[[THE CAGE]] . . . กรงรัก . . . ** รวมเล่มแล้วค่า p.59 **
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[THE CAGE]] . . . กรงรัก . . . ** รวมเล่มแล้วค่า p.59 **  (อ่าน 626114 ครั้ง)

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1650 เมื่อ22-03-2013 03:53:20 »

ว้ายยยยยยยยยย มีภาคสองด้วย
 :mc4:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1651 เมื่อ22-03-2013 04:36:45 »

จัดหนักเลยเพ่!!!   :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1652 เมื่อ22-03-2013 11:11:17 »

เรื่องนี้ขอใสๆ ดราม่าห่างๆหน่อยนะคะ น้องนท ทำเอา ลุ้นแล้วลุ้นอีก ฮาๆ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1653 เมื่อ22-03-2013 12:12:52 »

ใครคือพระเอกอ่าาา :serius2: กลัวจะเลวเหมือนน้องเขย  :laugh:
ภพ เหรอ แต่ไม่น่าใช่

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1654 เมื่อ22-03-2013 12:41:11 »

มาแล้ววว น่าสนใจมากค่ะ
ชอบเนมซะแล้วสิ คู่กับใครเอ่ยย
ติดตามค่ะะะ o18

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1655 เมื่อ22-03-2013 12:47:01 »

อย่ามาม่าเยอะ...เดี๋ยวเค้าผมร่วง

5555+++

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1656 เมื่อ22-03-2013 13:18:30 »

เรื่องนี้ขอโหวตโนดราม่าค่ะ

lovecomic

  • บุคคลทั่วไป
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1657 เมื่อ22-03-2013 16:45:15 »

กรี๊ดดดด!!!~ มีภาคสองด้วย
ดีใจมากกกก >W<
หลังจากหลงกับกรงรักไปมาก [สนุกและเสียน้ำตาไปมาก]
ตรวนรักภาคสองมาแล้ววว
เย้เย้!!~ เป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ๆ สนุกมากกก ติดตามอ่านกันต่อไป

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ บทนำ 21.03.13
«ตอบ #1658 เมื่อ22-03-2013 20:05:26 »

ว้าวๆ มีภาคสองด้วยอ่ะ

รอตอนต่อไปจ้า

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1659 เมื่อ22-03-2013 20:25:24 »

[1]





“อ๊ะ พี่เอก กระเป๋าใบนั้นรึเปล่าครับ?”

ร่างสูงรีบตรงไปยังกระเป๋าเดินทางสีดำสนิท เขาดึงมาแล้วทอดถอนใจ รู้อย่างนี้ติดป้ายเอาไว้ให้เห็นชัดๆดีกว่า ลืมเสียสนิทว่าคนรอกระเป๋าคงเยอะ แล้วกระเป๋าสีดำเรียบๆไม่มีลวดลายมันก็มีเยอะซะด้วย

“ใช่ๆ ไซส์นี้เลย อ๊ะ ใบนั้นด้วย เชษฐ์”

เจ้าของนามรีบผละไปเอา แต่กระเป๋าเป้เจ้ากรรมดันไปเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของใครก็ไม่รู้เข้า จนมนุเชษฐ์ที่พยายามแงะปมพร้อมเดินตามสายพานต้องตัดสินใจลากกระเป๋าลงมาทั้งสองใบแล้วจัดการแก้ปมอย่างเร่งร้อน เนื่องจากซิปของกระเป๋าของเขากินเชือกที่มัดกระเป๋าเดินทางใบนั้นไปเสียแล้ว ครั้นจะแก้ที่ซิปก็ลำบาก สู้แก้เชือกคงง่ายกว่า

“ไอ้ปมเชือกบ้านี่ก็ดันมัดซะแน่น จะมัดแน่นอะไรนักหนาวะ กลัวคนรื้อเจอกางเกงในรึไง”

ชายหนุ่มที่บัดนี้วัยย่างเข้ายี่สิบสองปีแล้วบ่นพึมพำกับตนเองอย่างหงุดหงิดใจ เขาเกลียดการทำอะไรเปลืองเวลาเช่นนี้เสมอ ยิ่งรีบก็ยิ่งแน่น แก้ไม่ออกเสียที

แต่แล้วจู่ๆก็มีคัตเตอร์ขนาดใหญ่ยื่นผ่านบ่าของเขามาตัดเชือกสีขาวนั่นอย่างรวดเร็วจนร่างสูงใหญ่ถึงกับผงะเมื่อรับรู้ถึงของมีคมในระยะประชิด แทบจะจรดผิวแก้มของเขาอยู่แล้ว นี่ตั้งใจแกล้งกันหรือเปล่าเนี่ย

ใบหน้าคมเข้มเงยมองด้านหลังอย่างขัดเคือง จึงได้พบกับใบหน้าเรียวเล็กของใครสักคนที่สวมแว่นกันแดดเอาไว้ตลอดเวลาตั้งแต่อยู่บนเครื่อง กระทั่งตอนเครื่องลงก็ไม่ยอมถอด เขานึกรำคาญพวกที่มีค่านิยมตามเมืองนอกแบบนี้นัก ยิ่งอยู่ในประเทศไทยยิ่งรำคาญใจ นี่มันที่ร่ม จะสวมแว่นกันแดดไว้เพื่ออะไรให้มองไม่เห็นนะ

ทรงผมสไตล์เกาหลีแบบนั้นคงเป็นวัยรุ่นบ้านรวยที่ปิดเทอมแล้วไปเที่ยวต่างประเทศกระมัง ยังไม่ทันมีงานทำก็นั่งชั้นธุรกิจซะแล้ว คงรวยไม่ใช่น้อย ในขณะที่เขาเพิ่งกลับจากสัมมนากับธนกรและรีบนั่งเครื่องกลับมาอย่างเร่งร้อนโดยไม่ได้พักผ่อน ตอนอยู่บนเครื่องก็ยังอ่านเอกสารต่อไม่หยุดพัก เมื่อต้องยืนรอกระเป๋านานๆท่ามกลางผู้คนจอแจเช่นนี้อีกก็ยิ่งหงุดหงิดง่าย

“ทำอะไรของคุณ? แบบนี้มันอันตรายนะ”

“ก็เห็นแกะอยู่นั่นล่ะ ไม่เสร็จซะที นี่ช่วยให้เร็วขึ้นแล้วนะ”

น้ำเสียงที่สวนกลับนั้นไม่ดีนัก เนื่องจากคนที่นั่งยองๆอยู่นั้นพูดมาไม่ดีก่อน นิพิทขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจนัก ปกติแล้วเขาจะไม่ลงมารอกระเป๋าเอง แต่วันนี้ตรีภพเมาเครื่องเพราะลืมกินยากันเอาไว้ก่อน เขาจึงรับอาสาหน้าที่นี้ให้เพราะสต๊าฟคนอื่นไม่ได้กลับมาพร้อมกัน

“ถือมีดแล้วยื่นมาแบบนั้นจากด้านหลังมันอันตรายไม่รู้เหรอคุณ”

มนุเชษฐ์ยืนขึ้นเต็มความสูง จึงได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายสูงไม่ถึงบ่าของเขาเสียด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะตอนนี้เขาสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเข้าไปแล้ว แต่ลองแบบนี้อีกฝ่ายคงสูงไม่ถึงร้อยแปดสิบแน่นอน เผลอๆจะแค่ร้อยเจ็ดสิบห้าเสียด้วยซ้ำ

--- ไอ้เปี๊ยกเอ๊ย

“ก็เรียกแล้วคุณไม่ได้ยินเอง จะมาโทษคนอื่นก็ไม่ได้นะ”

“เอ๊ะ แล้วอะไร ผมขอให้คุณช่วยรึก็เปล่านะ”

“ใครใช้ให้ชักช้าล่ะ”

“ชักช้าแล้วกงการอะไรของคุณล่ะ”

ชักมีน้ำโหขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน จากที่พยายามควบคุมอารมณ์ แต่เมื่อต่างฝ่ายต่างเถียงกันไม่หยุด นิพิทเองก็ไม่ยอมเช่นกัน

“กงการของผมสิ เพราะกระเป๋าใบนั้นน่ะ ของผม!”

มนุเชษฐ์ปรายสายตามองไปทางกระเป๋าที่คู่กรณีชี้ มันเป็นกระเป๋าเดินทางของ Burberry สีน้ำตาลอ่อนลายสก๊อตอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่บอกก็รู้ว่าของแท้ และอีกฝ่ายคงหนีไม่พ้นลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ

เขาสรุปเองเสร็จสรรพ ยิ่งหมั่นไส้หนักเข้าไปใหญ่

เกลียดนักเด็กไม่มีเหตุผล ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ทำผิดแล้วไม่ยอมขอโทษแบบนี้

“จะของใครก็ช่าง แต่คุณไม่ควรเอาของมีคมไปใกล้ๆหน้าคนอื่น เครื่องบินเขายังไม่ให้เอาขึ้นไปเลย ขอโทษมาซะ”

มนุเชษฐ์เป็นคนไม่ได้ใจร้อนหรือใจเย็นนัก จริงๆตั้งแต่ได้ทำงานที่ร้านของธนกรในตำแหน่งเลขาหรือผู้ช่วยส่วนตัว เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นเยอะมาก แต่คนอย่างเขาก็มีช่วงเวลาที่หงุดหงิดเหมือนกัน โดยเฉพาะกับคนประเภทที่เกลียดอย่างร่างตรงหน้า

--- กวนตีน

เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้อารมณ์คุกรุ่นไม่หยุดง่ายๆ ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มยียวนราวกับไม่ได้หวาดหวั่นต่อสีหน้าไม่พอใจของเขาเลยแม้แต่น้อย ก็ยิ่งไม่อยากจะควบคุมอารมณ์นัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแค่วัยรุ่นคนหนึ่งก็ตามที

“ทำไมต้องขอโทษด้วย ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย นายนั่นล่ะผิด มาวุ่นวายกับของของคนอื่นซะนานสองนาน”

เปลี่ยนสรรพนามให้ใหม่ เพราะหงุดหงิดกับการโต้เถียงจนคนรอบข้างเริ่มมองมา เขาสังเกตเห็นว่าด้านหลังของอีกฝ่ายมีเพื่อนพยายามจะปราม แต่แลดูจะเป็นคนหัวดื้อพอๆกับที่เขาเป็นคนหัวรั้น จึงไม่มีใครยอมฟังใคร แล้วเขาก็ไม่ได้เอาคัตเตอร์ยักษ์นี่ขึ้นเครื่องบินสักหน่อย แต่ไปขอยืมมาจากเจ้าหน้าที่ตรงประชาสัมพันธ์ต่างหาก

“อย่ามาเรียกผู้ใหญ่แบบนั้นนะ”

“หึ ผู้ใหญ่เหรอ นายคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่ถึงได้มั่นใจนักว่าแก่กว่าฉัน?” เอ่ยพลางกระชากแว่นกันแดดที่สวมมาตลอดทางออก ปกติแล้วเขาเองก็ไม่ได้ชอบสวมแว่นตาดำนักหรอก แต่ว่าเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว บางทีก็ต้องปกปิดหน้าตาของตนเองบ้าง

ดวงหน้าขาวใสราวกับเปล่งออร่าทำเอามนุเชษฐ์ชะงักกึก นึกสงสัยอยู่ในใจว่าอีกฝ่ายไปฉีดกลูต้ามารึเปล่า แต่อะไรก็ไม่ทำให้เขาพูดไม่ออกเท่านัยน์ตากลมโตคู่สวยที่ทอประกายวาววับอย่างคนมีน้ำโห แต่เมื่อกอปรกับริมฝีปากสีสดเชิดๆและจมูกโด่งเรียวรั้นนั้น มันดูไม่น่ากลัวเลยสักนิด

ตัวกะเปี๊ยกเดียว ยังจะกล้าต่อกรกับเขาอีกนะ ไม่เรียกว่าโง่ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

“เชษฐ์ พอได้แล้วนะ!”

เสียงห้วนๆของพี่ชายทำให้เขาได้สติ เขาลดมือลงพร้อมกับระบายลมหายใจเพื่อตั้งสติใหม่ ธนกรที่อยู่กับเขามาเป็นปีสามารถจับความรู้สึกของเขาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะเพียงแค่ขยับมือขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น อีกฝ่ายก็เดาได้เลยว่าเขากำลังจะทำอะไร

นิพิทปรายสายตามองไปทางใบหน้าดูดีของชายร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังที่กำลังจับบ่าของคู่กรณี พร้อมกับเหยียดยิ้มอย่างขบขัน

"ขอบคุณที่ช่วย คุณดูพูดจารู้เรื่องกว่ากันเยอะเลยนะ"

นัยน์ตาคมมองประสานนิ่งๆอย่างไม่พึงใจนัก เขาเองก็ไม่ได้ชื่นชอบคนพูดจากวนประสาทนัก แต่การจะมีเรื่องกันเพียงเพราะสาเหตุเช่นนี้ก็ไม่ใช่วิสัยคนอย่างเขา อดคิดไม่ได้ว่าร่างตรงหน้าเองก็ร้ายพอกันที่จงใจพูดจาปั่นโทสะของมนุเชษฐ์

“เนม!! ไปทะเลาะอะไรกับเขาน่ะ!”

“ชิ”

ผู้จัดการจอมยุ่งของเขาดันโผล่มาผิดจังหวะ หนำซ้ำยังกดศีรษะเขาเสียแทบจะคอเคล็ดพร้อมกล่าวคำขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่ เขาไม่ผิดสักหน่อย!

“ทางผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ”

“ไม่เป็นไรครับ พวกผมก็ขอโทษเหมือนกัน อากาศร้อนๆเลยหงุดหงิดง่ายหน่อย ขอโทษจริงๆนะครับ”

มนุเชษฐ์ยู่หน้า อากาศร้อนเสียที่ไหน ในนี้แอร์เย็นจะตายไป ขนาดใส่เสื้อกันหนาวยังไม่ร้อนเลย บทธนกรจะแถก็แถสีข้างถลอก ไม่แคร์เหตุผลสักเท่าไหร่ แต่ครั้นจะแย้งไป มีแต่เขาล่ะที่ต้องหูชา ดวงตาของคนอ่อนวัยกว่าแอบเหลือบมองผู้เป็นเสมือนพี่ชายแท้ๆ ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อรับรู้ได้จากสายตาตำหนิที่ลอบมองมา กลับไปเขาคงโดนอบรมอีกยกใหญ่แน่











“กรี๊ด พี่เนม!!!”

“ขอลายเซ็นต์หน่อยค่า!!! กรี๊ดดดดด!!!”

“อ๊ายยยย!! น่ารักที่สุด!!!!”

เสียงกรีดร้องจากแฟนคลับที่มารอคอยกันที่สุวรรณภูมิ นับว่าน่าตกใจทีเดียวสำหรับศิลปินที่แทบไม่ได้มีผลงานในประเทศไทยอย่างเขา แม้ว่าเสียงของสาวน้อยใหญ่จะดังแปดหลอดจนชาวต่างชาติที่ออกมาจากเกทพร้อมกันต้องหยุดยืนมุงแล้วพลอยถ่ายรูปเขาไปด้วยเพราะนึกว่ามีดาราฮอลลีวู้ดขึ้นเครื่องมาด้วยก็ตามที

“ขอทางหน่อยครับ เนม รีบขึ้นรถเร็ว”

เจ้าของนามไม่ได้มัวแต่ยืนอึ้ง เขามีสติอยู่ตลอดเพราะได้รับคำเตือนตั้งแต่เครื่องลงแล้วว่ามีกลุ่มแฟนคลับมารอรับจึงได้เตรียมการ์ดเอาไว้ให้แล้ว ดวงตากลมมองลอดแว่นกันแดดสีชาอันโตไปยัง ‘กลุ่ม’ แฟนคลับที่ว่า ที่มีตั้งแต่ชั้นล่างยันชั้นบนที่กำลังส่งเสียงกรี๊ดและโบกไม้โบกมือรวมถึงป้ายไฟที่เขานึกสงสัยว่าไปเตรียมตัวกันมาจากไหนถึงได้รู้ว่าเขาจะกลับวันนี้ ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานลอยไปให้พร้อมกับโบกมือลาขณะก้าวขึ้นรถ

กลุ่มใหญ่ขนาดนี้คงต้องเรียกว่า ‘ม็อบขนาดย่อม’ อาจจะเหมาะกว่า

“บ๊ายบาย กลับบ้านกันระวังด้วยนะครับ”

แน่นอน หลังจากใจละลายกันไปเสี้ยววินาที เสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นก็ตามมาอีกหลายระลอกอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้

เมื่อประตูรถปิดลงและได้เคลื่อนตัวไปนั่นแหละ ร่างเพรียวบางถึงได้ถอนหายใจออกมายาวเหยียด

เมื่อกี้แอบเห็นว่ามีกล้องโทรทัศน์สักช่องแอบถ่ายอยู่ไม่ไกล คงไม่พ้นได้ออกข่าวอีกแน่ หวังว่าจะไม่โดนวิจารณ์หนักโทษฐานทำตัวเด่นอย่างที่ศิลปินรุ่นพี่เคยโดนหรอกนะ

ดีนะที่ไม่ได้ให้ครอบครัวมารอรับ ไม่งั้นคงวุ่นวายแย่

 “ดังใช่ย่อยนะเรา”

“โห อย่างกับนักร้องเกาหลีแน่ะพี่ภพ แต่ผมก็งงเหมือนกันนะ ผมไม่ได้กลับไทยมาตั้งนานแล้ว”

--- แต่ยังมีคนจำนวนมากมายที่รอเขาอยู่ น่าประทับใจจริงๆ

คิดแล้วก็ฉีกยิ้มกว้าง ยิ่งได้เห็นท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ อากาศที่ร้อนจัดของเดือนเมษายนทำให้ไม่สบายตัวนัก แต่ก็นั่นล่ะ ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็เป็นดินแดนบ้านเกิดของเขา

นิพิทหยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นแก้เซ็ง กล่องเมนชั่นในทวิตเตอร์ของเขาคงระเบิดไปแล้วมั้งน่ะ มีแต่แฟนคลับกระหน่ำเมนชั่นรูปของเขาที่สนามบินเมื่อกี้กันยกใหญ่ หนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดหัวเราะเบาๆอย่างนึกขบขัน แล้วจะส่งรูปตัวของเขาเองมาให้เขาทำไมล่ะนั่น

ว่าแต่ คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมันน่าโมโหจริงๆ

“พี่ไม่น่าขอโทษมันเลย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

“ใครว่า เราจงใจเอาคัตเตอร์ไปยื่นใกล้ๆหน้าเขาใช่ไหม อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้นิสัย เรารำคาญที่ต้องรอเขาเลยตั้งใจจะแกล้งใช่ไหมล่ะ”

“เชอะ”

ไม่เถียง เพราะอีกฝ่ายรู้ดีทุกอย่างแม้ว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก็ตามที

"ก็ไม่ชอบคนแบบนั้น ก็แค่นั้น"

"คุณนี่นะ ผ่านมากี่ปีก็ไม่รู้จักจำ เป็นคนสาธารณะ อย่าไปมีเรื่องกับใคร โดยเฉพาะในที่สาธารณะ!"

น้ำเสียงลงท้ายเจือน้ำโหเล็กน้อย เพราะหลายต่อหลายครั้งที่นิพิทไปมีเรื่องกับคนที่เข้ามากวนโมโหตามผับ ยังดีที่นั่นคืออเมริกาที่ค่อนข้างใหญ่ และกุ๊ยก็มีอยู่ทุกผับ เขาต้องตามเอาเงินยัดให้กับนักเลงพวกนั้นเพื่อปิดปาก แต่ถ้าเรื่องเกิดกลางสุวรรณภูมิ คงจะปิดปากใครได้ยาก

นิพิททำหน้าจ๋อย เบะปาก ทำตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ พร้อมส่งเสียงเครือออกมาเบาๆ

"ขอโทษครับ"

ใช่ว่าตรีภพจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละคร เขาสั่นศีรษะพร้อมกับเบือนหน้าหนีมาจดจ่อกับตารางงานของร่างที่นั่งอยู่ข้างๆ

“คุณเนม วันหลังอย่าเล่นกับของมีคม มันอาจจะบาดใครเมื่อไหร่ก็ได้”

“ก็มันถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“ของแบบนี้อยู่ที่การเลือกใช้ ถ้าเรามีมีดดี แต่เอาไปใช้ในทางที่ผิด มันก็จะกลายเป็นอาวุธที่ไม่มีประโยชน์ และก่อให้เกิดบาดแผล --- ที่บางทีอาจจะไม่มีวันสมานได้เหมือนเดิม”

สายฝนตกลงมาเปาะแปะทั้งๆที่เมื่อครู่นี้ฟ้ายังใส ทำให้การเดินทางซึมเซาลง

รถยนต์คันงามขับเคลื่อนไปเพียงไม่นานนัก ก็ถึงคอนโดย่านทองหล่อที่นิพิทซื้อเอาไว้สำหรับอยู่ตามลำพัง เขาไม่ได้ปล่อยเช่าแม้ว่าจะไม่ได้กลับมาร่วมสามปี แต่สภาพก็ยังใหม่อยู่เสมอเพราะพี่สาวที่แสนดีเป็นผู้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความสะอาดให้เป็นระยะ

"เจอหน้าสัปดาห์หน้า มีอะไรก็โทรมานะ แล้วอย่าไปก่อเรื่องที่ไหนล่ะ เข้าใจไหม คุณเนม?"

ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกที่หน้าละอ่อนราวกับเด็กวัยรุ่นพยักหน้ารับ จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้ชอบก่อปัญหาสักหน่อย แต่ปัญหามันชอบวิ่งเข้ามาหาเขาต่างหาก อย่างตอนที่เขาแอบไปเที่ยวผับตามลำพัง อุตส่าห์ปลอมตัวซะดิบดี แต่สุดท้ายก็มีกุ๊ยกระจอกสามคนพยายามมาตีซี้เพราะจะหาคนเลี้ยงเหล้า ซึ่งใช่ธุระของเขาซะที่ไหน พอปฏิเสธก็โดนหาว่าไม่มีน้ำใจ ไปๆมาๆก็ลงเอยด้วยการทะเลาะหลังผับ เขาเผลอปล่อยหมัดใส่ไอ้หน้าหื่นคนหนึ่งหลังจากมันพยายามจะลวนลามเขาซึ่งเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ซึ่งคงหนีไม่พ้นเจ็บตัวหากตรีภพไม่มาพบเข้าแล้วรีบเข้ามาห้าม ซึ่งวิธีการห้ามของชายร่างสูงคนนั้นรุนแรงกว่าเขาเสียอีก เป็นเขาที่จะต้องเข้าไปปราม ไม่อย่างนั้นคงต้องหามพวกนั้นเข้าโรงพยาบาลแน่

"อื้ม เข้าใจแล้วน่า"

ชายหนุ่มร่างสูงชะลูดที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนรถสั่นศีรษะพลางพลิกดูตารางเวลาอีกครั้ง ด้วยหวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในเจ็ดวันพักร้อนของเขา

นิพิทเดินเข้าไปในคอนโดหรูหราที่เขาไม่ได้แวะมาเสียนาน ในมือถือคีย์การ์ดเตรียมพร้อม เลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มือเรียวหยิบขึ้นมาดูผู้โทรเข้าด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าเป็นใครเท่านั้นล่ะ ร่างบางจึงรีบกดรับพร้อมรอยยิ้มแต้

"ฮัลโหลคุณพี่สาวสุดสวย คิดถึงเนมรึเปล่าคร้าบ"

ปลายสายหัวเราะเบาๆอย่างนึกระอาอุปนิสัยขี้เล่นเหมือนเด็กๆของน้องชายที่นับวันก็อายุใกล้เลขสามขึ้นทุกที

"คิดถึงจ้า เนมเป็นยังไงบ้าง?"

"ก็ยังหล่อเหมือนเดิมครับ" เขาขึ้นลิฟต์พลางเลื่อนสายตามองชั้นที่ค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ดีที่สัญญาณไม่หาย "พี่ล่ะเป็นไงบ้าง?"

"สบายดี เหนื่อยไหม? วันนี้จะออกไปไหนรึเปล่า?"

"ก็ยังไม่มีแพลนครับ เพิ่งมาถึงห้องเลย" เอ่ยพลางเปิดประตูเข้าไปในห้อง สภาพยังใหม่และสะอาดสะอ้านเหมือนเคย "พี่นาช่วยดูแลห้องให้ผมซะเนี้ยบเลยนะเนี่ย"

"ใช่สิ ถ้าไม่เข้ามาเลยคงมีแต่ฝุ่นเกาะ เรายิ่งแพ้ฝุ่นด้วยไม่ใช่เหรอ"

"แหะ ขอบคุณครับ พี่เนี่ยน่ารักจัง"

"จ้าๆ ปากหวานตลอดเลยนะ ถ้ายังไม่มีแพลน วันนี้ออกไปกินข้าวกับพี่ไหม? นทโทรมาชวนพี่อยู่เลย"

"เฮ้ย จริงเหรอ ไปๆ แบบนี้ไม่พลาดแน่นอน ที่ไหนล่ะครับ?"

นิยตาบอกสถานที่ไป พร้อมกับกำชับว่าให้มาให้ได้ ซึ่งเขาไม่เบี้ยวแน่นอนอยู่แล้ว กำลังคิดถึงพี่น้องของเขาอยู่พอดีเลย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนี่นะ

ชายหนุ่มวางสาย ก่อนจะทิ้งกระเป๋าเดินทางเอาไว้กลางห้องนั่งเล่น เรียวขายาวเดินตรงไปที่เตียงแล้วล้มกายลงนอนบนเตียงใหญ่นุ่มๆที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนเคย ตอนอยู่บนเครื่องก็มัวแต่ตื่นเต้นจนไม่ได้หลับสักเท่าไหร่

--- ของีบสักชั่วโมงละกัน
 










"พี่ชิน นทไปข้างนอกนะวันนี้"

เจ้าของนามที่กำลังพันเส้นสปาเก็ตตีคำสุดท้ายใส่ปากเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย วันนี้วันอาทิตย์ และเขาอุตส่าห์ได้หยุดงานด้วยหวังว่าจะได้ใช้เวลาพักผ่อนร่วมกันตลอดทั้งวัน

"ไปไหน?"

"ไปร้านครับ"

"ร้านไหน? อย่าบอกนะว่าร้านของไอ้หมอนั่น?"

"เลิกเรียกเอกแบบนั้นซะทีได้ไหม"

"ก็มันกวนตีน"

"เขาไม่เคยทำอะไรพี่ชินซะหน่อย ชอบคิดไปเอง"

"สรุปไปร้านมันล่ะสิ"

"ใช่ นัดไว้แล้วคงยกเลิกไม่ได้หรอกครับ"

"อย่าเว่อร์ เปลี่ยนร้านซะ"

"ไม่เอา จะไปร้านนั้น พี่นั่นแหละเว่อร์ เอกเขาไม่ได้อะไรกับนทแล้วซะหน่อยนะ"

"ใครว่า มันมองนทอย่างกับจะกินเข้าไปทั้งตัวอยู่ละ จะไปทำไมบ่อยๆนะ กลางค่ำกลางคืนอันตรายจะตาย"

นิชาหัวเราะขำท่าทางบ่นกระปอดกระแปดราวกับผู้หญิงที่ไม่อยากให้สามีไปเที่ยวกลางคืน เขาลุกขึ้นเก็บจานของตนและอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าทานหมดแล้วพลางเดินตรงไปที่อ่างล้างจาน

"เดี๋ยวพี่ล้างให้"

"ไม่เป็นไรครับ พี่ชินเป็นพ่อครัวแล้ว นทล้างเอง"

เตชินท์ยังคงหงุดหงิดไม่หาย เข้าเดินตามไปซ้อนอยู่ด้านหลังร่างที่ถือฟองน้ำล้างจานอยู่แล้วโอบรอบเอวบอบบางเอาไว้อย่างหลวมๆ

"อ้อนอะไรครับ นทไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้ว"

"อยากอ้อนนี่นา" เอ่ยพลางวางคางเกยบ่าเล็กที่ยิ่งดูบอบบางหนักกว่าเดิมเมื่ออยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาวของเขาที่หลวมโคร่งเช่นนี้ "ให้ไปก็ได้ แต่ห้ามกลับเกินสองทุ่มนะ"

"พี่จะบ้าเหรอ นัดกันไว้ก็ทุ่มนึงละ" นิชาเช็ดจานแล้ววางเก็บเข้าที่ ก่อนจะหันมาทางร่างสูงที่ทำท่างอนๆแบบคนแก่ขี้น้อยใจแล้วโอบมือรอบคอหนาพลางนวดให้เบาๆ "ไม่ดึกหรอกครับ ไม่ได้เจอพี่นากับพี่เนมตั้งนานแล้ว"

"อ้อ พี่ๆที่เคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอ?"

"ใช่ คิดถึงน่าดูเลย พี่นาเองก็ยุ่งกับการถ่ายละครกับหนังเสียจนได้เห็นหน้าแต่ในทีวี พี่เนมยิ่งแล้วใหญ่ อยู่แต่อเมริกา ตอนนทเรียนโทก็ประหยัดเงินจนไม่ได้ไปเยี่ยมเลย"

"ก็ตอนนทอยู่นู่นไม่ยอมบอกพี่นี่นา ไม่อย่างนั้นพี่นี่แหละจะพาไป"

"ก็ใครใช้ให้พี่ชินทำตัวไม่ดีล่ะ"

ชายหนุ่มยกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้่ เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ทีไร เขาก็อดรู้สึกหงอยขึ้นมาไม่ได้ ความรู้สึกเจ็บปวดในช่วงเวลาสองปีที่ไม่ได้เจอกันมันทรมานแค่ไหน เขายังจำได้เป็นอย่างดี

"สรุปพี่ยอมให้นทไปไหมเนี่ย?"

"ต่อให้ไม่ยอมนทก็จะไปไม่ใช่เหรอ?"

"ก็ใช่ครับ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากฝืนใจพี่ชิน ถ้าพี่ชินไม่อยากให้นทไปจริงๆ นทก็คงจะคิดอีกทีครับ"

เตชินท์ทอดถอนใจ ลองอีกฝ่ายพูดขนาดนี้ ถ้าไม่ให้ไปเขาก็จะกลายเป็นคนเอาแต่ใจเหมือนเคย จึงได้แต่พยักหน้ายอมอนุญาต

"ไปเถอะ แต่มีข้อแม้นะ ห้ามดื่มเหล้า"

"ค็อกเทลได้ไหม?"

"ค็อกเทลก็ไม่ได้"

"ไวน์ล่ะ?"

"ไม่ได้"

"งั้นเบียร์... ได้เถอะนะ?"

นิชาส่งสายตาออดอ้อน เขาไม่ได้จะดื่มจนเมาสักหน่อย แต่ไปร้านเหล้าไม่ให้ดื่มอะไรเลยก็ไม่รู้จะไปทำไม ใช่ว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้

"... ห้ามเกินสองแก้ว"

"... สามได้ไหมอ่ะ?"

"ถ้าต่อรองอีกจะให้ดื่มแต่โค้ก"

"สองก็สอง" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับเขย่งกายขึ้นหอมแก้มร่างตรงหน้าเบาๆ "ขอบคุณครับ ค่อยสบายใจหน่อย"

"มาชดเชยให้พี่ก่อนเลย" เตชินท์เอ่ยพลางรั้งข้อมือเล็กให้ตรงไปที่ห้องนั่งเล่น

"คนแก่นี่ข้อแม้เยอะจัง" บ่นเบาๆ แต่ก็ยอมเดินตามไปที่โซฟาตัวใหญ่แต่โดยดี "อย่าให้มีรอยจูบนะครับ อากาศร้อน ไม่อยากใส่เสื้อปิดคอ"

เตชินท์ยิ้มกว้างราวกับนึกอะไรได้ "สัญญา จะไม่ให้เห็นรอยเลย"
 


.
 


.
 


"ไม่มีรอยจูบ แต่มีรอยกัดน่ะสิ! ไอ้พี่ชินบ้า!"

นิชาบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดเมื่อมองสภาพของตนเองในกระจก สุดท้ายเขาก็ต้องใส่เสื้อเชิ้ตติดกระดุมบนแทบจะชิดคอจนได้ ทำไมต้องทำอะไรให้ลำบากด้วยนะ คนแก่นี่หวงอะไรไม่เข้าเรื่อง

"ให้ไปส่งไหม?"

"ไม่เป็นไรครับ นทขับไปเองได้"

"แล้วขากลับ ขับกลับไหวเหรอ?"

"อื้อ ก็ไม่กะดื่มอะไรมากนี่นา"

เตชินท์คิดอะไรชั่วครู่ ก่อนจะคว้ากุญแจรถจากมืออีกฝ่ายแล้วล่วงหน้าไปที่ประตูห้อง ทิ้งให้ร่างบอบบางยืนงงอยู่กลางทางเดิน

"พี่ชิน ทำอะไรน่ะ?"

"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง จะกลับแล้วโทรมาด้วย จะดื่มน้อยหรือดื่มมากพี่ก็ไม่อยากให้นทขับ มันอันตรายรู้ไว้ซะ"

นิชากะพริบตาปริบๆอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ใบหน้าหวานประดับรอยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แล้วรีบเดินตามไปพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วยอย่างคนอารมณ์ดี









Talk: ตอนนี้แอบมีพี่ชินกับน้องนทโผล่มาช่วงท้ายให้หายคิดถึง
นายเอกของเราไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่เลยเนอะ  :o8:
เรื่องของเรื่อง อย่าเพิ่งตัดสินว่าใครจะเป็นพระเอกเรื่องนี้เลยเนอะ
(จริงๆแล้ว เจ้าตัวคนเขียนก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ  :laugh:)
ค่อยๆอ่านกันไปก่อน ฝากด้วยนะคะ  :bye2:



P.S. มี facebook fanpage แล้วค่ะ https://www.facebook.com/pages/Milktea/579354705421685  (สมัครสดๆร้อนๆ)
ถ้าไม่รังเกียจก็กดไลค์กันได้นะคะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2013 21:19:10 โดย MilkTea »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
« ตอบ #1659 เมื่อ: 22-03-2013 20:25:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1660 เมื่อ22-03-2013 21:22:42 »

พี่ภพ(?) & น้องเนม :D

รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1661 เมื่อ22-03-2013 22:51:14 »

พี่ชินทำตัวดีขึ้นเยอะเลย o18

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1662 เมื่อ23-03-2013 00:12:01 »

ตอนแรกอยากได้เอกเชษฐ์หรือเชษฐ์เอกอะไรเทือกนี้
แต่คนเขียนบอกยังไม่รู้ใครเป็นพระเอก
งี้ก็อาจมีลุ้น อิอิ

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1663 เมื่อ23-03-2013 12:08:11 »

ลุ้นพระเอกกันอีกแล้ววววววว
แต่พี่ภพไม่น่าใช่นะแลดูพระร๊องพระรอง5555
ชินกับนทน่ารักมากง่าไม่เหลือความดราจากกรงรักเลย555

ออฟไลน์ rabbit-orange

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1664 เมื่อ23-03-2013 13:53:30 »

รออ่านจร้า o13

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1665 เมื่อ23-03-2013 16:27:48 »

ชะอุ้ย อยากให้เชษฐ์เป็นพระเอกทำไงดี555
เนมน่ารักจัง หลงซะแล้ว
มาต่อไวๆนะคะ ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1666 เมื่อ23-03-2013 17:02:14 »

อ๊ากคิดถึงชินและนทค่า มาคราวนี้หวานมากมายค่า

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1667 เมื่อ23-03-2013 19:11:46 »

ตอนอ่านกรงรักเชียร์เชษเอก 
 :m28: แต่พอเริ่มอ่านตรวรัก ก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่นะ เนมน่าจะคู่กับเชษ(รึเปล่า)
 o18 รอตอนต่อไปจ้ะ

kiizkziekiizk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [1] 22.03.13
«ตอบ #1668 เมื่อ24-03-2013 11:20:49 »

อ่านมาได้ 30 กว่าตอนแล้วไม่ได้มีโอกาสโฑสต์คอมเม้นเลย
รู้สึกสงสารชินนิดๆ และพอดีไปเปิดเพลง Move on - Brono Mars
แล้วรู้สึกทำให้เข้าใจอารมณ์ของชิน ฮ่าๆๆๆๆ
เนื้อเพลงท่อนนี้
How do I end up in the same old place,
faced again with the same mistakes,
so stubborn thinkin I know what is right,
but life proves me wrong everytime,
takin roads that lead me nowhere,
how do I expect to get there,
but when will I learn to just put you first.

I come to you now when I need you,
but why do I wait to come see you,
I always try to do this on my own but I was wrong cause only with you can I move on.
Can I move on.
 
I get out of my own way, let you have your way.
Cause I realize I'm no good on my own,
I'm there for you, I'll settle for you
I can't live without you.


ฟังเพลงนี้อ่านไปด้วยรู้สึกอินคะ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1669 เมื่อ01-04-2013 17:59:10 »

[2]





เสียงเพลงดังในห้องซ้อม ร่างของเด็กหนุ่มสองคนกำลังตั้งใจซ้อมเต้นอย่างจริงจัง เนื่องจากพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่พวกเขาเปิดตัว

“ไปพักได้แล้ว ทั้งสองคนเลย” ตรีภพเอ่ยพลางส่งน้ำแร่ให้คนละขวด ปรายสายตามองเด็กหนุ่มที่เหงื่อท่วมกายทั้งสองที่รับไปดื่มอย่างกระหายด้วยสายตาระอา “ค่อยๆดื่มสิ... นี่มันห้าทุ่มแล้ว กลับไปนอนกันได้แล้ว”

“คร้าบ”

“เออ เนม วันนี้ค้างบ้านธิปไหม พรุ่งนี้พี่ภพจะได้ไม่ต้องไปรับสองที่”

“เอางั้นก็ได้”

นิพิทยิ้มให้กับคู่หูร่างสูงที่หยิบผ้าขนหนูมาซับเหงื่อให้ ธิปก หรือ ธิป เพื่อนสนิทที่สุดที่รู้ทุกเรื่องที่เป็นเขา พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เข้าบริษัทมาเป็นเด็กฝึกหัด และโดนจับคู่ให้เป็นดูโอ้ เห็นหน้ากันตลอดทั้งวันยิ่งกว่าพ่อแม่เสียอีก จึงไม่แปลกที่จะสนิทสนมกันมาก มากจนเกินคำว่า ‘เพื่อน’

“พรุ่งนี้เปิดตัวแล้ว... ดังแล้วห้ามนอกใจนะ”

ธิปกหัวเราะลั่นพลางขยี้เรือนผมนุ่มมืออย่างมันเขียว “พูดไป เนมก็รู้ธิปรักเนมได้คนเดียว หัวใจมีอยู่ดวงเดียวจะให้ใครซ้ำสองได้ไง”

นิพิทยิ้มรับ “แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”

พวกเขาโด่งดังชั่วข้ามคืนตามคาด เนื่องจากเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีสองสไตล์ ธิปกจะเป็นสไตล์หล่อเท่ นิพิทจะเป็นสไตล์หล่อขี้เล่น จึงคว้าหัวใจได้ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ ยอดวิวในยูทูปพุ่งทะลุเป้า แน่นอนยอดขายอัลบั้มแรกของพวกเขาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครลบเลือนได้

มันอาจจะเป็นเพราะชื่อเสียงนี้นี่เอง ที่ทำให้ใครอีกคนเปลี่ยนแปลงไป





“ธิป วันนี้ค้างที่บ้านได้ไหม?”

นิพิทเอ่ยเช่นนั้น เนื่องจากเห็นว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของร่างสูงผู้เป็นคนรัก แต่อีกฝ่ายกลับชักสีหน้าพร้อมกับมีทีท่าไม่สบายใจในทันที

“เป็นอะไรเหรอ?”

“ไม่ได้ วันนี้ไม่สะดวกน่ะ คราวหน้าได้ไหม?”

“จริงเหรอ... จริงๆนี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ธิปจะไปไหนเหรอ?”

“เปล่า กลับห้องนั่นแหละ... คือวันนี้เหนื่อย อยากพักน่ะ คงไม่มีเวลา...”

“เนมก็เหนื่อย งั้นเรารีบกลับไปนอนด้วยกันเนอะ”

“บอกว่าไม่ได้ไง!”

เด็กหนุ่มร่างบางอึ้งไป และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวว่าเผลอตะคอกออกไป เขาจึงปั้นยิ้มบางพลางลูบบ่ามนอย่างอ่อนโยน กลับมาเป็นธิปกที่แสนดีอีกครั้ง

“ธิปเหนื่อยน่ะ เนม วันนี้เนมกลับบ้านนะ เชื่อธิป แล้วพรุ่งนี้เราค่อยเจอกัน”

ดวงตากลมโตที่มองตามแผ่นหลังของร่างสูงฉายแววไม่เข้าใจ มีความรู้สึกบางอย่างปรากฏขึ้นในใจ

“อย่าคิดมากน่ะ”

บอกตัวเองเช่นนั้น และแอบกระซิบบอกตรีภพว่าพรุ่งนี้ให้ไปรับเขาที่คอนโดของธิปกนั่นแหละ เพราะเขาตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์ ไม่ได้ตอนเที่ยงคืน แต่ขอเป็นคนที่ได้อวยพรวันเกิดเป็นคนแรกของวันก็ยังดี

นิพิทเตรียมของขวัญเอาไว้เป็นอย่างดี แน่นอน แม้ว่ารายได้ของเขาในตอนนี้จะยังเทียบชั้นกับพวกดาราแถวหน้าไม่ได้ แถมเขายังมีค่าห้องและค่าสารพัดที่ต้องจ่าย แต่เขาก็เก็บหอมรอมริบเอาไว้หลายเดือนเพื่อของขวัญชิ้นนี้ แหวนจากคาร์เทียร์ เครื่องประดับราคาแพงลิบลิ่วชิ้นแรกที่เขาซื้อให้กับคนที่รัก แม้ว่าจะทำเอาเงินที่เก็บไว้หายไปไม่น้อย แต่เขาก็ไม่นึกเสียดายเลยสักนิดเมื่อจินตนาการถึงใบหน้ายินดีของคนที่รัก

“ปิ๊งป่อง”

ไม่มีใครมาเปิด นิพิทอมยิ้มอย่างนึกระอาใจ นี่ก็เจ็ดโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ตรีภพกำลังจะมาถึงในอีกครึ่งชั่วโมง หากไม่อาบน้ำอยู่ก็คงยังไม่ตื่นนั่นแหละ

เด็กหนุ่มไขกุญแจเข้าไปอย่างเงียบเชียบพร้อมกับถอดแว่นกันแดดที่ใช้พรางตัวออก สิ่งแรกที่ทำให้คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจคือรองเท้าหนังสีดำที่กระเด็นกระดอนอยู่บนโถงทางเดิน แทนที่จะวางอยู่ตรงที่วางรองเท้า ราวกับคนที่ถอดมันนั้นเร่งรีบเหลือเกินที่จะเข้าไปในบ้าน

เรียวขาเพรียวสวยจนผู้หญิงอิจฉาค่อยๆเดินไปตามทางเดินที่นำไปสู่ห้องนอนที่ปิดประตูเอาไว้ไม่สนิท

ทีละก้าว

ทีละก้าว

สิ่งแรกที่สะท้อนอยู่บนดวงตาคู่สวย คือรองเท้าส้นสูงสีแดงที่วางระเกะระกะอยู่ที่พื้นห้องนอน

เขาค่อยๆมองตามเสื้อผ้าที่กองอยู่เป็นทาง จนจรดที่ปลายเตียง

เตียง --- ที่มีผู้ชายและผู้หญิงนอนกอดก่ายกันจนผ้าปูที่นอนหลุดลุ่ย

เตียงที่พวกเขาเคยนอนด้วยกัน

“เนม!”

“ว้าย!”

เจ้าของนามรีบชักเท้ากลับ เขาคงตาฝาด หรือไม่ก็ฝันไป ฝันร้ายชะมัด ถ้าตื่นมาแล้วเล่าให้ธิปกฟัง อีกฝ่ายก็คงหัวเราะแล้วบอกว่าเขาฝันเพ้อเจ้อไปเอง

“เนม เดี๋ยว!”

ข้อมือของเขาถูกคว้าเอาไว้อย่างแรงจนเจ็บ

ความเจ็บ --- ที่ย้ำชัดให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ฝัน

เขาควรจะเอะใจ หลายครั้งที่เขาสังเกตเห็นโทรศัพท์ที่ดังผิดเวล่ำเวลา และท่าทางหวาดระแวงอย่างคนมีความผิดติดตัว

--- แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ

ไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้ชายตรงหน้าจะทรยศต่อความรักของพวกเขาได้อย่างง่ายดายเหลือเกิน

ระยะเวลาสี่ปีที่พวกเขาคบกัน --- มันน้อยอยู่เสียเมื่อไหร่

'หัวใจมีอยู่ดวงเดียวจะให้ใครซ้ำสองได้ไง'

ดวงตาพร่ามัว กายบางสั่นไหว

แต่คนอย่างเขา ไม่เคยมีน้ำตาให้กับใคร!

“มันไม่ใช่อย่างที่เนมคิดนะ ผู้หญิงนั่น... มันยั่วธิป!”

นิพิททำเสียงขึ้นจมูก เขาเดินหนี แต่กลับถูกรั้งเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

“เนมจะไปไหน เนมไม่เชื่อธิปเหรอ?”

น้ำเสียงทอดฉะอ้อน ทั้งๆที่เรือนกายเต็มไปด้วยรอยเล็บและรอยจูบราวกับเพิ่งฟัดกันมาอย่างดุเดือด

นิพิทเมินหน้าหนี พลางถอนหายใจยาว ไม่คิดวิ่งหนี แต่ก็ไม่นึกอยากต่อปากต่อคำ ซึ่งธิปกตีความว่าอีกฝ่ายยอมเชื่อคำแก้ตัวเหล่านั้น

“เนมเชื่อธิปนะ ธิปไม่เคยนอกใจเนมเลยนะ รักเนมคนเดียว”

นิพิทแค่นยิ้ม เขาเห็นอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร นั่นเป็นดาราชื่อดังที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ๊ดันตัวแม่แห่งวงการบันเทิง คิดว่าเขาโง่นักหรือไงถึงได้ใช้คำพูดแก้ตัวที่ไร้น้ำหนักแบบนั้นในการเชื่อมสัมพันธ์

มือเล็กเอื้อมเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ล้วงเอากล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาแล้วยื่นให้

“สุขสันต์วันเกิด”

“นี่ให้ธิปเหรอ? โห ที่ธิปอยากได้เลย เนม ธิปรักเนม ธิปรักเนมที่สุดเลยนะ”

นิพิทเหยียดยิ้ม พร้อมกับชักมือกลับ

“คิดอีกที... น่าเสียดาย”

“... เนม?”

หยาดเหงื่อมากมายที่ลงแรงไป ความตั้งใจที่จะนำความสุขราคาแพงมาให้กับคนที่บอกว่าอยากได้ เพียงแค่ต้องการได้เห็นสีหน้าดีใจและรอยยิ้มของร่างตรงหน้า ผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ ผู้ชายที่ยอมแลกทุกสิ่งเพียงได้ก้าวไปข้างหน้า แม้ว่านั่นจะเป็นการเกาะชายกระโปรงของผู้หญิงก็ตาม!

“หยาดเหงื่อของฉัน... มันน่าเสียดายเกินกว่าจะเอามาซื้อของประเคนให้คนอย่างนาย เอาไปโยนทิ้งแม่น้ำยังคุ้มกว่า!”


ทิ้งไปให้หมด

ทั้งความทุกข์ ทั้งหัวใจ

ใครจะรู้ ว่าลงท้ายแล้ว หัวใจดวงเดียวที่มอบให้เขาจะถูกกระชากกลับคืนอย่างง่ายดาย และส่งต่อไปให้คนอื่นโดยไม่ไยดี โดยน้ำมือของบุคคลเดียวกันกับคนที่พร่ำบอกรักเขาทุกวี่วัน

เพราะลมปากของมนุษย์เรา --- มันก็แค่นี้


“พี่ภพ... ผม มีเรื่องจะขอร้อง...”

ตรีภพที่กำลังจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถใต้คอนโดของธิปกถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงเจือสะอื้นของอีกฝ่าย

“เนม? เป็นอะไรไป? ตอนนี้อยู่ไหน?”

“ผม... จะขอเดบิวต์เดี่ยว”

“... ว่าไงนะ?”









 

เสียงเปียโนที่เล่นเพลง Canon in D Major ที่ร่างเพรียวตั้งให้เป็นริงโทนดังอย่างต่อเนื่องมาร่วมชั่วโมง ในที่สุดก็สามารถปลุกให้ชายหนุ่มที่อ่อนล้าตื่นขึ้นได้

เขาเหม่ออยู่สักพักเมื่อเห็นว่าทั้งห้องตกอยู่ในความมืดทั้งๆที่เขาไม่ได้ปิดม่าน ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีนัด และนี่ก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่าแล้วด้วย

"ตาย หลับยาวเลย" รีบคว้าโทรศัพท์มากรอกเสียงเข้าไป "ฮัลโหล โทษครับพี่นา รถติดอ่ะครับ กำลังรีบไปนะ"

ปากว่าไปงั้นขณะมือรีบคว้าเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบๆมาสวม แต่ก็แอบหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ลืมไปว่าเขาฝากรถเอาไว้ที่บ้านพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด เพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังลืมไปว่าไม่มีรถยนต์ใช้

ร่างโปร่งตรงไปรื้อกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ก่อนจะคว้าสเปรย์น้ำแร่มาฉีดพ่นหน้าให้สดชื่น ตามด้วยทาแป้งเล็กน้อยแล้วเซ็ตผมที่ยุ่งเหยิงเพราะการนอนกลิ้งเกลือกไปหลายชั่วโมงให้เข้าที่เข้าทาง ส่องกระจกอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะเอื้อมปลดกระดุมเสื้ออีกเม็ดหนึ่งแล้วแหวกเล็กน้อย โดยไม่ลืมถกแขนเสื้อขึ้นอย่างมีสไตล์ ตบท้ายด้วยแว่นกันแดดสีดำอันโปรดของเขาแล้วออกไปข้างนอก

เขาทิ้งกระเป๋าสตางค์เอาไว้ที่ห้อง เอาไปเพียงบัตรเครดิตหนึ่งใบ กับแบงค์พันอีกสองใบ คิดว่าแค่นี้ก็คงอยู่ได้สบายๆ

คงหนีไม่พ้นบีทีเอสล่ะแบบนี้


คิดอย่างอารมณ์ดีพลางตรงไปที่บีทีเอสที่อยู่ไม่ไกล ไม่ได้ใช้บริการซะนานทีเดียว ตั้งแต่เข้าวงการนั่นล่ะ

แต่มืดแล้ว คงไม่มีใครสังเกตเห็นเขาหรอก


.



.


 
--- ซะที่ไหน

เกือบสามทุ่มตรง ที่ร่างของเขาปรากฏที่ร้าน Aphrodite หอบแฮ่กราวกับเพิ่งวิ่งพันไมล์มาอย่างเร่งร้อน ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้าไปในรถไฟฟ้า ทุกสายตาก็หันมามองทางเขาเป็นตาเดียว แว่บแรกเขานึกงงว่าลืมสวมกางเกงมาหรืออย่างไร แต่เมื่อได้ยินเสียงสูดลมหายใจของเด็กสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วตามมาด้วยเสียงกรี๊ดสนั่น เขาก็รู้แล้วว่า นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ใช้บริการรถสาธารณะ

กว่าจะหนีพ้นสายตาสาวๆที่วิ่งตามเขาพร้อมถ่ายรูปราวกับเห็นตัวประหลาดวิ่งอยู่กลางเมืองได้ก็แทบแย่ ผมที่เซ็ตเอาไว้ซะหล่อก็เป็นอันป่นปี้ หน้าม้าปรกลงมาปิดหน้าผากเหมือนเดิม

“พี่นา อยู่ไหนอ่ะครับ ผมถึงหน้าร้านแล้ว”

ไม่ค่อยได้ยินเสียงจากปลายสายนัก ไม่นานสายก็ตัดไป เขาขยี้ผมอย่างขัดใจจนเรือนผมสีน้ำตาลสว่างที่ยุ่งอยู่แล้วยุ่งหนักกว่าเก่าอย่างลืมตัว ตั้งใจจะเดินเข้าไปหาเอง แต่แล้วกลับไปชนเข้ากับร่างสูงคนหนึ่งที่กำลังยืนอ่านอะไรบางอย่างในไอแพดอย่างเคร่งเครียดอยู่ในมุมมืด

“โอ๊ะ ขอโทษครับ”

ทั้งสองฝ่ายต่างรีบกล่าวคำขอโทษขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะชะงักไปทั้งคู่เมื่อพบว่าฝ่ายตรงข้ามหน้าตาคุ้นเคยอย่างน่าแปลกใจ

“นาย!”

“นี่! เข้ามาได้ยังไง?!”

เสียงจากมนุเชษฐ์ทำเอาเขาขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ

“หมายความว่าไง? ก็เดินเข้ามาน่ะสิ ต้องใช้บัตรสมาชิกรึไง?”

จริงๆแล้ว หากจะขึ้นไปด้านบนของร้านก็ต้องใช้บัตรสมาชิกจริงอย่างที่ว่า แต่ตอนนี้อยู่ที่ชั้นล่างซึ่งขอให้เป็นแขกแต่งตัวเหมาะสมก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้

“เฮ้ย ทำไรของนาย?!”

เสียงใสร้องลั่นเมื่อจู่ๆมือใหญ่ก็คว้าต้นแขนของเขาแล้วดึงให้ตรงไปทางประตูทางเข้าที่เขาเพิ่งจะก้าวผ่านเข้ามาหมาดๆ

“ออกมาด้วยกันเลย อายุไม่ถึงยี่สิบห้ามเข้า”

“นายจะบ้าเหรอ! ตอนนี้ฉันยี่สิบเจ็ดแล้ว!”

ร่างสูงไม่แม้แต่จะชะงักด้วยซ้ำ กลับสั่นศีรษะแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“จะโกหกก็เอาให้มันเนียนๆหน่อย รออีกสองสามปีค่อยมาใหม่นะ เจ้าหนู”

“ไม่ได้โกหกนะ!!”

“งั้นขอดูบัตรประชาชนหน่อย”

นิพิทนิ่งไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาทิ้งทุกอย่างเอาไว้ที่คอนโดเพราะขี้เกียจมีอะไรเกะกะ มันจะอะไรกันนักกันหนา ที่อเมริกาเขาไม่เห็นเคยเจอปัญหาแบบนี้เลย

“นายเป็นใคร? ตำรวจรึไง?”

“ไม่ใช่ครับ เป็นพนักงานธรรมดาเนี่ยล่ะครับ แต่หน้าที่ของผมคือการดูแลไม่ให้ร้านเดือดร้อน”

“งั้นเหรอ แล้วนายแน่ใจได้ยังไงว่าฉันอายุไม่ถึงยี่สิบ เอาอะไรมาตัดสิน?”

“แค่ดูก็รู้แล้ว”

หน้าใสกิ๊งซะขนาดนี้ ขนาดนิชาที่ว่าใสแล้วยังสู้ไม่ได้ แถมผมหน้าม้าสีอ่อนที่ปรกหน้ายังทำให้ดูน่ารักเหมือนเด็กๆ แว่บแรกที่เห็นนึกว่าผู้หญิงซะอีก คงเป็นเด็กปีหนึ่งที่ไหนสักแห่งล่ะสิถึงได้เห่อกับการจัดแต่งทรงผมตามแฟชั่นซะขนาดนี้

นิพิทไม่รู้จะตีความคำพูดของร่างตรงหน้าว่าอย่างไรดี แต่ยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ เขาก็ถูกลากมาปล่อยทิ้งเอาไว้นอกร้าน แถมอีกฝ่ายยังกำชับยามเฝ้าประตูอีกต่างหากว่าห้ามให้เข้าไป

“โว้ย! มันจะอะไรกันนักหนาเนี่ย!!”

หมอนั่นต้องรู้อยู่แล้วแน่ๆว่าเขาอายุเกิน แต่นี่คงเป็นการแก้แค้นเพราะเห็นเขาไม่มีบัตรประชาชน จำไว้นะ เขาจะต้องหาทางเอาคืนให้ได้!

นิพิทคิดอย่างเจ็บใจ และในที่สุดก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรเรียกให้พี่สาวออกมารับราวกับเป็นเด็กเล็กๆ

“พี่นา มารับผมหน่อยสิ... เปล่า เจอไอ้บ้ากวนประสาทไม่ยอมให้เข้าไป.. ครับๆ”

เพียงไม่นานนัก เขาก็ได้พบกับร่างของบุคคลในครอบครัวที่แสนคิดถึง แต่ไม่ใช่พี่สาวอย่างที่คาดเอาไว้ กลับเป็นน้องชายคนเล็กที่ไม่ได้พบกันมานานพอกัน

“นท!!”

“พี่เนม!”

ร่างบางวิ่งเข้าหาผู้เป็นพี่ที่ยืนอยู่หน้าร้านด้วยความยินดี พร้อมกับกอดรัดเอวเพรียวนั้นเอาไว้แน่น

“คิดถึงจังเลย! เป็นไงบ้างครับ? พี่สบายดีใช่ไหม? ผอมไปหน่อยนะ กินข้าวครบทุกมื้อรึเปล่า?”

นิพิทหัวเราะอย่างขบขัน “พี่สบายดี ใจคอจะไม่หยุดพักหายใจบ้างเลยเหรอไง?”

นิชาหันไปทางยามเฝ้าประตูที่คุ้นเคยกันดีตั้งแต่สมัยที่เขายังเคยทำที่ร้านนี้อยู่

“พี่ครับ นี่พี่ชายของผมเอง อายุเกินยี่สิบแล้วแน่นอนครับ”

“อ้าวเหรอครับ เห็นหน้าเด็กๆ คุณเชษฐ์เขาเลยไม่ให้เข้าน่ะครับ”

นิชาหัวเราะ “ไม่หรอกครับ พี่จำเขาไม่ได้เหรอ นี่นักร้องดังเชียวนะ” พูดไปแบบนั้น อีกฝ่ายจึงจดจ้องใบหน้าของร่างเพรียวใกล้ๆ เนื่องจากมันมืดจึงมองไม่ค่อยชัด ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเป็นใบหน้าที่เห็นตามหน้าปกนิตยสารทั่วไปเป็นประจำ ในขณะที่ผู้ตกเป็นเป้าสายตาแอบหยิกแก้มน้องชายเบาๆ

“พูดมากจริง”

“โธ่ พี่เนม นทอยากอวดนี่นา”

“อวดพี่นายังไม่พอรึไง นายนี่”

“ฮ่าๆ ว่าแต่ได้เจอเชษฐ์แล้วเหรอครับ?”

“ไอ้หมอนั่นที่สูงๆใช่ไหม? ชื่อเชษฐ์เหรอ?”

“ใช่ครับ เขาเป็นเลขาของเจ้าของร้าน”

“อ้อเหรอ...”

“มีเรื่องกันเหรอ?” นิชาแอบจับน้ำเสียงได้ลึกๆว่าอีกฝ่ายแอบมีน้ำโห  แต่ก็ค่อยโล่งใจเมื่ออีกฝ่ายเพียงหันมายิ้มหวานให้แล้วลูบศีรษะมนของคนที่ตัวเล็กกว่าเบาๆ

“เปล่า พี่แค่สงสัยน่ะ เห็นสูงๆ หุ่นแบบนั้นนึกว่าเป็นบอดี้การ์ดหรืออะไรทำนองนั้นซะมากกว่าเลขา”

“เชษฐ์สูงมากครับ เมื่อก่อนเคยทำที่ร้านกาแฟของนท แต่ตอนนี้มาทำที่นี่ได้หลายปีแล้วเหมือนกัน”

“อ้อ...”

“อ้าว พี่นท วันนี้มาด้วยเหรอครับ?”

พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าตัวก็โผล่มาให้เห็นอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มยินดีราวกับสุนัขได้พบกับเจ้าของที่คิดถึงมานาน ร่างหนาตรงดิ่งเข้ามาโดยที่สายตาจับจ้องเพียงใบหน้าน่ารักของคนคุ้นเคย

“เชษฐ์ เป็นยังไงบ้าง? ไม่ได้เจอกันซะนานเลย”

ดวงตาคมทอแววละมุนเมื่อได้เห็นรอยยิ้มใสของร่างตรงหน้า ก่อนที่ผิวแก้มจะขึ้นสีเรื่อเมื่อมือเรียวเอื้อมไปปัดเรือนผมที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงที่เกิดจากตอนฉุดกระชากลากถูนิพิทให้ออกไปด้านนอกร้านให้เข้าที่เข้าทาง

“ผมยุ่งหมดแล้ว เราน่ะเป็นหน้าเป็นตาของร้าน ต้องดูแลตัวเองให้ดีรู้ไหม?”

“อ๊ะ... ขะ ขอบคุณครับ”

--- แบบนี้นี่เอง


เพียงแค่ได้เห็นกิริยา คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานก็พอจะเดาได้ ดูเหมือนว่าที่นี่คงจะมืดไปหน่อย หรือไม่ร่างสูงตรงหน้าก็คงจะมีดวงตาเอาไว้มองเพียงแค่นิชาคนเดียวเท่านั้น เพราะเพิ่งจะได้หันมาเห็นร่างของเขาที่ยืนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรกแล้ว

“อ้าว คุณ”

“เชษฐ์ นี่พี่ชายของพี่เอง มานี่สิ จะแนะนำให้รู้จัก”

“พี่ชาย????”

นิพิทซ่อนรอยยิ้มขันสีหน้าตกตะลึงของร่างสูงใหญ่ สายตาไม่อยากจะเชื่อนั่นไม่รู้จะตีความไปทางร้ายหรือดี แต่ที่แน่ๆคงหนีไม่พ้นว่าหน้าของเขาดูเด็กกว่าวัยไปโขทีเดียว --- แน่สิ เป็นนักร้องก็ต้องบำรุงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

“ใช่ พี่เนม พี่เนมครับ นี่เชษฐ์ที่เล่าให้ฟัง แต่ก็เคยเจอกันแล้วนี่เนอะ”

“อือฮึ ก็... เคยเจอกันครั้งสองครั้ง”

นึกหงุดหงิดในใจ เด็กคนนี้เองน่ะหรือที่นิชาผู้เป็นน้องชายเล่าให้ฟังอยู่ตลอดตั้งแต่หลายปีก่อน ข่าวว่าเป็นเด็กขยัน ใฝ่เรียน เลี้ยงดูที่บ้านด้วย รักดีมันก็ดีอยู่ แต่นิสัยนี่อีกเรื่อง ไหนน้องชายของเขาเล่าว่าเป็นเด็กดีนักหนาไง เท่าที่เจอมามีแต่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่

ในขณะที่มนุเชษฐ์แลดูไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ยืนอึ้งประสานสายตากับดวงตากลมโตที่ฉายแววกวนพร้อมกับรอยยิ้มเชิดๆอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“เชษฐ์ มาทางนี้หน่อย”

“อ้าว เอกเรียกแล้วแน่ะ รีบไปเถอะ”

“เอ่อ ครับ ขอตัวก่อน”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2013 18:17:03 โดย MilkTea »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
« ตอบ #1669 เมื่อ: 01-04-2013 17:59:10 »





ออฟไลน์ MilkTea

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1670 เมื่อ01-04-2013 17:59:23 »



เมื่ออีกฝ่ายลับตาไป นิชาจึงรั้งแขนเรียวเบาๆ

“พี่เนม ไปหาพี่นากัน เจ๊รอนานแล้วเดี๋ยวจะบ่น”

“โอเค วันนี้เดี๋ยวพี่เป็นเจ้ามือเอง อยากกินอะไรจัดเลย เปิดบลูสักขวดไหม”

“แล้วแต่พี่เนมเลยครับ จริงๆนทคงดื่มมากไม่ได้หรอก แฟนดุ”

“ตาคนนั้นน่ะเหรอ ยังไม่เลิกกันอีกรึไง?”

นิชาหัวเราะอย่างไม่ถือสาคำพูดของผู้เป็นพี่ชาย อีกฝ่ายหวงเขาอย่างกับอะไรดี แต่ก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะมาห้ามไม่ให้เขาคบกับใคร แค่ย้ำให้ระวังโดนหลอกให้ดีเท่านั้น

“ครับ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ดีขึ้น”

“จริงเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่โล่งใจไป”

เขาจับศีรษะมนของน้องชายมาโยกไปมาเบาๆ พร้อมกับอุทานดังด้วยรอยยิ้มเมื่อได้พบกับพี่สาวคนสวยในห้องพิเศษที่แยกออกมาอย่างเป็นส่วนตัว นิชารู้ดีว่าพี่สาวและพี่ชายของเขาต้องการอะไร จึงได้ขอจองห้องพิเศษที่มีคิวรอล้นอยู่เอาไว้ให้เพื่อการนี้

“คิดถึงจัง พี่นา แหม เชพยังแหล่มบ๊ะเหมือนเดิมนะ”

ไม่พูดเปล่า เอามือลูบไปตามรอยโค้งเว้าของเอวตามประสาแสบ

“ทะลึ่งว่ะ”

ฝ่ายหญิงสาวเองก็ใช้หลังมือฟาดหน้าผากใสกิ๊งนั่นไม่เบานัก หยอกแรงมาก็หยอกแรงกลับ สองคนนี้รักกันสไตล์นี้ ผิดกับน้องชายคนเล็กที่บอบบางมาแต่อ้อนแต่ออกซึ่งพวกเขาก็คอยทะนุถนอมไว้เป็นอย่างดี

“พี่เนม รอบนี้กลับมาจะอยู่นานเลยรึเปล่าครับ?”

“อาจจะนะ เพิ่งจบทัวร์ไป เรื่องแผนอัลบั้มก็พักไว้ก่อน ถ้ามีจังหวะคงออกอัลบั้มที่ไทยบ้าง”

เขานึกไปถึงแฟนคลับที่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยที่คงเหงาน่าดูที่เขาหายไปหลายปีราวกับไม่ใส่ใจคนที่ประเทศบ้านเกิดของตัวเองเสียบ้าง แต่ทำอย่างไรได้ คำสั่งของสังกัดเป็นที่สุดเสมอแม้เขาจะไม่เต็มใจนักก็ตาม

“แต่ฉันได้ยินว่าค่ายหนังติดต่อนายมาไม่ใช่เหรอ เนม”

“หูไวจริง สมแล้วที่เป็นเหยี่ยวข่าวในวงการ ผมยังไม่ได้ตกลงครับ มันเป็นหนังเรท”

“อ้าว ไม่มั่นใจในสกิลซะงั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ของแบบนี้มันต้องคิดดีๆก่อนตัดสินใจครับ”

นิพิทหัวเราะในลำคอ พี่สาวของเขามีรูปลักษณ์ที่สวยสง่ามาแต่ไหนแต่ไร จึงเข้าวงการด้วยการเป็นนางแบบ จากนั้นจึงถูกทาบทามให้ไปเล่นมิวสิควิดีโอ แล้วตามมาด้วยหนังกับละครหลากเรื่อง ด้วยลุคที่ไม่เซ็กซี่ไม่เป็นรองใคร ทำให้ใครต่อใครต่างหมายปองทั้งๆที่เจ้าหล่อนมีข่าวฉาวจากพวกขี้อิจฉาอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ว่าเธอจะดีหรือร้ายยังไง ก็ยังเป็นพี่สาวที่เขาภาคภูมิใจเหมือนเดิม

“ใครๆเขาก็ลือกันทั้งนั้นว่ารอบนี้นายจะกลับมาทวงบัลลังก์คืน หายไปจากชาร์ตไทยซะนานเลยนี่”

“อืม ก็ตั้งใจไว้แบบนั้น ว่าแต่ นทเถอะ ทำไมเงียบจัง เมาเหรอ?”

เขาเอ่ยอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นน้องชายนั่งตาปรือและเงียบกริบมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นดวงหน้าแดงจัดนั่นถึงได้ฟันธงคำตอบ

“พี่นา เอารถมารึเปล่า?”

“เปล่า มาดื่มเหล้า ใครเขาบ้าขับรถมากันล่ะ”

“เออ จริง คืนนี้พี่นอนไหน ถ้านอนบ้านผมจะได้ไปส่งนทเอง”

“ม่ายเป็นไร นทให้พี่ชินมารับด้าย”

“จะดีเหรอ นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนะ”

นิพิทปรายสายตามองนาฬิกา ก่อนจะเลื่อนดวงตากลับมาทางใบหน้าเหรอหราของร่างบอบบางที่ทำตาโตราวกับคนโดนน้ำเย็นสาด

“พี่ว่าไงนะ นี่กี่โมงแล้วนะ?”

“เที่ยงคืนกว่าแล้ว”

นิชากัดริมฝีปาก นึกแปลกใจที่โทรศัพท์ของเขาไม่ดังเลยสักครั้ง เมื่อได้เห็นว่าแบตหมดจึงถึงบางอ้อ และแน่นอน กลับไปเขาโดนดีแน่ งานนี้ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอะไรด้วย

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นิพิทที่อยู่ใกล้ที่สุดเดินไปเปิดรับ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเมื่อพบกับร่างสูงของคนที่ไล่เขาออกจากร้านไปเมื่อตอนเย็น

“พี่นท”

“เชษฐ์” เขาอ่านสายตาลำบากใจของอีกฝ่ายเพียงครู่เดียวก็รู้ได้ถึงสาเหตุ “รู้แล้ว เดี๋ยวพี่รีบลงไป ขอบคุณมากนะ”

“ครับ”

มนุเชษฐ์ทอดถอนใจพลางยืนพิงประตูรออยู่ที่เดิม เตชินท์บุกมาถึงร้านตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว คงจะเดินหาอยู่คนเดียวจนโมโหแล้วก็บังเอิญพบกับเขาเข้าพอดี จะปฏิเสธไปก็ใช่เรื่อง สุดท้ายเลยรับคำว่าจะพานิชาลงไปหา ดวงตาคมคู่นั้นมองตามร่างบางที่กำลังหันไปเก็บข้าวของอย่างไม่ละสายตา นัยน์ตาทอแววระอาปะปนไปด้วยความเอ็นดู นิพิทมองตามอย่างไม่เข้าใจนัก แต่เขารับรู้ได้ถึงความรักในแววตาเศร้าคู่นั้น

“พี่นา พี่เนม นทกลับก่อนนะครับ ดึกมากแล้ว”

“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวเรากลับกันเลยไหม เนม”

นิพิทรู้สึกหงุดหงิดในใจอย่างบอกไม่ถูก เขากระดกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก

“พี่กลับก่อนเลยครับ วันนี้ผมอยากอยู่ต่ออีกสักพัก”

“แบบนี้ไม่ค่อยสบายใจนะ พรุ่งนี้พี่มีถ่ายเช้าซะด้วยสิ”

นิพิทหัวเราะเสียงใสพร้อมกับโบกมือไล่ความไม่สบายใจของพี่สาวทิ้ง

“ไม่เป็นไรน่าพี่นา ผมดื่มคนเดียวออกบ่อย สมัยอยู่เมกาน่ะ”

นิชาเองก็ไม่สบายใจนัก เขาเหลือบสายตาไปทางมนุเชษฐ์ที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องอย่างขอความช่วยเหลือ

“อืม เชษฐ์ วันนี้ว่างรึเปล่า?”

“ตอนนี้?”

“อื้ม”

“พอว่างอยู่ครับ วันนี้พี่เอกมา ผมเลยไม่ค่อยต้องทำอะไรมากเท่าไหร่เพราะเฮียแกอยากจัดการเองทุกอย่าง”

“งั้น มาอยู่เป็นเพื่อนพี่เนมหน่อยได้ไหม?”

“หา?”

“เฮ้ย?”

สองคนอุทานขึ้นมาพร้อมกัน นิพิทรีบปฏิเสธบอกเกรงใจ แม้สาเหตุจากใจจริงคืออึดอัดและไม่ชอบขี้หน้าของเด็กคนนี้สักเท่าไหร่ ส่วนมนุเชษฐ์นั้นได้แต่งงที่จู่ๆอีกฝ่ายอ้าปากขอความช่วยเหลือจากเขาเป็นครั้งแรก

--- เขาเคยสาบานเอาไว้กับตัวเองแล้ว ไม่ว่าคำขอร้องของนิชาจะเป็นสิ่งใด เขาก็พร้อมจะทำให้ทุกประการ


“ได้ครับ”

“เฮ้ย!”

เสียงอุทานแบบเดิมดังหลุดลอดเรียวปากงามอีกครั้ง และดังกว่าเดิม ในขณะที่นิชาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังดังนั้น เพราะแม้ว่าที่นี่จะเป็นห้องพิเศษ แต่ว่าเขาก็ไม่สบายใจอยู่ดีที่จะปล่อยให้พี่ชายนั่งดื่มอยู่ตามลำพังไม่มีคนคอยดูแล อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะอาชีพศิลปินด้วย นิชาคงรู้สึกผิดหากลงท้ายแล้วมีข่าวไม่ดีถึงพี่ชายหลุดออกไปเพราะคืนวันนี้

“ขอบคุณมากนะ เชษฐ์”

นิพิทกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่เขากลับชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้เห็นสายตาที่ทอดมองใบหน้าน่ารักที่กำลังคลี่ยิ้มให้ เป็นดวงตาที่โหยหาความรัก เป็นสุข ในขณะเดียวกันก็ปวดหัวใจ นัยน์ตาคู่เดิมนี้เองยังทอดมองเรือนกายเล็กที่ก้าวเดินไปตามโถงทางเดินพร้อมกับพี่สาวจนลับสายตา เป็นสายตาของคนที่เจ็บใจ เหมือนเด็กโดนแย่งของเล่นชิ้นโปรดไป

นิพิทกลอกสายตาไปมา แบบนี้ที่เขาสงสัยเอาไว้คงไม่ผิด ไม่แปลกใจนักที่น้องชายจะเนื้อหอมกว่าเขา แม้ว่ารูปลักษณ์จะคล้ายคลึงกัน เขาหน้าหล่อ แม้ว่าแฟนๆจะบอกว่าสวย แต่เขาก็ยังยืนกรานหนักแน่นว่าเขาหล่อ แต่นิชาจะตัวเล็ก น่ารัก และนุ่มนิ่มเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่เขาจะป๊อปกับผู้หญิง ในขณะที่นิชาแลดูจะเนื้อหอมกับผู้ชาย ซึ่งสำหรับเขานี่อาจจะไม่ใช่ข้อดีสักเท่าไหร่

ประตูปิดลง พร้อมกับร่างสูงปรี๊ดที่เดินตามมาทรุดกายนั่งลงเคียงข้าง บรรยากาศเงียบงันจนน่าอึดอัด มีเพียงเสียงดนตรีแจ๊สบรรเลงคลอเบาๆเท่านั้น

นิพิทไม่ชอบความน่าอึดอัดแบบนี้นัก จึงหันไปรินเหล้าให้อีกฝ่าย

“เอ้า ดื่มกันหน่อย”

มนุเชษฐ์รับเอาไว้ จิบเบาๆพอเป็นพิธี กล่าวขอบคุณ และไม่พูดอะไรอีก

สรุปแล้วน้องชายของเขาหาเพื่อนมานั่งด้วย แต่เขารู้สึกเหมือนมีเสาไฟฟ้ามาตั้งอยู่ข้างๆเสียมากกว่า

“เออ นี่... ฉันหน้าเด็กมากเหรอ?”

ร่างเพรียวหาเรื่องคุย ถึงจะเป็นเรื่องไร้สาระก็ตาม

“........”

อีกฝ่ายยังคงเงียบ นี่ถ้าไม่เห็นพูดเป็นต่อยหอยเมื่อตอนพบกันเขาคงเข้าใจว่าหนุ่มคนนี้เป็นใบ้ ใบหน้าดูดีเริ่มชักสีหน้าอย่างขัดใจเพราะไม่เข้าใจคนที่นั่งอยู่เคียงข้าง สุดท้ายก็ได้แต่คว้าแก้วขึ้นกระดกเอาๆเพื่อฆ่าเวลา

“คือ... ผมขอโทษ”

ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ พร้อมกับหันไปมองทางต้นเสียงอย่างไม่อยากเชื่อหูนัก

“เมื่อตอนเย็น ผม... เข้าใจว่าคุณอายุไม่ถึงยี่สิบจริงๆ... ขอโทษครับ”

นิพิทเผลอตัวอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นใบหน้าคมที่ก้มลงเล็กน้อย ผิวแก้มซับสีเรื่อทั้งๆที่หัวคิ้วขมวดมุ่น ดูขัดกันจนน่าขำ แต่อาการประหม่าแบบที่เขาไม่ค่อยได้เห็นนักในสังคมปัจจุบันนี้ก็อดทำให้เขายิ้มออกมาไม่ได้

“ไม่เป็นไร ฉันเองก็มีส่วนที่ทำให้เข้าใจผิด”

--- ที่หน้าเด็กกว่าวัย


“แล้วก็เรื่องที่สุวรรณภูมิ ผมหงุดหงิดใส่คุณ ขอโทษนะครับ”

“อ๋อ เอ่อ...” มือเรียวเอื้อมมาเกาศีรษะตนเองแก้เก้อ “จริงๆฉันก็ผิดเหมือนกัน ฉันหงุดหงิดไป ขอโทษที ฉันก็เป็นแบบนี้เรื่อย ปากหาเรื่อง โดนผู้จัดการด่าประจำแต่ก็ไม่เข็ดสักที เมื่อตอนอยู่เมกาก็เจอกุ๊ยข้างถนนมาหาเรื่อง แต่ฉันสู้กลับนะ แม้ว่าลงท้ายแล้วก็เป็นผู้จัดการแหละที่มาจัดการให้ ทำหน้าที่ได้สุดยอดใช่ไหมล่ะ”

ร่างสูงเองก็ดูเหมือนไม่อยากเชื่อหูนักว่าจะได้ยินคำขอโทษจากปากของอีกฝ่าย จึงเงยหน้ามองใบหน้าสวยที่พูดจาเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด ซีกหน้าด้านข้างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นไอดอลนี่ดูดีสมคำร่ำลือจริง แม้ว่าจะไม่ได้ดูไร้เดียงสาอย่างนิชา แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด

“แล้วนี่ตอนนี้เรียนจบแล้วใช่ไหม? เห็นนทบอกว่าส่งตัวเองเรียนเหรอ?”

“ตอนแรกเป็นแบบนั้นครับ แต่ว่าได้พี่เอก... เจ้าของร้านที่นี่ส่งให้เรียนต่อสูงๆ จะได้กลับมาช่วยบริหารร้าน”

“ดีนะ เราเป็นเด็กรักดี ได้ผู้สนับสนุนที่ดี รับรองว่าอนาคตจะดีแน่นอน”

นิพิทยิ้มให้กับร่างสูงที่ถือแก้วเหล้าอยู่ในมืออย่างอบอุ่น อาจจะจริงอย่างที่น้องชายว่า ร่างตรงหน้าเป็นเด็กดี ไม่ว่าภายนอกจะดูโตอย่างไร จริงๆแล้วก็เป็นเพียงหนุ่มน้อยที่อายุเกินยี่สิบมาไม่กี่ปี

“แล้ว... คุณเป็นยังไงบ้างครับ?”

“ฉัน? งานน่ะเหรอ?”

“เห็นพี่นทเล่าให้ฟังว่า ต้องไปทำงานต่างประเทศหลายปี... คงเหงาแย่”

“อืม เหงาน่าดูเลย แต่อีกมุมหนึ่ง มันก็ได้เรียนรู้ชีวิตดีนะ... ปกติถ้าอยู่แต่ในอ้อมอกของพ่อแม่ ต่อให้เจอเรื่องเลวร้ายแค่ไหน เราก็สามารถกลับไปอ้อนคนที่บ้านให้ดูแลได้ใช่ไหมล่ะ? แต่พอออกไปอยู่ตัวคนเดียวแบบนั้น ถึงได้รู้ว่าชีวิตจริงไม่มีใครหรอกที่จะสามารถดูแลเราได้ตลอดรอดฝั่ง”

นิพิทเหม่อมองของเหลวสีอำพันในแก้วด้วยสายตาที่อ่านได้ยาก เหมือนกับไม่ได้คิดอะไร ทั้งๆที่ภายในใจเจ็บปวดจนเจียนแตกสลาย

“เกิดมาคนเดียว ก็ต้องตายคนเดียว... สัจธรรมโลก”

“คุณพูดเหมือนคนปลงชีวิตแล้ว”

“... เอาไว้เมื่อไหร่ที่นายอายุเท่าฉัน นายจะเข้าใจเอง”

--- เข้าใจ ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครที่รักกันจริง ไม่มีเลย

เขาคิดไปเองรึเปล่า ว่าสายตาคมที่มองตรงมาฉายแววเห็นใจ เขาไม่ต้องการความรู้สึกเวทนาจากใคร โดยเฉพาะกับคนที่แทบไม่รู้จักกันแบบนี้ ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ดื่มเอา ดื่มเอา

ความฝันเมื่อตอนเย็นยังฉายชัดในความทรงจำ เป็นเหมือนทีวีที่ฉายซ้ำแต่ภาพเดิมๆ เรื่องเก่าๆ คำหวานเดิมๆที่เป็นเพียงลมปาก

มันจะดีสักแค่ไหน หากได้พบกับใครสักคนที่รักแต่เพียงเขาเพียงคนเดียว

ใครสักคนที่ไม่ต้องพูดอะไร และรักเขาด้วยใจจริง









Talk: ขออภัยที่นานไปนานค่ะ  :mew3:
วันนี้วันประกาศเลิกทาสของร.๕ เห็นเป็นฤกษ์ดีเลยเอาตอนใหม่มาลงค่ะ (เกี่ยว??)
เข้าเดือนเมษาแล้ว เดือนที่ร้อนที่สุดในรอบปีมาถึงแล้ว
คือทุกวันนี้ถ้าไม่มีแอร์ก็แทบจะอยู่ไม่ได้  :hao5:
เปิดแอร์แล้วโลกก็ยิ่งร้อน แต่ไม่เปิดก็นอนไม่หลับ
อยากย้ายไปอยู่ตามไร่ตามป่ามากเลยค่ะ (สรุป แล้งหนัก เจอไฟป่าอีก)  :z3:



ป.ล. เพิ่งเห็น... อีโมใหม่น่ารักอ่ะ  :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2013 18:29:54 โดย MilkTea »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1671 เมื่อ01-04-2013 18:14:54 »

ดูเชษฐ์จะติ๋มกว่าพี่เนมแล้วนะฮะ 55555555555555

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1672 เมื่อ01-04-2013 20:52:36 »

 :hao5:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1673 เมื่อ01-04-2013 20:58:00 »

เชษฐ์กับพี่เนมดีกันแล้ว :hao3:

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1674 เมื่อ01-04-2013 21:05:18 »

ปลื้มมม คู่นี้เป็นคู่ที่น่าติดตามเช่นเคย
เราชอบอ่านแนวนี้มากก เมะที่ดูหัวอ่อนแต่ก็พึ่งพาได้
เนมก็น่ารักกกก รอหนูเชษฐ์มาดามหัวใจแล้วกันนะอิอิ

ออฟไลน์ miracle22936

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1675 เมื่อ01-04-2013 22:09:46 »

สรุป เนม เป็น พี่ของ นท นี้เอง อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1676 เมื่อ01-04-2013 23:45:14 »

เนมน่าสงสารมากอ่ะ โดนคนรักหักหลัง แล้วใครจะมาช่วยดามใจน้าาาาาาา ใช่เชษฐ์ไหมน้า

ออฟไลน์ Yundori

  • From where I stand...
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1677 เมื่อ02-04-2013 00:20:23 »

สงสารพี่เนมมากกกกกก
เจอชะตากรรมคล้ายกับนท
แต่นทคือกลับไปหาคนเก่าเพราะยังรัก
แต่พี่เนมนี่ดูท่าจะได้คนใหม่ อิอิ

ออฟไลน์ Lilyrum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1678 เมื่อ02-04-2013 00:42:22 »

ตกใจมากที่มีภาคสองด้วย
รีบกดเข้ามาอ่านโดยทันที  :katai2-1:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
Re: [[THE CAGE]] . . . ตรวนรัก . . . ~BOND~ [2] 01.04.13
«ตอบ #1679 เมื่อ02-04-2013 01:33:30 »

ชินคงเป็นห่วงและกังวลแย่เลยนะเนี่ย นทอยู่ดึกแบบนั้นเนี่ย ชินดูแลนทให้ดีนะ เนมคงคิดมากเรื่องนั้นสินะ แล้วเนมกับใครกันเนี่ย น่าสงสัยจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด