(๑)
“โธ่โว้ย!!!!”เสียงสบถดังลั่นไปทั่วทั้งอาคารจนทุกคนที่ได้ยินต้องสะดุ้งตัวขึ้นด้วยความตกใจ น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ดีเหลือเกินว่าคนที่พูดกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ฉุนเฉียวจนกระทั้งไม่สนใจด้วยซ้ำว่าสถานที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องการความสงบเนื่องจากเป็นที่ที่ให้ผู้ป่วยพักผ่อน...โรงพยาบาล
ภิ...ชายหนุ่มร่างสูงสมส่วนหน้าคมเข้มเป็นคนเอ่ยเสียงดังอย่างไม่เกรงใจคนอื่น หลังจากที่งานแต่งพังไม่เป็นท่าเพราะอดีตเพื่อนสนิท คนรักยังต้องมาเป็นลมจนต้องห่ามส่งโรงพยาบาล แต่ที่ทำให้ภิต้องหัวเสียก็เพราะญาติผู้ใหญ่ของคนรักไม่ยอมให้เจ้าตัวเข้าไปเยี่ยมคนไข้
แม้จะอ้อนวอน...แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นครอบครัวที่ถือหน้าถือตาเป็นอย่างยิ่ง...คงยากที่จะยอมอภัยให้กับผู้ชายที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาเสียชื่อเสียง
ถึงยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เถอะ
ภิเดินออกมาด้วยความรู้สึกโกรธอย่างบอกไม่ถูก โกรธมากที่สุดเท่าที่จะเคยโกรธได้ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนค่ำแล้วเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ไอซ์...เพื่อนรักแถมยังเป็นเพื่อนเก่าแก่ของภิเข้ามาประกาศก้าวถึงความเป็นเจ้าของในตัวเขากลางงานแต่ง จนทำให้ต้องยกเลิกงานแต่งรวมถึงงานจดทะเบียนสมรสในวันพรุ่งนี้ นี่ยังไม่รวมข่าวที่คงลงเป็นหน้าหนึ่งให้ได้เป็น Talk Of The Town แน่ๆ
แต่ตัวเขาเองก็พลาดที่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก กว่าจะรู้ตัวอีกที..ก็เห็นร่างของแหวน...คนรักของภิถูกอุ้มออกไปนอกงาน พอเห็นแบบนั้นก็เลยตามมาที่โรงพยาบาลเพราะนึกเป็นห่วงคนรัก แต่สุดท้ายก็ต้องอารมณ์เสียจากคำพูดของผู้ใหญ่ฝ่ายของแหวนที่พูดจาว่ากล่าวทั้งๆที่มันไม่เป็นความจริง
ภิกับไอซ์...ไม่ใช่คนรัก ไม่เคยเป็น และไม่มีทางเป็นไปได้
“เป็นอะไรไปล่ะภิ”เสียงเย็นจากผู้ชายที่พึ่งทำลายชีวิตแต่งงานของภิดังขึ้นจากทางระเบียงทางเดินของโรงพยาบาล ภิหันไปมองก็เจอเพื่อนรักของเขาทั้งสองคน...เอ็กส์และไอซ์
“...ทำไมมึงทำแบบนี้?”ถามเพราะไม่เข้าใจ...สงสัย...และเสียใจ
ไอซ์เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน ตั้งแต่จำความได้ก็มีกันอยู่สามคน ถ้าเปรียบเป็นความสัมพันธ์ก็คงเหมือนพี่น้อง มีเอ็กส์เป็นพี่ใหญ่เพราะเมื่อเวลาสำคัญจริงๆเอ็กส์ดูจะมีสติมากที่สุด ส่วนภิเป็นคนกลางเพราะต้องยกตำแหน่งน้องคนเล็กให้ไอซ์
เพราะด้วยรูปร่างที่ไม่ถึงกับตัวเล็กแต่ไอซ์เป็นคนผอมบางถึงจะสูงแต่เมื่อเทียบกับภิและเอ็กส์ก็ยังดูเตี้ยอยู่ดี บวกกับใบหน้าที่อ่อนวัยมาตั้งแต่เด็ก...กระทั้งตอนนี้ก็ยังดูไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
“ทำแบบไหน?”คนไม่รู้ร้อนรู้หนาวถามกลับพลางวางหนังสือนิตยสารที่หยิบมาติดมือเล่นๆลงข้างๆตัว ก่อนจะหันไปสนใจคนพูดด้วยเต็มที่
“ที่เราจูบภิกลางแต่งหรือที่บอกว่าภิเป็นของเราล่ะ?”
“ไอซ์!!!”เป็นอีกครั้งที่ตวาดอย่างไม่เกรงใจสถานที่ หากแต่คราวนี้ดังกว่าเดิมเพราะเอ็กส์เองก็เผลอตวาดเรียกแบบเดียวกับภิ โชคดีที่ตรงนี้คนไม่มีเพราะดึกแล้วแต่พยาบาลก็อดไม่ได้ที่จะออกมาตักเตือน
“เราเหนื่อย ไปส่งเราที่โรงแรมหน่อยซิ เอ็กส์ด้วยนะ วันนี้ค้างกับเราทั้งสองคนเลย ไม่เจอกันตั้งนานไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง?”ยักไหล่ใส่คนที่ทำตาขมึงโกรธ ก่อนจะเอ่ยปากบอกเรียบๆ เอ็กส์ส่ายหน้าหน่อยๆกับนิสัยแบบนี้ของไอซ์ ถึงอยากจะถามเหตุผลที่ไอซ์ทำลงไปทั้งหมด แต่คงต้องเก็บไว้ก่อน เพราะถึงถามไปไอซ์คงไม่ตามตอบแน่ๆ
แต่กับภิที่ยังมีความโกรธบังตา ดูเหมือนว่าคำพูดของไอซ์จะไม่ได้เข้าหูเลยแม้แต่น้อย ดวงตาที่ส่งผ่านความเจ็บปวดมองไปยังร่างบางที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรู้จักดี
แต่...ตอนนี้เหมือนกับคนคนนี้เป็นคนแปลกหน้าที่เข้ามาทำลายชีวิตของเขาเท่านั้น
“กูถาม!! ทำไมไม่ตอบ!!”เสียงของภิก็คงจะไปไม่ถึงไอซ์เหมือนกัน ดูเหมือนคนที่ถูกตวาดจะปิดกั้นไม่ยอมฟัง ลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าชุดหรูก่อนจะเดินออกไปแบบไม่สนใจคนที่มองอยู่ซักนิด
“เอ็กส์ ไปส่งเราหน่อย”
“เออๆ...ไอ้ภิ ใจเย็นก่อนนะมึง เดี๋ยวกูลองคุยกับไอ้ไอซ์ให้”เอ็กส์ตบบ่าเพื่อนไปสองทีก่อนจะเดินตามไอซ์ที่นำหน้าไปก่อน เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกับภิเท่าไร...ช่วงเวลาห้าปีหกปีที่ไม่เจอกันดูเหมือนไอซ์จะเปลี่ยนไป
แม้หน้าตา...คำพูดคำจา...ความเอาแต่ใจจะเหมือนเดิม...แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือท่าทางเย่อหยิ่ง ดูไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งสิ้นทำให้ไอซ์ดูเป็นคนน่ากลัว...แม้กระทั้งดวงตาที่เคยอ่อนโยน แต่ตอนนี้กลับแข็งกร้าว...
“ไอซ์ รอด้วยเว้ย”เรียกตามเพื่อนตัวเล็กเพราะเหมือนว่าเพื่อนเขาจะรีบเดินไปเสียจริง ขนาดว่าช่วงตัวช่วงขายาวกว่ายังเดินตามไม่ทัน...โชคดีที่จู่ๆไอซ์ก็หยุดเดินแบบกระทันหัน...เพราะชายหญิงมีอายุตรงหน้า
“คุณพ่อ...คุณแม่...สวัสดีครับ”ไอซ์หยุดไหว้กับผู้ที่มาใหม่ เอ็กที่พึ่งเดินตามมาสมทบก็ไหว้ทักทายอีกครั้งกับชายหญิงที่ดูหน้าตาใจดีตรงหน้า หากแต่ทั้งคู่ยังคงมีความกังวลที่ฉายชัดออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่
“หนูไอซ์ ตาเอ็กส์...เจ้าภิเป็นอย่างไรบ้างล่ะนี่”คุณจงกลนีเอ่ยถามถึงลูกชายด้วยเสียงสั่น ทั้งเธอและคุณพัฒน์สามีรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อรู้ทั้งสองคนก็โกรธจนเป็นฝืนเป็นไฟ แต่พอรู้ว่าผู้ชายที่มาทำงานล้มเป็นไอซ์...เพื่อนเก่าของลูกชายก็ไม่เหลือความโกรธใดๆ จะเหลือก็แต่ความสงสัยและไม่เข้าใจเท่านั้น
เพราะไอซ์ในสายตาของท่านทั้งสองคนเป็นเด็กดี...ดีจริงๆ
“อยู่ข้างในครับคุณแม่ ไอซ์กับเอ็กส์พึ่งแยกกับมาเมื่อครู่นี่เอง”
“เหรอ...”
“ครับ...คุณแม่กับคุณพ่อมีเรื่องจะคุยกับไอซ์ใช่มั้ย?”ทั้งสองสะดุ้งเล็กน้อยกับท่าทางแข็งกร้าวของคนตรงหน้า ไม่คิดว่าไอซ์จะพูดจาตรงๆได้แบบนี้
“เอ่อ...”
“เอ็กส์...เราขอคุยกับคุณพ่อคุณแม่หน่อยนะ”หันมาบอกเพื่อนที่อยู่ข้างๆ เอ็กส์จำใจพยักหน้าแล้วเดินเลี่ยงออกไป ปล่อยให้เป็นไปตามที่เพื่อนต้องการ
แต่...ถ้าเขายังไม่ได้ความจำเสื่อม...เหมือนว่า เขาเห็นคนที่คุยกับพ่อและแม่ของเพื่อนอีกคน...เป็น...ไอซ์เมื่ออดีต
.....
.....
ก๊อก!!! ก๊อก!!! ก๊อก!!!
เสียงเคาะประตูดังสนั่นเรียกความสนใจจากคนที่นั่งเหม่อมองรายการโทรทัศน์ให้หันไปมองที่ประตูของโรงแรม รอยยิ้มจางๆผุดขึ้นมาที่มุมปากอย่างนึกขำ
มีกริ่งแต่ดันเคาะประตูแถมยังเคาะซะแรงจนรู้เลยว่าคนที่มาต้องมาร้ายแน่ๆ แต่ถึงรู้แบบนั้นปากบางก็หยุดยิ้มไม่ได้ ไม่ได้สนใจไปเปิดประตู นั่งมองและนับเวลาในใจว่าเมื่อไรคนที่ร้อนใจจะเคาะอีกครั้งหนึ่ง
ก๊อก!!! ก๊อก!!! ก๊อก!!!
ภิเคาะดังจนรู้สึกเจ็บ แต่นาทีนี้เขาคงไม่สนความเจ็บเพราะในหัวมีแต่คำถามที่ต้องการคำตอบให้เร็วที่สุด แค่การปรากฏตัวของเพื่อนรักของเขาก็ทำให้งงงวยมากพออยู่แล้ว เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมาพ่อและแม่ของภิยังเดินเข้ามาพูดคุยและบอกว่าอย่าโกรธไอ้ตัวต้นเหตุเลย
แต่พอถามกลับหาเหตุผลท่านทั้งสองก็ไม่ยอมพูดยอมจา ทำให้ภิเองเกิดความไม่เข้าใจ...ทั้งๆที่สมควรโกรธ แต่ทำไมถึงขอร้องให้อย่าโกรธ...ขนาดไอ้คนต้นเหตุมันยังไม่มาขอร้อง...ทำไมพ่อกับแม่เขาต้องมาขอร้อง...ทำไม??
“ไอ้ไอซ์เปิดเดี๋ยวนี้นะโว้ย!!”ไม่ทันได้เคาะอีกรอบประตูก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างในชุดคลุมอาบน้ำยืนมองคนที่มาเคาะประตูด้วยสีหน้ายิ้ม
“เรานึกว่าภิจะไม่มาซะอีก เราเลยไล่เอ็กส์กลับไปแล้วล่ะ”พูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ภิเดินตามเข้ามาภายในห้องพักของโรงแรม เห็นรายการทีวีของช่องต่างประเทศถูกเปิดค้างไว้อยู่ทำให้รู้ว่าคนๆนี้ยังไม่ได้นอนหลับ
ถึงจะไม่เจอกันมาหลายปี แต่ภิก็รู้ดีว่าไอซ์เป็นพวกต้องนอนในที่ที่มืดสนิทเท่านั้น
“ห้องแคบนะ มีอะไรหรือเปล่า?”ไอซ์เดินไปนั่งอยู่ปลายเตียงก่อนจะยกยิ้มแล้วถามเรียบๆ
“อธิบายมาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ!!”เสียงเข้มร้องบอกความต้องการ หากเป็นคนอื่นคงต้องตกใจแต่ไม่ใช่กับร่างบางตอนนี้
“อืม...ถ้าเราอธิบายแล้วเราจะได้อะไรล่ะ?”
“ไอซ์!! อย่ากวนตีนได้มั้ยว่ะ!!”เพราะตอนนี้ความอดทนของภิมีจำกัด ยิ่งเห็นท่าทีมีความสุขมากเหลือเกินของไอซ์ยิ่งรู้สึกโกรธจนอยากเข้าไปบีบคอให้หน้ายิ้มๆนั้นบูดเบี้ยวซะให้ได้
“เฮ้อ!! ภินี่เข้าใจอะไรยากเนอะ...เราก็แค่รักภิ ไม่อยากให้ภิเป็นของใคร ก็แค่นั้น”ยักไหล่ไม่สนใจ ก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว้แล้วกดรีโมทฯเปลี่ยนช่องเป็นช่องข่าวตอนเช้าแทน
“อ่า...ข่าวอัพเดตมากอ่ะภิดูดิ ข่าวของเรา”เสียงใสร้องบอกทำให้ภิหันไปดู
ภาพข่าวที่ออกเป็นแค่ภาพนิ่งและโชคดีที่ไม่ใช่ภาพตอนที่ไอซ์กำลังจูบกับเขา แต่แค่เนื้อหาข่าวก็คงทำให้ชื่อเสียงรวมทั้งชีวิตรักของเขาพังลงไปไม่เป็นท่า
ภิทรุดตัวลงกับปลายเตียง มือหนากุมหน้าคมเข้มไว้อย่างอ่อนแรงปากก็พร่ำแต่ถามว่าทำไม...ทำไม แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรจากร่างบางที่อยู่ใกล้ๆกัน
“ตอบมาซิไอซ์...ทำไมต้องทำแบบนี้กับกู...เกลียดกูมากนักหรือไง”
“โอ้ย!! ทำไมภิเป็นคนเข้าใจอะไรยากจริง เราบอกว่าเพราะเรารักภิ!! เรารักภิได้ยินมั้ย!! ไม่รู้อะไรก็ห้ามพูดว่าเราเกลียดภิ!! เราไม่ชอบ!! ที่ทำไปก็เพราะว่าเรารักภิ ไม่อยากให้เป็นของใคร ภิต้องเป็นของเรา!! จนกว่าเราจะตาย เราไม่ยอมให้ภิเป็นของใครหรอก!!”
“ไม่เข้าใจ...”เสียงพูดอ่อยๆจากคนที่หมดอาลัยตายอยาก มองไปที่เพื่อนเก่าที่พร่ำบอกรักยิ่งรู้สึกไม่ดี...
คนตรงหน้าไม่ใช่ไอซ์เพื่อนรักของเขา...ไม่ใช่ไอ้ไอซ์ที่เขาคอยดูแลเหมือนเป็นน้องแท้ๆ...แต่กลับเป็นใครไม่รู้ที่บอกรักกันแบบหน้าด้านๆ...หนำซ้ำยังเข้ามาทำชีวิตเขาพังซะไม่เหลือชิ้นดี
“มึงจะกลับมาทำไมไอซ์...ถ้ามึงมาแล้วทุกอย่างมันเหี้ยแบบนี้...มึงอย่ากลับมาซะดีกว่า”ไอซ์ชะงักไปพักหนึ่งหลังจากที่ได้ยินคำพูดของภิ...ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางโทรทัศน์เพื่อปิดบังเสี้ยวใบหน้าของความเสียใจเอาไว้
“ฮึ...ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำแบบนี้...แต่เราไม่ยอมปล่อยภิไปหรอกนะ เพราะเรารักภิ...จำไว้แค่เรารักภิก็พอ”เสียงเล็กของไอซ์สั่นอย่างเห็นได้ชัด หากแต่คู่สนทนาตอนนี้ไม่ได้สนใจจะฟัง ทำให้ไม่รับรู้ถึงเสียงที่สั่นไหว
เสียง...ที่กำลังร้องไห้
ฮ่าฮ่า ขอบคุณที่อ่านและเม้นครับผม
บวกเป็ดให้ทุ๊กคนเล๊ยยยยย