^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U  (อ่าน 194490 ครั้ง)

alekung103

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

ยังไม่ลืมก็รีบไปง้อไม่ใช่ใช้คนอื่นแทน
 :กอด1:

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ทั้งคู่ยังรักกันแล้วทำไมถึงเลิกกันนะ

อยากรู้อดีตว่ามันเกิดอะไรขึ้นนน  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
หมอกัสยังน่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
แวะมาเยี่ยมกัสวิน  พระนายคู่แรกที่แจ้งเกิดจ้า
อิอิ 

วินรักกัส  กัสรักวิน  (คนอ่านก็รักทั้งสองคนนะเออ  555)
เพราะฉะนั้น  ก็อย่าได้มีอะไรมาขัดเลยน้าา 
ลุ้นๆ(อีกครั้ง  55)
+1

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
เเอบสงสารเต้ยเบาๆนะนี่  :z3:

กัสมีอิทธิพลกับวินพอตัวเลย

รอตอนต่อไปค่ะ +1 ให้ค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ติดตามรอตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 9

กัส

“น้องกัส  น้องมิค  เที่ยงนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ” เสียงหมอพจน์ดังมาจากข้างหลังขณะที่ผมกับมิคกำลังเดินมาคู่กัน  จนเราต้องชะลอฝีเท้าลงเพื่อรอให้เจ้าของเสียงตามมาทัน

ใบหน้าประดับยิ้มกว้างแววตาสดใสของหมอพจน์ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็คงอดจะยิ้มตามหมอหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ไม่ได้  แต่สำหรับผมกลับต้องเบือนหน้าหนีและอดรู้สึกเสียใจลึกๆไม่ได้เช่นกัน  ผมหันมามองหน้ามิคก็พบว่ามิคกำลังส่งยิ้มให้หมอพจน์อยู่แถมชำเลืองสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผมด้วย  จนผมเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจเพื่อนจอมซนคนนี้ซะแล้ว  ‘มิคคงไม่คิดจะตอบตกลงคำชวนหรอกนะ’

“ได้ครับ  แต่พี่พจน์เลี้ยงน้า” นั่นไงว่าแล้วเชียวถ้าเป็นเรื่องกินทีไรมิคเป็นอันเห็นดีด้วยยิ่งมีคนเลี้ยงนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเพื่อนแสนซนของผมจะปฏิเสธ  จนผมต้องปรามโดยการเรียกชื่อพ่อตัวดีสักหน่อย

“มิค!” เจ้าของชื่อทำปากยื่นใส่ผมทันทีจนผมต้องกลั้นขำเพราะต้องพยายามรักษามาดดุไว้ให้เพื่อนได้เกรงบ้าง  แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะพอหมอพจน์เอ่ยว่ายินดีเป็นเจ้ามือเท่านั้น  คนหน้ามุ่ยก็ฉีกยิ้มกว้างตาปิดอย่างถูกใจแจกจ่ายไปทั่วเลย

ผมได้แต่ส่ายหัวอมยิ้มขำเพื่อนตัวดีพอเบนสายตามาทางอีกคนก็เจอยิ้มละไมตาพราวจ้องอยู่แล้ว  ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับคืนให้หมอพจน์อย่างเกรงใจ  ก่อนจะเอ่ยชวนและลากมิคให้เดินมาทางโรงอาหารของโรงพยาบาล  มาถึงหมอมิคจอมซนก็ตรงดิ่งพาผมกับหมอพจน์มาเลือกอาหารและพากันมานั่งรอที่โต๊ะ  ระหว่างรออาหารก็ไม่อึดอัดอย่างที่ผมนึกกลัวเพราะได้มิคคนช่างพูดชวนคุยไปเรื่อยจนกระทั่งอาหารมาเสิร์ฟ

“วันนี้น้องกัสเหนื่อยมั้ยครับ  คนไข้เยอะมั้ยเอ่ย” ยำทะเลที่มีหมึกชิ้นโตถูกตักมาวางให้ในจานข้าว  ก่อนคนตักอาหารจะเอ่ยถามอย่างอาทรด้วยรอยยิ้มเอาใจ  ทำผมชะงักมือที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มและมองสบตาหมอพจน์ก่อนตอบ   

“นิดหน่อยครับ  คนไข้ก็มาเรื่อยๆครับ” พยายามตอบให้สุภาพไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป  แม้ใจผมนั้นออกจะเห็นใจคนตรงหน้ามากที่มีความจริงใจและความสม่ำเสมอให้กับผมมาตลอด  แต่ไม่อยากให้ความหวังหมอพจน์เลย  เพราะรู้แก่ใจว่าผมนั้นไม่สามารถลืมคนที่พยายามลืมมาตลอดได้  ไม่อยากลากคนดีๆให้มาเสียเวลากับคนที่ฝังใจในรักแรกเลยครับ

“เย็นนี้พี่ว่างไม่ได้อยู่เวรน้องกัสน้องมิคไปทานข้าวกับพี่มั้ยครับ” หลังคำถามของหมอพจน์ผมวางมือบนต้นขามิคที่นั่งข้างกันและออกแรงบิดเนื้อนิ่มๆนั้นเบาๆ  เพราะรู้ว่าขืนผมไม่จัดการอะไรสักอย่างคนที่เห็นแกของฟรีคนนี้ต้องเอ่ยปากรับแน่ๆ

“โอ๊ย!  กัสอ่ะ” มิคลูบขาตัวเองป้อยๆและส่งค้อนให้ผมอีกที  ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อแบบงอนๆ  ผมจึงหันไปหยิบเหยือกน้ำใกล้ตัวมารินใส่แก้วน้ำของมิคที่พร่องแล้วให้  เจ้าของแก้วแค่เหลือบตาก่อนหลบตาตามเดิม  แต่ผมแอบเห็นว่ามิคอมยิ้มนิดๆแล้วจึงเบาใจได้ว่าเพื่อนสนิทไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง  ผมจึงหันมาส่งยิ้มขอโทษให้หมอพจน์ที่จ้องหน้าผมรอคำตอบอยู่แล้วเพื่อเอ่ยปฏิเสธ

“ขอบคุณครับแต่วันนี้ผมไม่ว่าง  ต้องทำรายงานนิดหน่อย” หมอพจน์หน้าเสียนิดหน่อยแต่ก็กลับมายิ้มกว้างได้ตามเดิมจนผมต้องลอบถอนใจ

“โฮ  พี่เสียใจนะเนี่ยเมื่อไหร่น้องกัสจะยอมใจอ่อนไปทานข้าวกับพี่ซะที” คำพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก  หันหน้ามองหาตัวช่วยที่นั่งข้างกันมิคระบายยิ้มให้ผมนิดหน่อยก่อนหันไปตอบโต้คนตรงข้าม

“แหมวันนี้พี่พจน์รุกหนักนะครับ” คำแซวของมิคดูเหมือนจะยิ่งเปิดช่องให้คนที่คิดจะรุกได้ยิงตรงเป้ามากขึ้น 

“ก็เพื่อนน้องมิคไม่ยอมใจอ่อนกับพี่ซะทีนี่ครับ” ผมก้มหน้าหลบสายตาออดอ้อนเสตักข้าวเข้าปาก  ทำเหมือนว่าไม่สนใจไม่อยากรับรู้  ดูเหมือนผมเป็นคนใจร้ายนะครับแต่ผมไม่อยากให้ความหวังและอยากตัดไฟเสียแต่ต้น  เจ็บตอนนี้เดี๋ยวก็หายดีกว่าเป็นแผลเรื้อรังอย่างที่ผมเป็น

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงเมื่อผมไม่คิดจะรับไมตรีที่ถูกยื่นมาให้  จนกระทั่งเสียงใสของมิคดังทำลายความเงียบขึ้นมา

“กัสศุกร์นี้เราจะเอารถเข้าไปเองดีหรือนั่งรถโดยสารล่ะ” เรื่องที่มิคถามนั้นช่วยลดความอึดอัดที่กำลังแผ่ซ่านไปรอบตัวได้  จนผมต้องส่งยิ้มขอบคุณให้เพื่อนที่น่ารักคนนี้  ก่อนตอบคำถามของมิคที่ช่วยเบี่ยงเบนประเด็นร้อนออกจากตัว

“นั่งรถไปดีกว่ามิคขับทางไกลเหนื่อย  แล้วไหนต้องกลับมาทำงานอีก” ก่อนหน้านี้เราได้คุยกันไว้ว่าวันหยุดยาวที่จะถึงนี้เข้ากรุงเทพเพื่อกลับบ้านกัน  แต่ยังไม่ได้ตกลงว่าจะกลับโดยวิธีไหน  และผมเห็นว่าระยะทางจากที่โรงพยาบาลถึงกรุงเทพค่อนข้างไกลเลือกเดินทางโดยรถโดยสารจะสะดวกกว่า

“จะไปไหนกันครับ” หลังคำถามของหมอพจน์ทำให้ผมกับมิคหันไปมองหน้าคนถาม  จึงพบเข้ากับใบหน้าที่กำลังฝืนยิ้มแววตาเศร้าสร้อย  จนผมต้องเผลอกัดปากและเบนสายตาหนีพยายามทำใจแข็งเข้าไว้ 

“กลับเข้ากรุงเทพครับ  จะไปฉลองวันเกิดให้เพื่อนสนิทครับ” มิคตอบคำถามหมอพจน์พร้อมเอื้อมมือมากุมทับมือผมไว้ใต้โต๊ะและบีบให้กำลังใจ

“พอดีเลยอาทิตย์นี้ติดหยุดยาวด้วย  พี่ว่าจะกลับศุกร์นี้เหมือนกัน  แต่คงเข้ามาก่อนเพราะต้องขึ้นเวร  น้องกัสน้องมิคไปกับพี่นะครับ  เพราะรถโดยสารคนต้องแน่นแน่ๆ” น้ำเสียงอ่อนหวานพยายามหว่านล้อมถูกส่งมาจากคนตรงหน้า

ผมที่ตั้งท่าจะปฏิเสธก็ต้องชะงักเพราะแรงบีบมือจากมิคพร้อมสายตาขอร้องที่เจ้าตัวคงนึกสงสารหมอพจน์เพราะรู้ว่าผมต้องเอ่ยปฏิเสธ  ‘วันนี้ผมคงใจร้ายมาเกินพอแล้ว’  ผมถอนใจยาวก่อนจะพยักหน้ารับคำชวนของหมอพจน์  การตอบรับครั้งนี้ทำให้สายตาเศร้าสร้อยปลิวหายเหลือแต่แววตาปรีดาเต็มหน่วยตา  หวังว่าผมคงตัดสินใจไม่ผิดนะครับคงไม่ได้สร้างความหวังให้ใครใช่มั้ย

    

“ขอบคุณครับพี่พจน์ / ขอบคุณครับหมอพจน์” หลังจากรถยนต์ที่ผมกับมิคนั่งมาหลายชั่วโมงหยุดลงที่จุดหมาย  เราจึงเอ่ยขอบคุณคนขับกิตติมศักดิ์ที่มาส่งอย่างปลอดภัย 

หมอพจน์ฉีกยิ้มกว้างอย่างยินดีมองมิคก่อนจะหันมาทางผมส่งสายตาเปิดเผยว่าเจ้าตัวคิดยังไงกับผมมาให้  ผมเบือนหน้าหนีและก้าวขาลงจากรถทันที  ก่อนจะได้ยินเสียงมิคเปิดประตูตามมา  มีเสียงคนวิ่งมาจากในบ้านทำให้ผมต้องหันไปมองและต้องฉีกยิ้มกว้างให้กับเจ้าของฝีเท้าคนสวยที่ยิ้มร่าโชว์เขี้ยวอย่างน่ารักมาให้  จนกระทั่งมายเดินมาใกล้ผมและคว้ามือผมไปจับก่อนจะทักทายออกมา 

“กัส  น้องมิค  ดีใจจังคิดถึงมากเลย  อุ๊ย! สวัสดีค่ะนี่เอ่อ  หมอพจน์รึเปล่าคะ” มายทักทายเสียงใสและต้องอุทานเมื่อเห็นหมอพจน์ที่เดินถือกระเป๋ามาส่งให้ผมและมิค

“ยัยมายเดียร์  นี่หมอพี่พจน์  พี่พจน์ครับนี่มายครับเพื่อนสนิทของเรา” มิคทำหน้าที่แนะนำโดยมีผมยืนเฉยๆอยู่เคียงข้าง  หนึ่งสาวกับอีกสองหนุ่มทักทายกันอย่างถูกคอ 

จนกระทั่งมายเอ่ยชวนหมอพจน์เข้าบ้านแต่หมอพจน์ก็ปฏิเสธเพราะเห็นว่าดึกแล้ว  มายจึงเอ่ยชวนมาร่วมงานฉลองวันเกิดในวันพรุ่งนี้แทนและเอ่ยล่ำลาก่อนแยกย้ายกัน  แต่ก่อนที่หมอพจน์จะกลับยังหันมาเอ่ยลาผมโดยตรงพร้อมรอยยิ้มหวาน  ผมจึงได้แต่รับคำและรีบหมุนตัวเดินนำเพื่อนเข้าบ้าน  ที่ผมทำไปทั้งหมดไม่ใช่ว่าผมสบายใจหรืออยากทำนะครับแต่ผมต้องฝืนใจทำต่างหาก

    

“กัสกับมิคเตรียมของขวัญมาให้มายมั้ยจ๊ะ”

“แหม  ไม่ค่อยงกเลยนะมายเดียร์”

ตอนนี้พวกเราเพื่อนสนิททั้งสามคนนอนเรียงกันบนเตียงคิงไซส์ภายในห้องของเพื่อนสาวคนสนิท  โดยที่สองเพื่อนซี้ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งอดจะต่อปากต่อคำด้วยความเคยชินไม่ได้  แต่ก็ด้วยความรักของเพื่อนช่วยบรรยากาศขณะนี้ให้ดีขึ้นมาก  จนผมหลุดหัวเราะก็หลายครั้งพาลให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆสมัยที่เรายังอยู่ด้วยกัน  แต่แล้วมิคก็หลุดพูดถึงเหตุการณ์เมื่อปีก่อนในช่วงวันเกิดของมายเข้าทำให้ผมเงียบกริบ  และคิดไปถึงเหตุการณ์นั้นที่สร้างประสบการณ์เลวร้ายให้กับผม  มันเปลี่ยนผมคนที่ร่าเริง  เข้ากับคนง่าย  เชื่อใจคนง่าย  ให้เป็นคนเงียบขรึมและไม่ไว้ใจใครง่ายๆอีก  เป็นสาเหตุของแผลเป็นในใจที่ไม่มีวันหาย  เหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังผมกลับจากฝึกงานมาถึงกรุงเทพ


หนึ่งปีก่อน

“กัสไม่ได้บอกวินให้มารับเหรอ”

“เปล่ากะกลับไปเซอร์ไพรส์อ่ะ  เนี่ยของฝากเต็มเลย” ผมที่กำลังหอบหิ้วข้าวของเต็มมือทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าและขนมของฝาก  ยื่นโชว์เพื่อนสนิทที่ส่งคำถามมาให้

“แหม  น่าอิจฉาคนมีแฟนแบบกัสจัง  มายก็อยากมีมั่งอ่ะ” เสียงแซวของมายทำผมยิ้มเขินหลบสายตาเพื่อน  และให้นึกถึงใบหน้าของคนที่มีสถานะเป็น ‘แฟน’ ของผมขึ้นมายิ่งคิดหน้าก็ยิ่งร้อนฉ่า

“ไม่ได้นะมายมีแฟนแล้วมิคอ่ะจะอยู่กับใคร  แค่นี้ก็โดนคนมีแฟนทิ้งอยู่เรื่อยแล้ว” เสียงกระเง้ากระงอดบ่นน้อยใจจากมิคทำให้ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง  จึงได้รู้ว่าโดนเพื่อนแกล้งซะแล้วเพราะใบหน้าหวานที่กำลังโชว์ยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ได้เข้ากับน้ำเสียงและความหมายของประโยคเมื่อครู่เลย

“มิคนี่  อย่างอนน้าเดี๋ยวพรุ่งนี้กัสเลี้ยง  กินให้เต็มที่เลยน้า” ผมแกล้งตบมุกกลับให้มิคอย่างเนียนๆส่งเสียงออดอ้อนและโปรยยิ้มหวานใส่  ทำให้ใบหน้าประดับยิ้มกว้างค่อยๆหุบลงคิ้วขมวดมุ่นปากยื่นนิดๆให้ได้รู้ว่ามิคจับไต๋ผมได้แล้ว

“พรุ่งนี้วันเกิดมายเดียร์นี่  หมายความว่าให้กินเต็มที่ในงานยัยมายเดียร์อ่ะเหรอ  โฮ  จะง้อเค้ายังงกอีก” มิคพูดจบก็ส่งค้อนทำแก้มป่องใส่ผมได้อย่างน่ามันเขี้ยว  จนมายต้องเข้ามาหยิกแก้มแดงๆของมิค  ก่อนเจ้าตัวแสบจะร้องโวยวายขึ้นมาเป็นที่น่าเอ็นดู  จนผมต้องวางของในมือและเข้าไปโอบไหล่ลูบหลังบางเป็นการง้องอน

“ฮ่าๆๆๆ  มิคอย่างอนน้าเดี๋ยวกัสชดเชยให้ทีหลัง  แต่ตอนนี้ต้องไปล่ะ  เดี๋ยวไม่ทันวินจะไปเรียนซะก่อน” เมื่อเพื่อนแสบซนของผมเลิกงอนแล้ว  ผมจึงเอ่ยขอตัวเพราะต้องรีบไปเซอร์ไพรส์ตามแผนที่วางไว้  กลัวแต่ว่าคนที่ไม่รู้ตัวจะหนีไปเรียนซะก่อน

“กัสจ๊ะอย่าลืมพาวินมางานด้วยนะ” เสียงมายตะโกนตามหลังผมมา  ผมจึงต้องหันกลับไปมองและโบกมือพร้อมตอบรับให้เพื่อนสนิท

“ครับๆ  เจ้าหญิงน้อยตามบัญชา”

ตอนนี้ผมคบกับวินมาหกเดือนแล้วจากจูบแรกวันนั้น  วินพยายามตีสนิทตามตื้อเอาใจใส่ผมทุกอย่าง  จากแรกๆที่กลัวไปสารพัดในกิตติศัพท์เรื่องความเช้าชู้ของวิน  แต่วินก็พิสูจน์ให้ผมเห็นถึงความจริงใจและความสม่ำเสมอ  ทำเอาผมเริ่มใจอ่อนสุดท้ายผมก็ตอบรับรักและขยับฐานะให้เราเป็น 'แฟน' กัน  ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีผู้ชายคนนี้มาเคียงข้างผมรับรู้ถึงความรักที่วินมีให้ผม  แม้เราทะเลาะกันบ้างเหมือนคู่อื่นๆแต่ส่วนใหญ่มาจากนายวินนั่นแหละที่หึงไม่เข้าเรื่อง  ผมจะคุยกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้เลยตามหึงหวงตลอด  ทั้งๆที่วินกลับคุยกับสาวๆหนุ่มๆที่เข้าหาได้  และมาให้เหตุผลที่ไร้น้ำหนักกับผมว่า

‘วินรักกัสมากกว่าที่กัสรักวิน  เพราะฉะนั้นวางใจได้ว่าวินจะไม่มีใครนอกจากกัส’   

คิดดูสิครับไม่รู้ว่าวินคิดได้ยังไง ‘ความรัก’ ไม่มีมาตรวัดซะหน่อยจะรู้ได้ยังไงว่ารักของวินกับรักของผมใครมีมากกว่ากัน  จริงๆผมก็แอบหึงหวงวินเหมือนกันนะเพียงแต่ไม่คิดจะโวยวายเหมือนวินเท่านั้นเอง  ดังนั้นการทะเลาะเล็กๆของเราส่วนใหญ่มาจากวินนั่นแหละ  แล้วคนที่ต้องง้อก็เป็นผมไอ้ตอนง้อเนี่ยเปลืองตัวจะแย่โดนทั้งกอดทั้งหอม  วินบอกว่าเป็นบทลงโทษและเป็นการปลอบใจที่ผมทำให้วินใจหายผมล่ะหมั่นไส้  แต่ผมก็แอบภูมิใจในตัวเองนะว่าวินนั้นแสดงออกว่ารักผมมาก  และผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่วินมาหอมมากอดผมด้วยความรักแบบนั้น  ถึงจะคบกันมาหกเดือนนอกจากการกอดหอมแก้มและจูบแล้วเราก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันกว่านี้  วินยังเคยแซวผมเลยว่าถ้าเป็นคนอื่นนี่เสร็จวินไปตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว  ผมจึงแกล้งยุให้วินกลับไปหาคนๆนั้นเลยและงอนวินอยู่เป็นอาทิตย์  หลังจากนั้นวินก็ไม่พูดถึงคนเก่าๆอีกเลยและบอกว่าไม่คิดจะเร่งรัดผมเรื่องที่เราต้องมีอะไรกันขอแค่วินยังมีผมอยู่อย่างนี้ก็พอแล้ว  ได้ฟังแบบนี้เข้าทำเอาผมเป็นปลื้มมากๆ  ผมจึงทั้งรักทั้งหลงวินขึ้นไปอีกอันนี้ยอมรับแค่กับเพื่อนสนิทที่เคยถามผมว่ารักวินแล้วใช่มั้ย  เพราะเพื่อนผมทั้งคู่ก็แอบเป็นห่วงผมจากกิตติศัพท์ของวินที่ได้ฟังมาเหมือนกัน  และคำตอบของผมคือ ‘ใช่ผมรักวิน’

“แกร๊ก / เอ๊ะทำไมถอดเสื้อผ้าทิ้งไม่เป็นที่เลย”

ผมมาถึงห้องพักของวินพร้อมใช้กุญแจที่วินให้มาไขเข้าไปวางของและกระเป๋าไว้ข้างประตู  และให้นึกแปลกใจกับเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเรี่ยราดตามพื้นห้อง  ซึ่งมันดูไม่ธรรมดาซะแล้วยิ่งสิ่งที่ผมเห็นมันมีเสื้อผ้าผู้หญิงรวมอยู่ด้วยนี่สิ  ผมก้าวตามเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเป็นทางไปสู่หน้าห้องนอน 

“วิน  อยู่รึเปล่า  วิน”

ผมเห็นแล้วเริ่มใจเสียคิดไปต่างๆนานาแล้วขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย  เดินตรงไปที่ประตูห้องนอนที่แง้มอยู่  และภาวนาในใจว่าขอให้เป็นเรื่องที่ผมคิดมากไปเอง  ผมสูดหายใจลึกเรียกกำลังใจก่อนจับลูกบิดประตูและออกแรงผลัก

“แอ๊ดดดด................. ตึก”

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำเอาผมชาวาบตั้งแต่หัวถึงปลายเท้าจนไม่มีแรงจะยืน  ผมทรุดนั่งกับพื้นอย่างหมดแรงส่วนตายังมองภาพเบื้องหน้าไม่ละไปไหน  บนเตียงกว้างที่ผมเคยนอนเล่นและเคยหลับไปกับอ้อมกอดอุ่นของวิน  ตอนนี้มีคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผมนอนเปลือยเปล่ากอดรัดร่างๆหนึ่งที่ผมยังไม่แน่ใจว่าหญิงหรือชาย  เพราะโดนวินกอดตะแคงตัวบังอยู่  รอบเตียงมีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไม่รู้ของใครเป็นของใคร  ภาพที่มองเริ่มพร่าเลือนจากม่านน้ำตาที่คลอเต็มหน่วยตา  ส่วนของหัวเตียงและพื้นห้องมีซากถุงยางที่ใช้แล้ววางอยู่  จะว่าเป็นการเข้าใจผิดด้วยเมาแล้วถอดเสื้อผ้าและหลับไปก็ไม่ได้เพราะทั้งคนและของที่ใช้แล้วมันยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคนทั้งคู่มีอะไรกัน ‘วินนอกใจผมแล้ว’

“ฮึกๆ  ฮือออออ”

คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลเป็นทางพร้อมเสียงสะอึกสะอื้นที่สะกดไว้ก็หลุดออกมา  ผมพยายามใช้มือปิดกั้นแล้วแต่มันกลั้นไม่ไหวจริงๆ  ไม่อยากมองภาพตรงหน้าไม่อยากเห็น  แต่ผมไม่มีแรงจะลุกและออกวิ่งหนีภาพที่ทำให้ใจสลายอยู่ขณะนี้  สมองคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า ‘เสียใจ’ มันวนเวียนอยู่ในหัว  ความเจ็บปวดใจตรงอกซ้ายมันล้นทะลักจนแผ่ซ่านไปทั้งกายมันเจ็บแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และเสียงสะอื้นไห้ของผมคงดังมากไปจึงรบกวนคนบนเตียงให้เริ่มรู้สึกตัวขยับตัวหาที่มาของเสียง

“ฮึกๆๆๆ  ฮือๆๆๆๆ”

“อืม  ใคร  กัส  กัส!  มาไงครับแล้วร้องไห้ทำไม  เฮ้ยยย!!!”

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ตอนนี้น่าสงสารหมอกัสที่สุด  หัวใจสลายเลย  :monkeysad:

นายวินทำไมทำแบบนี้  :m16:

แต่ยังไงรอฟังความจริงจากวินก่อนนะคะ

เจอวินมาเล่าเหตุการณ์ได้ตอนหน้าพรุ่งนี้ค่ะ

+1 ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการติดตามค่ะ

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ฝากเรื่องรวมเล่ม ชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ รายละเอียดอยู่หน้า 1 ค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
รอว่าวินจะแก้ตัวว่าไง  โอ๋ๆหมอกัสไม่ร้องไห้นะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
 :a5: วินนนนนนนน

เธอทำอันใดไว้ล่ะเนี่ย

สงสารกัส  :เฮ้อ:

+ เป็ดให้ค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
อ่านตอนนี้แล้วอยากตบวินซักฉาดใหญ่ๆ
ทำให้กัสร้องไห้ ปวดใจขนาดนี้ได้ยังไง
รอตอนหน้าว่าวินจะแก้ตัวยังไง (ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นมีเฮ)

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
วินนน แกทำกัสเสียใจ มันน่า  :z6: :z6: :z6:

+เป็ดให้น้าา  :กอด1:

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

tawan

  • บุคคลทั่วไป
ค้างอะ..ยิ่งอ่านไม่เข้าใจเพราะตัดไปตัดมา

 :call:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 10

วิน

“พรุ่งนี้มึงจะไปแน่เหรอวะไอ้วิน”

“ไปสิวะกูอยากเจอเค้าว่ะ  เค้ามาแน่ใช่มั้ย  แค่เห็นหน้าก็ยังดี”

ใช่ครับขอแค่ผมได้เห็นหน้าคนที่ผมไม่เคยลืมอีกสักครั้งก็ยังดี  ไอ้ปรัชมองหน้าผมนิ่งๆก่อนมันจะพยักหน้าและตะปบเข้าที่ไหล่ของผมก่อนออกแรงบีบ  เหมือนว่ามันส่งกำลังใจมาให้ก่อนมันจะลุกเดินออกไปทิ้งผมให้นั่งอยู่ที่เดิมคนเดียว  ไอ้ปรัชบอกผมว่า ‘กัส’ จะกลับมางานฉลองวันเกิดของเพื่อนสาวคนสนิทในวันพรุ่งนี้  ผมแค่อยากเห็นอยากเจอหน้าว่าหนึ่งปีที่ห่างกันกัสจะเป็นยังไงบ้างจะยังสบายดีอยู่มั้ย  ไม่ได้หวังให้อีกฝ่ายยินดีเมื่อพบหน้าเพราะแค่ตั้งใจจะไปแอบมองเท่านั้น  ไม่อยากเห็นกัสมีปฏิกิริยาว่ารังเกียจกัน  ไม่ใช่ว่าผมคิดมากไปเองแต่หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ผมไม่ได้เจอหน้าคนตัวเล็กอีกเลย  ไม่ใช่ไม่อยากเจอแต่เพราะอีกคนไม่ยอมให้เจอกันต่างหาก  จะใช้เหตุผลใดแก้ตัวก็ไม่ได้เพราะหลักฐานมัดตัวขนาดนั้น  แม้มันจะเกิดจากความผิดพลาดแต่ผลก็คือผมนอกกายกัสไปแล้ว  ใช่! มันแค่นอกกายแต่ใจของผมยังเป็นของกัสคนเดียวจนถึงตอนนี้



หนึ่งปีก่อน

วันนี้ ‘กัส’ คนรักของผมนั้นฝึกงานเป็นสัปดาห์สุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดซึ่งใช้เวลาหนึ่งเดือนในการฝึกงาน  และเป็นปีการศึกษาปีสุดท้ายของเราทั้งคู่  กัสนั้นเรียนอยู่ปีหกส่วนผมก็เรียนอยู่ปีสี่  หลังกัสกลับมาจากฝึกงานแต่ผมเองก็ต้องไปฝึกงานต่อทำให้เวลาที่เราจะเจอกันน้อยมาก  ตัวกัสเองนั้นจะกลับมาบ้างในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์แต่ก็ไม่ใช่ทุกสัปดาห์  ผมอยากจะไปหานะแต่หาวันไปยากมากมีรายงานต้องทำมากมายก่อนออกฝึกงาน  ดังนั้นอาทิตย์นี้เราจะมีโอกาสอยู่ด้วยกันห้าวันเต็มก่อนผมต้องไปฝึกงานต่อ  ผมจะกอบโกยช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ให้เต็มที่เลย  คิดแล้วก็อยากกอดอยากหอมอยากจูบและอยากทำอะไรๆมากกว่านั้น  แต่ผมก็รู้ว่ากัสยังไม่พร้อมเราเคยเกือบจะมีอะไรกันอยู่แล้ว  แต่กัสที่กลัวและประหม่ามากทำผมต้องหยุดเพราะเห็นแล้วก็ใจอ่อนยวบไม่อยากฝืนใจคนที่รัก  ผมทำไม่หลงหรอกถ้ากัสไม่เต็มใจ  แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่อยากจะผูกพันทางกายอย่างลึกซึ้งกับคนที่ตนรัก  แล้วผมก็มีความต้องการเหมือนผู้ชายทั่วไปแต่ผมก็ไม่คิดจะไประบายกับใครอื่นนอกจากอุ้งมืออรหันต์ของตัวเอง  เฮ้อ  คิดแล้วก็อยากเจอคนตัวเล็กเร็วๆจังครับ  ผมแอบหวังลึกๆว่าครั้งนี้กัสจะยอมร่วมรักกับผมสักที  ส่วนเพื่อนในกลุ่มเมื่อได้รู้พวกมันเห็นใจปนสะใจผมมากที่เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างผมต้องยอมศิโรราบให้กับผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง  ด้วยผมนั้นระบายถึงความทุกข์เล็กๆนี้ให้เพื่อนๆได้ฟังเพราะพวกเราไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอยู่แล้ว  ซึ่งพวกมันก็แนะนำสารพัดวิธีพิชิตคนตัวเล็กให้แต่ผมไม่เคยเอามาใช้หรอกครับ  และตอนนี้พวกมันคงเห็นผมเครียดมากที่ห่างแฟนมานาน  จึงชวนไปเลี้ยงฉลองโสดชั่วคราวคืนสุดท้ายกัน  จริงๆผมไม่นึกอยากจะโสดเลยแต่อยากมี ‘เมีย’ ชื่อกัสต่างหาก

“ไงมึง  ทำไมดูไม่สนุกเลยวะ  คิดถึงเมียมากเหรอ” ไอ้ตี๋ปากไม่สุขแซวผมทันทีที่ผมหย่อนก้นนั่ง  ผมหันไปถลึงตาใส่มันทันที 'ไอ้บ้าคนยิ่งคิดถึงแฟนอยู่พูดมาให้กูคิดถึงมากกว่าเดิม'

“ไอ้เชี่ยธี  มึงหยุดปากเลยนะกัสยังไม่ใช่เมียกูให้เกียรติคนของกูด้วย” ด่าไปไม่มีสะเทือนไอ้ตี๋ธีมันยังยิ้มได้  จนผมเท้ากระตุกคันยิกๆอยากเหวี่ยงใส่ตูดมันสักที

“คร้าบบบ  ไอ้เชี่ยยยยยวิน  แตะไม่ได้เลยนะมึง” มันยังลอยหน้าลอยตาจนน่าหมั่นไส้  ไม่ว่าไอ้ธีจะว่ายังไงก็แล้วแต่ผมก็รักของผมมากจนไม่อยากให้กัสดูไม่ดีในสายตาใครๆ  แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วก็ค่อยว่ากันอีกที

“ก็กูรักของกู” ผมยอมรับกับเพื่อนได้อย่างเต็มปากเพราะมันเป็นเรื่องจริง  จึงลอยหน้ายิ้มเย้ยใส่ไอ้ตี๋หน้าทะเล้นไปทีก่อนยักคิ้วให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบตัว  และตามมาด้วยเสียงแซวสนั่นแต่ก็ไม่ทำให้ผมหุบยิ้มได้

“อยากอ้วกว่ะ  เลี่ยนเกิน  ฮ่าๆๆๆ”

ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งผับไม่ห่างจากที่พักมากนัก  เพื่อนสนิทมาเกือบครบยกเว้นไอ้ปรัชที่มันให้เหตุผลว่าไปซื้อของกับคุณแม่ที่รักอยู่  เพราะต้องการทำหน้าที่ลูกกตัญญูพาท่านแม่ไปช้อปปิ้ง  เห็นว่าคุณแม่จะไปซื้อของขวัญให้เด็กข้างบ้านที่ท่านรักเหมือนลูกตัวเองอีกคน  และมันก็แอบบ่นให้เพื่อนๆฟังว่าลูกตัวเองท่านน่ะไม่เคยซื้อให้หรอกเห็นลูกคนอื่นดีกว่าลูกตัวเองตลอด  ซึ่งผมก็แอบแปลกใจเหมือนกันโดยปกติแม้คุณแม่ของเพื่อนผมคนนี้จะหาเหตุผลมาอ้างหรือคะยั้นคะยอให้ลูกชายไปด้วยมากขนาดไหน  แต่ไอ้ปรัชก็ไม่เคยไปปฏิเสธด้วยท่าทางนิ่งๆของมันจนคนเป็นแม่เลิกตื๊อไปเอง  ในครั้งนี้มันกลับอาสาพาท่านไปด้วยตัวเองแสดงว่าคนที่เป็นเจ้าของวันเกิดเนี่ยต้องมีอิทธิพลกับเพื่อนผมไม่มากก็น้อยแน่ๆ  น่าสงสัยจริงๆสักวันผมต้องรู้ให้ได้ว่าเด็กข้างบ้านคนนั้นเป็นใคร  แต่ตอนนี้ผมคงต้องหยุดสนใจเรื่องไอ้ปรัชไปก่อน  เพราะสาวเท่ประจำกลุ่มนิ่งไปและมองไปทางด้านหลังของผมด้วยใบนิ่งสายตาก็จ้องเขม็งจนผิดปกติ  ผมจึงหันไปมองตามสายตาของมน

“เป็นอะไรไปมน  มองใครน่ะ” ผมได้ยินเสียงไอ้ธีถามมนแต่ผมคงไม่ต้องรอคำตอบมนแล้วครับ  เพราะสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ในเดรสสั้นสีดำที่นั่งโต๊ะทางด้านหลังผมถัดไปสองโต๊ะ  อยู่กับเพื่อนสาวที่สวยสู่สีกันอีกหลายคนเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี 

“อ้าวนั่นแนทไม่ใช่เหรอ” เสียงไอ้ฟินหนุ่มหน้าเข้มดังขึ้นก่อนผมจะส่งยิ้มให้เจ้าของชื่อที่ไอ้ฟินเอ่ย  และหันกลับมาทางกลุ่มเพื่อนตามเดิม

‘แนท หรือ ดุจดาว’ เป็นเพื่อนในคณะและชั้นปีเดียวกับพวกผม  เธอเป็นสาวสวยหุ่นสูงโปร่งรูปร่างไปทางนางแบบ  ผิวไม่ขาวมากนักออกจะเป็นสีแทนเนียนสวยตาคมจมูกโด่งปากอวบอิ่ม  แม้ไม่ใช่พิมพ์นิยมของสาวๆสมัยนี้แต่ก็สวยคมเซ็กซี่มากมีคนให้ความสนใจแนทมากมาย  ส่วนนิสัยก็ร่าเริงเข้ากับคนง่ายที่สำคัญตอนปีหนึ่งหญิงสาวสวยคนนี้เคยเข้ามาขอคบกับผมด้วย  แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากคบเพื่อนในรุ่นเดียวกันมันใกล้กันเกินไป  เดี๋ยวพอเลิกกันจะมีปัญหาเข้าหน้ากันไม่ติดได้เพื่อนๆจะพลอยลำบากใจไปด้วย  ซึ่งแนทก็ไม่ได้ตื๊ออะไรต่อยอมรับการตัดสินใจของผมอย่างยิ้มแย้มจนผมอดจะนับถือน้ำใจเธอไม่ได้  และเราก็คบกันแบบเพื่อนมาตลอด

“เดี๋ยวกูกลับแล้ว  ที่นี่ชักเริ่มบรรยากาศไม่ดี  ไอ้วินโทษทีว่ะ  มึงฉลองไปกับพวกนี้แล้วกัน” อยู่ๆมนก็เอ่ยขอตัวกลับทำท่าลุกจากโต๊ะทันทีที่พูดจบ  ผมเหวอไปนิดหน่อยก่อนจะหันไปทางไอ้ธีที่นั่งใกล้มน

“อ้าว  เออๆ  ไอ้ธี  มึงมากับมนใช่มั้ยพาเพื่อนกูส่งถึงบ้านล่ะ  ขับกลับดีๆนะ” ผมกำชับมันเสร็จสรรพด้วยไม่อยากให้มนกลับคนเดียว  ถึงมนจะดูห้าวและแข็งเกินหญิงแต่ก็เป็นผู้หญิง  ปัจจุบันนี้อันตรายที่มองไม่เห็นรอบตัวผมไม่อยากให้เพื่อนเป็นอะไรไป

“ครับ  ถึงมึงไม่บอกมนก็เพื่อนกู  เดี๋ยวกูไปล่ะ  อ้าววว  เดินไปไหนแล้ววะเร็วไปมั้ยเพื่อน” หลังจากไอ้ธีทำเสียงกวนๆแล้วมันก็มองเลิกลั่กรอบตัวเมื่อไม่เจอคนที่มันต้องไปส่ง  ก่อนมันจะถลาตามมนไปที่ทางออกของร้าน

นี่อาจเป็นเหตุการณ์แปลกๆได้ถ้าคนอื่นมาเจอสาวเท่ของกลุ่มที่เป็นคนเงียบๆปกติจะไม่ยุ่งกับใคร  จะหุนหันลุกไปเหมือนกับเกลียดจนไม่อยากอยู่ใกล้กับใครสักคน  ซึ่งมนก็จะเป็นแต่กับสาวสวยโต๊ะข้างๆคนนี้คนเดียวเท่านั้น  ผมเคยคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังกับมนด้วยว่าเพราะอะไรมนถึงมีอาการแบบนี้กับแนท  เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าถึงดูโกรธเกลียดกันได้ขนาดนี้  แต่คำตอบที่ได้กลับทำเอาทั้งกลุ่มเงียบไม่กล้าถามอีกเลย

‘กูไม่มีเหตุผลให้พวกมึงว่ะ  แค่ไม่ถูกชะตาไม่อยากอยู่ใกล้รู้แต่ว่ามันเฟค  พวกมึงก็ระวังแล้วกัน  ต่อไปอย่าถามอีกถ้ากูทำอะไรแปลกๆออกไปเพราะมัน’ มนคงไม่ถูกชะตาแนทมากเพราะคนที่เงียบๆกับพูดซะยาว  และครั้งนั้นถ้าผมจะฟังที่เพื่อนเตือนบ้างก็คงจะดี 

หลังจากเพื่อนสองหนุ่มสาวกลับไปแล้วก็เหลือผมกับไอ้ฟิน  เราเป็นแรงดึงดูดอย่างดีมีสาวๆและหนุ่มน้อยเดินมาทักทายไม่ขาด  ไอ้ฟินก็ตอบรับอย่างคนโสดด้วยใบหน้าระรื่นโปรยยิ้มเสน่ห์จนคนที่เข้ามาเขินหน้าแดงไปตามๆกัน  ส่วนผมมันคนมี ‘แฟน’ แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรแค่ยิ้มทักบ้างไม่ให้น่าเกลียด  แม้แต่เพื่อนสาวอีกโต๊ะที่ผมเพิ่งเห็นก็ไม่เว้นแนทเดินเข้ามาทักถึงโต๊ะ

“หวัดดีจ้ะ  วิน  ฟิน  ทำไมวันนี้มาแค่สองคนล่ะ” เสียงหวานอ้อนจนผมรู้สึกได้  ผมรู้ว่าแนทต้องเห็นพวกเราแต่แรกแล้วว่าไม่ใช่มีเพียงแค่ผมกับไอ้ฟินที่เคยนั่งโต๊ะนี้  แต่ผมก็เลือกที่จะตอบในสิ่งที่แนทถามมาเพื่อไม่ให้แนทรู้สึกไม่ดี

“ธีกับมนมีธุระเพิ่งกลับไปครับ” ผมส่งยิ้มนิดๆให้เธอแต่แนทกลับยิ้มกว้างกลับมา

“เหรอคะ  งั้น....แนทกับเพื่อนอีกคนขอนั่งด้วยได้มั้ยเอ่ย  คนอื่นๆจะไปต่อที่อื่นน่ะแต่แนทไม่อยากไป  นะคะ  นะวินนะ” แนททอดเสียงออดอ้อนตาเว้าวอนและคว้าท่อนแขนผมไปเขย่า  จนผมต้องแกะมือเธอออกก่อนพยักหน้าอนุญาตกลับไป 

ผมเหล่ตาไปมองหน้าไอ้ฟินที่ไม่คิดจะช่วยอะไรผมเลย  แต่กลับมีหน้ากอดอกยักคิ้วและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผมได้อย่างน่าหมั่นไส้  จนผมต้องแอบเตะขามันใต้โต๊ะไปทีให้ได้รู้ตัวบ้าง  ผมตัดใจเลิกคิดมากเพราะถือว่าแนทเป็นแค่เพื่อน  ซึ่งคนอื่นอาจจะมองผมว่าเจ้าชู้แต่เมื่อบริสุทธ์ใจและรู้แก่ใจว่ารักอยู่แค่คนๆเดียวก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากมาย  หลังจากที่มีสองสาวสวยมาร่วมโต๊ะด้วยพวกเราก็คุยกันไปฟังเพลงกันไป  แต่ใจผมก็คอยคิดถึงแต่กับอีกคนที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะได้นอนรึยัง  จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาคนรักสอบถามเรื่องว่างานเลี้ยงส่งเป็นยังไงบ้างกลับบ้านพักรึยัง  เพราะวันนี้กัสไปงานฉลองที่จัดขึ้นเพื่อเลี้ยงส่งเหล่านิสิตฝึกงานที่ทางพี่ๆทันตแพทย์จัดให้  สักครู่ผมก็ได้รับข้อความตอบกลับมาว่ากำลังกลับถึงบ้านพักแล้วและให้ผมขับรถกลับดีๆ  ด้วยกัสรู้ว่าวันนี้ผมมาที่ผับแห่งนี้กับเพื่อนสนิท  เพราะผมรายงานตัวทุกเรื่องกับกัสอยู่แล้ว  อยากให้คนรักสบายใจให้ได้รู้ว่าผมจริงใจและไม่มีอะไรต้องปิดบังไปไหนผมบอกหมด  เพื่อนๆมักล้อว่าผมน่ะเป็นโรค ‘เกลียมัว’ ขึ้นสมอง  ความจริงผมไม่ได้กลัวแค่ไม่อยากให้กัสกังวลและเข้าใจผิดจนมาทะเลาะกันทีหลัง ‘ผมรักคนของผมมากนี่ครับ’ ไม่อยากให้กัสคิดมาก  ผมคงอยู่ในโลกส่วนตัวนานไปหน่อยจนโดนเขย่าแขนจากสาวสวยข้างๆจึงเพิ่งรู้ตัว

“วิน  วินคะ”

“ครับแนท  มีอะไร” ผมหันไปมองหน้าแนททันทีและหน้าผมคงตลกมากเธอถึงหัวเราะคิกคักทันตา

“ฮิๆๆ  แหมไม่ฟังแนทเลยนะ  แล้วยิ้มอะไรเหรอ  ข้อความในโทรศัพท์มีอะไรให้ยิ้มคะ” แนทชะโงกตัวเข้าใกล้ผมมากจนได้กลิ่นน้ำหอมปะทะจมูก  จนผมต้องขยับตัวออกแบบไม่ให้น่าเกลียดมากนัก

“อืม  แฟนผมส่งมาหาน่ะ” แนทยืดตัวกลับไปนั่งตามเดิมและถ้าผมตาไม่ฝาดผมเห็นแววตาอิจฉาแวบหนึ่ง  ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นหยาดเยิ้มเหมือนเดิม

“น่าอิจฉาแฟนวินจังน้า” แนทแซวผมพร้อมรอยยิ้ม 

หลังจากนั้นเราก็เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่น  หันมาทางไอ้ฟินที่ตอนนี้กำลังคลอเคลียกับเพื่อนของแนทที่มานั่งด้วยอย่างถึงพริกถึงขิง  ‘ไอ้นี่ไม่ทิ้งลายเจ้าชู้จริงๆ’  ผมก็หมดความสนใจมันนั่งไปสักพักผมก็ว่ามันได้เวลากลับแล้วเพราะพรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าและเย็นต้องไปรับกัสด้วย  ‘เฮ้อ  คิดถึงคนตัวเล็กของผมจังครับ’

“ไอ้ฟินกูว่าจะกลับแล้วว่ะ  แนทเดี๋ยวผมคงต้องขอตัวก่อนนะ” ผมหันไปบอกไอ้ฟินที่พอได้ยินเสียงผมมันก็ผละหน้าจากซอกคอขาวๆมามองหน้าผม  ก่อนที่ผมจะหันไปทางแนท

“เออดีเหมือนกันกูจะได้ไปจัดการธุระต่อว่ะ  แต่เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน  มึงไปป่ะ” ไอ้ธุระที่ว่าของไอ้ฟินไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืออะไร  เพราะสาวเจ้าก็ยิ้มให้เอียงอายแม้ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ

“เออ  งั้นกูไปจ่ายเงินก่อน  เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะ  วันนี้แนทไม่ต้องจ่ายนะเดี๋ยวผมเคลียร์เอง” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้ฟินก่อนจะเอ่ยขอเป็นเจ้ามือกับแนท  ไม่ใช่หน้าใหญ่ใจป๋าอะไรยังไงแนทก็เพื่อนให้ผู้หญิงจ่ายมันดูไม่ดีครับ

“ขอบคุณค่ะวิน” คำขอบคุณมาพร้อมรอยยิ้มหวานตาระยับ  ผมก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆกลับคืนก่อนหมุนตัวเดินไปจัดการธุระต่อ

ผมเดินไปบอกให้ทางร้านคิดเงินและเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับมาจ่ายเงิน  และผมก็หาโทรศัพท์ไม่เจอขณะล้วงหาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อต้องการโทรตามไอ้ฟินที่หายหัวไปไหนไม่รู้  ผมตัดสินใจเดินกลับมาที่โต๊ะเดิมเพื่อถามหาโทรศัพท์จากแนท

“นี่ค่ะ  แนทเห็นวางอยู่ที่โซฟาค่ะ  วินคะดื่มอีกนิดนะ  เนี่ยจะหมดแล้วช่วยกันนะ  แล้วแนทก็ชงไว้ให้แล้วด้วย  น้า  นะคะ” ผมรับแก้วมาจากแนทพลางส่ายตามองหาไอ้เพื่อนตัวดีที่หายหัวไปไหนก็ไม่รู้

“แล้วไอ้ฟินล่ะครับ  แนทเห็นมั้ย” ผมเอ่ยปากถามแนทและต้องยกแก้วในมือขึ้นดื่มเพราะสายตาออดอ้อนที่มองตรงมาจนอดใจอ่อนด้วยไม่ได้

“กลับไปกับยัยจิ๊บแล้วค่ะ” แนทตอบกลับผมเสียงใสอย่างดีใจด้วยรอยยิ้ม  ผมจึงรีบกระดกเหล้าให้หมดเพราะอยากกลับแล้วและไม่อยากลำบากใจไปมากกว่านี้ 

หลังดื่มหมดแก้วผมเอ่ยลาหญิงสาวตรงหน้าทันที  ตอนเดินออกจากผับผมรู้สึกมึนๆและร้อนวูบวาบแปลกๆ  พอถึงรถที่จอดไว้ผมก็แทบพยุงตัวเองไม่ไหวมันร้อนไปทั้งตัวยิ่งกึ่งกลางลำตัวยิ่งร้อน  ผมรู้ตัวได้ว่าตัวเองโดนวางยาและ ‘ต้องการ’ ปลดเปลื้องความใคร่มาก  ระหว่างที่ผมยืนโงนเงนอยู่นั้นก็มีผู้สาวเข้ามาจับตัวผมบริเวณที่โดนจับนั้นร้อนผ่าว  พยายามเพ่งมองหน้าเจ้าของสัมผัสและเจ้าของเสียงหวานที่กำลังพูดอะไรบางอย่าง  แต่ผมจับใจความไม่ได้ส่วนใบหน้าเธอก็พล่าเบลอรู้เพียงแต่ว่าผมต้องการการสัมผัสที่มากกว่านี้

    

“กัส  กลับมาแล้วเหรอ  อืมมมม” สัมผัสอ่อนโยนที่ไล้ไปทั่วใบหน้าและลำตัวทำผมรู้สึกดี  จนจินตนาการว่าคนที่สัมผัสผมนี้เป็นคนที่ผมเฝ้ารักและคิดถึง  ใบหน้าประดับยิ้มหวานที่กำลังขวยเขินช่างน่ารักน่าใคร่นัก  จนความอุ่นร้อนหยุ่นนุ่มเข้าครอบครองผมไว้ทั้งตัว  จนผมต้องครางยาวออกมา

“ซี้ดดดด  รัก  อ๊า  วินรักกัสนะ” สัมผัสเร่าร้อนของคนรักทำผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไป  เผลอตอบโต้ลีลารักร้อนแรงอย่างเต็มอกเต็มใจ

“อ๊าๆๆ  โอ้  ไม่ไหวแล้ว  รักนะครับ  กัสสสส” สุขจนล้นมันเป็นยังไงผมเพิ่งได้รู้  การร่วมรักกับคนที่เรารักมันช่างสร้างความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ภาพใบหน้าหวานของกัสยังคงลอยละล่องในห้วงฝันของผมจนเคลิ้มหลับไป

    

เสียงใครร้องไห้นะมาร้องอะไรกันตอนนี้  นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย  แล้วทำไมผมถึงปวดหัวขนาดนี้ทั้งๆที่เมื่อคืนไม่ได้ดื่มมากมายอะไร  แต่เดี๋ยวนะเมื่อคืนผมไม่ได้เมาแต่โดนมอมยานี่หว่า  ผมสะบัดหัวพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาแต่เสียงร้องไห้ก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง  ผมหันไปยังที่มาของเสียงและต้องตกใจปนดีใจที่รู้ว่าเป็นใคร

“อืม  ใคร  กัส  กัส!  มาไงครับแล้วร้องไห้ทำไม  เฮ้ยยย!!!”

แต่แล้วผมก็ต้องตกใจแทบช็อคเมื่อพบว่าตัวเองเปลือยเปล่าและนอนอยู่บนเตียงกับผู้หญิงที่ผมเรียกว่าเพื่อน  พลันคำเตือนของเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นมาในหัว  ผมไม่น่าไว้ใจผู้หญิงคนนี้เลยและก็ต้องโกรธตัวเองมากที่ไม่รู้จักระวังตัวจนทำให้คนที่ผมบอกว่ารักร้องไห้เสียใจขนาดนี้

..................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ได้รู้กันแล้วเนอะว่าวินไม่ได้ตั้งใจเลย แค่แพ้เล่ห์กลของคนที่คิดว่าเป็นเพื่อน
แต่อยากได้เพื่อนมาเป็นแฟน   :เฮ้อ:
ตอนหน้าตามต่อค่ะว่าหมอกัสจะจัดการยังไง

เรื่องนี้จะเล่าสลับกันระหว่างวินกัสนะคะ และปัจจุบันกับอดีตจะถูก
ถ่ายทอดผ่านทั้งคู่ คนอ่านจะได้รับรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ เรื่องอาจดำเนินช้านิดหนึ่งเนอะ
ทั้งคู่ใกล้เจอกัน(ในปัจจุบัน)แล้วค่ะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: สำหรับการติดตามค่ะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
วินเชื่อใจเพื่อนมากเกินไป เลยทำให้กลายเป็นแบบนี้
แต่ก็นะ จะโทษวินอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพื่อนวินร้ายเกินไป
กัสกับวินสู้ๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
วินไม่ได้ตั้งใจทำให้กัสเสียใจนะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:เฮ้อ:ทำไมไม่ระวังเลย :เฮ้อ:


เป็นใครก็โกรธทั้งนั้นอะเห็นแบบนี้ :m16:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เซงแทนเลยอ่ะ
ไม่น่าไปไว้ใจเพื่อนเล๊ย

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

มีเพื่อนร้ายก็เลยแย่แบบนี้
 :กอด1:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด