อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ  (อ่าน 88785 ครั้ง)

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
รออ่านต่อนะครับ


หลังๆนี้เปนตอนที่ผมไม่เคยได้อ่านเลย

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กระซิกๆ งี้ดๆ
 :m15:  :o7:
อะไรกันนักหนอชีวิต
ทำไมต้องทรมานกันเองแบบนี้ด้วยน้องปอพี่ปืน
ยิ่งอ่านยิ่งหน่วงปวดหัวใจแทน
ตอนนี้รักกันก็บอกว่ารัก
หรือจะรอให้ทุกอย่างมันแย่ไปกว่านี้
มันปวดใจแท้ๆ
อยากให้คุณนูพาคู่นี้มาให้คนอ่านอบรมซะหน่อย
เผื่อจะตาสว่างกันซะที
 :m16:

วันนี้มาไม่ทันคุณนูเลยเสียตำแหน่ง
 :m23:
แต่ตามมาอย่างไวเลยนะคะ
 :กอด1: ด้วยความคิดถึงแล้ววิ่งหนีกลัวโดนเตะค่ะ
 :mc1:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
อ่านยาวสะใจ :z2:
ปืนคิดจะผลักไสปอ แต่ก็ยังมาอ้อน
ส่วนปอก็น้อยใจแล้วน้อยใจอีก ยังดีนะการเรียนไม่ตก
คู่นี้ช่างน่าเวียนเฮดแทน
ส่วนอีกคู่ หุๆ ขัดคอกันวันละนิดเพิ่มรสชาติชีวิตรัก

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ตามอ่านมา5วัน เป็นอะไรที่ขัดใจมาก
ปืนเป็นคนผลักไสปอไปเอง พอปอเริ่มที่จะห่างอย่างที่หวัง
กลับเป็นคนเรียกร้องให้ปอมาอยู่ใกล้ๆ ไม่สงสารปอบ้างหรือไงนะปืน

+1+เป็ดให้ค่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ต้องการความหวานอ่ะ :impress3:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
คนอุตส่าห์ทำใจได้บ้างนะปอ พี่ปืนมาทำให้ไขว้เขวอีกแล้ว แน่จริงพูดมาตรงๆสิ จะได้เข้าใจกันสักที

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
พี่นูจัดเต็มอีกแล้ว o13
เพิ่งเห็นว่ามาเปิดเรื่องที่เล้า มาฉลองทันมั้ยหว่า :mc4:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #157 เมื่อ02-06-2012 02:10:55 »



 แวะเข้ามากดเป็ด ตอบแทนคอมเม้่นท์ของทุกคน

จากนั้นก็จัดหน้าเตรียมโพสท ์ ใช้เวลานานไปนิด

เพราะมัวแต่คุย ๆ ๆ ๆ กับเพื่อนอีกหน้านึงอยู่ พร้อมแล้วก็ จัดไป อีกซักตอนสองตอนนะครับ


 :pig4:


ขอบคุณกำลังใจจากทุก ๆ คนที่เข้ามาเชียร์ปอ

ขอบคุณเป็นพิเศษที่มาเชียร์ที่รักของผม  :o8:





อุตส่าห์บอกว่าจัดหน้าก่อนโพสท์ แต่ผมว่ามันก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่เลย

ยากอ่ะ ทำไงให้ย่อหน้าสวยกันน้า    :z3:
 












     
      วันนี้พี่ปืนกลับไปทำงานเป็นวันแรก พี่นูโทรมาบอกปอว่า เลิกเรียนแล้วให้กลับบ้านเราจะฉลองกันนิดหน่อย

ปอเองก็ตั้งใจจะไปที่บ้านอยู่แล้ว เพราะยังไม่ได้เก็บข้าวของส่วนตัวกลับหอ

คิดว่าตอนเย็นจะแวะไปเอา แล้วให้พี่ปืนมาส่ง คิดอยู่ทีเดียวว่าจะชวนเพื่อนมาสักสองสามคน

ให้มาช่วยขนฟูกขึ้นไปไว้ตามเดิม พี่นูโทรมาก็ดีแล้ว พี่นิวกับปอสองคนสองแรงคงพอไหว

ตอนที่ขนลงมาปอทำเองได้ แต่ขาขึ้นนี่มันต้านแรงโน้มถ่วงโลก พี่ปืนก็เพิ่งจะฟื้นตัว ไม่อยากให้ออกแรงมากนัก

      ตอนเข้าไปถึงห้องโถงที่บ้าน สามคนกำลังคุยอะไรกันไม่รู้ หน้าดำคร่ำเครียด พอปอมาก็หยุดคุย

แล้วพี่นูก็เอ่ยชวนปอไปเทกับข้าวใส่จาน แล้วก็อุ่นอาหารบางอย่างให้ร้อน ที่ว่าฉลองก็ไม่มีอะไรพิเศษ

นอกจากมีเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์สำหรับคนสองคน...ซึ่งก็น่าจะรู้ว่าใครเป็นต้นคิด

      ป่วยอยู่หลายวัน คงเปรี้ยวปากแย่ เอาเถอะ...ปอจะไม่ว่าอะไร เพราะหน้าที่ของปอสิ้นสุดลงแล้ว
 
ในวันที่พี่ปืนลุกขึ้นไปทำงานได้ตามปกติ

      “ปอไม่คิดจะกลับมาอยู่บ้านนี้แล้วเหรอ”

      พี่นูทำลายความเงียบขึ้นก่อน แต่ก็ด้วยคำพูดเบา ๆ แค่พอได้ยินกันสองคน   
   
      “ครับ...พี่นูถามทำไมเหรอ”

      ปอตอบกลับในโทนเสียงที่ไม่ต่างกัน

      “ป่าว ไม่มีอะไร นึกว่าเบื่อหอแล้ว จะได้กลับมาดูแลบ้านมั่ง”

      “ตลกแล้วพี่นู เจ้าของบ้านเค้านั่งอยู่ตรงโน้น ผมจะมาดูแลทำไมครับ”

      ปอพูดขำ ๆ

      “คิดอย่างงั้นก็ตามใจ....ต้มยำอุ่นแค่พอร้อนนะปอ แล้วยกออกไปเลย พี่จะยกพวกนี้ออกไปก่อน”

      พี่นูทำเสียงกระแทกกระทั้นคล้ายจะไม่พอใจในคำตอบของปอ แล้วไม่ได้สนใจอีก

      ก็แล้วจะให้ปอคิดยังไง บ้านของพี่ปืน ถึงแม้ว่า มันจะเต็มไปด้วยไอเดียของปอตรงโน้น ตรงนี้

มันก็ไม่ได้ทำให้บ้านนี้กลายมาเป็นบ้านของปอได้หรอก

และยิ่งเป็นไม่ได้ใหญ่ที่มันจะกลับมาเป็น “บ้านของเรา”


      พี่นิวดูจะช่างพูดขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเหล้าเข้าปาก แล้วยังกล้าพอที่จะแซวพี่นู

อย่างไม่กลัวว่าฝ่ายที่ถูกแซวจะโกรธ จะอาย ข้างพี่นูได้แต่นั่งยิ้ม ขำบ้าง หนักเข้าก็หัวเราะเอิ๊ก ๆ ชอบใจ

ส่วนพี่ปืนดูแปลกไปที่ไม่ค่อยยกแก้วเหล้าเข้าปากสักเท่าไร บางทีปอยังเห็นปล่อยให้น้ำแข็งละลายจนมันจืด

แล้วก็ถือโอกาสเททิ้ง....ดูจะผิดวิสัยอย่างไม่น่าเชื่อ

      “แล้วคุณรู้มั้ยปืน เวลาเค้าโมโหแต่ทำอะไรผมไม่ได้เค้าจะทำยังไง...นู้นนนน...เดินหนีเข้าห้อง

ปิดประตู แล้วผมจะทำไงได้ล่ะ ห้องเค้าผมก็ไม่มีกุญแจ มาสเตอร์คีย์เค้าก็เก็บไว้เอง ทีห้องเราเล่นย่ำซะเป็นเทือก

แต่ห้องตัวเองล่ะไม่ให้เราเข้า....แย่...”

      “ว่าใครแย่”

      เสียงแข็ง ๆ คาดคั้นทั้งที่แววตาระยิบระยับ อย่างที่เจ้าตัวไม่ได้โกรธจริง งอนจริง

      “ว่าตัวพี่เอ๊ง....ไม่แย่ไงไหว จะเข้าไปง้อ ก็เข้าไม่ได้ ไม่ง้อนูก็งอนไม่เลิก แล้วจะให้ทำไง

เคาะประตูโป้งๆ เดี๋ยวป้าก็จะขึ้นมาถามอีกว่าเกิดอะไรขึ้น”

      “ก็เลยนั่งหน้าหงอยอยู่หน้าห้องผมอ่ะเหรอ”

      “ใครหงอย.....ไม่มี้”

      “ครับ ไม่หงอยเลย แค่ทำหน้าให้ดูน่าสงสารแค่นั้นแหละ...เนอะ”

      “พี่นิวเหรอครับ ทำหน้าตาน่าสงสาร....ผมนึกภาพไม่ออกเลยอ่ะพี่นู”

      ปอพลอยขำไปกับการโต้ตอบอย่างไม่มีใครยอมใคร การโต้คารมกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้

ปอเคยเห็นบ่อย ๆ และจะเป็นพี่นูที่ไม่ค่อยจะยอมลงให้พี่นิวง่าย ๆ แต่เวลาที่พี่นิวครึ้ม ๆ

เพราะฤทธิ์เหล้า พี่นูมักจะตามใจ ปล่อยให้พูด ไม่ขัดคอ ไม่งอแง

แถมยังโต้กลับให้กลายเป็นเรี่องสนุกไปซะอีก ก่อนนี้ปอก็ไม่ค่อยเข้าใจพี่นูนัก

แต่นาน ๆ เข้าก็เริ่มชิน และค่อย ๆ เรียนรู้ว่า พี่นูมีคติประจำใจอยู่อย่าง

“อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา”

........ก็คนไม่มีสติ จะเอาอะไรกันนักหนา ในเมื่อเรามีสติกว่า เราก็ต้องเป็นฝ่ายคุมเกม

โดยเฉพาะเมื่อคนบ้ากับคนเมาเป็นคนที่เรารัก เราแคร์ ยังไงซะเราก็ต้องใจเย็น พอหายเมาเค้าก็ลืม

แค่เค้าไม่ลืมว่าเค้ารักเราก็พอแล้ว........


      งานฉลองสิ้นสุดเมื่อได้เวลากินยาก่อนนอนของพี่ปืน ปออยากจะว่าให้เจ็บซะจริง ๆ

ยาที่หมอให้มายังไม่ทันจะหมด ก็กินเหล้าซะแล้ว ใจคอจะอดอีกสักวันสองวันก็ไม่ได้

แต่ก็สู้เงียบไว้ดีกว่า หัดคิดอย่างพี่นูบ้าง...อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา....

      นี่ขนาดกินมั่งเททิ้งมั่ง พี่ปืนก็หน้าตาแดงก่ำซะขนาดนี้ ถ้ากระดกมันครบทุกแก้ว

สงสัยคงจะฟุบคาวงเหล้าตามเคย

      “ขึ้นบ้านไหวมั้ยครับพี่ปืน”

      “หวายค้าบ”   
                       
      แต่ปอดูแล้วท่าทางจะไม่ไหวซะมากกว่า ก็คอพับคออ่อนออกอย่างนี้ ไม่หิ้วปีกขึ้นไป

มีหวังได้ลงคลานกันล่ะ ปอยกแขนพี่ปืนขึ้นพาดบ่า สวมกอดเอวกระชับให้แน่นแล้วยกตัวให้ลุกขึ้นเดินเอง

      ....ตัวหนักนะเนี่ย เล่นทิ้งตัวพิงปอลงมาเต็ม ๆ แบบนี้กว่าจะถึงห้องนอนมีหวังเหนื่อยตาย...

เห็นเททิ้งเป็นหลายแก้ว ทำไมถึงเมาได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้นะพี่ปืน สงสัยคงเป็นเพราะไม่ได้กินเหล้านาน ๆ

หยอดลงไปได้หน่อยเดียว เมาซะไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย

      “จาปายหนาย”

      “ขึ้นบ้านครับ พี่ปืนเดินดี ๆสิ หนักอ่ะ”

      แทนที่จะเดินก้าวขาดี ๆ จะได้ผ่อนแรงกันบ้าง กลับเอนคอลงมาซบปอซะนี่...แก้มอุ่นจัดของพี่ปืน

แนบอยู่กับแก้มปอ ลมหายใจกรุ่นกลิ่นเหล้าจาง ๆ อวลอยู่ใกล้จมูก ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก แต่มันหวิว ๆ ยังไงไม่รู้

      “ทำตัวตรง ๆ หน่อยสิครับพี่ปืน”

      พูดไปงั้นแหละ ยังกะคนเมารู้เรื่อง กว่าจะกระเตงกันขึ้นมาถึงห้องนอนได้ ก็หอบซะตัวโยนเลย

ปอจัดท่านอนให้พี่ปืนได้นอนสบาย ๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกหมดทั้งแถว เตรียมเปลี่ยนชุดนอนให้

หมุนตัวจะเดินไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ แต่คนเมากลับมีแรงฉุดให้ถลากลับลงไปใหม่

ปอไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยล้มลงไปเกยพี่ปืนเต็ม ๆ

      “นอนด้วยกันนะ”

      เอ๋...ไม่มีวี่แววของอาการเมาเหมือนเมื่อกี้เลยนี่นา

      “หลอกผมว่าเมาใช่มั้ยเนี่ย”

      “ไม่ได้หลอก เมาจริง ๆ”

      “ไม่เชื่ออ่ะ ตะกี้ยังต้องให้ผมแบกขึ้นมาเลย”

      “แบกที่ไหนเล่า พี่เดินขึ้นมาเองนะ ปอแค่ช่วยประคองหน่อย ๆ เอง”

      “ปล่อยครับ ผมจะไปเอาผ้าชุบน้ำมาให้”

      พี่ปืนยอมปล่อยมือแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายส่งสายตาตามมาติด ๆ จนรู้สึกร้อนหลังวาบ ๆ

ปอเปิดน้ำใส่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วเอาผ้าขนหนูชุบลงไป ก่อนจะบิดให้พอหมาด

เดินกลับมาที่ร่างที่นอนเหยียดแขนเหยียดขารอท่าอยู่....

มันน่าหมั่นไส้เนอะ หลอกให้ปอประคองขึ้นบ้าน ทั้งที่ช่วยตัวเองได้แบบนี้มันกินแรงกันชัด ๆ

      “ลุกขึ้นนั่งสิครับ”

      พี่ปืนขยับตัวทำตามอย่างว่าง่าย ใบหน้ายิ้มละไมอย่างคาดหมายว่า

จะต้องได้รับการเอาใจจากปอ...แต่เมินซะเถอะ

      ปอวางผ้าขนหนูหมาดน้ำลงบนอกแน่น ๆ แล้วรีบถอยออกมา อาการยิ้มที่เห็นอยู่

เลือนหายจากสายตาไปทันที...สมน้ำหน้า เหลี่ยมจัดนัก

      “ผมจะไปอาบน้ำ เช็ดตัวไปนะครับ”

      “อ้าว...ไม่เช็ดให้พี่อ่ะ”

      “สร่างเมาแล้วนี่ครับ ทำเองเหอะ ผมง่วง จะไปอาบน้ำแล้วรีบเข้านอน”

      หยิบผ้าขนหนูพาดบ่าพร้อมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสำหรับใส่นอนเดินเข้าห้องน้ำไปเลยดีกว่า

ไม่อยากจะหันไปดูหน้าจ๋อยของคนแกล้งเมา

      คนไม่เมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ ตอนนี้กำลังนอนเอกเขนกพิงหัวเตียงอยู่ เสียงรายการโทรทัศน์ภาคดึกดังแผ่ว ๆ

คงจะเป็นรายการสัมภาษณ์คนดังสักคน

      “นอนได้แล้วครับพี่ปืน ไม่เห็นมีรายการอะไรน่าสนใจเลย”

      “ดูหนังมั้ย”
   
      “ไม่อ่ะครับ ผมง่วง อยากนอนมากกว่า ช่วงนี้งานชมรมยุ่งนิดหน่อย แถมมีซ้อมเชียร์อีก

นี่ขนาดผมไม่รับตำแหน่งเชียร์ลีดเดอร์แล้วนะ”

      ปอล้มตัวลงนอนบนที่ว่างที่ถูกเว้นไว้

      “ดีแล้วที่ไม่รับน่ะ พี่เห็นเค้าซ้อมกันดึก ๆดื่น ๆ ขนาดใกล้สอบก็ยังไม่เว้น”

    (ที่จริงปืนมันหวง....นู)

      “เอ้อ...พรุ่งนี้พี่ปืนตื่นแต่เช้าหน่อยได้มั้ยครับ ผมหมายถึงตื่นก่อนเวลาน่ะ”

      ปอเริ่มธุระของตัวเอง ไหน ๆ พี่ปืนก็ไม่ได้เมา แล้วก็ยังไม่ง่วง เพราะไม่มีทีท่าว่า

จะขยับตัวลงนอนอย่างปอเลย สายตาก็ยังจับจ้องไปที่โทรทัศน์ยังกับว่าสนใจมันซะเต็มประดา

      “มีอะไรเหรอ”

      “ไปส่งผมที่หอหน่อยสิครับ สัมภาระผมเยอะแยะไปหมดเลย ตอนที่มานอนเฝ้าพี่ปืนที่นี่อ่ะ”

      “จะขนกลับไปหมดเลยเหรอ”

      พี่ปืนถามเสียงอ่อย ๆ

      “อ้าว...”

      ปอทำเป็นกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะ พลิกหน้ากลับมาเห็นแววตาพี่ปืนจ้องมาอย่างคาดหวัง

      “ผมจะกลับไปอยู่หอ แล้วถ้าไม่เอาข้าวของกลับไปผมจะใช้อะไรอ่ะครับพี่ปืน ไหนจะหนังสือเรียนอีก”

      “ไม่ไปไม่ได้เหรอ”

      อีกแล้ว...พี่ปืนทำหน้าเหมือนถูกปอทิ้งแบบนี้ จะให้รู้สึกผิดให้ได้เลยใช่มั้ย

      “ผมก็ไป ๆมา ๆ เหมือนเมื่อก่อนแหละครับ”

      “ไม่เอาหรอก ถ้าเหมือนเมื่อก่อนพี่ไม่เอาด้วย ครั้งหลังนี่ปอหายไปเลย นานกี่เดือนจำได้มั้ย

ถ้าพี่ไม่เข้าโรงพยาบาล ปอก็คงไม่มา”

      “พี่ปืนมีธุระ อยากให้ผมมาวันไหน ก็โทรไปบอกได้นี่ครับ”

      “โทรสิ ทำไมพี่จะไม่โทร แต่โทรไปทีไร ก็ติดต่อปอไมได้ซักที พี่นึกว่าปอเรียนหนัก ไม่ว่าง

พี่ก็เกรงใจไม่อยากรบกวน แล้วก็คิดว่า ถ้าปอเห็นเบอร์พี่โทรเข้าปอก็คงจะโทรกลับมาเอง

แล้วไหนล่ะ ไม่มีเลย ปอหายไปเลย เหมือนไม่อยากเจอพี่อีก”

      คำพูดเป็นชุดพรั่งพรูออกจากปากพี่ปืนบอกให้ปอรู้ว่า พี่ปืนโทรหาปอตามที่ปอคาดเอาไว้จริง ๆ

ตอนนั้นที่ปอคิดว่าถ้าไม่ได้รับสายพี่ปืน ถ้าไม่เจอหน้ากัน ปอก็จะตัดพี่ปืนได้เร็ว ๆ

มันก็คงจะใกล้เคียงความจริง ถ้าเพียงแต่พี่ปืนจะไม่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล

ป่านนี้เราคง.....

      “แล้วความจริงที่พี่เพิ่งรู้ล่ะปอ มันหมายความว่ายังไง จนวันนี้ปอก็ยังไม่ให้เบอร์โทรใหม่กับพี่

ปอคิดจะตัดพี่จริง ๆใช่มั้ย”

      “แล้วที่พี่นูบอกพี่ปืนคืนนั้นล่ะครับ”     

      “คืนนั้นพี่ไม่ได้ขอเค้าหรอก พี่แค่โทรไปคุยกับเค้าเฉย ๆ เพราะพี่เหงา แล้วเค้าก็ถามถึงปอ

พูดไปพูดมานูก็หลุดปากออกมาว่า ปอเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้ว พี่ถึงได้รู้ว่าตลอดเวลาที่พี่ติดต่อปอไม่ได้เพราะอะไร”

      ปอคว้าโทรศัพท์พี่ปืนที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมากดบันทึกเบอร์ไว้ให้โดยไม่พูดไม่จา

      “มันไม่สายไปเหรอปอ”

      น้ำเสียงแผ่วโหยที่ผ่านริมฝีปากออกมากรีดน้ำตาปอได้ดีนัก แม้ว่าคนพูดจะไม่มีวี่แววว่าจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

คนอย่างพี่ปืนคงไม่เสียน้ำตาให้ใครง่าย ๆ และปอก็เคยได้เห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

      “เดี๋ยวผมกลับไปอยู่หอพี่ปืนจะได้โทรหาผมได้”

      ก็จะให้ทำยังไง ปอเองก็รู้ตัวว่าผิดแล้วนะ ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นตัดรอนความสัมพันธ์ด้วยซ้ำ

ปอแค่ช่วยตัวเอง ไม่ให้บอบช้ำมากไปกว่าเดิมต่างหาก

      ปอพลิกตัวนอนหันหลังให้พี่ปืน ไม่อยากให้เห็นว่าน้ำตากำลังจะหยด ปล่อยให้มันเปียกหมอนก็ไม่ได้

พรุ่งนี้จะเห็นเป็นดวงด่าง ๆ อยู่บนปลอกหมอน ได้แต่ดึงคอเสื้อขึ้นมาซับ ๆ เอา

      เสียงโทรทัศน์เงียบไปแล้ว ได้ยินเสียงอีกคนขยับตัวลงนอนราบ เสียงลมหายใจสะดุด

บอกให้รู้ว่าพี่ปืนยังไม่หลับ และอาจจะ....กำลังร้องไห้

      “ไม่ไปไม่ได้เหรอปอ”

      เสียงพูดที่พยายามบังคับยังไงก็ปิดไม่มิดว่า ปอคิดไม่ผิด

      “อย่างนี้ก็ดีแล้วครับพี่ปืน”

      “ถ้างั้นก็.....ตามใจ”

      น้ำเสียงที่ฟังดูราบเรียบ แต่เมื่อตามมาด้วยเสียงสูดจมูกเบา ๆ แล้วผ่อนลมหายใจช้า ๆ

ทำให้ปอได้รู้ว่า ตัวเองทำให้พี่ปืนต้องเสียน้ำตา

   .....อย่าใจอ่อนนะปอ.....

  เขาได้แต่เตือนตัวเอง เพราะไม่อยากกลับไปเจ็บปวดแบบไร้อนาคตอย่างเดิมอีกแล้ว

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2012 02:20:17 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #158 เมื่อ02-06-2012 02:18:43 »






  ปอไม่ได้แวะมาหาพี่ปืนแค่อาทิตย์เดียว บ้านที่รก ๆ ดูสะอาดตาขึ้นมาก

      พี่ปืนยืนจิบชาอยู่ข้างบ้าน แดดยามเช้าสาดส่องร่างสูงตรงให้โดดเด่นกลางสนามหน้าสีเขียวสด

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ปอก็คงจะนั่งเล่นอยู่ตรงซุ้มต้นเล็บมือนาง ไม่ก็กำลังพรวนดิน แต่งสวนไปตามประสา

พี่ปืนโทรชวนปอให้มาที่บ้าน บอกว่าให้ปอทำอาหารที่อยากกินให้หน่อย แต่คราวนี้ไม่ใช่ผัดกะหล่ำปลี

      “พี่อยากกินแกงเขียวหวานไก่ใส่ไข่เค็มกับขนมจีน”

      ก่อนเข้ามาปอก็เลยไปซื้อเครื่องปรุงให้พร้อม มาถึงก็จะได้ปรุงอย่างเดียว

      พี่ปืนหันมาทักปอที่กำลังจะเดินผ่านเข้าไปในครัวโดยไม่ผ่านประตูหน้าบ้าน

 แล้วก็หันไปสนใจต้นไม้กับสิ่งรอบข้างต่อ ส่วนปอตรงไปถึงครัวแล้วก็เริ่มทำหน้าที่ของตัวเองไป

ทำไปชิมไป มันก็เพลินจนลืมเวลา ได้ยินเสียงพี่ปืนทักใครก็ไม่รู้อยู่ที่หน้าบ้าน

ปอก็เลยชะโงกหน้าออกมาจากประตูข้างครัว ซึ่งมองตรงออกไปเป็นประตูรั้ว เห็นพวกเขายืนคุยกัน

แล้วแขกสองคนนั้นก็เดินสำรวจไปรอบบริเวณบ้าน ในขณะที่พี่ปืนเดินตามไปติด ๆ พูดคุยอะไรกันก็ไม่รู้

      แล้วก็มาถึงครัวที่ปอกำลังนั่งรอตั้งโต๊ะพร้อมพี่ปืน  ผู้หญิงคนนั้นดูไปวิจารณ์ไปอย่างมันปาก

ปอไม่ได้ยกมือไหว้เพราะไม่มีใครแนะนำให้รู้จัก แค่เดินเลี่ยงออกมานอกบ้านทางด้านข้าง

ทำให้ได้ยินสิ่งที่เขาพูดกัน ปอถึงได้รู้ว่าสองคนนั้นสนใจจะซื้อบ้านหลังนี้ และดูท่าทางพี่ปืนก็อยากจะขาย

แต่ไม่หรอกมั้ง พี่ปืนน่ะเหรอจะขายบ้านที่ตัวเองตั้งใจสร้าง แล้วเพิ่งจะย้ายมาอยู่ไม่นานมานี้เอง


    แต่ไม่นานนักแขกสองคนนั้นกลับไป โดยมีพี่ปืนตามไปส่งที่ประตูรั้ว ทันทีที่สองคนนั้นคล้อยหลังไป

รอยยิ้มที่แปะไว้บนริมฝีปากตลอดครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา พลันหายวับไปจากใบหน้า

ร่างสูงเดินช้า ๆ ไปตามทางลาดซีเมนต์ แต่ยังไม่ยอมเข้าบ้าน

สายตาที่มองสูงขึ้นไปบนบ้าน ดูอมเศร้ายังไงบอกไม่ถูก ปอได้แต่สงสัยว่าพี่ปืนกำลังคิดอะไรอยู่

      “พี่ปืนหิวรึยังครับ ผมจะได้ตั้งโต๊ะ”

      ปอถามขึ้น เมื่อเห็นพี่ปืนเดินมาเกาะประตูด้านข้างครัว พี่ปืนไม่ตอบอะไร แต่ก็เดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร

ปอตักขนมจีนให้ก็แล้ว พี่ปืนก็เอาแต่เขี่ยเส้นขนมจีนในจานเล่นไปเรื่อยเปื่อย

จะให้ปอมีแก่ใจกินไปคนเดียวได้ยังไงกัน

      “เป็นอะไรไปครับ”

      “ฮึ...”

      พี่ปืนส่ายหน้า ไม่เงยขึ้นมองหน้าปอเลยสักนิด

      “ไหนบอกอยากกินขนมจีนแกงเขียวหวานไงครับ นี่ไง”

      ปอตักไข่เค็มใส่จานให้พี่ปืน เห็นของที่ชอบพี่ปืนน่าจะนึกอยากกินขึ้นบ้าง

      “ไก่ครับ”

      ปอตักให้อีก แล้วชวนคุย

      “ขนมจีนเจ้าอร่อยที่เราไปกินกันประจำไงครับ เดี๋ยวนี้เค้าแพ็คใส่ถุงขายเป็นกิโลแล้วนะครับ

ขายดีด้วย ส่งไปขายต่างอำเภออีกต่างหาก”

      พี่ปืนตักขนมจีนใส่ปากไปแกน ๆ ไม่เหมือนคนที่บอกว่าอยากกินเลย

      “พี่ปืนมีอะไร....บอกผมสิครับ”

      “ไม่มีอะไร”

      ปากบอกว่าไม่มี แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะให้ปอเชื่อก็บ้าแล้ว

      “พี่ปืนรู้จักเค้าเหรอครับ”

      “ใคร”

      สายตาที่มองปอขณะที่ถามดูว่างเปล่า เหมือนไม่รู้ว่าปอถามถึงอะไร

ถึงปอจะไม่ได้เกริ่นอะไรขึ้นมาก่อน แต่แขกที่เพิ่งจะจากไป ไม่น่าจะทำให้พี่ปืนงงงวยได้ขนาดนี้

      “สองคนเมื่อตะกี้ไงครับ เค้ามาทำไมครับ”

      “ก็เห็นแล้วหนิว่าเค้ามาดูบ้าน”

      “มาดูทำไมครับ”

      “เค้าจะซื้อ”

      พี่ปืนรวบช้อนส้อมทั้งที่ขนมจีนในจานยังไม่หมด  ปอรู้สึกได้เลยว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่

เพราะพี่ปืนไม่ใช่คนที่จะกินทิ้งกินขว้าง ยิ่งเป็นของที่บ่นอยากกิน ยังไงก็ต้องกินได้มากกว่านี้

      “จะไปไหนครับ”

      “พี่เพลีย ๆ น่ะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ จะขึ้นไปนอนต่อ ปอจะกลับตอนไหนก็ตามสบายนะ”

      ร่างสูงใหญ่ เดินลากเท้าออกไปจากห้องครัวด้วยอาการคล้ายคนสิ้นแรง

อย่าบอกนะ ว่าแค่ปอไม่ย้ายกลับมาอยู่บ้านจะทำให้พี่ปืนเป็นไปได้ขนาดนี้ ปอไม่เชื่อ....

ก็พี่ปืนไม่ใช่เหรอที่เป็นคนบอกให้ปอย้ายไปอยู่หอพัก แล้วตอนนี้มีเหตุผลบ้าบออะไรถึงจะเปลี่ยนใจ



      ปอเจ็บนะ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ มันทรมานแคไหน พี่ปืนไม่รู้หรอก

จากที่ไม่เคยรู้ใจตัวเอง จนกระทั่งยอมรับกับตัวเองได้ว่า

ปอรักผู้ชายใกล้ตัว รักคนที่ไม่มีทางจะแสดงให้ใครได้เห็นว่า ความรักของปอจริงจังและลึกซึ้งขนาดไหน

รักทั้ง ๆที่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้อยู่ด้วยกันยืนยาวแค่ไหน

แต่ปอก็พยายามทุกอย่างที่จะให้ได้อยู่กับคนที่รักโดยไม่หวังเลยว่าเค้าจะรักตอบ

แล้วเมื่อวันหนึ่ง คนที่ปอรักผลักไสให้ออกห่างจากชีวิตเค้า พี่ปืนคิดว่า ปอจะรู้สึกยังไงบ้าง


      ปอเก็บโต๊ะ และอาหารทุกอย่างเข้าที่ให้เรียบร้อย หิวเมื่อไรก็คงลงมากินเองล่ะนะ

อยากจะอยู่ดูแลพี่ปืนเหมือนกัน แต่....ปอเองก็ว้าวุ่นใจเหลือเกินในตอนนี้

อยากกลับมาอยู่...ก็อยาก กลัวจะซ้ำรอยเดิม...ก็กลัว

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #159 เมื่อ02-06-2012 02:43:45 »

คุณนูมาแล้ววววววววววว
 :m11:
(มาคนแรกมั้ยเนี่ย  :m22:)
 :กอด1: รับขวัญด้วยความคิดถึง(อินี่เว่อร์ตลอด  :laugh:)
เดี๋ยวนี้ถ้าวันไหนคุณนูไม่มา
นัทพาลจะนอนไม่หลับเอา
เมื่อคืนถ้าไม่ปวดท้องจะนั่งรอจริงๆนะเนี่ย
 :m23:

สงสารน้องปอจัง
แต่ในใจจริงๆนัทสงสารพี่ปืนมากกว่า
เพราะตอนที่ปอไม่รู้ตัวพี่ปืนน่ะทรมานก่อนปอมาตั้งนาน
ก็เข้าใจว่าปอก็เสียใจแต่ปอทำเหมือนไม่สงสารพี่ปืนมั่งเลยง่ะ
ทางที่ดีก็คุยกันตรงๆไปเลย
ถ้าจะรักกันคนอ่านก็จะได้เตรียมตัวถือหมอน(เอ๊ะ?)
ถ้าไม่รักกันจะได้เจ็บแค่ครั้งเดียว
คนอ่านจะได้ลาตายด้วย กระซิกๆ
 :o7: :sad2:

พรุ่งนี้อย่าลืมมานะคุณนู
 :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
« ตอบ #159 เมื่อ: 02-06-2012 02:43:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #160 เมื่อ02-06-2012 04:24:48 »

พี่ปืนก็กล้าๆ หน่อยดิ  :z3:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #161 เมื่อ02-06-2012 07:28:14 »

เมื่อไหร่ปืนจะบอกความรู้สึกตัวเองให้ปอรู้สักที ปอก็บอกความจริงสิว่าทำไมต้องทำเป็นห่างเหิน  :serius2:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #162 เมื่อ02-06-2012 07:37:28 »

แล้วทำไมปืนไม่บอกความรู้สึกของตัวเองกับปอสักที

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #163 เมื่อ02-06-2012 11:40:34 »

รอจ้า รอตอนต่อไปจ้า :z2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #164 เมื่อ02-06-2012 13:07:15 »

 :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #165 เมื่อ02-06-2012 14:13:28 »

โอยยย...แต่ละคนๆนี่นะ
คิดไปเองต่างๆนานา

หันหน้ามาเปิดใจคุยกันเลยสิ 
เอาแต่คิดว่าแบบนี้แบบนั้นจะดีกว่าสำหรับอีกฝ่าย
น้อยใจกันไปมาอยู่นั่นแหล่ะ  คนอ่านลุ้นๆๆๆๆๆ 
ลุ้นจนจะลุ้นไม่ขึ้นแล้วน้าาาาา

สุดท้ายคือ...ได้กันสักทีเท้อ  5555  ล้อเล่นๆๆจ้า  อิอิ

รอตอนต่อไปนะ

+1 ให้จ้าาาา

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #166 เมื่อ02-06-2012 15:53:46 »

เสียดายบ้านเนอะ
ปืนยังกั๊กท่าทีไว้อีกเหรอ :pigangry2:
จะรอให้ปอเป็นไรไปก่อนรึไง ถึงจะเผยตัวน่ะ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #167 เมื่อ02-06-2012 16:03:33 »

อ่านแล้วก็ได้แต่ร้องเฮ้อ! ไม่คุยกันแล้วจะรู้เรื่องกันไหมเนี่ย!

ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #168 เมื่อ02-06-2012 20:41:11 »

เฮ้อ!!
อึกอัดกะ2คนนี้จริงๆ :m16:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #169 เมื่อ02-06-2012 22:22:29 »

ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
« ตอบ #169 เมื่อ: 02-06-2012 22:22:29 »





ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #170 เมื่อ02-06-2012 22:51:36 »

หน่วง :เฮ้อ:

cksong2008

  • บุคคลทั่วไป
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #171 เมื่อ03-06-2012 00:48:26 »

ปืนกับปอจะเป็นยังไงผมไม่รู้
รู้แต่ว่า ผมร้องไห้ทรมานจนจะขาดใจตายอยู่แล้วครับ  :jul1:
ทำไมความรักของคนสองคนถึงได้ทรมานขนาดนี้  :o12:  :z3:  :m15:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
พรุ่งนี้จะตื่นมาลงให้แต่เช้าครับ

ทันทีที่แหกขี้ตามาได้ จะรีบมาทันที

ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ตาจะปิดอ่ะ

ฝันดีครับทุก ๆ คน

คิดถึงครับ


ป.ล. เข้ามาเพื่อกดเป็ดแืืทนคำขอบคุณอย่างเดียวเลย

วันนี้นั่งรถทั้งวัน เนื้อย เหนื่อย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 2/6/2555
«ตอบ #173 เมื่อ03-06-2012 01:30:48 »

ไม่เป็นไรค่า
นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน
 :bye2:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #174 เมื่อ03-06-2012 07:19:37 »













“ปอรู้รึป่าว พี่ปืนจะขายบ้าน”

      พี่นูโทรหาปอในอีกหลายวันต่อมา หลังจากวันฉลองที่พี่ปืนหายป่วย

วันนั้นปอจำได้ว่า พี่นูดูปั้นปึ่งกับปอเรื่องที่ปอไม่ย้ายกลับมาอยู่บ้าน

แต่ต่อหน้าทุกคนพี่นูกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากวันนั้นพี่นูก็ไม่ติดต่อปออีกเลย

ทำให้ปอแน่ใจว่าพี่นูคงจะไม่พอใจที่ปอใจดำทอดทิ้งเพื่อนเค้า

      “บ้านไหนครับ”

      “ก็จะบ้านไหน เค้ามีกี่บ้านกันล่ะ”

      พี่นูคงจะหมั่นไส้ที่ปอทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ฟังก็รู้ว่าน่าจะยังไม่หายโกรธ

      “พี่ปืนบอกพี่นูเหรอครับ”

      “ป่าว คนที่เค้าจะซื้อแวะไปที่แบ็งก์ เค้าคุยกันแล้วพี่ได้ยิน”

      “ไม่หรอกมั้งครับ บ้านเพิ่งจะเสร็จ พี่ปืนเค้าเองก็อยากได้ จะรีบขายทำไม”

      “พี่ไม่รู้ แต่ปอน่าจะรู้ดีนะพี่ว่า”

      “ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะครับ พี่ปืนไม่ได้บอกผมซักคำ”

      “ทำไมเค้าต้องบอกปอ ถามหน่อย”
   
   ถึงคราวที่ปอต้องอึ้ง นั่นสิ....ทำไมพี่ปืนต้องบอกปอด้วย

  ”ที่พี่คิดว่าปอน่าจะรู้ เพราะหวังว่าปอจะติดต่อถามสารทุกข์สุกดิบเค้าบ้าง”

      “ผม....”

      “เวลาที่เค้าโทรหา แต่ปอไม่รับสายล่ะ คิดว่าเค้าจะทู่ซี้โทรไปอีกทำไม

พี่ไม่อยากจะว่าอะไรปอหรอกนะ ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของพี่ แต่บอกตรง ๆว่าพี่เห็นใจพี่ปืน”

      พี่นูไม่พูดถึงเรื่องที่ปอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์โดยไม่บอกพี่ปืน มันก็สมควรที่จะให้เค้าว่าเอา

พราะพี่นูไม่รู้ถึงความจำเป็นที่ปอต้องทำ     

      แต่ปอล่ะ...มีใครเห็นใจบ้าง

  “แล้วพี่นูจะให้ผมทำยังไง”

   “กลับไปอยู่บ้านสิ พี่คิดว่าพี่ปืนขายบ้าน เพราะปอไม่กลับไปอยู่อีกแล้ว บ้านมันจะมีความหมาย

อะไรถ้าเค้าต้องอยู่คนเดียว”

  “พี่ปืนไม่ได้บอกพี่นูเหรอครับ ว่าผมไม่ได้เป็นฝ่ายอยากออกมา”

   พี่นูถอนหายใจ

   “บอก แต่พี่ก็เคยบอกปอแล้วเหมือนกันหนิว่า เค้ากำลังหนีใจตัวเอง ปออย่าบอกว่าไม่รู้นะว่าพี่ปืนเค้ารักปอ”

  “ไม่รู้สิครับ ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าผมเข้าข้างตัวเองไปรึป่าว เค้าบอกผมว่าอยากอยู่คนเดียว

  พี่นูจะให้ผมด้านหน้าอยู่ต่อได้ยังไง ผมไม่มีสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นซักหน่อย”

  ปอปาดน้ำตาทิ้ง มันไม่ใช่เวลาที่จะต้องมานั่งร้องไห้คร่ำครวญเลย

  “ตอนที่ผมออกมาอยู่หอแล้ว ผมยังเคยขอเค้าด้วยซ้ำ ว่าผมอยากกลับไปอยู่บ้าน

....แต่เค้าไม่ตอบ จะให้ผมเข้าใจว่ายังไงครับ บ้านผมก็ไม่ใช่ ไปร้องขอเค้ายังกับตัวเองหมดหนทาง

มันดูไม่มีศักดิ์ศรีเอาซะเลย”

  “พี่เข้าใจปอนะ ว่าปอรู้สึกยังไง ....เอาเถอะ พี่ก็แค่โทรมาบอก คิดอยู่เหมือนกันว่าปอน่าจะยังไม่รู้

ทีนี้ปอรู้แล้ว อยากทำอะไรก็ตัดสินใจให้ดี ๆ ก็แล้วกัน”

....อะไรล่ะ ที่ปออยากทำ

...สิ่งที่อยากทำปอก็เคยบอกพี่ปืนไปแล้ว...แต่เค้ากลับไม่สนใจคำขอของปอ

...พี่ปืนยังเคยชวนปอไปอยู่อีกครั้งนะ....

...แต่นั่นมันตอนที่ปอตัดใจได้แล้ว ว่าจะไม่ย้อนกลับไปให้เจ็บอีก

...แล้วถ้าพี่ปืนขายบ้าน

...ช่างปะไร บ้านของเค้าไม่ใช่  “บ้านของเรา”

กี่ครั้งแล้วที่พี่ปืนทำให้ปอสับสนกับสิ่งที่เค้าแสดงออกมา มันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไรนะ

...สัมผัสเบา ๆ ที่แก้มปอ บนรถไฟ…ครั้งนั้นปอสับสนซะจนต้องย้ายตัวเองออกไปตั้งหลักใหม่

แต่สุดท้ายก็รู้ใจตัวเองว่า โลกที่ไม่มีพี่ปืน มันไม่น่าอยู่เอาซะเลย

...ตอนที่ปอเห็นพี่เอกกำลังนัวเนียกับพี่ปืนในห้อง

ปอก็นึกว่าทั้งคู่มีอะไรกัน   เจ็บแทบตายเลยตอนนั้น

แต่แล้วก็ทำใจได้ว่า ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้ดูแลพี่ปืน ปอก็มีความสุขแล้ว

ยิ่งพอมารู้ว่าที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่มีอะไรกัน ก็ทำให้ปอเกิดความหวังครั้งใหม่ขึ้นมาอีก

แม้แต่คำพูดของพี่เอกกับหยินก็คล้ายจะตอกย้ำความเข้าใจของปอว่า

พี่ปืนก็คงมีใจให้ปอบ้าง ถ้าพี่ปืนจัดการความรู้สึกสับสนในใจตัวเองได้เมื่อไร

เราสองคนก็คงมีความสุขร่วมกันในบ้านของเรา

ความอดทนรอให้เวลานั้นมาถึงยังคงอยู่ แต่พี่ปืนเป็นฝ่ายปิดหนทางนั้นเสียเอง

จะให้ปอปรบมือข้างเดียวมันดังไม่ได้อยู่แล้ว

แล้วพอปอถอยมา พี่ปืนก็กลับจะลากปอกลับเข้าไปในวังวนเดิม....

ถ้าปอกลับเข้าไปอีก ก็คงจะต้องเจ็บอีกใช่มั้ย

แต่เสียงรบเร้าในใจก็ย้ำเตือนกระตุ้นปออยู่แทบจะตลอดเวลา....

ถึงจะไม่กลับไปอยู่ที่นั่นอีกแล้ว

แต่ควรมั้ยที่ปอจะเพิกเฉย ไม่สนใจไถ่ถามพี่ปืนสักนิด

ควรมั้ยที่ปอจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกับเรื่องที่พี่ปืนจะขายบ้าน

ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า พี่ปืนรักบ้านหลังนี้แค่ไหน

พี่นูบอกว่าพี่ปืนไม่อยากทนอยู่ในบ้านที่ไม่มีปอ

....แล้วทำไมถึงได้ไล่ปอออกมาอยู่ซะไกลอย่างนี้ด้วยล่ะ.....





   ปอบอกตัวเองว่า ที่พาตัวเองมาถึงที่นี่ไม่ใช่เพราะยังตัดไม่ขาดหรอก ไม่ได้มาคัดค้านเรื่องขายบ้านด้วย

ก็แค่เป็นห่วงว่า หลังจากนั้นพี่ปืนจะไปอยู่ที่ไหน แล้วที่หิ้วอาหารเช้ากับอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะ

ก็ไม่ได้ห่วงใยอะไรนักหนา ก็แค่มารยาทในการมาเยี่ยมเยียนตามปกติน่ะนะ

       ประตูหน้าบ้านเปิดกว้างไว้แล้ว แต่ไม่เห็นเจ้าของบ้าน

มีเสียงดังกุกกักอยู่ด้านใน ปอเดินตรงเข้าไปตามทิศทางที่คุ้นเคย

      แผ่นหลังกว้างในเสื้อเชิ้ตขาว กับกางเกงสแลคยับย่นบอกปอว่าเมื่อคืนนี้พี่ปืนคงนอนทั้งชุดนี้แหละ

และถ้าเดาไม่ผิด พี่ปืนก็คงจะนอนบนโซฟาข้างล่างนี่เอง

ตอนเดินผ่านห้องรับแขก ปอก็ไม่ทันได้มอง แต่คิดว่าน่าจะมีเครื่องนอนแค่หมอนใบเดียว

      “หวัดดีครับพี่ปืน”

      ร่างสูง ๆ สะดุ้งพร้อมกับปล่อยอะไรที่อยู่ในมือให้ตกลงในอ่างล้างจานดังโครมใหญ่ ก่อนจะหันมาทั้งตัว

      “ปอ”

      อุปาทานไปมั้ง ที่ปอรู้สึกเหมือนคนตรงหน้าแทบจะถลาเข้ามาหา แล้วยั้งไว้แค่เดินเข้ามาใกล้

      “มายังไง”

       ใบหน้าคม ที่ปอคุ้นเคย วันนี้เต็มไปด้วยหนวดเคราขึ้นหรอมแหรม

ผมที่เคยซอยกันท้ายทอยอย่างเรียบร้อย ตอนนี้ยาวระปกเสื้อดูรุงรัง แถมมีไรผมปรกที่ข้างหู เส้นผมชี้ฟู อย่างคนเพิ่งตื่นนอน

ดวงตาคมวับวาวที่ปอชอบมองกลับแห้งแล้ง เบ้าตาโหลลึกอย่างคนพักผ่อนไม่เพียงพอ

ที่สำคัญปอรู้ได้ทันทีว่าพี่ปืนผอมลง เพราะมันเห็นได้ชัดจากไหล่เสื้อที่เคยเต็มแน่น แต่ตอนนี้ลู่ลงจนเสื้อผ้าดูโคร่งไปหมด

      ปอรีบเบนสายตาจากการสำรวจเนื้อตัวซูบโทรมตรงหน้า แล้วตอบคำถาม

      “ผมก็มารถโดยสารตามปกติไงครับ”

      “พี่ถามผิดน่ะ พี่ตั้งใจจะถามว่า ปอมีธุระอะไรต่างหาก”

      “เดี๋ยวนี้ผมมาเยี่ยม...พี่ชาย ต้องมีธุระด้วยเหรอครับ”

      ปอเลี่ยงการสบตา ด้วยการวางข้าวของลงบนโต๊ะอาหาร เดินไปคว้าชามสำหรับใส่โจ๊กหมูร้อน ๆ

      “พี่ปืนกินอะไรรึยังครับ ผมหิวจัง ผ่านร้านโจ๊กหน้าหอก็เลยซื้อมาฝากพี่ปืนด้วย

กินด้วยกันนะครับ เจ้านี้เค้าอร่อย ผมสั่งใส่ไข่มาให้พี่ปืนด้วยนะ”

      “ขอบใจนะ”

      คำขอบใจของพี่ปืนตามมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ทำให้หน้าตาที่ดูซูบโทรม สดชื่นขึ้น

      “นั่งสิครับ”

      ปอเลื่อนเก้าอี้ตัวที่ใกล้สุดให้พี่ปืนนั่ง แล้วจัดการแกะถุงปาท่องโก๋เทใส่จาน

      “กาแฟนะครับ”

      พี่ปืนพยักหน้า แล้วมองตามปอเดินไปหยิบถ้วยกาแฟวางซ้อนบนจานรอง ชงกาแฟรสเข้ม

เขายังจำรสที่พี่ปืนชอบได้ ไม่หวานจัด ไม่ใส่ครีม น้ำร้อนเป็นควันฉุยทันทีที่ปอกดจากกระติกใส่ถ้วย

นิสัยพี่ปืนมักจะต้มน้ำใส่กระติกไว้เสมอไม่เคยขาด เพราะชอบดื่มชาจีนร้อน ๆ....เหมือนป๊าเลย

      “มานั่งกินด้วยกันก่อนสิปอ”

      “แป๊บเดียวครับ ผมชงกาแฟก่อน”

      แต่พี่ปืนก็ยังไม่ยอมหยิบช้อน รอจนปอวางถ้วยกาแฟไว้ตรงหน้าก่อน

แล้วพี่ปืนถึงจะจัดการกับชามโจ๊กของตัวเองบ้าง นาน ๆ ครั้งก็เงยหน้าขึ้นสบตาปออย่างมีความหมาย

บรรยากาศเก่า ๆ ยังไม่คืนมาหรอก ความเงียบยังคงปกคลุมรอบ ๆ ตัว

แต่อย่างน้อยการได้กินร่วมโต๊ะกัน ก็ทำให้อาหารอร่อยขึ้น

      “พี่ไม่ได้กินอะไรอร่อยอย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ”

   พี่ปืนรำพึงด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่จางไปจากใบหน้า

      ปอก็อยากจะบอกพี่ปืนแบบนั้นเหมือนกัน....แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะสานต่อเรื่องที่มันกำลังจะยุติ

ดังนั้นสิ่งที่ปอพูดโต้ตอบกลับไปจึงเป็นคนละความหมายกับที่พี่ปืนสื่อออกมาโดยสิ้นเชิง

      “อยากกินอะไรก็ซื้อกินได้หนิครับ รถก็มี เงินก็มี พี่ปืนไม่ดูแลตัวเองต่างหาก

ไม่รู้อยู่เข้าไปได้ยังไงบ้านก็รก ดูสิครับฝุ่นงี้เขลอะเชียว แล้วดูแลตัวเองมั่งรึป่าวเนี่ย

พนักงานธนาคารอะไรกัน หน้าตาดูไม่ได้เลย ผมเผ้ารุงรัง หนวดเคราไม่โกน

นี่เจ้านายเค้าไม่ว่าอะไรมั่งรึไงครับ”

      “งั้น พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ปอไม่ได้รีบไปไหนใช่มั้ย”

      “วันนี้ผมว่างครับ ก็เลยแวะมาเยี่ยม คงจะกลับเย็น ๆ พี่ปืนไม่ออกไปไหนใช่มั้ยครับ”

      “ไม่ ๆ ๆ ไม่ได้ไปไหน งั้นปอนั่งเล่นไปพลาง ๆนะ เดี๋ยวพี่มา”

      พี่ปืนกระโจนขึ้นบันไดทีละสองขั้น ร่าเริงยังกะปลาได้น้ำ

      “เดินดี ๆสิครับ เดี๋ยวก็ได้ตกลงมาหรอก”

      “ค้าบ”

      เสียงรับคำลอยมาจากข้างบน ตามด้วยเสียงเปิดปิดประตูดังโครม ด้วยความรีบร้อน

ปอส่ายหน้า ที่เปื้อนยิ้มของตัวเอง ด้วยความรู้สึกเอ็นดู......คนตัวโต ๆ ก็ทำตัวเหมือนเด็กได้เหมือนกันนะ


  ปออยู่ข้างล่างตามลำพัง ก็จัดเก็บถ้วยจานชามล้างคว่ำไว้อย่างเรียบร้อย

เดินออกมาหน้าบ้าน จัดเก็บข้าวของที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะรับแขก

มุดไปดูใต้โต๊ะก็เจอหนังสือพิมพ์อีกกอง บนเก้าอี้นั่งมีผ้าขนหนูพาดอยู่กับพนักพิง

บนโซฟาตัวยาวมีหมอนหนุนที่มีรอยบุ๋ม นึกแล้วไม่ผิดว่าพี่ปืนคงจะไมได้ขึ้นไปนอนข้างบน

      ข้าง ๆเก้าอี้ มีขวดเบียรน์สองสามขวดล้มอิงกันอยู่กับอีกขวดที่ยังมีเบียร์เหลืออยู่กว่าครึ่ง

ปอหยิบขวดเบียร์ไปทิ้งถังขยะนอกบ้าน พร้อมกับขยะอื่นอีกถุงใหญ่ ที่กำลังส่งกลิ่นเหม็นเอียน

ดูแล้วน่าจะไม่ได้จัดการเก็บทิ้งมาเป็นอาทิตย์แล้วล่ะมั้ง

      ปกติพี่ปืนไม่เคยเป็นคนหมักหมมแบบนี้ ห้องพี่ปืนที่คอนโดก็เรียบร้อยสะอาดตา 

ข้าวของจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ตะกร้ามีฝาปิด ไม่วางเกลื่อนกลาด

ผ้าขนหนูมีราวพาดพักไว้อย่างเรียบร้อย รองเท้าวางเรียงบนชั้นในตู้ที่มีบานเลื่อนเปิดปิดได้

....ก็เนี้ยบสมกับการแต่งตัวของเค้านั่นแหละ

      แต่สภาพที่เห็นตอนนี้เหมือนไม่ใช่พี่ปืนคนเดิมเลย

      กว่าพี่ปืนจะอาบน้ำแต่งตัวสะอาดเอี่ยม ใบหน้าเกลี้ยงเกลา เนื้อตัวหอมฟุ้ง แล้วลงมาข้างล่าง

ปอก็เก็บกวาดห้องรับแขกเสร็จพอดี และกำลังจะไปเก็บห้องครัวต่อ

จากนั้นก็ว่าจะขึ้นไปดูบนห้องนอน....ของพี่ปืน

ส่วนห้องที่ปอเคยนอน คงถูกปิดเอาไว้เฉย ๆ ไม่ต้องเก็บกวาดก็คงจะได้

      “พี่นูบอกผมว่ามีคนจะซื้อบ้านแล้ว จริงรึป่าวครับ”

      ปอส่งคำถามที่ตัวเองอยากรู้ แต่ทำทีเหมือนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก   
   
พี่ปืนเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือพิมพ์ที่ปอเพิ่งจะจัดไว้ใต้โต๊ะรับแขก แล้วพยักหน้าหงึก ๆ ทีนึง

เหมือนกับมันเป็นเรื่องธรรมดา แล้วหันไปรื้อหนังสือพิมพ์ออกมากองลงบนพื้น

      “พี่ปืนรื้อออกมาทำไมครับ ผมเพิ่งจะเก็บตะกี๊นี้เอง”

      “พี่ว่าจะเอาไปให้ป้าข้างบ้านแกไว้ห่อของน่ะ”

      พี่ปืนวางหนังสือพิมพ์ซ้อนกันได้ตั้งใหญ่แล้วก็เดินไปหยิบเชือกฟางออกมามัด

      “แล้วพี่ปืนจะไปอยู่ไหน”

      “ไปอยู่กับปอได้รึป่าวล่ะ”

      เสียงตอบออกมาทั้งที่มือยังเป็นระวิงจากการมัดกองหนังสือ แล้วหิ้วออกไปวางหน้าประตูบ้าน

ฟังไม่ออกว่าพูดเล่น หรือว่าหมายความตามนั้นจริง ๆ

      “หอพักนักศึกษาแคบนิดเดียว พี่ปืนจะอยู่ได้เหรอครับ อพาร์ทเมนท์ที่เคยอยู่ยังกว้างกว่าเลย”

      ปอตอบเลี่ยง ๆ หลังจากนิ่งไปชั่วอึดใจ

      “ถ้าหอคับแคบก็มาอยู่บ้านกับพี่สิ”

      “อ้าว...ก็...”

      “ช่างเหอะ....”

   พี่ปืนโบกมือ แล้วหันไปหยิบหนังสือนิตยสารเล่มใหญ่ ออกมามัดอีกกอง

  “พี่ก็แค่ชวน ปอไม่อยากมาก็ไม่เป็นไร แต่...พี่อยู่คนเดียวก็ชักจะรู้สึกว่า....บ้านมันกว้างเกินไป

คนขี้เกียจอย่างพี่ไม่ชอบทำงานบ้าน เห็นมั้ยล่ะ ฝุ่นจับตามตู้ โต๊ะ แม้แต่บนพื้นก็ไม่สะอาด

ปอมาทีไรก็ต้องเก็บกวาดให้พี่จนเหนื่อยทุกที”

      “พี่ปืนจ้างใครมาทำก็ได้หนิครับ”

      “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก พี่ย้ายไปอยู่ที่เก่าก็สิ้นเรื่อง”

       พี่ปืนยกหนังสือนิตยสารที่มัดแล้วไปกองรวมกันไว้ที่หน้าประตู

แล้วเดินกลับมานั่งเหยียดขาพิงพนักโซฟาตามสบาย สองมือหนุนท้ายทอยแหงนหน้ามองเพดาน

      “พี่เคยตั้งใจว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่สร้างบ้าน ก็หมายความว่าพี่พร้อมจะลงหลักปักฐานกับใครซักคน

แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีใครเลย แล้วอย่างนี้จะมีบ้านไปทำไมล่ะ

ขายทิ้งแล้วไปอยู่คอนโดตามเดิมดีกว่า...ว่ามั้ย ”

      ปอเดินออกจากตรงนั้น ไม่อยากทนฟังสิ่งที่พี่ปืนกำลังพูด เพราะรู้ว่า นั่นไม่ได้ออกมาจากใจแม้แต่คำเดียว

อย่างดีก็แค่ประชด ปออยากจะตะโกนออกไปใจแทบขาดว่า...ตอนที่ปอพร้อมจะทำอย่างนั้น

พี่ปืนมัวไปทำอะไรอยู่ ถึงมองไม่เห็นว่าปออยู่ข้าง ๆ พี่ปืนเสมอ....มาบอกอะไรป่านนี้

      ปอนั่งลงใต้ซุ้มเล็บมือนางมุมโปรด หันหน้าไปทางตัวบ้าน....มันไม่ได้ใหญ่โต หรูหราอะไรเลย

บ้านสองชั้นที่ไม่มีเครื่องตกแต่งชั้นเลิศ มีเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกตามสมควร

ทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัยได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพี่ปืนคนเดียว

มิหนำซ้ำยังผ่อนไม่หมดเสียอีก ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นบ้านหลังนี้มาจากความตั้งใจ

....ถ้าเป็นปอจะตัดใจขายมันลงหรือเปล่านะ....


      พี่ปืนคงอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่งในบ้าน ซึ่งปอก็ไม่ได้สนใจเท่าไร ปออยากใช้เวลากับตัวเองมากกว่า

สองสามชั่วโมงที่ทำอะไรต่ออะไรไปเรื่อยเปื่อย จนบ้านช่องสะอาดเป็นระเบียบเหมือนเดิม

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ปอตอบตัวเองได้เต็มปาก นั่นก็คือ ไม่ว่าปอจะออกไปอยู่ข้างนอกนานแค่ไหนก็ตาม

แต่พอได้กลับมาอยู่ตรงนี้ ได้ทำอะไรอย่างที่เคยทำเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกัน

ปอก็ยังรู้สึกเหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับบ้านหลังนี้อยู่ดี

ปอยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งของที่นี่

ทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าเจ้าของบ้านเค้าวางปอไว้ในฐานะอะไร....นี่ไง มันเจ็บก็อีตรงนี้เอง

      ร่างสูงปรากฎตัวที่ช่องประตู สายตาที่มองตรงมาที่ปอ หยั่งเชิง แต่ไม่ค่อยจะมั่นใจ

      “มานั่งตรงนี้สิครับพี่ปืน”

      นั่นแหละ พี่ปืนถึงได้ก้าวออกจากตัวบ้านอย่างกระตือรือร้น...ปอพอมองออก

ตั้งแต่เช้ามาแล้วที่พี่ปืนแสดงอาการของการงอนง้อออกมาให้เห็นบ้างนิดหน่อย

      ยิ่งเห็นพี่ปืนใกล้ ๆ ปอก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ทรุดโทรมลงในระยะเวลาไม่กี่วัน

หลังจากที่เพิ่งฟื้นจากการผ่าตัด ริมฝีปากอิ่มที่เคยเป็นสีระเรื่อกลับแห้งแตก

แล้วคนมืออยู่ไม่สุขก็คงจะดึงหนังที่หลุดร่อนออกล่ะสิ ถึงได้มีเลือดซึมอย่างนั้น

แต่จะทำยังไงได้ พี่ปืนเป็นฝ่ายเลือกที่จะอยู่ตามลำพังเอง เลือกแล้วก็ต้องทนให้ได้

ดูอย่างปอสิ ไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกที่จะเดินจากมาสักหน่อย เจ็บแทบตายยังต้องอดทนเลย

      “คนที่มาดูบ้านคราวนั้นเหรอครับ ที่จะซื้อ”

      “ไม่ใช่หรอก พี่ไม่ขายให้คนพรรค์นั้นหรอก จะซื้อบ้านเราไปทำอะไรก็ไม่รู้ ดูไปติไป

ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ อยากได้พี่ก็ไม่ขายหรอก”

      “ก็ดีแล้วครับ วันนั้นผมยังอดหมั่นไส้ไม่ได้เลย ฟังว่าดีอยู่อย่างเดียวที่บ้านหันไปทางทิศที่ถูกโฉลกกับเค้า

ไม่พอใจอะไรซักอย่าง”

      “อืม...คนที่เค้าติดต่อมาว่าจะซื้อ เค้ายังไม่ได้มาดูหรอก พี่โพสท์รูปขึ้นเว็บน่ะ เค้าเห็นรายละเอียดแล้วสนใจ

ก็เลยไปคุยกันที่แบ็งก์ เห็นว่าจะซื้อเงินสดด้วยนะ ท่าทางคงจะมีตังค์”

      “แปลกจัง คนมีตังค์ ทำไมถึงสนใจบ้านเล็ก ๆของเราล่ะครับ”

      ปอเผลอพูดคำที่ติดปากว่า “บ้านของเรา” โดยไม่รู้ตัว พอหลุดออกไปแล้วก็เลยตามเลย

แต่ก็เห็นอยู่ว่าพี่ปืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางจะชอบใจน่าดู

      “แต่พี่ยังไม่รีบตัดสินใจหรอก เอาไว้ให้ได้ราคาดีกว่านี้ค่อยขาย”

      “เหรอครับ แต่จะว่าไปแล้ว ใคร ๆ เค้าขายบ้านก็มีแต่จะได้กำไรนะครับ พี่ปืนคิดไว้รึยังว่าจะตั้งราคาไว้ที่เท่าไหร่”

      “ยังไม่รู้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องกลบเงินกู้สวัสดิการให้หมด แล้วก็เผื่อเงินไว้สำรองอีกหน่อยก็พอ

ถามทำไม ปออยากให้พี่ขายบ้านเหรอ”

      พี่ปืนหันมาถามปอเนิบ ๆ

      “ผมจะอยากรึไม่อยากมันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ บ้านของพี่ปืน ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย”

      “อ้าว...อย่างน้อยเราเริ่มต้นคิดด้วยกันไง พวกต้นไม้ที่ปลูกรอบ ๆบ้าน ปอก็ช่วยหามา

แล้วก็ช่วยดูแลรดน้ำ ตัดแต่งกิ่งก้าน ลำพังพี่คงไม่มีปัญญาทำเรื่องพวกนี้หรอก

ตั้งแต่ปอไป พี่ไม่ได้ดูแลต้นไม้ให้ปอเลย มันก็เลยรกแบบนี้”

      “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ว่าพี่ปืนไม่ค่อยมีเวลา”

      “เวลาน่ะมี แต่พี่ไม่อยากเห็นมัน”

      ....ก็ทำไมไม่โค่นมันซะเลยล่ะ....

ปอนึกหมั่นไส้ในใจ พูดมาได้นะว่าไม่อยากเห็น



      “เห็นแล้วพี่ก็อดไม่ได้ที่จะ...คิดถึงปอ”



      ปอชะงักก่อนจะหัวเราะเบา ๆแต่เป็นเสียงหัวเราะที่เยาะหยันตัวเองไม่ได้รู้สึกขบขันตรงไหนสักนิด

      “หึ ๆ มันก็ยืนต้นโด่อยู่ตรงนี้ ไม่ว่ายังไงพี่ปืนก็ต้องเห็นมันอยู่ดีแหละครับ”

      “ใช่ ยังไงก็ต้องเห็นมันอยู่ดี ไม่ว่าปอจะไปอยู่ที่ไหน พี่ก็ยังคิดถึงปออยู่ดี”

       ดวงตาคมพุ่งตรงประสานสายตาปอ บอกความในใจทุกอย่างให้ปอได้รับรู้....รู้แล้วไง?

   วันที่ปอมั่นใจในความรักที่ตัวเองมีต่อพี่ปืนเต็มเปี่ยม พี่ปืนกลับไม่ยอมรับรู้ แถมยังผลักไสให้ไกลตัว

และปอต้องเจ็บปวดกับการไม่เป็นที่ต้องการของพี่ปืน

   วันนี้พี่ปืนพร้อมแล้วที่จะให้ปออยู่ข้าง ๆ พี่ปืนก็แสดงมันออกมา

แล้ววันหน้า พี่ปืนจะบอกให้ปอลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้หรือเปล่า

      “ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะครับ ว่าพี่ปืนคิดถึงผม ผมคิดว่าผมคิดถึงพี่ปืนข้างเดียวมาตลอดซะอีก

มาบอกผมตอนนี้ทำไม พี่ปืนต้องการอะไร”

      น้ำเสียงที่กดต่ำ พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน เมื่อปอก้มลงมองร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้า

เวลานี้พี่ปืนดูตัวเล็กนิดเดียว ปอควรต้องรวบรวมกำลังใจอีกครั้งที่จะไม่ใจอ่อนไปกับภาพลวงตา วาจาลวงใจ เหล่านั้น

...ถ้าไม่อยากเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า

      “ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา พี่ปืนคิดรึยังว่าทำร้ายผมมากี่ครั้งแล้ว หัวใจผมไม่ได้มีไว้เจ็บอีกแล้วนะครับ”

      ปอรีบพูดก่อนที่จะเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าจะทันได้ยินเสียงพี่ปืนพูดตอบ

      “พี่ขอโทษ แต่....พี่ต้องการปอ”

       คำพูดคำนี้ไงที่เคยอยากได้ยินนักหนา อยากหันกลับไปจังเลย

แต่ทำไมขาที่ก้าวเดินกลับไม่ยอมหยุดนะ

น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอีกแล้ว....รู้งี้ไม่มาหรอก

....ถ้ารู้ว่าพี่ปืนจะพูดแบบนี้ ปอจะไม่มาหรอก

....ไม่มา...จริง ๆนะ




      ไม่รู้ว่าพาตัวเองกลับมาถึงห้องได้ยังไง

  ตอนนั้นรู้แต่ว่า อยากหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นให้เร็วที่สุด คิดว่าตัวเองแกร่งพอ นิ่งพอ

เพราะทำใจได้แล้วว่าจะคงความสัมพันธ์แบบที่พี่ปืนต้องการไว้ได้

แต่ทำไมแค่คำพูดสั้น ๆ ถึงทำให้ความตั้งใจทั้งหมดที่มี มันสั่นคลอนได้นะ

ทางที่ดีเขาไม่ไปที่นั่นอีกคงจะดีกว่า

....ช่างพี่ปืนเถอะ...

อยากจะทำอะไรก็ให้เค้าทำไป อยากจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป

จะเจ็บ จะป่วย จะเป็นตายร้ายดี ปอไม่สนอีกแล้ว

ต่อไปนี้ปอจะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าใครจะมาบอกอะไรปอจะไม่รับรู้อีก ชีวิตใครชีวิตมัน


      ....แต่....


      ไม่ว่าปอจะคิดอะไร จะทำอะไร มันก็มีไอ้คำนี้ตามมาทุกทีสิน่า

  ....แต่...ปอเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่มีวันทิ้งพี่ปืน....ปอจะทำยังไงกับคำสัญญา....


      เอาเหอะ...รอให้มันมาถึงก่อนแล้วค่อยคิดก็แล้วกัน.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2012 07:28:14 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #175 เมื่อ03-06-2012 07:42:17 »




      โอ๊ยยยยยย.....นี่จะไม่ให้ปอได้ตั้งตัวเลยใช่มั้ย

     


 เพิ่งจะสอบปลายภาคเสร็จหมาด ๆ พี่นูก็โทรมาบอกว่าพี่ปืนจะทำเรื่องย้ายสาขา

ปอตอบไปทันทีแบบไม่ต้องคิดเลยว่า มันก็เรื่องของพี่ปืน

ถ้าย้ายสาขาแล้วดีกว่าเดิม มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็ย้ายไปสิ

จังหวัดนี้มีสาขาตั้งมากมายที่พร้อมจะรับคนทำงานอย่างพี่ปืนไปร่วมงานด้วย

แล้วทำไมพี่นูต้องโทรมาบอก

ไม่รู้รึไงว่า ปอไม่เคยมีสิทธิ์มีเสียงในชีวิตพี่ปืนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว


      “พี่ปืนจะย้ายไปสาขาชายแดน”

      “ดีสิครับ ค้าของหนีภาษีไปด้วยเลย หารายได้เสริมไง”

       หัวใจกระตุกวูบเดียวก่อนที่ปอจะหาคำพูดที่ตรงกันข้ามกับใจ พูดออกไปได้   

      “ปอ....พี่ไม่ได้พูดเล่นนะ มันไม่ตลก”

       พี่นูเสียงเข้มมาเลย

      “แล้วพี่นูจะให้ผมทำยังไง”

      “ปอ...พี่จะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ ถ้าปอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ก็ไม่มีใครรู้หรอก

พี่เป็นคนอื่นยังรู้สึกห่วงเค้าเลย ปอก็รู้ว่าบางพื้นที่มันเสี่ยงแค่ไหน

แม้แต่ที่บ้านของปอเอง ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ก็อยู่ลำบากไม่ใช่เหรอ

พี่ได้ยินว่า พี่ปืนบอกขายบ้านได้แล้ว คนใหม่เค้ากำลังทำเรื่องขอวงเงินกู้กับเราอยู่

เสร็จจากเรื่องบ้าน ก็คงเป็นเรื่องขอย้ายนี่แหละ....แต่ความจริง....

เราน่าจะแสดงความยินดีกับพี่ปืนเค้านะ เพราะเค้าได้ตำแหน่งสูงขึ้นด้วยล่ะปอ”

      “ก็ดีสิครับ ผมว่าพี่ปืนต้องได้เป็นผู้จัดการตั้งแต่ยังหนุ่มแน่เลย”

      ปอรู้ว่าตัวเองฝืนใจทำเสียงให้ร่าเริง

ก็คงเหมือนกับที่พี่นูก็พยายามทำเป็นว่าเรื่องย้ายสาขาของพี่ปืนเป็นเรื่องดี

ถ้าเพียงแต่ สาขาที่พี่ปืนจะไป ไม่ได้อยู่ในท้องที่ที่มักจะเกิดเหตุการณ์ลอบยิงบ่อยครั้ง

      “ใช่ ดีมากเลยล่ะ ถ้าไม่ถูกดักยิงระหว่างเดินทางไปทำงานซะก่อนอ่ะนะ”

      พี่นูโยนปรมณูลูกใหญ่ใส่ปอ แล้วก็วางหูไปดื้อ ๆ

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #176 เมื่อ03-06-2012 07:45:44 »




ปอเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าอย่างรีบร้อน

   ....ก็ไม่ได้รีบร้อนมาก แค่จะไปให้ถึงบ้านพี่ปืนก่อนที่เจ้าของบ้านจะออกไปทำงานเท่านั้นเอง

หลังจากที่ใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนหลังจากพี่นูวางสายไปแล้วว่า จะลองพูดกับพี่ปืนดีมั้ย

ให้เปลี่ยนสาขาที่จะขอย้ายเป็นสาขาใกล้ ๆ แทน

 ....เอาเถอะ ถ้าไม่อยากอยู่เมืองนี้แล้ว ย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดก็ยังดี

      แต่มันจะเลือกได้เหรอ....ถ้าที่นั่นไม่มีอัตราว่าง พี่ปืนก็ถูกส่งไปที่อื่นอยู่ดี

และไม่แน่ว่าอาจจะได้ไปลงพื้นที่เสี่ยงภัยอีกจนได้เหมือนกัน

พี่ปืนนะ....พี่ปืน จะทำอะไรคิดถึงพ่อแม่มั่งมั้ยเนี่ย

เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายคนเดียว พ่อกับแม่จะทำยังไง

ไหนจะตากับยายอีก หลานรักมีอันเป็นไป ตากับยายคงหัวใจสลาย

      ....ปอก็คง....ไม่ต่างกัน....



      ทันพอดี....

  เมื่อปอมาถึงตอนที่พี่ปืนกำลังถอยรถออกจากประตูรั้ว ปอก็เดินสวนเข้าประตูบ้านไป

พี่ปืนลงจากรถมาทักทาย หลังจากแอบไว้ริมทางเท้าเรียบร้อยแล้ว

พอสายตาเหลือบมองกระเป๋าใบใหญ่ในมือปอ พี่ปืนก็ยิ้มหน้าบานเท่าใบบัวเชียว

      “อย่าบอกนะว่าจะมาอยู่กับพี่”

      แหม...ทักแบบนี้มันน่าจะหันหลังกลับจริง ๆนะ ปออุตส่าห์แบกหน้ามาทั้งที่เจ้าของบ้านไม่ได้เชิญ

พี่ปืนจะพูดให้ปอรู้สึกชื่นใจหน่อยได้มั้ยว่า ยินดีที่ได้เห็นปอ

      “เอาน่า พี่ล้อเล่น เข้าบ้านก่อน แต่ปอมาป่านนี้พี่คงอยู่ด้วยไม่ได้แล้วนะ ไม่อยากเข้างานสายอ่ะ

  ...ก็...อืม....ห้องของปอน่ะ ถ้าไม่อยากทำความสะอาด จะนอนห้องพี่ก็ได้ ยังไงก็คงอยู่ไม่นานไม่ใช่เหรอ”

      ...อีกดอกแล้วนะ....เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจซะหนิ

  นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวเองได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า จะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ปืนจนกว่าจะถึงวาระที่ต้องย้ายจริง ๆ

ปอหิ้วกระเป๋ากลับหอแน่ แต่ลึก ๆในใจปอแล้ว ไม่อยากให้มีวันนั้นเลย

      ปอเก็บกระเป๋าไว้ในห้องพี่ปืน (ก็เจ้าของเค้าเชิญแล้ว) แล้วก็ลงมาดูรอบ ๆบ้าน

พี่ปืนเก็บข้าวของชิ้นเล็กชิ้นน้อยลงกล่องไว้บ้างแล้ว ที่เห็นยังวางอยู่ก็เป็นของใช้ประจำวันที่จำเป็น

หวังว่าที่ปอตั้งใจจะพูดขอร้องพี่ปืนคงยังไม่สายจนเกินไป



      ปอเตรียมมื้อเย็นไว้รอท่าพี่ปืนอย่างสุดฝีมือ ต้องสร้างบรรยากาศของการเจรจาไว้ก่อนสินะ

แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่สบช่องจะพูดเรื่องที่ตั้งใจซะที ส่วนพี่ปืนก็เจริญอาหาร กินหมดทุกจานที่ปอทำ

ไม่หมดได้ไง ปอเลือกทำแต่ของชอบนี่นา

      “อยากให้ปอทำกับข้าวให้พี่กินทุกมื้อแบบนี้จัง....แต่...คงไม่ได้หรอกใช่มั้ย”

      พี่ปืนถามเองแล้วก็ตอบเอง ก็ดี....ปอเองก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศเหมือนกัน

เพราะคำตอบของปอก็คือ..ครับ

...ตอนนี้ปอขอแค่ทำวันนี้ เวลานี้ให้มันดีที่สุดก็แค่นั้น

      “พรุ่งนี้ทำของเช้าให้พี่ด้วยได้รึป่าว”

      อาหารค่ำเพิ่งจะเก็บโต๊ะไม่ทันไร พี่ปืนก็เรียกร้องจะเอามื้อเช้า

      “ครับ พี่ปืนอยากกินอะไรอ่ะ เดี๋ยวผมทำให้”

      “อะไรก็ได้ ปอก็รู้หนิว่าพี่กินไม่ยาก...เฮ้อ...อยากให้ปิดเทอมนาน ๆจัง”

      “ทำไมครับ”

      “ปอจะได้ทำอาหารให้พี่กินทุกมื้อไง”

      “ใจคอจะเก็บผมไว้ก้นครัวแบบนี้อ่ะเหรอ”

      “ได้ก็ดีสิ ว่าแต่ปอจะอยู่ได้รึป่าวล่ะ”

      เอาเถอะ ยังไงปอก็มีเวลาตลอดปิดเทอมให้พี่ปืนอยู่แล้ว อยากให้ทำอะไรก็จะทำ

แค่ทำอาหารให้กินน่ะเรื่องเล็ก อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ที่ปอจะได้ทำอะไรเพื่อพี่ปืน



      ถึงเวลาเข้านอน พี่ปืนก็ให้ปอนอนก่อน บอกว่าเอางานกลับมาทำต่อที่บ้าน

เพราะอยากจะรีบ ๆ เคลียร์งานค้างก่อนที่จะส่งมอบให้คนที่จะมาแทน

ปอขึ้นไปนอนแล้วแต่ไม่หลับ ใจมันคอยนึกถึงแต่ว่าพี่ปืนกำลังจะย้ายไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

แล้วจะเป็นยังไง จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมั้ย เท่าที่เคยได้ยินมามันก็น่ากลัวอยู่



      ....ข่มตาไม่ลง....



   นอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนเบื่อ ก็ยังไม่หลับ ปอก็เลยเดินลงไปนั่งเป็นเพื่อนพี่ปืนซะเลย

      “เป็นไงถึงนอนไม่หลับ อย่าบอกว่าแปลกที่นะ”

      พี่ปืนถาม ทำมารู้ทันว่าปอจะตอบแบบไหน บอกแบบนั้นได้ไง เสียฟอร์มแย่

      “ป่าวหรอกครับ แต่ปกติผมไม่ค่อยได้นอนหัวค่ำอยู่แล้ว นี่มันยังไม่ถึงเวลาปกติที่ผมนอนเลย”

      “แล้วปกตินอนกี่ทุ่มล่ะ”

      “หลังเที่ยงคืนครับ อ่านหนังสือไปเพลิน ๆ เวลามันผ่านไปแบบไม่รู้ตัวน่ะพี่ปืน”

      เฉพาะช่วงสอบเท่านั้นหรอก

      “อืม”

      “งานเยอะเหรอครับ”

      “ก็ไม่เยอะหรอก แต่ทำในเวลาไม่ทันก็เลยเอากลับมาทำต่อ ไม่อยากค้างนาน”

      “แล้วคนที่เค้าจะมาแทนพี่ปืนเค้าย้ายมาจากที่ไหนเหรอครับ”

      ปอถามเผื่อไว้ว่า ถ้าคนที่มาแทน ย้ายมาจากสาขาที่ไม่มีปัญหาเรื่องความเสี่ยง พี่ปืนก็อาจจะย้ายสลับกับเค้าได้

      สีหน้าพี่ปืนสลดลง ก่อนจะตอบ

      “ไม่ได้ย้ายมาจากที่ไหนหรอก ก็อยู่ในสาขานี่แหละ”

      จบกัน งั้นพี่ปืนก็คงจะไปเสริมในอัตราที่ว่างสินะ

      ปอนั่งดูพี่ปืนทำงานเงียบ ๆ จนกระทั่งเห็นเค้าปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วสอดกระดาษเอกสารเข้าแฟ้ม

      “ไปนอนกันเหอะ ดูสิตาปรือแล้วก็ยังไม่ยอมขึ้นไปนอน จะฝืนอยู่ทำไมเนี่ย”

      สองคนขึ้นบันไดมาด้วยกันโดยไม่ปริปากคุยอะไรอีก ต่างคนต่างก็เข้านอน

      “ปอ”

      เสียงนุ่มถามเบา ๆ มาจากฟากตรงข้ามของเตียง     

      “ครับ”

      “นึกยังไงถึงมา”

      ปอพลิกตัวกลับไปจะตอบ หวังว่าจะได้เห็นแค่แผ่นหลังกว้าง แต่ไม่ใช่....

  ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากไฟริมถนนส่องลอดหน้าต่าง

ปอเห็นแววตาฉ่ำหวาน ที่มองตรงมาอย่างเปิดเผย

      “ผมก็มาดูแลพี่ปืนไง....ตอนนี้มันช่วงปิดเทอมนี่ครับ”

      ปอแข็งใจทำเสียงใส ข่มความรู้สึกหวิว ๆ ที่วาบขึ้นมาตอนที่ตาสบกันในความมืด

      “ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ ป๊ากับแม่คิดถึงแย่แล้วมั้ง”

      “ไม่หรอก...ผมโตแล้ว เค้ารู้อยู่แล้วว่าซักวัน ลูกชายจะต้องออกจากบ้าน

ป๊าสอนผมให้รู้จักดูแลตัวเอง ป๊าเเคยบอกให้ผมเลือกทางเดินที่ตัวเองใฝ่ฝัน

แล้วทำมันให้ดีที่สุด เค้าไม่คิดว่าผมจะกลับไปอยู่ที่นั่นด้วยซ้ำไป”

      ปอนอนตะแคง เท้าข้อศอกลงบนที่นอน ใช้ฝ่ามือหนุนข้างแก้มแทนหมอน
 
      “ผมว่าป๊าเองก็น่าจะอยากออกจากที่นั่นเหมือนกันนะครับ ยิ่งนานไปมันก็ยิ่งไม่ปลอดภัย

ไม่รู้ว่ามันจะถึงจุดจบเมื่อไหร่ คือ...ผมหมายความว่า ไม่ว่ามันจะยุติแบบไหน ป๊าก็คงอยากออกมาอยู่ดี

อย่างน้อยเค้าก็คงคิดไว้แล้วว่า พอผมเรียนจบก็คงจะหางานทำในเมืองใหญ่

มากกว่าจะกลับไปทำร้านขายเครื่องไฟฟ้าต่อจากป๊า”

      “ก็ดีนะ พี่คิดว่าป๊ามีกิจการอยู่ที่นั่น ก็อยากจะให้ปอกลับไปสานต่อ”

      “โธ่...พี่ปืน...ถ้าป๊าอยากให้ผมอยู่ตรงนั้น เค้าจะส่งผมมาเรียนไกล ๆ ทำไมล่ะครับ

จบม.6 ก็เป็นเถ้าแก่น้อยเลยไม่ดีกว่าเหรอ กะอีแค่ขายเครื่องไฟฟ้า ผมทำแทนป๊าได้มาตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว”

      “นั่นสิ ป๊าของปอคิดการณ์ไกลจังเลยนะ”

      “แล้วพี่ปืนล่ะครับ คิดยังไงถึงจะย้ายไปอยู่ที่อื่น สาขานี้มันก็ดีอยู่แล้ว อยู่ในเมืองใหญ่ ยิ่งมีโอกาสโตเร็วไม่ใช่เหรอครับ”

      ปอรีบฉวยโอกาสวกมาที่เรื่องที่กำลังเป็นกังวลอยู่

      “อยู่ที่เดิมมันก็จะเจออะไรเดิม ๆ ไม่มีประสบการณ์ใหม่ ๆ ทัศนคติเดิม ๆ จากคนเก่า ๆ แวดวงลูกค้าหน้าเก่า ๆ

พี่ไม่คิดจะอยู่แค่นี้หนิ ปีหน้าพี่จะสอบเรียนต่อปริญญาโท ระหว่างนั้นก็หาความรู้เกี่ยวกับสายงานอื่น

แล้วพอพี่พร้อม ก็จะสมัครสอบเป็นผู้จัดการสาขา”

      อนาคตของพี่ปืนถูกเล่าออกมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้ปอรู้สึกปลาบปลื้มยินดีไปด้วย

อีกไม่นานพี่ปืนของเขาก็คงจะประสบความสำเร็จในชีวิตอีกขั้นหนึ่งแล้ว

....ต่อไปก็คงต้องคิดถึงเรื่องการมีครอบครัวสินะ

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #177 เมื่อ03-06-2012 07:53:40 »

     


   ปืนมองคนที่นอนหันหลังให้อยู่ที่อีกด้านหนึ่ง

  เสื้อกล้ามคอกว้าง เว้าไหล่ เผยให้เห็นช่วงบ่าบอบบาง ผิวเนื้อขาวผุดผาด ละลานตาอยู่ในความมืด

ไม่คิดไม่ฝันว่า วันเวลาเช่นนี้จะหวนกลับมาอีก หลังจากที่ครั้งสุดท้าย ปอเดินหนีจากเขาไปทั้งที่น้ำตาคลอ



      ไม่ผิดหรอกที่ปอหันหลังให้เขาในวันนั้น หลังจากที่ปืนบอกความในใจที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่นึกว่าจะกล้าพูด

แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกจริง ๆ ที่เขาโหยหามาตลอดหลายเดือนมานี้

จากที่เคยสะกดไว้ได้ มันก็เริ่มประทุทีละเล็กทีละน้อย

 จนเดี๋ยวนี้ ปืนรู้สึกว่าหัวใจโดนบีบรัดทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำไว้กับปอ

เขาอยากบอกปอเหลือเกินว่า....พี่ปืนไม่ได้อยากทำร้ายปอ ไม่ได้อยากปฏิเสธเยื่อใยที่เรามีต่อกัน

แต่ความเชื่อมั่นที่ป๊ากับแม่ของปอมีให้พี่ปืน มันค้ำคออยู่ ทำอะไรลงไปไม่คิดหน้าคิดหลัง จะมีหน้าไปพบป๊ากับแม่ยังไง

      แต่ไอ้สำนึกดีมันกลับทำร้ายเราทั้งคู่ สมควรแล้วที่พี่ปืนต้องเป็นคนรับความเจ็บปวดนั้น

แต่ไม่อยากให้ปอต้องพลอยเจ็บไปด้วยเลย แม้แต่นูก็ยังพลอยอึดอัดรำคาญใจไปด้วย


      .....จะอะไรก็ไม่อะไร...ความสุขของเราทั้งชีวิตนะพี่ปืน จะว่าผมหน้าไหว้หลังหลอกก็ได้ไม่ว่า

แต่ผมขอแนะนำหน่อยนะ พี่ปืนกับปออยู่ทางนี้ ป๊ากับแม่ของปออยู่ถึงโน่น

เค้าจะมารู้มาเห็นอะไร ว่าเราสองคนอยู่กันแบบไหน พอซะทีเถอะ ไอ้บทพ่อพระเนี่ย

ผมไม่เห็นว่ามันจะช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมาได้ นอกจากจะทำให้ยิ่งแย่ลงทุกวัน

อยากจะรักก็รักเถอะ อยากจะอยู่ก็อยู่ จะมาทนหวานอมขมกลืนกันทำไม

จะตายจากกันวันไหนก็ยังไม่รู้....


      ตอนที่นูบอกว่าจะขอลองเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ได้ผลจะเลิกยุ่งเด็ดขาด

นูเป็นคนอื่นแท้ ๆยังทนไม่ได้ ปืนก็เลยตกลงใจว่าเป็นไงเป็นกัน เขาเองก็ไม่อยากจะเสียปอไปตลอดชีวิต

      แล้วตอนนี้ก็เลยได้ปอมานอนเคียงข้างกันสมใจ เขาไมได้ถามนูว่า ทำอีท่าไหน ปอถึงยอมกลับมาอยู่กับเขาอีกครั้ง

      “ปอ....นึกยังไงถึงมา”

      “ผมก็มาดูแลพี่ปืนไง....ตอนนี้มันช่วงปิดเทอมนี่ครับ”

“ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ ป๊ากับแม่คิดถึงแย่แล้วมั้ง”

“ไม่หรอก...ผมโตแล้ว เค้ารู้อยู่แล้วว่าซักวัน ลูกชายจะต้องออกจากบ้าน ป๊าสอนผมให้รู้จักดูแลตัวเอง

ป๊าเเคยบอกให้ผมเลือกทางเดินที่ตัวเองใฝ่ฝัน แล้วทำมันให้ดีที่สุด เค้าไม่เคยหวังว่าผมจะกลับไปอยู่ที่นั่นด้วยซ้ำไป”

      ปืนมองปากจิ้มลิ้มของปอขยับพูดจ๋อย ๆ ซะเพลินไปเลย

ได้แต่บอกตัวเองว่า เขาไม่น่าจะปล่อยวันเวลาให้มันผ่านไปแล้วทิ้งร่องรอยของความเจ็บปวดไว้เลย

นูพูดถูก ป๊ากับแม่อยู่ถึงที่โน่น ช่วงเวลาของความสุข ไม่ได้ผ่านมาบ่อย ๆ เขาโง่มากที่ไม่เคยคิดจะคว้ามันไว้

“นอนเหอะปอ พี่ง่วงจัง พรุ่งนี้งานคงยุ่งน่าดู”

ปืนเกลี่ยเส้นผมสลวยที่ระแก้มไปเกี่ยวใบหู ถึงจะอยู่ในความสลัวลาง แต่ก็เห็นได้ว่าดวงตาคู่นั้นหลุบต่ำ

ปืนอดที่ยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ เผลอไล้แก้มนวลเบา ๆ ก่อนจะชักมือกลับด้วยความเสียดาย

      “ครับพี่ปืน”

      ปอขยับล้มตัวลงหนุนหมอนนุ่ม คว้าหมอนข้างมาก่ายกอด แต่กลับถูกอีกมือดึงออกไป

แล้วเลื่อนตัวเองเข้ามาแทนหมอนข้าง

      “กอดพี่ดีกว่า อุ่นกว่าหมอนอีก”

      “อื๊อ...ไม่เอา พี่ปืน....”

      ปอตกใจ แต่นั่นก็สายไปแล้ว ได้แต่เอามือทั้งผลักทั้งดันแผ่นอกแน่น  ๆ ให้ออกห่างจากตัว ซึ่งก็ใช่ว่าจะมีผลอะไร

      “ทำไมอ่ะ แค่กอดเฉย ๆ เอง”

      “ไม่...เอา...”

      ปอยังออกแรงผลักปืนให้ออกห่าง แต่ปืนเหรอจะยอมแพ้ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ

จากที่นอนอยู่ฟากเตียงข้างโน้น เขาก็เขยิบเข้าไปให้ชิดกว่าเดิม จนปอถอยห่างซะแทบจะตกเตียงอยู่แล้ว

      “พี่ปืน....เล่นอะไรเนี่ย”

      “คิดถึงอ่ะ อยากอยู่ใกล้ ๆปอ ไม่ได้เหรอ”

      ปืนหยุดการราวี เปลี่ยนมาจ้องหน้าปอนิ่ง ๆ ใบหน้าที่ห่างกันไม่เกินคืบ ทำเอาปืนต้องอดใจไม่ให้ตัวเองก้มลงจูบที่แก้มนุ่ม

      “คิดถึงก็ไม่เห็นต้องทำแบบนี้หนิ”

      ปอทำเสียงดุ จนปืนชักจะใจฝ่อ   
   
      “พี่อยากกอดปอ จะได้แน่ใจว่า ปอมาอยู่กับพี่จริง ๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่มา ๆ ไป ๆ”

      “นี่ก็เหมือนกัน...พอเปิดเทอมผมก็ไป มันก็เหมือนทุกครั้งนั่นแหละครับ ผมแค่มาอยู่ดูแลพี่ปืนชั่วคราวเท่านั้นนะ”

      คราวนี้ปอผลักปืนสำเร็จ แต่นั่นเป็นเพราะมือไม้ปืนมันอ่อนแรงต่างหาก

ปอลุกออกจากเตียงไปยืนอยู่กลางห้อง มือสั่น ๆ เสยผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ เปิดใบหน้าที่แดงก่ำเพราะออกแรง

ให้ปืนได้เห็นแววตาที่กำลังเต้นระริก ด้วยความตื่นตกใจ

      “ไม่เหมือนหรอกปอ คราวนี้มันจะไม่เหมือนทุกครั้ง

ที่ผ่านมาพี่ผิดเอง ที่ปล่อยให้เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันผ่านไปอย่างไม่มีความหมายจนแทบจะไม่มีอะไรให้นึกถึง

นอกจากความเจ็บปวดที่ต้องอยู่ด้วยกันแบบ...กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”

      “ป่วยการที่จะมาพูดอะไรตอนนี้ ผมทำใจได้นานแล้วครับ

ผมแค่อยากให้เราเหลือความสัมพันธ์อย่างพี่น้องเอาไว้บ้างเท่านั้นเอง”

      “มันเปลี่ยนไม่ได้หรอกนะปอ ไอ้ความรู้สึกที่มันเกินเลยจากคำว่าพี่น้องไปแล้วน่ะ อย่าหลอกตัวเองเลย”

      “ผมกำลังทำอยู่ครับ”

      ปอตอบอย่างหนักแน่น ปืนรู้ดีว่า ถ้าปอตั้งใจจะทำอย่างนั้น สักวันปอก็จะทำมันให้สำเร็จจนได้ แต่เขายอมไม่ได้

      “แต่พี่ทำไมได้ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้ปอเปลี่ยน เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ย”

      “พี่ปืนกำลังจะทำให้ผมสับสนอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วรู้มั้ย ผมพอแล้วนะ ไม่อยากเจ็บไปเจ็บมาอีกแล้ว

วันนี้พี่ปืนบอกว่าให้เรามาเริ่มต้นใหม่ วันหน้าพี่ปืนเกิดคิดอะไรได้ขึ้นมาอีก ผมก็ต้องระเห็จออกไปจากชีวิตพี่ปืนอีก

แล้วไหนจะอนาคตของพี่ปืนอีกล่ะ วันนึงพี่ปืนก็ต้องมีครอบครัว แล้วผมล่ะ

ผมจะอยู่ตรงไหนในชีวิตของพี่ปืน เราคงอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวไม่ได้หรอกนะครับ”

      “แต่ทั้งหมดที่ปอพูดมา มันไม่ใช่สาเหตุที่พี่ต้องตัดใจจากปอเลยนะ”

      “ผมไม่สนหรอกว่าพี่ปืนมีเหตุผลอะไรถึงได้ตีตัวออกห่างจากผม ไล่ผมไปอยู่ข้างนอกนั่น”

   ปอถอนสะอื้น

  “ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่า ตั้งแต่ผมรักพี่ปืน ผมไม่เคยมีเหตุผลอะไรที่จะเลิกรัก ผมมีแค่ความพยายาม

ที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน ผมอดทนรอเวลาที่พี่ปืนจะตอบรับผม และพร้อมที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป

ไม่ใช่ในฐานะพี่น้อง แต่เงื่อนไขของพี่ปืนคืออะไรก็ไม่รู้ ผมไม่เคยเข้าถึงใจพี่ปืนได้เลย

ไม่ว่าผมจะพยายามยังไง พี่ปืนก็ไม่เคยยอมรับความรู้สึกตัวเอง

ผมไม่เคยเหนื่อย ผมไม่เคยท้อ แต่พี่ปืนรู้มั้ยว่าผมเจ็บ....

ช่างมันเถอะ เจ็บแค่นี้ผมทนได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมทนไมได้ ก็คือเวลาที่พี่ปืนผลักไสผมในขณะที่ผมอยากอยู่

มันทำให้ผมกลายเป็นคนที่พี่ปืนไม่ต้องการ”

      ร่างเล็กบางที่ยืนกลางห้องยังคงยืนตัวตรง อย่างคนที่ตัดสินใจแน่วแน่ น้ำเสียงที่พูดตัดพ้อต่อว่า

หนักแน่นและมั่นคง มีเพียงนัยน์ตาคู่นั้น ที่บอกปืนว่า ความเสียใจของปอมากมายเพียงไหน

มีเพียงน้ำตาที่หยาดลงสองข้างแก้ม ที่บอกปืนว่า หัวใจของปอต้องแหลกยับไปกับการกระทำที่เห็นแก่ตัวของปืนขนาดไหน

      พี่ปืนจะไถ่ความผิดนี้ได้ยังไงล่ะปอ ช่วยบอกหน่อย

      “พี่ขอโทษ....ให้โอกาสพี่ซักครั้งได้มั้ย พี่สัญญาจะไม่ทำให้ปอต้องเสียใจอีก”

      “ไม่ครับ โอกาสของพี่ปืนมันผ่านไปแล้ว”

      “ขอโอกาสพี่อีกครั้งนะ พี่สัญญา...”

      “อย่าเลยครับ สัญญาของพี่ปืนกับความตั้งใจของผม มันสวนทางกันซะแล้ว”

      ปอเช็ดน้ำตาลวก ๆ คว้าหมอน ผ้าห่ม เดินออกจากห้องไปไม่เหลียวหลังกลับ

อารมณ์แบบนี้ ปืนเองก็ไม่กล้าเหนี่ยวรั้งไว้อีกแล้ว ปอไม่เคยที่จะเสียงแข็งกับเขาเท่าครั้งนี้

      หรือว่า ถึงคราวที่เขาจะต้องเสียปอไปจริง ๆ



        ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็น

    ผ้าห่มที่ปอหอบลงไปด้วย คงไม่อุ่นอะไรหรอก แต่ที่ปืนกลัวกว่านั้น คือกลัวปอจะหายไป

    ก็ใช่....เสื้อผ้าปอยังอยู่ข้างบน ในห้องนอนของปืน และนี่ก็ดึกมากแล้ว

คิดขึ้นมาจริง ๆ ปอก็คงไปไหนไม่ได้ แต่ปืนก็ยังกลัวว่า บางทีรุ่งขึ้น เขาอาจจะไม่เห็นปอนอนอยู่บนโซฟาแบบนี้ก็ได้

      แค่คิด ปืนก็อยากจะช้อนร่างเล็ก ๆขึ้นไปนอนบนบ้านซะด้วยกันเลย แต่ใจไม่กล้าพอ

เขาทำร้ายน้องมาหลายครั้งหลายหน อย่างที่ไม่ได้ตั้งใจเลย แต่จะให้ยอมแพ้แค่นี้น่ะ.....ไม่มีทาง

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #178 เมื่อ03-06-2012 10:49:18 »

เย้ๆๆ คุณนูมาแล้ว
 :m4:

แต่พออ่านจบ

แย้กกกกกกกกกกกกกกก
 :a5:
ทำไมมันเป็นอิหรอบนี้
น้องปออย่าโกรธพี่ปืนเลยน้า
ที่พี่เค้าทำไปน่ะ เค้ามีเหตุผลนะลูก
(ถึงเหตุผลจะน่าบ้องหูไปหน่อยก็เหอะ  o12)
ยังไงก็ลองถามใจตัวเองดีๆนะ
ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป
แล้วจะต้องเสียใจตลอดชีวิตนะทั้งสองคน

คนอ่านมันจะช้ำใจตายแล้วพ่อคุณเอ้ย
 :o7:

 :กอด1: คุณนูด้วยความคิดถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2012 10:59:14 โดย choijiin »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 3/6/2555
«ตอบ #179 เมื่อ03-06-2012 11:39:11 »

อ๊ากกกกกกกก
อะไรอีกล่ะเนี่ยคู่นี้
ไหนบอกเป็นนิยายรัก
ยังไม่มีความหวาน
เลยสักหยด :impress3:
อ่านแต่ละตอนมีแต่ชีช้ำ
ไม่ไหวไม่ไหวไม่ไหว
ได้โปรดขอความหวาน
สักนี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
มาเติมใจหน่อย :กอด1:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด