[[ THE CAGE ]] . . กรงรัก . .
[31]
“เอกกับนท... เราคบกันอยู่ครับ”“... พี่เอก?!”
“ว่าไงนะ เอก? นี่ล้อเล่นใช่ไหม?.........”
ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกหลังจากนั้น รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ในหูอื้ออึงไปด้วยเสียงรอบข้างที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ดวงตามองเห็นเป็นภาพที่หมุนวนคล้ายกับโลกพลิกคว่ำหลายตลบ
ฝัน
เขาฝันร้าย --- เป็นฝันร้ายที่อยากจะรีบๆตื่นให้เร็วที่สุด
ไม่มีทาง ไม่มีวันที่นิชาจะรักใครคนอื่นนอกจากเขาหรอก ก็ในเมื่อ --- เขายังไม่สามารถรักใครได้นอกเหนือจากเด็กคนนั้นเลย แล้วทำไม ---
เขา --- รักนิชาอย่างนั้นหรือ?
ใช่ รักสิ ไม่รักเด็กคนนั้นแล้วจะให้ไปรักใคร
ทั้งชีวิตนี้ เขาไม่เคยให้ใครก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้มากเท่าเด็กคนนั้นอีกแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่พบกัน เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ประกายสดใสในแววตา ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆโอบล้อมชีวิตของเขา และทำให้เขาได้รู้จักกับคำว่า ‘ความสุข’ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรเลย แค่เพียงมีกันและกันเท่านั้น
แต่เพราะอะไร อะไรทำให้เขาลืมเรื่องที่ง่ายที่สุดแบบนั้นไป?
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลัว ว่าวันหนึ่งอาจจะต้องสูญเสียความสุขเหล่านั้น จึงได้เร่งสร้างรากฐานให้มั่นคง ด้วยหวังว่าอำนาจที่มากขึ้นจะสามารถทำให้นิชาอยู่กับเขาได้ต่อไป วันทั้งวันหมกมุ่นอยู่แต่เพียงเรื่องแบบนี้ และหลงมัวเมาอยู่กับตัณหาที่ระบายออกตามแสงสียามค่ำคืนจนทำให้มองข้ามความสุขที่เรียบง่ายเหล่านั้นไปจนหมด
เดือนปีผ่านไป ความสุขในแบบนั้นก็ไม่เหลือให้ระลึกถึงในความทรงจำของเขาได้อีก เขาลืมไปแล้วว่าเคยรู้สึกแบบนั้น เพียงแค่ได้นั่งดูหนังด้วยกันที่บ้าน หรือหัวเราะให้กันยามที่ขับรถไปรับนิชาที่ร้านกาแฟ หรือแม้แต่ช่วยกันทำอาหารเย็นในครัวที่ห้องของพวกเขาสองคน --- ความสุขที่แม้แต่เงินก็ซื้อไม่ได้ ความสุขของการได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนรักคนแรกคนเดียวในหัวใจ
ลืมไปได้อย่างไรกัน? --- เขาลืมสิ่งล้ำค่าเหล่านั้นไปได้อย่างไรกัน?!
“... พี่ชิน?”
เสียงใสหลุดรอดออกจากเรียวปากคู่สวย ก่อนที่เจ้าตัวจะทันได้รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำไป เสียงหวานนั้นแผ่วเบา และสั่นไหวราวกับเจ้าของเสียงนั้นกำลังร่ำไห้ ทั้งๆที่ดวงหน้าน่ารักยังฉายแววงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับเขาและทุกๆคนที่อยู่ภายในห้อง ทว่าธนกรสามารถสังเกตเห็นได้ชัดว่า ในนัยน์ตาคู่โตนั้นเต็มไปด้วยความอาลัยราวกับโศกเศร้ากับการจากไปของคนที่รัก ทั้งๆที่ --- แน่นอน --- นิชาจำเรื่องของผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย
“พี่ชิน! เป็นอะไรไปคะ? ร้องไห้ทำไม?”
ลลดารีบคว้าทิชชู่เพื่อซับน้ำตาบนผิวแก้มของร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆในทันที ขณะที่เจ้าของนามเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ปลายนิ้วยาวเลื่อนแตะสัมผัสที่ขอบตาร้อนผ่าวเบาๆ เมื่อพบว่ามีหยดน้ำใสรินไหลอยู่จริงก็ผุดลุกขึ้นยืนแล้วก้าวยาวๆผ่านหน้าทุกคนออกไปจากห้อง
จังหวะที่ก้าวผ่านร่างบอบบางนั้นเองที่เตชินท์หันมาสบตากับนิชาเพียงเสี้ยววินาที ดวงตาคู่สวยไหวระริกเมื่อได้ประสานสายตากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่ไม่รู้จักโดยไม่มีเหตุผล ก่อนที่ประตูจะปิดลงตามหลัง และร่างเพรียวบางก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นในสายตาอีก แน่นอนว่าเด็กสาวร่างเล็กรีบก้าวตามออกไปอย่างร้อนใจ ในขณะที่ผู้เป็นพี่สาวคนโตได้แต่ถอนหายใจยืดยาวกับเหตุการณ์ที่ท่าทางจะต้องเคลียร์กันอีกยาว
“คุณนท เชิญนั่งเถอะค่ะ เอกด้วย อธิบายให้หมดเลยนะว่าเรื่องมันเป็นไงกันแน่”
“นั่นน่ะสิ เอก นี่จะบอกว่าเราชอบผู้ชายเหรอ?”
“ป๊าครับ ม้าครับ...”
ดวงตาคมสั่นไหวเมื่อได้ยินน้ำเสียงปวดร้าวของผู้เป็นมารดา แต่เขาเลือกที่จะไม่หลบสายตา กลับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพ่อและแม่อย่างหนักแน่น ทว่าเว้าวอน
“เอกกราบขอโทษจริงๆที่ทำให้ป๊ากับม้าต้องเสียใจ เอกเป็นลูกชายที่เห็นแก่ตัว... เห็นแก่ความสุขของตัวเองเป็นหลัก จนทำให้ทุกคนต้องเสียใจแบบนี้... แต่เอกอยากให้ป๊ากับม้าเข้าใจว่าเอกไม่อยากโกหกในเรื่องที่ไม่มีวันปิดบังได้ตลอดชีวิตแบบนี้ ถ้าป๊ากับม้ารับไม่ได้... เอกก็จะไปครับ”
“ลูกจะไปไหน?! ไม่ได้นะ ม้าไม่ให้ไปหรอก” ร่างเล็กของผู้เป็นแม่รีบคว้าร่างสูงใหญ่ของบุตรชายเอาไว้ในทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น เธอกอดรอบกายของธนกรเอาไว้มั่น “ไม่ว่ายังไงเอกก็เป็นลูกของม้า เอกจะเป็นเกย์หรืออะไรก็ตาม ม้ารักลูกของม้าไม่ว่าลูกจะเป็นแบบไหน”
“ม้า...”
หยดน้ำตารื้นเอ่อเสียจนภาพข้างหน้าฝ้ามัว เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครในครอบครัวที่ยอมรับตัวตนของเขาที่เป็นแบบนี้ บุตรชายคนเดียวของตระกูลที่มีเชื้อสายจีน หลายชายคนโตที่ทุกคนปรารถนาจะให้มีคู่ครองและสืบทอดวงศ์ตระกูลต่อไปอย่างเขา ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีใครยอมรับสิ่งที่เขาเป็นอยู่ แม้ในใจไม่คิดปฏิเสธเลยว่า เขาเฝ้าภาวนาให้มีวันหนึ่งที่เขาไม่ต้องหลบๆซ่อนๆตัวตนของเขา และสามารถประกาศออกไปให้ทุกคนได้รับรู้
มือใหญ่หนาที่สัมผัสศีรษะของเขา ทำให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากบ่าของมารดา เขาสบตากับผู้เป็นพ่อ ที่ยืนอยู่ข้างกายพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าที่มีริ้วรอยของความชรา
“ป๊า... เอกขอโทษ”
“เอก ลูกเป็นคนดี ป๊าภูมิใจที่ลูกชายของป๊าเป็นคนดี ลูกไม่เคยทำให้ป๊าผิดหวังเลย”
แน่นอนว่าเขาตกตะลึงแทบช็อก รู้สึกเหมือนกับมีฟ้าผ่าลงมาที่กลางใจ แว่บแรกที่คำตวาดจะหลุดออกมาจากริมฝีปากเพราะความตกใจ แต่น้ำตาของลูกชายคนโต --- น้ำตาของลูกชายคนเดียวที่ทำตัวเข้มแข็งมาตลอดกลับทำให้ทุกความรู้สึกหายวับไป เขาพิศมองร่างสูงของธนกรที่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดกับความลับที่ปิดบังมานาน คงเป็นความลับที่อยากเปิดเผย แต่ก็ไม่กล้าพอสักที และในวันนี้เด็กคนนี้กลับรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพกับเขา แบบนี้จะให้เขาโกรธลงได้อย่างไร
“ดูซิ ร้องไห้เป็นเด็กๆเชียว ไม่อายหนูนทเขาเหรอลูก”
เมื่อได้ยินผู้เป็นแม่เอ็ดเบาๆอย่างเอ็นดูเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงรีบเช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเช็ดหน้า ก่อนจะหันไปทางร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลังข้างนภิสาผู้เป็นพี่สาวโดยไม่พูดอะไร
“ขอโทษนะ นท... พี่...”
เจ้าของนามสั่นศีรษะพร้อมกับคลี่ยิ้มน้อยๆ “พี่เอกเท่มากเลยครับ”
“เท่...? เท่ตรงไหนเนี่ย?”
ทั้งน้ำมูกน้ำตาไหลมาปนกันไปหมดเต็มหน้าแบบนี้ ผู้ชายอายุยี่สิบกว่าๆตัวเบ้อเร่อมายืนซบไหล่แม่ร้องห่มร้องไห้มันเท่อย่างไร สงสัยเขาคงต้องพาร่างตรงหน้าไปเช็คสมองอีกรอบแล้วกระมัง
“ไม่รู้สิครับ ถึงจะขี้แง แต่พี่เอกก็ดูเท่มากเลยครับในสายตานท”
“หนูนท ม้าว่าคงจะจริงอย่างที่พูดแหละลูก เอกเขาคงจะดูเท่ในสายตาลูกคนเดียวจริงๆล่ะ ม้าไม่เห็นรู้สึกว่าเท่ตรงไหนเลย”
นิชาหัวเราะประสานเสียงไปกับผู้คนรอบกาย แม้แต่ตัวธนกรที่เป็นเป้าเองก็ยังอดหัวเราะไปด้วยไม่ได้ ทุกคนนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับดื่มน้ำชาร้อนเพื่อสงบจิตสงบใจกัน ก่อนที่ธนกรจะเข้าสู่ประเด็นที่ต้องการจะกล่าวมาตลอดหลายวัน
“ที่เอกพานทมา ก็เพราะมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ...”
เขาเล่าให้ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนิชา ตลอดจนเรื่องรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้น
“พี่เอก... ไหนบอกว่านทถูกรถชนไงครับ?!”
ดวงหน้าน่ารักฉายแววตกใจเมื่อธนกรเล่าเรื่องทั้งหมดออกไป ชายหนุ่มหันมามองด้วยสายตาลุแก่โทษ เขาลูบศีรษะมนเบาๆอย่างปลอบประโลม
“พี่ขอโทษ พี่กลัวนทจะตกใจถ้าได้รู้ความจริง”
“ก็... ตกใจจริงๆแหละครับ ทำไมเขาถึงตีนทล่ะครับ? นททะเลาะกับพวกเขาเหรอ?”
“แฟนใหม่ของคนรักเก่าของนทสั่งมาน่ะ”
“คนรักเก่าของนท...? นทมีคนรักมาก่อนหน้านี้ด้วยเหรอครับ?”
“เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังทีหลังนะ” เขาหันไปทางพ่อกับแม่อีกครั้ง “จริงๆนทเพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันนี้เองครับ”
“แล้วนทหายดีแล้วใช่ไหม?”
“เรื่องแผลผ่าตัดไม่มีปัญหาครับ แต่ว่านทความจำหายไป 6 ปี”
ดวงตาสามคู่ฉายแววตื่นตระหนก เรื่องแบบนี้ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นโดยง่าย เข้าใจว่ามีแต่ในละครเสียด้วยซ้ำไป
“แล้วจะทำยังไงล่ะ เอก?”
“หมอบอกว่าต้องอาศัยการกระตุ้นไปเรื่อยๆครับ สักวันความทรงจำจะกลับมา”
“ต้องให้หมอรักษาให้ได้นะลูก ยังเด็กอยู่แท้ๆต้องมาเจอเรื่องแบบนี้... เอก จะหาหมอที่ไหนก็ได้ ถ้าที่ไทยไม่มีทางรักษา ไปที่ต่างประเทศก็ได้นะลูก”
“ครับม้า แต่เอกคิดว่าหมอของเราก็พูดถูกแล้ว นทเองอยู่ที่นี่น่าจะสบายใจกว่าด้วย”
“แล้วจับคนร้ายได้รึยัง?”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน ธนกรหันไปทางบิดาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้านิ่งที่ดูซีดเล็กน้อยทำให้เขาเดาอารมณ์ของร่างสูงวัยได้ทันที พ่อของเขากำลังโกรธ เห็นแบบนี้ก็อดดีใจไม่ได้ที่ครอบครัวของเขารู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนและเป็นห่วงนิชาที่เขารัก
“จับได้แล้วครับ เป็นพวกนักฆ่ามือสมัครเล่น”
“ใครสั่งมา?”
ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ทุกสายตาจับจ้องเขาอย่างรอคอยคำตอบ เขาหันไปมองสีหน้าไม่พอใจของผู้เป็นบิดา สีหน้าข้องใจของผู้เป็นมารดา และสีหน้าตระหนกตกใจราวกับหวาดหวั่นกับความจริงที่คาดเดาเอาไว้ในใจ
และในที่สุด เขาก็ยอมเอ่ยความจริงออกมา
“เล็กครับ”
“พี่ชิน จะไปไหนคะ รอเล็กก่อน”
เด็กสาวพยายามวิ่งตามร่างหนาที่ก้าวยาวๆไปที่รถของตนเอง เขาก้าวขึ้นรถแล้วล็อกรถ ก่อนจะออกตัวพุ่งไปที่ประตูใหญ่จนแม่บ้านต้องรีบสั่งเปิดประตูแทบไม่ทัน ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งแล้วพุ่งตรงขึ้นทางด่วน มุ่งหน้าออกนอกกรุงเทพมหานครไปอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เขาก็มาถึงชายทะเล แสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินส่องลาดเข้ามาภายในรถยนต์คันใหญ่ ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยหนังสีดำสนิทเพื่อสงบสติอารมณ์
น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะตกใจกับคำพูดของธนกรหรอก แต่เขาตกใจกับสิ่งสำคัญที่เพิ่งระลึกได้ และเสียใจ --- กับสิ่งที่เคยทำลงไป
เขาต่างหากที่เป็นนกที่อยู่ในกรง นกโง่ๆที่ทำอะไรไม่ได้ แต่กลับหลงคิดไปว่าเป็นเจ้าของดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างเจิดจ้าอยู่ด้านนอก และจะจับดวงอาทิตย์เข้ามาอยู่ในกรงด้วยกันได้
คนที่ดีกับเขามากที่สุด
คนที่รักคนเลวอย่างเขายิ่งกว่าใคร
นิชาเป็นทุกอย่าง --- เป็นยิ่งกว่าแสงสว่างในชีวิตของเขา
หยดน้ำใสรื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงภาพของคนสำคัญที่สุดในชีวิต ต่อจากนี้แม้ว่าโลกจะต้องมืดดำสนิทและเต็มไปด้วยความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว แต่แสงสว่างอันแสนอบอุ่นนั้นจะไม่มีวันกลับมาหาเขาอีกต่อไปแล้ว
Talk: Happy 12/12/12 ค่ะ ^^
ลงถึงตอนนี้แล้วหายตัวจริงๆนะ >.< หมดสต๊อกแล้วจริงๆ
(แต่จะพยายามอัพให้เร็วที่สุดนะคะ)
ป.ล. ทำไมไม่มีคนสงสารพี่ชินบ้างน้า 555