอนหายใจบางๆ ด้วยความเป็นห่วง  แต่อย่างน้อย....รอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้านี่ก็ยังแสดงให้เห็นว่า

ปิ่นยังมีความสุขอยู่บ้าง  ผมเข็นรถปิ่นเดินใต้ร่มเงาของต้นไทรไปเรื่อย ๆ เราผลัดกันเล่าเรื่องราวต่างๆ ของหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาสู่กันฟัง

คำถามที่ช่างสงสัย  เสียงหัวเราะที่เล็ดรอดจากปากเล็กๆ ของน้อง หรือแม้แต่รอยยิ้มจางๆ จากริมฝีปากคนตรงหน้า 

“พี่พาร์ทคะ?”

“ว่า?”

“หิวอ่ะ”  ปิ่นหันมาพูดอ้อน ๆ เหมือนเด็กๆ ใบหน้าย่นยู่เข้าหากัน แก้มพองลม  มือลูบท้องตัวเองป้อยๆ ผมหลุดขำเบาๆ

“ครับ  ป่ะไปทานข้าวกัน”  ผมเข็นรถปิ่นกลับมาที่ตึกแวะอาหารที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แล้วค่อยพาปิ่นกลับมายังห้องพัก

ผมค่อยๆ อุ้มปิ่นให้นอนลงบนเตียง แม้อีกฝ่ายจะร้องห้ามเสียงหลง ผมก็ไม่ใส่ใจ  ร่างกายของปิ่นเบาโหวงจนน่าใจหาย ไม่ว่าแขน ขา

หรือลำตัว ไม่รู้สึกถึงความนุ่นหยุ่นแบบคนที่มีเนื้อหนัง น้องผอมบางจนแทบเป็นหนังหุ้มกระดูก  ผลจากการไม่ยอมทานอาหารเป็น

เวลานาน  หลายเดือนมานี่ น้าสาวเล่าให้ฟังว่า ปิ่นทานเข้ามื้อละสามถึงสี่ช้อนเท่านั้น แล้วร่างกายจะเอาสารอาหารที่ไหนมาบำรุงให้ร่างกาย

มันแข็งแรงได้  ถ้าถามว่าทำไมปิ่นยังมีชีวิตอยู่จนป่านนี้ คงต้องขอบคุณไอ้กระปุกสีใสๆ ที่แขวนอยู่บนราวเหล็กข้างเตียง ไม่ว่ายาหรืออาหาร


ปิ่นก็รับมันผ่านทางนี้เท่านั้น 

“ขอบคุณค่ะพี่”  ปิ่นยกมือไหว้  ผมยิ้ม   วางน้องแล้วน้ำตาแทบไหล หัวใจวาบโหวงอย่างบอกไม่ถูก ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ  เห็นปิ่นทำตาแดง

เหมือนจะร้องไห้  จ้องมองมาที่ผม แต่คลายกับว่าดวงตากลับเหม่อลอยไปถึงใครอีกคน

“ไม่เป็นไรๆ  พี่เต็มใจครับ  คิดถึงพ่อเหรอ?”   น้องพยักหน้าเบาๆ  จำได้ตอนเด็กก็มีปิ่นป่วนจนต้องเข้า ร.พ. ทีไร น้าเพิกก็จะเป็นคนอุ้มน้อง


ขึ้นลงเตียงทุกครั้ง  ผมปรับเตียงให้สูงขึ้นเพื่อให้น้องนั่งได้ถนัด  แล้วเปิดทีวี ปิ่นหันไปมองทันที ท่าทางสนอกสนใจ  ไม่ได้ออกไปข้างนอก

นานแค่ไหนแล้ว.....ไม่อยากจะคิด  ถ้าเป็นผมจะทนไหวไหม ....จะสู้ไหวรึเปล่าที่ต้องเจอกับโรคที่รุมเร้า ต้องเจอกับการสูญเสียคนอันเป็นที่รัก

ทั้งสองคนในคราวเดียว ต้องรับภาระเป็นผู้บริหารทันทีหลังจากพ่อแม่เสีย  อยู่อย่างไร้สิ่งยึดเหนี่ยวในการดำดงชีวิต  และสุดท้ายก็ถูกจำกัด

อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าโรงพยาบาลมานานหลายเดือน จนต้องมอบอำนาจให้น้าสาวเป็นผู้มีอำนาจในการกระทำการแทนทุกอย่าง

หยดน้ำตาน้อยๆ ไหลคลอนัยตาสวย  ปิ่นยกมือขึ้นเช็ดแผ่วเบา ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม  เพื่อที่จะบอกว่าไม่เป็นไร


“อย่ากังวลค่ะ   ปิ่นไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น  ที่มันกลั้นไม่ไหวเพราะบางส่วนของพี่พาร์ทมันคล้ายพ่อจนเกินไป มันเหมือนเมื่อกี้ไม่ใช่พี่พาร์ท

เหมือนกับว่า.....ฮึก.................................................................ยืนอยู่กับปิ่นตรงนี้” เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ปิ่นหลุดสะอื้น ริมฝีปากบางเม้มแน่น

หายใจลึกๆ อยู่ครู่ใหญ่ นัยตาไหวระริก ผมลูบผมน้องเบาๆ เพื่อปลอบใจ ก่อนที่ปิ่นจะค่อยๆ กลืนก้อนสะอื้นลงคอ  กระพริบตาปริบๆ ไล่

น้ำตาให้หายกลับไปด้านใน   ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอย่างเดิม   โชคดีที่ปิ่นเข็มแข็ง........มากกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก

.

.


“ก็อกๆ ก็อก อาหารมาส่งแล้วค่ะ” เสียงเคาะเชิงขออนุญาติหน้าห้อง ก่อนประตูจะถูกเปิดเข้ามา ถาดรถเข็นอาหารของพยาบาล

“โจ๊กหมู กับผัดกระเพราไก่+ไข่ดาวค่ะ เรียบร้อยนะคะ”  พยาบาลหยิบอาหารทั้งสองอย่างวางบนโต๊ะ ข้างๆ หัวเตียง

“ขอบคุณมากครับ”  ผมโค้งหัวน้อยๆ คุณพยาบาลถึงกับยิ้มหวาน ก่อนจะออกไป   

“ทานเลยมั้ยครับปิ่น” 

“ค่ะ”  ปิ่นยิ้มน้อย

“พี่ป้อนนะ” ผมยื่นมือไปจับผมที่ละใบหน้าน้องขึ้นทัดหู  ปิ่นเอียงอายเล็กน้อย  ผมตักโจ๊กร้อนๆ ขึ้นมาเป่า ยื่นไปตรงหน้าปิ่น


“อ้ามม”   ผมลากเสียงยาวแซว  ๆเหมือนป้อนเด็กตัวเล็ก  น้องยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก ส่ายหน้าขำ ๆ   แต่ก็ยอมอ้าปากทานข้าวแต่โดยดี

.
.

“ไม่ไหวแล้วค่ะ  ปิ่นอิ่มแล้ว”  น้องส่ายหน้าน้อยๆ  ผมหยิบชามโจ๊กไปวาง น่าดีใจที่น้องทานได้มากกว่าทุกวัน  ผมได้แต่นึกในใจอยากให้

รางวัลเด็กดี 

“ครับ งั้นพอแค่นี้นะ”   เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ พร้อมยาหลากหลายขนาดส่งให้ปิ่น  น้องยื่นมือมารับ

“ไม่เป็นไรคะ ปิ่นจัดการเอง พี่พาร์ททานเถอะค่ะ  เดี๋ยวจะเย็นชืดไม่อร่อย”  ผมพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะหันไปจัดการอาหารตรงหน้า


แค่ตักเข้าปากคำแรก...ทำไมถึงคิดถึงใครอีกคน  รสชาดอาหารที่อร่อย    และถ้าจะอร่อยกว่านี้ก็คงจะดีถ้ามีปัตอยู่ข้างผม

ค่อยๆ กลืน ทีละคำๆ ดูมันช่างยากลำบาก  ความคิดถึงมันบั่นทอนหัวใจผมเหลือเกิน  เงยหน้าหันไปสบตาปิ่น น้องยิ้มมาให้  ผมก็ยิ้ม

ตอบกลับไปบางๆ   ....พึ่งเข้าใจ   ว่ามันหนักหนาแค่ไหน.....กับการแค่กลืนอาหาร  สำหรับหัวใจ....ที่ยังรอคอยใครบางคน

“ไม่อร่อยเหรอคะ?”  ผมส่ายหน้าเบาๆ   หันไปก้มหน้าก้มตาทานต่อไป  พยายามจะลืม...ความรู้สึกเมื่อครู่ไป ปิ่นมีเรื่องให้เศร้ามากอยู่แล้ว

อย่าให้ผมเป็นอีกเหตุผลหนึ่งให้น้องรู้สึกหม่นหมองในจิตใจอีกเลย  ....             ในที่สุดก็หมดจนได้.... 

“ปิ่นอยากอาบน้ำ รบกวนพี่พาร์ทพยุงปิ่นลงได้มั้ยคะ?”   ปิ่นว่าเสียงเบา  ผมลุกขึ้นจะอุ้มน้องลง  แต่เจ้าตัวขัดขืน 


“แค่ช่วยพยุงก็พอค่ะ  ปิ่นไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย  แค่แรงน้อยไปนิดเดียวเอง”  น้องหันมาว่าค้อนๆ ผมทำตามโดยดี  ยิ้มกว้างไปให้

“ก็มันเร็วกว่านี่นา” 

“ไม่เป็นไรค่ะ  ช่วยปิ่นบ่อยๆ ก็เป็นง่อยพอดี”


“คร๊าบครับ  รับทราบๆ   ต่อไปจะปฏิบัติตามคำสั่งแต่โดยดีครับผ๊ม”  ผมยกมือขึ้นตะเบ๊ะ แซวๆ น้อง  ปิ่นตีเบาๆ ที่ไหล่ผม  น้องเคลื่อนตัว

ผมกำลังจะเอื้อมมือไปพยุง  ไอ้ตัวดีหยุดกึก หันมาชี้นิ้วชี้ที่หน้าผม

“อย่านะคะ  เมื่อกี้ปิ่นพึ่งบอกว่าไม่ได้เป็นง่อย  หึหึ”  ผมหน้าเหวอชะงักมือที่ยื่นไปค้างไว้  ก่อนจะหัวเราะฮากันยกใหญ่

“ปิ่นอาบน้ำไปก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปหากาแฟดื่มสักแก้วก่อน” 

“เชิญค่ะ”  น้องผายมือออก เหมือนบริกรที่กำลังเชิญแขกให้เข้าไปในร้านอาหาร  ผมโค้งตอบเล็กน้อย ก่อนตีเบาๆ ที่หน้าผากอีกฝ่าย


แล้วเดินออกมา  ...... จริงๆ ก็ไม่ค่อยจะอยากดื่มเท่าไหร่ ก็แค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น  ผมว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่จะอยู่กับน้องสองคนตอนน้องอาบน้ำ

คาดว่าอีกฝ่ายคงจะต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง  ปิดประตูเสร็จ ก็เดินมาที่เค้าเตอร์พยาบาลของชั้นนั้น  ฝากพยาบาลช่วยดูน้องให้  แล้วผมก็

ลงมาด้านล่าง  เมื่อไม่รู้จะทำอะไรเลยไปนั่งดื่มกาแฟสดในร้านภายในบริเวณใกล้ๆ กับโรงอาหาร  ไม่ถึงสิบห้านาที ผมก็กลับมาใต้ตึกที่ปิ่นพัก

อีกครั้ง สวนทางกับหมอที่รับผิดชอบน้องเลยทักทายสอบถามอาการของปิ่น

“สวัสดีครับคุณหมอ”


“อ้าว คุณพาร์ทสวัสดีครับ มาบ่อยเหมือนกันนะครับเนี่ย”

“ครับ ว่างๆ ก็มาเลย อาการน้องปิ่นเป็นอย่างไรบ้างครับ”

“พอจะมีเวลามั้ยครับ ผมว่าเชิญที่ห้องผมดีกว่า”  ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามคุณหมอไปติดๆ

“เชิญนั่งครับ”

“ขอบคุณครับ”  คุณหมอก้มลงค้นแฟ้มเอกสารอะไรบางอย่างก่อนจะบางมันลงบนโต๊ะ  ด้านหน้าระบุชื่อ นางสาวปิ่นอนงค์ เทพลักษณ์

“ขอบอกตรงๆ เลยนะครับ ตอนนี้มะเร็งลุกลามเร็วมาก มันเร็วเป็นสองเท่าจากช่วงที่แล้วผมได้เปลี่ยนยา แต่ร่างกายเธอไม่ตอบสนองกับยา

ทางเราได้ให้เคมีบำบัดไปแล้ว แต่ก็เสี่ยงมาก  คุณปิ่นเธอร่างกายอ่อนแอมาก แถมร่างกายเธอรับอาหารไม่ได้เลย”

“เดี๋ยวนะครับ....คุณหมอบอกว่าเธอไม่ทานอาหารเลย หมายความว่ายังไงครับเมื่อสักครู่ผมพึ่งทานข้าวพร้อมน้องไป”

“นั่นก็จริงครับ ...แต่หลังจากนั้นพยาบาลรายงานมาว่าเธอก็จะอาเจียรออกมา  เพราะร่างกายเริ่มไม่ยอมรับอาหารแล้ว ที่ยังทานข้าวคงเพื่อ

ให้ญาติๆ สบายใจ”  คุณหมอกล่าวด้วยน้ำเสียงติดจะกังวล

“แล้วเธอจะมีชีวิต.......เหลืออีกนานเท่าไหร่ครับ?”  ผมถามเสียงแผ่วเบา  น้ำเสียงขาดห้วง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอหนักๆ รู้สึกหัวใจทำงานหนัก

อย่างไม่รู้ตัว นั่งจ้องมองไปที่หมอ   

“ถ้ามะเร็งยังขยายตัวผิดปกติอย่างนี้   อย่างเร็วผมไม่ทราบ แต่ถ้าโชคดี อาจจะอยู่ได้ถึงปลายปีนี้ครับ”   ผมนิ่งอึ้งไป แค่หกเดือนเป็นอย่างมาก

มันช็อคซะจนผมทำหน้าไม่ถูก  เผลอขบกรามตัวเองแน่น  ก้มหน้าลงมองพื้นรู้หยาดน้ำตามันคลอหน่วยรอบดวงตา


“พ..พ่อผม...กับน้าสาวรู้เรื่องนี้รึเปล่าครับ”  ความรู้สึกจุกแน่นทั่วทั้งอก  เจ็บจนแทบทนไม่ไหว  น้อง...กำลังจะตายงั้นเหรอ

“ทราบแล้วครับ คุณพ่อคุณท่านให้ผมรายงานเป็นระยะ และรับเป็นเจ้าของไข้ ส่วนคุณสาวผมแจ้งคนแรกแล้วครับ  เวลาที่เหลืออยู่ผมอยากให้

ญาติหรือคนรู้จักช่วยทำให้เธอมีความสุข ที่สุดในตอนนี้”

“ผมพาเธอออกไปเที่ยวได้มั้ยครับ?”


“ได้ครับ แต่อย่าให้เธอออกกำลังมากจนเกินไป อย่าให้อยู่ในที่แออัด หนาวหรือร้อนจัด เพราะเธอเลือดน้อยอาจจะเป็นลมเอาง่ายๆ

ใช้ผ้าปิดปากด้วยก็จะดีมากครับ ผมไม่อยากให้เธอติดเชื้อเพิ่ม ”   เสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นพยาบาลมาตามคุณหมอให้ไปรักษาคนไข้

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” หมอค้อมศรีษะน้อยๆ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ 

“ครับ”  เรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน  อดใจหายไม่ได้.....  เดินออกจากห้องคุณหมอแล้วนั่งจุ้มปุกที่นั่งสำหรับรอเรียกตามคิว  ไม่อาจเผชิญหน้า

กับน้องด้วยความรู้สึกแบบนี้  ทำยังไง.....ปิ่นถึงจะมีความสุขนะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :เฮ้อ:


ไม่เข้าใจปัตเหมือนกัน ว่าทำไมต้องทำแบบนี้


หวังว่าพี่พาร์ทคงไม่คิดจะแต่งงานนะ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
แต่งก็ดีนะ สะใจะกะอะไรหลายอย่างดี

ออฟไลน์ mulli

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Special เก็บสบู่ ~แก้เครียด~



ขณะที่เรากำลังดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน  ผมหันไปมองว่าที่ผู้บริหารกำลังโยนสบู่ก้อน ฮะ...สบู่ก้อนที่ยังไม่แกกระทั่งกล่อง

พี่พาร์ทโยนสไลด์เลียดไปกับพื้น ก้อนแล้วก้อนเล่าโดยไม่มีทีท่าว่าจะเก็บ  ผมมองด้วยอาการมึนงง เมื่อสามวันที่แล้ว

ไปเหมาซื้อสบู่ก้อนเป็นโหลๆ เพื่อจะเอามาโอนเล่นแบบนี้เหรอ?

"พี่พาร์ททำอะไรฮะ"  พี่พาร์ทหันมายิ้มกว้างแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ขอเน้นนะฮะว่าเรียบเฉย ก่อนจะหันไป

ปฏิบัติการโยนสบู่ต่อ  เป็นวันที่สาม

"โยนสบู่ไง  เห้ย...ชนก้อนนั้นด้วย เจ๋งว่ะ"   พี่พาร์ทตบมือชื่นชมตัวเอง  โดยมีผมมองตามอย่างไม่เข้าใจ  จนก้อนสุดท้าย

โยนเสร็จหมดไปสองโหล พี่แกก็นั่งนิ่ง เปลี่ยนหันมาดูทีวีซะงั้น

"........"  ผมนั่งมองต่อไปว่าจะเก็บมั้ย

"จะไม่เก็บเหรอฮะ?"  ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม  เมื่อเห็นว่าพี่แกไม่ขยับผมเลยหันไปมองหน้า

"เก็บให้หน่อยสิ นะครับ"  พี่พาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกไปเำก็บ

.
.
.
ดูทีวีเสร็จผมกำลังจะไปอาบน้ำ ....  พี่พาร์ทเดินตามเข้ามา

"วันนี้อาบด้วยกันนะ"  พี่พาร์ทว่า

"ไม่เอาอ่ะครับพี่พาร์ทอาบช้า ปัตง่วงแล้ว" 

"นะครับๆ นะๆ วันนี้รับรองอาบไม่นานชัวร์"

"ก็ได้ฮะ"

การอาบน้ำดำเนินไปด้วยดี ....อาบน้ำเสร็จผมมายืนหน้ากระจกบานใหญ๋ในห้องน้ำ  พี่พาร์ทยืนซ้อนด้านหลัง

กำลังเช็ดผมให้กับผม   พลันสายตาก็เหลือไปเห็นสบู่อีกก้อนที่ยังไม่ได้แม้แต่แกะห่อพลาสติกออก  ผมส่ายหัวน้อยๆ

ด้วยสัญชาตญาณที่ถูกฝึกมาตลอดสามวัน  ผมก้มลงเก็บสบู่   หยิบมันขึ้นมา   แต่.....ผมเงยหน้าขึ้นไม่ได้

รู้สึกมีมือกดอยู่  ก่อนแท่งร้อนๆ ของอีกฝ่ายจะถูไถ กับร่องหวานของผม

"อ๊ะ"  พี่พาร์ทกดทีเดียวมิดด้าม ค่อยๆ ขยับสะโพกช้าๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 :a5:

พี่พาร์ท !!!!!!!!!



 :jul1:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
รู้เหตุผลแล้วว่าปัตทำแบบนั้นทำไม
แต่ปัตไม่สงสารพี่พาร์ทหรือตัวเองบ้างเหรอ
เราก็ดันไปโทษพ่อของพาร์ทซะได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
เฮ้อ จะสงสารปื่นหรืออะไรดีเนี่ย แง้ ปัต ทำไมทำแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พี่พาร์ทจะรู้ความจริงแง้ๆๆ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
อืมมมมมมม เก็บสบู่ อิพี่พาร์ทซื้อสบู่มายกโหลเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะซินะ

โดนอีกจนได้ลูกชั้น 555555555555555

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆ ตอนพิเศษยังไม่จบนะคะ  พอดีง่วงมาก เบลอๆ เลยกดลงไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็น จะมาลงต่อให้ครบ 100% ค่ะ

ขออภัยค่ะ  รับรอง แซ่บ----เว่อร์

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
หวังว่าพี่พาร์ทคงจะไม่แต่งงานหรอกนะ  :sad4:

ตอนพิเศษช่างน่ารักซะเหลือเกิน  :m1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยนะคะ มาช้าไปหน่อย   o18 o18 o18

ขอให้เพลิดเพลินกับตอนต่อของการเก็บสบู่นะคะ

 :impress2: :impress2: :impress2:



ต่อ~


"อึก......อ่าาาาา"   ไอ้ตัวเล็กเกร็งเครียดไปทั่วทั้งตัวเมื่อผมสอดใส่  สีหน้าเหยเกมองช้อนขึ้นมาจ้องผมตาเป็นมันจากด้านล่าง

ภายในบีบรัดแน่น  ...  จนน้ำผมแทบแตกเลยต้องหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวผ่านช่องหวานด้านหลังเพื่อให้น้องได้ปรับตัว 

แล้วเปลี่ยนมาโอ้โลมไอ้ตัวเล็กให้คล้อยตามกิจกรรมรักสุดหรรษาไปด้วยกัน  ปล่อยมือที่กดตัวน้องไว้

เปลี่ยนมาเป็นรั้งไอ้ตัวเล็กให้มาเกาะพื้นที่ว่างข้างอ่างล้างหน้า  ซุกจมูกคมสูดดมซอกคอหอม ไล่ขบไปทั่วลำคอขาว

ดูดดุนแรงๆ จนรอยแดงเป็นจ้ำๆ โชว์หรา ขบเบาๆ ที่ไหปลาร้าแล้วดูดดุนไปอีกที  แล้วเปลี่ยนเป็นลากลิ้นไล้เลีย

ตั้งแต่ไหปลาร้ายันใบหู  สอดลิ้นแยงจนทั่วทิ้งท้ายด้วยการดูดติ่งหู  ไอ้ตัวเล็กครางหวีดหวิวขาอ่อนยวบจนผมต้องรั้งเอวเอาไว้

“อื๊อออออออ  พ...พี่พาร์ท  อ่าาาาา~”     

มืออีกข้างนวดเฟ้นอยู่บนเม็ดสีชมพูหวาน ที่ตอนนี้แข็งเป็นไตสู้มือ ละมือออกแล้วเลื่อนสอดเข้าใต้คางดันให้หันมารับจูบจากผม

แทรกลิ้นร้อน ๆ ควานหาความหวาน ไล่ต้อนลิ้นเรียว ..ที่ตอนนี้หันมาตวัดเกี่ยวลิ้นผมตอบ จนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

รู้แต่ว่าหวาน...จนซาบซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน   เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ........ 

ผมผละริมฝีปากออก ต่างฝ่ายต่างหายใจหอบถี่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

ดวงตาเยิ้มหวานชวนให้ทำรัก    ผมกระตุกยิ้มนิดๆ ......   ชื่นชมกับผลงานตรงหน้า   ปล่อยมือที่จับปลายคางมน

ค่อยลากมือลงต่ำ ไล้สัมผัสแผ่วเบาผ่าน ลำคอ หน้าอก ท้องน้อง จนกระทั่งถึง..........แก่นกายร้อนๆ กึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย

บดขยี้ส่วนหัวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น  ขณะที่ริมฝีปากก็จูบซับที่ไหล่ลาด ขบกัด ดูดดุน ให้หวั่นไหว  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน

ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่าน  ทิ้งตัวพิงมาด้านหลัง ผมกระชับมือที่โอบรอบเอวไว้ตอนแรกให้แน่นขึ้น  ส่วนมืออีกข้าง

ขยับรูดรั้งรวดเร็ว จนไอ้ตัวเล็กเผลอจิกมือแรงๆ ที่ต้นขาผม  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สะโพกหวานขยับเคลื่อนไปตามแรงมือ

“อ๊ะ  อ่าาาาาา  พ...พี่พาร์ททททททททท”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก พ่นน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักออกมาเต็มมือ  ทิ้งตัวหมดแรงอยู่ใน

อ้อมกอดผม  หายใจหอบกระเส่า  ผมจับน้องให้พิงตัวไปด้านหน้า  กดจูบซับเหงื่อทั้งลำคำและใบหน้า สอดมือจับปลายคางอีกฝ่าย

ให้หันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก

“ปัต...ดูสิว่าปัตเซ็กซี่ขนาดไหน ”  ผมกระซิบเสียงพร่าเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา  ใบหน้าน้องแดงซ่านที่ลามเลียไปถึงใบหู

นัยตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความหวาน จากกิจกรรมรักเมื่อครู่   ริมฝีปากแดงจัดบวมเจ่อ อกบางกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ

สะโพกกลมกลึงเหมาะมือ  ขาเรียวขาว  ปัตน้อยก็มีขนบางนุ่มมือ บอกผมทีได้ไหม.....จะมีส่วนไหนที่ไม่เซ็กซี่เร้าใจผมบ้าง 
 
“แล้วยังงี้...จะห้ามไม่ให้พี่ทำบ่อยๆ ได้ยังไง   ดูนะครับ ปัตดูนะ  ว่าเวลาพี่รักปัตแล้วปัตน่า  -ทำรัก-  ขนาดไหน”  ผมกระซิบ

ข้างหู สายตาโลมเลียทั่วทั้งตัวน้องผ่านกระจกเงาด้านหน้า   ดันไหล่น้องให้แนบกับพื้นมากขึ้น จากนั้นจับสะโพกหวานไว้มั่น

สาวลำออกจนเกือบสุดอย่างเชื่องช้า แล้วกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรง จนน้องตัวโยกคอน เรียกความเสียวซ่าน

จนสะโพกหวานแอ่นเข้าหาเพื่อรับสัมผัส ซ้ำๆ ก่อนกระหน่ำแทง ทั้งเร็วทั้งรัว  เร่งจังรักให้ร้อนดั่งเปลวไฟ ที่ทั้งเร่าร้อน และหวาบหวาม

“อ๊ะ  ...อ๊ะ.....อ๊าาาาาาาาาา”   ไอ้ตัวเล็กกรีดเสียงหลับตาปี๋   

“อืมมม  ปัต....อย่าห..ลั.บ....ตา...ครับที่รัก   ดูเร..า  รักกันสิครับ  อ่าาาาาา”    น้ำเสียงขาดห้วง

“อื๊อออออออ  พ...พี่...พี่พาร์ททททท”

“เยี่ยม  ...ที่รัก มองพี่นะครับ  อือออออออ” 

“อ๊ะ อ๊า  ระ..เร็ว...  ไม่.....ไหวแล้ว . อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.”  ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยลาวาร้อนอีกครั้ง

ใบหน้าขาวร้อนผ่าว  ริมฝีปากแดงซ่านน่ากดจูบกำลังเผยอน้อย ๆ เพราะหอบเหนื่อย  อ่า~  ไม่ไหวแล้ว

แถมช่องด้านหลังที่บีบรัด...............   ทำผมอดใจไม่ไหว กระแทกต่อเน้นๆ  เสียงดัง ป๊าบๆๆ ดังต่อเนื่อง 

ร่างกายผมเกร็งกระตุก ........ค่อยๆ ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าตัวน้อง  สองแขนโอบรัดน้องจนแน่นตรึง

ทิ้งตัวพิงทาบทับตัวน้องไม่ได้ถอมแก่นกายออก มา  .......  ตาสบตากัน.ผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า

........แล้วส่งยิ้มให้กันและกัน.............................. อบอุ่นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่ไม่มีวันแยกจาก

“รักปัตนะครับ.....ที่รัก”   ผมกดจูบแก้มหอมเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  หัวเราะคิกคัก .....แล้วเบนสายตาหนีผมแล้วหันกลับมาใหม่

สบตาผมในกระจก  ก่อนจะหลบเปลือกตาลงต่ำ  อมยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแทบปริ  แล้วเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง

ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัด~  ใกล้เคียงกับลูกตำลึง  ทำผมอมยิ้มไปด้วยจ้องมองกิริยาอาการของคนตรงหน้า

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาสบตาผมตรง  เอียงหน้าแล้วกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม  ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

โน้มตัวไปกระซิบประโยคสุดท้ายที่ข้างหู.......ที่ทำเอาอีกฝ่ายตะลึงจนน่าขำ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ขออีกทีนะ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2012 20:03:53 โดย Tassanee »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ตอนปัจจุบันหดหู่  :z3: :z3:

ตอนพิเศษเลือดท่วม  :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ lollipopz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
อ่านรวดเดียวจบแล้ววววววว เย่ๆ
ตอนแรกหวานเว่อร์ ทำไมตอนนี้ดราม่าน้ำตาท่วมจอ  :o8:
รออ่านตอนต่อไปงับ ค้างอย่างแรง

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

:E-pro P-at:

  • บุคคลทั่วไป
~เก็บสบู่...ถูหลัง!!!เฮื้อกกก!!o_O!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยนะคะ  ยังไม่อยากเขียนต่อ ง่ะ

...  แบบว่าเขียนเองก็เครียดเองอ่ะค่ะ  ตอนนี้เลยเครียดๆ

ขออภัยที่ำทำค้าง  ขอทำใจ  อาจจะแบบส่งตอนพิเศษมาเรื่อยๆ ก่อนนะคะ

แต่จะแต่งต่อไวๆ   หรือใครอยากถามตัวละครตัวไหนของเรื่องลองถามมานะคะ

จะตามเค้ามาตอบให้ 

-------------------------------------------------  ขอโทษฮับ  (กราบงามๆ )

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
สบู่  ยี่ห้ออะไรคะ
เก็บแล้วเลือดท่วมห้องน้ำ :jul1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยนะคะ หายหน้าไปนานไปหน่อย  แต่งไม่ออกจริงๆ  :sad4: :sad4: :sad4:
 คือแก้หลายรอบมาก   :serius2: :serius2:
เพราะอ่านแล้วมันไม่ใช่อย่างที่ต้องการจะสื่อ    ผ่านตอนนี้ไปน่าจะไม่หายไปนาน ค่ะ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:   อย่าลืมให้กำลังใจกันบ้างนะคะ  เค้าขอร้อง   o22 :laugh: :3123:




Unit...31 
 
 
 
"คุณพาร์ทออกไปแล้วครับ"

"ขอบคุณครับลุง"  ผมวางสายจากลุงยามลง   คราวนั้นหลังจากให้ค่าจ้างเล็กน้อย เป็นสินน้ำใจตอบแทน ไม่ใช่ว่าแกเรียกร้องหรอกครับ

แต่ผมเกรงใจ  ที่จะให้แกโทรแจ้งว่าพี่พาร์ทออกจากห้อง หรือกลับมาแล้ว  ก็เฉพาะวันที่ผมจะเข้าไปเท่านั้น

.

.

 


"มีปัญหากันเหรอครับ?"  ลุงยามถามผม เมื่อครั้งที่กลับมาแล้วขอให้โทรบอกเวลาที่พาร์ทไม่อยู่

"นิดหน่อยครับ ไม่ได้มากอะไร คือผมต้องย้ายไปอยู่ข้างนอก แต่ก็อยากเข้ามาทำความสะอาด ดูแลความเรียบร้อยให้บ้างนะครับ

พี่พาร์ททำงานยุ่งไม่ค่อยมีเวลา"


"แล้วทำไมคุณปัตไม่อยู่ที่นี่เหมือนเดิมหล่ะครับ?" ผมเงียบไปพักหนึ่ง .... รู้สึกหัวใจหล่นวูบทำตัวไม่ค่อยถูกทุกทีที่เจอคำถามนี้

“...................”    คิดอยู่ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง  สุดท้ายก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ

"ไม่สะดวกฮะ ....ปัตได้งานที่ไกลจากที่นี่มาก  ให้ไปกลับทุกวันไม่ไหว พอออกไปแล้วก็เป็นห่วงพี่พาร์ทน่ะครับ เลยต้องกลับมาบ้าง

ถ้าปัตบอกว่าจะมาพี่พาร์ทคงไม่ได้ไปทำธุระอีก ผมเลยไม่อยากบอก เดี๋ยวจัดห้องนิดๆ หน่อย ๆ ก็จะกลับแล้วฮะ"  ผมตอบ

พยายามให้น้ำเสียงราบเรียบที่สุด ซ่อนสายตาที่มันพาใจสั่นไหวตั้งแต่แรกไม่ใครใครสังเกตเห็น

"ก็ได้ครับลุงจะช่วย เห็นแก่ว่าคุณปัตเป็นเด็กดีมาตลอดนะครับ" ลุงยามว่า   


"ขอบคุณมากนะครับลุง"  ผมยกมือไหว้ พร้อมกับแบงก์สีเทาใส่มือให้ลุงยาม แม้ลุงจะปฏิเสธว่ามากเกินไป แต่ผมก็คะยั้นคะยอจนสำเร็จ

.

.

 

แผนการนี้พ่อกับพี่ภีมรู้ดี .... ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาพ่อ  เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังพร้อมการตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องปิดบังในเมื่อพ่อเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

“ปัตแน่ใจแล้วเหรอลูกที่เราจะทำอย่างนี้?  ถึงพ่อเองจะเห็นด้วย  แต่ปัตรู้ใช่ไหมว่าเราเองจะเจ็บ? จะไม่เสียใจทีหลังแน่ใช่ใหม?”


“ครับ...ปัตตัดสินใจแล้ว  อย่างน้อยผมก็อยากให้พี่ปิ่นมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลืออยู่” ผมมองตอบพ่อ ด้วยแววตาที่ขมขื่น

แม้มันจะต้องเศร้าสักเพียงไหน  อย่างน้อย..... ก็ยังพอมีที่เหลือให้ผมยืนอยู่บ้าง  ที่สำคัญ .....มันพอที่จะเหลือให้พี่ปิ่นยืน

“ข..ขอบใจมากลูก ...พ่อ....ขอ..บใจแทนปิ่นด้วย”  พ่อว่าเสียงเคลือดึงผมไปกอดแน่น ๆ  ผมกอดตอบซุกหน้าเข้าหาอกกว้าง

ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอบ้างจะเป็นไรไหม  เพราะมันเกินที่ผมจะกลั้นไหว  น้ำตาค่อยไหลซึมออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำ  ห้ามไม่อยู่

พ่อลูบหัวผมเบาๆ เพื่อปลอบใจ  เรากอดกันนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นเนิ่นนานก่อนจะผละออก

.

.

“ปัตขออะไรอย่างได้มั้ยครับ...แค่อย่างเดียวก็เกินพอ” ผมเอ่ยเสียงแผ่ว  มันมองหน้าใครไม่ไหว รู้สึกเจ็บร้าวไปถึงลิ้นปี่ ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น

กับคำขอสุดท้าย  ....  เพียงเท่านี้ที่จะเป็นความสุขของผม   สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เดินก้าวต่อไปข้างหน้าไหว ในฐานะ “ไม่ใช่คนรัก”

.

.

.

“ขอให้ปัตได้ดูแลพี่พาร์ทนะฮะ ยังไงก็ได้ไม่ต้องเจอก็ได้ แต่ขอ...ให้ปัตเป็นส่วนหนึ่งที่จะดูแลพี่พาร์ท  แค่นั้นได้มั้ยฮะ?” เหมือนเสียงคำอ้อนวอน

ผมเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาอบอุ่นของพ่อที่ยังมองมาที่ผมด้วยท่าทีที่ห่วงใย มือหนาๆ ลูบมาเบาที่หัวผม

“ได้สิปัต ....ได้อยู่แล้วลูก   ขอบใจปัตมากนะลูก”   พ่อยิ้มน้ำตาคลอหน่วย    ....  ผมยิ้มตอบทั้งที่น้ำตามันล้นอาบแก้ม 

.

.

กลับมาถึงหอเมื่อไหร่ไม่รู้.... สองขาที่พาก้าวเดินมาเรื่อยๆ ไม่รู้จะไปไหนสุดท้ายก็มาหาไอ้เบียร์  เคาะประตูอยู่สี่ห้าครั้ง ประตูตรงหน้า

ก็เปิดออก พร้อมใบหน้าที่ดูแปลกใจจนน่าใจหาย  เบียร์เอื้อมมือมาดึงผมเข้าไปกอดแน่น.....พร้อมกับเสียงเรียกชื่อให้สติผมกลับมา

“ปัต.......”    ไอ้เบียร์ดึงประตูปิด  แล้วทิ้งตัวให้ด้านหลังพิงผนัง ส่วนด้านหน้าปล่อยให้ผมได้พึ่งพิงต่อไป ไม่มีคำพูดใด มันปล่อยให้ผม

ร้องไห้เงียบๆ อยู่อย่างนั้น  ทำแค่กระชับกอด และลูบมือหนาๆ ที่หัวผมอย่างปลอบโยน

“มึงไหวไหม  ถ้าไม่ไหว.....ก็พอเถอะวะ  ถ้าพี่เค้าจะตายมันก็ไม่ใช่ความผิดมึง  ไม่จำเป็นที่มึงจะต้องรับผิดชอบชีวิตใคร  กุไม่อยากเห็น

มึงเจ็บแบบนี้”  น้ำเสียงอบอุ่นที่ลอยอยู่ใกล้ๆ หูไม่ห่าง  หากแต่สิ่งที่มันพูดเมื่อกี้มันได้ผ่านการตัดสินใจผมมาแล้ว  ผมส่ายหน้าช้าๆ

“คนจะตายทั้งคนนะเว่ย   ... มึงจะให้กุมองเฉยๆ อย่างนั้นเหรอวะ  ความสุขในช่วงเวลาที่เหลือไม่เท่าไหร่... มึงจะมองเฉยๆ จริงๆน่ะ เหรอ”

ผมเอ่ยถามเสียงแผ่ว  ไม่รู้ว่าเสียงตัวเองหายไปไหน ถึงแทบไม่ได้ยินเสียงที่เปล่งออกมา

“แต่มึงเจ็บนะปัต  มึงเจ็บ”  ไอ้เบียร์พูดปลอบ  ผมพยักหน้ายอมรับกับอกมัน  ปล่อยให้ความอ่อนแอที่แปลเปลี่ยนเป็นน้ำตา ค่อยๆ ไหลผ่านม่านตาออกมาเงียบๆ

“อือ.....กุเจ็บ  เบียร์...กุเจ็บ  แต่กุ...................ยังไม่ตาย”

.

.

.

ผมก้าวมายืนหน้าห้องหลังจากเจ้าของห้องออกไปไม่นาน   ไขกุญแจก้าวเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่ไม่ได้มา  ......ราวกับผมห่างหาย

ไปแสนนาน คิดถึง....จนอยากจะเดินเข้าไปกอดทุกอย่าง กลิ่นอายของพี่พาร์ทยังลอยกรุ่นอยู่ทุกอณุของห้อง  ภาพเก่าๆ ทับซ้อนไปมา

ภาพผมกับพี่พาร์ทนั่งทานข้าว นั่งดูทีวี  เล่นเกมส์ ทำงาน  หยอกล้อ  หรือแม้แต่ .......ภาพที่เราทำรักกัน ได้แต่เม้มปากแน่น   

เพราะผมตัดสินใจแล้ว.......ถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้น  ความอบอุ่นในดวงตาพี่พาร์ททุกครั้งที่มองกลับมา  มีความสุขแทบล้นเอ่อ

คิดถึง.....แทบจะทนไม่ไหว    แต่......ก็ต้องทนให้ไหว  .สภาพห้องตอนนี้แม้จะแตกต่างจากเดิมมากเพียงใด ข้าวของกระจัดกระจายระเกะระกะ

แฟ้มเอกสารหลายแฟ้มยังเปิดอ้าค้างไว้บนโต๊ะทำงาน ณ มุมหนึ่งของห้อง เสื้อผ้าที่ถูกใช้แล้ววางพาดบนโซฟา 3-4 ชุด  เครื่องใช้ทุกอย่าง

ถูกวางอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของมัน   ยกเว้น......เครื่องครัว  ที่ดูเหมือนไม่มีใครแตะต้องสัมผัสมันตั้งแต่ผมจากไป พี่พาร์ทไม่ใช่คนแบบนี้ 

แบบที่จะทิ้งทุกอย่างในห้องให้รกรุงรัง  ออกจะเจ้าระเบียบนิดๆ เสียงที่ดุเวลาผมไม่เก็บของแม้จะน้อยครั้ง แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าอีกฝ่าย

ใส่ใจต่อการดูแลห้องหับขนาดไหน  ผมหยิบเสื้อผ้าหลายชุดที่พาดอยู่โซฟาขึ้นกอดเบาๆ สูดดมกลิ่นกายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนจะลอบยิ้มน้อยๆ

“คิดถึงพี่พาร์ทนะครับ”  ผมเอ่ยเสียงแผ่ว ราวกับพี่พาร์ทมีตัวตนอยู่ตรงนี้  ลูบไล้เบาๆ สักพักก็เอาเข้าไปเก็บใส่ตระกล้าผ้าในห้องนอน

นั่งลงบนเตียง.....ที่เคยอบอุ่นขนาดไหนตอนที่เราเคยนอนกอดกัน  ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ไล้มือไปทั่วบริเวณที่เคยเป็นของผม

ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นในตอนเช้า จะมีพี่พาร์ทที่ยังหลับตาพริ้ม เพียงผมแตะบางเบาที่ใบหน้าอีกฝ่ายมักจะตื่นอย่างง่ายดาย 

ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาที่ผมทั้งที่ดวงตาปรือแทบหลับ กุมมือผมแน่นๆ ก่อนจะจับมันวางทาบที่แก้มของตัวเอง แล้วหันมาสบตาผมนิ่งๆ 

“รักปัตนะ”   คำพูดสั้น ๆ ที่ทำเอาผมอายม้วนไม่เป็นท่า  ได้แต่ยิ้มแก้มแทบปริแตก  ใบหน้าร้อนผ่าวเสียจนคิดว่าน่าจะกลายเป็นลูกตำลึงสุก

“ปัตก็...รักพี่พาร์ทฮะ” ผมกระซิบเสียงแผ่ว บอกอีกฝ่ายให้ได้เข้าใจ  ว่าไม่ได้เป็นอยู่ฝ่ายเดียวซะหน่อย  เป็นภาพที่ดูดีเหลือเกินสำหรับผม

พี่พาร์ทมักจะดึงผมไปกอด จูบเบาๆ ที่หน้าผาก และพยายามจะสานต่อจากจูบ โดยมีผมที่ขัดขืน และชิ่งหนีก่อนเสมอ ภาพต่างๆ ดับวูบลง

ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอหนักๆ...  ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่  สะบัดหัวสองสามทีกลับเรียกสติกลับมาคืนมา  ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งเหม่อ

ผมควรจะจัดการกับทุกอย่างตรงหน้าให้เรียบร้อย  ก่อนที่.........เจ้าของหัวใจผมจะกลับมา   ผมเริ่มลงมือจัดการทุกอย่างตรงหน้า

เปลี่ยนผ้าคลุมเตียง ปอกหมอน สะบัดผ้าห่มคลุมทับอีกที    เก็บแฟ้มให้เข้าที่โดยไม่ลืมใส่ที่คั่นหนังสือแล้วเอาคลิปลวดหนีบไว้เพื่อให้ง่าย

ต่อการเปิดหาหน้าที่เปิดค้างอยู่ในครั้งถัดไป เห็นพี่พาร์ททำบ่อยๆ เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้าที่  เดินไปหุงเข้าทิ้งไว้ ก่อนจะเริ่มปัดฝุ่น ดูดฝุ่น เช็ดถู

ทำความสะอาดห้องน้ำ จนทุกอย่างน่าจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยสมบูรณ์แบบ   แบบที่.....ผมเคยอยู่กับพี่พาร์ท   ก้มดูเวลาอีกที

ผ่านไปเกือบ ๆ สามชั่วโมงแล้ว  พอเปิดดูตู้เย็นออกก็เกือบสะอึก เห็นแต่เบียร์กระป๋องแช่อยู่เต็มตู้  ไม่มีอาหารที่พอจะทำกับข้าวได้

นอกจากไข่ไก่หลายฟองเท่านั้น  ผมส่ายหัวเบาๆ น้ำตาพาลจะไหล เพราะผมเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้สินะ  กัดปากตัวเองแน่นๆ

สุดท้ายก็ตัดสินใจลงไปร้านชั้นล่างคอนโดที่มีของสดขาย  รวมถึงพืชผักเล็กน้อย  แม้จะไม่กี่อย่าง  แต่อย่างน้อยก็พอจะมีอะไรให้เลือกมากขึ้น

ผมเลือกจะซื้อไก่ กับใบกระเพรา กระเทียมด้านบนยังพอมีอยู่ หมูอีกสักแพ็ค  คราวหน้าเห็นทีจะต้องซื้อเข้ามาก่อน   

วันนี้คงทำได้แค่กระเพราไก่ กับไข่เจียวหมูสับ  เผื่อพี่พาร์ทกลับมาหิวๆ จะได้มีอะไรทาน  พี่ภีมคงโทรบอกพี่พาร์ทไว้แล้วว่า

แม่บ้านจะมาทำความสะอาดให้ และทำอาหารเย็นให้ด้วย  ที่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ผมมีเงินอะไรหนักหนา  แต่พี่ภีมเสนอให้ผมรับเงินเดือน

จากพี่พาร์ท  โดยพี่ภีมจะเป็นคนจัดการให้  อย่างน้อยก็ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายจิปาถะที่จำเป็นต้องซื้อ  แม้จะปฏิเสธในตอนแรก 

แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนท์ต่อเหตุผลทั้งหลายของพี่ภีม

“ปัตยังไม่ได้งานไม่ใช่เหรอ  รับไว้เถอะที่ที่เราพักกับคอนโดพาร์ทก็ไกลกันเยอะ อย่างน้อยก็รับเงินนี่ไว้ให้พี่ได้สบายใจ

ว่าไม่ได้เอาเปรียบเรานะ”   พี่ภีมตั้งข้อแม้ไว้  ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมช่วยให้ผมได้เข้ามาดูแลพี่พาร์ท   ด้วยเหตุผลนี้ผมก็ต้องยอมรับ

โดยดุษฏี   ผมกลับขึ้นมาบนห้อง เร่งมือทำกับข้าวให้ไวที่สุด  ถึงปกติพี่พาร์ทจะกลับช้ากว่านี้  แต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง  เร่งทำอยู่ครึ่งชั่วโมง

ก็เสร็จสิ้นทั้งอาหาร และจานชามกะทะที่ต้องล้างทำความสะอาด  สะพายกระเป๋าตัวเอง เดินสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งทุกอย่างโอเค

จนกระทั่งมาถึงห้องนอน  ภาพเก่าๆ ฉายวนอีกครั้งเมื่อหน้าที่ทำความสะอาดเสร็จสิ้น เสียงกระซิบบอกรัก หรือแม้แต่ภาพ “ทำรัก”

ที่แสนรันจวนใจ ทุกท่วงท่าที่ตอบสนองกันและกัน ความอุ่นซ่านบนพื้นเตียง  เสียงครางหวาน...ที่แสนสุขสม   ความสุขที่เอ่อล้น 

ผ่านเมือกน้ำสีข่าวขุ่น  เสียงหอบเหนื่อย หยาดเหงื่อที่หลั่งรินรดกัน  บ้าจริง.........คิดถึงมันเหลือเกิน    ทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่มนิ่ม

สูดดมกลิ่นหอมของปอกหมอนและผ้าห่ม  ยามที่เราทำรักกัน กลิ่นหอมนี่กลับลอยกรุ่นมากระทบจมูก  เพราะมักจะเป็นผม

ที่จะคุกเข่าคลานสี่ขา  คว่ำหน้าลงแนบกับหมอน ส่งเสียงครางกระเส่า เมื่ออีกคนซ้อนตัวอยู่ด้านหลัง มือแข็งแรงจับมั่นที่สะโพกผม

พร้อมแรงย้ำถี่ ๆ  กระแทกเข้ามาซ้ำๆ จนผมตัวโยกคอน  ริมฝีปากหนาและลิ้นร้อนๆ ที่กดจูบดูดซับ กัด เลียทั่วแผ่นหลัง 

จนผมครางสะบัด   แอ่นสะโพกหวานรับ แรงส่งจากสะโพกหนาๆ ของอีกฝ่าย ที่แทบจะกลืนกินความเป็นตัวตนผมทั้งตัว ให้เลือนหาย

เหลือเพียงสภาพที่ล่องล่อยเบาหวิวอยู่กลางอากาศ แล้วกระชากกลับล่วงลงสู่ที่ต่ำ ก่อนจะชักนำขึ้นสู่ที่สูงอีกครั้ง ซ้ำๆ ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

จนร่างกายต้องปลดปล่อยความเสียวซ่านเปรอะเปื้อน  บนมือฝ่ามือหนาที่ไล้มากอบกุมแกนกลางของผม  หอบครางทิ้งตัวหมอบลงกับ


พื้นเตียง ขณะที่อีกฝ่ายครางต่ำ กระแทกกระทั้นต่อเนื่องหนัก ๆ อย่างฉุดอารมณ์ไม่อยู่ เพียงชั่วครู่ผมก็รู้สัมผัสถึงความอุ่นซ่านของของเหลว

ที่พวยพุ่งเข้ามาในตัวผม  พี่พาร์ทกัดเบาๆ ที่ไหล่  ร่างกายเกร็งกระตุกสองสามขยัก ก่อนจะทิ้งตัวนอนอยู่ข้างกัน  ด้านล่างยังขยับเบาๆ

อย่างหยอกเย้า จนผมต้องตีศอกกระแทกหน้าท้องแข็งแรงนั่นเบาๆ  อีกฝ่ายกลับหัวเราะขำๆ  กระซิบกระซ่าบให้ผมม้วนตัวซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม

“น่าเอาอีกรอบชะมัด ”   มือแข็งแรงนวดเฟ้นอยู่ที่แก้มก้นของผม  ก่อนจะกระชับมือจับแน่นๆ แล้วเริ่มขยับช่วงล่างอีกครั้ง

.

.

.
“อ๊าาาาาาาาาา.....”  ผมครางเสียงกระเส่า มือรูดรั้งอยู่กลางลำตัวเร็วๆ อีกสองสามที  ก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีข่าวขุ่น พร้อมกับทิ้งตัวลงกับพื้น

นอนหอบหายใจลงกับพื้นเตียง


“แกร๊ก....”   ผมสะดุ้งสุดตัว  แย่แล้ว....พี่พาร์ทกลับมาแล้ว  รีบปิดซิปกางเกง กลิ้งตัวลงไปซ่อนใต้เตียง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2012 23:05:42 โดย Tassanee »

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
เย้ๆ มาต่อแล้ว

ออฟไลน์ sayhi11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-1
เหมือนมันจะค้างเลยค่ะ
เรารอตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ KaeM_PonG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
กะลังลุ้นเลยยยย

 :sad4: :sad4: :sad4:


รอตอนต่อไปนะค่ะ

 :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มันค้างอ่ะค่ะ

พี่พาร์ทจะจับได้ไหมน้า ลุ้นๆ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
รออีกนิดนะคะ  เดี่ยวมาต่อ กำลังแต่งอยู่ หุหุหุ


ไม่รู้มีอาถรรพ์ อะไรวันนี้ลองโพส์  ตอบคำถามพี่พาร์ทในช่วงตอนเก็บสบู่เป็นรอบที่ห้าแล้ว  เน็ตหลุดตลอด
ฉะนั้นเรื่องเก็บสบู่ไม่ตอบแหล่ะ  อาถรรพ์แรงมากค่ะ 
ฮือ ๆๆๆๆๆๆๆๆ  ร้องไห้ ตอบมาตั้งห้ารอบแล้ว โพสไม่ผ่านสักที

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ปัตดีเวอร์อะ แต่ดีเกินไปจนทำร้ายคนรักแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ  :m8:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงถามมา-ตอบไป พี่พาร์ท (เก็บสบู่)

Yeyong >>  สบู่  ยี่ห้ออะไรคะ  เก็บแล้วเลือดท่วมห้องน้ำ ??
น้องปัต >>  อ๊ากกกกกกกกกกกกก    ถามทำไมคร๊าบบบบบ   
พี่พาร์ท >>   (ยกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ ส่วนน้องปัตตอนนี้วิ่งหนีไปซ่อนตัวในห้องนอนแล้ว)   สบู่ยี่ห้ออะไรน่ะเหรอครับ ก็คงจะเป็นยี่ห้อ “ทำรัก” สิครับ
น้องปัต >>   พี่พาร์ทททททททททททททททท   บ้า!!  ปัง!! (ปิดประตูห้องนอนใส่ผมซะงั้น)
พี่พาร์ท >>   อ้าวไม่ใช่เหรอ  ฮ่าๆ   งั้นผมคงจำผมไปครับ จริง ๆ ก็ยี่ห้อ “ลักษ์”  นี่แหล่ะครับ  สาเหตุที่เลือกยี่ห้อนี้น่ะเหรอครับ เพราะมันอยู่ใกล้มือ
ฮ่าๆ  ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ  อย่ากล่าวหาว่าผมวางแผนอะไรทั้งนั้น ไม่มี๊ไม่มีสักกะนิสสส ครับ หึหึ (ยักคิ้วกวนๆ อีกสองที พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก)
 3วันที่ผ่านมา ผมก็แค่ทดสอบทฤษฏีตามที่ผมได้ดูรายการสารคดีเกี่ยวกับสุนัข  ฮ่าๆ  ถามว่าเกี่ยวกันยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ
พอดีมันมีทฤษฏีหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเราอยากให้สุนัขรู้จักชื่อเรียก และเชื่องกับเรา  อย่างแรกก็ต้องทำให้มันคุ้นเคยเสียก่อน  เคาะกระดิ่งพร้อมกับให้
อาหารทุกๆ ครั้ง ทำเป็นประจำพอเราเคาะกระดิ่งปุ๊บสุนัขก็จะจำว่าจะได้กินอาหาร  เหมือนๆ กับ เริ่มเรียกชื่อพร้อมกับให้อาหาร  ทำซ้ำๆ มันก็จะจำชื่อ
ตัวเองได้เหมือนกัน  ผมเลยทดสอบ ผมทำสบู่ตก และให้น้องเก็บต่อเนื่อง บ่อยๆ ทุกที่  จนปัตจำได้ และบังเอิญว่าผมดันทำสบู่หล่นไว้ตรง
อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ  หึหึหึ (เหรออออออออ บังเอิญม๊ากกกกกกกกมากเน๊าะ)     แล้วปัตก็ก้มลงเก็บ คิดดูสิครับ ร่างกายเปล่าเปลือยแบบนั้น
แถมยังก้มลง โก้งโค้ง ให้ผมอีก  แล้วผมจะทนไหวไหมหล่ะ  ......  ผมก็เลยจัดเต็ม ฮ่าๆๆๆๆ   ฟังเหตุผลผมแล้วสมเหตุสมผลใช่ไหมหล่ะครับ
เข้าใจก็ดีแล้ว  เดี๋ยวจะหาว่าผมวางแผน  หึหึหึ   โอ๊ยยย (หมอนลึกลับ แต่จับตัวคนทำได้  ลอยมากระทบหัวพี่พาร์ท องศามาจากห้องนอน)
น้องปัต >>   อ๊ากกกกก  พี่พาร์ทๆๆๆๆ  พอเลยนะ ไม่ต้องเล่าแล้ว  บ้าๆๆๆๆๆ
พี่พาร์ท >>  ฮ่าๆ ยังไงผมขอตัวไปง้อแฟน ก่อนนะครับ  อ๊ะ!!  สบู่ ถือติดมือไว้ดีกว่า ฮ่าๆ   เผื่อเอาไว้ทดสอบทฤษฏีต่อ  บ๊ายบายคร๊าบบบบบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด