จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END  (อ่าน 172314 ครั้ง)

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
อบอุ่นมากๆเลย   >//<

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:z1:อิอิสงสัยตาหวานอยากได้พ่ออะ


เห็นที่ปามเสร็จแน่ๆๆอิอิ :impress2:  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4

ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0
ตอนที่ 5

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก ตาหวานแข็งแรงดี แต่อาจจะฝันร้าย”

ตอนเช้าเอก็มาตรวจร่างกายตาหวานอีกครั้งก่อนจะย้ำว่าเด็กชายปกติดีทำให้วสุธากับปารมีโล่งใจจริงๆได้

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

ตาหวานยกมือขึ้นไขว่คว้าหาของเล่นที่แขวนอยู่เหนือเปลตนเอง พลางส่งเสียงอย่างร่าเริงแจ่มใสราวกับอาการร้องไห้ไม่หยุดเมื่อคืนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น

“ขอบคุณพี่เอมากนะครับที่มาช่วยดูอาการให้”

ปารมีเอ่ยขอบคุณ ก่อนหน้านี้คุณหมอเอจัดแจงอบรมปารมีหนึ่งยกเพื่อให้เลิกเรียกตัวเองว่าคุณหมอ และอัพเกรดให้นับเป็นญาติผู้พี่ ปารมีเองแม้จะคิดว่าตัวเองเรียกอย่างนั้นอาจจะไม่เหมาะ แต่ว่าพอคุณหมอยืนยันเสียงหนักแน่น ประกอบกับวสุธาพยักหน้ายิ้มๆให้ตอบรับ เลยได้เรียกคุณหมอว่าพี่เอ แม้ว่าคุณหมอจะยังเรียกปารมีว่าคุณปามเหมือนเดิมก็ตาม

ทุกอย่างปกติได้อยู่สองวันก่อนจะมีจดหมายมาถึงปารมี

ที่จริงจดหมายส่งไปที่ห้องพักเก่าของเขา แต่ตอนที่ย้ายออกมาปารมีได้ให้ที่อยู่ทางนี้ไว้และขอร้องว่าหากมีการติดต่อใดๆกลับมาให้ช่วยแจ้ง จดหมายจึงได้มาถึงมือปารมี

“ปามลูกรัก

เมื่อลูกอ่านจดหมายฉบับนี้แม่คงไม่อยู่แล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแล้วแม่เห็นว่าลูกสบายดีและสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ รู้ไหมว่าแม่ดีใจและภูมิใจมาก แม้นั่นจะยิ่งย้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่แย่มากแค่ไหนก็ตาม

ตอนที่แม่ไปหาลูก แม่รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าคงมีชิวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เด็กคนนั้นต้องมีคนดูแลและแม่มองไม่เห็นใครนอกจากลูก แม่รู้ว่าผิดที่ไม่เคยดูแลลูกแล้วยังผลักภาระไปให้ลูกดูแลเด็กอีก ลูกคงต้องลำบากมาก แต่แม่มองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ ถึงอย่างไรเด็กคนนั้นก็เป็นหลาน เป็นลูกของพี่สาวของลูก

ลูกคงแปลกใจที่แม่บอกว่าเป็นลูกสาวของพี่สาวของลูกแทนที่จะเป็นลูกของแม่ ใช่ แม่โกหก โกหกด้วยคิดดูถูกน้ำใจลูกไป กลัวลูกจะไม่พอใจที่แม่หอบเอาลูกของพี่สาวกลับมาให้ลูกเลี้ยง แต่เมื่อแม่มานั่งคิดดูแล้ว แม่ก็คิดว่าไม่ควรโกหกลูกต่อไป เพราะไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นน้องหรือหลานแม่ก็รู้ว่าลูกต้องดูแลเขาอย่างดีแน่ๆ

เรื่องพี่สาวของลูก เขาเจออุบัติเหตุหลังจากที่คลอดเด็กคนนั้นได้ไม่นานยังไม่ทันที่จะนำส่งโรงพยาบาลเขาก็จากไป แม่เองก็ป่วย แม่จึงทิ้งเด็กคนนั้นเอาไว้กับลูก
      
แม่ขอโทษในเรื่องที่ผ่านมา
      
ขอโทษที่เคยทอดทิ้ง

      ขอโทษที่ไม่เคยเอาใจใส่ดูแล

      ขอโทษที่หักหลังลูกซ้ำแล้วซ้ำอีก

      ขอโทษที่ไม่ได้บอกอะไรลูกก่อนหน้านี้

   และแม่อยากบอกลูกที่สุดว่าช่วงเวลาที่ได้กลับไปอยู่กับลูกหนึ่งอาทิตย์นั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของแม่

      แม่อยากบอกสิ่งที่ไม่เคยบอก แม่รักลูกนะ และหวังว่าลูกจะรักแม่เช่นเดียวกัน

   เงินของลูกที่แม่เอามา แม่เอาไปทำบุญให้พี่สาวลูกส่วนหนึ่ง ถือว่าทำบุญร่วมกันสามคน หากเกิดใหม่ได้แม่ก็ขอให้เราได้มาเจอกันอีก และหวังว่าแม่จะได้ทำอะไรเพื่อลูกบ้าง อีกส่วนแม่กันไว้สำหรับจัดการหลังจากแม่จากไป ถือว่าลูกทำให้แม่แล้ว ไม่ต้องคิดมากอีก

                           รัก

                           แม่”


ปารมีนั่งกำจดหมายแน่น รำลึกถึงตอนที่แม่มาอยู่ด้วยแล้วก็อยากจะด่าตัวเองแรงๆซักที ทำไมไม่เคยสังเกต ปารมีรู้สึกได้ว่าแม่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงคิดว่าแม่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน ทำไมปารมีไม่เห็นนะว่าแม่ผอมลงแค่ไหน

ปารมีไม่กล่าวโทษเลยสักนิดที่แม่โกหกตนเรื่องตาหวาน เพราะตนเองกับพี่สาวไม่ได้สนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร แล้วเวลาพูดกันก็ไม่ค่อยจะออกมาในแง่ดีเท่าไหร่ ปารมียอมรับว่าเคยอิจฉาพี่สาวบ่อยๆที่ได้รับความรักจากแม่มากกว่า ในขณะที่พี่สาวเองก็แสดงออกชัดเจนว่าอิจฉาที่ปารมีมีพ่อจริงๆ ทั้งตัวเองและพี่สาวต่างก็แรงใส่กันเพราะยังเป็นเด็กด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อพ่อเสียปารมีก็เงียบลงไปเยอะ พี่สาวเองก็ไม่คอยหาเรื่องอย่างที่เคย แล้วไม่นานพี่สาวก็ออกจากบ้านไป

ปารมีเข้าใจว่าพี่สาวหนีไปอยู่กับแฟนที่เคยเห็นมาส่งพี่สาวบ่อยๆ แต่เพราะที่บ้านของผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับเนื่องจากฐานะทางบ้านที่ต่างกัน พอจบม.6ทั้งสองคนจึงหนีตามกันไป แล้วหลังจากนั้นปารมีก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวบ้าง แต่ดูเหมือนแม่จะรู้เรื่องทั้งหมดโดยตลอด

“ปารมี คุณเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”

เสียงวสุธาที่ดังขึ้นไม่ได้ดึงความสนใจของปารมีไปได้แต่อย่างใด

วสุธากำลังทำงานอยู่ตอนที่แม่บ้านโทรไปบอกว่าอยู่ดีๆปารมีก็ร้องไห้ เขาจึงรีบออกมาจากที่ทำงานทันทีเพราะกลัวว่าตาหวานจะเป็นอะไรอีก

“ปารมี ปารมี...ปาม โธ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณเป็นอะไร”

วสุธาเริ่มร้อนใจ เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้เงียบๆ

“ปาม อย่าเอาแต่ร้องแบบนี้สิ ทำไมไม่พูดอะไร”

ร่างสูงดึงร่างที่สั่นเทาเข้าหาตัว โอบกอดปลอบโยนเบาๆ ปารมียกมือขึ้นกำเสื้อเชิตของอีกฝ่ายไว้แน่นในขณะที่ตัวเองยังร้องไห้

อย่างน้อยๆก็ยังมีท่าทีตอบสนอง วสุธาคิดอย่างนั้นพลางโอบกระชับร่างบางให้แน่นมากยิ่งขึ้น

ถ้าอยากจะร้องก็จะปล่อยให้ร้องจนกว่าจะพอใจ แล้วจากนั้นค่อยถามว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น

.................

“คุณวสุธา แม่น่ะแม่ผมเขา....”

ปารมีหยุดร้องไห้แล้วแต่ยังคงสะอื้นบ้าง พูดออกมาได้ไม่หมดก็ทำท่าจะปล่อยโฮอีกรอบจึงเปลี่ยนเป็นยื่นจดหมายให้วสุธาดูแทน

ร่างสูงอ่านจดหมายจบแล้วเหลือบสายตาขึ้นมองปารมีอย่างเห็นใจ เท่าที่สืบเรื่องราวของปารมีก่อนหน้านี้ วสุธาก็พอรู้ว่าแม่ของปารมีนั้นไม่ใช่แม่ที่ดีนัก แต่จากประวัติที่ปารมีปล่อยให้แม่กลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็พอจะบอกได้แล้วว่าปารมีนั้นรักแม่ของตนมากเพียงใด

“คุณบอกว่าตาหวานเป็นลูกของคุณนิ่ แล้วในใบสูติบัตรของตาหวานก็มีชื่อคุณเป็นพ่อแต่ไม่มีชื่อแม่ไม่ใช่หรือ”

ปารมีพยักหน้าก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้วสุธาฟังคร่าวๆ ตอนนี้ปารมีคิดอะไรไม่ออกและต้องการที่พึ่ง แล้ววสุธาก็เข้ามาปลอบโยน พร้อมจะช่วยเหลือ ปารมีมองไม่เห็นใครอื่นอีก และที่ปารมีไม่รู้ตัวก็คือ เขาคิดว่าวสุธาไว้ใจได้จึงออกปากเล่าถึงเรื่องทั้งหมด

“ผมจะให้คนไปสืบดูเรื่องของแม่คุณให้”

จดหมายไม่ได้เขียนที่อยู่สำหรับติดต่อกลับ แต่ยังมีตราประทับของจังหวัดเชียงใหม่ คงอยู่ในสถานพยาบาลสักที่วสุธาแน่ใจ

“ตอนนี้พยายามทำใจให้สงบก่อนนะ คุณก็รู้ว่าเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเกิดคุณท้อแท้หมดกำลังใจ แล้วตาหวานจะอยู่ยังไง คุณอย่าลืม”

ปารมีมองเด็กชายที่ยังนอนหลับสนิทบนเบาะนอนก็พยักหน้า วสุธาพูดถูก ปารมีไม่ใช่ไม่เหลือใครแต่ยังมีตาหวานให้ต้องดูแล ตาหวานเองก็มีเพียงปารมีเท่านั้น

“ปารมี”

เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาพร้อมมือหนาเข้าเกาะกุมมือของปารมีไว้แน่น แน่นแต่ไม่ทำให้เจ็บ

“คุณยังมีผม ยังมีเด็กๆอีกสามคน และทุกคนที่นี่ อย่าคิดว่าตัวเองไม่เหลือใครอีกแล้ว”

“คุณ....”

ปารมีช้อนสายตาขึ้นมองสบกับดวงตาคมกล้านั้น อยากจะพูดอะไรบ้าง อยากขอบคุณ อยากบอกเหลือเกินว่าปารมีซาบซึ้งและอบอุ่นใจแค่ไหนที่วสุธามานั่งอยู่ข้างกันตอนนี้ แต่มันพูดไม่ออก ที่ทำได้ก็มีเพียงกุมมืออีกฝ่ายกลับไปเท่านั้น ทั้งสองคนนั่งกุมมือกันไปเงียบๆ ไม่มีถ้อยคำหรือคำพูดอะไร แต่ทั้งคู่ก็เข้าใจ

วสุธายังไม่เข้าใจตัวเองดีว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกับปารมีนั้นเป็นรูปแบบไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรวสุธาก็จะไม่ปล่อยมือนี้ เช่นเดียวกับปารมีที่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่ก็มั่นใจว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ไล่หรืออยากให้ปารมีเป็นฝ่ายไป ปารมีก็จะจับมือนี้ไว้เสมอเช่นกัน

..............................

ตอนเย็นข้อมูลเกี่ยวกับแม่ของปารมีก็ส่งมาถึง รวดเร็วสมกับที่ใช้เครือข่ายข่าวของจอมไตรในการสืบหา

“แม่ของคุณเพิ่งเสียไปเมื่อกลางดึกของสองวันก่อน ศพจัดสวดแค่คืนเดียวแล้วก็เผา ส่วนอัฐิดูเหมือนจะเก็บไว้ที่วัด”

ปารมีรับฟังอย่างเศร้าใจ งานศพของแม่ตัวเองแท้ๆแต่ตนกลับไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเลย แม้ว่าแม่จะบอกในจดหมายว่าได้นำเงินของตนไปใช้ แต่ปารมีก็อดคิดไม่ได้ว่าตนเองน่าจะทำอะไรให้แม่ได้มากกว่านี้

“ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องที่ผ่านไปแล้วน่ะเรากลับไปแก้ไขไม่ได้”

ปารมีพยักหน้า เขาเข้าใจแต่ก็ยังเศร้า นึกถึงเมื่อสองคืนก่อนที่ตาหวานร้องไห้โยเยไม่หยุดคงเพราะเด็กชายรับรู้ถึงการสูญเสีย ในขณะที่ปารมีไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด

“ยังไงเย็นนี้ผมจะฝากเด็กๆไว้กับน้องๆแล้วเราบินไปเชียงใหม่ ไปรับอัฐิแม่คุณมาทำบุญก่อนไปลอยอังคารดีไหม”

“ครับ”

ถึงแม้จะไม่สบายใจและคิดว่าเป็นการรบกวนคนอื่น แต่มันไม่มีทางเลือก ปารมีเองก็อยากทำบุญให้แม่บ้าง

“ส่วนอัฐิพี่สาวคุณดูเหมือนแม่คุณจะลอยอังคารไปเรียบร้อยแล้ว”

ปารมีพยักหน้ารับรู้ แต่คิดอะไรไม่ออกได้แต่ปล่อยให้วสุธาเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดให้

...................

ปารมีติดต่อไปที่สถานพยาบาลที่แม่พักก่อนเสียชีวิตและได้ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของแม่กลับมา รูปภาพที่ถ่ายด้วยกันสี่คนตอนที่พ่อยังมีชิวิตนั้นอยู่ในกรอบซึ่งพยาบาลบอกว่าแม่ตั้งมันไว้ข้างเตียงและมองดูมันอยู่เสมอ

จากนั้นจึงไปรับอัฐิที่วัด แม้วสุธาจะเสนอให้ปารมีนอนพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน แต่ปารมีก็ยังยืนยันที่จะกลับ เพราะแม้จะยังเศร้าและเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นแม่ แต่ก็ยังอดจะห่วงเด็กๆไม่ได้ หลังจากติดต่อเรื่องทั้งหมดแล้วทั้งคู่จึงขึ้นเครื่องกลับมาในวันนั้นเลย

ตลอดเวลา...วสุธาคอยกุมมือปารมีเอาไว้ แม้ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ปารมีก็รู้สึกได้ว่า วสุธาจะคอยอยู่เคียงข้าง และเพราะมีวสุธานี้เอง ปารมีจึงมีสติที่จะจัดการเรื่องของแม่ ปารมีไม่รู้เลยว่าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่ไม่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ ปารมีจะสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ จะผ่านมันไปได้อย่างไร

.................

“ผมขอบคุณคุณมาก”

ปารมีไม่รู้จะพูดอะไรออกมานอกจากคำว่าขอบคุณ

วสุธาจัดการทำบุญให้แม่และพี่สาวของปรามีก่อนจะพาปารมีมาลอยอังคาร โดยคราวนี้ทั้งคู่พาเด็กๆมาด้วย เพราะปารมีอยากให้ตาหวานได้มาร่วมทำบุญให้แม่และยายของตัวเอง ในขณะที่วสุธาที่ถือว่าปารมีเป็นคนรัก แม่และพี่สาวของปารมีก็เปรียบเหมือนแม่และพี่สาวของตน แม้จะไม่เคยได้พบหน้ากันก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และเด็กชายทั้งสามมาด้วย

 “อย่าคิดมาก คุณเศร้าไปแบบนี้เด็กๆก็พากันซึมตาม”

จริงอย่างที่วสุธาว่า เมื่อปารมีเงียบๆไปก็ดูเหมือนเด็กๆทั้งสี่คนจะเงียบๆ ไม่ดื้อไม่ซนมากอย่างเคย ตาหวานเองก็นิ่งไม่ค่อยโยเย

ที่จริงผ่านมาหลายวันปารมีก็เริ่มทำใจได้มากขึ้น แต่ก็ยังอดที่จะเศร้าไม่ได้

“เวลาจะช่วยให้คุณดีขึ้นแน่นอน”

ปลอบโยนอย่างเข้าใจความรู้สึก วสุธายังจำช่วงเวลาที่ตนต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปได้ และแน่นอนว่ายังจำช่วงเวลาที่ต้องสูญเสียคนรักไปได้เช่นเดียวกัน

“พวกเขาคงเฝ้ามองอยู่ คุณต้องทำให้พวกเขาสบายใจ รู้ใช่ไหม”

ปารมีพยักหน้ารับ เด็กๆนอนหลับกันไปหมดแล้ว ตาหวานเองก็นอนอยู่บนตักของปารมี วสุธาขยับตัวไปโอบร่างของปารมีเอาไว้ ไม่มีการขัดขืน ปารมีกอดตาหวานแน่น ในขณะที่ทิ้งตัวเข้าสู่อ้อมกอดนั้น ซบหน้าลงบนไหล่หนา ค่อยๆปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมาเงียบๆ

เขาต้องเข้มแข็ง ปารมีบอกตัวเองว่าจะร้องไห้แค่ตอนนี้เท่านั้น

...........................

ปารมีเริ่มสดใสขึ้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพยายามยอมรับมันให้ได้ เพราะมันเป็นวัฏจักร เป็นความจริงของโลก ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้

“คุณปามๆ ดูนี่สิ พวกเราขุดได้จากในสวนล่ะ”

เด็กชายสามคนวิ่งตรงมายังที่ปารมีนั่ง ในมือของปฐพีถือไส้เดือนที่ดิ้นไปดิ้นมาไว้พลางชูให้ปารมีดู

“คุณพี อย่าไปรังแกมันอย่างนั้นสิครับ ปล่อยมันเร็ว”

เด็กชายสามคนหน้าม่อยไป หันไปมองกันอย่างปรึกษาว่าจะเอาอย่างไร ปารมีจึงเร่งสำทับ

“ปล่อยสิครับ รังแกสัตว์ไม่ดีจำได้ไหมครับ”

ปฐพียอมปล่อยไส้เดือนลงพื้นในที่สุด มันรีบมุดดินหนีกลับลงไปในทันที

“มันอยู่ใต้ดินคอยพรวนดินให้สนามหญ้า ถ้าไปจับมันมาเล่นนอกจากจะเป็นการรังแกมันแล้วยังอาจเป็นการทำลายสวนตัวเองด้วยนะครับ”

ปารมีไม่ได้ดุด่า หรือว่ากล่าว เพียงแค่พูดให้เด็กๆฟังเหมือนการพูดคุยทั่วๆไปเท่านั้น

เด็กๆพยักหน้าเข้าใจ อันที่จริงพวกเขาก็ได้รับการสั่งสอนเสมอว่าไม่ควรรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่ว่าจะสัตว์หรือคน (ยกเว้นว่าถูกกระทำก่อน) แต่เมื่อครู่นี้เด็กๆก็แค่ตื่นเต้นที่ไปขุดดินแล้วเจอมันเข้าก็เท่านั้น

“มีไส้เดือนแล้วคุณปามว่าในสวนเราจะมีตัวตุ่นไหมฮับ”

ธรณินเด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามพลางส่งสายตามาทางปารมีอย่างมีความหวัง สารคดีที่เด็กๆดูไปเมื่อไม่กี่วันก่อนมีเรื่องของตัวตุ่นที่ทำอุโมงค์อยู่ใต้ดิน ทั้งเพื่ออาศัยและดักจับไส้เดือน

“อันนี้คุณปามก็ไม่รู้นะครับ ไม่เคยสังเกตสักที”

ถึงปารมีจะคิดว่าไม่มีหรอก แต่ก็ไม่กล้าตอบออกไปชัดๆให้เด็กๆหมดจินตนาการ แล้วบ้านจอมไตรออกจะกว้าง อาจจะมีตุ่นมาอาศัยอยู่จริงๆสักตัวสองตัวก็เป็นได้

“งั้นเราไปตามหารูตุ่นกันดีกว่า”

ปฐวีเอ่ยแล้วเด็กชายทั้งสามคนก็วิ่งไปเพื่อปฏิบัติภารกิจตามล่าหาตัวตุ่นกันทันที

“อย่าไปไกลกันนักนะครับ”

ปารมีร้องบอกแต่ก็ไม่รู้ว่าเด็กๆที่กำลังมุ่งมั่นจะได้ยินแล้วทำตามหรือไม่

“นั่นลูกชายผมกำลังทำอะไรกัน”

วสุธาเพิ่งกลับมาจากทำงาน ชายหนุ่มเดินออกมาภายนอกตัวบ้านเพราะมั่นใจว่าปารมีและเด็กๆต้องมาอยู่แถวนี้อย่างที่เคย

“พวกแกกำลังมองหาตัวตุ่นน่ะครับ”

แล้วปารมีก็เล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กๆไปเจอไส้เดือนแล้วนึกถึงสารคดีจากนั้นก็เกิดปฏิบัติการณ์ตามหาตัวตุ่นนั่นล่ะ

“งั้นเหรอ ว่าไงครับตาหวาน วันนี้ดื้อไหมครับ”

วสุธาตอบรับปารมีก่อนจะก้มลงอุ้มเด็กชายที่นอนตาแป๋วมองดูใบไม้สั่นไหวตามแรงลมขึ้นมาอุ้มไว้

“วันนี้กวนคุณปามหรือเปล่าครับ”

วสุธาเรียกปารมีว่า ปรามีเสมอ พอเผลอตัวก็อาจจะเรียกปรามีว่าปามบ้างเป็นบางครั้ง แต่หากพูดกับเด็กๆวสุธาจะแทนปารมีว่าคุณปามอย่างที่เด็กๆเรียก และเด็กๆที่ว่านี้ก็รวมตาหวานเข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เด็กชายไม่ตอบ แน่ล่ะเพราะยังพูดไม่ได้ แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเมื่อวสุธาเล่นสูงๆด้วย

วสุธาเอ็นดูตาหวานมาก อันที่จริงวสุธาพูดได้เต็มปากเลยว่ารักตาหวานไม่ต่างจากลูกทั้งสาม บางครั้งหากปารมียุ่งก็จะเป็นคนดูแลตาหวานให้ โดยไม่ต้องให้ปารมีเอ่ยขอร้อง

“วันนี้กลับเร็วจัง มีงานเลี้ยงหรือครับ”

วสุธาพยักหน้าตอบรับคำถาม แต่ก็ยังเล่นกับตาหวานไม่เลิก

“คุณอยากไปด้วยกันไหม”

“ครับ?”

“งานเลี้ยงคืนนี้น่ะ คุณอยากไปด้วยกันไหม”

เป็นครั้งแรกที่วสุธาเอ่ยชวน อันที่จริงมันไม่ได้มาจากความคิดของวสุธาเลย แต่นกหญิงสาวผู้เป็นเลขาต่างหากที่เป็นคนบอกว่าให้ชวนปารมีไปงานเลี้ยงบ้าง

“ไม่ดีกว่าครับ”

“เราฝากเด็กๆไว้กับนายลมก็ได้ วันนี้นายคนนั้นเขาว่าง”

ถึงอย่างนั้นปารมีก็ยังปฏิเสธ

“ผมห่วงเด็กๆก็จริง แต่ผมไม่ค่อยชอบงานพวกนั้นด้วยน่ะครับ”

“ยังไม่เคยไปรู้ได้ยังไงว่าไม่ชอบ”

จริงอย่างที่วสุธาว่า แต่ปารมีไม่อยากไปเพราะคิดว่าถึงตัวเองได้ไปก็ไม่ชอบมันขึ้นมาหรอก

“ผมไม่รู้จักใคร แถมยังไม่รู้เรื่องธุรกิจสักนิด ไม่ต้องลองไปผมก็รู้แล้วล่ะครับว่าจะไม่ชอบน่ะ”

วสุธาพยักหน้า เพราะเอาเข้าจริงๆที่ปารมีพูดมาก็ถูก งานเลี้ยงพวกนี้สำหรับเขามันก็ไม่มีอะไรน่าชื่นชอบจริงๆ แต่มันเป็นสื่อกลางอย่างหนึ่งในการเจริญสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพราะฉะนั้นถึงอยากเลี่ยงก็มีบางงานที่เลี่ยงไม่ได้

“ไว้คราวหน้าถ้ามีงานเลี้ยงที่คุณน่าจะชอบจะชวนใหม่แล้วกัน”

ปารมีพยักหน้ารับ แต่ในใจก็ยังคิดว่าจะงานไหนตัวเองก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ

แล้วอีกอย่าง

วสุธาจะพาปารมีไปด้วยในฐานะอะไร? ปารมีไม่ได้เก่งและไม่ค่อยรู้เรื่อง ไปงานเลี้ยงแบบนี้วสุธาไปกับนกปารมีก็เห็นว่าดีและเหมาะสมอยู่แล้ว

“คุณพ่อกลับมาแล้ว”

ธรณินวิ่งเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าใครที่นั่งอุ้มน้องอยู่ใกล้ๆปารมี
“สวัสดีครับ”

ทั้งสามยกมือไหว้คุณพ่อก่อนจะแย่งกันเล่าเรื่องไส้เดือนและตัวตุ่นให้คุณพ่อฟัง วสุธาซึ่งรู้เรื่องจากปารมีแล้วก็ยังนั่งตั้งใจฟังลูกชายเล่าราวกับยังไม่รู้เรื่อง

...................

“คุณนกรอสักครู่นะครับคุณวสุธากำลังจะตามลงมา”

หญิงสาวที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกยิ้มรับและเอ่ยขอบคุณปารมีเบาๆที่ยกเครื่องดื่มออกมาให้เธอ

 “ว่าแต่วันนี้คุณนกก็แต่งตัวสวยอีกแล้วนะครับ”

ปารมีไม่ได้เอ่ยปากชมเพราะต้องการยกยออะไร นกเลขาของวสุธานั้นหน้าตาสวยมากจริงๆ ยิ่งเธอแต่งตัวด้วยชุดสวยๆสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอดูดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ แล้วคุณปารมีไม่ไปด้วยกันแน่นะคะ”

“ไม่ดีกว่าครับ”

ยังไม่ทันได้ต่อบทสนทนาวสุธาก็เดินเข้ามาเป็นการบอกว่าพร้อมออกไปข้างนอกแล้ว

“ไปก่อนนะ”

ร่างสูงหันมาบอกปารมีเบาๆ

“ครับ”

ปารมียิ้มรับแล้วมองภาพทั้งสองคนเดินเคียงคู่กันไปที่รถเหมือนทุกครั้ง ดูกี่ทีก็เหมาะสมกัน ปารมีอดคิดไม่ได้ว่าทำไมวสุธาไม่เลือกเธอมาเป็นคนรัก ทั้งๆที่เธอก็อยู่ข้างๆเขามาโดยตลอด เธอเข้ากับวสุธาได้ดี เด็กๆก็ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจเธอ

“หรือเพราะอยู่ใกล้ตาเกินไปจนมองข้าม”

ปารมีบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่เธอสวยและเก่งสะดุดตาเกินกว่าใครจะมองข้ามได้ สักวันวสุธาอาจจะมองเห็นก็ได้

ปารมีไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งที่คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันทุกทาง แต่เมื่อนึกภาพวสุธาและเลขาของเขาเดินเคียงข้างกันโดยไม่ใช่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง แต่เป็นฐานะคนรัก ในอกมันก็อึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก

“คุณปาม........”

เสียงธรณินเรียกมาจากข้างหลังทำให้ปารมีเลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“กินข้าวฮับ กินข้าวกัน”

.............................

“คุณกลับดึกจังครับวันนี้”

ปารมีที่เพิ่งเสร็จจากการดูตาหวานเหมือนเช่นทุกวันเดินออกมาจากห้องนอนหลานชายแล้วก็เจอเข้ากับวสุธาที่เพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงพอดี

“คุยติดพันไปหน่อยน่ะ”

วันนี้ที่งานเลี้ยงวสุธาเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายคน มิน่านกถึงบอกให้ชวนปารมีไปด้วยเพราะแม้ชื่องานจะเป็นทางการแต่งานเลี้ยงก็ไม่ได้เป็นทางการมาก

“คุณน่าจะไปด้วยกัน”

เปรยขึ้นมาเบาๆให้ปารมีได้เอียงคอมอง

“คุณไปกับคุณนกก็ดีแล้วล่ะครับ พาผมไปด้วยจะบอกกับคนอื่นว่าอย่างไร”

ปารมีพูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก มือก็ยื่นส่งผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้อีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ

“ก็บอกว่าเป็นคนรักสิ ควงเลขาไปงานมันจะไปดีเท่าพาคนรักไปได้ไง”

“อายคนอื่นเปล่าๆนะครับ คุณลืมรึเปล่าว่าผมเป็นผู้ชาย”

“ไม่เคยลืมหรอก จะลืมได้ยังไง”

พูดแล้วเข้าประชิดตัวปารมีอย่างที่ไม่ค่อยจะทำ กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาแตะจมูก ปารมีรู้ว่าวสุธาคงดื่มไปเยอะพอสมควร แม้พักหลังๆปารมีจะไม่มีท่าทีหวาดกลัววสุธาแล้ว แต่เมื่ออยู่ในห้องนอนสองคนและวสุธากำลังเมาแบบนี้ก็ทำให้ปารมีอดนึกถึงวันนั้นไม่ได้

ร่างเล็กเกร็งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ วสุธาจึงถอยห่างออกมาพลางทำเสียงหึขึ้นลำคอเบาๆ

“เห็นไหม ไม่ใช่แค่ผมที่ไม่เคยลืม คุณเองก็ไม่เคยลืมเหมือนกัน”

ว่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ปารมีเพิ่งรู้สึกตอนนี้เองว่าตัวเองกำลังกลั้นลมหายใจ

เขารู้ว่าปฏิกิริยาของตนเองคงทำให้วสุธาไม่พอใจ แต่จะให้ทำอย่างไรเมื่อร่างกายมันเป็นไปเอง ปารมีไม่สามารถลบความกลัวจากเรื่องที่ฝั่งแน่นลงในจิตใจได้

ไม่ใช่ไม่อยากลืม อยากลบภาพเลวร้ายพวกนั้นทิ้งไปหรอกนะ แต่ทำไม่ได้ต่างหาก

ปารมีรู้ว่าวสุธาไม่ชอบใจเรื่องนี้อยู่ลึกๆ คงอารมณ์เหมือนคนน้อยใจที่ตัวเองพยายามทำดีมากมายแต่ก็ยังลบล้างความผิดพลาดครั้งเดียวของตนเองไม่ได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่วสุธาแสดงออกมา อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“ทำไมยังไม่นอนอีก”

วสุธาเดินออกมาจากห้องน้ำ ถามด้วยเสียงแผ่วเบา หลังจากอาบน้ำเจ้าตัวเองก็คงใจเย็นลงมากแล้ว

“ผมรอคุณ”

คำตอบที่ทำให้วสุธาหันมามองหน้าด้วยความสงสัย

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ถามอย่างเอื้ออาทรเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก

“เปล่าครับ คือ ผมไม่อยากทำเหมือนวิ่งหนีคุณอีก”

“หืม”

“คือผมอาจจะยังกลัวเพราะอย่างที่คุณพูด ผมไม่เคยลืมมันได้แม้จะพยายามลืม แต่ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด ผมไม่อยากให้คุณคิดว่าผมไม่ไว้ใจหรือรู้สึกแย่อะไรกับคุณ คือผม ... คือ”

แม้ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่แค่นี้ก็ทำให้วสุธาพอใจขึ้นมาแล้ว ร่างสูงนั่งลงข้างๆร่างบางพลางเอื้อมมือไปกุมมือที่สั่นน้อยๆนั่นไว้

“ผมทำให้คุณกลัวเอง แม้มันจะยากผมก็จะพยายามทำให้คุณหายกลัว ขอบคุณที่บอก ขอบคุณที่คิดถึงความรู้สึกของผม ทั้งที่ผมทำร้ายคุณอย่างไม่น่าให้อภัย”

มืออีกข้างที่ว่างก็ใช้ปัดปอยผมข้างหน้าของปารมีออกให้

“เอาล่ะนอนกันเถอะ นี่เป็นครั้งแรกเชียวนะที่คุณไม่นอนก่อนผม”

จะพูดให้ถูกก็คือเป็นครั้งแรกที่ปารมีไม่แกล้งทำเป็นหลับไปก่อน วสุธาเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วคว้าเอาร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆเข้ามาในอ้อมกอด

“คุณวสุธา”

ปารมีเรียกอีกฝ่ายเบาๆ อาการตัวสั่นน้อยๆนั่นทำให้วสุธายิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“นอนเถอะ ผมไม่ทำอะไรหรอก แค่อยากให้คุณชินกับการกอดของผมเอาไว้”

พูดได้นิ่งต่างจากคนฟังที่หน้าแดงเรื่อ หัวใจเต้นแรงและเร็วอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความกลัว ถ้ามันไม่ใช่ความกลัวแล้ว มันเกิดจากอะไร ปารมีพยายามคิด คิด และคิด แต่คิดยังไงก็ไม่เข้าใจตัวเองสักที แล้วคนที่นอนกอดอยู่คงจะรับรู้ วสุธาที่ง่วงงุนเต็มทีกระชับอ้อมกอดพลางลูบหลังบางนั้นเบาๆ เสียงงึมงัมที่ปารมีแทบจะจับใจความอะไรไม่ได้ นอกจาก

“ให้นอนซะ และ ผมจะอยู่ข้างๆคุณ”

..............................................

TBC
ตอนที่ 6 จะพยายามมาลงวันอาทิตย์ค่ะ ถ้าเกินก็ขออภัยล่วงหน้าค่า

mommamjingjing

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ
บรรยากาศ หวาน ๆ ปนอบอุ่น ด้วยอะ
จะรอความหวานในตอนต่อไปนะคะ
(แอบจิกหมอนด้วยอะ ตัวเอง)

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
แม่นะแม่ กว่าจะคิดได้มันก็สายเกินแล้ว
โชคดีของคุณปามที่มีคุณดินอยู่ด้วย
ดีใจที่คุณปามยอมเปิดใจให้คุณดินอีกครั้ง
สุดท้าย เด็กๆน่ารักมากค่ะ ~~~

kisz

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มจะรู้ใจกันแล้วววว ฮิ้วววววววว

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
กว่าปามจะรู้ว่าแม่ของปามก็รักปามมาก
แม่ก็จากปามไปไม่มีวันกลับ
เรี่องของคนในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และระหว่างพี่น้อง
ก็อาจทำให้มองเห็นความรักที่ได้รับจากคนในครอบครัวแตกต่างกันออกไป
อย่างปามคิดว่าแม่ไม่รักไม่สนใจแต่แม่ก็รักปาม
แม่อาจจะแสดงตวามรักคความห่วงให้กับพี่สาวของปามมากกว่า

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ผ่านช่วงเวลาเศร้าๆก็มาเจอกับช่วงเวลาที่หวานหยด มดตอม :o8:
ปามสู้ๆ ผ่านความกลัวนั้นไปให้ได้ และทำหน้าที่คนรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ :z1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
คุณดินสู้


คุณปามก็สู้ๆ  ทั้งสองคนต้องพยายามด้วยกัน เปลี่ยนมันด้วยกัน มันถึงจะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้  :กอด1:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:impress2:เย้ๆปามเริ่มใจออ่นแล้วอะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ปล.ไม่ว่ากันอยู่แล้วอะ :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ความจริงที่หนีกันไม่พ้น หลังจากนี้ไป ชีวิตของปารมีคงมีแต่ความสุข สมกับชื่อของตัวเองแล้ว
ขอเวลาอีกสักนิด ไอ้ที่เคยกลัวอาจจะสดใสร่าเริง  :z2: ก็ได้
+1 เป็นกำลังใจให้ครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
มันค่อยๆหวานขึ้นทีละนิดๆ แม้ปามจะเพิ่งผ่านเรื่องเศร้าไปก็เหอะ

lasom

  • บุคคลทั่วไป
รักกันนนนนนนนนนนนนนนนน :กอด1:

bow55

  • บุคคลทั่วไป
ฟ้าหลังฝนช่างสดใส

ploylw_chery

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้หว๊าน...หวาน แอร๊ยยย  :-[

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
คุณแม่ไปสบายแล้ว
ตอนแรก็รู้สึกว่า แม่ไม่น่าเลย ใจร้ายจัง
ตอนนี้เข้าใจและ เหตุเกิดเพราะแบบนี้ คุณแม่เองก็งพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้...
ส่วนครอบครัวใหม่ก็หวานเชียว ดูแลกันยามทุกข์ยากแบบนี้ดีแล้ว ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ
แต่คราวหน้าคุณปามแสนหวานรุกบ้างก็ดีนะ 555
ขอบคุณ และรออ่านต่อจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






janeyuya

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ด ตาหวานมาแล้วๆ
(ได้ข่าวเรื่องของดินปามนะเจน)

╮(╯▽╰)╭♡ พ่อดินต้องคิดอะไรกับคุณปามแน่ๆ
มีน้อยอ๊กน้อยใจ๋ = ̄ω ̄=
รักแล้วสินะ สินะ สินะ

ออฟไลน์ ladyzakura

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

แม่ง!!!! คุณดินมันคนละคนกับก่อนหน้านี้ ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ปามเริ่มที่จะยอมรับดินแล้ว

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เหมือนจะมีกลิ่นหวานๆ ขึ้นมามังละ
5555555
แบบว่า ยังคิดมากกันอยู่อ่ะะ
เหยๆ ปล่อยให้หัวใจทำงาน อย่าคิดไรเยอะ
>\\\<

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หนูปามน่าสงสารจัง :monkeysad:

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
ค่อยๆ ใช้ความรักลบความทรงจำร้ายๆ
เดี๋ยวมันก็จะเริ่มเลือนลางไปเอง

 :กอด1:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คู่นี้เค้าหวานไม่แคร์อะไรเลยวุ้ย อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด