พิมพ์หน้านี้ - จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: JUPJIB ที่ 11-05-2012 02:26:23

หัวข้อ: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 11-05-2012 02:26:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 11-05-2012 02:28:05
 นิยายเรื่องอื่นๆของ JUPJIB
 ♥  จอมไตรซีรี่ส (ไม้) คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16605)คุณnolirinลงให้ ขอบคุณค่า
♥  จอมไตรซีรีส์ (ดิน) ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33103)
 ♥  จอมไตร ซีรีส์ (ปฐพี) เห็นได้ด้วยตา รักได้ด้วยใจ (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25950)
 ♥  จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36948)
 ♥  เรื่องสั้นตอนเดียวจบ V.1 by JUPJIB  ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16206) คุณnolirinลงให้ ขอบคุณค่า
 ♥  เรื่องสั้นตอนเดียวจบ V.2 by JUPJIB  ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=26270)
 ♥  man and child ซีรี่ส์ Love Just Ain't Enough(แนวM-Preg) (จบ) ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42983)
 ♥  man and child ซีรี่ส์ Hard For Heart(แนวM-Preg) (จบ) ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45955)


ตอนที่ 1

ปารมีนั่งมองเด็กชายวัยสามเดือนเศษที่นอนกินนมจากขวดอยู่อย่างอ่อนใจ นี่ก็สองอาทิตย์แล้วที่เขาเลี้ยงดูเด็กคนนี้ด้วยตัวคนเดียว เงินที่เหลือเก็บชักจะน้อยลงทุกที งานก็ไม่มีทำ ก่อนหน้านี้ปารมีทำงานที่ร้านขนมปังแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากที่แม่หายไปแล้วทิ้งหนูน้อยคนนี้ไว้ให้ ปารมีก็ต้องออกจากงาน ดีที่หัวหน้างานเข้าใจจึงให้เงินเดือนในส่วนที่ปารมีทำงานมา ทั้งๆที่ปารมีเองก็รู้ว่าออกจากงานกระทันหันแบบนี้ตามกฏแล้วจะไม่ได้รับเงินส่วนนั้น

ปกติปารมีก็ไม่ค่อยเหลือเงินเก็บ พอฉุกเฉินขึ้นมาจึงไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน

...เมื่อสามอาทิตย์ก่อน แม่ที่หายไปไม่เจอกันมาหลายปีมายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องปารมี ในวงแขนมีเด็กน้อยตากลมนอนขดตัวอยู่ แม่บอกง่ายๆว่า “ลูกหลง” ไม่ได้เอ่ยถึงพ่อของเด็ก ปารมีก็ไม่ถามเพราะถือว่าโตๆกันแล้ว แม่มาอยู่กับปารมีเกือบอาทิตย์แล้วในวันหนึ่งแม่ก็เอ่ยกับปารมีว่า

“ปาม พรุ่งนี้ไปซื้อของให้น้องหน่อยได้ไหมลูก”

ปารมีที่ง่วนอยู่กับการใส่ผ้าอ้อมเด็กให้น้องเงยหน้าขึ้นมาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่แม่มา และอยากให้มาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะทำให้การใช้ชีวิตลำบากขึ้น แต่ปารมีก็เต็มใจ

ปารมีอยู่คนเดียวมาตั้งแต่อายุ15 พ่อตายตอนปารมี 12 ขวบ หลังจากนั้นเขาก็อยู่กับแม่และพี่สาวคนละพ่อที่อายุมากกว่าเขา3ปีในห้องเช่าแคบๆห้องหนึ่ง พอพี่สาวอายุ 18 ก็ออกจากบ้านไป ไม่นานหลังจากนั้น แม่ก็หายไปอีกคน ปารมีใช้ชิวิตด้วยการทำงานเล็กๆน้อยๆที่โรงเรียนและงานอื่นๆที่ทางวิทยาลัยอนุญาติ หลังจบปวช.ปารมีออกหางานทำและเรียนปวส.ภาคค่ำไปด้วย ปารมีไม่ใช่คนเรียนดีอะไรจึงไม่เคยสอบได้ทุนใดๆกับเขา ครั้นจะกู้เงินเรียนก็ไม่มีคนรับรองให้เสียอีก ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ้าตัวจึงต้องเป็นคนหาเองทั้งหมด หลังจากเข้าเรียนปวส.ได้ไม่นาน แม่ของปารมีก็กลับมาที่ห้องเช่า ปารมีดีใจที่ได้เจอแม่ ดีใจที่แม่กลับมา แต่ก็ดีใจได้ไม่นาน สามวันหลังจากที่แม่กลับมา แม่ก็หายไปอีก ไปโดยไม่บอกกล่าวพร้อมทั้งยกเลิกสัญญาเช่าห้องและรับเงินมัดจำไป ดีที่เจ้าของห้องไม่ยอมให้แม่ขนของออกจากห้อง ไม่อย่างนั้นปารมีอาจไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะเปลี่ยน เจ้าของห้องยอมให้เขาอยู่ไปก่อนเพราะอยู่กันมานานและคุ้นเคยกันดี ปารมีทำงานตอนกลางคืนเพิ่มและดรอปเรียนเทอมแรกไว้ จนในที่สุดก็หาเงินมาให้เจ้าของห้องได้ เขาอยู่ที่นั่นจนเจ้าของห้องขายที่เพื่อกลับบ้านนอกและเจ้าของที่คนใหม่ต้องการทุบตึกนั้นทิ้ง จึงได้ย้ายมาอยู่ห้องปัจจุบันนี้ จำได้ว่าช่วงแรกที่แม่ทิ้งไปนั้นปารมีโกรธแม่มากที่ทำให้เขาต้องลำบากยิ่งขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านมาหลายปี ปารมีก็ลืมความโกรธนั้นไปจนสิ้น

“ไปกดเงินมาให้เรียบร้อยนะปาม แม่ไม่อยากไปเสียเวลาพรุ่งนี้ อยากรีบไปรีบกลับ น้องแกจะงอแงเอา”

แม่พูดจบก็บอกว่าง่วง และเข้านอนทันที พอแม่และน้องนอนหลับ ปารมีจึงออกมากดเงิน ตอนนั้นปารมีไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าทั้งหมดเป็นแผนที่แม่วางเอาไว้ก่อนแล้ว

………………………..

เช้าวันถัดมา ปารมีตื่นแต่เช้าตามปกติ ออกจะแปลกใจที่แม่ไม่อยู่บนที่นอน แต่น้องยังนอนหลับอยู่ ปารมีหยิบกระเป๋าเงินเพื่อจะออกไปซื้อกับข้าว หันไปมองน้องอีกครั้งเพราะห่วงที่น้องต้องอยู่คนเดียว

“เอาน่า แป๊บเดียว”

บอกตัวเองเบาๆแล้วรีบเดินออกมา เลือกกับข้าวสองสามอย่างพร้อมทั้งข้าวสวยสองถุง แม่คงออกไปแถวนี้ อีกเดี๋ยวคงมา ปารมีคิดอย่างไม่เฉลียวใจ แต่แล้วตอนที่จะจ่ายเงินเขาก็ต้องใจหายวูบ เงิน... เงินที่กดมาเมื่อคืนไม่อยู่ในกระเป๋า ตอนนี้เหลือเพียงธนบัตรใบล่ะร้อยไม่กี่ใบในกระเป๋า ปารมีหน้าซีดเผือกจนแม่ค้าเป็นห่วง  หรืออยู่ที่บ้าน คิดในแง่ดีถึงจะจำได้ว่าเอาไว้ในกระเป๋าเงินก็เถอะ เขารีบจ่ายเงินให้แม่ค้าแล้วตรงกลับบ้าน สิ่งแรกที่เขามองหาไม่ใช่เงิน แต่เป็นกระเป๋าเสื้อผ้าของแม่ ....มันหายไป... แม่ก็หายไป... หายไปพร้อมเงินห้าพันบาท ปารมีพยายามมองในแง่ดีอีกครั้งว่าแม่คงไปซื้อของคนเดียว เดี๋ยวก็กลับมา

.....แต่เย็นแล้วแม่ก็ยังไม่มา จนผ่านมาสองอาทิตย์ก็ยังไม่มีวี่แวว ปารมีก็เลยต้องยอมรับว่าแม่ทิ้งเขาไปอีกแล้ว โดยคราวนี้ไม่ได้ทิ้งไปเฉยๆยังทิ้งภาระไว้ให้เขาอีกด้วย

……………………..

ปารมีตัดสินใจเรียกเด็กน้อยว่าตาหวาน เพราะตากลมๆโตๆนั่นมันดูหวานจริงๆ  ตาหวานเป็นเด็กอารมณ์ดี และกินเก่ง ป้าที่เช่าห้องอยู่ใกล้ๆกันบอกว่าพอสี่เดือนให้กินอาหารเสริมได้ ทำโน่นได้ ทำนี่ได้ ปารมีก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ เกิดมาเคยเลี้ยงเด็กที่ไหนกัน แค่จะอาบน้ำให้ปารมียังทำไม่ค่อยเป็นเลย

“ไหนตาหวาน ยิ้มหน่อยยิ้มหน่อย”

ปารมีจับน้องนอนคว่ำแล้วพูดคุยด้วย ปกติไม่เคยมีใครอยู่ด้วย คำพูดเลยเป็นสิ่งที่ปารมีใช้น้อยที่สุดเมื่ออยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้มีคนอยู่เป็นเพื่อนเลยได้พูดมากขึ้น เด็กน้อยไม่สามารถโต้ตอบได้แต่ปารมีคิดว่าตาหวานฟังออกว่ามีคนพูดด้วย เพราะตาหวานจ้องมองปารมี แถมยังยิ้มให้ด้วย

“น่ารักจัง นี่เดี๋ยวปามอ่านนิทานให้ฟังนะ”

ปารมีหยิบหนังสือนิทานที่ได้มาจากเพื่อนบ้านที่อยู่ชั้นล่างเปิดออกและอ่านเบาๆให้ตาหวานฟัง ห้องปารมีไม่มีโทรทัศน์ มีหนังสือเยอะแต่ก็เป็นหนังสือทำอาหารซะส่วนใหญ่ อ่านหนังสือได้ไม่นานตาหวานก็หลับไป ไม่รู้ว่าเพราะนิทานหรือเพราะอิ่มแล้วเลยง่วงกันแน่ หนังสือนิทานถูกปิดลง ปารมีจับเด็กชายให้นอนหงายแล้วเอาผ้าห่มห่มให้  จากนั้นก็ลงมือทำงานบ้านทุกอย่างจนเรียบร้อย

พอไม่มีอะไรทำ ปารมีก็คิดถึงเรื่องเงินขึ้นมาอีก ถ้าเป็นแบบนี้จะอยู่ได้ถึงสิ้นเดือนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไหนจะค่าเช่าห้อง ค่านมผง ค่าเสื้อผ้าตาหวานอีกล่ะ แล้วก็ให้นึกถึงว่าแม่เลี้ยงตาหวานมาได้ยังไงข้าวของเครื่องใช้มีแค่ ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าเช็ดตัว กับผ้าห่อตัวที่ใช้ปูนอน และชุดเปลี่ยนแค่สองสามชุด แค่คิดปารมีก็ต้องนั่งกุมขมับแล้ว ของที่จำเป็นต้องซื้อพรั่งพรูเข้าสู่สมอง แล้วเงินแค่สามสี่พันที่เหลือมันจะพอได้ยังไงกัน

..................................

เสียงโทรศัพท์ในอีกสามวันถัดมาทำให้ปารมีค่อยมีความหวังขึ้นมาหน่อย กลอนเพื่อนสนิทโทรมาบอกว่ามีงานให้ทำ น่าจะเอาตาหวานไปเลี้ยงด้วยได้ และมีที่พักให้

“งานอะไรของกลอนน่ะ”

ปารมีถามอย่างสงสัย ถ้าหากว่าคนที่โทรมาบอกเป็นคนอื่น ปารมีคงคิดว่าหลอกกันเล่น ไม่ก็ล่อลวงแหงๆ

“เดี๋ยวเลิกงานล่ะจะไปหา คิดถึงตาหวาน”

ปารมีไม่ซักอีกเพราะรู้ว่าใกล้เวลาเข้างานของอีกฝ่ายแล้ว นี่คงไม่ไปกินข้าวแอบใช้คอมบริษัทเปิดอินเทอร์เน็ตเช็คข่าวหางานให้เขาอีกแน่ๆ

กานทหรือกลอนเป็นเพื่อนรักของปารมี คบกันมาตั้งแต่เรียนชั้นม.ต้น กลอนอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่ 10 ขวบจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ญาติๆเอากลอนไปทิ้งไว้ที่นั่นทันทีที่พ่อกับแม่ของกลอนเสียชีวิตและยึดทรัพย์สินทั้งหมดไป กลอนเคยบอกว่าต้องเอาคืนมาให้ได้ซักวัน แต่เมื่ออีกฝ่ายมีเงินมีอำนาจมากกว่า จึงยากที่จะได้คืนมา

.........................................

รับสมัครคนดูแลเด็กและทำอาหาร

- ดูแลเด็กชายสามคน อายุ 8 ขวบสองคน และ 4 ขวบหนึ่งคน

- ดูแลเฉพาะตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน เย็นกลับจากโรงเรียน และวันหยุด

คุณสมบัติ

- วุฒิม.6หรือปวช.ขึ้นไป

- อายุ 22-35 ปี

- สามารถดูแลเด็กได้ดี

- ทำอาหารได้

- ทดลองงานสามวัน

- มีที่พักและอาหารครบทุกมื้อ

- มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล

- วันหยุดสามารถเลือกได้สี่วันต่อเดือน

- เงินเดือน 10000 บาท

- สนใจติดต่อ 00-0000-0000

- เวลา 09.00-21.00


“ถ้าไม่อยากทำก็ไปอยู่ด้วยกันก่อน”

กลอนพูดหลังจากยื่นกระดาษที่ปริ้นรายละเอียดงานมาให้ปารมีดู ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่เขาจะทำได้หรืองานนี้  แล้วที่จะให้ไปอยู่ด้วยกันนั้นก็ไม่อยากรบกวนเพื่อน ถึงจะรู้ว่ากลอนเต็มใจ แต่ตาหวานที่ชอบตื่นมาตอนดึกๆอาจรบกวนเวลานอนของกลอนได้

“สวัสดิการมันดู...เออ...ดูดีเกินไปนะ แล้วยังอายุที่กำหนดอีก ปกติเขาต้องอยากได้คนมีอายุหน่อยไม่ใช่เหรอ”

ปารมีถามอย่างไม่สบายใจ เพราะเนื้อหางานดูชวนเชื่อยังไงไม่รู้

“เอาน่า เชื่อถือได้ รับรอง”

กลอนพูดอย่างมั่นใจเต็มที่ ปารมีขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“เอาล่ะๆ อยากรู้ล่ะซี่”

กลอนยิ้มทะเล้นอย่างที่ชอบตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนทำพร้อมทั้งอุ้มตาหวานขึ้นมาโยกซ้ายโยกขวา

“ที่จริงถ้าเจอเองกลอนก็ไม่เชื่อหรอก ... แต่นี้น่ะได้ยินป้าแม่บ้านเขาคุยกันหรอกนะ ป้าแมวกับป้านกแกคุยกันเรื่องที่ได้ยินท่านประธานบ่นกับน้องชายว่าไม่มีคนดูแลลูกๆของท่าน น้องชายเลยบอกให้ท่านประกาศรับสมัครจากในอินเทอร์เน็ตไง ส่วนเรื่องอายุเนี่ยเห็นว่าเพราะอยากได้คนที่สมัยใหม่พอสมควรน่ะ ก็นะ จะมาเลี้ยงลูกเขานิ่ เกิดไปสอนอะไรบ้าๆบอๆทำไง”

พูดจบก็หอมแก้มตาหวานทีนึง ปารมีพยักหน้ารับฟัง แต่งานดีขนาดนี้จะเหลือถึงเขาเหรอเนี่ย ดูจากวันประกาศก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วย

คิดอย่างหนักใจแต่ก็ตัดสินใจโทรไปสมัครในที่สุด และก็ได้รับคำตอบมาว่าจะติดต่อกลับมา

..............................................

ปารมีไม่คิดว่าวันถัดมาจะได้รับโทรศัพท์ให้เข้าไปสัมภาษณ์งานทันที ที่จริงไม่คิดว่าทางนั้นจะโทรมาด้วยซ้ำดีว่าเป็นวันเสาร์ซึ่งกลอนทำงานเฉพาะครึ่งเช้าเท่านั้นเลยสามารถฝากตาหวานไว้ได้

ที่สัมภาษณ์งานเป็นตึกจอมไตรที่กลอนทำงานแต่คนละชั้น ตึกนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทในเครื่องจอมไตรเกือบทั้งหมด กลอนเข้าทำงานที่บริษัทจอมไตรซึ่งเป็นบริษัทหลักของเครือในแผนกบุคคลทันทีที่จบจากมหาวิทยาลัย กลอนเป็นคนขยัน เรียนเก่ง หลังจากจบม.6 เขาสอบชิงทุนจอมไตรที่ข้อสอบยากแสนยากได้และได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงโดยไม่เสียค่าเล่าเรียนตลอดสี่ปี กลอนเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจ สาขาพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จบมาโดยมีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองพ่วงมาด้วย คุณสมบัติดีแบบนี้ ไม่แปลกที่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้(และอีกหลายๆแห่ง)จะต้องการตัว

พอคิดถึงตัวเองปารมีก็ต้องถอนหายใจ เขาเรียนไม่เก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เล่นกีฬาก็ไม่เก่ง ดนตรีก็เล่นไม่ได้ ที่ถนัดก็คงเป็นทำอาหารเนี่ยแหละแต่ก็ไม่เก่งมากอยู่ดี ปารมีจบปวส.เอกคหกรรมศาสตร์ก็จริง แต่เกรดก็ไม่ได้ดีนัก แค่พอจบมาได้วุฒิก็เท่านั้น

 ปารมีมองรอบๆตัวซึ่งมีคนหนาแน่นขึ้นมามากแล้ว  คนที่มาสอบสัมภาษณ์มีเป็นสิบๆคนและเป็นผู้หญิงเสียเป็นส่วนใหญ่  แต่ที่ปารมีออกจะแปลกใจก็เพราะแต่ละคนแต่งตัวมาสวยพริ้ง ฉีดน้ำหอมฟุ้ง จนกลิ่นน้ำหอมหลายๆคนรวมกันแทบทำเอาเขาเป็นลม ผู้ชายก็…แบบว่า ออกแนวหนุ่มหน้าสวย ชนิดที่ถ้าไม่ดูดีๆก็แยกได้ยากว่าชายหรือหญิงหน้าตาดีๆกันทั้งนั้น แล้วปารมีจะเอาอะไรไปสู้ ยิ่งสำรวจดูการแต่งตัวของตัวเองก็ได้แต่ปลง เสื้อเชิตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแลคสีครีม ไม่ได้ดูโดดเด่นเอาซะเลย ผมเผ้าถึงจะหวีมาเรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้ทำทรงอย่างดีอย่างที่คนอื่นเขาทำกัน เหมือนมาประกวดอะไรสักอย่าง หรือเขาจะคัดคนจากหน้าตาด้วย ปารมีอดเครียดขึ้นมาไม่ได้ แถมไม่มีใครคุยกันยกเว้นพวกที่ดูเหมือนจะมาด้วยกัน บรรยากาศอึมครึม ชวนอึดอัดเหลือเกิน

“ทำไมมาสมัครงานนี้ล่ะพ่อหนุ่ม”

คนข้างๆถามปารมี ปารมีหันไปมองแล้วเริ่มรู้สึกดีขึ้นที่มีคนเป็นมิตรอยู่ คนข้างๆเขาเป็นหญิงอายุน่าจะซัก40กว่าปีแล้ว แต่งตัวธรรมดาแต่ก็เรียบร้อย

“พอดีต้องดูแล เอ่อ ลูกน่ะครับ”

ปารมีพูดไม่ค่อยเต็มปาก แต่จะเรียกตาหวานว่าอะไรได้ล่ะ ตอนที่แม่มาวันแรกก็พากันไปแจ้งเกิด เขาไม่รู้ว่าแม่ใส่ชื่อเขาเป็นพ่อเด็กตอนไหน มารู้เมื่อแม่หายไปแล้วนั่นแหละ

“อ้อ ลูกอายุเท่าไหร่ล่ะ”

“เออ...สามเดือนจะสี่แล้วครับ”

“กำลังน่ารักเลยสินะ”

“ฮะ”

“เฮ้อ...........”

อยู่ๆป้าคนนั้นก็ถอนหายใจออกมา

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ป้าน่ะ อายุเกินใช่ไหมล่ะ แต่เขาก็ยังอุสาห์เรียกมาสัมภาษณ์ ทั้งๆที่ป้าไม่ได้หวังแท้ๆ”

“...”

“ป้าน่ะนะไม่มีลูกไม่มีหลาน อยู่กันสองคนกับลุงเขา เขาก็หาเลี้ยงป้ามาตลอด จนเขาเป็นโรคหัวใจแล้วโดนให้ออกจากงานเนี่ยแหละ ป้าเลยต้องหางานทำ แต่ว่าป้าอายุขนาดนี้ เรียนก็จบแค่ชั้นม.ปลายจะหางานทำตอนนี้ก็ยากแล้ว”

ป้าพูดอย่างอ่อนใจ ปารมีอยากจะพูดปลอบใจแต่ก็คิดหาคำดีๆไม่ได้

“สุดใจ อ่อนน้อมค่ะ”

พนักงานสาวออกมาเรียกชื่อคนที่ต้องเข้าสัมภาษณ์เป็นคนต่อไป แล้วป้าคนนั้นก็ลุกขึ้นแล้วหันมายิ้มให้ปารมีก่อนเดินเข้าไป

หายเข้าไปประมาณ 5 นาทีก็ออกมา แกกลับลงมานั่งที่เดิมแล้วเริ่มร้องไห้ คนอื่นๆซุบซิบกันว่าแกคงไม่ผ่าน ปารมีก็เลยทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่ปารมีจะพูดอะไรแกก็เงยหน้าขึ้นยิ้มทั้งน้ำตาให้ปารมี

“เขารับป้าล่ะ”

ปารมีฟังด้วยหัวใจกระตุกวูบ พลางคิดว่าตัวเองหมดโอกาสได้งานเสียแล้ว แต่เมื่อมาคิดดู ตัวปารมีนั้นยังมีโอกาสหางานอื่นง่ายกว่าป้าคนนี้อยู่มาก เขาจึงกุมมืออีกฝ่ายขึ้นมาเป็นเชิงแสดงความยินดีด้วยจากใจจริง

“คุณเลขาบอกว่าท่านประธานให้ป้าไปเป็นแม่บ้านให้น้องชายท่านประธาน เงินที่จะได้น้อยกว่าก็จริง”

ป้าพูดแล้วเช็ดน้ำตา

“แต่ทำงานบ้านเสร็จแล้วให้ป้าไปดูลุงที่โรงพยาบาลได้ด้วยนะ แถมยังว่าถ้าลุงหายแล้วก็ให้ไปช่วยงานที่บ้านและพักอยู่ที่นั่นเลยก็ได้ ท่านจะจ้างลุงไว้อีกคน แล้วค่ารักษาจากนี้ก็เบิกตามสวัสดิการได้ด้วยนะ ท่านใจดีมากเลย”

“ดีใจด้วยนะครับป้า ดีใจด้วย”

ป้ากุมมือปารมีตอบแล้วพูดว่าขอให้ปารมีได้งานด้วย

“ป้าจะกลับไปเก็บของก่อน จะไปยกเลิกห้องเช่าด้วย เขาบอกให้ป้าทำงานได้พรุ่งนี้เลยเลย แต่ย้ายได้ตั้งแต่วันนี้ จะเอารถไปช่วยขนของให้ป้าด้วย ป้าไปก่อนล่ะพ่อหนุ่ม ขอให้ได้งานนะ ”

“ครับ”

ปารมียิ้มอย่างปลื้มใจที่ป้าคนนั้นได้งาน และโล่งในอกไปนิดๆเมื่อตำแหน่งที่ตนมาสัมภาษณ์ยังไม่มีใครได้ไป ทีนี้ก็เป็นเขาที่ต้องมาลุ้นแล้วล่ะว่าจะได้งานทำหรือเปล่า

“คุณปารมี พรหมกาญจนะ”

ปารมีก็ลุกขึ้นหวาดๆ ไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะได้ทำงานนี้

พอเข้าไปในห้องสัมภาษณ์หญิงสาวที่บอกว่าเป็นเลขาของท่านประธานก็นั่งรออยู่แล้ว

“เชิญนั่ง”

“ขอบคุณครับ”

เธอมองปารมีอย่างพิจารณา เหมือนต้องการมองให้ทะลุ จนปารมีเกร็งมากขึ้นไปอีก

“คุณ..........ทำไมอยากมาทำงานนี้คะ”

คำถามแรกทำเอาปารมีต้องคิดหนัก จะต้องตอบว่าเพราะรักเด็กเลยอยากทำงานเกี่ยวกับเด็กดี หรือจะพูดยังไงให้ถูกใจผู้หญิงคนนี้ดี นึกเบื่อตัวเองที่ไม่ได้คิดคำพูดใดๆมาก่อนล่วงหน้าเลยเพราะมัวแต่ตื่นเต้น

“ว่าไงคะ”

เงียบไปนานจนอีกฝ่านต้องพูดเร่งให้ตอบ ปารมีที่ยังคิดอะไรไม่ออกเลยต้องตอบไปตามความจริงเท่านั้น

“คือที่จริง ผมต้องเลี้ยงลูกด้วยน่ะครับ เลยอยากหางานที่สามารถเลี้ยงเด็กไปด้วยได้”

คนถามขยับแว่นตาด้วยความสนใจ

“งั้นก็ไม่ได้หวังแปลกๆเพื่อที่จะเข้าไปอยู่ที่นั่น”

“หวังแปลกๆ?”

ปารมีขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าหวังแปลกๆมากนัก หรือว่าจะกลัวปารมีจับเด็กๆไปเรียกค่าไถ่ ...

“ถึงผมจะไม่มีเงิน ผมก็ไม่สิ้นคิดทำเรื่องผิดกฏหมายหรอกนะครับ”

ตอบอย่างรวดเร็วน้ำเสียงนิ่งได้มากขึ้นเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายกำลังดูถูกตน

เลขาสาวมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ท่าทางกำลังโกรธไปคนล่ะเรื่องกับที่เธอตั้งใจจะสื่อ ไม่รู้ว่าแกล้งพูดหรือเปล่า แต่ถ้าแกล้งก็คงเก่งมาก เพราะทำได้เหมือนจริงที่สุด ที่เธอถามนั้นหมายถึงว่าหวังแปลกๆเกี่ยวกับครอบครัวจอมไตรหรือเปล่าต่างหาก การที่ได้เข้าไปอยู่ในรั้วบ้านเดียวกับมหาเศรษฐีหนุ่ม 5 คนดูจะเป็นความใฝ่ฝันของสาวๆและหนุ่มๆมากมาย ถึงแม้ว่าหนึ่งในห้าจะมีคนรักแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยมีใครทราบ นี่ทำให้การคัดเลือกยุ่งยาก เพราะเกือบทั้งหมดที่มาสมัครต้องการเข้าไปเพื่อใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ด้วยเหตุผลอื่นมากกว่าการเข้าไปดูแลเด็กๆจริงๆ

“แล้วก่อนหน้านี้คุณทำงานอะไรมาคะ”

ปารมีเอ่ยชื่อร้านขนมในห้างที่เคยทำงานก่อนจะเอ่ยถึงเหตุผลที่ต้องลาออก

“ผมต้องดูแลลูกชายน่ะครับ เลยต้องออกจากงาน”

หญิงสาวมองดูใบสมัครงานที่เขียนชื่อร้านกับที่ปารมีบอก วันที่ออกจากงานก็เมื่อไม่นานมานี้เอง

“แล้วก่อนหน้านี้ล่ะคะ ใครดูแล”

ปารมีนิ่งไปชั่วอึดใจ เขาไม่ชอบโกหก แต่เรื่องจริงมันซับซ้อนและไม่ใช่เรื่องที่น่าเอามาเปิดเผยเท่าไหร่

“แม่เขาเพิ่งเอามาทิ้งไว้ที่ผมน่ะครับ แล้วก็หายตัวไป”

ปารมีพยายามพูดความจริง แม้จะไม่สามารถพูดออกไปได้ทั้งหมด แม่ในความหมายของชายหนุ่มหมายถึงแม่ของเด็กชายและหมายถึงแม่ของตัวเองด้วย แต่ก็ไม่ได้อธิบายขยายความให้คนตรงหน้าฟัง

“อ้อ ... เลยต้องออกจากงานเดิมสินะคะ”

“ครับ”

เลขาสาวเงียบไปอีก เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“คุณมีคนรู้จักทำงานในเครือของเราไหมคะ”

“เอ่อ...มีครับ”

“ขอทราบชื่อด้วยค่ะ”

“ผมบอกแล้วคงไม่ทำให้เขาเดือดร้อนนะครับ”

ปารมีถามเพื่อความแน่ใจ อีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบกลับมา

“เราถามเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือเท่านั้นค่ะ”

เมื่อแน่ใจว่าเพื่อนจะไม่เดือดร้อน ปารมีจึงยอมบอกชื่อเพื่อนออกไป

“กานท พัฒนาธิวัฒน์ครับ”

หญิงสาวจดชื่อใส่ในใบสมัครงานของเขา แล้วพิมพ์ชื่อลงในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่ตั้งอยู่ ภาพและประวัติของกลอนปรากฏขึ้น เธออ่านแล้วคิดว่า ปารมีผ่าน เพราะในประวัติการทำงานของกลอนที่หัวหน้าฝ่ายเขียนไว้ ไม่ได้มีข้อความให้ระวังเรื่องการจ้องจะจับคนในครอบครัวจอมไตร

................................................

เสื้อผ้าถูกลำเลียงใส่กระเป๋าจนเรียบร้อย ปารมีตรวจเช็คของอีกครั้งก่อนจะเดินทางออกจากห้อง ตาหวานยังหลับอยู่ ปารมีอุ้มน้องและสะพายกระเป๋าเป้เพื่อเดินทางไปบ้านจอมไตร เขาไม่คิดว่าจะได้รับเลือกให้ไปทดลองงาน เวลาผ่านมากว่าสองอาทิตย์ ปารมีตัดใจไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้สมัครงานที่ใหม่ พอดีว่าช่วงก่อนเจ้าของตึกนี้จัดงานเลี้ยงที่บ้าน จึงจ้างปารมีไปช่วยทำอาหารและขนม เงินที่ใกล้จะหมดเลยได้มาเพิ่มเติมบ้าง แม้แทบจะหมดไปทันทีเพราะค่าเช่าห้องก็เถอะ

ตอนที่ได้รับโทรศัพท์ให้ไปเข้าทดลองงานเมื่อสองวันก่อนต้องยอมรับว่าตกใจ  ชายหนุ่มนึกอยากจะขึ้นรถเมล์เพื่อความประหยัด แต่ก็กลัวหลงและสงสารเด็กชายที่ต้นอุ้มอยู่จึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่ แม้ว่าการจ่ายเงินครั้งนี้อาจทำเอาปารมีหมดตัว ปารมีก็ได้แต่หวังว่าจะได้รับค่าตอบแทนคุ้มกับที่จ่ายไป

................

TBC
ตอนที่ 2 จะมาลงให้วันเสาร์หรือเช้าอาทิตย์นะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 11-05-2012 02:45:17
ได้อ่าน ปามแล้ว
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-05-2012 02:58:09
รอมานาน แต่ก็คุ้ม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: thejaoil ที่ 11-05-2012 03:24:35
รออ่านๆๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 11-05-2012 03:33:21
เย้ ได้อ่านแล้ว!!

สนุกค่ะๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: mommamjingjing ที่ 11-05-2012 03:58:13
เย้ๆ ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่อง
ของคุณดินแล้ว อิอิ อยากรู้ว่ารุ่นใหญ่เค้าจะจีบกันยังไง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: tippy ที่ 11-05-2012 05:27:47
ดินกับปามมาแล้ววววววววววววววววว :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 11-05-2012 07:01:14
เย้ดีใจ  :mc4: :mc4:

รอคู่นี้ มานาน ดีใจที่เอามาลงให้อ่าน

ขอบคุณนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 11-05-2012 07:11:10
ยินดี่ต้อนรับสู่เล้าจร้าาาาาาาาาาาา   :mc4:   :mc4:   :mc4:

รอตอนต่อไปจร้าาาาาาา   :call:   :call:   :call:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 11-05-2012 07:47:39
ปามมีความอดทนและเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี
ตาหวานตอนเด็กๆคงจะน่ารักมา :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ppgf ที่ 11-05-2012 07:53:34
 :mc4: :mc4: :mc4:รอมานานนนนนนนนนน

จะติดตามจนจบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-05-2012 07:55:38
 :mc4: กลับมาให้ชื่นใจกันอีกแล้ว กับบ้านจอมไตร
มาดู ชีวิตของคุณปาม ว่าจะดำเนินแบบเรียบง่ายหรือว่าหวาดเสียว
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เจ้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 11-05-2012 07:56:43
น้องปามมมมม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 11-05-2012 08:09:33
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 11-05-2012 08:10:39
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 11-05-2012 08:24:04
ปามจ๋าาาาาา  :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 11-05-2012 08:42:44
เย่ๆๆๆ ได้อ่านต่อแล้ววววววววว T_______________________T

เพี้ยงๆๆๆ ลงจนจบด้วยเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 11-05-2012 08:48:58
 :mc4: ปามมาแล้ววววววว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 11-05-2012 09:11:04
มาแล้วๆๆๆๆๆ

รอติดตามน่ะค่ะ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 11-05-2012 09:24:02
ยินดีต้อนรับคุณดินกับน้องปามจ้าาาา~~ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 11-05-2012 10:12:50
ปามมาแล้วววววววววววววววววววว   :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 11-05-2012 10:17:25
ปามมาแล้ววว ได้อ่านคู่ยนี้สักที  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 11-05-2012 11:02:49

ตามอ่านคุณปามต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: thisispom ที่ 11-05-2012 11:33:31
มาแล้วๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 11-05-2012 11:38:31
อร๊ายยย รอตอนต่อไป ชอบซีรีส์นี้ที่สุด
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Ai_Rong_Kun ที่ 11-05-2012 11:53:35
น้าปามกับท่านประธานมาแล้วววววววววววววว.... หลังจากปล่อยให้ค้างในไม้+กลอนเสียแทบแย่

(เขาก็อยากรู้ไปตามประสาคนชอบเจือก อิอิ)  :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: changasa@hotmail.com ที่ 11-05-2012 11:53:47
กรี๊ดดดด มาแล้วจอมไตร รออ่านมากมาย  :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 11-05-2012 12:05:26
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 11-05-2012 13:01:06
 :L1:
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 11-05-2012 13:05:00
=w=''' ดูชื่อเรื่องแล้ว หลาย P สินะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 11-05-2012 13:22:41
รออยู่รออยู่นี้  รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 11-05-2012 13:30:23
รอตอนต่อไป
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 11-05-2012 13:36:47
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-05-2012 13:57:12
ตาหวานมาแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-05-2012 13:58:37
=w=''' ดูชื่อเรื่องแล้ว หลาย P สินะ

ไม่มีหลาย P ค่ะ ลองย้อนๆกลับไปอ่านซีรีย์นี้จากเรื่องก่อน ๆ ดูนะคะ สนุกมากกกก และจะได้รู้ว่า ไม่ 2 3 4 5 P แน่นอนค้า ^____^

ชอบธาราอ่ะ นึกถึงภาพสาวทอมก๋ากั๋นหน่อยๆ อิอิ


เอารูปผังบ้านจอมไตรมาฝาก ^^ ((เอ่อ...ถ้าเห็นว่าไม่ควรแปะบอกได้นะคะ เดี๋ยวมาลบให้ค่ะ))
(http://image.ohozaa.com/i/9d0/s7tha.jpg)


เผื่อใครงงค่ะ ถ้าเห็นไม่สมควรแจ้งลบได้นะคะ อยากให้ย้อนอ่านทุกคู่เลยคุณจิ๊บเขียนดีและสนุกจริง ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-05-2012 14:13:52
ดินกับปามมาแล้วววว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 11-05-2012 14:22:36
สู้ๆนะปาม c:
  มารอค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-05-2012 14:42:47
ชีวิตคิดบวก(สุดๆ) o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 11-05-2012 14:54:54
 :mc4:เย้ๆๆดีใจที่สุดอะได้อ่านคู่ของปามแล้ว :mc4: :mc4: :mc4:


แล้วจะรอตอนต่อไปคะ :bye2: :bye2: :call:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 11-05-2012 15:59:22
มาเอาใจช่วยตาหวานค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: eiei ที่ 11-05-2012 16:14:51
ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 11-05-2012 16:20:04
โอ้... มาแล้ว

ได้อ่านเรื่องของดินกับปามแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 11-05-2012 16:32:42
ดีใจมากมาย ในที่สุดก็มา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: yakusa ที่ 11-05-2012 17:21:16
รอ คอย และ สมหวัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 11-05-2012 18:00:37
อ่า เรื่องปามมาแล้ว รอมานานมาก จนอ่านเรื่องของกลอนจบไป 3 รอบแล้ววววว เป็นปลื้มมมมมม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 11-05-2012 18:33:38
เฮ~~~!!

ฉลองเรื่องใหม่!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 11-05-2012 18:52:26
ในที่สุดของที่สุดก็ได้อ่านคู่ของ

  ปาม & ดิน

 :laugh5:   :laugh5:   :laugh5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Heisei ที่ 11-05-2012 19:03:18
มาแล้วววววววว รอคอยจอมไตรมานานแสนนาน
ได้อ่านเรื่องปามซะที
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววว. ชอบๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 11-05-2012 19:13:02
ว้าวๆๆๆ

จะได้ไขข้อข้องใจสักที

รอค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 11-05-2012 19:30:11
กรี๊ดดดด มาอีกคู่แล้วววว
น้องปาม กับน้องตาหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 11-05-2012 20:19:21
รออ่านคู่นี้มานานแล้ว  อิอิ

แล้วก็คิดถึงไม้กลอนจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 11-05-2012 20:48:29
...บอกตามตรง พี่ยังงง อยู่ลำดับญาติไม่ค่อยถูกว่าใครเป็นใคร
...และเกี่ยวข้องกับเรื่องที่แล้วๆมายังไง ลางเลือนเต็มที คงต้องอ่านไปเรื่อยๆๆ ยังไงก็จะตามอ่านต่อไปจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 11-05-2012 20:58:47
เย้ๆ จอมไตรมาแล้วววว  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 11-05-2012 21:11:01
:) ดีใจได้อ่านเรื่องนี้แล้ว รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 11-05-2012 21:30:24
คุนปามมาแล้ว กรี๊ดดดดดดดดด :z2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 11-05-2012 22:22:12
 :L2:   จอมไตรซีรีย์

ปามสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 11-05-2012 22:29:38
 :mc4:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 11-05-2012 22:39:09
 :a2: :a2: ในที่สุดก็มาแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 12-05-2012 00:06:43
กลับมาลงอีกครั้งก็คู่รุ่นดึกกันเลย คุณดินกับอาปาม มีความสุขกับการได้จอมไตรซีรีย์ ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: zitronen-tee ที่ 12-05-2012 00:32:39
เย้ ได้อ่านเเล้ว :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 12-05-2012 00:38:08
ดีใจที่ได้อ่านจอมไตรอีกครั้งค่ะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 12-05-2012 00:42:12
พี่ก็รางเลือนเหมือนกัน
รู้แต่ว่าประทับใจกับจอมไตรซีรี่ย์
เพราะงั้น พี่ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆ ก่อนน่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: munbinkun ที่ 12-05-2012 01:06:36
เพิ่งจะได้ไปอ่านจอมไตรซีรีย์มาทั้งสองเรื่องไม่กี่วันก่อน แล้วมาเปิดเจออีกเรื่องแล้ว
 คราวนี้เป็นของพี่ดินซะด้วย ได้อ่านคู่นี้ซะที รอมานานแล้ว หุหุ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 12-05-2012 03:45:42
โอ้ยยยยยยยยยย คิดถึงจอมไตร
ตาหวานสุดที่รักของพี่เจน╰( ̄▽ ̄)╭ *โดนเตะ*
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 12-05-2012 08:38:05
ตามมาอ่านด้วยคนจ้า
เรื่องราวของปามน่าสงสารจัง แม่มีเหตุผลอะไร ทำไมทำอย่างนี้นะ
ขอให้ได้เจอเรื่องดีๆ ต่อจากนี้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 12-05-2012 11:43:34
ไม่มีหลาย P ค่ะ ลองย้อนๆกลับไปอ่านซีรีย์นี้จากเรื่องก่อน ๆ ดูนะคะ สนุกมากกกก และจะได้รู้ว่า ไม่ 2 3 4 5 P แน่นอนค้า ^____^

เผื่อใครงงค่ะ ถ้าเห็นไม่สมควรแจ้งลบได้นะคะ อยากให้ย้อนอ่านทุกคู่เลยคุณจิ๊บเขียนดีและสนุกจริง ๆ  :กอด1:
ชอบธาราอ่ะ นึกถึงภาพสาวทอมก๋ากั๋นหน่อยๆ อิอิ


เอารูปผังบ้านจอมไตรมาฝาก ^^ ((เอ่อ...ถ้าเห็นว่าไม่ควรแปะบอกได้นะคะ เดี๋ยวมาลบให้ค่ะ))
(http://image.ohozaa.com/i/9d0/s7tha.jpg)

ขอบคุณ iamnan ที่มาตอบแทนค่า ตามนั้นเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับผังตัวละครบ้านจอมไตรด้วยค่ะ ใครจำไม่ได้นึกไม่ออกกดไปดูกันนะค่า

ขอบคุณสำหรับคำชมด้วยค่ะ อิอิ

ตอนที่2

ปารมีกดอินเตอร์โฟนหน้าประตูรั้วด้วยใจกลัวๆกล้าๆ ป้ายบอกชื่อ บ้านจอมไตร ติดอยู่บริเวณกำแพงข้างประตูรั้วอัลลอย เนื้อที่บ้านเหลือประมาณยิ่งทำเอาปารมีใจไม่ดี ในรั้วบ้านมองเห็นบ้านห้าหลังเรียงรายกันอยู่ รูปทรงของบ้านแต่ละหลังแตกต่างกันไป 

“มาหาใครครับ”

เสียงคนด้านในตอบกลับออกมา ปารมีแจ้งชื่อตัวเองและจุดประสงค์การมา ไม่นานประตูก็เปิดออก พร้อมกันลุงคนหนึ่งขับรถกอล์ฟมารับ

รถจอดลงตรงหน้าบ้านหลังกลางซึ่งดูเก่าแก่ที่สุดในบรรดาบ้านทุกหลัง เลขาสาวที่สัมภาษณ์ปารมียืนรออยู่ตรงหน้าบ้านก่อนแล้ว

“สวัสดีครับ”

ปารมีทักทายหญิงสาวและได้รับรอยยิ้มกลับมาแทนคำตอบรับ

“วันนี้คุณหนูๆหยุดพอดี เดี๋ยวก็จะได้เจอกันเลย แต่ตอนนี้กำลังไปว่ายน้ำกับน้องชายท่านประธาน”

เธอชี้แจงโดยลอบมองปฏิกิริยาของปารมีไปด้วย เมื่อเห็นว่าปารมีเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับการบอกเล่าถึงน้องชายท่านประธานก็แอบโล่งใจที่ดูเหมือนคราวนี้ตัวเองจะเลือกคนไม่ผิด เธอเดินนำปารมีขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านและพามาหยุดยังห้องหนึ่ง

“นี่คือห้องพักของคุณ ขอชี้แจงเรื่องการทำงานอีกครั้งนะคะ วันธรรมดาทำงานช่วงเช้าก่อนคุณหนูทั้งสามคนไปโรงเรียนและตอนเย็นหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน ดูแลอาหารเช้าเย็น จนถึงเวลาสามทุ่มซึ่งเป็นเวลาเข้านอนของทั้งสามคน ส่วนเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดอื่นๆ ให้คุณช่วยดูแลช่วงอาหารเที่ยงเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น นอกนั้นเหมือนวันธรรมดา มีอะไรสงสัยไหมคะ”

ปารมีสั่นหัวแทนคำตอบทั้งๆที่ฟังที่หญิงสาวพูดแทบไม่ทัน

“งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวน้องชายท่านประธานจะเป็นคนแนะนำคุณให้คุณหนูทั้งสามเอง”

ว่าแล้วเธอก็เดินจากไปอย่างรีบร้อน แต่ก่อนออกไปก็ยังไม่วายหันมาพูดอวยพรว่า ขอให้โชคดี ปารมียิ้มรับ แต่ยังสงสัยสายตาของคุณเลขาไม่หาย เหมือนจะสงสารปารมียังไงไม่รู้

ปารมีวางตาหวานลงบนที่นอน เด็กชายนอนหลับมาตั้งแต่อยู่บนรถแท็กซี่และยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่น ร่างบางเริ่มจัดข้าวของเข้าที่ไปพลางๆในขณะที่ว่าง ไม่นานก็ได้ยินเสียงเด็กดังมาจากชั้นล่าง จึงหยุดมือและลงไปเพื่อแนะนำตัวเอง

“คุณคงเป็นคุณปารมี ผมวฏะฮะ เรียกไม้ก็ได้”

ไม้แนะนำตัวด้วยท่าทางเป็นมิตรและขี้เล่นตามแบบฉบับของเขา แต่เด็กสามคนกลับมองผ่านเลยปารมีไป ไม่สนใจสักนิด พอปารมีหันไปมองด้วยความสงสัย คุณไม้เลยยิ้มอย่างเห็นใจมาให้

“พวกเด็กๆไม่ค่อยชอบพี่เลี้ยงน่ะครับ”

ปารมีพยักหน้าเข้าใจ กลอนเคยมาพูดให้ฟังว่าลูกท่านประธานดื้อ แถมหวงพ่อและอาๆที่สุด

ไม้อยู่ไม่นานก็ขอตัวกลับ เด็กๆหายขึ้นไปยังชั้นสองบ้าน ไม้บอกว่าไม่ต้องตามไป หากปารมีก็ยังลังเลว่าจะเอายังไง แต่แล้วเสียงร้องของตาหวานก็ดังขึ้นมาซะก่อน เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนคนอื่นๆปารมีจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู  ในห้องไม่ได้มีเพียงตาหวานที่นอนร้องไห้จ้าอยู่บนเตียง รอบๆเตียงยังมีเด็กชายทั้งสามยืนอยู่ไม่ห่าง ท่าทางของเด็กๆเหมือนคนทำอะไรไม่ถูกและแตกตื่นตกใจ เด็กชายที่ดูจะเป็นน้องคนเล็กก็กำลังตั้งท่าจะร้องไห้ตามตาหวานไปอีกคน

“พวกเราไม่ได้ทำอะไรนะ”

พวกเด็กๆรีบแก้ตัว ซึ่งปารมีก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่เดินไปชงนมและนำมาป้อนตาหวานเท่านั้น อันที่จริงเด็กชายตัวน้อยจะตื่นขึ้นมาเวลานี้และร้องไห้ก็ไม่แปลกนักเพราะได้เวลาดื่มนมอยู่แล้ว แต่เด็กทั้งสามคนไม่รู้จึงกลัวจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำให้น้องร้องไห้ เด็กสามคนจ้องมองน้องตัวเล็กๆดื่มนมจากขวดตาแป๋ว

“คนนิ่”

“บอกแล้วว่าไม่ใช่ตุ๊กตา”

เด็กชายสองคนที่หน้าเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวเถียงกันเบาๆ

“น้อง... ของคุณเหรอฮับ”

เด็กชายซึ่งตัวเล็กกว่าเพื่อนเดินเข้ามาเกาะแขนปารมีแล้วถาม ปารมียิ้มให้และพยักหน้า

“นินขอได้ไหม นินอยากมีน้อง”

ปารมียิ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยพูดไปทำท่าอ้อนไปโดยลืมท่าทางเป็นอริเมื่อแรกเจอจนหมด ฝ่ายพี่ชายทั้งสอง พอเห็นน้องขอก็เลยเรียกร้องขอบ้าง

“ทำยังนั้นไม่ได้หรอกนะครับ น้องไม่ใช่สิ่งของจะให้กันไม่ได้หรอก”

ปารมีเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น เด็กๆท่าทางน่าเอ็นดูไม่เห็นจะดื้อ ซน หรือมีอะไรอย่างที่นึกกลัวเลยสักนิด ปารมีดันลืมนึกไปว่า เหตุใดเด็กทั้งสามคนจึงมาอยู่ในห้องนี้ จะอะไรเสียอีก หากไม่ใช่ทั้งสามวางแผนจะสร้างความแตกตื่นในห้องนอนด้วยสารพัดสัตว์ปลอมเป็นการต้อนรับพี่เลี้ยงคนใหม่ และเป็นการเริ่มต้นแผนขับไล่พี่เลี้ยงอย่างทุกครั้ง

แต่ครั้งนี้มันต่างไป เมื่อเด็กทั้งสามเดินเข้ามาแล้วมองเห็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่นอนหลับอยู่บนเตียง สองแฝดเถียงกันว่าสิ่งที่เห็นเป็นคนหรือตุ๊กตา ในขณะที่น้องคนเล็กขยับเข้าไปใกล้และตั้งใจจะอุ้มกลับห้องเพราะนึกอยากได้ หากแต่ตาหวานราวกับรู้ เด็กชายแผดเสียงร้องลั่นจนทั้งสามคนผงะถอยออกห่างแทบจะทันที จนปารมีวิ่งขึนมานี่แหละ

“แต่นินอยากได้นิ่”

น้องคนเล็กยังไม่ยอมแพ้ ตั้งท่าแบะปากจะร้องไห้เพราะโดนขัดใจ

“ผมด้วย”

“ผมด้วย”

ดูเหมือนอธิบายอะไรไปก็ไม่ได้ทำให้เด็กๆรู้เรื่องเลย ปารมียิ้มอย่างอ่อนใจแล้วเปลี่ยนจากการปฏิเสธเป็นการยื่นข้อเสนอ

“เอางี้ไหมครับ น้องจะไม่เป็นของใคร แต่ว่าเรามาช่วยกันเลี้ยงน้องดีไหมครับ น้องก็จะเหมือนเป็นของทุกคนไง”

ทั้งสามคนหยุดคิด พี่ชายสองคนซุบซิบปรึกษากันโดยมีน้องสุดท้องจ้องมองพี่ชายอย่างมีความหวัง เมื่อพี่ชายพยักหน้าก็ยิ้มกว้างดีใจ

ทั้งสามจึงสัญญาว่าจะช่วยดูน้องเพราะน้องเป็นของทุกคน

“คุณชื่ออะไรคับ แล้วน้องชื่ออะไร”

“น้องอายุเท่าไหร่ฮะ”

“น้องกินขนมได้ไหม”

“น้องกินน้ำหวานได้ไหม”

คำถามมากมายที่ทั้งสามคนแย่งกันถามโดยไม่รอฟังคำตอบทำเอาปารมีอดยิ้มไม่ได้ ปกติเขาไม่ได้ชอบเด็กเป็นพิเศษ แต่รู้สึกว่าตั้งแต่เลี้ยงตาหวานเขาจะมองเด็กๆว่าน่ารักขึ้นยังไงไม่รู้

เด็กๆสามคน คือ ปฐพี ปฐวี เป็นแฝดที่เหมือนกันมาก ใบหน้าคมคายอย่างคนไทย แต่ดวงตากลับเป็นสีเขียวมรกต แล้วก็ธรณิน ที่หน้าเหมือนพี่ชายทั้งสอง หากธรณินมีสิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าไม่ใช่คนไทยแท้ ผมสีชานั้นบอกได้เป็นอย่างดี แต่ที่แปลกคือ สีตาที่ดำสนิท  ทั้งสามคนดูจะเห่อตาหวานมาก ขนาดอาสาเฝ้าให้ตอนที่ปารมีลงไปทำอาหาร และเพราะตาหวานนี่เองที่ทำให้เด็กๆญาติดีกับปารมี แต่ก็ไม่วายขู่ไว้ว่า

“ถ้าคิดจะมาจับพ่อล่ะก็ เป็นเรื่องแน่”

ปารมีฟังภาษาพูดของเด็กๆแล้วอ่อนอกอ่อนใจ จับเนี่ยนะ ใครสั่งใครสอนภาษาแบบนี้กันล่ะเนี่ย

“ก็ได้ยินพี่เลี้ยงคนก่อนๆพูดในโทรศัพท์ว่างั้นนิ่ฮะ”

ชักจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสมควรไล่ออกไปจริงๆ ก็พี่เลี้ยงที่พูดคำแบบนี้ให้เด็กๆได้ยิน มันก็ไม่น่าให้อยู่ใกล้เด็กๆ

ปารมีลงมาทำอาหารโดยฝากตาหวานให้อยู่กับพี่ๆ อันที่จริงถึงจะพูดว่าทำอาหาร แต่หน้าที่ที่ต้องทำจริงๆก็แค่คิดเมนูสำหรับเด็กๆและบอกแม่ครัว แต่ปารมีคิดว่าแค่นั้นมันดูไม่คุ้มค่าจ้างจึงตั้งใจจะลงมือทำอาหารเอง จากที่คิดอยู่นานว่าจะทำอะไรดีก็ตกลงใจทำ ต้มจืด กับหมูหวาน ตอนแรกว่าจะทำแค่สองอย่างแต่ก็ทำไก่ราดซอสเพิ่มอีกจนได้ ส่วนของหวานปารมีเลือกทำวุ้นผลไม้ให้เด็กๆกิน หลังจากทำอาหารเสร็จก็ได้เวลาทานอาหารเย็นพอดี  ปารมีออกมาตามเด็กๆแต่ได้รับคำตอบว่า จะรอกินพร้อมคุณพ่อ

“คุณพ่อสัญญาว่าจะมากินด้วยวันนี้”

ปฐวีกล่าวหนักแน่นและไม่มีใครยอมไปกินข้าวก่อนสักคน ในที่สุดปารมีก็ยอมแพ้ จำใจยกวุ้นผลไม้มาให้เด็กๆได้รองท้องกันก่อน

สองทุ่มครึ่ง

ยังไม่มีวี่แววว่าพ่อของเด็กๆจะมาตามที่สัญญาไว้ ธรณินหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้เมื่อรู้สึกหิวมากแล้ว

“ไปกินกันก่อนเถอะนะครับ เดี๋ยวไม่มีแรงอุ้มน้องนะ”

เมื่อได้ยินปารมีพูดแบบนั้น และดูท่าทางว่าพ่อของตนจะไม่มาตามนัดเสียแล้ว เด็กๆทั้งสามคนเลยยอมกินข้าว แต่ก็แตะเพียงไม่มากเพราะมันเลยเวลาอาหารมามากแล้ว เมื่อกินเสร็จก็ต้องไปอาบน้ำเข้านอนเลย

หลังจากที่ส่งเด็กๆและเอาตาหวานเข้านอนแล้ว ปารมีก็ลงมานั่งข้างล่าง รอการกลับมาของเจ้านาย  เวลาเที่ยงคืนกว่า เสียงรถเข้ามาจอด และการปรากฏของร่างสูงใหญ่สมชายอย่างที่ปารมีนึกอยากให้ตัวเองเป็นแบบนั้นบ้างเดินเข้ามายังตัวบ้าน เพราะไม่ได้เปิดไฟไว้คนมาใหม่จึงไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องรับแขก

“คุณวสุธา”

ปารมีส่งเสียงเรียกเพื่อให้ฝ่ายนั้นรับรู้การมีอยู่ของตน

ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงักค้าง วสุธาหันมามองทางต้นเสียงเมื่อเห็นร่างของปารมีเป็นเงาตะคุ่มอยู่บนโซฟา จึงหันหลังเดินกลับลงมา

“คุณ พี่เลี้ยงคนใหม่หรือ”

ปารมีมองสายตาเย็นชาที่ส่งตรงมายังตนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก มันมืดก็จริง แต่พอเข้ามาในระยะสายตาแบบนี้แล้ว เห็นชัดทีเดียวล่ะ แล้วเรื่องอะไรต้องมามองกันแบบนั้นด้วย เพราะคิดว่าการนั่งนั้นทำให้ดูเสียเปรียบอีกฝ่าย ปารมีจึงลุกขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เพราะยิ่งลุกขึ้น ก็ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนถึงความแตกต่างด้านรูปร่าง

“ครับ ผมปรามี”

ปารมีพยายามพูดด้วยความเป็นมิตร พยายามคิดว่าความเย็นชา ไม่ค่อยพอใจที่อีกฝ่ายแผ่ออกมาในทุกอนูรอบๆตัวนั้นเป็นการคิดไปเองของตน

“แล้วมานั่งทำอะไรมืดๆดึกๆแบบนี้ ... หรือว่า… รอผม?”

สูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อนระงับความไม่พอใจจากน้ำเสียงระอาเหมือนรำคาญเต็มทนของอีกฝ่าย คิดไปเอง เราคิดไปเอง ปารมีท่องไว้ในใจ เขาไม่ได้ทำแบบนั้นหรอก เราคิดไปเอง

“ครับ มารอคุณ”

ปารมีตอบกลับไปเพียงเท่านั้น ร่างของปารมีก็ลอยหวือเข้ากระแทกอกของคนตรงหน้าทันที

“เอานะ อุตส่าห์นั่งรอตั้งค่อนคืน จะสนองให้สักครั้งแล้วกัน”

สนอง สนองอะไรกัน ปารมียังมึนๆแต่คิดว่าท่าทางแบบนี้ไม่ดีแน่ พยายามจะดันตัวออกเพื่อพูดกันให้รู้เรื่อง แต่ยังไม่ทันทำได้สำเร็จ มือหนาก็ดันคางปารมีให้เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากโดนทาบทับในทันใด ปารมีไม่ได้ตั้งตัวสักนิด มือที่ดันคางเฉยๆเปลี่ยนเป็นบีบอย่างแรงเมื่อปารมีไม่ให้ความร่วมมือในการรุกราน ร่างบางจำใจต้องเปิดรับลิ้นร้อนๆเข้าในโพรงปากเมื่อไม่สามารถต้านทานความเจ็บได้ หายใจไม่ออก คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก แน่ล่ะ ปารมีเคยมีประสบการณ์แบบนี้ที่ไหน เขาไม่เคยมีแฟน เพราะต้องทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่ตลอดเวลา ผู้หญิงที่ไหนจะมาสนใจ

“อือ”

ลิ้นร้อนเข้าสำรวจไปทั่วทั้งโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดเรียกร้องให้ปารมีตอบสนองการรุกรานนั้นอย่างช่ำชอง ปารมีแทบจะหมดสติอยู่แล้วตอนที่วสุธาผละออกไป ขาที่ยืนอยู่ไม่มีแรงจนทรุดลงไปนั่ง  พยายามกอบโกยลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่

“หึ”

เสียงจากลำคอของอีกฝ่ายทำให้ปารมีต้องเงยหน้าขึ้นมอง สายตาดูถูกเหยียดหยามที่ได้รับทำให้สติกลับคืนมาในทันที เร็วเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะทันตั้งตัว ปารมียืนขึ้นและตวัดมือลงไปยังใบหน้าแกร่งเต็มแรง ทุกอย่างสงบนิ่ง นิ่งเกินไปจนน่ากลัว ปารมีนิ่งเพราะตกใจตัวเองที่ทำได้ขนาดนั้น ส่วนวสุธานิ่งไปเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้า

 ปารมีได้สติก่อนและถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว น่ากลัว สัญชาตญาณตัวเองบอกอย่างนั้น

“คุณทำไม่ดีก่อนนะ”

คำพูดนี้ดูเหมือนจะไม่ทำให้วสุธาลดความโกรธลงเลย

“ทำไม ก็นายต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ถึงได้มานั่งรอ”

ปารมีมองอีกฝ่าย ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีใครหลงตัวเองได้ขนาดนี้

“จะบ้าเหรอ”

แหวสุดเสียงลืมความกลัวไปทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องที่เด็กๆไม่ยอมกินข้าวเมื่อตอนเย็น สาเหตุที่ตัวเองต้องมานั่งรออีกฝ่ายจนค่อนคืน

“ทำไมคุณถึงเพิ่งกลับ”

“เรื่องนั้น ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องมาเกี่ยว”

วสุธาหงุดหงิดเมื่อนึกว่าพี่เลี้ยงคนนี้ก้าวก่ายเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองอยู่

 “ไม่เกี่ยว? พูดออกมาได้ไงครับ เพราะคุณสัญญาแต่ไม่มาเด็กๆเลยไม่ยอมกินข้าวตรงเวลา แล้วผมจะไม่เกี่ยวได้อย่างไร”

พอพูดถึงลูกๆดูวสุธาจะระงับอารมณ์ลงได้บ้าง

“เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ๆคุณต้องจัดการไม่ใช่หรือ”

แต่ดูเหมือนจะเป็นพวกเอาอะไรต้องได้อย่างใจ และไม่เคยผิดเลยสักครั้ง ถึงได้โยนเรื่องการที่ตัวเองผิดสัญญากับลูกให้คนอื่นจัดการแบบนี้

“อย่ามาตลกนะครับ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าสัญญาสิ”

“เพราะคิดว่าจะทำได้ถึงสัญญาต่างหาก แต่พอมีงานเข้ามาก็ช่วยไม่ได้”

วสุธาไม่คิดแก้ตัว แต่เริ่มง่วงนอนและรำคาญจึงยอมบอกเหตุผลที่ตัวเองมาตามนัดไม่ได้

“โทรมาบอกไม่ได้หรือไงเล่า”

“ไม่ว่างพอหรอกนะ”

“คุณนี่มัน”

การปะทะคารมของทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร

“ถ้าแค่สัญญากับลูกยังทำไม่ได้ แล้วไปทำสัญญาใหญ่ๆได้ยังไง ไม่รู้ว่าบริษัทของคุณอยู่รอดมาได้ยังไง  แต่ก็ตามใจคุณเถอะ”

ว่าแล้วก็เดินหนีขึ้นไปข้างบนเสียก่อน ดูเหมือนปารมีจะยอมถอย แต่ในความคิดของวสุธา เหมือนตัวเองแพ้ยังไงไม่รู้ ที่จริงวันนี้เขาไม่ได้สัญญากับลูกไว้สักหน่อย แค่พูดว่า ถ้างานเสร็จจะมาให้ทัน ก็แค่นั้น แต่ดูเหมือนสำหรับเด็กๆนั่นคือการสัญญาสินะ ยังไงก็เถอะ ทำไมเขาต้องมานั่งฟังพี่เลี้ยงของลูกๆตำหนิตัวเองด้วยเนี่ย อยู่กันไม่ได้แน่ๆแบบนี้

…………..

“สงสัยโดนไล่ออกแน่ๆ”

ปารมีมานั่งทบทวนตัวเองในห้องแล้วได้บทสรุปแบบนั้น

ปกติปารมีเป็นพวกหลีกเลี่ยงการต้องมีเรื่องกับคนอื่นแท้ๆ แต่มันก็อดโมโหไม่ได้จริงๆเมื่อนึกถึงการกระทำต่างๆของอีกฝ่าย ทั้งคำพูดคำจา ทั้งการผิดนัดผิดสัญญา แล้วยังมาจูบเขาเสียอีก

“เฮ้อ...”

เอาเถอะ ถ้าเพราะเรื่องนี้ต้องออกก็ช่าง ดีกว่าทำงานกับเจ้านายที่ไม่รักษาสัญญากับลูกตัวเอง

คิด คิด คิด คิดจนหลับไปในที่สุด

.............................


มีต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 12-05-2012 11:46:44
“เพราะใส่ใจเด็กๆไม่ใช่หรือคะ คุณปารมีเขาถึงทำแบบนั้น”

ทันทีที่วสุธาเล่าเรื่องเมื่อคืนให้เลขาตัวเองฟัง ก็ได้รับคำตอบกลับมาแบบนั้น

“และดูเหมือนท่านประธานจะทำเกินไปนะที่ไปบังคับจูบเขา”

วสุธามองหน้าลูกน้องที่ช่างตำหนิตรงๆได้อย่างไม่เกรงใจ แต่หญิงสาวไม่มีทีท่าว่ากลัวสักนิด

“คุณผิด ต้องไปขอโทษมากกว่าไล่ออกซะอีก”

“จะมากไปแล้วนะนก”

ในทีสุดวสุธาก็โผงออกมาอย่างทนไม่ได้ ที่จริงแล้วหญิงสาวเป็นเพื่อนที่เรียนมหาลัยมาด้วยกัน และเป็นเพื่อนสนิทกับเลวี่ ภรรยาที่จากไปของวสุธา นั่นทำให้เธอทำงานกับวสุธาที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยรู้จักคำว่าผิดหรือขอโทษมาได้นาน

“ก็มันจริงนี่นา”

เลขาสาวยังลอยหน้าลอยตาพูด ไม่เกรงกลัวคนตรงหน้าสักนิด ปกติถ้าตามหน้าที่การงานเธอต้องเชื่อฟังเจ้านายโดยไม่มีข้อบิดพริ้ว แต่ในฐานะเพื่อนย่อมไม่ต้องการให้เพื่อนทำผิด และการที่ปารมีซึ่งดูจะตั้งใจดูแลเด็กๆจริงๆต้องโดนไล่ออกไปเพราะความไม่พอใจของวสุธา มันก็ดูไม่ถูกต้อง เหนือสิ่งอื่นใด การจะหาพี่เลี้ยงดีๆ ที่ไม่คิดจะจับคนในครอบครัวนี้ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

“อย่าพูดมากน่า คิดว่าใครเป็นคนเหนื่อยเวลาหาพี่เลี้ยงกัน”

ในที่สุด วสุธาก็จำใจยอมแพ้ ด้วยเหตุผลที่ว่าปารมีทำไปเพราะเป็นห่วงลูกของตนนั่นเอง

........................................

ปารมีแปลกใจที่ไม่โดนไล่ออก แต่เมื่อไม่ไล่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องไป เอาเถอะ การเป็นพี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ได้ยากเย็นนักสำหรับปารมี แต่การรับมือกับพ่อของเด็กที่ชวนทะเลาะตลอดเวลานี่แหละที่ทำให้เหนื่อยเกินความจำเป็น จนปารมียังคิดเลยว่า ขอขึ้นเงินเดือนซะดีมั้ย เป็นเบี้ยเลี้ยงในการใช้สมองมาต่อปากต่อคำกับเจ้านาย

“นี่มันอาหารอะไรกันเนี่ย”

ทันที่นั่งลง นี่คือคำแรกที่วสุธาพูดออกมา

“ก็อาหารของเด็กๆไงครับ”

ปารมีตอบกลับด้วยท่าทางเฉยๆ สบายๆ ทั้งๆที่ในใจแอบอมยิ้ม เขารู้มาจากคุณแม่บ้านว่าวสุธาไม่ชอบทานอะไรหวานๆ แต่ทั้งๆที่รู้ อาหารวันนี้กลับมีแต่ของหวานๆทั้งนั้น ผัดผักเปรี้ยวหวาน ไข่ลูกเขย  ไก่ต้มซอสมะเขือเทศ แต่ปารมีก็ยังใจดีทำต้มจืดไว้อีกถ้วย ถึงจะอยากแกล้ง แต่มากเกินไปก็คงไม่ดีนัก

“ลูกผมคงเป็นเบาหวานตายเพราะคุณ”

ปารมียิ้มรับคำพูดนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่คำนึงถึง แต่ว่าน้ำตาลก็เป็นอาหารของสมอง และถึงมื้อนี้จะหนักหวานไปหน่อย แต่มื้ออื่นๆก็ปรับลงให้พอดีได้ ที่สำคัญ ไอ้การออกกำลังกายต่างๆนาๆที่เด็กๆต้องเรียนรู้นั่นคงทำให้มีร่างกายแข็งแรงพอจะรับมือกับน้ำตาลพวกนี้ได้สบายๆอยู่แล้ว

วสุธานั่งพะอืดพะอมไปตลอดมื้ออาหาร ยิ่งลูกๆที่ดีใจว่าพ่อว่างมากินข้าวด้วยตักโน่นตักนี่ให้วสุธาทานตลอดทำให้วสุธายิ่งแย่  ในขณะที่ปารมีพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่ายอย่างที่สุด

หลังกินข้าวเสร็จ ของหวานวันนี้คือบัวลอย แน่นอนว่าวสุธาปฏิเสธไม่กินเด็ดขาด แต่หลังจากที่ผู้เป็นพ่อขอตัวเลี่ยงไปแล้วนั้น ปารมีก็ยกฝรั่งออกมาให้เด็กๆกินด้วย ปารมีบอกตัวเองว่า ไม่ใช่อยากแกล้งวสุธา แต่เขาเดินออกไปก่อนเองก็เท่านั้น

ปารมียิ้มอย่างพอใจกับผลงานของตัวเองในวันนี้ เขายังคนยืนยันว่าตัวเองไม่ชอบมีเรื่องและไม่หาเรื่องใคร แต่ไม่รู้ทำไมกับวสุธา แม้จะเหมือนกับแกล้ง แต่การที่ได้ทำให้ร่างสูงๆนั้นแสดงสีหน้าอื่นๆแทนตีหน้านิ่งเฉยกลับทำให้ปารมียิ้มออกมาได้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

...........................................

และแล้วในวันถัดมา ปารมีก็ต้องแอบเสียใจนิดหน่อยว่าไม่น่าไปแกล้งวสุธาเลย

วันหยุดที่วสุธาพาเด็กๆออกมาเที่ยว และปารมีต้องออกมาด้วยในฐานะของพี่เลี้ยง คนที่บ้านจอมไตรทุกคนพร้อมใจพากันกลับบ้าน ไม่ก็ออกไปทำธุระกันหมด ปารมีจึงต้องพาตาหวานออกมาด้วย ที่ๆวสุธาพาไปเป็นสวนเล็กๆ มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่นว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือปีนเขาจำลอง แล้วยังมีทะเลสาบที่สวยงาม นับว่าเป็นสถานที่ๆเหมาะสำหรับการผักผ่อนของครอบครัวจริงๆ ปารมีต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมอาหารให้พอสำหรับวันนี้ เพราะวสุธาไม่ต้องการให้เด็กๆทานอาหารข้างนอกที่ไม่แน่ใจว่าสะอาดหรือไม่...........ไม่ใช่ว่าปกติวสุธาเป็นอย่างนี้หรอกนะ ทุกทีก็เห็นว่าเด็กๆจะกินอะไรที่ไหนก็ไม่เคยบ่น แต่วันนี้เกิดจะมีอนามัยขึ้นมา

ถึงจะค่อนข้างแปลกใจ แต่ปารมีก็เป็นแค่ลูกจ้าง เจ้านายสั่งมาก็มีหน้าที่ทำตาม แล้วปารมีก็ค่อนข้างเห็นด้วยที่จะทำอาหารไปกินเองมากกว่าไปซื้อเอา

พอไปถึงที่หมาย เด็กๆก็ช่วยกันยกของลงจากรถ คนละไม้ล่ะมือส่วนปารมีต้องอุ้มตาหวานไปพร้อมๆกับหิ้วข้าวของๆตาหวานไปด้วย แน่นอนว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากวสุธาเลยสักนิด

กว่าจะเดินไปถึงที่ว่างซึ่งร่มรื่นพอให้ปูเสื่อ แขนปารมีก็ล้าเป็นอย่างมาก ใครไม่เคยอุ้มเด็กข้างหนึ่ง หิ้วของไปด้วยอีกข้างนานๆไม่มีทางเข้าใจได้ถึงความเมื่อยแขนหรอก บ่อยครั้งที่ปารมีคิดว่าไม่ไหวแล้ว แต่พอคิดถึงว่าถ้าไม่ทนตาหวานอาจจะหลุดตกลงไป และที่สำคัญวสุธาที่เดินตามมาข้างหลังนั้นอาจจะหัวเราะเยาะเอา ไอ้จะไปขอให้ช่วยก็อย่าหวัง พอคิดแบบนั้นก็เลยพยายามเดินมาจนถึงที่

ยังดีที่ช่วงต่อจากนั้นเป็นช่วงกิจกรรมซึ่งปารมีไม่ต้องเข้าไปร่วมด้วย ปารมีใช้เวลาพักผ่อนและเล่นกับตาหวาน ไม่นานเด็กชายนอนก็นอนหลับหลังจากดื่มนม ด้วยสถานที่ร่มรื่นและมีลมเย็นๆพัดผ่านเอื่อยๆตลอดเวลา ปารมีที่นอนอยู่ก็อดจะเคลิ้มๆไปไม่ได้ หากแต่ยังไม่ทันได้หลับลงไปจริงๆสี่พ่อลูกก็กลับมาจากการทำกิจกรรมต่างๆ และดูท่าจะกำลังหิวกันมากเสียด้วย

“คุณปามๆ เดี๋ยวไปขี่จักรยานด้วยกันนะครับ”

ปฐพีซึ่งเป็นแฝดคนพี่เอ่ยชวน ปารมีทำหน้าปั้นยาก ด้วยเรื่องพวกนี้ตัวเองไม่ถนัดมาแต่ไหนแต่ไร

“ทำไมไม่ชวนคุณพ่อไปล่ะครับ”

เมื่อหาทางออกไม่ได้ก็โยนให้คนเป็นพ่อเสียเลย

“ไม่เอาอ่ะครับ คุณพ่อขี่เร็ว พวกเราขี่แข่งด้วยแล้วแพ้ทุกที”

ปารมีถอนหายใจในขณะที่วสุธาหัวเราะออกมาเบาๆ ก็เด็กๆพูดอย่างนี้แสดงว่าปารมีนั้นท่าทางไม่น่าจะชนะได้ถึงได้ชวนไม่ใช่หรือไง

“แล้วใครจะดูน้องล่ะครับ”

ข้ออ้างสุดท้าย แต่ดูจะไม่มีประโยชน์ในการใช้อ้างนัก

“เดี๋ยวผมดูให้”

เท่านั้นแหละ หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ เด็กๆก็ลากปารมีออกไปขี่จักรยานทันที ปารมีเหนื่อยแทบขาดใจ เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ต่างจากเด็กๆที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ไม่มากเท่าที่ปารมีเหนื่อยหรอก แถมที่แข่งๆกัน ปารมียังแพ้เสียทุกที

“คุณ...แกล้ง...กัน...นิ่…”

ปารมีพูดไปหอบหายใจไปด้วยความเหนื่อย เขากลับมาเจอวสุธาที่กำลังนอนเล่นข้างๆตาหวานที่ตื่นและกำลังพยายามจะคืบ เด็กน้อยกำลังหัวเราะเพราะวสุธาเอาของเล่นมาส่ายให้มันเต้นดุกดิกล่อหลอกให้ตัวเองพยายามคืบเข้าหาเจ้าสิ่งนั้น

วสุธาเงยหน้ามองปารมีแวบนึงก่อนจะส่งยิ้มให้ รอยยิ้มที่ไม่น่าประทับใจสักนิด ในดวงตาของร่างสูงวิบวับ ปารมีไม่อยากจะคิดแต่ดูเหมือนเรื่องที่วสุธาเป็นคนเสนอความคิดให้เด็กๆชวนปารมีออกไปขี่จักรยานจะเป็นเรื่องจริง

“แกล้งตรงไหน”

ถามกลับอย่างกับไม่รู้ตัว ปารมีเองก็ไม่กล้าพูดว่าวสุธาแกล้งตรงไหน เพราะวสุธาไม่ได้แสดงออกชัดเจน เลยจำใจเลิกหัวข้อสนทนานี้

“เอาล่ะ เราไปว่ายน้ำกันดีกว่าเด็กๆ”

กิจกรรมสุดท้าย วสุธาพาเด็กๆไปว่ายน้ำยังสระที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก ส่วนปารมีก็มานั่งนวดเนื้อนวดตัวเพราะความเมื่อย ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่หรอก แต่พรุ่งนี้นี่สิ ไม่อยากจะคิด

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง วสุธาจึงพาเด็กๆที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วกลับมา แน่นอน เด็กๆหิวอีกแล้ว และอาหารที่เหลือก็ถูกจัดการจนเรียบ

ทั้งวันผ่านมาด้วยความทุลักทุเล..............หมายถึงปารมีน่ะนะ แต่คนอื่นๆดูจะมีความสุขสนุกสนานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวสุธาที่ยิ้มส่งมาให้ปารมีหลายครั้ง มันไม่ใช่รอยยิ้มอบอุ่นหรือรอยยิ้มพิมพ์ใจอะไรหรอก ปารมีรู้ความหมายที่มากกว่านั้น วสุธาตั้งใจบอกว่า อย่าคิดจะไปลองดีกับเขาอีก เพราะวสุธาจะเอาคืนแน่นอน

........................................

“เพื่อนคุณทำงานจนล้มเจ็บไม่ไปเยี่ยมหน่อยหรือ”

โทรศัพท์จากสำนักงานที่ต่อมาถึงปารมีจากวสุธา นั่นเป็นประโยคเดียวที่ทางนั้นพูดก่อนที่จะวางสายไป ปารมียังจับต้นชนปลายไม่ถูกด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วที่วสุธาว่าหมายความว่าอย่างไร จนกระทั่งผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ปารมีจึงได้คิดว่า วสุธาคงหมายถึงกลอน ปารมีรีบออกจากบ้านจอมไตรทันที ที่หมายคือโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของจอมไตร พนักงานทุกคนได้สวัสดิการเข้ารับการรักษาที่นี่ฟรี และกลอนก็มารักษาที่นี่ตลอด

จากที่พยาบาลบอก กลอนทำงานจนฟุบไปกับโต๊ะ ทั้งพักผ่อนน้อย ทั้งทานอาหารน้อย แถมไม่ตรงเวลา แล้วร่างกายที่ไหนจะทนได้

ปารมีเฝ้ากลอนจนกระทั่งฟื้น อยู่จนกระทั่งไม้มาพร้อมกับเด็กๆเพื่อมารับปารมีกลับบ้านพร้อมกัน

วันถัดมาที่มาหากลอน ปารมีออกจะแปลกใจที่ในห้องมีเด็กผู้หญิงตัวน้อยอยู่ที่นั่นด้วย หน้าตาของเด็กหญิงคล้ายกลอนอย่างเห็นได้ชัด แต่พอพูดถามหยั่งเชิงเรื่องหน้าตาของเด็กหญิงเพราะกลอนไม่ได้บอกว่าเด็กหญิงเป็นญาติหรืออะไร เจ้าตัวกลับทำหน้าแปลกใจที่ปารมีว่าอย่างนั้น ดูเหมือนกลอนจะไม่รู้ตัว มันเป็นธรรมดาเพราะคนเรามักจะเห็นตัวเองต่างไปจากที่คนอื่นเห็น ถึงจะมีกระจกส่องก็เถอะ

จนกระทั่งเห็นรูปที่ตกลงมาจากหนังสือที่เด็กหญิงยืมกลอนไปอ่านปรากฏบนมือกลอน ตอนนี้เองมั้งที่กลอนเพิ่งตระหนักได้ว่า เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่บังเอิญมาเจอ แต่อาจเป็นอะไรสักอย่างที่ดลใจ

ปารมีเป็นห่วงกลอนที่เงียบลงไปกระทันหัน การตัดความสัมพันธ์กับเด็กหญิงคนนั้นทันทีนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ปารมีรู้อยู่แล้วว่ากลอนจะทำ แต่ก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ ปารมีรู้ว่ากลอนเอ็นดูเด็กหญิงมาก แต่พอรู้ว่าเป็นหลาน แน่นอนว่าความเจ็บช้ำจากการกระทำของญาติๆนั้นยังคงฝั่งแน่นในความรู้สึก เขาเข้าใจดีว่ากลอนไม่สามารถยกโทษให้ทางนั้นได้ แต่ที่ปารมีเป็นห่วงที่สุดคือความรู้สึกของกลอน กลอนต้องทรมานใจ ลำบากใจมากแค่ไหนที่ต้องทำเหมือนทอดทิ้งเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวแบบนั้น กลอนไม่ใช่คนใจร้าย และค่อนข้างรักเด็ก แล้วการทิ้งให้เด็กคนนั้นผจญชีวิตแบบที่ตนเคยโดนมา .....ปารมีรู้ว่ากลอนทำได้... แต่ทำไปด้วยความรู้สึกแบบไหนล่ะ... สามัญสำนึกที่กลอนมีจะคอยย้ำเตือนกลอนอยู่ตลอดเวลาในสิ่งที่กลอนทำลงไป..... แล้วกลอนจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต...... ปารมีไม่อยากให้เพื่อนมีชีวิตนับจากนี้ไปด้วยความรู้สึกแบบนั้น หากแต่ปารมีไม่กล้าเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเพื่อนเกินกว่าที่ควร

แต่ไม่กี่วันถัดมาไม้เข้ามาบอกปารมีทันทีที่เขารู้ว่าคนที่รับเด็กหญิงไปเลี้ยงคือกลอน ปารมีดีใจมากที่เพื่อนตัดสินใจอย่างนั้น จึงรีบโทรไปหากลอน แล้วเขาก็รู้แล้วว่าตัวเองได้ทำพลาดไป

“กลอนรับน้ำตาลมาเลี้ยงเหรอ”

ปารมีโทรหากลอนในตอนเย็นวันนั้น กลอนไม่ตอบกลับมา ปารมีเลยพูดออกไปอีกประโยค

 “ทำไมไม่บอกกันบ้างเลย”

ปารมีถามอย่างตัดพ้อ แต่เพื่อนที่อยู่ในอารมณ์ไม่มั่นคงนักไม่ได้รับรู้ความรู้สึกนั้น

“ก็ไม่คิดว่านายจะอยากรู้”

ปารมีเงียบไปอึดใจกับคำพูดของอีกฝ่าย

“กลอนเป็นอะไรหรือเปล่า อารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไร”

ปารมีรู้เสมอเมื่อเพื่อนผิดปกติไปไม่ว่าจะทางอารมณ์หรือร่างกาย และครั้งนี้กลอนก็ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

“เปล่า มีธุระอื่นอีกไหม พอดีฉันทำงานค้างอยู่น่ะ”

ปารมียอมวาง แต่ยังคาใจอยู่ กลอนไม่ชอบให้ใครไปก้าวก่ายและดูเหมือนปารมีจะล้ำเส้นนั้น ถึงจะทำไปด้วยความหวังดียังไง สิ่งที่ทำไปก็เหมือนยุ่งไม่เข้าเรื่องอยู่ดี แต่ปารมีอดคิดไม่ได้ว่า กลอนเปลี่ยนไป เปลี่ยนตั้งแต่ตอนเข้าโรงพยายาลแล้ว ปารมีไม่สบายใจเลยที่กลอนเป็นแบบนี้เพราะฉะนั้นวันถัดมาปารมีจึงรีบออกไปหาเพื่อนตั้งแต่เช้า

“ยังไม่ตื่นหรือ”

ดูเหมือนกลอนจะยังไม่ลุกจากที่นอนด้วยซ้ำ ใบหน้าของกลอนไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดที่ปารมีมาหา

“มีอะไรหรือเปล่า”

น้ำเสียงห้วนๆทำเอาปารมียิ่งใจไม่ดี

 “ก็กลอนดูโกรธๆ ปามทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า”

 “ไม่มีอะไรหรอกน่า”

ถึงจะปฏิเสธแต่ท่าทางไม่ได้บอกแบบนั้น ปารมีไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดจึงได้แต่เงียบ ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรออกมา แล้วกลอนก็เป็นฝ่ายทนไม่ได้ก่อน

“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องของฉัน แต่ดูเหมือนจะมีคนสอดส่องเรื่องของฉันอยู่เรื่อย นายก็รู้ว่าฉันเกลียดพวกแบบนั้น”

“แต่...”

ไม่มีคำแก้ตัวหลุดออกมาจากปากปารมี ด้วยคบกันมานานและสนิทกันพอจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายพอสมควร ปารมีเพิ่งเข้าใจว่าไม่ใช่แค่กลอนเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แต่ตัวเองก็เปลี่ยนไปด้วย ถ้าเป็นปารมีก่อนหน้านี้จะไม่มายุ่งเรื่องที่กลอนไม่ได้เป็นคนบอกแบบนี้ แต่โดยธรรมดากลอนต้องบอกปารมีไปแล้ว ปารมีเปลี่ยนไป และกลอนเองก็เปลี่ยนไปไม่ต่างกัน

“ขอโทษนะ”

พูดเบาๆราวกับจะร้องไห้ ปารมีรู้สึกผิดที่ก้าวก่าย และนั่นดูเหมือนจะทำให้เพื่อนไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

“นายกลับไปเถอะ ขอร้องว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย แค่นี้ฉันก็เกลียดโลกใบนี้พออยู่แล้ว”

ปารมีรับฟังและกลับมาที่บ้านจอมไตร เขาก็รู้ว่าตัวเองคงทำพลาดไปในเรื่องนี้

ความซึ่มเศร้าของปารมี แม้ไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนมากนัก แต่ทุกคนก็สังเกตุเห็นได้

 “คุณไม่เป็นไรแน่นะ”

ขนาดวสุธาที่ปกติต้องหาเรื่องมาต่อปากต่อคำกับปารมีเสมอๆ วันนี้กลับไม่พูดอะไรออกมาเลย นอกจากประโยคที่แสดงความเป็นห่วงนั้น

หลังจากวันนั้น เรื่องราวยิ่งดิ่งลงสู่ความเลวร้าย เมื่อวสุธามาบอกว่ากลอนลาออกแล้ว ปารมีที่พยายามจะทำความเข้าใจกับเพื่อนกลับยิ่งเพิ่มความบาดหมางให้เกิดขึ้น

ปารมีไม่รู้ว่าทำไมเรื่องมันถึงเลวร้ายขนาดนี้ กลอนเป็นคนที่ปารมีรักแทบจะมากที่สุดในชีวิต มีความผูกพันมากมายในช่วงเวลาเป็นสิบปีที่คบกัน ตลอดมากลอนเป็นเหมือนคนในครอบครัว ตอนนี้ปารมีก็ยังรู้สึกอย่างนั้น… แต่.....มันจะสิ้นสุดลงแล้วอย่างนั้นหรือ

.........................................

ปารมีนั่งนิ่งอยู่ในสวน ระหว่างที่นั่งมองเด็กๆสามคนวิ่งเล่นกัน วันนั้นตอนที่ไม้โทรมาบอกว่ากลอนไม่สบาย ปารมีแทบจะพุ่งออกจากบ้านทันที แต่ติดที่ว่าเด็กๆต้องการไปด้วยเลยช้าหน่อย พอไปถึงก็เห็นคุณหมอเอนั่งอยู่ก่อนแล้ว พอได้ฟังคุณหมอบอกว่ากลอนไม่เป็นอะไรมาก แค่อ่อนเพลีย ปารมีก็สบายใจขึ้นแต่ก็ยังยืนยันที่จะอยู่เฝ้าไข้เพื่อน จากนั้นไม่นาน ครอบครัวของพี่ๆกลอนก็มาสมทบอีก ปารมีอยากให้กลอนตื่นขึ้นมา แล้วจะได้เห็นว่าในห้องนี้มีคนที่เป็นห่วงกลอนอยู่มากแค่ไหน เด็กหญิงตัวน้อยเอาแต่ร้องไห้เพราะกลัวกลอนจะเป็นอะไรไป ถึงห้องจะแคบ แต่ทุกคนก็ยืนยันที่จะอยู่เฝ้าไม่ไปไหน

ปารมีไม่นึกเลยว่าพอตื่นขึ้นมาแล้ว กลอนจะหายตัวไป ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายตามหากลอน ไม้ก็เข้ามาและบอกว่ากลอนขอไปพักคนเดียว ไม่ต้องเป็นห่วง เขาก็ไม่อยากเป็นห่วงหรอก แต่ก็ต้องห่วง ทำไมไม้ถึงรู้ ทำไมกลอนเลือกบอกไม้ ทั้งๆที่กลอนกับไม้ดูเหมือนไม่ค่อยลงรอยกัน ปารมีที่เป็นเพื่อนสนิททำไมกลอนถึงไม่บอกอะไรเลย กลอนไม่ไว้ใจกันแล้ว หรือไม่เห็นปารมีเพื่อนอีกต่อไป ปารมีอดที่จะคิดมากไม่ได้

“คุณปาม กินหนมได้ยังคับ”

 มือเล็กๆเกาะเข้าที่ชายเสื้อคนนั่ง ปารมีได้สติกลับมา แต่ก็ต้องถามกลับไปอีกครั้งว่าเด็กชายพูดอะไร ปฐวีหน้างอที่ปารมีไม่ฟังที่ตนพูด แต่อารมณ์อยากกินขนมมีมากกว่าจึงตอบไปอีกครั้ง

“กินขนมได้หรือยังครับ”

ปารมีเพิ่งคิดได้ว่าถึงเวลาอาหารว่างแล้ว เขาลุกไปในบ้านเพื่อไปยกของว่างมาให้เด็กๆ แต่ในใจก็ยังคิดเรื่องกลอนไปตลอดทาง

.......................................
TBC

ตอนที่ 3 มาวันจันทร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: tippy ที่ 12-05-2012 12:06:24
 :z13:.................จะรอนะ จะรอ หมอเอนี่กับพี่น้ำในมะคะถ้าจำไม่ผิดในตอนของไม้กับกลอน :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 12-05-2012 12:18:24
:mc4:ตาหวานกะนุ้งปามมาแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 12-05-2012 12:19:23
อ่า
ปารมีช่างน่าสงสาร :o12:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-05-2012 12:23:58
ถ้าจำไม่ผิด  น้ำจะคู่กับพี่เอ
แล้ว ลมจะคู่กับเพื่อนของกลอนที่ทำงานโรงแรมอยู่บนเกาะซักที่นี่แหละ
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องเร็วดี
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 12-05-2012 12:34:36
รอตอนที่3ค่ะ อ่านมาตอนนี้สงสารปามอ่ะ มารับรู้ความรู้สึกของปามก็เรื่องนี้
ตอนที่อ่านไม้กลอน ยังนึกเกลียดปามตามกลอนไปอยู่เลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 12-05-2012 12:39:15
เร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันจันทร์เลยได้ไหม
อยากอ่านอา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 12-05-2012 12:54:52
โอยยยย ค้างงงงงงง  :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 12-05-2012 12:59:36
เห้อออ พอมาอ่านตอนของปามก็สงสารปาม


รอค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 12-05-2012 13:02:03
เด็กๆ น่ารัก แต่พ่อของเด็กขี้แกล้งจริง!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 12-05-2012 13:19:51
เด็กๆน่ารักมากจ้าาา  คุณปามของเด็กๆก็น่ารัก กอดคุณปามกับน้องตาหวานจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 12-05-2012 13:23:50
ปารมีเป็นคนละเอียดอ่อนและแบกความด้อยของตนเอาไว้  เลยทำให้คิดมากเป็นสองเท่า
ส่วนอื่น ๆ ไม่น่ามีปัญหา โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ส่วนตัวคุณพ่อ ชักยังไง ๆ หรือติดใจรสจูบ  :z2:
+1 ให้เจ้จุ๊บจิ๊บ รอวันจันทร์ที่จะถึง ครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 12-05-2012 13:25:15
ความหวังดีของปามทำให้คนที่เป็นเพื่อนอย่างกลอนเข้าใจความหมายผิดไปมากเลย :sad4:
ปามโดนคุณดินแกล้งแบบเนียนๆ :m20:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 12-05-2012 13:26:41
เดินเรื่องเร็วมากเลยอ่ะ
แต่คุณดินนี่เจอหน้าครั้งแรกก็
ไปจูบปามซะและ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 12-05-2012 13:40:18
เฮ้ออออออ T^T
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 12-05-2012 14:15:25
อยากอ่านต่อแล้ว เมื่อไหร่จะวันจันทร์น้อ รอจ้า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 12-05-2012 15:41:50
ไปเก็บอ่านเรื่องก่อนๆมาแล้ว

สนุกทุกเรื่องเลยคะ

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 12-05-2012 16:07:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-05-2012 16:27:33
 :L2:หุๆๆๆเจอหนาก้กัดเขาเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 12-05-2012 16:49:59
 :เฮ้อ:  คุนปามน่าสงสาร

แต่คุณดินไปจูบเค้ารับผิดชอบบ้างดิ   :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Ai_Rong_Kun ที่ 12-05-2012 18:51:03
โอ้ ตอนสองนี่เดินเรื่องไวมากๆ ถ้าไม่ได้อ่านไม้+กลอนมาก่อน คงจะงงมิใช่น้อย

ว่าแต่ว่า.... มันใกล้ถึงตอนที่น้าปามโดนท่านประธาน.... แล้วนี่นา  :o8:

รอวันจันทร์อย่างใจจดจ่อ อิอิ หุหุ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 12-05-2012 20:11:13

คุณดินนะ มาถึงก็จูบเลย อิอิ

ปามน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-05-2012 21:02:05
สงสารหนูปาม :monkeysad:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-05-2012 21:06:43
 :L2:เคยอ่านตอนของกลอนแล้วอะ

ก็เลยเข้าใจกลอนนะแล้วพอมาอ่านตอนของปาม


ก้เข้าใจเหมือนกันอะว่าทั้งสองเปนเพื่อนรักกัน :กอด1: :กอด1:


ปล.รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะอิอิ :bye2: :bye2: :call: :call:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-05-2012 21:07:07
ปามน่าสงสารจังเลย อย่าคิดมากน้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 12-05-2012 22:34:57
...เออ เข้าใจเรื่องราวแล้ว ไม่งง แล้ว เพราะว่าเคยอ่านเรื่องของกลอนมาก่อน แต่ก็จำได้ลางๆๆ ว่าปารมีนี่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก
...และเป็นเพื่อนของกลอนนี่เอง แต่นึกว่าปารมี เป็นผู้หญิงงงงงงงงงง555 แหม วสุธานี่เจอกัน ก็จูบเค้าซะแล้ว
...แสดงว่ากับพี่เลี้ยงคนอื่นๆก็โดนสินะ หรือว่าไม่โดนหว่า :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-05-2012 23:02:50
เรื่องนี้เดินไว สงสารปามตอนที่มีปัญหากับยัยหนูกลอนจริง ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 13-05-2012 08:36:04
เฮ้ยยยย  เท่าที่จำได้  มันจะถึงตอนที่ปามโดน....
แล้วชิมิๆ  อ่าาาา  จะเป็นยังไงน้าาา
รอถึงวันจันทร์ไม่ไหวแล้ว  555

 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 13-05-2012 09:29:06
แล้วเค้าได้กันตอนไหน ╰( ̄▽ ̄)╭♡


หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 13-05-2012 11:03:53
อ่าาาา
คุณดิน ><
เรื่องมาชนกะไม้กลอนแล้วสินะ
เอาจริงๆ คือ มองมุมไหน ก็ไม่เข้าใจคุณไม้ (หัวเราะ)
ขนาดอ่านด้านที่ปามเล่า ก็ไม่เข้าใจ
แต่คุณดินนะ มาวันแรกก็จูบเค้าแล้ว
เดี๋ยวปั๊ดดดด
เรื่องราวจะดราม่าที่ตรงไหนล่ะนี่!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 13-05-2012 17:38:42
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 13-05-2012 23:18:10
ความคิดของไม้จากเรื่องนี้ไม่กระจ่างเท่าไหร่ แต่พอจะเข้าใจความคิดของปามในเรื่องไม้กลอนมากขึ้น
ก็แหงล่ะเนาะ เพราะเรื่องนี้คนอ่านจะเห็นความคิดของปามเป็นหลัก

ปามจากเรื่องนี้ดูบอบบางกว่าที่วาดภาพไว้ในเรื่องไม้กลอนค่ะคุณจิ๊บ รอๆๆๆ ซีนที่ทำให้ปามต้องหนีคุณดินไปอยู่กับกลอน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-05-2012 12:54:34
ตอนที่3

“คุณวสุธา”

ปารมีเรียกพ่อของเด็กทั้งสามไว้ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นบันได เจ้าของชื่อหันมามองคนเรียกเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเจออีกฝ่ายในเวลานี้

“มีอะไร ทำไมยังไม่นอนอีก”

เสียงดุๆ แสดงความไม่พอใจชัดเจนทำเอาปารมีหวาดๆจนเกือบลืมความตั้งใจเดิมไปหมด แต่พอนึกถึงกลอนขึ้นมาแรงฮึดก็ตามมาด้วย

เพราะวสุธาไม่ได้เดินเข้ามาหา ปารมีจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปใกล้แทน

“คุณวสุธา พอทราบเรื่อง....เอ๊ะ...นี่คุณดื่มเหล้ามาหรือ”

ปารมีเปลี่ยนเรื่องทันทีที่เข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วกลิ่นแอลกอลฮอล์โชยเข้าจมูกอย่างแรง พอพูดถึงเรื่องนี้ วสุธาก็หันหลังเดินหนีขึ้นบันไดไปเหมือนไม่ต้องการพูดถึง หากปารมีเองก็ไม่ยอมแพ้ เดินตามขึ้นไปเช่นกัน

“เมาหรือเปล่าครับเนี่ย”

ท่าทางวสุธาจะดื่มมาเยอะ ปกติวสุธาไม่เคยดื่มหนัก ปารมีออกจะแปลกใจอยู่ แต่เพราะว่าเด็กๆอวดนักหนาว่าคุณพ่อไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ยกเว้นออกงานสังคม ปารมีเลยไม่พอใจขึ้นมา ทำแบบนี้เหมือนหักหลังลูกๆชัดๆ

“ทำไมต้องดื่มด้วย คุณนี่ ถ้าเด็กๆมาเห็น”

“คุณไม่เกี่ยว เป็นพี่เลี้ยงของลูกผม ไม่ใช่พี่เลี้ยงของผม จำไว้หน่อยสิ”

วสุธาหยุดเดินก่อนที่จะถึงประตูห้องไม่กี่ก้าวแล้วหันมาเมื่อรู้สึกทนกับเสียงบ่นข้างหลังไม่ไหว

การทะเลาะกันระหว่างทั้งสองคนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนจบมันไม่ใช่การที่คนหนึ่งยอมเงียบและแยกย้ายกันไปอย่างทุกครั้ง

“ทำไมคุณถึงต้องมายุ่งจุ้นจานเรื่องของผมด้วยนะ”

“นึกว่าผมอยากยุ่งรึไง”

“อย่านึกว่าผมจะยอมรับคุณมาเป็นคนในครอบครัวนะ คนนอกยังไงก็เป็นคนนอก อย่ามาทำตัวยุ่งหน่อยเลย”

เสียงทะเลาะของสองคนไม่เบานัก ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมฟังที่อีกคนพูด ปารมีพยายามพูดเสียงเบา เพราะไม่ต้องการให้เด็กๆตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ดูเหมือนว่าวสุธาจะลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท เจ้าตัวตะเบ็งเสียงเต็มที่ ไม่มีการลดหลั่นทอนเสียงให้เบาลงแต่อย่างใด คงเพราะฤทธิ์แอลกอลฮอล์ที่ทำให้คนตรงหน้าไม่สนและไม่นึกถึงอะไรทั้งนั้น นี่แหละที่เขาว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย จากเดิมที่เป็นคนทำอะไรสุขุมอยู่ตลอด ต่อปากต่อคำไม่เคยลดราวาศอกอย่างชาญฉลาดทุกครั้ง กลับกลายเป็นคนไร้เหตุผล ทุกคำที่พูดออกจากปากบ่งบอกว่าออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกไร้ความนึกคิดทั้งสิ้น หนังสือปรัชญาชีวิต ของคาลิบ ยิบลาน เคยบอกไว้ เหตุผลกับอารมณ์ต้องอยู่คู่กัน หากแต่สิ่งที่นำต้องเป็นเหตุผลอารมณ์ค่อยตามมาทีหลัง แต่รู้สึกว่าคนตรงหน้าจะไม่เคยอ่านซะด้วยสิ นอกจากนี้ยังโดนน้ำเมาทำเอาเสียศูนย์ขนาดนี้ ไม่รู้พูดไปจะได้เรื่องหรือเปล่า ปารมีถอนหายใจเหนื่อยๆ คำพูดที่คนพูดจงใจส่งตรงมาเพื่อทำร้ายความรู้สึกของเขายังดังเข้าหูไม่หยุดหย่อน ปารมีหยุดปากไม่ต่อร้องต่อเถียงอีก แต่ความเงียบไม่ได้ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น วสุธาเกิดอาการฉุนขาดไปแล้วเรียบร้อย ดูเหมือนยิ่งพูดวสุธาจะยิ่งโมโห พอดูท่าว่าคนตรงหน้าจะไม่สงบง่ายๆปารมีเลยดึงแขนให้เข้ามาโวยวายต่อในห้องเจ้าตัว ไม่ได้รู้เลยว่า กำลังทำตัวเป็นลูกแกะที่เดินเข้ามาในถ้ำเสือ

“คุณนี่เสียงดังจริง อยากให้พวกเด็กๆตื่นขึ้นมาดูคุณเป็นบ้าแบบนี้รึไง”

หวังว่าประตูห้องนี้จะกันเสียงได้บ้าง

“หึ อย่ามาอ้างลูกๆผมหน่อยเลย คุณมันก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก ต้องการอะไรจากผมล่ะ เงิน อำนาจ หรือเซ็กซ์”

ร่างบางฟังไปฟังมาก็ชักฉุน หัวข้อในหนังสือปรัชญาชีวิตที่ท่องไว้ประจำใจเสมอหายวับไปกับคำพูดที่ได้ฟัง

“มันจะมากไปแล้วนะครับ”

ระเบิดเสียงไม่ต่างกัน ดูเหมือนปารมีจะไม่สนใจเสียแล้วว่าเสียงจะลอดประตูไปปลุกใครให้ลุกขึ้นมาฟังบ้าง

พอโดนเสียงดังใส่วสุธาก็ไม่ได้คิดได้แต่อย่างใด ยิ่งเพิ่มอารมณ์โกรธมากยิ่งขึ้นก็เท่านั้น  ร่างสูงอาศัยรูปร่างที่ใหญ่โตกว่าฉุดแล้วเหวี่ยงอีกฝ่ายเต็มแรงอย่างไม่ยั้งมือ ปารมีลอยหวือไปกระแทกลงบนเตียงสปริงอย่างแรง พอเงยหน้าขึ้นมองก็เจอวสุธาที่ถอดเนทไทเรียบร้อยกำลังย่างสามขุมเข้ามาหา ไอ้ที่เคยไม่เข้าใจอะไรๆก็เข้าใจได้ชัดเจนทันที

ปารมีด่าตัวเองเพราะคิดว่าน่าจะคิดได้ คราวที่แล้วที่คอยวสุธาเพื่อต่อว่าที่ผิดสัญญากับเด็กๆก็เจอคนตรงหน้านี้ปล้นจูบไป คราวนี้ยังใจกล้าอีกก็เลยนำพาให้ต้องไปเจออะไรที่มันแย่กว่าการโดนจูบโดยไม่เต็มใจมากนัก จะยันตัวลุกหนีก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะวสุธาเข้าประชิดถึงตัวเรียบร้อย ปารมีถูกจับพลิกตัวใบหน้าถูกกดลงจนแทบจะจมไปในที่นอน มือถูกจับไพล่หลังและเนทไทที่วสุธาถอดออกมาเมื่อครู่ก็กลายเป็นสิ่งพันธนาการแขนทั้งสองข้าง

“คุณวสุธา จะทำอะไรน่ะ”

ร้องถามทั้งที่พอจะรู้ความตั้งใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีการหยุดการกระทำใดๆ มือหนาดึงกางเกงนอนและชั้นในของปารมีออกอย่างง่ายดาย

“คุณวสุธา อย่านะ อย่าทำผมนะ”

ปารมีพยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ ดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี น้ำตาเริ่มรินไหลเมื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้ 

“ขอร้อง อย่าทำ”

ดูเหมือนไม่ได้เรียกสติของวสุธาให้กลับมาได้ด้วยถ้อยคำและน้ำตา เนินเนื้อเบื้องหลังถูกยกให้ลอยเด่นขึ้นมาตรึงไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้ขยับไปไหน  พร้อมกับการสอดแทรก

“โอ๊ย!.........อย่า ขอร้อง ผมเจ็บ”

คำขอร้องที่ส่งไปไม่ถึง วสุธาเข้าใจว่ามันคงจะเข้าไปได้ง่ายดายแต่อะไรๆดูเหมือนจะไม่เป็นไปอย่างที่คิด ช่องทางนั้นไม่ได้เปิดรับการรุกรานอย่างว่าง่าย ทำให้ต้องเริ่มทุกอย่างใหม่โดยเริ่มจากนิ้วมือ

“อ๊ะ........อย่า มันเจ็บ”

ปารมีร้องออกมาอย่างทนไม่ได้ นิ้วมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความพอใจของคนรุกราน ไม่ได้สนใจว่าร่างกายข้างใต้รู้สึกดีไปด้วยหรือไม่ เมื่อเป็นที่พอใจนิ้วมือจึงถูกถอนออก

ปารมีผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้ว กลับต้องหวีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อสิ่งแปลกปลอมที่ใหญ่กว่านิ้วมือถูกแทรกเข้ามาครั้งเดียวจนสุด

“อึก.........อึก”

จุกจนพูดไม่ออก ปารมีรู้ว่าช่องทางนั้นฉีกขาด รับรู้ถึงความเหนียวของเลือดที่ไหลลงมาตามขา แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ

วสุธาเริ่มขยับกายโดยไม่สนว่าอีกคนจะเป็นยังไง ปารมีก็ได้แต่ก้มหน้ากดลงกับที่นอน ไม่สามารถหยุดการกระทำของร่างสูงได้ เสียงสองร่างกระทบกันและเสียงเฉอะแฉะน่าอายดังไปทั่วทั้งห้อง

“พอ...หยุด...ขอร้อง...พอ” ปารมียังพร่ำพูดไม่รู้จักจบสิ้นถึงแม้จะแทบไม่มีเสียงออกมาแล้ว น้ำตาไหลนองทั่วใบหน้า บางส่วนหยดลงที่นอนเพราะไม่มีอะไรมาซับ

แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้รับความสนใจสักนิด...ไม่เลย

.............................................................

สิ่งที่ทำให้ปารมีตัดสินใจออกจากบ้านจอมไตรไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะทีเดียว

หลังจากที่ล่วงเกินปารมีครั้งแล้วครั้งเล่าจนพอใจ วสุธาก็นอนหลับไป อาจเพราะด้วยฤทธ์แอลกอฮอล์ เพราะใช้แรงมากเกินไป หรือทั้งสองอย่างรวมกัน

ปารมีขยับตัวลุกขึ้นทันทีที่คิดว่าอีกฝ่ายหลับสนิทแล้ว ทั้งๆที่อยากนอนพัก แต่ก็ทำใจให้นอนหลับตรงนี้ไม่ได้ ร่างบางพาตัวเองออกมาจากห้องวสุธาอย่างทุลักทุเล แข้งขาไม่มีแรงจนต้องเดินพิงกำแพงไปตลอดทางเพื่อไปยังห้องนอนของตน ในหัวสับสนไปหมด ปารมีไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี

ตอนนั้นเองที่ปารมีรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ แต่ไม่รู้เพราะไม่ปกติหรืออย่างไร จึงไม่ได้ใส่ใจกับมันนัก ปารมีตรงกลับเข้าห้องนอนอย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่วายชะโงกมองตาหวานที่นอนหลับอยู่ในเปลว่ายังปกติดีอยู่หรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าเรียบร้อย จึงทุ่มกายลงบนที่นอนทันที ทั้งที่ยังรู้สึกเหนอะหนะตามร่างกาย แต่ก็ไม่มีแรงจะลุกขึ้นไปทำอะไรจริงๆ

....................

ปารมีตื่นสาย แต่ก็ไม่มีใครมาปลุก ทันทีที่รู้สึกตัว ปารมีก็รีบลงไปทำอาหารเช้าให้เด็กๆ ไม่รู้ว่าปารมีคิดไปเองหรือเปล่า วันนี้เด็กๆทั้งสามคนดูเงียบไป และไม่กระตือรือร้นจะไปปลุกตาหวานให้ตื่นเหมือนทุกเช้า ทั้งสามคนดื่มนม แต่ไม่แตะต้องอาหารอย่างอื่นแม้แต่น้อย ที่สำคัญ ปารมีคิดว่าไม่มีใครพูดกับปารมี

ปารมีไม่รู้ว่าเพราะอะไรจนกระทั่งก่อนไปโรงเรียน ระหว่างที่เด็กๆขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนบนห้อง ปารมีตามขึ้นไปเพราะเป็นห่วงที่ไม่ยอมทานข้าวกัน จึงได้ยินเหตุผลว่าทำไมวันนี้เด็กๆถึงมึนตึงกับตนกันนัก

“ทำไมเราต้องโกรธคุณปามด้วยล่ะ”

ธรณินถามพี่ชายอย่างสงสัย ปารมีชะงักเท้าตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไป

“เพราะเป็นคนทรยศน่ะสิ เพราะจะมาแย่งคุณพ่อไป”

ปฐวีกล่าวตอบน้องชายด้วยเสียงหนักแน่น

“ใช่ เมื่อคืนพี่สองคนเห็นเขาออกมาจากห้องคุณพ่อด้วย”

ปฐพีกล่าวเสริม เท่านั้น ปารมีก็เริ่มนึกได้เป็นฉากๆ ที่จริงแล้วเสียงฝีเท้าเมื่อวานคงเป็นของเด็กสองคนนี้ แต่ปารมีไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนั้นตนเองไม่ปกติ

เจ้าตัวพาตัวเองเดินออกมาให้ห่างจากห้องของเด็กๆ รู้แล้วว่าเพราะอะไร เด็กทั้งสามจึงมึนตึงไป ข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน....จริงสิ เขาเคยได้รับคำเตือนจากเด็กๆแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคุณพ่อ ทั้งๆที่เด็กๆไว้เนื้อเชื่อใจเขา แต่ว่าเรื่องแบบนี้ก็ยังเกิดขึ้น ปารมีเป็นคนทรยศอย่างที่เด็กๆว่าจริงๆ

“อยู่ไม่ได้แล้วสิ”

พูดกับตัวเองเบาๆ ปารมีเองรู้ตัวดีที่สุดว่าการถูกทรยศหักหลังทั้งที่ไว้ใจมันเจ็บและเสียใจมากแค่ไหน เขาหมดคุณสมบัติที่จะอยู่ใกล้พวกเด็กๆเสียแล้ว

ปารมียังคงไปส่งเด็กๆขึ้นรถตามปกติและกล่าวลา......สำหรับปารมีมันเป็นการลาจาก..... แต่เด็กๆทั้งสามคนไม่ทราบ และตอนนี้คงไม่สนใจด้วย ทั้งสามไม่ส่งเสียงร่ำลาอย่างที่เคยทำ..... แม่บ้านบอกว่าเด็กๆคงงอนอะไรอีกแล้วก็เท่านั้นเอง ปารมีที่รู้เรื่องดีได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้คนที่พูดปลอบใจตน

ข้าวของถูกเก็บใส่กระเป๋า ปารมีแยกของที่คนในบ้านซื้อให้ตาหวานและที่เด็กๆซื้อมาฝากตนไว้ที่นั่น ไม่ได้เอาใส่กระเป๋าด้วย ไม่กล้าเอาไปเพราะตัวเองได้ทำลายความไว้ใจของเด็กๆไป ไม่สมควรจะได้รับอะไรพวกนี้เลย

สามเดือนที่ผ่านมาเงินเดือนของปารมีแทบไม่ได้ใช้ เพราะว่าจะอะไรที่นี่ก็มีให้พร้อม ปารมีคิดว่าคงพออยู่ว่างๆได้อีกสักสองถึงสามเดือนถ้าประหยัด

“ค่อยๆหางานใหม่ทำไปก็แล้วกัน”

ปลอบใจตัวเองก่อนจะออกจากบ้านนั้นมาเงียบๆ

.................................

ปารมีอุ้มตาหวานออกมา บอกแม่บ้านไว้ว่าจะไปซื้อของ เพราะข้าวของในเป้ไม่มากแม่บ้านเลยไม่สะดุดใจ จดหมายลาออกถูกแฟกซ์ไปยังสำนักงาน และตัวจริงใส่ซองทิ้งไว้ในห้องทำงานของวสุธาที่บ้าน

พอออกมาพ้นจากบ้านจอมไตรแล้วปารมีก็นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี ห้องเช่าก็ไม่มีแล้ว ลำพังตัวเขาเองไม่เท่าไหร่ แต่นี่ยังมีตาหวานอยู่อีกคน  แล้วปารมีก็นึกถึงห้องกลอนขึ้นมา ตอนนี้กลอนหายไปไหนไม่รู้ ตามที่ไม้บอกคือกลอนขอไปพักคนเดียว ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับ กลอนเคยให้กุญแจห้องกับปารมีไว้ ถึงจะไม่ดีนักที่ถือวิสาสะเข้าไปในขณะที่เจ้าของห้องไม่อยู่แถมไม่ได้ขออนุญาตก่อน แต่ปารมีไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ไปรบกวนสักพักน่าจะไม่เป็นไร

.......................................


มีต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 2 P.3 [12/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-05-2012 12:56:07
“กลอน ไปไหนมาน่ะ เป็นห่วงแทบแย่”

ปารมีมาอยู่ที่ห้องกลอนได้สองวัน กลอนก็กลับมา เขาดีใจมากที่เห็นหน้าเพื่อนที่หายไปจึงถลาเข้าไปกอดและถามด้วยความเป็นห่วง ปารมีลืมไปสนิทว่ากลอนโกรธตนอยู่ กลอนไม่ได้ตอบอะไร พอปารมีนึกขึ้นได้จึงคลายอ้อมกอดออกช้าๆ

“ปามขอโทษนะกลอน ปามมาคิดๆ ดูแล้วปามเองก็ผิดจริงๆ อาจเพราะเข้าไปอยู่ที่บ้านนั้น คนเยอะแยะเต็มไปหมด มีทั้งคนที่ห่วงปามและคนที่ให้ปามห่วง เลยทำให้นิสัยเปลี่ยนไป ขอโทษนะ ต่อไปปามสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของกลอนอีก อย่าโกรธกันเลยนะ”

ปารมีพยายามอธิบายให้เพื่อนฟัง อาจเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น แต่เมื่อเข้าไปอยู่ที่นั่นปารมีได้รับรู้ถึงความอบอุ่นของการห่วงใยกันของคนในครอบครัวที่ปารมีแทบจะไม่เคยได้รับ ปารมีจึงอยากเผื่อแผ่ให้แก่คนที่ปารมีรักได้รู้สึกบ้าง และกลอนก็เป็นคนปารมีรักมากคนหนึ่ง

 “นายไม่ผิดหรอกปาม ฉันผิดเอง อย่าขอโทษทั้งที่นายไม่ได้ทำอะไรผิดแบบนี้เลย”

ท่าทางปารมียิ่งขอโทษ กลอนก็จะยิ่งหงุดหงิด แต่ปารมีก็อยากอธิบายให้กลอนฟังอยู่ดี

“ไม่หรอกกลอน ความจริงปามเองก็ยุ่งมากเกินไปจริงๆ ถ้าเป็นตัวเองก่อนหน้านี้จะไม่เป็นถึงขนาดนี้แท้ๆ”

ถ้าเป็นตัวเองก่อนหน้านี้ ปารมีจะไม่ห่วงใยจนกลายเป็นก้าวก่ายมากไปแบบนี้

 “นายกลับไปก่อนเถอะ”

กลอนว่าแล้วเดินเข้าห้อง ปารมีได้แต่คอตก ไม่กล้าเล่าสถานการณ์ให้อีกฝ่ายฟัง ก็ในเมื่อกลอนไม่เต็มใจให้เขาอยู่ด้วย แล้วเขาจะอยู่ได้ยังไง

“ขอโทษที่เข้ามาอยู่โดยไม่ได้ขอนะ”

ปารมีรีบตรงไปเก็บของและพูดเร็วปรื๋อ กลัวกลอนจะไม่พอใจมากไปกว่านี้

“นาย...มาอยู่ที่นานรึยัง”

กลอนถามอย่างแปลกใจ ข้าวของๆปารมีส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในกระเป๋า แต่ที่ระเบียงมีเสื้อผ้าของปารมีและตาหวานตากอยู่ มันบอกให้รู้ว่าปารมีใช้ชีวิตในนี้ ไม่ใช่แค่แวะมาอย่างที่กลอนเข้าใจ

“แล้วนายไม่ทำงานแล้วเหรอ”

เงียบไปชั่วอึดใจก่อนที่ปารมีจะเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ

 “ออกแล้วล่ะ”

กลอนหน้าเครียดขึ้นมาทันที ท่าทางเหมือนกลอนจะนึกว่าเป็นเพราะตัวเองอยู่แน่ๆ

 “ไม่ใช่เพราะกลอนหรอก คือปามมีปัญหานิดหน่อยน่ะ”

ก็ยังไม่มีความกล้าพอจะเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังอยู่นั่นเอง

 “แล้วนายจะไปไหน”

ปารมีเงียบไม่ตอบ เพราะยังคิดไม่ออกว่าจะไปอยู่ที่ไหน มือที่เก็บข้าวของหยุดไม่ขยับ แล้วร่างปารมีก็สั่นเทาน้อยๆ น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ กลอนตกใจจึงรีบย่อตัวลงมาจับบ่าเพื่อนไว้

“มีอะไรไหนบอกสิ”

ปารมีไม่พูดเอาแต่สะอื้นร้องไห้ แล้วอยู่ๆกลอนก็ดันมองลอดเสื้อเข้าไปเห็นร่องรอยจากการกระทำของวสุธาที่ยังไม่จางไป กลอนดึงเสื้อขึ้นเพราะต้องการมองให้ชัดเจน ถึงปารมีจะพยายามขัดขืน แต่กลอนก็เห็นจนได้

“นี่มันอะไร!”

 “ตอบมาสิปาม!”

กลอนถามอย่างร้อนใจ เขาได้แต่ภาวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลย

 “บอกมาสิปาม..”

เมื่อไม่มีเสียงตอบ กลอนก็ถามขึ้นมาช้าๆ เบาๆ ด้วยถ้อยคำขาดๆหายๆว่า

 “ปาม...โดน...เอ่อ...ข่มขืน...ใช่ไหม”

ปารมีไม่ตอบ แต่ก้มหน้าและร้องไห้ แค่นี้ก็เหมือนเป็นคำตอบได้แล้ว

 “ใครทำ ปามรู้จักไหม”

เสียงกลอนสั่น กลอนกำลังร้องไห้ไปด้วยกันกับปารมี คำถามที่ปารมีไม่ตอบ แต่กลอนตั้งใจแล้วว่ายังไงต้องเอาคำตอบมาให้ได้

“ถ้าปามไม่บอก กลอนจะพาไปหาหมอ และแจ้งความด้วย”

ถึงจะดูใจร้าย แต่ถ้าไม่ขู่ ปารมีจะไม่ยอมพูดแน่ๆ

“.........”

คำตอบแผ่วเบาจากปากปารมี

ดูเหมือนเป็นคำตอบที่ทำให้กลอนนิ่งไปทันตา คำแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือไม่อยากจะเชื่อ

นั่นสิเป็นใครก็ไม่อยากเชื่อทั้งนั้นแหละ ใครจะคิดว่าคนในตระกูลจอมไตรจะทำเรื่องแบบนี้

“ปาม.....ไม่ได้เต็มใจใช่ไหม”

ปารมีนิ่ง กัดริมฝีปากแน่นกับคำถามนั้น แค่นั้นก็ตอบได้แล้วว่าเพื่อนเขาคนนี้ไม่ได้เต็มใจไปกับเรื่องนี้ด้วยแน่ๆ

 “ปามอยู่ที่นี่ก่อนนะ”

กลอนว่าแล้วลุกขึ้นยืน เพราะรู้จักกันมานาน ปารมีจึงหวั่นใจ กลอนต้องไม่อยู่เฉยแน่ แต่คนธรรมดาอย่างเราๆจะไปทำอะไรเขาได้

 “กลอนจะไปไหน  อย่าไปหาเขานะ เราทำอะไรไม่ได้หรอก”

ปารมีดึงมือกลอนไว้ แต่กลอนจับมือปารมีให้คลายออกจากมือตนช้าๆ

“จะไปซื้อของหน่อยนะ ปามคงเอ่อ..เจ็บ...กลอนจะไปซื้อยาให้นะ”

ปารมีปล่อยกลอนไป พอลองมองในแง่ดีแล้ว กลอนเองก็มีความคิด น่าจะรู้ว่าเราทำอะไรเขาไม่ได้ อาจจะแค่ไปซื้อยาจริงๆ ปารมีเองก็อยากได้ แต่ไม่กล้าไปซื้อกลัวเขาซักว่าโดนอะไรมา แล้วจะไม่มีคำตอบให้ ปารมีโกหกไม่เก่งเสียด้วย

.....................

กลอนหายไปนานเกินไป ร้านขายยาอยู่ไม่ไกล ทำไมกลอนไปนานขนาดนี้ ปารมีนั่งชะเง้อคอมองที่ประตูอยู่ตลอดเวลา เป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าจะไปทำอะไรบุ่มบ่าม แล้วคนที่จะเดือดร้อนไม่ใช่ใคร แต่ก็เป็นกลอนนั่นล่ะ

“กลอนไปไหนมาน่ะ”

ปารมีแทบจะวิ่งมาไปหากลอนทันทีที่ประตูเปิด กลอนยื่นถุงยาที่แวะซื้อระหว่างทางแล้วเดินไปข้างใน ตาหวานตื่นแล้วและกำลังเล่นของเล่นที่กลอนซื้อให้อยู่ ปารมีไม่ได้เอาข้าวของที่บ้านนั้นซื้อให้ติดตัวมาเลย โทรศัพท์ที่ปิดเสียงปิดสั่นกระพริบตลอดเวลาแสดงว่ามีคนโทรเข้ามาแต่ปารมีไม่รับ กลอนหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ ความหงุดหงิดไม่พอใจทำให้กลอนไม่สนใจเรื่องมารยาทกดรับสายทันที

“ปารมี...”

ก่อนที่ทางนั้นจะได้พูดอะไรต่อกลอนก็กรอกเสียงลงไปซะก่อน

“อย่ามายุ่งกับปาม เลิกโทรมาได้แล้ว รำคาญ”

ต้องบอกว่าตะโกนอาจจะถูกกว่า ปารมีลงนั่งข้างๆเพื่อนแล้วยิ้มเศร้าๆ

“ฉันอยากไปอยู่ที่อื่นสักพักจัง”

 “ไปทำไม เราต้องไม่หนี อย่าให้พวกนั้นได้ใจว่ารังแกกันได้”

กลอนพูดอย่างโกรธแค้น

“แต่ เขา เอ่อ อาจจะตามมา”

ปารมีพูดด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น ไม่แน่ใจว่าใจจริงของตัวเองอยากหรือไม่อยากให้ทางนั้นตามมากันแน่...และดูเหมือนกลอนจะจับความรู้สึกสับสนในใจของเพื่อนรักได้

“ลองมาสิ กลอนจะตั้นหน้าให้ยับเลย”

ปารมีหัวเราะคิกกับท่าทางอวดกล้ามน้อยๆของกลอน กลอนเองก็ยิ้ม ดีใจที่ปารมียังยิ้มได้ ตาหวานคลานต้วมเตียมไปทั่วห้อง มือถือปารมียังกระพริบไม่หยุด แต่ไม่มีใครสนใจมันอีกเลย

................................................

วสุธาพยายามโทรหาปารมีหลายครั้ง เขารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของตัวเขาเองทั้งหมด ตั้งใจว่าเย็นวันนั้นจะกลับไปพูดกันให้รู้เรื่อง แต่เมื่อกลับไปปารมีก็ไม่อยู่ที่บ้านแล้ว เด็กๆทั้งสามคนดูจะตกใจมาก ก็แน่ล่ะ การเข้ามาอยู่ของปารมีเพียงไม่กี่เดือนแต่กลับทำให้เด็กชื่นชอบและผูกพันได้อย่างรวดเร็ว คงเป็นพรสวรรค์ของเจ้าตัว และที่สำคัญ เรื่องรสชาติอาหารของปารมีนั้นเด็กๆไม่เคยบ่นเลย แต่ถึงจะตกใจ ทั้งสามก็เป็นคนในตระกูลจอมไตรก็เลยพยายามสงวนท่าทีไว้ หากธรณินซึ่งยังอายุยังน้อยนั้น เพียงแค่วันถัดมาก็ร้องไห้งอแงหาปารมี และยังร้องไห้เพราะคิดถึงตาหวานอีกด้วย เดือดร้อนคนทั้งบ้านต้องช่วยกันปลอบอยู่นาน

พอคิดๆแล้ววสุธาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นขึ้นมา

วันนั้นวสุธาไม่อยู่ในอารมณ์ที่ปกตินัก เพราะเป็นวันครบรอบวันตายของเลวี่ภรรยาเขา ซึ่งทุกคนแม้แต่เด็กๆก็รู้ว่าไม่ควรกวนใจวสุธา

แต่ปารมีไม่รู้ ปารมีไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันนั้นเป็นวันอะไร วสุธาที่โมโหและหงุดหงิดขาดความยับยั้งชั่งใจ  รู้แต่ว่าตอนนั้นเขาเจ็บปวด และอยากทำให้ใครสักคนเจ็บปวดบ้าง คิดง่ายๆว่ามันอาจจะบรรเทาความเจ็บของเขาไปได้เพียงนิดก็ยังดี และก็ใช่ มันเป็นจริงตามนั้น ร่างกายอุ่นๆของอีกฝ่ายทำให้รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร ทำให้ตักตวงกับอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งคืน ช่วงเวลาที่มีอีกฝ่ายอยู่ในอ้อมกอดเป็นช่วงเวลาที่วสุธารู้สึกพอใจอย่างที่สุด หยุดตัวเองไม่ได้แม้จะรู้ดีว่ามากเกินไป แต่ก็ไม่อาจห้ามใจ

หลังจากตื่น เขาก็ชะล้าใจ คิดว่าเมื่อทำงานเสร็จค่อยกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก็ได้ แต่เมื่อกลับไปบ้านปารมีก็หายไปแล้ว

ที่ๆปารมีจะไปที่จริงใครๆก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นที่ไหน แต่วสุธาไม่รู้ วสุธาให้คนออกตามหาทั้งที่โรงแรมและท่ารถ แต่ก็ไม่เจอปารมี เขาลืมคิดถึงห้องของเพื่อนปารมีไปเลย จนกระทั่งไม้กลับมา เลยพูดเตือนให้เขาคิดถึงที่นั่น ไม่ต้องรอไปพิสูจน์ เพราะยังไม่ทันได้ทำ เจ้าของห้องที่น่าจะเป็นที่พักพิงให้ปารมีก็บุกตรงมาชกหน้าเขาโดยไม่หวั่นกลัวอะไรที่ไหน เป็นสิ่งยืนยันให้รู้ชัดว่า ปารมีต้องอยู่ที่ห้องของกลอนเป็นแน่

กลอนรู้เรื่องแล้ว และวสุธาไม่โกรธสักนิดที่กลอนมาชกเขา เพราะแน่ใจว่าที่เขาทำลงไปแค่ชกอาจจะยังไม่พอด้วยซ้ำ  เขาเพียรโทรหาปารมีด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ขนาดธุรกิจร้อยล้านพันล้านเขายังให้เลขาต่อสายให้ เมื่อโทรศัพท์ไม่ได้ผล วสุธาก็เดินทางมาที่ห้องของกลอนด้วยตัวเอง แต่ไม่เคยได้รับการต้อนรับ

สุดท้าย เมื่อน้องชายอาสาจะช่วย วสุธาจึงยิ้มรับความช่วยเหลือนั้นทันที

ถึงจะได้เข้าไปคุยกับปารมี แต่อาการนิ่งฟังนั้นทำเอาวสุธาหวั่นใจอยู่มาก อาจจะเหมือนปารมีกำลังฟังอย่างตั้งใจแต่เขาดูออกว่าปารมีไม่ได้ฟังทีเขาพูดเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นหลักๆที่สำคัญวสุธาจึงย้ำหลายรอบ

“ไว้ผมจะมาเอาคำตอบนะ”

วสุธาพูดย้ำทิ้งท้ายไว้ เขายังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะมีโอกาสได้เจอกับปารมีอีก กลอนเพื่อนของปารมีนั้นกันท่าน่าดู แต่ก็สมควรแล้วที่เขาต้องโดนแบบนี้ นี่ถ้าไม่เพราะไม้อาสาจะช่วยดึงเวลากลอนตอนที่กลอนออกไปข้างนอกตามคำบอกเล่าจากคนดูแลตึกที่โดนซื้อมาเป็นพวกเขาเรียบร้อยแล้วล่ะก็ วสุธาคงไม่มีโอกาสได้คุยกับปารมีสักนิดแน่ๆ

เด็กๆเริ่มงอแงมากขึ้นทุกที จากธรณินคนเดียว ตอนนี้ทั้งปฐวีและปฐพีต่างก็ไม่ค่อยยอมทานข้าวเท่าไหร่ แน่นอนเพราะติดรสมือคุณปามของเด็กๆนั่นล่ะ จนวสุธาต้องสัญญาว่าจะพาปารมีกลับไปให้ได้ เด็กๆถึงได้ยอมงอแงกันน้อยลง ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้จะต้องเป็นไปตามความต้องการของเขา วสุธาหมายมั่นอย่างตั้งใจ

...................................

ปารมีนั่งหมดสภาพอยู่กลางห้องตอนที่กลอนกลับมาจากข้างนอก ทันทีที่เห็นเพื่อนรักเจ้าตัวก็เหมือนเพิ่งรู้สติโผเข้าเพื่อนทันที น้ำตาที่กลั้นไว้จากความตื่นกลัวในการเผชิญหน้ากับวสุธานั้นหลั่งออกมาโดยไม่สามารถยับยั้ง

“เขามากลอน เขามา เมื่อไหร่เขาจะหยุดสักที”

กลอนกอดปลอบใจเพื่อน ก่อนจะดันตัวปารมีออกเพื่อสังเกตความผิดปกติ เขากลัวว่าวสุธาอาจจะกลับมาทำร้ายปารมีอีกครั้ง แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมรามือเฉยๆแน่นอน ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรทุกสิ่ง กลอนก็จะต้องเอาคืนบ้างให้ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

....หลังจากดูและฟังที่ปารมีเล่า ก็ค่อยเบาใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าที่ฝั่งนั้นมาพูดอะไรสักอย่าง ซึ่งปารมีไม่ได้ฟัง ...โชคดีไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของฝั่นโน้นที่ไม่ต้องเจอการเอาคืนจากกลอน หรือว่าเป็นโชคดีของกลอนที่ไม่ต้องเข้าแลกกับตระกูลนั้น

ตอนนี้ปารมีกับกลอนยังงงและสงสัย อะไรที่วสุธาจะมาเอาคำตอบจากปารมี ....

...................

ปารมีตื่นขึ้นมาไม่เจอกลอน ก็คิดว่าเพื่อนคงออกไปไม่ไกลนัก นั่งรอจนเที่ยง จนบ่าย กลอนก็ยังไม่กลับ เพราะงั้นทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด ปารมีจึงแทบถลาไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าทันทีเหมือนกันเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร

“คุณวสุธา”

เสียงแผ่วเบารอดออกมาจากริมฝีปากบาง

“ชั้นมาเอาคำตอบ”

ปารมียืนนิ่งสนิท ต่างจากผู้มาเยือน ที่เดินตรงเข้ามาในห้องโดยไม่มีท่าทางหวั่นเกรงใดๆทั้งๆที่อยู่ในอาณาเขตของคนอื่น วสุธาเดินตรงไปอุ้มตาหวานขึ้นมาและหอมแก้มแรงๆอย่างทุกครั้งที่เจอ  เด็กชายเองก็คงจำวสุธาได้เลยยิ้มดีใจที่ได้เห็นหน้าคนๆนี้ ส่วนปารมี ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่สายตาก็คอยมองวสุธาไว้ในทุกๆท่าทาง เพราะกลัวจึงต้องมอง เพราะระแวงจึงต้องมอง เพราะไม่ไว้ใจจึงต้องมอง เป็นการระแวดระวังภัยอย่างหนึ่งของปารมี

“ว่าไง คุณคิดว่ายังไง”

“ขอโทษครับ ผมขอปฏิเสธ”

ปารมีไม่รู้ว่าวสุธามาเอาคำตอบเรื่องอะไร แต่ก็มั่นใจว่าคำตอบที่ตนต้องตอบนั้น ไม่ใช่คำตอบรับแน่ๆ....แล้วมีรึ วสุธาจะไม่รู้ว่าปารมีตอบมาทั้งที่ไม่ได้ฟังตนสักนิด

“เพราะอะไรล่ะ”

ปารมีนิ่งไป กัดริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามคิดหาคำตอบที่ตอบออกไปแล้วจะไม่ทำให้วสุธารู้ความจริงว่าปารมีไม่ได้ฟังที่วสุธาพูดคราวที่แล้วสักนิด

“ผะ...ผมไม่ต้องการ”

น่าจะเป็นคำตอบรวมๆที่ดูดีที่สุดแล้ว วสุธายิ้มอย่างรู้ทัน ร่างสูงวางตาหวานลงกับที่นอนแล้วหันกลับมาพูดกับปารมี

“งั้นตกลงตามนี้”

พูดจบวสุธาก็กดโทรศัพท์โทรออก ไม่นานร่างเล็กๆสามร่างก็ปรากฏตัวที่ห้อง

“คุณปาม”

ทั้งสามกระโดดเข้าหาปารมีด้วยความคิดถึง ก่อนจะผละออกมาหาตาหวาน

“ตาหวาน กลับบ้านกันนะ”

ธรณินพูดกับน้องในอ้อมกอดของพี่ชาย ในระหว่างนั้นวสุธาก็เก็บข้างของๆตาหวานและปารมีลงกระเป๋าเป้ไปด้วย

“นี่มันอะไรกันครับ”

ปารมียังงงไม่หาย เขามั่นใจว่าที่เขาตอบไปคือการปฏิเสธ แล้วไหงเด็กๆถึงมาที่นี่กันได้ แล้วคำว่ากลับบ้านของธรณิน แถมวสุธายังมาเก็บข้าวของๆเขา ทำไมกัน?

“ก็คุณปฏิเสธการรับเงินจากผม แล้วยินดีกลับไปอยู่ที่บ้านจอมไตรไง”

ปารมีอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าที่ตัวเองเลือกตอบออกไปนั้นจะผิดจากความตั้งใจลิบลับแบบนี้

วสุธายิ้มเรียบๆที่มุมปากเมื่อปารมีไม่รู้ตัวเลยว่าโดนหลอกเสียแล้ว

คราวที่แล้วเขาพูดกับปารมีเยอะแยะ ที่เขามาเอาคำตอบนั้น แน่นอนเป็นคำถามว่าปารมีอยากจะกลับไปอยู่ที่จอมไตรหรือไม่ แต่หลังจากที่ดูๆแล้วปารมีไม่ได้ฟังคำถามเลย วสุธาก็เลยถือโอกาส ไม่ว่าปารมีจะตอบอย่างไรคำถามก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นการตกลงกลับไปอยู่ที่จอมไตร ก็แค่เลือกคำถามให้ตรงกับคำตอบ เขาตั้งใจจะรับผิดชอบปารมีเต็มที่ การกลับไปครั้งนี้ของปารมีไม่ใช่ในฐานะพี่เลี้ยง แต่เป็นการกลับไปในฐานะคนรักของเขา เรื่องนี้วสุธาได้คุยกับลูกทั้งสามคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเด็กๆก็ยอมรับได้ เพราะสำหรับเด็กๆแล้วมันดีกว่าการที่ปารมีจะหายไป

“คุณปามไม่อยากกลับไปอยู่กับผมหรือครับ”

ธรณินยืนเกาะแขนคนทำหน้าลำบากใจ เอ่ยถามเสียงเครือด้วยใบหน้าหงอยเหงาและน้ำตาคลอ ปารมีมองธรณินแล้วมองเลยไปยังปฐพีกับปฐวี ทั้งสองก็มองมาที่ปารมีเป็นตาเดียว ใบหน้าที่แสดงให้รู้ว่าถ้าปารมีตอบไม่ตรงใจ ทั้งคู่ก็พร้อมจะปล่อยโฮออกมาแน่ๆ ปารมีถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

“ครับ กลับก็กลับ”

แค่นั้นเด็กๆก็เปลี่ยนใบหน้าเป็นยิ้มแย้มอย่างรวดเร็ว จนราวกับใบหน้าเศร้าสร้อยเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก.......และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องโกหก สี่พ่อลูกคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าใช้ไม้นี้ปารมีต้องใจอ่อนแน่ๆ และก็เป็นไปตามที่พวกเขาคิดจริงๆ... เห็นจะมีแต่ปารมีเท่านั้นแหละมั้งที่ไม่รู้ว่า ที่เขาต้องกลับไปอยู่ที่จอมไตรนี่ ทั้งหมด .......มันเป็นแผน......

............................................
TBC

ตอนที่ 4 มาวันพุธค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 14-05-2012 13:09:33
 :z13: :z2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TRFNMAE ที่ 14-05-2012 13:21:43
ร้ายกาจทั้งสี่พ่อลูกเลยอ่ะ o18
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 14-05-2012 13:52:33
นั่นไง!!!!!!
คุณดิน นิสัยว่ะ เมาแล้วขาดสติ
ปล้ำคุณปามของเด็กๆได้ไงเนี่ย
แต่ขำคุณปามอ่ะ เพราะไม่ยอมฟังตอบอะไรไป มันก็ลงเอยแบบที่คุณดินต้องการอยู่ดี
เด็กๆเจ้าเล่ห์ติดใครน้อ 55555+
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 14-05-2012 14:22:12
วางแผนกันดีนัก  สี่คนพ่อลูก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 14-05-2012 14:49:28
วสุเจ้าเล่ห์  แต่ปามก็นิสัยแบบเด็ก ๆ เหมือนกันน่ะนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 14-05-2012 14:56:07
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 14-05-2012 15:00:48
ไม่เสียชื่อจอมไตรจริงๆ

เอ ปลํ้าปามไปอย่างงั้น ระวังอดอีกนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 14-05-2012 15:11:21
ร้ายทั้งพ่อทั้งลูกอ่ะ
ตกลงว่า ,, ให้คุณปามเป็นแม่ใมหม่ช่ะ? เด็กๆ
ฮ่าๆๆๆๆ
น่ารักจัง ,,, คุณปามสู้ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 14-05-2012 15:22:04
ร้ายทั้งตระกูล ทุกรุ่น น่าถีบจริงเลย แต่ตระกูลนี้ดีเนอะมีแต่เพศผู้หมดเลย แถมมีเมียเป็นเพศผู้หมดด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 14-05-2012 15:26:29
เออออ ง่านดีเนอะคุณดิน รังแกเค้ายังจะมาเจ้าเล่ห์ใส่อีก


กลับไปอยากให้ปามเอาคืนให้หนักกว่านี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 14-05-2012 15:31:18
เจ้าเล่ห์ทั้งพ่อทั้งลูก 5555
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-05-2012 15:38:50
ผิดไหมที่จะบอกว่าสงสารหนูปามอ่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 14-05-2012 15:50:46
 :laugh:   เจ้าเล่ห์กันทั้งตระกูลจิงๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 14-05-2012 15:56:24
โหยยยยยยยยยยยยยย ยอมง่ายไป๊ ฮ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 14-05-2012 16:42:11
ร้าย :angry2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 14-05-2012 16:47:25
4คนพ่อลูกแสบจริงๆ

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 14-05-2012 17:03:25
ความใจดีและใจอ่อนของปามคือจุดอ่อนที่ทำให้สี่คนพ่อลูกเจ้าเล่ห์สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 14-05-2012 17:24:03
วางแผนกันมาอย่างดีเลยครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 14-05-2012 17:43:08
เจ้าเล่ห์ทั้งตระกูล :o9:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 14-05-2012 18:09:45
รวดเร็วมาก  555555555555
ร้ายยยยทุกคนจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 14-05-2012 18:10:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 14-05-2012 18:38:29
พ่อลูกนี่ร้ายกาจกันจริงๆเลย o18...โดยเฉพาะคนพ่ออ่ะร้ายนัก   :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 14-05-2012 18:42:22
นั่นสินะ

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าพวกเด็กๆเหมือนใคร  :z10:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 14-05-2012 20:36:39
เด็กไม่ทิ้งลายความเป็นจอมไตรเลยอ่ะ

เจ้าเล่ห์กันทั้งตระกูล

แต่เจ่ชอบ  หึหึหึ   :laugh5:   :laugh5:   :laugh5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 14-05-2012 20:39:07
กลับไปในฐานะคนรักด้วย!!

โอ้ว! *0*
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 14-05-2012 20:46:15
ครอบครัวสุขสันต์ ปาม+ดิน  :110011: :z7:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 14-05-2012 20:52:29
 o18 :m25:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Heisei ที่ 14-05-2012 20:55:56
เด็กๆเจ้าเล่ห์เหมือนพ่อ...
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 14-05-2012 20:56:34
เลวเนอะ ใครที่คนในบ้านนี้หลงรักน่าสงสารทุกคนเลย

ทำทุกวิถีทางจริงๆ

ให้อภัยกับความเลวได้เพราะว่ารักจริงๆเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 14-05-2012 20:56:59
อยากหาวิธีดัดหลังวสุจัง :m16: ยังไม่หายแค้นเลยยยย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 14-05-2012 21:00:55
 :a5:เอ้า...คุณปาม..ทำไมไม่เล่นตัวอีกซักนิดล่ะคร้าบบ....ไม่ทันบ้านจอมไตรหราเนี่ย....เเซ่บกันท้างบ้าน o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 14-05-2012 21:03:48
 :เฮ้อ:ว่าแต่ปามยอมงายไปไหมอะ :m16:


หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-05-2012 21:22:28
สมแล้วที่เป็นจอมไตร
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 14-05-2012 21:27:43
อะฮ้าาาาาา วางแผนกันมาอย่างดี
ทั้งคุณพ่อ คุณลูกประสานคลังเข้าขากันดีมาก
รวมกันเราอยู่เนอะ 555
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 14-05-2012 22:21:58
พึ่งเคยอ่านจอมไตรสนุกมากค่่ะ
คงต้องไปตามอ่านเรื่องของคนอื่นบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-05-2012 23:30:59
 :L2:ร้ายทั้งโคตร
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 14-05-2012 23:46:29
...เจ้าแผนการณ์ ทั้งพ่อทั้งลูก
...แต่ก็ดีนะ ปารมี มีลูกทีเดียว 4 คน โดยที่ไม่่ต้องออกแรง..เหนื่อย :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 15-05-2012 00:05:46
ไม่ค่อยจะเจ้าเล่ห์เลยนะพ่อลูก > <
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-05-2012 00:14:13
ครอบครัวจอมไตร นี่น่ากลัวจังแฮะ  :a5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: eiei ที่ 15-05-2012 00:50:46
ตาหวานกับคุณปาม   :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 15-05-2012 00:58:40
วสุธาาาาาาาาาาาาาาาาา    :z6:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: I_HAM_NOI ที่ 15-05-2012 01:36:11
ได้อ่านเรื่องปามแล้วดีใจจัง ติดใจมาตั้งแต่อ่านเรื่องไม้กับกลอนแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 15-05-2012 08:39:24

พ่อลูกร้ายกาจจริงๆ คุณปามกลับไปขนได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-05-2012 10:37:23
ปามนี่้ท่าจะไม่ทัน4คนพ่อลูกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 15-05-2012 12:21:30
สงสารหนูปามเช่นกัน
ไอ้คุณดินนี่ยังไงเนี่ยยยย

+1 ให้จ้าาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-05-2012 15:20:09
โอ๊ะ อะไรมันง่ายปานนี้ละนี่
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 3 P.4 [14/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 16-05-2012 06:29:58
ตอนที่4

“ห้องนี้มันหมายความว่าไงครับ”

ปารมีถามแทบจะทันทีที่เข้ามา เมื่อห้องที่เด็กๆพามาคือห้องของผู้เป็นพ่อ

“ก็คุณปามเป็นคนรักของคุณพ่อ ก็ต้องนอนกับคุณพ่อสิครับ”

ปฐวีตอบฉะฉานราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา

“แต่…..”

“มีอะไรเหรอ”

ปารมีกำลังจะพูด เสียงคุณพ่อของเด็กๆก็ดังขึ้นมาซะก่อน

“คุณปามดื้ออีกแล้วครับ”

ธรณินรีบวิ่งไปฟ้องพ่อทันที คำบอกเล่าของลูกชายทำให้วสุธาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ดื้อ?”

“ก็คุณปามจะไม่อยู่ห้องนี้”

ปฐพีพูดบ้าง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันทีที่เด็กชายพูดจบ วสุธามองหน้าปารมีเชิงไต่ถามว่าจริงหรือไม่

“ก็ที่นี่มันห้องคุณวสุธา”

ปารมีพูดด้วยเสียงเบาหวิว ถึงแม้จะเต็มใจมาด้วย แต่ก็เพราะเห็นแก่เด็กๆเป็นส่วนใหญ่ พูดตรงๆว่าเขายังกลัววสุธาอยู่มาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าคนๆนี้น่ากลัว ความทรงจำวันที่โดนทำร้ายยังคงเด่นชัดอยู่ในใจ จึงเป็นเรื่องปกติใช่ไหมที่ปารมีจะหวาดผวาเวลาวสุธาเดินเข้าใกล้ หรือแม้แต่การที่หวั่นใจเมื่อต้องมานอนห้องเดียวกัน

“สบายใจเถอะ ผมสัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินคุณอีก หากว่าคุณไม่เต็มใจ”

คำสุดท้ายมันฟังดูแปลกๆ แต่วสุธาไม่ปล่อยให้ปารมีได้คิดตามคำพูดนั้นมากนัก

“คุณกลับมาคราวนี้ไม่ใช่ในฐานะพี่เลี้ยง แต่เป็นคนรักของผม มาอย่างเจ้านายอีกคน เพราะงั้นการนอนห้องเดียวกับผมเป็นการแสดงให้เห็นว่าผมยกย่องคุณ”

“แต่ผมไม่ได้อยากเป็น”

วสุธาออกจะหน้าตึงเมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าไม่ได้อยากเป็นคนรักของตนเอง แต่ก็รีบลบความไม่พอใจของตนทิ้งไปทันที ตัวเองทำผิดเอาไว้กับอีกฝ่ายขนาดนั้น แค่ปารมียอมกลับมาก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อเหลือเกินแล้ว

“ถึงคุณไม่อยาก แต่นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งใจ เพราะงั้นคุณก็ยอมรับเสียเถอะ”

พูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วออกจากห้องมาด้วยไม่อยากต่อความยาว

ปารมีเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างลำบากใจ

“คุณปามจัดของเถอะ เร็วๆๆ”

ธรณินเขย่าแขนพลางดึงปารมีให้มาจัดของ สุดท้ายปารมีก็ต้องยอมรับการนอนห้องเดียวกับวสุธาอย่างไม่สามารถขัดได้ ...

..................................

ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่จอมไตร อะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่ปารมีเป็นพี่เลี้ยง เป็นลูกจ้างคนหนึ่งของบ้าน ตอนนี้มีสถานะเป็นคนรักของเจ้าของบ้าน เป็นเจ้านาย...ทำให้ปารมีทำตัวไม่ค่อยถูกนัก และกลัวว่าคนอื่นๆจะรับไม่ได้ ก็ในเมื่อปารมีเป็นผู้ชาย ไอ้การจะเข้ามาอยู่ในฐานะคนรักของเจ้านายผู้ชายมันดูจะแปลกไปมาก ปารมีเตรียมใจรับสถานการณ์ที่จะโดนดูถูกจากคนรอบข้างมาเป็นอย่างดี....แต่ก็ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นสักนิด ไม่มีเลย  ทุกคนให้ความเคารพปารมีด้วยความเต็มใจ จนปารมีชักเหนื่อยใจ ที่นี่จะไม่มีใครต่อต้านให้เขารู้สึกว่ามันเป็นโลกธรรมดาบ้างรึอย่างไรกัน

ปารมีไม่รู้ตัวว่าตลอดเวลาที่เข้ามาอยู่ในฐานะพี่เลี้ยงนั้น ได้ทำให้ทุกคนในบ้านรักและเอ็นดูแค่ไหน ปารมีไม่เคยวางอำนาจเพราะถือว่าได้รับเงินเดือนมากกว่า หรือทำหน้าที่ที่สูงกว่าคนอื่น กลับกัน ปารมีย้ำกับทุกคนว่าตนเป็นลูกจ้างเหมือนกัน มีอะไรก็ต้องช่วยกัน ปารมีไม่เคยดูแลคุณหนูๆของพวกเขาเพียงเพราะเป็นหน้าที่ หรือเพราะต้องการเอาอกเอาใจพ่อของเด็กๆอย่างที่คนอื่นๆทำ แต่ปารมีทำตามความตั้งใจของตน อาจจะตามหน้าที่ แต่ก็เป็นไปด้วยความจริงใจ จนอาจเรียกได้ว่าทำไปด้วยความรัก หากใครสักคนที่วสุธาจะเลือกมาเป็นนายอีกคนของพวกเขาเป็นปารมีแล้วละก็ พวกเขาไม่มีใครคิดจะคัดค้านหรือเห็นว่าไม่สมควร

“คุณปาม ไม่ต้องทำหรอกค่ะ”

แม่บ้านคนหนึ่งเดินมาเจอปารมีกำลังล้างขวดนมของตาหวานรีบร้องห้ามและถลาเข้ามาแย่งขวดนมในมือปารมีไปถือไว้

“แต่ว่า......โธ่.....น้าสาย”

ปารมีที่กำลังจะแย้ง เจอสายตาดุๆของแม่บ้านที่ส่งมาก็ต้องร้องเรียกอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ

“ผมจะเป็นง่อยอยู่แล้ว”

ปารมีอาจจะพูดเกินจริงไปสักนิด แต่ว่านอกจากตอนที่ปารมีลงมาทำกับข้าวแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานเลย

“ก็ไปดูคุณตาหวานสิค่ะ”

ปารมียิ้มเซียวๆให้ เพราะรู้ว่าเถียงไปก็ไม่เกิดประโยชน์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามดิ้นรนจะได้ทำงาน และทุกครั้งไม่เคยมีครั้งไหนที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจสักครั้ง

“ครับๆ ผมจะไปนั่งเฝ้าตาหวานหลับก็แล้วกัน”

ปารมีพูดงอนๆแล้วเดินออกไป ภาพนั้นเรียกรอยยิ้มจากแม่บ้านสายได้เป็นอย่างดี ปารมียังคงพูดด้วยภาษาสุภาพกับตน และพูดกับทุกคนอย่างที่เคยพูด แม้สถานะจะเปลี่ยนแปลง แต่คนไม่ได้เปลี่ยนไป เธอดีใจที่เจ้านายไม่ได้เลือกคนผิดมาอยู่ข้างกาย

...............................

เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนซึ่งก็ยังเป็นห้องของวสุธา แม้ว่าปารมียืนยันหลายครั้งว่าต้องการกลับไปนอนห้องเดิม แต่ใครจะไปเถียงสู้เจ้าของบ้านได้ล่ะจริงไหม

ห้องนอนนี้ตาหวานไม่ได้อยู่ด้วย แต่เด็กชายอยู่ที่ห้องข้างๆซึ่งต่อไว้สำหรับเลี้ยงทารกเมื่อนานมาแล้ว ใช้เลี้ยงเด็กๆทั้งสามคน เลวี่ภรรยาผู้ล่วงลับของวสุธาเป็นคนต่อไว้เมื่อเธอยังอยู่

“คุณวสุธา”

“ว่าไง”

วสุธาที่กำลังเปลี่ยนเสื้อหันมามองคนเรียกเพียงแวบเดียวแล้วก็หันกลับไปสนใจการติดกระดุมต่อ

“ผมคิดว่าผมว่าง.....ว่างเกินไป”

ปารมีพยายามหาคำพูดที่พูดไปแล้วจะดูไม่เหมือนว่าเขาเอาแต่ใจตัวเองจนทำให้วสุธาลำบากใจ เขามาอยู่ที่นี่ รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้เข้ามาในฐานะคนรักอย่างที่วสุธาบอกคนอื่นๆ ก็แค่คนที่วสุธาเผลอมามีอะไรด้วย และเกิดเป็นที่ต้องการของลูกๆของวสุธา เลยได้ฐานะนี้มา วันหนึ่งเกิดวสุธาไม่พอใจ เกิดเด็กๆไม่ต้องการขึ้นมาแล้ว เขาก็คงต้องจากไป ปารมีบอกตัวเองอยู่เสมอว่าที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ถาวรของตน

“ฮืม...”

วสุธาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อได้ฟังคำถาม

“ไว้จะหาอะไรให้ทำล่ะกัน”

ถึงแม้จะรับปากแต่ปารมีก็แอบคิดว่าเป็นเพียงแค่คำตอบรับส่งๆ ด้วยคิดว่าวสุธาไม่ได้สนใจอะไรกับตัวเองเท่าไหร่

“ครับ”

เมื่อวสุธาไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น ปารมีก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรกับชายหนุ่มอีก

หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยวสุธาก็เดินลงมาข้างล่าง ปารมีเองก็เดินตามลงมาด้วย โดยไม่ได้ตั้งใจสักนิด แต่คนที่มองมาส่วนใหญ่กลับคิดว่าปารมีตั้งใจเดินมาส่งวสุธาที่รถเพื่อไปงานเลี้ยงค่ำนี้

“สวัสดีค่ะคุณปารมี”

นก...เลขาสาวส่งยิ้มมาให้ เธออยู่ในชุดราตรีหรู ถึงแม้ผมจะรวบขึ้นทั้งหมด และสวมแว่นสายตาอยู่ แต่เธอก็ไม่ได้ดูเชยสักนิดกลับดูทันสมัย การแต่งตัวเป็นแบบเรียบแต่หรูทำให้นอกจากจะดูสวยแล้วเธอยังดูสง่างามอีกด้วย

“สวัสดีครับ”

ปารมีทักทายกลับไป

“งั้นไปก่อนนะ”

วสุธาหันกลับมาลาปารมีก่อนที่จะเข้าไปนั่งในรถ และหญิงสาวซึ่งเป็นเลขาก็ตามเข้าไปนั่งเคียงข้างก่อนที่รถจะแล่นออกไป ทั้งคู่ออกไปงานเลี้ยงค่ำนี้ด้วยกัน ใช่....วสุธาไปกับเลขาอย่างที่เคยทำมาเสมอตั้งแต่ภรรยาเสียไป .....ปารมีไม่อยากคิดอะไรแต่ก็อดคิดไม่ได้ ทำไมวสุธาถึงตัดสินใจเลือกเขาเข้ามาเป็นอยู่ในฐานะคนรัก ทั้งๆที่มีคนที่เหมาะสมกว่าอยู่ข้างๆแท้ เวลาที่ทั้งคู่ยืนคู่กันช่างดูเหมาะสม ยิ่งพอมาแต่งตัวด้วยชุดพีธีการเพื่อไปงานเลี้ยงแบบเมื่อครู่นี้แล้ว มองดูราวกับเป็นภาพวาดก็ไม่ปาน

ปารมีไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ไหนสักที่ทุกครั้งเมื่อเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน แล้วเขาก็เริ่มคิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองว่างการว่างงาน ในขณะที่คนอื่นๆนั้นงานล้นมือก็เป็นได้

ตัวเองจะเป็นคนไร้ค่าไปถึงเมื่อไหร่........ปารมีได้แต่คิดอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา

.............................

“ปารมีมาบอกว่าเขาว่างมาก เธอว่าเขาต้องการอะไรนก”

วสุธาเอ่ยถามเลขาคู่ใจในขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนรถ

“ฮืม....ก็คงเบื่อล่ะมั้ง”

นกตอบพร้อมรอยยิ้ม หล่อนไม่ค่อยเห็นวสุธาสนใจใครนัก แต่กับปารมีนั้น วสุธาพูดถึงจนเรียกได้ว่าเป็นประจำเลยก็ว่าได้

“ก็ลองแนะนำให้เขาไปเรียน....ทำอาหารดีไหมค่ะ คุณปารมีชอบไม่ใช่หรือ”

เท่านั้น บทสนทนาก็หยุดลง วสุธาไม่ตอบรับหรือไม่ปฏิเสธคำแนะนำ แต่นกก็รู้เป็นอย่างดีว่า พรุ่งนี้ คงต้องเตรียมรายละเอียดของโรงเรียนฝึกทำอาหารหลายๆที่ไว้ให้

...........................................

แต่รายละเอียดเรื่อทั้งหลายเหล่านั้นกลับไม่ได้ใช้อย่างที่นกตั้งใจ เพราะปารมีไม่อาจทิ้งตาหวานให้คนอื่นเลี้ยงด้วยไม่อยากเพิ่มภาระให้ใคร ถึงแม้คนในบ้านจะเต็มใจ แต่เขาก็คิดว่ามันไม่ถูกต้องอยู่ดี

“งั้นก็ทำขนมเล่นๆไปดีไหม ผมจะให้เขามาทำห้องอบขนมให้ถัดจากห้องครัว”

หลังจากฟังอีกฝ่ายว่าปารมีก็ไม่ค่อยสบายใจนัก เมื่อมันดูเหมือนว่าการเรียกร้องของตนเองจะเป็นการหาเรื่องให้วสุธาเสียเงินโดยใช่เหตุ

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะพยายามหาอะไรทำระหว่างที่เลี้ยงตาหวานไปด้วยแล้วกัน”

วสุธารับฟังแต่ไม่ได้ทำตาม วันถัดมาก็มีช่างมาดูที่และการก่อสร้างห้องสำหรับทำขนมก็เริ่มขึ้น

ห้องทำขนมของปารมีมีขนาดไม่ใหญ่มาก และห่างออกมาจากตัวบ้านเล็กน้อย แม้ปารมีจะตอบปฏิเสธแต่ก็อดตื่นเต้นกับห้องใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อตัวเองนี้ไม่ได้

เด็กๆก็ดูจะตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างออกไป หลายครั้งหลายคราที่เด็กๆอยากกินขนมอันนั้นอันนี้แล้วปารมีบอกว่าไม่สามารถทำได้ด้วยข้าวของเครื่องมือที่มีอย่างจำกัด แต่เมื่อมีห้องสำหรับทำขนมแบบนี้ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆก็ต้องเพียบพร้อมตามไปด้วย

เด็กชายทั้งสามใช้เวลาว่างส่วนหนึ่งในการเลือกรายชื่อขนมที่อยากกินไว้รอเพื่อให้ปารมีทำให้

การสร้างห้องอบขนมนี้วสุธาทำไปเพราะต้องการ ‘เอาใจ’ ปารมี เรื่องนี้ใครดูก็รู้ แต่แปลกเหลือเกินที่เจ้าตัวทั้งวสุธาและปารมีกลับไม่รู้สึกถึงเรื่องนั้นสักนิด

วสุธาคิดว่าตัวเองทำเพราะอยากทำ ไม่มีเหตุผลอะไรอีก

ส่วนปารมีคิดว่าวสุธาทำไปด้วยเพราะต้องการชดใช้ให้เรื่องที่เคยมาล่วงเกินตน

ทั้งสองคนไม่ได้คิดเลยว่าสายใยเล็กที่ผูกคนทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันนั้นกำลังค่อยๆดึงทั้งสองเขามา ให้ทั้งสองค่อยใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม

.......................

ถ้าถามว่าเวลาไหนที่ปารมีอึดอัดใจที่สุดตั้งแต่กลับมาอยู่ที่บ้านจอมไตร ปารมีตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าเวลานั้นคือช่วงเวลายามค่ำคืน

ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะแทบทำผ้าเช็ดตัวที่ใช้ซับน้ำอยู่ร่วงหลุดมือเมื่อเห็นว่าใครที่นั่งอยู่ภายในห้อง

“เอ่อ... ทำงานเสร็จแล้วหรือครับ”

วสุธาเงยหน้าละความสนใจจากเอกสารที่หยิบติดมาอ่านแล้วก็พยักหน้าให้ก่อนจะลุกขึ้นสวนเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการชำระล้างร่างกายบาง

ลมหายใจอุ่นๆถูกพรูออกมาจากริมฝีปากบางเบาๆ ร่างกายที่เกร็งนิ่งเมื่อครู่ถูกผ่อนคลายลงเมื่อไม่มีอีกคนอยู่ในกรอบสายตาแล้ว

“เมื่อไหร่จะแก้ได้นะ”

บ่นกับตัวเองเบาๆถึงการการเกรงกลัวคนตรงหน้า หากเป็นช่วงเวลาธรรมดานอกห้องนอนปารมีก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรนัก หากแต่เมื่ออยู่ในห้องนี้ทีไร ความรู้สึกหวาดกลัวเรื่องราวที่ผ่านมาก็ยังไม่จางหายไปเสียที แต่เพราะวสุธาไม่เคยมีท่าทีคุกคามอีกปารมีจึงพยายามไม่แสดงอาการเหล่านั้นออกไป

แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เลยว่าคนที่เพิ่งเดินสวนเข้าไปในห้องน้ำเมื่อครู่นี้สังเกตเห็นอาการหวาดกลัวเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน ร่างสูงพิงผนังห้องน้ำแล้วถอนหายใจออกมาเช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ด้วยความโล่งใจอย่างปารมีเมื่อครู่ วสุธากลุ้มใจที่ปารมียังกลัวตนเองอยู่ แต่เพราะเรื่องที่ตัวเองทำนั้นมันน่าจะทำให้รู้สึกแย่จริงๆเลยไม่คิดโทษร่างบางข้างนอกห้องนั้นเลยสักนิด แค่ปารมียอมกลับมาอยู่ที่นี่ก็นับว่าดีถมไปแล้ว แต่เขาก็ยังหวัง หวังจะให้ปารมีเลิกหวาดกลัวตัวเขาได้เสียที

หลังจากอาบน้ำเสร็จเมื่อออกมาห้องนอนที่เคยสว่างก็เหลือเพียงแสงนวลจากโต๊ะเครื่องแป้งเท่านั้น ปารมีแกล้งทำว่าหลับไปแล้วทั้งที่คงจงใจหลบหน้าเขา แต่วสุธาก็ไม่ทักออกมา ตอนนี้เขาอยากให้ปารมีชินกับชีวิตที่มีตัวเขาอยู่ข้างๆและไว้ใจพอจะเลิกหวาดกลัวเสียก่อน

เรื่องที่ตัวเองทำนั้นโหดร้ายแค่วสุธารู้ดีที่สุด

แม้จะไม่ได้รับความไว้วางใจหรือการให้อภัยจากอีกฝ่ายวสุธาก็ไม่คิดจะบ่นสักนิด

ร่างสูงล้มตัวลงนอนบนเตียงในด้านที่ว่างแล้วมองดูใบหน้าของคนที่นอนหลับตาหันมาทางตนเองเงียบๆ

ไม่ไว้ใจจึงไม่กล้านอนหันหลังให้

หวาดกลัวและต้องการมีอะไรอยู่ข้างกายจังทั้งกอดหมอนข้างเสียแน่นและห่มผ้าห่มเสียมิดชิด

พอมองใบหน้าเนียนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ไม่มีสิทธิได้แตะต้องก็อดนึกถึงเรื่องที่คุยกับอมฤตเมื่อกลางวันไม่ได้

“พี่ดินทำไมเลือกให้คุณปามกลับมาล่ะครับ”

อมฤตถามไม่ใช่เพราะเขาไปข่มขืนใครเข้าบ่อยๆ ส่วนมากก็เสนอตัวและเขาก็รับการเสนอนั้น หรือหากใครที่วสุธาต้องตาอำนาจและเงินตราก็สามารถนำพาคนๆนั้นมาให้ตนได้ ก่อนจะจากลากันด้วยการตอบแทนฝ่ายนั้นตามความพอใจของทั้งสอง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพยายามยื้อเท่าไหร่วสุธาก็ไม่เคยนึกจะให้ใครเข้ามาอยู่ในสถานะของคนรัก

“เพราะเด็กๆชอบเขาด้วยไงล่ะ”

วสุธานิ่งคิดไปนานก่อนจะตอบคำถามนั้นออกมา อมฤตรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ได้ออกจากใจแต่กลั่นออกมาจากสมอง

“ก็ให้เขากลับมาเป็นพี่เลี้ยงแล้วตอบแทนเขาเล็กๆน้อยๆก็ได้นิ่ครับ”

“นั่นก็จริงแต่ปารมีไม่เหมือคนอื่น”

ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ว่าคนที่ถูกพูดถึงต่างจากคนอื่นตรงไหน

ทำไมถึงเลือกให้คนๆนี้มาอยู่ข้างกายตนในฐานะคนรัก

ขนาดตัวเองยังอธิบายให้ตัวเองเข้าใจไม่ได้ แล้ววสุธาจะเอาอะไรไปอธิบายให้น้องชายฟัง

“พี่ดินลองคิดดู อะไรที่คุณปามไม่เหมือนคนอื่น เพราะตัวคุณปามที่แตกต่างหรือเพราะพี่ที่คิดว่าคุณปามแตกต่างไปจากคนอื่นกันแน่”

อมฤตพูทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องของวสุธาไป

วสุธานอนคิดถึงเรื่องที่น้องชายพูด เขาไม่รู้ว่าปารมีต่างอย่างไร แต่มันก็ต่างจากทั้งตัวของปารมีเองและในความคิดของเขานั้นล่ะ ปารมีไม่เหมือนใคร กล้าต่อปากต่อคำกับเขาแต่ในขณะเดียวกันก็มีท่าทางเกรงเขาอย่างเห็นได้ชัด จนเมื่อมีเรื่องนี่ล่ะจากเกรงถึงกลายเป็นกลัวไป ปารมีเรียบร้อย ยิ้มบ่อยและเข้ากับคนง่าย แต่กลับมีเรื่องให้เขาขุ่นใจบ่อยครั้ง เมื่อมาคิดดูแล้วก็เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแทบทั้งสิ้น

“หรือว่ารัก”

เปรยกับตัวเองเบาๆก่อนจะส่ายหัวไล่ความคิดที่ตัวเองคิดว่าไร้สาระออกไป

จะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อถึงตอนนี้ยามที่นึกถึงคำว่า ‘รัก’ ใบหน้าของเลวี่ภรรยาผู้ล่วงลับก็ยังเป็นภาพที่ปรากฏออกมาอย่างขัดเจนเหมือนเช่นทุกครั้ง

ความรู้สึกที่มีต่อปารมีแตกต่างจากความรู้สึกที่มีต่อเลวี่

“ไม่สิ ไม่ใช่รักหรอก”

วสุธาจึงสรุปว่ามันต้องไม่ใช่ความรักแน่ๆ

...................

วสุธาหลับไปแล้วในขณะที่ปารมีค่อยๆลืมตาขึ้น เป็นอย่างนี้ตั้งแต่คืนแรกที่มานอนที่ห้องนี้ปารมีไม่เคยหลับก่อนร่างสูงข้างๆ แต่ก็แกล้งทำเป็นหลับก่อนทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับสนิทแล้วแน่ๆปารมีก็ลุกขึ้นเบาๆแล้วย่องออกไปที่ห้องของตาหวานอย่างเช่นทุกคืนที่ทำมา

ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจจนต้องหนีไปนอนที่อื่น แต่ปารมีลุกขึ้นเพราะตาหวานมักจะตื่นขึ้นมาหลังเที่ยงคืนเล็กน้อย เด็กชายต้องดื่มนมในเวลานั้นทุกวัน ปารมีไม่อยากให้เสียงร้องไห้งอแงของตาหวานปลุกวสุธา ถึงแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจนักแต่ปารมีก็รู้ว่าอีกฝ่ายทำงานหนัก หลังจากเวลางานแล้วก็มักจะมีงานกลับมาทำที่บ้านด้วยเสมอ นอกจากนี้เวลานอนทุกครั้งอีกฝ่ายจะนิ่งนานพลางถอนหายใจอยู่ในความมืด เหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรๆอยู่เสมอ คงมีแต่เวลานอนเท่านั้นที่วสุธาจะได้ผักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง ปารมีอยากให้วสุธาได้พักจึงเป็นฝ่ายไปปลุกหลานชายขึ้นมาเพื่อดื่มนมแทน .... แต่วันนี้ต่างจากทุกวัน

ไม่ทันที่ปารมีจะได้ก้าวไปถึงห้องนอนของเด็กชาย เสียงร้องไห้จ้าก็ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงร้องแบบที่ปารมีได้ยินเมื่อเด็กชายหิว ร่างบางรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องด้วยความไม่สบายใจ ทั้งเป็นห่วงหลานแล้วยังกลัวว่าเสียงของเด็กชายจะไม่แค่ปลุกวสุธาที่อยู่ห้องใกล้ๆ เสียงที่แผดดังนั้นอาจจะปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่นขึ้นมาเลยก็เป็นได้

“โอ๋ๆ ไม่เอาไมร้องนะครับตาหวาน”

ปารมีอุ้มเด็กชายขึ้นแนบอกแล้วลูบหลังเบาๆเป็นการปลอบใจให้เด็กชายนิ่งเงียบ แต่มันไม่ได้ผล เด็กชายยังคงร้องไห้งอแงไม่เอาทั้งนม ของเล่น ผ้าอ้อมไม่เปียก และปารมีคิดว่าเด็กชายไม่ได้มีไข้ ตาหวานงอแงอย่างที่ไม่เคยเป็น ปารมีเริ่มหน้าเสียเพราะเอาเข้าจริงๆตัวเองก็มีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กน้อยมาก

“อย่าร้องสิครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง”

ยิ่งเห็นตาหวานร้องปารมีก็ยิ่งใจเสีย เด็กชายร้องไห้เสียงดังจนเสียงแทบจะแหบแห้งแต่ก็ยังไม่หยุดแผดเสียง ปารมีทั้งพาเดินทั้งเอานอนเปลเด็กชายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเงียบ

“อย่าเป็นอย่างงี้สิครับ”

คนอุ้มใกล้จะร้องไห้ตามเด็กชายในอ้อมกอดเต็มแก่

“เกิดอะไรขึ้น”

ในที่สุดที่นึกกลัวก็เป็นจริงมาหนึ่งเรื่อง

วสุธาตื่นขึ้นมาแล้วแถมยังเดินมาถามถึงที่ แต่ตอนนี้ปารมีไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆจึงได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังร่างสูงหน้าห้อง

ปารมีนั้นกังวลใจเกินกว่าจะสังเกตเห็นว่า ถึงแม้เสียงร้องของตาหวานจะอีกฝ่ายสูงขึ้นมาก็จริง แต่นั่นไม่ได้ทำให้วสุธายุ่งยากใจหรือเกิดความรำคาญสักนิด ใบหน้าคมเข้มนั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเด็กชายเสียมากกว่า

“อยู่ดีๆแกก็ร้องครับ ร้องๆไม่หยุดเลย ทำยังไงดีครับ”

เสียงสั่นๆนั้นทำให้วสุธาก้าวเท้ามารับเด็กชายไปอุ้มเอง เด็กชายชะงักเล็กน้อมเมื่อได้รับความอุ่นจากอ้อมกอดอันแข็งแรง แต่ก็เพียงชั่ววินาทีก่อนจะกลับมาร้องไห้อย่างเก่า

“ไหนดูสิคนเก่ง ปวดท้องหรือเปล่าครับ”

วสุธาพูดกับเด็กชายพลางใช่มือข้างหนึ่งกดท้องเด็กชายเบาๆ

“ปกตินิ่”

หันไปบอกคนข้างๆที่นั่งหน้าเสีย

“ตาหวานเป็นอะไรครับ”

เด็กน้อยสามคนมายืนงัวเงียอยู่หน้าห้อง ปฐพีเป็นคนเอ่ยถามทั้งที่ยังตาปรือปรอย

ไม่มีคำตอบจากผู้ใหญ่เด็กจึงเดินเข้ามาหาน้องเอง

“สงสัยฝันร้ายแน่เลย”

ธรณินออกความเห็นซึ่งทั้งปารมีและวสุธาก็แอบเห็นด้วยในใจแต่วสุธาก็ยังอยากแน่ใจว่าเด็กชายไม่ได้มีอะไรผิดปกติจริงๆ

“เอาไงดี ตามเอมาดีไหม”

ปารมีชั่วใจอยู่ชั่วครู่เนื่องจากมันดึกมากแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าร่างเล็กนั้นยังไม่หยุดร้องเสียทีก็พยักหน้าตกลง

“พีไปโทรตามอาเอมาหน่อยนะครับ”

วสุธาบอกลูกชายแล้วปฐพีก็เดินเร็วๆออกไปโทรตามคุณหมอเอ ไม่นานก็กลับมาอีกครั้ง

“อาเอเข้าเวรคับ แต่จะรีบกลับมาดูให้”

ปารมีหน้าเสียไป โรงพยาบาลกับบ้านไม่ใช่จะใกล้ หรือจะพาไปโรงพยาบาลดี ในหัวร่างบางตีกันวุ่นเพราะเป็นห่วงเด็กชายตรงหน้าเป็นอย่างมาก

“ใจเย็นๆ บางทีแกอาจจะแค่ฝันร้ายอย่างที่นินพูด”

วสุธาพยายามปลอบใจ แต่เมื่อปารมียังคงนั่งหน้าเสียอยู่เหมือนเก่าร่างสูงจึงรวมเอาร่างคนที่นั่งข้างๆเข้าสู่อ้อมกอด แขนแกร่ง
อีกข้างยังคงอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้อย่างมั่นคง

“ใจเย็นๆ”

ปารมีมองดูเด็กชายที่อยู่ในอ้อมกอดของวสุธาก็ได้แต่จับมือเล็กๆนั้นไว้ รู้สึกเหมือนเสียงร้องไห้จะเบาลงไปเล็กน้อย วสุธาก็ยิ่งกระชับให้ทั้งตัวเองเด็กชายและปารมีใกล้กันมากขึ้น เด็กๆสามคนเห็นดังนั้นก็ทั้งสอดทั้งเบียดตัวเองไปด้วย ธรณินอาศัยที่ตัวเองตัวเล็กพาตัวเองไปนั่งอยู่บนตักปารมีโดยมีพี่ชายสองคนเบียดมาจากคนล่ะข้าง

มือของเด็กชายทั้งสามจับจับมือและลูบหัวน้องเหมือนต้องการปลอบโยน

แล้วไม่นานตาหวานก็นิ่ง เด็กชายไม่ได้หลับไปเพราะเหนื่อยอ่อนจากการร้องไห้ แต่กลับหยุดร้องแล้วใช้ตาแป๋วๆนั้นไล่จ้องเหล่าบุคคลตรงหน้าแทน

ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ตาหวานอาจจะฝันร้ายหรือรู้สึกอะไรสักอย่างขึ้นมาจึงร้อง หากเมื่อได้รับความอบอุ่นจากทุกคนจึงได้หยุด

ปารมีไม่กล้ากลับไปนอนแล้วทิ้งตาหวานเอาไว้คนเดียว วสุธาก็ยังไม่ไว้ใจว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ เด็กๆทั้งสามคนยืนยันจะนอนเป็นเพื่อนน้องเพราะกลัวน้องฝันร้ายอีก

สุดท้ายทั้งห้าคนก็นอนอยู่ในห้องนั้นโดยวสุธา ปฐพีและปฐวีเป็นคนไปขนผ้าห่มและหมอนเข้ามา

เด็กชายนอนหลับไปอีกครั้ง พร้อมๆกับอีกห้าชีวิตนอนอยู่ใกล้ๆไม่ห่างไปไหน

ธรณินนอนเบียดอยู่ระหว่างวสุธาและปารมี ส่วนสองแฝดนอนอยู่ข้างๆบารมีอีกข้าง

ภาพที่ดูเป็นครอบครัวยามนอนหลับนี้คงไม่มีใครได้เห็น หากทั้งห้าคนจะไม่ลืมว่าได้โทรเรียกคุณหมอเอให้มาดูอาการตาหวาน

“อะไรกันเนี่ย”

คุณหมอเกาหัวงงๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาถ่ายรูป ‘ครอบครัว’ นั่นเอาไว้

อมฤตที่ตามขึ้นมาหลังจากจอดรถได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร

“คุณหมอเล่นอะไรอีกล่ะ”

คนโดนทักหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายเต็มใบหน้าก่อนจะโชว์รูปให้อมฤตดูผลงานการถ่ายภาพของตน

“ไปดูตาหวานหน่อยเถอะ เผื่อเป็นอะไร”

คุณหมอยอมเก็บโทรศัพท์ลงแต่โดยดีแล้วเริ่มเข้าไปทำหน้าที่หมออย่างเงียบเชียบ เด็กชายปกติดี คุณหมอเอไม่คิดว่ามีสิ่งผิดปกติตรงไหนจึงตั้งใจจะกลับไปทำงานต่อ แต่ก็ไม่ลืมเขียนผลการตรวจไว้ข้างเตียงเล็ก

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้มาดูจะมาดูอีกที”

ฝากข้อความแล้วจึงถอยออกไปอย่างเงียบๆเหมือนตอนเข้ามา

........................

TBC

ตอนที่ 5 มาวันศุกร์ค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 16-05-2012 06:50:01
ครอบครัวสุขสันต์มากๆ
จะดีกว่านี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะรู้ตัวสักทีว่ารักกัน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 16-05-2012 07:02:53
 :กอด1: :กอด1:

แม้แต่ตาหวานก็รู้สึกว่านี่คือความอบอุ่นจากครอบครัว


ส่วนคุณดิน ก็นะ เห้อออ รู้ใจตัวเองให้ไวๆแล้วกัน น้องกลัวก็เพราะคุณ  :m16: แถมท่าทียังไม่ชัดเจน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 16-05-2012 07:18:22
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-05-2012 07:27:46
ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 16-05-2012 08:32:15
ครอบครัวสุขสันต์ :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 16-05-2012 08:33:16
เอร้ยยย น่ารักอ่ะ
ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 16-05-2012 08:37:30
สุดท้ายเรื่องยุ่ง ๆ ความคิด ความกังวล ก็ถูกคลี่คลายด้วย ตาหวาน คนนี้นี่เอง  :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 16-05-2012 08:41:11
 :-[ ครอบครัวสุขสันต์

 :pig4:นะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 16-05-2012 09:19:14
ตอนนี้น่ารักจัง

แต่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองทั้งคู่ วสุธาบื้อกว่าที่คิดนะเนี่ยะ ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 16-05-2012 10:36:21
ครอบอบอุ่นจริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 16-05-2012 10:36:57
กลายเป็นครอบครัวสุขสันต์เลย ตอนนี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-05-2012 10:53:16
น่ารักที่สุด :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 16-05-2012 11:09:56
คุณปามว่างจริงๆแหละ
คุณดินก็เลยสร้างห้องทำขนมให้เลย ป๋าชะมัด
น้องตาหวาน ท่าทางจะฝันร้ายจริงๆ
พี่ๆก็น่ารักเนอะ ครอบครัวอบอุ่น อิอิ~
สนุกมาก ขอบคุณ..คุณจิ๊บมากค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 16-05-2012 11:29:18
น่ารักจัง ครอบครัวหรรษา กอดกันกลมเลย อิอิ
แบบนี้ คงต้องนอนด้วยกันไปอีกหลายคืน
คุณพ่อจะทำไงล่ะเนี่ย หมดโอกาสแก้ตัวไปอีกนาน กร้ากกก
ขอบคุณ และรออ่านต่อค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 16-05-2012 11:37:50
  :กอด1: :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 16-05-2012 11:40:52
ครอบครัวสุขสันต์อ่ะ
ฮ่าๆๆ
ชอบๆ
ทำไมยังไม่รุ้ใจตัวเองกันอีกล่ะะะ
??
ตาหวาน โอ๋เอ๋ ไม่ร้องน้าาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 16-05-2012 11:44:11
ครอบครัวอบอุ่น  :m1:
นอนกอดกันเอร๊ยๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 16-05-2012 11:50:58

คุณดินอบอุ่นโคตรๆ อ่ะ ชักจะเคลิ้มแทนคุณปาม ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 16-05-2012 12:33:57
เป็นครอบครัวสุขสันต์จนน่าอิจฉา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-05-2012 12:55:35
น่ารักจังเลย

อบอุ่นจังเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 16-05-2012 16:07:52
ตาหวาน กามเทพตัวน้อย55
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-05-2012 16:51:23
รอคุณชายดินท่านรู้ใจตัวเองก่อนนะนู๋ปาม

ตาหวานอย่าร้องไห้เยอะนะลูกเดี๋ยวจะไม่สบาย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2012 17:42:34
 :กอด1:น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-05-2012 18:02:56
ค่อยๆ ทำคะแนนทดแทนที่ติดลบไปล้านแต้มได้แล้วนะเนี่ย คุณวสุธา


เป็นตอนที่น่ารักมากเลยอ่ะ อยากเห็นจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 16-05-2012 18:50:40
เหมือนทั้งคู่จะยังไม่รู้ใจตัวเองนะ =w=
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 16-05-2012 20:06:48
 :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 16-05-2012 20:41:07
ฝ่ายคุณดินก็ไม่ยอมพูดอะไรให้ชัดเจนน้า
ชอบเขาก็บอกเขาดิ  อิอิ

ปาม...ก็อย่าคิดในแง่ร้ายให้เหมือนหนูกลอนนะ  555
ติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-05-2012 20:41:53
อบอุ่น ละมุนละไม สมกับเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 16-05-2012 21:25:33
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 16-05-2012 21:26:37
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 16-05-2012 21:38:51
น่ารักมากเลย เราชอบมาก เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ดีจังเลย มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 16-05-2012 22:04:24
.....่ครอบครัวสุขสันต์หรรษา เหมือนจะจบเรื่องเลยเนอะ แต่พึ่ง 4 ตอนเองนี่หว่า
.....น่ารักดีเนอะ ลูกเธอลูกฉันรวมกันเป็นลูกของเรา.. :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 16-05-2012 22:28:27
อบอุ่นมากๆเลย   >//<
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 17-05-2012 04:23:50
 :z1:อิอิสงสัยตาหวานอยากได้พ่ออะ


เห็นที่ปามเสร็จแน่ๆๆอิอิ :impress2:  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 17-05-2012 12:21:06
ครอบครัวอบอุ่น

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 4 P.5 [16/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 18-05-2012 02:37:56
ตอนที่ 5

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก ตาหวานแข็งแรงดี แต่อาจจะฝันร้าย”

ตอนเช้าเอก็มาตรวจร่างกายตาหวานอีกครั้งก่อนจะย้ำว่าเด็กชายปกติดีทำให้วสุธากับปารมีโล่งใจจริงๆได้

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

ตาหวานยกมือขึ้นไขว่คว้าหาของเล่นที่แขวนอยู่เหนือเปลตนเอง พลางส่งเสียงอย่างร่าเริงแจ่มใสราวกับอาการร้องไห้ไม่หยุดเมื่อคืนนั้นไม่เคยเกิดขึ้น

“ขอบคุณพี่เอมากนะครับที่มาช่วยดูอาการให้”

ปารมีเอ่ยขอบคุณ ก่อนหน้านี้คุณหมอเอจัดแจงอบรมปารมีหนึ่งยกเพื่อให้เลิกเรียกตัวเองว่าคุณหมอ และอัพเกรดให้นับเป็นญาติผู้พี่ ปารมีเองแม้จะคิดว่าตัวเองเรียกอย่างนั้นอาจจะไม่เหมาะ แต่ว่าพอคุณหมอยืนยันเสียงหนักแน่น ประกอบกับวสุธาพยักหน้ายิ้มๆให้ตอบรับ เลยได้เรียกคุณหมอว่าพี่เอ แม้ว่าคุณหมอจะยังเรียกปารมีว่าคุณปามเหมือนเดิมก็ตาม

ทุกอย่างปกติได้อยู่สองวันก่อนจะมีจดหมายมาถึงปารมี

ที่จริงจดหมายส่งไปที่ห้องพักเก่าของเขา แต่ตอนที่ย้ายออกมาปารมีได้ให้ที่อยู่ทางนี้ไว้และขอร้องว่าหากมีการติดต่อใดๆกลับมาให้ช่วยแจ้ง จดหมายจึงได้มาถึงมือปารมี

“ปามลูกรัก

เมื่อลูกอ่านจดหมายฉบับนี้แม่คงไม่อยู่แล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันแล้วแม่เห็นว่าลูกสบายดีและสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้ รู้ไหมว่าแม่ดีใจและภูมิใจมาก แม้นั่นจะยิ่งย้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่แย่มากแค่ไหนก็ตาม

ตอนที่แม่ไปหาลูก แม่รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าคงมีชิวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เด็กคนนั้นต้องมีคนดูแลและแม่มองไม่เห็นใครนอกจากลูก แม่รู้ว่าผิดที่ไม่เคยดูแลลูกแล้วยังผลักภาระไปให้ลูกดูแลเด็กอีก ลูกคงต้องลำบากมาก แต่แม่มองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ ถึงอย่างไรเด็กคนนั้นก็เป็นหลาน เป็นลูกของพี่สาวของลูก

ลูกคงแปลกใจที่แม่บอกว่าเป็นลูกสาวของพี่สาวของลูกแทนที่จะเป็นลูกของแม่ ใช่ แม่โกหก โกหกด้วยคิดดูถูกน้ำใจลูกไป กลัวลูกจะไม่พอใจที่แม่หอบเอาลูกของพี่สาวกลับมาให้ลูกเลี้ยง แต่เมื่อแม่มานั่งคิดดูแล้ว แม่ก็คิดว่าไม่ควรโกหกลูกต่อไป เพราะไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นน้องหรือหลานแม่ก็รู้ว่าลูกต้องดูแลเขาอย่างดีแน่ๆ

เรื่องพี่สาวของลูก เขาเจออุบัติเหตุหลังจากที่คลอดเด็กคนนั้นได้ไม่นานยังไม่ทันที่จะนำส่งโรงพยาบาลเขาก็จากไป แม่เองก็ป่วย แม่จึงทิ้งเด็กคนนั้นเอาไว้กับลูก
      
แม่ขอโทษในเรื่องที่ผ่านมา
      
ขอโทษที่เคยทอดทิ้ง

      ขอโทษที่ไม่เคยเอาใจใส่ดูแล

      ขอโทษที่หักหลังลูกซ้ำแล้วซ้ำอีก

      ขอโทษที่ไม่ได้บอกอะไรลูกก่อนหน้านี้

   และแม่อยากบอกลูกที่สุดว่าช่วงเวลาที่ได้กลับไปอยู่กับลูกหนึ่งอาทิตย์นั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของแม่

      แม่อยากบอกสิ่งที่ไม่เคยบอก แม่รักลูกนะ และหวังว่าลูกจะรักแม่เช่นเดียวกัน

   เงินของลูกที่แม่เอามา แม่เอาไปทำบุญให้พี่สาวลูกส่วนหนึ่ง ถือว่าทำบุญร่วมกันสามคน หากเกิดใหม่ได้แม่ก็ขอให้เราได้มาเจอกันอีก และหวังว่าแม่จะได้ทำอะไรเพื่อลูกบ้าง อีกส่วนแม่กันไว้สำหรับจัดการหลังจากแม่จากไป ถือว่าลูกทำให้แม่แล้ว ไม่ต้องคิดมากอีก

                           รัก

                           แม่”


ปารมีนั่งกำจดหมายแน่น รำลึกถึงตอนที่แม่มาอยู่ด้วยแล้วก็อยากจะด่าตัวเองแรงๆซักที ทำไมไม่เคยสังเกต ปารมีรู้สึกได้ว่าแม่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงคิดว่าแม่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน ทำไมปารมีไม่เห็นนะว่าแม่ผอมลงแค่ไหน

ปารมีไม่กล่าวโทษเลยสักนิดที่แม่โกหกตนเรื่องตาหวาน เพราะตนเองกับพี่สาวไม่ได้สนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร แล้วเวลาพูดกันก็ไม่ค่อยจะออกมาในแง่ดีเท่าไหร่ ปารมียอมรับว่าเคยอิจฉาพี่สาวบ่อยๆที่ได้รับความรักจากแม่มากกว่า ในขณะที่พี่สาวเองก็แสดงออกชัดเจนว่าอิจฉาที่ปารมีมีพ่อจริงๆ ทั้งตัวเองและพี่สาวต่างก็แรงใส่กันเพราะยังเป็นเด็กด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อพ่อเสียปารมีก็เงียบลงไปเยอะ พี่สาวเองก็ไม่คอยหาเรื่องอย่างที่เคย แล้วไม่นานพี่สาวก็ออกจากบ้านไป

ปารมีเข้าใจว่าพี่สาวหนีไปอยู่กับแฟนที่เคยเห็นมาส่งพี่สาวบ่อยๆ แต่เพราะที่บ้านของผู้ชายคนนั้นไม่ยอมรับเนื่องจากฐานะทางบ้านที่ต่างกัน พอจบม.6ทั้งสองคนจึงหนีตามกันไป แล้วหลังจากนั้นปารมีก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวบ้าง แต่ดูเหมือนแม่จะรู้เรื่องทั้งหมดโดยตลอด

“ปารมี คุณเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”

เสียงวสุธาที่ดังขึ้นไม่ได้ดึงความสนใจของปารมีไปได้แต่อย่างใด

วสุธากำลังทำงานอยู่ตอนที่แม่บ้านโทรไปบอกว่าอยู่ดีๆปารมีก็ร้องไห้ เขาจึงรีบออกมาจากที่ทำงานทันทีเพราะกลัวว่าตาหวานจะเป็นอะไรอีก

“ปารมี ปารมี...ปาม โธ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณเป็นอะไร”

วสุธาเริ่มร้อนใจ เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้เงียบๆ

“ปาม อย่าเอาแต่ร้องแบบนี้สิ ทำไมไม่พูดอะไร”

ร่างสูงดึงร่างที่สั่นเทาเข้าหาตัว โอบกอดปลอบโยนเบาๆ ปารมียกมือขึ้นกำเสื้อเชิตของอีกฝ่ายไว้แน่นในขณะที่ตัวเองยังร้องไห้

อย่างน้อยๆก็ยังมีท่าทีตอบสนอง วสุธาคิดอย่างนั้นพลางโอบกระชับร่างบางให้แน่นมากยิ่งขึ้น

ถ้าอยากจะร้องก็จะปล่อยให้ร้องจนกว่าจะพอใจ แล้วจากนั้นค่อยถามว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น

.................

“คุณวสุธา แม่น่ะแม่ผมเขา....”

ปารมีหยุดร้องไห้แล้วแต่ยังคงสะอื้นบ้าง พูดออกมาได้ไม่หมดก็ทำท่าจะปล่อยโฮอีกรอบจึงเปลี่ยนเป็นยื่นจดหมายให้วสุธาดูแทน

ร่างสูงอ่านจดหมายจบแล้วเหลือบสายตาขึ้นมองปารมีอย่างเห็นใจ เท่าที่สืบเรื่องราวของปารมีก่อนหน้านี้ วสุธาก็พอรู้ว่าแม่ของปารมีนั้นไม่ใช่แม่ที่ดีนัก แต่จากประวัติที่ปารมีปล่อยให้แม่กลับมาทำร้ายจิตใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็พอจะบอกได้แล้วว่าปารมีนั้นรักแม่ของตนมากเพียงใด

“คุณบอกว่าตาหวานเป็นลูกของคุณนิ่ แล้วในใบสูติบัตรของตาหวานก็มีชื่อคุณเป็นพ่อแต่ไม่มีชื่อแม่ไม่ใช่หรือ”

ปารมีพยักหน้าก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้วสุธาฟังคร่าวๆ ตอนนี้ปารมีคิดอะไรไม่ออกและต้องการที่พึ่ง แล้ววสุธาก็เข้ามาปลอบโยน พร้อมจะช่วยเหลือ ปารมีมองไม่เห็นใครอื่นอีก และที่ปารมีไม่รู้ตัวก็คือ เขาคิดว่าวสุธาไว้ใจได้จึงออกปากเล่าถึงเรื่องทั้งหมด

“ผมจะให้คนไปสืบดูเรื่องของแม่คุณให้”

จดหมายไม่ได้เขียนที่อยู่สำหรับติดต่อกลับ แต่ยังมีตราประทับของจังหวัดเชียงใหม่ คงอยู่ในสถานพยาบาลสักที่วสุธาแน่ใจ

“ตอนนี้พยายามทำใจให้สงบก่อนนะ คุณก็รู้ว่าเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเกิดคุณท้อแท้หมดกำลังใจ แล้วตาหวานจะอยู่ยังไง คุณอย่าลืม”

ปารมีมองเด็กชายที่ยังนอนหลับสนิทบนเบาะนอนก็พยักหน้า วสุธาพูดถูก ปารมีไม่ใช่ไม่เหลือใครแต่ยังมีตาหวานให้ต้องดูแล ตาหวานเองก็มีเพียงปารมีเท่านั้น

“ปารมี”

เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาพร้อมมือหนาเข้าเกาะกุมมือของปารมีไว้แน่น แน่นแต่ไม่ทำให้เจ็บ

“คุณยังมีผม ยังมีเด็กๆอีกสามคน และทุกคนที่นี่ อย่าคิดว่าตัวเองไม่เหลือใครอีกแล้ว”

“คุณ....”

ปารมีช้อนสายตาขึ้นมองสบกับดวงตาคมกล้านั้น อยากจะพูดอะไรบ้าง อยากขอบคุณ อยากบอกเหลือเกินว่าปารมีซาบซึ้งและอบอุ่นใจแค่ไหนที่วสุธามานั่งอยู่ข้างกันตอนนี้ แต่มันพูดไม่ออก ที่ทำได้ก็มีเพียงกุมมืออีกฝ่ายกลับไปเท่านั้น ทั้งสองคนนั่งกุมมือกันไปเงียบๆ ไม่มีถ้อยคำหรือคำพูดอะไร แต่ทั้งคู่ก็เข้าใจ

วสุธายังไม่เข้าใจตัวเองดีว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกับปารมีนั้นเป็นรูปแบบไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรวสุธาก็จะไม่ปล่อยมือนี้ เช่นเดียวกับปารมีที่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่ก็มั่นใจว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ไล่หรืออยากให้ปารมีเป็นฝ่ายไป ปารมีก็จะจับมือนี้ไว้เสมอเช่นกัน

..............................

ตอนเย็นข้อมูลเกี่ยวกับแม่ของปารมีก็ส่งมาถึง รวดเร็วสมกับที่ใช้เครือข่ายข่าวของจอมไตรในการสืบหา

“แม่ของคุณเพิ่งเสียไปเมื่อกลางดึกของสองวันก่อน ศพจัดสวดแค่คืนเดียวแล้วก็เผา ส่วนอัฐิดูเหมือนจะเก็บไว้ที่วัด”

ปารมีรับฟังอย่างเศร้าใจ งานศพของแม่ตัวเองแท้ๆแต่ตนกลับไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเลย แม้ว่าแม่จะบอกในจดหมายว่าได้นำเงินของตนไปใช้ แต่ปารมีก็อดคิดไม่ได้ว่าตนเองน่าจะทำอะไรให้แม่ได้มากกว่านี้

“ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องที่ผ่านไปแล้วน่ะเรากลับไปแก้ไขไม่ได้”

ปารมีพยักหน้า เขาเข้าใจแต่ก็ยังเศร้า นึกถึงเมื่อสองคืนก่อนที่ตาหวานร้องไห้โยเยไม่หยุดคงเพราะเด็กชายรับรู้ถึงการสูญเสีย ในขณะที่ปารมีไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด

“ยังไงเย็นนี้ผมจะฝากเด็กๆไว้กับน้องๆแล้วเราบินไปเชียงใหม่ ไปรับอัฐิแม่คุณมาทำบุญก่อนไปลอยอังคารดีไหม”

“ครับ”

ถึงแม้จะไม่สบายใจและคิดว่าเป็นการรบกวนคนอื่น แต่มันไม่มีทางเลือก ปารมีเองก็อยากทำบุญให้แม่บ้าง

“ส่วนอัฐิพี่สาวคุณดูเหมือนแม่คุณจะลอยอังคารไปเรียบร้อยแล้ว”

ปารมีพยักหน้ารับรู้ แต่คิดอะไรไม่ออกได้แต่ปล่อยให้วสุธาเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดให้

...................

ปารมีติดต่อไปที่สถานพยาบาลที่แม่พักก่อนเสียชีวิตและได้ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของแม่กลับมา รูปภาพที่ถ่ายด้วยกันสี่คนตอนที่พ่อยังมีชิวิตนั้นอยู่ในกรอบซึ่งพยาบาลบอกว่าแม่ตั้งมันไว้ข้างเตียงและมองดูมันอยู่เสมอ

จากนั้นจึงไปรับอัฐิที่วัด แม้วสุธาจะเสนอให้ปารมีนอนพักที่เชียงใหม่หนึ่งคืน แต่ปารมีก็ยังยืนยันที่จะกลับ เพราะแม้จะยังเศร้าและเสียใจกับการจากไปของผู้เป็นแม่ แต่ก็ยังอดจะห่วงเด็กๆไม่ได้ หลังจากติดต่อเรื่องทั้งหมดแล้วทั้งคู่จึงขึ้นเครื่องกลับมาในวันนั้นเลย

ตลอดเวลา...วสุธาคอยกุมมือปารมีเอาไว้ แม้ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ปารมีก็รู้สึกได้ว่า วสุธาจะคอยอยู่เคียงข้าง และเพราะมีวสุธานี้เอง ปารมีจึงมีสติที่จะจัดการเรื่องของแม่ ปารมีไม่รู้เลยว่าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่ไม่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ ปารมีจะสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ จะผ่านมันไปได้อย่างไร

.................

“ผมขอบคุณคุณมาก”

ปารมีไม่รู้จะพูดอะไรออกมานอกจากคำว่าขอบคุณ

วสุธาจัดการทำบุญให้แม่และพี่สาวของปรามีก่อนจะพาปารมีมาลอยอังคาร โดยคราวนี้ทั้งคู่พาเด็กๆมาด้วย เพราะปารมีอยากให้ตาหวานได้มาร่วมทำบุญให้แม่และยายของตัวเอง ในขณะที่วสุธาที่ถือว่าปารมีเป็นคนรัก แม่และพี่สาวของปารมีก็เปรียบเหมือนแม่และพี่สาวของตน แม้จะไม่เคยได้พบหน้ากันก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และเด็กชายทั้งสามมาด้วย

 “อย่าคิดมาก คุณเศร้าไปแบบนี้เด็กๆก็พากันซึมตาม”

จริงอย่างที่วสุธาว่า เมื่อปารมีเงียบๆไปก็ดูเหมือนเด็กๆทั้งสี่คนจะเงียบๆ ไม่ดื้อไม่ซนมากอย่างเคย ตาหวานเองก็นิ่งไม่ค่อยโยเย

ที่จริงผ่านมาหลายวันปารมีก็เริ่มทำใจได้มากขึ้น แต่ก็ยังอดที่จะเศร้าไม่ได้

“เวลาจะช่วยให้คุณดีขึ้นแน่นอน”

ปลอบโยนอย่างเข้าใจความรู้สึก วสุธายังจำช่วงเวลาที่ตนต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปได้ และแน่นอนว่ายังจำช่วงเวลาที่ต้องสูญเสียคนรักไปได้เช่นเดียวกัน

“พวกเขาคงเฝ้ามองอยู่ คุณต้องทำให้พวกเขาสบายใจ รู้ใช่ไหม”

ปารมีพยักหน้ารับ เด็กๆนอนหลับกันไปหมดแล้ว ตาหวานเองก็นอนอยู่บนตักของปารมี วสุธาขยับตัวไปโอบร่างของปารมีเอาไว้ ไม่มีการขัดขืน ปารมีกอดตาหวานแน่น ในขณะที่ทิ้งตัวเข้าสู่อ้อมกอดนั้น ซบหน้าลงบนไหล่หนา ค่อยๆปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมาเงียบๆ

เขาต้องเข้มแข็ง ปารมีบอกตัวเองว่าจะร้องไห้แค่ตอนนี้เท่านั้น

...........................

ปารมีเริ่มสดใสขึ้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพยายามยอมรับมันให้ได้ เพราะมันเป็นวัฏจักร เป็นความจริงของโลก ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้

“คุณปามๆ ดูนี่สิ พวกเราขุดได้จากในสวนล่ะ”

เด็กชายสามคนวิ่งตรงมายังที่ปารมีนั่ง ในมือของปฐพีถือไส้เดือนที่ดิ้นไปดิ้นมาไว้พลางชูให้ปารมีดู

“คุณพี อย่าไปรังแกมันอย่างนั้นสิครับ ปล่อยมันเร็ว”

เด็กชายสามคนหน้าม่อยไป หันไปมองกันอย่างปรึกษาว่าจะเอาอย่างไร ปารมีจึงเร่งสำทับ

“ปล่อยสิครับ รังแกสัตว์ไม่ดีจำได้ไหมครับ”

ปฐพียอมปล่อยไส้เดือนลงพื้นในที่สุด มันรีบมุดดินหนีกลับลงไปในทันที

“มันอยู่ใต้ดินคอยพรวนดินให้สนามหญ้า ถ้าไปจับมันมาเล่นนอกจากจะเป็นการรังแกมันแล้วยังอาจเป็นการทำลายสวนตัวเองด้วยนะครับ”

ปารมีไม่ได้ดุด่า หรือว่ากล่าว เพียงแค่พูดให้เด็กๆฟังเหมือนการพูดคุยทั่วๆไปเท่านั้น

เด็กๆพยักหน้าเข้าใจ อันที่จริงพวกเขาก็ได้รับการสั่งสอนเสมอว่าไม่ควรรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่ว่าจะสัตว์หรือคน (ยกเว้นว่าถูกกระทำก่อน) แต่เมื่อครู่นี้เด็กๆก็แค่ตื่นเต้นที่ไปขุดดินแล้วเจอมันเข้าก็เท่านั้น

“มีไส้เดือนแล้วคุณปามว่าในสวนเราจะมีตัวตุ่นไหมฮับ”

ธรณินเด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามพลางส่งสายตามาทางปารมีอย่างมีความหวัง สารคดีที่เด็กๆดูไปเมื่อไม่กี่วันก่อนมีเรื่องของตัวตุ่นที่ทำอุโมงค์อยู่ใต้ดิน ทั้งเพื่ออาศัยและดักจับไส้เดือน

“อันนี้คุณปามก็ไม่รู้นะครับ ไม่เคยสังเกตสักที”

ถึงปารมีจะคิดว่าไม่มีหรอก แต่ก็ไม่กล้าตอบออกไปชัดๆให้เด็กๆหมดจินตนาการ แล้วบ้านจอมไตรออกจะกว้าง อาจจะมีตุ่นมาอาศัยอยู่จริงๆสักตัวสองตัวก็เป็นได้

“งั้นเราไปตามหารูตุ่นกันดีกว่า”

ปฐวีเอ่ยแล้วเด็กชายทั้งสามคนก็วิ่งไปเพื่อปฏิบัติภารกิจตามล่าหาตัวตุ่นกันทันที

“อย่าไปไกลกันนักนะครับ”

ปารมีร้องบอกแต่ก็ไม่รู้ว่าเด็กๆที่กำลังมุ่งมั่นจะได้ยินแล้วทำตามหรือไม่

“นั่นลูกชายผมกำลังทำอะไรกัน”

วสุธาเพิ่งกลับมาจากทำงาน ชายหนุ่มเดินออกมาภายนอกตัวบ้านเพราะมั่นใจว่าปารมีและเด็กๆต้องมาอยู่แถวนี้อย่างที่เคย

“พวกแกกำลังมองหาตัวตุ่นน่ะครับ”

แล้วปารมีก็เล่าให้ฟังตั้งแต่เด็กๆไปเจอไส้เดือนแล้วนึกถึงสารคดีจากนั้นก็เกิดปฏิบัติการณ์ตามหาตัวตุ่นนั่นล่ะ

“งั้นเหรอ ว่าไงครับตาหวาน วันนี้ดื้อไหมครับ”

วสุธาตอบรับปารมีก่อนจะก้มลงอุ้มเด็กชายที่นอนตาแป๋วมองดูใบไม้สั่นไหวตามแรงลมขึ้นมาอุ้มไว้

“วันนี้กวนคุณปามหรือเปล่าครับ”

วสุธาเรียกปารมีว่า ปรามีเสมอ พอเผลอตัวก็อาจจะเรียกปรามีว่าปามบ้างเป็นบางครั้ง แต่หากพูดกับเด็กๆวสุธาจะแทนปารมีว่าคุณปามอย่างที่เด็กๆเรียก และเด็กๆที่ว่านี้ก็รวมตาหวานเข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เด็กชายไม่ตอบ แน่ล่ะเพราะยังพูดไม่ได้ แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเมื่อวสุธาเล่นสูงๆด้วย

วสุธาเอ็นดูตาหวานมาก อันที่จริงวสุธาพูดได้เต็มปากเลยว่ารักตาหวานไม่ต่างจากลูกทั้งสาม บางครั้งหากปารมียุ่งก็จะเป็นคนดูแลตาหวานให้ โดยไม่ต้องให้ปารมีเอ่ยขอร้อง

“วันนี้กลับเร็วจัง มีงานเลี้ยงหรือครับ”

วสุธาพยักหน้าตอบรับคำถาม แต่ก็ยังเล่นกับตาหวานไม่เลิก

“คุณอยากไปด้วยกันไหม”

“ครับ?”

“งานเลี้ยงคืนนี้น่ะ คุณอยากไปด้วยกันไหม”

เป็นครั้งแรกที่วสุธาเอ่ยชวน อันที่จริงมันไม่ได้มาจากความคิดของวสุธาเลย แต่นกหญิงสาวผู้เป็นเลขาต่างหากที่เป็นคนบอกว่าให้ชวนปารมีไปงานเลี้ยงบ้าง

“ไม่ดีกว่าครับ”

“เราฝากเด็กๆไว้กับนายลมก็ได้ วันนี้นายคนนั้นเขาว่าง”

ถึงอย่างนั้นปารมีก็ยังปฏิเสธ

“ผมห่วงเด็กๆก็จริง แต่ผมไม่ค่อยชอบงานพวกนั้นด้วยน่ะครับ”

“ยังไม่เคยไปรู้ได้ยังไงว่าไม่ชอบ”

จริงอย่างที่วสุธาว่า แต่ปารมีไม่อยากไปเพราะคิดว่าถึงตัวเองได้ไปก็ไม่ชอบมันขึ้นมาหรอก

“ผมไม่รู้จักใคร แถมยังไม่รู้เรื่องธุรกิจสักนิด ไม่ต้องลองไปผมก็รู้แล้วล่ะครับว่าจะไม่ชอบน่ะ”

วสุธาพยักหน้า เพราะเอาเข้าจริงๆที่ปารมีพูดมาก็ถูก งานเลี้ยงพวกนี้สำหรับเขามันก็ไม่มีอะไรน่าชื่นชอบจริงๆ แต่มันเป็นสื่อกลางอย่างหนึ่งในการเจริญสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพราะฉะนั้นถึงอยากเลี่ยงก็มีบางงานที่เลี่ยงไม่ได้

“ไว้คราวหน้าถ้ามีงานเลี้ยงที่คุณน่าจะชอบจะชวนใหม่แล้วกัน”

ปารมีพยักหน้ารับ แต่ในใจก็ยังคิดว่าจะงานไหนตัวเองก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ

แล้วอีกอย่าง

วสุธาจะพาปารมีไปด้วยในฐานะอะไร? ปารมีไม่ได้เก่งและไม่ค่อยรู้เรื่อง ไปงานเลี้ยงแบบนี้วสุธาไปกับนกปารมีก็เห็นว่าดีและเหมาะสมอยู่แล้ว

“คุณพ่อกลับมาแล้ว”

ธรณินวิ่งเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าใครที่นั่งอุ้มน้องอยู่ใกล้ๆปารมี
“สวัสดีครับ”

ทั้งสามยกมือไหว้คุณพ่อก่อนจะแย่งกันเล่าเรื่องไส้เดือนและตัวตุ่นให้คุณพ่อฟัง วสุธาซึ่งรู้เรื่องจากปารมีแล้วก็ยังนั่งตั้งใจฟังลูกชายเล่าราวกับยังไม่รู้เรื่อง

...................

“คุณนกรอสักครู่นะครับคุณวสุธากำลังจะตามลงมา”

หญิงสาวที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกยิ้มรับและเอ่ยขอบคุณปารมีเบาๆที่ยกเครื่องดื่มออกมาให้เธอ

 “ว่าแต่วันนี้คุณนกก็แต่งตัวสวยอีกแล้วนะครับ”

ปารมีไม่ได้เอ่ยปากชมเพราะต้องการยกยออะไร นกเลขาของวสุธานั้นหน้าตาสวยมากจริงๆ ยิ่งเธอแต่งตัวด้วยชุดสวยๆสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอดูดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ แล้วคุณปารมีไม่ไปด้วยกันแน่นะคะ”

“ไม่ดีกว่าครับ”

ยังไม่ทันได้ต่อบทสนทนาวสุธาก็เดินเข้ามาเป็นการบอกว่าพร้อมออกไปข้างนอกแล้ว

“ไปก่อนนะ”

ร่างสูงหันมาบอกปารมีเบาๆ

“ครับ”

ปารมียิ้มรับแล้วมองภาพทั้งสองคนเดินเคียงคู่กันไปที่รถเหมือนทุกครั้ง ดูกี่ทีก็เหมาะสมกัน ปารมีอดคิดไม่ได้ว่าทำไมวสุธาไม่เลือกเธอมาเป็นคนรัก ทั้งๆที่เธอก็อยู่ข้างๆเขามาโดยตลอด เธอเข้ากับวสุธาได้ดี เด็กๆก็ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจเธอ

“หรือเพราะอยู่ใกล้ตาเกินไปจนมองข้าม”

ปารมีบอกกับตัวเองแบบนั้น แต่เธอสวยและเก่งสะดุดตาเกินกว่าใครจะมองข้ามได้ สักวันวสุธาอาจจะมองเห็นก็ได้

ปารมีไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งที่คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันทุกทาง แต่เมื่อนึกภาพวสุธาและเลขาของเขาเดินเคียงข้างกันโดยไม่ใช่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง แต่เป็นฐานะคนรัก ในอกมันก็อึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก

“คุณปาม........”

เสียงธรณินเรียกมาจากข้างหลังทำให้ปารมีเลิกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“กินข้าวฮับ กินข้าวกัน”

.............................

“คุณกลับดึกจังครับวันนี้”

ปารมีที่เพิ่งเสร็จจากการดูตาหวานเหมือนเช่นทุกวันเดินออกมาจากห้องนอนหลานชายแล้วก็เจอเข้ากับวสุธาที่เพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงพอดี

“คุยติดพันไปหน่อยน่ะ”

วันนี้ที่งานเลี้ยงวสุธาเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายคน มิน่านกถึงบอกให้ชวนปารมีไปด้วยเพราะแม้ชื่องานจะเป็นทางการแต่งานเลี้ยงก็ไม่ได้เป็นทางการมาก

“คุณน่าจะไปด้วยกัน”

เปรยขึ้นมาเบาๆให้ปารมีได้เอียงคอมอง

“คุณไปกับคุณนกก็ดีแล้วล่ะครับ พาผมไปด้วยจะบอกกับคนอื่นว่าอย่างไร”

ปารมีพูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก มือก็ยื่นส่งผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้อีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ

“ก็บอกว่าเป็นคนรักสิ ควงเลขาไปงานมันจะไปดีเท่าพาคนรักไปได้ไง”

“อายคนอื่นเปล่าๆนะครับ คุณลืมรึเปล่าว่าผมเป็นผู้ชาย”

“ไม่เคยลืมหรอก จะลืมได้ยังไง”

พูดแล้วเข้าประชิดตัวปารมีอย่างที่ไม่ค่อยจะทำ กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาแตะจมูก ปารมีรู้ว่าวสุธาคงดื่มไปเยอะพอสมควร แม้พักหลังๆปารมีจะไม่มีท่าทีหวาดกลัววสุธาแล้ว แต่เมื่ออยู่ในห้องนอนสองคนและวสุธากำลังเมาแบบนี้ก็ทำให้ปารมีอดนึกถึงวันนั้นไม่ได้

ร่างเล็กเกร็งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ วสุธาจึงถอยห่างออกมาพลางทำเสียงหึขึ้นลำคอเบาๆ

“เห็นไหม ไม่ใช่แค่ผมที่ไม่เคยลืม คุณเองก็ไม่เคยลืมเหมือนกัน”

ว่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ปารมีเพิ่งรู้สึกตอนนี้เองว่าตัวเองกำลังกลั้นลมหายใจ

เขารู้ว่าปฏิกิริยาของตนเองคงทำให้วสุธาไม่พอใจ แต่จะให้ทำอย่างไรเมื่อร่างกายมันเป็นไปเอง ปารมีไม่สามารถลบความกลัวจากเรื่องที่ฝั่งแน่นลงในจิตใจได้

ไม่ใช่ไม่อยากลืม อยากลบภาพเลวร้ายพวกนั้นทิ้งไปหรอกนะ แต่ทำไม่ได้ต่างหาก

ปารมีรู้ว่าวสุธาไม่ชอบใจเรื่องนี้อยู่ลึกๆ คงอารมณ์เหมือนคนน้อยใจที่ตัวเองพยายามทำดีมากมายแต่ก็ยังลบล้างความผิดพลาดครั้งเดียวของตนเองไม่ได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่วสุธาแสดงออกมา อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“ทำไมยังไม่นอนอีก”

วสุธาเดินออกมาจากห้องน้ำ ถามด้วยเสียงแผ่วเบา หลังจากอาบน้ำเจ้าตัวเองก็คงใจเย็นลงมากแล้ว

“ผมรอคุณ”

คำตอบที่ทำให้วสุธาหันมามองหน้าด้วยความสงสัย

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ถามอย่างเอื้ออาทรเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก

“เปล่าครับ คือ ผมไม่อยากทำเหมือนวิ่งหนีคุณอีก”

“หืม”

“คือผมอาจจะยังกลัวเพราะอย่างที่คุณพูด ผมไม่เคยลืมมันได้แม้จะพยายามลืม แต่ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด ผมไม่อยากให้คุณคิดว่าผมไม่ไว้ใจหรือรู้สึกแย่อะไรกับคุณ คือผม ... คือ”

แม้ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่แค่นี้ก็ทำให้วสุธาพอใจขึ้นมาแล้ว ร่างสูงนั่งลงข้างๆร่างบางพลางเอื้อมมือไปกุมมือที่สั่นน้อยๆนั่นไว้

“ผมทำให้คุณกลัวเอง แม้มันจะยากผมก็จะพยายามทำให้คุณหายกลัว ขอบคุณที่บอก ขอบคุณที่คิดถึงความรู้สึกของผม ทั้งที่ผมทำร้ายคุณอย่างไม่น่าให้อภัย”

มืออีกข้างที่ว่างก็ใช้ปัดปอยผมข้างหน้าของปารมีออกให้

“เอาล่ะนอนกันเถอะ นี่เป็นครั้งแรกเชียวนะที่คุณไม่นอนก่อนผม”

จะพูดให้ถูกก็คือเป็นครั้งแรกที่ปารมีไม่แกล้งทำเป็นหลับไปก่อน วสุธาเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วคว้าเอาร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆเข้ามาในอ้อมกอด

“คุณวสุธา”

ปารมีเรียกอีกฝ่ายเบาๆ อาการตัวสั่นน้อยๆนั่นทำให้วสุธายิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“นอนเถอะ ผมไม่ทำอะไรหรอก แค่อยากให้คุณชินกับการกอดของผมเอาไว้”

พูดได้นิ่งต่างจากคนฟังที่หน้าแดงเรื่อ หัวใจเต้นแรงและเร็วอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความกลัว ถ้ามันไม่ใช่ความกลัวแล้ว มันเกิดจากอะไร ปารมีพยายามคิด คิด และคิด แต่คิดยังไงก็ไม่เข้าใจตัวเองสักที แล้วคนที่นอนกอดอยู่คงจะรับรู้ วสุธาที่ง่วงงุนเต็มทีกระชับอ้อมกอดพลางลูบหลังบางนั้นเบาๆ เสียงงึมงัมที่ปารมีแทบจะจับใจความอะไรไม่ได้ นอกจาก

“ให้นอนซะ และ ผมจะอยู่ข้างๆคุณ”

..............................................

TBC
ตอนที่ 6 จะพยายามมาลงวันอาทิตย์ค่ะ ถ้าเกินก็ขออภัยล่วงหน้าค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: mommamjingjing ที่ 18-05-2012 03:12:40
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆ
บรรยากาศ หวาน ๆ ปนอบอุ่น ด้วยอะ
จะรอความหวานในตอนต่อไปนะคะ
(แอบจิกหมอนด้วยอะ ตัวเอง)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-05-2012 03:25:51
 :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 18-05-2012 03:48:26
แม่นะแม่ กว่าจะคิดได้มันก็สายเกินแล้ว
โชคดีของคุณปามที่มีคุณดินอยู่ด้วย
ดีใจที่คุณปามยอมเปิดใจให้คุณดินอีกครั้ง
สุดท้าย เด็กๆน่ารักมากค่ะ ~~~
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 18-05-2012 03:57:01
เริ่มจะรู้ใจกันแล้วววว ฮิ้วววววววว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 18-05-2012 05:05:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 18-05-2012 05:43:38
สงสารปาม T_T
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 18-05-2012 05:55:27
กว่าปามจะรู้ว่าแม่ของปามก็รักปามมาก
แม่ก็จากปามไปไม่มีวันกลับ
เรี่องของคนในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก และระหว่างพี่น้อง
ก็อาจทำให้มองเห็นความรักที่ได้รับจากคนในครอบครัวแตกต่างกันออกไป
อย่างปามคิดว่าแม่ไม่รักไม่สนใจแต่แม่ก็รักปาม
แม่อาจจะแสดงตวามรักคความห่วงให้กับพี่สาวของปามมากกว่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-05-2012 06:00:35
ผ่านช่วงเวลาเศร้าๆก็มาเจอกับช่วงเวลาที่หวานหยด มดตอม :o8:
ปามสู้ๆ ผ่านความกลัวนั้นไปให้ได้ และทำหน้าที่คนรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ :z1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 18-05-2012 06:33:10
คุณดินสู้


คุณปามก็สู้ๆ  ทั้งสองคนต้องพยายามด้วยกัน เปลี่ยนมันด้วยกัน มันถึงจะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 18-05-2012 07:22:12
 :impress2:เย้ๆปามเริ่มใจออ่นแล้วอะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ปล.ไม่ว่ากันอยู่แล้วอะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 18-05-2012 07:57:54
ความจริงที่หนีกันไม่พ้น หลังจากนี้ไป ชีวิตของปารมีคงมีแต่ความสุข สมกับชื่อของตัวเองแล้ว
ขอเวลาอีกสักนิด ไอ้ที่เคยกลัวอาจจะสดใสร่าเริง  :z2: ก็ได้
+1 เป็นกำลังใจให้ครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-05-2012 08:21:35
มันค่อยๆหวานขึ้นทีละนิดๆ แม้ปามจะเพิ่งผ่านเรื่องเศร้าไปก็เหอะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 18-05-2012 08:31:30
รักกันนนนนนนนนนนนนนนนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 18-05-2012 08:44:01
ฟ้าหลังฝนช่างสดใส
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 18-05-2012 09:29:42
ตอนนี้หว๊าน...หวาน แอร๊ยยย  :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 18-05-2012 09:44:05
คุณแม่ไปสบายแล้ว
ตอนแรก็รู้สึกว่า แม่ไม่น่าเลย ใจร้ายจัง
ตอนนี้เข้าใจและ เหตุเกิดเพราะแบบนี้ คุณแม่เองก็งพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้...
ส่วนครอบครัวใหม่ก็หวานเชียว ดูแลกันยามทุกข์ยากแบบนี้ดีแล้ว ค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ
แต่คราวหน้าคุณปามแสนหวานรุกบ้างก็ดีนะ 555
ขอบคุณ และรออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 18-05-2012 10:48:31
กรี๊ด ตาหวานมาแล้วๆ
(ได้ข่าวเรื่องของดินปามนะเจน)

╮(╯▽╰)╭♡ พ่อดินต้องคิดอะไรกับคุณปามแน่ๆ
มีน้อยอ๊กน้อยใจ๋ = ̄ω ̄=
รักแล้วสินะ สินะ สินะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 18-05-2012 10:50:43

แม่ง!!!! คุณดินมันคนละคนกับก่อนหน้านี้ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-05-2012 10:55:29
ปามเริ่มที่จะยอมรับดินแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-05-2012 11:48:42
เหมือนจะมีกลิ่นหวานๆ ขึ้นมามังละ
5555555
แบบว่า ยังคิดมากกันอยู่อ่ะะ
เหยๆ ปล่อยให้หัวใจทำงาน อย่าคิดไรเยอะ
>\\\<
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-05-2012 12:21:14
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-05-2012 12:31:05
หนูปามน่าสงสารจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 18-05-2012 13:10:41
 :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 18-05-2012 13:13:23
ค่อยๆ ใช้ความรักลบความทรงจำร้ายๆ
เดี๋ยวมันก็จะเริ่มเลือนลางไปเอง

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 18-05-2012 13:21:35
ตอนนี้หวานจัง :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-05-2012 15:14:01
คู่นี้เค้าหวานไม่แคร์อะไรเลยวุ้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 18-05-2012 16:44:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 18-05-2012 16:55:58
...ตอนแรกอ่านก็ว่าแม่คุณปามอยู่หรอกนะว่ะทำไมทำกับลูกแบบนี้
...สุดท้าย แม่ก็มีเหตุผล แต่จริงๆๆบอกกับปามก็ได้นะ
...อย่างน้อยลูกก็จะได้ทำอะไรเพื่อแม่บ้างก่อนที่แม่จะจากไป  :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Superstar ที่ 18-05-2012 17:13:54
กรี๊ด มดกำลังจิกัด
คุณดินดีกันคุธปามมากๆน๊าา

สมกับที่รอคอย ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 18-05-2012 19:15:33
ค่อยเป็นค่อยไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 18-05-2012 19:33:31
 :-[  หวานมากแล้วก็น่ารักมากด้วย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 18-05-2012 20:05:14
ตอนนี้มดขึ้น ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 18-05-2012 23:40:29
มาต่อวันไหนก็ได้ แต่ขอเร็วนิดนึง เพราะกลัวคิดถึงคนวสุธากับคุณปามจนขาดใจตาย :laugh: :3125:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 19-05-2012 00:32:38
เรื่องเศร้าของปาม ทำให้ชีวิตครอบครัวเติมเต็ม
สองคนใกล้จะเข้าใจหัวใจตัวเอง
ใกล้จะทำให้ใจสองดวงรวมเป็นดวงเดียวกัน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 19-05-2012 11:34:00
"แค่อยากให้คุณชินกับการกอดของผมเอาไว้"
กีสสสสสสสบ้านแตก :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 5 P.7 [18/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 20-05-2012 14:45:49
ตอนที่ 6

“ว้าวๆ เค้กล่ะ”

ปฐวีที่วิ่งเข้ามาถึงห้องอบขนมเป็นคนแรกตะโกนออกมาอย่างดีใจ    ทำให้อีกสองคนที่กำลังตามมารีบเร่งฝีเท้าด้วยว่าตื่นเต้นกับขนมเค้กเหมือนกัน

“ไปล้างมือกันก่อนเถอะครับ”

ปารมีบอกเด็กๆเมื่อดูแล้วคิดว่าเด็กๆคงเอาของไปเก็บบนห้องกันแล้วจึงลงมาที่นี่

ขนมเค้กที่พวกเด็กๆว่าเป็นขนมเค้กที่เพิ่งอบเสร็จ ยังไม่ได้แต่งหน้าเค้ก ปารมีกะเวลาที่พวกเด็กๆจะกลับมาบ้านแล้วจึงเริ่มอบขนมเพราะตั้งใจให้เด็กๆมาช่วยกันแต่งหน้าเค้ก

หลังจากที่ล้างมือกันเรียบร้อย ปารมีก็ส่งอุปกรณ์แต่งหน้าเค้กให้ เด็กทั้งสามจึงเริ่มลงมือทำกันอย่างสนุกสนาน โดยมีปารมีคอยช่วยเล็กๆน้อยๆ

วสุธาที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานยืนดูทั้งสี่ช่วยกันแต่งหน้าขนมแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาเดินเอากระเป๋าและเอกสารที่นำกลับมาด้วยไปเก็บไว้ที่ห้องทำงานก่อนจะไปอุ้มตาหวานที่เพิ่งตื่น แล้วจึงกลับไปที่ห้องทำขนมอีกครั้ง

“เละหมดเลย”

ธรณินเงยหน้าขึ้นพูดกับพี่ชายทั้งสองคน ในดวงตามีน้ำตาคลอ เมื่อขนมเค้กที่ตั้งใจทำกันนั้นมันไม่ได้ออกมาสวยงามอย่างที่ตั้งใจเลยสักนิด

ปฐพีกับปฐวีเองก็หน้าเสียไม่ต่างกัน ปารมีเห็นอย่างนั้นก็อมยิ้มกับท่าทางของเด็กๆ

“ไม่เละหรอกครับ”

เอ่ยปลอบใจ ก่อนจะลงมือแต่งหน้าเค้กนั้นเพิ่มอีกนิดหน่อย ขนมเค้กที่ธรณินบอกว่าเละไปแล้วก็กลับกลายเป็นขนมเค้กที่ดูเหมือนแต่งหน้าแนวแฟนตาซีในทันที

“คุณปามเก่งจัง เก่งกว่าพวกผมตั้งเยอะ”

ปฐพีเอ่ยชมอย่างจริงจัง เด็กๆอีกสองคนที่เหลือพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ปารมีกลับส่ายหน้า

“ที่คุณปามทำได้ไม่ใช่เพราะเก่งนะครับ แต่เพราะคุณปามเคยไปเรียนที่โรงเรียนมาต่างหาก”

“ทำขนมนี่ต้องไปโรงเรียนด้วยหรือครับ”

ปฐวีถามเพราะเด็กชายคิดว่าการทำอาหารหรือขนมนั้นกางตำราหรือไม่ก็ให้ใครสักคนสอนที่บ้านก็น่าจะพอแล้ว

ปารมีจึงพยักหน้า

“คุณปามชอบทำอาหาร ชอบทำขนม เลยไปเรียนที่โรงเรียน เหมือนที่พวกคุณวีที่โตแล้วก็ต้องไปเรียนในทางที่ชอบไงครับ”

ทุกคนทำสีหน้าคิดตาม วสุธาที่ยืนฟังอยู่ข้างหน้าห้องยิ้มๆกับท่าทางของเด็กๆ ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะเล็กๆเมื่อธรณินเอ่ยถามปารมีว่า

“งั้นนินชอบตาหวาน ชอบคุณพ่อ คุณปาม ชอบพี่พีพี่วี ชอบอาๆ นินต้องเรียนโรงเรียนอะไรฮับ”

ปารมีทำหน้าลำบากใจกับคำถามของเด็กชาย แล้วก็หันไปค้อนคนหัวเราะ วสุธากลั้นยิ้มไว้แล้วเดินเข้าไปเมื่อรู้ตัวว่าโดนเห็นเสียแล้ว

“ผมเห็นตาหวานตื่นแล้วเลยพามาเดินเที่ยวน่ะ”

ปารมีพยักหน้ารับ แล้วพอมองไปที่ธรณินก็เห็นเด็กชายยังจ้องปารมีอยู่อย่างรอคำตอบ

“โรงเรียนที่ลูกว่าไม่มีหรอกนะครับ ที่นินว่ามานั่นคือครอบครัว ไม่มีโรงเรียนไหนสอนได้ เราต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้คนในครอบครัวของเราด้วยตัวเองนะครับ ที่ล่ะเล็กล่ะน้อยเดี๋ยวก็เก่งเอง”

วสุธาช่วยตอบเด็กชายให้ และคำตอบนั้นไม่เพียงแต่ทำให้เด็กๆเข้าใจและจดจำว่าต้องเรียนรู้ละทำความเข้าใจคนในครอบครัวเท่านั้น แต่มันทำให้ปารมีอดซาบซึ้งไม่ได้ว่า วสุธาเห็นปารมีและตาหวานเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย

...................................

“อันนี้ของอาไม้ อันนี้ของอากลอน”

หลังจากปฏิบัติการณ์ตกแต่งหน้าเค้ก ปารมีก็ขอตัวไปทำอาหารสำหรับมื้อเย็นและปล่อยเด็กๆไว้กับวสุธา วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวจอมไตรทุกคนจะต้องมารับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเป็นวันที่คนในครอบครัวจะไม่รับนัดตอนเย็น ไม่ว่าจะเป็นงานที่สำคัญมากแค่ไหนก็ตาม

ปารมีได้อยู่ร่วมด้วยมาสามครั้งแล้ว นับตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ในฐานะคนรักของวสุธา

ไม่เพียงแต่ปารมีเท่านั้น กลอนเพื่อนของเขาเองก็โดนไม้ลากมา(ตามที่กลอนบอกปารมี)สองครั้งแล้ว เขาดีใจมากที่กลอนและไม้ดูเหมือนจะไปกันได้ดี ยังจำได้ว่าช่วงที่กลอนโดนปองร้ายจากผู้หญิงที่มาติดพันคุณไม้ ปารมีเองอดไม่ได้ที่จะคิดว่าอยากให้ไม้เลิกยุ่งกับกลอน แต่ช่วงที่กลอนหายไปแล้วคุณไม้เหมือนจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ปารมีก็เลิกความคิดนั้น

เมื่อไม้เองก็จริงใจกับกลอน และดูเหมือนเพื่อนตนเองก็มีใจให้อีกฝ่าย ปารมีก็ไม่เห็นว่าสมควรจะทัดทานความสุขของเพื่อน

“อร่อยเหมือนเดิมเลย”

กลอนหันมาคุยกับปารมี หลังจากที่เด็กๆแจกจ่ายเค้กให้จนครบ และทุกคนลงมือกินเค้ก

“ดีจัง ปามไม่ค่อยได้ทำยังคิดอยู่เลยว่ามันอาจจะแย่ลง”

ปารมีตอบเพื่อนอย่างดีใจ ด้วยรู้ว่ากลอนพูดจริง ไม่ได้ชมตามมารยาท

“งานเป็นไงบ้างหรือกลอน”

กลอนกรอกตาก่อนจะมุ่ยหน้าไปทางคุณไม้งอนๆ ปารมียิ้มอย่างเห็นใจเพื่อนนิดหน่อย เมื่อรู้มาโดยตลอดว่าเพื่อนตนเองต้องทำงานที่ผูกติดตัวเองอยู่กับไม้ตลอด ก็แน่นอนเมื่อกลอนเป็นเลขาของไม้นี่นา แต่ดูเหมือนไม้จะยังไม่เลิกนิสัยชอบแหย่กลอน ยิ่งเลื่อนฐานะมาเป็นคนรักกันแบบนี้ ไม้ยิ่งแกล้งแบบถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น

“ปามก็อยากทำงานบ้างจัง”

เปรยเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง แล้วจึงหันไปให้ความสนใจกับธรณินที่กำลังละเลงเค้กเล่นจนกระเด็นไปเปื้อนแก้ม

กลอนมองตามเพื่อนที่เช็ดแก้มของเด็กชาย ก่อนจะหันไปมองไม้ที่กำลังคุยกับพี่ๆอย่างสนุกสนาน สุดท้ายก็เหลือบตาไปมองวสุธา คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเพื่อนตน วสุธาเองแม้จะอยู่ในวงสนทนากับน้องๆ หูเหมือนจะฟังเรื่องราวของคุณลมที่กำลังเล่า แต่สายตากลับมองมาทางปารมีที่กำลังเช็ดแก้มของธรณิน แล้วหากกลอนมองไม่ผิด ในดวงตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองเพื่อนตัวเองอยู่นั้น มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยน...หากแต่คนโดนมองดูเหมือนจะไม่ได้รู้ตัวเลย

...............................

“คุณไม้”

“หืม กลอน ว่าไงครับ”

กลอนเอ่ยเรียกคนตัวโตที่นอนกอดตัวเองอยู่ เสียงขานรับบ่งบอกว่าแม้อีกฝ่ายจะยังไม่หลับแต่สติก็ใกล้เข้าสู่ห้วงนินทราเข้าไปทุกที

“ผมว่าปามเค้าว่างๆ คุณลองไปคุยกับคุณดินหน่อยสิ”

ไม้เงียบไปจนกลอนคิดว่าเขาคงหลับไปแล้ว แต่แล้วจู่ๆอีกฝ่ายก็ส่งเสียตอบกลับมา

“พี่ดินก็คิดเรื่องนี้อยู่นะ บอกว่าคุณปามไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เวลาที่พี่ดินเอาเงินให้ ขนาดการ์ดที่พี่ดินไปทำมาให้ คุณปามยังไม่เคยเอาไปใช้เลย พี่ดินก็กลุ้มใจ บอกว่าเป็นค่าดูแลเด็กๆคุณปามก็เหมือนจะโกรธๆ บอกพี่ดินว่างั้นก็ให้กลับไปเป็นลูกจ้างเถอะ เพื่อนกลอน เอาใจยากพอกันกับกลอนเลยนะเนี่ย”

คนโดนว่าเอาใจยากค้อนคนว่าเสียหนึ่งทีในความมืด ส่วนไม้ แม้ไม่เห็นแต่ก็พอจะนึกภาพออกว่าคนรักของตัวเองจะทำหน้าแบบไหนจึงหัวเราะเบาๆในลำคอ

“ผมว่ากลอนไปคุยกับคุณปามหน่อยดีไหมเรื่องนี้”

กลอนพยักหน้ารับเงียบๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้าสู่ห้วงนินทราไปในอ้อมกอดของกันและกัน

.........................

“คุณดินส่งขวดนมให้ผมหน่อยสิ”

อีกฝากหนึ่ง คนที่โดนกล่าวถึงกำลังอุ้มหลานตัวน้อยขึ้นจากเปล พลางส่งเสียงไหว้วานคนที่เดินตามเข้ามาเหมือนทุกครั้ง

วสุธาเดินไปหยิบขวดนมที่ชงไว้และแช่น้ำจนอุ่มพอที่จะป้อนให้เด็กชายตัวน้อยดื่มมายื่นให้ปารมีตามคำขอ

“แอ๊ะ แอ๊ะ”

เด็กชายส่งเสียงเมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคย เป็นธรรมดาไปเสียแล้วที่หลังจากส่งเด็กทั้งสามเข้านอน ทั้งสองคนจะต้องมาพาตาหวานเข้านอนด้วยกัน เด็กชายตัวน้อยอายุหกเดือนแล้ว และเริ่มใช้เวลาตื่นมากขึ้น วสุธาบอกให้ปารมีเอานมให้เด็กชายดื่มก่อนนอน โดยให้ดึกขึ้นอีกนิดจากที่เคยเพื่อไม่ให้ตาหวานตื่นขึ้นมาร้องไห้หิวนมตอนกลางดึก ซึ่งจะทำให้ปารมีนอนไม่พอ

“นายลมแกล้งคนอีกแล้ว วันนี้น่ะ ทำเอาอีกฝ่ายหนีกลับบ้านแทบไม่ทัน”

วสุธาเล่ารายละเอียดให้ปารมีฟังเบาๆ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องธรรมดาของทั้งคู่ที่จะคุยกันเบาๆระหว่างปารมีป้อนนมตาหวาน เด็กชายจะดูดนมไปด้วยพร้อมกับมองหน้าปารมีที วสุธาที ราวกับกำลังจดจำใบหน้าของคนทั้งคู่ แล้วจะยิ่งจ้องมากขึ้นหากว่ามีใครพูดคุยอยู่

“ที่ให้คุณลมคุมงานโรงแรมนี่เพราะอย่างนี้หรือเปล่าครับ”

ปารมีถามยิ้มๆ งานโรงแรมที่ปารมีพูดถึงนี้นอกจากจะหมายถึงโรงแรมแล้ว ยังหมายถึงธุรกิจเกี่ยวกับที่พักอื่นๆและการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่จอมไตรมีมากที่สุด

“ก็ต้องเจ้าลมนี่ล่ะนะ ถ้าเป็นน้ำก็คงไม่ไหว หมอนั่นใจอ่อนขี้สงสารเกินไป ไปคุมงานด้านโรงพยาบาลก็ดีแล้ว งานด้านนั้นมีเอเขาช่วยอยู่ก็เลยยิ่งคล่อง ถึงเอจะไม่ยอมมานั่งทำงานบริหารแบบเต็มตัวก็เถอะ ส่วนนายไฟ รายนั้นเค้าห้าว เด็ดขาด แถมยังเป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอ นายลมแซวบ่อยๆว่าเขาเป็นหัวหน้าแก็งค์เหมาะที่สุด ก็เลยคุมพวกกิจการกลางคืนได้ดี เจ้าตัวเองถึงไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เรียกว่าเฉยๆ แต่นายไฟทำได้ดีมากเชียวล่ะ ส่วนไม้ เขาชอบพวกประดิษฐ์โน่นนี่นั่น แถมยังมีความคิดสร้างสรรค์มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่แบ่งงานกันถึงไม้จะยังไม่ค่อยรู้อะไร แต่พวกเราก็กันงานพวกนี้ไว้ให้เขาแหละ แล้วนายลม ก็อย่างที่คุณปามว่า เขาเหมาะกับงานโรงแรมจริงๆ เพราะเป็นพวกเก็บอารมณ์เก่ง อะไรๆก็ยิ้มไว้ก่อน เสียที่ชอบแกล้งคนไปนิด แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งเรามีเครือเยอะก็ยิ่งมีคนที่คิดจะใช้เส้นใช้สายเยอะ คนดีๆลมมันก็สนับสนุนนะ มันว่าไม่เรียกใช้เส้น เรียกให้โอกาส แต่พวกที่ไม่ไหวๆนี่ลมก็ไม่เอาเลย เลยโดนแกล้งกลับไป...อ้าว แล้วเราทำไมไม่หลับครับตาหวาน”

ประโยคสุดท้ายวสุธาเอ่ยกับเด็กชายเพราะแทนที่จะนอนหลับไปอย่างทุกทีกลับจ้องวสุธาตาแป๋วราวกับกำลังตั้งใจฟังด้วยยังไงยังงั้น

“สงสัยแกจะชอบนะครับ เพราะพูดถึงพวกคุณๆทีไร แกตาแป๋วฟังทุกที คุณนินเลยชอบเล่าเรื่องคุณอาให้ฟังเวลาที่อยากเล่นกับน้อง ไม่อยากให้น้องนอน”

วสุธาส่ายหัวยิ้มๆกับลูกชายคนเล็กที่ไม่อยากเป็นน้องคนเล็ก ก่อนจะกวาดสายตามองเด็กชายที่ตอนนี้ดูดนมจนหมดขวดและกำลังดูดน้ำเพื่อล้างปากอยู่

“นายนินเขาอยากมีน้อง”

ปารมีพยักหน้า ก่อนจะเอาขวดน้ำวางไว้เมื่อตาหวานเริ่มไม่ดูดน้ำแล้ว ก่อนจะอุ้มเด็กชายพาดบ่าพร้อมลูบหลังเบาๆ

“จะพูดให้ถูกแกอยากได้ตาหวานเป็นน้อง”

ปารมีวางเด็กชายลงบนที่นอนเมื่อได้ยินเสียงเรอเบาๆ ก่อนจะค่อยๆตบก้นน้อยๆเพื่อกล่อมให้ตาหวานนอนหลับ และมันก็ใช้เวลาไม่นานเลย

“ผมคุยกับพวกน้องๆแล้ว”

วสุธายังคงพูดต่อ เมื่อทั้งสองก้าวขึ้นเตียงไป

“คุณว่าไง”

ปารมีมองวสุธานิดๆ ก่อนจะทำตาโตเพราะไม่คิดว่าวสุธาจะย้อนมาถามตัวเองแบบนี้

“ว่าอะไรนะคุณ”

ปารมีคิดว่าวสุธากำลังเล่าเรื่องลูกๆหรือน้องๆอยู่ เอาจริงๆคือ ปารมีไม่ได้ฟังที่วสุธาพูดมาเลย

“คุณปาม เอาอีกแล้วนะ เฮ้อ.... เอาเถอะ นอนเถอะ”

วสุธาตัดบทเพราะจากที่อยู่ด้วยกันมา หากปารมีไม่ฟังอะไรแบบนี้ถึงฝืนคุยไปก็ใช่ว่าจะรู้เรื่อง และตอนนี้ปารมีเองก็ท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“คุณมีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าครับ”

“มีอะไรก็บอกผมนะ”

วสุธาบอกแล้วดึงปารมีมากอดเอาไว้ หลังจากที่ตกลงกันในคืนนั้น วสุธาก็นอนกอดปารมีไว้อย่างนี้ทุกวัน จนจากที่เคยเกร็งกลายเป็นความเคยชินของปารมีไปเสียแล้ว

แถมหมู่นี้ถ้าวสุธากลับดึก ปารมีต้องนอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา จนวสุธากลับมาแล้วมานอนด้วยอย่างเคยนั่นแหละถึงจะหลับตาลงได้

เจ้าตัวเองก็ไม่อยากยอมรับหรอก ว่าตัวเองติดและเคยชินกับอ้อมกอดของผู้ชายตัวโตคนนี้จริงๆ

..................................

TBC

ตอนต่อไปวันพุธนะค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 20-05-2012 15:04:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 20-05-2012 15:07:24
คุณปามใจอ่อนแล้วนะ

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 20-05-2012 15:10:54
โอ๊ยครอบครัวสุขสันต์สุดๆ อ่านแล้วต้องอมยิ้มค่ะ

กลั้นมากๆเหมือนแก้มจะแตก :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-05-2012 15:15:05
โอ๊ยๆๆๆ อยากให้ถึงวันพุธเร็วๆจังเลย :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 20-05-2012 15:44:22
อบอุ่นดีครับ ชอบบ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 20-05-2012 16:14:41
 :o8:

คุณดินก็เอาแต่คิดถึงคุณปาม แถมเนียน หลายทีแล้ว อ้อมโลกไปคุณปามไม่เข้าใจหรอก ตรงๆง่ายกว่านะ


โอยยยย วันพุธจะมีไรไหมหนอ อะคึ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Superstar ที่ 20-05-2012 16:24:59
เริ่มใจอ่อนแล้วววว
มีแว๊บๆถึง ไม้กะกลอน คิดถึงๆสงสัยต้องหยิบมาอ่านอีกซักรอบ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 20-05-2012 16:44:51
คุณปาม ใจอ่อนนนน
ดีมากเลย
บ้านนี้น่ารัก ชอบอ่ะ
ตาหวานน้องเล็ก พี่ๆเอ็นดูมากสินะะ
หุหุ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 20-05-2012 16:48:18
 :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-05-2012 16:52:40
 :กอด1:อบอุ่นมากๆเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-05-2012 17:34:46

เพราะความรักมันซึมลึก
เลยต่างคนต่างมองไม่เห็นกันสินะ
แต่ชอบจังเลยคะ บรรยากาศดูเป็นครอบครัวอบอุ่นมากๆ
ไม่ขาดไม่เกิน  ดูรับส่งกันได้น่ารักดี
รออ่านตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-05-2012 17:40:31
มันคงเป็นความรัก :L1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 20-05-2012 17:42:50
 :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 20-05-2012 17:45:14
ครอบครัวสุขสันต์ อ่านแลวมีความสุขที่สวดดดด
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 20-05-2012 18:12:23
อ่านแล้วรู้สึกชอบนายลมที่สู้ดดดดดดด  :impress2:
อิอิ ขอบคุณค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 20-05-2012 18:22:29
ชอบตอนนี้จังค่ะ
ได้อารมณ์ครอบครัวมากๆ
คุณปามอ่อนโยนจัง คุณดินก็อบอุ่นมาก เด็กๆน่ารัก
แอบมีไม้กับกลอนด้วยอ่ะ
ขอบคุณคุณจิ๊บมากๆ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-05-2012 18:24:35
อยากอ่านตอนหน้าไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 20-05-2012 18:24:40
มีไม้กับกลอนโผล่มาเบา เบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 20-05-2012 20:27:49
 :-[เป็็นครอบครัวที่อบอุ่นจัง :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-05-2012 20:35:45
 :-[  อบอุ่นอ่าาาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 20-05-2012 20:52:38
พออ่านเรื่องนี้  อยากเร่งวันเร่งคืนให้มันเร็วๆจัง 
อยากอ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 20-05-2012 20:53:44
นึกออกคำเดียวว่า "อิอิ"  :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 20-05-2012 21:12:58
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 20-05-2012 21:14:11
...คุณปามนี่เหมือน จะเป็นคนใจลอย หรือเหม่อ เลยเนอะ ใครพูดอะไรด้วยแล้วแบบถามกลับ เพราะไม่ไ้ด้ฟัง
...เป็นบ่อยคนคุณดิน เริ่มชิน ครอบครัวนี้ท่าทางจะราบเรียบ ไม่มีปํญหาเหมือนคู่อื่นเค้ามั้ง โดยเฉพาะตัวแปรที่เป็น..ผู้หญิง :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 20-05-2012 23:56:10
น่ารักมากเลย ตาหวานก็คงอยากให้พ่อกับแม่รักกันซะทีสินะ เลยไม่ยอมนอน อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-05-2012 00:51:04
นู๋ปามไม่กลัวนายดินอล้วใช่ป่าว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ELMI ELMA ที่ 21-05-2012 15:37:36
น่ารักจังเลยยยยยย สุขใจๆ  :m1:


รออ่านตอนต่อไปคะ  :a3:

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 21-05-2012 19:10:03

เดี๋ยวรู้ตัวอีกทีก็ขาดไม่ได้อ่ะคุณปาม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 21-05-2012 20:24:31
อยากให้วันพุธมาถึงเร็วๆจัง

><!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 21-05-2012 22:00:33
เปิดรับตัวเอง เป็นคนในครอบครัว จอมไตร แม้จะยังคิดมากอยู่เหมือนเดิมก็ตาม
ตอนนี้ติดกอด อีกหน่อยจะติดอะไรครับ คุณปาม  :z1:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 23-05-2012 11:04:02
เค้ารอเตงอยู่นะ :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-05-2012 12:21:44
มีไม้กับกลอนมาแจมด้วย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 23-05-2012 19:46:07
ตอนที่ 7

เขาว่าความรักที่ไม่มีอุปสรรค ย่อมไม่อาจนับได้ว่าเป็นรักแท้

ปารมีอ่านประโยคสุดท้ายในหนังสือแล้วก็มาหวนคิดถึงตัวเอง สำหรับตนเองและวสุธาจะนับว่ารักกันได้ไหม เมื่อเรื่องของเรื่องมันไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก จนตอนนี้ปารมีก็ไม่แน่ว่าได้รักไปแล้วหรือยังกันแน่

“ไอ้ที่ไม่รู้ไม่แน่ใจนี่นับเป็นอุปสรรคของความรักด้วยไหมนะ”

บ่นกับตัวเองอย่างไม่คิดอะไร แต่คนที่เข้ามาได้ยินกลับคิดไปไกลเสียแล้ว

กลอนที่แวะมาเที่ยวหาเพื่อนหยุดอยู่ข้างหลังเมื่อได้ยินเสียเพื่อนบ่น ก่อนจะถอยฉากหายไปเงียบๆ เปลี่ยนความตั้งใจ เดินออกจากบ้านใหญ่ไปที่โรงพยาบาลแทน

แน่ล่ะว่าที่ไปโรงพยาบาลนี้ กลอนไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือมีใครเจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องไปเยี่ยมเยียนดูอาการหรอก

กลอนก็แค่คิดว่า บางทีเรื่องที่ตัวเองกำลังคิดจะทำอาจจะต้องมีที่ปรึกษา และดูเหมือนหมอเอจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

กลอนไปถึงโรงพยาบาลในไม่ช้า พร้อมทั้งบอกเล่าความคิดของตัวเองให้หมอเอฟัง

อุปสรรคนั้นนำมาซึ่งรักแท้ และหากไม่ได้รัก หมดรัก หรือรักกันไม่มากพอ ก็จะนำมาซึ่งความแตกแยก แต่มันเป็นเหมือนข้อพิสูจน์รักแท้ที่ดี ทั้งสองคนจึงไม่ลังเลเลยที่จะสร้างอุปสรรคให้กับวสุธาและปารมี

...........................................

สามวันหลังจากนั้น ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ หากเย็นของวันที่สี่นั้นเอง วสุธาก็ได้แต่นิ่งอึ้งเมื่อเห็นผู้มาเยือน

ผู้หญิงต่างวัยสองคนที่วสุธาไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก อย่างน้อยๆ ก็ไม่คิดว่าจะเจอด้วยการที่อีกฝ่ายมาหาเขาถึงบ้าน ทั้งสองคนมีผมสีทองออกน้ำตาลและดวงตาสีฟ้าอมเขียว ผิวขาวแตกต่างจากคนเอเชียอย่างเห็นได้ชัด

“สวัสดีครับคุณลิลลี่ คุณลูซี่ ไม่ทราบว่าถึงนี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

ใครได้ฟังคงเดาได้ไม่ยากว่าวสุธาไม่ได้ต้อนรับคนทั้งคู่นัก แม้ว่าทั้งคู่จะได้ชื่อว่าเป็นแม่และน้องสาวของภรรยาผู้ล่วงลับก็ตาม

ปารมีที่เดินตามออกมาพร้อมเด็กๆหยุดยืนมองผู้มาเยือนด้วยความสงสัย

หญิงสูงวัยที่วสุธาเรียกว่าลิลลี่ปรายตามองวสุธาอย่างไม่เป็นมิตร ก่อนประมองเลยมาถึงปารมีและเด็กๆ สายตาที่ไม่เป็นมิตรยิ่งกว่ามองมาที่ปารมี ก่อนจะอ่อนแสงลงยามจับจ้องไปที่เด็กทั้งสาม

“ทำไมฉันจะมาไม่ได้ ยายจะมาเยี่ยมหลานนี่มันผิดตรงไหน”

วสุธาหน้าตึงไปกับสิ่งที่ได้ยิน หากไม่ติดว่าเขาเองก็ยังให้เกียรติอีกฝ่ายในฐานะแม่ของเลวี่ วสุธาคงจะเชิญทั้งสองออกจากบ้านไปตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว

“ผมไม่คิดว่าคุณจะมาเพราะอยากเห็นหลานหรืออยากเจอหลานอย่างที่ว่าหรอกนะครับ เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณคงมาเสียนานแล้ว คงมาตั้งแต่เลวี่ติดต่อไปตอนพวกเขาเกิด หรือไม่ก็มาในตอนที่ผมติดต่อไปเรื่องเลวี่ ไม่ใช่อยู่ๆก็มาแบบนี้ๆ”

ย้อนได้ถูกจุดจนคนฟังหน้าเสียไปนิด ก่อนจะกลับมาเชิดใส่อย่างเดิม

ปารมีมองภาพเหล่านั้นอย่างไม่เข้าใจ แตกต่างจากเด็กๆที่ทำหน้า ‘เย็นชา’ ไม่ต่างจากพ่อตัวเองสักนิดเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“เข้าบ้านเถอะครับคุณปาม”

ปฐพีเอ่ยชวนโดยไม่สนใจจะเข้าไปไหว้หรือแนะนำตัวใดๆกับคนทั้งสอง ถึงแม้จะฟังภาษาอังกฤษที่ทั้งคู่ใช้คุยกันได้ไม่เข้าใจนัก แต่ปารมีก็พอจะเดาได้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร

“แต่ว่า....”

ไม่ทันได้แย้ง เด็กๆทั้งสามก็ดันตัวปารมีเข้าบ้านไปเสียก่อน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้มาเยือนทั้งสองมองด้วยความไม่พอใจยิ่งขึ้น

“นี่สอนหลานชายฉันยังไง นี่คงจะสั่งสอนให้คิดว่าตัวเองดีอยู่ฝั่งเดียวล่ะสิ”

หญิงสูงวัยเอ่ยอย่างไม่พอใจ วสุธาฟังแล้วยิ่งเพิ่มความเข้มในสายตาและน้ำเสียง

“พวกเราไม่ใส่ร้ายใครให้ลูกฟังหรอกครับ แต่เราไม่โกหก พูดแต่ความจริงก็เท่านั้นเอง”

หญิงสาวอีกคนที่เงียบมานานเดินออกมาข้างหน้ามองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่เขยท่เธอไม่อยากจะยอมรับด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ติดจะรังเกียจและดูถูกไม่ต่างจากผู้เป็นแม่นัก

“เราจะไม่อ้อมค้อม เราต้องการหลานทั้งสามคนกลับไปกับเรา”

วสุธามองหน้าอีกฝ่าย แล้วยิ้มเย็นส่งไปให้จนทั้งคู่ต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างลืมตัว

“พูดง่ายจังนะครับ อยากได้ก็จะมาพาไป แล้วผมต้องยกลูกๆของตัวเองให้ตามที่พวกคุณต้องการหรือไง พวกคุณเชิญกลับไปเถอะ ผมไม่รู้หรอกนะว่าอะไรหรือใครไปดลใจให้พวกคุณมา แต่ผมพูดตรงๆว่าที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ เชิญครับ ผมคงไม่ต้องให้ยามมาเชิญหรอกนะ”

คนฟังหน้าตึงไปทั้งคู่ อยากจะโวยวายแต่ไม่กล้าด้วยเกรงสายตาของอีกฝ่ายอยู่มาก ทั้งคู่ย่ามใจในช่วงแรกที่เหมือนวสุธาจะยอมอ่อนให้ แต่ทั้งคู่ไม่รู้หรอกว่า วสุธาเห็นว่าลูกชายตัวเองยืนอยู่จึงไม่อยากแสดงความก้าวร้าวต่อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นยายของลูกชายให้เห็น ไม่ใช่กลัวว่าจะเสียภาพพจน์ของตัวเอง แต่กลัวว่าลูกชายจะทำตามต่างหาก ขนาดวสุธาไม่เคยบอกเล่าอะไร ลูกชายทั้งสามยังรู้เลยว่าที่บ้านฝั่งแม่ของตนเองนั้นไม่ต้อนรับวสุธาและลูกๆนัก และนี่คือเหตุผลที่เด็กๆไม่สนใจผู้มาเยือนเลย แม้อีกฝ่ายจะกล่าวหาว่าเป็นเพราะวสุธา วสุธาก็ไม่คิดจะแก้ตัวด้วยไม่เห็นความจำเป็น

อยากเข้าใจยังไงเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ในเมื่อทั้งสองคนไม่ถือว่าเป็นครอบครัว ญาติ หรือเพื่อน  แล้ววสุธาจะต้องสนใจทำไมกัน

ทั้งสองคนจากไปโดยเร็วเมื่อวสุธาพูดจริงทำจริง เขาแจ้งยามให้มาเชิญทั้งคู่ออกไปและห้ามไม่ให้ทั้งสองคนเข้ามาในบ้านอีก ไม่ว่าใครจะบอกให้ปล่อยเข้ามาก็ห้าม นอกจากตัวเขาเองเท่านั้นจะเป็นคนอนุญาต วสุธาพูดประโยคแรกๆให้ผู้มาเยือนได้ยินอย่างไม่คิดเกรงใจ ส่วนอันหลังนั้นเขาบอกยามหลังจากที่ทั้งสองได้กลับไปแล้ว

จากนั้นก็เดินเข้าบ้านอย่างเอื่อยๆ เขาเงยหน้ามองพระจันทร์แล้วบ่นพึมพำเบาๆขอโทษหญิงสาวผู้เป็นที่รักซึ่งจากไปแล้ว

พอเดินเข้ามาในบ้านเห็นเด็กๆนั่งเล่นกันอยู่โดยมีตาหวานนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างพอใจเมื่อโดนเหล่าพี่ชายหยอก ปารมีที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมามองวสุธาอย่างไม่สบายใจแต่วสุธาก็หลบสายตาอีกฝ่ายแล้วเดินเลี่ยงไปทางห้องทำงาน

นั่นทำให้ปารมีอดขมวดคิ้วไม่ได้ และโดยที่เด็กๆไม่ทันรู้ตัว ปารมีก็เดินตามวสุธาไปที่ห้องทำงานเสียแล้ว

..................

ปารมีเคาะห้องเบาๆและไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาตก็เดินเข้าไปตามความเคยชิน วสุธาเพิ่งตั้งรูปๆหนึ่งลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะหันหน้ามามองปารมี แล้วถอนหายใจออกมาเหนื่อยๆ

ร่างเล็กเหลือบสายตามองรูปที่อีกฝ่ายหยิบขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเป็นรูปหญิงสาวที่กำลังยิ้มสวยส่งให้กล้อง หญิงสาวผู้เป็นที่รัก หญิงสาวที่แม้จะจากไปแล้วแต่ไม่เคยเลือนหายไปจากใจคนตรงหน้า หญิงสาวที่ทำให้วสุธาผู้เยือกเย็นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไม่ต้องการเหตุผล โกรธจนทำร้ายปารมีได้โดยไม่มีลังเลใจสักนิด หญิงสาวที่ปารมีเคยโดนตะโกนใส่หน้าว่า ‘ไม่มีทางมาแทนที่ได้’

ดูเหมือนวสุธาจะไม่รู้ตัวว่าปารมีกำลังคิดอะไร เพราะแค่พยายามควบคุมอารมณ์ตนเองให้เป็นปกติก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากแล้ว

“คุณปามมีอะไรหรือเปล่า”

คนโดนถามพยายามเก็บกักความรู้สึกประหลาดๆ ความเจ็บหน่วงๆในใจเอาไว้แล้วสบตาอีกฝ่าย

“ผมแค่อยากมาถามคุณให้แน่ใจว่าคุณไม่เป็นไร”

“ผมไม่เป็นไร”

ตอบโดยไม่ต้องคิดสักนิด ปารมีขบริมฝีปากแน่น

“คุณไม่เป็นไรแล้วทำไมถึงทำท่าแบบนั้น คุณคนนั้นเขาเป็นคุณยายของเด็กๆใช่ไหมครับ ดูเหมือนทั้งคุณและเด็กๆจะไม่ค่อยชอบเขานัก เขามาทำอะไรหรือครับ”

วสุธาถอนหายใจ พูดตรงๆว่าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเหล่านี้ อย่างน้อยๆก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้

“เขาแค่มาเยี่ยม”

ตัดบทได้ไม่มีเหตุผลจนปารมีเริ่มจะโกรธนิดๆ ร่างบางนั่งลงตรงข้ามวสุธาก่อนจะจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ อย่างที่ไม่เคยทำ

“ถ้าแค่มาเยี่ยมทำไมกลับเร็วนัก ทำไมไม่เชิญเข้าบ้าน ทำไมไม่ให้เด็กๆเข้าไปทักทาย ผมไม่ได้โง่นะคุณ”

วสุธาหลบสายตาอีกฝ่าย ไม่อยากตอบคำถามและเหนื่อยเกินกว่าจะคิดว่าต้องพูดอย่างไรปารมีจึงจะเข้าใจ หากเพราะไม่ทันคิดเขาจึงพูดประโยคที่ทำให้ทั้งห้องเงียบลงไป ทำให้ปารมีหยุดถามเรื่องทุกอย่างอย่างที่เขาต้องการได้จริงๆ แต่มันเป็นการหยุดที่เกิดขึ้นเพราะความเสียใจ คนฟังเสียใจ คนพูดเองก็เสียใจที่พูดออกไป ประโยคเดียวของวสุธาที่ทำให้ปารมีลุกออกไปจากห้องอย่างง่ายดาย ประโยคที่ว่า

“คุณไม่ต้องรู้หรอก เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณ”

................................................

ปารมีกลับมานั่งดูเด็กๆเล่นกับตาหวานเงียบๆ ไม่นานวสุธาก็ตามออกมาอีกคน ร่างสูงนั่งลงข้างปารมีอย่างที่เคยทำเสมอ แต่คราวนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ปารมีจะหันมายิ้มให้ก่อนจะกลับไปสนใจเด็กๆต่อ คราวนี้ไม่เพียงไม่หันมามองหน้าวสุธาสักเพียงนิด ยังลุกขึ้นทันทีที่วสุธานั่งลงแล้วลงไปนั่งรวมกับพวกเด็กๆเสียอย่างนั้น

วสุธาถอนหายใจเบาๆ อันที่จริงเขารู้สึกเหนื่อยใจมากอยู่แล้วเมื่อเจอกับแม่ของภรรยาผู้ล่วงลับ แล้วก็ยิ่งต้องมาเหนื่อยเพิ่มเพราะต้องมาง้อปารมีอยู่ตอนนี้ แต่ทำอย่างไรได้ เมื่อวสุธาผิดเองที่พูดไม่คิด เขารู้ตัวว่าพูดไม่ดีออกไปจึงต้องการมาพูดทำความเข้าใจกับอีกฝ่าย แต่ปารมีไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับความเข้าใจเลย แล้วยิ่งเห็นชัดเมื่อวสุธาพาตัวเองลงไปนั่งข้างล่างกับเด็กๆด้วย ปารมีก็ผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องครัวทันที วสุธามองตามหลังบางๆนั้นไป กำลังคิดจะลุกขึ้นเดินตามแต่ก็หันมาเจอเหล่าลูกๆที่จ้องมองตัวเองอยู่ก่อนแล้ว

“มีอะไรครับ”

วสุธาพูดกับเด็กๆก่อนที่ปฐวีจะเป็นคนถามขึ้น

“คุณพ่อทะเลาะกับคุณปามหรือครับ”

วสุธาเอียงคอเหมือนจะถามว่าเด็กๆรู้ได้อย่างไร

“เมื่อกี้คุณปามบอกว่าวันนี้จะไปนอนกับพวกผม”

วสุธาหันขวับไปมองทางครัวแทบจะทันที เริ่มจะโกรธอีกฝ่ายขึ้นมานิดๆ ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เด็กๆจับได้ แต่เพราะอีกฝ่ายจะหนีเขาไปนอนห้องอื่นต่างหาก คิดว่าวสุธาจะยอมง่ายๆหรือไง

“ตกลงทะเลาะกันหรือครับ”

ธรณินลูกชายคนเล็กเอ่ยถามพลางส่งสายตาเหมือนคนจะร้องไห้มาให้

“เปล่าครับ พวกพ่อไม่ได้ทะเลาะกัน”

เด็กๆทั้งสามพยักหน้า ไม่สิ ต้องบอกว่าเด็กๆทั้งสี่ เพราะตาหวานเองก็โดนธรณินจับโยกคอเบาๆให้พยักหน้าไปพร้อมกัน

“งั้นคุณปามก็โกรธ”

“แต่เมื่อกี้คุณปามบอกว่าไม่ได้โกรธคุณพ่อนะ”

ดูเหมือนปารมีจะโดนซักมาก่อนแล้ว วสุธาฟังแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่าปารมีโกรธตนนั่นล่ะถูกต้องแล้ว

“ไม่ได้โกรธแล้วทำไมต้องไม่นอนกับคุณพ่อล่ะ ไม่ได้ทะเลาะกันด้วย”

ปฐพีทำหน้าคิดนิดๆก่อนจะหันไปบอกคนอื่นๆ

“คุณปามไม่ได้โกรธ แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะกับคุณพ่อ แต่จะไปนอนกับพวกเราแถมยังไม่คุยกับคุณพ่อแบบนี้ สงสัยคุณปามต้องงอนคุณพ่อแน่ๆเลย””

หลังจากที่ได้ยินพี่ใหญ่สรุป เด็กๆอีกสองคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยตามความคิดนั้น  ก่อนจะหันกลับมามองคุณพ่อของตนที่นั่งเขี่ยแก้มตาหวานเล่นอยู่

“แล้วทำไมคุณพ่อยังไม่ตามไปง้ออีกล่ะครับ”

คนโดนถามแกมสั่งเลิกคิ้วขึ้นนิดๆด้วยความสงสัยว่าลูกๆของตนไปเอาเรื่องงอนง้อมาจากใคร

“เวลาอากลอนเดินหนีไป อาไม้จะพูดว่าโดนงอนอีกแล้ว อาไปง้ออากลอนก่อนนะครับ แบบเนี้ย แล้วก็รีบตามอากลอนไปเลย”

ปฐวีบอกพร้อมทำเสียงเลียนแบบอาตัวเองให้ดูเป็นการประกอบด้วย วสุธาส่ายหน้าช้าๆกับนิสัยของน้องชายคนเล็กที่ชอบแกล้งคนรักให้งอนก่อนจะไปง้อให้อีกฝ่ายมาคืนดีด้วย

เมื่อโดนลูกชายยุส่งแบบนี้ วสุธาก็พาตัวเองไปที่ห้องครัวเพื่อไปง้อคุณปามตามที่เด็กๆต้องการ แม้จะบอกกับตัวเองว่า ที่ตัวเองทำนี้ไม่เรียกว่าง้อแต่มันคือการมาอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจก็เถอะ

.....................................

ปารมีเหม่อมองไปที่หน้าต่างห้องครัวระหว่างที่รอน้ำร้อนเดือดเพื่อชงนมให้หลานชาย เขาไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าวสุธาได้เข้ามาอยู่ในห้องด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้สึกก็ตอนที่อีกฝ่ายเดินมาใกล้แล้วกดน้ำใส่แก้วเพื่อรอให้อุ่นสักนิดก่อนนำไปชง

ความเงียบเข้าครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ปารมีอยากเดินหนีไปจากที่นี่แต่ก็ติดว่าคนตัวสูงกว่าที่กำลังทำท่าตั้งใจชงนมให้ตาหวานนั้นยืนขวางทางเอาไว้

“คุณจะไปนอนกับเด็กๆหรือ”

วสุธาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อนซึ่งแน่นอนว่าปารมีไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

“ผมไม่ให้ไปหรอกนะ”

ปารมีค้อนควับทันทีที่ได้ยินที่อีกฝ่ายบอก ในที่สุดก็ทนไม่ได้จึงต้องเอ่ยปากพูดด้วย

“ผมจะไปนอนที่ไหนก็เรื่องของผม”

วสุธายิ้มนิดๆเพราะในน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ได้เย็นชาห่างเหินเหมือนเมื่อตอนที่เขาไปตามกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ติดจะสะบัดๆสักนิดให้รู้ว่าไม่พอใจ หรือที่เด็กๆบอกว่าคุณปามของเด็กๆกำลังงอนจะเป็นเรื่องจริง

“เรื่องของคุณคนเดียวที่ไหนกัน คุณไม่นอนกับผมมันก็ต้องเป็นเรื่องของผมด้วยสิ”

หากลูกน้องหรือเพื่อนฝูงได้มาเห็นวสุธาในรูปแบบนี้คงได้ตกใจไปตามๆกัน เพราะสำหรับคนอื่นๆ วสุธาไม่เคยพูดจาเข้าข่ายกวนประสาทเชิงหยอกเล่นแบบนี้เลยสักนิด แต่ถ้าถามปารมีเหรอ ต้องบอกว่าเห็นจนชิน

“หึ ตัวผม ผมจะไปนอนที่ไหนก็ได้ ไม่เกี่ยวกับคุณ”

โดนย้อนมาแบบนี้ วสุธาก็อดรู้สึกเจ็บนิดๆไม่ได้เหมือนกัน ดูเหมือนปารมีจะเอาคืนที่วสุธาว่าไปที่ห้องทำงานนั่นเสียแล้ว

ก็แน่ล่ะ วสุธาไม่รู้หรอกว่าปารมีเสียใจมากแค่ไหน สำหรับปารมีนั้นเขาเริ่มจะยอมรับว่าวสุธาและเด็กๆเป็นครอบครัว เริ่มจะวางตัวเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันที่มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน เป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน และเพราะห่วงใยใส่ใจปารมีจึงมองเห็นท่าทางไม่สบายใจของอีกฝ่าย ที่เข้าไปถามถึงผู้มาเยือนใช่ว่าจะเพราะปารมีอยากสอดรู้เรื่องของวสุธาเสียที่ไหน เขาก็แค่เป็นห่วง เลยอยากแบ่งเบาเรื่องหนักอกของวสุธามาบ้าง ถึงแม้ปารมีจะรู้ตัวว่าไม่ใช่คนเก่งหรือฉลาดมากพอจะช่วยวสุธาแก้ไขปัญหา แต่ก็อยากให้วสุธาปรึกษา อย่างน้อยๆก็ให้ได้ระบายอะไรๆออกมากับตน ให้วสุธาได้สบายใจขึ้นบ้าง

แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องของเขา กันเขาออกไปให้ห่างแบบนั้น จะไม่ให้ปารมีเสียใจได้อย่างไร

ในขณะที่วสุธาสามารถก้าวเข้ามาใกล้ปารมีได้ทุกเมื่อเพราะแม้จะยังกลัวแต่ปารมีก็พยายามเปิดใจรับ แต่สำหรับวสุธาแล้ว เขากันปารมีไว้ ปิดใจเสียอย่างนี้ แล้วจะมาบอกว่าตนเป็นคนรักไปเพื่ออะไร

“เรื่องของผมคุณเข้ามาจัดการได้เต็มที่ กำหนดนั่นนี่ตามใจ แต่เรื่องของคุณผมไปยุ่งด้วยไม่ได้ แตะอะไรไม่ได้สักนิด ทำแบบนี้ คุณจะให้ผมคิดยังไง”

คนฟังนิ่งไป เริ่มคิดถึงการกระทำของตัวเองที่ผ่านๆมา วสุธาจัดการทุกอย่างให้ปารมีตามความคิดของตัวเองจริงๆอย่างที่อีกฝ่ายว่า แม้ส่วนมากปารมีจะเต็มใจและไม่ได้ต่อว่าอะไร แต่มีบางเรื่องอย่างเช่นเรื่องเงินหรือเรื่องของใช้ของอีกฝ่ายกับตาหวานที่ปารมีกับเขามักจะต้องเถียงกันแทบทุกครั้ง แต่มันก็มักจะไม่เป็นเรื่องใหญ่เพราะปารมีรู้ว่าเขาหวังดี และเขาก็รู้ว่าที่ปารมีต่อต้านก็เพราะเกรงใจและไม่อยากรบกวน

เป็นวสุธาเองที่มักพูดเสมอว่า เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องเกรงใจหรือรบกวนให้เก็บพับไปได้เลย และเพราะเหตุนี้ ปารมีถึงได้ยอมลงให้ทุกครั้ง

“ผมขอโทษ”

วสุธาถอนหายใจออกมาหลังจากที่พูดคำนั้น ทำให้ปารมีเริ่มโกรธจริงจังเพราะคิกว่าอีกฝ่ายขอโทษไปอย่างนั้นเองเพื่อให้เรื่องมันจบ ร่างบางตั้งใจจะเดินออกไปจากห้องครัวเสียเพราะไม่อยากพูดคุยกับวสุธามากไปกว่านี้ แต่วสุธาไม่ยอม

ก่อนที่จะได้เดินผ่านไปปารมีรู้ดีว่าต้องเข้าใกล้อีกฝ่ายมากแค่ไหน ปารมีถึงได้ยืนอยู่ในครัวไม่ไปไหนจนได้พูดคุยกับวสุธา แต่ในขณะนี้ ปารมีไม่คิดจะคุยเสียแล้ว หากเพราะต้องเดินเข้าใกล้นี่เองวสุธาจึงได้มีจังหวะคว้าร่างอีกฝ่ายเอาไว้ เขารั้งอีกฝ่ายด้วยการกอดทั้งตัวจากด้านหลัง ทำเอาคนโดนกอดที่กำลังโกรธๆตกใจจนลืมโกรธไปชั่วขณะ

“คุณ..ปล่อยนะ”

ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่ คนกอดก็ยิ่งกอดแน่นมากขึ้นเท่านั้น จนปารมีรู้ว่ายังไงก็หนีไปไม่พ้น จึงได้ยอมยืนนิ่งๆให้อีกฝ่ายกอดเอาตามใจ และเมื่อไม่ขัดขืน วสุธาก็คลายอ้อมกอดที่กอดเสียจนแน่นลงเล็กน้อย จนมันกลายเป็นอ้อมกอดเบาๆที่อ่อนโยน อ่อนโยนเสียจนปารมีลืมคิดจะหนีห่างไปแม้มีโอกาส

วสุธาซบใบหน้าลงที่ไหล่บางเงียบๆ แล้วทั้งห้องก็ตกลงสู่ความเงียบอีกครั้ง

“ผมขอโทษจริงๆ ในห้องทำงานนั่นผมไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆหรอกนะ”

น้ำเสียงของวสุธาจริงจังจนปารมีต้องนิ่งฟัง

“ผมแค่กำลังเหนื่อยและไม่อยากนึกหรือพูดถึงพวกเขา ผมไม่ได้ตั้งใจจะกันคุณออกไปจากเรื่องนี้หรอก”

ปารมีเองก็พอจะเข้าใจในจุดนี้ และเพราะเหตุนี้สำหรับเด็กๆจึงมองว่าปารมีแค่งอน ไม่ได้โกรธ ก็ปารมีแค่งอนและน้อยใจเท่านั้นเองจริงๆนี่นา

“ผมผิดที่ใช้คำพูดไม่คิดปัดไปง่ายๆแบบนั้น ทำให้คุณต้องเสียใจ”

เขารู้ว่าปารมีเสียใจ น้อยใจ เพราะปารมีไม่ได้ปิดบังอารมณ์ของตัวเองไว้เลย ทั้งสีหน้าและแววตาตอนที่อยู่ในห้องทำงานนั้น มันทำเอาเขาอยากจะย้อนเวลากลับไปไม่ให้ตัวเองพูดประโยคนั้นออกมา แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่ทำได้มีเพียงมาขอโทษอีกฝ่ายในสิ่งที่ได้พูดไป และทำความเข้าใจกับอีกฝ่ายก็เท่านั้น

แม้จะยังเหนื่อย แต่วสุธาไม่อยากให้เรื่องมันค้างคา เขารู้ว่ายิ่งนานไปหากไม่คุยกันให้เข้าใจ เรื่องราวมันก็จะยิ่งมีแต่แย่ลง

“ผมขอโทษและอยากให้คุณยกโทษให้ ผมจะไม่ทำมันอีก”

ถ้าปารมีพยักหน้าตกลงตอนนี้จะมีคนว่าปารมีใจอ่อนง่ายไปไหม แต่ถึงจะว่าปารมีก็ต้องยอมรับเท่านั้น เพราะเจ้าตัวพยักหน้ารับคำขอโทษของอีกฝ่ายไปเสียแล้ว

“ผมขอแค่คุณอย่าทำอีก อย่าพูดเหมือนผมกับคุณไม่เกี่ยวข้องกันอีก ผมไม่อยากรู้สึกแบบนั้น ไม่อยากคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ”

วสุธากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเมื่อได้ฟัง ไม่ใช่แค่ปารมีหรอก วสุธาเองให้ลองคิดว่าปารมีเห็นตนเป็นคนอื่น แค่คิดก็รู้สึกโมโหขึ้นมาแล้ว

“คุณปาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าใครจะพูดหรือทำอะไร ขอให้คุณจำและนึกไว้เสมอว่าคุณเป็นคนรักของผม เป็นคุณปามของเด็กๆ เป็นครอบครัวของผมและเด็กๆ คุณเป็นหนึ่งในจอมไตร คุณมีพวกเราทุกคน”

ปารมีรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้ม มือเรียวยกขึ้นมาจับแขนของอีกฝ่ายที่กอดตนไว้ ทั้งคู่กอดกันอยู่อย่างนั้น และคงจะกอดกันนานกว่านี้หากเด็กๆทั้งสี่คนจะไม่เข้ามาในห้องครัว

“ตาหวานหิวนมแล้วครับ”

ปฐพีที่อุ้มตาหวานเข้ามาเป็นคนบอก พร้อมกับปฐวีที่จูงมือธรณินซึ่งกำลังขยี้ตางัวเงียเพราะง่วงนอน

วสุธาปล่อยตัวปารมีอย่างง่ายดายเมื่ออีกฝ่ายดันตัวออก

ใบหน้าเนียนเป็นสีแดงเรื่อเมื่อคิดว่าเด็กๆเห็นภาพตัวเองกอดกับวสุธา แต่เด็กๆกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้กันสักคำ ซึ่งมันช่วยไม่ให้ปารมีเขินมากไปกว่านี้

สรุปแล้วปารมีกับวสุธาก็พาเด็กๆเข้านอนโดยที่ปารมียังคงกลับไปนอนที่ห้องเดิม ห้องของปารมีกับวสุธา

..............................................

มีต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 23-05-2012 19:46:54

บางทีเรื่องบางเรื่องไม่รู้อาจจะดีกว่า ปารมีคิดอย่างนั้นจึงไม่เซ้าซี้จะถามเรื่องคุณยายของเด็กๆอีก แต่พอปารมีไม่ถาม วสุธาเกิดอยากจะเล่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“คุณนอนแล้วหรือ”

วสุธาถามขึ้นมาในความมืด เขากอดร่างที่เล็กกว่าตนเอาไว้จึงแน่ใจว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้หลับไป แต่ก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“มีอะไรหรือครับ”

ถึงจะยังไม่ได้หลับ ปารมีก็ใกล้เข้าสู่ห้วงนินทราเข้าไปทุกทีแล้ว น้ำเสียงจึงงัวเงียจนวสุธาเงียบไปอย่างชั่งใจว่าควรจะพูดให้อีกฝ่ายฟังตอนนี้เลยดีไหม

“คุณลิลลี่น่ะ เป็นแม่ของเลวี่ ส่วนคนที่มาด้วยกันชื่อลูซี่เป็นน้องสาวของเธอ”

และเพราะไม่อยากปล่อยให้เรื่องมันค้างคานานไปวสุธาจึงตัดสินใจเล่าเสียตอนนี้ ซึ่งก็ทำให้ปารมีตาสว่างทันทีเมื่อได้ฟัง

“ผมกับเลวี่เจอกันตอนที่เธอมาเที่ยวที่เมืองไทย แล้วเราก็ยิ่งสนิทกันเมื่อผมไปทำงานที่ประเทศของเธอ”

เสียงที่เล่านั้นราวกับกำลังรำลึกภาพความหลัง

ความรักของวสุธากับเลวี่ไม่มีอะไรหวือหวา ทั้งสองคนเจอกัน คุยกันถูกคอ แล้วก็รักกันด้วยความเข้าใจ ทั้งสองคนไม่เคยหึง หวง หรือโกรธกันเลย สำหรับวสุธาแล้วจนตอนนี้เขายังหาใครที่เข้าใจเขาได้เท่าเลวี่ไม่เจอ นั่นทำให้เขาคิดว่าเขายังไม่รักใคร แม้แต่กับปารมีก็ตาม

ถึงแม้ว่าเอจะบอกว่าบางทีกับเลวี่มันอาจจะไม่ใช่รัก เพราะคนรักกันไม่จำเป็นต้องเข้าใจกันไปทุกเรื่อง แต่วสุธาไม่รู้ รู้แค่ว่าอยู่กับเธอแล้วสบายใจ จึงเหมาเอาว่านั่นเป็นความรัก

เขาไม่เถียงเอหรอก เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรคือรักไม่รักเหมือนกัน

แม้จะไม่แน่ใจว่ารักหรือเปล่า แต่ทั้งสองคนก็คิดว่าต้องคว้าเอาคนที่เข้าใจตัวเองที่สุดไว้ แล้วทั้งคู่ก็ตกลงแต่งงานกัน ด้วยความคิดที่ตรงกัน

แต่เรื่องราวมันไม่ได้เรียบง่ายและสวยงามไปเสียหมด

ที่บ้านของเลวี่เป็นผู้ดีเก่า เป็นคนมีหน้ามีตาและเคร่งในศาสนา เคร่งในความคิดแบบเก่าๆ

ทันทีที่เลวี่พาวสุธาเข้าบ้านเพื่อบอกเรื่องแต่งงาน ทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าอุปสรรคได้เกิดขึ้นแล้ว

ที่บ้านของเลวี่ไม่สามารถยอมรับคนต่างชาติผิวเหลืองมาเป็นลูกเขยได้ นอกจากจะต่างชาติกันแล้ว ศาสนายังต่างกันอีก วสุธาไม่คิดจะเปลี่ยนศาสนา เลวี่เองก็ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา แต่คนในครอบครัวของเธอไม่ชอบใจในเรื่องนี้

การแต่งงานถูกขัดขวาง แต่เลวี่บรรลุนิติภาวะแล้ว เธอโตเป็นผู้ใหญ่พอการขัดขวางเหล่านั้นจึงแทบไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากมันจะทำให้เลวี่รู้สึกเศร้าใจในบางครั้งก็เท่านั้น

แต่เพราะเธอมองโลกในแง่ดี เธอคิดว่าสักวันที่บ้านเธอต้องยอมรับได้แน่

เธอจึงไม่เลิกล้มการแต่งงาน และย้ายตามวสุธามาอยู่ที่เมืองไทย แม้ว่าจะโดนที่บ้านบอกว่าจะตัดขาดก็ตาม

เลวี่ไม่มีปัญหาในเรื่องของจิตใจเพราะเธอชอบทำให้ที่บ้านโกรธอยู่บ่อยๆอยู่แล้ว แต่เมื่อเวลานานขึ้น ตอนที่ฝาแฝดเกิดและเธอโทรไปบอก ไม่มีใครแสดงความยินดีกับการเกิดของเด็กชายตัวน้อยๆทั้งสอง นั่นทำให้เลวี่เริ่มคิดมาก แต่การเลี้ยงลูกชายฝาแฝดก็ทำให้เธอวุ่นวายเกินกว่าจะมีเวลาได้คิดถึงเรื่องนี้บ่อยนัก จนกระทั่งลูกชายคนเล็กเกิด เธอโทรไปบอกข่าวที่บ้านอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากเดิม ไม่มีใครสนใจเด็กชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก และยังบอกเธอว่าหากเธอมีลูกอีก คราวนี้ไม่ต้องโทรไปบอกเพราะทางนั้นไม่อยากรับรู้

เลวี่เสียใจมาก แต่เธอก็พยายามร่าเริง พยายามเป็นแม่ที่ดีของลูกๆต่อไป แต่มันปิดวสุธาได้ไม่มิด เมื่อเขาเป็นคนที่เข้าใจเธอที่สุด วสุธาพูดคุยกับเธอเรื่องนี้ แต่เธอก็เอาแต่บอกว่าไม่เป็นไร จนกระทั่งได้ข่าวจากเพื่อนเก่าว่าคุณปู่ของเธอเสียไปนานเกือบเดือนแล้ว ไม่มีใครในบ้านโทรมาแจ้งข่าวนี้แกเธอสักคน ไม่มีใครคิดจะบอกเธอ ทั้งๆที่คุณปู่เป็นเพียงคนเดียวที่อวยพรให้เธอในวันแต่งงาน แม้จะไม่ได้คุยด้วย แต่เธอก็รู้ว่าคุณปู่ต้องดีใจกับการกำเนิดของเหลนๆ เลวี่ขับรถไปสนามบินเพื่อบินไปบ้านเกิด แม้จะสายไป แต่เธอก็อยากไปเคารพสุสานของคุณปู่ หากเธอก็ไปไม่ถึง เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง และเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

“คุณคงเสียใจมาก”

เมื่อเล่าถึงตรงนี้ปารมีก็พูดขึ้นอย่างแผ่วเบา วสุธากระชับอ้อมกอด ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกช้าๆ

“ผมต้องเสียใจมากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เธอเป็นเหมือนผมอีกคนนึง”

ปารมีเม้มริมฝีปากแน่น ตัวตนของเลวี่ในใจของวสุธา เด่นชัดไม่เคยเลือนหายไปเลยสักนิดเดียว แล้วตัวตนของปารมีเล่า เคยปรากฏในใจของเขาบ้างสักครั้งไหม

“ผมโทรไปแจ้งข่าวเธอกับครอบครัวของเธอด้วยตัวเอง แต่พวกเขาก็ยังคงไม่สนใจ ผมจึงตัดสินใจตัดขาด ไม่ติดต่อกับทางนั้นอีก”

ปารมีพาตัวเองกลับมาในเรื่องที่วสุธากำลังเล่า แม้จะยังไม่หายสงสัย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรจะถามถึงเรื่องนั้น

“แล้วคุณยายกับคุณน้าของเด็กๆเขามากันทำไมครับ หรือว่าเขาจะเริ่มคิดถึงเด็กๆขึ้นมา คุณก็น่าจะให้เขาเจอเด็กๆนะครับ”

วสุธาส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“ผมไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงถึงมา ถ้าคิดถึงเด็กๆผมก็ไม่ว่าหากอยากจะเจอ แต่พวกเขากลับมาบอกว่าจะมาพาเด็กๆไป ผมเลยบอกให้พวกเขากลับไปเสีย”

“เขาจะมาพาเด็กๆไปหรือครับ คุณคงไม่ยอมหรอกใช่ไหมครับ”

ปารมีลุกขึ้นนั่งและหันไปหาวสุธา ตั้งใจมองหน้าเพื่อให้แน่ใจในคำตอบที่จะได้รับ

“ผมไม่ปล่อยให้ใครมาพาลูกๆของผมไปหรอก”

 “ผม เอ่อ..”

ปารมีลงนอนเบาๆ และเริ่มละอายใจเล็กน้อยที่เขากล้าที่จะคิดกลัววสุธาจะยกลูกชายให้คนอื่น ปารมีน่าจะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้

“ผมขอโทษที่ถามอะไรไม่เข้าท่านะครับ”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมดีใจเสียอีกที่คุณเป็นห่วงเด็กๆขนาดนี้”

ว่าแล้วเอื้อมมือมาจับมือปารมีไว้พร้อมกับลูบเบาๆอย่างปลอบใจ

“ก็คุณบอกเองนิ่ครับ ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ผมก็ไม่อยากให้ใครมาพรากครอบครัวของผมไปหรอก”

ถ้าตอนนี้สว่างอยู่ วสุธาคงได้เห็นว่าใบหน้าของคนพูดนั้นแดงขนาดนั้น

“ไม่ว่าจะพี่น้องผม เด็กๆทั้งสี่คน หรือว่าคุณ ผมก็จะไม่ให้ใครที่ไหนมาพรากไปได้ เชื่อผมเถอะ”

หลังจากพูดประโยคนี้ ต่อให้ไม่มีแสงใดๆ วสุธาก็ยังนึกออกได้เลยว่าใบหน้าของปารมีต้องแดงแน่ๆ

..........................................................

ถึงวสุธาจะยืนยันหนักแน่น แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามคนอื่นไม่ให้คิดและลงมือทำอะไรที่เขาไม่ชอบได้

“นี่คือหมายศาลและนี่คือคำร้องครับ”

ทนายความประจำตระกูลจอมไตรยืนเอกสารให้วสุธา

เอกสารนั้นระบุวันที่ยื่นไว้เกือบสองอาทิตย์แล้ว โดยยื่นผ่านตัวแทนคือทนายความ แปลว่าทางบ้านของเลวี่คิดจริงจังและลงมือทำเรื่องนี้มานานก่อนเขาจะรู้ตัว วสุธาก้มหน้าอ่านเอกสารแล้วสายตาก็นิ่งมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเหตุผลที่อีกฝ่ายแจ้งแก่ศาลคือไม่เคยทราบเรื่องเด็กๆและเมื่อทราบทางเขาก็กีดกันไม่ให้พบ

“นี่มันโกหกชัดๆ”

วสุธากวาดสายตาลงอ่านเนื้อความเพิ่มขึ้เติม และมันก็ทำให้เขาแทบจะอยากฉีกกระดาษออกเป็นชิ้นๆ เรื่องที่บ้านจอมไตรมีแต่ผู้ชายถูกหยิบยกขึ้นมา ว่านั่นไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมในการเลี้ยงดูเด็กๆ แถมพี่เลี้ยงที่เลี้ยงดูเด็กๆก็ยังเป็นผู้ชาย และดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์กับเขาเกินกว่าเจ้านายและลูกน้อง

แล้วยังมีเรื่องของไม้และอมฤตที่มีคนรักเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่

แม้ใบหน้าของวสุธาจะยังนิ่ง แต่กระดาษในมือกลับเริ่มยับเล็กน้อย

“คุณวสุธาครับ”

ทนายความดึงกระดาษออกจากมือเจ้านายพร้อมเรียกชื่อเพื่อเตือนสติ ซึ่งก็ดูจะได้ผล วสุธายอมปล่อยมือจากกระดาษเหล่านั้นแต่โดยดี

“ผมไม่ต้องการขึ้นศาล เด็กๆเองก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”

และคุณปามกับเพื่อนคงไม่ชอบมากๆ วสุธาคิดต่อในใจโดยไม่ได้พูดออกไป

“ผมทราบ ทางเราจะขอเลื่อนเวลาไต่สวนของศาลเพื่อหาหลักฐาน แล้วคุณก็จัดการในส่วนของคุณ ผมจะจัดการในส่วนของผม ผมขอตัวก่อน”

พูดจบทนายความก็ลุกออกจากห้องไป

...............................................................

วสุธากลับบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย หลังจากทนายความออกไป เขาก็โทรตามน้องๆทุกคนมาพบเพื่อแจ้งเรื่องคำฟ้อง แน่นอนว่าน้องๆของเขาทุกคนโกรธมาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่วสุธาต้องการ แม้จะรู้ว่าน้องๆต้องโกรธมากอยู่แล้ว ที่เขาต้องการคือแจ้งข่าวและให้ทุกคนระวังตัวในเรื่องนี้ โดยเฉพาะสองคนที่มีชื่ออยู่ในคำร้อง หลังจากนั้นทุกคนก็ออกจากห้องไปเงียบๆ

“คุณดูเหนื่อยๆนะครับ”

ปารมีเดินเข้ามาทัก ซึ่งวสุธาก็พยักหน้าพร้อมส่งเสื้อสูทให้อีกฝ่ายที่ยื่นมือมารับอยู่ก่อนแล้วถือเหมือนทุกวัน

“เรื่องเด็กๆหรือครับ”

“พวกเขาจะฟ้อง”

แม้วสุธาไม่อยากบอก แต่คิดดีๆแล้วเขาบอกเองเสียดีกว่าปารมีจะรู้เรื่องนั้นจากคนอื่น

“ครับ”

“เขาจะฟ้องเอาเด็กๆไป”

ปารมีหน้าเสียไปเล็กน้อย ร่างบางหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าวสุธา เมื่อปารมีหยุดเดิน วสุธาจึงหยุดเดินไปด้วย เขายิ้มออกมาเล็กน้อยเพื่อปลอบใจอีกฝ่าย ก่อนจะพูดให้ความมั่นใจอย่างน้อยๆมันคงจะทำให้ปารมีเลิกทำหน้าเศร้าเสียที เพราะวสุธาไม่ชอบเลยที่ปารมีทำหน้าเศ้ราแบบนี้

“แต่ผมไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นหรอก ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมหลักฐานยื่นให้ศาลในวันนัดไกล่เกลี่ยครั้งแรก”

“ผม ... คุณดิน เรื่องผมกับคุณ”

“คุณรู้เรื่องมาก่อนแล้ว”

วสุธามองหน้าอีกฝ่ายซึ่งก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

“กลอนมาปรึกษากับผมเรื่องนี้น่ะครับ”

คนฟังไม่ตำหนิเพื่อนของปารมีสักนิด เขาเข้าใจในความกังวลของอีกฝ่าย และที่มาปรึกษาปารมีก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันและยังกำลังเผชิญกับเรื่องเดียวกันอยู่

“แล้วคุณคิดว่ายังไง”

“คุณดิน ผม... ผมไม่รู้สิ เรื่องของผม สร้างปัญหาให้กับคุณมากเลยใช่ไหมครับ”

ปารมีนั้นตอนที่ฟังกลอนพูดเขาได้แต่งนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร จนเมื่อกลอนจากไปเขาก็ยังนั่งเงียบๆอยู่แบบนั้นเป็นนาน หากแม่บ้านไม่เข้ามาบอกว่าเด็กๆกลับมาแล้ว ปารมีคงนั่งอยู่อย่างนั้นไปอีกนาน

“ความจริงถ้าไม่มีเรื่องของผม อะไรๆมันคงจะดีกว่านี้ ถ้ายังไงผม...”

“คุณปาม”

วสุธาเรียกชื่ออีกฝ่ายเพื่อหยุดก่อนที่ปารมีจะพูดอะไรที่เขาไม่อยากฟังออกมา

“ผมจะไม่ปล่อยให้คุณกับตาหวานไปไหน ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะไม่ปล่อยให้ใครมาพรากครอบครัวของผมไป ผมจะไม่ปล่อยให้ครอบครัวของผมหันหลังเดินหนีผมไปเองด้วย และคุณคือครอบครัวของผมจำได้ไหม”

ปารมีกำเสื้อสูทที่ตัวเองถืออยู่แน่น ก่อนจะเดินนำวสุธาเข้าบ้าน ซึ่งวสุธาคว้าแขนอีกฝ่ายไว้เพราะคิดว่าปารมีจะเดินหนี ความจริงมันก็ถูก ปารมีกำลังจะเดินหนี แต่ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใดนอกจากความเขินอาย

“ผมยืนยันนะว่าคุณต้องอยู่ข้างๆผม ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหน”

แต่ปารมีก็ยังคงหลบหน้า วสุธาจึงจับแขนอีกข้างของปารมีไว้ ดึงรั้งให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน

“ผมรู้ว่าคุณค่อนข้างจะไม่สบายใจเรื่องของผม ผมหมายถึงเรื่องของเลวี่”

วสุธาพูดและเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเขาจึงพูดต่อ

“ผมจะไม่โกหกหรอกว่ายังคิดถึงเธอ เราผูกพันกันมามันคงยากที่จะห้ามไม่ให้ผมนึกถึงเธอ แต่เธอจากไปแล้ว และคนที่ผมอยากให้อยู่ข้างๆผมตอนนี้คือคุณ”

ปารมีเริ่มบิดแขนเล็กน้อยเพื่อดึงแขนออกจากการเกาะกุม แต่มันไม่ได้ผล

“คุณอาจจะไม่เข้าใจผมได้เท่ากับที่เลวี่เข้าใจ ผมอาจจะไม่เข้าใจคุณได้เท่ากับที่เข้าใจเลวี่ แต่เลวี่ก็คือเลวี่ คุณก็คือคุณ คุณปามผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ผมไม่อยากปล่อยให้คุณไปไหน อยากยึดคุณไว้กับตัวเอง ผมมองคุณแล้วผมยิ้มได้ แค่คุณยิ้มให้ผมผมก็สบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็น และผมชอบที่จะได้กอดได้สัมผัสคุณ ผมไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกแบบไหนเพราะผมไม่เคยเป็น คุณพอจะรู้ไหมว่ามันคืออะไร”

ถ้าวสุธาจะพยายามก้มหน้ามองคนฟังสักนิดคงจะรู้ว่าปารมีกำลังอายและต้องการซ่อนใบหน้าแดงๆของตนเองไว้ ไม่ใช่การหลบหน้าอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจสักนิด

“ผมไม่ชอบให้คุณร้องไห้ ไม่ชอบให้คุณเสียใจ มันทำเอาผมแทบจะทำอะไรไม่ถูก และถ้าเรื่องฟ้องร้องมันจะทำให้คุณต้องไปจากผม ผมก็จะไม่เลือกวิธีการอีกแล้ว”

ปารมีเงยหน้าขึ้นตอนนี้เอง ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดของอีกฝ่าย แล้ววสุธาถึงได้เห็นว่าปารมีหน้าแดงขนาดไหน ก่อนจะยิ้มขำๆส่งให้ ขำทั้งตัวเอง ขำทั้งอีกฝ่าย

พอเห็นสีหน้ายิ้มๆปารมีถึงได้รู้สึกว่าตัวเองพลาด พลาดเสียแล้วที่เงยหน้าขึ้นมา

“คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยหรือ”

ปารมีหลบตาวาวๆที่จ้องมาอย่างเขินๆ พยายามบิดข้อมืออกอีกครั้งแต่ก็เหมือนอีกฝ่ายมีกาวติดเอาไว้ดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออก

“ว่าไงครับ”

ตอนนี้วสุธาปล่อยแขนปารมีแล้ว แต่กลับกุมมืออีกฝ่ายไว้แทน

“ผมไม่รู้”

วสุธานิ่วหน้ากำลังจะปล่อยมืออยู่แล้วเชียวหากปารมีไม่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“คุณทำร้ายผม ตอนแรกผมโกรธ แต่ผมมาคิดไปคิดมา ผมคงเสียใจมากกว่าที่คุณทำร้ายผม”

วสุธาลูมมืออีกฝ่ายเบาๆราวกับกำลังส่งผ่านคำขอโทษมาให้

“ผมรู้ว่าคุณแค่ต้องการรับผิดชอบ แต่ถ้ามันจะทำให้คุณต้องติดอยู่กับผมไปตลอด ผมก็คิดแค่ว่ามันก็ดีแล้ว ผมคิดมากเรื่องคุณเลวี่จริงๆ รู้ว่าตัวเองไม่มีทางแทนที่เธอได้ แต่แค่คุณคิดเรื่องของผมสักนิด ผมก็ดีใจแล้ว”

ตัวปารมีนั้นไม่ได้ต้องการทั้งหมดเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ วสุธาไม่มีทางลืมเลวี่ภรรยาเก่า และเขาเองก็ไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายลืมเธอไป ถึงอย่างไรเธอก็เป็นแม่ของเด็กชายทั้งสามคนที่ปารมีรักและเอ็นดู อย่าว่าแต่วสุธาเลย แม้แต่ตัวปารมีเองก็ยังนึกถึงเธอและชื่นชมเธออยู่เสมอที่มีลูกชายน่ารักๆได้ถึงสามคนแบบนี้

“ผมถึงจะกลัวคุณไปบ้าง แต่ผมก็ชอบอยู่ใกล้คุณนะ แล้ว... แล้วก็ชอบที่คุณกอดผมไว้ด้วย”

ตอนนี้ถึงปารมีจะหันหน้าหนี วสุธาก็มองได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังหน้าแดงเอามากๆ

เขารวบตัวปารมีมากอดไว้ ไหนๆอีกฝ่ายก็ชอบที่เขากอดเหมือนๆกับที่เขาชอบกอดอีกฝ่าย แล้วทำไมเขาจะไม่รีบกอดปารมีไว้เล่า

มือบางยกขึ้นช้าๆก่อนจะกอดเขาตอบแล้วเจ้าตัวก็ซุกหน้าเข้ากับอกเขาอย่างที่ไม่เคยทำ วสุธารู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ

ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าไม่ใช่แค่ชอบที่จะได้สัมผัสอีกฝ่าย เขาชอบที่อีกฝ่ายสัมผัสเขาด้วยเหมือนกัน

“ท่าทางจะอาการหนักนะเรา”

วสุธารำพึงกับตัวเองเบาๆ ดีที่ปารมีไม่ได้สนใจฟังนัก

“เห็นไหมบอกแล้วว่าคุณพ่อกับคุณปามต้องรักกัน”

“แล้วทำไมไม่เห็นพูดว่ารักเลยล่ะ”

“ก็บางทีการกระทำสำคัญกว่าคำพูดไง”

“แต่พวกคุณพ่อเอาแต่พูดกันนิ่ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนกอดกันเนี่ย”

“งั้นก็บางทีคำว่ารักก็ไม่จำเป็น”

“แต่นินอยากกอดด้วย ตาหวานก็เหมือนกันใช่ไหมครับ”

ประโยคที่เถียงกันช่วงแรกๆวสุธาแน่ใจว่าเป็นของสองฝาแฝด ส่วนประโยคสุดท้ายเขาก็แน่ใจอีกเหมือนกันว่าเป็นของลูกชายคนเล็ก

ปารมีดันตัวเขาออกก่อนจะเดินหนีไปหาเด็กๆ ซึ่งวสุธาก็เดินตามไปเงียบๆพร้อมกับส่งสัญญาณไม่ให้พวกเด็กๆพูดอะไรขึ้นมาอีก

ปารมีรับตัวตาหวานไปอุ้มไว้ ก่อนที่ธรณินจะชูมือสองข้างเป็นสัญญาณให้คุณพ่ออุ้มตัวเองขึ้นไปบ้าง ปฐพีกับปฐวีเดินไปจับมือปารมีกับวสุธาไว้ ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านไปจริงๆ

ใครเห็นคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าภาพเหล่านี้ช่างเป็นภาพครอบครัวสุขสันต์ ซึ่งก็เป็นครอบครัวสุขสันต์จริงๆนั่นแหละ

แม้วสุธาจะแอบเคืองลูกๆนิดหน่อยที่มาขัดจังหวะ แถมครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กมาขัด แต่เอาเถอะ อย่างน้อยๆเด็กๆก็มาทำให้เขาแน่ใจ แน่ใจว่าตัวเองรักอีกฝ่ายโดยที่อีกฝ่ายก็รักไม่ต่างกัน บางทีคำว่ารักมันก็ไม่ได้สำคัญเสียทีเดียวอย่างที่เด็กๆว่าไว้ หากเขาก็คงต้องหาโอกาสพูดคำนี้กับปารมีสักครั้ง  แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่เด็กๆกำลังเจื่อยแจ้วให้ฟังถึงเรื่องที่โรงเรียน ตอนที่ปารมียิ้มรับเรื่องเล่าของพวกเด็กๆ

สำหรับวสุธาและปารมี แม้จะโดนขัดจังหวะไปบ้าง แม้จะหมดความเป็นส่วนตัวไปนิด แต่ก็ไม่ได้คิดรำคาญหรือยุ่งยากใจ เพราะพวกเด็กๆสำคัญสำหรับทั้งสองมาก รักของพวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็นแค่กันและกันได้ เพราะสำหรับทั้งคู่แล้วความรักมันไม่ใช่แค่คนสองคน


จบแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 23-05-2012 20:04:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: MRchai ที่ 23-05-2012 20:17:55
จบแร้วเหรอ อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 23-05-2012 20:23:42
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 23-05-2012 20:31:35
 :L2:  อบอุ่นมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 23-05-2012 20:39:40
ขอบคุณครับ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-05-2012 20:40:46
จบแบบไหนจบเรื่องเลยเหรอ
กำลังสนุกเลยนะ
ทำไมมันสั้นจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 23-05-2012 20:55:40
จบแล้ว  :L2:.....สนุกมากเลยค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 23-05-2012 20:58:22
 :L2:  :pig4:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 23-05-2012 21:06:03
หา 7 ตอนเองหรอค่ะ TAT อยากอ่านต่อจังค่ะ ฮืออ

ขอตอนพิเศษนะค่ะ นะค่ะ ๆ วันนี้วันเกิดเค้าน๊า T [] T

ขอร้องล่ะ Please!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-05-2012 21:06:48
หะ..เหอออ จบเรื่องหรอคะ?
เอาจริงง่ะ เรายังอยากอ่านต่อยู่เลยอ่า.  :m17:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 23-05-2012 21:07:26
 :o8:

ความรักคือความเข้าใจ


ความรักคือการร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไร สองคนนี้ก็ผ่านมันไปได้แน่นอน


ขอบคุณนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 23-05-2012 21:09:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-05-2012 22:03:14
จบแล้วเหรอ  :z3:

น่าจะต่ออีกหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 23-05-2012 22:11:08
.....อ้าว อ้าว ลงท้ายไม่สวยนะ จบตอน หรือจบเรื่องเนี่ย
.....อย่่าเพิ่งจบเน้อ กำลังสนุกเชียว แต่คิดภาพจูงมือกันเข้าบ้านแ้ล้ว
.....่นี่มัน happy ending  นี่หว่า ยังไงเนี่ยยยยยยยยยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 23-05-2012 22:48:04
รักกันแบบเบาๆ อุ่นๆ :กอด1:ครอบครัวสุขสันต์จริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-05-2012 23:03:05
จบและหรอเนี่ย
อยากจะรู้เรื่องฟ้องศาลอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 23-05-2012 23:09:18
 :monkeysad:ทำไมจบเร็วจังเลยอะ :impress3:

อยากอ่านอีกอะ :sad4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 23-05-2012 23:11:44
จบอะไรหรอ จบตอน หรือจบเรื่องเนี่ย ยังไงก็ช่วยมาชึ้แจง หน่อยนะ เพราะรู้สึกเหมือนมันไม่จบ




หรือถ้าเรื่องจบแล้ว แต่อารมณ์คนอ่านมันไม่จบอ่ะ จะทำไง มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-05-2012 00:14:47
ขอบคุณค่ะคุณจิ๊บ

แม้ว่าเรื่องนี้จะสั้นไปนื้ดสสสสสนึง แต่สนุกมากมายและอบอุ่นทีเดียวเชียว

เจอกันเรื่องหน้า (ได้มั้ยคะ)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 24-05-2012 00:55:17
จบจริงเหรอค่ะ
ถามแบบคนอื่นๆ ถาม
มันเหมือนยังไม่จบนะคะ  (เหมือนคนอื่นอีกแระ)
เอาแบบนี้ก็ได้ค่ะ แต่มีตอนพิเศษหวานๆ สักสองตอนไหมค่ะ
อยากเห็นสองคนนี้หวานบ้าง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 24-05-2012 01:19:24
น่ารักที่สุดอ่าเรื่องนี้  o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Superstar ที่ 24-05-2012 04:11:18
จบ จบ จบ จบแล้วหรอคะ TT TT

แค่จบตอนก็พอน๊า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-05-2012 05:33:39
ตอนหลักคงจบแล้วจริงๆ แต่ตอนพิเศษยังมีอยู่ใช่ไหมคะ :impress2:
ยังไม่อยากให้จบเลย ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยเนี่ย คุณปามกับคุณดินยังไม่สวีทกันเท่าไหร่เลย :haun4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 24-05-2012 09:23:36

จบอะไรหว่า  จบตอนหรือจบจริงๆ ???
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-05-2012 10:27:44
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeu ที่ 24-05-2012 12:23:10
ชอบที่คุณดินปกป้องคำว่าครอบครัวจังค่ะ
เป็นพ่อกับสามีในอุดมคติเลยนะเนี่ย
เด็กๆก็น่ารักมาก ถึงจะโตมาแล้วแอบโหดกันก็เถอะ
รักครอบครัวจอมไตรค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 24-05-2012 17:36:46
อ่าว...

จบซะละ =3=
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 24-05-2012 19:11:38
จบแล้ว :mc4:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ครับ :pig4:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ELMI ELMA ที่ 24-05-2012 20:29:45
ไม่มีโปรโมชั่นพิเศษเหรอออ  อยากอ่านต่ออะ  :m17:


ขอบคุณมากๆคะ  :pig4:  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 25-05-2012 01:42:54
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 7 P.9 [23/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 29-05-2012 00:49:38

ตั้งตารอตอนต่อไปคร๊า
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 02-06-2012 15:44:08
ใครสั่งดินปาม โดยเฉพาะรอบแรก จิ๊บส่งหนังสือตั้งแต่วันที 10 พฤษภาคมแล้ว ใครไม่ได้เมลแจ้ง ใครยังไม่ได้หนังสือแจ้งด่วนนะคะ รอบหลังส่งวันที่ 27 พฤษภาทำให้บางท่านอาจจะยังไม่ได้หนังสือ แต่ใครยังไม่ได้รับเมลแจ้งเลขที่ส่งหนังสือก็เมลมาบอกได้ค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 02-06-2012 15:50:23
มีคนถามว่าจบยัง บอกเลยว่า จบแล้วค่ะ อันนี้เป็นส่วนเรื่องหลักที่ตั้งใจให้จบแค่นี้
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 02-06-2012 15:57:43
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:  คิดถึงงงค่าาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 06-06-2012 16:28:28
อ่านแล้วแบบว่ามันอิ่มใจมากเลยค่ะ
ยิ้มจนปวดกรามไปหมดแล้วเนี่ย :o8:

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้เราได้อ่านนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 10-06-2012 06:23:49
ขอลบตอนพิเศษเพื่อการรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ใครสั่งดินปามแล้วยังไม่ได้แจ้งด้วยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 10-06-2012 06:25:11
ขอลบตอนพิเศษเพื่อการรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 10-06-2012 07:05:48
 o13 o13


เยี่ยมจริงๆ พี่ดิน แต่บอกตรงยังหมั่นไส้ อิคนบ้านนั้นอยู่ดี  :angry2: :angry2: โครตจะเลว ดูในที่สุดมันไม่สำนึก

 ส่วนคุณเอกับกลอน  :m30: กร๊ากกกกกกก เค้าก็นึกว่าตัวทำซะอีกโดนดุเลยน่าสงสาร  :กอด1:


ขอบคุณนะคะ สำหรับตอนพิเศษ

หวังว่าจะได้เจอกับนิยายเรื่องใหม่อีกนะคะ จะรอนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-06-2012 07:08:08
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-06-2012 07:08:34
ไม่ได้ปาดหรอกเนอะ  :impress2:
ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เด็กๆไม่ต้องไปอยู่กับพวกแม่มดใจร้ายนั่น :กอด1:
แต่สองแฝดเก่งจริงๆเลย ได้คุณพ่อดินมาหมด :laugh:
เงอ อยากได้ตอนหวานๆบ้างจัง จะมีอีกไหมน้า :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 10-06-2012 07:12:34
ขอบคุณค่ะ ชอบซีรีส์ชุดนี้มากเลยค่ะ เพิ่งจะเข้ามาตามอ่าน ไม่นาน ก็เข้าไปอ่านมาทุกเรื่องเลย ชอบนิยายของคุณจิ๊บมาก
จะรอติดตามผลงานต่อๆ ไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iDistort ที่ 10-06-2012 07:44:41
จบแล้วว มีซีรีย์จอมไตรของอมฤตไหมครับ ขอลิงค์หน่อยสิ  :z2: :z2: :z2:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-06-2012 08:00:47
เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับจอมไตร  :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 10-06-2012 08:40:20
 :pig4:รออ่านผลงานต่อไปนะค้าบ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 10-06-2012 08:41:39
ไม่มีฉากหวานของทั้งคู่เลยเหรอ
จัดมาสักตอนเถอะนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-06-2012 09:09:12
จอมไตรจัดเต็ม 555
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 10-06-2012 10:39:05
จอมไตร~
คิดถึงมากอ่ะ จบไปอีกเรื่องแล้วอ่ะ
อยากอ่านอีกเรื่อยๆเลย >.,<
จะรอเรื่องหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 10-06-2012 10:49:50
555 น่ารักอ่ะ

ว่าอยู่ ทำไมบ้านนั้นอยู่ดี ๆ ก็อยากได้หลานคืน เพราะมีสมบัตินี่เอง

สารเลวจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 10-06-2012 11:06:41
ว้าวมีตอนพิเศษมาให้อ่านด้วย






ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องเป็นเรื่องเงินแน่ ไม่งั้นอิครอบครัวนั้นไม่เอาเด็กๆไปอยู่ด้วยหรอก แพ้ความไปนั่นแหละดีแล้ว






มาต่อตอนพิเศษอีกนะ เอาหวานๆเลยนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 10-06-2012 11:58:14
จะรอติดตามผลงาานเรื่องต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 10-06-2012 12:30:54
ทางบ้านนู้นก็หยิ่งเสียจริงนะ เฮ้อออออ ดีล่ะโดนซะบ้าง ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-06-2012 14:09:53
ชอบๆ :L2: หนุกหนานจ้า o18
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 10-06-2012 14:19:09
  :m20:ซะใจจริงสมน้ำหน้า :m20:


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 10-06-2012 14:25:40
จบแล้วว ๆๆ   :mc3:
จะมีตอนพิเศษแบบหวานๆให้ไหมคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 10-06-2012 15:12:55
....จบซะแล้วววว  ต่อไปจะได้อ่านคู่ไหนอีกหว่า
....ขอบคุณคนแต่งนะจ๊ะ รออ่านคู่ต่อไป :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 10-06-2012 15:41:46
อ่ะมีกลอนเข้ามาร่วมด้วยแหะ
สนุก สนุก
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-06-2012 16:14:14
แอบสะใจนิดๆกับบ้านนั้น
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 10-06-2012 16:22:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: wews ที่ 10-06-2012 16:44:22
ฮากลอนมากๆ :jul3:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 10-06-2012 19:05:17
อยากอ่านคู่ของน้ำกับเอ แล้วก็ของลมด้วยจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-06-2012 19:11:53
 :pig4: สำหรับตอนพอเศษ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 10-06-2012 21:23:24
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: bencup9443 ที่ 10-06-2012 21:30:51
อยากได้ตอนพิเศษที่หวานๆจัง :pig4: :pig4:

ขอบคุณครับสำหรับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 15-06-2012 14:41:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 15-06-2012 19:36:34
จิ้มก่อนเดี๋ยวไปอ่านนะคะ

อยากอ่านคู่อึ่นๆ เร็วจังเลยค่ะ

รีบเอามาลงนะคะ

จะรออย่างใจจดใจจ่อเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 16-06-2012 08:30:11


จอมไตรซีรีส์ สนุกมาก ๆ

 o13

หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-06-2012 12:31:46
ขอบคุณนะคะ :)
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 16-06-2012 20:17:09
 :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 17-06-2012 07:51:59
จอมไตรสุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: elfeleves ที่ 22-06-2012 16:39:04
ให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ เล่นกับใครไม่เล่น
อ่านตอนนี้ยังคิดว่าตาหวานเป็นเด็กน่ารัก น่ารัก มากๆเลย
แต่จำได้ว่าเคยอ่านตอนตาหวานกับใครสักคนจำไม่ได้ แต่อ่านไม่จบเสียดายมากๆเลย ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสอ่านอีกไหม
เพราะสนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 23-06-2012 12:08:54
น่าจะมีฉากกุ๊กกิ๊กของคุณดินกะคุณปามอีกนะคะ น่ารักดีอะ^^ :man1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 23-06-2012 15:59:32
จะมีตอนพิเศษมาอีกมั้ยคะ?
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 14-07-2012 10:51:41
จบแล้ว...สนุกมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Melany ที่ 14-07-2012 19:30:17
น่ารักมากกกกก  ทั้งเด็กๆและคุณปาม รวมทั้งพี่น้องจอมไตรด้วย
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 16-07-2012 01:55:51
สนุกมากๆ  มิรู้ว่าจะได้อ่านเรื่องของ คุณชายน้ำกับคุณหมอเอ ต่ออะเป่า

 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 16-07-2012 04:19:52
สะใจนิดเดียวจริงๆ  ̄ε  ̄
เซ็งครอบครัวคุณเลวี่มากมาย อยากให้คุณพีจับน้าสาวมาตบให้อกตัญญูกินหัวกันไปข้าง << แรงมากเธอ
(*¯︶¯*) รู้สึกสงสารกลอนกับพี่เอ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 18-08-2012 00:36:09
 :กอด1: :กอด1:คิดถึงจังเลย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 08-09-2012 23:40:15
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 10-09-2012 17:28:43
 :pig4: สนุกมากก
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 13-09-2012 00:24:43
รักครอบครัวของจอมไตรที่สุดเลย อ่านภาคของใครก็สนุก  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sulsul ที่ 13-09-2012 11:34:51
จบแล้ววว
สนุกมากกกกกก
รักตระกลูจอมไตรด้วยยย
น่ารักมากกก กลับไปง่านของคนอื่นด้วยดีกว่า
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 14-09-2012 13:05:19
555 ชอบมากมาย อ่านทุกเรื่องชอบทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 14-09-2012 13:26:36
สงสารปามมากเรื่องแม่กับน้องสาว..แต่ต่อไปนี้ปามก็มีคอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักแล้วน๊า
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 10-01-2013 14:41:51
อยากอ่านเรื่องของพี่น้ำกับพี่เอจังเลยค่ะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 13-04-2013 20:03:36
ไม่มีอะไรนอกจากจะมาบอกว่า

ตามไปอ่านเรื่องต่อไปนเด้อค่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-07-2013 21:53:18
ขอบคุณค๊าบบบบบบบ ^▽^
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 18-10-2013 10:00:29
เข้ามาอ่านด้วยคนนะคะ
ได้อ่านหลายๆมุมมองสนุกดีนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 19-10-2013 20:59:27
แหมม อิจฉาคุณปามจังเลยย

ขอบคุณนะคะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 20-10-2013 15:16:04
จอมไตร

ติดใจ จริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 20-10-2013 17:00:42
 o13 o13 o13 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 01-11-2013 00:45:13
หลงรักคนตระกูลนี้
 :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 03-11-2013 20:08:03
ปามน่ารัก
สมแล้วที่เด็กๆ ต่างก็รัก
ชอบตาหวานนน ((รักเด็ก อิอิ))
คุณดินก็นี่ก็เริ่มขี้แกล้งเหมือนไม้แล้วนะ
แต่อยากอ่าน NC แบบปามเต็มใจจังเลย
อยากรู้ว่ามันจะหวานขนาดไหน
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 07-11-2013 23:00:16
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:เข้ามาอ่านอีกรอบ[ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Julytastic ที่ 10-01-2014 16:48:19
พึ่งอ่านเรื่องนี้จบ ชอบมากเลย สนุกมากกกก อ่านเรื่องนี้แล้วได้บรรยากาศความเป็นครอบครัวสุดๆ
ปามเลยได้เลี้ยงหลาน 1 บวกกับลูกๆอีก 3 คนเลย :hao7:
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ เดี๋ยวจะไปอ่านจอมไตรคู่อื่นๆต่อแล้ววว :katai5:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 28-05-2014 20:04:26
 :L1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 02-06-2014 09:11:29
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: AUNKINK ที่ 27-09-2014 12:38:13
อ๊ากกกกกก เรื่องนี้หวานมากกกก ><~
ถึงตอนแรกจะโกรธคุณก็ดถอะมาทำร้ายจิตใจปามเค้าได้ไง :fire:
แต่ให้อภัยเพราะชดเชยด้วยความรักแล้ว คิคิ :-[
ปล.ตอนแรกเรื่องบ้านเลวี่นึกว่าเป็นใมืของเอกับกลอนซะอีก ที่ไหนได้ โดนสกัดดาวรุ่งไปตั้งแต่เเรกเฉยเลย55555
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-10-2014 01:18:37
มาตามไล่อ่านจอมไตร ขอบคุณมากค่า ชอบคุณปามจริงๆ พออ่านถึงตอนพิเศษปลื้มคุณน้ำอย่างแรง
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 20-10-2014 23:16:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-10-2014 17:43:46
 :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: teamkoyza ที่ 27-12-2014 16:27:15
อ่าคู่นี้ น่ารัก ไม่มีกิ๊กเก่ามากวนใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 29-12-2014 18:57:17
น่ารัก รัก น้องพีกับน้องวีจัง
ฉลาดจิงๆเลยน้นินก็น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 05-01-2015 22:05:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ckk ที่ 07-01-2015 09:14:15
สนุกมากเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 08-03-2015 12:15:51
 :pig4:ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 09-03-2015 01:52:16
สนุกดีครับ ขอบคุณครับ....
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 09-03-2015 17:05:25
555+ น่ารักได้อีกค่ะะะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 11-03-2015 19:09:35
 :กอด1:ชอบชุดจอมไตรทุกเรื่องเลยค่ะ เสียดายนิดเดียวที่เรื่องนี้ไม่ค่อยมีฉากหวานของทั้งคู่ มาแบบค่อยเป็นค่อยำป
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-04-2015 13:05:41
กว่าคุณดินกับปามจะเข้าใจกันและรักกันได้เล่นเอาลุ้นจนเหนื่อยเลยนะคะ ฟู่ววๆ~ ^^ ไม่เป็นไรนะคะคุณดิน ..ถ้าคุณดินไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่มีให้กับเลวี่คือ 'ความรัก' จริงๆ หรือเปล่าก็ไม่เป็นไร ถึงจะเป็นความรู้สึกแบบไหนก็แล้วแต่ ..แต่การที่คุณดินได้มาเจอกับเลวี่และแต่งงานกันก็ทำให้คุณดินได้พบกับความรู้สึกรักในอีกรูปแบบหนึ่งอยู่ดีนั่นล่ะค่ะ ความรัก..ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงผู้ชายธรรมดาๆ คนนึงอย่างคุณดินให้กลายเป็น 'คุณพ่อ' ของลูกน้อยที่กำลังจะเติบโตขึ้นมาทั้งสามคนนั่นไงล่ะคะ (ดี๊ดีเน้ออ~ :-[ )

.. คือเราชอบเด็กๆ ทั้งสามคนมากเลยค่ะ อย่างกับถอดแบบมาจากคุณพ่อเด๊ะๆ เลยนะคะ แต่เวลาที่เป็นเด็กน้อยสมวัยก็น่าเอ็นดูไม่น้อยเลยเชียวค่ะ ยิ่งกับตาหวานยิ่งน่าร๊ากกก.. เราอยากฟัดแก้มน้องบ้างจังเลยค่ะ แอร๊ย~ พูดแล้วก็หมั่นเขี้ยววว.. :hao7:

ส่วนกับปาม.. เรารู้สึกเอ็นดูจังเลยค่ะ พอจะเข้าใจเวลาที่ปามรู้สึกสับสนในตัวเองนะคะ ก็แหม~ คนไม่เคยมีความรักจะไปรู้สึกตัวว่า 'รัก' คนคนนึงได้ปุบปับเลยก็ใช่เรื่อง ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา เราเข้าใจค่าา..(คือลำเอียงเข้าข้างนายเอกอีกตามเคย >< ) ยิ่งเวลาที่ปามหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองยิ่งน่ารัก ถึงบางครั้งจะทำให้คุณดินเพลียที่ปามไม่ฟังตัวเองก็เหอะ แต่เราไม่สนน่ะ ..อย่าลืมนะว่าเรายังเคืองที่คุณดินขืนใจปามตอนนั้นน่ะ
เชอะ!

อ่า~ ชอบบรรยากาศครอบครัวแบบนี้จังเลยค่ะ อบอุ๊น..อบอุ่น
 
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-05-2015 03:24:44


         :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 08-05-2015 16:04:23
เด็กๆน่ารักมาก ครอบครัวสุขสันต์อ่ะ  ขอบคุณนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-05-2015 11:43:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 20-05-2015 02:44:35
อยากให้ดินกะปามดูรักๆกันมากกว่านี้อ่าาาา
ยิ่งอ่านลูกนี่เค้าจิ้นน้องณิน กะ นู๋ตาหวาน เลยล่ะ  :impress2:
พอมาถึงตอนพิเศษนี่คิดถึงกลอนเลยอ่ะ อยากอ่านอีกจัง5555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 29-05-2015 16:49:07
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 31-05-2015 05:02:29
กว่าจะรักกันได้ ลุ้นแล้วลุ้นอีก ฮาาา
แม้คุณดินจะทื่อไปบ้าง แต่หนุ่มบ้านจอมไตร
นี่เวลารักใครแล้วรักจริงมาก แบบเมียข้าใคร
อย่าแตะ แค่คุณปามเครียดคิดมากคุณดินแทบจะ
รีบจัดการยัยสองแม่ลูกแบบเด็ดขาดทันควัน จากที่
แรกๆยังออมมืออยู่บ้างนะ แต่ก็สะใจยัยสองแม่ลูกที่
อยากได้สมบัติเขาจนตัวสั่น แอบฮากับสงสารกลอนกับ
พี่เอเบาๆ ไงล่ะกลอนรู้ฤทธิ์พี่น้ำรึยัง อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 29-06-2015 23:02:23
ขอบคุณนะคะ เด็กๆน่ารักกันจริงๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 03-07-2015 20:24:38
เด็กๆน่ารักกกกกกกกกกก ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์มากค่ะะ ♥
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 05-07-2015 03:10:24
 :pig4: :pig4:
สนุกจังค่ะ ไม่ค่อยกรุ้งกริ้ง เข้าใจว่าเป็นรุ่นใหญ่สินะคะ อิอิอิอิ :o8:

จะตามอ่านทั้งหมดในซีรีย์จอมไตรค่ะ เหมือนเคยอ่านรุ่นลูก(ปฐพี)เมื่อนานมาแล้ว(สมัยยังฮัลโหล สวัสดีจ้าเล้าเป็ด)
แอบเซฟรูปผังครอบครัวด้วย เนื่องจากตอนแรก งงค่ะ 5555 แต่ตอนนี้ไม่งงละ
มาขอบคุณและให้กำลังใจคนเขียน สร้างผลงานดีๆต่อไปค่า
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 25-07-2015 16:51:41
ชอบพี่เอที่สุดเลยค่ะ :m20:
เหมือนแกจะเกรียนมากมาย เจอพี่เอไปโผล่คู่ไหน ก็ยังคงความเกรียนแบบเสมอต้นเสมอปลายมาก

ปล.  ที่เม้นนี่ไม่เกี่ยวกับคู่หลักเลยค่ะ ฮาาาาาาาา. แต่คุณปามกับเด็กๆน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 15-08-2015 19:46:57
ชอบคุณปามที่สุด ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 10-11-2015 00:32:11
โอ๊ยยยยย
จะน่ารักไปละ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 28-01-2016 13:05:45
เริ่มจากรุ่นพ่อก่อน ค่อยย้อนไปรุ่นลูก
สนุกมากกกกก ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้าา  :hao6:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 30-01-2016 16:20:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-02-2016 14:12:41
เด็กๆ น่ารัก
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-05-2016 17:11:12
 o13 o13 o13 o13 o13

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 04-07-2016 02:31:03
ขอบคุณจ้า สนุกดีนะ ดำเนินเรื่องเร็วดี ไม่ยืดเยื้อ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 31-08-2016 01:39:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนพิเศษ (เอาจริง) END P.10 [10/6/55]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 14-06-2017 19:34:04
เด็ก ๆ น่ารักมากครับ เนื้อเรื่องกระชับไม่ยืดเยื้อ สนุกมาก ๆ ครับ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 10-08-2018 11:58:45
เด็กๆสามคนน่ารักมากๆๆ เหมือนเป็นตัวกลางระหว่างสองคน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  o13 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 01-12-2018 12:14:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 23-04-2020 17:02:55
ขุดมาอ่านอีกรอบ ยังชอบเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ดิน)*ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน*ตอนที่ 6 P.8 [20/5/55]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 20-09-2021 01:32:51
“นี่คือหมายศาลและนี่คือคำร้องครับ”
 
จะกลัวอะไร ไม่มีศาลไหนในโลกนี้จะปัญญาอ่อนยอมให้แยกลูกจากพ่อแท้ๆไปอยู่กับยายหรือน้าได้หรอก