[[THE CAGE]] . . กรงรัก . . .
ตอนพิเศษNew Year's Eve
ใครต่อใครก็พากันฉลอง คนกรุงบางส่วนก็หอบกันไปเที่ยว บางส่วนก็ขออยู่บ้าน ลิ้มรสอากาศเย็นๆและถนนในเมืองที่ปราศจากการจราจรที่ติดขัด คนต่างจังหวัดกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมครอบครัว แต่บางส่วนก็ขอพักอยู่เมืองกรุง เพราะไม่อยากไปติดแหง็กอยู่บนถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมงระหว่างทางการกลับบ้าน
เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่ขอลางานกลับไปต่างจังหวัดหาพ่อกับแม่ตั้งแต่ต้นเดือน และกลับมากรุงเทพฯแล้วใช้ชีวิตสบายๆในเมืองที่ไม่ค่อยมีผู้คน แต่ไม่ว่าอย่างไร ในยามค่ำคืนร้านรวงก็หนาแน่น เพราะทุกคนรีบมาจับจองเพื่อให้ได้ที่นั่งที่ดีที่สุดในยามสังสรรค์
"พี่นท ทางนี้ๆ"
"เชษฐ์ รอนานรึเปล่า"
"ไม่นานหรอกครับ ไม่ได้พบกันซะนาน ไปอยู่นู่นเป็นไงมั่ง"
"ก็ดีนะ ชีวิตเรื่อยๆดี ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะเลย เชษฐ์ล่ะเป็นไงบ้าง?"
"ผมก็ดีครับ ที่ร้านก็สนุกดี ได้เรียนที่มหา'ลัยก็มีเพื่อนใหม่น่าสนใจเยอะ"
"ดีจังที่ได้ฟังแบบนี้"
เขาโล่งอกเมื่อได้เห็นว่าน้องชายที่ขยันขันแข็งและรักการเรียนมีโอกาสได้ศึกษาต่อ ทั้งนี้เป็นผลมาจากความตั้งใจในการสอบชิงทุนของอีกฝ่าย บวกกับเส้นสายเล็กๆของธนกรที่ทำให้มีโอกาสได้สอบเข้าชิงทุนมหาวิทยาลัยดีๆแบบคนอื่นเขา เนื่องจากปัจจุบันนี้ ใครก็ต้องยอมรับว่าทุนดีๆ
มักมีข้อกำหนดหลายอย่าง ทั้งเรื่องของเกรด ซึ่งข้อนี้ไม่เป็นปัญหา และเรื่องของสถาบันการศึกษาที่จบมา แม้ว่าจะไม่ได้กำหนดอย่างชัดเจน แต่เมื่อผ่านรอบคัดเลือกไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ในสายตาของสังคมก็ยังคงมองชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาเป็นส่วนประกอบในการตัดสินอยู่ดี
"พี่นทก็เรียนจบแล้วนี่ครับ กลับไทยรอบนี้อยู่ยาวเลยหรือเปล่า? ... หรือจะกลับไปอีก?"
ปลายน้ำเสียงสะท้อนแววเหงาหงอยน้อยๆจนทำให้ร่างบางอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาดึงร่างสูงกว่ามากมากอดเอาไว้แน่นอย่างคิดถึงนัก การไปอยู่ที่อเมริกามากว่าสองปีทำให้ซึมซับวัฒนธรรมตะวันตกมาไม่น้อย นี่เขาเกือบลืมตัวจูบแก้มทักทายร่างตรงหน้าเข้าแล้วเสียด้วยซ้ำ
"มาอยู่นี่ถาวรแล้ว ข้าวของก็ให้ส่งตามกลับมาหมดแล้ว เดี๋ยวนายจะได้เห็นพี่จนเบื่อหน้าแน่"
สีหน้ายินดีฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลาในพริบตา สองปีที่ผ่านมาที่เขาแทบไม่มีโอกาสได้พบเจอร่างสูงของน้องชาย ในครั้งนี้เขาต้องยอมรับว่าเด็กหนุ่มที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองในวันนี้ กลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัวที่ดูภูมิฐานและสง่างามแม้ไม่ทรงชุดสูทอย่างพนักงานทั่วไป ด้วยส่วนสูงที่เกินมาตรฐานชายไทย และรูปลักษณ์ที่ดูดีดึงดูดใจ เขาไม่แปลกใจเลยที่สาวๆหลายโต๊ะมองตาเป็นมันมาทางนี้
"แล้วพี่เอกล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอครับ?"
"อ๋อ คงยุ่งกับร้านอยู่มั้ง เห็นว่าจะมาช้าหน่อย"
"ตอนนี้ที่ร้านคนแน่นน่าดูเลย สงสัยจะปลีกมาไม่ได้มั้งครับ วันปีใหม่แบบนี้แน่นกันทุกร้าน"
"ไม่หรอก เดี๋ยวก็มา"
รอยยิ้มบางเบาปรากฎบนใบหน้าสวย ทำเอาหัวใจของร่างสูงเต้นไม่เป็นส่ำอย่างหาได้ยาก เขาไม่ได้พบกับนิชามานาน และไม่ได้มีโอกาสได้นั่งคุยกันอย่างใกล้ชิดแบบนี้เลยตลอดสองปีที่ผ่านมา กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างตรงหน้ายังคงชวนให้เขาเคลิบเคลิ้มเสมอ แม้ว่า ---
"พี่เปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมเหรอ?"
ดวงตาคู่งามฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย
"... รู้ด้วยเหรอ? พี่ก็ไม่ได้ฉีดมาเยอะนะ เหม็นรึเปล่า?"
"เปล่าครับ แค่แปลกใจ เมื่อก่อนดูพี่จะไม่ได้ใช้กลิ่นสไตล์นี้"
นิชาคลี่ยิ้ม นึกประทับใจกับความทรงจำของอีกฝ่ายที่จดจำแม้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยที่เกี่ยวกับตัวเขา จริงอย่างที่เข้าใจ เมื่อก่อนนี้เขาใช้น้ำหอมกลิ่นเบาๆ เน้นไปทางเย็นๆอ่อนๆ หรือพูดตรงๆก็คือกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงแบบที่ไม่ได้หวานจนเกินไปนั่นเอง
"พี่สบายดีผมก็สบายใจ แล้วตอนนี้พี่วางแผนไว้รึยังครับว่าจะกลับมาทำร้านอีกเมื่อไหร่?"
"พี่คงไม่ได้เข้าไปทำที่ร้านหรอก เชษฐ์ แต่ว่าคงแวะเข้าไปดูเป็นระยะอย่างที่เคยทำ"
"งั้นเหรอครับ น่าเสียดายนะ... ร้านที่ไม่มีพี่ ผมก็เหงา"
นิชาระบายลมหายใจกับอาการน้อยใจของน้องชายตัวโตที่ขี้อ้อนไม่มีเปลี่ยน เขารอให้บริกรรินไวน์แดงที่ธนกรสั่งเตรียมเอาไว้พร้อมกับยื่นให้
"อย่างอนน่ะ พี่เองก็อยากจะกลับไปที่นั่นเหมือนกัน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้น อีกอย่างนายเองก็ดูแลร้านได้ดี ข่าวว่าตอนนี้ร้านแน่นน่าดูไม่ใช่เหรอ พี่ดูอยู่ว่าจะขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย"
"ครับ แบบนั้นก็คงจะดีเหมือนกัน ว่าแต่พี่แน่ใจแล้วจริงๆเหรอ...?"
"เรื่องอะไร?"
"เรื่องนั้น... เรื่องงานของพี่น่ะ"
"อ้อ แน่ใจสิ"
"แต่ว่า..."
"ขอโทษทีที่มาช้า"
"อ้าว เอก"
"พี่เอก สวัสดีครับ"
ชายหนุ่มรับไหว้พร้อมกับทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ถัดจากนิชาไป เมื่อมองหน้าของคนร่วมโต๊ะจึงยิ้มเจื่อนๆ
"นี่เอกมาขัดจังหวะอะไรรึเปล่า?"
"เปล่าครับ นทกำลังคุยเรื่องร้านอยู่เท่านั้น เอกมาก็ดีแล้ว สั่งอาหารหน่อยสิ เริ่มหิวแล้วนะ"
"อ้าว นี่ยังไม่สั่งกันอีกเหรอ"
"ยัง ก็เอกสั่งไว้แต่ไวน์นี่นา"
"ก็แล้วไม่สั่งเองล่ะ?"
"ขี้เกียจคิด เอกเป็นคนแนะนำร้านนี้นี่นา ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบให้ถึงที่สุดสิ"
เจ้าของนามกลอกตาไปมาพร้อมกับยักไหล่ให้กับมนุเชษฐ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม "ครับครับ คนเอาแต่ใจ"
"ว่าใคร? นทไม่ได้เอาแต่ใจซะหน่อย"
"ไม่หน่อยล่ะ เยอะเลย"
มือใหญ่ดึงแก้มเนียนจนย้วยติดปลายนิ้วมา พร้อมกับเสียงอุทานเบาๆด้วยความเจ็บ
"โอ๊ย บ้า เล่นอะไรเป็นเด็กๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวหมด"
"หึหึ มันนิ่มๆน่าจับนี่นา ไปอยู่นู่นนานซะจนขาวจั๊วะกว่าเดิมเยอะเลยนะ"
"ส่วนใหญ่อยู่แต่ในหอน่ะ ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ชอบออกไปตอนกลางคืนมากกว่าเลยไม่ค่อยได้เจอแดด"
"กลายเป็นขาเที่ยวกลางคืนไปแล้วเหรอเนี่ย ไม่น่าส่งไปอยู่นู่นเล้ย ใจแตกหมด"
"ใครใจแตก พูดให้มันดีๆ ก็กลางวันมันร้อนไม่อยากออกมานี่นา"
"ครับครับ ไม่เถียงแล้ว"
"เออ เอก แล้วที่บ้านเป็นยังไงกันบ้าง?"
"ก็ปกติดีนะ ตอนนี้พี่หญิงอยู่เซี่ยงไฮ้"
"อ้าว ไปทำอะไร?"
"ก็รายนั้นเรียนจบที่นั่นมา ตอนนี้เลยไปดูกิจการของอากงตัวแม่ที่ตั้งอยู่ที่นั่นน่ะแหละ จริงๆคงเป็นชีวิตที่เหมาะกับพี่หญิงที่สุดแล้ว"
"เหรอ แล้วกลับมาบ้างไหม? ป๊ากับม้าเหงาแย่"
"เหงาสิ แต่ก็ผลัดกันบินไปบินมานะ ดีที่ไม่ไกลกันเท่าไหร่"
"แล้ว... น้องเล็กล่ะ?"
"... สงบสุขดี"
"เหรอ ดีแล้วล่ะ"
"แล้วนทล่ะ? งานใหม่ดีไหม?"
"ดีครับ สนุกดี เห็นอะไรในวงการแบบนี้เยอะเลย น่าตื่นเต้นดีเหมือนกันนะครับ"
"ติดใจวงการนี้เข้าซะแล้วเหรอ? ไม่คิดเลยนะว่านทจะชอบเรื่องแบบนี้"
"อืม นทเองก็ไม่คิดเหมือนกันครับ เคยคิดว่าคงมีแต่คนไม่ดี แต่พอได้เข้ามาอยู่ด้านในจริงๆกลับได้เห็นว่ามีอะไรที่น่าเห็นใจเยอะเลย"
"เพราะนทเป็นคนแบบนี้ด้วยล่ะมั้ง ถึงได้ไม่โดนหลอมให้เหลิงเหมือนใครต่อใคร"
"ก็อาจจะ... นทเองก็รู้สึกว่ามันคงจะดี ถ้าหากว่านททำให้ใครต่อใครเปลี่ยนนิสัยให้ดีขึ้นบ้าง"
"นทก็ทำสำเร็จแล้วไม่ใช่หรือไง?"
"... จริงด้วยเนอะ"
นิชายิ้มให้กับใบหน้าอ่อนใจของคนข้างๆ ก่อนจะหันไปหัวเราะให้กับมนุเชษฐ์ที่นั่งจิบไวน์อย่างคนที่ถูกลืมไปชั่วขณะ
เมื่อได้อยู่ท่ามกลางบุคคลอันเป็นที่รัก การยิ้มและหัวเราะมันก็ง่ายแค่นี้นี่เอง
RRR
RRRRR
"ฮัลโหล?"
"มารับหน่อยสิ"
"นท นี่มันจะตีหนึ่งอยู่แล้วนะ"
"ก็ใช่ไงครับ ถึงได้เรียกให้มารับไง"
"... แล้วนี่ไม่ได้ไปกับหมอนั่นเหรอ"
"ไป แต่ว่าเอกเขาต้องกลับไปบ้านใหญ่วันนี้ นทก็ไม่อยากรบกวนเขาให้วนมาส่งด้วย"
"แปลว่านี่อยู่คนเดียวเหรอ?"
"เปล่า เชษฐ์รออยู่เป็นเพื่อน บอกให้กลับไปก่อนก็ไม่ไป"
"ไอ้เด็กนั่น... แล้วนี่อยู่ไหน?"
"เอกมัยครับ อย่านานนะครับ รออยู่หน้าร้าน ยุงกัดหมดแล้ว"
"แล้วไม่รีบโทรมาบอกตั้งแต่เนิ่นๆล่ะ"
"ถ้าพี่รู้ว่านทอยู่ที่ไหน พี่ก็คงไม่ยอมให้นทกลับดึกแบบนี้ใช่ไหมล่ะ? แล้วเดี๋ยวเราไปส่งเชษฐ์ที่บ้านกันก่อนนะ นทไม่อยากให้น้องขึ้นแท็กซี่กลับไปคนเดียว"
"... รอแป๊บ เดี๋ยวจะออกไปรับ"
.
.
.
ดวงตาสองคู่จับจ้องกันอยู่ภายในความมืด ในห้องที่ปิดสนิทและมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลอดรอยแยกของม่านเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น ใบหน้าหนึ่งดูตึงเครียดอย่างคนที่หงุดหงิดและนอนหลับไม่สนิทมาตลอดคืน ในขณะที่อีกใบหน้าหนึ่งกลับมีรอยยิ้มยียวนอย่างคนที่เพิ่งผ่านความสุขจากการสังสรรค์มา
กลิ่นซีตรัสที่เพิ่มขึ้นจากผิวกายของคนทั้งสอง ฉายชัดถึงความผูกพันที่แม้ไม่ต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูดแต่ก็เข้าใจ
"งอนนทเหรอ?"
มือคู่สวยเกาะเกี่ยวบ่ากว้างเอาไว้พร้อมกับรั้งให้เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆจากเรียวปากส่งผลให้ชายหนุ่มร่างหนาขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายดึงรั้งตามไปทิ้งกายลงบนเตียงแต่โดยดี
"... ไม่ได้งอน"
เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆขณะทอดสายตามองเรือนกายที่ทอดร่างอยู่ใต้ร่าง ร่างกายที่เขากกกอดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ยังไม่วายหวาดหวั่นว่าวันหนึ่งจะโบยบินหนีไปจากอ้อมกอดของเขาอยู่ดี ไม่ว่าจะพันธนาการด้วยโซ่ตรวนที่แน่นหนาเพียงใด นิชาก็พิสูจน์ให้เขาเห็นได้แล้วว่า สามารถหนีหายไปโดยง่าย และไม่แม้แต่จะเห็นอกเห็นใจ
"ให้พี่ฉลองปีใหม่คนเดียว นทนี่ใจร้ายนะ"
"คนแก่ขี้ใจน้อย นี่เพิ่งจะเข้าวันปีใหม่ได้กี่ชั่วโมงเชียว"
"ก็ตอนเคาท์ดาวน์... พี่ก็รอนทอยู่ในห้องนี้คนเดียว แล้วดูสิ กว่าจะกลับก็ล่อเข้าไปวันใหม่แล้ว"
"อย่าบ่นสิ วันนี้วันปีใหม่นะ ต้องคิดดี ทำดี พูดดี ปีนี้จะได้เป็นปีที่ดีไงครับ"
"พูดง่าย ก็ตัวเองหนีไปเที่ยวมาเต็มอิ่มแล้วนี่"
ยังไม่วายค่อนขอดด้วยสีหน้าขัดใจ นับวันเขาก็ยิ่งดูเป็นคนแก่ขี้น้อยใจเข้าไปทุกวัน ในขณะที่นิชาดูมีความสุขกับการได้กลั่นแกล้งด้วยเรื่องแบบนี้นานๆครั้ง จริงๆจะเรียกว่า 'กลั่นแกล้ง' ก็ไม่ถูก เพราะนิชาก็แค่ทำทุกสิ่งตามใจต้องการ โดยที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักเท่าไหร่ ก็เท่านั้นเอง
"ก็กลับมาแล้วนี่ไงครับ วันนี้ทั้งวันจะอยู่กับพี่ ดีไหม?"
"ห้ามโกหกนะ"
"ไม่โกหกหรอกน่า วันแบบนี้ไม่ให้อยู่กับพี่แล้วจะให้อยู่กับใคร"
นั่นแหละ ที่ทำให้คนแก่คนนี้หลุดยิ้มออกมาจนได้ เป็นรอยยิ้มที่ร่างบางนึกรักมากที่สุด และทำให้ยิ้มตามออกมาโดยไม่ทันได้รู้ตัว --- ทั้งตา ทั้งใจ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เรารักย่อมทำให้มีความสุขเสมอ
ต่อให้ต้องผ่านไปอีกสักกี่ร้อนกี่หนาว ถ้ามีกันและกัน จะเรื่องเลวร้ายแค่ไหนก็จับมือฝ่าฟันผ่านไปด้วยกันได้
ดวงตาคู่สวยปรือตามองใบหน้าคมเข้มในระยะประชิดที่ดูสงบสุขอย่างคนที่หลับสนิท ในอ้อมแขนแกร่งที่กอดก่ายเขาเอาไว้มั่นอย่างไม่คิดปล่อยมือให้หนีหาย หรือต่อให้จะผลักไส เขาก็ไม่คิดจะยอมไปง่ายๆอยู่ดี
นิชาเขยิบกายเข้าชิด พร้อมกับแนบริมฝีปากลงบนผิวแก้มของร่างตรงหน้าเบาๆ
"สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ พี่ชิน..."
เมื่อแสงอรุณจับขอบฟ้า และนำพาให้เขาทั้งสองรู้สึกตัว
คนแรกที่พวกเขามองเห็นเป็นคนแรกของเช้าวันปีใหม่ ก็ยังคงเป็นกันและกัน
Talk: Happy New Year 2013 ค่ะ
![:mc4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/yenta4-emoticon-0011.gif)
ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกๆคนมีความสุข เรื่องร้ายๆที่ผ่านมาก็ขอให้พ้นไป ปีใหม่นี้จะมีแต่สิ่งที่ดีที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
คนมีคู่ ก็ขอให้มีความสุขและรักกันนานๆ ส่วนคนโสดที่รอคนรู้ใจ ก็ขอให้ได้พบกับคนที่ดีดั่งใจนะคะ
ขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมา และฝากเนื้อฝากตัวสำหรับปีใหม่นี้ด้วยค่ะ
ลืมบอก... งงกันรึเปล่ากับตอนพิเศษนี้
เรื่องมันจะเกิดตอนไหนยังไง ก็ปล่อยไปให้เป็นแบบนี้ก่อนละกันนะคะ 555
![laugh :laugh:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/laugh.gif)
ก็ไม่อยากเขียนเรื่องในอดีตนี่นา ในเมื่อในอดีตมันเศร้านัก... ก็ปล่อยให้เป็นแค่อดีตไปดีกว่า
อนาคตจะเป็นยังไง มันอยู่ในมือเราจริงมั้ยคะ ^^
ป.ล. เพลงนี้ "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้" Lula ft. Sin Singular
http://www.youtube.com/watch?v=7tfJMqJb76Q ฝากให้ทุกคนในวันดีแบบนี้นะคะ อย่าลืมนะคะ ความสุขเป็นสิ่งที่เราเป็นคนกำหนดเอง ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ สู้ๆนะคะ
![:L2:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/c-02214.1.gif)