รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ  (อ่าน 195999 ครั้ง)

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
 :haun4: ร้อนแรงจังพี่พาร์ท ถนอมน้องบ้าง
รักกันไปนานๆนะค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
กลับมาจัดหนักกันเหรอ  :jul1:

ดีๆ คนอ่านชอบ  :m3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่พาร์ทหื่นเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
หวานเรียกเลือดคนอ่านจริงเลย

ร้อนแรงกันทั้งคู่ ฮะฮะ

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
สองคนนี้รักกันมาก

มากจนอิจฉาแล้วนะ

 :-[

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนๆ จะซวย  คอมชาร์ทแบทไม่เข้าอ่ะ  ง่าาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ในที่สุดปัตก้อกลับมาแล้ว พี่พาร์ทจับไว้ให้แน่นเลยนะอย่าปล่อยไปอีก

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ต้องขออภัยนะคะ  ตอนนี้ คอมที่ห้องเจ้งอ่ะ  แอบใช้ที่ออฟฟิศเล็กน้อย  ฉะนั้น


หุหุหุหุ   อาจจะไม่ได้อัพอีกหลายเพลา นะคะ   



 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ไปซ่อมมาแหล่ะ  อแด็ปเตอร์เสีย  เสียไปอีก 800-900 เดินดุ่มไปพันธุ์ทิพย์ หุหุหุ



Unit 34    แค่สายลม  [50%]



ผมยื่นอยู่หน้าสิ่งก่อสร้างทรงสูงชะลูด  ด้านในกลวงโบ๋ มีเพียงด้านล่างที่ทำจากวัตถุหนาเป็นเหล็กกล้าทรงสี่เหลี่ยม

มีประตูเพียงด้านเดียว ด้านหน้ายึดติดกับพื้นที่ว่างไม่กี่ตารางเมตร  ก่อนจะเป็นเชิงบันไดที่มีความชันไม่กี่ขึ้นทอดยาวไปถึง

สามด้าน ด้านซ้าย และขวา กับด้านหน้า  เพื่อให้แขกเหรื่อในงานเดินขึ้นมาแสดงความเคารพ และรำลึกถึงผู้ที่จากไป

เป็นวาระสุดท้าย    หยาดหยดน้ำตาบางๆ ค่อยๆ ไหลเอื่อยราวกับคนเดินทอดน่องไปเรื่อย  ไร้จุดหมาย และปลายทาง 

ได้แต่เม้มปากแน่น   แม้จะพยายามแล้วที่จะสะกัดกลั้นความรู้สึกที่ถาโถม แต่ความสูญเสีย......ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เจ็บปวดเสมอ

“อย่าร้อง....ปัตทำดีที่สุดแล้วลูก  ขอบใจนะปัตที่อยู่เป็นเพื่อนกับพี่เค้าจนวาระสุดท้าย”   พ่อพี่พาร์ทเอ่ยเสียงแผ่วเบา

จนแทบไม่ได้ยินเสียง  ผมยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ

“ครับพ่อ พ่อก็อย่าเสียใจเลยนะครับ.พี่เค้าไปดีแล้ว” ผมเอ่ยตอบอีกฝ่าย  ในเวลาที่เสียใจเช่นนี้ก็มีแต่คนที่เสียใจที่คอยปลอบ
โยน

กันและกัน   ผมมองพ่อที่ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกให้ทราบว่า....ผ่านการร้องไห้มามากในระดับหนึ่ง พยายามฝืนยิ้มจางๆ ให้กัน

“นึกไม่ถึงเลย ชีวิตคนเรานี่ไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ เฮ้อ~    ป่ะ...ลูก ไปเคารพศพพี่เค้าเป็นครั้งสุดท้าย”  ผมพยักหน้ารับ

เราทั้งคู่ตรงดิ่งไปยังเมรุที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า หลังจากแขกเหลื่อทั้งหลายได้วางดอกไม้จันทร์จนเกือบจะหมดแล้ว

ผมกับพ่อเดินไปต่อแถว  ค่อยๆ สาวเท้าก้าวตามลำดับ จนใกล้ถึงบริเวณที่ตั้งศพ น้าสาวยื่นถาดดอกไม้จันทร์ให้พ่อ


ขณะที่พี่พาร์ทยื่นถาดดอกไม้จันทร์ให้กับผม  เราสบตากันเล็กน้อย  สายตาพี่พาร์ทที่ดูเป็นห่วงเป็นใยผมมากเป็นพิเศษ
ผมยิ้มน้อยส่งไปให้บอกให้อีกฝ่ายทราบว่า “ผมไม่เป็นไร”  พี่พาร์ทพยักหน้าน้อย ๆ รับรู้ แล้วหันไปทำหน้าที่ต่อ

ผมปล่อยให้พ่อร่ำลาพี่ปิ่นก่อน 

“ปิ่น....หนูเป็นเด็กดีมากนะลูก พ่อ......รักหนูเหมือนลูกพ่อคนหนึ่ง ชาตินี้เกิดมา ถือซะว่าทำกรรมมาน้อยนะลูก

ถึงเวลาที่เราไปรับบุญกุศลอยู่บนสวรรค์แล้วนะ  อย่าห่วง อย่ากังวล ขอให้ไปดี ไปสู่ภพภูมิที่ชอบนะลูก หากชาติหน้ามีจริง

ก็ขอให้หนูได้เกิดมาอยู่ในที่ดี สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างนะลูก”  พ่อพี่พาร์ทว่าเสียงสั่น  ผมเห็นพ่อแอบเช็ดหยาดน้ำตาไหล

คลอแก้มเบาๆ  สีหน้าเศร้าโศกเหลือเกิน พ่อขยับตัวไปพื้นว่างข้างๆ หันมาพยักหน้า บอกให้ผมไปร่ำลาพี่เค้าเป็นครั้งสุดท้าย

ผมก้าวเท้าไปหยิบตรงหน้า  หยิบดอกไม้จันทร์วางลงในไปในโลงไม้ ที่ตอนนี้มีพี่ปิ่นนอนสงบนิ่งอยู่ในนั้น มือถือดอกบัวพนมไหว้

มีสาญสิจน์พันรอบ  ใบหน้าสงบนิ่งราวกับแค่คนนอนหลับ ต่างกันก็แค่....สีผิวที่ดูจะซีดกว่าตอนปกติมากไปหน่อย

“พี่ปิ่นครับ... ขอบคุณที่เข้าใจผมกับพี่พาร์ท  ขอโทษที่ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้ ทำให้พี่มีความสุขไม่ได้ ปัต...ปัต.. เสียใจ  ฮึกๆ

ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้พี่เกิดมาสุขภาพแข็งแรง  และสมหวังในเรื่องของความรักนะครับ ”  ผมกระซิบเสียงแผ่วเบา  ๆ

พ่อลูบหัวผมปลอบใจ  ผมเช็ดน้ำตาอีกครั้งหันไปประครองพ่อที่ดูเหมือนจะหมดแรงเดินต่อไม่ไหว  ค่อยๆ เดินลงไป 

เมื่อถึงเวลาประชุมเพลิง บรรดาญาติทั้งหลายก็ลงมาจากเมรุ  ภาพเปลวเพลิงค่อยลุกโชนขึ้น  ประตูเมรุถูกปิดลงไม่นาน

หลังจากนั้น  ไม่ช้าไม่นานแขกเหลือก็ทะยอยกันร่ำลาเจ้าภาพและกลับไป.....จนเหลือแต่เหล่าบรรดาญาติ กับคนสนิท


ไม่ถึงสิบคน  ผมกับพ่อนั่งลงบนเก้าอี้ใต้เต็นท์ที่กางไว้ห่างจากเมรุประมาณ 5-10 เมตร มองภาพควันไฟ ที่กำลังพวยพุ่ง
สู่อากาศ    ควันสีดำโขมงค่อยๆ จาง  ค่อยๆ จาง หลังจากลอยสู่ที่สูง  จนสลายไปกลายเป็นแค่สายลมจางๆ ที่มองไม่เห็น

ทุกๆ อย่าง ดำเนินไปเรื่อยๆ ตามแบบฉบับของมัน เหลือเพียงร่องรอย....น้ำตา  ร่องรอย....ของความเศร้าโศกเสียใจ 

พี่พาร์ทเดินตรงมานั่งลงข้างๆ ผม  มือแข็งแรงยื่นมากุมผมแน่น....ใบหน้าคมยังคงจ้องมองมาที่ผมด้วยความห่วงใย


“ไม่เป็นไรนะ...อย่าคิดมาก”

“ครับ”

.

.

เกือบๆ สี่ทุ่มหลังจากช่วยงานเสร็จสิ้น ผม พ่อ และพี่พาร์ท ก็ขับรถกลับไปยังบ้านของพ่อ  ตอนนี้เรามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว

อดจะเป็นห่วงพ่อไม่ได้ แม้พ่อจะดูเข้มแข็งยังไง...แต่ในบางเสี้ยวในจิตใจคนเรามันก็อ่อนแอไม่รู้ตัว ผมกับพี่พาร์ทเลยอาสา

มาพักอยู่ที่นี่จนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ขึ้น ......   หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ต่างฝ่ายก็ต่างอาบน้ำ แล้วทิ้งตัวลงนอน

พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย  แต่.....อาจจะยกเว้นผมไว้คนหนึ่งที่ ตามันแข็งจนนอนไม่หลับ  เลยได้แต่คิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย

ทบทวนทุกอย่าง  ภาพวนไปวนมาในหัวอย่างห้ามไม่ได้  ภาพคืนนั้นที่ผมกับพี่พาร์ทคืนดีกัน

.

.

“แล้วเราจะช่วยพี่ปิ่นได้ยังไงหล่ะครับ  ปัต...ปัตอยากให้พี่ปิ่นได้มีความสุขบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ชีวิตที่เหลือ”

“ก็ไม่ยังไง ... เราก็ดูเราเค้าเหมือนเดิมในแบบเดิม เพียงแต่เราจะช่วยกัน  ช่วยให้ปิ่นมีความสุขมากขึ้นไง”

“ยังไงหล่ะครับ?”

“แค่ใช้หัวใจเรา...เอาใจใส่ดูแลเค้าไง?”

“แล้วยังไงหล่ะฮะ? ปัตไม่เข้าใจ” 

“ปัต...ตอนเราไปเยี่ยมเคยเห็นปิ่นร้องไห้รึเปล่า?”  ผมส่ายหน้าช้าๆ ยังไม่เข้าใจความหมายที่พี่พาร์ทกำลังจะสื่อ

“แล้วปัตเคยเห็น ปิ่นทำท่าทางเจ็บปวด เสียใจ ในเรื่องความเจ็บป่วยรึเปล่า?” ผมส่ายหน้าอีกครั้งแทนคำตอบ


“เรารู้มั้ย....ว่าพี่เค้าร่างกายไม่รับอาหารแล้ว ทุกครั้งที่ทานจะต้องอาเจียรออกมาไม่มาก ก็น้อย”  ผมพยักหน้าช้าๆ
พี่พยาบาลก็เคยบอกอยู่บ่อยๆ  แต่ไม่เคยเห็นเองสักครั้ง

“แล้วปัตรู้มั้ย  ....ทำไมปิ่นยังทานข้าวทุกวัน ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น?”

“ไม่ฮะ”

“เพราะว่าปิ่นเองไม่ต้องการให้ใครเป็นห่วง  ปัต....พี่ว่าปิ่นเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมากๆ ปิ่นเค้ารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

แต่ก็ยังยิ้ม  อาจจะเจ็บ อาจจะเสียใจ แต่พี่ว่าปิ่นไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร  และไม่อยากเป็นภาระใคร 

เพราะที่ปิ่นทำอยู่ทุกวันนี้ ก็คือพยายามเข้มแข็ง พยายามมีความสุข เพื่อให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเป็นห่วง หรือเป็นกังวล

ถ้าปัตกำลังทำอะไรที่เป็นการสงสารปิ่น หรือแม้แต่เพราะเธอเป็นสาเหตุให้ปัตต้องเสียใจ  พี่ว่าปิ่นจะไม่มีความสุข


บางครั้งพี่ว่าปิ่นเองก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีเพื่อนสักคนอยู่ข้างๆ  รับฟัง พูดคุย หรือแม้แต่มีโอกาสที่เธอ
จะมอบความสุขให้คนรอบตัวให้รู้ว่าถึง -คุณค่า ของตัวเอง - เพื่อที่จะศรัทธา  และมีกำลังใจให้ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

ถึงเราจะอยากช่วยเหลือหรือหวังดีต่ออีกฝ่ายสักแค่ไหน  แต่ปัตอย่าลืมว่า....เราคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่สามารถ

ดลบันดาลทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่เราปรารถนาได้  ฉะนั้นก็จงทำแค่พอที่เราจะทำได้ก็พอ  แต่อย่าให้ถึงขั้น ...

ทำร้ายตัวเอง และคนรอบตัวนะครับ  เข้าใจมั้ย?”    พี่พาร์ทหันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง   มันรู้สึกผิดจนน้ำตาซึม

มัวแต่คิดอะไร....ก็ไม่อยู่คนเดียว  คิดเองเออเอง แล้วก็เจ็บเอง  ผมพยักหน้าในที่สุด  ซบหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย

“ขอโทษฮะ”








CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Singleman

  • บุคคลทั่วไป
เสียใจกับปิ่นด้วยนะ

อย่างน้อยหนูก็เข้มแข็งมากนะ

ขอให้หนูไปสบายนะจ้า

และช่วยเป็นกำลังใจให้ทั้งสองด้วย

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พี่พาร์ทพูดได้ดี  o13

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
พี่พาร์ทเป็นผู้ใหญ่มากอะ พูดได้ดีมาก  o13

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อืม ปรึกษากันตั้งกะแต่แรกก็จบแล้วหนูปรัชเอ๋ย

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ถ้าปัตคุยกับพี่พาร์ทแต่แรก คงไม่เสียใจกันตั้งหลายตอนเนอะ 5555

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3

ออฟไลน์ devotionNightmare

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พึ่งจะเห็นความเจ๋งของพี่พาร์ทก็วันนี้แหละ  (ปกติหื่นตลอด555)

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Unit 34 แค่สายลม  75%






“อ้าว!...พี่พาร์ท น้องปัตมาด้วยกันได้ยังไงคะเนี่ย?”   ปิ่นที่กำลังนั่งรถเข็นอยู่กลางสนามหญ้า ผมสลวยถูกรวบมัดไว้

แต่ก็ทำให้ใจหายได้ไม่น้อย เพราะดูแล้วมัดผมที่เคยหนา ตอนนี้กลับบางลงซะจนเหลือสักครึ่งเดียวเห็นจะได้

อีกฝ่ายหันมาถามไถ่ ขณะที่ผมกับปัตกำลังเดินเข้าไปหา  รอยยิ้มกับแววตาที่ดูสดใสขัดกับผิวซีดๆ ที่นับวันดูจะ

ซีดลงทุกที ร่างกายของปิ่นดูเล็กลงกว่าอาทิตย์ที่แล้วที่ผมมาเยี่ยมอย่างเห็นได้ชัด  เรี่ยวแรงดูเหลือน้อยจนแทบ

จะเรียกว่าไม่มีเหลือซะมากกว่า   ปิ่นยิ้มน้อยๆ มาให้   ผมกับปัตยิ้มตอบ  ไอ้ตัวเล็กยื่นขนมของโปรดปิ่นไปให้ 

ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของปิ่นที่เห็นได้ชัด  ก่อนจะย่อตัวลงข้างๆ รถ เกาะกุมมืออีกฝ่าย

อย่างทนุถนอมราวกับกลัวมันจะแตกหักถ้าออกแรงบีบมากขึ้นเพียงนิด  ลูบหลังมือแผ่วเบา จนผมอดคิดไม่ได้

ถ้าผมไม่ทำให้ปัตเป็นแบบนี้  ผู้หญิงที่เป็นคนรักของปัตจะโชคดีสักแค่ไหนที่ได้รับการดูแลจากคนๆ นี้

แต่....เมื่อทุกอย่างได้ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยน เมื่อผมมีความสุขและที่สำคัญกว่านั้นไอ้ตัวเล็กของผม

ก็มีความสุข  แถมยังพยายามแบ่งปันความรักของผมที่มีให้ไปเผื่อแผ่คนอื่น...จนบางครั้งก็แอบ  “หึง”

ว่าน้องไปแอบหลงรัก ความน่ารักและความนุ่มนวลในแบบผู้หญิงไปแล้วรึเปล่า  รัก...จนมากกว่าผมรึเปล่า

แต่เมื่อทุกอย่างกระจ่างผมถึงเข้าใจ....ไม่ใช่เพราะ “ไม่รัก”  หากแต่เป็น “รักมาก” เกินไป ไม่ใช่แค่เพื่อปิ่น แต่..ส่วนหนึ่ง

ก็เพราะทำเพื่อผม....  ผมยังจำคำพูดประโยคหนึ่งที่ดูจะกระตุกใจตัวเองไม่น้อย เมื่อนึกใบหน้าเจ็บปวดของคนพูด

“ถ้าไม่มีปัต พี่พาร์ทก็คงมีครอบครัว มีลูกได้แบบสมบูรณ์”  จำได้ว่าผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย

ทำได้แค่ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นๆ  กอดจนแทบจะกลืนหายเข้าไปในอก ลำคอตีบตันทั้งที่มีคำพูดมากมายอยากจะ

อธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ  แต่น่าแปลก .....ที่มันกลืนหายลงไปในลำคอเสียเฉยๆ

“ของฝากฮะ ของโปรดพี่ปิ่นเลยนะเนี่ย  เป็นยังไงบ้างฮะ แล้วน้าสาวหล่ะฮะไปไหน” ไอ้ตัวเล็กเอ่ยถาม

“ขอบใจนะจ๊ะน้องปัต  ก็เหมือนๆ เดิมแหล่ะ  วันนี้น้าสาวไปธุระที่สระบุรี  ว่าแต่เรามาพี่พาร์ทได้ยังไงหล่ะ?”

ปิ่นเลิกคิ้วสงสัย หันกลับมามองผมสลับกับปัตไปมา  ไอ้ตัวเล็กเหล่มองเล็กน้อยปิดปากเงียบสนิท ส่วนผมเอาแต่ยิ้ม

แล้วหันไปบอกปิ่น 

“ปัตเป็นรุ่นน้องพี่ แล้วก็ทำงานที่บริษัทพี่ด้วย ส่วนตอนนี้ย้ายตำแหน่งไปเป็นลูกรักพ่อแทนพี่แล้ว”
“อ้อ  อย่างนี้นี่เองเห็นน้าสาวบอกปิ่นว่าเจอปัตครั้งแรกตอนที่มาเยี่ยมปิ่นกับคุณลุง  แต่ไม่เห็นเคยมากับพี่พาร์ทเลยค่ะ”

“พี่ไม่รู้ว่าปัตรู้จักกับปิ่นเลยไม่ได้คุยกันน่ะ   พอรู้ก็เลยมาเยี่ยมพร้อมกันซะเลย”  ปิ่นพยักหน้าเข้าใจ  หันไปมองหน้า

ไอ้ตัวเล็กของผมยิ้มๆ วางมือทาบทับบนฝ่ามืออีกฝ่าย

“น้องปัตเป็นคนน่ารักค่ะ ใครอยู่ใกล้ก็หลงรัก เนี่ยถ้าไม่ได้น้องปัตมาเยี่ยมบ่อยปิ่นคงเหงาแย่เลย ถ้ามีน้องสาวนะ

พี่จะยกให้เราคนแรกเลยรู้มั้ย? ”   ปิ่นหันไปยิ้มให้ไอ้ตัวเล็กอย่างเอ็นดู ปัตก็ยิ้มเล็กๆตอบ  แทนการตอบคำถามของอีกฝ่าย

เมื่อเริ่มเห็นท่าทีที่เหนื่อยอ่อนของปิ่น  เหงื่อผดเล็กๆ ค่อยๆ ซึมตามไรผม ใบหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม

“เข้าไปข้างในกันเถอะ  พี่ว่าตอนนี้แดดแรงมากแล้ว”
“ค่ะ”

“ปัตเข็นให้นะฮะ”   

“ขอบใจจ๊ะ”  ไอ้ตัวเล็กลุกขึ้นเดินอ้อมไปด้านหลังจากนั้นก็เข็นรถตามถนนอิฐตัวหนอนไปเรื่อยๆ มุ่งไปสู่ตึกห้องพัก รพ.

เสียงพูดคุยเรื่องราวมากมายหลั่งไหลออกมาไม่ได้หยุดหย่อน โดยเฉพาะสองคนนั่น เหมือนๆ จะลืมผมไปซะแล้ว

“ถ้าได้ไปเที่ยวด้วยกันสักครั้งพี่คงจะมีความสุขมากเลยแหล่ะ เสียดาย...ที่ตัวเองมัวแต่ไม่สบายอยู่อย่างนี้

เสียดาย..ที่เรารู้จักกันช้าไปเน๊าะ  ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พี่รับรองเลยชวนไปไหนพี่ก็จะไป”  ปิ่นรำพันราวกับน้อยใจ 

ดวงตาสดใจสลดลงอย่างเห็นได้ชัด  ปิ่นใช้ชีวิตที่นี่มาหลายเดือนจนแทบไม่ได้ออกไปข้างนอกสักครั้ง    คนที่เคย

ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกตลอดชีวิต แต่ตอนนี้กลับเหมือนถูกกักขังให้อยู่ในบริเวณที่จำกัด  ถ้าเป็นคุณ...จะทนได้ไหม?

ผมสังเกตุหันไอ้ตัวเล็กผมแอบกลืนน้ำลายลงคอหนัก  ถอนหายใจเบาๆ  แต่ก็ยังยิ้มปลอบใจส่งไปให้อีกฝ่าย

มือบีบลง ที่ไหล่บางของอีกฝ่าย  ปิ่นได้หันมามองแล้วยิ้มตอบน้อย จากนั้นก็ได้แต่ก้มหน้า ไหล่บางสั่นน้อย ๆ

ผมเดินข้างไปนั่งลงด้านข้าง ส่งรอยยิ้มที่คิดว่าอบอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้  ลูบหัวเบาๆ บนหัวทุยของอีกฝ่าย

โยกไปมา ปลอบใจเด็กขี้แย   รอยน้ำตาเอ่อคลอน้อยๆ ที่ดวงตาสวยของอีกฝ่ายเหมือนกลั้นความรู้สึกน้อยใจ

เอาไว้ไม่อยู่ ทั้งที่ผมก็รู้ว่าน้องพยายามแล้ว

“ถ้าปิ่นอยากไปพี่ก็จะพาไปเอง” 

“จ..จริงนะคะ พี่พาร์ทสัญญาแล้วนะ  ฮึกๆ ”   น้ำที่เกินจะกลั้นของปิ่นไหลลงมาไม่ขาดสาย ผมดึงน้องเข้ามากอด

เสียงสะอื้นไห้ กับรอยน้ำตาที่ชื้นแฉะบนอกผม ทำให้รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายดีใจเพียงใด  ผมลูบหัวทุยเบาๆ หันไปสบตา

ไอ้ตัวเล็กที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ริมฝีปากเม้นแน่นเป็นเส้นขีด จมูกแดง หูตาแดงไปหมดเพราะพยายามกลั้นน้ำตา

พยักหน้าไปมาเห็นด้วยกับความคิดของผม  ผมยิ้มกว้างไปให้ ยื่นมือข้างที่ว่างเกาะกุมมืออีกฝ่ายบีบหนักๆ

ผมทำปากเป็นรูปคำพูดสั้นๆ  “ทำได้แล้ว”  ช่วยกันทำให้ปิ่นมีความสุขได้แล้ว  โดยที่เราไม่จำเป็นต้องแยกจากกัน

ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้างขึ้น ทั้งที่ขอบดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา   ผมดันตัวปิ่นออกไล้มือเช็ดน้ำตาที่แก้มให้

“เลิกร้องได้แล้วครับ  กลายเป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ผมว่าแซวๆ แล้วพวกเราก็ขำกันเบาๆ
.

.

“คุณหมอครับพอดีผมมีเรื่องที่จะปรึกษา”  ผมเดินตรงไปยังห้องพักแพทย์ เคาะประตูหน้าห้องเบาๆ เพราะพยาบาล

ที่นั่งประจำหน้าห้องไม่อยู่  แล้วยื่นหัวเข้าไปเล็กน้อย เนื่องจากประตูห้องยังแง้มเปิดทำมุม 45 องศา  เห็นพยาบาล

กำลังยื่นแฟ้มรายงานให้กับคุณหมอ   คุณหมอเอียงคอเพื่อให้มองเห็นผมก่อนจะกล่าวเชิญ แล้วหันไปพยักหน้ากับ

พยาบาลสาวว่างานเสร็จแล้ว

“เชิญครับ”  ผมถอยห่างประตูสองสามก้าว เพื่อหลีกทางให้พยาบาลคนที่ว่า ก่อนจะแทรกตัวเข้าห้องแล้วปิดประตูเบาๆ

“คุณพาร์ทมีอะไรเหรอครับ  ถ้าเป็นเรื่องคุณปิ่นผมอยากให้ทางญาติทำใจไว้ด้วยนะครับ ตอนนี้เราไม่สามารถระบุได้

ว่าทางคนไข้จะสามารถอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ เพราะเชื้อลุกลามไปมาก  ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนป่วยเท่านั้นครับ”

แพทย์ผู้ดูแลอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ผมทราบทั้งๆ ที่ก็พอจะเดาออกอยู่หรอก  แต่พอฟังจากปากหมอเอง

ทำไมใจผมมันหายขนาดนี้นะ   ผมนั่งลงตรงเก้าฝั่งตรงข้ามมอง

“ผมทราบดีครับ  ถ้าผมอยากจะพาแกออกไปเที่ยวสักอาทิตย์คุณหมอจะขัดข้องไหม  ผมรู้ว่าน้องมีเวลาอยู่ไม่มาก

ผมอยากให้แกมีความสุขมากที่สุดครับ”

“แต่มันเสี่ยงมากนะครับ แกพร้อมจะไปได้ทุกเมื่อหากอยู่ห่างจากแพทย์”  คุณหมอพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ครับ แต่ในเมื่อผมเองก็ไม่ทราบว่าน้องจะไปเมื่อไหร่ ความสุขครั้งสุดท้ายนี้ผมอยากทำให้แกสมหวังครับ” 

ผมยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น  คุณหมอเบนสายตามองแฟ้มผู้ป่วยของปิ่นอยู่เนิ่นนาน มือข้างที่ถือปากกาอยู่ เคาะเบาๆ

ลงบนแฟ้มที่ว่าไปมาอย่างใช้ความคิด  แต่ในที่สุดก็หยุดแล้วเงยหน้ามาสบตากับผม  แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เห้อ~  ร่างกายคนไข้อ่อนแอมากจริงๆ ผมคงต้องได้รับความยินยอมจากทางผู้ปกครองคุณปิ่นก่อนนะครับ   ผมเข้าใจดีนะ

เพราะแกต้องมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลยจะครึ่งปีแล้ว ถ้าเป็นความต้องการครั้งสุดท้ายและทางผู้ปกครองยินยอม

ผมก็ไม่ขัดข้อง แต่สถานที่ที่จะไปจะต้องไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างห้างสรรพสินค้าและโรงหนังนะครับ เพราะคนไข้มี

อากาศแทรกซ้อนและติดเชื้อได้ง่าย ทานยาให้ตรงเวลานะครับ แนะนำให้จ้างพยาบาลส่วนตัวไปอีกคน เพราะผู้ป่วย

ทานอาหารเองไม่ได้ ต้องให้น้ำเกลือ และที่พักจะต้องไม่ห่างจากโรงพยาบาล หากมีกรณีฉุกเฉินจะได้รับการรักษาทัน”

“ขอบคุณมากนะครับหมอ ผมจะจัดการเอกสารให้เรียบร้อยครับ ส่วนเรื่องพยาบาลผมรบกวนคุณหมอเป็นธุระ

ให้หน่อยนะครับ  ผมอยากได้คนที่เคยดูแลน้องปิ่นอยู่แล้ว”  ผมยกมือไหว้คุณหมอเป็นการขอบคุณ

“ได้ครับไม่มีปัญหาเรื่องนั้นผมจะจัดการให้”

.


ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
สงสารปิ่นอะ  :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ปิ่นน่าสงสารมากเลย พี่พาร์ทกับปัตคิดจะพาไปเที่ยวแล้วให้จากไปอย่างมีความสุข

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เฮ้อ สงสารปิ่นอะ

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

ออฟไลน์ devotionNightmare

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :oo1: เห็นไหมไม่จำเป็นต้องเลิกกันก็ทำให้ปิ่นมีความสุขได้

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขอตัดเรื่องปิ่นไปตอนถัดไป  ตอนนี้มีแอบหวานนิดๆ  อ่ะ  คึคึ



Unit 34 แค่สายลม  100%


.

.

ณ  เชียงใหม่ 

.

.

หลังจากจัดการเอกสารทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ผม ปัต ปิ่น และคุณพยาบาลก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อย


ผมจัดการเช่ารถ แล้วขับตรงไปยังบ้านพักของผมที่เชียงใหม่ ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ก็พาไอ้ตัวเล็กของผมมาเยี่ยมครอบครัว

พอขับถึงบ้านพักเป็นบ้านสองชั้น ผมกับปัตพักด้านบน  ส่วนปิ่นกับพยาบาลพักห้องด้านล่าง เพื่อความสะดวก

ตอนนี้ปิ่นต้องนั่งรถเข็นตลอด  หลังจากเก็บสัมภาระ ผมกับปัตก็รับหน้าที่ไปตลาดและทำอาหารเย็น  ส่วนพยาบาลก็

อาบน้ำให้กับปิ่นระหว่างรอ  เราทานมื้อเย็นกันประมาณสองทุ่ม หลังจากทานเสร็จได้สักพักปิ่นก็ขอตัวไปพักผ่อน

เนื่องจากวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไกลหลังจากเข้ารับการรักษาตัว ทำให้ปิ่นรู้สึกเพลียๆ อยู่สักหน่อย

ปัตเข้าไปล้างจานในครัว ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทีวีรอ สักพักไอ้ตัวเล็กก็มานั่งลงข้างๆ  วางหัวแหมะกับไหล่ผม

ผมเอื้อมมือลูบหัวน้องเบาๆ  กลิ่นหอมของตัวน้องลอยกรุ่นยั่วให้ผมกดจมูกลงไปบนหัวทุยๆ ของอีกฝ่าย

“เหนื่อยเหรอ หืมมม?”   ไอ้ตัวเล็กเอาหัวไถเบาๆ กับไหล่ผม อ้อนๆ   นานๆ ทีไอ้ตัวเล็กถึงจะอ้อนแบบนี้ ...ยิ่งเห็นยิ่งน่ารัก

ผมเชยคางอีกฝ่าย ก่อนจะส่งจูบหวาบหวามไปให้  ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการมากไปอีก  ริมฝีปากแสนหวานของอีกฝ่าย

ให้ชิมเท่าไหร่ก็ไม่พอสิน่า สอดลิ้นร้อน ๆ ไปไล่ต้อนลิ้นหวาน  มือเรียวจิกแน่นที่ไหล่ผม ไม่ได้ผลักไส อย่างที่ปากสั่ง

“อืออ~  อย่าฮะ เดี๋ยวใครมาเห็น”  ไอ้ตัวเล็กครางประท้วง  หลังจากผมกดอีกฝ่ายให้นอนหงายหลังแนบพื้นโซฟา

ไปเรียบร้อยแล้ว  ผมสบตาอีกฝ่าย  ....  คิดถึง  ไม่ได้กอดแบบนี้ตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว  หลังจากร่วมมือกันดูแลปิ่น

ไอ้ตัวเล็กก็แทบจะย้ายมาอยู่ รพ.  จนผมแทบจะน้อยใจ ทั้งที่ผมก็อยากได้กำลังใจบ้างแท้ๆ  สักนิดก็ยังดี 

ผมกดจมูกกับแก้มหอม  สูดดมความหอมความหอมที่กรุ่นอยู่รอบๆ ตัว ไอ้ตัวเล็กของผม ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“คิดถึงจัง....ให้กำลังใจพี่บ้างสิ เหงาจะแย่แล้วโดนทิ้งทุกวัน”  ไล่เกลี่ยจมูกอยู่กับแก้มของอีกฝ่ายอยู่นาน พอเงยหน้า

ขึ้นมามองอีกที  ก็เห็นแต่แก้มใสๆ แดงระเรื่อ  นั่นยิ่งทำให้ผมยิ่งได้ใจ บดริมฝีปากดูดกลืนริมฝีปากหวานอีกครั้งให้ฉ่ำใจ

“คืนนี้พี่ขอนะครับ......ไม่ไหวแล้ว”  พูดจบ ก็หันไปปิดทีวี แล้วลากอีกฝ่ายให้เดินตามขึ้นข้างบนด้วยกัน ทันที

ไม่ได้รอความเห็นชอบแต่อย่างใด   .....บางครั้ง .....ความรัก......ก็ต้องเห็นแก่ตัวบ้างจริงไหม?



.

.




“อ่า~    พี่....พี่พาร์ท  อึก....  อืมมมม”  ไอ้ตัวเล็กครางหวือ  คว่ำหน้าซุกหมอน ริมฝีปากเม้มแน่น  ขณะที่สะโพกลอยโด่ง

เนื่องจากมือแกร่งของผมสอดกระชับและยกมันขึ้นมา  ตามด้วยท่อนเอ็นที่กำลังระอุกลางลำตัวค่อยๆ สอดแทรกเข้าไป

ในตัวอีกฝ่าย  เสียงหอบหายใจดังออกมาเป็นระยะ  ไอ้ตัวเล็กอ้าปากกัดแน่นที่หมอน  พร้อมเสียงครางระงมในลำคอ

ทั้งที่พยายามจะซ่อน   ริมฝีปากผมไล้เลีย ดูดกลืนไปทั่วแผ่นหลัง ด้านล่างขยับเนิบ ๆ ให้อีกฝ่ายได้ปรับตัว   

ก่อนจะเพิ่มแรงกระแทกให้หนักหน่วงตามสภาวะอารมณ์ที่พุ่งสูงอยู่ตอนนี้  ไอ้ตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองแน่น


แต่ก็ยังมีเสียงหลุดออกมาเป็นระยะ

“อ่ะ”


“อ๊ะ”




“อ๊าาาาาาาา~ ”  ร่างกายผมเกร็งกระตุกพ่นน้ำรักเข้าไปในตัวอีกฝ่าย  ดูเหมือนไอ้ตัวเล็กเหมือนจะเสร็จพร้อมกัน
ช่องด้านกระตุกถี่ บีบรัด จนท่อนเอ็นของผมเสียววาบ เผลอกระแทกตอบแรงๆ ไปอีกสองสามที  ก็เหนื่อยหอบ

ทิ้งตัวลงนอนกอดกัน   ยังไม่ได้ถอนแก่นกายออก  ผมชอบความรู้สึกนี้ กลิ่นหอม...จากตัวของปัตลอยกรุ่นอยู่แถวจมูก

แทรกด้วยกลิ่นเหงื่อตามไรผมนิดๆ จากกิจกรรมรัก ยิ่งทำให้รู้สึกว่าน้องเซ็กซี่เร้าใจเข้าไปอีก  ด้านล่างยังเชื่อมต่อกันแน่น

ราวกับเราเป็นคนเดียวกัน  เป็นของกันและกัน  ผมสอดแขนช้อนเข้าใต้ตัวของฝ่าย ดึงน้องให้หลังแนบกับแผ่นอกผม

เสียงหัวใจที่เต้นรัว ราวกับจะระเบิดออกมาซะเดี๋ยวนั้น มันกำลังเต้นกระแทกแผ่งหลังบางๆ ที่ดูสะดุ้งน้อยๆ ยามที่สัมผัส

โดนครั้งแรก  จนผมอดขำไม่ได้  ก่อนที่ไอ้ตัวเล็กจะรวบมือหนาๆ ของผม ขึ้นไปจับบริเวณเดียวกัน  บริเวณที่เรียกว่า  “หัวใจ”

จังหวะเต้นของหัวใจ ที่แรงไม่แตกต่าง  ทำเอาผมยิ้มแก้มแทบปริ บทจะน่ารักนี่ไม่ต้องพูดอะไร  ก็หวานได้จนน่าเหลือเชื่อ

ผมกดจูบที่หัวทุย กำลังจินตนาการถึงใบหน้าหวานของอีกฝ่าย ว่าจะแดงซ่านน่ารักน่าเอ็นดูขนาดไหน ปกติขี้อาย

จนจะมุดดินหนีอยู่แล้วแท้ๆ ทำผมอดใจไม่ไหวรำพึงรำพันคำว่า “รัก”  ที่มันมีอยู่จนล้นใจ ดูท่า...ถ้าไม่ได้บอกรักสักวัน

เห็นทีอกจะแตกตายไปซะก่อน   มัวบางๆ กุมมือผมไว้แน่น  หัวทุยค่อยๆ หงายแหงน จนเราสบตากัน  ผมยิ้ม...น้องยิ้ม

ปากบางจุ๊บเบาๆ ที่คางผม ผมไซร้จมูกหยอกเอิน อยู่บนเนินแก้มของอีกฝ่ายเล่น มันทั้งนุ่มทั้งหอม ทั้งรักทั้งหลงจนโงหัวไม่ขึ้น

“รัก”  ไอ้ตัวเล็กกระซิบตอบ  มีความสุขเป็นบ้า ได้แต่ยกยิ้มจนหุบแก้มไม่ได้ ถอนแก่นกายออก อุ้มสุดที่รักไปอาบน้ำ

ก่อนจะกลับมานอนกอดกันแน่น ให้ความอบอุ่นมันแล่นมาฉาบหัวใจให้ฟู่ฟ่อง   จมดิ่งสู่นิทราอันแสนหวาน

.

.

.


ที่มีกันและกัน.......เพียงสองคน






ออฟไลน์ devotionNightmare

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หวานเกิ๊นนน  :m25:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
หวาน!!! คนอ่านตายเพราะเสียเลือดมาก ห้าๆ  :jul1:

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด