^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U  (อ่าน 194529 ครั้ง)

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 13

กัส

งานวันเกิดของเพื่อนสาวคนสนิทของผมนั้นจัดขึ้นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน  ถูกเนรมิตขึ้นโดยคุณหญิงแม่ของมายเองมีไฟประดับส่องแสงกระพริบตามต้นไม้และพุ่มไม้อย่างสว่างไสว  สนามหญ้าจัดวางโต๊ะอาหารทั้งของคาวของหวานตั้งอยู่หลายตัว  มีซุ้มเครื่องดื่มบริการส่วนใหญ่เน้นไปทางน้ำหวานและน้ำผลไม้  คนที่มายเชิญมางานนั้นก็มีบรรดาเพื่อนสมัยเรียนที่เจ้าตัวยังติดต่ออยู่  เพื่อนสนิทของครอบครัว  ญาติๆ  และที่ขาดไม่ได้คือเพื่อนสนิทที่สุดอย่างผมกับมิคนั่นเอง  ที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างตัวเจ้าของงาน

“อืม  บ้านมายเดียร์ทำอาหารอร่อยมาก  อร่อยทุกอย่างเลย” มิคอมยิ้มแก้มตุ่ยตาพราวอย่างถูกใจมือยื่นคอกเทลกุ้งให้มายลองชิม  แต่มายส่ายหน้ายิ้มสวยไปแทนก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ผม  ปล่อยให้คนช่างกินมีความสุขกับของในมือต่อไป

“แล้วกัสล่ะเงียบจัง  บาร์บีคิวนี่อร่อยมั้ยจ๊ะ” มายชี้มาที่จานในมือผมและเอียงคอยิ้มน้อยๆให้  ผมจึงคลี่ยิ้มให้เพื่อนสาวคนสนิทและพยักหน้าให้ก่อนตอบ

“อร่อยครับมาย” หลังคำตอบผมแล้วมายยิ้มหวานให้พร้อมเข้ามาคล้องแขนด้วยท่าทางน่ารัก  ส่วนมิคก็ชะเง้อคอมองบาร์บีคิวในจานผมก่อนเงยหน้าส่งสายตาออดอ้อนมาให้  ดูก็รู้แล้วว่าเพื่อนจอมซนของผมเค้าอยากชิมผมจึงยื่นให้ทั้งจาน  มิคยิ้มกว้างอย่างถูกใจก่อนเอื้อมมือรับไป  จนมายต้องเรียกเด็กรับใช้ไปเอามาเพิ่มให้และแกล้งหยอกคนช่างกินให้ได้งอน  เรียกเสียงหัวเราะจากผมได้เมื่อได้เห็นใบหน้ามีความสุขของเพื่อนสนิททั้งสองคน 

บรรยากาศรอบตัวกำลังดีมีลมพัดผ่านอาหารก็อร่อยเครื่องดื่มก็เยี่ยมดนตรีก็ไพเราะ  แต่ใจผมนี่สิอดจะแอบกังวลไม่ได้หลังจากรู้มาว่าชายหนุ่มข้างบ้านหลังนี้จะมาร่วมงานด้วย  ผม ‘กลัว’ กลัวว่าเขาคนนั้นจะตามมาด้วยแต่ผมอาจจะคิดมากไปเอง  ก็คนมันเลิกกันไปนานแล้ววินคงเลิกสนใจผมไปแล้วล่ะ  สั่งตัวเองให้เลิกคิดมากแล้วหันมาสนุกและร่วมฉลองงานวันเกิดให้เพื่อนคนสวยดีกว่า

“น้องมายจ๊ะ  ใกล้ได้เวลาเป่าเค้กแล้วลูกไปเตรียมตัวกันค่ะ  น้องกัสกับน้องมิคไปด้วยกันค่ะ เร็วเด็กๆ” เสียงของคุณหญิงแม่คนสวยที่ยังสวยไม่สร่างเรียกให้ลูกสาวไปเตรียมตัวเป่าเค้กวันเกิด  พร้อมส่งรอยยิ้มสวยเผื่อแผ่มาที่ผมกับมิคด้วย 

พวกเราจึงเดินตามคุณหญิงแม่ไปบริเวณที่จัดเตรียมเค้กก้อนใหญ่ตั้งไว้กลางงาน  แขกในงานคนอื่นๆเมื่อเห็นเจ้าภาพของงานเดินไปที่โต๊ะกลางงานต่างก็ลุกขึ้นเดินมาร่วมเตรียมร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับเพื่อนสาวของผม  ซึ่งมายเองก็ดูตื่นเต้นและมีอาการแปลกๆร่วมด้วยเพราะคอยชะเง้อมองไปที่หน้าประตูทางเข้าบ้านเป็นระยะ  สงสัยมายจะรอเพื่อนข้างบ้านเจ้าของกล่องของขวัญใบสวยนั่นแน่ๆ  ‘เฮ้อ! มายนะมายบอกไม่มีอะไรแต่ตอนนี้ล่ะหาเชียวเพราะนายนั่นยังไม่มานั่นเอง’

“น้องมายเป็นอะไรลูก  รอใครอีกรึเปล่า” คุณหญิงแม่ของมายคงเห็นอาการแปลกๆของลูกตัวเองเข้าแล้ว  ผมจ้องมายยิ้มๆเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยหวานขึ้นสีระเรื่อและหลบตาผมทันทีที่เห็นว่าผมจ้องอยู่

“เปล่าค่ะคุณแม่ไม่มีอะไร  เราเริ่มกันเลยค่ะ” มายก้มหน้าปฏิเสธทันทีอย่างมีพิรุธ  ก่อนจะเข้าไปเกาะแขนคุณแม่คนสวยอย่างออดอ้อนเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น 

ผมหันไปมองมิคก็พบว่ากำลังแอบขำส่งแววตารู้ทันมาให้  ผมที่กำลังเม้มปากกลั้นขำอาการของมายอยู่นั้นก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้น  เป็นเสียงชายหนุ่มที่นุ่มและกังวานใสดังออกจากลำโพงที่ติดตั้งไว้รอบงาน  เสียงที่ได้ยินนี้มันคุ้นหูผมมากเหมือนเคยได้ยินมาก่อน  ผมและคนทั้งงานต่างหันไปมองต้นเสียงที่ตอนนี้เดินถือไมโครโฟนตรงเข้ามายังกลุ่มคนที่ยืนอยู่  เจ้าของเสียงเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งตัวไม่หนานักและใส่แว่นไร้กรอบ  ใบหน้าที่คุ้นเคยนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนข้างบ้านของเจ้าของงาน ‘นายปรัช’ นั่นเองครับ  เสียงร้องเพลงของปรัชไม่ได้เข้าหูผมเลยเพราะตอนนี้สายตาผมนั้นจดจ้องไปยังชายหนุ่มอีกคนที่เดินตามมาหลังสุดของกลุ่มเพื่อน  หนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาคุ้นตาและคุ้นใจไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากสองปีก่อนเลย  ‘วิน’ ทำให้ผมใจสั่นระรัวเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เราได้เจอกัน  ผมพยายามสั่งใจให้หยุดสั่นแต่ใจคนเรานี่มันบังคับไม่ได้จริงๆ  ผมไม่รู้ว่าเผลอตัวจ้องตาคมสวยอยู่นานเท่าไหร่แต่มารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อมิคจับมือของผมกุมกระชับ  ผมจึงเบนสายตาออกมาจากสายตาคมวาวคู่นั้น  ก่อนได้สบกับแววตาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างชัดเจนจากมิค  เวลาต่อมามืออีกข้างของผมก็ถูกเกาะกุมจากเพื่อนสาวคนสวยซึ่งส่งสายตาห่วงใยมาให้ไม่ต่างจากมิค

“กัสเราไปนั่งทานเค้กกันนะจ๊ะ  เนี่ยมายตัดมาชิ้นใหญ่เลยเรามาแบ่งกันกินดีกว่า” เสียงหวานๆของมายลอยมาเข้าหูพร้อมแรงจับจูงให้ออกเดินจากเพื่อนทั้งสอง  ผมเดินใจลอยเท้าไม่ติดพื้นมายังห้องรับแขกที่อยู่ภายในตัวบ้านแทนการนั่งที่โต๊ะบริเวณสนามด้านนอก  หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเราทั้งสามคน

“กัส  ไม่เป็นไรนะ  อย่าเงียบสิ  พวกเราเป็นห่วงกัสนะ” มิคส่งเสียงแผ่วเศร้าจนผมรู้สึกตัวว่าทำให้เพื่อนไม่สบายใจอีกแล้ว  จึงพยายามคลี่ยิ้มส่งให้มิคและมายเพื่อให้เพื่อนได้สบายใจขึ้น 

แต่ใจของผมตอนนี้มันสับสนไปหมดและเกิดคำถามว่า ‘วิน’ มาที่นี่ทำไมมาให้ผมเห็นหน้าเพื่ออะไรกัน  ในเมื่อเรื่องมันผ่านมาเป็นปีแล้ว  ผมอยากหนีไปให้ไกลไม่อยากเจอหน้าไม่อยากเห็น ‘คนโกหกหลอกลวง’ อีก  แต่อีกใจหนึ่งนั้นกลับอยากพูดคุยกันได้แบบเพื่อนก็ยังดี  เพราะ ‘ความคิดถึง’ ผมคิดถึงวินเหลือเกินอยากรู้ว่าที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้างตอนที่ไม่มีผมอยู่เคียงข้าง  ‘วินจะยังเหงาและคิดถึงกันบ้างมั้ย’

“พวกนายพานายนั่นมาทำไม  พากลับไปซะ” เสียงตะโกนของมิคทำให้ผมต้องหันไปมองทางต้นเหตุ 

ใจผมกระตุกวาบเมื่อเจอเข้ากับสายตาที่จับจ้องของวิน  แววตาคู่คมที่ผมได้สบมันแสดงออกหลากหลายความรู้สึก  ทั้งความไม่มั่นใจ  เสียใจ  และคิดถึง  มันทำผมใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง  เราสบตากันนานและไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรออกมาหลังประโยคของมิค  เพราะเพื่อนๆคงคอยดูว่าเราทั้งสองคนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อกันก่อนจะตัดสินใจทำอะไรต่อ  และแล้วผมก็เห็นว่าวินขยับปากเตรียมพูดจนผมเผลอกลั้นใจรอประโยคแรกในรอบหนึ่งปีของวินที่ผมจะได้ฟังอีกครั้ง

“กัส  กัสสบายดีมั้ยครับ” เสียงยังคงนุ่มและปนไปด้วยความห่วงใยเหมือนเดิม  แต่สถานะของเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว

ผมไม่คิดจะตอบคำถามของวินยังคงใช้ความเงียบกดดันคนตรงหน้า  หน้าตาของคนที่ผมมองอยู่สลดลงทันทีผมรีบเบือนหน้าหนีสายตาออดอ้อนคู่นั้น  และได้รู้ว่าวินยังคงมีอิทธิพลต่อใจผมอยู่  เพราะเพียงแค่เห็นสีหน้าแววตานั้นก็ทำผมใจหวิวได้  ตลอดหนึ่งปีที่เราห่างกันผมคิดว่าสามารถลืมวินได้แล้ว  และคอยใช้ความเจ็บกับเหตุการณ์นั้นมาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ลืมก็ตาม  แต่การพบกันครั้งนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ‘ผมไม่เคยลืมวินได้เลย’

“เอ่อ  ปรัชจ๊ะ  มายขอบคุณมากสำหรับของขวัญและที่ปรัชมาอวยพรให้  แต่ตอนนี้มายว่าปรัชพาเพื่อนกลับก่อนดีกว่ามั้ยจ๊ะ  ทุกคนคะอย่าว่ามายเสียมารยาทเลยค่ะ  แต่พวกเรารู้กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร” เพื่อนสนิทคนสวยของผมคงนึกเห็นใจและเป็นห่วงผมมากถึงกับเอ่ยปากไล่ทางอ้อมกับกลุ่มเพื่อนของวิน  ทั้งๆที่มายออกจะเป็นสาวขี้เกรงใจยามปกติคงไม่คิดจะทำ

“ผมสบายดีครับ” ผมตัดสินใจตอบคำถามที่ถูกทิ้งไว้นานเพราะไม่อยากให้มายลำบากใจไปมากกว่านี้  แต่ผมก็นึกอยากเรียกคำพูดคืนด้วยหมั่นไส้ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองผมอยู่นั้นยิ้มจนแก้มปริตาพราวอย่างดีใจ  และแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสินะที่ทุกคนจะได้สบายใจขึ้นไม่อึดอัดกับบรรยากาศกดดันจากตัวผมอีก 

“เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมก้มหน้าเอ่ยขอตัวจากคนทั้งห้องไม่เจาะจงใคร  พร้อมลุกขึ้นเตรียมเดินไปทางห้องน้ำแต่กลับถูกเพื่อนสนิททั้งสองคนจับแขนไว้

“มายไปด้วย / เดี๋ยวมิคไปเป็นเพื่อน” มิคและมายพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง  ผมนึกดีใจที่มีเพื่อนคอยเป็นห่วงและอยากจะขอบคุณทั้งสองที่ไม่เคยทิ้งกันนัก  แต่ผมทำได้เพียงส่งยิ้มเล็กๆและส่ายหน้าปฏิเสธให้ทั้งคู่เท่านั้น

ตอนนี้ผมอยากขอเวลาอยู่คนเดียวสักพักด้วยทำตัวไม่ถูกจริงๆ  ผมเดินออกมาหลังถูกปล่อยแขนเป็นอิสระขณะเดินไปทางห้องน้ำที่อยู่อีกส่วนของบ้านและต้องเดินผ่านวิน  ผมจึงตั้งใจว่าจะเดินผ่านให้เร็วที่สุดและไม่คิดจะมองหน้า  ใจคิดแต่ตากลับเงยขึ้นสบตาคมของวินขณะที่ตัวเองกำลังจะเดินผ่าน  ก่อนผมจะตัดใจก้มหน้าหลบตาและเดินตรงไปทางห้องน้ำต่อทันที

    

จิตใจที่เริ่มสงบลงและใจที่หายสั่นรัวทำให้ใบหน้าที่มองตอบกลับมาจากกระจกของผมไม่มีรอยกังวลมากนักดีกว่าตอนที่ผมเพิ่งเข้ามาในห้องน้ำแห่งนี้ใหม่ๆ  และผมก็พร้อมแล้วที่จะออกไปข้างนอก  แม้จะไม่แน่ใจตัวเองนักว่าถ้าได้สบตาคู่นั้นอีกครั้งจะมีอาการกลับมาอีกมั้ย  แต่คนเราหนีไม่ได้ตลอด ‘ใช่แล้วครับ  ผมหนีวินมาตลอด’ หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น  ซึ่งวันนี้คงถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากันจริงๆซะแล้ว  ผมสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเองพร้อมยื่นมือไปที่ลูกบิดเพื่อเปิดประตูออกเผชิญความจริง

“กัส  คุยกับวินนะครับ  วินให้เวลากัสมานานแล้ว”

ทันทีที่ผมเปิดประตูออกมาความจริงที่เตรียมใจเผชิญหน้าไว้แล้วกลับมายืนอยู่ตรงหน้า  แม้จะทำใจแล้วแต่เมื่อมาเจอกันระยะประชิดขนาดนี้ทำเอาอึ้งและใจก็เต้นระรัวอีกจนได้  ผมหาคำพูดตอบกลับไม่เจอจึงได้แต่พยักหน้าตอบรับไป  ก่อนเดินเบี่ยงตัวออกมาจากร่างหนาที่ขวางทางไว้  ผมเดินนำมาที่สวนหลังห้องครัวที่ตอนนี้เงียบสงบเพราะทุกคนต่างไปช่วยงานกันด้านนอกที่หน้างาน  และรับรู้ถึงเสียงฝีเท้าที่ตามหลังผมมาไม่ห่างแต่ยังคงไม่มีเสียงพูดระหว่างกัน  ตลอดทางเราต่างหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง  ผมทรุดตัวนั่งด้านหนึ่งของม้านั่งตัวยาวที่มีพนักพิงหลัง  อีกคนที่ตามมานั่งอีกข้างปล่อยให้มีพื้นที่ว่างระหว่างเรา  ตรงกับความรู้สึกของผมในตอนนี้ที่รู้สึกมีช่องว่างในใจ  เหมือนว่าเราไม่รู้จะเริ่มกันยังไงแม้มีสิ่งที่อยากพูดอยากถามมากมาย  จนกระทั่งวินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน

“กัสครับ  วินคิดถึงกัสนะครับ” ผมคิดไม่ถึงว่าประโยคนี้จะเป็นประโยคแรกที่วินจะพูด  เคยคิดอยู่บ้างว่าถ้าผมได้กลับมาเจอวินสิ่งที่วินจะพูดกับผมน่าจะเป็นคำอธิบายเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อน  ด้วยตอนนั้นผมไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวใดๆทั้งนั้นแม้อีกฝ่ายจะพยายามขนาดไหนก็ตาม  ทำเอาผมอดหัวเราะในคอไม่ได้จนวินถึงกับจ้องมาเขม็งแววตาแปลกใจชัดเจน  และน่าแปลกที่ความอึดอัดในใจผมปลิวหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
 
“วินไม่อยากอธิบายเรื่องวันนั้นกับกัสแล้วเหรอ” ผมใช้น้ำเสียงสบายๆถามออกไปจนได้จนตัวเองยังนึกทึ่ง  แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมองวินหรอกว่าจะมีสีหน้าแบบไหน

“อยากสิครับวินรอวันนี้มาตลอดวันที่กัสจะฟังวิน  ถึงแม้จะรอมาเป็นปีก็ตาม” น้ำเสียงกระตือรือร้นที่ได้ยินจากวิน  ทำผมอารมณ์ดีขึ้นมาได้จนถึงขั้นหัวเราะแผ่วเบาออกมา

“ฮึๆ  ขนาดรอนะเนี่ยยังมีข่าวว่าวินอกหักเลยนะ” ผมแซวถึงข่าวล่าสุดที่ได้ยินมาและจ้องไปยังดวงไฟสีส้มนวลตาตรงหน้า  ผมไม่เคยคิดว่าจะมีบรรยากาศสบายๆระหว่างผมกับวินขึ้นได้  เมื่อเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง  แม้มีเรื่องสำคัญที่เราต้องคุยกันคือสิ่งที่วินคงอยากอธิบายกับผมมาตลอดหนึ่งปี  แต่มันกลับยังไม่ถูกหยิบยกมาพูด 

“ข่าวไวจริงน้า  สงสัยมีสายจากกลุ่มวินไปบอกล่ะมั้ง” น้ำเสียงล้อเลียนที่ได้ยินทำผมจินตนาการออกทันที  แม้ไม่ต้องหันไปมองว่าวินจะมีสีหน้าแบบไหน

“อืม” ผมรับคำในลำคอและรอสิ่งที่วินจะพูดออกมาให้ผมได้รู้

“มันคงเป็นกรรมตามสนองวิน  กรรมที่เคยทำให้คนที่รักเสียใจเพราะตัวเอง  แม้ไม่ตั้งใจแต่มันก็เกิดขึ้นจริง  แต่ที่ว่าอกหักคงไม่ใช่ก็แค่คนที่วินใช้แทนกัสเท่านั้น”

บรรยากาศเบาสบายเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นหนักขึ้นมา  เมื่อประโยคที่วินต้องการสื่อว่าจะเริ่มเข้าเรื่องเพื่ออธิบายถึงความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว  ทำเอาผมต้องเรียกกำลังใจเหมือนเคยคือการสูดอากาศเข้าปอดก่อนหันไปสบตาชายหนุ่มที่ผมคิดถึงมาตลอดทั้งเรื่องดีและไม่ดีของคนๆนี้

“กัสพร้อมฟังวินแล้วมีอะไรก็พูดมาให้หมด”

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ในที่สุดกัสก็พร้อมจะฟังวินแล้วนะคะ แม้จะผ่านมาเป็นปีก็ตาม
รักแท้คงต้องผ่านบททดสอบของอะไรสักอย่าง เพื่อให้เจ้าของ
สิ่งที่เรียกว่าความรักเห็นคุณค่าของมัน เมื่อเข้าใจกันแล้ว
ความหวานจะมาเยือนคู่นี้ไม่แพ้คู่อื่นๆค่ะ  :impress2:
เจอกัสวินได้พรุ่งนี้นะคะ

+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ  :pig4: ทุกการติดตามและแรงสนับสนุนค่ะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เคลียร์กันสักทีก็ดีเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
นี้ล่ะน๊าที่เขาเรียกว่า บททดสอบความรัก ถึงแม้จะผ่านไป 1 ปี
แต่ใช่ว่าความรักที่มีให้กันจะลดน้อยลง ถึงบางทีอาจจะมีนอกลู่นอกทางไปบาง
แต่ยังไงหัวใจก็ยังมอบให้คนเดิมอยู่ดี ดีจริงๆเลยน๊าความรัก
ในที่สุดกัสก็พร้อมที่จะฟังจากปากวินซักที

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ไม่เจ๊อะกันนาน มาเม้นท์ได้สักที :try2:
วิ่งตามอ่านกัสวินด้วยความเร็วแสง
ไม่มีอะไรมากนอกจากรักเหมือนเดิม
ในทีสุดความอดทนของวินก็สำเร็จ
กัสพร้อมแล้วที่จะรับฟังสิ่งที่ผ่านมา
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะรักนั่นแหละนะ
แวะมา +1 และเป็ดให้พี่มาศค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
อืม  ถ้าเราเป็นกัสก็โกรธมากเหมือนกันนะ
เรื่องผู้หญิงคนนั้นก้ออีกเรื่อง
แต่ยังง้อกัสไม่สำเร็จด้วยซ้ำ  มีคนใหม่ซะแล้ว

น่าตีจริงๆนะนายวิน  กัสงอนซะให้เข็ด
+1

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
กัสพร้อมจะฟังวิน  เราก็พร้อมจะรออ่าน

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
อยากอ่านคู่นี้หวานๆบ้างแล้ววว  :laugh: :laugh:

ขอให้กัสเชื่อวินนะ  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

กัสพร้อมที่จะฟังแล้ว...จะได้เคลียร์กันซักที
 :กอด1:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เคลียกันให้จบๆไปเร็วๆนะ

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 14

วิน

“กัสพร้อมฟังวินแล้วมีอะไรก็พูดมาให้หมด” ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมอยากได้ยินจากร่างบางที่นั่งข้างกันนี้มาตลอดหนึ่งปี  ผมหันไปทั้งตัวเพื่อมองภาพคนที่ผมยังรักได้อย่างเต็มตา 

“เรื่องที่เกิดเมื่อคืนนั้นมันเกิดขึ้นจริงกัสไม่ได้เข้าใจผิดหรอก” ผมพยายามพูดอย่างระวังที่สุดและคอยจับสังเกตถึงความผิดปกติเมื่อได้พูดจบประโยคนี้  แต่ยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าด้านข้างที่ผมจับจ้องอยู่นี้  ผมกลืนน้ำลายไล่ความฝืดคอและสูดอากาศเข้าปอดเรียกกำลังใจ  ก่อนเริ่มต้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“วินมีอะไรกับแนทคืนนั้น  แนทเป็นเพื่อนคณะเดียวกันกับวิน  เจอกันคืนที่วินไปผับ  ถ้ากัสยังจำได้วินบอกกัสว่าคืนนั้นเพื่อนในกลุ่มนัดเจอกัน  เราเจอกันโดยบังเอิญแนทมาขอนั่งด้วยเมื่อเห็นวินกับฟินนั่งอยู่แค่สองคน  ส่วนคนอื่นกลับกันไปก่อนแล้ว  เราคุยกันเรื่องทั่วๆไปและวินยืนยันได้ว่าวินไม่เคยคิดกับแนทเกินเพื่อน”

ผมจับตามองกัสตลอดขณะที่ตัวเองเล่าเรื่องในอดีต  ด้วยกลัวว่ากัสจะลุกหนีก่อนที่ผมจะพูดจบ  แต่ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากร่างบาง  ยังคงนั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม  ใจชื้นขึ้นเยอะกำลังใจผมเริ่มมาแล้วขอแค่กัสฟังจนจบผมเชื่อว่ากัสจะเข้าใจ  ถ้าผมขอให้เรากลับมาคบกันอาจถึงขั้นยอมคืนดีด้วยก็ได้  ผมขยับตัวร่นระยะทางระหว่างเราแต่ก็ยังเว้นช่องว่างไว้อยู่

“จนได้เวลากลับ  คืนนั้นวินกลับเร็วกว่าปกติ  เพราะวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้าและเย็นต้องไปรับกัส  จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำและเคลียร์บิล  กลับมาที่โต๊ะตามหาไอ้ฟินมารู้จากแนทว่ากลับไปกับเพื่อนแนทที่มานั่งด้วยกันก่อนแล้ว  แนทคะยั้นคะยอให้วินดื่มเครื่องดื่มที่เหลือ  วินไม่คิดอะไรมากก็ดื่มๆไปจะได้รีบกลับห้องซะทีและอีกอย่างแนทก็เป็นเพื่อนจึงไว้ใจ  หลังดื่มหมดวินก็ลากลับจนเดินไปที่รถ  ตอนนั้นวินร้อนวูบวาบแปลกๆและเริ่มมึนหัว  หลังจากนั้นก็มารู้สึกตัวจริงๆก็ตอนที่ได้ยินเสียงกัสร้องไห้”

เล่าถึงตอนนี้ความเจ็บแล่นเข้ามาที่อกของผมเหมือนเมื่อครั้งที่เห็นคนตัวเล็กคนนี้ร้องไห้ในวันนั้น  ผมสังเกตเห็นแววตาด้านข้างของกัสไหววูบมีน้ำตาวาวแต่สักพักก็จางหายไป  อยากจะเอื้อมมือไปโอบกอดแต่ผมนั้นยังไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นกับกัสได้

“วินเจ็บมากนะกัสที่เห็นกัสร้องไห้เพราะวิน  วินมีอะไรกับคนอื่นจริง  แต่วินไม่เคยนอกใจกัสนะครับ”

น้ำตาของร่างบางไหลมาตามแก้มเป็นสาย  จากการสังเกตกัสพยายามสะกดกลั้นน้ำตาจนตาคู่สวยแดงก่ำ  ส่วนมือก็จิกเกร็งลงไปที่หน้าขาของตัวเอง  ทำให้ผมอดใจไม่ได้ต้องเอื้อมมือคว้ามือนุ่มทั้งสองมากอบกุมไว้ไม่ให้ร่างบางทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว  ใจจริงผมไม่อยากเห็นกัสต้องเจ็บปวดเพราะผมอีกเลย  ผมรู้ว่าการรื้อฟื้นอดีตที่เจ็บปวดจนอยากลืมก็เหมือนการกรีดเปิดแผลเพื่อเอาหนองในแผลออกมันเจ็บปวดมากแค่ไหน  แต่ถ้าไม่เอาหนองออกแผลก็ไม่หาย  ผมต้องการเอาหนองออกให้หมดเพื่อแผลนี้จะได้หายหลังเป็นแผลเรื้อรังมาเป็นปี  ในเมื่อผมเป็นคนทำให้เกิดแผลผมก็ต้องเป็นคนรักษามันด้วยตัวเอง  กัสที่โดนผมกุมมือไม่ได้สะบัดมืออกจากการเกาะกุม  มีเพียงน้ำตาที่ไหลรินไร้ซึ่งเสียงสะอื้นผมเห็นแล้วก็เจ็บปวดใจไม่แพ้กัสเลย  ผมใช้มือข้างหนึ่งจับปลายคางคนที่ผมยังรักไม่ลืมให้หันมาสบตากันพร้อมเช็ดคราบน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

“วินนอกกายกัสแต่วินไม่เคยนอกใจซักครั้ง  ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม” ผมจ้องตากัสนิ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในสิ่งที่พูดไป  ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับจากร่างตรงหน้าแต่แววตาที่ผมเห็นนั้นส่งคำถามมาโดยที่กัสไม่ต้องพูดผมก็สามารถเข้าใจได้  ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมให้กัสที่ยังจ้องตาไม่มีหลบ

“วินโดนวางยาจากแนทครับ  วินเลยมีอะไรกับแนทไปโดยไม่เต็มใจ  จนกัสมาเห็นนั่นแหละวินถึงเพิ่งรู้สึกตัว  ตอนนั้นวินยังงงๆอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น  วินรู้ ครับว่าถึงวินไม่เต็มใจให้เกิดแต่มันก็เกิดขึ้นและทำร้ายใจกัสอย่างร้ายกาจ  หลังจากวินส่งกัสกลับแล้ว  วินโทรตามเพื่อนทุกคนในกลุ่มมาปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อดี  กัสรู้มั้ยตอนนั้นวินรักและซึ้งใจในน้ำใจพวกมันมาก  ไอ้ปรัชตามเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพตอนที่แนทใส่ยาในแก้วเหล้ามาให้  ส่วนไอ้ฟินไปตามเพื่อนของแนทมาเป็นพยานว่าแนทมีแผนมอมยาวินจริงมาได้ด้วยนะ  ฮึๆๆๆ  แถมมนยังไปคาดคั้นความจริงจากปากแนทเองกับตัวด้วย  ตอนแรกเรื่องแนทนี่วินจะจัดการเอง  แต่มนบอกว่าถ้าวินทำเองจะเหมือนรังแกผู้หญิง  และอีกอย่างถ้าวินไปเองในตอนนั้นวินก็ไม่แน่ใจว่าจะอดใจไม่ทำร้ายแนทได้มั้ย  ส่วนไอ้ธีช่วยถ่ายภาพช่วงที่แนทโดนมนคาดคั้นแถมตัดต่อมาให้ยังกับละครเลย”

คิดถึงมาตรงนี้แล้วผมว่าผมโชคดีมากที่มีเพื่อนรักคอยอยู่เคียงข้างยามมีปัญหา  และอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยด้วย  ส่วนกัสก็น้ำตาหยุดไหลแล้วและจ้องผมตาแป๋วอย่างน่าเอ็นดู  ใจร่ำๆอยากจะกดจมูกเข้ากับแก้มแดงตรงหน้าแต่ต้องอดใจไว้และตั้งสมาธิเล่าต่อ

“ตอนนั้นวินอยากเอาหลักฐานทั้งหมดที่มีไปคุยกับกัสมาก  เพราะกว่าหลักฐานจะครบก็กินเวลาไปสองวันแล้ว  แต่กัสไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย  วินไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่  ถามจากเพื่อนกัสก็ไม่มีใครยอมบอกว่ากัสไปไหน  แถมโกรธวินแทนกัสมากเลยรู้มั้ย  หมอมิคแทบจะต่อยหน้าวินเลยตอนเจอกันน่ะ  และวินทายว่ากัสคงหนีกลับบ้านแต่วินไม่เคยไป  เลยไม่รู้ว่าจะตามไปที่ไหน” เล่ามาถึงตรงนี้ให้กลับมาอึดอัดใจเหมือนตอนนั้น  ผมที่ตามตัวคนรักไม่ได้อยากพูดอยากบอกแต่เจ้าตัวก็ไม่เปิดโอกาสให้เลย

“ตอนนั้นวินต้องเตรียมตัวไปฝึกงานและเคลียร์งานอีกมากแถมมีเรื่องกัสด้วย  ทำเอาวินแทบบ้าดีที่มีเพื่อนๆช่วยจึงผ่านมาได้  ไอ้ตอนนั้นที่ว่าแทบบ้าแล้วมาเจอจดหมายกับต่างหูที่วินเคยให้กัสไป  ที่เพื่อนกัสส่งมาคืนวินทำเอาวินไปไม่เป็นเลยนะเสียศูนย์ไปเลย  คิดเสียใจปนน้อยใจสารพัดที่กัสไม่ยอมฟังวิน อธิบายกลับบอกเลิกกันอีก  วินต้องไปฝึกงานต่างจังหวัดและยอมรับคำตัดสินจากกัสให้เราห่างกันจนวันนี้วินถึงได้มีโอกาสเจอกัสอีกครั้ง”

อาการเสียศูนย์ตอนนั้นของผมเกือบทำให้จบช้าเพราะผมเกือบไม่ได้ไปฝึกงาน
กับเพื่อนๆ  ด้วยงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ก็ทำไม่ทัน  ดีที่ไอ้ปรัชเพื่อนคนเก่งของผมลงมือช่วย  แถมได้ไอ้ธีไปขอร้องอาจารย์ให้ผ่อนผันให้ผมได้ส่งช้ากว่าคนอื่นมันอ้างเหตุว่าผมไม่สบายมาก  และอาจารย์คงเห็นใจเพราะผมนั้นรับผิดชอบเรื่องเรียนด้วยดีมาตลอดท่านจึงยอมผ่อนผันให้  เมื่อผมเล่าจบจึงหันมามองหน้ากัสที่เหมือนต้องการจะพูดอะไร  แต่เหมือนว่ากำลังหาคำพูดอยู่กัสจึงยังไม่พูดออกมาและแววตาก็เหมือนกำลังสับสนกับข้อมูลที่ได้รับรู้จากผม 

................................

กัส

หลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้นเมื่อผมใช้สติคิดแล้ว  ผมตั้งใจว่าต้องคุยกับวินให้รู้เรื่องแต่ผมกลับได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนของวิน  และหลักฐานมันฟ้องทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นนำมา  เชื่อได้ว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริง  ผมจึงตัดสินใจบอกเลิกกับวินทันทีโดยส่งจดหมายบอกเลิกและส่งต่างหูข้างนั้นคืนแกเจ้าของเหมือนผมเป็นคนใจร้ายนะ  แต่ตอนนั้นผมเจ็บมากจริงๆเพราะเชื่อว่าตัวเองโดนหลอกจากคนที่คิดว่ารักกัน  จึงไม่อยากรับรู้อะไรแล้วอยากหนีไปจากความจริงที่เกิดขึ้น  พอดีว่าเป็นช่วงที่วินไม่อยู่มหาวิทยาลัยต้องไปฝึกงานสามเดือน  ส่วนผมที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยโดยไม่คิดจะติดต่อและหลบเลี่ยงวินทุกวิถีทาง  จนกระทั่งเรียนจบถึงเวลาที่ผมต้องออกมาใช้ชีวิตทำงาน  จึงเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ต่างจังหวัดและทำงานที่นั่นจนถึงปัจจุบัน  สิ่งที่วินพูดมาทั้งหมดผมไม่อยากจะเชื่อแต่ท่าทางและแววตาที่ส่งมาให้นั้นมันจริงจังเกินกว่าจะคิดว่าคนๆนี้โกหกได้  เพราะทางผมก็มีหลักฐานจากผู้หญิงคนนั้นมายืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันซึ่งผมก็เห็นมันกับตามาแล้วด้วย

“วิน  กัสถามจริงๆนะวินไม่ได้โกหกกัสใช่มั้ยกับเรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี่” หน้าคนโดนถามนิ่งดวงตาสบตรงมาที่ผมเขม็ง  และมีแววน้อยใจโผล่มาให้เห็นก่อนจางหายไป

“วินยืนยันในสิ่งที่พูดทั้งหมดว่าเป็นความจริง  ถ้ากัสอยากเห็นหลักฐานไปที่ห้องวินตอนนี้ได้เลยมันอยู่ที่นั่นทั้งหมด” น้ำเสียงมั่นคงไม่มีวี่แววว่าจะโกหก  ทำผมต้องหลบตาและระบายลมหายใจเพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียด  ด้วยไม่รู้จะเชื่อวินได้มั้ยเพราะตลอดหนึ่งปีความเจ็บปวดและสิ่งที่ได้รู้มันฝังอยู่ที่ใจมาตลอด

“เฮ้อออ  วินต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้กัสไม่สามารถเชื่อใจวินได้เต็มร้อยถึงวินจะพูดมาแบบนี้  เพราะก่อนที่กัสจะส่งจดหมายกับต่างหูข้างนั้นไปคืนวิน  กัสก็มั่นใจว่าวินไม่ได้รักกัสจริงแค่มาหลอกกัน  ไม่ต้องทำหน้าบึ้งเลย” ผมต้องทำเสียงเข้มดุใส่คนตัวโตที่ทำหน้าตาบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินผมพูดว่าไม่ได้รักกันจริงและมาหลอกกัน

“ทำไมกัสคิดว่าวินไม่รักกัสและหลอกกัสล่ะ  ในเมื่อที่ผ่านมาตอนเราคบกันวินแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำให้กัสเห็น  กัสอย่าบอกนะว่าไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งนั้นเลย” วินพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อพร้อมกุมมือผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิม 

สิ่งที่วินพูดมาก็ถูกแต่ตอนนั้นผมที่หวั่นไหวง่ายอยู่แล้วกับความรักครั้งแรกที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง  พอมารู้ว่าสิ่งที่วินทำให้หรือแสดงออกมามันหลอกลวงจึงเสียใจและผิดหวังมากจนไม่คิดจะคุยกับวินอีก  ผมกลัว ‘กลัวที่เจ็บมากกว่านี้’ ถ้าได้ยินวินพูดออกมาเองว่าไม่ได้รักผมเลย  ผมสบตาวินนิ่งและเราคงต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องให้ได้เพราะเริ่มจับได้ถึงข้อมูลที่ไม่ตรงกันกับที่ผมรับรู้มาจากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนวิน

“วินเป็นแฟนกับแนทแล้วแอบมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกใช่มั้ย” หลังคำถามของผมวินที่กุมมือผมอยู่  ตาโตอย่างตกใจก่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยคงสงสัยกับข้อมูลที่ได้ยิน 

“กัสหมายความว่ายังไงและทำไมถึงถามแบบนี้  วินไม่เคยเป็นแฟนกับแนทเราเป็นเพื่อนกัน  แนทเคยมาบอกชอบวินแต่วิน ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากคบกับเพื่อนในคณะเดี๋ยวมีปัญหาถ้าเลิกกันทีหลัง  หลังจากนั้นแนทวางตัวเป็นเพื่อนมาตลอดไม่ได้เกินเลยกันกว่านั้น  มีก็แค่ทำงานคู่กันแต่ก็ทำที่คณะไม่เคยไปไหนกันสองคนเลย”

เมื่อวินพูดมาถึงตรงนี้ทำให้ผมย้อนกับไปนึกถึงภาพถ่ายที่เห็นวันนั้น  มันเป็นรูปคู่ที่สองคนใกล้ชิดกันแต่อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆหรือว่าวินโดนแอบถ่ายกันแน่

“ตอนนั้นวินมีกัสเป็นแฟนเท่านั้นครับ” วินกุมกระชับมือผมแน่นก่อนใช้สายตาแน่วแน่จ้องตาผม  เรื่องที่ได้รู้มาเริ่มสั่นคลอนดูเหมือนว่าผมมีแนวโน้มที่จะโดนหลอก  แต่ยังไงคงต้องเคลียร์กันทุกประเด็นผมจึงหยิบยกเรื่องต่างหูขึ้นมา

“เรื่องต่างหูวินได้ทำที่เหมือนกับของกัสไปให้แนทรึเปล่า” วินทำหน้างงพักเดียวก่อนเปลี่ยนเป็นตกใจตาเบิกกว้าง

“เอ๊ะ  กัสอย่าบอกนะว่าแนทมีต่างหูที่เหมือนกับของวินที่ให้กัสไปน่ะ” ผมพยักหน้ารับทันทีต่างหูที่เคยเห็นจากผู้หญิงคนนั้นมันเหมือนกับข้างที่ผมคืนให้กับเจ้าของตรงหน้านี้ไปแล้ว  ทั้งขนาดของต่างหู  ขนาดเม็ดเพชรหรือแม้แต่ตัว ‘W’ ยังเป็นตัวอักษรแบบเดียวกันเลย

“โธ่เอ๊ย!  วินนี่โง่มากที่โดนยัยนั่นย้อนมาทำร้ายแบบนี้  กัสรู้มั้ยต่างหูที่วินเคยให้กัสไป  วินทำมาคู่เดียวข้างหนึ่งมีตัว ‘W’ อีกข้างมีตัว ‘G’ ที่วินใส่คู่กับกัส   วินทำแค่นั้นแต่ที่กัสเห็นแนทคงไปทำเอง  เพราะร้านที่สั่งทำเป็นร้านที่แนทแนะนำวินน่ะครับ  ตอนนั้นวินกำลังคิดหาของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กัสอยู่  แนทเข้ามาคุยด้วยพอดีจึงรู้ว่าวินจะเตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์แฟน  จึงแนะนำร้านเครื่องประดับที่แนทเป็นลูกค้าอยู่มาให้  และคงแอบไปทำมาให้เหมือนกับข้างที่วินให้กัสไป”

สิ่งที่วินพูดออกมาทำให้ผมนิ่งงัน  ตอนนี้เหมือนว่าผมถูกปิดตาให้มืดบอดมองอะไรไม่เห็นมานาน  แต่อยู่ๆก็มีคนมาคลายผ้าผูกตาออกพลันแสงสว่างก็แยงเข้าตา  จึงต้องปิดตาลงอีกครั้งเพื่อปรับสายตาให้สามารถมองอะไรๆได้ชัดเจนดั่งเดิม  ทั้งหมดนี้หมายความว่าที่ผมต้องเลิกกับคนรักไปเพราะเป็นแผนการของผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นเพียงคนเดียวใช่มั้ย  เกิดความเงียบครอบคลุมเราทั้งคู่เมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง  แต่เราคงคิดไม่ต่างกันที่ได้รู้ว่าความรักเมื่อหนึ่งปีก่อนนั้นต้องขาดลงเพราะยัยผู้หญิงคนนั้นที่วางแผนทั้งหมดขึ้นมา

“หลังจากกัสกลับจากห้องวินวันนั้นแล้ว  กัสก็คิดนะว่าเราต้องคุยกัน  แต่กัสได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นให้ออกไปเจอ  บอกว่าเค้าเป็นแฟนของวินต้องการเคลียร์เรื่องของวินกับกัส” ผมพยายามเรียบเรียงความคิดเมื่อครั้งอดีตเล่าให้วินได้ฟัง

“ไปถึงเค้าบอกว่าเป็นแฟนกับวินอยู่แล้ว  แต่วินมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกแค่อยากลองดูเล่นๆ  ตอนนั้นกัสยังไม่เชื่อหรอกแต่เค้าเอารูปถ่ายที่มีวินกับตัวเค้ามาให้ดู  ในรูปวินดูสนิทและใกล้ชิดกับเค้ามากเกินเพื่อน  และรูปถ่ายที่กัสเห็นมันมีหลายสถานที่หลายสถานการณ์ด้วย  วินรู้มั้ยกัสเริ่มใจเสียเลยที่เห็นภาพวินกับผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ยังแอบหวังว่ามันไม่จริง  ผู้หญิงคนนั้นจึงหยิบต่างหูข้างนั้นมาให้กัสดูเหมือนโลกถล่มเลยวิน  กัสคิดแต่ว่าวินหลอกกัสจริงๆมันเจ็บจนชา  กัสนั่งอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่าผู้หญิงนั่นลุกไปเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ”

สายตาที่ผมได้สบด้วยมีแววโกรธขึงก่อนเปลี่ยนเป็นเสียใจและรู้สึกผิดในท้ายที่สุด  ผมดึงมือข้างหนึ่งออกมาจากการเกาะกุมและเอื้อมไปสัมผัสผิวหน้าด้านข้างของวิน  วินพลิกหน้ากลับมาที่ฝ่ามือของผมก่อนพรมจูบและหลับตานิ่งนาน  นี่ผมและวินเราเสียเวลาไปนานกับความเข้าใจผิดและจมอยู่กับความเสียใจ  สาเหตุมาจากผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นเพียงคนเดียวหรือนี่

“ช่วงที่เราห่างกันกัสรู้มั้ยครับว่าวินไม่เคยเลิกคิดถึงกัสได้เลย  วินน้อยใจที่กัสไม่ให้โอกาสวินอธิบายและเสียใจมากที่กัสตัดวิน ไปจากชีวิตได้ง่ายๆ  ไม่ติดต่อไม่ให้เห็นหน้าแถมหนีไปทำงานต่างจังหวัดทันทีที่จบอีก  วินรู้นะว่ากัสอยู่ที่ไหนแต่ความเสียใจและทิฐิในตอนนั้นทำให้วินไม่ไปหากัส  พอคิดจะไปก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรถ้าโดนกัสถามว่าทำไมเพิ่งมาหากัน  วินมันก็ไอ้คนขี้ขลาดดีๆนี่เอง” วินสบตาผมอย่างจริงจังขณะพูดก็มีแววน้อยใจและเสียใจออกมาให้เห็นเมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว  จนผมอดจะรู้สึกเสียใจและเห็นใจไม่น้อยด้วยที่ไม่ยอมฟังวินอธิบายเลย

“ขนาดบอกว่าคิดถึงกัสแต่วินก็มีคนอื่น  อย่าบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริงนะ” ผมดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเมื่อพูดมาถึงประโยคนี้  แม้จะเห็นใจเสียใจแค่ไหนแต่เรื่องนี้เมื่อแรกรู้ผมก็อดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน

“วินไม่เถียงครับว่ามีคนอื่น  แต่คนที่วินเลือกคบด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาเหมือนกัสมากรู้มั้ย  วินอาจจะเลวที่หาคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องมาแทนที่คนที่วินโหยหาให้มาคบด้วย  แต่กัสครับวินยอมรับนะว่าไม่ได้นึกรักคนนั้นเลยแค่อยากได้ใครซักคนที่เหมือนกัสมาอยู่เคียงข้างให้เหมือนว่าวินยังมีกัสอยู่  วินมันเลวจริงๆ”

วินเอื้อมมือมากุมมือผมอีกครั้งและยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าผมอย่างแผ่วเบาและโหยหา  เริ่มจากคิ้ว  จมูก  แก้ม  และอ้อยอิ่งลูบไล้แผ่วเบาอยู่ที่ริมฝีปาก  มาถึงตรงนี้ใจผมเต้นแรงมากกับสัมผัสที่ห่างหายไปนานแต่ยังจำได้ว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้

“และกรรมก็ตามทัน  ฮึๆๆ  วินโดนคนที่วินเลือกและไว้ใจให้อยู่เคียงข้างหักหลัง  เค้ามีคนอื่นตอนคบกับวินน่ะ  คืนนั้นที่วินเห็นเค้าบนเตียงกับผู้ชายคนอื่น  วินเศร้าเสียใจโกรธที่โดนทำอย่างนั้นจากคนที่เราไว้ใจแม้วินจะไม่ได้รักเค้าก็ตาม  หลังจากนั้นวินก็เข้าใจเค้านะมันหายโกรธไปเลย  เมื่อคิดถึงวันที่กัสมาเจอวินที่ห้องกับแนท  และรับรู้ได้ว่าเรารู้สึกไม่ต่างกันแต่กัสต้องเจ็บกว่าวินมากแน่ๆ  ส่วนคนอื่นนอกจากนี้ก็มีบ้างไม่ได้จริงจังอะไรครับ  วินมันก็ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่โดนกัสทิ้งไป  กัสจะให้โอกาส
วินอีกครั้งได้มั้ยครับ”

......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ทุกอย่างก็เคลียร์กันไป และต้องตามลุ้นในตอนหน้า
ว่าเมื่อวินขอกลับมาคบกับกัสอีกครั้ง กัสจะตกลงเลยมั้ย
และเตรียมตัวรับความหวานกันดีๆน้า  :laugh:

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2012 09:02:43 โดย MiSS-U »

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
^-^ เฮ้อออ ในที่สุดก็ได้ปรับความเข้าใจกันซักที
กัวจะได้รู้สักที่ว่าแนทอะไรนั้นไม่ใช่แฟนวิน แล้ววินก็ไม่ได้เห็นกัสเป็นของแปลกด้วย
ที่วินทำเพราะโดนวางยา กัสรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ทนทุกข์มา 1 ปีเต็ม
จะรอลุ้นตอนหน้าว่า กัีสจะทำยังไงต่อไป สนุกมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2012 07:59:31 โดย 111223 »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
ปรับความเข้าใจแล้ว น่ารัก ดี กันนะจ๊ะ :bye2: :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ในทีสุดก้อเข้าใจกันสักที  :sad4:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
อืมจะให้ก็เดี๋ยวได้ใจอะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

จะไม่ให้ตัวเองก็เสียใจเอาไงดีกัสจัง :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

เคลียร์กันแล้ว จะได้หวานกัน
 :กอด1:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เวรกรรม เพราะผู้หญิงคนเดียวแท้ๆ   :m16:


แต่ทั้งคู่ก็เสียใจกันมามากพอแล้ว มีความสุขกันได้แล้วมั้ง  :กอด1:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว  :angry2:

แต่เรื่องทุกอย่างก็เคลียแล้ว รอตอนหวานๆนะค่ะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
สนับสนุนให้"ผู้ชาย"รักกัน  ฮ่าๆๆ  รอตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 15

วิน

“......................กัสจะให้โอกาสวินอีกครั้งได้มั้ยครับ” ผมคว้ามือร่างบางตรงหน้ามากุมไว้พร้อมสบแววตาหวั่นไหวของกัส  หวังให้คนที่ผมยังรักไม่เปลี่ยนแปลงตอบตกลงกลับมาคบกัน  และหวังอยากจะกลับมารักกันโดยมีกัสคอยเคียงข้างเหมือนเคย  แต่ยังไม่ทันที่กัสจะได้ตอบอะไรก็มีเสียงโวยวายดังขึ้น  ทำเอาทั้งผมและกัสต้องหันไปมองอย่างตกใจ

“เย้ / ยินดีด้วยไอ้วิน / ดีใจด้วยที่กลับมาดีกันแล้ว” ผมไม่เคยคิดอยากจะตัดไอ้เพื่อนกลุ่มนี้มากเท่านี้มาก่อนเลย  ดูสิพวกมันโผล่มาโวยวายตอนที่กัสกำลังจะเอ่ยปากตกลงกลับมาคบกับผมแล้วเชียว  แถมตอนนี้ร่างตรงหน้าทำหน้าตกใจตาโตและดึงมือออกจากการเกาะกุมของผมด้วย  ถ้าผมจะทำร้ายเพื่อนตัวเองตอนนี้คงไม่ผิดมากใช่มั้ยครับ  ผมหันขวับไปมองเพื่อนตัวแสบส่งสายตาคาดโทษก่อนชี้นิ้วใส่หน้าพวกมันรายตัว

“อย่าอยู่เลยพวกมึง!” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เคยนั่งอยู่และไล่เตะเพื่อนสนิทตัวเอง  แต่พวกมันก็ไม่ได้ยืนนิ่งให้ผมได้ทำร้ายง่ายๆ  แถมยังไปแอบด้านหลังของคนที่ผมรักอีก  ผมถลึงตาใส่พวกมันแต่ไม่มีใครนึกกลัวกลับหัวเราะลั่นแววตาเยาะเย้ยอย่างน่าเตะ

“ฮ่าๆๆๆ  แน่จริงมึงเข้ามาสิ  หมอกัสช่วยพวกเราด้วยน้า” ไอ้หนุ่มหน้าตี๋มันเอามือวางบนไหล่ของกัสพร้อมเอ่ยปากฉอเลาะได้อย่างน่าหมั่นไส้  ผมรีบเดินเข้าใกล้กัสก่อนโอบเอวบางเข้าหาตัว

“พวกมึงไปไกลๆเลย  มึง  ไอ้ตี๋แสบใครอนุญาตให้แตะต้องกัสวะ” ผมไล่พวกมันไปไกลๆจากคนของผม  ยิ่งไอ้ธียิ่งไม่น่าไว้ใจไม่รู้มันคิดเกินเลยกับกัสของผมบ้างมั้ย  แต่ด้วยสายตาและท่าทางโอบประคองของผม  คงทำให้พวกมันหมั่นไส้ไม่น้อยวัดได้จากเสียงสรรเสริญที่ดังขึ้น

“ฮิ้ววววว  ไอ้วินมึงหลอกแต๊ะอั๋งหมอกัสนี่” ไอ้ตี๋ปากมากมึงจะพูดทำไมดูสิกวางน้อยเริ่มรู้ตัวซะแล้วว่าโดนผมโอบเอวอยู่  ผมจึงกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเพราะกัสทำท่าจะขืนตัวออก  ก่อนหันไปโวยวายใส่บรรดาเพื่อนสนิทที่ยืนยิ้มหน้าบานอยู่รอบตัวเรา

“พูดมาก  นี่คนของกู  กูมีสิทธิ์โว้ย” ใบหน้าขาวใสของกัสขึ้นสีระเรื่อทันตา ‘น่าฟัดเป็นบ้า’ ผมได้แต่คิดแต่ยังไม่กล้าทำขนาดนั้นหรอกครับ  ที่ทำคือส่งยิ้มออดอ้อนเอาใจคนน่ารักเท่านั้น

“นี่  กัสไม่ใช่คนของวินนะ  กัสยังไม่ตกลงหรอก  ชิ” เสียงหวานที่ดังขึ้นจากคนในอ้อมกอดทำผมเหวอไปเลย  ‘กัสที่รักหมายความว่าไงเนี่ย’ ผมที่ยังเอ๋ออยู่ต้องตกใจกับเสียงที่ดังขึ้น  และคว้าตัวกัสไว้ไม่ทันเมื่อมีแรงมากระชากร่างบางออกจากอ้อมแขน ‘เหตุการณ์นี้มันคุ้นๆมั้ยครับ’
 
“ใช่  ปล่อยเลยนายวินนายยังไม่มีสิทธิ์มาตู่แบบนี้กับเพื่อนเรานะ” หมอมิคหนุ่มตัวเล็กที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนมาดึงคนของผมออกไป  พร้อมประโยคกีดกันและแววตาเจ้าเล่ห์มาก  นี่หมายความว่างานนี้ผมต้องเริ่มจีบคนที่ผมรักใหม่ใช่มั้ยเนี่ย

“วินห้ามมาถึงเนื้อถึงตัวกับกัสของมายแบบนี้อีกนะ  จนกว่าจะจีบกัสติดและกัสยอมคบด้วยน่ะ” หมอมายสาวตัวเล็กเข้าโอบกอดคนของผมไว้ทั้งตัว  แถมประโยคที่ทำเอาผมเหวอหนักกว่าเดิม

คนที่โดนเพื่อนปกป้องยิ้มแก้มปริมองตรงมาที่ผมหน้าแดงปลั่งอย่างน่ารัก  ผมเห็นแบบนี้แล้วอยากกอดอยากหอมแก้มแดงระเรื่อและเอากัสกลับมาเป็นของตัวเองเร็วๆ  งานนี้ผมไม่ถอยแน่เมื่อได้เคลียร์เหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเลิกกันเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ได้มาคุยปรับความเข้าใจกันทำให้เสียเวลาไปนานแล้ว  ทั้งๆที่ถ้าช่วงเวลาที่เราห่างกันนั้นจะสามารถสร้างความทรงจำดีๆระหว่างกันมากมาย  ต่อจากนี้ผมจะเริ่มเวลาของเราขึ้นมาใหม่และจะมีแต่ความทรงจำที่ดีๆระหว่างเราเท่านั้น  ผมขอสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่มีวันปล่อยมือกัสไปอีกแน่

“วิน  มึงต้องจีบหมอกัสใหม่แล้วว่ะ  ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ฟินพูดไปตบบ่าผมไปแถมหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก  ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนของผมจริงๆรึเปล่าเนี่ยแทนที่จะเห็นใจกันกับสะใจซะได้ 

“แน่นอนอยู่แล้ว  และคราวนี้วินจะไม่ปล่อยกัสให้หนีไปจากชีวิตวินอีกแน่”

ประโยคแรกผมตอบเพื่อนตัวเองแต่ประโยคหลังจงใจพูดและส่งสายตาแน่วแน่ไปให้คนที่รักได้มั่นใจว่าผมเอาจริง  ใบหน้าที่ผมจ้องอยู่พลันแดงกว่าเดิมก่อนกัสจะหลบตา  แต่ผมก็ยังเห็นรอยยิ้มเขินอายบนหน้าคนหน้าหวาน  พาให้ผมมีกำลังใจเดินหน้าจีบกัสอีกครั้งเพราะรู้ว่าผลลัพธ์นั้นแสนคุ้มค่าแค่ไหน  ที่จะได้กัสกลับมาเคียงข้างตัวข้างใจกันอีกครั้ง  แม้กัสจะยังไม่ได้ตกลงกลับมาคบกันแต่ก็เป็นโอกาสที่ผมเฝ้ารอจากกัสมาตลอด  วันนี้เมื่อปีก่อนมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายเกิดกับเราทั้งคู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างเจ็บปวดและต้องห่างกัน  แต่วันเดียวกันนี้ตอนนี้ความสุขกำลังคืนกลับมา  และผมจะเป็นคนปัดเป่าสิ่งเลวร้ายที่ยังอยู่ในใจกัสให้หมดไป  แม้ต้องใช้เวลาแต่ผมก็สามารถให้เวลาทั้งหมดที่ผมมีกับกัสได้

...............................

กัส

“แน่นอนอยู่แล้ว  และคราวนี้วินจะไม่ปล่อยกัสให้หนีไปจากชีวิตวินอีกแน่” ประโยคนี้มีอิทธิพลกับผมเหลือเกินจนใจผมเต้นรัวเลือดสูบฉีดแรง  และเชื่อว่าใบหน้าของผมคงเห่อแดงทั้งหน้าแน่ๆ  ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนตอนที่ผมเจอวินครั้งแรกเลย  เป็นอาการของคนตกหลุมรักอีกครั้งกับคนๆเดิม 

จากเมื่อเช้าโลกของผมมันหม่นหมองมองไปทางไหนก็เป็นสีเทาไปหมด  แต่ตอนนี้เวลานี้มันเปลี่ยนไปแล้วโลกกลายเป็นสีชมพูสดใสมองไปทางไหนก็มีความสุข  ไม่น่าเชื่อว่าตลอดหนึ่งปีที่เราห่างกันมันเป็นเพราะผมเองที่ไม่ยอมฟังสิ่งที่วินอยากพูดอยากบอก  แต่ตอนนั้นผมก็เจ็บจนไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น  ทำให้เราสองคนต้องเสียเวลาไปมากและผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้โอกาสคนที่ผมไม่เคยลืมคนนี้  ‘วิน’ คนที่ยังอยู่ในใจของผม  และที่สำคัญที่สุดคือผมให้โอกาสตัวเอง  โอกาสที่จะให้ตัวเองกลับมามีความสุขอีกครั้งกับคนที่ไม่ลืมคนนี้

“มายว่าพวกเรากลับไปในงานดีกว่าค่ะ  หายกันมานานแล้ว”

“ดีค่ะมาย  คืนนี้พวกเราจะขอฉลองการคืนดีของวินกับกัส  และฉลองวันเกิดมายพร้อมกันเลย”

สองสาวต่างสไตล์สนทนาเชิงชักชวนทุกคนกลับไปในงาน  ผมโดนสาวมายจับจูงและอีกข้างถูกประกบด้วยมิคเพื่อนหนุ่มน่ารักพาเดินกลับไปยังส่วนบริเวณงานจัดเลี้ยง  ผมรับรู้ได้ว่าวินเดินตามมาไม่ห่างรู้สึกถึงการจับจ้องที่ด้านหลังของตัวเอง  ทำให้ผมนึกถึงประโยคที่วินพูดไว้ว่าจะไม่ปล่อยผมไปไหนอีก  ผมสุขใจจนต้องแอบอมยิ้ม ‘ดีจังที่มีคนที่รักอยู่เคียงข้างแบบนี้’  ซึ่งผมก็สัญญากับตัวเองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราที่เริ่มใหม่นี้  ผมจะรักษาและดูแลมันอย่างดีไม่ให้ใครมาทำลายได้ง่ายๆอีก  จะค่อยเป็นค่อยไปสร้างรากฐานของความรักให้มั่นคงและสร้างความไว้ใจระหว่างกันให้มากๆ

“ผมนายธีขอเป็นตัวแทนอวยพรวันเกิด  ขอให้หมอมายมีความสุขมากๆ  และยินดีกับนายวินเพื่อนรักที่หมอกัสให้โอกาส ‘จีบ’ อีกครั้ง  ฮ่าๆๆ”

“ขอบคุณค่ะ / เอ่อขอบใจว่ะครับคุณเพื่อนธี” มายและวินเอ่ยหลังได้รับคำอวยพรและคำยินดีจากหนุ่มตี๋อารมณ์ดี  ผมที่ถูกดึงเข้าไปร่วมในคำอวยพรของธีก็อดจะกระดากอายไม่ได้  ยิ่งเจอสายตาพราวระยับของคนที่นั่งตรงข้ามยิ่งแล้วใหญ่  ให้ผมต้องหลบตาพัลวันหน้าแทบไหม้กับสายตาล้อเลียนของเพื่อนๆรอบตัว 

พวกเรากลับมาที่งานและนั่งโต๊ะร่วมกัน  แขกในงานกลับกันไปมากแล้วเหลือแต่ญาติสนิทของมายไม่กี่คน  และที่นั่งกันอยู่นี้ก็เหลือแค่ไม่กี่โต๊ะแล้ว  บนโต๊ะมีอาหารว่างเอาไว้ทานเล่นพร้อมเครื่องดื่มซึ่งแม้พวกเราจะกินเท่าไหร่ก็คงไม่เป็นปัญหาเพราะไร้แอลกอฮอล์ทั้งสิ้น 

“นี่นายวินอย่าว่าเราทำให้เสียบรรยากาศเลยนะ  แต่ขอถามหน่อยเถอะก่อนที่นายจะกลับมายุ่งกับกัสอีกน่ะ” อยู่ๆมิคที่นั่งข้างผมก็โพล่งออกมาและจากประโยคคำถามก็ทำผมสงสัยไม่ได้ว่ามิคจะถามอะไร  วินเหลือบมองผมและส่งยิ้มให้กำลังใจมาให้  และเบือนหน้าไปทางคนถามก่อนเอ่ยปาก

“เรื่องอะไรครับมิคถามได้เลย”

“เรื่องยัยแนทผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นน่ะ  ยัยนั่นวางแผนยังไงแล้วนายจัดการอะไรกับยัยนั่นบ้าง”

คำถามที่เพื่อนสนิทผมถามทำเอาบรรยากาศเฮฮาเมื่อครู่เงียบลง  มันเป็นคำถามที่ผมก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน  ผมจึงสบตากับวินเพื่อรอฟังคำตอบที่จะออกมาจากปากอย่างรอคอย  เพราะถึงผมจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของแนทแต่เหตุการณ์ตอนนั้นที่เกิดมันลงล็อคไปหมดทำเอาผมเชื่อสนิทใจและไม่คิดจะฟังคำจากคนรัก

“แนทเป็นคนวางยาในเหล้าตอนที่วินไปที่ผับในคืนนั้นอาศัยจังหวะที่วินกับฟินลุกออกจากโต๊ะ  มีภาพจากกล้องวงจรปิดในผับยืนยันได้  และคืนนั้นแนทเป็นคนขับรถวินไปที่ห้อง  วินมามีสติเต็มที่ตอนที่กัสมาเจอ” วินหยุดเล่าและจับจ้องมาทางผมอย่างสังเกตคงกลัวว่าผมจะคิดมาก

“ยัยแนทโทรมานัดกัสออกไปและเอารูปของนายกับยัยนั่นตอนสวีทกันมาโชว์  และมีต่างหูข้างนั้นที่เหมือนกับที่นายให้กัสด้วยมันมายังไง” มิคยังคงซักถึงสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“วินไม่เห็นรูปพวกนั้นที่กัสได้เห็นนะครับมิค  แต่วินยืนยันว่าไม่เคยใกล้ชิดกับแนทเกินเพื่อนจริงๆ” แม้วินจะตอบมิคแต่สายตาจริงจังกลับถูกส่งมาให้ผมแทน

“อืม  ประเด็นนี้พวกเรายืนยันได้ / ใช่  ไอ้วินไม่เคยกิ๊กกับแนทจริงๆ / รูปแอบถ่ายสร้างขึ้นได้ให้ดูเหมือนทั้ง 2 คนใกล้ชิดเกินเพื่อนได้นะ” คำถามที่มิคถามเป็นสิ่งที่ผมรู้จากวินแล้วและพอมีเพื่อนๆของวินยืนยันยิ่งทำให้ผมมั่นใจในตัววินมากขึ้น

“ส่วนเรื่องต่างหูแนทคงไปจ้างทำที่ร้านเดียวกับวิน  เพราะร้านนั้นเป็นร้านที่แนทแนะนำให้ครับ” วินคลี่ยิ้มส่งให้ผมเมื่อเห็นว่าผมจ้องวินตาแป๋วอยู่  จนผมต้องเสหลบตามามองมิคที่นั่งข้างๆแทน

“ยัยนี้มันร้ายมากโดนไปแค่นั้นมันยังน้อยไป  มันน่านักกูเตือนพวกมึงแล้ว  เฮ้อ” มนพูดเสียงเครียดใส่หน้าวินและไล่สายตาไปที่เพื่อนสนิทรายคน  ผมจึงได้รู้ว่ามนคงไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นมาแต่แรก  และเคยเตือนเพื่อนตัวเองไว้แล้วด้วยแต่ไม่มีใครคิดระวังตัว

“แหม  มนครับ  แค่นั้นก็ไม่น้อยนะนั่น  และต่อไปถ้ามนเตือนอะไร  ธีเชื่อว่าคราวนี้ทุกคนเชื่อแน่ๆ”

“เออ  ทำให้ได้ยังที่พูดนะพวกมึง”

“ฮ่าๆๆๆ / ฮิๆๆๆ” มิคคงพอใจในคำตอบของวินเพราะไม่ได้เอ่ยถามต่อ  แถมยังหัวเราะคิกคักตามบทสนทนาหยอกล้อของเพื่อนๆวินอีกด้วย  จึงทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง

“ที่ว่าจัดการยัยแนทนั่นไปไม่น้อยคืออะไรล่ะ” มิคคงยังติดใจเรื่องผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นว่าโดนจัดการอะไรไปบ้างจึงเอ่ยถามออกมาและมันก็ตรงใจผมด้วย

“เรื่องนี้ให้คนจัดการเค้าเล่าเองดีกว่านะครับ  เชิญครับมน” ฟินเอ่ยกระเซ้าเพื่อนสาวเท่จึงได้รับค้อนวงโตอันเป็นกิริยาที่ยากจะได้เห็นจากมน  และผมก็อดจะอมยิ้มไม่ได้ก่อนเหลือบตาไปทางวินแบบไม่ตั้งใจ  นายนี่ก็ขยันส่งตาหวานมาให้อยู่ได้  แล้วทำไมผมต้องเขินกับสายตาคู่นี้ทุกทีด้วยนะ

“มนไม่เคยถูกชะตากับแนทเลยตั้งแต่เจอครั้งแรกๆแล้ว  เตือนไอ้พวกนี้ก็ไม่เคยเชื่อ  แล้วเป็นไงก่อเรื่องจนได้  เฮ้อ  ไอ้ที่ทำไปก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมายหรอก  เพราะถ้าปล่อยไอ้วินไปจัดการเองในตอนนั้นยัยนั่นคงโดนหนักกว่านี้  คนอื่นก็จะว่ามันได้ว่ารังแกผู้หญิงเพราะงั้นมนจึงต้องลงมือเอง  ก็แค่ไปขู่นิดหน่อยให้สารภาพทั้งหมดที่ไปมอมยาไอ้วินไว้  พร้อมถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน” มนกอดอกนั่งหลังพิงพนักด้วยท่วงท่าสบายๆและเล่าไปเรื่อยๆ  ในสายตาของผมมนเป็นสาวเท่ที่มีเสน่ห์มากเลยครับ

“ที่ว่าขู่นี่มนคงไม่ได้ทำร้ายร่างกายแนทไปใช่มั้ยจ๊ะ” มายตาโตแววตาตกใจปิดไม่มิดคงเพราะจินตนาการไปไกลแล้วแน่ๆ

“ไม่หรอกค่ะหมอมาย  ก็แค่เอาคลิปที่ยัยนั่นกำลังมีอะไรกับผู้ชายไปขู่  ถ้าไม่บอกมนก็จะเอาไปปล่อยน่ะ  คลิปพวกนั้นได้มาจากคู่นอนยัยนั่นที่เป็นลูกของเพื่อนพ่อของมนเอง”

“โฮ้  สุดยอด” ได้ยินคำตอบของมนทำเอาผมและเพื่อนๆอึ้ง  และแอบเกรงในความฉลาดของสาวเท่คนนี้ไม่ได้

“นายวินนายนี่โชคดีที่มีเพื่อนแบบนี้นะ” มิคเอ่ยชื่นชมวินที่มีเพื่อนๆคอยช่วยและหวังดีกับวินอยู่ข้างๆ 

ผมก็คิดไม่ต่างกันจึงส่งยิ้มให้กับเพื่อนทุกคนของวิน  ผมนับถือน้ำใจคนพวกนี้มากเลยที่ไม่ทิ้งเพื่อนยามเพื่อนเดือดร้อน  จนผมได้สบตาหวานคู่เดิมที่ไม่เคยละไปจากใบหน้าผมเลย  ก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆให้เจ้าของได้ชื่นใจบ้าง  ทันได้เห็นวินยิ้มค้างตาโตจ้องผมเขม็งจนต้องกลั้นขำกับท่าทางตลกๆของวิน  หลังจากนั้นเราก็เลิกสนใจเรื่องของเหตุการณ์วันนั้น  ส่วนผมเองก็ขอลืมอดีตที่ทำให้ผมและวินเจ็บปวดไปให้หมด  ด้วยตอนนี้ผมเชื่อว่าวินพร้อมที่จะกลับมาอยู่เคียงข้างกันแล้ว  และก่อนที่วินจะกลับบ้านได้ทิ้งประโยคหนึ่งไว้พร้อมความอุ่นวาบที่แก้มทำเอาผมนอนไม่หลับเหมือนกับคืนแรกที่ได้เจอวิน

“วินสัญญาว่าจะไม่ปล่อยกัสห่างสายตาวินอีกเลยครับ”

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

เอาล่ะสิงานนี้ในเมื่อนายวินมุ่งมั่นซะขนาดนั้น(มีสัญญาด้วย)
ไม่ให้กัสห่างสายตา  เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นไปตามนั้น  :laugh:
ความหวานได้มาเยืยนคุณแล้วค่ะ

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ  :pig4: และ  :กอด1: รวบทุกการสนับสนุนค่ะ

ปล.วันนี้เดินทางท่องเที่ยวไม่รู้พรุ่งนี้จะอัพได้มั้ย ถ้าเอื้ออำนวยไม่พลาดจะลงให้ค่ะ  :3123:

ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ ติดตามหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0


เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ู^-^ ในที่สุดก็กลับมาแฮปปี้เหมือนเดิมแล้ว
หวังว่าจะไม่มีอะไรมาำให้คู่นี้แตกกันอีก สนุกมากๆ
มนเท่ขาดใจไปเลย เฉียบขาดมากขอบอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2012 06:16:16 โดย 111223 »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ทำให้ได้ตามสัญญาด้วยนะวิน

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด